The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

0. โครงการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก บทที่ 1-3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by santithamtc, 2024-01-22 08:59:13

0. โครงการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก บทที่ 1-3

0. โครงการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก บทที่ 1-3

บทที่1 บทน ำ ชื่อโครงกำร การเล้ียงกุง้กา้มแดงในกระชงับก ผู้ด ำเนินงำน 1. นายธานัท วัฒวรกิต 2. นายอภิรักษ์ พัฒโนทัย ที่ปรึกษำโครงกำร นายสันติธรรม เทพฉิม สถำนที่ด ำเนินงำน วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ระยะเวลำด ำเนินกำร 17 ธ.ค.65-14 ม.ค. 66 1.1 หลกักำรและเหตุผล กุ้งก้ามแดงมีการเพาะเล้ียงเพื่อเป็นสัตวน์ ้า สวยงามและเป็นอาหารสามารถน้า ไปปรุง เป็ นอาหารได้หลากหลาย และมักเป็ นอาหารราคาแพงในภัตตาคาร โดยเฉพาะเครย์ฟิ ชชนิด Cherax quadricarinatus มีการเพาะพันธุ์และเล้ียงเป็นการเกษตรกรรมในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ โดยในปี 2558ผลผลิตกุ้งเครย์ฟิ ชของโลกมีปริมาณ 787,371 ตัน มูลค่า 3,646.9ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งในช่วงปี 2553 – 2558ผลผลิตกุ้งเครยฟ์ิชมีแนวโน้มสูงข้ึน อัตราการเติบโต 5.42 เปอร์เซ็นต์ประเทศจีนเป็ นผู้ผลิตและส่งออกกุ้งเครย์ฟิ ชรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2558 จีนสามารถผลิตกุ้งเครย์ฟิ ชได้723,207 ตัน (91.85%) และเป็ นกุ้งเครย์ฟิ ชสกุล Procambarus clarkii ท้ังหมด รองลงมาเป็นสหรัฐอเมริกาสามารถผลิตกุ้งเครย์ฟิช 63,690 ตัน (8.09%) และเป็ นเครย์ฟิ ชสกุล Procambarus clarkii เช่นเดียวกัน ส่วนที่เหลือเป็ นผลผลิตจาก ประเทศอื่นๆ (0.06%) ส าหรับประเทศไทยยังไม่มีรายงานข้อมูลการผลิตจากข้อมูลของกระทรวง เกษตรจีน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกกุ้งเครย์ฟิ ชของจีนในช่วง 4 เดือน แรกของปี 2560 (ม.ค. – เม.ย.) เพิ่มข้ึนร้อยละ 68 และ 60.4 ตามลา้ดบักุง้เครยฟ์ิชกลายเป็นสัตวน์ ้า จืดจากการเพาะเล้ียงที่ ส าคัญในภาคกลางของจีน เช่น มลฑลหูเป่ย ที่หนัมาเพาะเล้ียงกุ้งเครย์ฟิ ช แทนปลาวงศ์ปลาตะเพียน


2 (Carp) ในช่วงไม่กี่ปี มานี จากแนวโน้มดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามีกุ้งเครย์ฟิ ชของจีนวางจ าหน่ายใน ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านคา้ปลีกทวั่สหภาพยุโรป ปัจจุบนัมีการเพาะเล้ียงกนัอยา่งแพร่หลายเนื่องจาก เป็นกุ้งที่มีเน้ือและรสชาติคล้ายกับกุ้ง ล็อบสเตอร์น้ าจืด อีกท้ังยงัเป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อสภาพ ภูมิอากาศเล้ียงง่ายและเจริญเติบโตไดด้ีขนาดโตเต็มวยั 8.5 - 12 นิ้ว ล้าตัวสีฟ้าอมเขียวเพศผู้จะมีสี แดงตรงปลายก้ามด้านนอก จึงเป็นที่มาของ “กุ้งก้ามแดง” ท้ังน้ีสีและขนาดของกุ้งข้ึนอยู่กับ สภาพแวดลอ้มและอาหาร หากเล้ียงในบ่อดินกุง้จะมีสีเขียวปนน้า ตาลและมีขนาดใหญ่กวา่เล้ียงในตู้ (กรมประมง, 2560) จึงมีเกษตรกรหันมาลงทุนเล้ียงกุ้งก้ามแดงเพิ่มมากข้ึน และสามารถยึดเป็ น ธุรกิจที่หาเล้ียงชีพได้อยา่งยงั่ ยืน 1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพื่อศึกษาการเจริญเติบโต และพฤติกรรมของกุ้งก้ามแดง 1.2.2 เพื่อหาอตัราอาหารแลกเน้ือ (FCR)ของกุ้งก้ามแดง 1.2.3 เพื่อทราบ และเข้าใจหลักการและเทคนิควิธีการเล้ียงกุง้กา้มแดง 1.2.4 เพื่อวางแผนการเล้ียงกุง้กา้มแดงและจดัการผลผลิต 1.3 เป้ำหมำย 1.3.1 ด้านปริมาณ 1.3.1.1 ใชต้น้ทุนในการสร้างบ่อเล้ียงกุง้กา้มแดงต ่า 1.3.1.2 สามารถเล้ียงกุง้กา้มแดงใหไ้ดอ้ตัรารอดเกิน 70% 1.3.2 ด้านคุณภาพ 1.3.2.1 กุง้กา้มแดงที่เล้ียง สามารถเจริญเติบโตได้ดี (FCR ต ่า) 1.3.2.2 เพิ่มพูนองคค์วามรู้เกี่ยวกบัการวางแผนการเล้ียง และจดัการผลผลิต 1.4 กำรด ำเนินกำร 1.4.1 วิธีด าเนินการ 1.4.1.1 การเตรียมความพร้อม 1.4.1.2 ก าหนดและประชุมสมาชิกเพื่อระดมความคิด 1.4.1.3 เขียนโครงการและเสนออนุมัติโครงการ 1.4.1.4 การด าเนินงานโครงการ 1.4.1.5 การน าเสนอผลงาน 1.4.1.6 การประเมินผลโครงการ


3 1.4.2 แผนการด าเนินงาน ข้นัตอนการดา เนินงาน ปี 2565 ปี 2566 ธ.ค. ม.ค. 1.4.2.1การเตรียมความพร้อม 1.4.2.2 ก าหนดและประชุมสมาชิกเพื่อระดมความคิด 1.4.2.3 เขียนโครงการและเสนออนุมัติโครงการ 1.4.2.4 การด าเนินงานโครงการ 1.4.2.5 การน าเสนอผลงาน 1.4.2.6 การประเมินผลโครงการ 1.5 งบประมำณ (ค่ำใช้จ่ำยเกยี่วกบัวัสดุครุภัณฑ์และค่ำใช้จ่ำย) วัสดุครุภัณฑ์รำคำต่อชิ้น จ ำนวน รำคำรวม ฟิ วเจอร์บอร์ด 130 1 130 ท่อประปา 30 4 120 ข้อต่อท่อประปา 3 ทาง ฉาก 12 8 96 ข้อต่อท่อประปา 3 ทาง 8 4 32 ท่อน้า เหลือใช้ 0 40 0 ชุดถงักรองน้า 100 1 100 ปั๊มน้า บ่อปลา 250 1 250 สายรัด 65 1 65 ลูกพนัธุ์กุง้กา้มแดงขนาด 1.5 นิ้ว 15 28 420 อาหารกุ้ง เบอร์ 3 (1กก.) 150 1 150 รวมค่าใชจ้่ายท้งัสิ้น 1,363 บาท


4 1.6 ผลที่คำดว่ำจะได้รับ 1.6.1 สามารถผลิตกุ้งก้ามแดงได้ตามขนาดที่ตลาดต้องการ 1.6.2 กุ้งก้ามแดงมีอัตรารอดมากกว่า 70 % 1.6.3 สามารถเล้ียงกุง้กา้มแดงและจา หน่ายไดก้า ไร 20 % 1.7 ปัญหำและอุปสรรคที่คำดว่ำจะเกดิขึน้ 1.7.1 สภาพภูมิอากาศที่ฝนตกหนัก 1.7.2 ถ้าขาดการดูแลจะเสี่ยงต่อการอัตราการรอดที่ลดลง 1.7.3 การแข็งแรง ทดทาน ของกระชังบก 1.8 กำรติดตำมประเมินผล 1.8.1 ส ารวจอัตรารอดของลูกพันธุ์กุ้งก้ามแดงที่ปล่อยลงสู่กระชังบก 1.8.2 บนัทึก ชงั่วดัปริมาณอาหารที่ใช้และน้า หนกักุง้ที่เพิ่มข้ึน 1.8.3 รายงานผลและสรุปผลโครงการ


บทที่2 ทฤษฎีและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการด าเนินโครงการการเล้ียงกุง้กา้มแดงผู้พัฒนาได้ท าการศึกษา ค้นคว้าทฤษฎี เอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบกให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ช่วยลดต้นทุน ลดพ้ืนที่ในการเล้ียง ใช้วัสดุ-อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเล้ียงที่หาง่าย ตลอดจนส่งเสริ มให้ กุ้งก้ามแดงเจริญเติบโตได้ดี 2.1แนวคิดในการด าเนินงาน 2.2 รูปแบบการด าเนินงานโครงการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้โครงการเป็ นฐาน 2.3 แผนผังจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้โครงการเป็ นฐาน 2.4 แหล่งการเรียนรู้บูรณาการสู่งานอาชีพ 2.5 จุดอ่อน 2.6 จุดแข็ง 2.7 โอกาส 2.8 อุปสรรค 2.9 ทฤษฎีหรือเน้ือหา หรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.9.1 ลักษณะทางอนุกรมวิธาน 2.9.2 ลักษณะกุ้งก้ามแดง 2.9.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง


6 2.1 แนวคิดในกำรด ำเนินงำน การด าเนินโครงการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบกกลุ่มผู้ด าเนินงานได้รู ปแบบการ ด าเนินงานโครงการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้โครงการเป็ นฐาน (Project Based Learning : PBL) 2.2 รูปแบบกำรด ำเนินงำนโครงกำรพฒันำผู้เรียนโดยใช้โครงกำรเป็นฐำน การดา เนินโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก โดยใช้รูปแบบของการด าเนิน โครงการพัฒนาผู้เรียน และน ารายวิชาที่เรียนมาบูรณาการโดยหลักการใช้โครงการเป็ นฐาน ซึ่งการ ดา เนินโครงการการเล้ียงกุง้กา้มแดงในกระชงับก มี6 ข้นัตอน ดงัน้ี ภำพที่2.1รูปแบบการด าเนินงานโครงการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้โครงการเป็ นฐาน ข้ันตอนของการดา เนินโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก ตามรูปแบบการใช้ โครงการเป็ นฐาน (Project Based Learning : PBL) มีรายละเอียด ดังน้ี 2.2.1 การเตรียมความพร้อม การเตรี ยมความพร้อมในการด าเนินโครงการ โดยผู้จัดท าโครงการและครูที่ปรึกษา โครงการร่วมกันก าหนดขอบเขตของโครงการที่จะจัดท า ให้สอดคล้องกับความถนัดของสมาชิก ผู้จัดท าโครงการและรายวิชาต่าง ๆ และเตรียมข้อมูลตัวอย่าง เพื่อเป็ นแนวคิดในการท าโครงการ ข้นัตอนที่1การเตรียมความพร้อม ข้นัตอนที่2กา หนดและประชุมสมาชิกเพื่อระดมความคิด ข้นัตอนที่3 เขียนโครงการและเสนออนุมัติโครงการ ข้นัตอนที่4 การด าเนินงานโครงการ ข้นัตอนที่5 การน าเสนอผลงาน ข้นัตอนที่6 การประเมินผลโครงการ


7 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เช่นอินเตอร์เน็ต สร้างข้อตกลงและก าหนดปฏิทินการ ด าเนินโครงการ 2.2.2 การก าหนดและประชุมสมาชิกเพื่อระดมความคิด สมาชิกรวมกลุ่มกันแบ่งหน้าที่ภาระงานที่รับผิดชอบและด าเนินการประชุม ระดมความคิด ร่วมกันเพื่อก าหนดและเลือกหัวข้อโครงการ โดยมีครูที่ปรึกษาคอยให้ค าแนะน าและช่วยเหลือ ซึ่ง สมาชิกในกลุ่มได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันในการเลือกโครงการ โดยการวิเคราะห์บริบท ของสถานศึกษา ชุมชน ท้องถิ่น และปัจจัยมีผลต่อความเป็ นไปได้ของโครงการ โดยการวิเคราะห์ จุดเด่น จุดด้อย โอกาสในการท าผลผลิต อุปสรรค แหล่งตลาด เพื่อคัดเลือกโครงการที่เหมาะสม และมีแนวทางของการพัฒนาโครงการใหม้ีความยงั่ ยืน 2.2.3 การเขียนโครงการและเสนออนุมัติโครงการ ในการด าเนินการเขียนโครงการเป็ นการสร้างแผนที่ความคิด ซึ่ งแสดงถึงแนวความคิด ภาพรวมท้ังหมดของโครงการต้ังแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ สมาชิกร่วมกันวางแผนการ ด าเนินงานโครงการ โดยมีการระบุกิจกรรมในแต่ละข้นัตอนและกา หนดตารางการดา เนินงาน ก าหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม ตลอดจนระยะเวลาในการด าเนินงาน ตามองค์ประกอบที่ ก าหนด และน าเสนอครูที่ปรึกษาเพื่อขอความเห็นชอบและก าหนดแนวทางในการด าเนินงาน โครงการ 2.2.4 การด าเนินงานโครงการ ก าหนดการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรี ยนโดยหลักการใช้โครงการเป็นฐาน (Project Based Learning : PBL)โดยบูรณาการโครงการกับรายวิชาที่เรียน จ านวน 9รายวิชา 2.2.4.1 มีการก าหนดมอบหมายภาระหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการ 2.2.4.2 ประชุมสมาชิกในกลุ่มเพื่อวางแผนการด าเนินโครงการ ท าข้อตกลง การ ส ารวจความต้องการของตลาด ก าหนดแผนการปฏิบัติงาน สถานที่ด าเนินการ การวางแผนการผลิต แต่ละข้นั ตอนการจัดจ าหน่าย การประชาสัมพันธ์ 2.2.4.3 ดา เนินโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก ต้งัแต่เริ่มวางแผนการผลิต การเตรียมความพร้อม การดา เนินโครงการจนกระทงั่การจา หน่าย การจดัทา บัญชีรายรับ รายจ่าย และการสรุปผลการด าเนินโครงการ ซึ่ งก าหนดการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยหลักการใช้ โครงการเป็ นฐาน (Project Based Learning : PBL) โดยบูรณาการโครงการกับรายวิชาที่เรียนจ านวน 9 รายวิชา การน าหลักการบริหารระบบคุณภาพตามหลักของ PDCA และการพัฒนาสมาชิกด้าน


8 ความรู้และประสบการณ์ในวิชาชีพ เรียนรู้โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับปราชญ์อาชีพ การบูรณาการกับรายวิชาที่เรียน 2.2.4.3.1 รายวิชาโครงงาน การใชห้ลกัภาษาในการเขียนโครงการ เน้ือหาการ เขียนโครงการ 2.2.4.3.2 รายวิชาภาษาไทย การใช้หลักภาษาในการเขียนโครงการ เน้ือหาการ เขียนโครงการ การวางแผนการผลิต การด าเนินโครงการ การบันทึกและสรุปผล 2.2.4.3.3 รายวิชาคณิตศาสตร์ การค านวณหาต้นทุนการผลิต การท าบัญชี รายรับ-รายจ่าย ค านวณก าไร-ขาดทุน ของโครงการ 2.2.4.3.4 รายวิชาคอมพิวเตอร์การสืบค้นเน้ือหาการจัดท าเอกสารและการใช้ โปรแกรมน าเสนอ 2.2.4.3.5 รายวิชาวิชาอังกฤษ เน้ือหาศัพท์เทคนิคในการผลิต 2.2.4.3.6 รายวิชาอนามัยสุขลักษณะในการผลิต และความปลอดภัยในการ ปฏิบัติงาน 2.2.4.4 จ าหน่ายกุ้งก้ามแดง ตามท้องตลาด และการขายออนไลน์ ปิ ดป้ายประกาศ และสรุปบัญชีรายรับ-รายจ่าย 2.2.4.5 สรุปผลการปฏิบัติงานและรายงานผลการด าเนินโครงการ 2.2.5 การน าเสนอผลงาน การน าเสนอผลงานโครงการเป็ นการสรุปและรายงานผลการด าเนินโครงการหลังจากที่ ปฏิบัติการโครงการเสร็จสิ้น โดยการจดัทา รายงานสรุปผลเมื่อสิ้นสุดโครงการ มีการการน าเสนอ ผลงานของโครงการ 2.2.6 การประเมินติดตามผลโครงการ ต้งัแต่เริ่มตน้จนถึงสิ้นสุดโครงการการประเมินความพร้อมก่อนทา โครงการ ความเป็ นไป ได้ของโครงการ ขอค าแนะน าจากครูที่ปรึกษาโครงการ และครูที่ปรึกษา เพื่อให้ค าปรึกษาช่วยเหลือ และน าไป ปรับปรุงพัฒนางานที่ปฏิบตัิใหด้ียงิ่ข้ึน 2.3 แผนผังจัดกระบวนกำรเรียนรู้โดยใช้โครงกำรเป็นฐำน (Project Based Learning: PBL) โครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก มีรูปแบบการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้โครงการเป็น ฐาน ดังน้ี


9 ภำพที่ 2.2แผนผังจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้โครงการเป็ นฐาน (Project Based Learning: PBL) 2.4 แหล่งกำรเรียนรู้บูรณำกำรสู่งำนอำชีพกำรเลยี้งกุ้งก้ำมแดง ภำพที่ 2.3 แหล่งการเรียนรู้บูรณาการสู่งานอาชีพการเล้ียงกุง้กา้มแดง โครงการเล้ียงกุง้ กา้มแดงในกระชงั บก วิชาโครงาน วิชาสถิติและการ วางแผนการ ทดลอง วิชาภาษาไทย วชิาการเพาะเล้ียง สัตวน์ ้า เบ้ืองต้น วิชาโรค ปรสิต และ ศตัรูของสัตวน์ ้า วิชาอาหารและ โภชนาการสัตวน์ ้า วิชาคณิตศาสตร์ เกษตรกรรม วิชาเทโนโลยี สารสนเทศเพื่อการ จัดการวิชาชีพ วิชาอังกฤษ เทคโนโลยีการ ประมง โครงการเล้ียงกุง้กา้มแดงในกระชงับก บุคลากรในสถานศึกษาที่มี องค์ความรู้ แหล่งเรียนรู้ใน สถานศึกษา หน่วยงานราชการ ศูนย์วิทยบริการ ที่เกี่ยวขอ้ง วารสารทางวิชาการ สื่อออนไลน์


10 2.5 จุดอ่อน 2.5.1 ต้องแบ่งเวลาไปดา เนินโครงการเล้ียงกุ้งก้ามแดง เนื่องจากมีงานประจ า ซึ่งมีการ เดินทางไปราชการบ่อยๆ 2.6 จุดแข็ง 2.6.1 วัสดุอุปกรณ์สะดวกต่อการจัดท าโครงการ และโครงการจัดท าภายในวิทยาลัยประมง ติณสูลานนท์ 2.6.2 มีแหล่งเรียนรู้ และบุคลากร สามารถให้ค าปรึกษาได้ 2.7 โอกำส 2.7.1 แหล่งเพาะเล้ียงอยู่ภายในวิทยาลยัประมงติณสูลานนท์สะอาด มีแหล่งน้า ที่เพียงพอ และสามารถป้องกันสัตว์พาหะได้ 2.8 อุปสรรค 2.8.1 อาจจะมีการรบกวนการเล้ียงโดยนกัเรียน-นักศึกษา หรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง 2.8.2 สถานการณ์สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง 2.8.3 อาจเกิดการลักขโมยลูกพันธุ์กุ้งก้ามแดงในกระชังบกได้ 2.9 ทฤษฎีหรือเนื้อหำ หรืองำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.9.1 ลักษณะทางอนุกรมวิธาน ผลการศึกษานุกรมวิธาน ของ กุ้งก้ามแดง หรือ ชื่อสามัญ Red Claw Crayfish และชื่อ วิทยาศาสตร์ Cherax quadricarinatus มีลักษณะทางอนุกรมวิธาน (Von Martens, 1868) ดงัน้ี Kingdom : Animalia Phylum : Arthropoda Subphylum :Crustacea Class :Malacostraca Order : Decapoda Suborder : Pleocyemata Family :Parastacidae Genus : Cherax Species : C. quadricarinatus


11 2.9.2 กุ้งก้ามแดง 2.9.2.1 ลกัษณะทวั่ ไป กุ้งก้ามแดง สายพันธุ์Cherax มีก้ามขนาดใหญ่ เรียบไม่มีหนาม เพศผู้มีแถบสีแดงที่ ปลายก้าม ด้านนอก ร่างกายของกุ้ง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยมีส่วนหัวรวมกับส่วนอก เรียกว่า Cephalothorax มีจ านวนปล้อง 13 ปล้อง และส่วนท้องมีจ านวนปล้อง 6 ปล้อง รยางค์ของล าตัว ประกอบด้วย 2.9.2.1.1 รยางค์ส่ วนหัว มี 5 คู่ คือ หนวด 2 คู่ (Antenna and Antennule) ขากรรไกรล่าง (Mandible) 1คู่ มีลักษณะเป็นฟันบดแข็ง ขากรรไกรบน (Maxilla) 2คู่ ท าหน้าที่ช่วย จับอาหารเข้าปาก 2.9.2.1.2 รยางค์ส่วนอกมี 8คู่คือ รยางค์ที่ใช้ในการกิน (Maxilliped) ขนาดเล็ก 3คู่ ขาเดิน 5คู่ ขาเดินคู่แรกเปลี่ยนเป็นก้ามหนีบ (Cheliped) ใช้จับเหยื่อ 2.9.2.1.3 รยางค์ส่วนท้อง มี 6คู่ คือ ขาว่ายน้า (Pleopod หรือ Swimmeret) 5คู่ ใช้ว่ายน้า คู่สุดท้ายเป็นแพนหาง (Uropod) ภำพที่ 2.4ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของกุ้งก้ามแดง ที่มำ: สุธิพงศ์(2558) เป็ นกุ้งก้ามแดงหรือเครฟิชที่นิยมเล้ียงในเมืองไทย เหมาะสา หรับมือใหม่เนื่องจากเล้ียงง่าย อดทน ราคาไม่แพง และหาซ้ือง่าย หากลา ตวัออกสีน้ าเงินจะเรียกว่า บลูล็อบเตอร์ แต่ถ้าสีออก น้า ตาลจะเรียกวา่เรนโบว์(สภาพแวดลอ้มในการเล้ียงมีผลต่อสีของกุง้) การเล้ียงรวมกนัหลายตวัใน ตู้เดียวควรจัดหาที่หลบซ่อนอย่างพอเพียงเพื่อลดโอกาสการต่อสู้กัน ขนาด 20-26 ซ.ม. (8-10 นิ้ว) อุปนิสัย ดุและก้าวร้าวอาหารโดยปกติกุ้งเครฟิ ชเป็ นนักกินเศษอาหาร สามารถกินอะไรก็ตามที่มัน หาเจอท้งัพืชและสัตว์ผเู้ล้ียงอาจเล้ียงดว้ยอาหารเม็ดสา หรับกุง้หนอนแดง ผักต้มต่างๆ เช่น แครอท มนั ฝรั่งแตงกวา ฯลฯ ส่วนข้อควรระวัง ธรรมชาติของกุ้งเครฟิชทุกชนิดน้ันมีพฤติกรรมการกิน


12 กันเอง ด้ังน้ันควรจดัหาที่หลบซ่อนให้กุ้งอย่างพอเพียง เช่น ขอนไม้ถ้า กระถางดินเผา ท่อพีวีซี ลูกกุ้งต้องการที่หลบซ่อนอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงที่มีการลอกคราบ และการเล้ียงง่าย 2.9.2.2 การจ าแนกเพศ สามารถท าได้โดยจับกุ้งหงายท้องแล้วสังเกตอวัยวะสืบพันธุ์ที่ เรียกว่า Gonopods ที่ช่วงขา เดิน โดยกุ้งตัวผู้มีอวัยวะคล้ายตะขอบริเวณขาเดินคู่ที่2 และ 3 ซ่ึงตะขอน้ีมนัจะเอาไวเ้กี่ยวเกาะตวั เมียตอนผสมพันธุ์ สังเกตที่บริเวณขาเดิน ถ้าเป็นเพศผู้จะมีอวัยวะสืบพันธุ์ (Papillae) บริเวณขาเดินคู่ สุดท้าย (คู่ที่ 4) ส่วนเพศเมียจะมีอวัยวะสืบพันธุ์ (Annulus Ventralis) เป็ นแผนทรงวงรีสีขาว ขนาด ประมาณ1-2 มิลลิเมตร บริ เวณขาเดินคู่ที่ 3 นอกจากน้ีบริเวณขาวายน้ าคู่แรกและคู่ที่ 2 ของ ตวัผจู้ะถูกพฒันาข้ึนเป็นแขนเลก็ ๆ สองข้าง (Petasma) มีไว้ส าหรับส่งผ่านถุงน้า เช้ือไปยังตัวเมีย ภำพที่ 2.5การจ าแนกเพศของกุ้งก้ามแดง ที่มา: Ludi (2012) 2.9.2.3 การเล้ียงร่วมกบัสัตวช์นิดอื่น ไม่แนะนา ใหเ้ล้ียงรวมกบั ปลา เครฟิชอาจจบั ปลากินเป็นอาหาร 2.9.2.4 วงจรชีวิตของกุ้งก้ามแดง แม่พันธุ์กุ้งก้ามแดงอายุ 1 ปี มีความดกของไข่ 100 – 300 ฟอง และมากกว่า 1,000 ฟอง เมื่อ แม่พนัธุ์อายุมากข้ึน ไข่จะฟักภายใน 6 – 10 สัปดาห์ กุ้งก้ามแดงฟักใหม่จะมีขนาด 0.02 กรัมต่อตัว และจะถูกปล่อยออกจากแม่พันธุ์ แต่ลูกของกุ้งก้ามแดงก็ยังคงอาศัยอยู่กับแม่พันธุ์ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์จึงจะเป็นอิสระภายใต้สิ่งแวดล้อมและอาหารที่เหมาะสม หลังจากฟักจนกระทั่งอายุ 50 – 60 วัน ลูกกุ้งก้ามแดงจะเจริญเติบโตจนมีขนาด 0.5 – 1.0 กรัมต่อตัว และจะเจริญเติบโตจนมี


13 ขนาด 50 – 100 กรัม ถึงวัยเจริญพันธุ์ได้ภายในอายุ 12 เดือน หรือ 1 ปี ขนาดที่พบว่ามีขนาดใหญ่ ที่สุดที่บันทึกไว้มีขนาดถึง 450 – 600 กรัมต่อตัว (Jones, 1990) 2.9.2.5 การสืบพันธุ์วางไข่ของกุ้งก้ามแดง การสืบพันธุ์วางไข่ของกุง้กา้มแดงจะมีความสัมพนัธ์กบัอุณหภูมิของน้า และความยาวของ ช่วงแสง โดยกุ้งก้ามแดงจะวางไข่เมื่ออุณหภูมิของน้ าเฉลี่ยระหว่าง 25 – 28 °C และช่วงแสง 14 ชวั่โมง สว่างและ10 ชวั่โมงมืด พบว่า 95% ของแม่พนัธุ์สืบพนัธุ์วางไข่ในบ่อเพาะพนัธุ์ในช่วง ระยะเวลา 14 สัปดาห์ (Jones, 1990) เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์วางไข่ การจับคู่ผสมพันธุ์วางไข่ของ กุ้งก้ามแดง ตัวผู้จะเกาะตัวเมียอยู่ดา้นบนและปล่อยน้า เช้ือขาวเหนียวติดบริเวณขาเดินของตวัเมีย ภายใน 12 – 14 ชวั่โมง ตวัเมียก็จะปล่อยไข่สู่ช่องเก็บไข่ชวั่คราวดว้ยการงอตัวแน่นของส่วนหาง ถุงน้า เช้ือจะแตกออกจากโคนขาเดินคู่ที่ 5 ปล่อยน้า เช้ือสู่ช่องเก็บไข่การผสมระหว่างไข่กบัน้า เช้ือ จะอยู่บริเวณน้ีแล้วไข่ก็จะถูกปล่อยติดกับปลายของขนละเอียดที่ขาว่ายน้ าไข่หลังผสมใหม่ๆ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร มีสีเขียวมะกอก ในระหว่าง 4 –6 สัปดาห์ ไข่จะถูก ดูแลตลอดถึงการท าความสะอาดไข่ด้วยขาเดินคู่ที่ 5 ของแม่พันธุ์และใช้ขาว่ายน้า โบกพัดเพื่อเป็ น แหล่งให้ออกซิเจนแก่ไข่ดว้ยไข่ใช้เวลาพัฒนาโดยสังเกตจากการเปลี่ยนแปลงสีของไข่และฟักเป็ น ตัวภายใน 6 – 10 สัปดาห์ ลูกกุ้งฟักใหม่จะยงัคงอยกู่บัขาว่ายน้า ของแม่พันธุ์ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ (Sammy, 1988) 2.9.2.6 การเพาะพันธุ์ โดยทวั่ ไปแลว้การเพาะพนัธุ์กุง้กา้มแดงจะเริ่มจากการคดัเลือกพ่อแม่พนัธุ์ที่มีความสมบูรณ์ หรือสุขภาพดี พิจารณาจากความสมบูรณ์ของร่างกายส่วนต่าง ๆ และสี เป็ นต้น อัตราส่วนเพศของ กุ้งก้ามแดงในการจับคู่ผสมพันธุ์ที่เหมาะสมจะมีอัตราส่วนเพศผู้ : เพศเมียเท่ากับ 1 : 1 แต่ส าหรับกุ้ง กา้มแดงสามารถที่จะเพิ่มจ านวนเพศเมียได้ เป็ นอัตราส่วนที่แนะน า จะมีอัตราส่วนเพศผู้ 1 หรือ2 ตัวต่อเพศเมีย 4 ตัวก็ได้ (Jones,1990) อาหารและการให้อาหารกุ้งก้ามแดงในธรรมชาติ กุ้งก้ามแดงจะกินท้ังพืชและสัตว์และกินท้ังซากพืชซากสัตว์เป็นอาหาร ในวัยอ่อนจะกิน แพลงก์ตอนสัตว์ สัตว์หน้าดิน ตัวอ่อนแมลง ซากพืช ซากสัตว์ที่ย่อยสลายโดยจุลินทรีย์เป็ นอาหาร พฤติกรรมการกินอาหารของกุ้งก้ามแดงไม่มีนิสัยก้าวร้าว ในรอบ 24 ชวั่โมงของวนัจะชอบกิน อาหารตอนก่อนสว่างหรือก่อนค่า ในช่วงระยะเวลาอนัส้ัน ท้งัน้ีพฤติกรรมการกินอาหารข้ึนกบั ความเข้มแสงและอุณหภูมิของน้ า พฤติกรรมการกินอาหารของกุ้งก้ามแดงเรี ยกว่าเป็ นแบบ Uniquely polytrophic animals (Momot et al., 1978)ความต้องการทางโภชนาการของกุ้งก้ามแดง


14 ต้องการอาหารที่มีระดับโปรตีนระหว่าง 15 – 45% โดยทวั่ ไปจะแนะนา ให้อาหารที่มีระดับโปรตีน 18 –20 % เป็ นอาหารสมทบ แหล่งพลังงานในอาหารกุ้งก้ามแดงมาจากไขมันและคาร์โบไฮเดรต ไขมันที่จ าเป็ นประกอบด้วย 18 : 3W3, 20 : 5W3 และ 22 : 6W3 (Kanazawa et al., 1976) อาหาร ควรมีแร่ธาตุจ าพวกแคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ปริมาณ 216, 210 และ 27 mg/100 กรัม อาหารตามล าดับ ส่วนวิตามินที่จ าเป็ นในอาหารส าหรับกุ้งก้ามแดง ควรมี Choline inositol และ วิตามินซี (Deshimaru and Kuroki, 1974 ; Kanazawa et al., 1976) สารสีในอาหาร ที่จ าเป็ นจ าพวก Carotenoid (Astaxanthin) จะเป็นการเพิ่มสีสันใหกุ้ง้กา้มแดง (Maguire, 1979) 2.9.2.7 คุณสมบตัิของน้า ในการเล้ียงกุง้กา้มแดง กุ้งกา้มแดงเจริญเติบโตดีที่สุดในน้า อุณหภูมิระหว่าง 23 –31°C ซ่ึงอุณหภูมิของน้า ไม่ควร เกิน 35°C และไม่ควรต ่ากว่า 10 °C บ่อเล้ียงควรมีความลึกระหว่าง 1.50 – 2.00 เมตร ไม่ควรลึก เกินไป ถ้าลึกเกินจะมีปัญหาการแยกช้นัของน้า (stratification) ท าใหอุ้ณหภูมิพ้ืนบ่อเยน็เกินไป เป็น อันตรายต่อกุ้งก้ามแดง ซึ่งเป็ นสัตวน์ ้า ที่อาศยัตามหน้าดินหรือพ้ืนบ่อค่าออกซิเจนที่ละลายในน้า (DO) ไม่ควรมีค่าน้อยกว่า 5 mg/l (ppm), pH ควรอยู่ระหว่าง 6.5 – 9.0, ค่าความเป็ นด่างและค่าความ กระด้างของน้ าควรมากกว่า 50 mg/l as CaCO3 เนื่องจากว่ากุ้งก้ามแดงต้องการแคลเซียมสูง จึง จ าเป็นต้องให้ค่าท้ังสองสูงด้วยเพื่อเป็ นแหล่งแคลเซียม ซึ่ งมีผลต่อการลอกคราบเพื่อการ เจริญเติบโตของกุ้งก้ามแดง ค่าแอมโมเนียไม่ควรเกิน 0.1 mg/l น้า ที่ใชเ้ล้ียงไม่ควรขุ่นจากตะกอน ดินเลยจะดีมาก ความขุ่นใสของน้ าจากแพลงก์ตอน ควรอยู่ระหว่าง 40 –60 เซนติเมตร (Jones, 1990) การเล้ียงกุง้กา้มแดงเชิงพาณิชย์หรือการเล้ียงแบบพฒันาในออสเตรเลีย โดยขนาดเริ่มตน้ ทดลองเล้ียงขนาด 0.5 – 2.0กรัมต่อตวั ปล่อยในอตัรา 10 ตวัต่อตารางเมตร เล้ียงกุง้เป็นระยะเวลา 6 – 18 เดือน ได้ผลผลิต 300 – 500 กรัมต่อตารางเมตร โดยผลผลิตสุดท้ายได้น้ าหนักกุ้งเฉลี่ย 70 – 100 กรัมต่อตัว อัตราการรอด 50 – 80 เปอร์เซ็นต์ (Jones, 1990) ในขณะที่การเล้ียง กุง้กา้มแดงในระบบการเล้ียงแบบก่ึงพฒันาโดยเล้ียงในบ่อขนาดประมาณ 10,000 – 20,000 ตาราง เมตร ระยะเวลาเล้ียงประมาณ 180 – 210 วนั ปล่อยกุง้ขนาดเริ่มตน้ระยะ juvenilesในอัตราความ หนาแน่นเป็ น 3.5 –4 ตวัต่อตารางเมตร เมื่อสิ้นสุดการเล้ียงได้ผลผลิตประมาณ 1,500 – 2,000 กิโลกรัมต่อ 10,000 ตารางเมตร (หรือ 0.15 – 0.20 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) (Xavier, 1997) 2.9.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ส าเนาว์และคณะ(2562) ศึกษาการประเมินโอกาสในการรุกรานของกุ้งก้ามแดง Cherax quadricariantus ที่เป็นสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นที่ส าคัญทีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการส่งเสริมการเล้ียงใน


15 ประเทศไทย ในอย่างแพร่หลาย การศึกษาทดลองกระท าภายใต้ 2 สมมติฐานที่ส าคัญ ได้แก่ สมมติฐานการปลอดศัตรู และ สมมติฐานการทนต่อสภาวะแวดล้อม จากการติดตามการ เปลี่ยนแปลงขนาดและน้า หนักของกุ้งก้ามแดงเป็ น ระยะเวลา 12 เดือน ใน 3 รูปแบบ ไดแ้ก่การ เล้ียงในบ่อปูน การเล้ียงในบ่อดิน และการอาศัยในระบบนิเวศย่อยเลียนแบบธรรมชาติพบว่า รูปแบบการเติบโตของกุ้งก้ามแดงเป็ นแบบอัลโลเมทริ ก โดยกุ้งก้ามแดงใน ระบบนิเวศย่อย เลียนแบบธรรมชาติจะเป็ นอัลโลเมทริกแบบลบ ในขณะอีก 2 ระบบกุ้งก้ามแดงมีรูปแบบการ เติบโตเป็ นอัลโลเมทริกแบบบวก ค่าความยาวอนันต์จากการติดตามการเติบโนในรอบ 12 เดือนอยู่ ที่ระหว่าง 13 – 17 เซนติเมตร และค่าสัมประสิทธิ์ การเติบโตระหว่าง 0.126 -0.150 ต่อเดือน เก็บ ข้อมูลความดกไข่ใน แม่พันธุ์กุ้งก้ามแดงที่อาศัยในระบบนิเวศย่อยเลียนแบบธรรมชาติที่ความยาว ท้งัตวัที่11.5 ถึง 18.4 ซม. โดย ท าให้ตาย พบว่ามีค่าความดกไข่ในช่วง 259 – 822 ฟอง อัตราการ รอดของกุ้งก้ามแดงในธรรมชาติ ในกรณีที่ไม่มีผู้ล่าในระบบจะมีค่าที่ประมาณ 0.6 ในรอบ 1 สัปดาห์ ในขณะที่ถ้ามีปลาผู้ล่าอยู่ค่าอัตรารอดจะลดลง เหลืออยู่ที่ไม่เกิน 0.2 โดยแนวโน้มในการ ที่จะถูกควบคุมโดยปลาผู้ล่าที่ไล่ล่าเหยื่อจะมีดีกว่าผู้ล่าที่คอยซุ่มจับ เหยื่อ ผลการศึกษาจนถึง ปัจจุบัน (ประมาณร้อยละ 65 ของเน้ืองานวิจยั) ช้ีให้เห็นแนวโนม้ความสามารถที่จะ ปรับตัวอาศัย อยู่ในแหล่งน้า จืดของไทยได้ของกุ้งก้ามแดง แต่อย่างไรก็ตามโอกาสในการรุกรานของกุ้งเครย์ฟิช ชนิดดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะถูกควบคุมได้โดยปลาผู้ล่าในระบบ ฐิติมาและคณะ (2562) ทดลองการเล้ียงกุง้กา้มแดงที่อตัราความหนาแน่นที่แตกต่างกนั โดย ใช้วัสดุหลบซ่อน 3 ระดับ ไดแ้ก่10, 20, และ 30 ตัวต่อตารางเมตร เพื่อศึกษาอัตราความหนาแน่นที่ เหมาะสม อัตราการเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย และผลผลิต วางแผนการทดลองแบบสุ่มตลอด ใช้ระยะเวลา 2 เดือน ผลการทดลอง พบว่าการเล้ียงกุง้กา้มแดงในกระชงัที่อตัราความหนาแน่น 10, 20, 30 ตวัต่อตารางเมตร มีน้า หนักสุดท้ายเฉลี่ย เท่ากับ 10.80, 8.17 และ 8.52 กรัมตามล้าดับ ความ ยาวสุดท้ายเฉลี่ย 6.49, 6.33 และ 6.19 เซนติเมตร ตามลา้ดบัน้า หนกัเพิ่มต่อวนั 10.76, 9.15 และ 8.49 กรัม อัตรารอด 83.33, 75 และ 82.23 เปอร์เซ็นต์ และอตัราการแลกเน้ือเท่ากบั 0.29, 0.25 และ 0.31 โดยไม่มีความแตกต่างทางสถิติ(p>0.05) การวิเคราะห์ต้นทุน และผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ พบว่าชุดการทดลองที่อัตราความหนาแน่น 10, 20 และ 30 ตัวต่อตาราง เมตร ได้ผลผลิตกุ้งก้ามแดง เท่ากับ 0.098, 0.258 และ 0.358 กิโลกรัม รายได้จากการขายกุ้งก้ามแดงเท่ากับ 78.40, 206.40 และ 286.40 บาท มีจุดคุ้มทุนของราคาขายเท่ากับ 29.98, -3.09 และ -2.01 ต่อกิโลกรัม ตามล้าดับ ส่วนชุด การทดลองที่อัตราความหนาแน่น 30 ตัวต่อตารางเมตร มีจุดคุ้มทุนต ่าสุด -2.01 กิโลกรัม ส าหรับ


16 การลงทุนพบว่าการเล้ียงกุง้กา้มแดงในกระชงัที่อตัราความหนาแน่น 10 ตัวต่อตารางเมตร มีความ เหมาะสมเนื่องจากให้ก าไรสุทธิและรายได้สุทธิสูงสุด โกมุท และคณะ (2559) ศึกษาผลของวิตามินอีและสาหร่ ายสไปรู ไลน่า ในอาหาร พ่อแม่ พันธุ์กุ้งก้ามแดง ต่อประสิทธิภาพการผลิต ลูกกุ้ง ด าเนินการทดลองระหว่างเดือนตุลาคม 2557 -กันยายน 2558 โดยเปรียบเทียบ 3 ชุดการทดลอง ไดแ้ก่ชุดการทดลองที่1 อาหารเม็ดกุ้งรวม ระดับโปรตีน 35% ผสมน้า มันปลาทูน่า 2,700 มก./100 กรัม อาหาร และวิตามินซี 100 มก./100 กรัม อาหาร ชุดการทดลองที่ 2 อาหารเม็ดกุ้งรวมระดับโปรตีน 35% ผสมน้า มันปลาทูน่า 2,700 มก./100 กรัมอาหาร วิตามินซี 100 มก./100 กรัมอาหาร และวิตามินอีในปริมาณ เข้มข้น 100 มก./100 กรัม อาหาร และชุดการทดลองที่ 3 อาหารเม็ดกุ้งรวมระดับโปรตีน 35% ผสมน้า มัน ปลาทูน่า 2,700 มก./ 100 กรัมอาหารวิตามินซี 100 มก./100 กรัมอาหาร และสาหร่ายสไปรูไลน่า 3,000 มก./ 100 กรัม อาหารโดยน้า หนกัแห้ง เล้ียงพ่อแม่พนัธุ์กุง้ดว้ยอาหารทดลองท้งัสามชุดการทดลองในบ่อคอนกรีต ขนาด 2.45x3.76x0.70 เมตร ระดบัน้า ลึก 0.3 เมตร ให้อาหารทดลองในอัตรา 1.5% ของน้า หนักตัว ต่อวัน ให้อาหารทดลองเป็ นระยะเวลา 6 เดือน ผลการทดลอง พบว่า การเจริญเติบโตของพ่อแม่ พันธุ์กุ้งก้ามแดง ท้ัง 3 ชุดการทดลองไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p>0.05) ด้าน ประสิทธิภาพการสืบพันธุ์วางไข่ของ กุ้งก้ามแดง พบว่าอตัราแม่กุง้มีไข่คร้ังแรก น้า หนกัเฉลี่ยแม่กุง้ พร้อมไข่น้า หนักเฉลี่ยแม่กุ้งหลังการปล่อยลูกกุง้จา นวนลูกกุง้เฉลี่ย ต่อแม่กุง้น้า หนัก 1 กรัม และ น้า หนักเฉลี่ยลูกกุ้งเมื่ออิสระจากแม่กุ้ง มีค่า51.59±27.49, 58.10±7.33 และ 63.74±18.29 เปอร์เซ็นต์; 103.38±11.83,107.18±19.75, 106.79±7.26 ก รั ม ; 86.96±12.28, 96.56±6.83, 94.09±5.23 ก รั ม ; 5.56±2.05, 4.95±1.17, 6.27±1.28 ตัว ; 0.0335±0.0012, 0.0350±0.0042, 0.0346±0.0011 กรัมต่อตัว ตามล าดับ ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติระหว่าง ชุดการทดลอง (p>0.05) และแม่ พนัธุ์กุง้ที่ใหอ้าหารเสริมดว้ยสไปรูไลน่ามีเปอร์เซ็นตก์ารวางไข่เฉลี่ยคร้ัง แรกเร็วกว่าชุดการทดลอง อื่น ๆ


บทที่ 3 วิธีกำรด ำเนินงำน การด าเนินการจัดท าโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบกคร้ังน้ีมีข้ันตอนการ ดา เนินการเป็น ข้นัตอนต่าง ๆ ดงัน้ี 3.1 ข้นัตอนการดา เนินงาน 3.2 ระยะเวลาที่ปฏิบัติงานโครงการ 3.3 วัสดุอุปกรณ์ 3.4 ค่าใช้จ่ายในการด าเนินงาน 3.5 แหล่งงบประมาณ 3.1 ขั้นตอนกำรด ำเนินงำน ข้นัตอนการดา เนินงานโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชงับก มีข้นัตอนดงัน้ี 3.1.1 การเตรียมความพร้อม การเตรี ยมความพร้อมในการด าเนินโครงการโดยผู้ด าเนินโครงการและครูที่ปรึกษา โครงการร่วมกันก าหนดขอบเขตของโครงการ ให้สอดคล้องกับความถนัดของสมาชิกผู้ท าโครงการ รายวิชาต่างๆ ความต้องการของตลาด และศึกษาแหล่งเรียนรู้ หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็ น แนวทางในการท าโครงการ และก าหนดปฏิทินปฏิบัติงาน 3.1.2 ประชุมสมาชิกและครูที่ปรึกษาเพื่อระดมความคิดเลือกโครงการ มีการนัดหมายการประชุมสมาชิก คณะกรรมการ และครูที่ปรึกษา เพื่อระดมความคิดเลือก โครงการ โดยเปิ ดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นระหว่างกันในการคัดเลือกโครงการ ที่เหมาะสมมติที่ประชุมได้คัดเลือกโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก เนื่องจากประหยัด พ้ืนที่ดูแลง่าย และเป็ นที่ต้องการของตลาด 3.1.3 เขียนโครงการและเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ ด าเนินการเขียนโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก เพื่อจัดสรรงบประมาณในการ ดา เนินโครงการ ซ่ึงระบุถึงแนวคิดกิจกรรมในแต่ละข้นัตอน และตารางการดา เนินงาน ค่าใช้จ่าย ก าหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม ภาระงานของสมาชิกในกลุ่ม ตลอดจนระยะเวลาในการ


18 จัดท าโครงการ ตามองค์ประกอบที่ก าหนด และได้น าเสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงการเพื่อขอความ เห็นชอบและแนวทางในการด าเนินโครงการ 3.1.4 ด าเนินงานตามโครงการ ในการด าเนินงานตามแผนการปฏิบัติที่ก าหนดไว้ ทางกลุ่มได้น้อมน าหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงและหลกัการบริหารงานคุณภาพตามข้นัตอนวงจรคุณภาพ PDCA มาประยุกต์ใช้ ในข้นัตอนการดา เนินงานโครงการดงัน้ี 3.1.4.1 ข้นัตอนการวางแผน (P = Plan) ข้นัตอนการวางแผนเป็นการเตรียมการก่อนลงมือปฏิบตัิงานตามแผนงานโครงการ และยัง ครอบคลุมถึงการก าหนดกรอบหวัขอ้ที่ตอ้งการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ซ่ึงรวมถึงการพฒันาสิ่งใหม่ๆ การแก้ปัญหาที่เกิดข้ึนจากการปฏิบตัิงาน ฯลฯ พร้อมกับพิจารณาว่ามีความจ าเป็ นต้องใช้ข้อมูล ใดบา้ง เพื่อการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงน้ันโดยระบุวิธีการเก็บขอ้มูลและกา หนดทางเลือกในการ ปรับปรุงให้ชดัเจน ซ่ึงการวางแผนจะช่วยให้กิจการสามารถคาดการณ์สิ่งที่เกิดข้ึนในอนาคต และ ช่วยลดความสูญเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดข้ึนได้ท้งัในดา้นแรงงาน วสัดุอุปกรณ์ชวั่โมงการทา งาน เงิน และเวลา 3.1.4.2 ข้นัตอนการดา เนินงาน (D = Do) ข้นัตอนการดา เนินงาน คือการลงมือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามทางเลือกที่ไดก้า หนดไวใ้น ข้นัตอนการวางแผน ซ่ึงในข้นัตอนน้ีตอ้งมีการตรวจสอบระหว่างการปฏิบตัิดว้ยว่าไดด้า เนินไปใน ทิศทางที่ต้งัใจหรือไม่เพื่อทา การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหเ้ป็นไปตามแผนการที่ได้วางไว้ 3.1.4.2.1 การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์การเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก 1) อุปกรณ์ส าหรับท ากระชัง (ฟิ วเจอร์บอร์ด, ท่อประปา, เชือก) 2) ป้ัมน้า 3) ชุดถงักรองน้า 4) เครื่องชงั่น้า หนกัดิจิตอล 5) ลูกพันธุ์กุ้งก้ามแดง ขนาด 1.5 นิ้ว 6) อาหารกุ้ง เบอร์ 3 3.1.4.2.2 จัดท าบัญชีรายรับ-รายจ่าย การจดบันทึกและสรุปข้อมูล 3.1.4.3 ข้นัตอนการตรวจสอบ (C = Check)


19 ข้ันตอนการตรวจสอบ เป็นข้ันตอนการประเมินผลโครงการ และคา แนะน าจากครูที่ ปรึกษาโครงการ เพื่อนา มาปรับปรุงและแกไ้ขในข้นัตอนการปฏิบตัิงานให้สามารถบรรลุเป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ที่ได้ก าหนดไว้ โดยมีการบันทึกไว้ในสมุดโครงการ 3.1.4.4 ข้นั ปรับปรุงแกไ้ข(A = Action) ข้นั ปรับปรุงแกไ้ขเป็นข้นัที่พิจารณาผลที่เกิดข้ึนว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่เป็นไป ตามแผนที่วางไว้ การพัฒนาความรู้และทักษะวิชาชีพให้กับสมาชิก และมีการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ โดยหลักการใช้โครงการเป็ นฐาน (Project Based Learning : PBL) การจัดการเรียนรู้ได้น าผลการ วิเคราะห์ผู้เรียนไปจดัทา แผนปรับพ้ืนฐานผเู้รียน และจดัทา โครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชัง บก เพื่อให้สมาชิกสามารถเรียนรู้ในรายวิชาที่บูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ 3.1.5 สรุปและรายงานผลการด าเนินโครงการ สรุปและรายงานผลการดา เนินโครงการ และเผยแพร่ขอ้มูลความรู้ของโครงการให้แก่ สมาชิกและผทู้ี่สนใจนา ไปเป็นแนวทางเพื่อต่อยอดการประกอบอาชีพเล้ียงครอบครัวได้ 3.2 ระยะเวลำที่ปฏิบัติงำนโครงกำร วันที่ 17 เดือน ธันวาคม 2565 ถึง วันที่ 14 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 3.3 วัสดุอุปกรณ์ 3.3.1 ฟิ วเจอร์บอร์ด 3.3.2 ท่อประปา 3.3.3 ข้อต่อท่อประปา 3 ทาง ฉาก 3.3.4 ข้อต่อท่อประปา 3 ทาง 3.3.5 ท่อน้า เหลือใช้ 3.3.6 ชุดถงักรองน้า 3.3.7 ปั๊มน้า บ่อปลา 3.3.8 สายรัด 3.3.9 ลูกพันธุ์กุ้งก้ามแดงขนาด 1.5 นิ้ว 3.3.10 อาหารกุ้ง เบอร์ 3 (1กก.)


20 3.4 ค่ำใช้จ่ำยในกำรด ำเนินงำน ค่าใช้จ่ายในการด าเนินงานโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก มีดงัน้ี ตำรำงที่ 3.1 ค่าใช้จ่ายในการด าเนินงานโครงการการเล้ียงกุ้งก้ามแดงในกระชังบก วัสดุครุภัณฑ์รำคำต่อชิ้น จ ำนวน รำคำรวม โครงสร้างในการท าบ่อ 130 1 378 ท่อน้า เหลือใช้ 0 40 0 ชุดถงักรองน้า 100 1 100 ปั๊มน้า บ่อปลา 250 1 250 สายรัด 65 1 65 ลูกพนัธุ์กุง้กา้มแดงขนาด 1.5 นิ้ว 15 28 420 อาหารกุ้ง เบอร์ 3 (1กก.) 150 1 150 สวิง 150 1 150 เครื่องชงั่น้า หนกัดิจิตอล 400 1 400 pH Test for Fresh and Seawater 350 1 350 รวม 2,263 3.5 แหล่งงบประมำณ 3.5.1 วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์


Click to View FlipBook Version