The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรียบเรียงโดย สหัส ราชเมืองขวาง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

พรรณปลาน้ำจืดในจังหวัดระนอง

เรียบเรียงโดย สหัส ราชเมืองขวาง

เรียบเรียงโดย สหัส ราชเมืองขวาง


ISBN 978-616-278-175-9


คําขอบค ุณ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณ คุณวิสัย คงแก้ว คุณทินกร สํานัก คุณธเนศ อินตัน คุณก็หม่ารีกิ ้น ถลาง คุณประลินทร์ ไกรวิชัย และคุณธีระพงษ์ กําพวน ที่ให้ความ ช่วยเหลือในการเก็บตัวอย่างภาคสนาม ขอบพระคุณชาวบ้านในเขตพื ้นที่จังหวัด ระนองทุกท่าน ที่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เก็บตัวอย่าง ขอบพระคุณ คุณชัยวุฒิ กรุดพันธ์ และคุณอนุรัตน์ เตชะเวช ที่ให้ความช่วยเหลือในการวิเคราะห์ตัวอย่าง คุณ ปฏิณญา ศรีสําราญ ที่ให้ความช่วยเหลือในการถ่ายภาพปลาบางตัวอย่าง คุณศักดา อาบสุวรรณ ได้ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเอกสารประกอบการจําแนกชนิดปลา ขอขอบพระคุณบุคลากรสถานีวิจัยเพื่อการพัฒนาชายฝั่งอันดามัน สถาบันวิจัยและ พัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทุกท่าน ที่คอยเป็ นกําลังใจในการจัดทํา หนังสือเล่มนี ้จนสําเร็จ การสํารวจภาคสนาม การวิจัยและการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี ้สําเร็จลุล่วงไป ด้ วยดี “ โดยได้ รับทุนอุดหนุนวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จาก สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ” ขอขอบพระคุณเป็ น อย่างสูงมา ณ โอกาสนี ้ ความดีของหนังสือเล่มนี ้ข้าพเจ้าขอมอบให้กับ ผศ.ดร. ปรัชญา มุสิกสินธร ผู้ประสิทธิ์ ประสาทวิชาการทางด้านอนุกรมวิธานปลาที่สําคัญ ให้แก่ข้าพเจ้า บิดา มารดา พี่พร คุณยายเจริญศรี ประทุมสังข์ ครอบครัวคุณทัศศิกรศิริพร ชลิตพิบูลย์ และคุณลิขิต ประทุมสังข์ ผู้ซึ่งสนับสนุนและคอยเป็ นกําลังใจให้กับ ข้าพเจ้าตลอดระยะเวลา 4 ปี(พ.ศ. 2546-2550) ของการศึกษาในระดับปริญญาโท ณ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สหัส ราชเมืองขวาง นักวิจัย


คํานํา หนังสือพรรณปลานํ ้าจืดในจังหวัดระนองเล่มนี ้ เป็ นคู่มือที่ใช้ประกอบการ จําแนกชนิดปลานํ ้าจืดอย่างง่าย ๆ ประกอบด้วย ภาพถ่าย ชื่อสามัญภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ชื่อวิทยาศาสตร์ ลักษณะทั่วไป และสีสัน รวมทั ้งข้อมูลเพิ่มเติม (กล่าวไว้ในหมายเหตุของปลาแต่ละชนิด) ของปลานํ ้าจืดที่สํารวจพบทั ้งสิ ้นจํานวน 52 ชนิด ซึ่งเรียงลําดับทางอนุกรมวิธานตาม Nelson (2006) เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมายังไม่เคยมีการสํารวจความหลากหลายทาง ชีวภาพของปลานํ ้าจืดในจังหวัดระนองมาก่อน ชนิดปลาที่กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี ้ จึงเป็ นการรายงานครั ้งแรกของการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของปลานํ ้า จืดของจังหวัดระนอง อย่างไรก็ตามจํานวนชนิดของปลานํ ้าจืดที่ได้รายงานไว้ใน หนังสือเล่มนี ้เป็ นแค่เพียงส่วนหนึ่งที่ได้จากการสํารวจและเก็บตัวอย่างในระหว่างปี 2553-2555 ของผู้เขียนและคณะเท่านั ้น ผู้เขียนคาดว่ายังมีปลานํ ้าจืดในจังหวัด ระนองอีกจํานวนหนึ่งที่ยังสํารวจไม่พบ ซึ่งจะได้ทําการศึกษาวิจัยและสํารวจอย่าง ละเอียดต่อไป ผู้ เขียนหวังเป็ นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี ้จะเป็ นประโยชน์ต่อนักวิจัย นักวิชาการและผู้ที่สนใจ ที่จะสามารถนําข้อมูลไปใช้ในการต่อยอดงานวิจัยในขั ้น ต่อไปได้ นอกจากนี ้เยาวชนของชาติจะได้นําความรู้ จากหนังสือเล่มนี ้ไปใช้เป็ น พื ้นฐานในการศึกษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ข้อวิจารณ์อันเป็ นประโยชน์เพื่อ ปรับปรุงเนื ้อหาของหนังสือเล่มนี ้ และข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดอันอาจเกิดขึ ้น ผู้เขียนขอยอมรับไว้ด้วยความขอบพระคุณเป็ นอย่างยิ่ง สหัส ราชเมืองขวาง นักวิจัย


สารบัญ หน้า บทนํา 1 ปลากระดูกแข็ง 22 พรรณปลานํ ้าจืดในจังหวัดระนอง 24 บรรณานุกรม 81 ดัชนีชื่อวิทยาศาสตร์ 86 ดัชนีชื่อสามัญภาษาอังกฤษ 87 ดัชนีชื่อสามัญภาษาไทย 88


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 1 เป็ นจังหวัดทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกของประเทศไทย ตั ้งอยู่ที่ ละติจูด 9° 57’ 56’’ N และลองติจูด 98°38’ 05’’ E มีพื ้นที่ประมาณ 2,061,278 ไร่ พื ้นที่ทางทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดชุมพร ทางใต้ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ ธานีและจังหวัดพังงา ทางทิศตะวันตกติดกับประเทศพม่าและทะเลอันดามัน มี ลักษณะพื ้นที่เรียวและแคบ มีความยาวถึง 169 กิโลเมตรและมีความแคบใน บทนํา แผนที่ จังหวัดระนอง บริเวณอําเภอกระบุรีเพียง 9 กิโลเมตร จังหวัดระนอง ตั ้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบฝนเมืองร้ อน (tropical rain climate) ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมและลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือน …..กุมภาพันธ์ ในฤดูฝนจะมีฝนตกชุกและหนาแน่น ที่มา http://www.en.wikipedia.org/wiki/Ranong_Province ระนอง ชุมพร ทะเลอันดามัน อ่าวไทย


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 2 เนื่องจากได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อย่างเต็มที่ ส่วนอิทธิพล ของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกน้อยเพราะมีเทือกเขาตะนาวศรีกั ้น ทิศทางลมไว้ (http://www.ranong.go.th) ระนองมีแม่นํ ้าลําคลองที่สําคัญ ได้แก่ แม่นํ ้ากระบุรี เป็ นแม่นํ ้าที่กั ้น พรมแดนไทย - พม่า มีความยาวประมาณ 95 กิโลเมตร, คลองลําเลียง มีความ ยาวประมาณ 20 กิโลเมตร, คลองปากจั่น ไหลลงสู่แม่นํ ้ากระบุรี มีความยาว ประมาณ 30 กิโลเมตร, คลองวัน ไหลลงสู่แม่นํ ้ากระบุรี มีความยาวประมาณ 20 กิโลเมตร, คลองกระบุรี มีความยาวประมาณ 20 กิโลเมตร, คลองละอุ่น ไหล ลงสู่แม่นํ ้ากระบุรี มีความยาวประมาณ 35 กิโลเมตร, คลองหาดส้มแป้ น มี ความยาวประมาณ 19 กิโลเมตร, คลองกะเปอร์ มีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตร และ คลองกําพวน มีความยาวประมาณ 19 กิโลเมตร (ประยงค์, 2536)


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 3 จากลักษณะภูมิอากาศและสภาพภูมิประเทศซึ่งมีลักษณะเฉพาะ ดังกล่าว ทําให้จังหวัดระนองเป็ นพื ้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงและ ถูกเลือกให้เป็ นพื ้นที่สําหรับศึกษาวิจัยถึงความหลากหลายทางชีวภาพของ สิ่งมีชีวิตชายฝั่งในหลายๆ โครงการ (Tordoff et al. 2007) เช่น โครงการ Capacity Building to Support Training and Education on Coastal Biodiversity in Ranong Province Project in Thailand, โครงการ Utilization and Knowledge of Biodiversity in the Ranong Biosphere Reserve, Thailand, โครงการ Coastal Biodiversity in Ranong, Thailand และ โครงการ Coastal Habitats and Resources Management (CHARM) เป็ นต้น อย่างไร ก็ตาม ในพื ้นที่เขตจังหวัดระนองนั ้น พบว่าข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับความ หลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตในแหล่งนํ ้าจืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลานํ ้า จืดยังมีการศึกษากันอยู่น้อยมาก เนื่องจากไม่มีนักวิจัยของประเทศไทยเข้ามา ทําการศึกษาในพื ้นที่นี ้กันอย่างจริงจัง การศึกษาปลานํ ้าจืดในจังหวัดระนองที่ ผ่านมาได้มีการรายงานการค้นพบปลาชนิดใหม่ ได้แก่ ปลาแค้นํ ้าจืด (Akysis pulvinatus) โดย Ng (2007) ซึ่งเก็บตัวอย่างได้จากบริเวณต้นนํ ้าของลําคลอง กะเปอร์ ในเขตจังหวัดระนอง การค้นพบปลาซิวเขียว (Microdevario kubotai) โดย Kottelat and Witte (1999) ซึ่งเก็บตัวอย่างได้จากบริเวณลําคลองนํ ้าไหล ในเขตจังหวัดระนองและพังงา เป็ นต้น หนังสือคู่มือเล่มนี ้จัดทําขึ ้นจากการเก็บรวบรวมตัวอย่างชนิดพันธุ์ปลา นํ ้าจืดในจังหวัดระนองตั ้งแต่ปี 2553-2555 ข้อมูลความหลากชนิดของปลานํ ้า จืดที่รายงานไว้ในหนังสือเล่มนี ้ ถือเป็ นการรายงานการศึกษาความหลากหลาย ทางชีวภาพของปลานํ ้าจืดในจังหวัดระนองเป็ นครั ้งแรกที่สําคัญ เนื่องจาก สามารถนํามาใช้เป็ นข้อมูลพื ้นฐานการติดตามเพื่อทราบชนิดของปลาที่เป็ น องค์ประกอบทางนิเวศวิทยาของแหล่งนํ ้าได้ และยังเป็ นข้อมูลที่สําคัญในการ


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 4 เตรียมมาตรการวางแผนคุ้มครอง การอนุรักษ์ ตลอดจนการศึกษาทางด้าน ชีววิทยาของปลาหรือการใช้ประโยชน์อื่นๆ ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากจังหวัดระนองเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ของสิ่งมีชีวิตสูง การที่จะรวบรวมข้อมูลชนิดของสิ่งมีชีวิตทั ้งหมดในคราวเดียว จึงอาจเป็ นเรื่องที่ทําได้ค่อนข้างยาก อีกทั ้งในการศึกษาสัตว์นํ ้าในแต่ละกลุ่ม จําเป็ นอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาต้องมีความรู้ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการจัด จําแนกชนิด หนังสือคู่มือเล่มนี ้เป็ นความพยายามเบื ้องต้นของผู้เขียนที่จะ รวบรวมภาพและข้อมูลที่สําคัญในการจําแนกชนิดของของปลานํ ้าจืดที่พบได้ ทั่วไปแหล่งนํ ้าจืดของจังหวัดระนองเท่านั ้น สําหรับปลานํ ้าจืดบางชนิดที่ยังไม่ สํารวจพบและไม่ได้รวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี ้ ยังคงเป็ นภาระของผู้เขียนที่ต้อง ศึกษาวิจัยเพิ่มเติมอีกต่อไป Trichopodus trichopterus Devario regina Channa lucius


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 5 การเก็บตัวอย่างภาคสนาม ข้อมูลชนิดและภาพในการจัดทําหนังสือคู่มือเล่มนี ้ได้มาจาก การศึกษาตัวอย่างปลาในบริเวณแหล่งนํ ้าจืดของจังหวัดระนอง โดยทําการเก็บ รวบรวมตัวอย่างปลาในเชิงชนิดด้วยเครื่องมือประมงที่หลากหลาย ได้แก่ สวิง แห และอวนตาถี่ ทั ้งนี ้ขึ ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศของพื ้นที่ที่ทําการศึกษา สถานีที่ทําการเก็บตัวอย่าง สถานีที่ทําการเก็บตัวอย่างแบ่งออกเป็ น 31 สถานีโดยแต่ละสถานีมี สภาพพื ้นที่ ดังนี ้ สถานีที่ 1 นํ ้าตกโตนกลอย ตําบล กําพวน อําเภอ สุขสําราญ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้า ความกว้างประมาณ 10 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร มีนํ ้าจากภูเขาไหลลงมาในแอ่งนํ ้านี ้ตลอดเวลา นํ ้าไหลเอื่อยจนถึงแรง ขึ ้นอยู่กับปริมาณนํ ้าฝนที่ตกในแต่ละเดือน พื ้นที่โดยรอบมีต้นไม้ขึ ้นอยู่เป็ น จํานวนมาก พื ้นท้องนํ ้าเป็ นก้อนหินขนาดใหญ่จํานวนมาก สถานีที่ 2 นํ ้าตกโตนกลอย หมู่ที่ 6 ตําบล กําพวน อําเภอ สุขสําราญ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหล บริเวณด้านทิศเหนือห่าง จากจุดเก็บตัวอย่างประมาณ 60 เมตร เป็ นที่ตั ้งของชุมชนหมู่บ้านโตนกลอย จุด เก็บตัวอย่างนี ้มีนํ ้าไหลเอื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้าเป็ นก้อนหินขนาดต่าง ๆ กัน บางจุดมีลักษณะเป็ นแอ่งนํ ้ารับนํ ้าซึ่งไหลลงมาจากคูนํ ้าขนาดเล็กของ หมู่บ้าน พื ้นท้องนํ ้าบางจุดเป็ นดินโคลนและมีสาหร่ายสีเขียว (Chlorophyta) ขึ ้นอยู่อย่างหนาแน่น นอกจากนี ้บริเวณตอนกลางของลําคลองในบางจุดจะมี พันธุ์ไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ บริเวณโดยรอบของพื ้นที่มีต้นไม้หลายชนิดขึ ้นอยู่เป็ นจํานวน มาก สถานีนี ้เป็ นจุดที่มีนํ ้าผุดไหลขึ ้นมาจากใต้ดิน


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 6 สถานีที่ 3 สะพานตลาดกําพวน ตําบล กําพวน อําเภอ สุขสําราญ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหล ความกว้างประมาณ 30-40 เมตร นํ ้าลึกในบางจุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใต้สะพานจะเป็ นจุดที่มีนํ ้าลึก มากที่สุดเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น ๆ นํ ้าไหลเอื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้ามี ลักษณะเป็ นดินเลนปนกรวดขนาดเล็ก รอบๆ พื ้นที่เป็ นแหล่งชุมชนบ้านกําพวน หมู่ที่ 3 ตลาดสด รวมทั ้งมัสยิด สถานีนี ้มีเศษขยะเกาะติดอยู่บริเวณขอบของ ริมคลองเป็ นจํานวนมากและมีการปล่อยนํ ้าเสียจากครัวเรือนลงมาในลําคลอง เป็ นประจําทุกวัน บริเวณริมคลองรวมทั ้งตอนกลางของลําคลองมีพันธุ์ไม้นํ ้า เช่น ผักบุ้ ง สันตะวาใบพาย รวมทั ้งพันธ์ไม้นํ ้าอื่น ๆ ขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมาก ในช่วงที่นํ ้าทะเลขึ ้นสูงสุด นํ ้าทะเลจะหนุนขึ ้นมาถึงจุดนี ้ได้ สถานีที่ 4 ต้นนํ ้าคลองบางกล้วย ตําบลกําพวน อําเภอสุขสําราญ จังหวัดระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นคลองนํ ้าไหลขนาดเล็ก ความกว้างประมาณ 3-8 เมตร นํ ้าไหลเอื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้าเป็ นก้อนหินขนาดต่างๆ กัน และมีสาหร่ายขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมาก บริเวณรอบๆ ริมคลองมีพันธุ์ไม้นํ ้ารวมทั ้ง ต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ ้นอยู่ มีสวนยางพาราและสวนผลไม้อยู่รอบๆ สถานีนี ้ด้วย สถานีที่ 5 ฝายคลองบางกล้วย ตําบล กําพวน อําเภอ สุขสําราญ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง แต่นํ ้าจะไหลบ้ างในบางครั ้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ในสถานีนี ้มีเศษใบไม้ร่วงทับถมอยู่ภายในแอ่งนํ ้าเป็ น จํานวนมาก พื ้นท้ องนํ ้าเป็ นดินโคลนผสมกับดินลูกรังและมีสาหร่ายหาง กระรอกขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมาก บริเวณขอบริมคลองมีพันธุ์ไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ รอบๆ สถานีเป็ นสวนยางพารา สถานีที่ 6 สะพานโรงเรียนสุขสําราญ ตําบล กําพวน อําเภอ สุข สําราญ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหล บริเวณด้านทิศใต้


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 7 ห่างจากจุดเก็บตัวอย่างประมาณ 200 เมตร เป็ นที่ตั ้งของโรงเรียนสุขสําราญ ราษฎร์รังสรรค์ จุดเก็บตัวอย่างนี ้นํ ้าไม่ลึกมากนัก นํ ้าไหลเอื่อยอยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้าเป็ นก้อนหินขนาดต่างๆ กัน บางจุดมีลักษณะเป็ นแอ่งนํ ้าขนาดใหญ่ พื ้นท้องนํ ้ามีสาหร่ายสีเขียวขึ ้นอยู่อย่างหนาแน่น บริเวณตอนกลางของลําคลอง ในบางจุดมีพันธุ์ไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ประปราย บริเวณโดยรอบของพื ้นที่มีต้นไม้หลาย ชนิดขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมาก สถานีที่ 7 สะพานบางกล้วย ตําบล กําพวน อําเภอ สุขสําราญ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง แต่นํ ้าจะไหลบ้ างในบางครั ้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน มีเศษกิ่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในแอ่งนํ ้านี ้เป็ นจํานวนมาก พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินโคลนผสมกับดินลูกรัง ในช่วงที่นํ ้าทะเลขึ ้นสูงสุด นํ ้าทะเลจะ หนุนขึ ้นมาถึงจุดนี ้ได้ ทางทิศตะวันออกของสถานีเป็ นที่ตั ้งของบ่อเลี ้ยงกุ้ง จุดนี ้ มีการติดตั ้งเครื่องสูบนํ ้าเพื่อนํานํ ้าจากบริเวณดังกล่าวไปใช้ สถานีที่ 8 สถานีโทรคมนาคม ซอยเขา 221 (ซอยข้างโรงเรียนชาคลี) ตําบล บางหิน อําเภอ กะเปอร์จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง พื ้น ท้องนํ ้าเป็ นโคลนผสมกับก้อนหินขนาดเล็ก นํ ้าลึกประมาณ 50 เซนติเมตร มีต้น กกขึ ้นอยู่บริเวณริมฝั่งเป็ นจํานวนมาก บริเวณรอบของสถานีนี ้เป็ นสวนมะพร้ าว ของชาวบ้าน สถานีที่ 9 ซอยท่าเรือแหลมพ่อตา ตําบล บางหิน อําเภอ กะเปอร์ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง เป็ นร่องนํ ้าขนาดเล็กกว้ าง โดยประมาณ 2 เมตร นํ ้าค่อนข้างขุ่น พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินโคลนผสมกับดินลูกรัง บริเวณรอบๆจะเป็ นสวนปาล์มนํ ้ามันของชาวบ้าน สถานีที่ 10 สระหลวง หมู่ที่5 ตําบล บางหิน อําเภอ กะเปอร์จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง มีความกว้างประมาณ 3 เมตร นํ ้าค่อนข้าง


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 8 ขุ่นมาก นํ ้าลึกประมาณ 1.5 เมตร พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินโคลน มีสาหร่ายหาง กระรอกและมีต้นกกขึ ้นอยู่บริเวณริมนํ ้าเป็ นจํานวนมาก รอบๆ สถานีนี ้เป็ นสวน ยางพาราของชาวบ้าน สถานีที่ 11 ห้วยฝักข้าว ตําบล บ้านนา อําเภอ กะเปอร์ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นคลองนํ ้าไหล ความกว้างประมาณ 5-10 เมตร นํ ้าไหลเอื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้าเป็ นก้อนหินขนาดเล็กและมีสาหร่ายขึ ้นอยู่เป็ นจํานวน มาก บริเวณริมคลองมีพันธุ์ไม้นํ ้ารวมทั ้งต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ ้นปกคลุมโดยรอบ มี สวนผลไม้อยู่รอบๆ สถานีนี ้ด้วย สถานีที่ 12 แอ่งนํ ้าในนา ใกล้เขตบางหิน ตําบล กะเปอร์อําเภอ กะเปอร์ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง ความกว้างประมาณ 10 เมตร อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินเหนียวปนโคลน มีสาหร่าย หางกระรอก ต้นกก และพรรณไม้นํ ้าอื่นๆ ขึ ้นอยู่รอบๆ บริเวณที่เก็บตัวอย่างเป็ น จํานวนมาก สถานีที่ 13 ห้วยออก ตําบล กะเปอร์ อําเภอ กะเปอร์จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นคลองขนาดเล็ก ความกว้างประมาณ 1-2 เมตร นํ ้าไหลเอื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้ามีลักษณะเป็ นดินทรายปนกรวดขนาดเล็ก และมี สาหร่ายหางกระรอกขึ ้นเป็ นบางจุด บริเวณรอบข้างลําคลองมีพรรณไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ เป็ นจํานวนมาก สถานีที่ 14 คลองกะเปอร์ บ้านทุ่งใหญ่ หมู่ที่ 1 ตําบล กะเปอร์ อําเภอ กะเปอร์จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหล ความกว้างประมาณ 20-35 เมตร นํ ้าลึกในบางจุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใต้สะพานข้ามคลอง นํ ้าไหลเอื่อยจนถึงแรงขึ ้นอยู่กับฤดูกาล พื ้นท้องนํ ้ามีลักษณะเป็ นดินทรายผสม


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 9 ดินเลน และมีก้อนหินขนาดต่างๆ อยู่บริเวณพื ้นท้องนํ ้าจํานวนมาก บริเวณริม คลองมีสาหร่ายหางกระรอก แพงพวยนํ ้าและผักบุ้งขึ ้นเป็ นบางจุด สถานีที่ 15 คลองชิมีบ้านทุ่งใหญ่ หมู่ที่ 7 ตําบล กะเปอร์ อําเภอ กะเปอร์ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหล ความกว้างประมาณ 6-9 เมตร นํ ้าลึกในบางจุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใต้สะพาน นํ ้าไหลเอื่อยอยู่ ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินลูกรังและมีก้อนหินขนาดเล็กใหญ่ปะปนกันไป พบสาหร่ายหางกระรอกและต้นพลับพลึงธารขึ ้นเป็ นบางจุด สถานีที่ 16 ห้วยท่ายาง หมู่ที่ 7 ตําบล กะเปอร์ อําเภอ กะเปอร์ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหลขนาดเล็ก ความกว้ าง ประมาณ 1-2 เมตร นํ ้าลึกในบางจุด นํ ้าไหลเอื่อยอยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้ามี ลักษณะเป็ นดินเหนียวปนทรายขนาดใหญ่และมีก้อนหินขนาดเล็กปนอยู่ด้วย มี สาหร่ายหางกระรอกขึ ้นเป็ นบางจุด ด้านข้างลําคลองจะมีพรรณไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ เป็ นจํานวนมาก สถานีที่ 17 บ้านหินขาว หมู่ที่ 9 ตําบล กะเปอร์ อําเภอ กะเปอร์ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหลเอื่อยๆ ความกว้างประมาณ 20 - 30 เมตร นํ ้าลึกในบางจุด พื ้นท้องนํ ้ามีลักษณะเป็ นทรายปนหินกรวด ขนาดเล็ก มีสาหร่ายสีเขียวขึ ้นเป็ นบางจุด ด้านข้างลําคลองจะมีพรรณไม้นํ ้า ขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมาก ชาวบ้านมีการใช้ประโยชน์จากแหล่งนํ ้าบริเวณนี ้ในการ ทําการเกษตร สถานีที่ 18 บ้านคอกช้าง หมู่ที่ 10 ตําบล กะเปอร์ อําเภอ กะเปอร์ จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหลเอื่อยๆ ตลอดเวลา ความกว้าง ประมาณ 15-20 เมตร พื ้นท้องนํ ้าเป็ นก้อนหินขนาดต่างๆ กัน บางจุดมีลักษณะ


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 10 เป็ นแอ่งนํ ้าขนาดใหญ่ พื ้นท้องนํ ้ามีสาหร่ายสีเขียวขึ ้นอยู่เป็ นบางจุด บริเวณ โดยรอบของพื ้นที่เป็ นสวนปาล์มนํ ้ามันของชาวบ้าน สถานีที่ 19 ห้วยม่วงกลวง (บริเวณรอยต่ออําเภอกะเปอร์กับอําเภอ เมือง) ตําบล ราชกรูด อําเภอ เมือง จังหวัดระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นร่องนํ ้า ขนาดเล็ก นํ ้าไหลเอื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินกรวดขนาดเล็ก มี พรรณไม้นํ ้าและต้นไม้ขนาดเล็กขึ ้นอยู่โดยรอบ สถานีที่ 20 ห้วยนกงาง ตําบล ราชกรูด อําเภอเมือง จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหล ความกว้างประมาณ 8-15 เมตร พื ้นท้องนํ ้า เป็ นก้อนหินขนาดเล็กและใหญ่ปะปนกันไป และมีสาหร่ายสีเขียวขึ ้นเป็ นบางจุด ด้านข้างลําคลองจะมีพรรณไม้นํ ้าขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมาก สถานีที่ 21ซอยเกษตรสมบูรณ์ ตําบล ราชกรูด อําเภอเมือง จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นร่องนํ ้าคลองชลประทานขนาดเล็ก นํ ้านิ่ง มีความ กว้างประมาณ 3-4 เมตร พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินเหนียวปนเลน นํ ้าค่อนข้างขุ่น มากเนื่องมาจาดตะกอนดิน มีสาหร่ายหางกระรอกขึ ้นเป็ นบางจุด บริเวณ รอบๆ พื ้นที่เป็ นทุ่งนาและใช้เป็ นที่เลี ้ยงควายของชาวบ้าน สถานีที่ 22 ห้วยบางหนาง ตําบล หงาว อําเภอเมืองจังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่งที่เกิดขึ ้นจากการขุดดินในพื ้นที่ไปใช้ประโยชน์ พื ้น ท้องนํ ้าเป็ นดินลูกรังปนทราย มีสาหร่ายหางกระรอกและต้นกกขึ ้นอยู่ในจุดนี ้ เป็ นจํานวนมาก บริเวณรอบๆเป็ นทุ่งกว้าง สถานีที่ 23 ลําคลองข้างถนน ตําบล ทรายแดง อําเภอ เมือง จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหลขนาดเล็ก ความกว้างประมาณ 1-2


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 11 เมตร พื ้นท้องนํ ้าเป็ นทรายปนกรวดขนาดเล็ก บริเวณริมของร่องนํ ้ามีพรรณไม้ นํ ้าขึ ้นอยู่ประปราย บริเวณรอบๆจะเป็ นสวนยางพาราของชาวบ้าน สถานีที่ 24 ลําคลอง หมู่ที่ 1-2 ตําบล บางแก้ว อําเภอ ละอุ่น จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้านิ่ง บางจุดมีนํ ้าไหลเอื่อยๆ ความกว้าง ของคลองประมาณ 5 -6 เมตร พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินเหนียว ด้านข้างลําคลองมีต้น บอนขึ ้นอยู่อยู่โดยรอบ บริเวณรอบๆ สถานีนี ้เป็ นสวนปาล์มนํ ้ามันของชาวบ้าน สถานีที่ 25 ลําคลอง หมู่ที่ 5 ตําบล บางแก้ว อําเภอ ละอุ่น จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหลขนาดเล็ก มีความกว้างประมาณ 2-4 เมตร พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินลูกรังปนทรายและหินขนาดเล็กจํานวนมาก นํ ้าไหล เอื่อยอยู่ตลอดเวลา ด้านข้างลําคลองมีพรรณไม้นํ ้าขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมาก สถานีที่ 26แอ่งนํ ้าในสวนปาล์มติดกับโรงเรียนทับไชยาพัฒนา ตําบล บางแก้ว อําเภอละอุ่น จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง นํ ้ามีสีขุ่นมาก พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินเหนียวปนทราย มีต้นกกขึ ้นอยู่ในจุดนี ้บ้างเล็กน้อย สถานีนี ้ เป็ นรอยต่อระหว่างนํ ้าจืดกับนํ ้าเค็มจึงมีต้นจากทะเลขึ ้นอยู่ รอบสถานีเป็ นสวน ปาล์มนํ ้ามันของชาวบ้าน สถานีที่ 27 ลําคลองข้างถนน บ้านลําเลียง ตําบล ลําเลียง อําเภอ กระบุรี จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่เป็ นลําคลองขนาดเล็ก ความกว้าง ประมาณ 5 เมตร พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินโคลนลูกรัง นํ ้าตื ้นและขุ่นมาก นํ ้าค่อนข้าง นิ่งแต่คาดว่าน่าจะไหลในช่วงหน้าฝน ด้านข้างและตรงกลางลําคลองมีพรรณไม้ นํ ้าขึ ้นอยู่ประปราย สถานีที่ 28 ลําคลองทางเข้านํ ้าตกบกกกราย บ้านบกกราย หมู่ที่ 8 ตําบล นํ ้าจืด อําเภอ กระบุรีจังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นลําคลองนํ ้าไหล


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 12 ค่อนข้างแรง บางจุดนํ ้าไหลเอื่อย ความกว้างประมาณ 10 – 15 เมตร นํ ้าลึกใน บางจุด พื ้นท้องนํ ้ามีลักษณะเป็ นดินทรายปนก้อนหินขนาดเล็กและใหญ่ รอบ ข้างลําคลองจะมีพรรณไม้นํ ้าขึ ้นอยู่เป็ นจํานวนมากและมีสวนยางพาราของ ชาวบ้านอยู่ด้วย สถานีที่ 29 นาข้าว บ้านนํ ้าแดง หมู่ที่ 8 ตําบล นํ ้าจืดน้อย อําเภอ กระ บุรีจังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่งในทุ่งนา นํ ้าตื ้นและขุ่นมาก พื ้น ท้องนํ ้าเป็ นดินเหนียวปนดินเลน มีต้นกกขึ ้นอยู่ในจุดนี ้เป็ นจํานวนมาก บริเวณ ด้านข้างอยู่ติดกับถนน สถานีที่ 30 แอ่งนํ ้า บ้านคลองวัน หมู่ที่ 5 ตําบล มะมุ อําเภอ กระบุรี จังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่ เป็ นแอ่งนํ ้านิ่ง แต่นํ ้าจะไหลบ้ างในบางครั ้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินทรายปนกรวดขนาดเล็ก ไม่มีพรรณ ไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ตลอดแนวแอ่ง แอ่งนี ้ตั ้งอยู่ในสวนยางพาราของชาวบ้าน สถานีที่ 31 ห้วยหินวัว ตําบล ปากจั่น อําเภอ กระบุรีจังหวัด ระนอง ลักษณะพื ้นที่เป็ นลําคลองนํ ้าไหลเอื่อยๆ ความกว้างประมาณ 4-7 เมตร นํ ้าตื ้น และมีสีขุ่นมาก พื ้นท้องนํ ้าเป็ นดินทรายปนกรวดขนาดเล็ก มีพรรณไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ ตลอดแนวริมคลอง บริเวณใต้สะพานนํ ้าจะค่อนข้างลึกกว่าบริเวณอื่น สถานีนี ้ อยู่ติดกับชุมชนจึงมีการปล่อยของเสียออกลงมาเสมอๆ


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 13 แผนที่แสดงสถานีที่ทําการเก็บตัวอย่างปลานํ้าจืด ในจังหวัดระนอง


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 14


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 15


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 16


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 17


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 18 ระยะเวลาในการเก็บตัวอย่างภาคสนาม ตั ้งแต่เดือนเมษายน 2553 ถึงเดือนตุลาคม 2555 การวิเคราะห์ชนิดและการศึกษาตัวอย่างในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่างปลาที่เก็บได้จะถูกนํามาทําการกางครีบและถ่ายรูป หลังจาก นั ้นนําไปเก็บรักษาด้วยสารละลายฟอร์มาลีนเข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์ ไม่น้อยกว่า 7 วัน จากนั ้นเทนํ ้ายาเก่าออกและนําไปแช่ให้นํ ้าไหลผ่านประมาณ 1 วัน แล้วจึง นําตัวอย่างไปเก็บรักษาด้วยสารละลายเอทิลแอลกอฮอล์ 75 เปอร์เซ็นต์ ทําการจัดจําแนกชนิดปลาโดยใช้คู่มือการวิเคราะห์พรรณปลาและ เอกสารวิชาการทางอนุกรมวิธานปลาของ Smith (1931 and 1945), Brittan (1954), Kobayakawa (1989), Roberts (1989,1992and 1995), Kottelat (1990), Talwar and Jhingran (1991), Kottelat and Lim (1992 and 1993), Kottelat et al. (1993), Rainboth (1996), Kottelat and Witte (1999), Carpenter and Niem (1999a, 1999b and 2001), Kottelat (2000 and 2001), Kullander and Britz (2002), Tanand Ng (2005), Larson (2009), Topfer and Schindler (2009)และ Anuratana (2010) ตัวอย่างที่ทําการจัดจําแนกชนิดแล้วจะถูกลงทะเบียนและเก็บรักษาไว้ ณ ห้ องเก็บตัวอย่างสัตว์นํ ้าของสถานีวิจัยเพื่อการพัฒนาชายฝั่งอันดามัน (Andaman Coastal Research Station for Development: ACRSD) สําหรับตัวอย่างปลาสลาด (Notopterus notopterus) และปลาซิว หางกรรไกร (Rasbora caudimaculata) ซึ่งเป็ นตัวอย่างที่เก็บได้โดย ผศ.ดร. ปรัชญา มุสิกสินธรและคณะ ถูกเก็บรักษาไว้ณ ห้องปฏิบัติการวิจัยมีนวิทยา คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (Research Laboratory of


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 19 Ichthyology, Kasetsart University: RLIKU) การจัดลําดับทางอนุกรมวิธาน ของปลาที่ศึกษาในครั ้งนี ้ใช้ตาม Nelson (2006) ความหลากชนิดของปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง จากการสํารวจและเก็บตัวอย่างปลานํ ้าจืดในจังหวัดระนอง จํานวน 31 สถานี โดยทําการสุ่มตัวอย่างตั ้งแต่เดือนเมษายน 2553 ถึงเดือนตุลาคม 2555 พบปลาทั ้งสิ ้น 11 อันดับ (order) 27 วงศ์ (family) 45 สกุล (genus) 52 ชนิด (species) โดยพบปลาในอันดับ Cypriniformes มีจํานวนชนิดมากที่สุด คือ 18 ชนิด คิดเป็ นร้ อยละ 34.6 ของจํานวนชนิดปลาที่พบทั ้งหมด รองลงมาคือ อันดับ Perciformes พบจํานวน 17 ชนิด คิดเป็ นร้อยละ 32.7 ของจํานวนชนิด ปลาที่พบทั ้งหมด และอันดับ Siluriformes พบจํานวน 6 ชนิด คิดเป็ นร้ อยละ 11.5 ของจํานวนชนิดที่พบทั ้งหมด ส่วนวงศ์ที่มีจํานวนชนิดมากที่สุดคือวงศ์ Cyprinidae มีจํานวน 14 ชนิด คิดเป็ นร้ อยละ 26.9 ของจํานวนชนิดปลาที่พบ ทั ้งหมด รองลงมาคือ วงศ์ Clariidae, Gobiidae, Osphronemidae และวงศ์ Channidae มีจํานวนวงศ์ละ 3 ชนิด แต่ละวงศ์คิดเป็ นร้ อยละ 5.8 ของจํานวน ชนิดปลาที่พบทั ้งหมด ปลานํ้าจืดต่างถิ่น จากการศึกษาครั ้งนี ้พบปลานํ ้าจืดซึ่งเป็ นปลาต่างถิ่นจํานวน 2 ชนิด คือ ปลาดุกรัสเซียหรือปลาดุกยักษ์ (Clarias gariepinus) และ ปลานิล (Oreochromis niloticus)


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 20 เวียดนามในปีพ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) เพื่อการเพาะเลี ้ยงและถูกนําเข้ามาใน ประเทศไทย โดยถูกลักลอบนําเข้ามาทางชายแดนอําเภอท่าบ่อและอําเภอศรี เชียงใหม่จังหวัดหนองคายในปีพ.ศ. 2528 เพื่อวัตถุประสงค์ในการเพาะเลี ้ยง อย่างไรก็ตาม ปลาชนิดนี ้สามารถแพร่ขยายพันธุ์ในธรรมชาติได้เป็ นอย่างดีและ ยังเป็ นปลาที่ล่าเหยื่อได้เก่ง สามารถกินเหยื่อที่มีขนาดเศษหนึ่งส่วนสี่ของตัวมัน เองได้ ซึ่งอาจเป็ นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้พันธุ์ปลาท้องถิ่นในแหล่งนํ ้าธรรมชาติมี ชนิดและจํานวนลดลง (Welcomme and Vidthayanon, 2003) สําหรับจังหวัด ระนองก็มีการนําปลาชนิดนี ้เข้ ามาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกันและปลาที่ ขยายพันธุ์อยู่ในธรรมชาติขณะนี ้คาดว่าน่าจะหลุดรอดออกมาจากแหล่ง เพาะเลี ้ยงของชาวบ้านในฤดูนํ ้าหลาก ปลานิลเป็ นปลาที่มีถิ่นกําเนิดในลุ่มแม่นํ ้าไนล์ ในทวีปแอฟริกา ซึ่ง นําเข้ามาในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2509 โดยพระจักรพรรดิAkihito แห่ง ประเทศญี่ปุ่ นได้ถวายลูกปลานิลจํานวน 50 ตัวแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลปัจจุบัน หลังจากนั ้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระราชทานพันธุ์ปลาชนิดนี ้แก่กรมประมงเพื่อนําไปเพาะขยายพันธุ์และ แจกจ่ายแก่ประชาชนทั่วไปเพื่อใช้ เลี ้ยงเป็ นอาหาร (ชาญชัย, 2522; Thiemmedh, 1966; Welcomme and Vidthayanon, 2003) สําหรับปลาดุก รัสเซียเป็ นปลาที่มี การแพร่กระจาย ในทวีปแอฟริ กา ตอนกลาง โดยครั ้ง แรกได้มีการนําเข้า มายังประเทศ Clarias gariepinus 215.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 21 และในอดีตได้มีการเพาะเลี ้ยงปลาชนิดนี ้ในบ่อดินในบางพื ้นที่ เช่น ในเขตพื ้นที่ อําเภอสุขสําราญ เป็ นต้น สําหรับการศึกษาครั ้งนี ้สามารถเก็บรวบรวมตัวอย่าง ปลานิลได้ทั ้งในลําคลองนํ ้าไหล นาข้าว รวมทั ้งพื ้นที่นํ ้าจืดที่เป็ นรอยต่อกับทะเล ซึ่งแสดงให้ เห็นว่าปลาชนิดนี ้มีความสามารถแพร่ขยายพันธุ์ในแหล่งนํ ้า ธรรมชาติได้เป็ นอย่างดี ปัจจุบันปลาชนิดนี ้เป็ น ที่นิยมบริ โภคอย่างมาก ของคนในประเทศ ใน จังหวัดระนองมีการนํา ปลาชนิดนี ้มาปล่อยลงสู่ แหล่งนํ ้าต่างๆ เพื่อใช้เป็ น แหล่งอาหารของประชาชน Oreochromis niloticus 184.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 22 รูปร่างของปลากระดูกแข็งมีความแตกต่างกันมากในลักษณะ สัดส่วนและขนาด โดยทั่วไปตัวปลาจะแบ่งออกเป็ น 3 ส่วน คือ ส่วนหัว (head) คือ บริเวณตั ้งแต่ปลายสุดของจะงอยปาก (snout) ไปจนถึงริมสุด ของกระดูกกระพุ้งแก้มหรือแผ่นเปิ ดเหงือก (operculum) ส่วนลําตัว (body) อยู่ถัดจากปลายสุดของแผ่นเปิ ดเหงือกไปจนถึงบริเวณเส้นดิ่งตรงระดับรูก้น (anus) ส่วนหาง (tail) เป็ นส่วนสุดท้าย อยู่ถัดจากลําตัวไปจนสุดปลายหาง สําหรับการวัดความยาวของตัวปลาโดยทั่วไปทําการวัดความยาว มาตรฐาน (Standard length: SL) คือ วัดจากปลายสุดของจะงอยปากบนไป จนถึงฐานของครีบหางบริเวณตอนปลายของกระดูก hypural plate ซึ่ง ไี ี


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 23 สามารถสังเกตได้โดยการงอส่วนของครีบหางแล้วดูรอยพับบริเวณฐานครีบ บริเวณส่วนหัวของปลาเป็ นที่ตั ้งของปาก (mouth) ซึ่งประกอบด้วย ขากรรไกรบน (maxilla) และขากรรไกรล่าง (mandible) รูจมูก (nostril) ของ ปลามี 1-2 คู่ ตา (eye) ซึ่งมีขนาดแตกต่างกันและมีที่ตั ้งไม่แน่นอนขึ ้นอยู่กับ ปลาแต่ละชนิด บางชนิดอาจมีเยื่อไขมันปิ ดตา โดยปกติแล้วร่างกายของปลาจะแบ่งเป็ นซีกซ้าย ซีกขวา ซึ่งจะ เหมือนกันและมีสัดส่วนเท่ากัน (bilateral symmetry) ยกเว้น กลุ่มปลาซีก เดียว ปลาลิ ้นหมานํ ้าจืด ซึ่งจะมีตัวอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาต่างกันและมีตา ซีกเดียวของหัวด้านใดด้านหนึ่ง ลําตัวปลากระดูกแข็งอาจจะมีเกล็ด (scale) หรือไม่มีเกล็ด ปลาบางชนิดเกล็ดอาจเปลี่ยนรูปไปเป็ นหนาม เกราะ หรือ แผ่นกระดูก เป็ นต้น ครีบของปลามีทั ้งครีบคู่และครีบเดี่ยว ครีบคู่ ประกอบด้วย ครีบหู (pectoral fin) และครีบท้อง (pelvic fin) ส่วนครีบเดี่ยว ประกอบด้วย ครีบ หลัง (dorsal fin) ครีบหาง (caudal fin) และครีบก้น (anal fin) ปลาบางชนิด อาจมีครีบไขมัน (adipose fin) เช่น ปลาแขยงภูเขา เป็ นต้น ปลาส่วนใหญ่จะมีอวัยวะรับความรู้สึกอยู่ด้านข้างของลําตัว เรียกว่า เส้นข้างตัว (lateral line) และมีเกล็ดบนเส้นข้างตัว (lateral line scale) ซึ่ง อาจมีรูหรือท่อเป็ นทางติดต่อให้ นํ ้าภายนอกผ่านไปสัมผัสกับอวัยวะรับ ความรู้สึกภายใน


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 24


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 25 ลักษณะ ลําตัวแบนและกว้าง บริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างกะโหลก และหลังเป็ นเส้นตรง ขากรรไกรบนยาวถึงกึ่งกลางตา มุมปากยาวไม่เกินขอบ หลังของตา เกล็ดมีขนาดเล็ก เกล็ดบนหัวมีขนาดใหญ่กว่าเกล็ดบนลําตัว เกล็ดบนกระดูก preopercle มีจํานวน 6-8 แถว ฐานครีบหลังสั ้นมากและ ตั ้งอยู่ตรงกึ่งกลางลําตัว ท้องมีสันแข็งเป็ นคู่ขนานกัน (double serrature) จํานวน 28-37 คู่ ครีบหางมีขนาดเล็กและเชื่อมติดกับครีบก้นที่ยาวมาก สีสัน ลําตัวมีสีเรียบเทาเงินจนถึงสีเงิน ยกเว้นปลาวัยอ่อนจะมีลายบั ้งเหมือนปลา กราย (Chitala ornata) ด้านข้างและด้านท้องของลําตัวมีสีขาวเงิน ครีบหลัง ครีบก้น ครีบหาง มีสีเทาอ่อนหรือใส ครีบอกและครีบท้องมีสีใส หมายเหต ุ พบในลําคลองกะเปอร์ โดยหลบซ่อนอยู่ตามริมฝั่งคลองที่มีพันธุ์ไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ เช่น ผักบุ้ง หรือแพงพวยนํ ้า เป็ นต้น เป็ นปลาที่มีความสําคัญทางเศรษฐกิจ ชนิดหนึ่งในประเทศไทย นิยมนําเนื ้อมาขูดและบดทําลูกชิ ้นหรือทอดมันปลา สลาด Notopterus notopterus (Pallas, 1769) วงศ์ Notopteridae Bronze featherback RLIKU uncat (ภาพโดย ปฎิณญา ศรีสําราญ) Osteoglossiformes


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 26 ลักษณะ ลําตัวเรียวและแบนข้าง ปากกว้าง มุมปากยาวถึงลูกตา ปากมีลักษณะเฉียงขึ ้นด้านบน ตามีขนาดใหญ่และมีเยื่อไขมันหนาคลุมอยู่ เกล็ดมีขนาดปานกลางขึ ้นเรียงบนลําตัวอย่างเป็ นระเบียบ บริเวณใต้คาง ระหว่างกระดูกขากรรไกรล่างมีแผ่นกระดูกแข็ง 1 ชิ ้น เรียกว่า gular plate จุดเริ่มต้นของครีบท้องอยู่ตรงข้ามกับจุดเริ่มต้นของครีบหลังซึ่งตั ้งอยู่บริเวณ ตอนกลางของลําตัว ครีบหลังมีก้านครีบอ่อนจํานวน 17-21 ก้าน ก้านครีบ หลังอันสุดท้ายยื่นยาวเป็ นเส้นเห็นได้ชัดเจน เกล็ดบนเส้นข้างตัวมีจํานวน 37- 42เกล็ด ครีบหางมีขนาดใหญ่และเว้าลึกตรงกลางเป็ นรูปส้อม ปลายแพนหาง บนและล่างหางเรียวแหลม สีสัน เกล็ดเป็ นสีเงินแวววาวตลอดทั ้งลําตัว หลังมี สีคลํ ้าออกนํ ้าตาลอมเขียว ครีบต่างๆ ใส ครีบหางสีขุ่น หมายเหต ุสามารถ ปรับตัวให้อยู่ในนํ ้าจืดหรือนํ ้ากร่อยได้บางครั ้งพบว่ายนํ ้าเข้ามาในลําคลองที่ ติดกับทะเลหรือนากุ้งของชาวบ้าน เป็ นปลาที่มีก้างแทรกในเนื ้อจํานวนมาก ตาเหลือกสั้น Megalops cyprinoides (Broussonet, 1782) วงศ์ Megalopidae Indo-Pacific tarpon ACRSD 001, 175.0 mm SL Elopiformes


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 27 ACRSD 002, 104.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวกลมและยาวคล้ายงู ส่วนหางแบนข้าง หัวรูปกระสวย ปากค่อนข้ างกว้ าง มุมปากยื่นเลยหลังตา มีฟั นซี่เล็กปลายแหลมอยู่ที่ ขากรรไกรบนและล่างและที่กระดูกเพดานปาก ช่องเปิ ดเหงือกเป็ นช่องตรงอยู่ ใต้ฐานครีบอก นัยน์ตามีหนังใสๆ คลุมอยู่ รูจมูกมี 2 คู่ มีลักษณะคล้ายท่อ เล็กๆ ยื่นออกเห็นชัดเจน เกล็ดมีขนาดเล็กมากและฝังอยู่ใต้ผิวหนัง รูก้นอยู่ ลํ ้ากึ่งกลางของลําตัว ครีบหลังอยู่ค่อนไปทางด้านหน้าของลําตัว ไม่มีครีบท้อง ครีบอกปลายกลมมน ครีบหลัง ครีบหางและครีบก้นติดต่อรวมกัน ครีบทุก ครีบไม่มีก้านครีบแข็ง สีสัน ลําตัวด้านหลังมีสีนํ ้าตาลแดง ท้องมีสีนํ ้าตาลอม เหลือง ครีบอกมีสีจาง หมายเหต ุเป็ นพวก catadromous fish คือ มี พฤติกรรมผสมพันธุ์และวางไข่บริเวณป่ าชายเลนหรือปากแม่นํ ้า (ลูกปลาวัย อ่อนมีลักษณะหัวเล็ก ลําตัวใส รูปทรงคล้ายใบไม้ เรียกว่า leptocephalus) เมื่อลูกปลาวัยอ่อนโตขึ ้นจะค่อย ๆ อพยพว่ายทวนนํ ้ามาอาศัยยังแหล่งนํ ้าจืด ต ูหนา Anguilla sp. วงศ์ Anguillidae Indian mottled eel Anguilliformes


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 28 นํ้าหมึก Barilius bernatziki Koumans, 1937 วงศ์ Cyprinidae ACRSD 003, 77.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวเรียวและแบนข้างเล็กน้อย ปากกว้าง จะงอยปากอยู่ ด้านหน้าสุดและเฉียงลงด้านล่าง ปลายสุดของขากรรไกรล่างมีลักษณะเป็ นสัน หรือปม เรียกว่า symphyseal knob ครีบหลังอยู่ค่อนไปทางด้านท้ายของ ลําตัว บริเวณฐานของครีบท้องมีเกล็ดเสริม (axillary scale) เจริญดี เส้นข้าง ตัวสมบูรณ์และอยู่ค่อนลงมาทางด้านล่างของลําตัว ครีบหางหยักเว้าลึก คล้ายส้อม ปลายแพนหางบนและล่างเรียวแหลม สีสัน ส่วนหลังมีสีเขียวเข้ม ส่วนท้องมีสีเขียวเงิน ด้านข้างลําตัวมีแถบสีนํ ้าเงินพาดขวางจํานวน 5-12 แถบ และมีแถบวงกลมสีนํ ้าเงินเข้มขนาดใกล้เคียงกับตาอยู่บริเวณคอดหาง ครีบหลัง ครีบหู ครีบท้อง และครีบก้นมีสีใสจนถึงสีส้ม ขอบบนและขอบล่าง ของแพนหางตรงบริเวณก้านครีบหางที่ไม่แตกแขนงมีสีดํา หมายเหต ุพบ อาศัยอยู่ในแม่นํ ้าสายใหญ่และลําธารในป่ าและเชิงเขาที่นํ ้าสะอาดไหลแรง นิยมนํามาเลี ้ยงเป็ นปลาสวยงาม Cypriniformes


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 29 ไส้ตันตาแดง Cyclocheilichthys apogon (Valenciennes, 1842) วงศ์ Cyprinidae Beardless barb ACRSD 004, 78.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวแบนข้างและค่อนข้างลึกตรงกลางลําตัว จะงอยปาก แหลมรูปกรวย ปากเล็กอยู่ค่อนมาทางด้านล่าง ริมฝี ปากบาง บริเวณจะงอย ปากและแก้มมีรูรับความรู้ สึกเรียงกันอยู่เป็ นแถว (sensory fold) จํานวนมาก ไม่มีหนวด ตามีขนาดเล็ก เกล็ดมีขนาดปานกลาง ครีบหลังยกสูงมีก้านครีบ อ่อนที่แตกแขนงจํานวน 9 ก้าน และมีก้านครีบแข็ง 1 อัน ซึ่งมีขอบท้ายหยัก เป็ นซี่จักร เส้นข้างตัวสมบูรณ์ ท่อบนเส้นข้างตัวมีปลายไม่แตกแขนง ครีบหาง เป็ นรูปส้อม สีสัน ขอบตาบนมีสีแดงอันเป็ นที่มาของชื่อ ลําตัวสีเงินวาวอม นํ ้าตาลอ่อน ด้านบนมีสีนํ ้าตาลอมเขียว ส่วนท้องมีสีเงิน ตรงกลางของเกล็ดมี จุดสีนํ ้าตาลดําเรียงต่อกันเป็ นแถวจํานวน 7-9 แถวพาดไปตามแนวยาวของ ลําตัว มีแต้มกลมสีคลํ ้าขนาดใกล้เคียงกับตาอยู่ที่โคนหาง ครีบทุกครีบมีสีแดง เรื่อหรือแดงสด หมายเหต ุมักอาศัยอยู่เป็ นฝูงเล็กๆ บริเวณที่เป็ นแหล่งนํ ้านิ่ง และแหล่งนํ ้าไหลเอื่อย ๆ ที่มีเศษซากของกิ่งไม้หรือมีพรรณไม้นํ ้าขึ ้นอยู่ Cypriniformes


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 30 ซิวใบไผ่เล็ก Danio kerri Smith, 1931 วงศ์ Cyprinidae Blue danio ACRSD 005, 33.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวเรียวยาวและแบนข้าง มีหนวด 2 คู่เจริญดีคือ หนวด ที่จะงอยปากยาวถึงขอบหลังของตาและหนวดที่ขากรรไกรบนยาวเลย จุดเริ่มต้นของครีบอกและอาจยาวถึงตอนกลางของครีบอก ปากมีขนาดเล็ก มุมปากยาวไปถึงขอบหน้าของตา หัวและจะงอยปากสั ้นและทู่ ครีบอกยาวถึง จุดเริ่มต้นครีบท้องฐานครีบหลังสั ้น ครีบหางหยักเว้าตื ้น สีสัน ลําตัวส่วนหลัง สีเขียวเข้มถึงสีนํ ้าเงิน ลําตัวด้านข้างมีสีนํ ้าเงินอ่อน ท้องมีสีเงิน ด้านข้างลําตัว มีแถบสีเหลืองสดหรือสีส้มทอดไปตามแนวยาวของลําตัวโดยแถบสีตรงกลาง จะเข้มที่สุดและทอดยาวไปจนถึงจุดกึ่งกลางของฐานครีบหาง มีแถบเหลือง บริเวณฐานของครีบก้ นเห็นชัดเจน ครีบทุกครีบมีสีใสจนถึงสีเหลืองอ่อน หมายเหตุมีพฤติกรรมอยู่รวมตัวกันเป็ นฝูง โดยพบในแหล่งนํ ้าไหล เช่น นํ ้าตกหรือลําธารบนที่สูงหรือเป็ นเนินเขา นิยมเลี ้ยงเป็ นปลาสวยงาม Cypriniformes


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 31 Cypriniformes ซิวใบไผ่ราชินี Devario regina (Fowler, 1934) วงศ์ Cyprinidae Queen danio ACRSD 006, 84.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวเรียวและแบนข้าง มีหนวดสั ้นมาก 2 คู่ คือ หนวดที่ จะงอยปากและหนวดที่ขากรรไกรบน ปากมีขนาดเล็ก มุมปากยาวไปถึงขอบ หน้าของตา ปากเปิ ดที่ตําแหน่งเฉียงขึ ้นด้านบน หัวและจะงอยปากสั ้นและทู่ ครีบอกยาวไม่ถึงจุดเริ่มต้นครีบท้อง จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่หน้าจุดเริ่มต้น ของครีบก้นและอยู่ค่อนไปด้านท้ายของลําตัว ฐานครีบหลังค่อนข้างยาวแต่ ยาวน้อยกว่าฐานของครีบก้น ครีบหางหยักเว้าตื ้น สีสัน ลําตัวส่วนหลังสี เขียวเข้ม ด้านข้างมีสีเขียวอ่อน ส่วนท้องมีสีเงิน ด้านข้างลําตัวมีแถบเล็กสี เหลืองประมาณ 5 แถบทอดไปตามแนวยาวของลําตัวโดยแถบสีตรงกลาง ลําตัวจํานวน 3 แถบสามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีแถบสีแดงพาดไปตามแนว ขอบด้านบนของครีบหลัง ครีบท้องและครีบก้นมีสีใส หมายเหต ุพบในลํา ธารหรือนํ ้าตก มีพฤติกรรมอยู่รวมตัวกันเป็ นฝูง


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 32 Cypriniformes ซิวหนวดยาว Esomus metallicus Ahl, 1923 วงศ์ Cyprinidae Striped flying barb ACRSD 007, 50.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวยาวทรงกระบอก แบนข้างเล็กน้อย ท้องมนไม่เป็ นสัน ปากมีขนาดเล็ก ที่ปลายสุดของขากรรไกรล่างไม่มีsymphyseal knob มี หนวด 2 คู่ คือ หนวดที่จะงอยปาก 1 คู่ มีความยาวถึงกึ่งกลางของตาหรือยาว ไม่เกินขอบด้านท้ายของตาและหนวดที่ขากรรไกรบน 1 คู่ เป็ นหนวดคู่ที่ยาว มากโดยมีปลายสุดยาวเลยส่วนฐานของครีบท้องเห็นได้ชัดเจน ปลายสุดของ ก้านครีบหูอันแรกยาวไม่ถึงจุดเริ่มต้นของครีบก้น เส้นข้างลําตัวไม่สมบูรณ์ ครีบหางเว้าลึก สีสัน ด้านบนของหัวและลําตัวมีสีนํ ้าตาลเขียว ลําตัวด้านข้าง มีสีขาวเงิน มีแถบสีดําพาดจากขอบหลังของตาถึงฐานครีบหางและมีแถบสี เงินพาดไปตามยาวอยู่บริเวณด้านบนของแถบสีดังกล่าว ครีบหลัง ครีบก้น และครีบหางมีสีเหลือง ครีบอกและครีบท้องมีสีเหลืองอ่อน หมายเหต ุ พบ กระจายพันธุ์ในแหล่งนํ ้านิ่ง เช่น นาข้าวหรือตามท้องร่องสวนผลไม้ต่างๆ เป็ น ปลาที่ใช้บริโภคเป็ นอาหารและเลี ้ยงเป็ นปลาสวยงาม


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 33 Cypriniformes กระสูบขีด Hampala macrolepidota Kuhl & Van Hasselt, 1823 วงศ์ Cyprinidae Hampala barb ACRSD 008, 35.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวทรงกระบอกและแบนข้างเล็กน้อย ส่วนท้องกลมมน ปากมีขนาดใหญ่ มุมปากยาวเลยขอบหน้าของตา ริมฝี ปากเรียบและมีฟันใน ช่องคอ (pharyngeal teeth) จํานวน 3 แถว หนวดที่ขากรรไกรบนมีความยาว มากกว่าความกว้างของตา ครีบหลังอยู่ตอนกลางของลําตัวและยกสูง ก้าน ครีบแข็งของครีบหลังมีขอบด้านท้ายเป็ นซี่หยัก เกล็ดมีขนาดใหญ่ และมีเส้น ข้างลําตัวสมบูรณ์ ครีบหางเว้าลึก แพนหางบนและล่างยาวเท่ากัน สีสัน ลําตัวมีสีขาวเงิน ด้านบนมีสีเขียวปนนํ ้าตาล มีแถบสีดําพาดลงตามแนวดิ่ง จากจุดเริ่มต้นของครีบหลังมายังฐานของครีบท้อง (ปลาระยะวัยรุ่นจะมีแถบสี ดําบนลําตัวจํานวน 4 แถบ อยู่บริเวณหัว หลังฝาเปิ ดเหงือก จุดเริ่มต้นของครีบ หลังและบริเวณคอดหาง) ก้านครีบแข็งของครีบหลังมีสีดํา ครีบหลังมีสีเหลือง ส้ม แพนหางมีสีแดงขอบบนและขอบล่างของแพนหางมีแถบสีดํา (อาจไม่พบ แถบสีดํานี ้ในปลาระยะวัยรุ่น) หมายเหต ุพบในแหล่งนํ ้าใสที่ไหลเอื่อยๆ


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 34 Cypriniformes ACRSD 009, 70.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวทรงกระสวย แบนข้างเล็กน้อย ส่วนหัวมีขนาดเล็ก มี หนวด 2 คู่ อยู่บริเวณขากรรไกรบนและมุมปาก ขากรรไกรล่างมีลักษณะเป็ น สันแข็ง ริมฝี ปากเรียบ ริมฝี ปากบนยื่นยาวกว่าริมฝี ปากล่างเล็กน้อย ด้านข้าง จะงอยปากมีตุ่มสิว (tubercles) อยู่กระจัดกระจาย ครีบหลังยกสูงมีก้านครีบ แข็งขอบเรียบ 1 อัน และมีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 9 ก้าน ครีบหูมี ขนาดเล็ก มีเกล็ดขนาดใหญ่ปกคลุมตัว ครีบหางเว้ าลึกเป็ นแฉก สีสัน บริเวณส่วนหลังของลําตัวเป็ นสีนํ ้าตาลอมเทาหรือสีเหลือง ด้านท้องเป็ นสีขาว ไม่มีแถบสีดําอยู่บนบริเวณเส้นข้างลําตัว ครีบทุกครีบมีสีเหลืองอ่อน ปลาย ครีบมีสีจาง ขอบของแพนหางบนและล่างมีสีนํ ้าตาลเข้ม หมายเหต ุอาศัย อยู่เป็ นฝูงใหญ่บริเวณแหล่งนํ ้าตกเชิงภูเขาหรือตามลําธารนํ ้าไหลต่างๆ พบ ปลาชนิดนี ้เป็ นจํานวนมากบริเวณนํ ้าตกโตนกลอยในอําเภอสุขสําราญ จังหวัด ระนอง เป็ นปลานํ ้าจืดที่มีการอนุรักษ์ในท้องถิ่น


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 35 Cypriniformes สร้อยนกเขา Osteochilus vittatus (Valenciennes, 1842) วงศ์ Cyprinidae Bonylip barb ACRSD 010, 53.0 mm SL ลักษณะ ลําตัวทรงกระบอกค่อนข้างยาวและแบนข้างเล็กน้อย ปาก มีขนาดเล็ก ริมฝี ปากบนและล่างมีรอยหยักเป็ นริ ้ว เรียกว่า fringe มีหนวด 2 คู่ คือหนวดที่จะงอยปากซึ่งสั ้นมากและหนวดที่ขากรรไกรบนซึ่งมีความยาวถึง ขอบหน้าของตา ตามีขนาดปานกลางและอยู่กึ่งกลางของส่วนหัว ครีบหลัง ยาวไม่มีก้านครีบแข็งแต่มีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 15-18 ก้าน เส้น ข้างตัวสมบูรณ์และอยู่ในแนวกลางตัว เกล็ดรอบคอดหางมีจํานวน 16 เกล็ด ครีบหางเป็ นรูปส้อม แพนหางใหญ่มีปลายเรียวแหลม สีสัน ลําตัวมีสีนํ ้าตาล ถึงเขียวเทา ด้านบนของลําตัวและหัวมีสีเข้มกว่าด้านท้อง มีจุดสีนํ ้าตาลเข้มที่ ฐานเกล็ดบนลําตัวซึ่งเรียงต่อกันเป็ นแถว6-9 แถวและมีจุดสีดําขนาดใหญ่กว่า ตาอยู่ที่กึ่งกลางของฐานครีบหาง (อาจมองเห็นจุดสีดํานี ้ไม่ชัดในปลาขนาด เล็กหรือปลาระยะวัยรุ่น) ในบางตัวอย่างอาจพบจุดสีดําอยู่เหนือครีบหูหมาย เหต ุเป็ นปลาที่อาศัยอยู่รวมตัวกันเป็ นฝูง พบอยู่ในลําธารนํ ้าไหล


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 36 Cypriniformes ซิวเขียว Microdevario kubotai (Kottelet & Witte, 1999) วงศ์ Cyprinidae Neon yellow rasbora ลักษณะ ลําตัวสั ้นและแบนข้างมากกว่าปลาซิวทั่วๆ ไป ตากลมโต ไม่มีหนวด ลําตัวส่วนหน้าตั ้งแต่หลังฝาปิ ดเหงือกจนถึงจุดเริ่มต้นของครีบก้น ค่อนข้างกว้าง ส่วนของคอดหางค่อนข้างเรียวและแบนข้าง เกล็ดในแนวข้าง ตัวไม่มีรู มีเกล็ดหน้าครีบหลังมีจํานวน 10-11 เกล็ด ครีบหลังไม่มีก้านครีบแข็ง มีก้านครีบอ่อนที่ไม่แตกแขนง 2-3 ก้านและมีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 7 ก้าน ครีบหูเป็ นรูปเคียว ครีบท้องมีปลายค่อนข้างแหลมและมี axillary scale อยู่ที่ฐานของครีบ ครีบหางหยักเว้าลึก สีสัน ลําตัวมีสีเขียวใสหรือเขียว อมเหลืองใส (ตัวอย่างดองลําตัวมีสีขาวทึบ) ด้านข้างลําตัว ตา และฝาเปิ ด เหงือกมีสีทองสว่าง ครีบทุกครีบสีใส เกล็ดมีขนาดเล็กและมีสีเงินแวววาวอม เหลืองอ่อน หมายเหต ุ มีพฤติกรรมรวมตัวกันเป็ นฝูงเล็กๆ ในลําธารนํ ้าใส จากการสํารวจพบปลาชนิดนี ้เป็ นจํานวนมากในบริเวณสถานีที่ 2 จัดเป็ น ปลานํ ้าจืดประจําถิ่น (endemic species) พบในจังหวัดระนองและพังงา ACRSD 011, 21.1 mm SL Preserved specimen


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 37 Cypriniformes ซิวหางกรรไกร Rasbora caudimaculata Volz, 1903 วงศ์ Cyprinidae Greater scissortail ลักษณะ ลําตัวยาวและแบนข้างเล็กน้อย ไม่มีหนวด จะงอยปาก ค่อนข้างแหลม ตรงกลางปลายสุดของขากรรไกรล่างมีsymphyseal knob ก้านครีบหลังอันแรกไม่มีก้านครีบแข็งแต่มีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 7 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 5 ก้าน เส้นข้างลําตัวสมบูรณ์ และอยู่ตํ่าค่อนมาทางด้านท้อง คอดหางค่อนข้างเรียว แพนครีบหางเรียว ครีบ หางเว้าลึก สีสัน ลําตัวและหัวมีสีเงินวาว ด้านบนมีสีนํ ้าตาลหรือสีดํา ส่วน ท้องมีสีขาวเงิน ขอบเกล็ดมีสีดํา ไม่มีแถบสีดําพาดตามแนวยาวของลําตัวหรือ ถ้ามีแถบนี ้จะมีสีจางมาก ตอนบนของครีบหลังมีแต้มสีเหลืองอ่อน ครีบอื่นๆ สี จาง แพนหางบนและล่างมีสีเหลืองสด ตอนปลายสุดของครีบหางมีแต้มสีดํา ตัดกับแต้มสีเหลืองที่อยู่ถัดเข้ ามามองเห็นได้ชัดเจน ขอบครีบหางมีสีดํา หมายเหต ุ อาศัยอยู่เป็ นฝูงในลําธารและแหล่งนํ ้าไหล นิยมนําเลี ้ยงเป็ น ปลายสวยงาม RLIKU uncat (ภาพโดย ปฎิณญา ศรีสําราญ)


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 38 Cypriniformes ซิวควาย Rasbora paviana Tirant, 1885 วงศ์ Cyprinidae Sidestripe rasbora ลักษณะ ลําตัวยาวและแบนข้างเล็กน้อย ไม่มีหนวด จะงอยปาก ค่อนข้างทู่ ตรงกลางปลายสุดของขากรรไกรล่างมี symphyseal knob ก้าน ครีบหลังอันแรกไม่มีก้านครีบแข็งแต่มีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 7 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 5 ก้าน เส้นข้างตัวสมบูรณ์อยู่ตํ่า ค่อนมาทางด้านท้อง คอดหางค่อนข้างกว้าง แพนครีบหางใหญ่ ครีบหางเว้า ลึก สีสัน ลําตัวด้านบนมีสีนํ ้าตาลเขียว ด้านท้องมีสีขาวเงิน ขอบด้านหน้า ของเกล็ดบนลําตัวเป็ นเส้นสีดําทําให้ดูคล้ายร่างแห ลําตัวมีแถบสีดําพาดจาก บริเวณช่องเปิ ดเหงือกไปจนถึงฐานของครีบหาง แถบดํานี ้จะค่อยๆ เพิ่มขนาด ขึ ้นไปทางส่วนท้ ายของลําตัวโดยบริเวณคอดหางจะกว้างที่สุดและเป็ นรูป สามเหลี่ยมหรือรูปไข่ ครีบทุกครีบมีสีเหลืองอ่อนถึงเข้ม ขอบด้านท้ายของครีบ หางอาจมีหรือไม่มีขอบสีดําคลํ ้า หมายเหต ุ อาศัยอยู่เป็ นฝูงในลําธารและ แหล่งนํ ้าไหล พบปลาชนิดนี ้มีความชุกชุมมากในเกือบทุกสถานีที่เก็บตัวอย่าง ACRSD 012, 72.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 39 Cypriniformes ตะเพียนนํ้าตก Systomus binotatus (Valenciennes, 1842) วงศ์ Cyprinidae Spotted barb ลักษณะ ลําตัวค่อนข้างเรียว ลึกตรงกลางตัวและแบนข้าง มีหนวดที่ ขากรรไกรบน (จะงอยปาก) จํานวน 2 คู่ จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่หลัง จุดเริ่มต้นของครีบท้อง ก้านครีบแข็งของครีบหลังมีขอบด้านท้ายเป็ นซี่หยัก ลําตัวปกคลุมด้ วยเกล็ดขอบเรียบขนาดต่างๆ กันจํานวนมาก เส้นข้ างตัว สมบูรณ์ เกล็ดรอบคอดหางมีจํานวน 12 เกล็ด ครีบทุกครีบพัฒนาดี ขอบครีบ หลัง ครีบท้ องและครีบก้นตัดตรง แพนหางใหญ่ ครีบหางเว้าลึกแบบส้อม สีสัน ส่วนหัวและลําตัวมีสีเขียวปนเหลืองหรือสีเงิน ด้านบนลําตัวจะมีสีเข้ม กว่าด้านข้าง ส่วนท้องมีสีขาวเงิน มีจุดสีดําเป็ นทรงกลมที่ฐานของครีบหลัง และคอดหางแห่งละ 1 จุด (ในปลาที่มีขนาดเล็กจะมีจุดสีดําที่จุดเริ่มต้นของ ครีบหลัง ครีบก้นและบริเวณด้านข้างลําตัว) ครีบหลัง ครีบก้นและครีบหางมีสี เหลืองส้ม ครีบอกและครีบท้องมีสีเหลืองส้ม หมายเหต ุอาศัยอยู่เป็ นฝูง บริเวณลําธารนํ ้าไหลหรือนํ ้าตก ACRSD 013, 103.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 40 Cypriniformes อีกอง Systomus lateristriga (Valenciennes, 1842) วงศ์ Cyprinidae Spanner barb ลักษณะ ลําตัวด้านข้างคล้ายรูปไข่และแบนข้าง มีหนวดที่ขากรรไกร บน (จะงอยปาก) จํานวน 2 คู่ จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่หน้าจุดเริ่มต้นของ ครีบท้อง ก้านครีบแข็งของครีบหลังมีขอบด้านท้ายเป็ นซี่หยัก ครีบหลังมีก้าน ครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 8 ก้าน ลําตัวปกคลุมด้วยเกล็ดขอบเรียบขนาด ต่างๆ กันจํานวนมาก ขอบครีบก้นตัดตรง ครีบหางเว้าลึกแบบส้อม สีสัน พื ้น ตัวเป็ นสีเงิน ด้านบนของลําตัวมีสีนํ ้าตาลอ่อน ด้านท้องมีสีเงิน มีแถบสีดํา ขนาดใหญ่ทอดยาวลงมาตามแนวตั ้งของลําตัวจํานวน 2 แถบ แถบแรกอยู่ เลยหลังช่องเปิ ดเหงือกและแถบที่สองอยู่บริเวณฐานตอนกลางของครีบหลัง ลําตัวตอนท้ายจะมีแถบสีดําในแนวนอนเชื่อมต่อมาจากแถบดําแถบที่สองยาว ไปถึงโคนครีบหาง ครีบทุกครีบมีสีส้มปนแดง ยกเว้นครีบอกมีสีเหลือง (สีสัน ของปลาชนิดนี ้มีความแปรปรวนไปตามขนาดของตัวปลาและสภาพพื ้นที่ที่ ปลาอยู่อาศัย) หมายเหต ุอาศัยอยู่ตามต้นนํ ้าและลําธารที่มีนํ ้าไหลเอื่อยๆ ACRSD 014, 53.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 41 Cypriniformes ตะเพียนนํ้าตก Systomus rhombeus (Kottelat, 2000) วงศ์ Cyprinidae Spotted barb ลักษณะ ลําตัวค่อนข้างเรียวและแบนข้าง ปากอยู่ทางด้านปลายสุด ของส่วนหัว ตาโต มีหนวดที่ขากรรไกรบน (จะงอยปาก) จํานวน 2 คู่ ครีบทุก ครีบพัฒนาดี จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่หลังจุดเริ่มต้นของครีบท้อง ก้านครีบ แข็งของครีบหลังมีขอบด้านท้ายเป็ นซี่หยัก ครีบก้นตัดตรง เกล็ดแนวเส้นข้าง ลําตัวมีท่อที่สมบูรณ์ ครีบหางเว้าลึกแบบส้อม สีสัน มีจุดสีดําอยู่บริเวณ ด้านล่างของฐานครีบหลังจํานวน 1 จุด อีกจุดหนึ่งอยู่ตรงตอนกลางของคอด หาง มีแถบสีนํ ้าตาลอยู่หลังขอบด้านบนของช่องเปิ ดเหงือก ตอนกลางลําตัวมี จุดสีดํา 1 จุดอยู่ในแนวกึ่งกลางลําตัวใต้ครีบหลังและมีจุดสีดําอีกจํานวน 1-2 จุดอยู่ที่ฐานของครีบก้น (อาจมองไม่เห็นจุดสีดํานี ้ในตัวอย่างที่มีความยาว มาตรฐานมากกว่า 30 ม.ม.) ที่ฐานของเกล็ดมีขอบสีดํารูปพระจันทร์เสี ้ยว หมายเหต ุอาศัยอยู่ในลําธารนํ ้าไหลเอื่อย มีพฤติกรรมชอบอยู่รวมกันเป็ นฝูง ACRSD 015, 27.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 42 Cypriniformes อีดพม่า Lepidocephalichthys berdmorei (Blyth, 1860) วงศ์ Cobitidae Burmese loach ลักษณะ ลําตัวค่อนข้างกลมและยาว รอบตาไม่มีผิวหนังปกคลุม ปากมีขนาดเล็กและอยู่ในตําแหน่งค่อนมาทางด้านล่าง มีหนวด 3 คู่ คือหนวด ที่จะงอยปาก ขากรรไกรบน และขากรรไกรล่าง หัวและแก้มปกคลุมด้วยเกล็ด ขนาดเล็ก จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่หลังจุดเริ่มต้นของครีบท้องเล็กน้อย ก้าน ครีบหลังมีก้านครีบอ่อนที่แตกแขนงจํานวน 6 ก้าน ครีบหางตัวตรง ในปลาเพศ ผู้จะมีก้านครีบหูก้านที่ 7-8 เชื่อมรวมกันเป็ นรูปทรงกระบอกหนา สีสัน หัว ลําตัว และครีบต่างๆ มีสีนํ ้าตาลถึงสีนํ ้าตาลเข้ม ด้านข้างและด้านบนของ ลําตัวและหัวมีจุดสีดํากระจายอยู่ทั่วไป มีแถบสีดําด้านข้างของหัวทั ้ง 2 ด้าน พาดผ่านตั ้งแต่ปลายจะงอยปากถึงขอบด้านหน้าของตา ครีบหลังและครีบหาง มีแถบสีดําพาดขวางจํานวน 6 แถบ ที่ฐานของครีบหางด้านบนตรงก้านครีบ แตกแขนงก้านที่ 3-6 มีจุดสีดําขนาดใหญ่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน หมาย เหตุพบตามแหล่งนํ ้าที่ไหลไม่แรงมากนัก อาศัยอยู่บริเวณหน้าดิน ACRSD 016, 58.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 43 Cypriniformes อีดชวา Pangio oblonga (Valenciennes, 1846) วงศ์ Cobitidae Java loach ลักษณะ ลําตัวกลมยาวคล้ายปลาไหล มีความยาวมาตรฐานเป็ น 7– 8 เท่าของความลึกลําตัว หัวและแก้มไม่มีเกล็ดปกคลุม ตามีขนาดเล็ก บริเวณรอบตาไม่มีผิวหนังปกคลุม ปากมีขนาดเล็กและอยู่ในตําแหน่งค่อนมา ทางด้านล่าง มีหนวด 3 คู่ คือหนวดที่จะงอยปาก 1 คู่และ หนวดที่ขากรรไกร บน 2 คู่ ครีบหูพัฒนาดี จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่ค่อนไปทางด้านท้ายของ ลําตัวและอยู่เลยจุดสิ ้นสุดของฐานครีบท้องไปมาก ครีบหลังมีก้านครีบอ่อนที่ แตกแขนงจํานวน 6 ก้าน คอดหางแบนข้างมากมีความกว้างเกือบเท่ากับ ความลึกของลําตัว ครีบหางตัดตรง สีสัน ส่วนหัวและทั ้งลําตัวมีสีนํ ้าตาลเข้ม บริเวณด้านท้องมีสีจาง ฐานครีบทุกครีบมีสีนํ ้าตาลตอนปลายของครีบมีสีจาง หมายเหต ุอาศัยอยู่ในลําธารนํ ้าไหลเอื่อยๆ โดยพบหลบซ่อนอยู่ในบริเวณที่ มีใบไม้ร่วงหรือกรวดหิน ACRSD 017, 63.0 mm SL


พรรณปลานํ้าจืดในจังหวัดระนอง 44 Cypriniformes ค้อ Acanthocobitis zonalternans (Blyth, 1860) วงศ์ Homalopteridae Loach ลักษณะ ลําตัวกลมยาว มีความยาวมาตรฐานเป็ น 4.2-5.3 เท่าของ ความลึกลําตัว ตามีขนาดปานกลาง (ปลาเพศผู้ จะมีแผ่นใต้ ตา เรียกว่า suborbital flap) รูจมูกเป็ นท่อ ปากมีขนาดเล็กรูปครึ่งวงกลมและเปิ ดออก ทางด้านล่างของหัว มีหนวด 3 คู่ คือ หนวดที่จะงอยปาก 2 คู่ และหนวดที่ ขากรรไกรบน 1 คู่ ลําตัวปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดเล็ก จุดเริ่มต้นของครีบหลัง ตั ้งอยู่ตอนหน้าของลําตัวและอยู่ด้านหน้าของฐานครีบท้อง ครีบหางหยักเว้า ตื ้น สีสัน หัวและลําตัวมีสีนํ ้าตาล มีแถบสีดําพาดจากปลายสุดของจะงอย ปากไปยังตาจนถึงขอบด้านท้ายของฝาเปิ ดเหงือก ส่วนหลังมีแถบสีดําพาดใน แนวขวาง 11-16 แถบ แนวข้างตัวมีแถบสีดําขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายวงกลม สีดําเชื่อมติดต่อกัน จุดสีดําเข้มตั ้งอยู่ตรงฐานก้านครีบหางอันแรกของแพน หางบน ครีบหลังและครีบหางมีสีนํ ้าตาลเหลืองและมีลายดําพาดขวาง หมาย เหต ุพบในแหล่งนํ ้าไหลตามนํ ้าตกที่มีพื ้นเป็ นโคลนหรือทรายที่มีก้อนหิน ACRSD 018, 42.0 mm SL


Click to View FlipBook Version