The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนรายสัปดาห์มต้น.docx

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jawejag, 2022-04-19 08:55:09

แผนรายสัปดาห์มต้น.docx

แผนรายสัปดาห์มต้น.docx

การจดั การเรยี นรรู้ ายสปั ดาห์
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

จดั ทาโดย
นางสาวพสิ มยั กจุ นา
ครกู ศน.ตาบลโพนจาน

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอโพนสวรรค์
สำนักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย
จังหวดั นครพนม

แผนการจดั การเรียนรู้รายสัปดาห์
สปั ดาห์ที่ 1 ปฐมนิเทศนักศกึ ษา
วันที่................เดือน.......................................พ.ศ..........................

สาระสำคัญ
กศน.ได้จัดกิจกรรมการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเพ่ือสร้างโอกาสทางการศึกษาและกระจายโอกาสทางการศึกษา

ในสังคมไทย โดยคำนึงถึงความเสมอภาค ความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นแก่ประชากรทุกกกลุ่ม โดยสนับสนุนการจัด
การกศึกษาตามวยั และพัฒนาการอย่างมีคุณภาพตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน อย่างน้อยให้จบ
การศึกษาระดับ ม.ปลาย เพื่อสร้างกระบวนการให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการ คดิ เปน็ แก้ปญั หาเป็น และเสริมสุขพละ
ในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

เพื่อใหก้ ลุม่ เป้าหมายได้ทราบถึงนโยบายท่ีแทจ้ ริง เกดิ ความเข้าใจและศรทั ธาในการจัดกิจกรรมการศกึ ษา
นอกระบบ เข้าใจในแนวทางการจดั กระบวนการเรียนรู้และปฏบิ ัตติ นไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง กศน.อำเภอนาแกจงึ ไดจ้ ดั ทำ
โครงการ “ปฐมนิเทศนักศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2561” ขึน้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1.รแู้ ละเข้าใจหลักสูตร /วธิ เี รยี น/การจดั การเรียนการสอน
2.รู้และเข้าใจการทำกจิ กรรม กพช.
3.อธิบายกระบวนการเรยี นรูต้ ามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช
2551
4.มคี วามรู้ ความเข้าใจในโครงการจดุ เน้น นโยบายของสถานศกึ ษาได้
เน้ือหา
-หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช2551
-วธิ กี ารเรียน
-กระบวนการเรียนการสอน
-การวดั ผลประเมนิ ผล
-นโยบาย จุดเน้นของสถาบัน
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำ
-ครูและผเู้ รียนรว่ มกันสร้างความเขา้ ใจหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน
พุทธศกั ราช 2551
ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1.ผ้เู รียนใช้สุขพละการเรียนรู้และสื่อตา่ งๆ ในเรอื่ ง โครงสร้างหลกั สูตร
2.ผ้เู รียนเรียนรจู้ ากกจิ กรรมโดยเข้าฐานความรู้

-การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
พุทธศกั ราช 2551
- การจกั กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชวี ิต (กพช.)

- วิธีการจดั กระบวนการเรียนรู้
- โครงการ จดุ เน้น นโยบายของสถานศกึ ษา

ขน้ั ฝกึ ปฏิบตั ิ
-ให้ผู้เรียนเขา้ รบั การเรยี นร้ตู ามฐานการเรยี นรู้ 4 ฐาน

ขน้ั สรุป

ครแู ละผู้เรยี นสรุปสาระสำคญั และนำความรเู้ ป็นแนวทางในการเรียนร้ใู หส้ อดคลอ้ งกบั การดำเนินชวี ิต

ส่อื การเรยี นรู้

ซีดีการปฐมนิเทศการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551

การประเมินผลการเรียนรู้

ส่งิ ท่ตี ้องการวดั วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge)

รูโ้ ครงสร้างหลกั สตู ร การตอบคำถาม ระเบยี บโครงสร้าง ผ่านการตอบคำถาม

หลักสูตร

สุขพละ (Skill)

เขา้ ใจกระบวนการเรียนรู้ ทำขอ้ สอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบ ผา่ นการทำแบบทดสอบ

หลักสูตร

เจตคติ (attitude)

มีความรู้สึกเจนคติทด่ี ี ทำแบบสอบถาม แบบสอบถาม ผูเ้ รยี นมีส่วนร่วมในการ

เรียนรู้

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายสัปดาห์
รายวิชา สุขพละศกึ ษา

คร้งั ที่ 2 เน้ือหาทจี่ ัดการเรยี นรู้ สขุ พละศึกษาและพละศึกษา
วนั ท่ี …… เดอื น......................................พ.ศ……………………….
สาระสำคัญ
การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนริเร่ิมการเรยี นรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจ ความ
ต้องการ และความถนัด มีเป้าหมาย รู้จักแสวงหาแหล่งทรัพยากรของการเรียนรู้ เลือกวิธีการเรียนรู้ จนถึงการ
ประเมินความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเอง โดยจะดำเนินการดว้ ยตนเองหรอื ร่วมมือช่วยเหลือกับผู้อ่ืนหรือไม่
กไ็ ด้ ทุกวันน้ีคนส่วนใหญ่แสวงหาการศึกษาระดับท่ีสูงข้ึน จำเป็นต้องรู้วิธีวินิจฉัยความต้องการในการเรียนของ
ตนเอง สามารถกำหนดเป้าหมายในการเรยี นรูข้ องตนเอง สามารถระบุแหล่งความรทู้ ่ีต้องการ และวางแผนการ
ใช้ยุทธวิธี สื่อการเรียน และแหล่งความรู้เหล่านั้น หรือแม้แต่ประเมินและตรวจสอบความถูกต้องของผลการ
เรียนรูข้ องตนเอง มาตรฐานการเรียนรู้สามารถวิเคราะห์ เห็นความสำคัญ และปฏิบัตกิ ารแสวงหาความรจู้ ากการ
อ่าน ฟัง และสรุปได้ถกู ต้องตามหลงั วชิ าการ
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1.สามารถวเิ คราะห์ความรู้จากการอา่ น การฟัง การสงั เกต และสรปุ ได้ถูกต้อง
2.สามารถจัดระบบการแสวงหาความร้ใู หก้ บั ตนเอง
3.ปฏิบตั ิตามขน้ั ตอนในการแสวงหาความรู้เกี่ยวกบั สุขพละการอ่าน สุขพละการฟงั และสขุ พละการจด
บนั ทกึ
เน้ือหา
การดูแลสุขพละภาพให้ปลอดภยั
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำ
- ครทู ักทายกล่าวนำและทบทวนความสำคญั ของการเรยี นรู้ด้วยตนเอง ซงึ่ เปน็ เคร่ืองมอื สำคัญในการ
เรียนรู้ กศน.
-ครูเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนซักถาม ขอ้ สงสัยก่อนเข้าสู่ขัน้ ตอนต่อไป
-ครชู ี้แจงวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้
-ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้
-ครูจัดกจิ กรรมแบง่ กลมุ่ 4-5 คนเพื่อมอบหมายให้ พิจารณาเนอ้ื หาตามใบงาน กลุ่มละ 1 เนื้อหา โดยแจก
ให้ครบทั้ง 5 เนอื้ หา ดังน้ี
เนอื้ หาท่ี 1 การทำงานโดยใช้ขอ้ มูลประกอบการทำงานอาชีพ
เนือ้ หาท่ี 2 การทำงานโดยใชข้ ้อมูลประกอบการศึกษาต่อ
เน้อื หาท่ี 3 การทำงานโดยใช้ขอ้ มูลประกอบการสมคั รงาน
เนื้อหาท่ี 4 เทคนคิ การเรียนรู้ด้วยตนเอง
เนือ้ หาที่ 5 การวางแผนการเรียนรู้ ปฏิบัติและประเมินผล

ผเู้ รยี นเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ใหญ่

ขั้นฝึกปฏิบตั ิ

-ผเู้ รยี นนำเสนอความรู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมายในรปู แบบต่างๆ ตามความเหมาะสม

ขนั้ สรปุ

ครแู ละผู้เรยี นสรุปปัจจัยท่ีทำให้การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองประสบความสำเร็จ

ส่ือการเรียนรู้

ใบงาน, แผน่ ซีดี

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สงิ่ ทีต่ ้องการวดั วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge)

อธบิ ายการเรียนรู้สขุ พละ สังเกตกุ ารเขา้ รว่ มกิจกรรมใน แบบสอบถาม ผา่ นการตอบคำถาม

ทางการศึกษา แต่ละขน้ั ตอน

สุขพละ (Skill)

เลือกหัวขอ้ การดำเนนิ การ ผเู้ รียนนำเสนอตามหัวข้อ หวั ขอ้ การนำเสนอ ผา่ นได้ 80% ขึ้นไป

นำเสนอ

เจตคติ (attitude)

-มคี วามรสู้ ึกเจตคติทด่ี ีต่อ -จดบนั ทกึ ความกา้ วหน้าของ การมสี ่วนรว่ มในการ ผเู้ รียนมสี ่วนร่วม 80%

กระบวนการทางการเรียนรู้ ผู้เรียนในแตล่ ะบุคคล อภปิ รายแลกเปล่ยี นความ ข้นึ ไป

ดว้ ยตนเอง คดิ เหน็

แผนการจัดการเรียนร้รู ายสปั ดาห์
รายวิชา สุขพละศกึ ษา

ครง้ั ที่ 3 เนอื้ หาทจ่ี ดั การเรียนรู้ การดแู ลสุขพละภาพใหป้ ลอดภยั
วันท่ี …… เดอื น......................................พ.ศ............................
สาระสำคญั
การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนริเริ่มการเรยี นรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจ ความ
ต้องการ และความถนัด มีเป้าหมาย รู้จักแสวงหาแหล่งทรัพยากรของการเรียนรู้ เลือกวิธีการเรียนรู้ จนถึงการ
ประเมนิ ความก้าวหน้าของการเรยี นรขู้ องตนเอง โดยจะดำเนินการดว้ ยตนเองหรือรว่ มมือช่วยเหลอื กับผ้อู นื่ หรอื ไม่
กไ็ ด้ ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่แสวงหาการศึกษาระดับที่สูงขนึ้ จำเป็นต้องรู้วิธีวินิจฉัยความต้องการในการเรียนของ
ตนเอง สามารถกำหนดเป้าหมายในการเรียนร้ขู องตนเอง สามารถระบุแหลง่ ความรู้ท่ีต้องการ และวางแผนการ
ใช้ยุทธวิธี ส่ือการเรียน และแหล่งความรู้เหล่านั้น หรือแม้แต่ประเมินและตรวจสอบความถูกต้องของผลการ
เรยี นรขู้ องตนเอง มาตรฐานการเรยี นรู้สามารถวิเคราะห์ เห็นความสำคัญ และปฏิบตั ิการแสวงหาความรู้จากการ
อ่าน ฟัง และสรุปได้ถกู ตอ้ งตามหลงั วิชาการ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1.สามารถวเิ คราะห์ความรูจ้ ากการอ่าน การฟงั การสงั เกต และสรปุ ได้ถูกต้อง
2.สามารถจัดระบบการแสวงหาความรู้ให้กบั ตนเอง
3.ปฏบิ ัติตามขน้ั ตอนในการแสวงหาความรูเ้ กย่ี วกับสุขพละการอ่าน สุขพละการฟงั และสุขพละการจด
บนั ทกึ
เนอ้ื หา
1ปัจจยั ท่ีทำใหก้ ารเรียนรูด้ ว้ ยตนเองประสบความสำเรจ็
2 สุขพละการพูด และการทำแผนผงั ความคดิ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำ
- ครทู ักทายกลา่ วนำและทบทวนเน้ือหาเดมิ
- ครเู ปิดโอกาสให้ผู้เรยี นซักถาม ขอ้ สงสยั กอ่ นเข้าสู่ขน้ั ตอนตอ่ ไป
- ครูชแี้ จงวัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้
-ผ้เู รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
ขั้นจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
-ครูจัดกิจกรรมแบง่ กลุ่ม 4-5 คนเพอ่ื มอบหมายให้ พจิ ารณาเนือ้ หาตามใบงาน กล่มุ ละ 1 เนื้อหา
-ผู้เรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ใหญ่
ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ัติ
ครูและผ้เู รยี นสรุปปัจจัยที่ทำให้การเรยี นรดู้ ้วยตนเองประสบความสำเรจ็
ขน้ั สรปุ
ครแู ละผ้เู รียนสรปุ ปัจจัยที่ทำใหก้ ารเรยี นรูด้ ้วยตนเองประสบความสำเรจ็

สอื่ การเรยี นรู้

ใบงาน, ซดี ,ี อนิ เตอรเ์ นต็

การประเมนิ ผลการเรียนรู้

สิ่งทตี่ ้องการวดั วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตัวอย่างปัจจยั การเรียนรู้ ผ่านการตอบคำถามได้

อธบิ ายปัจจยั ท่ที ำให้การ

เรียนรปู้ ระสบความสำเรจ็

สุขพละ (Skill) นำเสนอ รูปแบบการนำเสนอ ผู้เรยี น 80 % ขึ้นไป ทำ
การอภิปราย แบบสอบถาม
เลอื กหวั ข้อการดำเนินการ

นำเสนอ

เจตคติ (attitude) แบบสอบถาม มีส่วนรว่ มในการแลกเปล่ียน ผู้เรยี น 80 % ขน้ึ ไป มสี ว่ น

มีความร้สู กึ เจตคติทดี่ ีตอ่ ความคิดเห็น ร่วม

กระบวนการเรียนรดู้ ว้ ย

ตนเอง

แผนการจดั การเรียนรูร้ ายสัปดาห์
รายวชิ า สุขพละศึกษา

คร้ังท่ี 4 เน้อื หา/หัวข้อ ท่ีจัดการเรียนรู้อบุ ัติเหตุอุบัติภัยและสขุ พละการใช้ชวี ิต
วนั ท่ี …… เดอื น......................................พ.ศ………….

สาระสำคญั
แหลง่ เรยี นร้มู ีความสำคัญ ในการพฒั นาความรขู้ องมนุษยใ์ หส้ มบูรณม์ ากย่งิ ขนึ้ นอกเหนอื จากการเรยี นใน

ช้นั เรียน และเปน็ แหล่งทอี่ ยูใ่ ห้สังคมชุมชนลอ้ มรอบตัวผู้เรียน สามารถเขา้ ไปศึกษาค้นควา้ เพอ่ื การเรียนรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเช้าใจ มีความสำคญั ของแหลง่ การรยี นรู้ และหอ้ งสมดุ ประชาชน
2. ผู้เรียนสามารถใชแ้ หลง่ เรียนรู้ หอ้ งสมุดประชาชนได้
เน้อื หา
1. ความหมายและแหลง่ ความสำคญั ของการเรียนรู้
2. หอ้ งสมุด แหล่งเรยี นรู้
3. แหล่งเรียนรู้สำคัญในชมุ ชน
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำ
ครูและผู้เรยี นตกลงร่วมกันในการศกึ ษา สุขพละพื้นฐานทางการศึกษาหาความรู้ สขุ พละการแกป้ ัญหา
และสขุ พละการเรบี ยนร้ดู ว้ ยตนเอง รวมท้ังการวางแผน การเรียนรู้ และการประเมินผล
ข้นั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- อธิบายความหมาย การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
- แจกใบงาน
ขั้นฝึกปฏบิ ัติ
- อธิบายความหมาย การเรียนรู้ด้วยตนเอง
- แจกใบงาน
ขน้ั สรุป
ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรยี นแต่ละคนไปศกึ ษาเพิ่มเตมิ จากสื่อตา่ งๆ และทำรายงานส่งใหถ้ กู ต้องครบถ้วน
สื่อการเรียนรู้
- หนงั สือแบบเรยี น
- อนิ เตอร์เนต็
- หอ้ งสมุดประชาชน
- ใบความรเู้ กย่ี วกบั ความหมายความสำคัญห้องสมดุ เขา้ ถงึ สารสนเทศในห้องสมดุ

การประเมินผลการเรยี นรู้

สิ่งทต่ี อ้ งการวดั วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม หนังสือสุขพละการเรยี นรู้ ผ่านการตอบคำถาม 80%
ข้ึนไป
อธบิ ายเกีย่ วกับการใชแ้ หลง่ หนังสอื สขุ พละการเรียนรู้
เขียนร่างการนำเสนอตาม
การเรยี นรู้ การมีสว่ นร่วมในการ หัวขอ้ และประเภท
อภิปรายแลกเปลยี่ นความ
สุขพละ (Skill) เลอื กหัวขอ้ ของการใชแ้ หล่ง คิดเห็น ผเู้ รียน 80% ขึ้นไป มีส่วน
ร่วมในการอภปิ รายและ
เลอื กหวั ข้อ การวางแผน การเรยี นรู้ แลกเปลี่ยนความคดิ เห็น

วธิ ีการ ดำเนินการนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ จาก

มีความรูส้ กึ เจตคติที่ดตี อ่ การนำเสนอ อภิปราย

การใช้แหล่งเรยี นรู้

แผนการจดั การเรียนรูร้ ายสัปดาห์
รายวิชา เศรษฐพิ อเพียง

ครั้งที่ 5 เนื้อหา/หวั ขอ้ ท่ีจดั การเรยี นรู้ การจดั การความรู้
วันที่ …… เดือน......................................พ.ศ……………..
สาระสำคัญ
การจัดการความรู้เป็นเคร่ืองมือของการพัฒนาคณุ ภาพ หรอื สร้างววิ ฒั นาการในการดำเนินงาน การ
จัดการความรู้ จงึ เปน็ การจัดการความรแู้ ละประสบการณท์ มี่ อี ยู่ในตวั คน และความรเู้ ดน่ ชัด นำมาแบ่งปันให้เกิด
ประโยชน์ตอ่ ตนเอง และองคก์ รดว้ ยการผสม ผสานความสามารถของคนเข้าด้วยกันอยา่ งเหมาะสม เพอื่ การพฒั นา
งาน คน และองคก์ รให้เป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. วิเคราะห์ผลทีเ่ กิดขน้ึ ของขอบข่ายความรู้ ตดั สินคุณคา่ กำหนดแนวทางการพฒั นา
2. เห็นความสำคัญของกระบวนการการจัดการความรู้ กบั การนำไปใชใ้ นการพฒั นาชมุ ชนปฎิบตั ิการ
3. ปฎบิ ัตติ ามกระบวนการจัดการ ความรู้ ได้อย่างเป็นระบบ
เน้ือหา
1. ความหมาย ความสำคญั หลกั การกระบวนการจัดการความรู้ การรวมกลุ่มเพ่ือตอ่ ยอดความรู้
2. การฝึกสขุ พละและกระบวนการจัดการความรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นำ
- ครูและผู้เรยี นตกลงรว่ มกันในการศกึ ษาความหมาย ความสำคญั หลกั การกระบวนการจัดการความรู้
- ครูและนกั เรียนตกลงรว่ มกันในการศึกษาสุขพละกระบวนการ การจัดการความรดู้ ้วยตนเอง
ขั้นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- อธิบายความหมาย การจัดการความรู้
- แจกใบงาน
ขน้ั ฝึกปฏบิ ัติ
ครูมอบหมายงานให้นักเรยี นแต่ละคนไปศกึ ษาเพิ่มเตมิ หาสอื่ ต่างๆ ทำรายงานส่ง ให้ถกู ตอ้ งครบถว้ น
ขั้นสรปุ
นักเรยี นสามารถจดั การความร้ไู ด้
ส่อื การเรียนรู้
- หนงั สอื
- ห้องสมุด
- ซีดี
- อินเตอร์เนต็
- ใบงาน

การประเมนิ ผลการเรียนรู้

สิง่ ที่ตอ้ งการวัด วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม สอ่ื หรือหนังสือ ผา่ นการตอบคำถาม
80% ขึ้นไป
อธบิ ายเก่ยี วกบั การจดั หนังสอื สุขพละการเรียนรู้
เขียนร่างการนำเสนอตาม
การความรู้ การมสี ่วนรว่ มในการ หวั ขอ้ และประเภท
อภิปรายแลกเปลยี่ นความ
สุขพละ (Skill) เลือกหัวขอ้ ของการใชแ้ หล่ง คิดเหน็ ผู้เรยี น 80% ขึ้นไป มีสว่ น
ร่วมในการอภปิ ราย และ
เลอื กหวั ขอ้ การวางแผน การเรียนรู้ แลกเปลีย่ นความคดิ เห็น

วธิ กี าร ดำเนนิ การนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลย่ี นเรียนรู้

มีความรู้สึก เจตคติทด่ี ตี อ่ จากการนำเสนอ อภปิ ราย

การใช้แหลง่ เรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรู้รายสัปดาห์
รายวิชา เศรษฐิพอเพยี ง

ครง้ั ที่ 6 เน้ือหา/หวั ข้อ ที่จดั การเรียนรู้ การจัดการความรู้
วนั ท่ี …… เดือน......................................พ.ศ………………
สาระสำคัญ
ทบทวนทำความเข้าใจกับความเช่ือพืน้ ฐานทางการศึกษา และเชอื่ มโยงไปสกู่ ารเรียนรเู้ ร่อื งของการคดิ เปน็
กระบวนการแกไ้ ขปญั หาของคนคิดเปน็ และปรญั ญาการคดิ เปน็ ศึกษาลักษณะขอ้ มูลทางดา้ นวชิ าการ ตนเอง
สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม รวมท้ังเทคนิคการเกบ็ ข้อมูล เพ่ือนำไปใช้ในการเก็บข้อมูลเพือ่ ใช้ประกอบในการคดิ เป็น

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. เพอ่ื ทบทวนความเชื่อพน้ื ฐานทางการศึกษากบั ความเชอื่ โยงสกู่ ระบวนการคดิ เป็น และปรชั ญาการคดิ

เปน็
2. จำแนก เปรยี บเทยี บ ตรวจสอบ ลักษณะของข้อมูลด้านวชิ าการ ตนเอง สงั คม และสิ่งแวดล้อมท่ีจะนำ

ใช้ในการประกอบการคิดและวเิ คราะห์ขอ้ มลู
เนือ้ หา

1. ความเชอ่ื พืน้ ฐานทางการศกึ ษาผู้ใหญ่ และการเช่ืองโยงสกู่ ระบวนการคิดเปน็
2. ลกั ษณะและการความแตกตา่ งของข้อมลู ทางด้านวชิ าการ ตนเอง สงั คมและสงิ่ แวดล้อม การตดั สินใจ
แก้ปัญหาของคนคิดเป็น
3. กรณีตัวอย่างเพือ่ การฝึกปฏิบัติ
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำ
ครแู นะนำหลกั สตู รเรือ่ งการเรยี นการสอนระหว่างผูเ้ รียนและแนะแนวทางวา่ การมาเรยี น เรื่องคิดเปน็ มี
ประโยชน์อยา่ งไร และนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้หรอื ไม่
ข้นั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- อธิบายความหมายการเรียนรดู้ ้วยตนเอง
- แจกใบงาน
- ให้นักเรียนศกึ ษา ทาง ETV เพ่มิ เตมิ
- ใหน้ ักศึกษา ศกึ ษาทางอนิ เตอรเ์ นต็
ขนั้ ฝึกปฏิบตั ิ
ครมู อบหมายให้ผู้เรียนแต่ละคนไปศกึ ษาเร่อื งความคดิ เปน็ เพิม่ เติม จากส่ือหรอื หนงั สือ ระบบอินเตอร์เน็ต
และระบายความรู้สึกความคดิ เหน็ ลงในใบงานท่ีครูประจำกลุม่ กำหนด
ขน้ั สรปุ
นกั เรยี น นักศกึ ษาให้อภิปรายความรูใ้ นเรอื่ งความคิดเป็น

สอ่ื การเรยี นรู้

- หนังสือ

- รูปประกอบการสอน

- ศกึ ษาทาง ETV

- ศกึ ษาทางอนิ เตอรเ์ น็ต

- ใบงาน

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ส่ิงทต่ี ้องการวัด วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ส่อื หรอื หนงั สือ ผ่านการตอบคำถาม
80% ขึ้นไป
อธิบายเกี่ยวกับการคดิ เปน็ ได้ หนงั สือสขุ พละการเรยี นรู้ การนำเสนอหัวข้อ และ
ประเภทสุขพละการเรียนรูใ้ น
สุขพละ (Skill) เลอื กหวั ข้อของการคิด การมสี ่วนร่วมในการ เร่ืองการคิดเป็น
อภปิ ราย และแลกเปลี่ยน ผูเ้ รยี น 80% ข้ึนไป นกั ศกึ ษา
เลือกหวั ขอ้ ที่ดำเนนิ การ เป็นมานำเสนอ ความคดิ เห็นระหวา่ งกลุ่ม มีสว่ นร่วมในการอภิปราย
และแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็
นำเสนอ ระหวา่ งกัน

เจตคติ (attitude) การแลกเปล่ียน การซักถาม

มคี วามรู้สึก นกึ คดิ ตอ่ การคดิ การนำเสนอผลงงาน

เป็น การอภปิ ราย

แผนการจดั การเรียนรู้รายสัปดาห์
รายวชิ าประวตั ศิ าสตาร์ชาติไทย
ครัง้ ท่ี 7 รายวิชา ครัง้ ที่ 1 เนื้อหา มรดกไทยสมยั กรุงศรอี ยธุ ยา
วนั ที่ …… เดือน......................................พ.ศ…………………….
สาระสำคญั
การแสวงหาความรู้ ข้อมูล ขอ้ เท็จจรงิ อยา่ งมีระบบ เพอื่ ใหไ้ ด้รับคำตอบ หรอื ความรใู้ หมท่ ี่เช่อื ถอื ได้
สามารถทำได้ โดยกระบวนการวจิ ัย
จุดประสงค์การเรียนรู้
1 อธิบายความหมายและประโยชน์ ของวิจัยอยา่ งง่ายได้
2 ระบขุ ั้นตอนการวจิ ยั อย่างงา่ ยได้
3 ฝึกสถิติง่ายๆ เพอื่ การวจิ ัยได้
เนื้อหา
1 ความหมายและประโยชน์ ของการวจิ ยั อย่างงา่ ย
2 ขัน้ ตอนการวิจัยอย่างงา่ ย
3 สถติ ิงา่ ยๆ เพอื่ การวจิ ยั
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ
- ครูทักทาย กล่าวนำ และทบทวนเนอ้ื หาเดมิ
- ครูช้ีแจงวัตถุประสงค์การเรยี นรู้ ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- ครูจัดกิจกรรมใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาแนวทางการทำวจิ ัยอย่างง่าย ครูจดั กิจกรรม วธิ ีสร้างเครอื่ งมอื
การวจิ ยั
ขั้นฝึกปฏิบัติ
ผเู้ รียนฝกึ ปฏิบัติการทำวิจัยอยา่ งงา่ ย
ขัน้ สรปุ
- ครูและผ้เู รียนรว่ มกันประเมินความรู้ ความเข้าใจ และสุขพละการนำไปใชต้ ามเกณฑท์ ่ี
กำหนด
- ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น
สอื่ การเรยี นรู้
ใบงาน ซดี ี

การประเมินผลการเรียนรู้

สิง่ ท่ีต้องการวดั วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตวั อยา่ งงานวจิ ัย ผ่านการตอบคำถาม
80 ข้ึนไป
อธิบายประเภทงานวิจยั ได้

การตอบคำถาม

สุขพละ (Skill) - การเลือกหวั ข้อ การวางแผน

วธิ ีการ

- การเลอื กหัวข้อ โครงงานวจิ ัยตาม

ความสนใจ เครื่องมือ ใบงานวจิ ยั

เกณฑ์ เขียน รา่ งโครงงานวิจัยได้

ถูกต้องตามหวั ข้อ และประเภทของ

งานวิจยั ได้ 80 ข้ึนไป

เจตคติ (attitude) มีความรสู้ ึก เจตคติทด่ี ี วธิ กี าร การ

แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ เครื่องมอื

อภปิ รายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เกณฑ์ผู้เรียนผา่ นเกิน 80%

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายสปั ดาห์
รายวชิ าประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย
ครง้ั ที่ 8 เนือ้ หาทจ่ี ัดการเรยี นรู้
วันท่ี …… เดอื น......................................พ.ศ…………………..
สาระสำคัญ
การแสวงหาความรู้ ขอ้ มูล ข้อเทจ็ จริงอย่างมรี ะบบ เพ่ือใหไ้ ด้รับคำตอบ หรือความร้ใู หม่ท่ีเชือ่ ถอื ได้
สามารถทำได้ โดยกระบวนการวจิ ยั
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1 ระบุเครื่องมอื การวิจัย เพ่ือเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ได้
2 ฝึกสุขพละการเขียนโครงการวจิ ยั อย่างง่ายๆ
เนอื้ หา
1 เรอื่ งการวิจยั เพอ่ื เก็บรวบรวมขอ้ มลู
2 การเขียนโครงการวจิ ยั อยา่ งง่าย
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ
- ครทู ักทาย กล่าวนำ และทบทวนเนือ้ หาเดิม
- ครชู ้แี จงวัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ ผเู้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
ขนั้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- ครจู ดั กิจกรรมให้ผูเ้ รียนศกึ ษาแนวทางการทำวจิ ัยอย่างง่าย ครจู ัดกิจกรรม วธิ สี ร้างเครือ่ งมือ
การวจิ ยั
ขั้นฝกึ ปฏิบัติ
ผเู้ รยี นฝกึ ปฏิบัติการทำวจิ ัยอยา่ งง่าย
ข้นั สรปุ
ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั ประเมินความรู้ ความเข้าใจ และสุขพละการนำไปใชต้ ามเกณฑท์ ก่ี ำหนด
- ผ้เู รียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
- ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นไปศกึ ษาด้วยตนเองเพ่มิ เติม
สอื่ การเรยี นรู้
ใบงาน ซดี ี

การประเมินผลการเรียนรู้

ส่ิงท่ตี ้องการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตวั อย่างงานวจิ ัย ผา่ นการตอบคำถาม 80 ขนึ้ ไป

อธิบายประเภทงานวจิ ัยได้

การตอบคำถาม

สุขพละ (Skill) - การเลอื กหัวขอ้ การ

วางแผน วิธีการ

- การเลอื กหวั ขอ้

โครงงานวิจยั ตามความสนใจ

เครอื่ งมือ ใบงานวจิ ัย เกณฑ์

เขยี น รา่ งโครงงานวจิ ยั ได้

ถูกต้องตามหวั ข้อ และ

ประเภทของงานวิจัย ได้ 80

ข้ึนไป

เจตคติ (attitude) มคี วามรูส้ กึ เจตคตทิ ีด่ ี

วธิ ีการ การแลกเปล่ียน

เรยี นรู้ เครอ่ื งมอื อภิปราย

แลกเปลยี่ นความคิดเหน็

เกณฑผ์ เู้ รียนผา่ นเกนิ 80%

แผนการจดั การเรียนรู้รายสัปดาห์
รายวิชาดลตรี

ครังท่ี 9 เนื้อหา/หัวขอ้ ทีจ่ ัดการเรียนรู้ นาฎศิลป์ไทย
สาระสำคัญ

- สุขพละการเรียนรู้และศักยภาพหลักของพ้ืนที่ในการพัฒนาอาชีพที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ค้นคว้าด้วย
ตนเองตามความสนใจ ซ่ึงมีท้ังโครงงาน สิ่งประดิษฐ์ โครงงานทดลอง โครงงานสำรวจ และโครงงงานสอบทาง
ทฤษฎี ทำให้ผ้เู รยี นมีกระบวนการคดิ และวธิ ีการเรียนรแู้ ละศกั ยภาพหลักของพืน้ ที่ ในการพัฒนาอาชีพใหม้ ากขน้ึ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1 อธิบายประเภทของโครงงาน สุขพละการเรียนรู้ และศักยภาพหลกั ของพ้ืนท่ีในการพัฒนาอาชีพเลือก
หัวข้อ การวางแผน วธิ ีการนำเสนอ และประโยชนข์ องโครงงานได้
2 วางแผนการทำโครงการได้

3 อธบิ ายและบอกแนวทางการนำผลจากโครงงานไปใชไ้ ด้
4 เลือกหัวข้อ การวางแผน วิธกี ารนำเสนอ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั ได้
เนอื้ หา
1 ประเภทของโครงงาน
2 การเลือกหัวขอ้ โครงงาน
3 การวางแผนการทำโครงงาน
4 การนำเสนอโครงงาน
5 ประโยชน์ของโครงงานเพือ่ พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำ
- ครูนำตัวอย่างโครงงานสุขพละการเรียนรู้และศักยภาพหลักของพ้ืนที่ในการพัฒนาอาชีพแต่ละประเภทให้ผู้เรียน
ศึกษาวิเคราะห์ว่าโครงงานประเภทอะไร
- สนทนาซกั ถามเกย่ี วกบั ประเภทของโครงงาน และประโยชน์ของโครงงาน
ขั้นจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
-ผู้เรียนศึกษาวิธีการ กระบวนการทำโครงการแต่ประเภทจากตัวอย่าง โดยครเู ป็นท่ีปรึกษาในการจัดทำโครงงาน
เพ่ือศกึ ษาความเปน็ ไปได้ของโครงงาน
- ผเู้ รียนคิดหวั ข้อโครงการท่ีตนเองสนใจ โดยอาจทำรายบุคคล หรือรายกลุม่ เพอ่ื ศึกษา กระบวนการการโครงงาน
ตามหัวข้อทส่ี นใจ
ขั้นฝกึ ปฏบิ ัติ
- ผ้เู รยี นเขยี นแผนร่างโครงงานสุขพละฯ เพ่ือนำเสนอในหอ้ งเรยี นและเลือกเปลย่ี นความรู้
- ผู้เรียนเชยี นแผนการทำโครงการทำโครงงาน สุขพละการเรียนร้ลู ะศกั ยภาพหลกั ของพน้ื ทใ่ี นการพฒั นา
อาชพี

ขั้นสรปุ

- ผู้เรียนช่วยกันสรุปหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทำโครงงานที่สนใจจะทำโครงงานสุขพละการเรียนรู้ และ

ศกั ยภาพหลกั ของพ้นื ที่ในการพฒั นาอาชีพ

- ผู้เรียนช่วยกันสรุปประเภทของโครงงานสุขพละการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพื้นที่ในการ

พัฒนาอาชีพ การเลอื กหัวข้อ การวางแผน วิธกี ารดำเนนิ การ การนำเสนอและประโยชน์ของโครงงาน

สื่อการเรียนรู้

- ใบงานการทำโครงงานสขุ พละการเรียนร้แู ละศักยภาพหลักของพืน้ ท่ใี นการพัฒนาอาชีพ

- ตัวอย่างชิน้ งานและรายงาน โครงงานทงั้ 4 ประเภทได้แก่ โครงงานสิ่งประดษิ ฐ์, โครงงานทดลอง,

โครงงานสำรวจ และโครงงานสอบทานทฤษฎี

การประเมินผลการเรียนรู้

ส่ิงทตี่ ้องการวัด วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตวั อยา่ งโครงงานแตล่ ะ ผา่ นการตอบคำถาม 80%

อธิบายประเภทของโครงงาน ประเภท ขึน้ ไป

สุขพละการเรียนรู้ และ

ศักยภาพหลกั ของพืน้ ทใ่ี น

การพฒั นาอาชพี

สุขพละ (Skill) การเลอื กหัวข้อโครงงานตาม ใบงานโครงงาน สขุ พละการ - เขียนร่างการนำเสนอตาม

การเลอื กหวั ขอ้ การวางแผน ความสนใจ และบอก เรียนรู้ และศกั ยภาพหลัก หัวข้อ และประเภทของ

วธิ กี าร ดำเนนิ การ การ ประเภทของโครงงานร่าง ของพื้นทใ่ี นการพฒั นาอาชพี - วางแผนทำโครงงานสุข

นำเสนอและประโยชน์ของ กระบวนการทำโครงงาน สุข พละการเรียนรู้ และ

โครงงาน พละการอภิปรายเสนอความ ศกั ยภาพหลกั ของพืน้ ทีใ่ น

คดิ เห็น การพัฒนาอาชีพ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลยี่ นเรียนรู้จาการ การมีสว่ นรว่ มในการ ผู้เรยี น 80% ขึ้นไปมีส่วน

มคี วามรู้สึก เจตคติท่ีดตี ่อ นำเสนอ อภปิ ราย อภิปรายแลกเปลยี่ นความ ร่วมในการอภิปราย

นาฎศิลปไ์ ทย คดิ เหน็ แลกเปล่ยี นความคิดเห็น

แผนการจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ครงั้ ที่ 10
เน้ือหาทจ่ี ัดการเรียนรู้ จำนวนและการดำเนินการ/เศษสว่ นละทศนยิ ม
วันที่ …… เดอื น...................................... พ.ศ.
สาระสำคัญ
ให้ผเู้ รียนมีความร้คู วามเขา้ ใจเก่ียวกบั จำนวนและการดำเนินการ เศษสว่ น ทศนยิ ม และเลขยกกำลัง
อัตราส่วน สัดสว่ น และรอ้ ยละ การจัดปริมาตร
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ผู้เรียนสามารถยกตัวอยา่ งเรอ่ื งเศษส่วนและทศนิยมได้
2. สามารถคิดคำนวณและแกป้ ญั หาโจทย์ทใ่ี ชใ้ นชวี ิตประจำวนั
3. ผู้เรียนสามารถเปรยี บเทียบจำนวนเตม็ บวก ลบ คณู หาร และอธบิ ายผลที่เกดิ ขึ้นได้
4. ผ้เู รียนสามารถบอกสมบตั ิของจำนวนเต็มและความรูไ้ ปใชไ้ ด้
เนอื้ หา
1. จำนวนเตม็ บวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ การเปรยี บจำนวนเตม็
2. การบวก ลบ คณู และหารจำนวนเตม็ สมบัตขิ องจำนวนเต็มและการนำไปใช้
3. ความหมายของเศษส่วนและทศนิยมการเขียนเศษส่วนเลขทศนยิ ม และการเขยี นทศนยิ มซ้ำเปน็ เศษส่วน
4. การเปรียบเทียบเศษส่วนและทศนิยม การบวก ลบ คูณหาร เศษสว่ นและทศนยิ ม
กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนำ
1. กลา่ วนำเกีย่ วกับการเรยี นการสอนเร่อื งจำนวนและการดำเนินการ
2. แนะนำการเรียนการสอนเก่ียวกับเรอ่ื งจำนวนและการดำเนินการ เศษสว่ นและทศนิยม
ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้
มอบหมายให้นักศึกษา ไปศึกษาในแบบเรยี น หนังสือเรียน และให้ทำแบบฝกึ หดั ในใบงาน ท่ี
แจกในการพบกลุ่ม
ขน้ั ฝกึ ปฏิบัติ
1 แบบทดสอบระหว่างเรียน
2 แบบฝึกหัด หรือใบงาน
ขน้ั สรปุ
1 ผู้เรยี นช่วยกนั สรุปหวั ขอ้ โครงงาน
2 ผู้เรียนชว่ ยกันสรปุ โดยเลอื กหวั ข้อ การวางแผน วิธกี ารดำเนนิ การนำเสนอ
วิธกี ารคดิ จำนวนและการดำเนินการ เศษสว่ นและรอ้ ยละ
สอื่ การเรียนรู้
1 หนงั สือเรยี น
2 ใบงาน
3 ดาวเทยี ม BTV

การประเมินผลการเรยี นรู้

สิง่ ทต่ี อ้ งการวดั วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์
ตัวอยา่ งโครงงาน ผา่ นการตอบคำถาม 80%
ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ข้ึนไป
ใบงานโครงงานคณติ ศาสตร์
อธิบายประเภทของโครงงาน เขยี นร่างโครงงาน
การมสี ่วนร่วมในการ คณติ ศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
คณิตศาสตร์ได้ อภิปรายแลกเปล่ยี นความ
คิดเห็น ผเู้ รียน 80% ข้ึนไปมสี ว่ น
สขุ พละ (Skill) เลอื กหวั ข้อของโครงงานตาม รว่ มในการอภปิ ราย
แลกเปลย่ี นความคิดเหน็
เลอื กหัวข้อ การวางแผน สนใจ

วิธกี าร ดำเนินการนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้จาก

มคี วามร้สู ึก เจตคติที่ดี การนำเสนอ โครงงาน

แผนการจัดการเรยี นรูร้ ายสปั ดาห์
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ครง้ั ท่ี 11
เนือ้ หาที่จัดการเรียนรู้ เลขยกกำลัง อัตราสว่ นและร้อยละ
วันที่ …… เดอื น...................................... พ.ศ.2561
สาระสำคัญ
ให้ผ้เู รียนมคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ียวกบั จำนวนและการดำเนินการ เศษส่วน ทศนิยม และเลขยก
กำลัง อตั ราสว่ น สดั สว่ น และรอ้ ยละ การจัดปรมิ าตร
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ผูเ้ รยี นสามารถยกตวั อย่างเรอ่ื งเลขยกกำลงั เศษสว่ น และรอ้ ยละได้
- สามารถคดิ คำนวณและแก้ปัญหาโจทยท์ ่ีใช้ในชีวติ ประจำวนั
- ผู้เรียนสามารถเปรียบเทียบจำนวนเต็ม บวก ลบ คูณ หาร และอธบิ ายผลท่เี กิดขน้ึ ได้
- ผู้เรยี นสามารถบอกสมบัติของจำนวนเตม็ และความรไู้ ปใชไ้ ด้
เนอื้ หา
1. จำนวนเตม็ บวก จำนวนเตม็ ลบ และศูนย์ การเปรยี บจำนวนเต็ม
2. การบวก ลบ คณู และหารจำนวนเต็ม สมบัตขิ องจำนวนเตม็ และการนำไปใช้
3. ความหมายของเศษสว่ นและทศนิยมการเขยี นเศษส่วนเลขทศนิยม และการเขยี นทศนยิ มซ้ำเปน็ เศษส่วน
4. การเปรียบเทยี บเศษส่วนและทศนิยม การบวก ลบ คณู หาร เศษสว่ นและทศนยิ ม
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำ
1. กลา่ วนำเกี่ยวกบั การเรยี นการสอนเรือ่ งจำนวนและการดำเนนิ การ
2. แนะนำการเรียนการสอนเกยี่ วกับเรื่องจำนวนและการดำเนนิ การ เศษสว่ น ทศนิยมและร้อยละ

ข้นั จดั กิจกรรมการเรยี นรู้
มอบหมายใหน้ กั ศึกษา ไปศกึ ษาในแบบเรยี น หนงั สือเรยี น และให้ทำแบบฝึกหดั ในใบงาน ท่ีแจกในการ

พบกลมุ่
ขั้นฝึกปฏบิ ัติ
1. แบบทดสอบระหว่างเรยี น
2. แบบฝกึ หัด หรือใบงาน
ข้ันสรุป
1. ผู้เรียนชว่ ยกันสรุปหัวขอ้ โครงงาน
2. ผูเ้ รยี นช่วยกนั สรปุ โดยเลอื กหวั ขอ้ การวางแผน วิธีการดำเนินการนำเสนอ

วิธกี ารคดิ จำนวนและการดำเนินการ เศษสว่ นและร้อยละ

ส่อื การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น
2. ใบงาน
3. ดาวเทยี ม BT
การประเมนิ ผลการเรียนรู้

สง่ิ ท่ีต้องการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์
ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตวั อยา่ งโครงงาน ผ่านการตอบคำถาม 80%
อธบิ ายประเภทของโครงงาน ข้นึ ไป
คณิตศาสตรไ์ ด้ เลือกหวั ขอ้ ของโครงงานตาม ใบงานโครงงานคณิตศาสตร์
สุขพละ (Skill) สนใจ เขยี นร่างโครงงาน
เลอื กหัวข้อ การวางแผน การมสี ว่ นร่วมในการ คณิตศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
วธิ ีการ ดำเนนิ การนำเสนอ การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้จาก อภปิ รายแลกเปล่ียนความ
เจตคติ (attitude) การนำเสนอ โครงงาน คดิ เห็น ผเู้ รียน 80% ข้ึนไปมสี ว่ น
มีความรูส้ ึก เจตคติท่ีดี รว่ มในการอภปิ ราย
แลกเปลย่ี นความคิดเหน็

รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ครัง้ ที่ 13
เนื้อหาทีจ่ ดั การเรียนรู้ การวัด ปริมาตร และพนื้ ผิว
วันที่ เดือน พ.ศ. สถานท่ี กศน.ตำบล
สาระสำคญั
1. การวดั ความยาวพน้ื ที่ ทม่ี หี นว่ ยตา่ งกันสามารถมาเปรยี บเทียบกันได้
2. เครื่องมอื การวัด ตอ้ งเลอื กใช้ใหเ้ หมาะสมกับสง่ิ ที่จะวัด
3. การคาดคะเนเกิดจากประสบการณ์ของผ้สู ังเกตเป็นสำคัญ
4. การหาพน้ื ที่ผิวและปริมาตรของปริซึมพรี ะมดิ ทรงกระบอก กรวย ทรงกลม จำเปน็ ตอ้ งมีขบวนการคดิ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. บอกการเปรยี บเทียบหน่วยความยาวพืน้ ท่ี ในระบบเดยี วกันและต่างกนั ได้
2. เลอื กใช้หน่วยการวดั ความยาวและพืน้ ท่ีได้อย่างเหมาะสม
3. อธิบายลกั ษณะและคุณสมบัตปิ รซิ มึ พีระมดิ ทรงกระบอก กรวย และทรงกลม
4. สามารถหาปริมาตรและพ้นื ผิวของทรงกระบอกได้
เนอ้ื หา
1. การเปรียบเทยี บหน่วยความยามและพื้นท่ี
2. การเลอื กใชห้ นว่ ยการวัดเกี่ยวกบั ความยาวของพน้ื ที่
3. ลกั ษณะสมบตั ิและการหาพืน้ ท่ีผิว และ ปริมาตร ของปริซึม
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. แนะนำสร้างความคุ้นเคย ระหว่าง ครแู ละนักเรียน และนำรูปเลขาคณิต
2. ครใู ห้นกั ศึกษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 10 ข้อ เวลา 20 นาที
3. ครูให้นักศกึ ษารว่ มกนั สนทนาวธิ กี ารวัดความยาว ของไทยสมยั โบราณ

ขั้นจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครเู ฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
2. ครอู ธิบายเรอื่ งการวดั ความยาว และใหน้ ักศกึ ษา ไปศึกษาใบความร้เู รอื่ งหน่วยของการวดั ความยาว
3. ครูแจกแบบฝกึ หัด
4. ครูอธบิ ายลักษณะสมบัตขิ องปริซมึ พีระมิด ทรงกระบอก กรวย ทรงกลม การหาพ้ืนท่ผี ิว

ข้นั ฝกึ ปฏิบตั ิ
ใหน้ ักศึกษาฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใชว้ สั ดุเหลือใชน้ ำมาทำสอ่ื การสอน

ข้ันสรปุ
1 ครใู หน้ ักศึกษาร่วมกนั สรุปเกย่ี วกับการวดั ความยาว
2 ครใู ห้นกั ศึกษาร่วมกนั สรปุ เกยี วกบั คุณสมบัตกิ ารหาพ้นื ผิว ของปรมิ าตร ของปรซิ ึม

สอื่ การเรยี นรู้
1. หนังสือ
2. ใบงาน
3. แบบฝกึ หัด

การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์
สงิ่ ทต่ี อ้ งการวัด

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตัวอยา่ งโครงงาน ผ่านการตอบคำถาม 80%

อธบิ ายประเภทของโครงงาน ข้ึนไป

คณติ ศาสตรไ์ ด้

สุขพละ (Skill) เลอื กหวั ข้อของโครงงานตาม ใบงานโครงงานคณิตศาสตร์ เขยี นรา่ งโครงงาน

เลือกหัวขอ้ การวางแผน สนใจ คณิตศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

วธิ กี าร ดำเนินการนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลีย่ นเรยี นร้จู าก การมสี ่วนรว่ มในการ ผ้เู รยี น 80% ข้ึนไปมสี ว่ น

มีความรสู้ ึก เจตคติทีด่ ี การนำเสนอ โครงงาน อภิปรายแลกเปลยี่ นความ ร่วมในการอภปิ ราย

คิดเห็น แลกเปลย่ี นความคิดเหน็

แผนการจดั การเรียนรู้รายสัปดาห์

รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ครัง้ ท่ี 14

เน้อื หาที่จัดการเรียนรู้ คู่อันดับ กราฟ และความสมั พันธร์ ะหว่างเลขคณิต สองมิตแิ ละสามมิติ

วนั ที่ เดอื น พ.ศ. สถานที่กศน.ตำบล

สาระสำคัญ

1. คู่อนั ดบั เป็นการจบั คู่ระหวา่ งสมาชิก 2 ตวั จากกลุ่มเพอื่ นำไปจัดทำกราฟ บนระนาบพกิ ัด ความเกย่ี วขอ้ ง

ของ 2 สง่ิ

2. รูปเลขาคณิต 2 มิติ และ 3 มิติ มีความสมั พันธก์ ันเปน็ อยา่ งมากเหมาะท่จี ะนำไปใช้ประดษิ ฐ์ เป็นรูป

ลูกบาศก์และใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อา่ นและอธิบายความหมายค่อู นั ดับได้

2. อา่ นและแปลความหมายกราฟ บนระนาบพิกดั

3. อธบิ ายลกั ษณะของรูปเลขาคณติ 3 มิติ จากภาพ 3 มติ ิ

4. ระบภุ าพ 2 มิติทไ่ี ดจ้ ากการมองด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน

เน้ือหา

1. คอู่ นั ดับ

2. กราฟ

3. การนำคอู่ นั ดบั และกราฟไปใช้

4. ภาพรูปเลขาคณติ 2 มติ ิที่เกิดจากการคลี่รปู เลขาคณติ 3 มติ ิ

5. ภาพของมิติทีไ่ ด้จากการมองด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน

กิจกรรมการเรียนรู้

ขน้ั นำ

1. ครูใหน้ ักศกึ ษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 10 ขอ้ เวลา 20 นาที

2. ครทู บทวนเรือ่ งคู่อันดบั

3. ครูสนทนากับนกั ศึกษาเก่ยี วกบั กราฟ

4. ครใู ห้นกั ศกึ ษารว่ มกันสนทนาเก่ยี วกับรปู เลขาคณิต 2 มิติ และ 3 มิติ

ข้นั จัดกิจกรรมการเรียนรู้

1. ครเู ฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

2. ครูอธิบายความหมายของกราฟ บนระนาบพิกัด จากท่ีกำหนด

3. ครแู จกแบบฝกึ หดั

4. ครูอธบิ ายเร่อื งรปู ภาพเลขาคณิต 2 มิติและ 3 มิติ

ขั้นฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ใหน้ กั ศึกษาฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใชว้ สั ดุเหลือใช้นำมาทำสื่อการสอน

ขนั้ สรปุ
1 ครใู หน้ ักศกึ ษารว่ มกันสรุปเกี่ยวกับการวัดความยาว
2 ครูให้นักศกึ ษาร่วมกนั สรุปเกีย่ วกับคุณสมบัตกิ ารหาพืน้ ผวิ ของปรมิ าตร ของปริซึ

ส่อื การเรียนรู้
1. หนงั สอื
2. ใบงาน
3. แบบฝึกหดั

การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์
สงิ่ ท่ีต้องการวัด

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตวั อย่างโครงงาน ผ่านการตอบคำถาม 80%

อธิบายประเภทของโครงงาน ขึน้ ไป

คณิตศาสตร์ได้

สขุ พละ (Skill) เลือกหัวขอ้ ของโครงงานตาม ใบงานโครงงานคณติ ศาสตร์ เขียนรา่ งโครงงาน

เลือกหวั ข้อ การวางแผน สนใจ คณติ ศาสตรไ์ ด้อยา่ งถกู ตอ้ ง

วธิ กี าร ดำเนนิ การนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปล่ยี นเรียนรจู้ าก การมีสว่ นรว่ มในการ ผเู้ รยี น 80% ขึ้นไปมีสว่ น

มีความรู้สึก เจตคติทด่ี ี การนำเสนอ โครงงาน อภิปรายแลกเปลี่ยนความ ร่วมในการอภิปราย

คดิ เหน็ แลกเปลยี่ นความคิดเหน็

แผนการจัดการเรียนร้รู ายสัปดาห์

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ คร้งั ท่ี 15

เนอ้ื หาทีจ่ ัดการเรียนรู้ สถติ ิ

วนั ที่ เดอื น พ.ศ. สถานที่กศน.ตำบล

สาระสำคญั
1. ขอ้ มูลเบื้องตนของสถติ ิจะช่วยใหท้ ราบขอ้ เท็จจริงที่ชดั เจนถกู ตอ้ ง
2. การนำเสนอข้อมูลมีความมงุ่ หมายเพือ่ แสดงใหเ้ ห็นราบละเอียดของขอ้ มลู ได้งา่ ยชดั เจนและรวดเรว็

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ผเู้ รยี นไดน้ ำความรเู้ กีย่ วกับสถติ ิไปใช้ในชีวติ ประจำวัน
2. นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสมได้

เน้ือหา
1. การรวบรวมข้อมลู สถิติ
2. การนำเสนอข้อมูลสถิติ

กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นำ

1. ให้นกั ศกึ ษาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 10 เวลา 20 นาที
2. ครแู ละนกั ศึกษารว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกับชีวิตประจำวันของแต่ละคน ซงึ่ จะตอ้ งมีเรอ่ื งราวตา่ งๆอยู่
ตลอดเวลาซงึ่ มักจะเกีย่ วกบั ตัวเลขเสมอ ซึ่งเรามักจะเห็นจากป้ายโฆษนา จากหนังสอื พมิ พ์ จากข่าววิทยุ เร่อื ง
ตา่ งๆเหล่านน้ั อาจจะเป็นเรอื่ งทีเ่ กย่ี วกบั กจิ การของรฐั บาล บรษิ ทั ห้างร้าน หรอื องค์กรใดๆกต็ ามซ่ึงแตล่ ะเรอ่ื งมี
ตวั เลขประกอบ
ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. เตรยี มข้อมลู แบบ ปฐมภมู ิ และ ทตุ ยิ ภูมิ
2. ครูตง้ั ประเดน็ ถามนกั ศึกษาว่าถกู หรือผิดพร้อมคำอธิบาย
ขนั้ ฝกึ ปฏบิ ัติ

1 ครเู ฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2 ครูอธิบายเรื่องราวรวบรวมและนำเสนอขอ้ มลู จากใบความรู้
ข้นั สรุป
ครูให้นกั ศึกษารว่ มกนั สรุปเกีย่ วกบั การกำหนดประเดน็ เชิง สถิติ พรอ้ มทง้ั การเขยี นข้อความในเชิงสถติ ิ
และการรวบรวมขอ้ มูล โดยสรปุ ในรปู แบบภูมิภาพ
สื่อการเรียนรู้
1. ใบความรู้
2. หนังสือ
3. ระบบการเรยี นผ่าน BTV ดาวเทียม

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สง่ิ ท่ตี อ้ งการวัด วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตัวอย่างโครงงาน ผา่ นการตอบคำถาม 80%
ข้ึนไป
อธิบายประเภทของโครงงาน ใบงานโครงงานคณติ ศาสตร์
เขยี นร่างโครงงาน
คณิตศาสตร์ได้ การมสี ่วนรว่ มในการ คณติ ศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
อภิปรายแลกเปล่ยี นความ
สขุ พละ (Skill) เลอื กหวั ข้อของโครงงานตาม คิดเหน็ ผเู้ รียน 80% ข้ึนไปมสี ว่ น
รว่ มในการอภปิ ราย
เลอื กหัวขอ้ การวางแผน สนใจ แลกเปลีย่ นความคิดเหน็

วิธกี าร ดำเนินการนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลี่ยนเรยี นรูจ้ าก

มคี วามรสู้ ึก เจตคติที่ดี การนำเสนอ โครงงาน

แผนการจัดการเรียนรรู้ ายสปั ดาห์

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ครั้งที่1 6

เน้ือหาทจ่ี ัดการเรยี นรู้ ความนา่ จะเป็น

วนั ที่ เดือน พ.ศ. สถานท่ีกศน.ตำบล

สาระสำคญั
1. ข้อมูลเบอื้ งตนของสถติ ิจะช่วยให้ทราบข้อเท็จจริงทชี่ ดั เจนถกู ตอ้ ง
2. การนำเสนอขอ้ มูลมคี วามมุง่ หมายเพ่อื แสดงใหเ้ ห็นราบละเอยี ดของขอ้ มลู ได้ง่ายชัดเจนและรวดเร็ว

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ผูเ้ รียนได้นำความรู้เกยี่ วกับสถติ ไิ ปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
2. นำเสนอขอ้ มูลในรปู แบบที่เหมาะสมได้

เนอื้ หา
1. การรวบรวมข้อมูลสถติ ิ
2. การนำเสนอขอ้ มูลสถิติ

กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ

1. ให้นกั ศึกษาแบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน 10 เวลา 20 นาที
2. ครูและนกั ศกึ ษาร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ชีวิตประจำวันของแต่ละคน ซ่ึงจะตอ้ งมีเร่ืองราวต่างๆอยู่
ตลอดเวลาซึ่งมกั จะเก่ียวกับตัวเลขเสมอ ซึ่งเรามกั จะเหน็ จากป้ายโฆษณา จากหนงั สือพิมพ์ จากข่าววทิ ยุ เร่อื ง
ต่างๆเหล่าน้นั อาจจะเป็นเรือ่ งทเ่ี กีย่ วกับกจิ การของรฐั บาล บริษัทห้างรา้ น หรือองค์กรใดๆกต็ ามซึง่ แตล่ ะเรอื่ งมี
ตัวเลขประกอบ
ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. เตรยี มขอ้ มูล แบบ ปฐมภูมิ และ ทุตยิ ภูมิ
2. ครตู ั้งประเด็นถามนกั ศกึ ษาว่าถูกหรอื ผิดพร้อมคำอธบิ าย
ข้นั ฝึกปฏิบัติ

1. ครูเฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ครอู ธิบายเรอ่ื งราวรวบรวมและนำเสนอขอ้ มลู จากใบความรู้
ขัน้ สรุป
ครูใหน้ กั ศึกษาร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับการกำหนดประเด็นเชงิ สถิติ พรอ้ มทงั้ การเขียนขอ้ ความในเชิงสถติ ิ และการ
รวบรวมข้อมลู โดยสรุปในรปู แบบภูมภิ าพ
ส่ือการเรยี นรู้
1. ใบความรู้
2. หนงั สือ
3. ระบบการเรยี นผา่ น BTV ดาวเทียม

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สง่ิ ท่ตี อ้ งการวัด วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตัวอย่างโครงงาน ผา่ นการตอบคำถาม 80%
ข้ึนไป
อธิบายประเภทของโครงงาน ใบงานโครงงานคณติ ศาสตร์
เขยี นร่างโครงงาน
คณิตศาสตร์ได้ การมสี ่วนรว่ มในการ คณติ ศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
อภิปรายแลกเปล่ยี นความ
สขุ พละ (Skill) เลอื กหวั ข้อของโครงงานตาม คิดเหน็ ผเู้ รียน 80% ข้ึนไปมสี ว่ น
รว่ มในการอภปิ ราย
เลอื กหัวขอ้ การวางแผน สนใจ แลกเปลีย่ นความคิดเหน็

วิธกี าร ดำเนินการนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลี่ยนเรยี นรูจ้ าก

มคี วามรสู้ ึก เจตคติที่ดี การนำเสนอ โครงงาน

รายวชิ า ศิลปศกึ ษา ครั้งที่ 17
เน้อื หาท่ีจดั การเรียนร้วู ิจัยอย่างงา่ ย
วันท่ี เดอื น พ.ศ. สถานท่ีกศน.ตำบล

สาระสำคัญ
ศึกษาเรียนรู้ เข้าใจ เห็นคุณค่าความงาม ของทัศนศิลปไ์ ทย และสามารถอธบิ ายความงามและความ

เป็นมาของทศั นศิลปไ์ ทย ได้อยา่ งเหมาะสม
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และอธิบายความสำคญั ของงานทศั นศิลปท์ ี่ใช้ของจุด เส้น สี แสง เงา รปู ร่าง ในการ
สมัครงาน ทัศนศิลป์ไทยไดอ้ ย่างเหมาะสม
เนื้อหา

1 จุด เสน้ สี แสง เงา รปู รา่ ง และรูปทรงทใี่ ชใ้ นทัศนคติศิลปไ์ ทย
2 ความเปน็ มาของทัศนศิลป์ไทย
3 ความงามของทัศนศิลป์ไทย
4 สรา้ งสรรคผ์ ลงานความงามตามธรรมชาติ
5 ความคดิ สรา้ งสรรค์ ในการนำเอาวัสดุและสิ่งของตา่ งๆมาตกแตง่ ร่างกายและสถานท่ี
6 คณุ ค่าของความทราบซึง้ ของวัฒนธรรมของชาติ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำ
- ครูทกั ทาย กล่าวนำ และทบทวนเนื้อหาเดมิ
- ครูชี้แจงวตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
ขัน้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ครูจดั กิจกรรมใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาแนวทางการทำวิจยั อยา่ งงา่ ย ครจู ัดกิจกรรม วิธีสร้างเครื่องมอื การวจิ ยั
ขนั้ ฝึกปฏิบตั ิ
ผู้เรียนฝึกปฏิบตั กิ ารทำวิจยั อย่างง่าย
ข้ันสรปุ
ครูและผูเ้ รียนร่วมกันประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ และสขุ พละการนำไปใชต้ ามเกณฑ์ท่ี
กำหนด
ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน
สอ่ื การเรยี นรู้
ใบงาน ซดี ี

การประเมินผลการเรียนรู้

สิ่งทต่ี ้องการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตวั อยา่ งงานวิจยั ผา่ นการตอบคำถาม 80 ขึน้
ไป
อธบิ ายประเภทงานวจิ ัยได้

การตอบคำถาม

สขุ พละ (Skill) - การเลอื กหัวขอ้ การ

วางแผน วิธีการ

- การเลอื กหวั ขอ้

โครงงานวิจยั ตามความสนใจ

เครื่องมือ ใบงานวจิ ัย เกณฑ์

เขยี น รา่ งโครงงานวจิ ยั ได้

ถกู ตอ้ งตามหวั ข้อ และ

ประเภทของงานวิจัย ได้ 80

ขึน้ ไป

เจตคติ (attitude) มคี วามรูส้ กึ เจตคตทิ ีด่ ี

วธิ กี าร การแลกเปล่ียน

เรียนรู้ เครอ่ื งมอื อภิปราย

แลกเปลยี่ นความคิดเหน็

เกณฑผ์ เู้ รียนผา่ นเกนิ 80%

รายวิชาศลิ ปศกึ ษา ครง้ั ที่ 18

เนอื้ หา/หวั ขอ้ ท่จี ัดการเรยี นรู้ นาฎศิลป์ไทย

วันที่ เดือน พ.ศ. สถานท่ีกศน.ตำบล

สาระสำคัญ
1 ความหมายและความเป็นมาของนาฎศลิ ป์ไทย
2 นาฎศลิ ป์ไทยประเภทต่างๆ
3 คณุ คา่ และการอนรุ กั ษ์นาฎศิลป์ไทย

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถอธบิ ายทา่ และความหมายของนาฎศลิ ป์ไทยได้
2 อธบิ ายประวัตคิ วามเป็นมาของการแสดงนาฎศิลป์ไทยประเภทต่างๆ ได้
3 แสดงความคิดเหน็ ความรสู้ กึ ตอ่ การแสดงนาฎศลิ ปไ์ ด้
4 เขา้ ใจเห็นคุณคา่ ของนาฎศลิ ป์ไทย และบอกแนะทางอนรุ กั ษ์นาฎศลิ ปไ์ ทยได้

เนือ้ หา
1 ประวัติความเปน็ มา และวัฒนาการของการแสดงนาฎศลิ ปไ์ ทยประเภทต่างๆ
2 รูปแบบองคป์ ระกอบและวิธีการแสดงนาฎศิลป์ไทยประเภทต่างๆ
3 การแสดงความคดิ เหน็ และความรูส้ ึกต่อการแสดง
4 ประโยชนว์ ธิ เี ลอื กชมการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำ

ครูทกั ทาย กลา่ วนำ เข้าสู่บทเรยี น โดยการพดู คุยสอบถามนกั เรียนเก่ยี วกบั ความรสู้ ึกทไ่ี ด้
เคยดนู าฎศิลป์ของไทยที่เคยพบเหน็ มาจากน้นั จึงนำเขา้ สู้บทเรยี น
ขั้นจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครสู นทนากับผู้เรยี นเกย่ี วกับนาฎศิลป์ไทย
2. แบ่งกลุม่ ผู้เรียนออกเป็น 5 กล่มุ ทำการศึกษาค้นคว้าตามหวั ขอ้ ในใบงานและใหค้ ะแนน
กลุ่มนำเสนอผลงานท่ีศึกษาค้นควา้ เพอ่ื แลกเปลย่ี นการเรยี นการรู้
ขั้นฝึกปฏิบัติ

ครูมอบหมายให้ผู้เรียนแต่ละคนไปศึกษางานศิลปะของไทยในดา้ นตา่ งๆ จากหนงั สอื ซีดี อนิ เตอรเ์ น็ต
และบรรยายความรู้สึก ลงในใบงานทก่ี ำหนด
ข้ันสรุป

อธิบายประวัตคิ วามเปน็ มาของการแสดงนาฎศิลป์ไทยประเภทตา่ งๆได้ มีความรู้ แสดงความคิดเห็น
ความรู้สกึ ตอ่ การแสดงนาฎศิลป์ไทยได้ เข้าใจเห็นคณุ คา่ ของนาฎศิลปไ์ ทย

สื่อการเรียนรู้

- ใบงาน

- ซดี ี

- หนงั สือ

- รปู ภาพ

- อนิ เตอร์เนต็

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สงิ่ ที่ตอ้ งการวดั วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม ตวั อยา่ งภาพนาฎศลิ ป์ไทย ผ่านการตอบคำถาม 80%
ข้ึนไป
อธิบายประเภทของงาน แบบตา่ งๆ
เขยี นร่างการนำเสนอตาม
นาฎศลิ ปไ์ ด้ หัวข้อ และประเภทของ
นาฎศิลปไ์ ด้ 80 % ขึ้นไป
สขุ พละ (Skill) เลือกหวั ข้อของนาฎศิลปท์ จี่ ะ หนงั สอื นาฎศิลป์ ผู้เรยี น 80% ข้ึนไปมสี ่วน
ร่วมในการอภิปราย
เลือกหวั ข้อ การวางแผน นำเสนอ แลกเปลยี่ นความคิดเห็น

วิธกี าร ดำเนนิ การนำเสนอ

เจตคติ (attitude) การแลกเปล่ยี นเรียนรจู้ าการ การมีสว่ นร่วมในการ

มคี วามร้สู กึ เจตคติท่ดี ตี อ่ นำเสนอ อภปิ ราย อภิปรายแลกเปล่ยี นความ

นาฎศลิ ปไ์ ทย คดิ เห็น

รายวชิ าศลิ ปศึกษา ครัง้ ที่ 19
เนอื้ หาท่ีจดั การเรียนรู้ นาฏศิลปไ์ ทย
สาระสำคัญ
1. ข้อมูลเบอื้ งตนของสถิติจะช่วยใหท้ ราบข้อเท็จจริงท่ีชดั เจนถกู ต้อง
2. การนำเสนอขอ้ มลู มีความมุ่งหมายเพ่อื แสดงใหเ้ ห็นราบละเอียดของข้อมลู ไดง้ ่ายชัดเจนและรวดเร็ว
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. ผ้เู รียนไดน้ ำความรู้เกีย่ วกับความเป็นมาของนาฏศิลปไ์ ทย
2. นาฏศิลป์ไทยประเภทต่างๆ
3. คุณค่าและอนรุ กั ษ์นาฏศลิ ปไ์ ทย
เนื้อหา
ศิลปะการร้องรำทำเพลง คือมนุษยเ์ ป็นผู้สรา้ งสรรค์ โดยประดิษฐ์ขึ้นอย่างประนตี และมแี บบแผนให้
ความรู้ ความบันเทิง ซึ่งเปน็ พ้นื ฐานสำคญั ที่แสดงให้เหน็ ถงึ วัฒนธรรม
กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นำ
1. ใหน้ ักศกึ ษาดูวีดีทัศน์ ตัวอย่างจากนกั แสดงในวดี ีทศั น์
2. ให้ดูตัวอย่างจากครูนาฏศิลป์
ขนั้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ใหน้ ักศึกษาลองดูรูปท่าทาง การแสดง
2. ใหน้ ักศึกษาบอกท่าทางคำอธบิ ายของรปู
ขนั้ ฝึกปฏบิ ตั ิ
1. นกั ศึกษาลองปฏิบตั ทิ ำดูจาก วีดีทัศน์
2. ดูรปู ทา่ รำใหน้ กั ศกึ ษาปฏิบัติทา่ รำต่างๆ
ขนั้ สรุป
นาฏศิลปไ์ ทยเปน็ วัฒนธรรมท่มี มี าอย่างช้านานเปน็ กิจกรรมเพอื่ ความบันเทงิ และความรื่นเริงของชาวบ้าน
กำเนิดจากชาวบ้านทีว่ ่างจากการทำนา ทำสวน ทำไร่
สอื่ การเรียนรู้
ใบความรู้, หนงั สือ, รปู ภาพ และวีดที ัศน์

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ส่ิงทต่ี ้องการวดั วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) บอกท่ารำและให้ทหารลอง รูปภาพคำอธิบาย ผ่านการตอบคำถาม 80%
ขน้ึ ไป
อธิบายประเภทของทา่ รำได้ ปฏบิ ัติ ใบงาน,รูปภาพทา่ รำตา่ งๆ ความถูกต้องของทา่ รำต่างๆ

สขุ พละ (Skill) เลอื กหัวข้อของท่ารำตาม การมสี ว่ นรว่ มในการ ผู้เรยี น 80% ข้ึนไปมีสว่ น
ร่วมในการอภปิ รายแลกเปลี่
รจู้ กั ทา่ ทางการรำเบอ้ื งตน้ ความสนใจ

เจตคติ (attitude) การแลกเปลี่ยนเรียนรูจ้ าการ

ให้ทหารมีความคดิ รักษา ดภู าพประกอบท่ารำตา่ งๆ

วัฒนาธรรมไทยเปน็ อย่างดี

รายวิชาศลิ ปศกึ ษา ครงั้ ท่ี
เนือ้ หา/หัวข้อ ทจี่ ดั การเรียนรู้ นาฎศิลปไ์ ทย
สาระสำคญั
เครื่องดนตรีไทยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คอื ดดี สี ตี เป่า และวัวฒั นาการของเครอ่ื งดนตรไี ทยแต่ละสมัย
จุดประสงค์การเรียนรู้
- ให้ผู้เรยี นทราบประวัตคิ วามเปน็ มาของดนตรีไทย
- ผูเ้ รยี นรจู้ ักเครง่ื ดนตรีไทย
เนอื้ หา
ดนตรีไทยไดแ้ บบอยา่ งมาจากอินเดีย เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณทางดา้ นดนตรี รูปแบบเคร่อื งดนตรี
รปู รา่ ง ลักษณะ เครือ่ งดนตรี ของแต่ละประเทศต่างๆ
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำ
ให้พลทหารดกู ารแสดงดนตรีไทยแต่ละประเภท
ขั้นจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
- จดั พลทหารกลมุ่ ล่ะ 20 คน การแสดงทางโทรทัศน์
- หาเอกสารใหอ้ า่ นพรอ้ มคำอธิบาย
ขัน้ ฝึกปฏิบตั ิ
- จัดกลมุ่ ละ 20 ให้ทหารลองตอบเครือ่ งดนตรี
- นักเรยี นหรือพลทหารคนใดยงั ไมเ่ ข้าใจให้หาหนังสืออา่ น หรือดูรายละเอียดจากอินเตอร์เนต็
ขน้ั สรุป
เครือ่ งดนตรีมี 4 ประเภท มี ดีด สี ตี เปา่ และประเภทของวงดนตรไี ทย เชน่ วงเครอื่ งเดี่ยว วงเคร่ืองสาย
ไทยเครอ่ื งคู่ วงเคร่ืองสายผสม วงมโหรี
สื่อการเรียนรู้
รูปภาพ, วดี ีทัศน์, หนงั สือ, ใบงาน

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สิ่งท่ตี อ้ งการวดั วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์

ความรู้ (Kngowledge) การตอบคำถาม รปู แบบเคร่อื งดนตรี ผา่ นการตอบคำถาม 80%
ขนึ้ ไป
อธิบายประเภทของเครื่อง รปู ภาพ
ตอบได้ 80 % ขึ้นไป
ดนตรี

สขุ พละ (Skill) เลอื กรูปเครือ่ งดนตรีทีจ่ ะ

เลอื กหัวขอ้ การวางแผน ถาม - ตอบ

การทำงาน

เจตคติ (attitude) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จาก อภิปรายแลกเปลีย่ นความคดิ ผ้เู รยี น 80% ขึ้นไปมสี ่วน

มคี วามรู้สกึ ในการเรียนวชิ า การนำเสนอ รู้กนั ในกล่มุ รว่ มในการเรยี นวชิ าดนตรี

ดนตรไี ทย ไทย


Click to View FlipBook Version