“คำนำ
ความสุขของกะทิ เป็ นนวนิยายขนาดสนั้ ของ
งามพรรณ เวชชาชีวะ ได้รับรางวัลวรรณกรรม
สรา้ งสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของ
ประเทศไทย ประจาปี พ.ศ. 2549 และไดถ้ ูกสรา้ ง
เป็ นภาพยนตรใ์ นปี พ.ศ. 2552 ในชื่อเดียวกนั คือ
ความสุขของกะทิ หนงั สือภาคต่อของ ความสุขของ
กะทิ ช่ือว่า ความสุขของกะทิ ตอน ตามหาพระจนั ทร์
และ ความสุขของกะทิ ตอน ในโลกใบเล็ก นอกจาก
เน้ือเรื่องที่โดดเด่น ความสุขของกะทิยงั มีมุมมองการ
เล่าเร่ืองและกลวิธีการแต่งที่น่าสนใจ เหมาะแก่
การศึกษาซ่ึงจะนาไปส่กู ารเขา้ ใจเน้ือหาของนวนิยาย
เร่ืองน้ีมากย่ิงข้ึน
นวนิยำยความหมาย
นวนิยายเป็ นวรรณกรรมประเภทบนั เทิงคดีที่มนุษยส์ รา้ งสรรคข์ ้ึนมาเพ่ือ
นาเสนอผูอ้ ่าน และไดร้ บั ความนิยมอย่างกวา้ งขวางในสงั คมต่าง ๆ เนื่องจากนว
นิยายเป็ นเร่ืองสมมุติ (Fiction) ประเภทรอ้ ยแกว้ ขนาดยาว ซึ่งเล่าเหตุการณ์
เก่ียวกบั ชีวิตความเป็ นอยู่ของมนุษย์ในสังคม ความสมจริงของนวนิยายน้ีจะ
ปรากฎจากการรบั รู้ และรบั รสของผูอ้ ่าน กล่าวคือ ผูอ้ ่านจะเกิดอารมณ์สะเทือนใจ
คลอ้ ยตามตวั ละครและเหตุการณใ์ นเร่ืองราว เป็ นประสบการณท์ ี่ผูอ้ ่านรบั รูด้ ว้ ย
ตนเอง (กาญจนา วิชญาปกรณ.์ 2537 : 12)
นวนิยำยความสาคญั
นอกจากเน้ือเรื่องนวนิ ยายจะให้ความ
เพลิดเพลินและใหค้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั ชีวิตของ
มนุษยแ์ ลว้ ยงั ความกระจ่างเกี่ยวกบั วฒั นธรรม
ขนบธรรมเนียม ประเพณี ค่านิยม ตลอดจนการ
ดารงชีวิตของคนทงั้ ในอดีตและปัจจุบนั อีกดว้ ย
นวนิยายจึงไดร้ บั ความนิยมจากผูอ้ ่านในยุคสมยั
นน้ั ๆ ไมเ่ พียงแต่มีลกั ษณะและคณุ ค่าดงั ท่ีกล่าวมา
ขา้ งตน้ แต่ยงั มีกลวิธีการแต่งและแนวคิดที่ผูเ้ ขียน
ไดถ้ ่ายทอดไดส้ อดคล้องกบั ค่านิยมในยุคสมยั
นน้ั ๆ ดว้ ย โดยนวนิยายท่ีแต่งร่วมยุคสมยั เดียวกนั
จะมีลกั ษณะร่วมกบั นวนิยายอ่ืนๆ ในยุคสมยั น้ัน
เกิดจากความรู้ ความคิด และค่านิยมแห่งยุคสมยั
ท่ีไดห้ ล่อหลอมผูเ้ ขียนให้ สรา้ งสรรคผ์ ลงานจาก
แนวนิ ยมและความคิ ดที่ ไหลเวี ยนอยู่ในช่ วงน้ัน
และยงั มีความต่างที่เป็ นลกั ษณะเฉพาะของผูแ้ ต่ง
ซ่ึงเกิดจากความเป็ นปัจเจกของนักเขียนในดา้ น
การใชศ้ ิลปะการประพนั ธ์
กลวิธีการแต่งท่ีเป็ นศิลปะการประพนั ธเ์ ป็ นเสมือเครื่องปรุงแต่งหรือ
“ชูรส” ที่ทาให้ เร่ืองราวต่าง ๆ น่าอ่าน ชวนให้ ติดตามอย่างเพลิดเพลิน
ผูอ้ ่านจะมีความพึงพอใจและรู้ สึกซาบซ้ึง เกิดอารมณส์ ะเทือนใจไปตาม
เน้ือเร่ือง อารมณข์ องตวั ละคร หรือจุดจบสาคญั ของเรื่อง โดยนาเสนอ
แนวคิดหรือทศั นะของผูป้ ระพนั ธ์ ซ่ึงแสดงออกมาผ่านเหตุการณ์ ความคิด
และพฤติกรรมของตวั ละครในลกั ษณะต่าง ๆ ทาใหผ้ ูอ้ ่านไดเ้ ห็นมุมมอง
ไดร้ บั แง่คิด และทศั นะต่าง ๆ ของผูป้ ระพนั ธ์ โดยใชก้ ลวิธีบรรยายแสดง
ความนึกคิดออกมาโดยตรง หรือแฝงไวใ้ นเหตุการณต์ ่าง ๆ ซ่ึงผูป้ ระพนั ธ์
แต่ละคนมีประสบการณค์ วามรู้ ความคิด และไดร้ บั อิทธิพลจากค่านิยมใน
ยุคสมยั ของตน เป็ นแนวคิดเฉพาะแต่ละบุคคล จึงถ่ายทอดความคิด
ต่างๆ ในวรรณกรรมตามแนวนิยมของตนเสมอ
นวนิยำยการเล่าเร่ือง
ควำมสขุของกะทิ
เป็ นงานเขียนซ่ึงไดร้ บั ความนิยมและเป็ นที่จดจาาในแวดวงของผูอ้ ่าน เป็ น
ตัวอย่างวรรณกรรมสรา้ งสรรคย์ อดเย่ียมท่ีแตกต่างจากนวนิยายเร่ืองอ่ืน ๆ
นาเสนอแนวคิดต่างๆ ผ่านตวั ละครเด็กวยั 9 ขวบ โดยใชก้ ลวิธีการแต่งและสื่อ
แนวคิดที่สรา้ งสรรค์ ซ่ึงทาใหน้ วนิยายเรื่องน้ีไดร้ บั ความนิยมและยกย่องวา่ มีคณุ ค่า
ควรแก่การศึกษาและเป็ นตวั อย่างของการประพนั ธว์ รรณกรรมประเภทบนั เทิงคดี
อีกทงั้ จะไดแ้ นวทางในการดาเนินชีวิตและการปฏิบตั ิตนในสงั คมจากแนวคิดที่สื่อ
ผ่านนวนิยายเรื่องดงั กล่าวอีกดว้ ย
กลวิธีกำรแต่ง
ควำมสขุ ของกะทิ
การวิเคราะหก์ ลวิธีการแต่งของ งามพรรณ เวชชาชีวะ พบว่า ผูเ้ ขียนมี
กลวิธีการแต่งท่ีประกอบดว้ ยการวางโครงเรื่อง การสรา้ งตวั ละคร การสรา้ งฉาก
และบรรยากาศ และการใชบ้ ทสนทนา มีผลการวิเคราะหด์ งั น้ี
1. กำรวำงโครงเรื่อง
การวางโครงเร่ืองของนวนิยายชุด ความสุขของกะทิ มีการเปิ ดเรื่องการดาเนิน
เร่ืองและการปิ ดเร่ืองท่ีมีลกั ษณะเด่นเฉพาะตวั ของผูเ้ ขียน ดงั น้ี
1.1 การเปิ ดเรื่อง เป็ นส่วนแรกของเรื่องที่ทาใหผ้ ูอ้ ่านเกิดความสนใจและติดตามอ่าน
ต่อไป งามพรรณ ใชว้ ิธีเปิ ดเรื่องโดยการบรรยายฉากและบรรยากาศ เพ่ือใหร้ ูจ้ กั กะทิ
เป็ นการเปิ ดตวั ละครเอกที่ทาใหร้ จู้ กั กะทิตงั้ แต่เร่ิมเรื่อง ดงั เช่น
“…เสียงกระทะกบั ตะหลิวปลุกกะทิใหต้ ่ืนข้ึนเหมือนวนั กอ่ น ๆ ท่ีจริงแลว้ กล่ินหอมกรุ่นๆ ของขา้ วสุกก็มี
สว่ นดว้ ย รวมทงั้ กล่ินควนั จากเตาและกล่ินไขท่ อด แตเ่ สียงตะหลิวเคาะกระทะตา่ งหากท่ีดึงกะทิใหพน้ จาก
ภวงั คน์ ิทราและภาพฝนั สูว่ นั ใหม…่ ” (ความสุขของกะทิ. 2553ก : 13)
และในตอนตน้ เร่ือง ผูแ้ ต่งเปิ ดเรื่องดว้ ยการบรรยายฉากตอนเชา้ ยายทากบั ขา้ ว
เป็ นภาพการเคลื่อนไหว มีเสียงและกล่ินจากการทาอาหาร ซึ่งเป็ นการเปิ ด
ฉากชีวิตวนั ใหม่ของกะทิที่ทาใหเ้ ห็นภาพการดาเนินชีวิตท่ีเรียบง่ายและ
อบอุ่นจากการเล้ียงดขู องตาและยาย
1.2 การดาเนินเร่ือง ใชก้ ลวิธีการดาเนินเรื่อง 3 วิธี ไดแ้ ก่ การสรา้ งความขดั แยง้
การลาดบั เหตกุ ารณ์ และการเล่าเร่ือง ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี
- การสรา้ งความขดั แยง้ ความขดั แยง้ ในเร่ืองทาใหเ้ รื่องราวสนุกสนาน ชวนติดตาม
มากข้ึน และเพ่ิมอารมณท์ ี่หลากหลายดว้ ยเหตุการณต์ ่าง ๆ ผูแ้ ต่งใชก้ ลวิธีการสรา้ ง
ความขดั แยง้ ไดแ้ ก่ ความขดั แยง้ ระหว่างมนุษยก์ บั มนุษย์ ความขดั แยง้ ภายในจิตใจ
ของตวั ละคร ความขดั แยง้ ระหว่างมนุษยก์ บั ธรรมชาติ และความขดั แยง้ ระหว่าง
มนุษยก์ บั ชะตากรรม โดยนวนิยายชุด ความสขุ ของกะทิใชก้ ลวิธีท่ีสรา้ งความสะเทือน
ใจดว้ ยการสรา้ งความขดั แยง้ ภายในจิตใจของตวั ละครเป็ นส่วนใหญ่ ผูอ้ ่านจะเขา้ ใจ
ความรู้ สึกนึกคิดของตวั ละคร ดงั เช่น ความรูส้ ึกที่ขดั แยง้ ต่อสูก้ นั ภายในจิตใจของ
กะทิเป็ นเหตุการณท์ ่ีกะทิขดั คาสงั่ ของผูใ้ หญ่แอบอ่านจดหมายที่ครรู าตรีเขียนถึงสามี
จึงไมไ่ ดด้ แู ลนอ้ งทิว ทาใหน้ อ้ งป่ วย กะทิรสู้ ึกผิดอย่างรนุ แรงเป็ นความอึดอดั ใจท่ีไม่รู้
จะไประบายความรสู้ ึกใหใ้ ครฟัง
- การลาดบั เหตกุ ารณ์ ผูแ้ ต่งใชก้ ลวิธีการลาดบั เหตุการณห์ ลายแบบ ไดแ้ ก่ การ
ลาดบั เหตุการณก์ ่อนหลงั การยอ้ นอดีตสลบั ไปมากบั เรื่องปัจจุบนั และการ
กล่าวถึงเหตุการณต์ ่างสถานท่ีสลบั กนั ไปมา การลาดบั เหตุการณท์ ่ีนิยมใชแ้ ละทา
ใหเ้ รื่องดาเนินไปอย่างน่าสนใจและชวนใหต้ ิดตามอ่านคือ การดาเนินเรื่อง
ตามลาดบั เหตุการณก์ ่อนหลงั โดยเริ่มตน้ ดว้ ยเหตุการณท์ ่ีเกิดข้ึนในเวลาหนึ่ง
แลว้ ค่อย ๆ ดาเนินเร่ืองไปตามลาดบั เหตุการณท์ ี่เกิดข้ึนในเวลาต่อมา
- การเล่าเร่ือง เป็ นกลวิธีท่ีทาใหน้ วนิยายมีเน้ือเร่ืองที่ต่อเน่ืองกนั ผูแ้ ต่งใชว้ ิธีการ
เล่าเร่ืองเสมือนว่าผูแ้ ต่งเป็ นผูเ้ ล่าเร่ืองเอง ในฐานะที่เป็ นผูร้ ูเ้ ร่ืองราวชีวิตของตวั
ละครทุกตวั ทง้ั ความรูส้ ึกนึกคิดภายในจิตใจของตวั ละครและเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน
ตวั อย่างการใชก้ ลวิธีการเล่าเรื่องแบบผูแ้ ต่งเป็ นผูเ้ ล่าเร่ืองเอง เช่น ผูแ้ ต่งเป็ นผูเ้ ล่า
เร่ืองความเศรา้ เสียใจของกะทิ ท่ีผูใ้ หญ่ทุกคนเขา้ ใจความรูส้ ึกของกะทิและรีบ
แกป้ ัญหาอย่างเร่งด่วน เป็ นเหตุการณท์ ี่มีรายละเอียดชดั เจน ทาใหผ้ ูอ้ ่านไดเ้ ห็น
พฤติกรรมและความเคล่ือนไหวของตวั ละคร ไดเ้ ขา้ ใจความรูส้ ึกนึกคิดภายใน
จิตใจของตวั ละครแต่ละตวั ทาใหร้ ูส้ ึกว่าเป็ นเร่ืองที่สมจริง ที่ผูแ้ ต่งเล่าเรื่องใน
ฐานะที่เป็ นผู้รู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่าง ซ่ึงจะไม่เน้นการเล่าเร่ืองใดเรื่องหนึ่ ง
โดยเฉพาะ หรือไม่เขา้ ขา้ งตวั ละครตวั ใดตวั หนึ่งโดยตรง
1.3 การปิ ดเรื่อง ผู้แต่งใชก้ ลวิธีการปิ ดเรื่องแบบสุขนาฏกรรมท้ัง 3 เรื่อง
ตวั อย่างเช่น เมื่อกะทิสญู เสียแมท่ ่ีกะทิรกั มากที่สุด คนรอบขา้ งต่างกงั วลและคิด
ว่ากะทิจะเศรา้ ใจจนไม่สามารถออกจากเหตุการณน์ ้ีไม่ได้ แต่กะทิกลบั เข็มแข็ง
และปรบั ตวั ใหช้ ีวิตดาเนินไปตามปกติอย่างเช่นเคย แมว้ ่ากะทิมีความโศกเศรา้
เพราะสญู เสียแม่ แต่ผูแ้ ต่งก็ปิ ดเร่ืองโดยใหก้ ะทิซ่ึงไดร้ บั การอบรมสงั่ สอนจากคน
รอบขา้ งโดยเฉพาะจากแม่ ท่ีใหม้ องชีวิตในปัจจุบนั ตามสภาพท่ีพบเห็นในแต่ละ
วนั ดงั เช่นเสียงปลุกของตะหลิวท่ียายใชท้ ากบั ขา้ วในตอนเชา้ เป็ นความคิดเชิง
บวกที่กะทิใชอ้ ยู่เสมอทาใหส้ ามารถคล่ีคลายปัญหาไดล้ ุล่วงและเป็ น “ความสุข
ของกะทิ” ตามชื่อเร่ืองนวนิยาย
“1.2 การสรา้ งตวั ละคร
ในนวนิยายชุด ความสุขของกะทิ ผูแ้ ต่งใชก้ ลวิธีการสรา้ งตวั ละครหลาย
แบบ แต่ละตวั ละครมีการประกอบอาชีพ มีอุปนิสยั และรปู ร่างหน้าตาท่ีมี
เอกลกั ษณ์ ตวั อย่างกลวิธีการสรา้ งตวั ละครท่ีบอกอุปนิสยั โดยกาบรรยาย
ถึงเคร่ืองใชแ้ ละอาหารการกิน ดงั น้ี
“
…ป่ินโตเป็นของรักของกะทิ ขนาดกะทดั รดั น้าหนักเบา ยาย
รูข้ นาดกระเพาะของกะทิ ไมอ่ ยากเห็นของเหลือกลบั มาบูดเสีย จึง
จดั ขา้ วใหก้ ินอ่ิมพอดี ตาเลยเรียกป่ินโตวา่ อาหารมือถือ เพราะสะดวก
พกพา สว่ นรายการอาหารก็ไมห่ นีไขด่ าวกบั ไกผ่ ดั กะเพรารสเด็ด ไข่
พะโลส้ ีน้าาตาลเขม้ เขา้ น้าเขา้ เน้ือเพราะท้ิงไวข้ า้ มคืน ไขล่ ูกเขยฉ่าน้า
ขน้ เหนียว ไขต่ ุน๋ เน้ื อเนียนสนิท ไขน่ กกระทาชุบแป้งทอด ตาเรียก
กะทิวา่ ”ตวั กินไข”่ เม่ือรูจ้ ากยายวา่ ถา้ รายการอาหารเป็นไขไ่ มต่ อ้ ง
ชวน กะทิก็ชิมจนหมดทุกครงั้ …
จากตวั อย่างที่ยกมา ผูแ้ ต่งสรา้ งตวั ละคร “กะทิ” ใหเ้ ห็น
ว่ามีอุปนิสยั ตามแบบเด็ก คือชอบกินไข่ ส่วนตวั ละครยายจะ
จดั ของใช้ “ป่ิ นโต” ใส่อาหารและทาอาหารเป็ นเมนูไข่หลาย ๆ
ชนิดตามที่กะทิชอบ และตาใชค้ าพูดหยอกลอ้ แสดงใหเ้ ห็นถึง
ค ว า ม ร ัก แ ล ะ ค ว า ม เ อ า ใ จ ใ ส่ ข อ ง ต า แ ล ะ ย า ย ที่ มี ต่ อ ก ะ ทิ ต ัว
ละครททงั้ หมดน้ีมีลกั ษณะนิสยั และพฤติกรรมท่ีพบเห็นไดจ้ ริง
ในสังคม จึงเป็ นนวนิยายที่มีความสมจริง และตัวละครมี
บทบาทหนา้ ที่ช่วยใหด้ าเนินไปส่จู ุดหมายสุดทา้ ยของเรื่อง
1.3 การสรา้ งฉากและบรรยากาศ
ผูแ้ ต่งใชว้ ิธีการสรา้ งฉากและบรรยากาศท่ีสมจริง แสดงใหเ้ ห็นความรู้ และ
ประสบการณข์ องผูแ้ ต่ง ฉากและบรรยายกาศในนวนิยายช่วยเสริมใหเ้ ร่ืองราวดู
สมจริงมากยิ่งข้ึน และสรา้ งอารมณใ์ หผ้ ูอ้ ่านคลอ้ ยตามอย่างเหมาะสมตามเน้ือ
เร่ือง
ตวั อย่างฉากท่ีแม่ของกะทิเสียชีวิต เป็ นบรรยากาศที่โศกเศรา้ ผูแ้ ต่งไม่ได้
เล่าเรื่องโดยตรง แต่ใชก้ ารบรรยายสภาพแวดลอ้ ม เป็ นบรรยากาศท่ีเงียบเหงาให้
ผูอ้ ่านมีความรสู้ ึกเศรา้ ตาม ดงั ต่อไปน้ี
“…ดวงจนั ทรเ์ หลือเพียงเส้ียวเล็ก ๆ อยูก่ ลางฟ้า เงาตน้ สนริมรัว้ ลูเ่ อนตามแรงลมนอ้ ย ๆ
นาทีเหมือนหยุดน่ิง น่ิงจนกวา่ ดวงตะวนั จะข้ึนอีกครั้งอยา่ งสดช่ืนสวยงามพน้ จากขอบ
ฟ้าเหนือทะเล ปลุกทุกสรรพชีวิตบนโลกใหต้ ่ืนข้ึน แตไ่ มม่ ีแมร่ วมอยูด่ ว้ ยอีกตอ่ ไป…”
ผูแ้ ต่งใชส้ ญั ลกั ษณข์ องดวงจนั ทรท์ ี่มีความหมายแทนแม่ของกะทิ จาก
ลกั ษณะท่ีเต็มดวง “เหลือเพียงเส้ียวเล็ก ๆ” และสรา้ งฉากที่เป็ นตน้ ไมป้ ระเภท
ตน้ สน เม่ือถูกลมพดั ตน้ และใบล่ตู ามลมส่ือความหมายท่ีไม่มนั่ คง และพูดถึง
เวลาที่หยุดน่ิงแสดงถึงความเศรา้ โศก แต่บรรยายถึงการเปลี่ยนไปเป็ นความ
สดช่ืนสวยงามเมื่อถึงเวลาเชา้ เป็ นฉากและบรรยากาศที่ส่ือถึงเร่ืองราว
อารมณแ์ ละความรสู้ ึกของตวั ละครท่ีสญู เสียแม่
ไดอ้ ย่างสมจริง
1.4 บทสนทนา
บทสนทนาท่ีปรากฎในนวนิยายชุดน้ีมี 3 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ บทสนทนาท่ีใช้
ดาเนินเรื่อง บทสนทนาที่บอกลกั ษณะของตวั ละคร และบทสนทนาที่ใหค้ ติและ
ขอ้ คิด
ตวั อย่างของบทสนทนาที่บอกลกั ษณะของตวั ละครลุงตองและพ่ีทอง ใน
ดา้ นนิสยั และบุคลิกภาพ ดงั น้ี
…ใกลส้ งกรานตแ์ ลว้ พ่ีทองมาส่งขา่ ววา่ ปีน้ีท่ีวดั จะจดั งานใหญ่ มีมหรสพมาแสดงดว้ ย ลุง ตอง
ตาโตเมือ่ รูว้ า่ จะมีลิเกมาออกวิก“ไมไ่ ดด้ ูลิเกนานแลว้ คณะไหน เลน่ เร่ืองอะไรละ่ ” ลุงตองซกั ถาม
พ่ีทอง แตไ่ มไ่ ดค้ วามอะไร พ่ีทองไดแ้ ตย่ ้ิมแหง้ ๆ เพราะรูม้ าแคว่ า่ เป็นคณะมีช่ือ “คณะไหนก็มีช่ือ
ทง้ั นนั้ แหละ ช่ืออะไรละ่ น่ีโตข้ึนอยา่ เป็นนักขา่ วนะทา่ จะไมไ่ ดเ้ ร่ือง” ลุงตองเตือนพีทอ่ งท่ียงั คงย้ิม
คา้ งอยูอ่ ยา่ งเคยอยา่ งไมเ่ ดือดรอ้ น…
จากตวั อย่างขา้ งตน้ ผูแ้ ต่งใชบ้ ทสนทนาที่สะทอ้ นใหเ้ ห็นว่า ลุงตองเป็ นคน
ที่ชอบศิลปวฒั นธรรม โดยผ่านคาซกั ถามอย่างกระตือรือรน้ และยงั เขา้ ใจไดว้ ่า
ลุงตองเป็ นคนใจรอ้ น ตรงไปตรงมา กลา้ พูดไม่ปิ ดบงั ใคร ส่วนพี่ทองดจู ะไม่ค่อย
สนใจเรื่องศิลปวฒั นธรรม และเป็ นคน เงียบขรึม ไม่ว่าลุงตองจะพดู อะไร ไดแ้ ต่
ย้ิมและไม่โตเ้ ถียง
สรุปไดว้ ่ากลวิธีการแต่งนวนิยายชุด ความสขุ ของกะทิมีจุดเด่นในดา้ นการ
วางโครงเรื่อง ทงั้ การเปิ ดเร่ือง การดาเนินเร่ือง และการปิ ดเรื่อง ในดา้ นการสรา้ ง
ตวั ละคร ฉาก และบทสนทนา ใชว้ ิธีการแต่งท่ีทาใหผ้ ูอ้ ่านไดร้ บั รูเ้ ร่ืองราวและ
ชีวิตความเป็ นไปของกะทิ ซ่ึงมเี หตุการณท์ ง้ั ความทุกขแ์ ละความสุข ผูแ้ ต่งไดใ้ ช้
องคป์ ระกอบของการแต่งวรรณกรรมประเภทนวนิยายอย่างครบถว้ น ช่วยใหน้ ว
นิยายชุด ความสุขของกะทิดาเนินไปจนจบอย่างสนุกสนาน สมจริง และมี
คณุ ค่า
2
2.1 แนวคิดเก่ียวกบั ความรกั ในครอบครวั
นวนิ ยายชุด ความสุขของกะทิให้
แนวคิดว่าความรกั ของคนในครอบครวั เป็ น
ความรกั ท่ียิ่งใหญ่ การมีสายเลือดเดียวกนั
เป็ นความผูกพันที่แนบแน่น และทาให้มี
ความเขา้ ใจกนั ดงั เช่นกะทิแมว้ ่าจะเกิดมา
ไม่เคยเห็ นหน้าพ่อ กะทิ ก็ ไม่โทษแต่ก็
แสดงออกวา่ รกั พอ่ ดงั น้ี
“…กะทิกอดพอ่ เม่ือตอนลากนั ในวนั น้ัน และไมน่ ึก
โทษพอ่ เลย ถา้ ตอ่ มาพอ่ จะจาไมไ่ ดว้ า่ กะทิลาพอ่
ตอนไหน ทา่ มกลางความเศรา้ โศกเสียใจน่ี….”
จากตัวอย่างข้างต้น ให้แนวคิดว่า
แมว้ ่าพ่อไม่ได้ทาหน้ าที่เล้ียงดูกะทิ และ
ไม่ไดแ้ สดงออกใหเ้ ห็นถึงความรกั ใด ๆ ที่มี
ต่อกะทิมาก่อน แต่เพราะความสมั พนั ธ์ที่มี
สายเลือดเดียวกนั เม่ือไดพ้ บกนั พ่อและลูก
ก็ไดแ้ สดงถึงความผูกพนั ว่า สายเลือดไม่มี
วนั จะตดั ขาดกนั ได้ และเป็ นความรกั ของ
ครอบครวั ท่ีย่อมใหอ้ ภยั ซ่ึงกนั และกนั
2.2 แนวคิดเก่ียวกบั การดาเนินชีวิต
นวนิยายชุด ความสุขของกะทิให้
แ น ว คิ ด เ ก่ี ย ว กับ ก า ร ด า เ นิ น ชี วิ ต
โดยเฉพาะในเร่ืองความทุกขก์ บั ความสุข
อย่างชดั เจน ดงั เช่นตอนจบใน ความสุข
ของกะทิตอน ตามหาพระจันทร์ ผู้แต่ง
นาเสนอแนวคิดเก่ียวกบั ทกุ ขแ์ ละสุข ดงั น้ี
“…ชีวิตก็หมือนบทเพลง ตา่ งลีลา ตา่ งจงั หวะ มีทง้ั
โศกเศรา้ เหงาซ้ึง ทง้ั สุขสนุก เริงร่า และแน่นอน
วา่ คละเคลา้ กนั ไป ยามทุกข์ คงไม่มีอะไรดีกว่า
อดทนและรอใหท้ ุกอยา่ งผา่ นไปในท่ีสุด ยามสุขก็
คงไมห่ ลงลืมวา่ วนั ขา้ งหนา้ อาจมีส่ิงเปล่ียนแปลง
เกิดข้ึนได…้ ”
จากตวั อย่าง ผู้ แต่งเปรียบเทียบ
ชีวิตว่าเป็ น “บทเพลง” ซึ่งมีจงั หวะลีลา
แตกต่างกนั เช่นเดียวกบั ชีวิตที่มีทุกขม์ ี
สุขคละเคลา้ กนั ไป ผู้อ่านจะไดแ้ นวคิด
เก่ียวกบั การดาเนินชีวิตคือ ตอ้ งมีความ
อดทน และมีความเชื่อมนั่ ว่า ทุกสิ่งทุก
อย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีความ
ทุกขก์ ็อดทนไว้ เมื่อเวลาผ่านไปก็จะพบ
กบั ความสุขในท่ีสุด
2.3 แนวคิดเก่ียวกบั วฒั นธรรมไทย
นวนิยายชุด ความสุขของกะทิได้
สะทอ้ นภาพวฒั นธรรมไทยในชนบท เป็ น
วิถีชีวิตดงั้ เดิมของคนไทยท่ีมีความเรียบ
ง่ าย มี ความสุ ขและ สงบ ท่ ามกลา ง
ธรรมชาติ ตัวอย่างวัฒนธรรมไทยที่
ปรากฎในนวนิยาย ความสุขของกะทิที่
น่าสนใจคือ วฒั นธรรมที่เก่ียวกบั อาหาร
ไทย ซึ่งสะทอ้ นใหเ้ ห็นความเป็ นอยู่ของ
คนไทยในชนบทท่ีมีความสุข ดงั น้ี
“…พ่ีทองเอาหมอ้ จากวดั มาส่งคืนอยา่ งนอบน้อม
ยายช้ีมือไปท่ีกระตา่ ยขูดมะพรา้ วท่ีมุมครวั มีมะพรา้ ว
ผา่ ซีกวางรออยูแ่ ลว้ พ่ีทองควา้ กระตา่ ยกบั กะละมงั
ใสม่ ะพรา้ วไดก้ ็เดินพรวด ๆ ไปใตถ้ ุน เสียงยายรอ้ ง
ตามหลงั วา่ ขูดละเอียดไวค้ ลุกขนมตม้ ขาวสองฝาท่ี
เหลือจะคน้ั กะทิทาแกงบวด…”
จากตวั อย่างขา้ งตน้ ทาใหเ้ ห็นถึง
คนไทยจะทาขนมตม้ ขาวและแกงบวด
ซึ่งเป็ นอาหารหวานของคนไทย โดยใช้
มะพรา้ วซ่ึงเป็ นวตั ถุดิบท่ีมีอยู่มากมาย
ในธรรมชาติ และใชเ้ คร่ืองมือดง้ั เดิมคือ
กระต่ายขูดมะพร้าว แม้ว่ายายจะมี
ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ท า ง า น แ ล ะ อ ยู่ ใ น
ต่างประเทศ ไดร้ บั รวู้ ฒั นธรรมต่างชาติก็
ตาม แต่ยายก็รกั ษาวฒั นธรรมความเป็ น
ไทยไวอ้ ย่างดี แสดงใหเ้ ห็นว่าผู้แต่งให้
ความสาคัญกับวัฒนธรรมไทย จึ ง
สอดแทรกแนวคิดเรื่องของวฒั นธรรม
ไทยไว้
2.4 แนวคิดเกี่ยวกบั ศาสนาพุทธ
ในนวนิยายชุด ความสุขของกะทิไดส้ ่ือ
แนวคิดท่ีเกี่ยวกบั ศาสนาพุทธอย่างชดั เจน
เช่น ตวั อย่างเร่ืองการทาบุญที่ไม่ไดท้ าบุญ
เฉพาะในวนั ปี ใหมแ่ ละวนั สงกรานต์ ดงั น้ี
“…ยายรอ้ งทกั พ่ีทองท่ีเดินเขา้ มาในครัว เม่ือตอสาย ยาย
แกงหมูเทโพหมอ้ ใหญโ่ ตไปถวายเพล ถือเป็นการทาบุญปี
ใหม่ ทง้ั ๆ ท่ีตาทว้ งวา่ คนแถวน้ี จะทาบุญใหญก่ นั ตอน
สงกรานต์ ยายพูดลอย ๆ ฟงั คลา้ ย ๆ เผ่ือวา่ ตอนนั้นไม่
อยูแ่ ถวน้ี มีศรทั ธาตอนน้ี ใครจะทาไม...”
จากตวั อย่างจะเห็นไดว้ ่า คนไทยนับ
ถือศาสนาพุทธซ่ึงมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของ
คนไทยทวั่ ไป ผูเ้ ขียนไดน้ าเสนอแนวคิดว่า
คนไทยจะต้ังใจทาอาหารไปถวายพระใน
เทศกาลสาคัญ ๆ เช่ น วันปี ใหม่ วัน
สงกรานต์ ผูแ้ ต่งไดใ้ หแ้ ง่คิดจากคาพูดของ
ย า ย ท่ี โ ต้แ ย้ง กับ ต า ว่ า ก า ร ท า บุ ญ ไ ม่
จาเป็ นตอ้ งเลือกโอกาสสาคญั ขอใหม้ ีความ
ศรทั ธาที่จะทาบญุ ก็เพียงพอแลว้
ความสุขของกะทิ
สรุปไดว้ ่า ผู้แต่งไดน้ าเสนอแนวคิดในดา้ นความรกั ในครอบครวั
การดาเนินชีวิต วฒั นธรรมไทย และศาสนาพุทธ ทาใหผ้ ูอ้ ่านตระหนักถึง
ชีวิตความเป็ นจริงของมนุษย์ ไดร้ บั ขอ้ คิดท่ีปลุกจิตสานึกที่ถูกตอ้ งและดี
งามในดา้ นการดาเนินชีวิต การรกั ษาวฒั นธรรมไทย และการปฏิบตั ิตาม
หลักศาสนา ผู้อ่านจะไดซ้ ึมซบั แนวคิดที่มีคุณค่าต่าง ๆ ผ่านตวั ละคร
และเหตุการณใ์ นนวนิยาย โดยเฉพาะผูอ้ ่านท่ีเป็ นเยาวชน จะไดร้ ูจ้ กั ความ
หลากหลายของชีวิตและนาแนวคิดเหล่าน้ีไปใชใ้ หเ้ ป็ นประโยชน์ในการ
ดาเนินชีวิตในสังคมจริงและในโลกที่สับสนวุ่นวายไดอ้ ย่างมีความสุข
ดงั เช่น “กะทิ”
อา้ งอิง :
เจียง หนานหนาน. (2555) กลวิธีการแต่งและแนวคิดในนวนิยายชุดความสขุ ของกะทิ โดยงามพรรณ
เวชชาชีวะ. สมุทรปราการ : มหาวิทยาลยั หวั เฉียวเฉลิมพระเกียรติ.