หลักสูตรการฝึกอบรม
การทำผ้ามัดย้อม
สาขาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
1
หลักสูตรการฝึกอบรม
“การทำผ้ามัดย้อม”
สาขาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับวิถี
ชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่สมัยอดีต ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาสกัดเป็นสีย้อมหาได้ง่าย
ในชุมชน เช่น ใบไม้ ดอกไม้ เปลือกไม้ และแก่นไม้ เป็นต้น ที่จะให้สีสันที่แตก
ต่างกันไป เหล่านี้ล้วนแต่ได้จากแหล่งที่สามารถสร้างทดแทนขึ้นใหม่ได้ ดังนั้น
จึงเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและไม่เกิดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยัง
เป็นการลดการใช้สีสังเคราะห์ที่มีสารตั้งต้นเป็นสารเคมีอันตรายหลายชนิด ส่ง
ผลให้สีย้อมสังเคราะห์มีความเป็นพิษ ซึ่งยากต่อการสลายตัวทางชีวภาพ อีก
ทั้งสินค้าที่ผลิตจากผ้าที่ย้อมด้วยสีธรรมชาตินั้นกำลังเป็นที่นิยมต่อคนทุก
กลุ่ม เนื่องจากกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้สินค้าเป็นที่ต้องการต่อ
ตลาดผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และทำให้ราคาสินค้าประเภทนี้สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ดังการทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ สามารถทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ลด
ความตรึงเครียด เกิดทักษะสามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้ลดรายจ่ายใน
ครัวเรือนได้มีความสุขกายและใจ เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับครอบครัวได้ ใช้
เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จากการสร้างงานศิลปะบนลายผ้า การทำผ้ามัด
ย้อมจากสีธรรมชาติ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นตามนโยบาย
ของรัฐบาล ที่จะแก้ไขปัญหาความยากจน โดยการสร้างงาน สร้างรายได้
สารบัญ 2
เรื่อง หน้า
หลักสูตรการฝึกอบรม 3
เนื้อหาการฝึกอบรม 5
5
ประวัติความเป็นมาการทำผ้ามัดย้อม 6
ชนิดของผ้า 7
เอกลักษณ์ลวดลายผ้ามัดย้อม 10
การออกแบบและสร้างสรรค์ลายผ้า 12
วัสดุและอุปกรณ์ 13
วิธีการ ขั้นตอน 13
การวัดเเละประเมินผล 14
แบบทดสอบ 15
บรรณนานุกรม 17
ประวัติวิทยากร
3
หลักสูตรการฝึกอบรม
“การทำผ้ามัดย้อม”
สาขาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมการฝึกอาชีพจากการมัดย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติให้กับ
ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
2. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะเทคนิคการมัดย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติให้แก่
ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
3. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่สามารถพึ่งพาตนเองและสร้างรายได้จากการมัด
ย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติให้แก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
ระยะเวลาการฝึกอบรม
ผู้เข้าอบรมจะต้องเข้าฝึกอบรมภาคทฤษฎี จำนวน 3 ชั่วโมง และฝึกทักษะ
ภาคปฏิบัติ จำนวน 4 ชั่วโมง ระยะเวลาฝึกอบรมทั้งหมด 7 ชั่วโมง
คุณสมบัติผู้เข้าฝึกอบรม
1.กลุ่มเเม่บ้านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือผู้ที่สนใจ
2. มีความพร้อมและความสามรถเข้าฝึกอบรมได้ตลอดหลักสูตร
3. มีความสนใจในการฝึก การทำลูกประคบสมุนไพรจากท้องถิ่นและ
สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
หัวข้อเนื้อหาการฝึกอบรม
4
เนื้อหาการฝึกอบรม
1. ชนิดของผ้า ชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ในการย้อมผ้า ได้แก่ ชนิดของใบไม้ ดอกไม้
และเปลือกไม้
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจ ลักษณะ ประเภท ชนิดของ
ผ้า ชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ในการย้อมผ้า
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความหมาย ความสำคัญ ลักษณะ ประเภท ชนิดของผ้า
ชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ในการย้อมผ้าและการนำมาประยุกต์ใช้
คำอธิบายรายวิชา ศึกษาความหมาย ความสำคัญ ลักษณะ ประเภท ชนิดของผ้า
ชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ในการย้อมผ้าและการนำมาประยุกต์ใช้
2. การออกแบบและสร้างสรรค์ลายผ้า ขั้นตอนการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการออกแบบและ
สร้างสรรค์ลายผ้า ย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ
วัตถุประสงค์ ศึกษาการออกแบบและสร้างสรรค์ลายผ้า การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ใน
การย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ
คำอธิบายรายวิชา ศึกษาการออกแบบและสร้างสรรค์ลายผ้า การเตรียมวัสดุ
อุปกรณ์ในการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ
3. การวัดและประเมินผล
3.1 แบบทดสอบก่อนและหลังการฝึกอบรม
3.2 ประเมินความรู้ ความสามรถและศักยภาพในการปฏิบัติงานของผู้รับการ
ฝึกอบรม
5. ผู้จัดทำหลักสูตร
นางสาวกัญญาณัฐ ควรมี นักศึกษาสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 2
ลงชื่อ…………………………ผู้ขออนุมัติหลักสูตร
(นางสาวกัญญาณัฐ ควรมี)
ลงชื่อ…………………………ผู้อนุมัติหลักสูตร
(อาจารย์ภัทระ อินทรคำแหง)
อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา
5
เนื้อหาการฝึกอบรม
1) ประวัติและความเป็นมาของผ้ามัดย้อม
การทำผ้ามัดย้อมอาจเริ่มเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจของคนสมัยโบราณ โดยนักมนุษยวิทยา
สันนิษฐานว่า อาจมี แนวความคิดมาจากการฟอกสีออกด้วยแสงอาทิตย์โดยบังเอิญ ซึ่งหลัก
ฐานความรู้ที่พอจะเชื่อถือได้แสดงให้เห็นว่า ประเทศในยุคแรก ๆ ที่มีการมัดย้อมผ้า คือ
อินเดีย จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และแอฟริกาที่มีความคุ้นเคยกับเทคนิคการใช้ สีย้อมที่มีอยู่
อย่างอุดมสมบูรณ์ในประเทศอินเดีย ผ้ามัดย้อมทจะเป็นที่รู้จักกันในชนบทสมัยก่อน ซึ่งพบ
หลักฐานจาก เศษผ้าเมื่อประมาณ ๕,๐๐๐ ปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความรู้และประสบการณ์
ในการใช้สีย้อม เช่น สาหรี เป็นต้น หรือ ชนเผ่ายิบซีที่เคยอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย
ก็ปรากฏให้เห็นศิลปะของการมัดย้อมผ่านเครื่องแต่งกายในปัจจุบัน ส่วนในบาหลี ประเทศ
อินโดนีเซียก็มีศิลปะของการมัดย้อมเช่นเดียวกัน โดยจะเรียกการมัดย้อมนี้ว่า เปลังกิ เป็นต้น
2) ชนิดของผ้า 6
ก่อนที่จะเรียนรู้กับวิธีการทไผ้ามัดย้อมนั้น สิ่งสกคัญที่เราควรศึกษาเป็นอันดับแรกก็คือ
ชนิดของเส้นใยผ้า เนื่องจากในขั้นตอนของการย้อมผ้านั้น อาจเกิดปัญหาสีไม่ติดผ้า หรือติด
ได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งอาจเป็นเพราะเส้นใยผ้าที่ไม่เหมือนกัน จึงทกให้สีที่ออกมานั้นไม่เป็นไปตามที่
ต้องการ ชนิดของผ้านั้น แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ
เส้นใยธรรมชาติ
เส้นใยที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งได้จากส่วนต่าง ๆ ของพืช ได้แก่ เส้นใยจากเมล็ด เช่น
ฝ้าย นุ่น เส้นใยที่ได้จากใบ เช่น ใยสัปปะรด เส้นใยที่ได้จากเปลือกไม้ เช่น ลินิน ผ้าปอ ใย
กัญชา เป็นต้น และได้จากสัตว์ เช่น ผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม ซึ่งใยที่ได้จากสัตว์นี้มีคุณสมบัติทั่วไป
คล้ายโปรตีน ดังนั้น เมื่อเปียกน้าความเหนียวและความแข็งแรงจะลดลง ถ้าถูกแสงแดดเป็น
เวลานานจะสลายตัวหรือกรอบ เส้นใยธรรมชาติจะสามารถย้อมสีออกมาได้ดีและตรงเกือบทุก
สี
เส้นใยสังเคราะห์
เป็นเส้นใยประดิษฐ์ชนิดหนึ่งที่เป็นพอลิเมอร์ ไม่ใช่เซลลูโลส คือ เป็นการผลิตโดยใช้
วัตถุดิบที่เป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ ซึ่งเป็นผลผลิตจากอุตสาหกรรมปิโตรเลียมทั้งหมด มนุษย์
ทพเส้นใยชนิดนี้เพื่อต้องการทดแทนเส้นใยจากธรรมชาติ เนื่องจากเส้นใยธรรมชาติลดลง
เรื่อย ๆ โดยพยายามเลียนแบบให้ใกล้เคียงกับเส้นใยธรรมชาติมากที่สุด และพัฒนา
คุณสมบัติเฉพาะด้านให้ดียิ่งขึ้น เช่น อะครีลิก พอลีเอ สเตอร์ ชีฟอง ที่ไม่ใช่ชีฟองไหม
ไนลอน ผ้าตาข่าย ผ้าหนังเทียม เป็นต้น ในด้านของการย้อมสีนั้นถ้าไม่ใช่สีสาหรับเส้นใย
สังเคราะห์ เช่น สีย้อมชนิดดิสเพิร์ส ก็จะไม่สามารถย้อมผ้าติดได้
7
3) เอกลักษณ์ลวดลายผ้ามัดย้อม
ผ้ามัดย้อมแบบพาสเทล
ผ้ามัดย้อมแบบพาสเทล เป็นผ้าอเนกประสงค์ใช้ได้ทั้งผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ ผ้าชายหาด
ฯลฯ และอื่น ๆ ตามที่เราต้องการ เนื้อผ้านุ่ม พลิ้วเบาใส่สบาย ใส่แล้วไม่ร้อน ที่สาคัญคือ สีไม่
ตก เอกลักษณ์ของผ้ามัดย้อมจะอยู่ที่ลวดลายที่มัดและสีสันที่ย้อมลงไปในปัจจุบันชุดมัดย้อมที่มี
ขายตามร้านค้าทั่วไปนั้นก็มีให้เลือกหลายโทนสี จนทำให้หลายคนอาจจะเลือกไม่ถูกว่าจะใส่ แบบ
ไหนถึงจะเข้ากับบรรยากาศ และสามารถช่วยให้การถ่ายรูปของคุณออกมาสวยดูดี และโดดเด่น
หากใครที่อยากได้ลุคแบบ อ่อนหวาน ดูละมุนน่าทะนุถนอม ก็สามารถเลือกผ้าคลุมไหล่มัดย้อม
โทนสีพาสเทล เช่น สีชมพูอ่อน เป็นต้น ซึ่งโทนสีพาสเทลยังสามารถนพไปแมตช์คู่กับเสื้อผ้าสี
เข้มต่าง ๆ ได้
8
ผ้ามัดย้อมแบบย้อมคราม
ผ้าย้อมคราม คือผ้ามัดย้อม ที่มีเฉดสีฟ้าถึงสีน้าเงินเข้ม ผ้าย้อมครามนิยมใช้กันแพร่หลาย
ในหลายเขตพื้นที่ของโลกโดยเฉพาะเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี อินเดีย ลาวและประเทศไทย
เนื่องจากมีองค์ความรู้ในการปลูกต้นครามและการย้อมครามผ้าย้อมครามในประเทศไทยมีมาก
ในภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดสกลนครซึ่งมักจะย้อมครามที่เส้นฝ้าย เส้นฝ้ายก่อนนาไปทอด้วย
มือให้เป็นผืน บ้างมัดหมี่ให้เป็นลวดลายก่อนแล้วจึงนาไปย้อมและทอมือด้วยกี่พื้นบ้าน เกิดเป็นผ้า
มัดหมี่ทอมือย้อมครามที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น
สีย้อมคราม สีน้าเงิน หรือที่เรียกว่า Indigo Dye เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่เราเห็นกันมานาน
นอกจากจะเป็นสีที่เกิดจากธรรมชาติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาของผ้า
ย้อมครามยังให้ความรู้สึกละเมียดละไม ดูดี ด้วยความเป็นงานคราฟท์แฮนด์เมด จึงดูดึงดูดด้วย
น้าหนักสีที่หนัก เบา สลับกัน แต่ก็ยังคงความผ่อนคลายสบายๆ และด้วยลักษณะที่ปะปนความ
ดิบอยู่ในนั้น ทำให้ผ้าแบบนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียน และยังทาให้มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
ในปัจจุบันมีการผสมเทคนิคใหม่ๆ เช่น การมัดย้อม การเขียนเทียน บาติก เพื่อให้ได้
ลวดลายและสีสันที่ร่วมสมัย
9
ผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ
ศิลปะการนาผ้ามาย้อมด้วยสีที่ได้จากธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งแปลก หรือพึ่งจะค้นพบนวัตกรรม
ใหม่แต่อย่างใด แต่ความรู้ ภูมิปัญญาดังกล่าวได้ถูกค้นพบ ปฏิบัติและถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
ตั้งแต่สมัยพุทธกาล ดังจะเห็นได้ว่า พระพุทธเจ้าพร้อม สาวกทั้งหลายก็ใช้ผ้าบังสุกุลสีขาวที่ใช้
สาหรับห่อศพมาซักแล้วก็ย้อมด้วยสีธรรมชาติเพื่อเป็นผ้าจีวรนุ่งห่มเหมือนกัน ดังนั้น ผู้เขียน
เห็นว่าภูมิปัญญาการเอาผ้าแล้วมาย้อมด้วยสีธรรมชาติไม่ใช่ภูมิปัญญาชาวของบ้านธรรมดาๆ
แต่เป็นภูมิปัญญาที่มาจาก แนวคิดของพระพุทธเจ้า ซึ่งการเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าว
เหมือนกับเราได้เรียนรู้และปฏิบัติธรรมะไปด้วย เช่น เราจะได้สมาธิจากการดึงปมชายผ้า หรือ
การพึงพาธรรมชาติและพึ่งพาตัวเอง หรือการไม่ตามกระแสของสังคมที่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยเกิน
ความจาเป็น
ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ดำรงเอกลักษณ์ในรูปแบบ และ
สีสัน คือ เส้นใยฝ้ายที่เป็น วัตถุดิบจากธรรมชาติ รูปแบบที่เรียบง่ายที่เกิดจากกระบวนการ
ออกแบบลวดลาย และสีสันจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้ คือ เอกลักษณ์ของผ้ามัดย้อม
สี ธรรมชาติที่ได้ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษสู่คนรุ่นต่อ ๆ มา การจัดทำสิ่งประดิษฐ์ผ้ามัดย้อมจาก
ผลลูกจาก เป็นการเลือกวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ดัดแปลงให้เกิดมูลค่าและเกิด
ประโยชน์สูงสุด
การทกผ้ามัดย้อมใช้เอง เป็นความภาคภูมิใจของคนทกและคนที่จะสวมใส่ด้วย เพราะผล
งานชิ้นดังกล่าวเป็นศิลปะหนึ่งเดียว ในโลกที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน (รับรองได้) โดยมี
เราเป็นศิลปินเอก ที่สำคัญสีที่ได้จากธรรมชาติจะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บไปในตัว
ด้วย เช่น ผ้าย้อมคราม ย้อมฝางแดง
4) การออกแบบเเละสร้างสรรค์ลายผ้า 10
การคิด ประดิษฐ์ลายผ้า ขึ้นอยู่กับจินตนาการและการสังเกตของแต่ละคน ซึ่งการมัดแต่ละ
ครั้งหรือแต่ละคน ลายผ้าที่ได้จะไม่เหมือนกัน แต่ก็สามารถปรับปรุงหรือออกแบบให้ใกล้เคียง
หรือคล้ายกันได้ ขึ้นอยู่กับการสังเกตและพัฒนาการของแต่ละคนด้วย ซึ่งการมัดลายแบบพื้นฐาน
อย่างง่ายมี 4 ดังนี้
1. การพับแล้วมัด กล่าวคือ เป็นการพับผ้าเป็นรูปต่างๆ
แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ผลที่ได้จะได้ลวดลายที่มีลักษณะ
ลายด้านซ้ายและลายด้านขวาจะมีความใกล้เคียงกนั แต่จะมี
สีอ่อนด้านหนึ่งและสีเข้มด้านหนึ่งเนื่องจากว่าหากด้านใดโดน
พับไว้ด้านในสีกจ็ะซึมเข้าไปน้อยผลที่ได้ก็คือจะมสีีจางกว่า
2. การขยำแล้วมัด กล่าวคือ เป็นการขยำผ้าอย่างไม่ต้ัง
ใจแล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ผลที่ได้จะได้ลวดลายแบบ
อิสระ เรียกว่าลายสวยแบบบังเอิญ ไม่สามารถทำลายได้
อีก เนื่องจากการขยำแต่ละครั้งเราไม่สามารถควบคุม
การทับซ้อนของผ้าได้ ลักษณะที่ได้จะเหมือนก้อนเมฆ เรา
เรียกว่าลายอิสระ หรือรูปร่างรูปทรงอิสระ
3. การห่อแล้วมัด กล่าวคือ เป็นการใช้ผ้าห่อวัตถุต่างๆ
ไว้แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ลายที่เกิดขึ้นจะเป็นลายใหญ่
หรือเล็กขึ้นอยู่กับวัตถุที่นกมาใช้ และลักษณะของการมัด
เช่น การนพผ้ามาห่อก้อนหินรูปทรงแปลกๆ ที่มีขนาดไม่
ใหญ่นัก แล้วมัดไขว้ไปมา โดยเว้นจังหวะของการมัดให้มี
พื้นที่ว่างให้สีซึมเข้าไปได้ อย่างนี้ก็จะมีลายเกิดขึ้น
สวยงามแตกต่างจากการมัดลักษณะวัตถุอื่นๆ
4. พับแล้วหนีบ กล่าวคือ เป็นการพับผ้าเป็นรูปแบบ
ต่างๆ แล้วเอาไม้ไอศกรีม หรือไม้ไผ่ผ่าบางๆ หนีบไว้ทั้ง
สองข้างเหมือนปิ้งปลา ต้องมัดไม้ให้แน่น ภาพที่ออกมาก็
จะเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น รูปดอกไม้ รูปสี่เหลี่ยม เป็นต้น
การจำแนกโทนสีธรรมชาติชนิดต่างๆ 11
สีแดง : เมล็ดคาแสด แก่นฝาง เปลือก
สมอ เปลือกสะเดา แก่นกะหล่า แก่นประดู่
รากรอป่า ดอกกระเจี๊ยบ เปลือกส้มเสี้ยว
สีเหลือง : หัวขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย หัวไพร
แก่นไม้พุด ดอกกรรณิการ์ รากฝาง ใบ
มะขาม ดอกคาฝอยดอกดาวเรือง ใบเสนียด
แก่นแค แก่นฝรั่ง ใบขี้เหลักแก่นขนุน ต้น
สะตือ
สีน้ำเงิน : ใบบวบ ใบหูกวาง เปลือกเพกา
เปลือกต้นมะริด เปลือกกระหูด ใบเลี่ยน
ใบตะขบ ดอกอัญชัน ต้นคราม
สีเขียว : ใบหญ้าหวาน ใบสาบเสือ ใบขี้เหล็กบ้าน
ใบมะลิ ใบจามจุรี ใบฟ้าทะลายโจน ใบสมอป่า
แก่นขนุน เปลือกต้นเพกา ใบแค ใบสับปะรดอ่อน
ใบเลี่ยน ใบหูกวางแก่ ใบเตย ใบกระถิน
สีน้าตาล : เปลือกไม้โกงกาง เปลือกสีเสียด
เปลือกพะยอม เปลือกแสมดา แก่นคูณ เปลือกแค
สีดำ : ใบกระเม็ง ผลมะเกลือ เปลือกรกฟ้า บัวสาย
สีชมพู : ต้นมหากาฬ แก่นฝาง แก่นหางนกยูง
สีม่วง : ผลลูกหว้า เปลือกมังคุด ผลหม่อน
5) อุปกรณ์ และขั้นตอนการทำ 12
อุปกรณ์ในการทำผ้ามัดย้อม
ผ้า ผ้าที่ใช้ในการมัดย้อมเป็นผ้าที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน และ
ผ้าไหม ซึ่งจะต้องนาไปซักน้ำเปล่า ต้มในน้ำเดือด หรือแช่แล้วซักในน้าสบู่อ่อน ๆ ก่อน
เพื่อชาระสิ่งสกปรกหรือเคมีที่เคลือบบนผิวผ้าออกเสียก่อน ผ้านั้นจึงจะสามารถนำมา
ย้อมแล้วติดสีได้ดี
ภาชนะที่ใช้ในการมัดย้อม ควรจะเป็นภาชนะที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถจุ่มผ้าลงไปได้ทั้ง
ผืนที่ต้องการจะย้อม อาจใช้เป็นภาชนะโลหะเคลือบสแตนเลสหรือพลาสติกตามแต่วิธี
ของผู้ย้อมว่าจะใช้ในการย้อมร้อนหรือย้อมเย็น
วัสดุกันสี เช่น เชือกสีต่าง ๆ ด้าย ยางวง ถุงพลาสติก ไม้หนีบ ลูกปัด หมุดไม้ ก้อน
กรวดหรือวัสดุอื่น ๆ ตามแต่การออกแบบลวดลายของผู้ย้อม
สีที่ใช้ในการย้อมมีทั้งสีทางเคมีที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาดและสีธรรมชาติ
อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น กรรไกร เข็ม ที่เลาะด้าย และถุงมือยาง เป็นต้น
13
ขั้นตอนการทำผ้ามัดย้อม
เติมน้ำปลา 1 แกลลอน ลงไปในภาชนะขนาดกำลังพอเหมาะ
โรยโซเดียมคาร์บอเนตลงไป 1 ถ้วยตวง พร้อมคนให้ละลายให้เข้ากัน โดยโซเดียมคาร์บอเนตหรือ
โซดาแอชจะช่วยให้ย้อมสีติดผ้าได้ดียิ่งขึ้น
นำผ้าที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในน้ำ กดให้จม และแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
บิดผ้าให้พอหมาด แล้วนำตะแกรงวางจานมาตั้งเอาไว้บนภาชนะเพื่อตากผ้าและรองรับน้ำ
นำผ้าไปวางบนตะแกรง สามารถบิด พับ ม้วน และจัดรูปทรงของผ้าได้ตามต้องการ วางน้ำแข็ง
บนผ้าให้ทั่ว
โรยผงสีย้อมผ้าตามความพอใจสามารถใช้หลายสีได้ตามต้องการ
ปล่อยทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง เมื่อน้ำแข็งละลายสีก็จะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่เนื้อผ้าเอง
นำผ้าไปล้างด้วยน้าเย็น จากนั้นซักกับผงซักฟอกหนึ่งที ตากให้แห้ง เสร็จแล้วก็จะได้ผ้ามัดย้อม
สวย ๆ มาแบบง่าย ๆ
6) การวัดและประเมินผล
แบบทดสอบก่อนและหลังการฝึกอบรม
ประเมินความรู้ ความสามรถและศักยภาพในการปฏิบัติงานของผู้รับการฝึกอบรมโดย
ต้องผ่านเกณฑ์ 80%
แบบฝึกหัด 14
1. ประเทศใดที่มีการทำผ้ามัดย้อมขึ้นในยุค
6. หลักสำคัญการมัดย้อม คือ
แรกๆ ก. การชุบสี
ก. ไทย ข. การกันสี
ข. พม่า ค. การเคลือบสี
ค. มาเลเซีย ง. การทำผ้าให้เกิดรอยด่าง
ง. อินโดนีเซีย 7. เส้นใยผ้ามีความสำคัญอย่างไรในการมัด
2. ศิลปะการมัดย้อมที่ผ่านเครื่องแต่งกายคือ
ย้อม
ข้อใด ก. รอยยับ
ก. ผ้าสไบ ข. ความหนา
ข. ผ้าบาแตะ ค. การดูดซึมสี
ค. ผ้าส่าหรี ง. ความคืนตัว
ง. ผ้าโสร่ง 8. ผ้าที่นำมาย้อมสีควรมีลักษณะอย่างไร
3. ผ้ามัดย้อม ตรงกับความหมายใด ก. ซักน้ำเปียกทั่ว
ก. การชุบด้วยสี ข. เป็นผ้าที่สะอาด
ข. การมัดผ้าด้วยยางรัด ค. เป็นผ้าใหม่หรือขนสัตว์
ค. การทำให้เกิดรอยด่าง ง. เป็นผ้าที่สะอาดและซักน้ำเปียกทั่ว
ง. การมัดด้วยเชือกให้แน่น 9. สิ่งที่ทำให้เกิดลวดลายบนพื้นผ้าด้วยวิธีง่าย
4. เมื่อมัดย้อมแล้วได้พื้นที่ขาวมากกว่าสีเป็น
ที่สุด คือ
เพราะเหตุใด ก. การทอ
ก. การมัดผ้าไม่แน่น ข. การเย็บ
ข. การมัดผ้ามากเกินไป ค. การย้อม
ค. การมัดผ้าน้อยเกินไป ง. การเพ้นท์
ง. การมัดแน่นมากเกินไป 10. เปลังกิ เป็นศิลปะการมัดย้อมของประเทศ
5. กรณีที่มัดน้อยเกินไปหรือหลวม จะทำให้
ใด
ผ้าที่ย้อมเป็นอย่างไร ก. ญี่ปุ่น
ก. ไม่ติดสีเลย ข. อินเดีย
ข. ผ้ากินสีน้อย ค. มาเลเซีย
ค. ลายที่ได้ไม่ชัดเจน ง. อินโดนีเซีย
ง. ผ้าเป็นสีเดียวกันทั้งผืน
15
บรรณานุกรม
“ชนิดของผ้า”, สืบค้นเมื่อ 11 มีนาคม 2565
จาก https://sites.google.com/a/longwittaya.ac.th/pha-mad-
yxm/prapheth-laea-rup-baeb-khxng-pha-mad-yxm/chnid-khxng-pha
“ธรรมชาติของสีจากธรรมชาติ”, สืบค้นเมื่อ 11 มีนาคม 2565
จาก https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n91.php
“ประวัติความเป็นมาของผ้ามัดย้อม”, สืบค้นเมื่อ 11 มีนาคม 2565
จาก https://www.m-culture.go.th/trang/ewt_dl_link.php?nid=1496
“วิธีการทำผ้ามัดย้อม”, สืบค้นเมื่อ 11 มีนาคม 2565
จาก https://www.muntongyom.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%
E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%
B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3/
16
เฉลยแบบฝึกหัด
1. ตอบ ง. อินโดนีเซีย
2. ตอบ ค. ผ้าส่าหรี
3. ตอบ ค. การทำให้เกิดรอยด่าง
4. ตอบ ข. การมัดผ้ามากเกินไป
5. ตอบ ค. ลายที่ได้ไม่ชัดเจน
6. ตอบ ข. การกันสี
7. ตอบ ค. การดูดซึมสี
8. ตอบ ง. เป็นผ้าที่สะอาดและน้ำเปียกทั่ว
9. ตอบ ค. การย้อม
10. ตอบ ง. อินโดนีเซีย
17
ประวัติวิทยากร
นางสาวกัญญาณัฐ ควรมี
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาสังคมศึกษา
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
Facebook: Kanyanat Khuanmee
ID Line: nokkanyanat
Email : [email protected]
เบอร์โทร : 0807973167
THANK YOU