The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานกรณีศึกษา case study

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ps_noey, 2021-10-08 07:50:31

รายงานกรณีศึกษา case study

รายงานกรณีศึกษา case study

รายงานกรณีศกึ ษา
“พฒั นาการ ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ และแนวทางการพฒั นาพฤติกรรม”

เสนอ
อาจารย์ทศั นีย์ บญุ แรง

จดั ทาโดย
นางสาวเพญ็ นภา สโุ ขดม
รหสั 64741612 Section. 06
หมู่เรยี น ป 64. ป.บัณฑติ 2.6

รายงานนีเ้ ป็นส่วนหนึ่งของวชิ า จติ วิทยาสาหรับครู (ED 5301)
หลกั สูตรประกาศนยี บตั รบณั ฑติ วชิ าชพี ครู ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฎั เชยี งใหม่

คานา

การศกึ ษาและทาความเข้าใจในจติ วิทยาสาหรับครู เปน็ การศกึ ษาเพือ่ ให้เข้าใจพฒั นาการของ
มนุษยใ์ นแต่ละช่วงวยั เข้าใจทฤษฎขี องนกั จติ วิทยาทีอ่ ธิบายพฒั นาการแต่ละดา้ นของมนษุ ย์ อาทิ ดา้ น
บุคลิกภาพ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา ด้านจริยธรรม เพื่อท่ีครูจะได้นาไปปรบั ใช้กบั นักเรียน สามารถ
เข้าใจความแตกต่างในนักเรียนแต่ละคน เทคนิคการจูงใจ การให้ความช่วยเหลือนักเรียน การรับมือ
กับปัญหาดา้ นจติ วทิ ยาต่างๆ อันเปน็ สว่ นชว่ ยให้การเรียนร้ขู องนกั เรียน และการสอนของครู เป็นไปได้
อย่างมีประสิทธภิ าพ ประสบผลสัมฤทธม์ิ ากท่สี ดุ

รายงานการศกึ ษารายกรณฉี บับน้ี เปน็ การศึกษาขอ้ มูลเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือพัฒนา
ปรับปรุงพฤติกรรมการไม่กล้าแสดงออกของเด็กหญิงกนกกร จันทร์พินิจ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ผู้
ศึกษาหวังว่าข้อมูลจากรายงานการศึกษารายกรณีฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็ก ผู้ท่ีเก่ียวข้องทุก
ฝา่ ย ตลอดจนผทู้ ่สี นใจท่วั ไป ขอขอบพระคุณผู้ทเ่ี ก่ียวขอ้ งใหข้ ้อมูลทุกท่านมา ณ โอกาสน้ี

(นางสาวเพ็ญนภา สโุ ขดม)
นกั ศกึ ษาหลกั สูตรประกาศนยี บัตรบัณฑิตวชิ าชพี ครู 1/2564

ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลส่วนตวั ของกรณศี ึกษา

ชอ่ื - นามสกุล เดก็ หญงิ กนกกร จันทร์พนิ ิจ ช่อื เล่น เอนิ เอิน

วัน/เดือน/ปีเกิด 17 พฤษภาคม 2557

เชอ้ื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ

รหัสประจาตัวนักเรยี น 2476

หมายเลขประชาชน 1508000023273

ชอ่ื บดิ า นายเมธี จนั ทรพ์ นิ ิจ อาชพี คา้ ขาย

ชอ่ื มารดา นางสาวฐิติรัตน์ เลศิ มธุกาญจน์ อาชีพ คา้ ขาย

ชอ่ื ผู้ปกครอง นางสาวฐิตริ ัตน์ เลศิ มธกุ าญจน์ อาชพี คา้ ขาย

ความเก่ียวข้องกับผเู้ รียน มารดา

ทีอ่ ย่ปู ัจจุบัน บา้ นเลขที่ 233/44 หมทู่ ่ี 10 ถนน -

ซอย - ตาบล ปา่ ไผ่ อาเภอ สนั ทราย

จังหวัด เชยี งใหม่ โทรศพั ท์ 092-6419950

ส่วนที่ 2 ขอ้ มลู พฒั นาการ

2.1 ลกั ษณะพัฒนาการในแตล่ ะด้าน (รา่ งกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา บคุ ลิกภาพ หรอื อุนสิ ยั )

2.1.1 พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย

เดก็ หญิงกนกกร จันทรพ์ นิ จิ มีสภาพร่างกายท่โี ตสมวยั ความสูงปกติ น้าหนักมากกวา่ เกณฑ์
เลก็ น้อย ขยายออกทางดา้ นข้างมากกว่าส่วนสงู ร่างกายแข็งแรง

2.1.2 พฒั นาการดา้ นอารมณ์

เดก็ หญิงกนกกร จนั ทรพ์ นิ จิ เปน็ คนอารมณค์ ่อนขา้ งแปรปวน บางคร้งั เงียบขรึม อารมณ์ดี
และบางคร้ังมีอารมณ์ โกรธ รอ้ งไห้งอแง อาจเน่อื งด้วยสภาพทางอารมณท์ ี่ไมส่ ามารถควบคมุ ตนเอง
ได้ จงึ ทาให้เป็นเดก็ ที่แสดงออกตามอารมณ์ของตนเอง พฒั นาการทางดา้ นการควบคมุ อารณ์ดอ้ ยกวา่
เพอ่ื นวยั เดียวกัน

2.1.3 พัฒนาการดา้ นสังคม

เด็กหญงิ กนกกร จนั ทรพ์ นิ ิจ เป็นเดก็ ท่มี โี ลกส่วนตัวสูง ไม่คอ่ ยยุ่งกบั ใคร สามารถส่ือสารกับ
เพ่ือนไดป้ กตหิ ากมเี พ่อื นเข้ามาพูดคุย มนี า้ ใจ ไมช่ อบแสดงตัวในที่สาธารณะ เป็นคนข้ีอาย ชอบเก็บ
ตัวเงยี บอยคู่ นเดยี ว

2.1.4 พฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญา

เดก็ หญิงกนกกร จนั ทร์พนิ จิ เป็นเด็กท่ีสามารถเรยี นร้ไู ด้ตามวัย ขาดความมั่นใจในการทางาน
ต่างๆ ย้าคิดย้าทา มีทกั ษะในการอา่ น การเขยี น แต่ขาดทกั ษะทางดา้ นการวเิ คราะห์ และทบ่ี า้ นไม่ได้
เข้มงวดเรอื่ งการเรยี น ทาให้การเรยี นของเด็กหญิงกนกกร จันทร์พินจิ อย่ใู นระดับปานกลาง ค่อนไป
ทางอ่อน

2.1.5 พฤติกรรมทเ่ี ป็นปญั หา

เนอื่ งดว้ ยเดก็ หญงิ กนกกร จนั ทร์พนิ ิจ เปน็ เดก็ พเิ ศษ ทางบ้านของเดก็ หญิงกนกกร จนั ทร์พินจิ
มีแม่เป็นผู้ดแู ล จึงอยากให้เดก็ หญิงกนกกร จันทร์พินิจ ได้เรียนรู้การอยรู่ ่วมกับเพ่ือนๆ ในสังคม และ
การควบคุมอารณ์ เพอ่ื ทีจ่ ะทาให้เด็กหญงิ กนกกร จันทรพ์ ินิจ ดาเนินชวี ติ เหมือนกับเด็กปกตทิ ว่ั ไป เมื่อ
อยูท่ ีบ่ ้านคุณแมก่ ็ทบทวนบทเรียนให้น้อง และยงั สง่ เสริมพฒั นาการของน้องด้วยการพาไปเรยี นพิเศษ
เสริมสาหรับเด็กพิเศษโดยเฉพาะ เด็กหญิงกนกกร จันทร์พินิจ จะได้รับอิสระในการตัดสินใจใช้ชีวิต
เช่น การเลือกรับประทานอาหาร และการเลือกกิจกรรมเสริมในวิชาต่างๆ ผลจากการได้รับอิสระใน
การตัดสินใจใช้ชีวิต มีผลกระทบต่อการเรียนของเด็กหญิงกนกกร จันทร์พินิจ สรุปพฤติกรรมที่เป็น
ปญั หาไดด้ งั น้ี

1. ขาดการควบคมุ อารมณ์ เชน่ แสดงพฤตกิ รรมตามอารมณ์ท่ีตนเองรู้สึก
2. เรยี นไมท่ นั เพื่อน เรยี นไมเ่ ข้าใจ เมื่อทางานไมเ่ สร็จจะร้องไห้
3. เฉยเมยต่อคาวา่ กล่าวตกั เตือนจากครู
4. ยดึ ตดิ ส่งิ ต่างๆ ท่ีเคยได้รบั เช่น ยึดติดทน่ี ่งั เรียนของตนเอง ยึดติดการรบั ประทานอาหาร

เมือ่ ไม่ใชอ่ าหารที่ตนเองเคยรบั ประทานจะไมร่ บั ประทานเด็ดขาด
5. ไมช่ อบเขา้ สงั คม ชอบอยู่คนเดียว

2.2 ข้อมูลการวเิ คราะหพ์ ฒั นาการ

2.2.1 กรณศี กึ ษาอยู่ในวัยใด เพราะอะไร

กรณีศกึ ษาอยู่ในวยั เดก็ ตอนกลาง เพราะอยู่ในช่วงอายุ 6 – 12 ปี

2.2.2 พฤตกิ รรมตามพฒั นาการของวัยดังกล่าวในขอ้ 1 เป็นอยา่ งไร

ทางด้านร่างกาย

ชอบการเคลื่อนไหว เรียนรู้และพัฒนา ผ่านการเล่น เช่น เล่นไล่จับ ว่ายน้า บาสเกตบอล
ปิงปอง หมากฮอส เป็นต้น ใช้มือและนิ้วเคล่ือนไหว ได้ละเอียดอ่อนมากข้ึน ทาให้วาดรูปเรขาคณิต
วาดรูปคน เล่นระนาด ตีปิงปองหรือแบดมินตันได้ ซึ่งเป็นการประสานการทางานระหว่างมือตาและ
การเคลื่อนไหวของร่างกายไปพร้อมกัน ซ่งึ จะเป็นการ ส่งเสรมิ ให้เด็กกระฉับกระเฉง หไู ว ตาไว สมาธิ
ดีประสาทตา่ งๆทางานไดค้ ล่อง

ทางดา้ นอารมณ์

เด็กรู้จักและเข้าใจอารมณข์ องตนเอง หัดควบคุมอารมณ์ หัดให้แสดงอารมณ์อย่างเหมาะ สม
เพอ่ื เป็นพนื้ ฐานการแก้ปญั หา ชมเมือ่ ทาได้และใหก้ าลงั ใจเมือ่ เด็กยังทาไม่ได้ซึ่งจะเป็นทักษะสาคัญ ใน
การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เรียนรู้จักการแสดงออกท่ีเหมาะสมเมื่อได้รับชัยชนะ แต่ก็เรียนรู้จักการ
พ่ายแพ้ ความผิดหวัง การทาใจและรูจ้ ักหาทางขจัดความร้สู ึกผิดหวัง ไม่ให้มีมากหรอื นานเกินไป หัด
ให้กาลงั ใจ ตนเอง

ทางดา้ นสงั คม

การที่เด็กจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ดีจะต้องมาจากรากฐานครอบครัวที่มีความรัก เอื้อ
อาทร และมีความสัมพันธ์ทีด่ ีต่อกัน ความรู้สึกวา่ มีคนรกั หว่ งใยและมีผทู้ จ่ี ะอยู่เคยี งข้าง ช่วยเหลือใน
ยามท่ี ต้องการหรือเมื่อประสบกบั ปญั หา ช่ืนชมยินดีเม่ือเด็กทาได้ประสบการณ์ท่ีดจี ะช่วยให้เด็กรู้สึก
ตนเองมี คุณค่า ภูมิใจและเชื่อม่ันตนเอง รวมถึงมีจิตใจท่ีม่ันคงและมองผู้อื่นดีตามมา พ่อแม่และครู
ต้องฝึกเด็กวัยเรียนให้รับผิดชอบ ทั้งงานของตนเองและงานส่วนรวม โดยให้เด็ก ช่วยตัวเองมากท่สี ดุ
รับผิดชอบข้าวของของตนเอง ซ่ึงจะเป็นการสร้างวินัย บังคับตัวเองให้อยู่ในกติกา ต้องฝึกบริหาร
จัดการเวลา หัดแกป้ ญั หางา่ ยๆใหก้ บั ตัวเอง

ดา้ นสติปัญญา

เดก็ วยั น้จี ะมีความอยากรอู้ ยากเห็น สนใจซกั ถามมากข้นึ ชอบทาสิง่ ใหม่ ๆ ท่ตี นไม่เคยทามา
กอ่ น มสี มาธิจดจอ่ กับกิจกรรมนานขึน้ มีความสนใจทีจ่ ะทางานให้สาเรจ็ มีความพิถีพิถนั และรับฟัง
คาแนะนาในการทางานมากขึน้ สามารถเข้าใจคาช้แี จงงา่ ย ๆ มีความสนใจในการเล่นต่าง ๆ สามารถ
แสดงละครง่าย ๆ ได้ สนใจการวาดภาพ ดูภาพยนตร์ โทรทศั น์ การ์ตนู ฟังวทิ ยุ และชอบนทิ าน สนใจ
ในการสะสมสง่ิ ของ

2.2.3 พฤติกรรมตามพฒั นาการของกรณศี กึ ษามคี วามสอดคล้องหรอื แตกต่างจาก
พฒั นาการตามวัยหรอื ไม่ อยา่ งไร

= มคี วามสอดคล้องในบางด้าน

ด้านร่างกาย มกี ารเตบิ โตตามวัย ขยายออกทางด้านขา้ งมากกว่าสว่ นสูง
ด้านอารมณ์ เปน็ คนอารมณ์ค่อนข้างแปรปวน และแสดงออกตามอารมณ์ของตนเองพัฒนาการทาง
ด้านการควบคมุ อารณด์ ้อยกวา่ เพอ่ื นวยั เดยี วกนั
ดา้ นสงั คม มีโลกสว่ นตัวสูง ไมค่ อ่ ยยงุ่ กับใคร ไมช่ อบแสดงตวั ในท่ีสาธารณะ เป็นคนขี้อาย ชอบเก็บตวั
เงยี บอยู่คนเดยี ว
ด้านสติปัญญา สามารถเรียนรู้ได้ตามวัย ขาดความม่ันใจในการทางานต่างๆ ย้าคิดย้าทา มีทักษะใน
การอา่ น การเขยี น แต่ขาดทกั ษะทางด้านการวิเคราะห์

2.2.4 พฤตกิ รรมของกรณีศกึ ษาสอดคล้องกบั ทฤษฎพี ฒั นาการใด? ของใครที่? กล่าวว่า
อยา่ งไร?

ทฤษฎีพฒั นาการทางบุคลิกภาพของเพียเจท์ (Piaget’s Cognitive Development Theory)

พัฒนาการของเดก็ ใน ความเชอื่ ของ เพยี เจทค์ ือ ความสามารถท่ีจะปรบั ตวั ต่อสิ่งแวดล้อมเป็น
การรบั รู้สิง่ แวดลอ้ มเขา้ มาคิด มาทา ความเข้าใจ ดังนน้ั สตปิ ัญญา คอื ขบวนการทที่ าใหบ้ ุคคลสามารถ

ปรับตัวได้และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เป็นเคร่ืองมือซ่ึงระบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับ
สิ่งแวดล้อมทาให้เกดิ การปรับตัว การปรับตวั น้ี ประกอบดว้ ยความพยายามท่ีจะปรบั ตวั ให้ดีข้ึน และมี
แบบแผนท่ดี ีขึ้น

ทฤษฎจี ติ สงั คมของอิริคสัน (Erickson’s Psychosocial Theory)
ความสัมพันธ์ของบุคคลและครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นสังคม เล็ก ๆ สังคมหนึ่ง โดยศึกษาว่า

สังคมมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเด็กอย่างไร อิริคสัน ได้ให้ความหมายของ พัฒนาการว่า เป็น
ขบวนการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและสังคม ทฤษฎีของ อิริคสัน ให้แนวคิดว่าพัฒนาการ ทาง
บุคลิกภาพมีต้ังแต่เกิดจนถึงวัยชรา โดยมองพัฒนาการของบุคลิกภาพว่าเป็นวิกฤติการณ์ที่แบ่งเป็น
ระยะ ๆ และเน้นวิกฤติการณ์ในระยะวัยรุ่น จากทฤษฎีนี้แสดงให้เห็นว่าความไว้วางใจ การควบคุม
ตนเอง ความคิด ริเริ่ม และการรู้จักตน พัฒนาได้อย่างไรตั้งแต่วัยเด็ก และค้นพบว่าความไม่ไว้วางใจ
ความละอาย ความรสู้ ึกผดิ ความรู้สึกด้อย และความสบั สน

2.2.5 หากต้องการสง่ เสรมิ พัฒนาการของกรณศี กึ ษาควรสง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นใดบ้าง?
และจะตอ้ งทาอยา่ งไร?

ด้านอารมณ์ ฝึกให้รู้จักและเข้าใจอารมณ์ของตนเอง หัดควบคุมอารมณ์ หัดให้แสดงอารมณ์อย่าง
เหมาะ สมเพ่ือเป็นพื้นฐานการแก้ปัญหา ชมเม่ือทาได้และให้กาลังใจเมื่อเด็กยังทาไม่ได้ซ่ึงจะเป็น
ทักษะสาคญั ในการใชช้ วี ติ อย่างมคี วามสขุ

ด้านจริยธรรม ฝึกฝนให้เด็กช่วยงานส่วนรวม เช่น จัดโต๊ะอาหารกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างถ้วยชาม เก็บ
โต๊ะกินข้าว นอกจากจะพัฒนาความรับผิดชอบ ความช่างสังเกตความละเอียดรอบคอบแล้วยังฝึก
ความมนี า้ ใจเผอื่ แผ่ ชว่ ยเหลือผู้อนื่ การทเ่ี ด็กได้ทางานรว่ มกบั ผใู้ หญ่

ส่วนท่ี 3 ขอ้ มลู เก่ียวกบั การเรยี นรู้และพฤติกรรมการเรยี นรู้

3.1 พฤติกรรม ความสามารถ และความสนใจในการเรยี น

พฤติกรรม โลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยยุ่งกบั ใคร ไม่ชอบแสดงตัวในท่สี าธารณะ เป็นคนขี้อาย ชอบเก็บตวั
เงยี บอยคู่ นเดยี ว อารมณ์ค่อนขา้ งแปรปวน และแสดงออกตามอารมณ์ของตนเองพัฒนาการทาง
ดา้ นการควบคุมอารณ์ด้อยกว่าเพ่อื นวยั เดียวกัน

ความสามารถ มีความสามารถในการพับกระดาษ เนื่องจากเป็นกิจกรรมท่ีชอบทาและทาให้ตนเองมี
สมาธิ

ความสนใจในการเรยี น เดก็ หญงิ กนกกร จันทร์พนิ จิ มีความสนใจเรยี นในวิชาดนตรี แต่เนือ่ งจากเป็น
เด็กพเิ ศษ บางครง้ั จงึ ไมค่ อ่ ยสอื่ สารในสิ่งท่ตี นเองตอ้ งการและสิ่งทตี่ นเองไมเ่ ข้าใจ และมกั จะแสดงออก
ดว้ ยการร้องไห้เมือ่ ตนเองไม่เขา้ ใจหรอื ทาไมไ่ ด้

3.2 ปญั หา หรือลักษณะพฤติกรรมทโ่ี ดดเด่นการเรียนรู้

การสือ่ สาร คอื ปญั หาหลักของพฤตกิ รรมของเด็กหญิงกนกกร จนั ทร์พนิ จิ คือการสื่อสาร เปน็
เด็กที่ไม่สื่อสารในส่ิงท่ีตนเองต้องการ มักจะร้องไห้ โวยวาย เม่ือตนเองทาสิ่งต่างๆ ไม่ได้และ
ชอบเขา้ ไปขงั ตนเองในห้องนา้

การเขา้ สงั คม ไม่เขา้ หาเพ่อื นๆ ชอบอยคู่ นเดยี ว ไม่คอ่ ยสอ่ื สารและมีมนษุ ยส์ มั พนั ธ์กบั เพ่อื นๆ
รว่ มหอ้ ง

3.3 วิธกี ารสง่ เสริม / ช่วยเหลอื / พัฒนาให้เกดิ การเรยี นรูท้ ดี่ ขี ึ้น

คุณครูได้ปรึกษากับคุณครูแตละวิชาที่สอนน้องถึงปัญหาที่พบ พบว่าพฤติกรรมนี้เป็น
พฤติกรรมตอ่ เน่ืองต้ังแต่ชั้นอนุบาล ทางโรงเรียนได้เรียกผู้ปกครองเข้ามาพูดคุยถึงปัญหาแล้ว ช่วยกัน

หาแนวทางท่ีทาให้น้องมีพฤติกรรมดีข้ึน โดยให้ผู้ปกครองช่วยเหลือที่บ้านและคุณครูช่วยเหลือท่ี
โรงเรียน เมื่อเวลาผ่านไประยะหน่ึงน้องมีพฤติกรรมด้านอารมณ์ดีข้ึน เร่ิมจะสื่อสารกับคุณครูในส่ิงท่ี
ตนเองต้องการ เร่ิมเข้าหาพูดคุยกับเพ่ือนบางคน เร่ิมวิ่งเล่นกับเพ่ือน แต่ยังมีพฤติกรรมร้องไห้ งอแง
บ้างในบางครงั้

สว่ นท่ี 4 แนวทางการช่วยเหลอื ส่งเสรมิ และพฒั นา

4.1 พฤติกรรมของกรณศี ึกษาที่ควรปรบั เปล่ยี นให้ดียิง่ ขึ้นมากทสี่ ุด 1 พฤติกรรม

การสื่อสาร ปัญหาหลกั ของพฤติกรรมของเดก็ หญงิ กนกกร จันทรพ์ ินจิ คอื การสอื่ สาร เปน็ เด็ก
ท่ีไม่สื่อสารในส่ิงทต่ี นเองต้องการ มักจะร้องไห้ โวยวาย เม่ือตนเองทาส่ิงต่างๆ ไม่ได้และชอบ
เขา้ ไปขังตนเองในห้องน้า

4.2 วิธีการในการใหก้ ารแนะแนว ช่วยเหลือ และให้คาปรกึ ษา

วิธีโฮมรูมโดยเนน้ เปน็ การออกมาเล่าเร่ืองให้เพ่ือนฟัง เนื่องจากเดก็ หญิงกนกกร จันทร์พินิจ
มีปัญหาในด้านการสื่อสาร ในคาบโฮมรูมคุณครูจึงให้เด็กๆ ออกมาเล่าเร่ืองให้เพื่อนฟัง เพ่ือ
เป็นการฝึกการสื่อสารและความกล้าแสดงออกของเด็กหญิงกนกกร จันทร์พินิจ ในช่วงแรกๆ
เดก็ หญิงกนกกร จันทรพ์ ินิจ มีความเขนิ อาย ไม่กลา้ พดู และร้องไห้ คณุ ครจู งึ ต้องคอ่ ยๆ อธิบาย
ให้เด็กหญิงกนกกร จันทร์พินิจ เข้าใจว่าเป็นการเล่าเรื่องให้เพ่ือนๆ ฟัง และเพ่ือนๆ อยากจะ
ฟังเร่ืองของหนู พอเวลาผ่านไป 1-2 อาทิตย์ เด็กหญิงกนกกร จันทร์พินจิ เห็นเพ่ือนๆออกมา
เล่าเร่ืองของตนเอง กเ็ ริม่ ท่ีจะกล้าเล่าเรอื่ งของตนเองใหเ้ พอื่ นๆ ฟัง แตเ่ ล่าเพียงส้นั ๆ

4.3 กจิ กรรมทจี่ ะชว่ ยในพฒั นาศักยภาพของกรณีศึกษา

การเยี่ยมบ้าน ทาความรู้จักสนทิ สนมกบั ทางบา้ น สร้างความเปน็ กันเอง ลดช่องว่างระหวา่ ง
ครูกับผู้ปกครอง ใหเ้ ราได้ร่วมมือกันพฒั นาแกไ้ ขพฤติกรรมทีเ่ ปน็ ปญั หา ส่งเสรมิ พฤตกิ รรมทด่ี ี
การเลา่ เรอ่ื งที่ฉนั อยากจะเล่า เพอ่ื ให้เดก็ ได้กล้าแสดงออก แชร์เร่อื งราวของตนเองทตี่ อ้ งการ
สอ่ื สาร และส่อื สารกบั เพอื่ นๆ ได้ดยี ่ิงขนึ้

4.4 บคุ คลทตี่ ้องประสานขอความรว่ มมือมใี ครบา้ ง? และจะขอความรว่ มมือใหท้ าอะไร? อยา่ งไร?

ผ้ปู กครอง จะขอให้ชว่ ยร่วมมอื ในการสื่อสารกับน้องมากย่งิ ขึ้น ใหเ้ ดก็ ไดแ้ สดงความคดิ เห็น
หรอื พดู ในส่งิ ทีต่ นเองต้องการ อาจจะฝึกให้น้องอา่ นนทิ านแลว้ มาเล่าให้ฟัง เพอื่ ปัญหาด้าน
การสื่อสารของนอ้ งจะได้ดีขึ้น

สว่ นที่ 5 ภาคผนวก
5.1 เครอื่ งมอื ที่ใช้เก็บข้อมูล: การออกมาเล่าเรื่องหน้าช้ันเรียนในคาบโฮมรมู
5.2 เครือ่ งมอื ท่ใี ชเ้ กบ็ ขอ้ มลู : แบบบันทกึ รกั การอ่าน




Click to View FlipBook Version