The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kannika Maneewihok, 2021-01-07 07:59:27

ระบำกฤดาภินิหาร

ประวัติที่มา

Keywords: c programming

ระบาํ กฤดาภินหิ าร

ประวตั ิทีม่ า

ระบำกฤดาภนิ หิ าร เปน็ ระบำทีก่ รมศิลปากรสร้างสรรรคข์ ึ้นใหม่ ในราว พ.ศ.
๒๔๘๖ ใช้วงดรุ ยิ างคส์ ากลบรรเลง โดยมีพระเจนดุริยางคเ์ ปน็ ผเู้ รียบเรียงเสยี ง
ประสาน ด้วยต้องการใหม้ ีรปู แบบการแสดงทแี่ ตกต่างไปจากระบำมาตรฐานที่
ไดเ้ คยแสดงมาและตอ้ งการใหท้ นั สมัยเหมาสมกับสถานการณใ์ นยคุ นน้ั

"การปรบั ปรงุ การแสดงตอนน้ี มุง่ หมายใหเ้ ป็นละครรำ แต่ใหก้ ระทดั รดั
เหมาะสมแก่กาลสมัย จึงต้องปรบั ปรุงขน้ึ ท้ังท่ารำ ทำนองร้อง และเพลงดนตรี
ดงั จะเห็นได้จากท่ารำท่ีเปน็ แบบแผนของนาฏศลิ ปไ์ ทยแท้ ๆ ระคนกบั การใช้บท
อยา่ งแนบเนียนกระฉบั กระเฉง เข้ากบั ทำนองดนตรี และขบั ร้องสนิทสนม ส่วน
เพลงรอ้ ง และทำนองดนตรกี ็เปน็ เพลงไทยโบราณแท้ หากแตน่ ำมาปะติดปะตอ่
เข้ากนั เปน็ ชุด เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกลมกลืนกับคำร้องและท่ารำ บทรอ้ ง และทำนอง
เพลง ทา่ รำและเพลงดนตรีในระบำชุดนจ้ี ึงนบั เปน็ รำบำไทยท่ีพยายามปรับปรุง
ตัวเองใหท้ ันสมยั ชดุ หนึง่ "

การแสดงชดุ นอ้ี ยู่ในตอนทา้ ยเร่ืองเกียรติศกั ดไิ์ ทย (กรมศลิ ปากรได้
ประพนั ธ์เปน็ บทละครสร้างจากเหตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ สมยั สมเดจ็ พระ
รามาธิบดที ี่ ๒ ครองกรุงศรีอยุธยา) อันเป็นการร่ายรำของเหลา่ เทวดานางฟา้
ทไ่ี ดท้ ราบถึงความเจริญรุ่งเรอื งบง่ิ ใหญ่ของชาตไิ ทย จงึ เกิดความปิตยิ นิ ดชี ่นื ชม
โสมนสั ต่างพากันมาอวยชัยใหพ้ ร ผแู้ ต่งบทรอ้ งคอื นางสดุ า บุษปฤกษ์ ผู้
ประดษิ ฐท์ า่ รำคือ นางลมลุ ยมะคุปต์ และนางศภุ ลักษณ์ ภัทรนาวกิ (หมอ่ มครู
ด่วน) ผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลปไ์ ทย กรมศิลปากร ดว้ ยความหมายอนั เปน็
มงคลของระบำชดุ นี้ ตอ่ มาจงึ นำออกแสดงในระบำชุดเอกเทศ มักใช้วงป่ีพาทย์
ไมน้ วมในการบรรเลง แตบ่ างโอกาสกค็ งใช้วงดรุ ยิ างคส์ ากลบรรเลงอยู่ การ
แสดงระบำชุดน้ียงั เปน็ ท่ีนิยมแสดงกันอยา่ งแพรห่ ลาย

รปู แบบ และลกั ษณะการแสดง

ระบำกฤดาภนิ หิ าร มีลกั ษณะท่ารำเปน็ ระบำหมคู่ ู่พระ-นาง เสมือนหนงึ
ว่าเหล่าเทวดา นางฟ้า มารว่ มอวยพรยนิ ดีในเกยี รตยิ ศ ช่ือเสียงของประเทศไทย
ทา่ รำเป็นการตบี ทตามคำร้องในเพลงครวญหา (ซึง่ ทั้งลักษณะของท่าทีม่ ี
ความหมายตรงกบั คำรอ้ งและทา่ ทค่ี วามหมายสอดคลอ้ งกับคำรอ้ ง) และทา่ รำ
ในเพลงจนี รัว ผู้แสดงถือพานสำหรบั โปรยดอกไม้ สามารถแสดงไดส้ องรปู แบบ
คอื รำตามบทร้องสี่คำกลอน แลว้ ตดั ไปโปรยดอก ไม้ในเพลงจนี รวั ซึ่งใช้เวลาใน
การแสดง ๕ นาที และอีกบทหนงึ่ รำเตม็ บทรอ้ งหกคำกลอน โปรยดอกไม้ตาม
บทรอ้ ง และในเพลงจีนรวั ซงึ่ ใช้เวลาในการแสดง ๖ นาที

บทรอ้ ง

- ปพ่ี าทยท์ ำเพลงรัวดกึ ดำบรรพ์ -
- ร้องเพลงครวญหา -

ปราโมทย์แสน ดงั อัปสรอมรแมนแดนสวรรค์

ยนิ กฤดาภนิ ิหารมหัศจรรย์ เกียรติไทยลอื ลนั่ เรอื งรจู ี

ต่างเตม็ ตนื้ ชน่ื ชมโสมนสั โอษฐเ์ ออ้ื นอรรถอวยพรสนุ ทรศรี

แจ้วจำเรียงเสียงเพลงสดดุ ี ดนตรรี ีเ่ รือ่ ยประโคมประโลมลาน

แล้วลีลาศเรงิ รำระบำร่าย กรกรีดกรายโปรยมาลีสีประสาน

พรมนำ้ ทพิ ยป์ รุงปนสคุ นธาร จักรวาลฉำ่ ช่นื รนื่ รมย์ครัน

- ปพี่ าทยท์ ำเพลงจนี รัว –

หมายเหต ุ

ในการแสดงครัง้ แรกใชว้ งดรุ ิยางคส์ ากลบรรเลง
ตอ่ มานาออกแสดงเป็ นระบาชดุ เอกเทศ ใชว้ งป่ี พาทยไ์ มน้ วม
เคร่ืองหา้ หรือเคร่ืองคู่ หรือเครื่องใหญ่ บางโอกาสใชว้ งดรุ ิยางค์
สากลบรรเลง ทานองเพลงใช้ ไดแ้ ก่ เพลงรัวดกึ ดาบรรพ์ เพลง
ครวญหา และเพลงจีนรัว

โอกาสที่ใชแ้ สดง

เดิมใชป้ ระกอบการแสดงในตอนทา้ ยละครอิง
ประวัตศิ าสตร์ เรื่องเกียรตศิ กั ดิ์ไทย ตอ่ มานยิ มจดั แสดงเป็ นชดุ
เอกเทศ สามารถแสดงในงานมงคลรื่นเริงทวั่ ไป

การรำแบง่ เปน็ ขนั้ ตอนตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี

ขนั้ ตอนท่ี ๑ ออกท่ารำในทา่ รำสอดสร้อย เพลงรวั ดกึ ดำบรรพ์
ขนั้ ตอนที่ ๒ รำตามบทเพลงในเพลงครวญหา
ขน้ั ตอนที่ ๓ รำเขา้ ตามทำนองดนตรใี นเพลงจีนรวั

วธิ กี ารฝกึ หดั ทา่ รำ

ระบำกฤดาภนิ ิหาร เปน็ การลำคพู่ ระนาง หันหน้าตามท้งั 4ทศิ ดังน้ี
ทิศ 1 (ทิศใต้)
ทิศ 2 (ทศิ ตะวันตก)
ทศิ 3 (ทศิ เหนอื )
ทิศ 4 (ทศิ ตะวันออก)

เนือ้ รอ้ ง : -

คำอธิบาย : ทา่ ออก พระและนาง หันหน้าทิศ 2 ทำทา่ สอดสรอ้ ยมาลา
มอื ขวาถอื พานมอื ซ้ายจีบหงายระดบั ชายพก ศรีษะเอยี งซา้ ย ก้าวหนา้
เทา้ ซ้าย ยืดยุบเขา้ แล้วหนั หนา้ ตรงมาทิศ 1

เน้อื รอ้ ง : -
คำอธิบาย : มอื ป้องหนา้ พระและนางหันหนา้ ทิศ 2 มอื ซ้ายปอ้ งหนา้
มือขวาถอื พาน ศรษี ะเอียงขวา กระดกเทา้ ซ้าย

เนอื้ ร้อง : ปราโมทยแ์ สน
คำอธิบาย : ตัวพระ มอื ซา้ ยจบั ระดับปาก มอื ขวาถือพานกา้ วขาว ยนื
ทอดขวาซา้ ย
ตัวนาง มือซา้ ยจีบระดบั ปาก มอื ขวาถือพานระดับล่าง กา้ วเทา้ ขวา แลว้
ก้าวไขว้เทา้ ซ้าย พร้อมกับกดไหลซ่ า้ ย ศีรษะเอยี งซา้ ย

เน้ือรอ้ ง : องค์อปั สรอมรแมน
คำอธิบาย : ตัวพระและตวั นาง จีบสองสงู มอื ซา้ ยพรอ้ มกับแตะเท้าขวา
ศรี ษะเอียงขวา แลว้ เอียงซา้ ย

เนือ้ รอ้ ง : แดนสวรรค์
คำอธบิ าย : ตัวพระและตวั นาง เท้าขวากา้ วไขวศ้ ีรษะเอยี งซ้าย กว้าขาว
กระดกเทา้ ซา้ ยศรีษะเอยี งขวา

เน้ือรอ้ ง : ยนิ กฤดาภนิ หิ าร
คำอธบิ าย : ตัวพระหันหลงั เทา้ ซ้ายกวา้ หนา้ มอื อยใู่ นลกั ษณะเดิม
ตัวนาง เทา้ ซ้ายกา้ วหนา้ มอื อยู่ในลักษณะเดมิ ทง้ั ตัวพระและตัวนางยืด
ยุบวง่ิ วนเป็นวงกลมกลับมาทเ่ี ดิม

เนื้อร้อง : มหศั จรรย์
คำอธบิ าย : ตัวพระ ทำท่าผาลาโดยจีบมือซา้ ยม้วนไปต้ังวงบน มอขวา
ถอื พานกระดกเท้าขวา ศีรษะเองขวาหนั หนา้ ทศิ ท่ี 1
ตัวนาง ทำท่าผาลาในลกั ษณะมอื ขวาถือพานตัง้ วงบน มือซ้ายตง้ั วง
กลางหงายลำแขน กระดกเท้าซ้าย ศรี ษะเอยี งซา้ ย หันหนา้ ทศิ ท่ี 1

เนือ้ ร้อง : เกียรตไิ ทยลือเล่ือง

คำอธิบาย : ตัวพระและตัวนาง ทำท่าภมรเคลา้ โดยและเทา้ ในทง้ั คู่เดนิ
หนั หน้าเขา้ หากนั ขนึ้ ลงเปลย่ี นมอื ทำท่าภมรเคล้าแตะเท้าสลบั ศีรษะ
เอยี ง มอื ตง้ั วง

เนือ้ รอ้ ง : เร่อื งรูจี ต่างเต็มตืน้ ชน่ื ชม

คำอธบิ าย : ตัวพระ หันหน้าถอนเท้าซา้ ยก้าวไขวเ้ ทา้ ขวามอื ซา้ ยจบี
หงายมว้ นส่งหลงั มอื ขวาถือพานระดบั วงบน ประสานกับตวั นาง ศรี ษะ
เอียงขวา หันหนา้ ทิศที่ 1 ตวั นาง หันหลังถอนเทา้ ซ้ายก้าวไขวเ้ ทา้ ขวา
มือซ้ายจีบหงายม้วนส่งหลงั มอื ขวาถอื พานระดบั วงบนประสานกับตวั
พระศีรษะเอยี งซ้าย หนั หน้าทศิ ท่ี 3

ตวั พระและตัวนาง เดินเปน็ วงกลมสลบั ทก่ี นั

เน้อื รอ้ ง : โสมนสั
อธิบาย : ตัวพระและตัวนาง มอื ซา้ ยจบี ระดับปากก้าวขวาเอยี งขวา กา้ วซา้ ย
เอียงซา้ ยหนมุ รอบตวั มือขวาถือพานระดบั วงลา่ ง หนั ทิศที่ 1

เน้อื ร้อง : โอษฐ์เออื้ นอรรถ
อธบิ าย : ตัวพระ หันหนา้ ไปทศิ ท่ี 1 กา้ วเท้าซ้ายมือขวาถือพานมือซ้าย
ถอดแขนออกไปข้างหนา้ ศีรษะเอียงขวา
ตัวนาง หันหนา้ ไปท่ีทิศท่ี 1 หันหน้าตรงเทา้ ขวามือขวาถอื พาน มือซ้าย
ทอดแขนไปด้านหน้า ศีรษะเอียงขวา

เน้อื รอ้ ง : อวยพร
อธิบาย : ตวั พระและตัวนาง กา้ วเทา้ หนั หน้าตรงชอ้ นมือท้งั 2 ยกข้นึ
พรอ้ มกัน ศรี ษะเอียงขวา หนั หนา้ ทศิ ท่ี 1

เน้อื ร้อง : สุนทรศรี

อธิบาย : ตัวพระและตวั นาง ทำทา่ พิสมยั เรียงหมอนเทา้ ขวากา้ วไขว้
ศรี ษะเอียงซ้ายมือท้งั 2 จีบหงายระดบั อก แลว้ ปลอ่ ยออกไป มอื ซา้ ยต้ัง
วงบน มอื ขวาถอื พานแขนตงึ กระดกเทา้ ซ้ายศีรษะขวา หันหนา้ ทศิ ท่ี 1

เนือ้ รอ้ ง : แจว้ จำเรยี งเสียงเพลงสดุดี ดนตรรี ีเรือ่ ยประโคม

อธบิ าย : ตวั พระหันหลงั จีบคว่าระดบั วงบน มอื นอกถอื พาน เดนิ หมนุ
เป็นวงกลมทวนเข็มนาฬกิ า กลบั ตวั ยดื ยบุ ตามจงั หวะจบลงด้วยมอื ซ้าย
จีบระดบั วงบนมอื ขวาถอื พาน ศรี ษะเอยี งขวา

เน้ือรอ้ ง : ประโลมลาน แล้วลีลาศเรงิ รำ

อธิบาย : ตัวเพราะและตวั นาง ตัวพระซ้อนหลงั ตวั นางประเท้าซา้ ยแลว้
กา้ วหน้า จีบควา่ มอื ซ้าย ม้วนออกตั้งวงบน โดยจบั ปลายมอื ซ้ายของ
นาง มอื ถือขวาของตวั พระและตวั นางถอื พานระดับวงบน แลว้ เดินเรยี ง
เทา้ โดยวางหลังเท้าขวา เดนิ เรียงเท้าซา้ ย กา้ วไขว้เท้าขวาวางหลังเท้า
ซา้ ย มือขวาตั้งวงบน มือซา้ ยแขนตึง แลว้ เดนิ เรยี งเท้ากลับโดยวางหลัง
เท้าซ้ายเดนิ เรียงเท้าขวาก้าวไขว้เทา้ ซา้ ยวางหลงั เท้าขวา ศรี ษะเอียงดา้ น
เดียวกับเทา้ ทีก่ า้ วหน้า

เนือ้ ร้อง : ระบำร่าย

อธิบาย : ตวั พระและตัวนางทำท่าจบี สอดสูงระดับกลางอีกมอื หนง่ึ แขน
ตงึ โดยก้าวหน้าเท้าในแลว้ จบี สอดมือในแตะเท้านอกศีรษะเอยี งซ้าย
แลว้ เอียงขวา แยกออกจากกันขยับซอยเทา้ แล้วจบี สอดระดับวงกลาง
อกี ด้านหนึ่ง

เน้อื ร้อง : กรกรดี กราย

อธิบาย : ตัวพระและตัวนาง มอื ซา้ ยต้งั วงบน มอื ขวาถอื พานแขนตงึ
ศีรษะเอียงซา้ ยยกเทา้ ซา้ ยก้าวหนา้ มอื ขวาถอื พานตัง้ วงบน มอื ซ้ายถอื
พานต้ังวงบน มอื ซา้ ยจีบสง่ หลัง ศรี ษะเอยี งขวา

เนอ้ื ร้อง : โปรยมาลีศรีประสาน

อธิบาย : ตวั พระและตัวนาง ทำทา่ โปรยดอกไมโ้ ดยมือซา้ ยถือพาน มอื
ขวาหยิบดอกไม้ในพานมาโปรย ศรี ษะเอียงซา้ ยกระดกเท้าขวา ศีรษะ
เอยี งขวาพรอ้ มกับโปรยดอกไม้ แลว้ ก้าวหน้าเทา้ ขวาเปลยี่ นมือขวามา
จับพาน มอื ซ้ายหยบิ ดอกไมใ้ นพานมาโปรยศรี ษะเอยี งซ้าย กระดกเทา้
ซ้าย

เนือ้ รอ้ ง : พรมน้าทิพย์ปรงุ ปนสุคนธาร จักรวาลฉา่ ชอื่

อธิบาย : ตวั พระและตัวนาง มือนอกจบี หงายม้วนออกตัง้ วงกลาง มอื
ซา้ ยตง้ั วงกลางแลว้ หงายมือจบี หลายระดับวงกลางศรี ษะเอยี งใน แลว้
เอียงนอกยดื ยบุ เขา่ กลับทเ่ี ดิม ทำเช่นนี้ 5ครัง้ คร้งั ท่ี 5 กลับมาทเ่ี ดิม

เนื้อรอ้ ง : ร่ืนรมย์ครัน

อธิบาย : ตวั พระ กว้าไขว้เท้าซ้าย ศรี ษะเอียงขวาก้าวเท้าขวาศรี ษะเอยี ง
ซา้ ย มอื ทั้งสองจบี ควา่ หงายมือ มือขวาถือพาน ส่วนมือซา้ ยจบั มอื ซา้ ย
ของนาง

ตวั นาง ประเทา้ ขวาศีรษะเอียงซา้ ย แล้วกา้ วไขว้เทา้ ขวา มือขวาถอื พาน
มือซ้ายแนบกงึ่ กลางวง

ทา่ รำในทำนองเพลงจีนรวั ปฏบิ ัตไิ ดด้ ังน้ี

ทา่ ที่ 1 : ท่ามว้ นจนี สลับกนั ระดับวงกลาง โดยหนั หน้าทศิ ท่ี 4 เริม่ จีบมอื
ซ้ายก่อนเดนิ ย่า กา้ วซ้ายเอียงขวา แลว้ ก้าวเท้าขวาลงมว้ นมือลักคอ
สลบั กนั หนั มาดา้ นหน้า

ท่าที่ 2 : ทา่ ภมรเคลา้ หันหน้าทศิ ที่ 4 ก้าวไขว้เทา้ ซา้ ย จบี หงายมือซา้ ย
มว้ นออกไปตั้งวงมอื ขวาทอ่ี ย่ใู นลกั ษณะตัง้ วงหงายข้อมือมาจีบหงาย
แล้วกา้ วเทา้ ขวา ศรี ษะเอียงขวาและซ้าย ยดื ยบุ ว่งิ ขึน้ แล้วทำท่าท่ี 1 ทำ
อยา่ งนี้ประมาณ 2ครั้ง

ท่าท่ี 3 : ทา่ สอดสรอ้ ยมาลาแปลง ตัวพระหนั หลงั ไปทศิ ท่ี 3 ประเท้าซ้าย
กา้ วหน้า มอื ซ้ายควา่ ระดับวงบนม้วนปล่อยไปต้งั วงบนประสานกบั วง
บันของตวั นาง มือขวาถือพานคว่าระดับวงบนม้วนปล่อยไปตง้ั วงบน
ประสานกบั วงบนของตัวนาง มอื ขวาถอื พานระดับวงลา่ งศรี ษะเอยี งเขา้
หากนั แล้วยืดยุบสลบั กนั ท่ีกบั ตวั นางหันหนา้ ทศิ 2 ตัวพระหนั หน้า
ทิศ 4 แลว้ ขยับเรยี งเทา้ ขึน้ ลงพร้อมเปลยี่ นมือสอดสรอ้ ยมาลาขยบั เทา้

เรยี งลง ตัวนางหันหน้าไปทศิ 3 มอื ในจีบควา่ ระดบั วงบนแล้วม้วนจบี
ออกไปตง้ั วงบนประสานกบั มอื ซ้ายของตัวพระมือขวาถือพานระดบั ลา่ ง
ประเทา้ ขวาก้าวหน้า ศรี ษะเอยี งนอกแลว้ เอยี งในยดื ยุบสลบั ท่ีกับตวั ประ
หันหน้าทิศ 2 ตัวนางหนั หน้าทางทศิ 4 แล้วขยับเรียงเท้าลง พรอ้ มกบั

เปลีย่ นมอื สอดสร้อยมาลาขยับเรยี งเทา้ ขนึ้

ทา่ ท่ี 4 : ทา่ พสิ มยั เรยี งหมอน ตวั พระหันหลงั (ทิศ 3) ตัวนางหันหนา้
(ทศิ 1) ประเทา้ ในทั้งค่แู ลว้ กา้ วหน้า มอื ท้ังสอง 2 จีบ หงายระดบั อก
ปล่อยออกไปทำท่าพิสมยั เรยี งหมอน โดยมอื ในตั้งวงมอื นอกแขนตึง
ระดับไหล่ ศีรษะเอียงหมอน โดยมือในต้งั วงมอื นอกแขนตงึ ระดับไหล่
ศรี ษะเอยี งนอกแล้วเอียงใน ยืดยุบแลว้ สลับทก่ี นั ตวั พระกลบั ตัวหันหนา้
ทศิ 1 ขยบั เรยี งเทา้ เคลอ่ื นไปข้างซา้ ยแขนตึงระดบั ไหลพ่ รอ้ มกบั ขยบั เทา้
เรียงเท้า ศีรษะเอยี งซา้ ยแขนตงึ ระดบั ไหล่พร้อมกับขยบั เทา้ เรียงเทา้
ศีรษะเอยี งซ้ายตัวนางหันหลัง(ทศิ 3) ตัวพระหันหน้า (ทิศ 1) ประเท้าใน

ก้าวหนา้ มือทั้ง 2 จีบหงายระดับอก มอื ในปล่อยไปตัง้ วงบนมอื นอกแขน
ตงึ ระดบั ไหล่ ศีรษะเอียงนอกแล้วเอียงในยืดยบุ สวนกลับมาท่เี ดิม มอื
ซา้ ยตงึ ศรี ษะเอยี งขวาแล้วมาเอียงซ้าย

ท่าท่ี 5 : ทา่ ไหว้ 4ทิศ ตวั พระและตัวนางยดื ยบุ หนั หน้าไปทิศ 1 มอื จีบสง่
หลงั มอื ขวาทถ่ี อื พานจะต้งั พานขึน้ ส่งไปขา้ งหลงั ย่าเท้าถอยหลังแลว้
ไหว้ถวายบังคมลงมาระดบั อก แล้วหนั หลงั (ทิศ 3) และทิศ 4 กลบั มา
ทิศ 1 ทำท่าถวายบงั คมเช่นเดิม

ทา่ ที่ 6 : ท่ากรายมอื ตสั พระและตวั นางกา้ วไขว้เทา้ ซา้ ยกระดกเท้า
ขวามอื ขวาถือพานกรายมอื อกไปต้ังวงระดับวงบน มอื ซ้ายต้ังวงกลาง
ระดบั หนา้ สง่ จบี หลังศีรษะเอียงซา้ ยขวา หมนุ รอบตัวโดยหัวดา้ นขวา
วางเท้าหลงั ลง หนั หนา้ มาทศิ 1

ท่าที่ 7 : ทา่ ภมรเคล้า ตัวพระและตัวนางหันหนา้ ไปทศิ 2 กา้ วเท้าไขว้
เทา้ ขวาแลก้ า้ วขา้ งเทา้ ซ้าย มือขวาถือพานระดบั วงกลางแล้วมว้ น
ออกไปต้ังวงบน มอื ซ้ายต้งั วงกลางระดับหน้าแลว้ จีบหงายระดบั หนา้
ศรี ษะเอียงซ้ายเอียงซ้ายแลว้ มาเอยี งขวา ยดื ยบุ ตัวพระซอ้ นหลงั ตัวนาง
วิง่ เขา้ โรง โดยวนเขา้ ดา้ นซ้าย เปลย่ี นมอื ท่าภมรเคล้ามาดา้ นซ้าย สลบั
กบั ขวาซ้ายเข้าโรง

ขอบคณุ คะ่


Click to View FlipBook Version