The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Ebook งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 7 เรื่องตัวต้านทาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patsuttida1, 2022-02-07 20:33:56

Ebook งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 7 เรื่องตัวต้านทาน

Ebook งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 7 เรื่องตัวต้านทาน

วิชาง​ านไฟฟ้าและ ร หั ส วิ ช า
อิเล็กทรอนิกส์ ​เบื้องต้น​ 20100-1005

(BASIC ELECTRICAL AND​ELECTRONIC WORK)​

แ ผ น ก อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ​

หน่วยที่​7

เรื่ อง​​ตั วต้ านทาน

ตั วต้ านทานคื ออะไร

ตัวต้านทาน (resistor) เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในวงจรไฟฟ้า หน้าที่หลักของตัวต้านทาน
ในวงจรไฟฟ้า คือ “ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านวงจรและค่าความต่างศักย์
ระหว่างสองจุดใดๆ ในวงจร” รวมถึงมีหน้าที่อื่ น ๆ เช่น เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็น
พลังงานความร้อน ตรวจวัดอุณหภูมิสวิตช์เปิดปิดด้วยแสง ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับวงจร
และสมบัติเฉพาะของตัวต้านทานนั้น ๆ โดยสมบัติในการควบคุมหรือจำกัดปริมาณ
กระแสไฟฟ้าในวงจรของตัวต้านทาน เรียกว่า ความต้านทาน​มีหน่วยเป็น​โอห์ม​( Ω )

ประเภทตั วต้ านทาน

1.​ตัวต้านทานชนิดค่าคงตัว
2.​ตัวต้านทานแปรค่าได้
3. ตัวต้านทานชนิดแบ่งค่าได้
4. ตัวต้านทานชนิดปรับแต่งค่าได้
5. ตัวต้านทานชนิดพิเศษ

-1-

1.​ตั วต้ านทานชนิดค่ าคงตั ว

fixed resistor เป็นตัวต้านทานที่มีความต้านทานคงตัวค่าหนึ่ง แต่จะมีหลายขนาด
และหลายค่าความต้านทานเพื่ อใช้ให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท โดยขนาดของตัว
ต้านทานจะยึดค่ากำลังไฟฟ้าสูงสุดที่ต้านได้เป็นเกณฑ์ มีขนาดตั้งแต่ 0.25-100 วัตต์
ความต้านทานของตัวต้านทานชนิดค่าคงตัวอ่านค่าได้จากรหัสสีที่ระบุบนตัวต้านทาน
สำหรับรหัสสีที่ใช้ระบุค่าความต้านทานของตัวต้านทานชนิดค่าคงที่มีลักษณะเป็นแถบสี

ภาพเสมือน

ภาพจริง

สัญลักษณ์

-2-

2.​ตั วต้ านทานแปรค่ าได้

variable resistor​ เป็นตัวต้านทานที่สามารถปรับค่าความต้านทานได้ ใช้ในการ
ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านวงจร ตัวต้านทานชนิดนี้สามารถเปลี่ยนค่า
ความต้านทานได้ตลอดเวลา โดยจะเปลี่ยนค่าความต้านทานตั้งแต่ค่าต่ำสุดจนถึงค่า
สูงสุดของตัวต้านทาน ตัวต้านทานชนิดแปรค่าได้มีทั้งที่ใช้กับกระแสไฟฟ้าต่ำ (ทำจาก
คาร์บอนหรือแกรไฟต์) ซึ่งเรียกว่า โพเทนชิโอมิเตอร์ หรือโดยทั่วไปเรียกว่า โวลุม
และที่ใช้กับกระแสไฟฟ้าสูง (ทำจากลวดความต้านทาน) ซึ่งเรียกว่า รีโอสตัต
(rheostat)

ภาพเสมือน

ภาพจริง

สัญลักษณ์

-3-

3.​ตั วต้ านทานชนิดแบ่งค่ าได้

tapped resistor​ เป็นตัวต้านทานแบบลวดพันที่มีขาต่อออกมามากกว่าสองขา
เพื่อแบ่งค่าความต้านทานให้เลือกใช้ 2-3 ค่า เมื่ อต้องการใช้ความต้านทานเท่าใด
ให้เลือกต่อหรือแท็ป (tapped) ระหว่างขาคู่ที่มีค่าความต้านทานตรงกับค่าที่
ต้องการ

ภาพเสมือน

ภาพจริง

สัญลักษณ์

-4-

4.​ตั วต้ านทานชนิดปรับแต่ งค่ าได้

adjustable resistor​เป็นตัวต้านทานแบบลวดพันที่มีปลอกโลหะสวมอยู่บนขดลวดที่
เป็นตัวต้านทาน การปรับแต่งค่าความต้านทานทำได้โดยการเปลี่ยนตำแหน่งของ
ปลอกโลหะ (เปลี่ยนจุดสัมผัส) โดยขันสกรูออกแล้วเลื่ อนปลอกโลหะที่สวมอยู่บนขด
ลวดจนได้ค่าความต้านทานที่ต้องการแล้วขันสกรูให้แน่น ความต้านทานจะมีค่าเท่ากับ
ค่าที่ปรับแต่งไว้ตลอดการใช้งาน

ภาพเสมือน

ภาพจริง

สัญลักษณ์

-5-

5.​ตั วต้ านทนชนิดพิเศษ

เป็นตัวต้านทานที่มีสมบัติและการใช้งานต่างจากตัวต้านทานทั่วไป ตัวอย่าง
ของตัวต้านทานชนิดพิเศษ ได้แก่ แอลดีอาร์ เทอร์มิสเตอร์ และวาริสเตอร์หรือ
วีดีอาร์ เป็นต้น

ภาพจ
ริง ภาพเส
มือน สัญลัก
ษณ์















-6-

การอ่ านค่ าตั วต้ านทาน มี​3​ แบบ

1.​การอ่านค่าตัวต้านทานโดยตรง​
2.​การอ่านค่าตัวต้านทานจากรหัสตัวเลข​
3.​การอ่านค่าตัวต้านทานจากรหัสสี

1.​การอ่ านค่ าตั วต้ านทานโดยตรง​

จะพิมพ์ค่าความต้านทานลงบนตัวต้านทานตามค่าความต้านทานของตัวต้านทาน
ของตัวนั้น พร้อมทั้งแสดงหน่วยกํากับไว้เป็น​ Ω, kΩ หรือ MΩ บางครั้งมีบอกค่า
การทนกําลังไฟฟ้าและค่าเปอร์เซ็นต์ผิดพลาดกํากับไว้ด้วยก็ได้ ตัวต้านทานบาง
แบบอาจใช้ตัวอักษรกํากับไว้บอกค่าเปอร์เซ็นต์ผิดพลาดแทนตัวเลขมีตัวอักษร
ภาษาอังกฤษที่ใช้ 9 ตัว ได้แก่ A, B, C, D, E, G, J, K และ M มีความหมาย ดังนี้

ตั วอย่าง จงอ่านค่าของตัวความต้านทานที่บอกค่าโดยตรง
5W = ทนกำลังไฟฟ้า​5 วัตต์
22Ω = มีความต้านทาน​22 Ω
J = มีค่าความผิดพลาด​+​5%

-7-

2.​การอ่ านค่ าตั วต้ านทานจากรหัสตั วเลข​

จะมีรหัสตัวเลขและตัวอักษรที่กํากับไว้บนตัวต้านทานเหล่านั้น​ แต่ไม่ได้แสดง
ค่าความต้านทานออกมาโดยตรง เพราะค่าที่แสดงไว้อยู่ในรูปรหัสจะต้องทําการ
แปลงรหัสให้เป็นค่าความต้านทานก่อน ในการอ่านค่าการอ่านค่าความต้านทาน
เป็นรหัสตัวเลขและ ตัวอักษรนั้นมี 2 แบบ

1.​แบบ​รหัสตั วเลข​3 ตั ว​

การอ่านค่าให้อ่านตัวเลขจากซ้ายมือไปยังขวามือตัวเลข 2 ตัวแรกด้านซ้ายมือ
อ่านค่าได้ โดยตรง ตัวเลขตัวที่ 3 แสดงจํานวนเลขศูนย์ (0) ที่ต้องเติมเข้าไปอ่าน
ค่าออกมามีหน่วยเป็นโอห์ม (Ω)

ตั วอย่าง จงอ่านค่าของตัวความต้านทานที่บอกค่าจากรหัสตัวเลข

ตัวตั้งหลักที่​1​เช่น​ 1
ตัวตั้งหลักที่​2​เช่น 0
หลักที่​3​จำนวนตัวเลขที่ต้องเติม​0​ เช่น​ 2=00​
ค่าความผิดพลาด​เช่น​J​= +​5%

ตอบ​ 1000​Ω​+​5%

ในกรณีที่ตัวต้านทานมีค่าต่ํากว่า 10 โอห์มลงมาให้ใช้ตัวอักษร R วางไว้เป็นตัวแรก
หรือตัวที่ สองแทนตัวเลขเพื่ อแสดงค่าเป็นจุดทศนิยม (.) ส่วนตัวเลขทั้งสองตัวอ่าน
ค่าออกมาโดยตรง​เช่น​ R15 = 0.15 Ω และ​9R3 = 9.3​Ω

-8-

2.​แบบร​ หัสตั วเลข​4 ตั ว​

ความต้านทานเป็นรหัสตัวเลขและตัวอักษร แบบตัวเลข 4 ตัวนั้น นิยมใช้กับตัว
ต้านทาน แบบแปะติด SMD การอ่านค่าให้อ่านตัวเลขจากซ้ายมือไปขวามือ
ตัวเลข 3 ตัวแรกด้านซ้ายมืออ่านค่า ได้โดยตรงตัวเลขตัวที่ 4 แสดงจํานวนเลข
ศูนย์ (0) ที่ต้องเติมเข้าไป

ตั ว อ ย่ า ง จงอ่านค่าของตัวความต้านทานที่บอกค่าจากรหัสตัวเลข

ตัวตั้งหลักที่​1​เช่น​ 1
ตัวตั้งหลักที่​2​เช่น 0
ตัวตั้งหลักที่​3​เช่น 2
หลักที่​4​จำนวนตัวเลขที่ต้องเติม​0​ เช่น​ 3=000​
ค่าความผิดพลาด​เช่น​J​= +​5%

1 ​0​2 3 J

ตอบ​ 102000​Ω​+​5%

ในกรณีที่ตัวต้านทานมีค่าต่ํากว่า 10 โอห์มลงมาให้ใช้ตัวอักษร R วางไว้เป็นตัวแรก
หรือตัวที่ สองแทนตัวเลขเพื่ อแสดงค่าเป็นจุดทศนิยม (.) ส่วนตัวเลขทั้งสองตัวอ่าน
ค่าออกมาโดยตรง​เช่น​ R15 = 0.15 Ω และ​9R3 = 9.3​Ω

-9-

3.​การอ่ านค่ าตั วต้ านทานจากรหัสสี​

ตัวต้านทานชนิดนี้จะแสดงค่าความต้านทานด้วยแถบสี โดยใช้สีที่กําหนดไว้ทา
เป็นเส้น รอบตัวต้านทานตามลําดับ ใช้แทนทั้งค่าความต้านทานและค่าความผิด
พลาด ค่าความต้านทานจากรหัสสี จะมีแถบสีที่ใช้ 2 แบบ

1 . ​ แ บ บ ​ 4 ​ แ ถ บ สี ​

มีแถบสที่แสดงไว้ทั้งหมด 4 แถบ การอ่านค่าให้ อ่านแถบสีที่อยู่ชิดกัน 3 แถบก่อน
โดยให้แถบสีแรกที่ชิดขาตัวต้านทานเป็นแถบสีที่ 1 อยู่ทาง ซ้ายมือแถบสีต่อมาเป็น
แถบสีที่ 2 ทั้งแถบสีที่ 1 และแถบสีที่ 2 แทนค่าเป็นตัวเลขลงไปและอ่านค่าตัว
เลขนั้นออกมาโดยตรง ส่วนแถบสีต่อมาเป็นแถบสีที่ 3 เป็นแถบสีตัวคุณหรือจํา
นวนเลขศูนยแ์ถ(บ0ส)ีทีท่ี​่1ต้องเติมเข้าไปและแถบสีที่ 4 เป็นแถบสีสุดท้ายซึ่งอยู่ห่างออก
มาเล็กน้อยเป็นแถบสีแสดงค่าผิดพลาดตัวต้านทาน

ตั ว อ ย่ า ง จงอ่านค่าของตัวความต้านทานที่บอกค่าจากรหัสสี

แถบสีที่​1 แถบสีที่​2 แถบสีที่​3 แถบสีที่​4

ตอบ​ 56000​Ω​+​5%

-10-

2.​แบบ​5 แถบสี​

มีแถบสที่แสดงไว้ทั้งหมด 5 แถบ การอ่านค่าให้อ่านแถบสีที่อยู่ชิดกัน 4 แถบก่อน
โดยให้แถบสีแรกที่ชิดขาตัวต้านทานเป็นแถบสีที่ 1 อยู่ทาง ซ้ายมือแถบสีต่อมาเป็น
แถบสีที่ 2 และ 3 ตามลําดับ ทั้งแถบสีที่ 1, 2 และแถบสีที่ 3 แทนค่าเป็นตัวเลข
ลงไปและอ่านค่าตัวเลขนั้นออกมาโดยตรง ส่วนแถบสีต่อมาเป็นแถบสีที่ 4 เป็น
แถบสีตัวคุณ หรือจํานวนเลขศูนย์ (0) ที่ต้องเติมเข้าไปและแถบสีที่ 5 เป็นแถบสี
สุดท้ายซึ่งอาจอยู่ห่างออกมาเล็กน้อยเป็นแถบสีแสดงค่าผิดพลาดตัวต้านทาน

ตั ว อ ย่ า ง จงอ่านค่าของตัวความต้านทานที่บอกค่าจากรหัสสี

แถบสีที่​1 แถบสีที่​2 แถบสีที่​3 แถบสีที่​4 แถบสีที่​5

ตอบ​ 47000​Ω​+​1%

-11-

มัลติ เตอร์แบบอนาล็ อก

1 . ​ ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ​ 9 หมายเลข 1 indicator Zero Corrector
1 มีหน้าที่ตั้งค่าเข็มให้อยู่ตำแหน่ง 0 หรือตำแหน่ง
8 อื่ นๆที่ต้องการ
3 7
2 6 หมายเลข 2 Indicator Pointer
หรือ เข็มชี้บ่ง มีหน้าที่ชี้บ่งปริมาณต่างๆ
5
หมายเลข 3 Indicator Scale
4 สเกลต่างๆที่อยู่บนหน้าปัดของมิเตอร์

หมายเลข 6 Measuring Terminal + หมายเลข 4 Range Selector Switch knob

เทอร์มินอลไฟบวก ลูกบิดปรับเลือกค่าที่ต้องการวัด

หมายเลข 7 Measuring - COM หมายเลข 5 0-ohms adjusting knob /0-

เทอร์มินอลไฟลบ หรือ common centering meter ปุ่มปรับตั้งค่าความ

ต้านทานให้อยู่ตำแหน่ง 0 หรือตำแหน่งที่

ต้องการ

หมายเลข 8 Panel หน้าปัดมิเตอร์

หมายเลข 9 Rear Case​ กรอบมิเตอร์

-12-

2. สเกลหน้าปั ด

1
28

5
36
47

หมายเลข 1 สเกล เป็นสเกลสำหรับอ่าน
หมายเลข 5 สเกล ICEO และLI (A , mA)

เมื่ อใช้วัดค่าความต้านทาน เป็นสเกลสำหรับอ่านค่า เมื่ อใช้วัด ICEO

ของทรานซิสเตอร์และค่า LI
หมายเลข 2 สเกล DCV , A เป็นสเกล

สำหรับอ่านค่า เมื่ อใช้ย่านการวัดแรงดัน
หมายเลข 6 สเกล LV (V) เป็นสเกลสำหรับ

กระแสตรง และย่านการวัดกระแสตรง อ่านค่า เมื่ อใช้วัดค่าแรงดันตกคร่อมจุดวัด

ขณะใช้ย่านวัดความต้านทาน
หมายเลข 3 สเกล ACV เป็นสเกล

สำหรับอ่านค่า เมื่ อใช้ย่านการวัดแรงดัน
หมายเลข 7 สเกล dB เป็นสเกลสำหรับอ่าน

ไฟฟ้ากระแสสลับ ค่า เมื่ อใช้วัดค่าเดซิเบล

หมายเลข 4 สเกล hfe เป็นสเกลสำหรับ
หมายเลข 8 เป็นแถบเงาสำหรับช่วยในการ

อ่านค่าเมื่ อใช้วัดค่าอัตราการขยาย
อ่านค่าให้เที่ยงตรงย่านการวัดและสวิตช์

กระแสตรง เลือก

-13-

มัลติ มิเตอร์แบบดิจิตอล

1. ส่วนประกอบ

1. จอแสดงผล (display)

1 2. สวิตซ์เปิด-ปิด (ON-OFF)

27 3. สวิตช์เลือกปริมาณที่จะวัดและช่วงการวัด


(range selector switch) สามารถเลือก

การวัดได้ 8 อย่าง ดังนี้
1. DCV
3 2. ACV

3. DCA

7 4. ACA

5. Ω

4 6. CX

5 7. hFE

6 8. Diode

6. ช่องเสียบสายวัด 10A สำหรับวัด DCA
4. ช่องเสียบสายวัดร่วม :(COM) ใช้เป็นช่อง

และ ACA ที่มีขนาด 200 mA-10A เสียบร่วมสำหรับการวัดทั้งหมด (ยกเว้นการ

วัด CX และ hFE ไม่ต้องใช้สายวัด)

7. ช่องเสียบสำหรับวัดการขยายกระแส 5. ช่องเสียบสายวัด mA สำหรับวัด DCA

ตรงของทรานซิสเตอร์ และ ACA ที่มีขนาด 0-200 mA

-15-

การวัดตั วต้ านทานด้วยโอห์มมิเตอร์ มี​2 แบบ

1.​วัดด้วยโอห์มมิเตอร์แบบอนาล็ อก​

1.​ตั้งย่านใช้งานของมิเตอร์ที่ย่านโอห์ม เช่น​Rx1, Rx10, Rx100
2.​​ใช้สายวัดสีแดงเสียบเข้าที่ขั้วต่อขั้วบวก และสายวัดสีดำเสียบเข้าที่ขั้วต่อขั้วลบ
3. ชอร์ตปลายเข็มวัดของโอห์มมิเตอร์เข้าด้วยกัน
4.​ทำการปรับแต่งปุ่มปรับ 0 ADJ. ที่หน้าปัดมิเตอร์ ให้เข็มชี้ที่ตำแหน่ง 0 พอดี
5. ทำการวัดความต้านทาน​โดยใช้สายสีแดงแตะที่ด้านใดด้านหนึ่งของขาตัวต้านทาน​

ใช้สายสีดำแตะขาข้างที่เหลือ​
6. ทำการอ่านค่า
หมายเหตุ​จะต้องทำการปรับแต่งโอห์มมิเตอร์ใหม่ทุกครั้งในการเลือกย่านการวัด

ตั วอย่าง

ขั้นตอนที่​1-3 ขั้นตอนที่​4-6

-12-

2 . ​ วั ด ด้ ว ย โ อ ห์ ม มิ เ ต อ ร์ แ บ บ ดิ จิ ต อ ล ​

1.​ตั้งย่านใช้งานของมิเตอร์ที่ย่านโอห์ม
2.​​ใช้สายวัดสีแดงเสียบเข้าที่ขั้วต่อขั้วบวก และสายวัดสีดำเสียบเข้าที่ขั้วต่อขั้วลบ
3. ทำการวัดความต้านทาน​โดยใช้สายสีแดงแตะที่ด้านใดด้านหนึ่งของขาตัวต้านทาน​

ใช้สายสีดำแตะขาข้างที่เหลือ​
4. ทำการอ่านค่า

200

ขั้นตอนที่​1-4

-13-

แบบฝึ กหัด​

1.​จงบอกหน้าที่ของตัวต้านทาน

............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................

2.​จงเขียนสัญลักษณ์ของตัวต้านทานต่อไปนี้​ ​

ชนิดตัวต
้านทาน ​ สัญลักษ
ณ์ ​ ห
น้าที ​

1.​ชนิดค่าคงตัว



2.​แปรค่าได้



3. ชนิดแบ่งค่าได้



4. ชนิดปรับแต่งค่าได้



5. ชนิดพิเศษ



-14-

3.​จงอ่านค่าตัวต้านทานดังต่อไปนี้

3.1 1​2 J =

3.2 1​2​3 F =

3.3 1​2​1​2 G =

3.4 =

3.5 =

4....​..จ..ง...บ...อ...ก...ข.ั.้.น...ต....อ...น...ใ.น...ก....า..ร..ว.ั..ด...ค...ว..ส.า.ั.มญ...ต.้.ล.ัา..กน...ษ.ท..ณ.า.์.น...ด.​้..ว...ย...โ.อ...ห..์.ม....ม.ิ..เ.ต....อ...ร.์.อ...น...า..ล..็.อ...ก...​...................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

5.​จงบอกขั้นตอนในการวัดความต้านทานด้วยโอห์มมิเตอร์ดิจิตอล
......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

-15-

นำเสนอโดย
สุ ท ธิ ด า ​ บุ ญ ​น า ค


Click to View FlipBook Version