หนว่ ยท่ี 4
ปจั จัยพืน้ ฐานและ
การวางแผนการผลิต
57
หวั ขอ้ เรอื่ ง
1. ปจั จัยพนื้ ฐานท่ีสาคญั ในการผลิตสตั วป์ ีก
2. การวางแผนการผลติ สตั วป์ กี
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกปัจจัยพ้ืนฐานที่สาคัญในการผลิตสัตว์ปกี ได้
2. วเิ คราะหข์ อ้ มลู และวางแผนการผลติ สัตว์ปีกเชิงธรุ กจิ ได้
เนือ้ หาการสอน
ปัจจัยพ้ืนฐานในการผลิตสัตว์ปีกได้แก่ พันธุ์สัตว์ปีก อาหาร เวชภัณฑ์ โรงเรือนและอุปกรณ์ต่างๆ
ผเู้ ลยี้ งสัตวป์ กี จะต้องมคี วามร้แู ละความเขา้ ใจในการเลือกใช้ปัจจยั พน้ื ฐานเหล่าน้ีให้สอดคล้องและเหมาะสมกับ
การผลติ สัตวป์ ีกของตนเอง และเปน็ การเตรยี มความพรอ้ มสาหรบั การวางแผนการผลติ ไกเ่ นือ้ ตอ่ ไป
1. ปจั จยั พ้ืนฐานทีส่ าคญั ในการผลิตสัตว์ปกี
1.1 พันธุ์สตั วป์ กี
พันธุ์สัตว์ปีกนบั เปน็ ปัจจัยท่ีสาคัญในการผลิตสัตว์ปีก ผู้เล้ียงจะต้องเลือกพนั ธ์สุ ัตว์ปีกให้สอดคล้องกับ
วัตถุประสงค์ของการทาฟาร์ม เช่น เลือกไก่สายพันธ์ุไข่เพื่อการผลิตไข่ หรือเลือกเป็ดสายพันธ์ุเน้ือเพื่อผลิต
เป็ดเน้อื สาหรับจาหน่าย ปจั จุบนั พันธุ์สตั วป์ ีกมีหลายชนิด แตจ่ ะสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ประเภทหลกั ๆ คอื
1) สตั วป์ กี พันธ์แุ ท้ (pure breed) คือ สตั ว์ปกี ทไ่ี ด้รบั การคัดเลอื กและปรบั ปรงุ พันธม์ุ าอย่าง
ตอ่ เนอื่ งและมี ลักษณะประจาพันธ์ทุ ค่ี งที่ โดยสตั วป์ กี ในรุ่นลูกหลานจะมลี ักษณะเช่นเดียวกับรุน่ พอ่ และแม่พนั ธุ์
2) สัตว์ปีกลูกผสม (hybrid breed) คือ สัตว์ปีกที่ได้รับการปรับปรุงพันธ์ุให้มีประสิทธิภาพ
การผลิตที่สูงขึ้น มากกว่ารุ่นพ่อแม่พันธุ์ สัตว์ปีกลูกผสมเกิดจากการนาเอาสัตว์ปีกรุ่นพ่อพันธ์ุและแม่พันธ์ุแท้
ตั้งแต่สองพนั ธุม์ าผสม ร่วมกัน ซึ่งลักษณะท่ีแสดงออกของพันธุกรรมท่ีได้ในรุ่นลูกนี้ อาจจะมีลักษณะท่ีเหมอื น
หรอื แตกตา่ งจากรุ่นพ่อแม่ พนั ธุไ์ ด้ แตโ่ ดยปกตริ ุน่ ลูกผสมท่ีเกดิ ขึน้ จะได้ลกั ษณะท่ีดีจากพอ่ และแมพ่ นั ธ์ุรวมกัน
รวมทงั้ มีลกั ษณะที่แตกต่างโดด เด่นกวา่ ร่นุ พอ่ แม่พันธ์ุ ลกั ษณะดังกล่าวน้ี เรียกว่า Hybrid vigor
1.2 การสร้างสายพันธส์ุ ัตวป์ กี ในเชงิ การค้า
ในปัจจุบันสัตว์ปีกลูกผสมนับว่าเป็นท่ีนิยมสาหรับการเลี้ยงในทางการค้าเป็นอย่างมาก ท้ังสัตว์ปีก
ลูกผสม สายพันธ์ุให้เน้ือและสายพันธ์ุใหไ้ ข่ การสร้างสายพันธุ์สัตว์ปีกจะทาการคัดเลือกและปรับปรุงพันธ์ุเพอ่ื
วัตถุประสงค์ ของการให้ผลผลิตเนื้อและการให้ผลผลิตไข่เป็นสาคัญ ทั้งนี้การผลิตสัตว์ปีกสายพันธ์ุลูกผสมจะ
นยิ มทาในไกเ่ นื้อและไก่ไข่ รวมทงั้ เป็ดเนอื้ และเปด็ ไขก่ น็ ิยมผลิตเป็นสายพันธุ์ลกู ผสมเช่นกนั แต่ยงั คงมกี ารเลย้ี ง
เป็ดเนื้อและเป็ดไข่ท้ัง แบบพันธุ์แท้และพันธ์ุลูกผสมร่วมดว้ ย ดังน้ัน ในเรื่องน้ีจะขอกล่าวถึงการสรา้ งสายพนั ธ์ุ
ไกเ่ นอื้ และไก่ไข่ในเชงิ การค้า
58
1) สายพันธุ์ไก่เน้ือลูกผสมในเชิงการค้า การสร้างสายพันธ์ุไก่เน้ือลูกผสมในเชิงการค้า
มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตสายพันธไุ์ กท่ ี่ให้ปริมาณเน้ือมากและมี อัตราการเจริญเติบโตรวดเรว็ ทั้งนี้ลักษณะของ
การให้เนือ้ และการใหไ้ ข่มีความสัมพนั ธ์ในเชิงผกผันกัน ทาให้การปรบั ปรงุ พันธ์ุเพื่อสร้างสายพนั ธ์ไุ ก่ทางการค้า
จึงไม่สามารถสร้างสายพันธ์ไุ ก่ที่ให้ทง้ั เน้อื มากและไข่ดกพรอ้ มกนั ได้ ดังน้ันในการท่จี ะผสมพนั ธ์ุจึงต้องคัดเลือก
สายพันธ์ุไก่เนื้อเพศเมียหรือสายแม่ และสายพันธุ์ไก่เนื้อเพศผู้หรือสายพ่อ ท่ีมีคุณลักษณะพิเศษแตกต่างกัน
ดงั นี้
สายแม่ เปน็ สายพนั ธไุ์ ก่ทีม่ อี ตั ราการเจริญเตบิ โตทร่ี วดเร็ว ให้ผลผลิตไขด่ ก ขนาดตวั ใหญ่ และ
มีอัตราการ ฟักออกสูง พันธ์ุไก่ท่ีนยิ มใช้เป็นสายแม่ เช่น พันธุ์ไวท์พลีมทั รอค พันธ์ุโรดไอส์แลนด์เรด และพนั ธ์ุ
นิวแฮมเชยี ร์ เปน็ ตน้
สายพ่อ เป็นสายพันธุ์ไก่ที่มีการเจริญเติบโตเร็ว ประสิทธิภาพการเปล่ียนอาหารเป็นเนื้อดี
ขนาดตัวใหญ่ มี ปริมาณเน้ือสูง ในขณะท่ีให้ผลผลิตไข่ที่มีปริมาณน้อยและอตั ราการฟกั ออกไม่ดี ดังนั้นจงึ ต้อง
นาไปใช้สาหรับการผสมข้ามพันธ์ุกบั สายแม่ที่มีลักษณะเด่นในด้านการให้ผลผลิตไข่สูงและอัตราการฟักออกที่
ดกี ว่า พนั ธไุ์ กท่ น่ี ิยมใช้เป็นสายพอ่ เช่น พันธุไ์ ลท์ซัสเซก พนั ธ์ุคอร์นชิ และพันธบุ์ าร์ พลมี ทั รอค เปน็ ตน้
2) สายพันธ์ุไก่ไข่ลูกผสมในเชิงการค้า การสร้างสายพันธุ์ไก่ไข่ลูกผสมในเชิงการค้า
มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตสายพันธ์ุไก่ท่ีให้ปริมาณไข่มาก คุณภาพ เปลือกไข่ได้ ไข่ฟองโต มีประสิทธิภาพการใช้
อาหารดี อายุเมอื่ ถงึ วยั เจริญพันธุ์เรว็ อัตราการเล้ียงรอดในระยะ เจรญิ เตบิ โตและระยะใหไ้ ขส่ งู ในการท่จี ะผสม
พนั ธุ์เพ่ือสรา้ งสายพนั ธไ์ุ กไ่ ข่ทางการค้าต้องคัดเลือกสายพันธไ์ุ ก่ไข่ เพศเมยี หรือสายแม่ และสายพันธ์ุไก่ไข่เพศผู้
หรอื สายพ่อที่มีคณุ ลักษณะ ดังน้ี
สายแม่ เป็นสายพันธุ์ไก่ที่มีการให้ผลผลิตไข่สูง คุณภาพของเปลือกไข่และคุณภาพของไข่ดี
พันธไ์ุ ก่ทีน่ ยิ มใช้ เป็นสายแม่ เช่น พันธุเ์ ลก็ ฮอรน์ และพนั ธุบ์ าร์พลมี ัทรอค เป็นตน้
สายพ่อ เป็นสายพันธุ์ไก่ท่ีมีลาตัวขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตไข่ขนาดฟองโตและมีอัตราการเล้ียง
รอดสงู พันธ์ุไก่ท่ี นิยมใช้เป็นสายพอ่ เชน่ พนั ธโุ์ รดไอส์แลนด์เรด เปน็ ต้น
ในการสรา้ งสายพนั ธ์ไุ ก่เนอื้ และสายพันธ์ไุ ก่ไขล่ ูกผสมน้นั เกิดจากการผสมข้ามพันธ์ุ (cross breeding)
ระหว่างสายแมแ่ ละสายพ่อตงั้ แต่ 2 สายพนั ธ์ุข้ึนไป โดยเรมิ่ จากการสร้างสายพ่อและสายแม่ที่เกดิ จากการผสม
พันธ์ุ แบบเลือดชิด (inbreeding) อย่างน้อย 3 ชั่วอายุ จากนั้นจึงนาลูกไก่ท่ีได้จากชั่วอายุท่ี 3 ของสายพ่อทั้ง
2 สายพันธ์ุ มาผสมพันธุ์กัน เช่นเดียวกับสายแม่ และทาการคัดเลือกลูกไก่เพศผู้จากสายพ่อและลูกไก่เพศเมยี
จากสายแม่มาเพ่ือ ผสมพนั ธผ์ุ ลิตเป็นไกล่ ูกผสม 4 สายพนั ธ์ุ
1.3 อาหารและเวชภณั ฑ์สัตวป์ ีก
ปจั จยั ดา้ นอาหารและเวชภณั ฑส์ ตั วป์ กี มคี วามจาเปน็ ที่ผู้เลี้ยงต้องให้ความสาคัญมาก เนอื่ งจากมผี ลต่อ
ตน้ ทนุ การผลติ และสุขภาพของสัตวป์ ีกที่เลยี้ ง เม่อื สัตว์ปีกได้รับอาหารทด่ี ี มีคณุ ค่าทางโภชนะเหมาะสม ร่วมกบั
มี การจัดการด้านเวชภัณฑ์ที่ถูกต้องก็จะทาให้สัตวป์ ีกมีการเจรญิ เติบโตได้อย่างปกติและให้ผลผลิตเนื้อและไข่
ท่ดี ี
59
1) อาหารสัตว์ปีก จะต้องมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนตามความต้องการของสัตว์ปีกใน
ระยะต่าง ๆ และตรงกับลักษณะการให้ผลผลิตของสัตว์ปีก อาหารนับเป็นต้นทุนหลักในการผลิตสัตว์ ดังน้ันผู้
เล้ียงสัตว์ปีกจึงต้องควรคานึงถึงคุณภาพของอาหาร โดยจัดหาอาหารท่ีมีคุณภาพเหมาะสมท้ังปริมาณและ
คุณภาพ เม่ือสัตว์กินแล้วสามารถให้ผลิตเน้ือหรือไข่ได้เป็นอย่างดี ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงสั้น รวมทั้งมีต้นทุนใน
การผลิตต่าและให้ผลกาไรสูง นอกจากน้ีความปลอดภัยและความสะอาดของอาหารก็เป็นส่ิงจาเป็นที่ต้อง
คานึงถึงเพราะการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ท่ีมากับอาหารย่อมส่งผลต่อการให้ ผลผลิตของสัตว์ด้วยเ ช่นกัน
อาหารสัตว์ปีกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ใหญ่ๆ คือ อาหารสาเร็จรูปหรืออาหารผสมเสร็จ (complete ration
feeding) และอาหารผสมเอง โดยผู้เล้ียงสัตว์ปีกควรจะเลือกใช้อาหารแต่ละประเภทให้เหมาะสมตามการ
จดั การเลีย้ งของแตล่ ะฟารม์
2) เวชภัณฑ์และชีวภัณฑ์สัตว์ปีก การจัดเตรียมด้านเวชภัณฑ์และชีวภัณฑ์สาหรับสัตว์ปีก
มีความสาคัญต่อประสิทธิภาพการผลิตสัตว์ปีกเช่นเดียวกับการเลือกพันธุ์สัตว์ปีกและการจัดการด้านอาหาร
สัตว์ปีก เพราะการเกิดโรคในสัตว์ปีกมีผลต่อการกินอาหาร การเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของสัตว์ปีก
- เวชภัณฑ์ หมายถึง ยา วัสดุ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ท่ีใช้เพื่อใช้ในการรักษา
สตั วป์ ่วย เช่น ยาสตั ว์ปีก และยาฆา่ เช้ือ เป็นต้น ผู้เลยี้ งจาเปน็ ต้องมีการจดั เตรยี มเวชภัณฑท์ ่ตี ้องใชใ้ นฟาร์มสัตว์
ปีก และต้องมกี ารเก็บรกั ษาและการจดั การท่ดี ที ้งั ในเร่ืองของอุณหภูมทิ ่ีจดั เก็บ บรรจุภัณฑแ์ ละวันเดอื นปีที่ผลิต
เพราะมีผลต่อประสทิ ธภิ าพของเวชภณั ฑแ์ ละการจดั เก็บทีไ่ มเ่ หมาะสมจะสง่ ผลให้เวชภัณฑเ์ ส่ือมสภาพได้
- ชีวภัณฑ์ หมายถึง วคั ซนี ท่ใี ช้ในการสร้างภมู ิคุม้ กนั ให้แก่สตั วป์ ีก เปน็ วธิ ีในการปอ้ งกันก่อน
เกิดโรค มิใชย่ าทร่ี กั ษาเมื่อเป็นโรคแลว้ โดยการทจ่ี ะป้องกันโรคต่างๆของสตั ว์ปีกไดน้ ้ัน จาเปน็ ต้องมีการจดั การ
ฟาร์มที่ดีร่วมด้วย ได้แก่ มีมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคท่ีอาจจะเข้าสู่ฟาร์มโดยคน พาหนะและอุปกรณ์
ต่าง ๆ และมกี ารจัดการของเสียที่เกิดจากในฟาร์ม ไดแ้ ก่ ขยะ มลู ไก่ และวัสดุรองพน้ื อยา่ งเหมาะสม เพอ่ื เป็น
การปอ้ งกันการสะสมและการแพร่ของเชือ้ โรค อย่างไรกต็ ามผเู้ ลีย้ งจะตอ้ งมแี ผนการปอ้ งกนั โรคและการบาบัด
โรคตามคาแนะนาของสตั วแพทยผ์ ู้ควบคุมฟารม์ สัตว์ปีกอย่างเคร่งครดั
1.4 โรงเรอื นและอปุ กรณ์
ประเทศไทยมีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนช้ืน ประกอบกับการเล้ียงสัตวป์ ีกจะมีลักษณะการเล้ียงที่ต้อง
เล้ียง สัตวจ์ านวนมากภายในโรงเรือน ดงั นั้นการสรา้ งโรงเรือนสาหรบั สตั ว์ปีกจึงต้องคานงึ ถงึ สภาพแวดลอ้ มของ
พ้นื ท่ี ภูมิ ประเทศ ภูมิอากาศ และสิง่ สาคญั คือ การระบายอากาศท่ีดีเพอ่ื ให้มกี ารหมนุ เวียนและถ่ายเทอากาศ
อยา่ งเหมาะสม ภายในโรงเรือนควรจะมอี ุปกรณ์และวัสดุสาหรับการเล้ียงสัตว์ปีกท่ีจาเป็น ได้แก่ อุปกรณ์ให้น้า
อุปกรณ์ให้อาหาร อุปกรณ์กกลูกสัตว์ปีก กรงตับ รังไข่ และวัสดุรองพ้ืน นอกจากโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ปีกแล้ว
สาหรับฟาร์มสัตว์ปีกท่ีมีการเล้ียงสัตว์ปีกพ่อแม่พันธ์ุก็จะมีโรงฟักสาหรับ การฟักไข่สัตว์ปีกท่ีผลิตในฟาร์ม
ซึ่งต้องมีการจัดเตรียมรูปแบบและขนาดของโรงฟักให้เหมาะสมกับการผลิต มีการวางแผนผังของโรงฟักให้
สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสะดวก รวมทั้งมีการจัดเตรียมอุปกรณ์สาหรับโรงฟักไข่ที่สาคัญ ได้แก่ ตู้ฟักไข่และ
ต้เู กิด ซ่งึ ในปจั จุบันมีการผลิตตู้ฟกั ไขแ่ ละตู้เกิดหลายย่ีหอ้ ผ้ใู ช้งานสามารถเลือกซื้อได้ตามความ เหมาะสมของ
60
พื้นที่ใช้งาน จานวนไข่ท่ีฟักและต้นทุนที่มีอยู่ ท้ังน้ีควรเลือกตู้ฟักท่ีสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก มีความ
แขง็ แรง และมบี รกิ ารหลงั การขายท่ดี ี
2. การวางแผนการผลิตสตั ว์ปกี
การวางแผนการเลี้ยงสัตว์ปีก ผู้เลี้ยงสัตว์จะต้องพิจารณาหลักการวางแผนและวัตถุประสงค์ของการ
วางแผนเพ่ือจะใช้เป็นแนวทางในการดาเนินการ นอกจากนี้ผู้เล้ียงต้องพิจารณาถึงปัจจัยในการวางแผน ได้แก่
ตลาด ทนุ ปจั จยั พนื้ ฐานตา่ งๆ เชน่ การเลือกสถานทีต่ ั้งฟารม์ การจดั วางผงั ฟารม์ รปู แบบโรงเรอื นและอปุ กรณ์
พนั ธ์ุสัตว์ปีก อาหาร เวชภัณฑ์ และแรงงาน รวมท้ังการจดั การ สงิ่ แวดลอ้ มภายในฟาร์ม การทาประชาพิจารณ์
และความรใู้ นการเลย้ี งสตั วป์ ีก
ข้ันตอนในการวางแผนการเล้ียงสัตว์ปีก ได้แก่ การวางโครงการเลี้ยงหรือการผลิตล่วงหน้า
การตดิ ตามการผลิตและการวเิ คราะหข์ ้อมูลผลการปฏิบัตงิ าน เมื่อผู้เล้ยี งสตั วป์ กี มีข้นั ตอนการวางแผนที่ ชดั เจน
ก็จะสามารถมองเห็นภาพรวมของการผลิตและผลลัพธ์จะเกิดขึ้นได้ ซ่ึงจะทาให้การเล้ียงสัตว์ปีกประสบ
ความสาเรจ็ ได้
การบันทึกข้อมูลการเลี้ยงสัตว์ปีกต้ังแต่เร่ิมต้นเล้ียง ระหว่างเล้ียง และระยะส้ินสุดการเลี้ยงมี
ความสาคัญต่อการนาข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิตของฟาร์มสัตว์ปีก ท้ังในด้านการ
เจริญเติบโต ด้านการใช้อาหาร ด้านสุขภาพ และด้านผลผลิต เพื่อผู้เล้ียงสัตว์ปีกสามารถใช้เป็น ข้อมูลในการ
วางแผนการผลิตครง้ั ต่อไป รวมทัง้ หากเกิดปญั หาในการผลิตกส็ ามารถตรวจสอบจาก ขอ้ มูลที่ได้บันทกึ ไวไ้ ด
1) หลกั การและปัจจยั ท่ีใชใ้ นการวางแผนการเลีย้ งสตั ว์ปีก
ในการเริม่ ตน้ เล้ียงสัตว์ปกี ผู้เลยี้ งจะตอ้ งมกี ารวางแผนการเลีย้ งสตั วป์ ีก เพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการผลิต
มีแผนการเลี้ยงสัตว์ปีกท่ีชัดเจนโดยคานึงถึงปัจจัยด้านต่าง ๆ ท้ังปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกฟาร์มที่
เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลี้ยงสตั วป์ กี ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพและปอ้ งกันความผิดพลาดทีอ่ าจจะเกิดขึ้นได้
การทาแผนการเล้ียงไก่เนื้อผู้เล้ียงจะต้องมีหลักการสาหรับการวางแผนในด้านต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการเล้ียง
สัตว์ปกี โดยทั่วไปผเู้ ล้ียงควรพิจารณาหลกั การท่ีสาคัญ ดงั น้ี
(1) ความต้องการของตลาดและความสม่าเสมอของผลผลิตในแต่ละรอบการผลิต เพอ่ื ใช้เป็น
แนวทางในการวางแผนการเล้ียงสัตวป์ ีกให้สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของตลาด
(2) สถานท่ีตั้งฟาร์มและโรงฟัก ต้องเลือกโดยคานึงถึงด้านการป้องกันโรคและการขนส่งรว่ ม
ดว้ ย
(3) ประเภทของสัตว์ปีกท่ีต้องการเลี้ยง เพื่อจะได้จัดเตรียมปัจจัยต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการ
เลี้ยงสตั วป์ กี ชนดิ น้ันๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
(4) ลกู สตั ว์ปีกที่นามาเลี้ยงตอ้ งมคี ณุ ภาพและทราบแหลง่ ทม่ี า
(5) การแบ่งพืน้ ทใ่ี นการเลยี้ งสัตว์ปกี ใหม้ ีประสิทธภิ าพมากทส่ี ุด โดยไม่มีพืน้ ทวี่ ่างหรือใช้พื้นที่
มากจนเกินไป ทัง้ ในสว่ นของพ้นื ท่ีการฟกั และพ้นื ที่ของโรงเรอื นเลี้ยงสัตวป์ ีก
61
(6) ต้องใชข้ ้อมลู ท่ีถกู ต้อง นา่ เชื่อถือและมคี วามแมน่ ยามาใช้ในการวางแผนเลย้ี งสัตว์ปกี เชน่
ขอ้ มลู การเลีย้ งสัตวป์ ีกและข้อมลู การตลาดสตั ว์ปกี เปน็ ต้น เพอื่ ป้องกันความผดิ พลาดที่จะเกิดข้ึนท้ังในดา้ นการ
ผลิตและการตลาด ทั้งน้ีในการวางแผนการผลิตสัตว์ปีก ทั้งการผลิตสัตว์ปีกให้เนื้อหรือการผลิตสัตว์ปีกให้ไข่
ผู้เล้ียงจะต้อง คานึงถึงปัจจัยต่างๆท่ีเก่ียวข้องกับการผลิตสัตว์ปีกท่ีสาคัญ ได้แก่ ตลาด ทุนในการดาเนินการ
และปัจจยั พื้นฐานตา่ งๆ เชน่ การเลือกสถานทตี่ ัง้ ฟาร์ม การจดั วางผงั ฟาร์ม พนั ธ์สุ ัตว์ อาหาร เวชภณั ฑ์ แรงงาน
การจัดการส่ิงแวดล้อมภายในฟาร์ม การทาประชาพิจารณ์ในพ้ืนท่ี ๆ จะทาฟาร์ม รวมท้ังความรู้และ
ประสบการณข์ องผู้ที่ตอ้ งการทาฟารม์ สัตว์ปีกด้วย เพราะมีผลต่อประสิทธิภาพการผลิตและความสาเร็จในการ
เลี้ยงสัตวป์ ีก
2) การวางแผนด้านปัจจยั การผลติ สัตว์ปีก
วางแผนการเลีย้ งสัตว์ปกี จาเป็นต้องมกี ารวางแผนเป็นลาดับข้ันตอนท่ีชดั เจน เพ่อื ผเู้ ลยี้ งจะสามารถใช้
เป็นแนวทางในการปฏิบัติได้ ซ่ึงจะทาให้มองเห็นภาพรวมของการวางแผนและคาดการณ์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขน้ึ
รวมทั้งหากพบความผิดพลาดระหว่างการดาเนินการตามแผนการผลิต ผู้เล้ียงสามารถที่จะย้อนกลับเพ่ือ
ตรวจสอบความผดิ พลาดไดว้ ่าเกิดจากสาเหตุใด ขัน้ ตอนในการวางแผนการเล้ยี งสัตว์ปีก ประกอบดว้ ยข้ันตอน
หลัก ๆ ไดแ้ ก่
(1) การวางโครงการเลี้ยงหรือการผลิตล่วงหน้า เพ่ือเป็นแผนอนาคตว่าต้องการผลิตอะไร
โดยพิจารณาจากพื้นที่ ๆ มีอยู่โดยต้องวางโครงการเล้ียงสัตว์ปีกให้สามารถใช้พื้นท่ี ๆ มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ
มากที่สุด รวมท้ังได้ปรมิ าณผลผลิตที่เหมาะสมกับการผลิตและตลาดท่ีรองรบั ผลผลิตนั้น ๆ ในขั้นตอนนี้ผู้เลย้ี ง
จะต้องวางแผนในด้านพันธ์ุสัตว์ และจานวนสตั วท์ ่ีจะนามาเลี้ยง, การสร้างฟาร์ม, การสร้างโรงเรือน, การเลือก
อาหารสาหรับสัตว์ปีก, การจัดโปรแกรมยาและวัคซีน และการวางแผนด้านการจาหน่ายผลผลิต ซ่ึงผู้เลี้ยง
จาต้องทราบข้อมลู สาหรับใช้ในการวาง แผนการผลติ สตั ว์ปีกแต่ละชนิด โดยขอ้ มลู ที่นามาใช้จะตอ้ งเป็นข้อมูลที่
ถกู ต้องและเชื่อถือได้ ขอ้ มลู ที่ต้องใช้ในการ วางแผนการผลิตสัตวป์ ีกมี ดังน้ี
ก. จานวนพ้ืนท่ีสาหรับเลี้ยงสัตว์ปีก เช่น จานวนสัตว์ปีกที่สามารถเลี้ยงได้ในพ้ืนที่ 1 ตาราง
เมตร
ข. ข้อมูลของฝูงสตั วป์ ีกท่ีเคยอยู่ในฟารม์ กรณีฟารม์ ท่ีเคยเล้ียงสัตว์ปีกมาแล้วอาจจะใช้ข้อมูล
เดิมเพือ่ ชว่ ยในการวางแผน
ค. รอบการผลิตหรือระยะเวลาท่ีต้องใช้ในการเลี้ยงสตั วป์ ีก 1 รอบการผลิต ได้แก่ ระยะเวลา
การเลย้ี งสตั ว์ปกี ในระยะรนุ่ ระยะไข่หรือระยะให้ผลผลติ และระยะเวลาในการพกั โรงเรอื น หลังจากสิน้ สุดการ
เล้ียงในแต่ละรอบการผลิต ซึ่งปกติจะใช้เวลาพักประมาณ 14-21 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น
โรคระบาด และฤดูกาลในชว่ งเวลานนั้ ๆ
ง. มาตรฐานการเลย้ี งสตั ว์ปกี แตล่ ะชนิดตอ่ พื้นทีใ่ นการเล้ยี ง
จ. การประมาณการณ์ผลผลิตท่ีคาดว่าจะผลิตได้ว่าจะมีค่าเป็นเท่าไรของค่ามาตรฐานของ
สตั วป์ กี แต่ละพันธ์ตุ ามช่วงฤดกู าล (Seasoning value หรอื SV) ในรปู ของค่าร้อยละ
ฉ. แนวโน้มราคาขายผลผลิต ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ราคาลูกสัตว์ปีก รวมทั้งแนวโน้มด้าน
62
การตลาด
(2) การติดตามการผลิตและผลผลิต หลังจากท่ีผู้เลี้ยงได้เร่ิมดาเนินการวางแผนการผลิต
เรียบร้อยแล้ว ผู้เลี้ยงจะต้องเตรียมติดตามการผลิตและผลผลิต โดยการบันทึกข้อมูลการผลิตต่าง ๆ เช่น
น้าหนกั ตวั เฉลย่ี ของสัตวป์ กี ปริมาณอาหารทีก่ ิน อัตราการตาย และผลผลิตไข่ เป็นต้น ซ่ึงข้อมูลเหลา่ นี้จะทาให้
ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทราบว่าการผลิตเป็นไปตามแผนท่ีวางไวห้ รือไม่ และยังสามารถใช้ในการตรวจสอบผลผลิตของ
ฟาร์มไดเ้ ช่นกัน ดงั น้นั หากผ้เู ลี้ยงสตั ว์ปีกได้มกี ารติดตามผลการผลติ และผลิตสัตว์ปีกของตนเองแลว้ ก็จะทาให้
มีขอ้ มลู สาหรับในการนาไปวเิ คราะห์ผลการปฏบิ ัติงานได้ในลาดับต่อไป
(3) การวิเคราะหข์ ้อมูลผลการปฏบิ ัติงาน เม่ือผู้เล้ียงสัตว์ปีกได้ทาการเก็บข้อมูลการผลิตและ
ผลผลิตต่างๆ แล้ว ผเู้ ลี้ยงสตั วป์ ีกสามารถใช้ขอ้ มูลท่ไี ด้บันทึกไว้จากการผลิตท้งั หมดมาคานวณเพือ่ หาค่าท่ีแสดง
ประสิทธิภาพการผลิต เช่น อัตราการเจรญิ เติบโต และประสิทธภิ าพการใช้อาหารของสัตว์ปกี เป็นต้น เพ่ือนา
ผลการคานวณไปวิเคราะห์และสรุปผลการผลิต สาหรับใช้ในการวิเคราะห์การดาเนินงานและเป็นแนวทางใน
การวางแผนการผลิตต่อไปให้มปี ระสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน ซ่ึงหากผ้เู ลี้ยงสัตว์ปีกพบวา่ ประสทิ ธิภาพการผลิตและ
ผลผลิตมปี ญั หา ผู้เลยี้ งสัตวป์ กี กส็ ามารถไปตรวจดูข้อมูลย้อนหลังต่าง ๆ ที่ทาการบนั ทึกไว้ได้
3) ข้อมูลและการวเิ คราะหข์ ้อมูลในการผลิตสตั ว์ปกี
การวางแผนการผลิตสัตว์ปีกจาเป็นต้องมีการบันทึกข้อมูล โดยมีจุดประสงค์เพ่ือให้ผู้เล้ียงทราบข้อมลู
ต่าง ๆ ในการผลิตสัตว์ปีก เช่น ข้อมูลวันท่ีรับลูกสัตว์ปีกเข้าเล้ียง จานวนสัตว์ปีกที่เลี้ยงทั้งหมด น้าหนักเมื่อ
เริม่ ตน้ เลี้ยง นา้ หนกั ตลอดระยะเวลาการเลี้ยง ปรมิ าณอาหารทีก่ นิ ในแตล่ ะวัน ราคาอาหาร จานวนและน้าหนกั
สัตว์ปีกทั้งหมดที่ขาย เป็นต้น และนาข้อมูลเหล่าน้ันมาใช้ประกอบการคานวณวิเคราะห์ประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผลของการทาฟาร์มสัตว์ปีก เช่น อัตราการเจริญเติบโตเฉล่ียต่อตัวต่อวัน และประสิทธิภาพการ
แลกเปล่ยี นอาหาร เป็นตน้ รวมท้งั ใชเ้ ป็นแนวทางในการวางแผนการผลิตลว่ งหนา้ ของฟารม์ โดยผ้เู ลี้ยงจะต้อง
มีการทาบันทึกท่ีชัดเจนและสมบูรณ์ เพ่ือท่ีจะได้นาข้อมูลมาใช้ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ การบันทึกข้อมูลควรมี
การจัดทามีทั้งข้อมูลแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนเพ่ือทาสรุปตลอดระยะเวลาการเลี้ยงของสัตว์ปีก