The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบเรียนชุดมูลบทบรรพกิจ กลุ่มที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jaeja_02, 2022-03-25 00:51:11

แบบเรียนชุดมูลบทบรรพกิจ กลุ่มที่ 1

แบบเรียนชุดมูลบทบรรพกิจ กลุ่มที่ 1

พศิ ำลกำรันต์

หน้ำ : ๔๘

พิศำลกำรนั ต์

๏ เรยี งเทยี บเรียบถ้อยถ่อง ทางบรรพ์
นามพิศาลการันต์ เรอื งน้ี
เขียนตัวแตบ่ อสรร เสยี งอ่าน
ควรจะชกั เชน่ ชี้ เชิดอ้างอย่างเหน็
๏ อักษรบอ่ นนีช้ ือ การนั ต์
คือบอกตวั สา่ คญั เพิมท้าย
หากเติมเพือเพญ็ ผนั ตามพากย์
เปลยี นๆเวียนยักยา้ ย ยอ่ มสรอ้ ยเศศเสริม ๚ะ

๏ วิธีใช้ถ้อยค่าขบวนหนึง มีอักษรเพิมไว้ข้างท้ายค่าแต่มิใช่ตัวสะกด เติมลงไว้เพือจะใช้เต็มค่าซึงมาแต่ภาษา
มคธ และเสียงภาษาอืนบ้าง เสียงไทยอ่านไม่ตลอดไปถึงจึงลงไม้ไว้เป็นทีสังเกตว่าไม่อ่าน ควรเรียกชื อว่า
การันต์ เปลียนทีตามตัวทีเติมท้ายค่า คือ (ก) การันต์ (ข) การันต์ (ค) การันต์ เป็นต้น ยกมาไว้เป็นตัวอย่าง
ดังน้ี

๏ (ก) การันต์ มตี ัว (ก) เตมิ ท้ายไมอ่ ่าน คอื ค่าว่า บัลลังก์ เขาวงก์ คลองมหาวงก์
๏ (ข) การันต์ มีตัว (ข) เตมิ ท้ายไมอ่ า่ น คอื ค่าวา่ แตรสงั ข์ ความทกุ ข์ สงั ฆปาโมกข์
๏ (ค) การนั ต์ มตี ัว (ค) เติมท้ายไมอ่ ่าน คือค่าวา่ พระขรรค์ ท้าวภชุ งค์ จตุรงค์
๏ (ฆ) การันต์ มตี วั (ฆ) เติมทา้ ยไม่อ่าน คือคา่ ว่า พระสงฆ์ นางพยักฆ์ พระชงฆ์
๏ (จ) การันต์ มีตัว (จ) เติมท้ายไม่อ่าน คอื ค่าวา่ ใจฉกรรจ์ พลสกรรจ์
๏ (ช) การันต์ มตี วั (ช) เตมิ ท้ายไมอ่ ่าน คอื ค่าวา่ กษริ ามพุภญุ ช์ พระบทวะลญั ช์ สาขภญั ช์
๏ (ฑ) การันต์ มีตัว (ฑ) เติมท้ายไมอ่ า่ น คอื คา่ วา่ กองกุณฑ์ กะเกณฑ์ ต้องราชทัณฑ์
๏ (ณ) การันต์ มตี ัว (ณ) เตมิ ท้ายไมอ่ า่ น คือค่าว่า อลงกรณ์ พระยากรณ์ มหาปกรณ์
๏ (ด) การนั ต์ มีตัว (ดิ) การนั ต์ คอื ค่าวา่ สมบดั ์ิ ปฏบิ ดั ิ์ สวามิภกั ด์ิ
๏ (ต) การนั ต์ มีตัว (ต) เตมิ ทา้ ยไมอ่ า่ น คือคา่ วา่ สงกรานต์ พระทนต์ เวทมนต์
๏ (ถ) การนั ต์ มีตวั (ถ) เติมทา้ ยไมอ่ ่าน คอื ค่าวา่ พระหัดถ์ พระหถั ก็ใช้ ศุภอัดถ์ ดาษเดียรถ์
๏ (ท) การันต์มักมีตวั (ร) แถมดว้ ยเหมือนคา่ เหล่านี้ พระจนั ทร์ ทา้ วศกั รินทร์ เอกฉนั ท์
๏ (ธ) การนั ต์ มตี วั (ธ) เติมท้ายไมอ่ า่ น คือค่าวา่ พระสกนธ์ เสาวคนธ์ เรอื งฤทธิ์
๏ (น) การนั ต์ มีตัว (น) เตมิ ท้ายไม่อา่ น คอื คา่ วา่ แกน่ จนั ทน์ ท้าวสุทศั น์ เนาวรัตน์
๏ (บ) การันต์ มตี วั (บ) แตมิ ท้ายไมอ่ ่าน คอื คา่ วา่ บัวบุษบ์
๏ (ป) การันต์ มีตัว (ป) เตมิ ท้ายไมอ่ ่าน คือค่าว่า พระทรงศลิ ป ธนศู ิลป
๏ (พ) การนั ต์ มตี ัว (พ) เตมิ ท้ายไมอ่ า่ น คือค่าวา่ เบื้องบรรพ์ ทุกสิงสรรพ์ หนังสือพิมพ์
๏ (ภ) การันต์ มีตัว (ภ) เติมทา้ ยไม่อ่าน คอื ค่าว่า ราษกี ุมภ์ จตสุ ดมภ์ อปุ ระถมั ภ์
๏ (ม) การนั ต์ มตี ัว (ม) เตมิ ท้ายไม่อา่ น คอื ค่าว่า พระชนม์ พระทรงธรรม์ อสรพิศม์
๏ (ย) การันต์ มตี ัว (ย) เติมทา้ ยไมอ่ า่ น คอื ค่าว่า กลอนกาพย์ อัศจรรย์ พระเจดยี ์
๏ (ร) การนั ต์ มีตัว (ร) เตมิ ทา้ ยไม่อา่ น คอื ค่าวา่ แหวนเพชร์ คมั ภีร์ โหราสาตร์
๏ (ล) การันต์ มตี ัว (ล) เติมทา้ ยไมอ่ า่ น คอื ค่าว่า ไมล์ ๔๗ เสน้ โมล์แบบหลอ่ ตวั อักษร
๏ (ว) การนั ต์ มีตัว (ว) เติมท้ายไม่อ่าน คือค่าว่า ทรงพระเยาว์ เกลอื สนิ เธาว์ หมูส่ ตั ว์

หนำ้ : ๔๙

พศิ ำลกำรนั ต์

๏ (ษ) การันต์ มตี วั (ษ) เติมทา้ ยไมอ่ ่าน คือคา่ วา่ ประจักษ์ เทพารกั ษ์ ภาณุวงษ์
๏ (ห) การนั ต์ มตี วั (ห) เติมทา้ ยไม่อ่าน คอื คา่ ว่า ทรงพระดา่ รหิ ์ เวลาสายัณห์ อนุเคราะห์

๏ จบเสรจ็ ส่าเร็จแก้ การันต์
พงึ พิศฉบบั บรรพ์ แบบเบอ้ื ง
ภอเปนนสุ นธ์ิสรรพ์ สาวสบื ไปนา
หวงั ผดงุ เดด็ เปล้ือง ปลดชน้ั เชงิ เขลา

๏ ค่าทีต้องใชไ้ ม้ ซึงเป็นภาษาไทยบา้ ง ภาษาอืนบา้ ง มักตกอยูใ่ นอกั ษรกลางโดยมาก กับค่าทีตอ้ งใชไ้ ม้ ็
นา่ มาใหเ้ ป็นสา่ เนยี งสน้ั ทง้ั คา่ ไทยและภาษาอนื ก็มีมาก จะรวบรวมมาไว้พอไดส้ งั เกตเป็นแบบอย่างดงั น้ี

๏ ค่าไม้ตรเี รียงตามอกั ษร

๏ สามกก ไกร่ อ้ งกุกๆ ตอ้ งเกก น้่ากอก หมวกแกบ
๏ จง้ิ จกทักจก ๆ หนูร้องจกิ๊ ๆ นา่้ ไหลโจก นกร้องจ๊บิ ๆ ลูกไก่เจ๊ยี บ
๏ ไกก่ ระตาก อกเต้นตึ๊ก ๆ ตุกแก มีกงเตก ตั้งโตะ
๏ บะ วา่ ลกุ ลาม บกุ วา่ หนงั สือ โบด วา่ เรอื โบย ว่าซ้ือ
๏ ปี ว่าพศิ ม์ ก่าปี วา่ กุ้งฝอย ดีดดงั ปุ ปุ๊ ว่าเดอื ด
๏ รอ้ งโอก นกร้องออก ไก่ร้องเอี๊ยก นายออด ร้องเอะ

๏ คา่ ไม้ตรีจบแตเ่ ท่าน้ี

๏ คา่ ไม้จัตวาเรียงตามอกั ษรดังนี้

๏ อากู เดนิ เก เถา้ แก ขนมโก กวยเตีย๋ ว
๏ แดดแจ หน้าจวิ๋ นางแจว หนา้ จอย
๏ ดดู ู สักประเดยี๋ ว
๏ ขาเป๋ กระเป๋า นายปง๋ั หลน่ ปุ๋ม ๆ ขาดป๋ยุ
๏ จะเอ นายอน๋ั แตะอง๋ั นอ้ งเอย นายออย
๏ วงิ กรอ เสียงแกร นอนโกร ใบไมโ้ กรน

๏ จบคา่ ใชไ้ ม้จตั วาเท่านี้
๏ อกั ษรควรใช้ไม้ ็ น่าเอามาเป็นคา่ สัน้ เหมือนค่าเหลา่ นี้

๏ ดังแก็ก สะเกด็ เกบ็ ไว้
๏ เข็ดหลาบ ปกั เข็ม สนเข็ม
๏ ล่าเค็ญ สงั เค็ด
๏ เจ็ดวัน เจ็บแสบ
๏ เช็กชัน เชด็ ลา้ ง
๏ นา่้ กระเซ็น เจ้าเซ็น ไม้เซ็น แส้เซ็ง

หนำ้ : ๕๐

พิศำลกำรันต์

๏ กระเด็น เดก็ ๆ เสด็จ ขาดเดจ็ สมเด็จ เผดจ็
๏ ค่าเท็จ ตกเบ็ด เบด็ เสรจ็
๏ หากเปน็ เปด็
๏ วนั เพ็ญ บ่าเพ็ญ สา่ เพง็ เมืองเพช็ รบุรี
๏ พวกเมง็ เมด็ ใน เวลาเยน็ สา่ เร็จ
๏ ใหญ่เล็ก มหาดเลก็ กา่ ปั่นเหล็ก ตบั เหลก็ ตดั เลบ็
๏ แลเหน็ เก็บเห็ต ลูกเอน็ เส็นเอ็น

๏ จบค่าไม้ ็ เท่าน้ี

๏ อีกประการหนึงเครืองหมายทีใช้ในอักษรไทยมหี ลายอย่าง ควรสังเกตจ่าใหร้ ู้ทัวถึง ไมต้ นี กา น้ี แต่โบราณ
มา ใช้เป็นไม้โทอย่าง ๑ ภายหลังจัดเป็นไม้จัตวา ส่าหรับยกตัวอย่างเสียงสูง ในอักษรกลางอย่าง ๑ ใช้ตีนกา
หมายอักษรทีเขยี นตกเขยี นพลาด เหมือนวา่ ข้าพเจ้านายพดุ เปน็ บตุ ร นายเพง็ เช่นน้ีอย่าง ๑

เครอื งหมายรปู อย่างน้ี ฯ ส่าหรับใชไ้ ปยาล ในค่าว่า ทูลเกลา้ ฯ โปรดเกล้า ฯ กรุงเทพฯ เป็นค่าย่อไว้ เมืออ่าน
ต้องอ่านเต็มความ ทูลเกล้าฯ อ่านว่าทูลเกล้าทูลกระหม่อม โปรดเกล้าฯ อ่านว่าโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
กรงุ เทพฯ อ่านวา่ กรุงเทพมหานคร

คัน ๚ อย่างน้ี สา่ หรบั ใชท้ ีสิน้ ข้อความตอนหนึง ๚ะ ทีใชว้ างไวบ้ างแห่งต้องการอ่าน บางทเี ขียนผดิ ไปวางเสีย
ไม่ต้องการอ่าน เหมือนค่าว่าตัว (ก) ควบกับตัว (ล) อย่างนี้ต้องการอ่าน แต่วางไว้เป็นทีสังเกตให้รู้ว่าเป็น
ตัวแปลก ทีวางเสียไม่อ่านนั้น คือเขียนค่าเกินไปบ้างเขียนผิดความไปบ้าง วางทิ้งเสียไม่อ่าน เหมือนค่าว่า
ข้าพเจ้านายสีพีนายสน มาให้การต่างฟ้องแก่ท่าน (ตระลาการ) ขุนศรีธรรมราช ใจความว่า ๚ เช่นน้ีเป็น
ตวั อยา่ ง ๚ะ

๏ สงั โยคไวพจน์ท้ัง การนั ต์
สามเรอื งเรยี งรวมกัน เล่มนี้
เพียรคดิ รวบจัดสรร สาวสบื ไวน้ า
ใดคลาดปราชโปรดจี้ จดแต้มเติมเขยี น

๏ ตรีจัตไุ ต่คคู้ วบ กบั คา่
คดิ เพิมเตมิ ประจา่ ท่อนท้าย
หมนั ดูจวบเดยี งส่า เหนยี กแมน่ ไม้เฮย
คา่ เปลยี นแปลกคลา้ ยๆ อยา่ เคลิ้มคลา่ ฉงน

๏ อนสุ าศน์สอนเสรจ็ สน้ิ สารแสดง

จา่ แนกจ่านงแจง แจกไว้

คลีคลายบ่เคลือบแฝง เผยแผ่

เพือส่ากุมารได้ เล่าร้ดู เู ขยี น ๚ะ

หน้ำ : ๕๑

พศิ ำลกำรันต์

หน้ำ : ๕๒



ไวพจนป์ ระพนั ธ์

หนำ้ : ๕๔

ไวพจน์ประพันธ์

ไวพจน์ประพันธ์การใช้ค่าให้เหมาะสมในการประพันธ์บทกลอนท้ัง เช่น กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16
กาพย์สุรางคนางค์ 28 โคลง เป็นต้น การใช้ค่าในภาษาไทยใช้ต่างกันตามความเหมาะสม ประกอบด้วยเสียง
และความหมาย ทีการออกเสียงอาจเหมือนกัน เขียนต่างกัน ความหมายต่างกัน ต้องรู้จักเลือกค่ามาใช้ให้
ถูกต้อง ค่าให้เลือกใช้ในการประพันธ์กลอนต่าง ๆ มีการจัดเรียงอยา่ งเปน็ ระบบมีมาตง้ั แต่โบราณทีได้กล่าวไว้
จะมีความงดงามจะตอ้ งใช้อย่าใหแ้ ผลง เขยี นอยา่ ให้พลาด แปลงอย่าให้ผิด

ซึงในต่าราไวพจน์ประพันธ์มีการแบ่งหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจนในกรศึกษา โดยเริมต้ังแต่กอไวพจน์
ขอไวพจน์ คอไวพจน์ จอไวพจน์ ฉอไวพจน์ ชอไวพจน์ ดอไวพจน์ ตอไวพจน์ ถอไวพจน์ ทอไวพจน์ นอไวพจน์
บอไวพจน์ ปอไวพจน์ ผอไวพจน์ พอไวพจน์ มอไวพจน์ ยอไวพจน์ รอไวพจน์ ลอไวพจน์ วอไวพจน์ สอไวพจน์
หอไวพจน์ ออไวพจน์ ในแต่ละหมวดก็ก็จะมีการยกตัวอย่างค่า ความหมาย การใช้ค่านีในบริบทใดให้
เหมาะสมและเป็นการอธิบายให้สังเกตว่าบางค่าออกเสียงเหมือนกัน แต่เขียนต่างกันและความหมายต่างกัน
ขน้ึ อยกู่ บั ความเหมาะสมของบทประพนั ธ์ การศึกษาตามหมวดของตวั อักษร โดยมีขอ้ มูลการศึกษาดังตอ่ ไปนี้

ศภุ มสั ดุ

ข้าพเจ้าขุนโอวาทวรกิจคิดเห็นว่า หนังสือกลอนไวพจน์ประพันธ์ตลอดจนกลอนพิศาลการันต์
ทีพระยาศรีสนุ ทรโวหารแตง่ ข้ึนไวน้ ั้น เห็นว่าจะเปน็ ของบ่ารุงปญั ญา เป็นคณุ เป็นประโยชน์แก่นักเรียนเป็นอัน
มาก

กอไวพจน์

กอไวพจน์แบบบทแบ่งเป็นหมวดหมู่ต้ังแต่ต้นแม่กนไปจนถึงแม่เกย ทีมีค่าให้เลือกใช้ในการประพันธ์
กลอนตา่ ง ๆ มกี ารจดั เรียงอยา่ งเป็นระบบ โดยมีตัวอย่างค่าวา่ กัน กาน กุน กนู เกน กอน เกียน กด กาด กดิ
กุด กุด เกด โกด เกียด กาบ ค่าทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียงเหมือนกันแต่
ความหมายตา่ งกันตอ้ งเลือกใช้ให้เหมาะสม

ตัวอยำ่ งกอไวพจน์

คา่ วา่ “ กัน ”
เชน่ ค่าว่า เกศำกันต์ หมายถึง การตัดจุก หรอื โกนจุก, (ใชเ้ ฉพาะเจา้ นายช้ันหมอ่ มเจา้ )
คา่ วา่ ทศกรรฐ หมายถงึ 'ท้าวยกั ษสบิ สอ เปน็ เจา้ เหลา่ กอ ก่าเนิดณกรงุ ลงกา

คา่ วา่ “ กำน ”
เชน่ ค่าว่า กำญจน์ หมายถงึ ทอง
ค่าวา่ กำล หมายถึง เวลา

คา่ ว่า “ กนุ ”
เช่น คา่ ว่า กญุ ชร หมายถงึ ชา้ ง
คา่ ว่า รำชนิ กิ ุล หมายถึง ผู้มีเชอ้ื สายของพระมหากษัตริย์

คา่ วา่ “ เกยี ด ”
เช่น คา่ วา่ เกยี รดิยศ หมายถงึ เกยี รติทไี ด้มาโดยหน้าทกี ารงาน หรอื ชาตกิ ่าเนดิ .
คา่ วา่ รงั เกยี จเก หมายถึง ไมพ่ อใจ, เกลียด, ขยะแขยงไมอ่ ยากยงุ่ เกยี ว

หน้ำ : ๕๕

ไวพจน์ประพนั ธ์

ขอไวพจน์
ขอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า ขัน ขาน ขอน เข็ด ค่าทียกตัวอย่างนี้ในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออก

เสียงเหมอื นกันแต่ความหมายต่างกันต้องเลือกใชใ้ ห้เหมาะสม

ตวั อยำ่ งขอไวพจน์
คา่ ว่า “ ขนั ”
เชน่ คา่ วา่ พลขนั ธ์ หมายถึง กองทัพ
ค่าว่า กวดขนั หมายถึง 'เข้มงวดข้นึ , ใสใ่ จมากเป็นพิเศษเอาจรงิ เอาจงั
ค่าวา่ “ ขำน ”
เชน่ ค่าว่า ขลำหรือขำน หมายถึง เสอื
คา่ ว่า สังขำร หมายถึง ร่างกาย
คา่ ว่า “ ขอน ”
เช่น ค่าว่า ปะฏิสงั ขรณ์ หมายถึง ซอ่ มแซมทา่ ให้กลบั ดดี งั เดิม

คอไวพจน์
คอไวพจนม์ ตี ัวอย่างคา่ วา่ คน คนั คาน คุน คูณ เคน คอน ค่าง คด คาด คิด คดุ คดู เคด็ โคตร คับ ค่า

ทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียงเหมือนกันแต่ความหมายต่างกันต้องเลือกใช้ให้
เหมาะสม
ตัวอยำ่ งคอไวพจน์

ค่าวา่ “ คำน ”
เช่น คา่ ว่า เภรำคำร หมายถึง หอกลอง
คา่ ว่า กุฎำคำร หมายถงึ เรอื นยอด, อาคารทมี เี ครอื งยอด, เช่น มณฑป ปราสาท

คา่ ว่า “ คอน ”
เช่น คา่ ว่า นคร หมายถงึ เมอื ง

ค่าว่า “ คุด ”
เชน่ คา่ วา่ นังคฐุ หมายถงึ หาง

จอไวพจน์
จอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า จน จัน จาน จิน จุน จอน เจียน จัก จาก จัด จิต จุด เจด จาบ ค่าที

ยกตัวอยา่ งน้ีในแต่ละค่ามกี ารเขยี นตา่ งกนั ออกเสยี งเหมอื นกันแตค่ วามหมายต่างกันต้องเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม
ตัวอยำ่ งจอไวพจน์

ค่าวา่ “ จนั ”
เช่น คา่ ว่า จันทร์ หมายถงึ ดวงจนั ทร์ วันจนั ทร์
คา่ วา่ อัศจรรย์ หมายถงึ แปลก, ประหลาด, นา่ พศิ วง

คา่ วา่ “ จนุ ”
เชน่ ค่าวา่ คำจุน หมายถึง เจือจนุ , อุดหนุนใหด้ า่ รงอยู่ได้
ค่าว่า จุลศกั รรำช หมายถงึ ศักราชน้อย เรมิ ตัง้ หลังพุทธศักราช 1181 ปี

ค่าวา่ “ จำบ ”
เชน่ ค่าว่า จิตรกรรม หมายถงึ ช่างเขยี น
คา่ วา่ จติ รมำศ หมายถึง ความคิดทีทรงคณุ ค่า

หนำ้ : ๕๖

ไวพจน์ประพันธ์

ฉอไวพจน์
ฉอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า ฉัน ฉิน ฉัด เฉด ค่าทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียง

เหมือนกนั แตค่ วามหมายตา่ งกันตอ้ งเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตวั อย่ำงฉอไวพจน์
ค่าว่า “ ฉัน ”
เช่น ค่าว่า เอกะฉนั ท หรอื เอกฉนั ท์ หมายถึง มคี วามเห็นเป็นอยา่ งเดยี วกันหมด

ค่าว่า “ ฉิน ”
เชน่ ค่าวา่ โฉมฉนิ เฉดิ ฉิน หมายถงึ รปู ร่างงามเปลง่ ปลัง, รูปร่างงามสงา่ ผ่าเผย

ค่าว่า “ ฉัด ”
เช่น ค่าวา่ ฉตั ร หมายถึง เครืองสูงชนิดหนึง มรี ูปคลา้ ยร่มซอ้ นลดลันกนั ขึ้นไปเป็นชั้น ๆ

ชอไวพจน์
ชอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า ชัน ชาน ชิน ชุน เชน ชอน เชิน ชวน ชง ชัด ชาด ชิด เชด โชด ค่าที

ยกตัวอยา่ งนใ้ี นแต่ละค่ามกี ารเขียนต่างกัน ออกเสยี งเหมอื นกนั แต่ความหมายต่างกนั ต้องเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตัวอยำ่ งชอไวพจน์

คา่ วา่ “ ชอน ”
เช่น ค่าวา่ อรชร หมายถึง งามอยา่ งเอวบางร่างนอ้ ย

ค่าว่า “ ชำด ”
เช่น คา่ วา่ ชำติ หมายถงึ การเกดิ เชน่ ชาตกิ อ่ น , กา่ เนดิ เช่น มชี าตมิ ีสกลุ

ค่าว่า “ โชด ”
เชน่ ค่าวา่ ชว่ งโชติ หมายถงึ สวา่ งรุ่งโรจน์ , สวา่ งไสว

ดอไวพจน์
ดอไวพจนม์ ีตัวอยา่ งคา่ วา่ ดาน ดนิ ดุน ดูน โดน ดอน เดยี น ดง ดาง ดงึ ดก ดาก ดึก ดาด เดด โดด คา่

ทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียงเหมือนกันแต่ความหมายต่างกันต้องเลือกใช้ให้
เหมาะสม

ตวั อยำ่ งดอไวพจน์

คา่ ว่า “ ดำน ”

เชน่ คา่ ว่า พิสดำร หรอื พิสดำร หมายถงึ กวา้ งขวาง , แปลกพิลกึ

คา่ ว่า สนั ดำน หมายถึง อปุ นสิ ัยทีมมี าแต่ก่าเนิด

คา่ วา่ “ ดิน ”

เช่น คา่ วา่ นฤบดนิ ทร์ หมายถึง พระมหากษัตริย์

คา่ ว่า “ ดำด ”

เช่น ค่าว่า ดำษดื่น หรอื ดำษดน่ื หมายถึง เกลอื นกลาด มากหลาย

หน้ำ : ๕๗

ไวพจนป์ ระพันธ์

ตอไวพจน์
ตอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า ตัน ตาน ค่าทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียง

เหมอื นกนั แตค่ วามหมายตา่ งกันต้องเลือกใช้ใหเ้ หมาะสม

ตวั อยำ่ งตอไวพจน์
คา่ ว่า “ ตนั ”
เชน่ คา่ วา่ ตัณฑุละ หมายถงึ ขา้ วสาร
คา่ ว่า “ ตำน ”
เชน่ คา่ ว่า ต้นตำลโตนด หมายถงึ เป็นไม้ในตะกูลเดียวกันกับปาล์ม และมะพร้าว
คา่ ว่า พระอะวะตำรหรอื อวตำร หมายถึง พระนารายณ์ ชือเรียกพระเจ้าแผ่นดิน

หรอื คนสา่ คญั

ถอไวพจน์
ถอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า ถาน ถิน ถุน เถน ถอด เถียน ถาก ถึก ค่าทียกตัวอย่างนี้ในแต่ละค่ามีการ

เขยี นตา่ งกนั ออกเสียงเหมอื นกันแต่ความหมายต่างกนั ตอ้ งเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตัวอยำ่ งถอไวพจน์

ค่าว่า “ ถำน ”

เช่น ค่าว่า พระเจดียะฐำนหรือเจดียฐำน หมายถึง สถานทีเคารพเช่นทีประดิษฐานพระ

พุทธปฏิมา พระพุทธบาท พระพุทธฉายา และพระบรมสารรี กิ ธาตุ

คา่ วา่ พระกรรมฐำน หมายถงึ เปน็ อบุ ายสงบใจ และวิปสั สนา

ค่าวา่ “ ถนิ ”

เชน่ ค่าวา่ ทอดกระฐิน หมายถงึ ท่าพิธีถวายผ้ากฐินแกพ่ ระสงฆ์

คา่ ว่า “ ถำก ”

เช่น ค่าวา่ ถำกถำง หมายถึง คอ่ นวา่ , พูดเหนบ็ แนม, พูดวา่ ใหเ้ จบ็ ใจ

ทอไวพจน์

ทอไวพจนม์ ีตวั อย่างคา่ วา่ ทน ทาน ทิน ทูน โทน ทอน เทยี น ทก ทัก ทกึ ทกุ ทด ทาด ทดั ทิด ทุด ทูด

เทด โทด ทบ ทับ ทิบ ทบู คา่ ทียกตัวอยา่ งนใี้ นแตล่ ะคา่ มีการเขยี นตา่ งกัน ออกเสยี งเหมอื นกันแต่ความหมาย

ต่างกันตอ้ งเลอื กใชใ้ ห้เหมาะสม

ตวั อย่ำงทอไวพจน์
คา่ วา่ “ ทำน ”
เช่น ค่าวา่ โวทำน หมายถึง การท่าใหส้ ะอาด ความบรสิ ุทธิ์
ค่าวา่ คชำธำร หมายถงึ ชา้ งทรง , ช้างพระทีนัง
ค่าวา่ “ ทอน ”
เชน่ ค่าวา่ อทุ ร หมายถึง ท้อง
ค่าว่า “ ทิบ ”
เช่น คา่ วา่ ประทีป หมายถงึ ตะเกยี ง, โคม, ไฟทมี เี ปลวสวา่ ง เช่น ตะเกยี ง เทียน

หน้ำ : ๕๘

ไวพจน์ประพันธ์

นอไวพจน์
นอไวพจนม์ ีตวั อยา่ งค่าว่า นนั นาน นิน นูน เนน นอน เนยี น เนนิ นง นาง นกั นาก นกึ หนวก นด นดั

นาด นิด นุด เนด นบ ค่าทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียงเหมือนกันแต่ความหมาย
ต่างกันตอ้ งเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตวั อยำ่ งนอไวพจน์
คา่ วา่ “ นนิ ”
เชน่ คา่ วา่ นิลรัตน์ หมายถงึ แก้วสีขาบ, นิล
คา่ วา่ ธรณินทร์ หมายถึง แผน่ ดิน
ค่าวา่ “ นำก ”
เช่น ค่าว่า นำค หมายถงึ ช้าง
คา่ ว่า “ นบ ”
เชน่ คา่ วา่ นพ หมายถงึ เกา้

บอไวพจน์
บอไวพจน์มีตัวอย่างค่าบัน บาน บิน บุญ บุนย์ บูน เบน บอน บวน บด(ยานี) บัด บาด บิด บุด เบด

เบด บวด บับ บาบ บุบ ค่าทียกตัวอย่างนี้ในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียงเหมือนกันแต่ความหมาย
ตา่ งกนั ต้องเลอื กใช้ให้เหมาะสม

ตวั อยำ่ งบอไวพจน์
ค่าวา่ “ บำน ”
เชน่ ค่าวา่ ภบู ำล หมายถึง พระมหากษตั ริย์
ค่าวา่ “ บำด ”
เชน่ ค่าว่า อบุ ำท หมายถึง การบงั เกดิ ก่าเนิด
ค่าวา่ “ บำบ ”
เชน่ คา่ วา่ บำปเครำะห์ หมายถึง เคราะห์ร้าย

ปอไวพจน์
ปอไวพจนม์ ตี วั อย่างคา่ ปัน ปกั ปดั ค่าทยี กตัวอย่างนใ้ี นแต่ละค่ามีการเขยี นต่างกนั ออกเสยี งเหมอื นกัน

แต่ความหมายต่างกนั ตอ้ งเลอื กใช้ใหเ้ หมาะสม

ตัวอยำ่ งบอไวพจน์

คา่ วา่ “ ปัน ” คา่ ว่า ปัญญำ หมายถึง ความรอบรู้
เชน่ ค่าวา่ ปกั ษี หมายถงึ สัตว์ปีก , นก
ค่าว่า ปัสสะ หมายถงึ ฉี
ค่าว่า “ ปัก ”
เช่น

ค่าวา่ “ ปัด ”
เช่น

หนำ้ : ๕๙

ไวพจนป์ ระพนั ธ์

ผอไวพจน์
ผอไวพจนม์ ตี วั อย่างค่าว่า ผนั ผงึ้ ผัด ผดุ ฝี คา่ ทยี กตวั อยา่ งนี้ในแต่ละค่ามีการเขยี นต่างกัน ออกเสียง

เหมือนกันแตค่ วามหมายต่างกนั ต้องเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตวั อย่ำงผอไวพจน์
ค่าว่า “ ผงึ ”
เชน่ ค่าว่า นำผึง หมายถงึ นา่้ หวาน ลกั ษณะข้นสเี หลอื งใสรสหวาน ได้จากรงั ผ้ึง
คา่ วา่ “ ผัด ”
เชน่ คา่ วา่ สมั ผศั หรอื สัมผสั หมายถงึ แตะต้อง, ถกู ต้อง, กระทบ
ค่าวา่ “ ฝี ”
เชน่ ค่าวา่ ฝปี ำก หมายถงึ ความสามารถในการพดู

พอไวพจน์
พอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า พน พัน พาน พิน เพน พอน เพียน พง พัก โพด พด พัด พาด พิด พีด พุด

พูด เพด เพ็ด แพด โพด พบ พับ พาบ พิมพ์ พูม พรม พาม ค่าทียกตัวอย่างนี้ในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน
ออกเสยี งเหมือนกันแตค่ วามหมายต่างกันตอ้ งเลือกใช้ใหเ้ หมาะสม

ตวั อยำ่ งพอไวพจน์
ค่าวา่ “ พำน ”
เช่น คา่ ว่า คนพำล หมายถงึ คนชวั ร้าย , คนเกเร
คา่ ว่า “ พกั ”
เชน่ คา่ ว่า พระภกั ตรหรือพระพกั ตร หมายถงึ หนา้
คา่ ว่า “ โพด ”
เชน่ คา่ ว่า โภชนำ หมายถงึ อาหาร
ค่าวา่ “ พมู ”
เชน่ ค่าวา่ สมรภมู ิ์ หมายถึง สนามรบ

มอไวพจน์
มอไวพจน์มีตัวอย่างคา่ ว่า มน มัน มาน มนิ มุน มูน เมน มอน เมิน โมง มกั หมกั มาก มกึ มุก เมก โมก

มด มัด มาด หมาด มิด มุด เมด โมด ค่าทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียงเหมือนกันแต่
ความหมายต่างกันต้องเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตัวอยำ่ งมอไวพจน์
คา่ ว่า “ มนู ”
เช่น คา่ ว่า มูลชำ้ ง หมายถึง อจุ จาระของช้าง
ค่าวา่ “ มอน ”
เช่น ค่าวา่ อมร หมายถึง ผูไ้ มต่ าย , เทวดา
คา่ วา่ “ มำก ”
เชน่ ค่าวา่ ชลมำรค หมายถงึ ทางน้่า

หนำ้ : ๖๐

ไวพจนป์ ระพนั ธ์

ยอไวพจน์
ยอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า ยน ยัน ยาน ยุน ยูย เยน ยง ยาน ยัก ยุก โยก ยด ยัด ยาด ยุด โยด ค่าที

ยกตัวอย่างนี้ในแตล่ ะค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสยี งเหมอื นกันแต่ความหมายตา่ งกันต้องเลือกใช้ใหเ้ หมาะสม

ตวั อย่ำงยอไวพจน์
คา่ วา่ “ ยน ”

เช่น ค่าว่า ยลโฉม หมายถงึ ชมความงาม
ค่าวา่ “ เยน ”

เช่น ค่าว่า สรุ ิเยนทร หมายถึง พระอาทิตย์
ค่าวา่ “ ยด ”

เชน่ คา่ วา่ อิศริยยศ หมายถึง ยศอนั ยงิ ใหญ่, ยศทีแสดงถึงความยิงใหญ่

รอไวพจน์

รอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า รัน ราน ริน รุน เรน รวน เรียน รง รัก ราก รด รัด ราด ริด รีด รุด เรด โรด
ค่าทียกตัวอย่างนี้ในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียงเหมือนกันแต่ความหมายต่างกันต้องเลือกใช้ให้
เหมาะสม

ตัวอย่ำงรอไวพจน์
ค่าวา่ “ รนั ”
เช่น คา่ วา่ อำรัญ หมายถึง อยู่ในป่า มใี นปา่
ค่าว่า หิรญั หมายถงึ เงนิ , บางทหี มายถึง ทอง
คา่ ว่า “ รุน ”
เชน่ ค่าว่า รุน หมายถงึ ดุน , ไส
ค่าวา่ กำรุญ หมายถึง ความกรุณา
คา่ วา่ “ ริด ”
เชน่ คา่ ว่า ฤทธิ หมายถึง ความส่าเรจ็
ค่าว่า เทวฤทธิ หมายถึง อา่ นาจของเทวดา

วอไวพจน์
รอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า วัน หวัน วาน วิน เวน วอน วง วัก วาก เวก วัด วาด วิด วุด เวด ค่าที

ยกตัวอย่างนี้ในแตล่ ะค่ามกี ารเขยี นต่างกัน ออกเสยี งเหมือนกนั แต่ความหมายต่างกันต้องเลือกใช้ใหเ้ หมาะสม

ตวั อยำ่ งวอไวพจน์

ค่าวา่ “ วัน ” ค่าว่า อัมพวัน หมายถงึ ปา่ หรอื สวนมะม่วง
เช่น คา่ ว่า จีวร หมายถงึ เครอื งนุ่งห่มของภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา

คา่ ว่า “ วอน ”
เชน่

หนำ้ : ๖๑

ไวพจน์ประพนั ธ์

สอไวพจน์

รอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า สน สัน สาน สิน สีน สุน สูน สอน สวน เสียน สง สาง สิง สก สาก สึก สิด
สุด สูด เสด เสิด สบ สาบ สิบ เสบ สม สุม เสม ค่าทียกตัวอย่างนี้ในแต่ละค่ามีการเขียนต่างกัน ออกเสียง
เหมือนกนั แตค่ วามหมายตา่ งกันตอ้ งเลอื กใช้ให้เหมาะสม

ตัวอย่ำงวอไวพจน์

ค่าวา่ “ สำน ”

เช่น ค่าว่า ตรำสนิ ตำมเคย หมายถงึ จ่าทรพั ยไ์ ว้

ค่าว่า “ สอน ”

เชน่ ค่าวา่ ไกรสร หมายถึง ราชสหี ์

คา่ ว่า “ สมุ ”

เชน่ ค่าวา่ มรสุม หมายถงึ คราวลม คราวพายุ

หอไวพจน์

หอไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า หาน หิน หุน โหน เหียน หัด เหด ค่าทียกตัวอย่างน้ีในแต่ละค่ามีการเขียน

ตา่ งกัน ออกเสียงเหมือนกันแตค่ วามหมายตา่ งกันต้องเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตวั อยำ่ งหอไวพจน์

คา่ วา่ “หำร”

เช่น ค่าว่า กลำ้ หำญ หมายถงึ ความทรหดอดทน

คา่ วา่ “โหน”

เช่น ค่าวา่ โหน หมายถึง ผู้ใหฤ้ กษ์ และพยากรณโ์ ชคชะตาราศี, หมอดู

ค่าว่า “หัด”

เช่น ค่าว่า สำหัศ หมายถึง รา้ ยแรง

ออไวพจน์

ออไวพจน์มีตัวอย่างค่าว่า อัน อิน อุน ออน อัด อิด อูด โอด ค่าทียกตัวอย่างนี้ในแต่ละค่ามีการเขียน

ต่างกัน ออกเสยี งเหมือนกันแตค่ วามหมายต่างกันต้องเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสม

ตวั อย่ำงออไวพจน์

คา่ ว่า “อนิ ” หมายถึง เทวดาองค์สา่ คญั ของศาสนาพราหมณ์
เช่น ค่าว่ำ พระอนิ ทร์ หมายถงึ ออ่ นเพลยี , อ่อนแรง
หมายถึง ปาก
คา่ ว่า“อดิ ”
เช่น คา่ วา่ อิดโรย

คา่ ว่า “โอด”
เช่น ค่าวา่ พระโอฐ

หน้ำ : ๖๒



พศิ ำลกำรันต์

หน้ำ : ๖๔

พิศำลกำรนั ต์

๏ จักแจกจา่ แนกเบ้อื ง แบบบัญ จมาแฮ
นามพศิ าลการนั ต์ เรียบไว้
คือตัวอกั ษรสรร เสรมิ ใส่ ท้ายเฮย
บ่ออ่านแตเ่ ตมิ ให้ ครบถว้ นขบวนคา่ ๚ะ
๏ พิ จิตรพิพธิ ถอ้ ย แถลงลกั ษณ น้ฤี ๅ
ศาล เชน่ ศาลสึงพกั ผอ่ นรู่
กา ละประสงคจ์ กั หางา่ ย ดายนา
รนั ต์ ระเบยี บแบบสู้ เสาะค้นคา่ ขยาย ๚ะ

๏ เรืองการันต์สรรแถลง สอนกุมารอ่านเขียน อักษรไทย พวกนักเรียน ทั้งเล่าอ่านชาญเชนจนเจนใจ รู้ใช้
ตัวสะกด ชือพิศาลการันต์ส่าคัญหมาย สอดเสริมท่านเติมปลาย มีเรียงรายไปจนทัวตัวการันต์ แบบโบราณ
ท่านเรียกทัณฑฆาฎ ไว้ส่าหรับฆ่าอักษรส่อส่าคัญ สังเกตกันว่าไม่อ่านนานๆ ลักษณตัวการันต์ทัณฑฆาฏ คือ
เป็นค่าข้างภาษาอืนๆไป ถ้าเป็นพวกค่าไทยไม่ใช้เลย จะนับตัวการันต์ปันวิภาค ก็มีมากยีสิบหกอักษร ในพวก
กอการันต์ปันประเภท คือบัลลังก์สังเกตในภาษา สังเกตเหตุเช่นนี้ ความในพระบาฬีนั้นมีหลาย อธิบายว่า
บลั ลงั กท์ นี ังนอน เหมือนขอเชิญท่านข้ึนนังบัลลังก์รตั น์ ความกช็ ดั เชิญขนึ้ แทน่ บรรจุ เป็นสองเงือนสองเงาเค้า
สุนทร อีกคา่ ว่าเขาวงก์จงสา่ เหนียก นีก็เรียกตามมคธก่าหนดได้ เช่นคา่ ไทยเรียกคลองมหาวงก์ เพราะคลองนี้
คดทสี ุดขุดไมซ่ อื จึงต้งั ชอื ตอ้ งตามความประสงค์ (จบกอการนั ต)์ ๚ะ

๏ (ข) ค่าทีเพิมตัวขอก็พอนับ มีประมาณเจ็ดศัพท์ คือเกิดทุกข์ทุกข์ยากล่าบากครัน เขียนสุนักข์นีตัวขอส่อ
ท้ายค่า เป็นทีส่าเหนียกบทพจมาน ธรรมพิสุทธิพระวิมุตติวิโมกข์ เป็นเครืองหลุดพ้นโลกย์โอฆสงสาร ให้ข้าม
ถึงฝง่ั กค็ อื ครูเป็นประธานในทิศสี หนงึ นามยศสมณะละโลกยี ์ น้ันกม็ ีคู่กบั สงั ฆราชา นแี ปลวา่ เปน็ ประธานสงฆ์
นิกร ถึงวันพระพระสวดปาฏิโมกข์ ซึงเกิดแต่อธิกรณ์อาบัติ กระษัตริย์เจริญศรี เวลาแห่โสกันต์ราชพิธี
ประทบั ทีเปลอ้ื งเครอื งอลังการ หอยสงั ขแ์ ตรสงั ขอ์ ีกศรีสงั ข์ ว่าประดังเสยี ให้ครบทีค่าขาน

๏ (ค) ลา่ ดับถัดจัดคอการันต์บท ที ไดเ้ ล่าเรยี นอย่าให้พลั้งระวงั ตน ต้องเขยี นใช้รอหันทุกแห่งหน ทีท้ายค่าคอ
คิดติดประดน เป็นองค์ให้ตรัสรู้มรรคผลา แต่ล้วนค่าเติมต่อคอการันต์ จากต่าหรับด่าไรยในค่าภีร์ สตางค์แน่
แปลนับแห่งร้อยส่วน ทีค่านวนแบ่งปันสรรตามที ส่วนแห่งร้อยแบ่งอวะยะกะมี ท่านเรียกชี้ชือสะตางค์ทาง
อนงึ โดยสังเกตวอเปน็ พอมรี อหัน มาเป็นการันต์ สังกดั นั้นคา่ ไทยใช้ประดน ฯ หนงึ เอาเลอื นลดลงเป็นไทยใช้
กันหนา คือองค์หนึงสององค์คงวาจา กับใชว้ า่ พระองคผ์ ู้ทรงธรรม์ กบั ค่าเรียกตรง ๆ พระองคเ์ จ้า ค่าพระองค์
ลงเค้าทุกสิงสรรพ์ ล้วนตอ้ งเขียนคอคิดติดการันต์ องเปลา่ นนั้ ใช้คงแต่องยวน ในหมวดคอการนั ตส์ รรลิขิต ฉัน
รวมคิดคา่ ใช้ทีไต่สวน กส็ มมุติว่าหมดบทจา่ นวน จงใครค่ รวญเขียนจ่าเภาะให้เหมาะความ (จบคอการนั ต์)

๏ (ฆ) ฆอระฆังการันต์ทัณฑฑาฏ เห็นนักปราชเขียนใช้ในสยาม คือพระสงต์องค์พระชีผู้มีนาม ในอารามของ
สงฆ์คงจะมี ใครอย่าดูถูกลูกพยัคฆ์ มันส่านักนิ์พุ่มไม้ในไพรศรี พอเติบใหญ่อ้วนอวบสักขวบปี เทียวไล่ล้างชีวี
สัตว์วายชนม์ ได้เห็นพระธ่ามรงค์พระทรงศักด์ิ ล้วนอ่านัคฆ์เพชรรัตนทั้งเครืองต้น อ่านัคฆ์นี้ในกระแสแปล
ยบุ ล คือของลน้ เลิศลบจบไผท จะนบั คา่ ราคาไมส่ น้ิ สุด คา่ สมมุติวา่ หาค่ามิได้ คา่ เดิมอนคั ฆไม่สไู้ พ

หนำ้ : ๖๕

พิศำลกำรันต์

เราะจึงได้แผลงอา่ นัคฆป์ ระจกั ษ์ความ หนึงพระซงฆ์ตรงกบั ศับท์มคธ มีในบทราชาศบั ทส์ ยาม แปลว่าแขง้ แห่ง
องค์พระทรงนาม ใครเลยลามพูดเล่นเห็นไม่ควร สีค่าฆอระฆังตั้งเป็นหมวด ทีตราตรวจค้นได้ไว้เป็นส่วน ฆอ
การนั ตบ์ รรจบครบจา่ นวน โดยกระบวนใช้ค่าเชน่ ร่าพรรณ์ (จบฆอการันต์) ๚ะ

๏ (จ) ค่าตัวจอส่อท้ายทัณฑฆาฏ เห็นฉลาดเหลือกว่าปัญญาฉัน มีสองค่า ๆ ต้นพลฉกรรจ์ กับฉกาจใจฉกรรจ์
จะเกียงงอน ฉกรรจ์ภาษาอะไรมิได้ทราบ รู้อยาบๆตามบุราณสารนุสร ท่านใช้จอการันต์สรรสุนทร จึงคิด
กลอนสอนนักเรยี นใหเ้ พียรจ่า ๚ะ (จบจอการนั ต)์ ๚ะ

๏ (ช) ตัวชอชือการันต์ปันเป็นพจน์ จงก่าหนดมีอยู่เพียงสามส่า เหนียกจงแน่เช่นกระแสในล่าน่า ท่านใช้ค่า
วา่ กษริ ามพุภุญช์มี แปลว่ากินนา่้ นมสมกับพจน์ หนึงค่าบทวลัญช์พระชินศรี นนั้ แปลวา่ รอยพระบาทนารถมุนี
อิกวาทีหนึงนั้นว่าสาขภญั ช์ แปลว่าหักกิงไม้ใช้จงชอบ ตามระบอบแบบอักษรจงผ่อนผัน ทั้งสามค่านี้ในข้อชอ
การันต์ กมุ ภกรรฐ์ทศกรรฐพ์ ระยามาร (จบชอการันต)์ ๚ะ

๏ (ฑ) ในค่าฑอไพรฑูริยเข้าหนุนท้าย มีอยู่หลายเลศไนยจะไขขาน เขาจัดเครืองไทยทานบูชากัณฑ์ อีก
โยคเกณฑก์ องกูณฑจ์ รญู โรจน์ พวกนักโทษทตี ้องเกณฑเ์ อากวดขัน ทถี กู ปรับนน้ั ตอ้ งรับราชทัณฑ์ แตล่ ดหยอ่ น
ผ่อนกันตามหนักเบา ภาคทัณฑ์น้ันแปลว่าแบ่งโทษ ที จึงโปรดต้ังหุ้มแพรนอกสฐาน พนักงานรับเครืองทุกสิง
สรรพ์ รู้ช่านาญชาญเชนทุกเวรวัน หนึงนามเรียกเขาสับด์บริภัณฑ์ ท้ังเจ็ดช้ันล้อมพระเมรุสิงขร หนึงของใช้
พระสงฆ์ทุกสิงสรรพ์ เรียกบริขารภัณฑ์โดยโวหาร ท้ังดีชัวทัวสัพพะสาธารณ์ นามขนานอีกเป็นสองของหนัก
เบา เลือกคัดเอาแต่บทมคธกลาย อธบิ ายบอกข้อฑอการนั ต์ (จบฑอการันต์) ๚ะ

๏ (ณ) ในหมวดตัวณอคุณเข้าหนุนท้าย กับไวพจน์บทละม้ายคล้ายๆกัน ชี้ส่าคัญแต่ตัวณอเข้าต่อเติม
คือกัณฑะตามนามนารายน์เดิม อลงกรณ์อาภรณ์ทั้งสองศับท์ นีแปลว่าเครืองประดับทุกสิง เครืองจองจ่าขือ
คาเป็นอาทิ ค่าท่านายแลทีทายโดยฤกษยาม ท่านเรียกนามนั้นว่าพยากรณ์ กับอีกค่าหนึงว่ามหาปกรณ์ คือ
ค่าภรี ส์ งั สอนใหญ่ขยาย นับจา่ นงเข้าในข้อณอการนั ต์ อนงึ ค่าวา่ วิจารณ์สารสนอง นับเปน็ สองกบั พจิ ารณ์ท่าน
คดั สรร นามขนานหลวงวจิ ารณ์จักรกิจ ชอื ขนุ นางอา้ งมาว่าในกลอน อทุ าหรณ์แห่งเหตุสงั เกตพจน์ วา่ ทวั ถึงไม่
ก่าหนดว่าใครๆ สมบูรณ์บริบูรณ์ว่าเต็มที ต้องรีบเข้ามาแก้อุทธรณ์ยุ่ง ทีพ่ายแพ้ย่อยยับต่องปรับปรุง ศาลใน
กรงุ นีต้ ่าหรบั รับอทุ ธรณ์ จ่าพวกหนึงรอหันการันต์ท้าย ฉนั ขอแรงแต่จงจา่ ใหช้ า่ นาญ (จบณอการนั ต์) ๚ะ

๏ (ดิ) ตัวดอเป็นการันต์คิดสรรบท ได้พบมีแต่ว่าดิเป็นการันต์ เหมือนค่าว่ารามเกียรด์ิเขียนไว้ชัด แปลว่า
ข้อบังคับแห่งในหลวง ตามกระทรวงราชกิจในสยาม หนึงวาจาเรียกวิภัดดิ์ในอัดถ์ เช่นค่าว่าบุญญาภิรัดด์ิราม
แปลว่าความยินดีทีการบุญ ตกลงมาเป็นไทยใช้มานาน นามขนานจอมจักรจาตุรนต์ หนึงค่าว่าปรีเปรมเกษม
สวัสดิ์ อีกยศศักด์ิศฤงฆารตระการมี อีกค่าว่าศักดินาบันดาศักดิ์ ต่าแหน่งในอาลักษณ์มีถ้วนถี ทั้งสูงศักด์ิต่า
ศกั ดร์ิ ักไว้ดี ไม่เปน็ ทบี าดหมางทางนกั เลง ไม่มีทอี ปุ ะถมั ภ์เพราะต่าศักดิ์ นามว่าหลวงนายศกั ดพ์ิ ระทรงตั้ง เปน็
นายเวรเจนการช่าบาญบงั แตค่ า่ แผลงว่ายุกดิ์โดยประสงค์ วธิ ีอยา่ งทางสงั สกฤษฎค์ ง นบั จา่ นงในลัทธดิ ิการันต์
ในหมวดดิอักษรอยู่ท่อนท้าย นับเรียงรายสามสิบสองได้จัดสรร ให้นักเรียนเพียรจ่าทีส่าคัญ ล่าดับบรรจบ
หมวดจงตรวจตรา (จบดกิ ารนั ต)์ ๚ะ

หนำ้ : ๖๖

พิศำลกำรันต์

๏ (ต) ต่อนต้ี อการันตจ์ ะสรรเสรมิ ตอการันตท์ ่านใช้ในวาจา แตก่ ่อนเก่าพูดเดาว่าโสกันต์ ทีคา่ น้ันเหน็ จะเพี้ยน
เพราะเปลียนแปลง หนึงราชาศัพท์สยามตามนุสนธ์ิ คือพระทนต์เรียกว่าฟันชั้นศับท์แสง ท่านแยกเป็นสอง
อย่างทางวจี ประสงค์ทีเปลียนผลัดสา่ ผัสกลอน พระอรหนั ตส์ ้นิ เขตรกิเลศไภย นิราศไรม้ ลทนิ สิน้ บาปบญุ ยสี ิบ
เกา้ เค้าคดมี ีอยู่หลาย ลว้ นคา่ ท้ายตัวตอเข้าต่อหนุน ทุกขอ้ คา่ อสุ า่ หจ์ า่ ไวเ้ ป็นทุน ไดอ้ ุดหนนุ ปัญญาปรีชาเชาวน์
(จบตอการนั ต)์ ๚ะ

๏ (ถ) ในพวกถอการันต์สรรลิกขิต จงวินิจแบบละบองเป็นของเก่า เหมือนติดถะท่าน้่าในส่าเนา ค่าไทยเรา
บทบาทว่าดาษเดียรถ์ หนึงสมัดถ์สามัดถ์อีกสามาดถ์ จงฉลาดรู้ในการจะอ่านเขียน บรมัดถ์พระค่าภีร์ทีเล่า
เรยี น ต้องมเี พยี รต้ังหนา้ พยายาม พระคา่ ภีร์มีชือว่าสาราดถ์ เปน็ ทีคาดแปลไล่ในสนาม แปลไดถ้ งึ ทีนีคงมีนาม
บาเรียญงามเก้าประโยคโลกย์นิยม หนึงค่าว่าพระหัดถ์คู่พระบาท เห็นเขียนคลาศเคลือนทีก็มีถม กวักพระ
หดั ถต์ รสั เรยี กวา่ เจา้ กรม พระต่าหรวจใหร้ ะดมกันดงู าน ค่าพระหัดถค์ นไทยใช้เช่นน้ี จา่ เภาะทรี าชาศับทส์ ฐาน
อนึงว่าคฤหัดถ์ได้จัดการ คือชาวบ้านหว่านเครือเจือระคน เผยพระโอษฐเอื้อนอัดถ์ตรัสประภาศ เสนามาตย
แจง้ อดั ถ์ไม่ขัดสน ทูลเสนอสนองบาทยุคล ตามยุบลศภุ อัดถ์ได้ชดั ความ กระแสสนุ ทรอดั ถ์ทีคัดไว้ ยังจ่าได้โดย
ประจักษ์ไม่พักถาม ทั้งอัดถ์แปลแท้รู้อย่าวู่วาม อย่าลวนลามลบหลู่ครูอาจาริย์ สิบสองค่าจ่าไวอ้ ยา่ ใหค้ ลาศ ที
ก่าหนดบทบาทเช่นบรรหาร ล้วนพวกถอการันต์หมันพิจารณ์ จะเขียนอ่านอย่าให้พลั้งระวังดู (จบถอการันต์)
๚ะ

๏ (ท) ต่อน้ีหมวดทอท่านบรรหารเหตุ จงสังเกตรอระคนปนกันอยู่ บอกส่าคัญแจกประเภทพิเศศใหญ่ ท่าน
เลือกคัดดัดแปลงแต่งเป็นไทย ก็เรียกใช้ว่าค่าฉันท์ประพันธก์ ลอน จะแจกพวกทอรอนั้นต่อไป จงใส่ใจจ่าแยบ
แบบยุบล เหมือนวันจันทรดวงจันทรจันทร์คราธ ประชาราษฎร์รู้ทัวทุกแห่งหน รอบดวงจันทร์เรียกว่าจันทร์
องค์พระภูบดินทร์นรนิ ทร์ราช ตรัสประกาศพวกกองกรมด้ังเขน ให้แยกยกตกกระทรวงหลวงอเรนทร์ แล้วให้
เกณฑ์หลวงนรินทรส์ ิ้นทั้งกรม ในกระทรวงหลวงภูเบนทร์สงิ หนาท อเรนทร์ชาติสงั หารท้ังซ้ายขวา ชือขุนนาง
วางเช่นเป็นต่ารา ปรเมนทร์ปรมินทร์แปลเป็นไทย ว่าเจ้าใหญ่อย่างยิงอย่ากริงความ องค์อรรคชาเยนทร์ยก
เป็นชือ มเหสีทีนับถือในสยาม นายนรินทร์ธิเบศร์วิเศศศักด์ิ นามตระหนักหุ้มแพรต่าแหน่งตั้ง พระอารามอ่า
มรินทร์ใกล้ถินวัง แต่คราวคร้ังกรุงต้นธนบุรี พระองค์อิศเรศร์ด่ารงถวัลย์ ทรงแผ่นดินโดยทศพิธธรรม์ ความ
เดียวกันกับค่ามหิธร ค่าตัดสินเช่นมหินธรศักดิ์ มีประจักษ์ชักมาอุทาหรณ์ พวกทรการันต์สรรเป็นกลอน พอช้ี
อย่างทางสอนนักเรียนเพียร ยังค่าอืนมีดืนอยู่โดยมาก จะวิภาคเนินช้าก็พาเหียร แบบทีในค่ามคธบทส่าเนียง
ท่านแปลงเปลียนกพ็ อร้กู ระท้คู วาม (จบทรการนั ต)์

๏ (ธ) ตัวธอเธอการันต์สรรลิกขิต ค่าวิจิตรแจกใช้ในสยาม ก่าหนดตามตัวทีแจกแยกการันต์ สังเกตเถิด ค่านี้
โวหารไทยใชว้ า่ ตัวอยา่ มัวคิด ข้อลิกขิตใช้แพร่งทุกแหง่ หน เบญจขันธ์คา่ มคธบทยบุ ล คือกองรูปเรียงไปจนกอง
วิญญาณ ส่าเนยี งพวกพลขันธส์ นันจ้า ค่าประพนั ธ์ผกู ฉันท์แลกลอนบท บทพจนป์ ระพันธ์สรรวาจา กค็ ือว่าผูก
ค่าประจา่ ความ พระฤๅษสี มมทิ ธฤิ ทธโิ อฬาร นบั แตก่ าลปฏิสนธปิ ระดนเดือน ดูดวงเดอื นบริสทุ ธิ์ คงจะได้โปร่ง
เปรืองเรืองปัญญา จา่ พวกธุการันตส์ รรวิภาค ทใี ช้มากในสยามะภาษา คือเผ่าพันธพ์ุ งษพ์ นั ธ์ญุ าตกิ า

หน้ำ : ๖๗

พิศำลกำรนั ต์

ฝ่ายบิดรมารดาสองตระกูล หนึงพินธ์ุโทพินธุ์เอกเอนกนับ โดยต่าหรับเรยี นไว้อย่าให้สญู ยกเอาสามสินธุ์เสริม
มาเพิมพูน ตามเค้ามูลการันต์ประพันธ์พจน์ ชลสินธุ์กับอีกว่าชลาสินธ์ุ แบบระบิลถ้อยค่าควรก่าหนด กระแส
สนิ ธุ์เปี่ยมฝัง่ ยังไม่ลด ปลากไ็ ลฮ่ บุ มดจนหมดรัง พระพไิ ชยชลสนิ ธ์ุได้ยินตอบ ใหช้ ืนชอบในอารมณ์ด้วยสมหวัง
ตวั ธอเธอการนั ตส์ รรวาจงั พอประทงั ความเขลาใหเ้ บาบาง (จบธอเธอการนั ต์) ๚ะ

๏ (น) ตัวนอนิลเติมท้ายมีหลายศับท์ เช่นค่าว่าไตรยรัตน์ท่านจัดวาง ด้วยเห็นพระโตกว่าพระสิ้นทั้งเมือง ทั้ง
รุ่งเรืองงามนักหลักนคร มีในกลอนอักษรสยาม ค่าข้อน้ีเป็นนิทัศน์ก็ชัดความ น้ีค่าไทยใช้ตามบทบาฬี แก่น
จนั ทนส์ รรใชเ้ ปน็ ไมห้ อม ของทีปลอมจนั ทน์แดงแดงแตส่ ี ยาทุกวันลักกระจนั ใชก้ ็มี ผดิ ค่าภีร์ โอสถรศจงึ คลาย
ตา่ ราวนั บาปเคราะห์จา่ เภาะเปลยี น พระผู้พงษ์กมลาศน์ฉลาดพอ เพราะติดต่อแต่บรมพรหมพงษ์ พระราชวัง
ต้ังนามไว้ตามเหตุ ว่าพระราชนิเวศน์เขตรประสงค์ สองวาจาควรใช้ใส่การันต์ พระทีนังสิงหาศน์สอาดเอียม
ทองค่าเลียมล้วนอร่ามงามขยัน อธิบายก็ไม่ออกบอกตรงๆ หนึงคนเขลาเชาวน์มึนไม่สู้แล่น ถึงจ่าแม่นเชิง
ฉลาดไม่ผาด จบนอการนั ต์) ๚ะ

๏ (บป) ล่าดับน้ีจัดวิธีทางขยาย วิธีไทยใช้มานานสารสุนทร ค่าบุบผะแปลว่าดอกบอกให้รู้ ค่าน้ีครูท่านแสดง
แผลงอักษร เช่นบุบผาแผลงบุษบากร เอามาใช้ในกลอนบัวบุษบ์มี แปลกันว่าดอกประทุมกุสุมชาติ เทียรฆรา
ษรวมลักษณ์อักษรศรี เป็นยาวส้ันสรรใช้ในวะจี บ่ารุงปรีชาเด็กเล็กๆเรียน ค่าตัวปอต่อเพิมเสริมไว้ท้าย ไม่สู้มี
มากหลายลิกขิตเขียน พระทรงศลิ ปแ์ ผลงศรกา่ ธรเตียน ธนูศลิ ปเ์ ขาไดเ้ รยี นรู้ช่านาญ อายเุ ทพยท์ ง้ั ปวงในสรวง
สวรรค์ นับดว้ ยโกฏิกลั ปกลั ป์ทุกช้ันสฐาน อภิรมยส์ มบตั ิชชั วาลย์ เนาพิมานมแี ตศ่ ขุ ทุกทวิ า (จบบปการนั ต)์

๏ (พ) ตัวพอพิณเพิมพจน์บทแถลง จะแจกแจงโดยล่าดับฉบับว่า อันทิศบูรพ์น้ีคือทิศบุรพา แต่เบื้องบรรพ์น้ัน
ว่าข้างก่อนกาล ฉบับบรรพ์แปลว่าแบบฉบับก่อน ทุกสิงสรรพ์ค่าสอนล้วนแก่นสาร หนังสือพิมพ์มีมาก็ช้านาน
กรมอักษรพิมพการช่านาญเรียง หนึงสบสรรพ์ค่าน้ีก็มีใช้ ขอมกับไทยปนพ้องเป็นสองเสียง แปลว่าพบทุกสิง
พอเทียบเคียง ว่าให้ตรงกับส่าเนียงก็ยากครัน ตัวพพิณสิ้นถ้วนค่านวนนับ มีอยู่เพียงห้าศับท์เช่นจัดสรร แจก
หมดเทา่ น้ีหนอพอการันต์ ได้สา่ คญั ควรคิดพนิ จิ ตาม (จบพการันต์) ๚ะ
๏ (ภ) ภภรรยาเติมท้ายขยายแยก จะจ่าแนกค่าใช้ในสยาม ราษีกุมภ์ข้างต้นเห็นฝนงาม ข้างปลายทรามเสือม
แล้งดินแห้งไป ต่าแหน่งข้าราชการนั้นมีถม จตุสดมภ์ท้ังสีเป็นทีใหญ่ คือเวียงวังคลังนาต่าราไทย เวียงนี้ใช้คือ
กรมนครบาล เจ้าพระยาธรรมาตา่ แหนง่ ตง้ั ต่าแหนง่ คลังกรมทา่ ไดว้ ่าขาน กรมนาเจ้าพระยาพนักงาน พลเทพ
เป็นประธานธบิ ดี พนสดมภ์แปลนิยมอยา่ งแบบเกา่ ว่าปา่ เสาเลก็ ใหญ่ในไพรศรี อีกใชค้ ่าอปุ ถัมภใ์ นวาที ก็ตอ้ ง
มีเติมต่อตัวภอปลาย สยามูปะสดัมภ์ชือก่าปั่น ต้องมีภอการันต์ส่าคัญหมาย แปลว่าค่้าชูไทยไนยธิบาย อีก
โกสุมภ์สุดท้ายว่าดอกค่า อีกอย่างหนึงกุสุมะเป็นโกสุม ก็มีชุมใช้มากแต่หลากส่า เนียงไม่มีเติมต่อภประจ่า
แปลในค่าน้ีว่าดอกมะลิลา ชักให้เห็นพอเป็นทีเปลียนแปลก ท่านใช้แยกอย่างมคธะภาษา ตัวอักษรส่อความ
ตามวาจา ท่านผ้มู ีปรชี าควรไตรตรอง (จบภอการันต์)

หน้ำ : ๖๘

พิศำลกำรันต์

๏ (ม) ค่าตัวมอต่อเสริมเติมข้างท้าย เหมือนเจ้านายส้ินพระชนม์ยุบลสนอง พระทรงธรรม์ทรงยุติธรรมครอง
พระไทยปองศุขสวัสดิ์โดยสัตย์ธรรม์ นายอ่าเภอเผลอเงือนท่าเกลือนกลบ สาระบบสารกรมธรรม์นัน
เหมือนกับให้โอกาศตัวทาษมัน ได้ส่าคัญเรืองรู้ต่อสู้นาย คนทีใจอาธรรม์มักหันเห มักทุ่มเทไปข้างทางล่าเอียง
หลาย อสรพศิ มข์ บตอดไม่รอดตาย เปน็ ไขพ้ ศิ มแ์ ก้ไมค่ ลายก็วายชนม์ ยาพิศม์ของพศิ ม์สา่ แลงเลา่ เขยี นกค็ งลง
เค้าทุกแห่งหน แผลเป็นไข้ทรพิศม์ติดสกนธ์ เจริญชนม์ทฤฆายุศม์ยืนยาว จ่าพวกมการันต์ปันประเภท ตาม
สังเกตค่าใช้ได้สืบสาว แมน้ จา่ แม่นคงใหค้ ุณตามรนุ่ คราว มิได้แสรง้ แกลง้ กลา่ วคา่ ลอ่ ลวง (จบมการนั ต์)

๏ (ย) ยินยลการันต์จัดสรรพจน์ อาจาริย์สอนกลอนกาพย์สิ้นท้ังปวง ทุกกระทรวงเจนจัดเป็นอัศจรรย์ พระ
เจดีย์ทีบรรจุบรมธาตุ เทวราชสิงสถิตย์ทุกเขตรขัณฑ์ ทั้งหมู่เทพย์บูชาไม่ราวัน มหัศจรรย์ของทิพย์เทพย์บูชา
อาทิตย์แทตย์อีกพระยามหาเทพย์ เห็นใช้มากมักจะมีทุกทีถิน เห็นน่าดูหมู่อ่ามาตย์นารถนรินทร์ โยธามาตย์
ดังจะบินพโยมบน เยาวมาลย์ดวงมาลย์ตาลวิมุติ เป็นบุรษย์ปราโมทย์ประโยชน์ผล อภิรมย์รืนรศเสาวคนธ์
ส่าราญรมย์เพราะได้ดลบุรีรมย์ อ่ามฤตย์นฤพานประหานทุกข์ บันลุศุขบริสุทธิวิมุติสม สัตว์ในโลกย์เหมือน
เป็นโรคงอมระงม ถึงกระนั้นก็ไม่นียมศุขนิพพาน ท้าวโกสีย์มีเทพอาวุธ พระขรรค์เพชรฤทธิรุดม์ส่าหรับ
ประหาร รังษีเพชรแจ่มจ่าหรัสชัชวาลย์ พวกอะสูระหมู่มารปะราไชย์ กรุงกระษัตริย์ถวัลย์รัชมไหสูรย์ เรือง
จรญู เฉกแสงสรุ ิยะใส วรวากยว์ าทีมีเลศไนย์ ทนี ังไอสวรรย์อาศน์ลออตา บังแทรกบงั สูรย์อีกแสงสูงย์ แกว้ ไพร
ฑูริย์ส่องแสงจรัสกล้า คนทีมังมีทรัพย์นับภารา ทั้งสินทรัพย์เงินตราอเนกนอง อาจาริย์สอนทางชอบประกอบ
กิจ ผู้เป็นศิศยค์ วรทดแทนสนอง ตามวิไสยบณั ฑติ ยค์ ิดปกครอง โดยทา่ นองซอื สัตยถ์ ือสตั ยธ์ รรม์ ไพรผ่ ้ดู มี ีทุกข์
ด้วยกันหมด อดูลย์ยศยามวิโยคก็โศกศัลย์ ใจอาสัตย์มักสลัดสัตย์เสียพลัน ค่าสัตย์มันช่วยตนพ้นไภยพาล ค่า
หาโจทย์ๆฟ้องต้องพิพาทย์ เกิดวิวาทกันข้ึนในโรงศาล พวกนักเลงพิณพาทย์ฉลาดการ แบ่งกันเทียวรับงาน
เหมาลคร จ่าพวกนี้มีมากวิภาคพจน์ ล้วนเป็นบทยอการันต์สรรอักษร ว่าย่อๆพอก่าหนดในบทกลอน สิ้นนิกร
ยอเพมิ เตมิ ประดน (จบยการนั ต)์ ๚ะ

๏ (ร) ถัดนไี้ ปตัวรอเข้าต่อบท จงจา่ จดโดยพิจารณ์ศารนสุ นธ์ิ คือวนั เสาร์หา้ ค่าท่ามงคล สรา้ งหนังสอื สวดมนต์
สองคา่ ภรี ์ นิ้วมอื สวมแหวนเพชร์เพชร์รัตน์ งามจรสั รุ่งเรืองเจริญศรี เทเวศรอ์ งคน์ เรศร์นฤบดี อีกวาทีขุนธรรม
ลังการ์ อิศเรศร์รังสรรค์ยัญญสูตร ค่าน้ีพูดตามมคธภาษา พระวิสูตร์วารีมีสมญา วิสูตร์ว่าม่านก้ันสุวรรณวาม
สายสิญจนสูตรพระสงฆ์จับ อีกพระสูตรเนืองนับปิฎกสาม ธรรมสาตรไว้ส่าหรับระงับความ โหราสาตร์มีนาม
ว่าสารัมภ์ ไสยะสาตรๆนี้ค่าภีร์เภท สีเสวตร์น้ันท่านกล่าวว่าขาวข่า ประจามิตร์มีแต่คิดจะก่อกรรม หมู่อมิตร
มักจะท่าให้อันตราย ธรรมเนียมคนรอบคอบระบอบกิจ รักษาไมตรีจิตรมิตรสหาย บัวไม่ช่้าน้่าไม่ฉานราญ
ระคาย จับแต่ปลากินสบายจนเบือกิน วรจักร์กับอีกว่าอาณาจักร์ ผู้พิทักษ์เขตรมีทุกทีถิน อัฒจักร์แบ่งกึงครึง
แผน่ ดิน เขตรของกวินจบสดุ สงิ คโปร์ เลขนา่ เบอรน์ ีคือบอกวา่ เลขหมาย อฟเิ ซอรต์ วั นายมหี ลายโหล ลการันต์
มีใช้แตไ่ มล์โมล์ นเี ปน็ โวหารนอกบอกคดี (จบรลการนั ต)์ ๚ะ

๏ (ว) จ่านวนค่าตัววอมีต่อท้าย อุบาทว์ร้ายบอกฤกษในราษี ต้องริบราชรบาทว์ทับทวี ของรบาทว์ก็ยังมีเอา
จ่ายการ ทรงพระเยาวย์ ่อมเยาว์เค้าลขิ ิต จัตบุ าทสตั ว์ชนิดเดยี รัจฉาน เกลอื สินเธาว์มาแต่เหนือเกลือบุราณ มา้
ขา้ งจีนนามขนานม้าเซ็กเธาว์ เวรนายควรรอู้ ศั ว์ได้จัดมา้ ไมเ่ นินช้าแกวน่ กลเป็นคนเก่า ด่ารศั สะแผลงฦกซึ้งไม่
เบา ในแบบเก่าแผลงเป็นหรัศว์มี ค่าตัววอเติมท้ายขยายแยก อย่างจ่าแนกแบบเหมือนไม่เคลือนที อุส่าห์จ่า
ส่าเนาเคา้ วาที คงจะปรีชาชัดชนิ ช่านาญ (จบวการนั ต์) ๚ะ

หนำ้ : ๖๙

พิศำลกำรนั ต์

๏ (ส) อันตัวสุสนิ ท้งั สามว่าตามเหตุ ได้สังเกตแบบลิกขติ โดยวดิ ถาร ทใี ช้เปน็ การนั ต์สรรพิจารณ์ เหน็ สาธารณ์
ใชม้ ากแต่ษอบอ เหมือนประจกั ษแ์ ผลงบทว่าปรตยักษ์ อีกพิทกั ษป์ รปักษว์ ่าย่อๆ กับปักษข์ ้ึนปักษ์แรมแถมเข้า
พอ เป็นค่าส่อตัวท้ายฝ่ายการันต์ ข้างขึ้นใช้ชุษณะกับศุกระปักษ์ ข้างแรมยักเป็นกฤษณะนัน กับอีกว่ากาฬ
ปกั ษเ์ พราะพระจนั ทร์ ขา้ งแรมน้ันดา่ ทัวมัวอมั พร ไพรพฤกษ์พฤกษาพระยายักษ์ บริรักษอ์ ย่ทู รี มิ ยอดศงิ ขร จะ
เฝ้าเทพารักษ์จงรีบจร สุรารักษ์องค์อมรมหิทธิฤทธ์ิ ศิวะโมกษ์ข้ามโอฆสงสาร ปาโมกษ์ว่าเป็นประธานแก่
หมู่ศิศย์ จันทร์คาธอากาศดูมืดมิด จับข้างทิศเฉียงเหนือเจืออุดร ไปถึงโมกษ์บริสุทธ์หลุดข้างใต้ เหล่านี้ใช้ษ
อบอเติมอักษร หนึงวงษ์พงษ์ทีจ่านงในบทกลอน อุทาหรณ์เห็นชัดอัดถ์พิปราย ตระกูลวงษ์พงษ์ศักดิ์ทีสูงสุด
โดยสมมตุ มิ ีมากหลากหลากหลาย รามะวงษอ์ า้ งองค์พระนารายน์ สบื เชอ้ื สายสมมตุ วิ ิสุทธิวงษ์ วงษ์กระษัตริย์
ชกั มาข้างอาทิตย์ คา่ ลขิ ติ สอ่ ความตามประสงค์ ระววิ งษก์ บั อีกว่าภาณุวงษ์ ใช้อาทิตยตรงๆน้นั ก็มี สรุ ิยะสุระก็
มีมาก ข้างต้นหลากปลายว่าวงษ์อยู่คงที อกั ษรทา้ ยษอบอต่อทวี ทกุ วาทวิ งษพ์ งษ์คงประจา่ หนึงไตรยางษ์ทาง
แจกแยกอักษร เป็นสามบ่อนสามส่วนก็ควรส่า เหนียกให้เป็นส่วนลงจงแม่นย่า จัดตามค่าเสียงสูงแลต่ากลาง
อานิสงษ์ปราสงษ์พระยาหงษ์ โดยจ่านงในพิเคราะห์ได้เสาะสาง กับหืนหรรษ์ค่าใช้ท่านไว้วาง ล้วนเป็นทาง
ถินษอบอการนั ต์ (จบการันต)์ ๚ะ

๏ (ห) พวกตัวหต่อท้ายมหี ลายศับท์ ประมาณนับยีสิบเจ็ดท่านจัดสรร คือสปั ดาหแ์ ปลว่าในเจ็ดวัน เมือเดินมา
ปะมาห์มันหลอกหลอน เทวดาดาวพระเคราะห์จ่าเภาะจร พระภูธรอนุเคราะห์สงเคราะห์เรา บาปเคราะห์น้ี
จ่าเภาะว่าเคราะห์รา้ ย อธิบายสมเคราะห์ตามแบบเก่า กระษัตริย์ตามเรืองนิยายแต่ฝ่ายบรรพ์ หนึงพระสุณห์
วาที ชือขุนนางหลวงเสนห่ ์ศรชติ หลวงสนทิ อาวธุ แบบกระสวน นายเสนห่ ห์ ้มุ แพรแห่กระบวน นายสนิทคู่ควร
สมทบเวร เป็นจ่าพวกตัวหต่อเติมปลาย อธิบายบอกส่าเนาเค้าวจี ฉันอุส่าห์เพียรคิดประดิดแถลง สู้แจกแจง
จัดบ่อนอกั ษรศรี จัดเป็นหมวดตรวจถ้อยทุกวาที ดว้ ยจติ รมเี มดตาเป็นสาธารณ์ เห็นเด็กๆนักเรยี นเพียรศึกษา
เหมือนบุกป่าบุกพงน่าสงสาร ไม่พบผลูลู่ทางด้นกันดาร ต้องหนักใจใครจะปานด้วยมืดมน จึงคิดคัดจัดแบบ
แยบขยาย บรรยายตดิ เนอื งเรืองนสุ นธิ์ พอไดเ้ ป็นราวทางอย่างยบุ ล นักเรียนทกุ ทกุ คนหมนั ดูจา่ เสยี แรงวา่ สา
ราหวังไว้สังสอน ส่าเนียงกล่าวส่าเนากลอนไขข้อข่า บทไม่คลาศบาทไม่เคลือนไม่เอ้ือนอ่า นิเทศท่าน่าทาง
สว่างเอย ๚ะ

๏ จบขบวนเขบ็จเบ้อื ง แบบบรรณ์
กลอนพิศาลการนั ต์ เรืองน้ี
จดั แจงแบ่งปนู ปัน เป็นหมวด ไว้นา
เผยแผ่พจนพ์ ากย์ลี้ ลับอา้ งออกแถลง ๚ะ

อกั ษรประโยค

หนำ้ : ๗๐



คำถำมทบทวน

หนำ้ : ๗๒

คำถำมทบทวน

๑. มลู บทบรรพกิจ ประกอบไปด้วยหัวขอ้ ทัง้ หมดกีหัวขอ้

ก. ๑๖ หัวข้อ ข. ๑๗ หวั ข้อ ค. ๑๘ หวั ข้อ ง. ๑๙ หวั ข้อ

๒. ค่าในขอ้ ใดจัดเปน็ อกั ษรต่าทง้ั หมด

ก. คา่ กา ไห ข. เงา ใจ ขา ค. งู ตา่ ผี ง. คา ฆี งา

๓. คา่ ในขอ้ ใดจดั อย่ใู นอักษรสงู แม่กดทั้งหมด

ก. เขยี ด เฉยี ด ขาด ข. ขดู จดั คัด ค. จดั คาด ขดุ ง. เกดิ กอด ฉีด

๔. มลู บทบรรพกจิ ไม่ไดก้ ลา่ วถึงเรอื งใด

ก. คา่ ใชไ้ มม้ ้วน ไม้มลาย ข. อกั ษรคา่ ตาย ค. พศิ าลการนั ต์ ง. ศับทส์ ังขยา

๕. กรุบกริบ ถ้าอ่านแบบอกั ษรนา่ จะอา่ นวา่ อย่างไร

ก. กระหรุบกระหริบ ข. กะหรุบกะหริบ ค. กะหรบุ กะริบ ง.กระหรบุ กะหรบิ

๖. สา่ เนยี งสงู ข้ึนไดท้ ้ังหมดกอี ักษร

ก. ๑๑ อักษร ข. ๑๒ อกั ษร ค. ๑๔ อักษร ง. ๘ อักษร

๗. วธิ อี ักษรไทย มอี กั ษรเสียงสูงกีอกั ษร

ก. ๘ อกั ษร ข. ๑๑ อกั ษร ค. ๑๒ อกั ษร ง. ๑๔ อักษร

๘. อกั ษรทจี งู อกั ษรต่าให้มีเสียงสูงข้นึ อยา่ งเดยี ว อ่านไมต่ ้องออกส่าเนียงตวั คือตวั อะไร

ก. ข ข. ผ ค. ฝ ง. ห

๙. คา่ ควบกล้่า หมายถึง ขอ้ ใด

ก. พยัญชนะทีมี ๓ ตวั ข. พยัญชนะตน้ ทีมตี ัว ร ล ว ค
ค. พยัญชนะทีออกเสียง ร ล ว ง. พยญั ชนะตน้ ทีมี ๒ ตัว ออกเสียงควบกบั ร ล ว

๑๐. อักษรสามหมู่ในเลม่ นจ้ี ะแจกประโยคแต่อักษรกลาง ๔ ตวั มอี ะไรบา้ ง

ก. ก ด บ อ ข. ก จ ต ป ค. จ ด ต ป ง. ก ด ต บ

๑๑. พยญั ชนะใดไมใ่ ชต่ วั ควบกล้า่

ก. ข ข. ร ค. ล ง. ว

หนำ้ : ๗๓

คำถำมทบทวน

๑๒. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ า่ ควบกล่า้

ก. ทรุดโทรม ข. เปลียนแปลง ค. ลกุ วาว ง. ขวนขวาย

๑๓. ค่าในข้อใดจดั อยใู่ น ขอ ไวพจน์ ที ๒ ทุกคา่ ข. การมงคล บคุ คล บุทคล ขอบคนั
ก. แขงขนั กวดขนั ขัณฑสมี า ไชยขรรค์ ง. ผา้ ขาวพับ ให้เปนภพั อาภพั ล้มพงั พาบ
ค. ความทกุ ข์ ทกุ ข์ยาก ทดน่้า แทนทด

๑๔. สงั โยคพธิ าน มีเนอ้ื หาเกยี วกับเรอื งใด
ก. ถอ้ ยค่าขบวนหนงึ มีอกั ษรเพิมไวข้ า้ งทา้ ยคา่ แตม่ ิใช่ตวั สะกด เรยี กชอื วา่ การนั ต์
ข. ถอ้ ยคา่ ขบวนหนงึ มสี ระเพิมไวข้ า้ งค่า
ค. รวบรวมตวั อักษร ทีใชส้ ะกด ในแมก่ น กก กด กบ
ง. รวบรวมสระ ทีใชป้ ระสมคา่

๑๕. ถ้อยค่าขบวนหนึง มีอักษรเพิมไว้ข้างท้ายค่าแต่ไม่ใช่ตัวสะกด เติมลงไว้เพือจะใช้เต็มค่าซึงมาแต่ภาษา

มคธ และเสียงภาษาอืนบา้ ง เสียงไทยอา่ นไม่ตลอดไปถงึ จงึ ลงไม้ไว้เป็นทสี งั เกตว่าไม่อ่าน ควรเรียกชือวา่ ......

ก. วรรณยกุ ต์ ข. ตัวสะกด ค. สระ ง. การนั ต์

๑๖. ลักษณใช้ถ้อยค่าขบวนหนึง ตัวต่างกันแต่อ่านออกเสียงเหมือนกัน บางทีตัวเดียวกันแต่ตัวสะกดต่างกัน

อ่านออกเสียงอย่างเดียวกัน และต่างส่าเนยี งสน้ั บ้างยาวบ้าง ควรสังเกตจ่าไว้ ค่าทีต่างด้วยตัวสะกดนั้น ได้จัด

แจกไว้ใน.............แต่ยังแยกย้ายเรียรายกันอยู่ จึงคิดคัดจัดค่าทีมีส่าเนียงเดียวกัน มารวบรวมเข้าไว้เป็น

หมวดหมู่กัน ให้ชอื วา่ ................

เติมคา่ ใสนช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง

ก. สงั โยคพธิ าน พศิ าลการันต์ ข. สังโยคพิธาน ไวพจน์พจิ ารณ์

ค. ไวพจน์พิจารณ์ พศิ าลการันต์ ง. ไวพจน์พจิ ารณ์ สงั โยคพธิ าน

๑๗. ค่าในข้อใดถกู ต้อง

ก พิสานการนั ต์ ข. พสิ ารการนั ต์ ค. พสิ าสการนั ต์ ง. พิศาลการนั ต์
ง. การันต์
๑๘. คา่ วา่ ในขอ้ ใดผิด
ง. เพิมท้าย
ก. การร์ ันต์ ข. การัน ค. การัลต์ ง. ม์

๑๙. เรียงเทียบเรียบถอ้ ยถ่อง ทางบรรพ์

นาม…………….. เรอื งน้ี

เขยี นตัวแต่บอสรร เสยี งอา่ น

จะชกั เชน่ ชี้ เชดิ อา้ งอย่างเห็น

จงเติมค่าในชอ่ งว่างให้ถกู ต้อง

ก. พศิ าลการนั ต์ ข. ตามพากย์ ค. ยาม

๒๐. จงเติมตัวอักษรท้ายค่าให้ถูกต้อง พระขรร

ก. ค์ ข. ข์ ค. ก์

หน้ำ : ๗๔

เฉลยคำถำมทบทวน

๑. มูลบทบรรพกิจ ประกอบไปดว้ ยหวั ข้อทง้ั หมดกหี ัวข้อ

ก. ๑๖ หัวขอ้ ข. ๑๗ หัวข้อ ค. ๑๘ หวั ขอ้ ง. ๑๙ หัวขอ้

๒. คา่ ในขอ้ ใดจดั เปน็ อักษรต่าท้งั หมด

ก. ค่า กา ไห ข. เงา ใจ ขา ค. งู ตา่ ผี ง. คา ฆี งา

๓. คา่ ในขอ้ ใดจดั อยู่ในอกั ษรสูงแมก่ ดทั้งหมด

ก. เขยี ด เฉยี ด ขาด ข. ขดู จัด คัด ค. จดั คาด ขุด ง. เกิด กอด ฉดี

๔. มลู บทบรรพกิจไมไ่ ดก้ ลา่ วถึงเรืองใด

ก. คา่ ใช้ไมม้ ้วน ไมม้ ลาย ข. อกั ษรคา่ ตาย ค. พศิ าลการันต์ ง. ศบั ท์สงั ขยา

๕. กรุบกริบ ถ้าอา่ นแบบอกั ษรน่าจะอา่ นวา่ อยา่ งไร

ก. กระหรบุ กระหรบิ ข. กะหรุบกะหรบิ ค. กะหรบุ กะรบิ ง.กระหรบุ กะหรบิ

๖. สา่ เนียงสูงขน้ึ ได้ท้ังหมดกอี ักษร

ก. ๑๑ อกั ษร ข. ๑๒ อักษร ค. ๑๔ อกั ษร ง. ๘ อักษร

๗. วิธีอักษรไทย มอี ักษรเสยี งสงู กีอักษร

ก. ๘ อกั ษร ข. ๑๑ อักษร ค. ๑๒ อักษร ง. ๑๔ อักษร

๘. อกั ษรทจี งู อักษรต่าใหม้ ีเสยี งสูงขึน้ อย่างเดยี ว อา่ นไมต่ อ้ งออกสา่ เนียงตัวคือตวั อะไร
ก. ข ข. ผ ค. ฝ ง. ห

๙. คา่ ควบกลา่้ หมายถึง ข้อใด ข. พยัญชนะต้นทีมีตัว ร ล ว ค
ก. พยัญชนะทีมี ๓ ตวั ง. พยัญชนะตน้ ทีมี ๒ ตัว ออกเสียงควบกบั ร ล ว
ค. พยญั ชนะทีออกเสยี ง ร ล ว

๑๐. อักษรสามหม่ใู นเล่มนจ้ี ะแจกประโยคแตอ่ ักษรกลาง ๔ ตวั มอี ะไรบา้ ง

ก. ก ด บ อ ข. ก จ ต ป ค. จ ด ต ป ง. ก ด ต บ
ง. ว
๑๑. พยัญชนะใดไม่ใช่ตัวควบกล้า่

ก. ข ข. ร ค. ล

๑๒. ข้อใดไมใ่ ช่คา่ ควบกล้า่ ข. เปลยี นแปลง ค. ลุกวาว ง. ขวนขวาย
ก. ทรดุ โทรม

หนำ้ : ๗๕

เฉลยคำถำมทบทวน

๑๓. คา่ ในขอ้ ใดจดั อยูใ่ น ขอ ไวพจน์ ที ๒ ทุกคา่ ข. การมงคล บคุ คล บุทคล ขอบคัน
ก. แขงขนั กวดขนั ขัณฑสีมา ไชยขรรค์ ง. ผา้ ขาวพบั ใหเ้ ปนภัพ อาภัพ ลม้ พงั พาบ
ค. ความทุกข์ ทกุ ขย์ าก ทดน่้า แทนทด

๑๔. สังโยคพิธาน มเี นอ้ื หาเกียวกับเรืองใด
ก. ถ้อยค่าขบวนหนึง มีอกั ษรเพมิ ไว้ขา้ งทา้ ยคา่ แตม่ ใิ ช่ตัวสะกด เรียกชอื ว่า การันต์
ข. ถอ้ ยคา่ ขบวนหนึง มีสระเพมิ ไว้ข้างคา่
ค. รวบรวมตวั อักษร ทีใชส้ ะกด ในแมก่ น กก กด กบ
ง. รวบรวมสระ ทีใช้ประสมคา่

๑๕. ถ้อยค่าขบวนหนึง มีอักษรเพิมไว้ข้างท้ายค่าแต่ไม่ใช่ตัวสะกด เติมลงไว้เพือจะใช้เต็มค่าซึงมาแต่ภาษามคธ

และเสยี งภาษาอืนบ้าง เสยี งไทยอ่านไมต่ ลอดไปถึงจึงลงไม้ไวเ้ ป็นทีสังเกตว่าไม่อา่ น ควรเรยี กชอื ว่า......

ก. วรรณยกุ ต์ ข. ตวั สะกด ค. สระ ง. การนั ต์

๑๖. ลักษณใชถ้ อ้ ยค่าขบวนหนงึ ตัวตา่ งกันแต่อา่ นออกเสียงเหมือนกนั บางทตี วั เดียวกันแต่ตัวสะกดต่างกัน อา่ น

ออกเสียงอย่างเดียวกัน และต่างส่าเนียงสั้นบ้างยาวบ้าง ควรสังเกตจ่าไว้ ค่าทีต่างด้วยตัวสะกดน้ัน ได้จัดแจกไว้

ใน.............แต่ยงั แยกย้ายเรียรายกันอยู่ จึงคิดคัดจัดค่าทีมีส่าเนียงเดยี วกัน มารวบรวมเข้าไว้เป็นหมวดหมู่กัน ให้

ชือวา่ ................

เติมคา่ ใสนช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง

ก. สังโยคพธิ าน พิศาลการนั ต์ ข. สงั โยคพิธาน ไวพจนพ์ จิ ารณ์

ค. ไวพจนพ์ จิ ารณ์ พศิ าลการันต์ ง. ไวพจน์พิจารณ์ สงั โยคพธิ าน

๑๗. คา่ ในข้อใดถูกต้อง

ก พสิ านการนั ต์ ข. พิสารการนั ต์ ค. พิสาสการนั ต์ ง. พิศาลการนั ต์
ง. การนั ต์
๑๘. ค่าว่าในขอ้ ใดผิด
ง. เพมิ ท้าย
ก. การร์ นั ต์ ข. การัน ค. การัลต์ ง. ม์

๑๙. เรยี งเทยี บเรียบถอ้ ยถ่อง ทางบรรพ์

นาม…………….. เรอื งน้ี

เขียนตัวแต่บอสรร เสียงอา่ น

จะชักเชน่ ช้ี เชิดอ้างอยา่ งเห็น

จงเตมิ ค่าในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

ก. พศิ าลการนั ต์ ข. ตามพากย์ ค. ยาม

๒๐. จงเตมิ ตวั อักษรท้ายคา่ ใหถ้ ูกตอ้ ง พระขรร

ก. ค์ ข. ข์ ค. ก์

หน้ำ : ๗๖


Click to View FlipBook Version