ค่มู อื การปฏบิ ัติงานในสถานประกอบกจิ การ
ปโิ ตรเคมี
คำนำ
การปฏิบตั งิ านในสถานประกอบกิจการประเภทปิโตรเคมมี ีความเส่ยี งสูงอย่างมากสำหรับผปู้ ฏิบัตงิ าน
เพ่ือเปน็ การป้องกันอุบตั เิ หตุทอี่ าจเกดิ ขึน้ ได้กบั ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ผู้ร่วมงานหรือผทู้ ีเ่ กย่ี วข้องตลอดจนป้องกนั ความ
เสียหายจากอบุ ตั เิ หตุและความเสียหายต่อส่งิ แวดล้อม
ค่มู อื ฉบับนีจ้ ัดทำขึ้นเพ่ือใชเ้ ป็นแนวปฏบิ ัติสำหรบั การปฏิบัติงานในสถานประกอบกจิ การประเภท
ปิโตรเคมี เป้าหมายเพือ่ ให้มกี ารจัดการความปลอดภยั ในในสถานประกอบกจิ การประเภทปโิ ตรเคมีตาม
กฎหมายและความปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัตงิ าน โดยแสดงข้อมลู ความเปน็ อนั ตราย อบุ ตั ิเหตุ และความเส่ยี งที่
สามารถเกดิ ข้ึนได้ในสถานประกอบการปโิ ตรเคมี กฎหมายท่เี กี่ยวข้องในการปฏบิ ัตงิ าน กฎของการปฏบิ ตั งิ าน
การชบี้ ่งอนั ตรายและแผนป้องกันและระงบั อคั คีภยั
คณะผูจ้ ัดทำ
สารบัญ
นโยบายดา้ น ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสิ่งแวดล้อม.....................................................................1
อันตราย อบุ ตั เิ หตุและความเสย่ี งทสี่ ามารถเกิดขึ้นไดใ้ นสถานประกอบการ...............................................2
สถานประกอบการเกย่ี วกับกา๊ ซธรรมชาติ ................................................................................................... 2
สถานประกอบการเกี่ยวกับน้ำมันดบิ ........................................................................................................... 6
กฎหมายทเี่ ก่ียวข้อง................................................................................................................................11
กฎของการปฏบิ ัติงานท่ัวไป ...................................................................................................................... 12
กฎของการปฏิบัตงิ านอันตราย.................................................................................................................. 15
การช้บี ่งอันตราย ....................................................................................................................................19
ตัวอยา่ งการชี้บ่งอนั ตรายด้วยวธิ ี FMEA.................................................................................................... 20
แผนดบั เพลงิ ..........................................................................................................................................23
แผนอพยพหนีไฟ....................................................................................................................................24
นโยบายดา้ นความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และส่งิ แวดลอ้ ม
1. ปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง รวมถึง
ขอ้ กำหนดองค์กร และมาตรฐานอุตสาหกรรมทีเ่ กีย่ วข้อง
2. บริหารจดั การความเสยี่ งอยา่ งมีประสิทธิภาพ เพ่อื ลดอบุ ัติเหตแุ ละอบุ ัติการณจ์ ากการทำงาน
3. พัฒนาระบบบริหารจัดการ บุคลากร เครื่องมือ ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับมาตรฐานด้านความ
ปลอดภยั อาชวี อนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
4. ความปลอดภัยในการทำงานเป็นหน้าที่และรับผิดชอบในการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน
ผู้บังคับบัญชาทกุ ระดับต้องเป็นแบบอยา่ งที่ดี เป็นผู้นำ สนับสนุน ส่งเสริมให้พนักงานตระหนักรูถ้ ึงการทำงาน
ด้วยความปลอดภยั
5. สนับสนุนและส่งเสริมให้มกี ารปรับปรุงสภาพแวดล้อม และวิธีการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย ตลอดจน
ผู้บังคับบัญชาต้องควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้มีการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยที่เหมาะสม รวมถึง
การรักษาไว้สขุ ภาพอนามยั ท่ีดขี องพนกั งานทุกคน
6. พัฒนาความสามารถของบุคคลากรและผู้รับเหมาผ่านระบบประเมินศักยภาพด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสิง่ แวดลอ้ ม เพื่อรกั ษามาตรฐานการปฏิบตั ิงานอยา่ งปลอดภัยและมปี ระสิทธภิ าพ
7. กำหนดวตั ถปุ ระสงค์และเป้าหมายในการปฏบิ ัตงิ านทชี่ ัดเจน ดำเนนิ การตรวจสอบและประเมินผล
เพ่อื ให้เกดิ การปรับปรงุ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง และม่งุ ส่กู ารปฏิบัติงานทเี่ ปน็ เลศิ
8. ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัย (Safety Culture) ตลอดจนองค์ความรู้และทัศนคติที่ดีในการ
ทำงานดว้ ยความปลอดภัยอยา่ งตอ่ เนือ่ ง เพ่อื ใหเ้ กดิ จิตสำนกึ ดา้ นความปลอดภยั
9. สื่อสารอย่างเปิดเผยและโปร่งใสและถ่ายทอดการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งภายใน
องค์กรและระหวา่ งองค์กร
1
อันตราย อบุ ัตเิ หตุและความเส่ียงที่
สามารถเกดิ ข้ึนได้ในสถานประกอบการ
สถานประกอบการเกย่ี วกับก๊าซธรรมชาติ
กระบวนการหลัก กจิ กรรม อนั ตราย อุบัตเิ หตุ และความเส่ียง
เสยี งดังจากการจุดระเบดิ
การสำรวจทางธรณีวิทยา การจุดระเบิดเพ่ือใหเ้ กิดคล่ืน
ส่นั สะเทอื นไปกระทบชัน้ หนิ
การขุดเจาะ การขดุ เจาะจำเป็นต้องเจาะหลมุ - เครอ่ื งจักรอาจจะหนบี หรือกระแทก
การขนส่งก๊าซธรรมชาติโดย ด้วยเครือ่ งจักรเพ่ือสรา้ งแทน่ หลมุ - มสี ารพษิ ปนเป้ือนจากการขุดเจาะ
ระบบท่อส่งกา๊ ซธรรมชาติ
ผลิต ข้ึนมาเชน่ สารเบนซนิ , ปรอท เป็นต้น
หรือ รวมไปถงึ Hydrogen sulphide
ซ่ึงสามารถทำให้มีปญั หาด้านการดม
กลิ่นเสยี อาจทำให้ หมดสติหรอื
เสยี ชวี ิตได้
การขนส่งก๊าซธรรมชาติโดยระบบ - มีการใช้ปฏิกิรยิ าทางเคมีที่อาจทำให้
ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เกดิ การผกุ ร่อนภายใน โดยการ
ลำเลียงสารทมี่ ฤี ทธิก์ ัดกร่อนปนมากบั
ก๊าซ (Sour Gas: Sulphur Dioxide)
- เกดิ จากการผุกรอ่ นภายนอกอาจมา
จากวัสดหุ มุ้ ทอ่ ชำรุด และระบบ
ป้องกันการผุกร่อนของท่อด้วย
กระแสไฟฟ้า (Cathodic
Protection) บกพร่อง
- การกระทำของบุคคลท่สี าม เช่น
จากการตอกเสาเข็มหรือการใช้
เคร่ืองจักรกลหนักเข้าไปขุด ตอก
เจาะตกั ดินในบรเิ วณท่ีมีท่อส่งก๊าซ
ธรรมชาตฝิ ังอยู่ และไปกระทบต่อท่อ
และอุบตั ิเหตุสว่ นใหญท่ พ่ี บในขั้นตอน
นีม้ กั เกิดจากบคุ คลท่ีสาม
- จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ เชน่
แผ่นดินไหวอย่างรนุ แรง การทรดุ ตวั
2
กระบวนการหลัก กิจกรรม อนั ตราย อุบัตเิ หตุ และความเสยี่ ง
การแยกกา๊ ซ ของแผ่นดินอยา่ งรนุ แรงจนทำใหท้ ่อ
ส่งก๊าซฯ ไดร้ บั ความเสียหาย เป็นต้น
โดยหากท่อสง่ กา๊ ซแตกหรือรวั่ อาจ
นำไปสูภ่ าวะดงั ต่อไปนี้
- การกำจดั สารปรอท เพื่อ - กลน่ิ /ภาวะการขาดออกซเิ จน เมือ่
ป้องกันการผกุ ร่อนของท่อจาก ทอ่ ส่งก๊าซฯ รว่ั และมีกา๊ ซฯ ฟุ้ง
การรวมตัวกับปรอท กระจายไปในอากาศจำนวนมาก หาก
- การกำจดั กา๊ ซ Hydrogen สดู ดมนานๆ จะทำใหเ้ กดิ การวงิ เวียน
sulfide (H2S) และ กา๊ ซ ศรี ษะ หากสดู ดมมากเกนิ ไปจนเข้าไป
แทนที่ออกซเิ จนทำให้หมดสติได้
- เสยี ง ควรอพยพผู้คนออกจาก
บรเิ วณน้นั เพราะหากอยู่ใกลเ้ ป็น
เวลานาน อาจสง่ ผลกระทบต่อระบบ
การฟงั ได้
- แรงดนั ภายในท่อส่งก๊าซฯ มแี รงดัน
สงู หากอยู่ตดิ ชดิ กบั ท่อในขณะทเ่ี กิด
อบุ ัติเหตุจะทำให้ก๊าซฯ พุง่ เข้ามา
สัมผสั ปะทะกบั รา่ งกายโดยตรง อาจ
ทำให้บาดเจบ็ หรือเสยี ชีวติ ได้
- ความร้อน/ไฟไหม้ หากเกิดอุบัตเิ หตุ
ทอ่ สง่ ก๊าซฯ รว่ั หรอื แตกดว้ ยเหตุ
สุดวิสัยใดๆ กต็ าม โอกาสทจ่ี ะเกิดการ
ตดิ ไฟไดม้ นี ้อยมาก เนื่องจากทอ่ สง่
กา๊ ซฯ ฝงั ลึกลงไปใต้ดนิ และมีสถานี
ควบคมุ กา๊ ซฯ ซงึ่ มีอปุ กรณค์ วบคมุ
ต่างๆ ตัง้ อยู่ในพน้ื ทเ่ี ปิดโล่ง
- หากมรี ะบบควบคุมกา๊ ซไม่ดีอาจทำ
ใหก้ ๊าซรั่วโดยเฉพาะก๊าซ Hydrogen
sulfide ซึ่งทำให้มีอาการระคายเคอื ง
ตา ตาแดง มนี ้ำตาออกมาก มีอาการ
ไอจากการระคายเยื่อบทุ างเดินอาหาร
3
กระบวนการหลัก กจิ กรรม อนั ตราย อุบตั ิเหตุ และความเสีย่ ง
Carbon dioxide (CO2) กรณีท่ีกา๊ ซมีความเข้มข้นสงู เริ่มมี
เน่ืองจาก H2S มีพิษและกัดกร่อน อาการปวดเวยี นศีรษะ อาเจียน
ส่วน CO2ทำให้เกิดการอุดตันของ สบั สน ชกั และหมดสติ ท่รี นุ แรงกว่าน้ี
ทอ่ เพราะว่าทรี่ ะบบแยกแก๊สมี เกิดอาการชอ็ ค ปอดบวม และนำ้ ทว่ ม
อุณหภูมติ ำ่ มาก การกำจดั CO2 ปอด จากการระคายเคืองโดยตรง ซึ่ง
ทำโดยใชส้ ารละลาย K2CO3 ผสม อาจทำให้หยดุ หายใจ เกิดภาวะเปน็
ตัวเร่งปฏกิ ิรยิ า CO2 ทไ่ี ดน้ ำไปใช้ กรดในรา่ งกายสูง และเสียชีวิต รวมไป
ประโยชน์ในอตุ สาหกรรมทำ ถงึ กา๊ ซ Carbon dioxide ซ่งึ หาก
น้ำแขง็ แห้งน้ำยาดบั เพลงิ และ รับเข้าไปปริมาณมากๆน้นั จะทำให้
ฝนเทียม เลือดเป็นกรดและกระตุน้ ระบบหายใจ
- การกำจัดความช้นื เน่ืองจาก ให้หายใจเรว็ ขึ้นจงึ ทำให้หวั ใจเตน้ เร็ว
ความชื้นหรือไอน้ำจะกลายเป็น และหมดสติ
น้ำแขง็ ทำใหท้ ่ออุดตนั ทำโดยการ
กรองผา่ นสารที่มรี ูพรุนสงู และ
สามารถดดู ซับนำ้ ออกจากแก๊สได้
เชน่ ซิลกิ าเจล
- แก๊สธรรมชาติทผี่ า่ นขั้นตอน
แยกสารประกอบที่ไมใ่ ช่
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ออกไปแลว้ จะถูกสง่ ไปลด
อณุ หภูมิและทำให้ขยายตัวอย่าง
รวดเร็ว แก๊สจะเปลีย่ นสถานะ
เป็นของเหลวและสง่ ตอ่ ไปยังหอ
กลัน่ เพื่อแยกแก๊ส
การจ่ายออกก๊าซไปยังสถานที่ - สว่ นมากจะจา่ ยออกกา๊ ซ - อนั ตรายจากบุคคล คนบังคับ
ต่างๆ เช่น โรงบรรจกุ ๊าซ ทางการจราจรทางบกรถ รถไฟ ยานพาหนะ เช่น ขบั เร็ว, ขบั โดย
เปน็ ต้น ประมาท, ขับขณะมนึ เมา, ใช้โทรศพั ท์
ขณะขับ, รวมไปถงึ คนเดนิ ถนนและ
ขา้ มถนน เชน่ ไม่ขา้ มถนนตรงทางมา้
ลายหรือสะพานลอย, ข้ามตัดหนา้ รถ
ระยะกระช้ันชิด หรือผ้ทู ่ีขับรถแล้วไม่
ดสู ัญญาณรถไฟ
4
กระบวนการหลัก กจิ กรรม อันตราย อุบตั เิ หตุ และความเสย่ี ง
การบรรจกุ ๊าซลงถัง
- อนั ตรายจากยานพาหนะ เช่น การ
นำยานหาหนะท่ีมีอุปกรณบ์ กพรอ่ งมา
ใช้
- อันตรายจากทางและเครอ่ื งหมาย
สัญญาณ เช่น บริเวณทางแยก, ทาง
โค้ง, ทางชำรดุ ,เครือ่ งหมายสัญญาณ
ชำรดุ
- อันตรายจากธรรมชาติ เช่น ฝนตก
หนัก, หมอกลงจดั เปน็ ต้น
1. การคัดถัง (ดูสภาพสี วนั เดอื น - คนงานอาจพลัดตกไปทีร่ างเลื่อนได้
ปที ่ผี ลติ ) ซ่อมสี และทำทดสอบ - เครื่องจกั รที่หมนุ เป็นวงกลม
5 ปี จากนน้ั จึงสง่ ไปตามรางเลื่อน (ลกั ษณะเหมือนม้าหมุน) หากคนงาน
และเชค็ นำ้ หนักถัง โดยใช้ ไมร่ ะวัง อาจชนคนงานได้
เครือ่ งมือคำนวณวา่ น้ำหนัก ถัง - ถงั ก๊าซอาจะทับคนงานจมลงไปใน
ขนาดนตี้ อ้ งเติมกา๊ ซเท่าไหร่ น้ำและทบั ไว้ และอาจเกิดไฟฟา้ ชอ็ ต
2. การเติมกา๊ ซลงไป โดยถังก๊าซ เพราะคนงานจะต้องจับถงั ในน้ำตอน
วางบนเครอ่ื งจักรท่หี มนุ เป็น ตรวจเชค็ แล้วเอือ้ มมือมาจบั
วงกลม (ลกั ษณะเหมือนมา้ หมนุ ) เคร่ืองจักรตอ่
3. การนำถงั ก๊าซไปทดสอบรอย - ขนั้ ตอนนี้คนยกถงั วางบนเครอ่ื งจักร
รัว่ โดยเครื่องทดสอบรอยรั่ว ซึ่ง ทหี่ มนุ ข้นึ ลง ซึ่งหากมีคนงานคนอืน่ ไป
เปน็ การนำถังแชล่ งไปในนำ้ โดนปมุ่ คำส่งั ให้เคร่ืองจักรทำงานอาจ
4. การนำถังก๊าซไปทดสอบการ ทำให้เครื่องจักรชนคนงานอยู่บริเวณ
ขยายตวั ของก๊าซ เพือ่ ใหด้ วู ่าเมื่อ แถวนนั้ ได้
ทา่ นตอ้ งรับแรงดนั จะมกี าร - ถังกา๊ ซอาจชนหรอื กระแทกศีรษะ
ขยายตวั ออกหรือหดเข้าจะอยู่ใน ของคนงาน
เกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ - คนงานอาจตกลงไปอยูใ่ ตเ้ คร่ืองจกั ร
5. มีการตรวจเชค็ สภาพตัวถงั ทีบ่ ด ซึ่งอาจนำไปสู่การบาดเจบ็ และ
และวาลว์ เปิดปิด ซง่ึ เคร่ืองจกั รใน เสยี ชีวติ
การขนส่งถังก๊าซขนสง่ ไปตามราง
เล่อื นมีลกั ษณะห้อยถังกา๊ ซห้อย
อยู่กลางอากาศแล้วส่งไปตามราง
5
กระบวนการหลัก กจิ กรรม อนั ตราย อบุ ัติเหตุ และความเสีย่ ง
การออกจำหน่ายกา๊ ซ
6. ถงั ที่หมดสภาพการใช้งานจะ
ถูกทำลายทิง้ โดยเคร่ืองจกั รจะบบี
อัดลงมาจากดา้ นบนลงมาบีบอดั
กบั ถงั แกส๊ แล้วบดลงบนพ้ืนจนถงั
ก๊าซแบน
- ผ้ปู ระกอบการจากสถาน อันตรายมักเหมือนกบั อนั ตราย
ประกอบกจิ การตา่ งๆมารบั เอาถัง ทางการขนสง่ ทางบกหรอื บนท้องถนน
กา๊ ซทโ่ี รงบรรจุผ่านการขนสง่ ทาง
บกเปน็ หลัก
สถานประกอบการเก่ียวกับนำ้ มนั ดบิ
กระบวนการหลัก กิจกรรม อันตราย อุบตั ิเหตุ และความเสยี่ ง
พฤติกรรมในการทำงานรวมไปถึง
การจัดหานำ้ มันดบิ ฝ่ายจัดหาน้ำมันดิบจะทำงานอยู่ สภาพแวดลอ้ มในท่ีทำงานและสภาพ
รา่ งกายไมเ่ หมาะสม เช่น น่งั ทำงาน
ในออฟฟิศมีการเจรจาต่อรองซอ้ื หน้าจอคอมนานๆแม้กระทั่ง
ความเครยี ดอาจทำใหเ้ กดิ อาการ
น้ำมันดิบทางโทรศพั ท์และ ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome)
หรือกลุม่ อาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อ
คอมพวิ เตอร์ พงั ผดื (Myofascial pain syndrome)
คืออาการปวดกลา้ มเนื้ออัน
การขนสง่ นำ้ มันดิบจาก ขนสง่ นำ้ มนั ดบิ จากตา่ งประเทศ เนือ่ งมาจากรปู แบบการทำงานที่ใช้
กล้ามเน้อื มดั เดมิ ซำ้ ๆเปน็ ระยะ
ต่างประเทศทางเรอื มายงั ทุน่ ทางเรอื มายังทุ่นรบั นำ้ มันกลาง เวลานานต่อเนื่องได้และ Computer
Vision Syndrome (CVS) คอื กลุ่ม
รบั น้ำมันกลางทะเล ทะเล อาการทางตาทีเ่ กดิ จากการใช้สายตา
กบั คอมพวิ เตอรเ์ ป็นเวลานาน
- เกิดจากการผุกร่อนของเรือและ
ระบบปอ้ งกันการผกุ ร่อน บกพรอ่ ง
- จากปรากฏการณธ์ รรมชาติ เชน่
สึนามิ เป็นตน้
6
กระบวนการหลัก กิจกรรม อันตราย อบุ ัตเิ หตุ และความเสี่ยง
การถา่ ยน้ำมนั เม่ือเรอื มาถงึ
ทุน่ รับน้ำมันดบิ กลางทะเล - เกดิ อบุ ตั ิเหตุ เช่นเรือชนตอไม้หรือ
การกลนั่ นำ้ มนั ดิบ โขดหิน เป็นตน้
1. เมอื่ เรือมาถึงทนุ่ รบั นำ้ มันดิบ - เกดิ จากการผุกร่อนของเรือและ
กลางทะเลจะประคองเรือโดยใช้ ระบบป้องกันการผกุ ร่อน บกพรอ่ ง
เรอื เล็กดนั ข้างเรือท่บี รรทุก - จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ เชน่
นำ้ มนั ดบิ เพ่ือใหเ้ รือทบ่ี รรทุก สึนามิ เปน็ ตน้
น้ำมันดบิ หมุนเข้าหาทุ่น - เกดิ อุบัตเิ หตุ เชน่ เรอื ชนตอไมห้ รอื
2. สง่ เชือกจากเรือที่บรรทุก โขดหิน เป็นตน้
นำ้ มันดบิ ไปยังเรือเล็กเพ่ือเอา - หากมดั เชือกไม่แน่นอาจเกดิ
เชอื กไปผูกกบั ทนุ่ อนั ตรายได้
3. แกะเชือกที่ผูกกับน็อตของท่อ - อนั ตรายมกั เกดิ ขึ้นในขนั้ ตอนน้ี
ส่งน้ำมันออก เพราะหากปลอ่ ยเชือกคล้องน็อต คา้ ง
4.. เรอื เลก็ ลากท่อนำ้ มนั จากทุน่ ไวเ้ ชอื กจะดึงท่อนำ้ มันซึง่ อาจทำใหท้ ่อ
5. ใช้เครนเก่ียวปลายทอ่ ข้ึนจาก แตกและนำ้ มันร่ัวได้เพราะ โดยปกติ
เรือเลก็ เพื่อนำมาต่อกับท่อหวั จา่ ย ถ้าหากมีคลน่ื หรือลมเชือกกจ็ ะติดกับ
นำ้ มันดิบท่ีอย่บู นเรือบรรทกุ ท่อนำ้ มันทกุ ครง้ั
นำ้ มัน - ระวังไม่ให้เชอื กหลดุ เพราะอาจทำให้
6. เปิดวาล์วท่ีทนุ่ เพอื่ จา่ ย เรือเกดิ ความเสียหาย จนอาจเกดิ
น้ำมันดิบขึ้นโรงกล่ัน นำ้ มนั รว่ั
- เครอ่ื งจักรอาจจะหนีบหรือกระแทก
- คนงานอาจลมื ปดิ วาลว์ จนอาจเกิด
นำ้ มนั รวั่ ได้
1. รับนำ้ มนั ดิบเขา้ มาจะปล่อยทิ้ง - คนงานอาจพลัดตลงจากยอดถังเก็บ
ไว้ในถงั เกบ็ ไมน่ ้อยกวา่ 1 วนั น้ำมนั ดิบ (การตกจากทสี่ ูง)
เพอ่ื ให้น้ำแยกตัวตกลงมากน้ ถังให้ - นำ้ มนั ล้นถัง
มากทส่ี ุด จากน้นั ก็จะเปดิ วาลว์ - เพลิงไหม้
กน้ ถงั ไขนำ้ ก้นถังทิ้งไปท่ีบอ่ บำบดั - ระเบดิ
น้ำเสยี ให้มากทส่ี ุดจนไม่มนี ำ้ มา - การรั่วของนำ้ มัน
อกี และตรวจตวั อย่างนำ้ มันโดย - เครือ่ งจักร/ขน้ั ตอน
ต้องข้นึ มายังบนยอดของถังน้ำมัน - ทอี่ บั อากาศ
ซึง่ มีความสูง โดยคุณภาพนำ้ มัน - ความร้อน
7
กระบวนการหลัก กิจกรรม อันตราย อุบัติเหตุ และความเสย่ี ง
ควรมีปริมาณน้ำไม่เกนิ 0.2% - การกัดกร่อนของอปุ กรณ์ซ่งึ เกดิ จาก
โดยปรมิ าตร สารละลาย H2S และ HCL ซ่งึ ทำให้
2. ใช้เครือ่ งกำจดั เกลอื (Desalter) เกิดการรั่วของน้ำมนั ดิบ และอาจเกิด
แยกน้ำและเกลือแร่ทปี่ นอยูอ่ อก การติดไฟ
เน่ืองจากน้ำมนั ดิบที่มปี รมิ าณ - ความร้อน
เกลอื ติดอยู่ และ Chloride ซึ่ง - การเกิดเพลงิ ไหม้
เปน็ เกลือรูปหนึ่งทพี่ บมากใน - การกัดกร่อนของสารเคมี
น้ำมนั ดิบ จะสามารถเปล่ยี นรูป - การรว่ั ไหลของสารเคมี
เปน็ กรดไฮโดรคลอริก ซงึ่ มีฤทธิ์ - ทอ่ี ับอากาศ
กดั กร่อนมาก จงึ ต้องทำการกำจดั - การตกจากทส่ี ูง
เกลือเสยี ก่อน เพ่ือลดปญั หา - การกัดกร่อนของสารเคมี ต่อ
Fouling และ Corrosion โดย โครงสร้างเหลก็ ทำให้เกดิ การรว่ั ของ
ลา้ งเกลอื ออกจากนำ้ มันซง่ึ ใช้น้ำ สารเคมี
3-10% โดยปรมิ าตร ผสมเข้ากับ - การระเบดิ เนื่องจากความดันมีค่าสงู
น้ำดิบทอ่ี ุณหภมู 9ิ 0-150 *C โดย - การเกิดเพลิงไหม้
ผา่ น Mixing Valve เกลือจะ - ความรอ้ น
ละลายลงในนำ้ จากนนั้ แยกชั้นนำ้ - สารไวไฟ
และน้ำมันออกจากกนั ในถัง - ตกจากท่ีสงู
ภาชนะขนาดใหญ่มีเวลาพอที่น้ำ - ที่อับอากาศ
จะแยกตวั ตกลงมา โดยใช้สนาม
ไฟฟ้าแรงสูง (16,000-35,000
Volt) ช่วยในการสลายอมี ัลช่ัน
3.เตาเผา (Furnace) อ่นุ นำ้ มันให้
มอี ุณหภูมสิ งู ขน้ึ จนใกลเ้ คียงกับ
อุณหภูมิเร่ิมตน้ ทจี่ ะใชส้ ำหรบั การ
กลั่นคือ ให้อยู่ในช่วงอุณหภมู ิ
ประมาณ 300-350 องศา
เซลเซยี ส ทีจ่ ะทำใหท้ กุ ๆ ส่วน
ของน้ำมันดบิ แปรสภาพ ไปเป็น
ไอ แล้วจะถูกส่งผ่านเขา้ ไปในหอ
กลั่นลำดบั ส่วน
8
กระบวนการหลัก กจิ กรรม อันตราย อุบตั ิเหตุ และความเสย่ี ง
การปรับปรุงคุณภาพ 4. ถา้ ได้คุณภาพน้ำมนั ดบิ ท่ี
การเปลย่ี นแปลงโครงสร้าง
ของน้ำมนั ตอ้ งการแลว้ ก็จะนำไปกลนั่ ในหอ
กล่ันลำดบั ส่วนโดยหอกลั่นลำดบั
สว่ น (Fractionating Tower)
มรี ปู รา่ งเป็นทรงกระบอกสูง
ประมาณ 30 เมตรและเส้นผ่าน
ศูนย์กลางประมาณ 2.5-8 เมตร
ภายในหอกลนั่ แบ่งเปน็ ห้องต่างๆ
หลายห้องตามแนวราบ โดยมี
แผน่ กนั้ ห้องทมี่ ีลักษณะคลา้ ยถาด
กลมเจาะรู เพอื่ ให้ไอนำ้ มนั ท่รี อ้ น
สามารถผา่ นทะลขุ ึ้นสสู่ ว่ นบนของ
หอกลน่ั ได้ และมีทอ่ ต่อเพือ่ นำ
นำ้ มันทก่ี ลัน่ แลว้ ออกไปจากหอ
กลน่ั เม่ือน้ำมันจะถูกแยกออกเป็น
ส่วนโดยอาศยั จุดทตี่ า่ งกัน
ผลผลติ ทีไ่ ด้จะออกมาจากช้นั ท่ี
ต่างกนั ส่วนท่ีมจี ดุ เดือดสงู สดุ จะ
อย่ชู ้ันลา่ งสดุ และสว่ นทม่ี ีจุด
เดือดต่ำๆ กจ็ ะอยชู่ ัน้ สูงข้นึ ไป
เรอ่ื ยๆ สำหรบั ตอนลา่ งของหอ
กล่ันจะมี ไอนำ้ ร้อนป้อนเข้าไป
ตลอดเวลาในการกล่นั
- วตั ถดุ บิ หรอื ผลผลิตท่ีบางตวั มี - การกัดกร่อนอุปกรณจ์ ากสารเคมี
สารทไ่ี มต่ ้องการเจอื ปนอยู่ เชน่ มี ต่างๆ เช่น H2S, HCI ซึ่งจะควบแน่น
ซลั เฟอรป์ นอยู่ ทำให้ กลายเปน็ กรดไฮโดรคลอริก
ประสทิ ธภิ าพของการกล่นั ต่ำ จึง - การรว่ั ไหลของสารเคมี
ตอ้ งมีการดัดแปลงเสียกอ่ น เชน่ - การสัมผัสไอระเหยของ
ขบวนการ Hydrotreating เป็น สารอะโรมาติกส์ไฮโดรคาร์บอน
ตน้
- มีการแปลงรูปให้อยใู่ นสภาพ - การหกรัว่ ไหลของสารเคมี
ท่ตี ลาดต้องการใช้ เช่น การทำให้ - สัมผสั สารเติมแต่งทอ่ี นั ตราย
9
กระบวนการหลัก กิจกรรม อันตราย อบุ ัติเหตุ และความเส่ยี ง
การผสมผลติ ภณั ฑ์
แตกออก (Cracking) การรวมกัน - สมั ผสั สารเบนซีน
การขนส่งน้ำมันดบิ ไปยงั คลัง
จดั เกบ็ นำ้ มนั เขา้ (Polymerization) หรือการ
จัดรูป(Reforming) ของโมเลกุล
เดิม เปน็ ตน้
- เป็นขน้ั ตอนสดุ ท้ายท่ีจะทำให้ - อันตรายจากการกดั กร่อนอุปกรณ์
ผลผลิตท่ไี ดต้ รงตามข้อกำหนดท่ี จากสาร NH และ HCI
ตลาดตอ้ งการอย่างสมบูรณ์ จึง - การเกดิ Emissionของ CO และ
ตอ้ งมีการผสมสารบางตวั เพ่ือให้ H2S เมื่อทำ Regeneration ตวั เรง่
ผลผลิตออกมามีคุณภาพสงู เช่น ปฏิกริ ยิ า
เติมเตตราเอธลิ เลด (TEL) เพื่อให้
น้ำมนั เบนซินมีออกเทนนัมเบอร์
สูงขึ้น เป็นตน้
- การขนสง่ ทางเรือ,รถไฟ, - รถพลิกคว่ำ
รถบรรทกุ น้ำมัน โดย ทำการ - สารไวไฟ
ขนส่งน้ำมันดิบเข้าส่โู รงกลั่นโดย - อุบตั เิ หตุทางการขนส่ง
สง่ ผ่านท่อสง่ นำ้ มัน เกบ็ เข้าท่ีถงั
เก็บ
10
กฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง
1. พระราชบญั ญตั ิปิโตรเลยี ม
- พระราชบญั ญตั ิปิโตรเลียม (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐
- พระราชบญั ญัติปโิ ตรเลียม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
- พระราชบญั ญตั ิปโิ ตรเลียม (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๓๒
- พระราชบญั ญัติปิโตรเลยี ม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒
- พระราชบญั ญัติปิโตรเลียม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๖
- ประกาศคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๓๓๑
- พระราชบัญญัติปโิ ตรเลยี ม พ.ศ. ๒๕๑๔
2. พระราชบญั ญัติควบคมุ น้ำมันเชื้อเพลงิ
- พระราชบญั ญตั ิควบคมุ น้ำมนั เชอ้ื เพลงิ พ.ศ.๒๕๖๒
- พระราชบัญญตั ิควบคุมน้ำมนั เชื้อเพลิง พ.ศ.๒๕๕๐
- พระราชบญั ญตั ิควบคมุ น้ำมันเชือ้ เพลิง พ.ศ.๒๕๔๒
3. พระราชบญั ญัติวตั ถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
4. พระราชบัญญัติความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔
5. กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการดา้ นความปลอดภัยอาชวี อนามยั และ
สภาพแวดล้อมในการทาํ งาน พ.ศ. ๒๕๔๙
6. กฎกระทรวงกาํ หนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามยั และ
สภาพแวดล้อมในการทํางาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
7. กฎกระทรวงกาํ หนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนนิ การดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามยั
และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกยี่ วกบั ความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. ๒๕๕๙
8. กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ และดําเนินการดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกยี่ วกบั การปอ้ งกนั และระงับอัคคภี ยั พ.ศ. ๒๕๕๕
9. กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ และดำเนินการดา้ นความปลอดภัย อาชวี อนามยั
และสภาพแวดลอ้ มในการทำงานทอ่ี บั อากาศ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
10. กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จดั การ และดำเนินการดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกย่ี วกับนัง่ รา้ นและค้ำยนั พ.ศ. ๒๕๖๔
11
11. ประกาศกรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดมาตรฐานอปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัย
สว่ นบุคคลอุปกรณ์ช่วยเหลือและช่วยชีวิตสำหรบั การทำงานในท่ีอับอากาศ
12. ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มมครองแรงงาน เรือ่ ง กําหนดมาตรฐานอปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภยั
ส่วนบคุ คล พ.ศ. ๒๕๕๔
13. ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่ือง หลกั เกณฑ์ วิธกี าร เขาก็และหลักสูตร การฝึกอบรม
ความปลอดภยั ในการทำงานในท่ีอบั อากาศ พ.ศ. ๒๕๖๔
กฎของการปฏิบตั ิงานทว่ั ไป
1. ห้ามนาํ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือที่ใช้พลงั งานจากแบตเตอร่ี หรือไฟฟ้าเข้าไปในพืน้ ท่โี รงกลั่น เว้นแต่ได้รับ
อนญุ าตเปน็ ลายลักษณ์อกั ษรจากวศิ วกรควบคุมงานด้านไฟฟา้
2. ห้ามนำไฟแช็ค ไม้ขดี ไฟหรืออุปกรณ์สำหรับจุดติดไฟไดเ้ ข้ามาในสถานที่ทำงาน เวน้ แต่ได้รับอนญุ าต
เป็นลายลกั ษณ์อักษรจากวิศวกร ควบคุมงาน หรือผู้จัดการแผนก หรือผู้จัดการฝา่ ยทเี่ ก่ียวขอ้ ง
3. ไม่อนุญาตให้สบู บหุ ร่ใี นสถานที่ทำงาน เวน้ แต่ตามสถานท่ีท่ีมีป้ายอนญุ าต
4. พ้ืนทต่ี ่อไปนี้เปน็ บริเวณที่กําหนดให้เป็น “เขตพืน้ ที่อนั ตราย” ทจ่ี ะต้องปฏิบัตติ ามกฎข้อบังคับ
เกย่ี วกบั ความปลอดภยั
- บรเิ วณสะพานเทยี บเรือบรรทุกนํา้ มนั
- ตามแนวทอ่ นาํ้ มนั ดิบ และท่อผลติ ภณั ฑ์ รวมถงึ แนวสายไฟใตด้ นิ จากโรงกลน่ั ซง่ึ จะมีป้าย
แสดงไว้ให้ เหน็ อย่างชัดเจนวา่ เปน็ เขตอนั ตราย
5. พนักงานทุกคนตอ้ งมบี ัตรประจำตวั พนกั งาน
6. พนักงานที่เข้ามาทำงานทกุ คนจะตอ้ งไดร้ บั การอบรมและฝึกปฏบิ ัตดิ า้ นความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่
ความปลอดภยั ระดบั วิชาชีพเป็นผู้อบรม
7. ให้พนักงานทุกคนรับประทานอาหารในสถานท่ที ี่จัดเตรยี มไวเ้ ฉพาะเทา่ นัน้
8. แผนกความปลอดภยั ต้องมกี ารตรวจสอบความปลอดภัยและประเมนิ สภาพแวดลอ้ มในการทำงาน
และแจ้งต่อนายจ้างถงึ สาเหตุการประสบอันตราย การเจบ็ ป่วย หรือการเกดิ เหตุเดอื ดร้อนรำคาญ
เน่ืองจากการทำงานของพนกั งาน ดงั น้ี
• จดั ให้มหี วั หน้างานในการควบคุมความปลอดภัยในการทำงาน
• เสยี งทีพ่ นักงานไดร้ ับสมั ผสั ในสถานท่ีทำงานที่มีระดบั เสยี งสูงสดุ ของเสียงกระทบหรือ
เสียงกระแทก เกิน 140 เดซิเบลเอหรอื ได้รับสัมผัสเสียงที่มีระดับเสยี งดังต่อเน่ืองแบบ
คงทเี่ กินกวา่ 115 เดซิเบลเอ และระดับเสียงทลี่ กู จา้ งไดร้ บั เฉลี่ยตลอดเวลาการทํางานใน
แต่ละวนั ไมเ่ กนิ 85 เดซิเบลเอ
12
• ในสถานท่ีทำงานต้องมีแสงไฟสวา่ งใหเ้ หมาสมกบั ประเภทของงาน
• ระดับความร้อนในสถานท่ีทำงานต้องไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้
9. พนกั งานทกุ คนตอ้ งสวมอปุ กรณค์ มุ้ ครองความปลอดภัยส่วนบุคคลอยา่ งน้อย 4 ชนิดนเ้ี มื่อเขา้ มาใน
สถานท่ีทำงานเพื่อความปลอดภัยสว่ นบคุ คล โดยอปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตอ้ งมี
การตรวจสอบให้อยูใ่ นสภาพทีส่ มบูรณ์และเป็นไปตามมาตรฐานอปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภยั สว่ น
บุคคลหรือเทยี บเทา่ ดงั นี้
• ชดุ แตง่ กาย เสือ้ แขนยาวกางเกงขายาว
• หมวกนิรภยั
• แว่นตานริ ภยั
• รองเท้านริ ภัย
ทงั้ นี้ควรสวมอปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภยั ส่วนบุคคลตามความเหมาะสมกับลักษณะงาน
10. การทำงานเกีย่ วกบั สารเคมี ต้องมีการบันทึกข้อมูลการนำเข้าสารเคมี ดงั นี้
• แจ้งช่อื สารเคมี
• ปรมิ าณที่ใช้
• จัดหาเอกสารข้อมลู ดา้ นความปลอดภัยของสารเคมี ( Safety Data Sheet : SDS ) ของ
สารชนดิ นน้ั
• ระบุความเป็นอนั ตรายของสารเคมีชนดิ นัน้
• วิธกี ารใช้งานอย่างปลอยดภัยและตอ้ งมใี บอนุญาตในการทำงาน
• เตรียมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายตามเอกสารข้อมูลดา้ นความปลอดภัยของสารเคมี
11. เมือ่ เกิดเหตฉุ ุกเฉนิ ขึน้ เช่น กรณีไฟไหม้ หรือกรณสี ารเคมี/กา๊ ซไวไฟ/ก๊าซพษิ รั่วไหล พนักงานทุกคน
ต้องไปรวมตวั กนั ที่จดุ รวมพลและพนักงานทุกคนต้องเข้าฝึกซอ้ มแผนอพยพฉกุ เฉินประจำปี
12. ใบอนุญาตทำงาน ( work permit )
งานทุกประเภทพืน้ ท่เี ขตรั้ว หัวหน้างานต้องมีการขออนุญาตเพอ่ื เข้าไปทำงานโดยจะตอ้ งมีการกำหนด
เขตพ้นื ที่หรือสถานที่เข้าดำเนินการ ระบุอันตรายท่ีอาจเกิดขนึ้ ระหว่างการทำงานและระบมุ าตรการในการ
ตรวจสอบควบคุมป้องกันอันตรายทีอ่ าจเกิดข้ึนกับผู้ปฏบิ ัติงาน หา้ มปฏิบตั งิ านโดยมิได้รับอนุญาต และการ
ปฏบิ ตั ิงานตอ้ งทำกิจกรรม KYT พรอ้ มบนั ทึกลงแบบฟอร์มทีก่ ำหนด โดยเจ้าหน้าที่ความปลอดภยั ระดบั วชิ าชพี
เปน็ ผู้นำ
13
วิธีการออกและใชใ้ บอนญุ าตทำงาน
1. ผขู้ ออนุญาตทำงาน ตอ้ งบนั ทึกแบบฟอรม์ ขออนญุ าตทำงานตามท่บี รษิ ัทกำหนด และให้ระบุ
ใบอนญุ าตอ่ืนๆ ท่ีต้องใชป้ ระกอบหรือข้อรว่ มกันในพน้ื ท่ีหลกั -พื้นที่ย่อยเดียวกนั
2. ผู้ควบคุมงานพน้ื ที่ จะเปน็ พนักงานในพน้ื ท่ีน้นั ๆ ทำหน้าท่ีควบคุมและติดตามการปฏบิ ัติงานของ
พนักงาน ตามใบอนญุ าตทไ่ี ด้ขอไว้
3. วศิ วกรควบคุมงาน พจิ ารณาข้ันตอนการทํางานในส่วนของงานวศิ วกรรม อุปกรณ/์ เครื่องมอื ตา่ งๆ
ท่ีจะนาํ มาใช้วา่ ถกู ต้อง ปลอดภัย และเป็นผปู้ ระเมินความเส่ยี งเบ้อื งต้นว่าอย่ใู นระดับใด พรอ้ ม
กาํ หนดข้อควรระวังเพิม่ เติม
4. ผู้บรหิ าร พิจารณาอนุมตั สิ าํ หรับงานท่มี คี วามเสยี่ งสงู หรอื งาน Hot work หรืองานในสถานทีอ่ ับ
อากาศ มคี วามปลอดภัยให้ปฏิบัตงิ านได้ รวมท้งั พจิ ารณาอนมุ ัติการขอต่ออายุใบรบั รองความ
ปลอดภยั สาํ หรบั งานดงั กล่าวข้างต้น
5. ผปู้ ฏิบตั งิ านทกุ คน มหี น้าที่ปฏบิ ัติตามวิธีปฏบิ ตั ิงานทปี่ ลอดภัย และขอ้ ควรระวงั ทีร่ ะบุไวใ้ น
ใบรับรองความปลอดภยั ในการทาํ งานอยา่ งเครง่ ครัด
ขัน้ ตอนการขอใบอนุญาตทำงาน
1. หวั หนา้ งานทำการขอใบอนุญาตก่อนเขา้ ทำงานที่พนกั งานทเี่ ป็นผู้รบั ผดิ ชอบสถานที่ โดยใช้
แบบฟอร์มท่ีกำหนดไว้
2. พนักงานทเ่ี ปน็ เจา้ ของพนื้ ทีเ่ ป็นผูร้ ับผดิ ชอบสถานท่ี และผูท้ ี่มอี ำนาจลงนามในใบอนญุ าตเป็นผ้ทู ำ
การตรวจสอบทุกรายการทร่ี ะบุไวใ้ นใบอนุญาต หากมรี ายการใดไมผ่ า่ นต้องดำเนนิ การแก้ไข/
ปรบั ปรุง และดำเนนิ การตรวจสอบไมจ่ นม่นั ใจวา่ สามารถปฏิบตั ิงานไดอ้ ย่างปลอดภัยพร้อมกับ
พิจารณาลงนามออกใบอนุญาต
• สำหรับงานในบางพน้ื ท่ีที่มีความเสีย่ งต่อการเกิดอบุ ัติเหตุที่มคี วามรุนแรง กำหนดให้มี
วศิ วกรหรือผชู้ ำนาญการพิเศษหรือผู้บริหารระดบั ผจู้ ดั การสวนขนึ้ ไปเข้ารว่ มในการ
ตรวจสอบความปลอดภยั ก่อนทำงาน
• กรณงี านที่ตอ้ งทำการตรวจวดั สภาพความปลอดภยั เจ้าของงานตอ้ งแจ้งเจ้าหน้าที่ความ
ปลอดภยั ระดบั วิชาชพี ขอทำการตรวจวดั ก่อนทำการขออนุญาตไม่เกนิ หน่งึ ช่ัวโมง กอ่ น
การปฏบิ ัตงิ านและควรตรวจทกุ หน่ึงช่วั โมงหลังจากการวัดคร้ังแรก
• ใบอนุญาตมอี ายใุ ชง้ านได้สูงสุดไมเ่ กนิ 8 ช่วั โมงหรือภายในการทำงาน งานเรง่ ด่วนท่ีต้อง
ทำต่อเน่ือง ทง้ั น้ีใหผ้ ูอ้ อกใบอนุญาตคอยตรวจตดิ ตามสภาพความปลอดภัยตาม
ใบอนญุ าต
14
• เจ้าของงานต้องเรม่ิ ปฏิบัติงานภายใน 2 ช่วั โมง หลังออกใบอนุญาต หากมเี หตจุ ำเป็น
ล่าชา้ ตอ้ งแจ้งผอู้ อกใบอนุญาตทันทคี ืนใบอนญุ าตเดมิ และขอใบอนุญาตใหม่แทน
• ใบอนุญาตมอี ย่างน้อย 2 ชดุ ตน้ ฉบับให้เจ้าของงานเกบ็ ไว้ทีห่ วั หน้า ฉบบั สำเนาใหผ้ ู้
อนญุ าตเกบ็ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน
• ผลู้ งนามออกใบอนุญาตต้องรับผิดชอบ ตดิ ตามตรวจสอบการปฏบิ ัตงิ านวา่ เปน็ ไปตาม
ใบอนุญาต หากมีการปฏิบัตงิ านนอกเหนือขอบเขตใหส้ ่ังระงับงานทันที
• หากงานไมเ่ สรจ็ ตามกำหนดต้องขอต่อใบอนุญาตเดิมหมดอายอุ ย่างน้อย 1 ชว่ั โมง
3. เมื่องานเสร็จ หวั หน้างานนำใบอนญุ าตคนื ผอู้ อกใบอนุญาตพร้อมแจง้ ขอปดิ งาน
4. หวั หนา้ หมวดผูร้ บั ผิดชอบสถานทีร่ ่วมกับผู้ขออนุญาตตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยเก็บรวบรวม
ใบอนญุ าตทั้งสองฉบับคืนเจ้าหน้าทคี่ วามปลอดภัยระดบั วิชาชีพ
กฎของการปฏิบัติงานอันตราย
1. การทำงานในที่อบั อากาศ
1.1 จดั ใหม้ ีป้ายแจง้ ขอ้ ความวา่ “ทอ่ี บั อากาศ อันตราย ห้ามเข้า” ใหม้ ขี นาดมองเห็นไดช้ ัดเจน ตดิ ตัง้
ไว้บริเวณทางเข้าออกของทีอ่ ับอากาศทุกแห่ง
1.2 พนกั งานทีเ่ ขา้ ทำงานในที่อับอากาศตอ้ งเปน็ ผู้ท่ีไดร้ บั การฝึกอบรมความปลอดภัยการทำงานในท่ี
อบั อากาศ
1.3 ตอ้ งขออนุญาตทำงานในที่อบั อากาศทุกครั้ง โดยให้หัวหน้าหนว่ ยในพืน้ ทีเ่ ป็นผอู้ นุญาต
1.4 แนบผลตรวจสขุ ภาพและใบรับรองแพทย์ของพนักงานทุกคนทจ่ี ะทำงาน โดยไม่อนญุ าตใหผ้ ู้ปว่ ย
โรคทางเดนิ หายใจ โรคหัวใจ หรือโรคอนื่ ซึ่งแพทยเ์ ห็นว่าเป็นอันตรายในท่ีอบั อากาศเข้าไป
ปฏิบัตงิ าน
1.5 จัดใหม้ ีการตรวจวัดปริมาณออกซเิ จน กา๊ ซ ไอ ละอองท่ีตดิ ไฟหรือระเบดิ ได้ คา่ ความเข้มข้นของ
สารเคมแี ตล่ ะชนดิ บนั ทกึ ผลการตรวจวัดและประเมินสภาพอากาศในที่อบั อากาศก่อนให้
พนักงานเข้าไปทำงานทุกคร้งั
1.6 แตง่ ตง้ั ผคู้ วบคุมงานโดยเป็นผู้ทีไ่ ด้รบั การฝึกอบรมความปลอดภัยในการทำงานในท่ีอบั อากาศ
ประจำในบริเวณพน้ื ทที่ ำงานตลอดเวลาเพ่ือทำหน้าท่ี ดงั ต่อไปนี้
1. จดั ทำแผนการปฏิบัติงานและการป้องกันอนั ตรายที่อาจเกิดข้ึนจากการทำงานและแผน
ชว่ ยเหลือผปู้ ฏบิ ัติงานในกรณีเกดิ เหตุฉุกเฉิน โดยมีการแจง้ ใหพ้ นกั งานทราบเปน็ ลาย
ลักษณ์อกั ษร
15
2. ช้แี จงและซักซอ้ ม วิธีการปฏิบตั ิงาน และวิธีการป้องกันอันตราย ให้เปน็ ไปตามแผนท่ี
กำหนดไว้
3. ควบคุมดแู ลให้พนกั งานใชเ้ ครื่องปอ้ งกนั อนั ตรายและอปุ กรณค์ มุ้ ครองความปลอดภัย
สว่ นบคุ คล และใหต้ รวจตราอุปกรณด์ งั กล่าวให้อยู่ในสภาพพรอ้ มท่ีจะใช้งาน
4. สงั่ ให้หยุดการทำงานไว้ชั่วคราวในทนั ที ในกรณีท่ีมเี หตุซึ่งอาจก่อใหเ้ กดิ อนั ตรายต่อ
พนักงาน
5. จดั ทำแผนการปฏิบตั ิงานและปอ้ งกันอนั ตราย และแผนการชว่ ยเหลอื ในกรณเี หตุฉุกเฉนิ
ปิดประกาศให้พนักงานทราบ
1.5 แตง่ ตัง้ ผชู้ ่วยเหลอื ทำหน้าท่ีดงั ต่อไปนี้
1. เฝ้าดแู ลบรเิ วณทางเข้าออก
2. ตดิ ตอ่ กับผทู้ ่ปี ฏิบตั งิ านในทีอ่ ับอากาศ
3. ช่วยเหลอื ผ้ปู ฏิบัติงานออกจากท่อี ับอากาศ
1.6 จัดใหม้ อี ปุ กรณ์ไฟฟา้ ทเ่ี หมาะสมในการใชง้ านในที่อับอากาศและ ตรวจสอบให้อปุ กรณ์ไฟฟ้านนั้ มี
สภาพสมบรู ณ์และปลอดภัยพรอ้ มใช้งาน
1.7 หา้ มทำงานท่ีก่อให้เกิดความร้อนหรือประกายไฟในที่อับอากาศ เชน่ การเชื่อม การเผาไหม้ การ
ย้ำหมดุ การเจาะ การขัด หรอื งานอน่ื ท่มี ีลกั ษณะคล้ำยกัน และงานที่ใช้สารระเหยงา่ ย สารพิษ
หรือสารไวไฟ หากจำเป็นต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัยในการปฏบิ ตั ิงาน
1.8 จดั ใหม้ อี ปุ กรณ์ป้องกนั ระบบทางเดนิ หายใจ (SCBA) อปุ กรณป์ ้องกนั การตกจากทีส่ ูง (Full body
harness) สายชชู ีพ (Lifeline) และอปุ กรณ์ค้มุ ครองความปลอดภยั สว่ นบคุ คลอนื่ ๆ ที่ได้
มาตรฐาน และเหมาะสมกบั สภาพของงาน ได้แก่ หมวกนิรภัย รองเท้าหนังหัวโลหะที่เป็นพนื้ ยาง
ป้องกนั การลน่ื กันนาํ้ และสารเคมี
2. การทำงานในที่สงู
2.1 กรณที ำงานในที่สงู นายจ้างตอ้ งจัดให้มนี ่ังรา้ นหรือดำเนินการดว้ ยวิธอี นื่ ทีเ่ หมาะสม
2.2 การทำงานบนทีล่ าดชนั ทท่ี ำ มุมเกิน 15-30 องศา จากแนวราบ และมคี วามสูงของพ้นื ระดับท่ี
เอยี งตัง้ แต่สองเมตรข้ึนไป ตอ้ งจดั ให้มีนั่งร้านท่ีเหมาะสม หรือเข็มขัดนริ ภัยและเชือกนริ ภัยหรือ
สายชว่ ยชีวติ พรอ้ มอุปกรณห์ รือมาตรการป้องกันการพลดั ตกอ่ืนใดท่ีเหมาะสมกับสภาพการ
ทำงาน
1. กำหนดเขตอนั ตรายในบริเวณพ้ืนท่ีท่ีมีการตดิ ต้ัง การใช้การเคลอ่ื นย้ำยและการรื้อถอน
น่งั ร้าน หรอื คำ้ ยนั โดยจัดทำร้ัวหรือกน้ั เขตดว้ ยวัสดทุ ่ีเหมาะสมกบั อันตรายน้ัน และมปี ้าย
“เขตอนั ตราย” แสดงให้เห็นไดช้ ดั เจน และในเวลากลางคนื ตอ้ งจดั ให้มสี ัญญาณไฟสสี ม้
16
ตลอดเวลา และตงั้ ปา้ ยสญั ลักษณเ์ ตือนอนั ตราย โดยห้ามไม่ใหบ้ คุ คลซึง่ ไมเ่ กีย่ วข้องเข้าไปใน
เขตอนั ตรายนน้ั
2. จดั ให้มกี ารคำนวณออกแบบและควบคุมการใชน้ ่ังรา้ นโดยวศิ วกร ตามเกณฑ์และวิธีการท่ี
กฎหมายกำหนด
3. หา้ มมิให้พนกั งานทำงานบนน่ังร้าน ในกรณีดังตอ่ ไปนี้
• นงั่ รา้ นที่มีพน้ื ลื่น
• นั่งร้านทมี่ สี ่วนหนึง่ สว่ นใดชำรดุ หรอื อยูใ่ นสภาพท่ีอำจก่อให้เกดิ อันตราย
• นั่งร้านทอ่ี ย่ภู ายนอกอาคาร หรอื ส่วนอ่นื ท่ีอาจก่อใหเ้ กิดอันตรายในขณะที่มีพายุ ลม
แรง ฝนตก หรือฟ้าคะนอง
4. จัดใหม้ ีการตรวจสอบนั่งรา้ นทุกคร้งั ก่อนการใชง้ านและหัวหนา้ งานทำรายงานผลการ
ตรวจสอบไว้ด้วยและต้องมสี ำเนาเอกสารเพ่อื ให้เจา้ หน้าท่ีความปลอดภยั ระดบั วชิ าชีพ
ตรวจสอบ
5. จดั ให้มกี ารตรวจสอบสว่ นประกอบของค้ำยันและท่รี องรับคำ้ ยันทกุ คร้ังก่อนการใช้งานและ
ระหวา่ งใช้งาน
6. ในการสร้าง ประกอบ หรือตดิ ตงั้ ค้ำยนั นายจ้างต้องจดั ให้มีการคำนวณ ออกแบบและ
ควบคุมโดยวศิ วกร ดังต่อไปน้ี
• ค้ำยนั ที่ทำดว้ ยเหล็ก ต้องสามารถรบั นำหนักบรรทุกใชง้ านไดไ้ มน่ ้อยกว่าสองเทา่
ของน้ำหนักบรรทุกใชง้ าน ในกรณีค้ำยนั ทำด้วยวัสดุอื่นท่ีไม่ใชเ่ หลก็ ตอ้ งสามารถรับ
น้ำหนกั บรรทกุ ใชง้ านได้ไมน่ ้อยกว่าสเ่ี ท่าของน้ำหนกั บรรทกุ ใชง้ าน และต้องมี
เอกสารแสดงกำลงั วัสดปุ ระกอบด้วย
• ไมท้ ่ใี ช้ทำค้ำยนั ต้องเป็นไม้ที่ไม่ผเุ ปื่อยหรอื ชำรดุ จนทำใหไ้ ม้ขาดความแขง็ แรง
ทนทานและต้องมหี น่วยแรงดัดประลัย (ultimate bending stress) ไมน่ อ้ ยกว่า
300 กโิ ลกรมั ต่อตารางเซนตเิ มตร และมีค่าความปลอดภัยไม่นอ้ ยกว่า 4
• เหลก็ ท่ีใช้ทำค้ำยนั ตอ้ งเป็นเหล็กที่มีจดุ คราก (yield point) ไมน่ ้อยกว่า 24
กิโลกรัมตอ่ ตารางเซนตเิ มตร และมีค่าความปลอดภยั ไม่น้อยกว่า 2
• ขอ้ ต่อและจุดยึดต่างๆ ของค้ำยันต้องมน่ั คงแข็งแรง
• ในกรณที ่ีมีทีร่ องรับค้ำยัน ต้องสามารถรบั น้ำหนักบรรทกุ ได้ไมน่ ้อยกว่าสองเทา่
ของน้ำหนักบรรทุกใช้งาน
• ค้ำยนั ตอ้ งยึดโยงหรอื ตรงึ กบั พื้นดินหรอื ส่วนของสงิ่ ก่อสร้างให้มนั่ คงแขง็ แรง
17
7. นั่งรา้ นทีส่ ูงกว่า 2 เมตร จะต้องมรี าวกันตก
8. ราวกันตก ต้องมีความสงู ไมน่ ้อยกวา่ 90 ซม. และไม่เกิน 1.10 เมตร จากพื้นนั่งร้านตลอด
แนว ยาวด้านนอกของนั่งรา้ น ยกเว้นเฉพาะชว่ งที่จำเปน็ เพื่อขนถ่ายส่ิงของ และน่งั ร้านเสา
เรยี งเด่ียว
9. ต้องจัดให้มีบันไดภายในของนั่งรา้ นและมีความลาดเอียงไม่เกิน 45 องศา ยกเวน้ น่งั รา้ นเสา
เด่ียว
10. กรณที ี่พนกั งานต้องใชบ้ ันไดไต่ ชนิดเคลือ่ นย้ายได้เพื่อทำงานในทสี่ ูง การตงั้ บันไดให้ระยะ
ระหวา่ งฐานบันไดถึงผนังทวี่ างพาดบนั ไดกับความยาวของช่วงบนั ได นบั จากฐานถึงจุดพลาด
มีอตั ราสว่ นหนงึ่ ต่อส่หี รอื มีมุมบนั ไดทีต่ รงข้ามพนงั 75 องศา
11. ความกว้างของบันไดไต่ไมน่ อ้ ยกว่า 30 เซนติเมตร และต้องมีขาบันไดสงิ่ ยึดโยงทีส่ ามารถ
ป้องกันการลน่ื ไถลของบันได
12. ขาหยง่ั หรอื ม้ายนื ตอ้ งมโี ครงสรา้ งที่มน่ั คง แขง็ แรงและปลอดภัยต่อการใชง้ าน และมีพน้ื ท่ี
สำหรบั ยนื ทำงานอย่างเพียงพอ
2.3 การลำเลยี งวสั ดหุ รือสง่ิ ของข้ึนหรือลงจากทส่ี ูงหรือลำเลียงวสั ดุสง่ิ ของบนที่สูง ต้องจัดให้มีราง
ปลอ่ ง เครือ่ งจักรหรืออุปกรณ์ทเ่ี หมาะสมในการลำเลียงเพื่อปอ้ งกันอนั ตรายจากการกระเดน็ หรอื
ตกหลน่ ของวสั ดสุ ่งิ ของ
2.4 ในกรณที ี่ทำงานบนภาชนะเก็บหรือรองรบั วัสดทุ ่ีมีความสูงตง้ั แต่ 4 เมตรข้นึ ไป ต้องจัดให้มีสิ่งปิด
กน้ั จัดทำราว กนั้ หรอื รว้ั กันตก หรอื ส่ิงป้องกันอ่นื ใดที่มน่ั คงแข็งแรงเหมาะสมกับสภาพของการ
ทำงาน และต้องให้พนักงานสวมใส่เขม็ ขัดนิรภัย และเชือกนริ ภยั หรือสายช่วยชวี ติ ตลอด
ระยะเวลาการทำงาน
18
การช้ีบง่ อันตราย
FMEA (Failure Mode and Effect Analysis)
เทคนิควิธีชี้บ่งอันตราย โดยใช้การวิเคราะห์ในรูปแบบความล้มเหลวและผลที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นการ
ตรวจสอบชิ้นส่วนเคร่ืองจักรอุปกรณ์ในแตล่ ะส่วนของระบบ แล้วนำมาวิเคราะห์หาผลทีเ่ กิดขึ้น เมื่อเกิดความ
ล้มเหลวของเครื่องจักรอุปกรณ์ โดยมีการพิจารณาและแยกแยะคุณลักษณะต่างๆ ของกระบวนการ/ชิ้นส่วน
อปุ กรณ์ ดังน้ี
1. การประเมินความรุนแรงของขอ้ ขัดข้อง (Severity of failure : S) แบ่งออกเปน็ 4 ระดับ คือ
ระดับท่ี 1 ไมม่ ผี ลกระทบตอ่ ระบบ
ระดบั ที่ 2 หนว่ ยรอง ซงึ่ มีความสำคัญไม่มากไมส่ ามารถทำงานได้
ระดบั ท่ี 3 ระบบหรือหน่วยหลักไมส่ ามารถทำงานได้
ระดบั ท่ี 4 มีโอกาสถงึ ขน้ั เสยี ชีวิตหรอื ไดร้ ับบาดเจบ็
2. ประเมินความน่าจะเป็นในการเกิดข้อผิดพลาด ความถี่ของปัญหา (Probability of Occurrences :
O) แบง่ ออกเป็น 4 ระดับ คือ
ระดบั ท่ี 1 ไมม่ ีความเส่ยี งเลย
ระดับท่ี 2 มีความเส่ียงน้อย หน่วยงานรอง ซ่งึ มคี วามสำคญั ไมม่ ากไมส่ ามารถทำงานได้
ระดับท่ี 3 มีความเส่ียงปานกลาง อาทำใหร้ ะบบหรอื หน่วยงานหลักไม่สามารถทำงานได้
ระดับที่ 4 มีความเส่ียงมากถึงขน้ั วิกฤต มีผลกระทบต่อหน่วยงาน/ระบบอน่ื ๆ
3. ประเมินโอกาสที่จะสามารถสืบค้นเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาด ความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหา
(Detection : D) แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คอื
ระดับท่ี 1 แกป้ ัญหาไดง้ า่ ย ไมต่ ้องใชอ้ ะไหล่
ระดบั ท่ี 2 สามารถแกไ้ ขไดเ้ อง อาจต้องใชอ้ ะไหลท่ ี่สามารถจัดหาเองไดห้ รือรอได้
ระดับท่ี 3 สามารถแกป้ ญั หาเองได้ แต่ตอ้ งใชอ้ ะไหล่เฉพาะทาง
ระดับที่ 4 ไม่สามารถแกไ้ ขได้ ไม่มอี ะไหล่เปล่ยี นหรอื ตอ้ งสง่ ซอ่ มบรษิ ัท
ซึ่งสามารถนำตัวเลขที่ได้มาคูณกันเพื่อแสดงลำดับความสำคัญก่อนหลังของปัญหา (Risk Priority
Number : RPN) โดยจัดลำดบั ความสำคญั จากมากไปน้อย
19
ตัวอย่างการช้ีบ่งอนั ตรายด้วยวิธี FMEA
20
21
22
แผนดบั เพลงิ
พนักงานทพี่ บเหตุเพลิงไหม้
แจง้ เพื่อนรว่ มงาน หัวหน้างานและเข้าดับเพลิงทันที
ถ้าดับไม่ได้ ถา้ ดับได้
แจ้ง แจง้
1. ใช้แผนปฏบิ ตั ิการระงับ ถ้าดบั ได้ แจ้ง หวั หนา้ หน่วย
เหตเุ พลงิ ไหมข้ ัน้ ต้น
แจ้ง รายงาน
2. แจง้ ประชาสัมพนั ธ์ หวั หน้าแผนก
3. แจง้ เจา้ หน้าทค่ี วามปลอดภัย เจ้าหนา้ ทีค่ วามปลอดภยั
ในการทํางานระดับวชิ าชพี รายงาน
ในการทาํ งานระดับวิชาชีพ ผจู้ ัดการฝ่าย
หรือผู้รับผิดชอบ หรอื ผูร้ ับผดิ ชอบ
ถา้ ดบั ผูอ้ าํ นวยการดบั เพลิง
ไม่ได้ หรอื ผู้ช่วย
1. ผ้อู ํานวยการดับเแพจล้งิงหรอื ผูอ้ ำนวยการดับเพลิง
ผู้ชว่ ยผู้อำนวยการดับเพลิง
2. แจ้งหนว่ ยงานดบั เพลงิ จาก
ภายนอกหรือใช้แผนปฏิบตั ิการ
เมือ่ เกดิ เหตขุ ้นั รนุ แรง
23
แผนอพยพหนไี ฟ
ผอู้ ำนวยการหรือผูช้ ่วยผู้อำนวยการดับเพลงิ ส่งั ใชแ้ ผนอพยพหนีไฟ
ฝ่ายประชาสมั พนั ธป์ ระกาศพรอ้ มกดสญั ญาณแจง้ เหตเุ พลิงไหม้
หัวหน้าแผนกจะเปน็ ผู้นําทาง โดยจะถือสญั ลักษณ์ธงนาํ พนักงานออกจากพ้ืนท่ี
ปฏบิ ัตงิ านด้วยวิธีการเดนิ เร็วตามชอ่ งทางหนีไฟไปยังจดุ รวมพล
หัวหนา้ แผนกหรือผู้นำทางตรวจสอบยอดพนักงาน
ผตู้ รวจสอบยอดแจ้งต่อผ้อู ํานวยการหรอื ผู้ช่วย
ผู้อาํ นวยการดบั เพลิง ณ จดุ รวมพล
รบี นาํ ผู้ป่วยหรือผบู้ าดเจ็บสง่ ยอดไมค่ รบ ยอดครบ
หน่วยพยาบาลหรอื
ผู้อาํ นวยการหรอื ผชู้ ่วย ผอู้ ํานวยการดบั เพลงิ ส่ัง
สถานพยาบาลใกล้เคียง ผอู้ าํ นวยการดับเพลงิ แจง้ ให้ เจา้ หนา้ ท่ดี ับเพลิงจาก
พนกั งานอยใู่ นจุดรวมพล ภายนอกคน้ หาผตู้ ดิ ค้าง
จนกวา่ เหตกุ ารณ์สงบ
เจา้ หน้าท่ดี ับเพลงิ จากภายนอกค้นหาผู้
ตดิ คา้ งและรายงานผลให้ผอู้ าํ นวยการ
หรอื ผ้ชู ่วยผอู้ าํ นวยการทราบ
24