รายงาน วิจัยในชั้นเรียน ครูโย ปี 2562

รายงานวิจัยในชน้ั เรยี น ปีการศึกษา 2562

“การพฒั นาทักษะการเขียนสรปุ เรอื่ งเชิงสร้างสรรค์ดว้ ยรปู แบบ
แผนภาพโครงเรื่อง รายวชิ าภาษาไทย ระดบั ช้นั ป. 5”

นายธนนิ ท์รัฐ กฤษฎิฉ์ นั ทชั ท์ ศิรวิ ิศาลสวุ รรณ
โรงเรียนอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์
สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1

งานวิจัยเรอ่ื ง
“การพัฒนาทกั ษะการเขียนสรุปเรอ่ื งเชงิ สรา้ งสรรคด์ ้วยรูปแบบแผนภาพโครงเรือ่ ง

รายวชิ าภาษาไทย ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5”

ผวู้ ิจัย: นายธนนิ ทร์ ฐั กฤษฎ์ฉิ นั ทัชท์ ศิรวิ ศิ าลสุวรรณ ตาแหน่ง ครู คศ.1
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนอนบุ าลพระสมุทรเจดยี ์ สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาสมทุ รปราการเขต 1
ปกี ารศึกษา 2562

หลักการความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
ทักษะการเขียนนับว่าเป็นทักษะพ้ืนฐานและมีความสาคัญในการเรียนวิชาภาษาไทยและวิชาอื่น ๆ

เนื่องจากการเรียนเกือบทุกวิชาจาเป็นต้องอาศัยการจดบันทึกข้อมูลความรู้ การสรุปเรื่องราวท่ีได้ยิน ได้ฟัง
หรอื เขียนตอบปัญหา เขียนแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ดังน้ันผู้เรียนจึงต้องฝึกฝนให้เกิดความชานาญ เพื่อเป็น
ต้นทุนคา ให้เลือกสรรมาใช้สร้างสรรค์งานเขียน การรู้จักเลือกใช้ถ้อยคาที่เหมาะสมและสละสลวย เป็น
กระบวนการสร้างสรรค์อย่างหน่ึงท่ีมีความซับซ้อน ทักษะทางภาษาและกระบวนการเขียน รวมไปถึง
ความสามารถในการลาดับความคิดเป็นเร่ืองราว รู้จักกลั่นกรองความคิดออกมาเป็นภาษาเขียนท่ีสละสลวย
เป็นสานวนทีด่ ีของตนเอง นาเสนอรูปแบบ การเขียนทแี่ ปลกใหม่และมีคุณคา่

การเขียนสรุปเรื่องเชิงสร้างสรรค์มีความสาคัญต่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึง
ความสาคัญของการเขยี นและประโยชนข์ องการเขียนเชงิ สร้างสรรค์ท่ีมีต่อการเรียนการสอนจึงได้กาหนดเรื่อง
การเขียนไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สาระท่ี 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน
เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนการเขียนสรปุ เร่อื งเชิงสร้างสรรคเ์ ม่ือพจิ ารณาจากสาระการเรียนรูแ้ กนกลางในระดับชั้นประถมศึกษาตอน
ปลายก็จะปรากฏอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 สาระที่ 2 มาตรฐาน ท 2.1 ตัวช้ีวัดท่ี 3 คือ เขียน
แผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคดิ เพือ่ ใช้พัฒนางานเขียน โดยในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 นักเรียน
จะไดร้ ับการฝกึ ทักษะการเขียนสรุปเรือ่ งเชงิ สรา้ งสรรค์ด้วยแผนภาพโครงเรอื่ งจากเรื่องสนั้ หรอื นทิ านที่กาหนด

จากสภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และผลการประเมินโดยสรุปผลการประเมินผู้เรียนบางส่วน ไม่
สามารถตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ได้อย่างตรงประเด็น พบว่า ผลการประเมินการเขียน โดยใช้
แบบทดสอบประเมินการเขียนของสานักคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ประจาปี
การศกึ ษา 2562 คร้งั ที่ 1 ในภาคเรียนท่ี 1 ของนักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 อยู่ในระดบั พอใช้ นอกจากน้ี
คณะครกู ลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย จานวน 8 คน ได้ทาการสนทนากลุ่มถึงประเด็นในเร่ือง การเขียนสรุป
เรื่องเชงิ สรา้ งสรรค์ พบวา่ นักเรยี นมที กั ษะในเร่อื งการคดิ วิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์ที่ค่อนข้างต่าจึงสมควรได้รับ
การพฒั นาในทกั ษะดงั กลา่ วในเรื่องต่าง ๆ จึงมีความคิดเห็นท่ีสอดคล้องกันว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
ควรใช้รูปแบบ “แผนภาพโครงเร่ือง” เพราะเป็นการเขียนสรุปเร่ืองเชิงสร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพ
เน่ืองจากนักเรียนสามารถแยกแยะองค์ประกอบได้ คือ 1. ตัวละครสาคัญ 2. ฉาก/สถานที่ 3. เหตุการณ์
สาคญั 4. ผลของเหตกุ ารณ์ และ 5. ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากเรอ่ื ง

หนา้ 1

กรอบแนวคดิ ในการวิจยั

ตวั แปรต้น ตัวแปรตาม

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ด้วยแผนภาพโครงเร่ือง ทกั ษะการเขยี นสรปุ เรอื่ งเชิงสร้างสรรค์
ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5

วตั ถุประสงคใ์ นการวิจัย
เพ่ือ ศึกษ าระ ดับก ารพั ฒนาของ ทักษ ะการเขียน สรุปเร่ือง เชิง สร้างสร รค์ ก่ อนและหลังก าร ก ารจั ด

กจิ กรรมการเรียนรู้ดว้ ยนทิ านบาทเดียวรายวชิ าภาษาไทย ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5

ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการวจิ ัย
ผ้วู จิ ัยได้กาหนดระยะเวลาในการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 ใช้เวลาจัดกิจกรรมการ

เรียนรทู้ ง้ั ส้ินเป็นจานวน 5 ชวั่ โมง ในเดอื นกันยายน พ.ศ. 2562

ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง
ประชากร
ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยครั้งน้ี เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปี

การศึกษา 2562 ของโรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา
สมทุ รปราการ เขต 1 มีทงั้ สิน้ 4 หอ้ งเรยี น จานวน 153

กลุ่มตวั อย่าง
กล่มุ ตวั อยา่ งใช้ในการวจิ ยั ครงั้ น้ี เปน็ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5/4 จานวน 38 คน ภาค

เรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ของโรงเรยี นอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา

สมุทรปราการ เขต 1 ซ่ึงการได้มาของกลุ่มตัวอย่างผู้วิจัยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random
Sampling ดว้ ยการจับสลากจากจานวนทง้ั ส้นิ 4 หอ้ งเรยี น คือ ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 และ ป.5/4 เน่ืองจาก

โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์มีการคละความสามารถทางการเรียนรู้ของนักเรียนทุกห้องเรียน ท้ังนี้นักเรียน
ทั้ง 4 หอ้ งเรยี นน้ันจึงมีความทัดเทียมกันสามารถเปน็ กลมุ่ ตัวอย่างของประชากรไดอ้ ย่างสมบูรณ์

ตัวแปรท่ีศึกษา
ตวั แปรอิสระ (Independent Variable) คือ การจดั กิจกรรมการเรยี นรดู้ ้วยแผนภาพโครงเร่ือง

ตัวแปรตาม (Dependent Variable) คือ ทกั ษะการเขียนสรุปเร่ืองเชิงสร้างสรรค์

เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ในการวิจัย

1. แบบแผนภาพโครงเรอ่ื งของนกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
2. เนื้อเรอื่ ง ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5

วิธดี าเนินการวจิ ัย
การวิจัยเรื่อง “การพัฒนาทักษะการเขียนสรุปเร่ืองเชิงสร้างสรรค์ด้วยแผนภาพโครงเร่ือง รายวิชา

ภาษาไทย ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5” เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research Design)
แผนการวจิ ยั แบบ A Pre – Experimental Design: The One Group Pretest – Posttest

หน้า 2

1. ผ้วู ิจยั ใหก้ ลมุ่ ตวั อยา่ งทาแผนภาพโครงเรอื่ ง ครั้งท่ี 1 (ประเมนิ กอ่ นเรยี น)
2. ผูว้ จิ ยั ดาเนินการสอนกลมุ่ ตวั อยา่ ง โดยให้ความรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นสรุปเรอ่ื งเชิงสรา้ งสรรค์
3. ผวู้ ิจัยให้กล่มุ ตวั อย่างทาแผนภาพโครงเร่อื ง ครั้งท่ี 2 (ประเมนิ หลังเรยี น)

การวเิ คราะห์ข้อมลู
การวจิ ัยคร้งั นี้ ผ้วู ิจัยไดน้ าข้อมลู ทไี่ ดท้ งั้ หมดมาวเิ คราะหข์ อ้ มูลทางสถิติ โดยใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รูปทาง

สถิตแิ บบรอ้ ยละ

สรปุ ผลการวจิ ยั

ทักษะในการเขยี นสรปุ เร่ืองเชงิ สรา้ งสรรค์ของนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หลังการจัดกิจกรรมการ

เรยี นร้ดู ว้ ยแผนภาพโครงเร่อื ง สูงกวา่ กอ่ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบปกติ ดงั นี้

ก่อนเรียนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ด้วยแผนภาพโครงเร่ือง คอื

ดีมาก รอ้ ยละ 35 พอใช้ รอ้ ยละ 50 ปรับปรงุ ร้อยละ 15

หลงั เรยี นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ดว้ ยแผนภาพโครงเรื่อง คือ

ดมี าก รอ้ ยละ 50 พอใช้ ร้อยละ 40 ปรับปรงุ รอ้ ยละ 10

การพฒั นาทักษะการเขียนสรปุ เรื่องเชิงสร้างสรรค์ของนกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5

ดมี าก เพิม่ ขนึ้ ร้อยละ 15 พอใช้ ลดลง รอ้ ยละ 10 ปรับปรงุ ลดลง รอ้ ยละ 5

ข้อเสนอแนะ
ผู้สอนควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนภาพโครงเรื่องโดยบูรณาการร่วมกับวิชาอ่ืน ๆ ให้มีความ

สอดคล้องทางด้านเน้ือหาและเหมาะสมกับผู้เรียน เพื่อให้มีความหลากหลายทางด้านความคิดและการทา
กิจกรรมมากย่ิงข้ึน เพ่ือส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เกิดทักษะทางด้านความคิดท่ีหลากหลายและนาไปสู่การพัฒนา

ทางดา้ นความคดิ และการเขียนท่ีสร้างสรรค์

(ลงชื่อ) ผ้วู จิ ยั

(นายธนินทร์ ัฐ กฤษฎ์ิฉันทัชท์ ศิริวศิ าลสุวรรณ)

หนา้ 3

หนา้ 4

หนา้ 5

หนา้ 6

หนา้ 7

หนา้ 8

หนา้ 9

หนา้ 10

หนา้ 11

หนา้ 12

หนา้ 13

หนา้ 14

หนา้ 15

หนา้ 16