การตลาดกับธุรกิจโรงแรม

การตลาดเพื่อธุรกิจโรงแรม นางสาวศรุตา กลิ่นกระโทก เสนอ ครูนพรรณพ ดวงแก้วกูล รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การตลาดเพื่อธุรกิจโรงแรม รหัสวิชา30701-2007 ประจ าภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่

ก ค ำน ำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การตลาดเพื่อธุรกิจโรงแรม รหัสวิชา 30701-2007 เพื่อให้ ได้ศึกษาความรู้เรื่องการตลาด โดยได้ศึกษาผ่านแหล่งความรู้ต่างๆ โดยรายงานเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับบริบท ธุรกิจโรงแรม การจัดประเภทธุรกิจโรงแรม องค์ประกอบของการตลาด ลักษณะสินค้าและบริการของโรงแรม พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าโรงแรม แผนการส่งเสริมการตลาดเบื้องต้น กลยุทธ์ทางการตลาด การผลิต สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการขาย ผู้จัดท าคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดท าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา เกี่ยวกับการตลาดเพื่อธุรกิจโรงแรม เป็นอย่างดี จัดท าโดย ศรุตา กลิ่นกระโทก

ข สารบัญ เรื่อง หน้า ค ำน ำ ก สำรบัญ ข บริบทธุกิจโรงแรม 1 กำรจัดประเภทธุรกิจโรงแรม 3 องค์ประกอบของกำรตลำด ลักษณะสินค้ำและบริกำรของโรงแรม 14 พฤติกรรมกำรซื้อของลูกค้ำโรงแรม 22 แผนกำรส่งเสริมกำรตลำดเบื้องต้น กลยุทธ์ทำงกำรตลำดกำรผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ 25 และสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมกำรขำย บรรณำนุกรม 33 ประวัติผู้จัดท ำ 34

1 งานชิ้นที่ 1 บริบทธุรกิจโรงแรม 1. สถิตินักท่องเที่ยวไทยในปี พ.ศ. 2563-2565 เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เริ่มระบาดตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2562 ท าให้การท่องเที่ยวโลกหดตัวอย่างหนัก การเดินทางระหว่างประเทศยังมีข้อจ ากัด รวมทั้ง มาตรการจ ากัดการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ ท าให้ส่งผลกระทบต่อจ านวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาลดลงอย่างมากในรอบสิบกว่าปี แม้ว่าจะมี การฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อ ที่กลายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจากสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ เดินทางเข้าประเทศไทยของ ปี 2564 (จ านวนยอดสะสมเบื้องต้น) (International Tourist Arrivals to Thailand 2021) (มกราคม – ตุลาคม) ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในปี 2563 มี จ านวนนักท่องเที่ยว 6,692,775 คน และในปี 2564 มีจ านวนนักท่องเที่ยวเพียง 106,117 คน ลดลง สูงสุดคิดเป็นร้อยละ 98 ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนในปี 2565 ได้มีการคาดคะเนว่าเศรษฐกิจไทยอาจต้องใช้ เวลา ถึง 3 ปีในการฟื้นตัว โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัว ขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย มีสัดส่วนคิดเป็น 21 - 22% ของ GDP รวม และ จ าเป็นต้องใช้ ระยะเวลาในการฟื้นฟูที่ยาวนาน และจากการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ท่องเที่ยวในไทยได้มีสถิติเพิ่มขึ้นจ านวนค่อนข้างมาก และประกอบกับทางรัฐบาลได้ทยอยผ่อนคลาย มาตรการ ยกเลิกการกักตัวทุกรูปแบบส าหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยและยกเลิกการลงทะเบียน ผ่านระบบไทยแลนด์พาสพบว่ามีจ านวนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยอย่างต่อเนื่องโดยจากการ ประเมินหากนักท่องเที่ยวยังเดินทางเข้ามาตลอดปี 2565 การท่องเที่ยวจะสร้างรายได้เพิ่มให้กับ ประเทศและเศรษฐกิจอาจจะมีเปอร์เซ็นการฟื้นตัวขึ้น 2. การเจริญเติบโตของธุรกิจโรงแรมไทย พ.ศ. 2563-2565 ย้อนดูในปี 2563-2564 ธุรกิจโรงแรมการท่องเที่ยวทั่วโลกจัดว่าซบเซาอย่างหนักจากการ แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ในไทยเองจ านวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงกว่า 98% โดยจ านวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงจากประมาณ 39-40 ล้านคนต่อปี เหลือเพียงประมาณ 4 แสนคน ในขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศก็ลดลงกว่า 50% คือจาก 170 ล้านทริปเหลือประมาณ 90 ล้านทริป ท าให้อัตราการเข้าพักหรือ Occupancy Rate (OR) ทั้งประเทศลดเหลือเพียง 14% จาก 29.5% ในปีก่อนหน้า รวมทั้งปี 2564 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.84 แสนล้านบาท ลดลง 21% จาก 4.82 แสนล้านบาทในปี 2563 และในปี 2565 นี้มีการฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงมากขึ้นเริ่มส่งสัญญาณที่ดี แก่ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว

2 3. 5 จังหวัดที่มีจ านวนห้องพักมากที่สุดในไทย 1. กรุงเทพฯ 2. ภูเก็ต 3. ชลบุรี 4. กระบี่ 5. เชียงใหม่ 4. โรงแรมเครือข่่าย (Chain Hotel) และโรงแรมที่อยู่ในเครือข่ายนั้น จ านวน 5 เครือข่าย 1. Ritz-Carlton 2. Marriott 3. Le Meridien 4. Courtyard by Marriott 5. Marriott Executive Apartment 5. ความหมายส าคัญของการตลาดต่อธุรกิจโรงแรม ท าให้การด าเนินธุรกิจโรงแรมมีเป้าหมายชัดเจน การสร้างแผนการตลาดโรงแรม จะท าให้บุคลากรในโรงแรมมีเป้าหมายในการท างาน ท าให้รู้สึกถึงการมีส่วนร่วมเพื่อจะไปสู่ จุดมุ่งหมายซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของโรงแรมร่วมกัน เกิดพลังในการขับเคลื่อน ทุกคนร่วมมือร่วมใจ กันเกิดเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่

3 งานชิ้นที่ 2 การจัดประเภทธุรกิจโรงแรม 1. วัตถุประสงค์ของการพักค้างคืน หมายถึง สถานที่ ให้บริการเกี่ยวกับผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวมาเข้าพักแรม โดยไม่จ ากัดว่าจะ เป็น ผู้คนในช่วงอายุเท่าไหร่ แต่อาจจะจ ากัดว่าไม่อนุญาตให้น าสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งของบางอย่างเข้าพักด้วย และยังมีวัตถุประสงค์ดังนี้ความมุ่งหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งแบ่งได้ 5 ประการ คือ 1.1 การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด (holiday-mass Popular individual) ภาพที่ 1 ที่มา : https://shorturl.asia/XSrJw 1.2 การท่องเที่ยวเพื่อวัฒนธรรมและศาสนา (Cultural Religion) เป็นการเดินทางเพื่อเรียนรู้ วัฒนธรรมของสังคมต่างๆ เช่นการศึกษาความเป็นอยู่ การชมศิลปะ ดนตรี ละคร การนมัสการศูนย์ ศาสนา เป็นต้น ภาพที่ 2 ที่มา : https://shorturl.asia/2YE3v

4 1.3 การท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา (Educational) เป็นการเดินทางเพื่อการท าวิจัยการศึกษา สอน หนังสือ ฝึกอบรม หรือดูงานต่างประเทศ ซึ่งจะต้องพ านักอยู่สถานที่นั้นๆ เป็นเวลานาน ภาพที่ 3 ที่มา : https://shorturl.asia/qwepd 1.4 การท่องเที่ยวเพื่องานอดิเรก (Hobbies) หมายถึงการท่องเที่ยวเพื่อท างานอดิเรกเช่นการ วาดภาพ การเขียนนวนิยาย เป็นต้น ภาพที่ 4 ที่มา : https://shorturl.asia/3RmF9

5 1.5 การท่องเที่ยวเพื่อเยี่ยมญาติมิตร (visiting Friend and Relative) การท่องเที่ยว เพื่อธุรกิจ(Business) เป็นการเดินทางของนักธุรกิจที่จัดเวลาบางส่วนของการเดินทางหลังจะท า ธุรกิจเสร็จสิ้นแล้ว ใช้เวลาในการท่องเที่ยวก่อนเดินทางกลับ ภาพที่ 5 ที่มา : https://shorturl.asia/BcXZm

6 2.การแบ่งตามลักษณะที่ตั้ง (โรงแรมพระสิงห์วิลเลจ) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่ มีห้องอาหาร จักรยานส้าหรับใช้งานฟรี สระว่ายน้้า กลางแจ้ง และศูนย์ออกก้าลังกาย ที่พักตั้งอยู่ห่างจากวัดพระสิงห์ 300 ม. และห่างจากวัดเจดีย์หลวง 700 ม. รวมทั้งอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ประตูเชียงใหม่ และประตูช้างเผือก ที่พักนี้อยู่ห่างจากสนามบิน นานาชาติเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้ที่สุด 4 กม. ภาพที่ 6 ที่มา : https://shorturl.asia/bG3wu ภาพที่ 7 ที่มา : https://shorturl.asia/Gl1zI

7 ภาพที่ 8 ที่มา : https://shorturl.asia/k6BGU

8 3.แบ่งตามระดับของผลิตภัณฑ์และบริการ 3.1 การบริการระดับโลก (World – Class Service) โรงแรมประเภทนี้มีเป้าหมายในการ รับแขก ระดับบุคคลส าคัญของประเทศ หรือบุคคลส าคัญของโลก นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง และบุคคลผู้มีชื่อเสียงอื่นๆ ภาพที่ 9 ที่มา : https://shorturl.asia/9dETH 3.2 การบริการระดับกลาง มีเป้าหมายในการรับแขกทั่วไปทั้งนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว รายบุคคล และหมู่คณะ การบริการของโรงแรมอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่สิ่งอ านวยความสะดวกสบายต่างๆ อาจลด น้อยกว่า โรงแรมที่มีการบริการระดับโลก ภาพที่ 10 ที่มา : https://shorturl.asia/mw26j

9 3.3 การบริการระดับประหยัด (Economy or Limited Service) โรงแรมประเภทนี้เก็บ ค่าบริการถูกกว่าโรงแรม 2 ประเภทดังกล่าวแล้ว การจัดอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานส าหรับแต่ไม่หรูหรา การ บริการที่ ได้มาตรฐาน แต่ราคาประหยัด คือ นโยบายส าคัญของโรงแรมประเภทนี้ ภาพที่ 11 ที่มา : https://shorturl.asia/UypA9

10 4.แบ่งตามขนาดของโรงแรม 4.1 โรงแรมขนาดเล็ก คือ โรงแรมที่มีห้องพักเดี่ยวตํ่ากว่า 30 ห้อง ภาพที่ 12 ที่มา : https://shorturl.asia/MDjIz 4.2 โรงแรมขนาดกลาง คือ โรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า 30 ห้อง ไม่เกิน 100 ห้อง ภาพที่ 13 ที่มา : https://shorturl.asia/MDjIz

11 4.3 โรงแรมขนาดใหญ่คือ โรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า 100 ห้อง ตกแต่งหรูหรา มีบริการครบครัน ภาพที่ 14 ที่มา : https://shorturl.asia/MDjIz

12 5. ระบบการด าเนินงาน 5.1 ระบบอิสระ (Independents System) คือโรงแรมที่ไม่ได้เข้าร่วมกับองค์การธุรกิจใดๆ ในลักษณะ ใดลักษณะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายโรงแรมต่าง แฟรนไชส์ หรือบริษัทรับบริหารจัดการ ในธุรกิจโรงแรมใดๆ ทั้งสิ้น เป็นโรงแรมที่เจ้าของบริหารงานเอง ซึ่งในบางแห่งเป็นลักษณะการบริหารงาน แบบครอบครัว ส่วนใหญ่ จะเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ และในชุมชนรีสอร์ทตามฤดูกาล แขกหรือ ผู้มาใช้บริการในโรงแรมอิสระมัก นิยมการบริการที่เป็นส่วนตัว และนิยมโรงแรมที่มีเอกลักษณะเป็นของ ตนเอง ซึ่งเอกลักษณ์ดังกล่าวนี้อาจจะ เป็นเอกลักษณ์ในเรื่องสถานที่ตั้ง การบริการ การออกแบบ หรือ วิธีการจัดการทรัพย์สินก็ได้ ภาพที่ 15 ที่มา : https://shorturl.asia/fuAa5 5.2 ระบบเครือข่าย (Chain System) คือ การบริหารงานในลักษณะของการรวมกลุ่มกัน ของโรงแรม ต่างๆ โดยมีความเป็นเจ้าของ และ/หรือ การควบคุมการบริหารและการควบคุมดูแล ที่เหมือนกันหรืออยู่ใน ระบบเดียวกัน โรงแรมในกลุ่มจะด าเนินการทางธุรกิจโดยใช้ชื่อประกอบการร่วมกัน และ/หรืออยู่ภายใต้ระบบ บริห ารเดียวกันที่มาจากส่วนกลาง การเติบโตเป็นกลุ่มส่วนใหญ่ เป็นผลจากการขยายกิจการของโรงแรมที่ ประสบความส าเร็จ มีความรอบรู้และช านาญในการบริหาร จนเป็นที่รู้จักในตลาด จึงใช้ชื่อประกอบการเดิมเพื่อแสดงความเป็นกลุ่มเดียวกัน ที่ยังคงนโยบายและแนว ทางการด าเนินงานเหมือนกัน อย่างไรก็ตามการขยายกิจการที่ต้องอาศัยเงินทุนที่มีจ ากัดเพียงแหล่งเดียว ท าให้สูญเสียโอกาสการท ารายได้ในสถานการณ์ตลาดที่ยังมีความต้องการที่พักอีกมาก ขณะเดียวกัน ก็มีผู้สนใจที่ต้องการเข้ามาลงทุน ประกอบธุรกิจโรงแรม แต่ขาดความรู้ความช านาญ ดังนั้น

13 จึงได้มีการพัฒนาการจัดการธุรกิจ ที่อ านวย ประโยชน์ต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มที่มี ความสามารถในวิชาชีพขึ้น จนกลายเป็นรูปแบบการจัดการ โรงแรมที่ได้รับความนิยมเพราะสอดคล้องกับ ความต้องการทั้งสองฝ่าย คือ รูปแบบการจัดการภายใต้สัญญา การจัดท าเนื้อหาองค์ความรู้ SMEs ภายใต้ งานพัฒนาศูนย์ข้อมูล SMEs Knowledge Center ปี2557 2 ว่าจ้ างบริห ารหรือสัญญาจัดกา ร (Management Contract) และการจัดการในระบบธุรกิจแฟรนไชส์(Franchise) ซึ่งเป็นวิธีส าคัญที่ช่วย ให้การขยายกิจการโรงแรมในกลุ่มเพิ่มจ านวนได้เร็วในตลาด ภาพที่ 16 ที่มา : https://shorturl.asia/yGZsN

14 งานชิ้นที่ 3 องค์ประกอบของการตลาด ลักษณะสินค้าและบริการของโรงแรม องค์ประกอบของการตลาด 7Ps 7P (ส่วนผสมการตลาด) นั้นจะมีอยู่ 4 ปัจจัยที่เหมือนกับแนวคิด 4P ก็คือ Product, Price, Place, Promotion แล ะส่ วนที่เพิ่มเ ข้ าม าก็คือ People, Process แล ะ Physical Evidence ซึ่งแต่ละอย่างนั้นมีรายละเอียดดังนี้ 1. ผลิตภัณฑ์ (Product) Product คือสินค้าและบริการของธุรกิจ เหมือนกับแนวคิด 4P ทุกประการแต่ถ้าพูดถึง 7P แล้ว Product นั้นจะไม่ได้โฟกัสแค่สินค้าและบริการแต่เพียงอย่างเดียวแต่จะรวมไปถึงลักษณะ ของสินค้าที่จะสามารถสื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความเป็น Branding ของคุณ ซึ่งนักการตลาดจ าเป็นต้องหา Insight และท าการสร้าง Customer Persona ก่อนว่าลักษณะของลูกค้าที่ธุรกิจต้องการคือใคร มีความชอบแบบไหน พฤติกรรมเป็นอย่างไร หรือลองศึกษาดูจาก Feedback ของลูกค้าที่เคยใช้งาน สินค้าและบริการของธุรกิจคุณมาก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้สินค้าและบริการของคุณเป็นที่ต้องการ ในมุมมองของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น การวางแผน Product เพื่อพัฒนากลยุทธ์ Digital Marketing ของแบรนด์นั้น จ าเป็นต้องค านึง ถึงหลักส าคัญ 4 ปัจจัยได้แก่ Core Product – คุณค่าหลัก/คุณค่าพื้นฐานที่ผู้ซื้อจะได้รับคืออะไร Product Attribute – จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นั้นมาจ ากอะไร มีคุณสมบัติอย่างไร ลักษณะ ทางกายภาพ ขนาด จุดเด่น ความงาม ความคงทน ฯลฯ Product Feature – ฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคมีอะไรบ้าง Product Benefit – ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ของคุณที่ผู้บริโภคจะได้รับคืออะไร 2. ราคา (Price) Price หรือราคา คือ อีกปัจจัยที่ส าคัญ ซึ่ง P ตัวนี้จะหมายถึงนโยบายด้านราคาของแต่ละ บริษัทเพื่อน ามาเป็นรูปแบบในการตั้งราคาของสินค้าและบริการที่จะกระจายออกไปจ าหน่ายในตลาด ซึ่งโดยปกตินั้นการตั้งราคาจะถูกมองว่าเป็นการสร้างก าไรให้บริษัท แต่ว่าการตั้งราคาก็ส่งผลต่อ พฤติกรรมผู้บริโภคเช่นเดียวกันเพราะว่าผู้บริโภคจะหาราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่เต็มใจจะจ่าย

15 3. ช่องทางการจัดจ าหน่าย (Place) P ที่ 3 ก็คือ Promotion หมายถึงวิธีการที่แบรนด์ใช้สื่อสารกับลูกค้าและบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของบริษัท ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่บริษัทต้องวางกลยุทธ์ ตาม Segmentation ของลูกค้าที่เตรียมไว้ในส่วน Product 4. การส่งเสริมการตลาด (Promotion) ปัจจัยที่จะช่วยวางแผนกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ คือ Place ซึ่งแปลตามตัวก็คือสถานที่ ที่จะกระจายสินค้าและบริการเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ และประกอบเพิ่มด้วยอีก 3 ตัวที่เป็นสมาชิกของ 7Ps 5. การจัดการคนหรือพนักงาน (People) P ตัวแรกก็คือ People ซึ่งเป็นปัจจัยที่ครอบคลุมถึงการที่พนักงานของบริษัทสื่อสาร หรือปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้มีส่วนร่วมอื่นๆ ในขณะระหว่างการซื้อขายหรือบริการก่อนและหลัง การขายกับลูกค้า ซึ่งเป็นอีกส่วนที่จะสามารถช่วยโน้มน้าวใจเพิ่ม User Experience ให้ลูกค้าหันมา ซื้อสินค้าและบริการของธุรกิจคุณได้ดีอีกโดยที่บอกว่าเรื่องคนส าคัญกับการท าธุรกิจเพราะว่าถึงแม้ เวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร มีเทคโนโลยีเข้ามาแค่ไหน พฤติกรรมของผู้บริโภคก็มักต้องการการสื่อสาร กับ ‘มนุษย์’ ด้วยกันอยู่ดี ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้นหลาย ๆ บริษัทอาจจะมีท าหน้า FAQ (หน้า ตอบค าถามที่พบบ่อยของธุรกิจ) ไว้ แต่อย่าลืมว่าลูกค้าแต่ละคนย่อมมีความแตกต่าง ซึ่งแน่นอนว่า ค าตอบเหล่านั้นอาจจะไม่เพียงพอส าหรับพวกเขาก็ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อ User Experience ของลูกค้าอย่างแน่นอน ซึ่งในการท า Digital Marketing นั้นการมีส่วนร่วมหรือความช่วยเหลือของพนักงานส่งผลต่อ การตัดสินใจซื้อของของลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบอีเมลหรือตอบข้อความบนเว็บไซต์ หรือแม้แต่ Chatbot ก็ส่งผลด้วยเช่นกัน 6. กระบวนการ (Process) ตัวถัดมาก็คือ Process หรือวิธีการหรือกระบวนการบริษัทและองค์กรใช้ในการท างานเพื่อ เข้าถึงและประยุกต์ใช้กลไกทางการตลาดกับสินค้าและบริการของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา สินค้า การท า PR โปรโมทแบรนด์ หรือแม้แต่การเข้าถึงลูกค้าโดยการใช้ Customer Service ก็ตาม โดยการออกแบบ Process หรือกระบวนการที่ดีนั้นจะช่วยให้สามารถเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น และสร้าง Customer Experience ได้ดียิ่งขึ้นเพราะสามารถรู้ Customer Journey ของลูกค้าได้

16 ตั้งแต่แรกว่าในแต่ละขั้นตอนลูกค้ามีความต้องการอะไรบ้างและยังช่วยในการปิดช่องโหว่ที่จะท าให้ ลูกค้าเกิดความรู้สึกหรือประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อธุรกิจ 7. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Evidence) P ตัวสุดท้ายนั้นก็คือ Physical Evidence ซึ่งถ้าให้แปลตรงตัวก็คือ หลักฐานที่จับต้องหรือ พิสูจน์ได้ แต่ถ้าในบริบทของ Marketing Mix นั้นสิ่งนี้จะครอบคลุมถึงประสบการณ์ที่จับต้องได้ที่ ลูกค้าได้รับจากบริษัทหรือสินค้าและบริการจากบริษัทนั้นเอง วิเคราะห์องค์ประกอบของการตลาด 7Ps ของโรงแรมที่นักศึกษาฝึกงาน วิเคราะห์องค์ประกอบของการตลาด 7Ps 3.2 ผลิตภัณฑ์ ( Product ) คือห้องพักจ านวน 43 ห้อง แบ่งประเภทห้องได้3 ประเภทดังนี้ 3.1.1 Superior Room ภาพที่ 16 ลักษณะของห้อง Superior Room ที่มา : https://shorturl.asia/M6cfJ

17 3.1.2 Deluxe Room ภาพที่ 17 ลักษณะของห้อง Deluxe Room ที่มา : https://shorturl.asia/M6cf 3.1.3 Grand Suite Room ภาพที่ 18 ลักษณะของห้อง Grand Suite Room ที่มา : https://shorturl.asia/M6cf

18 3.3 ราคา ( Price ) ราคาห้องพักของแต่ละประเภท และ ราคาสินค้าและบริการที่โรงแรมมี จ าหน่าย ภาพที่ 19 ประเภทของห้องพัก ที่มา : https://shorturl.asia/M6cf 3.4 ช่องทางการจ าหน่าย ( Place ) จ าหน่ายโดยช่องทางออนไลน์ใน Application www.สากลทั่วโลก ภาพที่ 20 www.ที่ใช้เป็นช่องทางการจ าหน่ายทางช่องทางรงแรม ที่มา : http://gg.gg/1361on 3.5 การส่งเสริมการตลาด ( Promotion ) จะมีการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆให้กับลูกค้า ในแต่ละช่วงนั้น เช่น โปรโมชั่นค็อกเทลและอาหารในแต่ละช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น วันวาเลนไทน์

19 ภาพที่ 21 ภาพโปรโมชั่นค็อกเลในช่วงวันวาเลนไทน์ ที่มา : http://gg.gg/1361u5 ภาพที่ 22 ภาพโปรโมชั่นของอาหารในวันวาเลนไทน์ ที่มา : http://gg.gg/1361u5

20 3.6 การสร้างและการน าเสนอ ( Physical Evidence ) มีลักษณะเป็นทางกายภาพ ทางด้านการให้ความสะดวก มีการจัดสถานที่อย่างเหมาะสม และมีความสะอาด กับ สภาพแวดล้อมที่ ดี เป็นต้น ภาพที่ 23 สถานที่ที่มีความสะอาด ที่มา : http://gg.gg/1361u5 ภาพที่ 24 สภาพแวดล้อมภายในโรงแรม ที่มา : http://gg.gg/1361u5

21 ภาพที่ 26 สภาพแวดล้อมของสระน้ า ที่มา : http://gg.gg/1361u5 3.7 กระบวนการ ( Process ) การช าระเงินผ่านช่องทางคิวอาร์โค้ด บัตรเครดิต เงิน สด แอปพิเคชั่นธนาคารต่างๆ เป็นต้น ภาพที่ 27 ช่องทางการช าระเงินต่างๆ ที่มา : http://gg.gg/1361u5

22 งานชิ้นที่ 4 พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าโรงแรม มอบหมายให้นักศึกษา วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าของโรงแรม ตามเนื้อหาที่ก าหนด และระบุ พฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว กลุ่มลูกค้าโรงแรม จ า กโ รง แ ร มพ ร ะ สิง ห์ วิ ล เ ล จ ซึ่ง ตั้งอ ยู่ใ จ ก ล าง เ มื อง ใ ก ล้พื้นที่ท่ อง เ ที่ ย ว ที่ส าคัญ พบว่ากลุ่มลูกค้าในโรงแรมนั้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว เนื่องจากพื้นที่ย่านดังกล่าวเป็น ย่านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนักท่องเที่ยว ประกอบกับมีจ านวนที่ พักและสิ่งอ านวยความสะดวกที่ สามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวได้อย่างครบครัน โดยส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเพื่อน กลุ่มคู่รัก และกลุ่มครอบครัว ทั้งนี้ส ามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. F.I.T (Free Individual Traveller) กลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักตามล าพัง ซึ่งจะตรงข้ามกับ G.I.T (Group Individual Travellers) ซึ่ ง เ ป็ น นั ก ท่ อ ง เ ที่ ย ว ที่ ม า เ ป็ น ก ลุ่ ม ร ว ม ไ ป ถึ ง ก รุ๊ ป ทั ว ร์ ต่าง ๆ ซึ่งอีกความหมายหนึ่งของ F.I.T หมายถึง การท่องเที่ยวแบบอิสระ (Foreign Individual Tourism) โดยเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวสูง เป็นลักษณะการท่องเที่ยวที่ นักท่องเที่ยวจัดการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวทุกอย่างด้วยตนเองทุกขั้นตอน ประกอบไปด้วย 1. กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเพื่อธุรกิจ เป็นกลุ่มที่ต้องติดต่อเจรจาทางธุรกิจ โรงแรมของ คุณอาจจะต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตในระดับที่ค่อนข้าง เร็วและทั่วถึง 2. กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน เป็นกลุ่มที่ต้องการพักผ ่อนโดยเฉพาะ โรงแรม ควรจะมีสไตล์ที่เน้นความสบาย เรียบง่ายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง หรือจะเน้นความหรูหราไปเลยก็ได้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการอย่างเหนือชั้น โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศก็จะมาพัก ที่โรงแรมเป็นเวลานาน มีเป็นเดือนและเป็นปีค่อนข้างมาก 3. กลุ ่มชาวต ่างชาติ Backpacker ส ่วนใหญ ่แล้วกลุ่มนี้เน้นเดินทางเอาประสบการณ์ เพราะฉะนั้นที่พักควรจะมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ หรือเป็นอะไรที่แสดงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น มีอะไร ให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจถึงวิถีชีวิตด้วย ที่ส าคัญต้องอยู่ในราคาประหยัด

23 2. Group กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นหมู่คณะ เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นหมู่คณะตั้งแต่10 คนขึ้นไป ส่วนใหญ่จะใช้บริการของบริษัท น าเที ่ยวหรือจัดกันเองเป็นหมู่คณะใหญ่ๆ อาจจะแบ่งไปตามส ่วนต่างๆ ของแต่ละบริษัทโดยการ แบ่งจ าแนกตามประเภทของลูกค้าที่มาท่องเที่ยว สามารถแบ่งได้ดังนี้ 1. Business ในกลุ่มนี้อาจจะมีคณะนักธุรกิจเดินทางมาหารือร่วมกัน ทางโรงแรมควรจะมี ห้องส าหรับประชุมไว้ 2. Family ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีเด็กมาด้วย ถ้าจะเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ คงจะต้องมีโซน ส าหรับเด็ก เช่น สระว่ายน้ าเด็ก ส าหรับผู้ใหญ่จะมาเพื่อพักผ่อน มักจะต้องการสิ่งอ านวยความ สะดวก และความเป็นส่วนตัว 3. Wedding&Honeymoon 4. Friends กลุ่มเพื่อนที่มากกว่า 1 คนขึ้นไป ทั้งชาวไทย และต่างชาติ ส่วนใหญ่จะเน้น ท่องเที่ยว ต้องการที่พักที่คุ้มค่า โรงแรมอาจจะจัดกิจกรรมแนวผจญภัย หรือโปรโมชั่นส าหรับมา เป็นกลุ่มเป็นแก๊งโดยเฉพาะ ยิ่งเอาโซเชียลมีเดียเข้ามาท าการตลาดด้วยแล้ว เช่น ไลค์+แชร์เพจแล้ว ได้รับส่วนลด ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อการตลาด 5. Group Tour นักท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ ซึ่งมาจากบริษัททัวร์เป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะเจาะ ไปที่กลุ่มตลาดนี้ โรงแรมควรจะมีเครือข่ายที ่กว้างขวาง และท าข้อตกลงกับบริษัททัวร์ไว้ให้มาก และคุ้มค่าที่สุด 2. ระบุเหตุผลในการตัดสินใจเลือกพักโรงแรม ตามหลัก 7Ps 2.1 ผลิตภัณฑ์(Product) โรงแรมพระสิงห์ วิลเลจมีห้องพักที่เป็นเอกลักษณ์ โดยรูปแบบ ของโรงแรมจะเป็นแนวไทยล้านนา และยังมีอุปกรณ์ในห้องพักครบครัน เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น และมี บริการให้ใช้รถจักยาน สระว่ายน้ า มีบริการห้องพักฮันนีมูน เป็นต้น 2.2 ราคา (Price) ในด้านราคาห้องพักของโรงแรม ราคาห้องพักมีความเหมาะสมกับระดับ ของโรงแรม โดยสามารถเลือกช่องทางในการจองได้และในแต่ละช่องทางการจองจากแอปพลิเคชั่น ต่างๆ เช่น Agoda Tripadvisor และ ราคาของห้องพักก็จะมีราคาที่ไม่เท่ากัน ตามประเภทของ ห้องพักและจ านวนของผู้เข้าพักอีกทั้งห้องพักยังมีความคุ้มค่าส าหรับการที่ลูกค้าจ่ายเงินภายใน

24 ห้องพักมีอุปกรณ์ครบครัน และราคาที่เราจ่ายก็รวมกับอาหารเช้าที่มีอาหารให้เลือกทานแบบบุฟเฟต์ และในการจองห้องพักในแต่ละเดือน โรงแรมจะมีโปรโมชั่นส าหรับห้องพัก 2.3 ช่องทางการจัดจ าหน่าย (Place) โรงแรม มีเว็ปไซต์ในการจองช่องทางหลักและยังมี ช่องทางอื่นที่โรงแรมได้เข้าร่วม เช่น Agoda , Booking เป็นต้น สามารถยกเลิกได้ง่ายในทุกส าหรับ การจอง และโรงแรมยังมีการท าข้อตกลงกับทัวร์ไว้อีกด้วย เพื่อเปิดช่องการการรับนักท่องเที่ยวได้ หลากหลายที่ 2.4 การส่งเสริมการตลาด (Promotion) ในด้านการส่งเสริมทางการตลาดโรงแรมมีโปรโมชั่น ส าหรับห้องพักทุกๆช่วงเทศกาล เช่น เทศกาลปีใหม่ เทสกาลตรุษจีน มีการอัพเกรดห้องพักแลสถานที่ โดยรอบโรงแรมให้มีความสวยหรูมากขึ้น พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นส าหรับส่วนลดราคาห้องพัก อาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ 2.5 บุคลากร (People) บุคลากรของโรงแรมทุกคนได้รับการอบรมมาดีและมีการอบรมทุกๆ เดือน พนักงานมีความสุภาพเรียบร้อย พนักงานสามารถให้ข้อมูลได้อย่างชัดเจนกับลูกค้า พนักงานมี มนุษยสัมพันธ์อัธยาศัยดีในการให้บริการ พนักงานสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดี 2.6 การสร้างและน าเสนอลักษณะทางกายภาพ (Physical Evidence) ในด้านทางกายภาพ ความสะอาดโดยรอบโรงแรมในด้านภาพรวมมีความสะอาดสะอ้าน มีป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ชัดเจน มี ที่จอดรถเพียงพอส าหรับลูกค้าทุกท่าน โรงแรมมีสภาพแวดล้อมที่ดี 2.7 กระบวนการ (Process) การให้บริการส าหรับลูกค้าที่รวดเร็ว พนักงานมีความสุภาพทั้ง ค าพูดและภาษากาย มีการบริการและให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างชัดเจน มีการให้บริการที่ประทับใจ เช่น สามารถจดจ ารายละเอียดของลูกค้าได้บริการอย่างตั้งใจ เต็มใจ และจริงใจ เพื่อให้ลูกค้าได้รับ ความประทับใจและกลับมาพักในองค์กรในครั้งถัดไป

25 งานชิ้นที่ 5 แผนการส่งเสริมการตลาดเบื้องต้น กลยุทธ์ทางการตลาด การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการขาย 1. แผนการส่งเสริมการตลาตเบื้องต้น ความหมาย “การส่งเสริมการตลาด” Promotion คือ ความพยายามที่จะท าให้ผู้รับข่าวสาร เกิดความรู้ทัศนคติพฤติกรรมไปในแนวที่กิจการต้องการ ชักชวนเขาให้ยอมรับแนวคิด สินค้าและ บริการที่ได้เสนอไป การโฆษณา (Advetising) การโฆษณา (Advertising) เป็นกิจกรรมในการเสนอข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ ที่ต้องมีการ จ่ายเงินหรือมีค่าใช้จ่ายให้กับผู้ช่วยด าเนินการ ประเภทของการโฆษณา เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ (หนังสือพิมพ์ นิตยสาร แผ่นพับ ใบปลิว ป้ายโฆษณาที่ต่าง ๆ) สื่อที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์และวิทยุ สื่ออิเล็กทรอนิกส์(ข้อความโฆษณา ที่ส่งเข้าโทรศัพท์มือถือ ข้อความโฆษณาที่ปรากฏบนเว็บไซต์) การส่งเสริมการขาย (sales promotion) หมายถึง การจูงใจที่เสนอคุณค่าพิเศษ หรือการจูงใจผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภค คนกลาง (ผู้จัด จ าหน่าย) หรือหน่วยงานขาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างยอดขายในทันที จากความหมาย สามารถสรุปได้ว่า 1. การส่งเสริมการขายเป็นการให้สิ่งจูงใจพิเศษเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ (extra incentive to buy) เช่น คูปอง ของแถม การชิงโชค การแลกซื้อ เป็นต้น 2. การส่งเสริมการขายเป็นเครื่องมือกระตุ้น (acceleration tool) กิจกรรมการส่งเสริมการ ขายมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อจ านวนมากขึ้น และสามารถตัดสินใจซื้อได้ในเวลา ทันทีทันใด 3. การส่งเสริมการขายใช้ในการจูงใจกลุ่มต่าง ๆ 3 กลุ่ม คือ 3.1 การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ผู้บริโภค (consumer pomotion) เป็นการส่งเสริมการขาย ที่ มุ่งสู่ผู้บริโภค คนสุดท้าย (ultimate consumer) เพื่อจูงใจให้เกิดการซื้อจ านวนมากขึ้น ตัดสินใจ ซื้อได้รวดเร็วขึ้น เกิดการทดลองใช้ถือว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ดึง (pull strategy) 3.2 การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่คนกลาง (trade promotion) เป็นการส่งเสริมการขายที่มุ่ง สู่ พ่อค้าคนกลาง (middleman) ผู้จัดจ าหน่าย (distributor) หรือผู้ขาย (dealer) ถือว่าเป็นการใช้ กลยุทธ์ผลัก (push strategy)

26 3.3 การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่พนักงานขาย (sales-force promotion) เป็นการส่งเสริม การขายที่มุ่งสู่พนักงานขาย (salesman) หรือหน่วยงานขาย (sales-force) เพื่อให้ใช้ความพยายาม ในการขายมากขึ้น ถือว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ผลัก (push strategy) การขายโดยพนักงานขาย (personal selling) พนักงานขาย หมายถึง ผู้แทนของบริษัทที่ไปพบผู้ที่คาดหวัง โดยมีวัตถุประสงค์ว่าจะ เปลี่ยนแปลงสถานภาพของผู้ที่คาดหวังให้เป็นลูกค้า การบริหารการขาย หมายถึง การวางแผน การปฏิบัติตามแผน และการควบคุม โปรแกรม การขายโดยบุคคลที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการขายของบริษัท การประชาสัมพันธ์ (public relations) - เป็นการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างทัศนคติ ความน่าเชื่อถือ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดแก่ องค์กรกับกลุ่มต่าง ๆ - เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มต่าง ๆ - เป็นกลยุทธ์ในระยะยาว - ให้ข้อมูลด้านบวกเกี่ยวกับธุรกิจ ข้อดีของการประชาสัมพันธ์ 1. สามารถสร้างความเชื่อถือได้สูง 2. ช่วยสร้างภาพลักษณ์แก่องค์การ 3. ต้นทุนต่ ากว่าการโฆษณา 4. สามารถหลีกเลี่ยงการสับสน 5. มีการเผยแพร่ข่าวสารอย่างรวดเร็ว 2. กลยุทธ์ (Strategy) หมายถึง กลวิธีหรือแบบแผนส าคัญที่ถูกวางไว้ส าหรับการด าเนินงานใดๆ เพื่อใช้ เป็น เครื่องมือในการสร้างความส าเร็จ และส่งผลให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ตั้งไว้ ซึ่งกลยุทธ์ ไม่ใช่ หมายถึงเพียงแค่การจัดวางแผนการท างานเพื่อสร้างความส าเร็จเพียงเท่านั้น แต่ยังถูกใช้ เป็นเครื่องมือ ส าหรับการต่อสู้แข่งขันกันในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของบริษัทและตลาดคู่แข่ง โดยกลยุทธ์เบื้องต้น ที่ผู้ผลิตจะต้องมีคือการด าเนินงานที่มีขั้นตอน การตัดสินใจในเกี่ยวกับ

27 งบประมาณค่าใช้จ่ายทาง การตลาดที่เหมาะสม รวมทั้งจะต้องสามารถจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่มา ใช้ให้เกิดประโยชน์และได้ผลงานที่มีคุณภาพสูงสุด กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) หมายถึง แบบแผนพื้นฐานหรือแนวทางที่ถูกก าหนดขึ้นส าหรับส ร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและตลาดเป้าหมาย โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดสรร ทรัพยากรของประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผลผลิต แบ่งใช้สัดส่วนต่างๆ ทางการตลาด ให้เหมาะสมส าหรับการด าเนินงาน รวมทั้งด าเนินงานในขั้นตอนต่างๆ โดยประกอบไปด้วย การตัดสินใจ การก าหนดระดับค่าใช้จ่ายการตลาด การก าหนดต าแหน่งผลิตภัณฑ์ การก าหนดกลยุทธ์ ส่วนผสม และการก าหนดตลาดเป้าหมายทางการตลาดอย่างชัดเจน จนสามารถบรรลุเป้าหมาย ทางเศรษฐกิจ ที่ตั้งไว้ได้ กลยุทธ์การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion Strategies) กลยุทธ์การตลาด 8P คือ กลยุทธ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ ส าหรับการด าเนินงาน ทางการตลาดจากนักธุรกิจทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นกระบวนการท างานที่สามารถเห็นผลลัพธ์ ความก้าวหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์ขั้นพื้นฐานส าหรับการพัฒนาและต่อยอดเป็น กลยุทธ์อื่นๆ ได้ในอนาคต กลยุทธ์การตลาด 8P ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดพื้นฐานในการ ท าธุรกิจส าหรับผู้ประกอบการทุกประเภท ประกอบด้วย ดังนี้ 1. Product กลยุทธ์ทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เป็นกลยุทธ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ซึ่ง ผู้ประกอบการจะต้องท าการพิจารณาออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ให้สามารถสร้าง ความพึงพอใจ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ได้ ทั้งการตั้งเป้าหมายคุณสมบัติ สินค้า การเลือกใช้วัตถุดิบในกระบวนการผลิต รวมทั้งการน าสินค้าไปเปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อย กับกับ ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งทางการตลาด เพื่อเป็นประโยชน์ส าหรับการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพที่ดี ขึ้นต่อไป 2. Price กลยุทธ์ทางด้านราคา โดยการก าหนดราคาของสินค้านอกจากผู้ประกอบการ จะต้องค านึงถึงปัจจัย ต้นของทุนการผลิตแล้ว ยังต้องค านึงถึงสภาพการแข่งขันของสินค้าชนิดนั้นๆ ในตลาด ซึ่งส าหรับ สินค้าที่มีคู่แข่งทางการตลาดมากผู้ประกอบการสามารถใช้วิธีการก าหนดราคาสินค้าให้น้อยกว่า

28 เพื่อแย่งชิงฐานลูกค้า หรืออาจจะท าการก าหนดราคาให้สูงกว่าเพื่อจัดวางต าแหน่งสินค้าให้ อยู่เหนือกว่า ตลาดคู่แข่งได้เช่นเดียวกัน 3. Place กลยุทธ์ช่องทางการจัดจ าหน่าย เป็นกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาวางแผนให้ดี เนื่องจาก ช่องทางกระจายสินค้าที่เลือกใช้ สามารถส่งผลต่อก าไรโดยรวมที่ผู้ประกอบการจะได้รับ โดยช่อง ทางการจัดจ าหน่ายทางการตลาดในปัจจุบันมีอยู่สองรูปแบบ ได้แก่ การขายผ่านพ่อค้าคนกลางและ การขายสู่ผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งช่องทางการขายสู่ผู้บริโภคโดยตรงจะสามารถสร้างผลก าไรได้สูง ตรง ข้ามกับการขายผ่านพ่อค้าคนกลางที่จะสามารถสร้างยอดการขายได้สูงกว่า 4. Promotion โปรโมชั่นหรือการส่งเสริมการตลาด เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้า ให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างดี โดยกลยุทธ์ดังกล่าวที่ถูกน ามาใช้จะต้องมีความสอดคล้อง รวมทั้ง สามารถส่งเสริมกลยุทธ์อื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การลดราคาสินค้า การแถมสินค้า หรือการแจกสินค้า เป็นต้น ซึ่งหากโปรโมชั่นที่ผู้ประกอบการเลือกใช้สามารถตอบโจทย์ความต้องการ ของ ผู้บริโภคได้ ก็จะส่งผลให้สามารถเพิ่มยอดขายได้มากยิ่งขึ้น 5. Packaging บรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนเป็นหน้าตาของสินค้า ผู้ประกอบการจึงจ าเป็นต้องให้ความส าคัญในการ วางกลยุทธ์ทางการตลาดส าหรับบรรจุภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายในการสร้างความสวยงามโดดเด่น รวมทั้ง ความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ให้แก่ผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค ได้มากกว่าสินค้าในตลาดคู่แข่ง จนสามารถสร้างยอดขายและก าไรที่เพิ่มขึ้นได้ 6. Personal พนักงานขาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ไม่สามารถท า การลอกเลียนแบบได้ง่าย โดยหากผู้ประกอบการมีพนักงานขายที่มีความรู้ มากประสบการณ์ รวมทั้งมีความสามารถในการจูงใจผู้บริโภค จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง โดยการใช้ประโยชน์จากความสามารถของบุคคล 7. Public Relation

29 กลยุทธ์การใช้ข่าวสารในการชักจูงผู้บริโภค ถือว่าเป็นวิธีการทางการตลาดที่มีความเหมาะสม กับ สภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ที่สื่อต่างๆได้เข้ามามีอิทธิพลในสังคมมากขึ้น โดยกล ยุทธ์ดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มทัศนคติเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค รวมทั้งสามารถ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สินค้าได้เช่นกัน 8. Power กลยุทธ์ทางการตลาดเกี่ยวข้องกับอ านาจ เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ส าหรับการต่อรอง ควบคุม รวมทั้ง แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการค้ากับคู่แข่งทางการตลาด ซึ่งอ านาจต่อรองที่ผู้ประกอบการมีจะ สามารถสร้างข้อเสนอที่ดีที่สุดให้แก่ธุรกิจได้ กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ (Public Relations Strategies) ใช้กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เป็นวิธีการด าเนินการที่จะสร้างความร่วมมือในการท ากิจกรรม อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อน าไปสู่การยอมรับวิธีปฏิบัติให้แพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง โดยวิธีการ ดังกล่าวต้องอาศัยการใช้สื่อต่างๆ อย่างหลากหลาย โดยมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอน ว่า ต้องการให้กลุ่มเป้าหมาย ยอมรับในสินค้านั้นๆ เครื่องมือที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ -การติดต่อด้วยวาจา -พูดอย่างเป็นทางการ -อภิปรายกลุ่ม -พูดอย่างไม่เป็นทางการ –การสาธิต -การประชุม –ภาพยนตร์เพื่อการประชาสัมพันธ์ -โฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์หน่วยงานกิจกรรมพิเศษอื่น กลยุทธ์การขายโดยใช้พนักงานขาย (Personal Selling Strategies) การติดต่อสื่อสารทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ การขายโดยพนักงานขายเป็นสิ่งจ าเป็น ที่ ช่วยผลักดันให้ลูกค้าใช้สินค้าใหม่ เพิ่มยอดขาย และให้ลูกค้าได้รู้ถึงตราสินค้าของบริษัท ดังนั้น จึงอาจ กล่าวได้ว่า การขายโดยพนักงานขาย (Personal Selling) คือ รูปแบบของการติดต่อสื่อสาร ระหว่าง บุคคลต่อบุคคล (Person-to-person communication) ที่พนักงานขาย (Salesperson) ใช้ความ พยายามในการกระตุ้นให้ผู้ซื้อท าการซื้อสินค้าหรือบริการของบริษัท จะเห็นได้ว่าการขาย

30 โดยพนักงาน ขายเป็นกระบวนการติดต่อสื่อสารสองทาง (Two-way communication process) ที่ทั้งพนักงาน ขายและลูกค้าคาดหวังสามารถตอบสนองซึ่งกันและกันอย่างทันทีทันใด ดังนั้น พนักงานขาย (Salesperson) คือ บุคคลที่รับผิดชอบในการติดต่อ แสวงหาลูกค้า เสนอขาย กระตุ้น ให้ลูกค้าเกิด ความตั้งใจและตัดสินใจซื้อ ให้บริการก่อนและหลังการขาย รวมถึงการให้ค าแนะน า ลูกค้า ในองค์การ ซึ่งประกอบด้วยพนักงานขายมากกว่าหนึ่งคนจึงจัดตั้ง หน่วยงานขาย (Sales force) ซึ่งหมายถึง กลุ่ม ของพนักงานขายตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไปที่รับผิดชอบในการติดต่อ แสวงหาลูกค้า เสนอขาย ตลอดจน ให้บริการก่อนและหลังการขายแก่ลูกค้า ตัวอย่างกลยุทธ์ทางการตลาด 3. การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อการส่งเสริมการขาย การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์มีความส าคัญ เพราะสามารถ ท าให้ลูกค้าได้รู้จักได้มากขึ้น ไม่ว่าจะด้าน การบริการ ประเภทห้องพัก ห้องอาหาร โปรโมชั่นต่างๆ สิทธิพิเศษต่างๆ ที่ แขกจะได้รับรายละเอียด เกี่ยวกับโรงแรม แต่สื่อสิ่งพิมพ์นั้นมีหลากหลายให้ได้เลือกน ามาใช้เพื่อให้เหมาะแก่การ เสนอให้กับ ลูกค้าของ ให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจและอยากมาใช้บริการ โดยได้ใบปลิว (Leaflet, Handbill) เป็นสื่อ สิ่งพิมพ์ใบเดียว ที่เน้นการประกาศหรือโฆษณา มักมีขนาด A4 เพื่อง่าย ในการแจกจ่าย ลักษณะการ แสดงเนื้อหาเป็นข้อความที่ผู้อ่าน อ่านแล้วเข้าใจ และเผยแพร่จะเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ปริ้น ออกมาเป็นกระดาษแจกแต่จะ เป็นการเผยแพร่ผ่าน ผ่านช่องทาง สื่อโซเชียล Facebook Instagram และ Line สื่อโซเชียลมีประโยชน์อย่างมากในปัจจุบัน และเป็นที่นิยมสูงในยุคเทคโนโลยีปัจจุบัน และ เนื่องด้วย เป็นที่นิยมท าให้มีผู้คนมากมายสามารถมองเห็นได้ง่าย หากสามารถสร้างให้ช่องทางการ เผยแพร่มีคน รู้จักเยอะก็สามารถท าให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยในการ ท าธุรกิจ ดังนั้น รูปภาพต่างๆ และข้อความใน การเผยแพร่นั้นเป็นสิ่งส าคัญอย่างมากในการดึงดูดลูกค้า

31 ภาพที่ 28 โปรโมชั่นต่างๆ ที่มา : https://shorturl.asia/wbe2P ภาพที่ 29 โปรโมชั่นต่างๆ ที่มา : https://shorturl.asia/9ZPr1 สื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อการส่งเสริมการขาย การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Marketing) ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเร็วที่เรียกกันว่ายุคนี้ คือ ยุคดิจิตอล ระบบการตลาดก็เช่นเดียวกัน ผลจากเทคโนโลยีท าให้ระบบ การตลาดเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท าให้การตลาดต้องปรับตัวให้ทัน กับระบบการค้า ได้จัดท าคลิปวีดีโอขนาดสั้น ไม่ว่าจะเป็น

32 การวีดีโอ รีวิวห้องพัก ห้องอาหาร เมนูอาหารต่างไป และบริเวณโดยรอบ อีกทั้งมากมาย เพื่อให้แขก หรือผู้ที่ ก าลังมองหาที่พักได้ชมก่อนการตัดสินใจเข้าพัก ยังการให้ค าแนะน าต่างๆในการใช้อุปกรณ์ ไฮเทคต่างๆ อีกด้วย ซึ่งการเผยแพร่ภาพวีดีโอจะผ่าน เพจ Facebook Instagram Line และเว็บไซต์

33 บรรณานุกรม “สถิตินักท่องเที่ยวไทยในปี พ.ศ. 2563-2565” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล : http://nscr.nesdc.go.th “การเจริญเติบโตของธุรกิจโรงแรมไทย พ.ศ. 2563-2565” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล : https://bgrimmtrading.com “5 จังหวัดที่มีจ านวนห้องพักมากที่สุดในไทย” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล : https://www.smartsme.co.th “โรงแรมเครือข่าย (Chain Hotel) และโรงแรมที่อยู่ในเครือข่ายนั้นจ านวน 5 เครือข่าย” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล: https://teawlataem.com “ความหมายส าคัญของการตลาดต่อธุรกิจโรงแรม” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล : https://www.a-lisa.net “องค์ประกอบของการตลาด 7Ps” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล : https://adaddictth.com/knowledge/7Ps-Market “พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าโรงแรม” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล : https://www.kaohoon.com/news/529195 “แผนการส่งเสริมการตลาตเบื้องต้น” (ระบบออนไลน์) แหล่งข้อมูล : file:///C:/Users/Asus/Downloads

34 ประวัติผู้จัดท ำ ชื่อ - สกุล นางสาวศรุตา กลิ่นกระโทก ระดับชั้น ปวส.2/1 สาขาวิชา การโรงแรม ประเภทวิชา อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประวัติส่วนตัว วัน เดือน ปี ที่เกิด วันเสาร์19 เมษายน 2546 อายุ19 ปี ที่อยู่ 232/28 ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 ประวัติการศึกษา ปี พ.ศ. 2559-2561 มัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนหอพระ อําเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2561-2562 ประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1 - 2 สาขาวิชาการโรงแรม ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2563 ประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 สาขาวิชาการโรงแรม ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2564 - 2565 ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงปีที่ 1 - 2 สาขาวิชาการโรงแรม ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่