เนื้อเรอื่ ง ผลไมม้ ี ๑๔ ชนิด คือ
๑. ลกู ชดิ ๕. มะม่วง ๙. ผลเกด ๑๓. เงาะ
๒. ลกู ตาล ๖. ลนิ้ จี่ ๑๐. ทบั ทิม ๑๔. สละ
๓. ผลจาก ๗. ลูกพลบั ๑๑. ทเุ รยี น
๔. มะปราง ๘. นอ้ ยหนา่ ๑๒. ลางสาด
# ภาษาไทยไม่จ๊กั เดยี ม
พิจารณาบทเหช่ มผลไม้แตล่ ะชนดิ ต่อไปน้ี แลว้ +2
แสดงความเห็นรว่ มกนั กับครู
1. ผลจากเจา้ ลอยแกว้ บอกความแลว้ จากจาเปน็
2. หมากปรางนางปอกแลว้ ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
3. น้อยหน่านาเมล็ดออก ปลอ้ นเปลอื กปอกเป็นอศั จรรย์
4. ทบั ทมิ พรม้ิ ตาตรู ใสจ่ านดูดจุ เมด็ พลอย
5. ทเุ รียนเจียนตองปู เน้ือดดี เู หลอื งเรืองพราย
6. ผลเงาะไมง่ ามแงะ มลอ่ นเมลด็ และเหลือปญั ญา
เนอ้ื เรื่อง เคร่ืองหวานมี ๑๖ ชนิด คือ
๑. ขา้ วเหนียวสังขยา ๕. ลดุ ตแี่ ผน่ กลม ๙. ขนมผิง ๑๓. จา่ มงกฎุ
๒. ซา่ หร่มิ ๖. ขนมจบี ๑๐. ขนมเรไร ๑๔. บวั ลอย
๓. ลาเจียก ๗. ขนมเทยี น ๑๑. ทองหยอด ๑๕. ช่อมว่ ง
๔. มัศกอด ๘. ทองหยิบ ๑๒. ทองมว้ น ๑๖. ฝอยทอง
# ภาษาไทยไม่จ๊กั เดียม
คณุ คา่ ด้านเนื้อหา
กาพย์เหช่ มเคร่ืองคาวหวานบรรยายอาหารคาวหวานและผลไม้ไดอ้ ย่างละเอยี ด นับเปน็ วรรณคดี
เรอื่ งหน่ึงที่แสดงให้เหน็ ถึงวัฒนธรรมและสังคมไทยได้อย่างชัดเจน โดยมหี วั ข้อ ดงั นี้
๑ ให้ความรวู้ ฒั นธรรมด้านอาหารของไทยในอดีต
๒ สะทอ้ นสภาพบ้านเมืองในอดตี
ใหค้ วามรูว้ ัฒนธรรมด้านอาหารของไทยในอดีต
กาพยเ์ หช่ มเคร่ืองคาวหวานสะทอ้ นให้เห็นถึงความละเอียดออ่ น พถิ พี ถิ นั ในทุกขน้ั ตอนของการปรุง
อาหารประเภทต่าง ๆ ตวั อยา่ ง
นอ้ ยหนา่ นาเมล็ดออก ปลอ้ นเปลือกปอกเปน็ อัศจรรย์
มือใครไหนจกั ทนั เทียบเทียมท่ฝี มี ือนาง
อกี ทั้งมกี ารกล่าวถึงอาหารทไ่ี ม่ค่อยพบเห็นในปจั จบุ นั มากนัก เชน่ แสร้งว่า หรมุ่ ล่าเตียง มศั กอด อาหาร
เหล่านส้ี ร้างความสนใจให้แก่ผ้อู ่านใหไ้ ปค้นหาต่อวา่ รสชาตขิ องอาหารชนดิ น้ีเปน็ อย่างไร ตวั อยา่ ง
เหน็ หรมุ่ รมุ ทรวงเศรา้ รมุ่ รุม่ เร้าคอื ไฟฟอน
เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรุมรมุ่ กลุ้มกลางทรวง
คุณค่าดา้ นสังคม
สะทอ้ นวัฒนธรรมอาหารการกิน
บทเหช่ มเครอ่ื งคาวหวานนี้ ผู้อ่านจะได้รู้จักอาหารหลากหลายชนดิ ซ่ึงเปน็ ทนี่ ยิ ม
รบั ประทานในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ บางชนิดรู้จักกนั ดใี นปัจจุบนั เช่น มัสม่ัน หมู
แนม กอ้ ยกงุ้ แกงค่วั เป็นต้น แต่บางชนดิ กห็ ารับประทานไดย้ ากในปัจจบุ ัน เชน่
ลา่ เตียง หรุม่ อกี ท้งั ผูอ้ ่านยงั ได้ทราบวา่ อาหารไทยนน้ั ทง้ั ประณตี และวิจิตร และมี
รสชาตเิ ปน็ เลิศไมแ่ พช้ าตใิ ด นอกจากนย้ี งั สะท้อนให้เห็นวา่ กวีใช้อาหารเป็นเคร่อื งหมาย
แทนความผกู พันของคนในครอบครวั
# ภาษาไทยไม่จ๊กั เดียม
สะทอ้ นสภาพบ้านเมืองในสมยั อดตี
การติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ เช่น ชาวอินเดียหรือเปอร์เซีย ชาวจีน ชาวญ่ีปุ่นทาให้เกิดการ
แลกเปล่ียนวัฒนธรรมการกินกัน ในเร่ืองกล่าวถึงอาหารคาวหวานที่ไทยได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ เช่น
การหงุ ข้าวโดยใชเ้ นยหรือน้ามันเนยเป็นตัวรัดเมล็ดข้าวให้เรียงตัวดูสวยงามและใส่เครื่องเทศชนิดหน่ึงมีช่ือว่า ลูก
เฮลท์ ซ่งึ เพ้ยี นเสยี งเปน็ ลกู เอน็ ทาใหม้ ีกลน่ิ เปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะ ตวั อย่าง
ข้าวหุงปรงุ อย่างเทศ รสพเิ ศษใส่ลกู เอ็น
ใครหุงปรุงไมเ่ ปน็ เช่นเชิงมิตรประดษิ ฐท์ า
บอกชือ่ อาหารในเร่ืองกาพยเ์ หช่ มเคร่ืองคาวหวานท่ไี ดร้ ับอทิ ธพิ ลจากตา่ งชาติ
คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานโดดเด่นเรอื่ งการบรรยายภาพอาหารคาวหวาน และผลไมใ้ ห้เหน็
ภาพ เขา้ ใจชัดเจน มกี ารใช้ถ้อยคาเปรียบเทียบลกึ ซึ้งกินใจและไพเราะ ดงั น้ี
๑ การเล่นเสียงพยญั ชนะและเสียงวรรณยกุ ต์
๒ การใช้โวหารเปรยี บเทยี บ
๓ การใชโ้ วหารเกินจรงิ
๔ การเล่นคา
คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์
การเล่นเสยี งพยัญชนะและเสยี งวรรณยุกต์
“ เหน็ หรมุ่ รุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรมุ รุม่ กลมุ้ กลางทรวง ”
กวเี ลน่ เสยี งพยญั ชนะคาว่า หร่มุ รุม รุ่มรมุ่ เรา้ ไฟฟอน กลมุ้ กลาง และ
เสียงวรรณยุกต์ในคาว่า ร้อนรมุ รุ่ม รมุ่ รมุ่ เร้า ฟังแล้วเกิดความไพเราะ และยงั
สัมผัสไดถ้ งึ ความรูส้ ึกของกวไี ด้ชดั เจนว่ากาลงั อยู่ในความร้สู ึกเศร้าใจ
# ภาษาไทยไม่จั๊กเดียม
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
การใช้สานวนเปรียบเทยี บ นอนเตยี งทองทาเมืองบน
“ ลา่ เตยี งคดิ เตยี งน้อง ยลอยากนิทรคดิ แนบนอน ”
ลดหล่ันชน้ั ชอบกล
บทนีก้ วีกล่าวถงึ ล่าเตียง แลว้ นาไปสมั พนั ธก์ บั นางอันเปน็ ที่รัก คือ
นกึ ถึงเตยี งของนางทเ่ี หมือนเตียงเมอื งสวรรค์
# ภาษาไทยไม่จั๊กเดยี ม
คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์
การกลา่ วเกินจรงิ วางถงึ ล้นิ ด้ินแดโดย
“ กอ้ ยก้งุ ปรุงประทิ่น ฤาจะเปรียบเทียบทันขวญั ”
รสทพิ ยห์ ยบิ มาโปรย
บทน้กี วีกล่าวถงึ กอ้ ยกงุ้ วา่ มีกลน่ิ หอม เลศิ รสราวกับอาหารทิพย์
ครนั้ เมือ่ ได้สัมผสั กบั ล้นิ ก็ร้สู กึ อรอ่ ยมากจนแทบจะขาดใจ
# ภาษาไทยไมจ่ ัก๊ เดียม
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
การเลน่ คา บอกความแล้วจากจาเปน็
“ ผลจากเจ้าลอยแก้ว เปน็ ทุกขท์ า่ หนา้ นวลแตง ”
จากช้านา้ ตากระเดน็
บทนี้กวเี ปรียบเทียบผลจากทน่ี าไปลอยแกว้ กบั การพลดั พรากจากนางอนั
เป็นท่รี ัก
# ภาษาไทยไม่จก๊ั เดยี ม