The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือระบบ ISO9001_2015 โลจิสติกส์_24-7-62 rev1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Naiyana S., 2019-08-14 03:22:51

คู่มือระบบ ISO9001_2015 โลจิสติกส์_24-7-62 rev1

คู่มือระบบ ISO9001_2015 โลจิสติกส์_24-7-62 rev1

กจิ กรรม รายละเอียดตัวช้ีวดั
ประมาณรอ้ ยละ…………………

7 การบริหารสินค้าคงคลงั (Inventory management)

สัดส่วนต้นทุนการถือครองสินค้าต่อยอดขาย (Ratio of Inventory Carrying Cost Per

Sale)

สัดส่วนต้นทุนการถือครองสินค้าต่อยอดขาย = ต้นทุนการถือครองสินค้าต่อมูลค่ายอดขาย

7.1 ตน้ ทนุ ต่อปี
ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองสินค้า ณ ช่วงเวลาที่บริษัทได้ท่าการจัดเก็บสินค้าไว้ใน

คลังสินค้าของบริษัท รวมท้ังต้นทุนในการถือครองสินค้าอ่ืนๆ เช่น ค่าประกันภัยสินค้า

ค่าเส่ือมราคาของสนิ คา้ ณ ช่วงเวลาท่จี ัดเก็บสนิ คา้ เป็นต้น

ประมาณรอ้ ยละ………………...ตอ่ มลู คา่ ยอดขาย/ตอ่ ปี

ระยะเวลาเฉลี่ยการเก็บสินค้าส่าเร็จรูปอย่างเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

(Average Inventory Day)

ระยะเวลาเฉล่ียการเก็บสินค้าส่าเร็จรูปไว้อย่างเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการของ

7.2 เวลา ลูกคา้ = ระยะเวลาเฉลยี่ ทีบ่ ริษทั ท่าการส่ารองหรือจดั เกบ็ สินคา้ ส่าเรจ็ รูปมีปริมาณเพียงพอ
ตอ่ การตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้า

ระยะเวลาเฉลี่ยที่บริษัทท่าการส่ารองหรือจัดเก็บสินค้าส่าเร็จรูปมีปริมาณเพียงพอต่อการ

ตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้า

ประมาณ…………………..วนั

อัตราจ่านวนสินค้าส่าเร็จรูปขาดมือ (Inventory Out of Stock Rate)

Inventory Out of Stock Rate = จา่ นวนครั้งของการขาดสนิ ค้าส่าเรจ็ รปู ในคลัง ในการส่ง
7.3 ความ มอบให้แก่ลกู ค้า x 100% จา่ นวนค่าส่ังซ้ือทั้งหมด
น่าเชื่อ ถือ ความถ่ีหรือจ่านวนครั้งท่ีบริษัทไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้อันเนื่องมาจากสินค้า

ส่าเรจ็ รปู มีไมเ่ พียงพอ ซ่งึ แสดงถึงความสามารถในการบรหิ ารสินค้าส่าเรจ็ รปู ของบรษิ ัท
ประมาณร้อยละ…………………..ของจ่านวนค่าสัง่ ซอ้ื (Order)

8 การจัดการเคร่ืองมือเครื่องใชต้ า่ งๆ และการบรรจหุ บี ห่อ (Material handling and packaging)

สัดสว่ นมูลค่าสินค้าท่เี สยี หายตอ่ ยอดขาย (Ratio of Value Damaged Per Sale)

สัดส่วนมูลค่าสินค้าท่ีเสียหายต่อยอดขาย = มูลค่าสินค้าที่เสียหายนับตั้งแต่ผลิตเสร็จ

8.1ตน้ ทนุ จนกระทง่ั กอ่ นการจัดส่งตอ่ มูลค่ายอดขายต่อปี
มูลค่าของสินค้าที่เกิดการเสียหายนับต้ังแต่กระบวนการผลิตเสร็จส้ินการจัดเก็บ จนกระท่ัง

ก่อนการจดั สง่ สนิ ค้า

ประมาณรอ้ ยละ………………...ต่อมลู คา่ ยอดขาย/ต่อปี

8.2 เวลา ระยะเวลาเฉลี่ยการถือครองและการบรรจุภัณฑ์สินค้า (Average Material Handling and
Packaging)

หน้า 48 / 88

กจิ กรรม รายละเอียดตัวชี้วัด

ระยะเวลาเฉล่ียการถือครองสินค้าและการเตรียมส่งสินค้า = ระยะเวลาเฉลี่ยการถือครอง
สินค้าและการเตรียมส่งสินค้าโดยเร่ิมนับเวลาต้ังแต่เสร็จสิ้นกระบวนการผลิตการจัดเก็บ
จนถึงการจัดเตรยี มสินคา้ เพอื่ ส่งมอบสนิ คา้ ให้แก่ลูกคา้
ระยะเวลาเฉลี่ยการถือครองสินค้าและการเตรียมส่งสินค้าโดยเริ่มนับเวลาตั้งแต่เสร็จสิ้น
กระบวนการผลิต การจดั เก็บ ตลอดจนการจดั เตรยี มสินค้าเพอ่ื ส่งมอบสนิ ค้าใหแ้ ก่ลูกค้า
ประมาณ…………………..เดอื น…………………………วนั …………………..ชว่ั โมง

อัตราความเสียหายของสินค้า (Damage Rate)

Damage Rate = จ่านวนคา่ สง่ั ซอ้ื ท่ีพบว่าเกิดความเสียหายต่อสินคา้ x 100% จา่ นวนค่าสั่ง
8.3 ความ ซื้อท้ังหมด
นา่ เช่อื ถอื อัตราความเสียหายท่ีเกิดกับสินค้านับตั้งแต่ผลิตเสร็จ จัดเก็บจนกระท่ังการจัดเตรียมสินค้า

เพื่อจดั สง่ โดยคดิ ตามจ่านวนครั้งทเ่ี กดิ ความเสยี หาย
ประมาณร้อยละ………………...ต่อจ่านวนค่าสั่งซ้อื
9 โลจิสตกิ ส์ย้อนกลบั (Reverse logistics)

สดั สว่ นมลู คา่ สินคา้ ทถี่ ูกตีกลับตอ่ ยอดขาย (Ratio of Returned Goods Value Per Sale)

9.1ต้นทนุ สัดส่วนมลู ค่าสินค้าท่เี สียหายตอ่ ยอดขาย = มลู ค่าสินคา้ ทถี่ กู ตกี ลบั ตอ่ มูลคา่ ยอดขายตอ่ ปี

มูลค่าของสินค้าที่ถูกตีกลับมาจากลูกค้า อันเน่ืองมาจากความเสียหายของสินค้า หรือสินค้า
ผลติ ไม่ได้ตามมาตรฐานทีก่ า่ หนด
ประมาณร้อยละ………………...ต่อมูลคา่ ยอดขาย/ต่อปี

ระยะเวลาเฉล่ียการรบั สินคา้ คืนจากลูกคา้ (Average Cycle Time for Customer Return)

9.2 เวลา ระยะเวลาเฉลย่ี การรับสนิ ค้าคืนจากลูกคา้ = ระยะเวลาเฉลี่ยทีบ่ ริษัทท่าการรับคืนสินค้าจาก
ลูกค้าโดยเริ่มนับระยะเวลาต้ังแต่ลูกค้าแจ้งให้บริษัทท่าการรับสินค้าคืน จนกระท่ังบริษัทท่า
การรับสินคา้ คืนหรอื ไดร้ ับสินค้าคืนกลบั มายังบรษิ ทั
ระยะเวลาเฉลี่ยในการรับคืนสินค้าจากลูกค้าโดยเร่ิมนับระยะเวลาต้ังแต่ลูกค้าแจ้งให้บริษัท
ทา่ การรบั สินคา้ คนื จนกระทง่ั บรษิ ทั ทา่ การรับสินคา้ คนื หรอื ไดร้ ับสินค้าคนื กลบั มายังบริษทั
ประมาณ…………………………วัน …………………..ชว่ั โมง

อตั ราการถูกตีกลบั ของสนิ คา้ (Rate of Returned Goods)

9.3 ความ Rate of Returned Goods = จา่ นวนครั้งของการถูกตีกลับของสินค้า x 100% จ่านวนครั้ง
น่าเชื่อ ถอื ของการจดั สง่ สินคา้ ไปยงั ลกู ค้า

สดั ส่วนการถกู ตีกลับของสินค้าจากลกู ค้า หลังจากไดท้ า่ การจดั ส่งสนิ คา้ เรยี บร้อยแล้ว
ประมาณรอ้ ยละ………………...ตอ่ จา่ นวนการส่งสนิ ค้า

หน้า 49 / 88

ท่ีมา : ปรับปรุงจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ ส่านักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(2550). คู่มือวินิจฉัยความสามารถทางด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการธุรกิจ โครงการภายใต้กรอบความร่วมมือ
ระหวา่ งภาครฐั และเอกชน (ส.อ.ท.) SMEs Projects

กจิ กรรม ตวั อยา่ งการใชแ้ บบฟอร์มประเมินตัวชว้ี ดั โลจสิ ตกิ ส์ หนว่ ย การประเมนิ ผล
1 รายละเอียดตัวชี้วัด
%ต้นทนุ บรกิ าร/
2 การใหบ้ ริการแกล่ ูกค้าและกจิ กรรมสนบั สนุน (Customer service ยอดขาย
วนั
3 and support service) %

1.1 ตน้ ทุน สดั สว่ นตน้ ทุนการใหบ้ รกิ ารลกู ค้าต่อมลู ค่า % ต้นทุนจดั หา/
ยอดขาย
ยอดขาย (Ratio of Customer Service Cost วัน
%
Per Sale) ประมาณ
%การลงทนุ
1.2 เวลา ระยะเวลาเฉล่ียการตอบสนองคา่ สั่งซ้ือจาก สือ่ สาร/ยอดขาย

ลกู ค้า (Average Order Cycle Time) วัน
%
1.3 ความน่าเชอ่ื ถอื อัตราความสามารถการจดั สง่ สินคา้ (DIFOT

CS and Support Rate) = รอ้ ยละของการ

จดั สง่ ครบตามจา่ นวน x รอ้ ยละของการจัดส่ง

ตรงตามเวลา

การจัดซ้ือจัดหา (Sourcing)

2.1 ตน้ ทนุ สัดสว่ นการซ้อื จดั หาตอ่ มลู คา่ ยอดขาย (Ratio

of Procurement Cost Per Sale)

2.2 เวลา ระยะเวลาเฉล่ียการจัดซอื้ (Average

Procurement Cycle Time)

2.3 ความน่าเชื่อถอื อัตราความสามารถในการจดั สง่ สนิ คา้ ของ

ผผู้ ลติ (Supplier In Full and On-Time

Rate) = รอ้ ยละของการจดั สง่ เตม็ จา่ นวนจาก

ผผู้ ลติ x ร้อยละของการจดั สง่ ตรงตามเวลา

ของผ้ผู ลิต

การสอ่ื สารดา้ นโลจสิ ติกสแ์ ละกระบวนการสั่งซือ้ (Logistics

communication and order processing)

3.1 ต้นทุน สัดส่วนมลู คา่ การลงทุนเกีย่ วกับการติดตง้ั

ระบบการสอ่ื สารภายในองค์กรตอ่ มลู ค่า

ยอดขาย (Ratio of Information Processing

Cost Per Sale)

3.2 เวลา ระยะเวลาเฉลย่ี การส่งค่าสัง่ ซื้อภายในองคก์ ร

(Average Order Processing Cycle Time)

3.3 ความนา่ เชื่อถือ อัตราความแม่นยา่ ของใบสั่งงาน (Order

Accuracy Rate) = 1 – จ่านวนใบสั่งงานที่

ผิดพลาดจ่านวนใบสัง่ งานทัง้ หมด

หน้า 50 / 88

กจิ กรรม รายละเอยี ดตัวช้ีวดั หนว่ ย การประเมนิ ผล
4 % ต้นทุนการ
5 การขนสง่ (Transportation) ขนสง่ /ยอดขาย

6 4.1 ต้นทุน สัดสว่ นตน้ ทุนการขนสง่ ตอ่ มูลค่ายอดขาย วนั

7 (Ratio of Transportation Cost Per Sale) % ต้นทนุ บริหาร
คลัง/ยอดขาย
8 4.2 เวลา ระยะเวลาเฉล่ียการจดั ส่งสนิ คา้ (Average
วนั
Delivery Cycle Time) %

4.3 ความนา่ เชื่อถอื อัตราความสามารถในการจดั สง่ สนิ ค้าของ %ตน้ ทุนพยากรณ์
ต่อยอดขาย
แผนกขนส่ง (DIFOT Rate (Transportation) วัน
%
การเลือกสถานท่ีตัง้ ของโรงงานและคลังสินค้า (Facilities site
%ต้นทุนการถอื
selection, warehousing, and storage) ครองต่อยอดขาย

5.1 ต้นทุน สัดสว่ นตน้ ทนุ การบริหารคลงั สนิ คา้ ต่อ วนั

ยอดขาย (Ratio of Warehousing Cost Per %

Sale) %สินคา้ เสยี หาย/
ยอดขาย
5.2 เวลา ระยะเวลาเฉลยี่ สินคา้ สา่ เรจ็ รปู ในคลังสนิ คา้

(Average Inventory Cycle Time)

5.3 ความนา่ เชื่อถือ อตั ราความแม่นยา่ ของสินค้าคงคลงั

(Inventory Accuracy Rate)

การวางแผนหรอื การคาดการณ์ความตอ้ งการของลกู ค้า (Demand

forecasting and planning)

6.1 ตน้ ทนุ สดั ส่วนตน้ ทนุ การพยากรณค์ วามต้องการของ

ลูกคา้ ตอ่ ยอดขาย (Ratio of Forecasting

Cost Per Sale)

6.2 เวลา ระยะเวลาเฉลี่ยการพยากรณ์ความตอ้ งการ

ของลกู ค้า (Average Forecast Period)

6.3 ความน่าเชอ่ื ถือ อตั ราความแมน่ ย่าการพยากรณ์ความตอ้ งการ

ของลูกค้า (Forecast Accuracy Rate)

การบริหารสินคา้ คงคลงั (Inventory management)

7.1 ต้นทนุ สัดสว่ นตน้ ทนุ การถือครองสินค้าตอ่ ยอดขาย

(Ratio of Inventory Carrying Cost Per

Sale)

7.2 เวลา ระยะเวลาเฉลยี่ การเกบ็ สนิ ค้าสา่ เรจ็ รปู อย่าง

เพยี งพอเพื่อตอบสนองความต้องการของ

ลกู ค้า (Average Inventory Day)

7.3 ความนา่ เช่อื ถอื อตั ราจ่านวนสนิ ค้าสา่ เร็จรูปขาดมอื

(Inventory Out of Stock Rate)

การจดั การเคร่อื งมือเครอื่ งใช้ต่างๆ และการบรรจหุ บี หอ่ (Material

handling and packaging)

8.1 ตน้ ทนุ สัดสว่ นมูลคา่ สินค้าทเี่ สยี หายต่อยอดขาย

(Ratio of Value Damaged Per Sale)

หน้า 51 / 88

กิจกรรม รายละเอยี ดตัวชี้วดั หน่วย การประเมินผล
9 วัน
8.2 เวลา ระยะเวลาเฉล่ยี การถอื ครองและการบรรจุ
%ค่าสัง่ ซื้อ
ภณั ฑส์ นิ คา้ (Average Material Handling เสียหาย/ยอดขาย

and Packaging) %สินคา้ ตกี ลบั /
ยอดขาย
8.3 ความนา่ เชอื่ ถอื อัตราความเสียหายของสินค้า (Damage วนั

Rate) %ถูกตีกลบั

โลจสิ ตกิ ส์ยอ้ นกลับ (Reverse logistics)

9.1 ตน้ ทนุ สดั ส่วนมูลคา่ สนิ คา้ ทถี่ กู ตีกลับตอ่ ยอดขาย
9.2 เวลา (Ratio of Returned Goods Value Per
9.3 ความนา่ เชอ่ื ถือ Sale)
ระยะเวลาเฉลย่ี การรบั สนิ คา้ คนื จากลกู ค้า
(Average Cycle Time for Customer
Return)
อัตราการถกู ตกี ลบั ของสินค้า (Rate of
Returned Goods)

หน้า 52 / 88

บทที่ 4
แนวโน้มและการประยกุ ต์เทคโนโลยีเกยี่ วกบั ธุรกจิ บริการ

โลจิสตกิ ส์ในอนาคต

แนวโน้มเทคโนโลยีโลจิสติกส์ท่ีน่าจับตามองในปี 2019 คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีส่วน

ร่วมกับธุรกิจทุกประเภท ทุกอุตสาหกรรม รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ต้ังแต่มีการปรับเปล่ียนคร้ังใหญ่

เพ่ือให้เข้ากับยุคดิจิตัล โลจิสติกส์ (Logistics) ซ่ึงก็คือระบบการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการให้ไปถึงมือผู้บริโภคก็มี

การเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นกัน เพราะโลจิสติกส์เปรียบเสมือนเป็นพื้นฐานและฟัน เฟืองขับเคลื่อนของทุก

อตุ สาหกรรม โดยเหตุผลหลักท่ีต้องน่า Information Technology (IT) เขา้ มาใช้ในธรุ กิจบรกิ ารโลจิสติกส์ คือ

1. โลจิสติกสต์ อ้ งการความรวดเรว็ ในการขนส่งอย่างถูกตอ้ งแม่นย่า

2. ระบบโลจสิ ติกสต์ ้องมีการแลกเปล่ียนข้อมูลกันตลอดเวลา

3. สารสนเทศทถี่ กู ตอ้ งและทันเวลาจะช่วยกจิ การลดระดบั สินคา้ คงคลงั ได้

4. IT จะช่วยเรือ่ งการปรับเส้นทางและตารางเวลาขนส่งให้เหมาะสม

5. ชว่ ยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการแกล่ ูกค้า

6. สามารถชว่ ยลดค่าแรงงานในการบริหารโลจสิ ติกส์ได้

7. ช่วยเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์จากปรมิ าตรในคลังสนิ คา้ ได้

8. โลจสิ ติกส์ต้องการความรวดเร็วในการขนส่งอยา่ งถกู ตอ้ งแมน่ ย่า

9. ระบบโลจสิ ตกิ ส์ต้องมีการแลกเปล่ยี นข้อมลู กันตลอดเวลา

10. สารสนเทศท่ีถูกตอ้ งและทันเวลาจะช่วยกิจการลดระดับสินคา้ คงคลงั ได้

11. IT จะช่วยเรื่องการปรบั เส้นทางและตารางเวลาขนสง่ ให้เหมาะสม

12. ชว่ ยเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบริการแก่ลกู ค้า

13. สามารถชว่ ยลดค่าแรงงานในการบริหารโลจสิ ตกิ ส์ได้

14. ช่วยเพิ่มอัตราการใชป้ ระโยชน์จากปรมิ าตรในคลงั สนิ ค้าได้

แนวโนม้ เทคโนโลยีโลจสิ ติกส์ในอนาคต มีรายละเอยี ดดังนี้

1. INTERNET OF THINGS (IoT) อนิ เทอร์เนต็ ของทุกสิง่

2. BIG DATA ANALYTICS การวเิ คราะห์ขอ้ มูลขนาดใหญ่พื่อการตัดสนิ ใจ

3. ARTIFICIAL INTELLIGENCE (AI) ปญั ญาประดิษฐ์

4. ROBOTICS หุ่นยนต์

5. AUTONOMOUS VEHICLES ยานพาหนะไร้คนขบั

6. DRONE อากาศยานไร้คนขบั

7. 5G NETWORK เครอื ข่ายการเชอื่ มตอ่ อจั ฉริยะ

8. BLOCKCHAIN ระบบโครงขา่ ยในการเกบ็ บญั ชธี รุ กรรมออนไลน์

9. GREY LOGISTICS โลจสิ ติกสเ์ พือ่ สังคมสงู วยั

หน้า 53 / 88

1. อินเทอรเ์ นต็ ของทุกสิง่ (INTERNET OF THINGS: IoT)
IoT เช่ือมต่ออุปกรณ์และเคร่ืองมือเข้ากับอินเทอร์เน็ตและอาศัยการแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างกันในการ

ด่าเนินการ ในกระบวนการโลจิสติกส์ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์สามารถใช้ข้อมูลจากการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ มาสร้าง
ฐานข้อมูลเชิงลึกส่าหรับการวิเคราะห์และวางแผนการด่าเนินการท่ีจะน่าไปสู่การเปลี่ยนแปลงและการแก้ปัญหา
ใหมๆ่ เพ่อื เพิม่ ประสทิ ธิภาพและความโปร่งใสในการขนส่งสินค้า

การใช้งาน IoT ในกระบวนการโลจิสติกส์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสามารถท่าให้ค่าใช้จ่าย
โดยรวมลดลง เพิ่มความปลอดภัย มีความแม่นย่า และได้มาตรฐาน ซึ่งการพัฒนาเครือข่าย IoT ระยะต่อไปจะมี
ตน้ ทนุ ค่าอุปกรณ์ทีล่ ดลงอย่างต่อเน่ืองท่าให้ผู้ให้บริการโลจสิ ตกิ สม์ โี อกาสนา่ IoT มาปรบั ใชใ้ นการดา่ เนินธุรกจิ ใหม่ ๆ
ไดม้ ากขนึ้ ตัวอย่างเช่น

 การตรวจสอบการขนส่งและสินค้าคงคลังได้อย่างถูกต้อง ด้วยการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของสินค้า
ระบบจะสามารถรายงานสถานการณ์จัดส่งสินค้าให้กับผู้ประกอบการในการวางแผนเส้นทางการขนส่ง
การจัดการพนักงาน ต่าแหน่งการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าผ่านระบบ Radio Frequency Identification
(RFID) และ Global Positioning System (GPS)

 การเพ่ิมความโปร่งใสของคลังสินค้า โดยการติดแท็กข้อมูลในสินค้าแต่ละพาเลท (Pallet) และสามารถสง่
ข้อมูลสภาพและต่าแหน่งปัจจุบัน ท่าให้มองเห็นภาพรวมวิเคราะห์ปรับปรุงวางแผนการบริหารจัดการ และ
ควบคุมดูแลสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถเพ่ิมความสะดวกและความปลอดภัยของ
พนักงานในการปฏบิ ตั ิงาน ในคลังสินค้าไดด้ ียิ่งขึ้น

 การขนส่งอัจฉริยะ สามารถเพิ่มความคุ้มค่าในการขนส่ง โดยรถบรรทุกอัจฉริยะท่ีเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่เริ่ม
น่ามาใช้ ในรถบรรทุก อาทิระบบ Telematics ให้สามารถรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับการเดินทางวางแผน
เสน้ ทางและเวลาขนสง่ ใหม้ คี วามยดื หยุ่น ซ่งึ จะทา่ ให้เกดิ การใชท้ รัพยากรอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ประโยชน์
 เพ่มิ ความโปรง่ ใสและความนา่ เช่อื ถอื ของการขนส่ง
 ประสทิ ธภิ าพในการด่าเนนิ งานท่ี มากขึน้ และลดต้นทนุ
 ปรบั ปรงุ คณุ ภาพการใหบ้ ริการเพิ่มความปลอดภัยในการด่าเนินงาน
 ลกู ค้าสามารถกา่ หนดรูปแบบ วธิ ีการจดั สง่ ไดเ้ องอย่างยดื หยนุ่

2. การวิเคราะหข์ ้อมูลขนาดใหญ่พ่ือการตัดสนิ ใจ (Big Data Analytics)
ระบบ Big Data Analytics สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพในกระบวนการผลิต เพ่ิมความเข้าใจในความต้องการ ของ

ลูกค้าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ลดความเสี่ยงและสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ในการด่าเนินกระบวนการด้าน
โลจสิ ตกิ ส์ทจ่ี ะช่วยสร้างมูลคา่ เพมิ่ อย่างมหาศาล

Big Data จะเป็นศูนยร์ วมหลกั ของข้อมลู ท่จี ะมีบทบาทในการสร้างให้เห็นภาพรวมสถานการณ์ในปจั จุบนั ส่าหรบั
น่าไปวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเก่ียวกับรูปแบบความสัมพันธ์ของข้อมูลใหม่ ๆ และแนวโน้มการด่าเนินงาน
ตา่ ง ๆ และใชป้ ระกอบในการตดั สินใจใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพสูงสดุ ดังนั้น Big Data ไม่ได้เปน็ เพยี งข้อมลู ที่มีขนาดใหญ่

หน้า 54 / 88

แต่สิ่งทเ่ี ปน็ หวั ใจส่าหรบั การประยกุ ต์ใช้ Big Data นนั้ คอื ตอ้ งสามารถน่าขอ้ มูลไปใชป้ ระโยชนใ์ นการค้นหาโอกาสทาง
ธุรกจิ ใหม่ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้ ไดห้ ลากหลายกว่าการใชข้ ้อมลู ปกติโดยทัว่ ไป

 การเลอื กเส้นทางการขนส่งทีเ่ หมาะสม จากข้อมลู สถานการณ์ สภาพอากาศ การจราจร และปจั จัยอื่นๆ ท่ี
ได้เชื่อมโยงมายังระบบฐานข้อมูลท่าให้เกิดการบริหารจัดการ การขนส่งสินค้าไปยังปลายทางในลักษณะ
แบบเวลาจริง (Real-time) ท่ีมีประสิทธิภาพสูง ผ่านการวิเคราะห์จากความสัมพันธ์ของข้อมูล ซ่ึงท่าให้
สามารถก่าหนดระยะเวลาการขนส่งได้อย่างแม่นย่าและการบรรจุสินค้าเข้าสู่พาหนะขนส่งได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากย่งิ ข้ึน

 การประมาณการที่แม่นยา กระบวนการโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทานจ่าเป็นต้องอาศัยการ
คาดการณ์ก่าลังการผลิตและแรงงานผ่านการวิเคราะห์จากระบบข้อมูล Big data สามารถช่วยเพ่ิม
ประสทิ ธภิ าพในการวางแผนและการใช้ทรพั ยากร รวมท้ังสามารถลดต้นทุนที่ไม่จ่าเปน็ ในหว่ งโซอ่ ุปทานได้

 การบริหารจัดการความเส่ียงของโซ่อุปทาน โดยการประเมินสภาพปัจจุบันด้วยข้อมูลท่ีมีอยู่ เพ่ือลดความ
เสยี่ งด้วยการตรวจสอบ วเิ คราะห์ และประเมนิ ผลจากข้อมลู ทีเ่ ชือ่ มโยง ตลอดจนมีระบบแจง้ เตือนเหตุการณ์
ตา่ ง ๆ ระหว่างกระบวนการขนส่ง อันเน่ืองมาจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคดิ อาทิ อุบตั ิเหตุทเ่ี กดิ ขึน้ ความแออัด
ของปลายทางท่ีจะไปสง่ เช่น ทา่ เรอื ด่านศุลกากร เป็นต้น

ประโยชน์
 มองเห็นภาพรวมและสามารถควบคมุ กระบวนการตลอดโซอ่ ุปทาน
 โอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ทใ่ี ห้บริการผา่ นการเชื่อมต่อข้อมลู
 ความพึงพอใจของลกู ค้าที่เพ่มิ ขนึ้

3. ปญั ญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence: AI)
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เปน็ เทคโนโลยีทจ่ี ะเขา้ มาเปล่ยี นวธิ ีการด่าเนนิ ธุรกจิ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ ใหส้ ามารถ

ตอบสนองความต้องการของลูกค้า สนับสนุนระบบอัตโนมัติให้สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต โดย AI เป็น
ศาสตร์แห่งการสร้างและฝึกเคร่ืองจักรให้สามารถท่าส่ิงต่าง ๆ ที่เกินขีดความสามารถของมนุษย์ สามารถเรียนรู้ ได้
ด้วยตัวเองดว้ ยเทคนิค Machine Learning และ Deep Learning ท่าให้สามารถวางแผนคิดวิเคราะห์สง่ิ ต่าง ๆ ด้วย
เหตุและผลจนสามารถตอบโต้การสนทนาได้เป็นอย่างดีดังท่ีเห็นในโปรแกรม ChatBot ที่ใช้อย่างแพร่หลายในการ
ติดต่อกับลูกค้า และ AlphaGo ระบบปัญญาประดิษฐ์ท่ีพัฒนาโดย Google DeepMind ที่สามารถเอาชนะมนุษย์
มอื โปรในการแข่งขันหมากล้อมเป็นครงั้ แรกของโลก ซึ่งนับเป็นกา้ วส่าคญั ในการปรับใช้ AI กับกระบวนการทีซ่ ับซ้อน
มากขึ้น โดยในอนาคตระบบ AI จะมีความสามารถและความเชี่ยวชาญในลักษณะเดียวกับมนษุ ย์ ตลอดจนจะช่วยให้
ผู้ประกอบการปรับการด่าเนินธุรกิจเชิงรุกและสามารถคาดการณ์ความเปล่ียนแปลงในห่วงโซ่อุปทานได้ โดยที่ IoT
จะเป็นสิ่งส่าคัญที่จะส่งต่อข้อมูลให้ระบบ AI ซึ่งในปัจจุบันมีประสิทธิภาพ การเข้าถึงและค่าใช้จ่ายมีทิศทางท่ีเอื้อต่อ
การใช้ระบบ AI มากขึ้นด้วยประสิทธิภาพที่สูงข้ึนของระบบข้อมูลขนาดใหญ่และระบบอัลกอริทึม การเชื่อมต่อบน
Cloud ที่แพร่หลาย และพลังการประมวลผลทีส่ ูงขนึ้ มีตวั อย่างการใชง้ าน ดังน้ี

หน้า 55 / 88

 ยกระดับการให้บริการลูกค้า ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคจะช่วยให้ระบบ AI สามารถเรียนรู้
ความชอบของลูกค้าแต่ละรายได้ ซึ่งเป็นปัจจัยท่ีช่วยสร้างความพอใจและเพิ่มยอดขายให้บริษัท โดยมีการ
น่ามาปรบั ใช้อยา่ งแพร่หลายในแพลตฟอรม์ E-Commerce และการโฆษณาสนิ คา้ ออนไลน์

 การเพิ่มประสิทธิภาพการทางานของสานักงาน การน่าระบบ AI มาใช้เป็นโอกาสท่ีส่าคัญในการปรับปรุง
การท่างานภายใน อาทิ การบญั ชี การเงินทรพั ยากรบคุ คลและระบบไอที โดยทีร่ ะบบ AI จะช่วยงานท่ีส่าคญั
ของส่านักงานได้ เช่น การสร้างที่อยู่ของลูกค้าโดยอัตโนมัติจากข้อมูลท่ีได้รับการปรับปรุงล่าสุด เพ่ือเพ่ิม
ประสทิ ธภิ าพในการจัดสง่ สนิ ค้า

 ปรับกระบวนการทางานด้วยหุ่นยนต์ ระบบ AI มีความสามารถจดจ่าการเห็นภาพบริบท การพูด การคิด
ในกระบวนการท่างานและน่ามาวิเคราะห์ และส่ังการได้อย่างรวดเร็วด้วยขีดความสามารถของระบบ จึง
สามารถลดกระบวนการทา่ งานทีใ่ ชแ้ รงงานสงู ได้ เช่น การจัดเรียงวสั ดุ การจดั การและการตรวจสอบสนิ คา้

ประโยชน์
 สร้างความได้เปรยี บในการแข่งขนั ผา่ นการตดั สนิ ใจบนพืน้ ฐานข้อมลู และสามารถคาดการณไ์ ดจ้ ากระบบ AI
 ลดตน้ ทนุ ดว้ ยกระบวนการทม่ี ีประสิทธิภาพสงู
 เพม่ิ ความพึงพอใจของลูกคา้ ผา่ นการปรบั การให้บริการโดยใชร้ ะบบ AI

4. หุน่ ยนต์ (ROBOTICS)
การพัฒนาระบบอตั โนมัติโดยการน่าหุ่นยนต์เข้ามาชว่ ยด่าเนินงานในกระบวนการโลจสิ ติกส์ได้รบั การยอมรับ ใน

วงกว้างมากข้ึน เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท่ีรวดเร็วประกอบกับการยินยอมที่จะจ่ายในราคาท่ีสูงข้ึนเพื่อ
ยกระดับการบรกิ าร ท่าให้การใชห้ ุ่นยนตใ์ นกระบวนการทา่ งานจึงมีความสา่ คัญทจ่ี ะเปน็ ช่องทางท่าให้ธรุ กจิ เตบิ โตข้ึน
ในอนาคตอันใกล้

Robotics คือระบบจักรกลท่ีมีรูปแบบการท่างานทั้งในลักษณะที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์และการใช้ระบบ AI ใน
การควบคุมและสั่งการ หรืออาจจะใช้ทั้งสองระบบควบคู่กัน Robotics เหล่านี้ มีความสามารถในการด่าเนินการใน
หลายระดับตั้งแต่กระบวนการพื้นฐานท่ีท่าประจ่าทดแทนแรงงานมนุษย์ จนกระท่ังงานที่มีความซับซ้อนหลาย
ขั้นตอน สามารถปรับตัวได้ตามสภาพแวดล้อมและวิเคราะห์และการตัดสินใจได้โดยไม่ต้องมีการควบคุมจากมนุษย์
เช่น การใชห้ นุ่ ยนตใ์ นคลงั สินคา้ รถยนตท์ ี่เป็นอิสระหรอื รถยนตท์ ไี่ รค้ นขับ มรี ายละเอียดดงั นี้

 รองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด การเติบโตของตลาด E-Commerce ท่าให้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต้องมี
การด่าเนินธรุ กจิ ท่ีเรว็ ขึ้นและมปี ระสิทธภิ าพมากขึ้น เรมิ่ ตงั้ แต่การประมวลผลค่าสงั่ ซอื้ ของแตล่ ะบุคคลจนถึง
การน่าส่งสินค้าถึงมือลูกค้า ดังนั้น การท่างานด้วยการน่าหุ่นยนต์เข้ามาชว่ ยจะท่าให้เกิดความรวดเร็วและมี
ความยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการได้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในคลังเก็บสินค้าระบบอัตโนมัติที่
ตอ้ งการความถกู ต้องแมน่ ย่าจงึ จะเปน็ การเพ่ิมศักยภาพของธรุ กจิ ไดม้ ากขน้ึ อย่างชดั เจน

 การพฒั นาสูค่ ลงั สินค้าอตั โนมัติ การใชห้ นุ่ ยนต์ (Warehouse robot) จดั การกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของคลงั สนิ ค้า
เชน่ การจดั เรียงสนิ ค้าบนพาเลท (Pallet) การเคลื่อนย้ายสินค้าขึ้น/ลงจากรถบรรทุก การบรรจหุ ีบห่อ และ
การควบคุมระบบต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากร ให้เหมาะสมกับอุปสงค์
ของลูกค้าในขณะนั้น สามารถเคลื่อนย้ายหุ่นยนต์ให้ไปช่วยในโรงงานท่ีมีความต้องการสูงกว่าได้ ซ่ึง

หน้า 56 / 88

อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการปรับใช้คลังสินค้าอัตโนมัติในการเก็บช้ินส่วน
ยานยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงการบริหารจัดการเบิกอุปกรณ์ส่งไปประกอบรถยนต์และการขนส่ง
รถยนต์ที่ประกอบเสร็จแล้วสู่ลูกค้า โดยจะเป็นอุตสาหกรรมท่ีน่าระบบหุ่นยนต์เต็มรูปแบบเข้ามาใช้มากขึ้น
ในอนาคต
ประโยชน์
 เพ่มิ ความรวดเรว็ และความยดื หยนุ่ ในการตอบสนองความต้องการของตลาด
 ทา่ ให้แรงงานมสี ุขภาพและความปลอดภัยทีด่ ีขึ้น
 เปิดโอกาสให้แรงงานทกั ษะเฉพาะได้พฒั นาทักษะอย่างเต็มศักยภาพ

5. ยานพาหนะไรค้ นขบั (Autonomous Vehicles)
การพัฒนายานพาหนะไร้คนขับมีแนวโน้มใกล้จะสา่ เร็จจากการพฒั นาของเทคโนโลยี AI และระบบเซน็ เซอร์

ซึง่ มีบทบาทส่าคัญในการพลิกโฉมรปู แบบการขนสง่ ตลอดทั้งหว่ งโซ่อปุ ทาน เพ่ิมประสทิ ธิภาพดา้ นพลังงาน แกป้ ญั หา
การขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนยกระดบั ความปลอดภัยในการขนส่งสินคา้

Autonomous Vehicles หรือยานพาหนะไร้คนขับเป็นเทคโนโลยีหุ่นยนต์ข้ันสูง (Advance Robotics)
ปัจจุบันเทคโนโลยีน้ีส่วนใหญ่จะถูกใช้งานเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการจัดเก็บ ยกขน และคัดแยกในคลังสินค้าเป็น
หลักในรูปแบบของ Automated Guided Vehicle (AGV) ซ่ึงแนวโน้มการพัฒนาในข้ันต่อไปคือ การปรับใช้
ยานพาหนะไร้คนขับในการขนส่งสินค้า แต่ยังคงติดอุปสรรคในเชิงกฎหมายและการยอมรับของสังคมในด้านความ
ปลอดภยั มตี ัวอย่างดงั น้ี

 Self-Driving Truck เป็นนวัตกรรมทางโลจิสติกส์ที่จะกลายเป็นสิ่งจ่าเป็นส่าหรับการขนส่งสินค้าและ
ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในอนาคต ซ่งึ บรษิ ัทยักษใ์ หญ่ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไดแ้ ก่ Scania Daimler Volvo
บริษัทยานยนต์เกิดใหม่อย่าง Tesla และบริษัทเทคโนโลยีท่ีเร่งพัฒนาเทคโนโลยีรถบรรทุกไร้คนขับให้
สามารถใช้งานไดจ้ ริง

 Platooning ส่าหรับในยุโรปได้มีการทดลองใช้ขบวนรถบรรทุกไร้คนขับที่มีคนขับรถน่าขบวนว่ิงข้าม
ประเทศรูปแบบคล้ายกับการเดินแถวของทหาร โดยเชื่อมต่อกันผ่านเทคโนโลยี 5G โดยรถน่าสามารถออก
ค่าส่ังไปยังรถในขบวนให้ปฏิบัติตามหากพบส่ิงผิดปกติ นอกจากน้ียังมีระบบ Senor Fusion ท่ีเป็นเรดาร์
และกล้องติดต้ังกับตัวรถเพื่อวิเคราะห์สภาพแวดล้อมระหว่างการขนส่งได้มากกว่าสายตาและการรับรู้ของ
มนุษย์ พร้อมระบบ AI ในรถที่สามารถพัฒนาให้ประสิทธิภาพดีย่ิงข้ึนผ่าน การเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม
เทคโนโลยีขบวนรถบรรทุกไร้คนขับน้ีเหมาะกับการว่ิงบนทางเฉพาะ ส่าหรับรถบรรทุกหรือถนนหลว งท่ี
การจราจรไมพ่ ลุกพล่านมากกว่าการวงิ่ ในเมือง

ประโยชน์
 ลดอตั ราการเกดิ อุบตั เิ หตบุ นท้องถนนทีม่ ีสาเหตจุ ากความผิดพลาดของมนุษย์
 แก้ปัญหาการขาดแคลนพนักงานขบั รถบรรทุกได้
 ลดตน้ ทนุ ดา้ นพลงั งานและแรงงาน พรอ้ มทั้งเพิม่ ความนา่ เชือ่ ถอื ในการบริการตลอด 24 ช่วั โมง

หน้า 57 / 88

6. อากาศยานไรค้ นขบั (Drone)
Drone จะเข้ามาช่วยในการจัดส่งแบบถึงมือผู้รับ (Last Mile Delivery) พร้อมท้ังสามารถใช้ในการ

ตรวจสอบคลังสินค้า ได้อย่างรวดเร็ว ลดข้อจ่ากัดด้านพื้นท่ีการจัดส่งสินค้าและต้นทุนการขนส่งในระยะยาวเม่ือ
เปรยี บเทียบกับการจัดสง่ ดว้ ยรถบรรทกุ

Drone เปน็ พาหนะที่ท่างานอัตโนมัตหิ รือสามารถควบคมุ การท่างานไดจ้ ากระยะไกลซง่ึ เป็นเทคโนโลยีท่ีเร่ิม
ถูกน่ามาใช้อย่างแพร่หลาย การใช้งานของโดรนไม่ได้จ่ากัดอยู่ในด้านบันเทิงและสันทนาการเท่าน้ัน แต่ยังได้รับการ
พัฒนาให้สามารถใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอ่ืนๆ เช่น ด้านการเกษตรเพ่ือหว่านเม็ดพันธุ์ ฉีดพ่นปุ๋ยและสารเคมี
อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์นับเป็นอุตสาหกรรมกลุ่มแรกที่ได้น่าเทคโนโลยีโดรนเข้ามาเพ่ิมศักยภาพและ
ประสิทธิภาพในการขนสง่ สินคา้ ซ่งึ จะพลกิ โฉมการขนส่งสนิ คา้ ใหส้ ะดวกและรวดเรว็ มากขึ้น มตี วั อยา่ งดงั น้ี

 Last-mile Delivery การใช้โดรนจัดส่งสินค้าทางอากาศมีต้นทุนต่ากว่าและจัดสง่ สินค้าได้รวดเร็วกว่าการ
จัดส่งสินค้าทางถนน รวมท้ังการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโดรน จะช่วยผู้ประกอบการสามารถแก้ปัญหาขาด
แคลนแรงงานภาคขนส่ง พร้อมปรับภาคธุรกิจให้เน้นการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากขึ้น
บริษัท DHL เป็นบริษัทหน่ึงทไี่ ด้ท่าการพัฒนาโดรนส่งสินค้า โดยผู้ใช้บริการวางสินค้าที่ต้องการส่งไว้ที่ DHL
Sky Port ซง่ึ เป็นจดุ ท่โี ดรนจะรบั และสง่ สินคา้ ท่าการข้ึนบนิ และลงจอดอัตโนมัติ ทัง้ นไ้ี ด้ทดสอบการส่งสินค้า
ในพ้ืนท่ีที่เป็นภูเขา มีสภาพหนาวเย็น และมีหิมะ โดยใช้เวลาเพียง 8 นาทีในการส่งสินค้าถึงจุดหมาย เร็ว
กวา่ การจัดสง่ โดยรถยนต์ในระยะ ทางเดยี วกันท่ีใชเ้ วลาถึง 30 นาที

 ประเทศจีนคือผู้นา ประเทศจีนนับว่าเป็นประเทศท่ีมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอากาศยานไรค้ นขับมาก
ท่ีสุดโดยมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโดรนกว่า 2,000 บริษัท ทั้งเป็นผู้ผลิตโดรนและผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่
เก่ียวข้อง ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกกว่าร้อยละ 70 ทั้งน้ีบริษัท e-Commerce ของจีนท้ัง JD
Group และ Alibaba ได้ท่าการวิจัยและพัฒนาโดรน รวมถึงเร่ิมแข่งขันกันด้วยการขนส่งสนิ ค้าด้วยโดรนใน
พ้นื ท่ีหา่ งไกล

ประโยชน์

 เพมิ่ ประสทิ ธิภาพและความยืดหยุ่นในการจดั สง่ สนิ ค้า

 ลดความเสี่ยงจากอุบตั เิ หตุในพื้นทอี่ ันตราย

 ช่วยในการตรวจสอบลาดตระเวนคลงั สินคา้ และเส้นทางการขนสง่

7. เครอื ข่ายการเชือ่ มตอ่ อจั ฉรยิ ะ (5G Network)
เครือข่าย 5G จะเข้ามาช่วยให้อุปกรณ์ IoT เพิ่มประสิทธิภาพในการเช่ือมต่อกันอย่างทั่วถึงผ่าน LPWAN

และดาวเทียมวงโคจรขนาดตา่ ช่วยสนับสนุนการจัดสง่ สินค้าและการตรวจสอบย้อนกลับที่สมบูรณ์และเป็นรูปธรรม
มากขึ้น

5G เป็นเทคโนโลยีด้านการสื่อสารยคุ ใหม่ท่ีถูกพัฒนาข้ึนตอ่ ยอดจากระบบ 4G โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพ
การใช้พลังงานและความเร็วในการส่งข้อมูล สามารถลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นย่าในการติดตามและตรวจสอบ
สถานะของพสั ดุการขนส่ง ซ่ึงระบบ 5G จะทา่ ให้การเชือ่ มต่อ 1 ลา้ นอปุ กรณ์ IoT ตอ่ กิโลเมตรเปน็ ไปได้ ช่วยสง่ เสริม
เทคโนโลยที ต่ี อ้ งใชข้ ้อมลู แบบ Real-time มตี ัวอยา่ งดังน้ี

หน้า 58 / 88

 Low-Power Wide Area Network (LPWAN) คือการสื่อสารไร้สายแบบวงกว้างที่ใช้พลังงาน ต่า
ออกแบบเพอ่ื ใช้ส่ือสารระหว่างเครื่องจักร (M2M) และ IoT มจี ดุ เดน่ ในเรอ่ื งของการประหยัดพลังงานในการ
สื่อสาร ในระยะไกลขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต่ากว่าการใช้เครือข่ายมือถืออีกด้วย ปัจจุบันความต้องการใช้
LPWAN มีเพ่ิมขึ้น เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีท่ีเหมาะกับ IoT ประเภทท่ีใช้ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเป็น
ส่วนประกอบของแอพพลิเคชน่ั เชงิ พาณิชย์และการบริหารเมืองที่ต้องมีการส่งข้อมลู ระหว่างอุปกรณเ์ ชื่อมต่อ
เป็นจ่านวนมาก เพิม่ ความสามารถในการตรวจสอบยอ้ นกลบั และความโปรง่ ใส

 ดาวเทียมวงโคจรต่า (Low Orbit Satellites) ถือเป็นโครงข่ายหลักในการสร้างความครอบคลุมของ
ระบบโครงข่าย 5G ท่ัวโลก ซึ่งเป็นสิ่งส่าคัญส่าหรับการด่าเนินงานด้านโลจิสติกส์ในพ้ืนที่ห่างไกล ดาวเทียม
วงโคจรต่าสามารถติดต้ังและเปิดการใช้งานเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงได้ทันที ในขณะท่ีการก่อสร้าง
โครงสร้างพ้ืนฐานด้านการส่ือสารในปัจจุบันต้องใช้เวลานาน ท้ังนี้เจ้าของเทคโนโลยี โดยเฉพาะดาวเทียม
อาจไดร้ บั ผลกระทบดา้ นการแขง่ ขันทสี่ ูงขึน้ อาจมกี ารผกู ขาดและกีดกันในเชงิ ราคาเพอื่ รักษาความไดเ้ ปรยี บ

ประโยชน์
 เชอื่ มต่อกระบวนการโลจสิ ตกิ สค์ รบวงจร (End-to-End) ทั่วโลก
 แบตเตอรปี่ ระหยดั พลงั งานส่าหรบั อปุ กรณ์ IoT สามารถเร่งการตรวจสอบและติดตามในการขนสง่
 การเชอื่ มต่อท่คี รอบคลมุ ท่ัวถงึ ชว่ ยเพม่ิ ขีดความสามารถและส่งเสริมทางธรุ กิจ

8. ระบบโครงขา่ ยในการเกบ็ บญั ชธี รุ กรรมออนไลน์ (Blockchain)
บล็อคเชนเป็นระบบฐานข้อมลู ส่าหรบั การยืนยันตวั ตน ทพี่ ัฒนาต่อยอดจาก Bitcoin ในจัดการธุรกรรมและบันทึก

ความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ได้โดยไม่ต้องอาศัยคนกลางท่าให้ธุรกรรมมีความโปร่งใสและตรวจสอบง่ายยิ่งข้ึน
คุณสมบัติด้านความปลอดภัย ท่าให้เทคโนโลยีนี้ถูกน่ามาใช้ในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินเป็นอันดับแรกและ
ถูกยกให้เป็นเทคโนโลยีท่ีจะเปล่ียนรูปแบบการด่าเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในการค้าขายระดับโลกที่ห่วงโซ่อุปทานมี
ความซบั ซอ้ น ซง่ึ มีแนวโน้มในการพฒั นา ดงั น้ี

 รูปแบบการค้าโลกที่ถูกและเร็วข้ึน ด้วยระบบฐานข้อมูลบล็อคเชน ผู้เล่นในห่วงโซ่อุปทานสามารถ
ตรวจสอบข้อมูลส่าคัญ เช่น สถานะการขนส่งสินค้าและกระบวนการศุลกากรพร้อมจ่ายเงินแบบอัตโนมัติ
ผ่านระบบ Smart Contract เมื่อสินค้าส่งมาถึง ดังเช่นตัวอย่างความร่วมมือระหว่าง Maersk และ IBM
ท้งั นี้ ปัจจัยสา่ คญั คอื ผเู้ ลน่ ทุกคนตอ้ งใชร้ ะบบบลอ็ กเชนด้วย

 เพิ่มความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใส หลายบริษัทได้เร่ิมพัฒนาระบบส่าหรับ
ตรวจสอบแหล่งที่มาสนิ ค้าและกระบวนการผลติ โดยบริษัท Everledger กาลังพัฒนาระบบตรวจสอบเพชร
แทนทีใ่ บรับรองของผู้ผลิต ผ่านการบันทกึ ข้อมลู รายละเอียดพิเศษของเพชรแต่ละเม็ดกว่า 40 จดุ ในรูปแบบ
Digital ID

 ภาครฐั บาลเร่ิมให้ความสนใจในการปรับใช้เทคโนโลยีน้ีในการด่าเนินการภาครฐั ท่ีต้องบูรณาการข้อมูลจาก
หลายหน่วยงาน เช่น ระบบศุลกากรในประเทศเกาหลีใต้ ระบบการจัดการตัวตนในประเทศเอสโตเนีย โดย
สว่ นใหญ่เป็นการร่วมมอื กบั บรษิ ัทเอกชนรายใหญใ่ นการพฒั นา

หน้า 59 / 88

ประโยชน์
 สร้างความโปร่งใสตลอดหว่ งโซ่อุปทาน
 เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพของการท่าธรุ กรรมและกระบวนการภาครัฐ
 รูปแบบธรุ กจิ ใหม่ทจ่ี ะเกิดขึ้น เชน่ บริการรบั ตรวจสอบสนิ ค้า

9. โลจสิ ติกส์เพ่อื สงั คมสงู วยั (Grey Logistics)
การปรับโครงสร้างประชากรสสู่ ังคมสูงวัยส่งผลให้เกดิ การให้บริการโลจสิ ติกส์รปู แบบใหม่ ๆ เพือ่ รองรับสังคมสูง

วัย อาทิ การส่งยาและเวชภัณฑ์ถึงบ้าน การพัฒนาระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรเพ่ือให้บริการสุขภาพส่าหรับ
ผู้สงู อายุ และการสง่ เสริมใหผ้ สู้ ูงอายเุ ขา้ มามีส่วนรว่ มในการใหบ้ รกิ ารโลจสิ ติกส์

ปัจจุบันประเทศไทยก่าลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยในปี 2564 จะมีประชากรสูงวัยร้อยละ 20 และมีจ่านวน
เพิ่มข้ึนอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงคาดว่าในปี 2579 จะมีประชากรสูงวัย สูงถึงร้อยละ 30 ในขณะท่ีประชากรวัยเด็กและวัย
ท่างานลดลง ท้ังนี้ การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรดังกล่าว ส่งผลให้ธุรกิจท่ีเก่ียวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ
โดยเฉพาะการให้บริการถึงท่ีบ้านท้ังในพ้ืนที่เมืองและพ้ืนท่ีห่างไกล รวมท้ังการให้บริการพิเศษเพ่ือตอบสนองความ
ต้องการของผู้สูงอายุ อาทิ การขนส่งยาท่ีต้องควบคุมอุณหภูมิถึงบ้านมีความจ่าเป็นมากข้ึน ดังนั้นธุรกิจให้บริการ
โลจิสติกส์จา่ เปน็ ตอ้ งมกี ารปรับรปู แบบการใหบ้ รกิ ารทเี่ หมาะสมเพ่ือตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการดงั กล่าว

 การให้บริการสุขภาพตรงถึงผู้ป่วย แนวโน้มการส่ังซื้อยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ออนไลน์
เติบโตสูงข้ึน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุท่ีสามารถสั่งซ้ือสินค้าและบริการส่าหรับชีวิตประจ่าวันผ่านทาง
ออนไลน์ได้ ท่าให้การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ท่ีควบคุมความเย็น เพ่ือส่งยาหรือเวชภัณฑ์ถึงผู้ป่วยหรือ
ผ้สู ูงอายมุ คี วามจา่ เปน็ มากขึ้น

 การให้บริการขนส่งช่วงสุดท้ายแบบเพิ่มมูลค่า เป็นการเพ่ิมรูปแบบการให้บริการให้ครบวงจรมากย่ิงขึ้น
นอกเหนือ จากการจัดส่งสินค้า โดยการให้บริการเสริมครอบคลุมถึงการบริการท่าความสะอาด การ
ซ่อมแซมสิ่งของหรือเคร่ืองใช้ไฟฟ้า การให้ความช่วยเหลือทางเทคโนโลยี รวมท้ังบริการตรวจสุขภาพ
เบื้องต้น นอกจากนี้ ในอนาคตการเติมวัตถุดิบและอาหารในตู้เย็นหรือยาในกล่องยาสามารถด่าเนินการได้
อัตโนมัติผา่ นมอื ถอื เพียงแค่ลงทะเบียนรปู แบบการจดั ส่งสินค้าทีต่ ้องการไว้

 แรงงานสูงวัย ประชากรวัยแรงงานมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมผู้สูงอายุท่ียังมีศักยภาพให้มา
ท่างานในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะสามารถบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากน้ีการน่าประสบการณ์ของ
ผู้สูงอายุมาถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ผ่านการท่างานร่วมกันจะเป็นอีกเคร่ืองมือหนึ่งในการพัฒนาทรัพยากร
บุคคลได้อย่างประสิทธิภาพ

หน้า 60 / 88

ประโยชน์
 โอกาสทางธุรกจิ ใหม่ๆ จากการให้บรกิ าร โลจสิ ตกิ สท์ ี่เพิ่มมูลคา่
 การเติบโตของการซื้อสินค้าออนไลน์ของกลุ่มผู้สูงอายุจะช่วยเพิ่มปริมาณและตารางการขนส่งในเส้นทาง
เฉพาะ

ตัวอยา่ งการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีดา้ นบรกิ ารโลจิสติกส์
เทคโนโลยี Connected GPS, Logistics Cloud และ Big Data ก่าลังจะเขา้ มาเปล่ียนโฉมหนา้ อตุ สาหกรรม

การขนส่งทางถนนคร้ังส่าคัญ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาดั้งเดิมในการขนส่ง เช่น ความ
ปลอดภัย การตรงต่อเวลา แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ โดยการเก็บรวบรวม
ข้อมลู เพอ่ื น่าไปสู่การวเิ คราะห์และการวางแผนการขนสง่ ใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ผู้ประกอบการขนส่งไทยมีแนวโน้มท่ีจะน่าเทคโนโลยี Connected GPS, Logistics Cloud และ Big Data
analysis มาใชเ้ พ่ือเสริมประสทิ ธภิ าพการขนส่ง โดยเม่ือพจิ ารณาถงึ ปจั จยั ผลักดัน 3 ประการ ไดแ้ ก่ ประโยชน์ ความ
ซับซ้อนของเทคโนโลยี และการยอมรับจากผู้ใช้งาน พบว่า เทคโนโลยีท้ัง 3 ประเภท สามารถตอบโจทย์ความ
ต้องการของผู้ประกอบการไทยได้ในรปู แบบท่ีแตกต่างกัน อีกทงั้ เทคโนโลยีเหล่านีย้ ังเสรมิ ความสามารถซึ่งกนั และกนั

ในระยะเริ่มต้น Connected GPS จะมีบทบาทช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามข้อมูลการขนส่งสินค้า
ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ โดย Connected GPS เป็นนวัตกรรมท่ไี ด้จากความเร็วในการสง่ ขอ้ มลู ท่ีเพ่ิมขึ้น ท่าให้ผปู้ ระกอบการ
สามารถมองเห็นรถขนส่งได้แบบ real-time ซ่งึ จะช่วยแกป้ ญั หาท่ีสะสมมานานในอตุ สาหกรรม เช่น การขบั ออกนอก
เสน้ ทาง การใชค้ วามเร็วเกนิ กา่ หนด การเบิกค่านา่้ มันเกนิ อตั รา เป็นตน้

จากกรณีศึกษาของบริษัท DHL ประเทศไทย พบว่า การติดต้ัง Connected GPS ท่าให้บริษัทสามารถลด
การใช้เช้ือเพลิงได้เกือบ 40% อีกท้ังเทคโนโลยี Connected GPS นั้นมีความซับซ้อนไม่มากนัก มีเพียงอุปกรณ์ส่ง
สัญญาณและการแสดงผลเท่าน้ัน จึงท่าให้ผู้ประกอบการและคนขับสามารถปรับใช้เทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ท้ังน้ี
จากประโยชน์ข้างต้น กรมการขนส่งทางบกจึงได้ออกกฎข้อบังคับให้รถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะทุกคันต้อง
ตดิ ต้งั ระบบ Connected GPS ภายในปี 2019 ซ่ึงปจั จัยสนับสนนุ สา่ คัญในการเร่งใชเ้ ทคโนโลยดี งั กลา่ อกี ดว้ ย

หน้า 61 / 88

ตวั อย่างการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีด้านบรกิ ารโลจิสตกิ ส์ยคุ โซเชียลคอมเมิร์ซ
ปัจจุบันระบบ E-Logistic บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก่าลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคที่

ต้องการส่งมอบสินค้าอย่างความรวดเร็ว ใช้งานได้ง่าย และสะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบบริการจองขนส่ง
ออนไลน์ ท่ีเป็นแอพพลิเคชั่นที่อินเตอร์เฟซ สามารถเชื่อมต่อทุกระบบขนส่งมาไว้ในระบบเดียว โดยช่วยให้การใช้
บริการขนส่ง สามารถเลือกจองขนส่งได้ตามท่ีต้องการและสามารถเปรียบเทียบราคาค่าจัดส่งสินค้า, การช่าระเงิน
ออนไลน์ได้ง่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต, ออกหมายเลขพัสดุ และพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุได้จากระบบได้ทันที
รวมถึงการติดตามสถานะพัสดุผ่านระบบด้วย ท่าให้ควบคุมค่าใช้จ่ายและวางแผนค่าขนส่งล่วงหน้าได้อย่างง่ายดาย
นอกจากน้ยี ังมบี ริการรบั ของถึงบ้าน หรอื ไมต่ อ้ งรับคิวเข้าแถว ส่งผลดใี นการประหยัดเวลาในการจัดส่งสินค้าได้สูงถึง
60% และประหยัดค่าใชจ้ า่ ยในการขนส่งไดถ้ ึง 20%

บริษัท ชิปป๊อป จ่ากัด สตาร์ตอัพสัญชาติไทยเป็นอีกตัวอย่างหน่ึงของผู้ให้บริการด้านระบบโลจิสติกส์ครบ
วงจร ท่รี วบรวมบริษทั ขนส่งมาไวใ้ นระบบเดยี ว เพอ่ื ให้ง่ายต่อการเช่ือมต่อและเลือกใช้บริการท่หี ลากหลาย ทางเลอื ก
ใหม่ของผู้ประกอบการในยุคโซเชียลคอมเมิร์ซ ที่ได้รับการสนับสนุนหลักจากบริษัท อีฟรา สตรักเจอร์ จ่ากัด
ประเทศไทย และ อีโลจิส จ่ากัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดให้บริการด้านระบบโลจิสติกสค์ รบวงจรบนแพลตฟอร์มออนไลน์
โดยท่าหน้าที่เป็น ชิปป้ิง เกตเวย์ (Shipping Gateway) ที่มีเอพีไอ (Application Programming Interface: API)
สามารถเชื่อมโยงทุกระบบขนส่งมาไว้ในระบบเดียว พร้อมเช่ือมต่อกับมาร์เก็ตเพลส หรือเว็บไซต์ต่างๆได้ทันทีและ
มากท่ีสุดในประเทศไทย โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรด้านการขนส่ง อาทิ ไปรษณีย์ไทย, เอสซีจี ยามาโตะ เอ็กซ์
เพรส ,นินจาแวน, ลาลามูฟ , สกู๊ตตาร์, อัลฟ่า ฟาสส์, เคอร่ี เอ็กเพรส, ซีเจ เอ็กซ์เพรส, เซ็นด์อิท และ นิโกส์
โลจสิ ตคิ ส์

หน้า 62 / 88

ภาคผนวก ก.

ข้อกาหนดระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015

(Quality Management System – Requirements)

1. ขอบเขต
ข้อก่าหนดเฉพาะนีใ้ ชก้ บั ระบบบริหารคณุ ภาพขององคก์ ร

a) ต้องการแสดงถึงความสามารถอย่างสม่าเสมอที่จะเตรียมผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดคล้องกับความ
ต้องการของลูกคา้ ข้อกา่ หนดท่ีเก่ียวข้องและขอ้ กฎหมาย

b) มงุ่ มั่นทีจ่ ะยกระดบั ความพึงพอใจลูกค้า

2. มาตรฐานอา้ งองิ
ท้งั หมดหรือบางสว่ นของมาตรฐานฉบบั น้ีใหอ้ า้ งองิ จาก ISO 9000:2015: หลกั การและคา่ ศัพท์

3. คาศพั ทแ์ ละคานิยาม
ความมงุ่ หมายของเอกสารฉบบั นี้ ค่าศัพท์และค่านยิ ามจะระบุอยู่ใน ISO 9000:2015

4 บรบิ ทองคก์ ร
4.1 ความเขา้ ใจองค์กรและบรบิ ทขององคก์ ร

องค์กรต้องพิจารณาก่าหนดประเด็นทั้งภายในและภายนอก ที่มีความเกี่ยวข้องกับวตั ถุประสงค์และกลยทุ ธ์ และการ
ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการบรรลุผล ตามเจตนาของระบบบริหารคุณภาพ องค์กรจะต้องติดตามและ
ทบทวนข้อมูลจากประเด็นภายในและภายนอก
หมายเหตุ 1 ประเด็นหมายรวมถึงปัจจยั ดา้ นบวกและดา้ นลบหรอื เงอ่ื นไขส่าหรบั พจิ ารณา
หมายเหตุ 2 บริบทของประเด็นภายนอกอาจรวมถึง ประเด็นท่ีมาจากกฎหมาย เทคโนโลยี แข่งขัน, การตลาด,
วฒั นธรรม,สังคม และสภาพเศรษฐกิจ, ไม่วา่ จะในระดบั นานาชาติ, ระดบั ประเทศ, ระดับภูมิภาค หรือระดบั ทอ้ งถนิ่
หมายเหตุ 3 บริบทประเด็นภายในอาจรวมถึง ประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับค่านิยม, วัฒนธรรม, ความรู้ และสมรรถนะ
ขององค์กร
4.2 ความเข้าใจความต้องการและความคาดหวังของผ้มู ีส่วนเกีย่ วข้อง
เนือ่ งดว้ ยผลกระทบหรอื แนวโนม้ ผลกระทบต่อความสามารถขององค์กรในการท่จี ะรักษาความสามารถในการท่าให้
ผลติ ภณั ฑ์และบรกิ ารให้เปน็ ไปตามข้อกา่ หนดลกู คา้ และข้อกา่ หนดทางกฎหมาย องค์กรจะต้องพิจารณา

a) ผมู้ ีสว่ นได้สว่ นเสยี ที่เก่ียวข้องกับระบบบรหิ ารคณุ ภาพ
b) ข้อกา่ หนดของผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั ระบบบริหารคุณภาพ
องคก์ รจะต้องติดตามและทบทวนข้อมลู ของผู้มสี ่วนได้ส่วนเสยี และข้อก่าหนดทีเ่ กยี่ วข้องเหล่าน้ัน

หน้า 63 / 88

4.3 การพิจารณาขอบเขตของระบบบรหิ ารคุณภาพ
องค์กรตอ้ งกา่ หนดขอบเขตและการประยุกต์ใช้ของระบบการบริหารคณุ ภาพเพ่ือระบขุ อบเขตของการใช้งาน
เมือ่ พจิ ารณาขอบเขตการประยกุ ตใ์ ช้ องคก์ รตอ้ งพจิ ารณาถงึ

a) ประเด็นภายในและภายนอก อ้างอิงในข้อกา่ หนด 4.1
b) ข้อกา่ หนดทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ผูม้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียโดยอ้างองิ ในข้อกา่ หนด 4.2
c) สินคา้ และบริการขององค์กร
กรณีท่ีขอบเขตการด่าเนินการครอบคลุมตามข้อก่าหนดสากลฉบับนี้องค์กรจะต้องน่ามาเป็นส่วนหนึ่งในการ
ประยุกต์ใช้ด้วยขอบเขตของระบบบริหารคุณภาพขององค์กรต้องมีการระบุไว้และอยู่ในรูปเอกสารข้อมูล ขอบเขต
จะต้องระบุถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์และบริการ และระบุข้อละเว้นข้อก่าหนดที่ไม่ประยุกต์ใช้ในระบบบริหาร
คุณภาพความสอดคล้องของข้อก่าหนดฉบับน้ีจะถูกประยุกต์ใช้ท้ังหมด เว้นแต่กรณีที่ข้อก่าหนดท่ีไม่ถูกประยุกต์ใช้
เหล่าน้ันไม่ส่งผลต่อความสามารถและความรับผิดชอบขององค์กร ที่มีความสอดคล้องต่อข้อก่าหนดของผลิตภัณฑ์
และบรกิ ารและความพงึ พอใจของลูกค้า
4.4 ระบบบริหารคุณภาพขององค์กร
4.4.1 องค์กรต้องจัดท่า น่าไปปฏิบัติ คงรักษา และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในระบบบริหารคุณภาพ รวมถึง
กระบวนการที่จ่าเป็น และการปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลฉบับนี้ องค์กรต้องพิจารณา
กระบวนการทจ่ี า่ เปน็ ตอ่ การด่าเนินการของระบบบริหารคุณภาพและการประยุกต์ใช้ทัว่ ทง้ั องค์กรโดยองค์กรจะต้อง
a) พิจารณาปัจจัยน่าเขา้ และปัจจยั นา่ ออกทค่ี าดหวงั ของแต่ละกระบวนการ
b) พจิ ารณาลา่ ดับและการปฏสิ มั พนั ธ์ตอ่ กนั ของกระบวนการเหลา่ น้ี
c) พิจารณาและประยกุ ต์ใช้เกณฑ์ วธิ กี าร (รวมทง้ั การตรวจติดตาม ตรวจวดั และตัวช้วี ัดสมรรถนะของ
กระบวนการ) ท่ีจา่ เปน็ เพอ่ื ให้มน่ั ใจว่าการควบคุมกระบวนการเกิดประสิทธิผล
d) พจิ ารณาทรัพยากรที่จ่าเป็นต่อกระบวนการให้พอเพียง
e) ระบคุ วามรับผิดชอบและอ่านาจในแตล่ ะกระบวนการ
f) ระบุปัจจัยความเสยี่ งและโอกาสตามข้อกา่ หนด 6.1
g) ประเมนิ กระบวนการ และด่าเนนิ การเปลีย่ นตามความจ่าเป็นเพ่ือให้มน่ั ใจวา่ กระบวนการบรรลุผลลัพธ์ที่
คาดหวัง
h) ปรับปรุงกระบวนการและระบบบรหิ ารคุณภาพ
4.4.2 ส่าหรับขอบเขตท่ีจา่ เป็น องคก์ รจะต้อง
a) คงรกั ษาไวซ้ ่งึ เอกสารข้อมูลท่ีสนบั สนนุ กระบวนการด่าเนนิ งาน
b) จดั เกบ็ เอกสารขอ้ มูลเพ่ือใหเ้ ช่ือมน่ั ว่ากระบวนการเปน็ ไปตามแผนงานที่กา่ หนดไว้

5 การเป็นผู้นา
5.1 การเปน็ ผนู้ าและความมุ่งมน่ั

5.1.1 ข้อกาหนดทั่วไป
ผู้บรหิ ารระดับสงู ตอ้ งแสดงให้เหน็ ภาวะผ้นู า่ และความมุ่งมั่นตอ่ ระบบบริหารคุณภาพโดย

a) รับผดิ ชอบในประสิทธิผลของระบบบริหารคณุ ภาพ

หน้า 64 / 88

b) มั่นใจวา่ มีการจดั ท่านโยบายคณุ ภาพและวัตถปุ ระสงค์คุณภาพ ส่าหรับระบบบรหิ ารคุณภาพ และ
สอดคลอ้ งกบั บริบทและทิศทางกลยุทธ์ขององค์กร

c) ม่นั ใจว่าได้มกี ารน่าข้อกา่ หนดระบบบริหารคุณภาพประยุกต์ใช้ในกระบวนการขององค์กร
d) สง่ เสริมการม่งุ เน้นกระบวนการและการคดิ บนพน้ื ฐานความเส่ยี ง
e) จดั ให้มีทรพั ยากรท่จี ่าเป็นสา่ หรบั ระบบการจัดการคุณภาพเพยี งพอ
f) ส่ือสารความสา่ คัญของการบรหิ ารคุณภาพท่ีมีประสทิ ธผิ ล และความสอดคล้องกับข้อก่าหนดของระบบ
บริหารคุณภาพ
g) มัน่ ใจวา่ ระบบการจัดการคุณภาพบรรลุไดต้ ามความต้ังใจ
h) สรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม, ก่าหนดแนวทาง และสนบั สนุนพนักงานดา่ เนินกิจกรรมในระบบบรหิ ารคณุ ภาพ
อยา่ งมปี ระสิทธิผล
i) ส่งเสรมิ การปรับปรงุ
j) สนับสนุนบทบาทอ่ืน ๆ ในการบรหิ าร เพ่ือแสดงใหเ้ หน็ ถึงภาวะผู้น่าในส่วนงานท่ีรับผดิ ชอบ
หมายเหตุ คา่ ว่า "ธุรกจิ " ตามมาตรฐานสากลฉบบั น้ีอาจหมายความได้อย่างกว้างวา่ เปน็ กิจกรรมที่องค์กรดา่ เนนิ การ
ตามวัตถปุ ระสงค์ ไมว่ า่ องคก์ รจะเป็นภาครฐั ภาคเอกชน หวงั ก่าไร หรือไม่หวังผลกา่ ไร
5.1.2 การมงุ่ เนน้ ลูกคา้
ผบู้ ริหารระดับสูงตอ้ งแสดงภาวะผูน้ ่าและความมุง่ มน่ั ในการมงุ่ เน้นลกู ค้า โดยทา่ ใหม้ น่ั ใจว่า
a) ข้อก่าหนดลูกค้า, กฎหมายและข้อก่าหนดอ่นื ๆ ท่เี ก่ียวข้อง ได้รบั การพิจารณา, ท่าความเขา้ ใจ และมี
ความครบถว้ น
b) ความเสยี่ งและโอกาสทีส่ ่งผลต่อความสอดคล้องของผลติ ภณั ฑ์และบริการ และความสามารถทท่ี ่าให้
ลกู คา้ พึงพอใจได้รบั การพจิ ารณาและระบไุ ว้
c) มุ่งเนน้ การเพิม่ ความพงึ พอใจของลูกค้าอยา่ งสมา่ เสมอ
5.2 นโยบาย
5.2.1 การจัดทานโยบายคณุ ภาพ
ผบู้ ริหารระดับสูงตอ้ งจดั ท่า, น่าไปปฏิบัติ และคงรักษาไว้ซ่ึงนโยบายคณุ ภาพ
a) เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และบรบิ ทขององคก์ รและสนบั สนุนทศิ ทางกลยุทธข์ ององค์กร
b) เป็นกรอบในการก่าหนดวัตถุประสงค์คณุ ภาพ
c) แสดงถงึ ความม่งุ มน่ั ในการบรรลุตามข้อก่าหนดท่ีองคก์ รเกย่ี วข้อง
d) แสดงถึงความมุ่งมน่ั ที่จะปรับปรงุ อยา่ งต่อเน่ืองของระบบบริหารคณุ ภาพ
5.2.2 การสื่อสารนโยบายคุณภาพ
นโยบายคุณภาพต้อง
a) จัดทา่ และอยู่ในรูปแบบเอกสารขอ้ มลู
b) ส่ือสารภาย ใหเ้ ข้าใจ และนา่ ไปปฏิบัตไิ ดภ้ ายในองค์กร
c) มคี วามสอดคล้องกบั ผู้ท่ีมีส่วนไดส้ ว่ นเสียที่เกีย่ วข้องกบั องคก์ ร ตามความเหมาะสม

หน้า 65 / 88

5.3 บทบาท ความรับผิดชอบ และอานาจหนา้ ท่ี ในองคก์ ร
ผู้บรหิ ารสูงสดุ ตอ้ งมั่นใจวา่ มีการกา่ หนด, ส่ือสารให้เขา้ ใจถงึ ความรับผิดชอบและอา่ นาจหน้าทีข่ องหนว่ ยงานท่ี
เก่ียวข้องภายในองคก์ ร
ผู้บริหารสูงสดุ ต้องก่าหนดความรบั ผิดชอบและอ่านาจเพ่ือ

a) มั่นใจว่าระบบบรหิ ารคุณภาพสอดคล้องกับข้อก่าหนดของมาตรฐานนานาชาตฉิ บบั น้ี
b) มนั่ ใจว่ากระบวนการสามารถสง่ มอบปจั จยั นา่ ออกไดต้ ามความคาดหวงั
c) มีการรายงานสมรรถนะ, โอกาสในการปรับปรุง และขอ้ เสนอแนะในการปรบั ปรุง (ดขู ้อ 10.1) ระบบบรหิ าร
คุณภาพใหผ้ บู้ ริหารสงู สดุ
d) ม่นั ใจว่ามีการสง่ เสรมิ การม่งุ เน้นลกู ค้าทว่ั ทงั้ องค์กร
e) มั่นใจว่าระบบบริหารคุณภาพได้รับการคงรักษาไว้ได้ครบถ้วน กรณีท่ีเกิดการเปล่ียนแปลงในระบบบริหาร
คณุ ภาพทไ่ี ด้มีการวางแผนและด่าเนนิ การ

6 การวางแผน
6.1 การดาเนินการเพอ่ื ระบคุ วามเสยี่ งและโอกาส

6.1.1 เม่ือมีการวางแผนส่าหรับระบบการจัดการคุณภาพ, องค์กรต้องพิจารณาประเด็นท่ีระบุในข้อ 4.1 และ
ขอ้ กา่ หนดตา่ งๆ ทอี่ า้ งอิงจากขอ้ 4.2 และการพิจารณาความเสีย่ งและโอกาสท่ีจ่าเป็นที่จะต้องระบุเพื่อ

a) ใหม้ ่ันใจว่าระบบบรหิ ารคุณภาพจะสามารถบรรลุตามผลลัพธ์ขององคก์ รได้
b) เพ่ิมผลกระทบทีต่ อ้ งการ
c) ป้องกนั , หรอื ลด, ผลกระทบท่ไี ม่ต้องการ
d) บรรลผุ ลการปรบั ปรุง
6.1.2 องคก์ รตอ้ งวางแผนส่าหรับ:
a) การด่าเนินการเพือ่ ระบคุ วามเส่ยี งและโอกาสเหล่าน้ี,
b) วิธีการทีจ่ ะ
1) ควบรวมและประยกุ ตใ์ ช้กจิ กรรมในกระบวนการของระบบบรหิ ารคณุ ภาพ (ดขู อ้ 4.4)
2) ประเมนิ ประสิทธิผลของกจิ กรรมเหลา่ นี้
กิจกรรมท่ีใช้ระบุความเส่ียงและโอกาส ควรอยู่บนความสมเหตุสมผลต่อแนวโน้มของผลกระทบต่อความสอดคล้อง
ของผลิตภัณฑแ์ ละบรกิ าร
หมายเหตุ 1 ทางเลือกในการระบุการความเส่ียงและโอกาส อาจรวมถึง การหลีกเล่ียง, น่าความเสี่ยงไปแสวงหา
โอกาส, การก่าจดั แหล่งกา่ เนิด, การปรบั เปล่ียนโอกาสท่ีเกิดหรือผลที่ตามมา, การแลกเปล่ียนข้อมูลความเสีย่ ง, หรือ
การคงสภาพความเส่ียง โดยการชแ้ี จงผลการตัดสนิ ใจ
หมายเหตุ 2 โอกาสสามารถน่าไปสกู่ ารปรบั ใช้วิธกี ารใหม่, การสร้างผลติ ภณั ฑใ์ หม่, มกี ลุม่ ตลาดใหม่, มีลกู คา้ รายใหม่
การสร้างคู่ค้า, มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ และความต้องการและความเป็นไปได้ในปฏิบัติที่ระบุโดยองค์กร หรือความ
ตอ้ งการของลกู ค้า

หน้า 66 / 88

6.2 วัตถปุ ระสงค์คณุ ภาพ และการวางแผนเพือ่ ใหบ้ รรลุ
6.2.1 องค์กรต้องจัดท่าวัตถุประสงค์คุณภาพ ขยายผลลงไปในทุกส่วนงานทุกระดับ และกระบวนการที่จ่าเป็น

ในระบบบริหารคุณภาพ
วัตถุประสงคค์ ณุ ภาพจะต้อง

a) มสี อดคลอ้ งกบั นโยบายคณุ ภาพ
b) สามารถวดั ได้
c) มคี วามเกี่ยวขอ้ งกับข้อก่าหนดทปี่ ระยกุ ตใ์ ช้
d) มีความเกี่ยวข้องกับความสอดคล้องข้อก่าหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ และเพ่ือเพ่ิมระดับความ
พึงพอใจลกู คา้
e) มีการติดตาม
f) มกี ารส่อื สาร
g) มกี ารปรบั ปรงุ ตามความเหมาะสม องค์กรต้องคงรักษาเอกสารข้อมลู ของวัตถปุ ระสงค์คณุ ภาพ
6.2.2 เม่ือมีการวางแผนเพื่อใหบ้ รรลตุ ามวตั ถุประสงคค์ ุณภาพองค์กรต้องพิจารณา
a) ส่ิงท่ีต้องด่าเนินการ
b) ทรพั ยากรที่จ่าเป็น
c) ผ้รู บั ผดิ ชอบ
d) กรอบเวลาแลว้ เสร็จ
e) วิธีการประเมินผล
6.3 การวางแผนเปลี่ยนแปลง
เม่ือองค์กรตอ้ งพจิ ารณาถงึ ความจา่ เป็นในการเปลีย่ นแปลงระบบบริหารคุณภาพ, การเปล่ียนแปลงจะต้องดา่ เนินการ
ภายในแผนงานอย่างสมา่ เสมอ (ดูข้อ 4.4)
องค์กรจะต้องพจิ ารณา
a) วัตถุประสงค์ของการเปลีย่ นแปลงและผลที่อาจตามมา
b) ความครบถว้ นของระบบบรหิ ารคณุ ภาพ
c) ความเพยี งพอของทรัพยากร
d) การก่าหนดและหมนุ เวยี นของความรบั ผดิ ชอบและอ่านาจ

7 การสนับสนนุ
7.1 ทรพั ยากร

7.1.1 ขอ้ กาหนดทั่วไป
องค์กรตอ้ งพิจารณาก่าหนดและจัดให้มีทรัพยากรท่จี า่ เป็นสา่ หรบั การจดั ทา่ , น่าไปการปฏบิ ัติ, คงรกั ษาไว้ และ
ปรบั ปรุงอยา่ งต่อเนื่อง ในระบบบรหิ ารคุณภาพองค์กรต้องพิจารณา

a) ความสามารถ และข้อจา่ กัดของทรัพยากรภายในองค์กรทมี่ อี ยู่
b) ความจ่าเป็นในการเลือกใช้ผ้ใู หบ้ รกิ ารภายนอก

หน้า 67 / 88

7.1.2 บคุ ลากร
องค์กรจะต้องพิจารณาและจัดหาบุคลากรให้เพียงพอเพ่ือให้เกิดประสิทธิผลของการด่าเนินงานในระบบ

บริหารคุณภาพ และส่าหรบั การดา่ เนินงานและควบคุมกระบวนการตา่ งๆในระบบบรหิ ารคุณภาพ
7.1.3 โครงสร้างพนื้ ฐาน

องคก์ รต้องพจิ ารณา จัดหา และคงรักษาไว้ซึง่ โครงสร้างพนื้ ฐานส่าหรบั การด่าเนนิ กระบวนการเพื่อให้บรรลุได้
ตามข้อก่าหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ
หมายเหตุ โครงสรา้ งพนื้ ฐาน หมายรวมถงึ

a) อาคาร และ ระบบสาธารณูปโภคทเี่ ก่ยี วข้อง
b) อุปกรณ,์ ทัง้ แบบฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ และ
c) ทรัพยากรในการขนส่ง
d) เทคโนโลยีในการสื่อสารและสารสนเทศ
7.1.4 สภาพแวดลอ้ มในการดาเนนิ กระบวนการ
องค์กรต้องพิจารณา จัดหา และคงรักษา สภาพแวดล้อมท่ีจ่าเป็นส่าหรับการด่าเนินกระบวนการ และเพื่อให้
บรรลขุ ้อกา่ หนดของผลติ ภัณฑ์และบริการ
หมายเหตุ สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม สามารถรวมถงึ ความหลากหลายของคน และสภาพกายภาพ ไดแ้ ก่
a) ดา้ นสังคม (เช่น ไมม่ ีการแบง่ แยก, มีความสงบสุข, ไมม่ กี ารเผชิญหน้า)
b) ด้านจติ ใจ (เชน่ การลดความเครียด, การปอ้ งกันความเม่ือยลา้ , การรักษาระดบั อารมณ์)
c) ด้านกายภาพ (เช่น อุณหภูมิ, ความรอ้ น, ความชื้น, แสงสว่าง, การถา่ ยเท, สขุ ลักษณะ, เสียง)
ปัจจยั เหลา่ น้อี าจแตกตา่ งกันได้ตามลักษณะของผลติ ภัณฑแ์ ละบริการ
7.1.5 ทรพั ยากรในการตรวจติดตามและตรวจวดั
7.1.5.1 ทวั่ ไป
องค์กรต้องพิจารณาและจัดเตรียมทรัพยากรที่จ่าเป็นเพื่อให้ม่ันใจว่าผลจากการติดตามหรือตรวจวัดมีความ
ถูกต้องและน่าเชื่อถือ ในการติดตามหรือการตรวจวัดเพ่ือประเมินความสอดคล้องต่อข้อก่าหนดของผลิตภัณฑ์และ
บริการองคก์ รต้องมนั่ ใจวา่ ทรัพยากรทจ่ี ัดเตรียม

a) เหมาะสมกับวิธกี ารในการตดิ ตามและการตรวจวดั ทม่ี ีการด่าเนินการอยู่
b) ไดร้ ับการดูแลรักษาเพอื่ ใหม้ นั่ ใจวา่ เหมาะสมกับวตั ถุประสงค์การใช้งาน
องคก์ รต้องเกบ็ เอกสารข้อมูลทเี่ หมาะสมเพื่อใช้เปน็ หลักฐานความเหมาะสมในวัตถปุ ระสงค์การใช้งานของ
ทรพั ยากรในการตดิ ตามและตรวจวดั
7.1.5.2 การสอบกลับของกระบวนการตรวจวัด
ในกรณีท่ีมีการสอบกลับของการวัด เป็นข้อก่าหนด หรือพิจารณาจากองค์กร เพ่ือให้เกิดความเชื่อม่ันของผล
ทไี่ ด้จากการวดั อปุ กรณ์การตรวจวดั จะต้อง
- มีการสอบเทียบหรือทวนสอบ หรือท้ังสองอย่าง ตามช่วงเวลาท่ีก่าหนด, หรือก่อนใช้งาน, ตามมาตรฐานท่ี
อ้างอิงได้ระดับสากลหรือระดับชาติในกรณีท่ีไม่มีมาตรฐานอ้างอิงต้องจัดเก็บเอกสารข้อมูลในยืนยันการสอบ
เทยี บหรือทวนสอบ
- มีการชีบ้ ่งเพ่อื ระบสุ ถานะของอปุ กรณ์ตรวจวัด

หน้า 68 / 88

- ป้องกนั จาก การปรับแตง่ , ความเสียหายหรือการเสอ่ื มสภาพ ซ่ึงสง่ ผลตอ่ สถานะของการสอบเทียบหรือส่งผล
ต่อขอ้ มลู การตรวจวดั ทเ่ี กิดขึ้น
องค์กรต้องพิจารณาด่าเนินการแก้ไขตามความเหมาะสมในกรณีทีพ่ บผลการตรวจวัดในคร้ังก่อนมีผลท่ีด้อยลง
จากเดิม ซึ่งอาจพบไดใ้ นขณะใช้งานอุปกรณ์ตรวจวดั ท่ไี ม่ตรงตามลกั ษณะการใชง้ าน
7.1.6 ความรู้ขององค์กร
องค์กรตอ้ งพิจารณากา่ หนด ความรูท้ จี่ า่ เปน็ ส่าหรับการด่าเนนิ กระบวนการและเพื่อให้บรรลถุ ึงข้อก่าหนดของ
ผลิตภัณฑแ์ ละบรกิ ารความรู้เหลา่ น้ีต้องได้รับการจัดเกบ็ และมีครบถว้ นตามขอบเขต อย่างเพยี งพอ
เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงความต้องการและแนวโน้ม องค์กรจะต้องทบทวนความรูใ้ นปจั จุบัน และพิจารณาวิธีการทา่
ใหไ้ ดม้ าหรอื เขา้ ถงึ ความรสู้ ว่ นเพม่ิ เติม และให้มีความทนั สมยั
หมายเหตุ 1 ความรขู้ ององค์กรคือความรู้เฉพาะขององค์กร ได้มาจากประสบการณ์ เป็นขอ้ มูลที่น่ามาใชแ้ ละเผยแพร่
เพอื่ ใหบ้ รรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์
หมายเหตุ 2 ความรอู้ งค์กรอย่บู นพน้ื ฐานของ

a) แหลง่ ภายในองค์กร (เช่น ทรพั ย์สินทางปัญญา, การเรยี นรู้จากประสบการณ์, การเรยี นร้จู ากข้อผิดพลาด
และความสา่ เรจ็ จากโครงการ, การรวบรวมและการแลกเปลี่ยนความรู้ท่ีไม่อยใู่ นต่าราและประสบการณ์, ผลจากการ
พฒั นากระบวนการ, ผลติ ภณั ฑ์และบริการ)

b) แหล่งภายนอกองค์กร (เช่น มาตรฐาน, ศูนย์การเรียนรู้, การสัมมนา, การได้มาจากลูกค้าหรือ
ผู้รับจา้ งชว่ ง)
7.2 ความสามารถ
องค์กรตอ้ ง

a) ก่าหนดความสามารถท่ีจ่าเป็นของบุคลากรที่ท่างานภายใต้การด่าเนินการที่มีผลต่อสมรรถนะด้าน
คณุ ภาพและประสทิ ธผิ ลในระบบบริหารคุณภาพ

b) ท่าใหม้ นั่ ใจวา่ บุคลากรเหล่าน้มี คี วามสามารถบนพ้นื ฐานการศกึ ษา การฝึกอบรม หรือ ประสบการณ์
c) ในกรณีที่ท่าได้, ต้องด่าเนินการเพื่อได้มาท่ีซ่ึงความสามารถท่ีจ่าเป็น, และการประเมินประสิทธิผลของ
การด่าเนินการดงั กลา่ ว
d) จดั เก็บหลักฐานที่แสดงถงึ ความสามารถเป็นเอกสารขอ้ มูล
หมายเหตุ การด่าเนินการท่ีใด้สามารถบุคคลากร ยกตัวอย่างเช่นการจัดฝึกอบรม ,การเป็นพ่ีเลี้ยง, หรือ การ
มอบหมายงานให้กบั พนกั งานปจั จบุ นั หรือการว่าจ้างหรอื ท่าสญั ญากบั ผชู้ า่ นาญงานน้นั ๆ
7.3 ความตระหนกั
บุคลากรทีท่ า่ งานภายใตก้ ารควบคุมขององคก์ ร ต้องมคี วามตระหนักในเรื่อง
a) นโยบายคุณภาพ
b) วตั ถปุ ระสงคค์ ุณภาพทีเ่ กี่ยวข้อง
c) การด่าเนินงานท่ีส่งผลต่อประสิทธิผลของระบบการบริหารคุณภาพ, รวมถึงผลที่ได้ของการปรับปรุง
สมรรถนะ
d) ผลทีต่ ามมาของการดา่ เนนิ การท่ีไม่สอดคล้องกบั ขอ้ ก่าหนดของระบบบริหารคุณภาพ

หน้า 69 / 88

7.4 การสือ่ สาร
องค์กรต้องพิจารณาการส่ือสารภายใน และส่ือสารภายนอก ที่เก่ียวข้องกับระบบบริหารงานคุณภาพ โดย

พิจารณา
a) จะสือ่ สารอะไรบ้าง
b) จะสอ่ื สารเมอื่ ไหร่
c) จะส่ือสารให้ใครบา้ ง
d) จะส่อื สารอย่างไร
e) สอื่ สารโดยใคร

7.5 เอกสารข้อมูล
7.5.1 ท่วั ไป

ระบบบริหารงานคุณภาพขององค์กรต้องประกอบด้วย
a) เอกสารขอ้ มูลท่กี า่ หนดโดยมาตรฐานนานาชาตฉิ บบั น้ี
b) เอกสารข้อมลู ที่จ่าเปน็ ส่าหรับการด่าเนินงานใหป้ ระสิทธิผลในระบบบรหิ ารงานคุณภาพขององค์กร

หมายเหตุ : ขอบเขตเอกสารข้อมลู ในระบบการบริหารคุณภาพอาจแตกตา่ งกันในแต่ละองคก์ ร ดว้ ยปัจจยั ดังนี้
a) ขนาดขององคก์ รและชนดิ ของกิจกรรม กระบวนการ ผลิตภณั ฑ์และบริการ
b) ความซับซ้อน และปฏสิ มั พันธ์ของกระบวนการต่อกนั
c) ความสามารถของบุคลากร

7.5.2 การจัดทาและการปรบั ปรุง
เมอ่ื มีการจัดท่าและปรบั ปรุงเอกสารข้อมูลขององคก์ ร องคก์ รต้องม่นั ใจว่า

a) มีการช้บี ง่ และค่าอธบิ าย (เช่น ช่อื เอกสาร วนั ท่จี ัดท่า ผจู้ ัดท่า หรือหมายเลขเอกสาร)
b) มีการก่าหนดรูปแบบ (เช่นภาษา รุ่นซอฟท์แวร์ รูปภาพ) และส่ือท่ีใช้ (เช่นกระดาษ
ขอ้ มูลอเิ ล็กทรอนิกส)์
c) มกี ารทบทวนและอนมุ ตั ิ อยา่ งเหมาะสมและเพียงพอ
7.5.3 การควบคมุ เอกสารขอ้ มลู
7.5.3.1 เอกสารข้อมูลที่จ่าเป็นในระบบบริหารจัดการคุณภาพ และมาตรฐานนานาชาติฉบับน้ี ต้องได้รับ
การควบคุมเพื่อให้มนั่ ใจว่า

a) มเี พียงพอและเหมาะสมในการใชง้ าน ตามความจ่าเป็นในแตล่ ะกระบวนการและข้ันตอน
b) ได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม (เช่น เส่ียงต่อการถูกเปิดเผย น่าไปใช้อย่างไม่ถูกต้องหรือไม่
ครบถว้ น)
7.5.3.2 สา่ หรับการควบคุมเอกสารข้อมูล, องคก์ รตอ้ งด่าเนินกจิ กรรมต่อไปน้ี ตามความเหมาะสม
a) มีการแจกจา่ ย, การเขา้ ใช้, การคน้ หา และ การน่าไปใช้
b) มกี ารจดั เก็บและการป้องกัน รวมถึงการดูแลรกั ษาให้เน้อื หาอา่ นไดง้ า่ ย
c) มคี วบคมุ การเปลีย่ นแปลง (เชน่ การระบฉุ บับท่ขี องการแกไ้ ข)
d) มีการกา่ หนดเวลาจดั เกบ็ และการทา่ ลาย

หน้า 70 / 88

เอกสารข้อมูลภายนอกท่ีองค์กรเห็นว่าจ่าเป็นส่าหรับการวางแผนและการปฏิบัติของระบบบริหารคุณภาพต้องได้รับ
การช้ีบง่ และควบคมุ ตามความเหมาะสมเอกสารขอ้ มูลใช้เป็นหลกั ฐานท่ีแสดงถงึ ความสอดคล้องต้องไดร้ ับการป้องกัน
จากการแก้ไขโดยไม่ตงั้ ใจ
หมายเหตุ การเข้าใช้ หมายถึง การก่าหนดสิทธิ์ในการเข้าดูเอกสาร รวมถึงสิทธิ์ในการอ่าน และแก้ไขเอกสารข้อมูล
เปน็ ตน้

8 การปฏบิ ตั ิงาน
8.1 การวางแผนและการควบคมุ การปฏบิ ตั ิงาน
องค์กรต้องด่าเนินการวางแผน, ปฏิบัติ และควบคุม กระบวนการต่างๆ (ดูข้อ 4.4) ท่ีจ่าเป็นเพ่ือให้บรรลุข้อ

ก่าหนดการจดั เตรยี มผลิตภณั ฑ์และบรกิ าร และด่าเนินกิจกรรมทถี่ ูกระบุไวใ้ นข้อก่าหนด 6 โดย
a) พิจารณาข้อกา่ หนดของผลิตภัณฑ์และบรกิ าร
b) จัดทา่ เกณฑส์ ่าหรบั
1) กระบวนการ
2) การยอมรบั ผลติ ภณั ฑแ์ ละบริการ
c) ก่าหนดทรัพยากรทจี่ า่ เป็นเพอื่ ใหบ้ รรลุความสอดคล้องต่อข้อก่าหนดของผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ
d) ดา่ เนินการควบคุมกระบวนการตามเกณฑ์
e) ก่าหนด, คงไว้และจัดเก็บเอกสารข้อมูลที่จ่าเป็นตามขอบเขต
1) เพอ่ื ใหเ้ ชื่อมนั่ ว่ากระบวนการสามารถด่าเนินการไดต้ ามแผน
2) เพอ่ื แสดงถงึ ผลติ ภัณฑ์และบริการมคี วามสอดคลอ้ งตามข้อก่าหนด

ผลที่ได้จากการวางแผนต้องมีความเหมาะสมกับการด่าเนินการขององค์กร องค์กรต้องควบคุมการเปลี่ยนแปลงท่ี
เกิดข้ึนในการวางแผน และทบทวนผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการเปลี่ยนแปลงท่ีไม่ต้ังใจ,ด่าเนินการเพื่อลดผลกระทบ
ทางลบตามความเหมาะสม องค์กรต้องม่ันใจว่ากระบวนการท่ีด่าเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอกได้รับการควบคุม
ตาม (ดูข้อ 8.4)
8.2 การพจิ ารณาข้อกาหนดสาหรับผลติ ภัณฑ์และบริการ

8.2.1 การส่อื สารกับลกู ค้า
การสือ่ สารกับลกู ค้ามีดงั น้ี

a) จดั เตรยี มข้อมลู ที่เก่ียวข้องกบั ผลติ ภัณฑ์และบริการ
b) ข้อมูลเพิม่ เติม, สญั ญาหรอื ค่าสง่ั ซอ้ื , รวมถงึ การเปลี่ยนแปลง
c) การรับข้อมูลป้อนกลบั จากลกู ค้าทีเ่ ก่ยี วข้องกับผลติ ภณั ฑ์และบริการ รวมถงึ ขอ้ รอ้ งเรยี นจากลูกค้า
d) การเคลื่อนยา้ ยและการดูแลทรัพยส์ นิ ลกู คา้
e) ข้อกา่ หนดเฉพาะกรณีเกิดเหตฉุ ุกเฉนิ ถ้าเกี่ยวข้อง
8.2.2 การพจิ ารณาข้อกาหนดท่เี กยี่ วข้องกบั ผลิตภณั ฑแ์ ละบรกิ าร
เมอ่ื มกี ารพจิ ารณาข้อกา่ หนดของผลติ ภณั ฑ์และบริการเพอื่ น่าเสนอตอ่ ลูกค้า
องค์กรตอ้ งมั่นใจว่า
a) มีการระบขุ อ้ กา่ หนดของสนิ ค้าและบริการ ประกอบดว้ ย

หน้า 71 / 88

1) ขอ้ ก่าหนดของกฎหมายท่เี ก่ยี วขอ้ ง
2) ขอ้ พจิ ารณาทจี่ า่ เปน็ ขององค์กร
b) การดา่ เนินการตอบสนองตอ่ ขอ้ ร้องเรียนในผลิตภณั ฑ์และบรกิ าร ท่ไี ด้มกี ารเสนอแนะไว้
8.2.3 การทบทวนขอ้ กาหนดทเ่ี กย่ี วข้องกับผลติ ภัณฑ์และบริการ
8.2.3.1 องค์กรต้องม่ันใจว่ามีความสามารถทจ่ี ะส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่เสนอต่อลูกคา้ ได้ องค์กรจะต้อง
ทบทวนก่อนที่จะยืนยันการส่งมอบผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารต่อลกู ค้า ซึ่งรวมถึง
a) ขอ้ กา่ หนดทร่ี ะบโุ ดยลกู ค้า รวมถงึ ขอ้ ก่าหนดในการส่งมอบและกิจกรรมหลังสง่ มอบ
b) ข้อกา่ หนดท่ีลกู คา้ ไม่ได้ระบุ แต่จา่ เป็นต่อการใชง้ าน, กรณีทีท่ ราบ
c) ขอ้ ก่าหนดทีร่ ะบโุ ดยองคก์ ร
d) ขอ้ ก่าหนดด้านกฎหมายอน่ื ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับผลิตภัณฑแ์ ละบริการ
e) ขอ้ ก่าหนดในสัญญาจ้างหรือคา่ สง่ั ซื้อซงึ่ แตกตา่ งท่รี ะบุไว้ก่อนหนา้
องค์กรต้องม่ันใจว่าขอ้ ก่าหนดทเ่ี ปลย่ี นแปลงในสญั ญาจ้างหรือค่าสัง่ ซื้อได้รับการด่าเนินการแกไ้ ข
ในกรณที ่ีลูกค้าไม่มเี อกสารระบุข้อก่าหนดผลติ ภัณฑแ์ ละบริการ องคก์ รจะต้องยืนยันข้อก่าหนดเหล่าน้ีก่อนการตกลง
กับลูกคา้
หมายเหตุ ในบางสถานการณ์, เช่นการขายผ่านอินเตอร์เน็ต, การทบทวนแต่ละค่าสั่งซ้ือไม่สามารถด่าเนินการเป็น
รูปแบบปกติได้ ซึ่งสามารถด่าเนินการทบทวนข้อมูลผลิตภัณฑ์โดยวิธีการอื่นแทนได้ เช่น บัญชีรายชื่อผลิตภัณฑ์
(แค็ตตาล็อก)
8.2.3.2 องคก์ รต้องจัดเกบ็ เอกสารข้อมลู เหลา่ นี้ ตามความเหมาะสม
a) ผลของการทบทวน
b) ขอ้ มลู ใหม่ของผลติ ภณั ฑ์และบรกิ าร
8.2.4 การเปล่ียนแปลงขอ้ กาหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ
ต้องมีการจัดท่าเอกสารข้อมูลผลการทบทวนข้อก่าหนดสนิ ค้าและบริการเหล่านไี้ ม่ว่าจะข้อมูลใหม่หรือข้อมูลท่ี
เปลี่ยนแปลงเมื่อข้อมูลสินค้าและบริการมีการเปล่ียนแปลง องค์กรต้องมั่นใจว่าเอกสารข้อมูลท่ีเก่ียวข้องได้รับการ
แกไ้ ขและพนักงานทเี่ กยี่ วขอ้ งตระหนักถงึ ขอ้ มูลดังกลา่ ว
8.3 การออกแบบและการพัฒนาผลิตภณั ฑ์และบรกิ าร
8.3.1 ท่วั ไป
องค์กรต้องจัดท่า, นา่ ไปปฏิบัติ และคงรกั ษาไว้ซ่ึงกระบวนการออกแบบและพฒั นา เพ่อื ให้มั่นใจถึงการเป็นส่วน
หนง่ึ ในการเตรยี มความพร้อมของผลิตภัณฑ์และบรกิ ารอยา่ งเหมาะสม
8.3.2 การวางแผนการออกแบบและพฒั นา
ในการพิจารณาข้นั ตอนและการควบคมุ ของการออกแบบและพฒั นา องค์กรจะต้องพิจารณา

a) สภาพการท่างาน, ระยะเวลา และความซบั ซ้อนของกจิ กรรมการออกแบบและพัฒนา
b) ข้อก่าหนดในแต่ละข้นั ตอน รวมถึงการทบทวนการออกแบบและพฒั นาท่ีเกยี่ วขอ้ ง
c) กจิ กรรมทใี่ ช้สา่ หรบั การทวนสอบและรับรองการออกแบบและพัฒนา
d) ความรับผิดชอบและอา่ นาจในกระบวนการออกแบบและพัฒนา
e) ทรพั ยากรภายในและภายนอกสา่ หรบั การออกแบบและพัฒนาผลิตภณั ฑ์และบริการ

หน้า 72 / 88

f) ความจ่าเป็นในการควบคุมการประชุมระหว่างในหน่วยงานกับผู้ที่เก่ียวข้องในกระบวนการออกแบบ
และพัฒนา

g) ความจ่าเปน็ ในการมีสว่ นรว่ มของลกู ค้าและผู้ใช้ในกระบวนการออกแบบและพฒั นา
h) ข้อกา่ หนดทเ่ี กยี่ วข้องในการจดั เตรียมผลิตภณั ฑแ์ ละบรกิ าร
i) ระดับการควบคุมตามความคาดหวงั ของลูกค้าและผ้มู สี ว่ นไดส้ ่วนเสียอ่นื ๆ ในการออกแบบและพฒั นา
j) เอกสารขอ้ มูลท่ีจา่ เปน็ สา่ หรบั แสดงความสอดคล้องกบั ข้อก่าหนดในการออกแบบและพัฒนา

8.3.3 ปจั จัยนาเขา้ ในการออกแบบและพฒั นา
องคก์ รต้องพิจารณาข้อก่าหนดท่จี ่าเป็นส่าหรับรูปแบบเฉพาะในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ

โดยตอ้ งพจิ ารณาดังนี้
a) ข้อกา่ หนดด้านการใช้งานและสมรรถนะ
b) ข้อมูลทีไ่ ด้จากกจิ กรรมการออกแบบและพฒั นาผลติ ภณั ฑแ์ ละบริการในครงั้ ก่อน
c) กฎหมายและขอ้ กา่ หนดทีเ่ กย่ี วขอ้ ง
d) มาตรฐานและขอ้ บงั คับท่อี งคก์ รตกลงไว้ในการด่าเนินการ
e) ผลกระทบท่อี าจเกดิ ข้ึนจากธรรมชาตขิ องสนิ ค้าและบริการ

ปัจจยั น่าเข้าจะตอ้ งมีความเพยี งพอ, ครบถ้วน และ โปร่งใส ตามวตั ถุประสงคข์ องการออกแบบและพัฒนา
ขอ้ ขดั แย้งท่เี กิดขน้ึ ควรไดร้ บั การแก้ไของค์กรต้องจดั เกบ็ เอกสารข้อมลู ปจั จัยนา่ เขา้ ในการออกแบบและพัฒนา
8.3.4 การควบคุมการออกแบบและพัฒนา

องค์กรจะต้องการควบคมุ ในกระบวนการออกแบบและพฒั นาเพอื่ ให้มั่นใจว่า
a) ผลทีไ่ ดบ้ รรลุตามขอ้ กา่ หนดไดถ้ ูกระบุไว้
b) มีการทบทวนเพ่อื ประเมินผลการออกแบบและพฒั นาถึงความสอดคล้องกับข้อก่าหนด
c) มีการทวนสอบเพอื่ ให้มน่ั ใจว่าปจั จยั น่าออกสอดคล้องกับปจั จยั น่าเขา้ ในการออกแบบและพฒั นา
d) มีการรบั รองเพ่ือให้มั่นใจว่าสินคา้ และบริการไปเป็นตามการใชท้ ่ีระบุไวห้ รือข้อก่าหนดการใชง้ าน
e) มีการด่าเนินการท่ีจ่าเป็นใดๆ เมื่อพบปัญหาที่เกิดขึ้นในกิจกรรมการทบทวน, หรือการทวนสอบ และการ
รบั รอง
f) มกี ารจัดเก็บเอกสารข้อมลู ของกจิ กรรมเหล่านี้
หมายเหตุ การทบทวน, การทวนสอบ และการรับรองการออกแบบและพัฒนามีวัตถุประสงค์ท่ีแตกต่างกัน สามารถ
ด่าเนินการร่วมกัน หรือแยกกนั ตามความเหมาะสมของผลิตภณั ฑ์และบริการขององค์กร
8.3.5 ปัจจัยนาออกในการออกแบบและพัฒนา
องคก์ รตอ้ งม่ันใจวา่ ปัจจยั น่าออกท่ีได้จากการออกแบบและพัฒนา
a) สอดคล้องกับข้อก่าหนดปัจจยั น่าเข้า
b) มคี วามพอเพียงส่าหรบั กระบวนทีเ่ ก่ียวขอ้ งในการเตรยี มผลิตภัณฑแ์ ละบริการ
c) ระบุหรอื อา้ งอิง ขอ้ กา่ หนดในการติดตามและตรวจวดั ตามความเหมาะสม และเกณฑ์การยอมรบั
d) ระบุคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์และบริการที่จ่าเป็นต่อการใช้งาน และการมีเตรียมอย่างครอบคลุมและ
ครบถ้วนองคก์ รตอ้ งจดั เกบ็ เอกสารข้อมูลของผลที่ไดจ้ ากการออกแบบและพฒั นา

หน้า 73 / 88

8.3.6 การเปลยี่ นแปลงการออกแบบและพฒั นา
องค์กรต้องมีการช้ีบ่ง, ทบทวน และควบคุมการเปล่ียนแปลงของปัจจัยน่าเข้าและปัจจัยน่าออกในขณะการ

ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ หรือกระบวนการที่เกี่ยวเนื่อง, ตามขอบเขตท่ีจ่าเป็นเพื่อให้ม่ันใจว่าไม่
เกดิ ผลกระทบต่อความสอดคลอ้ งตอ่ ขอ้ ก่าหนดองคก์ รต้องจัดเก็บเอกสารข้อมูล

a) การเปล่ยี นแปลงการออกแบบและพฒั นา
b) ผลการทบทวน
c) ผ้มู อี า่ นาจส่าหรับการเปล่ียนแปลง
d) การด่าเนนิ การเพื่อปอ้ งกันผลกระทบในทางลบ
8.4 การควบคุมผูใ้ ห้บริการภายนอกดา้ นกระบวนการผลิตภณั ฑแ์ ละการบริการ
8.4.1 ทั่วไป
องค์กรตอ้ งมนั่ ใจว่าสนิ ค้าและบริการท่ีได้รับจากผู้ให้บริการภายนอก ในกระบวนการ, ผลิตภัณฑแ์ ละการบริการ
มีความสอดคล้องกับข้อก่าหนดองค์กรต้องระบุการควบคุมกับผู้ให้บริการภายนอก ในกระบวนการ, ผลิตภัณฑ์และ
การบรกิ าร ในกรณีดงั น้ี
a) ผลิตภณั ฑ์และบรกิ ารจากผใู้ ห้บริการภายนอกท่เี ป็นสว่ นหน่งึ ของผลติ ภัณฑ์และบรกิ ารท่ีองค์กรด่าเนนิ งาน
b) ผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ ารมีการส่งมอบใหล้ ูกค้าโดยผู้บรกิ ารภายนอกซ่ึงกระทา่ ในนามองค์กร
c) ทั้งหมดหรือบางสว่ นของกระบวนการดา่ เนนิ การภายผู้ให้บริการภายนอกท่ีองค์กรได้ตัดสนิ ใจ
องค์กรต้องจัดท่าและประยุกต์ใช้เกณฑ์ในการประเมิน, คัดเลือก, เฝ้าติดตามสมรรถนะและประเมินซ้่าของผู้
ให้บริการภายนอก โดยอยู่บนพ้ืนฐานความสามารถของการส่งมอบกระบวนการหรือ ผลิตภัณฑ์และบริการตาม
ข้อก่าหนดทเี่ ก่ยี วข้อง
องค์กรตอ้ งจดั เก็บเอกสารข้อมลู ของกิจกรรมเหล่านแี้ ละการดา่ เนนิ การที่จ่าเปน็ จากผลการประเมนิ ท่ีพบ
8.4.2 ชนดิ และขอบเขตของการควบคมุ
องค์กรต้องมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการภายนอกด้านกระบวนการ, ผลิตภัณฑ์และการบริการ จะไม่ส่งผลต่อ
ความสามารถในการส่งมอบผลติ ภณั ฑ์และบรกิ ารให้กับลกู ค้า
องคก์ รจะต้อง
a) ม่นั ใจวา่ กระบวนการของผู้ให้บรกิ ารภายนอกอยภู่ ายใต้การควบคมุ ของระบบบรหิ ารคุณภาพ
b) ระบุทง้ั การควบคุมที่ใช้กับผูใ้ หบ้ รกิ ารภายนอกและใชก้ ับผลจากการดา่ เนนิ การ
c) พจิ ารณาถึง
1) แนวโน้มผลกระทบที่อาจจากกระบวนการให้บริการภายนอกต่อความสามารถท่ีจะให้กระบวนการ
ผลิตภัณฑแ์ ละบรกิ าร สอดคลอ้ งกบั ข้อกา่ หนดลกู คา้ และข้อกา่ หนดกฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ ง
2) ประสทิ ธผิ ลของการควบคุมทดี่ ่าเนนิ การโดยผู้ให้บรกิ ารภายนอก
d) พจิ ารณาการทวนสอบ, หรอื กิจกรรมอื่นๆ ท่จี ่าเปน็ เพ่ือใหม้ น่ั ใจวา่ ผู้ใหบ้ ริการภายนอกส่งมอบกระบวนการ,
ผลิตภัณฑ์และบริการสอดคล้องกบั ขอ้ ก่าหนด

หน้า 74 / 88

8.4.3 ขอ้ มูลสาหรบั ผูใ้ หบ้ ริการภายนอก
องค์กรตอ้ งมนั่ ใจวา่ ข้อกา่ หนดกอ่ นหน้านไี้ ด้มีการสื่อสารให้ส่าหรบั ผูใ้ ห้บริการภายนอกเพยี งพอ
องคก์ รตอ้ งสือ่ สารข้อกา่ หนดใหก้ บั ผใู้ ห้บริการภายนอกสา่ หรบั
a) กระบวนการ, ผลติ ภณั ฑ์และบริการท่จี ะด่าเนินการให้
b) การอนมุ ตั สิ า่ หรับ
1) ผลติ ภณั ฑ์และบรกิ าร
2) วธิ ีการ, กระบวนการ และอปุ กรณ์
3) การตรวจปลอ่ ยผลิตภัณฑแ์ ละบริการ
c) ความสามารถ รวมทั้งคณุ สมบัตทิ จี่ ่าเปน็ ของบคุ ลากร
d) การปฏสิ มั พันธก์ บั การด่าเนินการขององค์กรของผใู้ ห้บริการภายนอก
e) การควบคุมและการเฝ้าตดิ ตามสมรรถนะของผู้ใหบ้ รกิ ารภายนอกโดยองคก์ ร
f) กจิ กรรมการทวนสอบหรอื รับรอง ทีอ่ งคก์ ร หรือลูกคา้ , ตั้งใจจะดา่ เนนิ การยงั สถานทข่ี องผใู้ หบ้ รกิ าร

ภายนอก
8.5 การผลติ และการบรกิ าร

8.5.1 ควบคุมการผลิตและการบรกิ าร
องคก์ รจะตอ้ งดา่ เนนิ การควบคุมการผลติ และบรกิ าร ให้อยใู่ นเงอ่ื นไขทค่ี วบคมุ ท่ีเหมาะสม จะรวมถงึ
a) ความเพียงพอของเอกสารข้อมูลท่ีระบุถึง

1) คุณลกั ษณะของผลติ ภณั ฑท์ ่จี ะผลติ , บริการทส่ี ่งมอบ หรือกจิ กรรมท่ีดา่ เนินการ
2) ผลทจ่ี ะบรรลุ
b) ความเพียงพอและเหมาะสมของทรัพยากรส่าหรบั ตรวจตดิ ตามและตรวจวัด
c) ด่าเนินกิจกรรมการตรวจวัดและติดตามในขั้นตอนท่ีเหมาะสม เพื่อทวนสอบว่าข้อมูลการด่าเนินกิจกรรม
เป็นไปตามเกณฑ์การควบคุมการผลติ และเกณฑ์การยอมรบั ผลติ ภัณฑ์และบริการ
d) การใช้โครงสร้างพ้ืนฐานและสภาพแวดล้อมท่เี หมาะสมในการดา่ เนนิ กระบวนการ
e) ระบุความสามารถและคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องของบุคลากร
f) ด่าเนินกิจกรรมการรับรอง และการรับรองซ้่าตามช่วงเวลา เพื่อพิจารณาการบรรลุผลตามแผนการผลิตและ
บริการ เมือ่ ผลการตรวจสอบไมส่ ามารถทวนสอบไดใ้ นขนั้ ตอนยอ่ ยของการผลติ หรอื บริการได้
g) ดา่ เนนิ กจิ กรรมเพื่อป้องกนั ข้อผิดพลาดจากบุคลากร
h) มีการดา่ เนินกจิ กรรมการตรวจปล่อย, การจัดส่งและกจิ กรรมหลงั การสง่ มอบ
8.5.2 การช้ีบ่งและการสอบกลับ
องค์กรต้องเลือกใช้เกณฑ์ที่เหมาะสมในการระบุผลลัพธ์จากกระบวนการ, เมื่อองค์กรต้องการความมั่นใจว่า
ผลิตภัณฑแ์ ละบรกิ ารเปน็ ไปตามขอ้ กา่ หนด
องคก์ รตอ้ งระบุสถานะของผลลัพธ์ ภายใตข้ อ้ ก่าหนดการตรวจวัดและตรวจติดตามของการผลติ และการบรกิ าร
กรณีที่การตรวจสอบย้อนกลับเป็นข้อก่าหนดในการด่าเนินการ, องค์กรใช้วิธีการชี้บ่งแบบเฉพาะเจาะจงที่ผลลัพธ์
และมีการจดั ท่าเป็นเอกสารข้อมลู สา่ หรบั การสอบกลบั ได้

หน้า 75 / 88

8.5.3 ทรพั ยส์ นิ ทเ่ี ปน็ ของลกู ค้าหรอื ผู้ใหบ้ รกิ ารภายนอก
องคก์ รต้องดูแลทรัพยส์ ินที่เป็นของลูกค้าหรอื ผใู้ ห้บริการภายนอกในขณะที่อยู่ภายใต้การจัดเกบ็ ในองค์กรหรือ

มีการใช้งาน องค์กรต้องระบุ ทวนสอบ ป้องกัน และดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าหรือผู้ส่งมอบภายนอกเพ่ือใช้ใน
การผลิตผลิตภัณฑ์และการบริการถ้าทรัพย์สินใดๆ ของลูกค้าหรือผู้ส่งมอบภายนอกเกิดการสูญหาย, เสียหาย หรือ
พบว่าไม่เหมาะสมในการใช้งานองค์กรต้องด่าเนินการแจ้งลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอกให้ทราบ และจัดท่าเป็น
เอกสารข้อมูลไว้
หมายเหตุ ทรัพย์สินของลูกค้าหรือของผู้ให้บริการภายนอก อาจรวมถึงวัตถุดิบ, ชิ้นส่วนย่อย, เคร่ืองมือและอุปกรณ์,
สถานท,ี่ ทรัพยส์ ินทางปัญญาและขอ้ มลู สว่ นบุคคล
8.5.4 การดแู ลรกั ษา

องค์กรต้องดูแลรักษา ผลจากกระบวนการในขณะด่าเนินการผลิต/ให้บริการ ตามขอบเขตท่ีจ่าเป็น เพ่ือให้
ม่นั ใจว่ายงั มีความสอดคลอ้ งกบั ข้อกา่ หนด
หมายเหตุ การดแู ลรักษารวมถึง การชบี้ ง่ , การขนยา้ ย, การควบคุมการปนเปื้อน, การบรรจุ, การจดั เก็บ, การสง่ ผ่าน
หรอื การขนส่ง และการป้องกนั
8.5.5 กิจกรรมหลงั การส่งมอบ

องค์กรต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อก่าหนดส่าหรับกิจกรรมหลังการส่งมอบ ซ่ึงสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์และ
บริการในการพจิ ารณาขอบเขตของกจิ กรรมหลังการสง่ มอบที่เปน็ ขอ้ กา่ หนดไว้ องคก์ รตอ้ งพจิ ารณา

a) กฎหมายและข้อกา่ หนดที่เกีย่ วขอ้ ง
b) แนวโน้มผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ ซ่ึงสัมพนั ธ์กับผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ าร
c) ธรรมชาติ, การใช้และอายุการใชง้ านของผลติ ภัณฑ์และบรกิ าร
d) ขอ้ ก่าหนดของลกู ค้า
e) ขอ้ มูลปอ้ นกลับจากลูกคา้
หมายเหตุ กจิ กรรมหลงั การส่งมอบ สามารถหมายถงึ เช่น การดา่ เนนิ การภายใตก้ ารรบั ประกัน, ขอ้ ผกู พันตามสัญญา
เช่นการบา่ รงุ รกั ษา และบรกิ ารเพ่ิมเติมเชน่ การน่ากลบั มาใช้ใหม่ หรือการก่าจัด
8.5.6 ควบคุมของการเปลยี่ นแปลง
องค์กรจะต้องทบทวนและควบคุมการเปลี่ยนแปลงส่าหรับการผลิตและการให้บริการ ตามขอบเขตท่ีจ่าเป็น
เพือ่ ใหม้ น่ั ใจวา่ ยงั มีความสอดคลอ้ งกับข้อก่าหนดอย่างตอ่ เนื่อง
องค์กรต้องจัดท่าเอกสารข้อมูลที่อธิบายถึงผลการทบทวนการเปล่ียนแปลง, บุคคลที่มีอ่านาจหน้าท่ีในการ
เปลี่ยนแปลงและกจิ กรรมที่ด่าเนินการท่ีจ่าเป็นจากผลการทบทวนเหลา่ นนั้
8.6 การตรวจปลอ่ ยผลติ ภณั ฑ์และบริการ
องค์กรตอ้ งด่าเนนิ ตามแผนงานที่ก่าหนดไว้ ในขนั้ ตอนท่ีเหมาะสมเพื่อทวนสอบผลติ ภัณฑ์และบริการมีความ
สอดคล้องกับข้อก่าหนดไม่ท่าการปล่อยผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้าจนกว่าจะได้มีการตรวจตามแผนที่วางไว้
ยกเว้นกรณีได้รับการอนุมัติโดยผู้มีอ่านาจท่ีเกี่ยวข้องและ, ถ้าท่าได้, โดยลูกค้า องค์กรต้องด่าเนินการจัดท่าเอกสาร
ข้อมลู การตรวจปลอ่ ยผลติ ภณั ฑ์และบรกิ าร เอกสารขอ้ มูลประกอบดว้ ย

a) หลักฐานแสดงความสอดคลอ้ งเทียบกบั เกณฑ์การยอมรับ
b) การสืบกลบั ไปยังผมู้ อี า่ นาจในการตรวจปล่อย

หน้า 76 / 88

8.7 การควบคมุ ผลลัพธ์ ท่ีไมไ่ ปเปน็ ตามข้อกาหนด
8.7.1 องคก์ รตอ้ งม่นั ใจว่าผลลัพธ์ทไี่ มส่ อดคล้องกบั ข้อก่าหนดไดร้ บั การชบ้ี ่งและป้องกันไมใ่ หน้ ่าไปใชห้ รือส่งมอบ

โดยไม่ได้ต้ังใจองค์กรจะต้องด่าเนินการแก้ไขที่เหมาะสมกับลักษณะของสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อก่าหนดและผลกระทบ
ของผลิตภัณฑ์และบริการ ท้ังน้ีให้รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการท่ีถูกตรวจพบหลังจากท่ีได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปแล้ว ใน
ระหวา่ งหรอื หลังจากให้บรกิ าร

องค์กรต้องด่าเนินการกับผลจากกระบวนการที่ไม่เป็นไปตามข้อก่าหนด สินค้าและบริการด้วยวิธีการอย่างใด
อยา่ งหนึ่งหรือมากกวา่ ดงั น้ี

a) การแกไ้ ข
b) การคัดแยก, จดั เกบ็ ในพนื้ ที่, ส่งคืน หรอื การหยุดใช้ช่วั คราว ของผลติ ภณั ฑ์และบริการ
c) แจ้งใหล้ ูกค้าทราบ
d) ได้รบั การอนุมตั ิผอ่ นผนั การใชง้ าน
เมื่อมีการแกไ้ ขผลการด่าเนนิ การ ต้องมกี ารทวนสอบความสอดคล้องกับข้อก่าหนด
8.7.2 องค์กรต้องมกี ารจัดเก็บเอกสารขอ้ มลู ดังนี้
a) รายละเอียดความไม่สอดคลอ้ ง
b) รายละเอยี ดการดา่ เนนิ การ
c) รายละเอยี ดการขอผอ่ นผันที่ไดด้ ่าเนนิ การ
d) การระบุผ้รู ับผดิ ชอบในการตัดสินใจด่าเนนิ การกบั ความไมส่ อดคล้อง

9 การประเมนิ สมรรถนะ
9.1 การตดิ ตาม ตรวจวัด วเิ คราะห์ และประเมิน

9.1.1 ทว่ั ไป
องคก์ รตอ้ งพจิ ารณา
a) อะไรทีส่ ่าคญั ในการตรวจติดตามและตรวจวัด
b) วธิ ีการในการตรวจตดิ ตาม ตรวจวดั วเิ คราะห์และประเมนิ ท่ีจา่ เปน็ เพอื่ ให้ม่ันใจถึงผลทถ่ี ูกตอ้ ง;
c) จะท่าการติดตามและตรวจวดั เมอื่ ใด
d) จะทา่ การวเิ คราะห์และประเมนิ ผลการติดตามและตรวจวดั เมือ่ ใด
องคก์ รต้องท่าการประเมนิ สมรรถนะคณุ ภาพและประสทิ ธิผลของระบบบริหารคณุ ภาพ
องคก์ รตอ้ งเก็บรกั ษาเอกสารข้อมูลท่ีจ่าเปน็ ในฐานะหลักฐานของผลจากการดา่ เนินการ

9.1.2 ความพึงพอใจลูกค้า
องค์กรจะต้องเฝ้าติดตาม ข้อมูลที่เก่ียวข้องกับระดับการรับรู้ของลูกค้า ที่ลูกค้าต้องการ และ ความคาดหวัง

ของลกู ค้าได้รบั การเติมเต็ม องคก์ รจะต้องก่าหนดวิธกี ารเพ่อื ทจ่ี ะให้ได้ข้อมูลเหลา่ นม้ี าติดตามและทบทวน
หมายเหตุ ยกตัวอย่างการเฝ้าติดตามความพึงพอใจของลูกค้า เช่น การส่ารวจ, การตอบกลับของลูกค้าหลังการส่ง
มอบสินค้า และ บริการ, การประชุมกับลูกค้า,การวิเคราะห์ส่วนแบ่งทางการตลาด, ของสัมมนาคุณ, คืนสินค้า
ในช่วงการรบั ประกัน และ รายงานจากผ้จู า่ หนา่ ย

หน้า 77 / 88

9.1.3 การวเิ คราะห์และประเมินผล
องค์กรต้องด่าเนินการวิเคราะห์และประเมินผล ข้อมูลและผลท่ีได้จากการตรวจติดตามและตรวจวัด ผลที่ได้

จากการวเิ คราะหจ์ ะนา่ ไปใช้ประเมนิ
a) ความสอดคล้องของผลิตภัณฑแ์ ละบริการ
b) ระดบั ความพงึ พอใจลูกคา้
c) สมรรถนะและประสทิ ธภิ าพของระบบบริหารคุณภาพ
d) ประสิทธผิ ลของแผนงาน
e) ประสิทธิผลของการด่าเนินการระบุความเสี่ยงและโอกาส
f) สมรรถนะของผ้ใู หบ้ รกิ ารภายนอก
g) ความจา่ เป็นในการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ

หมายเหตุ วธิ ีการวเิ คราะหข์ อ้ มูลรวมถงึ การใช้วธิ ีทางสถติ ิ
9.2 การตรวจติดตามภายใน

9.2.1 องค์กรต้องด่าเนินการตรวจติดตามภายใน ตามช่วงเวลาท่ีวางแผนไว้ เพ่ือให้มีข้อมูลของระบบบริหาร
คณุ ภาพ

a) มีความสอดคล้องต่อ
1) ข้อก่าหนดองคก์ รส่าหรบั ระบบบริหารคุณภาพ
2) ขอ้ กา่ หนดมาตรฐานนานาชาตฉิ บับนี้

b) การปฏบิ ตั แิ ละคงรักษาไว้อย่างมีประสิทธผิ ล
9.2.2 องค์กรตอ้ ง

a) วางแผน, จัดท่า, น่าไปปฏิบัติ และคงรักษาไว้ ตารางการตรวจติดตาม รวมถึงความถี่ วิธีการ
ผู้รับผิดชอบ ข้อก่าหนดในการวางแผน และการรายงาน. ซ่ึงจะพิจารณาจากวัตถุประสงค์คุณภาพ, ความส่าคัญของ
กระบวนการท่ีเกี่ยวข้อง, การเปล่ยี นแปลงทส่ี ง่ ผลต่อองคก์ ร และผลการตรวจตดิ ตามครั้งท่ผี ่านมา

b) กา่ หนดเกณฑก์ ารตรวจติดตามและขอบเขตในแต่ละการตรวจตดิ ตาม
c) การเลือกผู้ตรวจติดตามและการตรวจติดตาม ต้องให้มั่นใจว่าตรงตามวัตถุประสงค์และมีความเป็น
กลางในขณะตรวจตดิ ตาม
d) ทา่ ให้มน่ั ใจวา่ ผลการตรวจติดตามได้ถกู รายงานไปยงั ผบู้ ริหารหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
e) ดา่ เนนิ การแก้ไขและปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขโดยมใิ ห้ล่าช้า
f) จดั เกบ็ เอกสารข้อมูลการตรวจติดตามไว้เปน็ หลักฐาน เพือ่ แสดงการด่าเนนิ การตรวจตดิ ตามและ แสดง
ถึงผลการตรวจติดตาม
หมายเหตุ ให้ดูแนวทางใน ISO 19011
9.3 การทบทวนโดยฝา่ ยบริหาร
9.3.1 ทว่ั ไป
ผู้บริหารสูงสุดต้องท่าการทบทวนระบบบริหารคุณภาพขององค์กร ตามช่วงเวลาท่ีวางแผนไว้ เพ่ือให้ม่ันใจว่ามี
ความเหมาะสมอย่างต่อเนือ่ ง, มคี วามพอเพียง, มีประสทิ ธผิ ล, และมีความสอดคลอ้ งกบั ทศิ ทางกลยทุ ธข์ ององค์กร

หน้า 78 / 88

9.3.2 ปัจจัยนาเขา้ การทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
การทบทวนโดยฝ่ายบริหาร ต้องได้รับการวางแผนและดา่ เนนิ การ โดยคา่ นึงถงึ
a) สถานะของการดา่ เนินการจากการทบทวนในครง้ั ทผ่ี า่ นมา
b) ประเด็นการเปล่ยี นแปลงภายในและภายนอกท่เี กีย่ วข้องกับระบบบรหิ ารคุณภาพ
c) ข้อมูลสมรรถนะและประสทิ ธผิ ลระบบบรหิ ารคุณภาพ รวมถึงแนวโน้มข้อมูลจาก
1) ความพงึ พอใจของลกู คา้ และ ข้อมูลตอบกลบั จาก ผ้มู ีส่วนไดส้ ว่ นเสยี ทีเ่ กยี่ วข้อง
2) ขอบเขตท่ี ได้ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ที่ด้านคุณภาพ
3) สมรรถนะของกระบวนการ และ ความสอดคลอ้ งของผลิตภัณฑ์และบริการ
4) ความไม่สอดคลอ้ งตามข้อกา่ หนด และ การปฏบิ ัติการแกไ้ ข
5) ผลจากการเฝ้าตดิ ตามและตรวจวัด
6) ผลการตรวจตดิ ตาม
7) สมรรถนะของของผใู้ หบ้ ริการภายนอก
d) ความเพียงพอของทรัพยากร
e) ประสิทธิผลการด่าเนนิ การเพอื่ ระบคุ วามเสี่ยงและโอกาส (ดูขอ้ 6.1)
f) ข้อเสนอแนะในการปรบั ปรงุ

9.3.3 ปัจจยั นาออกการทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
ผลจากการทบทวนโดยฝ่ายบริหารต้องรวมถงึ การตดั สนิ ใจและการด่าเนนิ การเกี่ยวกับ
a) โอกาสในการปรับปรงุ
b) ความจ่าเป็นในการปรับเปล่ียนระบบบริหารคุณภาพ
c) ทรพั ยากรทจี่ ่าเป็น
องค์กรตอ้ งคงไวซ้ ่ึงเอกสารข้อมูลที่แสดงถงึ หลักฐานของผลลพั ธจ์ ากการทบทวนฝ่ายบริหาร

10 การปรับปรุง
10.1 ท่ัวไป
องค์กรต้องพิจารณาและเลือกโอกาสในการปรับปรุง และด่าเนินกิจกรรมท่ีจ่าเป็นเพ่ือให้เป็นไปตาม
ขอ้ ก่าหนดลกู คา้ และยกระดบั ความพึงพอใจลูกค้า ซ่ึงประกอบด้วย
a) การปรับปรงุ ผลติ ภณั ฑ์ และการบริการ เพอื่ ให้สอดคล้องกับความตอ้ งการท่ีจะเกดิ ข้ึนในอนาคตและ
ความคาดหวงั
b) การแกไ้ ข ปอ้ งกนั หรอื ลด ผลกระทบท่ีไม่พึงประสงค์
c) การปรับปรงุ สมรรถนะและประสิทธผิ ล ของระบบบริหารคณุ ภาพ

หมายเหตุ การปรบั ปรุงอาจรวมถึง การแกไ้ ข, การปฏบิ ัติการแก้ไข, การปรับปรงุ อย่างต่อเนื่อง, การเปลย่ี นแปลง,
นวตั กรรมและ การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่
10.2 ส่ิงทไี่ ม่เป็นไปตามข้อกาหนดและการปฏิบตั กิ ารแกไ้ ข

10.2.1 เมื่อพบส่ิงท่ไี ม่เป็นไปตามขอ้ ก่าหนด รวมถึงทเ่ี กิดจากขอ้ ร้องเรยี น องคก์ รจะต้อง:
a) ตอบสนองตอ่ ส่งิ ทไ่ี มเ่ ปน็ ไปตามข้อก่าหนด ตามความเหมาะสมดงั นี้

หน้า 79 / 88

1) ท่าการควบคมุ และแกไ้ ข,
2) ดา่ เนินการจัดการกบั ผลทต่ี ามมา
b) ประเมินความจ่าเป็นในการปฏิบัติการส่าหรับก่าจัดสาเหตุของส่ิงท่ีไม่เป็นไปตามข้อก่าหนด เพ่ือ
ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้เกดิ ขนึ้ ซ่า้ หรือ เกิดขึน้ ในบริเวณอนื่ ๆ โดย
1) ทบทวนและวเิ คราะหส์ ิง่ ทไ่ี ม่เปน็ ไปตามข้อก่าหนดที่พบ
2) พจิ ารณาสาเหตขุ องสิง่ ท่ไี ม่เปน็ ไปตามขอ้ กา่ หนดทพี่ บ
3) พิจารณาส่ิงที่ไมเ่ ปน็ ไปตามขอ้ ก่าหนดทีใ่ กลเ้ คียงกัน, หรอื มโี อกาสเกดิ ขึน้
c) ดา่ เนินการปฏิบตั กิ ารตามความจ่าเป็น
d) ทบทวนประสทิ ธผิ ลของการปฏิบตั กิ ารแกไ้ ข
e) ปรบั ปรงุ รายการความเสี่ยงและโอกาสในช่วงการวางแผน ตามความเหมาะสม
f) ปรับเปล่ียนระบบบริหารคุณภาพ ตามความเหมาะสม การปฏิบัติการแก้ไขจะต้องเหมาะกับ
ผลกระทบของส่ิงที่ไม่เป็นไปตามข้อกา่ หนดท่ีพบ
10.2.2 องค์กรต้องจดั ท่าเอกสารข้อมูลเพื่อแสดงหลักฐานของ
a) สภาพของสง่ิ ท่ีไมเ่ ป็นไปตามข้อกา่ หนดและการปฏิบัติการท่เี ก่ียวข้อง
b) ผลการปฏบิ ตั ิการแก้ไขใดๆ
10.3 การปรบั ปรุงอย่างต่อเนอ่ื ง
องค์กรต้องด่าเนินการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอย่างเหมาะสม, เพียงพอ, และมีประสิทธิผลต่อระบบบริหาร
คุณภาพองค์กรจะต้องพิจารณาผลลัพธ์จากการวิเคราะห์และการประเมิน, และผลจากการทบทวนโดยฝ่ายบริหาร,
เพือ่ พจิ ารณาความจา่ เป็นหรือโอกาส ทใี่ ชร้ ะบุเป็นสว่ นหน่งึ ของการปรับปรงุ อย่างตอ่ เน่ือง

หน้า 80 / 88

ภาคผนวก ข.
CheckList คาถามการประเมนิ เบ้ืองตน้ มาตรฐาน ISO 9001:2015

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS ส่งิ ทีพ่ บ / หลักฐาน

4. บริบทขององคก์ ร (ทกุ หนว่ ยงาน) หน้า 81 / 88

4.1 ความเขา้ ใจองค์กร และบรบิ ทขององค์กร

องค์กรมีการพิจารณาเรื่องภายใน และภายนอกองค์กร ท่ี

เก่ียวข้องกับเป้าหมายและทิศทางกลยุทธ์ขององค์กร ที่มีผล

ต่อการบรรลุเป้าหมายของระบบการจัดการคุณภาพไว้

อย่างไร

4.2 ความเข้าใจความต้องการ และความคาดหวังของผู้มี

สว่ นรว่ ม

ผู้มีส่วนร่วมขององค์กร และมีผลกระทบต่อการบริการ มี

หน่วยงานใดบา้ ง และมสี ว่ นรว่ มในดา้ นใดบา้ ง

4.3 การพจิ ารณาขอบเขตของระบบการจัดการคุณภาพ

องค์กรมีการพิจารณาขอบเขตของระบบการจัดการคุณภาพ

อยา่ งไร

4.4 ระบบการจดั การคณุ ภาพและกระบวนการ

องค์กรได้พิจารณาองค์ประกอบใดบ้าง ในการจัดท่าระบบ

การจดั การคณุ ภาพและกระบวนการ

5. ความเปน็ ผนู้ า (ผู้บริหาร)

5.1 ความเป็นผู้นาและความมุ่งมน่ั

5.1.2 การให้ความสาคญั กับลกู คา้

ผบู้ ริหารระดับสงู ให้ความส่าคัญกบั ลกู คา้ ในด้านใดบา้ ง

5.2 นโยบาย

5.2.1 การกาหนดนโยบายคุณภาพ

ผบู้ ริหารระดับสูงมกี ารก่าหนดนโยบายคุณภาพไวอ้ ยา่ งไร

5.2.2 การสื่อสารนโยบายคณุ ภาพ
ผู้บริหารระดับสูงได้สื่อสารนโยบายคุณภาพให้พนักงานและผู้
มีส่วนรว่ มผ่านช่องทางใดบ้าง
5.3 บทบาท หนา้ ท่ี และอานาจ

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS สิ่งที่พบ / หลกั ฐาน

ผู้บริหารระดับสูงได้มอบหมายหน้าที่ และอ่านาจให้ผู้ใด หน้า 82 / 88

รบั ผดิ ชอบในระบบการจัดการคณุ ภาพ

6. การวางแผน (ทกุ หนว่ ยงาน)

6.1 การระบุความเสยี่ งและโอกาส

6.1.1 การวางแผนระบบการจัดการคณุ ภาพ

แผนกมีการวางแผนในระบบการจัดการคุณภาพ โดย

พจิ ารณาถึงความเส่ียงของแผนกในด้านใดบา้ ง

6.1.2 องคก์ รต้องวางแผนระบคุ วามเส่ยี งและโอกาส

แผนกมีการระบุความเสี่ยงและโอกาสในเร่ืองใดบ้าง และมี

แนวทางแกไ้ ขเพือ่ หลีกเลย่ี งความเส่ียงนน้ั อยา่ งไร

6.2 วัตถปุ ระสงค์คุณภาพและแผนบรรลุวตั ถุประสงค์

6.2.1 องคก์ รตอ้ งกาหนดวตั ถุประสงคค์ ณุ ภาพ

แผนกมีการก่าหนดวตั ถปุ ระสงค์คณุ ภาพไวอ้ ย่างไร

6.2.2 การวางแผนเพื่อบรรลุวตั ถปุ ระสงค์คณุ ภาพ

แผนกมีการวางแผนเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์คุณภาพไว้อย่างไร

ขอดูแผนการท่างาน (Working Plan)

6.3 การวางแผนในการเปล่ยี นแปลง

เม่ือเกิดการเปลี่ยนแปลง แผนกมีการวางแผนการ

เปลยี่ นแปลงนั้นอย่างไร

7. การสนับสนนุ (HR, BSC, Crewing)

7.1 ทรัพยากร

7.1.2 บคุ ลากร

แผนกมีการพิจารณาด้านการจัดสรรบุคลากร เพื่อให้เกิด

ประสทิ ธิผลอย่างไร

7.1.3 โครงสร้างพน้ื ฐาน (MIS, ฝา่ ยอาคาร)
แผนกมกี ารพิจารณา จัดสรรและบ่ารุงรักษาโครงสรา้ ง
พน้ื ฐานทีจ่ ่าเป็นต่อการด่าเนินการในกระบวนการท่างาน
อย่างไร เช่น คอมพิวเตอร์, อาคารสา่ นกั งานเปน็ ต้น
7.1.4 สภาพแวดล้อมสาหรับดาเนินการในกระบวนการ
แผนกมีการพจิ ารณาจดั สรรและรกั ษาสภาพแวดลอ้ มทจี่ ่าเป็น
ตอ่ การด่าเนินการในกระบวนการท่างานอย่างไร

7.1.5 ทรพั ยากรในการเฝ้าตรวจและการวดั (Technical)

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS สิ่งที่พบ / หลกั ฐาน

7.1.5.2 การสอบกลับเชงิ การวดั หน้า 83 / 88

แผนกมีการตรวจวัดทใ่ี ช้เป็นหลกั ฐานตอ่ การให้บรกิ ารอย่างไร

เชน่ ตรวจ Certificate ของอุปกรณท์ างเรอื เป็นตน้

7.1.6 องค์ความรู้ขององคก์ ร (HR, BSC, Crewing)
แผนกมีการพิจารณาองค์ความรู้ ท่ีจ่าเป็นต่อการด่าเนินการ
ในกระบวนการอยา่ งไร เชน่ Training Need เป็นตน้

7.2 ความสามารถ (HR, BSC, Crewing)
แผนกมีการพิจารณาความสามารถท่ีจ่าเป็นของบุคลากรใน
งานที่องค์กรควบคุม และมีผลต่อควา มสามารถและ
ประสิทธิผลของระบบการจัดการคุณภาพอย่างไร เช่น การ
สอนงาน การให้การอบรม เป็นตน้
7.3 ความตระหนัก (ทุกหน่วยงาน)
พนักงานภายในแผนกมีความตระหนักถึงนโยบายคุณภาพ,
วัตถุประสงค์คุณภาพ, การมีส่วนร่วมให้เกิดประสิทธิผลต่อ
ระบบการจัดการคุณภาพ และผลจากความไม่สอดคล้องต่อ
ขอ้ กา่ หนดระบบการจัดการคุณภาพอย่างไร
7.4 การสื่อสาร (ทุกหนว่ ยงาน)
แผนกมีการสื่อสารท้ังภายในและภายนอกเก่ียวกับระบบการ
จัดการคุณภาพอย่างไร เช่น ใครสื่อสาร เวลาในการสื่อสาร
เป็นตน้
7.5 เอกสารข้อมูล (ทุกหน่วยงาน)
7.5.2 การจัดทาและปรับใหท้ นั สมัย
แผนกมีวธิ กี ารจดั ท่าและปรับเอกสารขอ้ มูลใหท้ ันสมยั อยา่ งไร

7.5.3 การควบคมุ เอกสารขอ้ มูล
7.5.3.1 เอกสารข้อมูลที่ตอ้ งการใชใ้ นระบบ
เอกสารข้อมูลที่ต้องการใช้ในระบบการจัดการคุณภาพ ต้อง
ได้รบั การควบคมุ อย่างไร
7.5.3.2 การควบคุมเอกสารขอ้ มลู
แผนกมวี ธิ ีการควบคุมเอกสารตา่ ง ๆ อยา่ งไร
8. การดาเนนิ งาน (ทุกหน่วยงาน)
8.1 การวางแผนการดาเนนิ งานและการควบคุม

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS สิ่งทพ่ี บ / หลกั ฐาน

แผนกมีการวางแผนกระบวนการ น่าไปปฏิบัติและควบคุม

กระบวนการท่จี า่ เป็น อย่างไร

8.2 ข้อกาหนดของผลติ ภัณฑ์และบริการ (Commercial)
8.2.1 การส่อื สารกับลูกคา้
แผนกมีวิธีการส่ือสารกับลูกค้า ในด้านการให้บริการอย่างไร
เช่น สัญญา ขอ้ ก่าหนดของลกู ค้า เป็นต้น
8.2.2 การพิจารณาขอ้ กาหนดของผลติ ภณั ฑแ์ ละบริการ
(HSSEQ)
แผนกมีการพิจารณาข้อกา่ หนดของการใหบ้ ริการเพื่อเสนอ
ลูกคา้ อยา่ งไร เชน่ กฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกบั การให้บริการของ
องค์กร เปน็ ตน้

8.2.3 การทบทวนข้อกาหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ
(ทุกหน่วยงาน)
8.2.3.1 องค์กรต้องม่ันใจว่าสามารถบรรลุข้อกาหนดของ
การที่ส่งมอบลกู ค้า
แผนกมีการทบทวนข้อก่าหนดของลูกค้า ด้านการให้บริการ
อย่างไร เช่น ระยะเวลาในการทบทวนข้อก่าหนดในสัญญา
เปน็ ตน้

8.2.3.2 องคก์ รต้องเก็บหลกั ฐานที่แสดงของบริการ
เมื่อทา่ การทบทวนข้อกา่ หนดของการให้บริการลูกค้า แผนกมี
หลักฐานแสดงผลการทบทวนแสดงไว้ในสว่ นใด เช่น รายงาน
ผลการตรวจเรอื เป็นต้น

8.2.4 การเปล่ียนแปลงข้อกาหนดของผลิตภัณฑแ์ ละ
บรกิ าร

หน้า 84 / 88

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS สิ่งทีพ่ บ / หลกั ฐาน

แผนกมีความมั่นใจได้อย่างไรว่า ข้อมูลที่เก่ียวข้องได้รับการ

แก้ไข และผู้เกี่ยวข้องรับทราบ เมื่อมีการเปล่ียนแปลง

ข้อก่าหนดของการให้บริการ

8.4 การควบคุมและกระบวนการ ผลิตภัณฑ์และบริการ

จากภายนอก (Procurement)

8.4.2 รูปแบบและระดบั ในการควบคมุ จากภายนอก

แผนกมีความม่ันใจได้อย่างไรว่า การจัดหากระบวนการ

ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ แ ล ะ บ ริ ก า ร จ า ก ภ า ย น อ ก ไ ม่ ก ร ะ ท บ ต่ อ

ความสามารถในการให้บริการท่ีเป็นไปตามข้อก่าหนดของ

ลกู ค้า

8.4.3 ขอ้ มูลสาหรับผู้จัดหาภายนอก

แ ผ น ก มี ก า ร จั ด ก า ร กั บ ข้ อ มู ล ส่ า ห รั บ ผู้ จั ด ห า ภ า ย น อ ก

(External provider) อยา่ งไร เช่น การส่ือสารด้านผลิตภัณฑ์

การให้บริการ, วิธีการ, ความสามารถของผู้จัดการภายนอก

เปน็ ต้น

8.5 การผลิตและการบรกิ าร (ทกุ หน่วยงาน)

8.5.1 การควบคมุ การผลิตและบรกิ าร

แผนกมีวิธีการควบคุมการให้บริการอย่างไร เช่น ตรวจวัดใน

ขั้นตอนท่ีเหมาะสม เพ่ือทวนสอบว่ากระบวนการและผลของ

กระบวนการเป็นไปตามเกณฑ์ทย่ี อมรับ เปน็ ต้น

8.5.2 การชบ้ี ่งและสอบกลับ

แผนกมีการควบคุมการบ่งชี้ผลของกระบวนการให้บริการ

อยา่ งไร

8.5.3 ทรพั ย์สนิ ของลูกค้าและผจู้ ัดหาภายนอก

แผนกมีวิธีการดูแลทรัพย์สินของลูกค้าและผู้จัดหาภายนอก

อย่างไร

8.5.4 การรกั ษาสภาพ

แผนกมีความมน่ั ใจได้อย่างไรว่าผลของกระบวนการได้รับการ

รั ก ษ า ส ภ า พ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ใ ห้ บ ริ ก า ร เ พ่ื อ ใ ห้ เ ป็ น ไ ป ต า ม

ข้อก่าหนด เช่น การควบคุมการปนป้ือนของสินค้า , การ

ขนสง่ สนิ คา้ เปน็ ต้น

8.5.5 กิจกรรมหลังการสง่ มอบ

หน้า 85 / 88

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS สิ่งที่พบ / หลักฐาน

แผนกมีการพิจารณาข้อก่าหนด หรอื ความเส่ยี งท่ีเก่ยี วข้องกับ หน้า 86 / 88

การให้บริการในกิจกรรมหลังส่งมอบอย่างไร เช่น สัญญาการ

ใหบ้ รกิ าร เปน็ ตน้

8.5.6 การควบคุมการปลีย่ นแปลง

แผนกมีการทบทวนและควบคุมการเปล่ียนแปลงจากการ

ใหบ้ ริการ เพ่ือใหม้ ่นั ใจว่ายงั คงเปน็ ไปตามขอ้ ก่าหนดอยา่ งไร

8.6 การยอมรับผลติ ภัณฑ์ละบรกิ าร

แผนกมีวิธกี ารในการยอมรับผลติ ภัณฑแ์ ละการบรกิ ารอย่างไร

เช่น ทวนสอบเอกสารการตรวจวัดอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเรือ

ตาม Certificate วา่ เปน็ ไปตามขอ้ ก่าหนด เป็นตน้

8.7 การควบคุมผลทไี่ ม่ไดเ้ ปน็ ไปตามขอ้ กาหนด

8.7.1 องค์กรต้องมั่นใจว่าส่ิงท่ีไม่สอดคล้องกับข้อกาหนด

ได้รับการช้ีบ่ง และควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกใช้หรือส่ง

มอบโดยไมต่ ัง้ ใจ

แผนกมีการควบคุมผลหรือลักษณะของความไม่สอดคล้องกับ

ข้อก่าหนดอย่างไร เช่น การแก้ไข, คัดแยก. ส่งคืน หรือชะลอ

การส่งมอบสนิ คา้ หรือการใหบ้ ริการเปน็ ต้น

8.7.2 องคก์ รตอ้ งเก็บเอกสารข้อมูล

หลังการแก้ไขความไมส่ อดคล้องกบั ข้อก่าหนด แผนกมีวิธีการ

เก็บเอกสารข้อมูลหรือหลักฐานอย่างไร เช่น แยกลักษณะ

ความไม่เป็นไปตามข้อก่าหนด , ด่าเนินการกับผลท่ีไม่เป็นไป

ตามขอ้ ก่าหนด , การยอมรบั อยา่ งมีเง่อื นไข เปน็ ต้น

9.การประเมนิ ความสามารถ (ทุกหน่วยงาน)

9.1 การเฝ้าตรวจ , การวดั , วเิ คราะห์ และประเมนิ ผล

แ ผ น ก มี ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม ส า ม า ร ถ ท า ง คุ ณ ภ า พ แ ล ะ

ประสิทธิผลของระบบการจัดการคุณภาพอย่างไร เช่น ตรวจ

ติดตาม วิเคราะห์ และประเมินตามความเหมาะสมเพ่ือให้

มน่ั ใจกับผลที่ได้ เปน็ ต้น

9.1.2 ความพงึ พอใจลกู คา้ (Commercial)

แผนกมีการส่ารวจความพึงพอใจอย่างไร เช่น การส่ารวจ

ความเหน็ , การเข้าพบลกู ค้า, การสมนาคณุ ลกู ค้า เปน็ ตน้

9.1.3 การวิเคราะหแ์ ละประเมนิ ผล

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS สิ่งท่ีพบ / หลกั ฐาน

เมื่อท่าการส่ารวจความพึงพอใจของลูกค้า แผนกมีการ

วิเคราะหแ์ ละประเมนิ ผลความพงึ พอใจของลูกค้าอย่างไร เชน่

ประเมินตามความสอดคล้องต่อข้อก่าหนดของการบริการ ,

ระดับความพึงพอใจของลกู ค้า เปน็ ต้น

9.2 การตรวจประเมนิ ภายใน (ทุกหน่วยงาน)

9.2.1 ตรวจประเมนิ ภายในกาหนดเวลา

แผนกมีก่าหนดเวลาการตรวจประเมินภายใน (Internal

Audit) ไว้อย่างไร

9.2.2 วางแผนการตรวจประเมิน

แผนกมีการวางแผนการตรวจประเมินภายใน (Internal

Audit) อยา่ งไร

9.3 การทบทวนโดยฝ่ายบริหาร (HSSEQ))

9.3.2 ขอ้ มลู สาหรับการทบทวน (HSSEQ)

ก า ร ท บ ท ว น โ ด ย ฝ่ า ย บ ริ ห า ร มี ก า ร ก่ า ห น ด แ ผ น แ ล ะ ก า ร

ด่าเนินการอย่างไร ขอดูวาระการประชุม

9.3.3 ผลของการทบทวน (HSSEQ)
จากการทบทวนโดยฝ่ายบริหาร ผลของการทบทวนเป็น
อยา่ งไร

10. การปรบั ปรุง (ทกุ หน่วยงาน)
10.2 ความไม่เปน็ ไปตามข้อกาหนดและการแกไ้ ข
10.2.1 เมื่อพบความไมเ่ ปน็ ไปตามข้อกาหนด
เม่ือพบความไม่เป็นไปตามข้อก่าหนด รวมถึงพบข้อร้องเรียน
แผนกมีการแก้ไขอย่างไร เช่น ควบคุมและแก้ไขเบื้องต้น,
พิจารณาสาเหตขุ องความไม่เปน็ ไปตามข้อก่าหนด เป็นตน้

10.2.2 องค์กรต้องเกบ็ หลักฐานการแกไ้ ข
เมื่อท่าการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว มีการจัดเก็บหลักฐานการ
แก้ไขอยา่ งไร

10.3 การปรับปรุงอย่างต่อเนอ่ื ง

หน้า 87 / 88

ISO 9001: 2015 Clause C NC OBS สงิ่ ท่ีพบ / หลักฐาน

จากการแกไ้ ขในส่วนของความไมเ่ ป็นไปตามข้อก่าหนด แผนก

มีแนวทางอย่างไรในการปรับปรุงที่เหมาะสม เพ่ือให้เกิด

ประสิทธิผลต่อระบบการจัดการคุณภาพอย่างต่อเน่ือง เช่น

ท่าการพิจารณาผลของการวิเคราะห์ และประเมินผล รวมท้ัง

ผลของการทบทวนโดยฝ่ายบริการ เพื่อพิจารณาความจ่าเปน็

ซงึ่ เปน็ สว่ นหนึ่งของการปรบั ปรุงอย่างต่อเน่อื ง เปน็ ตน้

หมายเหตุ : C (Conformity) : เปน็ ไปตามข้อกา่ หนด
NC (Nonconformity) : ไม่เป็นไปตามข้อกา่ หนด
OBS (Observation) : ขอ้ สังเกตที่พบ แต่ไม่ได้ผดิ ตามข้อก่าหนด

หน้า 88 / 88


Click to View FlipBook Version