The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบฝึกหัดพื่อการพูดและแต่งประโยคภาษาอังกฤษ โดย ครูหนึ่ง อิงลิชชีวิตจริง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by champ.90346, 2022-11-25 00:51:38

แบบฝึกหัดเพื่อการพูดและแต่งประโยคภาษาอังกฤษ

แบบฝึกหัดพื่อการพูดและแต่งประโยคภาษาอังกฤษ โดย ครูหนึ่ง อิงลิชชีวิตจริง

การเปรยี บเทยี บข้นั กวา่ และขน้ั สงู สดุ (2)

คำชีแ้ จง: หลกั เกณฑก์ ารใช้คำคณุ ศัพทเ์ ม่อื ใช้เปรียบเทยี บในขัน้ กวา่ และข้ันสูงสดุ

3. คำท่มี ีสองพยางค์ท่ลี งทา้ ยดว้ ย -ed, -ful, -ing, -less ใหเ้ ตมิ more_than และ the most ข้างหน้า เชน่

ขัน้ ปกติ ขนั้ กว่า ขัน้ ทสี่ ดุ ความหมาย
worried more worried than the most worried นา่ เปน็ หว่ ง
helpful more helpful than the most helpful ชอบช่วยเหลือ
boring more boring than the most boring นา่ เบอ่ื
useless more useless than the most useless ไร้ประโยชน์

4. คำที่มีสามพยางค์ข้นึ ไป ให้เตมิ more และ the most ขา้ งหนา้ เช่น

ขั้นปกติ ขน้ั กว่า ขน้ั ท่สี ดุ ความหมาย
important more important the most important น่าเปน็ หว่ ง
expensive more expensive the most expensive แพง
dangerous more dangerous the most dangerous อนั ตราย
difficult more difficult the most difficult ยาก

5. คำเหลา่ นี้เป็นขอ้ ยกเวน้ พิเศษ ไม่อย่ใู นกฎเกณฑ์ (มกี ารเปลี่ยนรูป) ต้องจำใหไ้ ด้

ขนั้ ปกติ ข้นั กวา่ ข้นั ท่สี ุด ความหมาย
good better the best ดี
bad worse the worst เลว
far farther the farthest ไกล
many more the most มาก, มีมาก

คน้ หา องิ ลิชชวี ิตจริง-การพูด (เลม่ 1) P.43 Page | 43 Forty-three

ห้ามทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกชอ่ งทาง ก่อนไดร้ บั อนุญาต


แบบฝกึ หดั ท่ี 2.45 การเปรยี บเทยี บขน้ั กวา่ และขน้ั สงู สดุ (1)

คำสง่ั : จงแตง่ ประโยคและแปลความหมายให้สมบูรณ์

การเปรียบเทยี บด้วยการใช้คำคณุ ศัพทท์ ม่ี กี ารเปลย่ี นรูป (-er, -est)

1. She vs He (tall, taller, the tallest)

ขั้นปกติ She is tall. ผูห้ ญงิ คนนั้นสงู
ขั้นกวา่ (กบั ตัวเอง) She is taller. ผู้หญิงคนนัน้ สูงกว่าเดิม
ขน้ั กว่า (กบั สิ่งอน่ื ) She is taller than him. ผ้หู ญิงคนนนั้ สูงกว่าผู้ชายคนนนั้
ขน้ั สงู สดุ She is the tallest. ผูห้ ญิงคนนน้ั สูงที่สุด

2. He vs him (thin, thinner, the thinnest)

ขน้ั ปกติ
ขน้ั กว่า (กับตัวเอง)
ขน้ั กว่า (กบั สง่ิ อืน่ )
ขน้ั สูงสุด

3. I vs you (smart, smarter, the smartest)

ขน้ั ปกติ
ขน้ั กวา่ (กบั ตวั เอง)
ข้ันกว่า (กบั สิง่ อน่ื )
ขั้นสูงสดุ

4. My cat vs your dog (fat, fatter, the fattest)

ขน้ั ปกติ
ขั้นกว่า (กับตัวเอง)
ขัน้ กวา่ (กบั สิ่งอืน่ )
ขั้นสูงสดุ

คน้ หา องิ ลิชชวี ติ จริง-การพดู (เลม่ 1) 2.45 Page | 44 Forty-four

หา้ มทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกชอ่ งทาง ก่อนไดร้ บั อนญุ าต


แบบฝกึ หัดที่ 2.46 การเปรียบเทียบขัน้ กว่าและขน้ั สูงสดุ (2)

คำสัง่ : จงแตง่ ประโยคและแปลความหมายให้สมบรู ณ์

การเปรียบเทยี บดว้ ยการใชค้ ำคณุ ศัพทท์ ี่ไม่มีการเปลยี่ นรปู (more than, the most)

1. His house, her house, your house, my house (expensive, more expensive, the most expensive)

ขั้นปกติ His house is expensive. บ้านของเขา (ช) ราคาแพง
ขน้ั กว่า (กับตวั เอง)
ขั้นกว่า (กับสง่ิ อ่ืน) Her house is more expensive. บา้ นของเขา (ญ) แพงกว่า
ขั้นสูงสดุ
Your house is more expensive than my house. บา้ นคุณแพงกว่าบา้ นของฉัน

Your house is the most expensive. บา้ นของคณุ แพงทีส่ ดุ

2. She vs her (beautiful)

ข้ันปกติ
ขั้นกวา่ (กบั ตวั เอง)
ขั้นกว่า (กับสง่ิ อื่น)
ขน้ั สงู สดุ

3. Snakes vs eels (dangerous)

ขน้ั ปกติ
ขน้ั กวา่ (กับตัวเอง)
ขน้ั กว่า (กับสิ่งอื่น)
ขน้ั สูงสุด

4. Vegetable vs fruit (delicious)

ขั้นปกติ
ขน้ั กวา่ (กับตวั เอง)
ขั้นกวา่ (กับส่ิงอ่นื )
ข้ันสงู สดุ

คน้ หา องิ ลิชชีวิตจรงิ -การพูด (เล่ม1) 2.46 Page | 45 Forty-five

ห้ามทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกชอ่ งทาง ก่อนได้รับอนุญาต


PART 2 Using to Be [5]

การใช้ verb to be (เวิบ-ทู-บี) ในอดตี ปจั จบุ ันและอนาคต

“อดตี -อนาคต”

การใช้ was, were, will be เพอ่ื ทำใหร้ ปู ประโยคปัจจบุ นั กลายเปน็ อดตี และอนาคต


แบบฝกึ หดั ที่ 2.51 “พวกคณุ เคยเป็นนักเรยี นของฉัน”

คำสงั่ : จงแตง่ ประโยคตามทก่ี ำหนดให้และเปลย่ี นให้อยูใ่ นรูปอดีตและอนาคต

การฝึกแบบที่ 1 ฉนั เปน็ เคยเปน็ และจะเปน็ ในอนาคตอย่างแน่นอน

1. ฉันเปน็ นกั ออกแบบ

ปจั จุบัน I am a designer. ฉนั เป็นนักออกแบบ
อดีต I was a designer. ฉนั เคยเปน็ นักออกแบบ (ตอนนไี้ ม่ใช่แลว้ )
อนาคต I will be a designer. ฉนั จะเปน็ นกั ออกแบบ (จะเป็นอยา่ งแน่นอน)

2. ฉันเป็นนักมายากล

ปจั จุบัน
อดีต
อนาคต

3. ฉันไมใ่ ชน่ กั วทิ ยาศาสตร์

ปัจจุบนั I am not a teacher. ฉันเปน็ ครู
อดีต I wasn’t a teacher. ฉนั ไมเ่ คยเป็นครู (ตอนนไี้ มใ่ ช่แลว้ )
อนาคต I won’t be a teacher. ฉันจะไมเ่ ป็นครู (อยา่ งแน่นอน)

4. ฉันไมใ่ ชน่ กั การเมือง

ปจั จบุ ัน
อดตี
อนาคต

5. ฉันไม่ใช่สตั วแพทย์

ปัจจบุ ัน
อดตี
อนาคต

คน้ หา องิ ลชิ ชีวิตจริง-การพดู (เลม่ 1) 2.51 Page | 47 Forty-seven

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง ก่อนไดร้ ับอนญุ าต


แบบฝกึ หดั ท่ี 2.52 “เขาจะเป็นนกั เขียนการต์ ูน”

คำสั่ง: จงแต่งประโยคตามที่กำหนดใหแ้ ละเปล่ียนให้อยูใ่ นรูปอดตี และอนาคต

การฝึกแบบท่ี 2 เขาเปน็ เขาเคยเปน็ และเขาจะเปน็ ในอนาคตอยา่ งแน่นอน

1. เขา (ญ) เปน็ พเี่ ลีย้ งเดก็

ปจั จบุ ัน (เปน็ ) She is a baby sitter. เขา (ญ) เป็นพ่ีเลย้ี งเดก็
อดีต (เคยเปน็ ) She was a baby sitter. เขา (ญ) เคยเปน็ พ่เี ล้ียงเดก็ (ตอนนไ้ี ม่ใช่แลว้ )
อนาคต (จะเป็น) She will be a baby sitter. เขา (ญ) จะเปน็ พ่ีเลย้ี งเดก็ (จะเปน็ อย่างแนน่ อน)

2. เขา (ญ) เป็นนกั เขียนการต์ ูน

ปจั จบุ นั (เปน็ )
อดตี (เคยเป็น)
อนาคต (จะเป็น)

3. เขา (ญ) เปน็ นักจติ วทิ ยา

ปจั จบุ นั (เปน็ )
อดตี (เคยเป็น)
อนาคต (จะเปน็ )

4. เขา (ญ) ไม่ใชช่ า่ งภาพ (ปฏเิ สธ)

ปจั จบุ ัน (ไมเ่ ปน็ ) She isn’t a photographer. เขา (ญ) ไม่ใช่ช่างภาพ
อดตี (ไม่เคยเปน็ ) She wasn’t a photographer. เขา (ญ) ไม่เคยเปน็ ชา่ งภาพมากอ่ น
อนาคต (จะไม่เป็น) She won’t be a photographer. เขา (ญ) จะไม่เปน็ ช่างภาพ (อย่างแนน่ อน)

5. เขา (ญ) ไมใ่ ชจ่ ักษุแพทย์

ปัจจบุ นั (ไมเ่ ปน็ )
อดีต (ไม่เคยเปน็ )
อนาคต (จะไม่เปน็ )

คน้ หา องิ ลชิ ชีวิตจริง-การพดู (เล่ม1) 2.52 Page | 48 Forty-eight

หา้ มทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ช่องทาง กอ่ นไดร้ ับอนุญาต


แบบฝกึ หดั ที่ 2.53 พวกเราไมใ่ ชน่ กั ตม้ ตุ๋น

คำสั่ง: จงแตง่ ประโยคตามท่กี ำหนดให้และเปลี่ยนให้อยู่ในรปู อดีตและอนาคต

การฝึกแบบที่ 3 พวกเขาเป็น เคยเปน็ และพวกเขาจะเป็นในอนาคตอยา่ งแน่นอน

1. พวกเขาเป็นนายพราน (ผู้ลา่ )

ปจั จุบัน (เปน็ ) They are hunters. พวกเขาเปน็ นายพราน
อดตี (เคยเปน็ ) They were hunters. พวกเขาเคยเปน็ นายพราน
อนาคต (จะเป็น) They are hunters. พวกเขาจะได้เป็นนายพราน (อยา่ งแนน่ อน)

2. พวกเราเป็นสถาปนกิ

ปัจจุบัน (เปน็ )
อดตี (เคยเปน็ )
อนาคต (จะเปน็ )

3. พวกเขาเปน็ นกั พนัน (แบบยอ่ )

ปัจจบุ นั (เปน็ )
อดตี (เคยเป็น)
อนาคต (จะเป็น)

4. พวกเราไมใ่ ช่นกั ตม้ ตุน๋ (แบบย่อ)

ปจั จบุ นั (ไมเ่ ปน็ ) We aren’t swindlers. พวกเราไม่ใชน่ ักตม้ ตนุ๋
อดีต (ไม่เคยเปน็ ) We weren’t swindlers. พวกเราไมเ่ คยเปน็ นักต้มตนุ๋
อนาคต (จะไม่เป็น) We won’t be swindlers. พวกเราจะไมเ่ ปน็ นกั ตม้ ตนุ๋ (อย่างแน่นอน)

5. พวกเราไม่ใช่หวั ขโมย (แบบเตม็ )

ปจั จุบนั (ไมเ่ ปน็ )
อดีต (ไม่เคยเป็น)
อนาคต (จะไม่เป็น)

คน้ หา องิ ลชิ ชีวิตจรงิ -การพดู (เลม่ 1) 2.53 Page | 49 Forty-nine

หา้ มทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง กอ่ นไดร้ ับอนญุ าต


แบบฝึกหดั ท่ี 2.54 “มันเคยเปน็ บ้านของฉนั ”

คำสั่ง: จงแต่งประโยคตามที่กำหนดให้และเปล่ยี นให้อยู่ในรูปอดีตและอนาคต

การฝึกแบบท่ี 4 มนั เปน็ ของคณุ ใชไ่ หม เคยเป็นใชไ่ หม และจะเป็นใชไ่ หม

1. มันเปน็ บา้ นของคณุ ใชไ่ หม? มนั เป็นบา้ นของคุณใชไ่ หม?
มนั เคยเปน็ บ้านของคุณใชไ่ หม?
ปัจจบุ ัน (เปน็ ไหม) Is it your house? มนั จะเป็นบ้านของคณุ ใชไ่ หม?
อดตี (เคยเปน็ ไหม) Was it your house?
อนาคต (จะเป็นไหม) Will it be your house?

2. มันเป็นโอกาสของคุณใช่ไหม? (chance) (คำถามแบบใชห่ รอื ไม)่

ปจั จุบนั (เปน็ ไหม)
อดตี (เคยเป็นไหม)
อนาคต (จะเปน็ ไหม)

3. พวกเขาเป็นลูกจ้างของฉันใชไ่ หม? (ประธาน 2+)

ปัจจุบนั (เปน็ ไหม) Are they my employees? พวกเขาเป็นลกู จา้ งฉันใชไ่ หม?
อดตี (เคยเป็นไหม) Were they my employees? พวกเขาเคยเป็นลกู จ้างฉนั ใช่ไหม?
อนาคต (จะเป็นไหม) Will they be my employees? พวกเขาจะเปน็ ลกู จ้างฉันใช่ไหม?

4. มันไม่ใชเ่ รื่องของฉัน (สง่ิ เดียว-ปฏิเสธ) (ใช้คำว่า business)

ปัจจบุ ัน (ไมเ่ ป็น)
อดีต (ไมเ่ คยเปน็ )
อนาคต (จะไม่เป็น)

5. พวกมันไม่ใชค่ วามของฉัน (หลายสงิ่ -ปฏิเสธ)

ปจั จบุ นั (ไมเ่ ป็น)
อดีต (ไม่เคยเป็น)
อนาคต (จะไมเ่ ป็น)

คน้ หา องิ ลชิ ชีวติ จริง-การพดู (เลม่ 1) 2.54 Page | 50 Fifty

ห้ามทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง กอ่ นได้รบั อนุญาต


แบบฝกึ หดั ที่ 2.55 คุณตาของพวกเขาแขง็ แรงไหม?

คำสง่ั : จงแต่งประโยคตามท่ีกำหนดใหแ้ ละเปล่ยี นให้อย่ใู นรูปอดตี และอนาคต

การฝกึ แบบท่ี 5 เขารวยไหม เขาเคยรวยไหม และเขาจะรวยไหม (มลี กั ษณะอยา่ งไร)

1. คุณตาของพวกเขาแข็งแรง (ประธานคนเดยี ว)

ปัจจุบนั (เปน็ ไหม) Is their grandpa strong? คณุ ตาของพวกเขาแขง็ แรงไหม?

อดตี (เคยเปน็ ไหม) Was their grandpa strong? คุณตาของพวกเขาเคยแขง็ แรงไหม?

อนาคต (จะเป็นไหม) Will their grandpa be strong? คุณตาของพวกเขาจะแขง็ แรงไหม?

2. เขารวยมาก (ประธานคนเดียว)

ปัจจุบัน (เป็นไหม)
อดีต (เคยเปน็ ไหม)
อนาคต (จะเปน็ ไหม)

3. แม่ของคณุ สบายดี/ สุขภาพดี (fine) (ประธานคนเดยี ว) (แต่งประโยคบอกเล่ากอ่ นจะงา่ ยข้นึ )

ปจั จบุ นั (เปน็ ไหม)
อดตี (เคยเปน็ ไหม)
อนาคต (จะเปน็ ไหม)

4. พวกเขายากจน พวกเขายากจนใชไ่ หม?
พวกเขาเคยยากจนใช่ไหม?
ปัจจบุ นั (เปน็ ไหม) Are they poor? ในอนาคตพวกเขาจะยากจนใช่ไหม?
อดีต (เคยเปน็ ไหม) Was they poor?
อนาคต (จะเป็นไหม) Will they be poor?

5. คุณอว้ น

ปัจจบุ ัน (ไม่เป็น)
อดีต (ไม่เคยเปน็ )
อนาคต (จะไมเ่ ปน็ )

คน้ หา องิ ลชิ ชีวติ จริง-การพดู (เลม่ 1) 2.55 Page | 51 Fifty-one

หา้ มทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง ก่อนไดร้ ับอนุญาต


แบบฝกึ หัดที่ 2.56 มนั เคยอยทู่ ่นี ี่

คำสั่ง: จงแต่งประโยคตามท่ีกำหนดให้และเปล่ียนให้อยู่ในรปู อดตี และอนาคต

การฝกึ แบบท่ี 6 มันอยทู่ นี่ ่ี เคยอยทู่ ี่น่ี และจะอย่ทู ี่น่ีในอนาคต (อยทู่ ไ่ี หน)

1. มันเป็นของคณุ ใชไ่ หม? (ประธานคนเดียว) มนั อยู่ทนี่ ่ีใชไ่ หม?
มันเคยอยู่ที่นใี่ ชไ่ หม?
ปัจจบุ นั (อย่ไู หม) Is it here? มันจะอย่ทู ่นี ี่ใช่ไหม?
อดตี (เคยอยไู่ หม) Was it here?
อนาคต (จะอยไู่ หม) Will it be here?

2. เขา (ช) อยบู่ ้านไหม? (คนเดียว)

ปัจจุบนั (อย่ไู หม)
อดตี (เคยอยไู่ หม)
อนาคต (จะอยไู่ หม)

3. นกั เรียนคนนน้ั อยู่ในห้องเรยี นไหม? (สิ่งเดยี ว) (แต่งประโยคบอกเล่าก่อนจะงา่ ยขน้ึ )

ปจั จบุ ัน (อยไู่ หม)
อดตี (เคยอยไู่ หม)
อนาคต (จะอยไู่ หม)

4. คุณอยูใ่ นใจของฉัน (บอกเล่า)

ปจั จบุ นั (อยูไ่ หม)
อดีต (เคยอยไู่ หม)
อนาคต (จะอยไู่ หม)

5. พวกเขาอยใู่ นถำ้ (บอกเล่า)

ปจั จบุ ัน (อย่ไู หม)
อดตี (เคยอยไู่ หม)
อนาคต (จะอยไู่ หม)

คน้ หา องิ ลชิ ชวี ิตจริง-การพูด (เล่ม1) 2.56 Page | 52 Fifty-two

ห้ามทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง กอ่ นได้รบั อนญุ าต


PART 3 Using to do

การใช้ verb to do (เวบิ -ท-ู ด)ู

“ใครทำอะไร”

การใชค้ ำกรยิ าแท,้ การใช้ do, does ในประโยคคำถาม-ปฏเิ สธ, การเติม s, es, ies ในคำกริยา
“ทำอะไร แปลเหมือนไทย ใช้ ทดู ู เวิร์ฟทดู ู เปน็ เวิรฟ์ แท้ แปลว่า ทำ

ถ้าไมท่ ำ เปน็ เวริ ์ฟช่วย ช่วยแบบไหน ชว่ ยปฏิเสธ แปลว่า “ไม่” ไอ-ดน้ -ลาย
อีกนน้ั ไทร้ คอื คำถาม ความ เยซ-โนว” [เวิร์ฟทดู ู (verb to do), verb หมายถึง คำกริยา]


ทำอะไร-แปลเหมือนไทย (1)

คำช้แี จง: ประโยคทีเ่ กยี่ วกบั การกระทำ แบบทไ่ี ม่ตอ้ งมกี รรมและจำเปน็ ตอ้ งมกี รรมในประโยค

โครงสรา้ งประโยคท่ีกลา่ วถึงการกระทำน้ัน มหี ลายแบบ ดงั นี้

แบบที่ 1 ประธาน+กรยิ า (ไม่มีกรรมก็สมบรู ณ)์

ประธาน กรยิ า แปล
He smiles เขายม้ิ
I work ฉนั ทำงาน
A bird flies นกบิน
My mother sings แมข่ องฉันรอ้ งเพลง
The cat sleeps แมวตวั นนั้ นอน
We jump พวกเรากระโดด
They run พวกเขาวง่ิ

แบบที่ 2 ประธาน+กรยิ า+กรรม (ตอ้ งมีกรรมถงึ จะสมบูรณ์)

ประธาน กรยิ า กรรม แปล
She goes to school เขา (ญ) ไปโรงเรยี น
We grow banana trees พวกเราปลกู กลว้ ย
Her daughter do housework ลกู สาวของเขา (ญ) ทำงานบา้ น
Our aunt watches TV ป้าของพวกเราดทู วี ี
The boy kills many worms เด็กชายคนน้ันฆ่าหนอนมากมาย
They play football พวกเขาเลน่ ฟุตบอล
The bird eats worms เปด็ ตัวนน้ั กินหนอน (หลายตัว)

คน้ หา อิงลชิ ชีวติ จริง-การพดู (เล่ม1) P.54 Page | 54 Fifty-four

ห้ามทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง กอ่ นได้รับอนุญาต


ทำอะไร-แปลเหมือนไทย (2)

คำชแ้ี จง: ประโยคทเี่ กยี่ วกบั การกระทำและมสี ว่ นขยายที่บอกถงึ ความถขี่ องการกระทำ

แบบที่ 3 ประธาน+กรยิ า+กรรม+ความถ่ี (ระบเุ วลาชดั เจน)

ประธาน กรยิ า กรรม ความถี่ (%) แปล

She goes to school every Sunday เขา (ญ) ไปโรงเรียนทกุ วันอาทติ ย์

We eat banana every week พวกเรากนิ กล้วยทุกสปั ดาห์

Her daughter do housework every month ลกู สาวของเขา (ญ) ทำงานบา้ นทุกเดอื น

Our aunt watches TV every weekend ปา้ ของพวกเราดทู ีวีทกุ วนั หยดุ สดุ สปั ดาห์

The boy kills worms every 2 days เดก็ ชายคนน้ันฆ่าหนอนทุก ๆ สองวนั

They play football every Friday พวกเขาเล่นฟตุ บอลทุกวนั ศุกร์

แบบท่ี 4 ประธาน+กรยิ า+กรรม+ความถ่ี (ไมร่ ะบุเวลาโดยประมาณ คิดเป็น %)

ประธาน ความถี่ (%) กริยา กรรม แปล
She always goes to school เขา (ญ) ไปโรงเรียนเปน็ ประจำ
We sometimes eat banana พวกเรากินกล้วยเป็นบางคร้งั
Her daughter often do housework ลูกสาวของเขา (ญ) ทำงานบ้านบ่อย ๆ
Our aunt rarely watches TV ปา้ ของพวกเราแทบจะไมด่ ูทวี ี
The boy seldom kills ants เด็กชายคนน้นั ฆา่ มดนาน ๆ ที
They usually play football พวกเขาเลน่ ฟุตบอลบ่อย ๆ
We normally drink juice พวกเราด่ืมนำ้ ผลไม้เป็นปกติ

หมายเหต:ุ ตำแหน่งของคำทบ่ี อกความถโ่ี ดยประมาณน้ัน สามารถวางได้หลายท่ี มีตัวอยา่ งใหศ้ ึกษาในส่วนถดั ไปนะคะ

คน้ หา องิ ลชิ ชวี ิตจริง-การพูด (เล่ม1) P.55 Page | 55 Fifty-five

ห้ามทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ช่องทาง กอ่ นได้รบั อนญุ าต


ทำอะไร-แปลเหมือนไทย (3)

คำช้ีแจง: ประโยคท่เี กี่ยวกบั การกระทำและมสี ว่ นขยายความหลายแบบ

แบบที่ 5 ประธาน+กรยิ า+กรรม+ส่วนขยาย/ ส่วนเตมิ เต็ม

No. ใคร ทำอะไร ทำต่ออะไร กบั ใคร, ท่ีไหน, อย่างไร, เมอื่ ไหร่
- away
1 A bird flies - ไปทอี่ ่ืน (อย่างไร)
happily
นก บนิ - อยา่ งมคี วามสขุ (อยา่ งไร)
fish every week
2 He works ปลา ทุกสัปดาห์ (บ่อยแคไ่ หน)
a student in the morning
เขา (ช) ทำงาน นกั เรียนคนหนึ่ง ในตอนเชา้ (เมอ่ื ไหร่)
a car carefully
3 My cat eats รถ อย่างระมัดระวัง (อย่างไร)
a market with mother
แมวของฉัน กิน ตลาด (แหง่ หนึ่ง) กบั แม่ (ไปกบั ใคร)
- every day
4 The teacher punishes - ทุกวนั (บ่อยแคไ่ หน)
- always
ครูคนนน้ั ลงโทษ - อย่างสม่ำเสมอ (บอ่ ยแคไ่ หน %)
milk in the morning every day
5 Your father drives นม ในตอนเชา้ ทุกวนั (บอ่ ยแค่ไหน)
worms filthily
พ่อของคุณ ขับ หนอน อย่างมมู มาม (อยา่ งไร)

6 We go to

พวกเรา ไป

7 My mother cooks

แม่ของฉัน ทำอาหาร

8 They exercise

พวกเขา ออกกำลงั กาย

9 I drink

ฉัน ดมื่

10 The chickens eat

ไก่พวกนั้น กนิ

คน้ หา องิ ลชิ ชีวิตจรงิ -การพดู (เล่ม1) P.56 Page | 56 Fifty-six

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง กอ่ นไดร้ บั อนญุ าต


การเตมิ s, es, ies ในคำกรยิ า

คำช้แี จง: หลกั การเติม s, es, ies ในคำกรยิ ากเ็ หมอื นหลกั การในคำนาม แตใ่ ช้ต่างกัน

ในการสร้างประโยคบอกเล่า ทีป่ ระกอบดว้ ย คำกรยิ าแท้ หรอื Verb นน้ั หากประธานของประโยค
เป็นรปู เอกพจน์ (มีคนเดยี ว ยกเวน้ I) คำกริยาจะต้องเตมิ s, es, ies ตามหลกั การ ดังน้ี
1. คำกริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย s, ss, ch, x, o เตมิ es เชน่

Dang goes to the post office. (แดงไปยงั ทท่ี ำการไปรษณีย์)
The tutor teaches Math after school. (ครสู อนพเิ ศษคนนน้ั สอนเลขหลังเลิกเรียน)
The boy boxes the thief bravely. (เด็กชายคนนน้ั ชกหัวขโมยอย่างกล้าหาญ)
He fishes on the bridge. (เขาตกปลาบนสะพาน)
2. คำกริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย y และหนา้ y เปน็ พยญั ชนะ เปลยี่ น y เปน็ i แล้วเติม es เช่น
She studies in the United States of America. (เขาเรยี นในสหรัฐอเมรกิ า)
The baby always cries at midnight. (เดก็ ทารกคนนน้ั มกั จะรอ้ งไหต้ อนเทยี่ งคนื )
My mom dries bananas every day. (แมข่ องฉนั ตากกลว้ ยทกุ วนั )
The chef fries some chicken. (พ่อครวั คนนน้ั ทอดไก่อยู่ในครวั )
3. คำกริยาที่ลงทา้ ยด้วย y ซ่งึ หนา้ y มีสระ a, e, i, o, u ให้เตมิ s ได้เลย เชน่
The boy plays guitar every day. (เด็กชายคนนนั้ เล่นกีตาร์ทุกวนั )
My mom buys many things in the shop. (แมข่ องฉันซ้ือของหลายอย่างในรา้ นแห่งน้ัน)
His grandma prays in the temple every week. (ยายของเขาสวดมนต์ท่ีวัดนั้นทุกสัปดาห์)
4. คำกรยิ าทล่ี งท้ายด้วย e และลงท้ายด้วยพยัญชนะอนื่ ๆ เตมิ s ไดเ้ ลย เชน่
He wants some sugar. (เขา (ญ) ตอ้ งการนำ้ ตาล)
She wants to go to the beach. (เขา (ญ) ตอ้ งอยากไปชายหาด)
The officer comes late. (เขา (ญ) เจ้าหน้าท่คี นน้ันมาสาย)
The deer eats corns. (กวางตวั นน้ั กนิ ขา้ วโพด)

คน้ หา องิ ลิชชีวติ จริง-การพูด (เล่ม1) P.57 Page | 57 Fifty-seven

หา้ มทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทกุ ช่องทาง กอ่ นไดร้ บั อนญุ าต


แบบฝกึ หดั ท่ี 3.11 “พวกเราชอบหมา” (ประธาน 2+)

คำสง่ั : จงแปลความหมายของประโยคท่ีกำหนดให้

การฝกึ แบบที่ 1 แบบทมี่ ี “ประธาน” ตงั้ แต่ 2 คนข้นึ ไปและ I, You, We, They

1. I drive a car. (โดยปกติ) แปล: ฉนั ขบั รถ (เรียงเหมือนภาษาไทย ใช้ได้ประมาณ 80%)
……………………………………………………………………………
2. I cook. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
3. I sell books. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
4. I clean my room. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
5. You walk to school. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
6. You buy a new car. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
7. You do Yoga. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
8. You play tennis. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
9. We study Thai. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
10. We swim. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
11. We like dogs.** (สอนเร่ือง like) แปล:

12. We read a newspaper. แปล:

13. They build pools. แปล:

14. They fix the computer. แปล:

15. They look at me. แปล:

16. They grow rice. แปล:

17. My sisters do housework. แปล:

18. The tourists speak Japanese. แปล:

19. The students feed cats. แปล:

20. The elephants draw a picture. แปล:

คน้ หา อิงลชิ ชวี ติ จรงิ -การพูด (เล่ม1) 3.11 Page | 58 Fifty-eight

ห้ามทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทกุ ช่องทาง กอ่ นได้รบั อนญุ าต


แบบฝกึ หัดที่ 3.12 “เขาขีม่ า้ ” (ประธานคนเดียว)

คำสง่ั : จงแปลความหมายของประโยคท่ีกำหนดให้

การฝกึ แบบที่ 2 แบบท่ีมี “ประธาน” คนเดยี ว และ He, She, It

1. She collects stamps. แปล: เขา (ญ) สะสมแสตมป์ (อย่าลืมเติม s, es, ies ทคี่ ำกริยา)

2. She dries bananas. แปล: ……………………………………………………………………………

3. He fries some pork. แปล: ……………………………………………………………………………

4. She washes her clothes. แปล: ……………………………………………………………………………

5. The pilot flies. แปล: ……………………………………………………………………………

6. His son listens to the music. แปล: ……………………………………………………………………………

7. Her nephew flies a kite. แปล: ……………………………………………………………………………

8. He dives alone. แปล: ……………………………………………………………………………

9. The boxer boxes the opponent. แปล: ……………………………………………………………………………

10. My niece bakes a cake. แปล: ……………………………………………………………………………

11. ลิงตัวน้ันชอบเน้ือมะพร้าว แปล: The monkey likes coconut meat. (อย่าลืมเติม s, es, ies)
12. เขา (ญ) ล้างจาน แปล: ……………………………………………………………………………
13. ทนายความคนนัน้ ไปศาล แปล: ……………………………………………………………………………
14. สงิ โตตวั นนั้ กัดกระต่ายหลายตัว แปล: ……………………………………………………………………………
15. มนั กนิ แครอท แปล: ……………………………………………………………………………
16. น้องชายของผมด่มื ชาเขยี ว แปล: ……………………………………………………………………………
17. แม่ไกต่ ัวนัน้ เลยี้ งลูกไก่มากมาย แปล: ……………………………………………………………………………
18. เดก็ คนน้นั ขายขวดพลาสตกิ แปล: ……………………………………………………………………………
19. ลูกหมูตัวนั้นชดุ ดิน แปล: ……………………………………………………………………………
20. พนกั งานคนนัน้ เช็ดกระจก แปล: ……………………………………………………………………………

คน้ หา องิ ลชิ ชวี ิตจรงิ -การพดู (เลม่ 1) 3.12 Page | 59 Fifty-nine

ห้ามทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง ก่อนไดร้ ับอนุญาต


แบบฝกึ หดั ท่ี 3.13 ปกตฉิ ันไมด่ มื่ เหล้า (ประธาน 2+ คนขน้ึ ไป)

คำสั่ง: จงแปลความหมายของประโยคทีก่ ำหนดให้

การฝึกแบบที่ 3 แบบท่ีมปี ระธาน 2+ คนข้นึ ไป (ใช้ do not/ don’t)

1. I don’t drink alcohol. แปล: ฉนั ไม่ดม่ื เหล้า (เปน็ ปกติ)
2. They don’t speak English. แปล: ……………………………………………………………………………
3. We don’t like snakes. แปล: ……………………………………………………………………………
4. I do not feel good. แปล: ……………………………………………………………………………
5. Dears don’t eat meat. แปล: ……………………………………………………………………………
6. They don’t touch dogs. แปล: ……………………………………………………………………………
7. We don’t have parents. แปล: ……………………………………………………………………………
8. I do not smoke. (แบบเตม็ ) แปล: ……………………………………………………………………………
9. I don’t do that at all. แปล: ……………………………………………………………………………
10. You don’t have homework. แปล: ……………………………………………………………………………

11. เตา่ ไมว่ ง่ิ (โดยปกติ) แปล: Turtles don’t run.
……………………………………………………………………………
12. กระตา่ ยไม่กินปลา (โดยปกต)ิ แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
13. ปลาฉลามไม่กนิ พืช (โดยปกต)ิ แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
14. ผมไม่ดื่มน้ำเต้าหู้ แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
15. นักเรียนเหล่านัน้ ไม่เรียนภาษาญปี่ ุน่ แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
16. พวกเขาไม่ไปพบแพทย์ (ไปหาหมอ) แปล:

17. พวกท่านไมค่ ยุ กนั เลย แปล:

18. พวกเราไมเ่ ลน่ การพนัน (gamble) แปล:

19. พระสงฆไ์ ม่ฉนั ม้อื เย็น (ทกุ รูป) แปล:

20. เด็ก ๆ เหล่าน้ันไมช่ อบคณิตศาสตร์ แปล:

คน้ หา องิ ลิชชีวติ จรงิ -การพูด (เลม่ 1) 3.13 Page | 60 Sixty

ห้ามทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกช่องทาง กอ่ นได้รับอนญุ าต


แบบฝกึ หัดท่ี 3.14 “ปกติเขาไมก่ นิ เนอ้ื ” (ประธานคนเดียว)

คำส่งั : จงแปลความหมายของประโยคที่กำหนดให้

การฝกึ แบบที่ 4 แบบปฏิเสธแบบทม่ี ีประธาน 2+ คนขึ้นไป (ใช้ does not/ doesn’t)

1. She does not drink coffee. แปล: เขา (ญ) ไมด่ ื่มกาแฟ (เป็นปกต)ิ
……………………………………………………………………………
2. Manee doesn’t speak Thai. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
3. The boy doesn’t eat meat. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
4. She doesn’t feed any cats. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
5. The student doesn’t eat pork. แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
6. The girl doesn’t have any toys. แปล:

7. He doesn’t do any sports. แปล:

8. It doesn’t sleep here. แปล:

9. Your bird doesn’t like me. แปล:

10. Your son doesn’t do homework. แปล:

11. หอยทากตวั นั้นไมข่ ยบั เลย แปล: The snail does not move. (แบบเตม็ )
12. เดก็ ชายคนนัน้ ไมร่ ดน้ำต้มไม้ แปล: ……………………………………………………………………………
13. เขา (ญ) ไม่ได้อาศยั อย่ทู ี่เมอื งไทย แปล: ……………………………………………………………………………
14. นกแก้วตัวน้ันไม่พูดเลย แปล: ……………………………………………………………………………
15. มนั ไมท่ ำงาน แปล: ……………………………………………………………………………
16. มันไมเ่ ห็นชอบน้ำ แปล: ……………………………………………………………………………
17. เขา (ญ) ไมค่ ยุ กับฉนั เลย แปล: ……………………………………………………………………………
18. พ่อของฉนั ไมเ่ ลน่ การพนนั (gamble) แปล: ……………………………………………………………………………
19. ลงุ ของฉันไม่ดื่มเหล้า (โดยปกติ) แปล: ……………………………………………………………………………
20. ภารโรงคนน้นั ไม่ลอ็ คประตู แปล: ……………………………………………………………………………

คน้ หา องิ ลชิ ชีวติ จรงิ -การพดู (เลม่ 1) 3.14 Page | 61 Sixty-one

หา้ มทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง ก่อนไดร้ บั อนญุ าต


ทำอะไร + กบั ใคร ทีไ่ หน อยา่ งไรเมอื่ ไหร่

คำชีแ้ จง: ตวั อยา่ งการแต่งประโยคทใ่ี ช้คำกริยาและมีส่วนขยายหลายแบบ

Example 1 She eats noodles. เขา (ญ) กินกว๋ ยเต๋ียว (ลองแปลเองนะคะ)

ใคร She
ทำอะไร She eats noodles.
ทำกับใคร She eats noodles with mother.
ทำทีไ่ หน She eats noodles at home.
ทำอย่างไร She eats noodles hungrily. (ใช้ adverb อธบิ ายลกั ษณะของการกระทำ)
ทำเม่อื ไหร่ She eats noodles in the afternoon.
รวม She eats noodles with mother at home hungrily.

Example 2 They don’t play football. พวกเขาเลน่ ฟตุ บอล (ลองแปลเองนะคะ)

ใคร They
ทำอะไร They don’t play football.
ทำกบั ใคร They don’t play football with us.
ทำท่ีไหน They don’t play football on the road.
ทำอยา่ งไร They don’t play football carelessly. (ใช้ adverb อธิบายลกั ษณะของการกระทำ)
ทำเมอ่ื ไหร่ They don’t play football in the evening.
รวม They don’t play football on the road in the evening carelessly.

Example 3 My mom doesn’t cook. แมข่ องฉนั ไม่ทำอาหาร

ใคร My mom
ทำอะไร My mom doesn’t cook. (เมือ่ ใช้ to do มาชว่ ยแลว้ คำกริยาจะอยู่ในรปู เดิมเสมอ)
ทำกับใคร My mom doesn’t cook with me.
ทำท่ีไหน My mom doesn’t cook at home.
ทำอย่างไร My mom doesn’t cook quickly.
ทำเมื่อไหร่ My mom doesn’t cook today.
รวม My mom doesn’t cook at home quickly today. (รวมอะไรกับอะไรกไ็ ด้)

คน้ หา อิงลชิ ชีวติ จริง-การพูด (เล่ม1) P.62 Page | 62 Sixty-two

ห้ามทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทกุ ช่องทาง กอ่ นได้รับอนญุ าต


แบบฝึกหัดที่ 3.15 ทำอะไร + กบั ใคร + ทไี่ หน + เมอื่ ไหร่

คำสัง่ : จงแปลความหมายของประโยคทก่ี ำหนดให้

การฝึกแบบท่ี 6 แบบทีม่ กี ารเพม่ิ ส่วนขยายว่า ทำกบั ใคร ทไี่ หน อยา่ งไร เมอ่ื ไหร่

1. He rides a horse with friends in the camp every Saturday.
แปล: เขา (ช) ขี่มา้ กบั เพ่ือน ๆ ในค่ายพกั แรมทกุ วนั เสาร์ (จะมสี ่วนเตมิ เต็มกแ่ี บบก็ได้)
2. I play badminton with sisters in Bangkok on weekend.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. He usually travels alone on his vocation.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. We always have spaghetti together on Sunday morning.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. They want to go to Japan for diving in Summer. (อยากจะ)
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. His brothers love to drink together on Friday night.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
7. The gunner often practices shooting in the forest.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
8. We prepare books for sending every day.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
9. I always learn English on YouTube channels myself.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
10. We sometimes speak Chinese with customers.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….

คน้ หา อิงลิชชวี ติ จรงิ -การพูด (เลม่ 1) 3.15 Page | 63 Sixty-three

ห้ามทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง กอ่ นไดร้ ับอนญุ าต


แบบฝึกหัดท่ี 3.16 ทำอะไร + อยา่ งไร

คำสงั่ : จงแปลความหมายของประโยคทกี่ ำหนดให้

การฝึกแบบที่ 7 แบบทม่ี ีการเพมิ่ ส่วนขยายวา่ ทำอยา่ งไร (ลองใช้ adverb of manner)

1. He always drives a car carelessly.
แปล: เขาขับรถโดยประมาทอย่เู ปน็ ประจำ (พจิ ารณาความหมายจากความถี่ %)
2. We speak English confidently.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. She eats hamburger greedily.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. They talk to the tourists angrily.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. The players play joyously.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. He always speaks very fast.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
7. It barks them loudly.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
8. The cleaner cleans the toilet quickly.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
9. Your secretary does report clearly.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
10. The male nurse boxes the thief bravely.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….

คน้ หา อิงลชิ ชีวิตจริง-การพดู (เลม่ 1) 3.16 Page | 64 Sixty-four

หา้ มทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง กอ่ นได้รบั อนญุ าต


ทำอะไร-แปลเหมอื นไทย “ทำอะไร+บอ่ ยแค่ไหน”

คำชแี้ จง: มารู้จักกับ Adverb ท่ีใช้บอกความถ่ีของการกระทำโดยการประมาณ คดิ เป็น (%)

คำทแ่ี สดงความถ่ี (Frequency)

Frequency Reading % Meaning
always ออลซ์-เวยซ์ ์ 100 เสมอ, ตลอดเวลา
reqularly เรค-ก-ู ลา-ลิ 100 บอ่ ย ๆ, เสมอ ๆ, เปน็ ประจำ
generally เจน-เนอ-รอล-ลิ 80 โดยท่ัวไป, ส่วนใหญ่
usually ยชู -ชัว-ลิ 80 โดยปกติ
normally นอ-มอล-ลิ 80 โดยปกต,ิ โดยธรรมดา
often ออฟ-เทน 50 บ่อย ๆ, เสมอ ๆ, เปน็ ประจำ
sometimes ซัม-ทามซ์ 20 บางเวลา
occasionally ออค-เคซ-ซนั -นอล-ลิ 20 บางคร้ังบางคราว
seldom แซล-ดอม 10 แทบจะไม่
never เนฟ-เฟอะ 0 ไม่เคย

ตวั อย่างประโยคทม่ี ีการระบคุ วามถี่โดยประมาณ (%)

1. She always gets up at 6 a.m. เขา (ญ) ต่นื นอนตอน 6 โมงเช้าเปน็ ประจำ
2. He usually goes to the lake on Sunday. เขา (ช) ไปทะเลสาบในวนั อาทิตย์บอ่ ย ๆ
3. We sometimes drink together. พวกเราดม่ื (เหลา้ ) ด้วยกันในบางคร้งั
4. They occasionally walk to work. บางครัง้ พวกเขาเดนิ ไปทำงาน
5. I often surf the internet after work. ฉันมักจะทอ่ งอนิ เทอรเ์ นต็ หลงั เลิกงาน
6. I never smoke. ฉันไมเ่ คยสูบบหุ ร่ี

คน้ หา องิ ลชิ ชีวติ จรงิ -การพดู (เล่ม1) P.65 Page | 65 Sixty-five

หา้ มทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง ก่อนไดร้ บั อนญุ าต


แบบฝกึ หดั ที่ 3.17 ทำอะไร + บ่อยแค่ไหน

คำสงั่ : การบอกความถข่ี องการกระทำทัง้ แบบระบุเวลาและโดยการประมาณ

การฝกึ แบบท่ี 8 แบบที่มกี ารระบคุ วามถี่ โดยการบอกเวลาชัดเจน

1. She rides a horse every Saturday. แปล: เขา (ญ) ขมี่ ้าทุกวันเสาร์

2. She works hard every day. แปล: ……………………………………………………………………………

3. He drinks every Friday night. แปล: ……………………………………………………………………………

4. He washes clothes every week. แปล: ……………………………………………………………………………

5. We don’t cook every weekend. แปล: ……………………………………………………………………………

การฝึกแบบท่ี 9 แบบทม่ี กี ารระบุความถี่ โดยการบอกเวลาชดั เจน

always 100%, usually 90%, normally/ generally 80%, often*/ frequently 70%
sometimes 50%, occasionally 30%, seldom 10%, hardly ever/ rarely 5%, never 0%

1. She always eats pizza with friends. แปล: ……………………………………………………………………………

2. I sometimes swim in the river. แปล: ……………………………………………………………………………

3. They usually play tennis together. แปล: ……………………………………………………………………………

4. My brother often does housework. แปล: ……………………………………………………………………………

5. He normally goes to the gym. แปล: ……………………………………………………………………………

6. I often surf the internet. แปล: ……………………………………………………………………………

7. I never eat insects. แปล: ……………………………………………………………………………

8. I seldom read that newspaper. แปล: ……………………………………………………………………………

9. We occasionally eat junk food. แปล: ……………………………………………………………………………

10. I always go to bed before 11 p.m. แปล: ……………………………………………………………………………

คน้ หา อิงลิชชวี ติ จรงิ -การพดู (เลม่ 1) 3.17 Page | 66 Sixty-six

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง กอ่ นไดร้ ับอนญุ าต


จะทำ, ควรทำ, ตอ้ งทำ, อาจจะทำ, กล้าทำ, เคยทำ

คำชแี้ จง: กลุม่ คำกริยาชว่ ยในภาษาองั กฤษท่ีจำเป็นต้องทราบ

กริยาช่วย (Auxiliary Verbs/ Helping Verbs)

ในภาษาอังกฤษ มีการใช้กริยาช่วย Auxiliary Verbs หรือ Helping Verbs ซึ่งมีทั้งหมด 24 ตัว
ดังนี้ is, am, are, was, were, have, has, had, do, does, did, will, would, shall, should, can,
could, may, might, must, need, dare, ought to, use to ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการเรียนกริยาช่วยบาง
คำมาแล้ว ดังน้นั ในบทน้ี จะขอกล่าวถึงเฉพาะคำทย่ี งั ไม่เคยเรยี น นะคะ

No. Auxiliary Verbs Reading Meaning
จะ
1 will วิล จะ (อดีตของ will และใชใ้ นเรอื่ งสำสมมุต)ิ
จะ (คำโบราณ)
2 would วดู ควร
สามารถ
3 shall แชล สามารถ (อดีตของ can และใชใ้ นเร่อื งสมมุติ)
อาจจะ
4 should ชู๊ด อาจจะ (อดตี ของ may และใช้ในเรอ่ื งสมมตุ )ิ
ต้อง
5 can แคน ต้องการ
กลา้ , ทา้
6 could คู๊ด ควรจะ
เคย
7 may เมย์

8 might ไมท์

9 must มซั ท์

10 need นดี

11 dare แดร์

12 ought to ออท-ทู

13 used to ยูซ-ทู

คน้ หา องิ ลชิ ชีวิตจริง-การพูด (เลม่ 1) P.67 Page | 67 Sixty-seven

ห้ามทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทกุ ช่องทาง ก่อนไดร้ บั อนญุ าต


จะทำ, ควรทำ, ตอ้ งทำ, อาจจะทำ, กล้าทำ

คำชี้แจง: กลุ่มคำกริยาช่วยในภาษาองั กฤษ ท้ังรปู บอกเล่าและปฏิเสธ

รปู ปฏิเสธของกริยาช่วยทัง้ 24 ตวั

no. รปู ปกติ รปู ปฏเิ สธ รปู ปฏเิ สธแบบยอ่ ความหมาย
1 is (‘s) is not (‘s not) isn't เป็น อยู่ คอื (ปจั จุบนั )
2 am (‘m) am not (‘m not) ไม่มรี ปู ยอ่ เปน็ อยู่ คอื (ปจั จุบัน)
3 are (‘re) are (‘re not) aren't เปน็ อยู่ คอื (ปจั จบุ ัน)
4 was was not wasn't เปน็ อยู่ คอื (อดีต)
5 were were not weren't เป็น อยู่ คือ (อดีต)
6 do do not don't ทำ (ปจั จบุ นั )
7 does does not doesn’t ทำ (ปัจจบุ นั )
8 did did not didn’t ทำ (อดตี )
9 have (‘ve) have not haven’t มี (ปัจจบุ ัน)
10 has (‘s) has not hasn’t มี (ปจั จบุ ัน)
11 had (‘d) had not hadn’t มี (อดีต)
12 can cannot can’t สามารถ (ปจั จุบนั )
13 could could not couldn’t สามารถ (อดตี )
14 may may not mayn’t อาจจะ (ปัจจบุ นั )
15 might might not mightn’t อาจจะ (ปัจจบุ ัน)
16 will (‘ll) will not won’t จะ (ปัจจบุ นั )
17 would (‘d) would not wouldn’t จะ (พดู ถึงอดตี และเรอื่ งสมมุติ)
18 shall shall not shan’t จะ (กล่าวในปัจจบุ นั )
19 should should not shouldn’t ควรจะ (กลา่ วในปจั จุบัน)
20 must must not mustn’t ต้อง (กลา่ วในปจั จุบนั )
21 ought to ought not to oughtn’t สามารถ (กลา่ วในปจั จบุ ัน)
22 need to need not needn’t จำเปน็ ตอ้ ง (กลา่ วในปัจจบุ ัน)
23 dare dare not daren’t กล้า (กลา่ วในปัจจุบัน)
24 used to used not usedn’t เคย (กล่าวในปจั จบุ ัน)

คน้ หา อิงลิชชวี ติ จริง-การพดู (เล่ม1) P.68 Page | 68 Sixty-eight

หา้ มทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง กอ่ นได้รบั อนญุ าต


แบบฝึกหดั ที่ 3.18 จะทำ, ควรทำ, ตอ้ งทำ (1)

คำสง่ั : จงแปลความหมายของประโยคทกี่ ำหนดให้ ให้ถกู ตอ้ ง

ตวั อยา่ งการใช้คำกริยาช่วยตา่ ง ๆ

ปกติทำ They drink milk before bed. แปล: ปกตพิ วกเขาดื่มนมก่อนนอน
จะทำ ………………………………………………………
จะทำ (อดตี ) They will drink milk before bed. แปล: ………………………………………………………
ทำได้ ………………………………………………………
ควรทำ (อดตี ) They would drink milk before bed. แปล: ………………………………………………………
จะทำ ………………………………………………………
ควรทำ They can drink milk before bed. แปล: ………………………………………………………
อาจจะทำ ………………………………………………………
อาจจะทำ (อดตี ) They could drink milk before bed. แปล: ………………………………………………………
กล้าทำ ………………………………………………………
เคยทำ They shall drink milk before bed. แปล: ………………………………………………………
ต้องทำ ………………………………………………………
ต้องทำ They should drink milk before bed. แปล: ………………………………………………………
จำเป็นต้องทำ ………………………………………………………
อยากทำ They may drink milk before bed. แปล: ………………………………………………………
ชอบทำ ………………………………………………………
They might drink milk before bed. แปล:

They dare drink milk before bed. แปล:

They used drink milk before bed. แปล:

They must drink milk before bed. แปล:

They have to drink milk before bed. แปล:

They need to drink milk before bed. แปล:

They want to drink milk before bed. แปล:

They like to drink milk before bed. แปล:

คำว่า dare/ dare to, บางตำราบอกว่า ไม่ใช่กริยาช่วย เพราะสามารถใช้แบบที่เป็นกริยาแท้ได้
กล่าวคือ สามารถใช้ to do มาช่วยในรูปปฏิเสธและคำถามได้ เช่น Do you dare to swim across the
river? / No, I don’t dare to swim.

ส่วนคำว่า have/ has/ had to, need to, like to นั้น ไม่ใช่กริยาช่วยแต่อย่างใด แต่จากการ
วิเคราะห์โดยส่วนตัวพบว่า มีการวางตำแหน่งเดียวกัน และสามารถแปลความหมายในทิศทางเดียวกันได้ จึง
นำมาให้ฝึกกันนนั่ เอง

ค้นหา อิงลิชชวี ติ จรงิ -การพดู (เลม่ 1) 3.18 Page | 69 Sixty-nine

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง ก่อนได้รับอนญุ าต


แบบฝกึ หัดที่ 3.19 จะทำ, ควรทำ, ตอ้ งทำ (2)

คำสงั่ : จงแตง่ ประโยคดว้ ยกริยาชว่ ยต่าง ๆ พร้อมแปลความหมายให้ถกู ต้อง

ลองฝึกแต่งประโยคท่ีใชค้ ำกรยิ าชว่ ยตา่ ง ๆ กันดูนะคะ

normally ปกติ he plays guitar. ปกตเิ ขาเลน่ กตี าร์ (หลงั จากใชก้ ริยาช่วยแล้ว ไม่ตอ้ งเติม s, es, ies นะคะ)
will จะทำ he will play guitar. เขาจะเลน่ กตี าร์
would จะทำ
can ทำได้
could ควรทำ
shall จะทำ
should ควรทำ
may อาจจะทำ
might อาจจะทำ
dare กลา้ ทำ
used to
must ต้องทำ

เหลา่ น้ีไมใ่ ชก่ รยิ าช่วย เวลาใชต้ อ้ งใชเ้ หมอื นกริยาแท้ (เติม s, es, ies กับประธานคนเดยี ว)

has to ต้องทำ
needs to จำเปน็ ต้องทำ
wants to อยากทำ
likes to ชอบทำ

คน้ หา องิ ลชิ ชีวติ จรงิ -การพูด (เลม่ 1) 3.19 Page | 70 Seventy

ห้ามทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกชอ่ งทาง กอ่ นไดร้ ับอนญุ าต


แบบฝกึ หดั ที่ 3.20 จะทำ, ควรทำ, ต้องทำ (3)

คำสั่ง: จงแต่งประโยคด้วยกริยาช่วยตา่ ง ๆ พร้อมแปลความหมายใหถ้ ูกตอ้ ง

ลองฝกึ แตง่ ประโยคที่ใช้คำกริยาชว่ ยต่าง ๆ กันดนู ะคะ

normally ปกติ They exercise together every day. (พวกเขาออกกำลงั กายด้วยกนั ทุกวัน)
will จะทำ
would จะทำ
can ทำได้
could ควรทำ
shall จะทำ
should ควรทำ
may อาจจะทำ
might อาจจะทำ
dare กลา้ ทำ
used to
must ตอ้ งทำ

เหล่านีไ้ มใ่ ชก่ รยิ าชว่ ย เวลาใช้ต้องใชเ้ หมอื นกรยิ าแท้ (เตมิ s, es, ies กับประธานคนเดียว)

have to ต้องทำ
need to จำเป็นต้องทำ
want to อยากทำ
like to ชอบทำ

คน้ หา องิ ลิชชวี ิตจริง-การพูด (เลม่ 1) 3.20 Page | 71 Seventy-one

ห้ามทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ช่องทาง กอ่ นได้รับอนญุ าต


แบบฝกึ หดั ท่ี 3.21 คำถามแบบใช่หรือไม่ของกริยาช่วย (1)

คำสง่ั : จงแปลความหมายของประโยคท่กี ำหนดให้ ใหถ้ กู ตอ้ ง

ตัวอย่างประโยคปฏิเสธท่ปี ระกอบดว้ ยกรยิ าช่วย

1. I may not go out with you tonight.
แปล: ฉนั อาจจะไปกบั คุณไมไ่ ด้ในคืนน้ี
2. She would not tell you the truth. (เปน็ เรอื่ งสมมติ = จะไม่)
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. I won’t drink too much again. (มาจาก will not = จะไม)่
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. She cannot go out with him tonight.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. We dare not swim across the river.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. You should not leave him alone.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
7. You must not tell the strangers anything.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
8. We wouldn’t like any helps. (would not = not want)
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
9. The children needn’t to drink coffee.
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
10. They could not live in the forest. (เป็นเร่อื งสมมติ/ ในอดีต = ไม่สามารถ)
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….

คน้ หา อิงลชิ ชวี ิตจริง-การพดู (เลม่ 1) 3.21 Page | 72 Seventy-two

ห้ามทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกชอ่ งทาง กอ่ นไดร้ ับอนุญาต


แบบฝึกหัดท่ี 3.22 คำถามแบบใชห่ รือไม่ของกริยาช่วย (2)

คำส่ัง: จงแปลความหมายของประโยคทก่ี ำหนดให้ ให้ถูกต้อง

ตัวอยา่ งประโยคคำถามแบบใชห่ รอื ไม่ ท่ปี ระกอบดว้ ยกริยาช่วย

1. May I come in please? (May I ส่วนใหญใ่ ช้ในการขอ รอ้ งขอ และขออนญุ าต)
แปล: ขออนุญาตเขา้ ไปข้างในนะครับ
2. Could I borrow you some money please?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. Will you come here?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. Would you tell me your number please?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. Can you swim across in river?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. Should I go home now?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
7. Can you tell me something?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
8. Would you like some coffee or tea? (would like = want)
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
9. Do I must/ have to see a doctor right now right now?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….
10. Do you dare to fight them?
แปล: ………………………………………………………………………………………………………………………………….

คน้ หา อิงลิชชีวติ จริง-การพดู (เล่ม1) 3.22 Page | 73 Seventy-three

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง ก่อนไดร้ ับอนญุ าต


แบบฝกึ หัดท่ี 3.23 อาจจะเปน็ , สามารถเป็น, ควรเปน็

คำสั่ง: จงแตง่ ประโยคคำถาม พร้อมกับแปลความหมายใหถ้ ูกตอ้ ง

ตวั อยา่ งประโยคท่ีใช้กรยิ าช่วยอนื่ ๆ รว่ มกับ Verb to be

1. Will be They will be stronger. (จะเป็นเชน่ นั้น)
..............................................................................................................................................

2. Would be We would be happy if you came here. (จะเป็น, ในอดตี , เร่ืองเล่า)
..............................................................................................................................................

3. Can be You can be my assistant if you want. (สามารถทจ่ี ะ)
..............................................................................................................................................

4. Could be She could be a doctor if she studied harder. (สามารถท่จี ะเป็น, ในอดีต, เรอ่ื งเล่า)
..............................................................................................................................................

5. Should be You should be in the classroom right now. (ควรจะ)
..............................................................................................................................................

6. May be We may be late for the meeting. (อาจจะ)
..............................................................................................................................................

7. Might be It might be very expensive. (คาดเดาว่านา่ จะ)
..............................................................................................................................................

8. Dare to be I dare to be closer the monster. (กล้าทีจ่ ะเป็นเชน่ นี้)
..............................................................................................................................................

9. Must be I must be more confident to speak English. (ต้องเปน็ เชน่ นน้ั )
..............................................................................................................................................

10. Used to be My grandma used to be a nurse in this hospital. (เคยเปน็ เชน่ นั้น)
..............................................................................................................................................

คน้ หา องิ ลิชชวี ติ จรงิ -การพูด (เล่ม1) 3.23 Page | 74 Seventy-four

หา้ มทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกช่องทาง กอ่ นไดร้ ับอนุญาต


คำถาม ทำอะไร กบั ใคร ทไ่ี หน อย่างไรเม่อื ไหร่

คำชีแ้ จง: ตวั อย่างการแตง่ ประโยคที่ใช้คำกริยาและมีสว่ นขยายหลายแบบ

การแต่งประโยคคำถามท่พี ดู ถงึ การกระทำ (คำกริยา)

ในการสร้างประโยคคำถาม ที่ประกอบด้วย คำกริยา หรือ Verb ทั้งแบบต้องตอบใช่หรือไม่ (Yes/
No Question) และแบบท่ีตอ้ งตอบเป็นประโยค ซึง่ ประกอบดว้ ยคำเหล่าน้ี What, When, Why, Who,
Where, How, Which นั้น ก็จะต้องใช้ Verb to do เข้ามาช่วย โดยต้องพิจารณาว่า มี “ประธาน” ใน
ประโยคกี่คน/ กี่สิ่ง หรือ เป็นแบบเอกพจน์หรือพหูพจน์ จากนั้นค่อยเลือกใช้ Do/ Does มาช่วย ซึ่งมี
วิธกี ารฝกึ สร้างประโยคงา่ ย ๆ ดงั นี้

ข้นั ที่ 1 สร้างประโยคบอกเลา่
ขั้นท่ี 2 เติม Do/ Does ขา้ งหน้าประโยคบอกเลา่ (ข้นึ อยูก่ บั ประธาน) กลายเปน็ คำถามแบบใชห่ รือไม่
ขัน้ ที่ 3 เตมิ What, When, Why, Who, Where, How, Which ด้านหน้าประโยคขั้นที่ 2

Example 1 (ประธานคนเดียว)

ขั้นท่ี 1 He feeds many cats. เขา (ช) เลย้ี งแมวมากมาย

ขั้นที่ 2 Does he feed many cats? เขา (ช) เลยี้ งแมวมากมายใช่ไหม?่

ข้ันท่ี 3 Where does he feed many cats? เขา (ช) เลี้ยงแมวมากมายทไ่ี หน?

Why does he feed many cats? เขา (ช) เลย้ี งแมวมากมายทำไม?

Example 2 (ประธาน 2+ คนข้นึ ไป) คุณเลน่ ฟตุ บอล
ปกติคณุ ชอบเล่นฟตุ บอลไหม?
ขน้ั ที่ 1 You play football. ปกตคิ ณุ เลน่ ฟุตบอลทีไ่ หน?
ขน้ั ท่ี 2 Do you play football? ปกติคุณเล่นฟตุ บอลเมือ่ ไหร่?
ขั้นที่ 3 Where do you play football?

When do you play football?

คน้ หา อิงลิชชีวติ จริง-การพดู (เลม่ 1) P.75 Page | 75 Seventy-five

หา้ มทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง ก่อนได้รบั อนญุ าต


แบบฝกึ หดั ท่ี 3.24 ทำอะไร ทำท่ไี หน ทำทำไม (1)

คำส่งั : จงแตง่ ประโยคคำถาม พร้อมกับแปลความหมายให้ถกู ตอ้ ง

ตัวอย่างประโยคคำถามทพี่ ูดถึงการกระทำรว่ มกับคำกริยาชว่ ย (1)

1. She plays badminton on weekend.
ขน้ั ท่ี 1 She plays badminton on weekend.
ข้ันที่ 2 Does she play badminton on weekend?
ขน้ั ท่ี 3 When does she play badminton on weekend? (ใช้ What time ก็ได้)

Why does she play badminton on weekend?
Where does she play badminton on weekend?

2. You have lunch with friend.
ขน้ั ที่ 1
ข้นั ที่ 2
ขน้ั ที่ 3 Where

When
Why

3. It likes to eat vegetables. (สามารถกำหนดส่วนเติมเต็มด้วยตวั เองได้)
ขั้นท่ี 1
ขั้นที่ 2
ขั้นท่ี 3 Where

When
Where
What

คน้ หา องิ ลิชชีวิตจรงิ -การพดู (เล่ม1) 3.24 Page | 76 Seventy-six

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ช่องทาง กอ่ นได้รับอนุญาต


แบบฝกึ หดั ท่ี 3.25 ทำทไ่ี หน + เมือ่ ไหร่ + บอ่ ยแค่ไหน

คำส่งั : จงแตง่ ประโยคคำถามทก่ี ำหนดให้ (หนงึ่ สิง่ ใช้ does หลายสง่ิ ใช้ do)

ตัวอยา่ งประโยคคำถามทพ่ี ดู ถงึ การกระทำร่วมกบั คำกริยาชว่ ย (2)

4. It barks him every time.
ขั้นท่ี 1
ข้ันท่ี 2
ขั้นที่ 3 Where

When
Why

5. You work hard every day.
ขั้นที่ 1
ขั้นท่ี 2
ขน้ั ท่ี 3 Where

When
Why

6. They drink beer a lot.
ขน้ั ที่ 1
ข้ันที่ 2
ขั้นท่ี 3 Where

When
Why

คน้ หา องิ ลชิ ชีวติ จรงิ -การพดู (เลม่ 1) 3.25 Page | 77 Seventy-seven

หา้ มทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทกุ ช่องทาง กอ่ นไดร้ บั อนญุ าต


แบบฝึกหดั ที่ 3.26 ปกติทำ ทำแลว้ จะทำ (1)

คำส่งั : จงเปลีย่ นคำกริยาจากชอ่ งท่ี 1 ให้เป็นช่องที่ 2 และเปลย่ี นช่วงเวลาให้สอดคลอ้ งกันด้วย

การกระทำทเ่ี กดิ ขน้ึ ในอดตี และอนาคต (1)

1. ปัจจุบัน/ ปกติ v.1 She goes to school by bus today. (วันน้ี เขาจะไปโรงเรียนด้วยรถโดยสาร)
ทำแลว้ จบแลว้ v.2 She went to school by bus yesterday.
จะทำแน่นอน v.1 She will go to school by bus tomorrow.

2. ปจั จบุ นั / ปกติ v.1 We sell many fruits at the floating market.
ทำแล้วจบแลว้ v.2
จะทำแนน่ อน v.1

3. ปัจจบุ นั / ปกติ v.1 They stay in the hotel this month.
ทำแล้วจบแลว้ v.2
จะทำแนน่ อน v.1

4. ปัจจุบนั / ปกติ v.1 She speaks Japanese confidently.
ทำแลว้ จบแลว้ v.2
จะทำแนน่ อน v.1

5. ปัจจุบัน/ ปกติ v.1 We study English with Kroo Neung happily.
ทำแลว้ จบแลว้ v.2
จะทำแนน่ อน v.1

6. ปจั จุบนั / ปกติ v.1 They help 13 football players from the cave bravely. (ไม่มรี ูปแบบน)้ี
ทำแลว้ จบแลว้ v.2 They helped 13 football players from the cave bravely. (ใช้รูปแบบน)้ี
จะทำแน่นอน v.1

คน้ หา อิงลิชชีวติ จรงิ -การพดู (เลม่ 1) 3.26 Page | 78 Seventy-eight

ห้ามทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง กอ่ นไดร้ บั อนุญาต


แบบฝึกหัดที่ 3.27 ปกติทำ ทำแลว้ จะทำ (2)

คำสง่ั : จงเปลีย่ นคำกริยาจากช่องท่ี 1 ให้เปน็ ช่องท่ี 2 และเปลีย่ นช่วงเวลาใหส้ อดคลอ้ งกันด้วย

การกระทำทเี่ กิดขึน้ ในอดตี และอนาคต (2)

7. ปจั จบุ นั / ปกติ v.1 She has only a ten euro note now. (เขา (ญ) มแี ค่ธนบัติใบละสบิ ยโู รใบเดยี ว)
ทำแลว้ จบแลว้ v.2 She had only a ten euro note yesterday.
จะทำแน่นอน v.1 She will have only a ten euro note tomorrow.

8. ปจั จบุ นั / ปกติ v.1 We usually have dinner with grandma at home.
ทำแลว้ จบแลว้ v.2
จะทำแนน่ อน v.1

9. ปัจจุบัน/ ปกติ v.1 They get up at 7 o’clock every day.
ทำแลว้ จบแลว้ v.2
จะทำแนน่ อน v.1

10. ปัจจุบัน/ ปกติ v.1 My sister often swims with boyfriend on Sunday.
ทำแล้วจบแลว้ v.2
จะทำแน่นอน v.1

11. ปัจจุบัน/ ปกติ v.1 Their adviser does report every week.
ทำแล้วจบแลว้ v.2
จะทำแนน่ อน v.1

12. ปจั จบุ ัน/ ปกติ v.1 His parents pick him up at school every Friday.
ทำแลว้ จบแลว้ v.2
จะทำแน่นอน v.1

คน้ หา องิ ลิชชวี ติ จริง-การพดู (เลม่ 1) 3.27 Page | 79 Seventy-nine

ห้ามทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง กอ่ นไดร้ ับอนุญาต


PART 4 Continuous Tense

การใช้ verb to be และ verb

“กำลังทำอะไร”

เพลง What are you doing?, ฝึกแตง่ ประโยคที่หมายถึง กำลังทำอะไร และกำลังจะทำอะไร


เพลง What are you doing? กำลังทำอะไร?

คำชแ้ี จง: เพลงน้ี ใชส้ อนการแต่งประโยคที่หมายถึง “กำลงั ทำอะไร”

เพลง อยูต่ รงไหนอ่ะ

Verb to be, Verb to be Verb to be มี is am are
Verb to be and i – n – g Verb to be, verb + i – n – g
She is drawing. I am singing.
We are learning. It is sleeping.
You are cooking. He is eating.
It is flying. They are playing.
Verb to be, Verb to be Verb to be มี is am are
Verb to be and i – n – g Verb to be, verb + i – n – g

ความหมายของประโยคในเพลง What are you doing?

She is drawing. เขา (ญ) กำลงั วาดรูป
I am singing. ฉันกำลังร้องเพลง
We are learning. พวกเรากำลังเรยี น
It is sleeping. มนั กำลงั นอนหลบั
You are cooking. คณุ กำลังทำอาหาร
He is eating. เขา (ช) กำลงั กินอาหาร
It is flying. มนั กำลังบนิ
They are playing. พวกเขากำลังเลน่

คน้ หา อิงลิชชีวติ จริง-เพลงกำลงั ทำอะไร Page | 81 Eighty-one

ห้ามทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง ก่อนไดร้ ับอนญุ าต


แบบฝกึ หดั ท่ี 4.11 “เขากำลงั อ่านหนังสือพิมพ”์

คำสัง่ : จงเปลย่ี นประโยคท่มี คี วามหมายวา่ โดยปกติทำ ใหเ้ ป็น กำลงั ทำ และ กำลังจะทำ

การกระทำทีเ่ กดิ ข้ึนในอดตี และอนาคต (2)

1. โดยปกติ She always reads a newspaper in the coffeeshop.
กำลงั ทำ She is reading a newspaper in the coffeeshop.
กำลงั จะทำ She is going to read a newspaper in the coffeeshop.

2. โดยปกติ I drink coconut juice around the beach.
กำลังทำ
กำลังจะทำ

3. โดยปกติ He fishes with fisherman on the boat.
กำลงั ทำ
กำลังจะทำ

4. โดยปกติ The officer does report in the office.
กำลังทำ
กำลงั จะทำ

5. โดยปกติ The trainer trains the trainees in the factory.
กำลังทำ
กำลังจะทำ

6. โดยปกติ The bakers bake some cake in the bakery.
กำลงั ทำ
กำลงั จะทำ

คน้ หา อิงลชิ ชวี ิตจริง-การพูด (เลม่ 1) 4.11 Page | 82 Eighty-two

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง ก่อนไดร้ ับอนญุ าต


PART 5 Using to Have [1]

การใช้ verb to have (เวบิ -ท-ู แฮฟ) แบบท่ี 1

“ใครมีอะไร”

การใช้ have, has, had, there is, there are
คำนามนบั ได้ คำนามนบั ไม่ได้ และคำนามที่เปน็ ทั้งแบบนามนับได้และนบั ไมไ่ ด้

คำนามในรปู เอกพจน,์ พหูพจน์ การบอกจำนวนและปริมาณ
การใช้ much, many, less, little, a little, a lot of และอนื่ ๆ


แบบฝึกหัดท่ี 5.11 “เขามบี ้าน 1 หลงั ” (ประธานคนเดียว)

คำสัง่ : กลุม่ ประธานท่มี ีคนเดียวและ He, She, It ยกเวน้ I ให้ใช้ has (รปู ปัจจุบัน)

การฝกึ แบบท่ี 1 แบบทม่ี ี “ประธาน” เพียง 1 คน (ใช้ has)

(นับได้ 1 สง่ิ )

1. เขา (ช) มีบา้ นหนง่ึ หลัง แปล: He has a house. (มี 1 สง่ิ มกั จะใช้ a, an นะคะ)
……………………………………………………………………………
2. เขา (ช) มชี า้ งหน่งึ เชอื ก แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
3. เขา (ญ) มีกระโปงหนงึ่ ตัว แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
4. เขา (ญ) มีแหวนหน่งึ วง แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
5. มนั มลี ำหางสีดำ (a black tail) แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
6. พ่อของฉนั มีนาฬกิ าขอ้ มอื หนงึ่ เรอื น แปล:
She has 2 dogs. (มี 2 ส่งิ ข้ึนไป อย่าลมื เติม s, es, ies)
7. พยาบาลคนน้ันมีลกู หนง่ึ คน (a child) แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
8. หมอดูคนนนั้ มีลกู แกว้ หนึง่ ลกู แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
9. เจา้ หนา้ ทีค่ นนนั้ มดี นิ สอหน่ึงแทง่ แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
10. นกั เรียนคนนน้ั มีสมดุ หนง่ึ เลม่ แปล: ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
(นับได้ หลายสิ่ง) ……………………………………………………………………………

11. เขา (ญ) มีหมาสองตัว แปล:

12. นา้ สาวของคุณมีบา้ นสามหลงั แปล:

13. ลกู สาวของฉันมีลกู แมวเจด็ ตัว แปล:

14. แมไ่ กต่ วั นนั้ มลี ูกไกส่ ิบเอด็ ตวั แปล:

15. ลุงของพวกเรามีห้องนอนสองห้อง แปล:

16. ทนายความคนนนั้ มลี กู ชายสคี่ น แปล:

17. พนักงานขายคนนนั้ มรี ่มสองคัน แปล:

18. ยายของพวกเรามีต้นมะม่วงหกตน้ แปล:

19. หลานชายของฉนั มีของเลน่ มากมาย แปล:

20. ชา่ งยนตค์ นนน้ั มีงาน 3 งาน (job) แปล:

คน้ หา อิงลชิ ชวี ิตจริง-การพูด (เลม่ 1) 5.11 Page | 84 Eighty-four

ห้ามทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกช่องทาง ก่อนได้รบั อนญุ าต


แบบฝกึ หดั ท่ี 5.12 “พวกเขามวี ัวหลายตัว” (ประธาน 2+ คน)

คำส่ัง: กลุ่มประธานทีม่ ีสองคนขนึ้ ไป และ I, You, We, They ใหใ้ ช้ have (รปู ปจั จุบนั )

การฝกึ แบบท่ี 2 แบบทม่ี ี “ประธาน” ต้ังแต่ 2 คนข้ึนไป (ใช้ have)

(นับได้ 1 สิ่ง และหลายสิ่ง) Tips: อดตี ของ have, has ใช้ had เหมือนกัน (เคยม)ี

1. พวกเขามีววั หลายตวั แปล: They have many cows.

2. พวกเรามีเปด็ มากมาย แปล: ……………………………………………………………………………

3. นักฟตุ บอลเหลา่ นน้ั มีลกู บอลหนง่ึ ลูก แปล: ……………………………………………………………………………

4. ฉันมีครอบครัวแลว้ (ครอบครวั เดียว) แปล: ……………………………………………………………………………

5. พ่อแมข่ องพวกเรามผี ูช้ ว่ ยหา้ คน แปล: ……………………………………………………………………………

6. พวกเรามีลกู พีล่ กู น้องหลายคน แปล: ……………………………………………………………………………

7. คณุ มีนา้ สาวหนึ่งคน แปล: ……………………………………………………………………………

8. พอ่ แม่ของฉนั มเี พ่อื นมากมาย แปล: ……………………………………………………………………………

9. เจ้าหนา้ ท่ีทกุ คนมีหนึ่งภารกจิ แปล: ……………………………………………………………………………

10. พวกมนั มีลกู หมสู ิบตัว แปล: ……………………………………………………………………………

11. พวกเรามีลกู ไกส่ องตัว แปล: We have 2 chicks. (มี 2 สิ่งข้นึ ไป อยา่ ลมื เตมิ s, es, ies)

12. พวกเขามีลกู สาวสามคน แปล: ……………………………………………………………………………

13. คุณมีลกู ชายสองคน แปล: ……………………………………………………………………………

14. นกั เรยี นทุกคนมสี มดุ หา้ เลม่ แปล: ……………………………………………………………………………

15. ฉันมโี ทรศัพท์มอื ถอื สองเครอื่ ง แปล: ……………………………………………………………………………

(นับไม่ได)้

16. พวกเรามีน้ำมะพรา้ วจำนวนหนง่ึ แปล: ……………………………………………………………………………

17. ชาวนาเหลา่ นน้ั มีขา้ วมากมาย แปล: ……………………………………………………………………………

18. นักกฬี าเหล่านัน้ มีพลังเยอะมาก แปล: ……………………………………………………………………………

19. ทหารเหล่าน้นั มีกำลังใจเพยี งพอ แปล: ……………………………………………………………………………

20. ฉนั มีความสขุ มากมาย แปล: ……………………………………………………………………………

คน้ หา องิ ลิชชีวิตจริง-การพูด (เลม่ 1) 5.12 Page | 85 Eighty-five

หา้ มทำซ้ำหรอื ทำสำเนาและเผยแพร่ในทุกช่องทาง ก่อนได้รับอนุญาต


ใครมอี ะไร “คำบอกปรมิ าณ” (Quantity words)

คำช้แี จง: การบอกปริมาณโดยประมาณ สำหรับคำนามที่นบั ได้และไม่ได้

การบอกปริมาณโดยประมาณทคี่ วรทราบ (มเี ยอะคะ่ )

ในภาษาอังกฤษนั้น ยังมีคำและกลุ่มคำหรือวลีอีกมากที่ใช้ในการบอกปริมาณ แต่เนื่องจากข้อจำกัดขนาด
เอกสารและขอ้ จำกดั ในการรบั รขู้ องผทู้ ีเ่ ริ่มตน้ ครหู นง่ึ จงึ ขอนำเสนอเพียงบางสว่ นทจ่ี ำเป็นตอ้ งทราบพอสงั เขปนะคะ

นำไปใช้ คำ ความหมาย ตัวอยา่ ง

นามนบั ได้ many มาก I have many friends in Japan.

There are many buffaloes around here.

a few มีอยู่บา้ งนดิ หน่อย Mana has a few pens in the bag.

only a few มอี ยบู่ ้างนดิ หน่อย Manee has only a few friends.

few มีนอ้ ยมาก, แทบจะไมม่ ี We have few durians today.

all ทั้งหมด He drank all may coffee.

none ไมม่ ี He has none.

several หลาย ๆ I have several choices to be there.

both ทัง้ คู่ We both want to go too.

นับไม่ได้ much มาก We have much.

a little มอี ยบู่ ้างนิดหน่อย We get a little rain in spring.

only a little มอี ยูบ่ า้ งนดิ หนอ่ ย There is only a little flour in the bag.

little แทบจะไมม่ ีเลย There is little sugar in my coffee.

ท้ัง 2 แบบ a lot of มาก, เยอะ There is a lot of flour in that tin.

lots of มาก, เยอะ She has lots of money.

plenty of มาก, เยอะ There are plenty of boxes in the room.

some บางอัน, จำนวนหน่งึ Do you need some water?

any (คำถาม, ปฏเิ สธ) บางอัน, สกั อัน I don’t have any water.

Is there any sugar in the bowl?

คน้ หา องิ ลชิ ชีวิตจรงิ -การพูด (เล่ม 1) P.86 Page | 86 Eighty-six

ห้ามทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง ก่อนได้รบั อนุญาต


แบบฝกึ หดั ที่ 5.13 พวกเขาไมม่ วี วั เลย

คำสัง่ : จงแตง่ ประโยคปฏิเสธให้ถกู ตอ้ ง

การฝึกแบบท่ี 3 การฝกึ แต่งประโยคปฏิเสธ ซึ่งสามารถแต่งได้หลายแบบ (ยงั มีอกี )

1. พวกเขาไมม่ ีววั เลย
(no) แปล: They have no cow. (หลัง no ตอ้ งเป็นคำนาม)
(not) แปล: They have not got a cow. (มี got หลัง not ต้องเปน็ คำนาม)
(any) แปล: They have not any cows. (หลงั any คำนามมกั อยู่ในรูป 2+ และหมายถึง ไมม่ เี ลย)
(don’t) แปล: They don’t have any cows.

2. พวกเราไมม่ ีรถยนต์เลย
(no) แปล: We have on car.
(not) แปล: We haven’t got a car. (แบบยอ่ )
(any) แปล: We haven’t any cars. (หลงั any คำนามมักอยใู่ นรูป 2+)
(don’t) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….

3. เกษตรกรคนนั้นไม่มีทด่ี ินทำกินเลย
(no) แปล: The farmer has no land for cultivation.
(not) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….
(any) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….
(don’t) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….

4. เด็กหญงิ คนน้ันไมม่ ีสมดุ เลย
(no) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….
(not) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….
(any) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….
(don’t) แปล: …………………………………………………………………………………………………………………….

คน้ หา อิงลชิ ชวี ติ จรงิ -การพดู (เล่ม 1) 5.13 Page | 87 Eighty-seven

หา้ มทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง กอ่ นได้รับอนุญาต


PART 5 Using to Have [2]

การใช้ verb to have (เวิบ-ท-ู แฮฟ) แบบท่ี 2

“ใครที่ไม่สบาย”

การใช้ was, were, will be เพอ่ื ทำใหร้ ปู ประโยคในปจั จุบันใหก้ ลายเป็นอดตี และอนาคต


การใช้ Verb to have ในความหมาย “ใครทไ่ี ม่สบาย”

คำช้ีแจง: ลองฝกึ แต่งประโยคและฝึกพูดถงึ อาการเจ็บปวดที่อาจจะเกดิ ขน้ึ ไดใ้ นอนาคตนะคะ

การใช้ To have ในการบอกอาการเจบ็ ป่วยต่าง ๆ

หากคณุ ตอ้ งการบอกคุณหมอวา่ มอี าการไมส่ บายอย่างไร ใหใ้ ชป้ ระโยค I have + ชอ่ื โรค

ตวั อยา่ งเชน่ ผม/ ฉัน มีอาการปวดหลัง
I have a backache

I have a sore eyes ผม/ ฉัน มอี าการตาอักเสบ

I have a cold? ผม/ ฉันเป็นหวดั

I’ve got a headache? ผม/ ฉันปวดหัว

I’ve got high temperature. ผม/ ฉันมีอุณหภมู สิ ูง (มไี ข้)

I have a fever ผม/ ฉนั มไี ข้

I have stuffed nose? ผม/ ฉัน มีอาการคดั จมูก

I have a running nose? ผม/ ฉนั มนี ้ำมกู ไหล

คำว่า ache แปลว่า ปวด ซึ่งหากมีอาการปวดตรงส่วนไหนของร่างการให้เอาคำว่า ache ไปต่อท้ายคำที่

หมายถงึ อวัยวะส่วนนน้ั ในภาษาองั กฤษไดเ้ ลย เชน่

head+ ache = headache ปวดหัว

stomach+ ache = stomachache ปวดทอ้ ง

back+ ache = backache ปวดหลงั

tooth+ ache = toothache ปวดฟัน

คำว่า sore แปลว่า อักเสบ ใช้กับอวยั วะภายในอย่าง ตับ (liver), ไต (kidneys), ไส้ (intestine), ปอด (lung)
โดยจะวาง sore ไวห้ น้าอวัยวะทม่ี ีอาการ เชน่

sore muscles = กลา้ มเนื้ออกั เสบ

sore throat = คออักเสบ

sore eyes = ตาอักเสบ

คน้ หา องิ ลชิ ชีวิตจรงิ -การพูด (เลม่ 1) P.89 Page | 89 Eighty-nine

ห้ามทำซำ้ หรอื ทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทกุ ช่องทาง กอ่ นได้รับอนญุ าต


การใช้ Verb to have “ขอซอ้ื ยาแก้ไขด้ ้วยค่ะ”

คำชี้แจง: ควรหมนั่ จดจำและทบทวนชอ่ื ยาทีค่ ณุ ตอ้ งใชเ้ ปน็ ประจำหรอื อาจจำเป็นตอ้ งใช้ในอนาคต

และหากเราตอ้ งการซ้ือยา ประโยคภาษาอังกฤษทีใ่ ช้ในการซ้ือยาทีง่ ่ายทีส่ ดุ ได้แก่ I want+ ชอื่ ยา แต่อาจจะดู
ไม่คอ่ ยสุภาพเท่าไหร่ ควรใช้ May I have+ ชอื่ ยา จะดูสุภาพมากกวา่ นะคะ เช่น

May I have some paracetamol please? ใส่ please เข้าไปด้วยจะดูดียิง่ ขึ้น

แต่ถา้ เราไมร่ วู้ ่าต้องใชย้ าอะไรรักษาอาการที่เราเปน็ อยู่ ประโยคทวี่ ่าน้ีอาจจะช่วยไม่ได้ เราตอ้ งเปลยี่ นมาใช้ Do
you have something for + ชื่อโรค? เช่น Do you have something for sore muscles? เป็นต้น และหาก
ต้องการขอคำแนะนำจากเภสัชกรก็อาจพูดว่า What do you suggest for+ อาการของโรค เช่น what do you
suggest for a cough? เป็นต้น

ชื่อยาที่จำเป็นและควรทราบ

NO. MEDICINES ยา NO. MEDICINES ยา
1 antacid ยาแกห้ วัด
2 aspirin ยาลดกรด 16 Flu medicine เจล
3 antiseptic ผ้ากอซ
4 antibiotic ยาแอสไพริน 17 gel ยากนั ยงุ (แมลง)
5 bandages ยาระบาย
6 Band aid ยาฆา่ เชอื้ 18 gauze ยาแก้ปวด
7 Burn ointment filled รา้ นขายยา
8 Birth control pills ยาปฏชิ วี นะ 19 Insect repellant ใบสั่งยา
9 capsules ยานอนหลับ
10 Cough medicine ผ้าพันแผล 20 laxative ยาแก้เจบ็ คอ
11 Cold medicine ยาแก้ปวดฟัน
12 cream ผ้าพนั แผล 21 Over-the-counter painkiller วติ ามนิ
13 Eye drops แผล
14 Ear drops แผลน้ำรอ้ นลวก 22 Pharmacy, drugstore ถงุ น้ำแขง็ ประคบเย็น
15 Fever reducer เก้าอ้ลี ้อ
ยาคมุ กำเนดิ 23 prescription

แคบซูล 24 Sleeping pills

ยาแก้ไอ 25 Sore throat medicine

ยาแก้หวัด 26 Toothache medicine

ครมี 27 vitamins

ยาหยอดตา 28 wound

ยาหยอดหู 29 Ice pack

ยาลดไข้ 30 wheelchair

ที่มา: HTTP://WWW.TELLMEMORECLUB.COM

คน้ หา อิงลชิ ชีวิตจรงิ -การพดู (เล่ม 1) P.90 Page | 90 Ninety

ห้ามทำซำ้ หรือทำสำเนาและเผยแพร่ในทกุ ชอ่ งทาง กอ่ นไดร้ ับอนญุ าต


PART 5 Using to Have [3]

การใช้ There is, There are (แดร์-อิซ, แดร-์ อาร)์

“มอี ะไรอยู่ทไี่ หน”

การใช้ There is, There are


แบบฝึกหดั ท่ี 5.31 “มหี นูตัวหนงึ่ อยใู่ นหอ้ งน้นั ”

คำสง่ั : จงแปลความหมายของประโยคทีก่ ำหนดให้

การฝกึ แบบที่ 1 แบบทกี่ ารกลา่ วถงึ สิง่ 1 สงิ่ (ใช้ There is)

(นามนบั ได้ 1 ส่ิง)

1. มหี นตู วั หนง่ึ อยู่ในห้องนน้ั แปล: There is a rat in the room. (มี 1 ส่งิ มกั จะใช้ a, an นะคะ)

2. มจี ักรยานหนง่ึ คันอยใู่ ต้ต้นไม้นนั้ แปล: ………………………………………………………………………………

3. มผี า้ เชด็ หน้าหน่ึงผืนอย่ใู นตะกร้า แปล: ………………………………………………………………………………

4. มีหมอนหนง่ึ ใบอย่บู นเตยี ง แปล: ………………………………………………………………………………

5. มีม้าลายหนงึ่ ตวั อยู่ในฟาร์ม แปล: ………………………………………………………………………………

6. ไมม่ ีม้าหนง่ึ ตัวอยใู่ นลานหญ้า แปล: There is not a horse in the field.

7. ไม่มตี ุ๊กแกสกั ตัวบนผนงั นน้ั แปล: ………………………………………………………………………………

8. ไมม่ ีมะม่วงหน่งึ ผลอยูใ่ นต้เู ยน็ แปล: ………………………………………………………………………………

9. ไมม่ ีหมอี ยูข่ า้ งหลังคุณเลยซกั ตวั แปล: There is not any bear behind you.

10. ไมม่ ีนกหน่ึงตวั อยูเ่ หนือหัวพวกเขาสกั ตวั แปล: ………………………………………………………………………………

(นามนบั ไม่ได้ ถอื เปน็ หนึ่ง ใช้ there is)

11. มเี คก้ อยูบ่ นโตะ๊ (จำนวนหนง่ึ ) แปล: There is some cake on the table.

12. มที รายอยบู่ นพืน้ แปล: ………………………………………………………………………………

13. มโี คลนอยู่ในรถของฉนั แปล: ………………………………………………………………………………

14. มเี งินมากมายในกระเป๋าใบนัน้ แปล: ………………………………………………………………………………

15. มนี ้ำมากมายอยู่ในเรอื แปล: ………………………………………………………………………………

16. มีน้ำตาลอยใู่ นถ้วย (กาแฟ) แปล: ………………………………………………………………………………

17. ไม่มีนำ้ ผลไมอ้ ยู่ในตูเ้ ยน็ แปล: ………………………………………………………………………………

18. ไม่มีนมอยบู่ นโต๊ะเลย แปล: ………………………………………………………………………………

19. ไมม่ ีอาหารอยใู่ นตเู้ ยน็ เลย แปล: ………………………………………………………………………………

20. วนั น้ีไมม่ ีการบ้านเลย แปล: ………………………………………………………………………………

คน้ หา อิงลิชชีวิตจริง-การพูด (เล่ม 1) 5.31 Page | 92 Ninety-two

หา้ มทำซ้ำหรือทำสำเนาและเผยแพรใ่ นทุกชอ่ งทาง กอ่ นไดร้ ับอนุญาต


Click to View FlipBook Version