The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Praxw Sorpor, 2023-07-24 10:56:10

บรรยากาศ

บรรยากาศ

บรรยากาศภาค atmosphere


บรรยากาศ มีความสำ คัญต่อสิ่ง สิ่ มีชีวิตบนผิวโลก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ เช่น การเกิดลม เมฆ ฝน หยาดนำ ฟ้า นอกจาก ยังช่วยป้องกันความร้อนจากการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ และรังสีอัลตราไวโอเลตไม่ให้ผ่านลงมาถึงผิวโลกมากจนเป็นอันตรายต่อสิงมีชีวิต ส่วนประกอบของบรรยากาศ อากาศเป็นส่วนผสมระหว่างแก๊สชนิดต่าง ๆ อนุภาคของของแข็งขนาดเล็กและควัน มีปริมาณแตกต่างกัน ดังนี้


ชั้นบรรยากาศ บรรยากาศเป็นชั้นอากาศที่ห่อหุ้มโลกและอยู่ได้ด้วยแรงดึงดูดของโลกมีขอบเขตจากพื้น ผิวโลกขึ้นไปประมาณ 400 กิโลเมตร การแบ่งชั้นบรรยากาศโดยใช้ลักษณะการ เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเป็นเกณฑ์ มี4 ชั้น ดังนี้ 2.1 โทรโพสเฟียร์ (troprosphere) ชั้นบรรยากาศของโลกที่อยู่ติดกับพื้นผิวโลก มีระดับความสูงจากพื้นโลก ณ บริเวณ เส้นศูนย์สูตรประมาณ 17กิโลเมตร และบริเวณขั้วโลก ประมาณ9กิโลเมตร ลักษณะเฉพาะ อุณหภูมิต่ำ ลงตามความสูงในอัตราเฉลี่ย 6.4 องศาเซลเซียส ต่อ1000 เมตร จนถึง แนวแบ่งเขตบรรยากาศ เรียกว่า โทรโพพอส (tropopause) อากาศมีการเคลื่อนที่ในแนวราบและแนวดิ่ง 2.2 สแตรโทสเฟียร์ (stratosphere) ชั้นบรรยากาศที่อยู่เหนือแนวโทรโพพอสขึ้นไป มีระดับความสูงจากพื้นโลกประมาณ 17- 50 กิโลเมตร ลักษณะเฉพาะ อากาศมีการเคลื่อนเฉพาะในแนวระดับเพียงอย่างเดียว บรรยากาศปราศจากเมฒและพายุจึงเป็นประโยชน์ต่อกิจการการบิน


2.3 เมโซสเฟียร์ ชั้นบรรยากาศที่อยู่เหนือแนวสแตรโทพอสขึ้นไป มีระดับความสูง 50-80 กิโลเมตร ลักษณะเฉพาะ อุณหภูมิต่ำ ลงตามความสูงจนถึงแนวแบ่งเขตบรรยากาศ ที่เรียกว่า เมโซพอส (mesopause) เทหวัตถุในท้องฟ้า เช่นอุกกาบาต ดาวตก 2.4 เทอร์โมสเฟียร์ ชั้นบรรยากาศที่อยู่เหนือแนวเมโซพอสขึ้นไป ระดับความสูง 480กิโลเมตร ลักษณะเฉพาะ อุณหภูมิมีค่าคงที่ระยะต้นและสูงขึ้นตามความสูง มีประจุไฟฟ้ามาก จึงสามารถสะท้อนคลื่นวิทยุได้ เกิดแสงออโรรา เป็นแสงแดง ขาว เขียว มีลักษณะเป็นเส้นโค้งเป็นเส้นๆ มองเห็น เวลากลางคืน


2.ความกดอากาศและลม อากาศเป็นสสารซึ่งอยู่ได้ด้วยแรงดึงดูดของโลกความกดอากาศโดยเฉลี่ย ที่ระดับปานกลางเท่ากับ 1,013.2 มิลลิบาร์ การลดลงของค่าความกดอากาศ ในระดับความสูงชั้นโทรโพสเฟียร์ จากระดับทะเลปานกลางขึ้นไป ลมเกิดจากการเคลื่อนที่ของอากาศตามแนวระนาบ เมื่อมีความแตกต่างกับของ ค่าความกดอากาศ คือ จากบริเวณความกดอากาศสูงสู่บริเวณความกดอากาศต่ำ ไปบนผิวโลกได้ทุกทิศทาง 2.1)ทิศทางลม ผลจากการหมุนรอบตัวเองของโลก 2.2)ประเภทของลม การหมุนเวียนของลมชั้นบรรยากาศ 1)ลมประจำ เวลา 2)ลมประจำ ถิ่น •ลมมิสตราล ลมเหนือในประเทศฝรั่งเศ •ลมสลาตัน ลมร้อนและแห้ง •ลมชีนุก ลมตะวันตกเฉียงเหนือ 3)ลมประจำ ฤดู ช่วงฤดูหนาว บริเวณความกดอากาศสูงไซบีเรียมีกำ ลังแรงแผ่ความกดอากาศออกโดยรอบ ช่วงฤดูร้อน บริเวณความกดอากาศสูงจากมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก การเปลี่ยนแปลงทางบรรยากาศภาค สิ่งมีชีวิตทั้งหลายอาศัยอยู่ภายใต้บรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์ของโลกเท่านั้น 1.อุณหภูมิ บรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์หด้รับพลังงานความร้อนและแสงสว่าง จากดวงอาทิตย์ที่ผ่านบรรยากาศชั้นต่างๆ ปริมาณความร้อนจากการ แผ่รังศีดวงอาทิตย์ตอนบนของชั้นบรรยากาศจำ นวนร้อยละ100


4)ลมประจำ ปี คือ ระบบลมที่ีมีทิศทางเบี่ยงเบนคงที่ตลอดปี การเคลื่อนที่ของลมประจำ ปีที่กำ เนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงกึ่งเขตร้อน หรือ “ฮอร์ส เรียกว่า ละติจูด” ประมาณละติจูด 30 องศาเหนือและใต้สู่บริเวณความกดอากาศต่ำ แถบศูนย์สูตร “ลมค้า” กับสู่บริเวณความกดอากาศต่ำ ประมาณละติจูด 60 องศาเหนือและใต้ เรียกว่า “ลมฝ่าย ตะวันตก” เขตลมค้าพัดเข้าหากัน เกิดเป็นบริเวณแคบ ๆ แถบศูนย์สูตรที่มีอากาศแปรปรวน อากาศ ลอยตัวขึ้นสู่เบื้องบน เกิดเมฆคิวมูลัส และเมฆคิวมูโลนิมบัส มีฝนตกที่เกิดจากการพาความร้อน เขตแนวปะทะอากาศทั่วโลก เกิดจากลมฝ่ายตะวันตกพัดเคลื่อนที่เข้าหากันกับลมขั้วโลก ฝ่ายตะวันออกของขั้วโลกทั้งสอง ส่งผลให้เกิดฝนพายุหมุน


3) ความชื้นในบรรยากาศ ความชื้นในบรรยากาศภาคมีอยู่แต่เฉพาะในบรรยากาศ ชั้นโทรโพสเฟียร์เกิดจากการระเหยของทะเล มหาสมุทร และ แหล่งน้ำ อื่น ๆ บนพื้นผิวโลก เป็นหลัก แต่มีบางส่วนที่เกิดจาก การคายน้ำ ของพืช ป่าไม้ และกิจกรรมของมนุษย์ 3.1) สถานะของน้ำ ในอากาศ บรรยากาศมีอยู่ 3 สถานะ ได้แก่ แก๊ส ของเหลว และของแข็ง น้ำ ในแต่ละสถานะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนสถานะได้ โดยกระบวนการของ พลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ ได้แก่ กระบวนการเพิ่มอุณหภูมิ และกระบวนการลดอุณหภูมิ ของน้ำ ซึ่งมีวิธีการทางธรรมชาติ คือ การระเหย การควบแน่น การหลอมเหลว การเยือกแข็ง และการระเหิด 3.2) เมฆ เป็นกลุ่มก้อนของไอน้ำ ลอยอยู่ในอากาศ เมฆมีลักษณะแตกต่างกัน ตามระดับความสูง รูปลักษณะของเมฆมี 3 แบบ ได้แก่ 1 เมฆซีร์รัส ลักษณะเป็นเส้นปุย 2 เมฆคิวมูลัส ลักษณะเป็นก้อน 3 ขนาดต่าง ๆ กัน เมฆสเตรตัส ลักษณะเป็นแผ่นฝอยต่อเนื่องกัน


การจำ แนกเมฆตามรูปลักษณะและระดับความสูงที่เมฆลอยปรากฏในท้องฟ้า เมฆระดับสูง พบที่ระดับความสูง 6 กิโลเมตรขึ้นไป จนใกล้บรรยากาศชั้นโทรโพพอสที่มีอุณหภูมิต่ำ และไอน้ำ มีน้อย พบเมฆซีร์รัส เมฆซีร์โรคิวมูลัส และเมฆซีร์โรสเตรตัสมองเห็นได้ ชัดเจนในช่วงฤดูหนาวที่ท้องฟ้าโปร่งใส เมฆระดับกลาง พบที่ระดับความสูงตั้งแต่ 3 กิโลเมตร ถึง 6 กิโลเมตร พบเมฆแอลโตสเตรตัส และเมฆแอลโตคิว มูลัส มีลักษณะเป็นละอองน้ำ เล็ก ๆ มีสีขาว บางครั้งแตกเป็นก้อนคล้ายดอกกะหล่ำ ๆ เมฆระดับต่ำ พบอยู่สูงกว่าระดับผิวโลกขึ้นไปไม่เกิน 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศที่มีไอน้ำ อยู่ในอากาศ มากที่สุด เมฆที่พบ ได้แก่ เมฆสเตรตัส เมฆสแตรโทคิวมูลัสและเมฆนิมโบสเตรตัส เมฆในระดับ ต่ำ เป็นเมฆที่เกิดฝนและหิมะได้ เมฆก่อตัวตามแนวดิ่ง พบอยู่ใกล้ระดับพื้นโลกและสูงขึ้นไปประมาณ 6 กิโลเมตร ได้แก่ เมฆคิวมูลัส ที่ทำ ให้เกิดฝนตกเฉพาะแห่ง หรือ “ฝน” เมฆคิวมูลัสเมื่อมีการ รวมตัวของไอน้ำ มากขึ้นจะพัฒนาเป็นเมฆคิวมูโลนิมบัส โดยมีฐานเมฆหนาทึบเป็นสีดำ ตัวเมฆ มีรูปลักษณะหอคอยขนาดใหญ่ ยอดเมฆแผ่ออกด้านข้างมีรูปคล้าย “รูปทั้ง” ซึ่งถือเป็นเมฆฝน ที่อันตราย เนื่องจากภายในก้อนเมฆมีกระแสอากาศแปรปรวน อาจทำ ให้เกิดฝนตกหนักและมี ฟ้าคะนอง เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่าร่วมด้วย


3.3) หยาดน้ำ ฟ้า (precipitation) เป็นคำ รวมของสถานะต่าง ๆ ของน้ำ ใน บรรยากาศที่ ตกลงมาสู่ผิวโลกในลักษณะต่างๆ ได้แก่ 1. ฝน (rain) หยาดน้ำ ฟ้าที่เป็นของเหลว 2. ฝนละออง (drizzle) ฝนที่มีขนาดเล็กมาก แตกต่างจากหมอกตรงที่ ฝนละอองนี้จะตกจากท้องฟ้าลงสู่แผ่นดิน 3. ฝนน้ำ แข็ง (sleet) หยดน้ำ ฝนที่เกิดการเยือกแข็งเป็นก้อนน้ำ แข็งกลมใส 4. หิมะ (snow) เกิดจากไอน้ำ ในเมฆรวมตัวกันเป็นผลึกน้ำ แข็งอย่างรวดเร็ว 5. ลูกเห็บ (hail) ก้อนน้ำ แข็งกลมตกลงมาจากเมฆคิวมูโลนิมบัส นอกจากหยาดน้ำ ฟ้าแล้ว ในบรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์ยังพบปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จากไอน้ำ ในอากาศ อุณหภูมิ และฝุ่นละออง ดังนี้ 1. หมอก (fog) เกิดจากไอน้ำ ที่กลั่นตัวเป็นละอองลอยอยู่ในอากาศ มีฐานติดกับพื้นดินหรือพื้นน้ำ 2. น้ำ ค้าง (dew) เกิดขึ้นจากอุณหภูมิของอากาศลดต่ำ ลงจนทำ ให้ไอน้ำ ในอากาศเกิดการควบแน่นหรือกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ 3. น้ำ ค้างแข็ง (frost) เกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับการเกิดน้ำ ค้าง ต่างกันตรงที่ อุณหภูมิยอดหญ้ามีค่าต่ำ กว่า 0 องศาเซลเซียส ซึ่งจะพบในพื้นที่สูงช่วงฤดูหนาวมากที่สุด ชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือแถบจังหวัด เรียกว่า “แม่คะนิ้ง 4. ฟ้าหลัว (haze) หรือหมอกแดด เป็นลักษณะอากาศที่เกิดขึ้นจากอนุภาคของฝุ่น ผง เกลือลอยกระจัดกระจายอยู่ในบรรยากาศ มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ทำ ให้ทัศนวิสัยลดลง 5. หมอกบนควัน (Smog) เป็นลักษณะอากาศที่เกิดขึ้นจากหมอกและ ควันพิษจากแหล่งต่าง ๆ


สมาชิกในกลุ่ม 1.นายธนภัทร ลิัมวราภัส เลขที่1 2.นายกันตพัฒน์ กัณหารี เลขที่2 3.นายศุภวิชญ์ ศรีสุทโธ เลขที่9 4.นายกันตพงศ์ โถทอง เลขที่10 5.นายพชรพล อัตรศรี เลขที่12 6.นายฐปนัท ซื่อกิตติศักดิ์ เลจที่16 7.นายปัณณวิชญ์ บรรดาพิมพ์ เลขที่17 8.นางสาวธีรกานต์ โชคชัชวาลกุล เลขที่21 9.นางสาวณัฐพร จันทะดวง เลขที่23 10.นางสาวชิดชนก ปาจันทร์ เลขที่36 11.นางสาวปพชญา รักศรี เลขที่41


Click to View FlipBook Version