ทรัพยากรแร่
ภาคกลาง
ทรัพยากรแร่
ภาคกลาง
ภาคกลางมีแร่ธาตุไม่มากนั ก
เนื่ องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็ น
ที่ราบ แร่ที่สำคัญคือ
1.แร่โลหะ ได้แก่ ดีบุก เหล็ก
แมงกานี ส ตะกั่ว ทองคำ
2.แร่อโลหะ ได้แก่ ยิปซัม หินอ่อน
ดินมาร์ล หินปูน
3.แร่เชื่อเพลิง น้ำมันดิบที่ลานกระบือ
จังหวัดกำแพงเพชร
แร่โลหะ
แร่ทองคำพบมากในจังหวัด
เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี
ซึ่งกระบวนการทางธรณีวิทยา มีการ
ผสมทางธรรมชาติจากน้ำแร่ร้อน ผสม
ผสานกับสารละลายพวกซิลิก้า ทำให้
เกิดการสะสมตัวของแร่ทองคำในหิน
ต่างๆ เช่น หินอัคนี หินชั้น และ
หินแปร มีการพบการฝั งตัวของแร่
ทองคำในหิน หรือสายแร่ที่แทรกอยู่ใน
หิน ซึ่งส่วนใหญ่จะมองไม่เห็นด้วยตา
เปล่าอยู่ประมาณในยุคไซลูเรียนดีโว
เนี ยน และคาร์บอนิ เฟอรัส ประโยชน์
ของทองคำ เป็ นเครื่องประดับผสมกับ
โลหะอื่น ใช้ในวงการทันตแพทย์
เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญใช้
เป็ นทุนสำรองเงินตรา
แร่ทองคำ
https://sites.google.com/site/thxngkhayeawrach/burn-a-kar/withyasastr?tmpl
แร่อโลหะ
1. แร่แคลไซต์ (Calcite) ซึ่งเป็ นส่วน
ประกอบของหินปูน ส่วนมากพบใน
จังหวัดสระบุรี ซึ่งอยู่ในยุคเพอร์เมียน
ซึ่งเป็ นช่วงที่มีหินปูนสะสมตัวต่อเนื่ อง
มากจากยุคคาร์บอนิ เฟอรัสตอนปลาย
และเกิดเป็ นชั้นหนาหลายช่วง มีการ
แพร่กระจายกว้างขวางมากที่ สุ ดใน
ประเทศ โรงงานปูนซีเมนต์ในเขต
จังหวัดสระบุรี นครสวรรค์และ
เพชรบุรี ใช้หินปูนยุคนี้ เป็ นวัตถุดิบ
แร่แคลไซต์
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%84
%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C
แร่อโลหะ
2.ดินมาร์ล (marl) ไม่ใช่แร่ดินแต่
หมายถึงดินที่มีเนื้ อค่อนข้างร่วนและมี
ส่วนประกอบที่สำคัญเป็ นแคลเซียม
คาร์บอเนต (CaCO3) การกำเนิ ดดิน
มาร์ลเกิดจากผุ พังของหิ นปู นซึ่ งใน
สภาพธรณีวิทยาทั่วไปมักพบอยู่ใน
บริเวณใกล้เคียงกับหิ นปู นซึ่ งอยู่ในยุ ค
เพอร์เมียน แหล่งในประเทศ แหล่ง
ดินมาร์ลที่สำคัญของประเทศไทยอยู่ที่
อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรีและอำเภอ
พระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี ดินมาร์ล
ใช้เป็ นวัตถุดิบในการผลิตปูนซีเมนต์
ใช้ด้านเกษตรกรรม โดยเป็ นวัตถุที่
ช่วยแก้ความเป็ นกรดของดิน ปรับ
สภาพความเป็ นกรดเป็ นด่างของดินให้
เหมาะสม นอกจากนี้ ยังใช้ดินมาร์ลใน
การทำดินสอพองอีกด้วย
ดินมาร์ล
https://hmong.in.th/wiki/Marl
แร่อโลหะ
3.หินอ่อน หินอ่อนเกิดจาก
แคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) ที่
สะสมอยู่ในท้องทะเลหรือมหาสมุทร
มาก่อน กระทั่งเกิดการเคลื่อนไหวขึ้น
ในบริเวณดังกล่าวคือที่ๆเคยเป็ นทะเล
หรือมหาสมุทรกลับกลายเป็ นภูเขาขึ้น
มา และที่ๆ เคยเป็ นบกเป็ นภูเขามาก
ลับ กลายเป็ นทะเล รวมถึงผ่าน
กระบวนการทางธรณี เช่น เกิดมีแมก
มาไหลออกมา และพอดีหินที่สะสมไว้
ในทะเลไปโดนกับแมกมาเข้า สำคัญ
คือแมกมานั้ นเต็มไปด้วยความร้อน
ความดัน และก๊าซ จึงทำให้แคลเซียม
คาร์บอเนต(หินปูน)ละลาย แล้ว
ตกผลึก เกิดเป็ นหินอ่อนขึ้นมาได้ใน
ที่ สุ ด
แร่อโลหะ
แต่ในกรณีที่เกิดการหลอมละลาย
แล้วตกผลึกไม่หมดทีเดียว ก็จะเกิด
หินปูนคล้ายหินอ่อน และจะพบพวก
ซากเปลือกหอยทะเลต่างๆ ซึ่งครั้ง
หนึ่ งเคยอยู่รวมกับตะกอนแคลเซียม
คาร์บอเนต ซึ่งอยู่ใน หินมหายุคพรี
แคมเบรียน พบที่จ.สระบุรี ประโยชน์
ใช้ในการก่อสร้าง แกะสลัก ทำเครื่อง
ประดับอุตสาหกรรมทำแก้ว
หินอ่อน
https://www.kachathailand.com/articles/%E0%B8%AB%E0%
B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0
%B8%99-marble-
แร่เชื้อเพลิง
แร่ปิ โตรเลี่ยมมีหินต้นกำเนิ ดปิ โตรเลี่ยมใน
บริเวณแอ่งพิษณุโลกแถวจังหวัด
กำแพงเพชร เกิดจากหมวดหินชุมแสงซึ่ง
เป็นหินดินดาน และหินโคลน ซึ่งสะสมตัว
ในสภาพแวดล้อมแบบทะเลสาบน้ำจืด มี
คุณสมบัติที่จะให้น้ำมันโดยกำเนิด ซึ่ง
บริเวณที่กำเนิ ดปิ โตรเลี่ยมนี้ อยู่ทางด้าน
เหนือของแอ่ง จากนั้นจึงเคลื่อนไหลมารวม
กันในบริเวณ แหล่งสิริกิต์ ชั้นหินต้นกำเนิด
ปิ โตรเลี่ยมในแอ่งพิษณุโลกมีความหนา
ประมาณ 400 เมตร
แร่เชื้อเพลิง
หินกักเก็บปิ โตรเลี่ยมในบริเวณนี้
ได้แก่ หินทรายของหมวดหินลาน
กระบือ ซึ่งมีสภาวะ การสะสมตัวแบบ
ดินดอนสามเหลี่ยม ถูกปิ ดกั้นด้วยหิน
โคลนของหมวดหินชุมแสง และจาก
การเกิดสลับกัน ของหมวดหินทั้ง 2
หมวด ทำให้มีหินซึ่งสามารถกักเก็บ
น้ำมันได้ถึง 4 ชั้น จากอายุอ่อนไปแก่
คือ ชั้น D K L M โดยชั้น K และ L
เป็ นชั้นที่สามารผลิตน้ำมันได้มากที่สุด
ในแอ่งนี้
แร่เชื้อเพลิง
นอกจากหมวดหินลานกระบือแล้ว
ในปั จจุบัน บริษัทไทยเชลล์ยังหัน
มาสนใจชั้นหินด้านบน คือ หมวด
หินประดู่เฒ่า และหมวดหินยม ซึ่ง
สะสม ตัวแบบตะกอนทางน้ำ และ
ในปั จจุบันสามารถผลิตน้ำมันดิบ
ได้จากหมวดหินประดู่เฒ่าแล้วด้วย
ส่ วนโครงสร้างกักเก็บในบริเวณนี้
ได้แก่ ชั้นหินทรายที่ถูกตัดขาด
โดยรอยเลื่อน หินปิ ดกั้นได้แก่ชั้น
หินโคลน ของหมวดหินชุมแสง ซึ่ง
ปิ ดกั้นชั้นหินของหมวดหินลาน
กระบือ ใช้ประโยชน์ ในการ
พาณิชย์ จนถึงปั จจุบันแหล่งน้ำมัน
สิริกิติ์ก็ยังคงเป็ นแหล่งน้ำมันบน
บกขนาดใหญ่ที่ สุ ดในประเทศ
แหล่งน้ำมันสิ ริกิต์
แหล่งอ้างอิง
http://www.acsp.ac.th/rock_garden/content/calcite.php
http://www.dmr.go.th/n_more_news.php?filename=min3
http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=601&filename=m
http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=595&filename=m
http://www.dmr.go.th/download/digest/Kamphaengphet.pdf
https://sites.google.com/site/hinrock61/hin-xxn
สมาชิก
1.นางสาวกนกวรรณ ใจดี
รหัสนั กศึ กษา 6311116043
2.นางสาวศวิตา พลวัฒน์
รหัสนั กศึ กษา 6311116044
3.นางสาวชนนิ กานต์ ทะกิจ
รหัสนั กศึ กษา 6311116050
4.นายตะวัน ไชยจิตต์
รหัสนั กศึ กษา 6311116051
5.นายอัมรินทร์ เสนแก้ว
รหัสนั กศึ กษา 6311116052