วงดนตรีไทย คือ วงดนตรีที่ประกอบ ไปด้วยเครื่องดนตรีประเภท ดีด สี ตี เป่า เมื่อน ามาบรรเลงร่วมกัน จะท าให้เกิด ความไพเราะน่าฟังมากยิ่งขึ้น วงดนตรีไทย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1 วงปี่พาทย์ วงเครื่องสาย 2 3 วงมโหรี
วงปี่พาทย์ คือ วงดนตรีที่มีเครื่องดนตรี ประเภทเครื่องเป่า และเครื่องตีเป็นหลัก 1 วงปี่พาทย์
วงปี่พาทย์ชาตรี เป็นวงดนตรีที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย และเป็นวงดนตรีที่เก่าแก่ที่สุด ใช้บรรเลงประกอบการแสดงละครชาตรี ปี่นอก โทนชาตรี ฆ้องคู่ ฉิ่ง กลองชาตรี
วงปี่พาทย์เครื่องห้า เป็นวงดนตรีที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยมีการพัฒนาต่อเนื่อง จนถึงสมัยรัชกาลที่ 1 โดยสมัยก่อนมักจะใช้วงนี้บรรเลง ประกอบการเล่นละคร กลองทัด ตะโพน ฆ้องวงใหญ่ ฉิ่ง ระนาดเอก ปี่ใน
วงปี่พาทย์เครื่องคู่ เป็นวงดนตรีที่พัฒนามาจาก วงปี่พาทย์เครื่องห้า เนื่องจากในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ได้มีการประดิษฐ์ ระนาดทุ้มคู่กับระนาดเอก และฆ้องวงเล็กคู่กับฆ้องวงใหญ่ กลองทัด ตะโพน ฆ้องวงใหญ่ ฉิ่ง ระนาดเอก ปี่ใน ปี่นอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงเล็ก กรับ ฉาบเล็ก โหม่ง
วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ เป็นวงดนตรีที่พัฒนามาจาก วงปี่พาทย์เครื่องคู่ เนื่องจากในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ได้มีการประดิษฐ์ ระนาดเอกเหล็กและระนาดทุ้มเหล็ก จึงน ามาใช้ในวงนี้ ตะโพน ฆ้องวงใหญ่ กลองทัด ฉิ่ง ระนาดเอก ปี่ใน ปี่นอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงเล็ก กรับ ฉาบเล็ก โหม่ง ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก
วงปี่พาทย์มอญเครื่องห้า เป็นวงดนตรีที่สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา และมีหลักฐานสมัยกรุงธนบุรีปรากฏ ในหมายรับสั่งงานฉลองพระแก้วมรกต ความตอนหนึ่งว่า “ หมื่นเสนาะภูบานพิณพาทย์ไทย 5 รามัญ 5 ลาว 12 “ ฆ้องมอญวงใหญ่ เปิงมางคอก ตะโพนมอญ ฉิ่ง ระนาดเอก ปี่มอญ ฉิ่ง โหม่งราว 3 ใบ
วงปี่พาทย์มอญเครื่องคู่ ฆ้องมอญวงใหญ่ ตะโพนมอญ เปิงมางคอก ระนาดเอก ปี่มอญ ฉิ่ง ฆ้องมอญวงเล็ก โหม่งราว 3 ใบ ระนาดทุ้ม ฉาบใหญ่ กรับ ฉาบเล็ก
วงปี่พาทย์มอญเครื่องใหญ่ ฆ้องมอญวงใหญ่ ตะโพนมอญ เปิงมางคอก ระนาดเอก ฉิ่ง ปี่มอญ ฆ้องมอญวงเล็ก โหม่งราว 3 ใบ ระนาดทุ้ม ฉาบเล็ก กรับ ฉาบใหญ่ ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก
วงปี่พาทย์เสภา เป็นวงดนตรีที่ปรับเปลี่ยนมาจาก วงปี่พาทย์เครื่องห้า เนื่องจากในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้มีการน าลูกของเปิงมาง 1 ลูก มาใช้แทนตะโพนและกลองทัด ซึ่งเรียกกันว่า “กลองสองหน้า” ใช้ประกอบการแสดงละครเสภา ฆ้องวงใหญ่ ฉิ่ง ฆ้องวงเล็ก ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ปี่ใน กรับ โหม่ง ฉาบเล็ก กลองสองหน้า
วงปี่พาทย์ดึกด าบรรพ์ กลองตะโพน ระนาดเอก ฉิ่ง ระนาดทุ้ม กรับพวง ระนาดทุ้มเหล็ก เป็นวงดนตรีที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้เป็นผู้จัดตั้งวงนี้ขึ้นมา เพื่อใช้บรรเลงในการแสดงละครดึกด าบรรพ์ ฆ้องวงใหญ่ ขลุ่ยเพียงออ ขลุ่ยอู้ ซออู้ ตะโพน ฆ้องหุ่ย 7 ใบ กลองแขกตัวเมีย กลองแขกตัวผู้
วงปี่พาทย์นางหงส์ เป็นวงดนตรีที่มีการพัฒนามาจาก วงปี่พาทย์เครื่องคู่ มาผสมกับ วงบัวลอย และได้มีการน ามาบรรเลงในงานสวดพระอภิธรรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ฆ้องวงใหญ่ ฉิ่ง ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงเล็ก กรับ โหม่ง ฉาบเล็ก กลองมลายู ปี่ชวา