The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อิทธิพลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศที่มีต่องานทัศนศิลป์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Auuu Aiii, 2020-11-05 08:31:10

อิทธิพลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศที่มีต่องานทัศนศิลป์

อิทธิพลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศที่มีต่องานทัศนศิลป์

อิทธิพลของวฒั นธรรมระหวา่ งประเทศท่ี
มีต่องานทศั นศิลป์

จดั ทาโดย
นางสาว กศิณา หนูนงั เลขท่ี4
นางสาว สุภาสินี หลาจะนะ เลขท่ี10
นาย ฟาฮจั หวนั โส๊ะ เลขท่ี15

เสนอ
ครู นูรีมนั สายอ

การออกแบบงานทศั นศิลป์ หรือ
"ศิลปะที่มองเห็น" ในวฒั นธรรม
ส า ก ล ภ า ยใ ต้แ น ว คิ ด ป ร ัช ญ า
การศึกษา และสภาพแวดลอ้ มของ
ศลิ ปะนานาชาติ โดยเฉพาะประเทศ

ในแถบตะวนั ตก มีการสรา้ งสรรค ์
ง า น ทัศ น ศิล ป์ ม า ต้ัง แ ต่ ส มัย ก่ อ น
ประวตั ศิ าสตร ์ และมวี วิ ฒั นาการตาม
สภาพสังคม และความเจริญทาง
วิท ย า ศ า ส ต ร แ์ ล ะ เ ท คโ นโ ล ยี ใ น
การศกึ ษางานออกแบบทศั นศลิ ป์ ใน
วฒั นธรรมสากล สามารถแบ่งงาน
อ อ ก เ ป็ น ๒ รู ป แ บ บ ไ ด้แ ก่ ก า ร
ออกแบบงานวจิ ติ รศลิ ป์ (Fine art)
และการออกแบบงานประยุกตศ์ ิลป์
(Applied art) ซงึ่ มรี ายละเอยี ดดงั นี้

การออกแบบงานวจิ ติ รศลิ ป์
ในวฒั นธรรมสากล

๑. ลทั ธอิ มิ เพรสชน่ั นิสม ์ : อารมณแ์ ละ
ความประทบั ใจ

ศลิ ปะตะวนั ตกในยุคกอ่ นศลิ ปะสมยั ใหม่
นิยมสรา้ งสรรคง์ านแบบเหมอื นจรงิ หรอื
สจั นิยม(Realism) ตอ่ มาก็ไดพ้ ฒั นา
เป็ นลทั ธโิ รแมนตกิ (Romanticism)
โดยเนน้ การแสดงออกทางอารมณม์ าก
ขนึ้ จนในทสี่ ดุ ก็มศี ลิ ปิ นทหี่ ลดุ พน้ จาก
แนวคดิ วฒั นธรรมและวธิ กี ารดง้ั เดมิ มา
สรา้ งกระแสของการเปลยี่ นแปลง ศลิ ปิ น
ผูน้ ั้นคอื “โมเน่ท”์ (Clade Monet) ผู้
มุ่งใชอ้ ารมณแ์ ละความรสู ้ กึ สรา้ งรอย
ประทบั ใจลงบนผนื ผา้ ใบ เนน้ การใชส้ ี
และแสงอยา่ งอสิ ระ ตามความรสู ้ กึ ของ
ศลิ ปิ นในขณะทวี่ าดภาพทวิ ทศั น์ ภายใต ้
บรรยากาศขณะน้ัน

โมเน่ทไ์ ดช้ มภาพพมิ พแ์ กะไมข้ อง
“ไฮกไุ ซ” ซงึ่ เป็ นศลิ ปิ นชาวญปี่ ่ นุ
สรา้ งสรรคภ์ าพผคู้ นบนระเบยี ง
บา้ น มองออกไปเห็นบรรยากาศอนั
เวงิ้ วา้ งของทอ้ งฟ้ า โดยมภี เู ขาไฟ
ฟจู อิ ย่เู บอื้ งหนา้ จนเกดิ แรงบนั ดาล
ใจในการถา่ ยทอดธรรมชาตอิ นั สด
สวย โดยวาดภาพสนี า้ มนั [1] ซงึ่
“ระเบยี งทเี่ ซนต ์ โอเดรส เมอื่ งปี

ค.ศ. ๑๘๒๗

โมเน่ทไ์ ดช้ ม ภาพพมิ พแ์ กะไม้
ของ “ไฮกไุ ซ” ซงึ่ เป็ นศลิ ปิ นชาว
ญปี่ ่ นุ สรา้ งสรรคภ์ าพผูค้ นบน

ระเบยี งบา้ น มองออกไปเห็น
บรรยากาศอนั เวงิ้ วา้ งของทอ้ งฟ้ า
โดยมภี เู ขาไฟฟูจอิ ยเู่ บอื้ งหนา้ จน
เกดิ แรงบนั ดาลใจในการถา่ ยทอด

ธรรมชาตอิ นั สดสวย

๒. ลทั ธพิ ลงั อมิ เพรสชน่ั นิสม ์ พลงั แหง่ อารม

หลงั จากการสรา้ งรอยประทบั ใจดว้ ยแสงสขี อง
ธรรมชาตผิ สมผสานกบั อารมณ์ ความรสู ้ กึ
ของศลิ ปิ นแลว้ ก็มศี ลิ ปิ นสมยั ใหม่หวั กา้ วหนา้
๓ คน ไดแ้ ก่ แวนโกะ๊ ห ์ โกแกง และเซซานน์
ไดล้ ะทงิ้ ทฤษฏเี กา่ ๆ โดยบกุ เบกิ ในการใชพ้ ลงั
ของอารมณ์ ผ่านรอยแปรง และสสี นั ลดตดั
ทอนความเหมอื นจรงิ ของรปู ทรง โดยเฉพาะ
วนิ เซนต ์ แวนโกะ๊ (Vincent Vangogh) :
ค.ศ. ๑๘๗๓-๑๘๙๐ เขาเรมิ่ วาดภาพเมอื่ อายุ
๒๗ ปี ดว้ ยการฝึ กฝนเคยี่ วกราตนเองอยา่ ง
หนักและตอ้ งตอ่ สกู ้ บั ความยากจน อปุ สรรค ์
และความยากลาบาก แตเ่ ขากส็ ามารถแสดง
ความเป็ นตวั ตนออกมาไดอ้ ยา่ งชดั เชน กลา้ ที่
จะใชส้ ที ชี่ อบสรา้ งงานศลิ ปะ เชน่ สเี หลอื ง
และสสี ม้ ทแี่ วนโกะ๊ หบ์ อกวา่ เป็ นสแี ห่งความรกั

และมติ รภาพ เชน่ "ภายในคาเฟ่ " และ
"ภาพเหมอื นตนเองกาลงั สบู ไปป์ " เป็ นตน้

แวนโกะ๊ ห ์ ไดร้ เิ รมิ่ การสรา้ งสรรคภ์ าพเขยี น
ดว้ ยการใชร้ อยฝี แปรงหยาบ ๆ ใชส้ หี นา
บางครงั้ เขาบบี สอี อกจากหลอดป้ ายลงไปบน
ผา้ ใบแลว้ ตกแตง่ เพยี งเล็กนอ้ ย แนวการเขยี น
ภาพทแี่ สดงใหเ้ ห็นถงึ อารมณเ์ ชน่ นีเ้ ป็ น
สะพานใหศ้ ลิ ปิ นรนุ่ หลงั ไดร้ จู ้ กั กบั ศลิ ปะ

ลทั ธเิ อ็กเพ

กา้ วสศู่ ลิ ปะสมยั ใหม่

ศลิ ปิ นยคุ หลงั ศลิ ปะลทั ธอิ มิ เพรสชน่ั
นิสมใ์ นกลมุ่ ของ วนิ เซนต ์ แวนโกะ๊ ห ์ เรมิ่

พฒั นา แนวคดิ และรปู แบบการ
สรา้ งสรรคจ์ ากการยดึ ถอื ธรรมชาติ หรอื

ความเป็ นจรงิ มาเป็ นยดึ ถอื อารมณ์
ความรสู ้ กึ และแนวคดิ สว่ นตวั ของศลิ ปิ น

แตล่ ะคน ตวั อยา่ งเชน่ ปอล เซซานน์
(Paul Cesanne) ซงึ่ ไดช้ อื่ วา่ "บดิ าแหง่
ศลิ ปะสมยั ใหม่" ไดพ้ ฒั นารปู ทรงและสใี น

งานจติ รกรรมตามความรสู ้ กึ มากกวา่
ตามทเี่ ห็น โดยเนน้ รปู ทรงเหลยี่ มแบบ
เรขาคณิต และสสี นั ทมี่ มี ติ ติ นื้ ลกึ แบบ
งานประตมิ ากรรม [6] เชน่ ภาพ "คน

เลน่ ไพ่" เป็ นตน้

"คนเลน่ ไพ่"(The card players)
ผลงานของปอล เซซานน์ เทคนิคสนี า้ มนั บน
ผา้ ใบ

ศลิ ปะภาพปะตดิ หรอื
"คอลลาจ" (Collage)

ภาพคอลลาจ(Collage) หมายถงึ เทคนิค
การสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะโดยการประตดิ เป็ น
การนากระดาษหรอื เคมวี สั ดมุ าปะตดิ จดั วางลง
บนพนื้ ระนาบ และมกี ารตกแตง่ เพมิ่ เตมิ ตาม
อารมณแ์ ละจนิ ตนาการของศลิ ปิ น ศลิ ปิ นผู้
รเิ รมิ่ ภาพคอลลาจ คอื จอรช์ บรา้ ค
(Georges Braque) มชี วี ติ ระหวา่ ง ปี ค.ศ.
๑๘๘๒-๑๙๖๓ บรา้ คไดน้ าเอากระดาษ
หนังสอื พมิ พ ์ ผา้ กระดาษตดิ ผนัง กลอ่ งไมข้ ดี
มาปะตดิ ลงบนพนื้ ระนาบโดยใชก้ าว เขาเรมิ่
งานชนิ้ แรกเมอื่ ปี ค.ศ. ๑๙๑๒ โดยนิยมใช ้
แท่งถา่ นหรอื ดนิ สอดาตกแตง่ ภาพปะตดิ
ตอ่ มามศี ลิ ปิ นอกี คนหนึ่งมารว่ มสรา้ งสรรค ์

ชอื่ ภาพ"คลารเิ น็ตและขวดรมั บนหงิ้ เหนือเตา

ผงิ " (Clarinet and Bottle of Rum a
Mantel Piece)
ผลงานของจอรช์ บรา้ ค (Georges Braque)
เทคนิคคอลลาจ

ศลิ ปะลทั ธคิ วิ บสิ ม ์ (Cubism) ศลิ ปะที่
เกยี่ วขอ้ งกบั "รปู ทรง" คอื การนารปู ทรง
จากธรรมชาตมิ าตดั ทอน หรอื ดดั แปลง
เป็ นรปู ทรงเรขาคณิต และสามารถ

นาเสนอเป็ นภาพไดท้ กุ แง่มุม โดยไม่มี
ขอ้ จากดั เชน่ วาดภาพคนดา้ นหนา้
สามารถมองเห็นทงั้ ดา้ นซา้ ยขวา และ
ดา้ นหลงั ไดใ้ นภาพเดยี วกนั เป็ นตน้

ชอื่ ภาพ "นักดนตรที งั้ สาม (Three

Musician)
ผลงานของ ปาโบล ปิ กสั โซ่ (Pablo
Picasso) เทคนิคสนี า้ มนั บนผา้ ใบ เขยี นเมอื่
ปี ค.ศ. ๑๙๒๑

วาซลิ ี คานดนิ สกี้ : บดิ า
แหง่ ศลิ ปะนามธรรม

(Wassity Kandinsky)

ศลิ ปะแบบนามธรรม (Abstract art)
เป็ นงานศลิ ปะทไี่ ม่เนน้ รปู ภาพทมี่ รี ปู รา่ ง
เหมอื นจรงิ แตเ่ นน้ อารมณแ์ ละความรูส้ กึ
ทสี่ ะทอ้ นอยใู่ นสสี นั และรปู ทรง โดยมกี าร
จดั วางองคป์ ระกอบศลิ ป์ ทเี่ หมาะสมและ
ลงตวั ศลิ ปิ นที่รเิ รมิ่ ศลิ ปะแบบนามธรรม
คอื "วาซลิ ี คานดนิ สก"ี้ (Wassily
Kandinsky) ผูท้ เี่ ขยี นภาพสนี า้ แบบ
นามธรรม เป็ นคนแรกเมอื่ ปี ค.ศ. ๑๙๑๐
และยงั เขยี นภาพองคป์ ระกอบศลิ ป์ เป็ นสี
นา้ มนั ไดอ้ ยา่ งงดงาม

ชอื่ ภาพ "องคป์ ระกอบภาพ หมายเลย ๖"
ผลงานของ (Wassily Randinsky) เทคนิคสี
นา้ มนั บนผา้ ใบ เขยี นเมอื่ ปี ค.ศ. ๑๙๑๓

ศลิ ปะลทั ธเิ หนือจรงิ
(Surrealism)

ศลิ ปะลทั ธเิ หนือจรงิ เป็ นงานทศี่ ลิ ปิ น
ตอ้ งใชค้ วามคดิ และจนิ ตนาการอยางสงู
ใน การสรา้ งสรรคภ์ าพทแี่ ตกตา่ งไปจาก
ธรรมชาตหิ รอื ความเป็ นจรงิ ทง้ั นีศ้ ลิ ปิ น
ตอ้ งมแี นวคดิ ใหม่ๆ เป็ นการสว่ นตวั จงึ จะ
สามารถสรา้ งสรรคง์ านได ้ ศลิ ปิ นในลทั ธิ
นี้ เชน่ โจอนั มโิ ร (Joan Miro) ซาล
วาดอร ์ดาลี (Salvador Dali) วกิ เตอร ์
บรเู นอร ์(Victor Brauner)

ชอื่ ภาพ "ขบวนแหต่ วั ตลก" (harleqeun's
Carnivel)
ผลงานของโจอนั มโิ ร เทคนิคสนี า้ มนั

การออกแบบประยกุ ตศ์ ลิ ป์
ในวฒั ธรรมสากล

ดงั ทกี่ ลา่ วมาแลว้ วา่ การออกแบบประยกุ ต ์
ศลิ ป์ ในวฒั นธรรมสากล เป็ นงานทมี่ ุ่งเนน้
ประโยชนใ์ ชส้ อย โดยมคี วามเป็ นสงิ่ ของ ซงึ่
สามารถวเิ คราะหแ์ นวคดิ ในการออกแบบเพอื่
ม่งุ ประโยชนใ์ ชส้ อย เป็ นงานออกแบบประยุกต ์

ศลิ ป์ ไดแ้ ก่ การออกแบบสงิ่ พมิ พ ์ การ
ออกแบบผลติ ภณั ฑ ์ การออกแบบพาณิชย

ศลิ ป์ และการออกแบบตกแตง่


Click to View FlipBook Version