The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาพระพุทธศาสนา 5.doc

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kik.jirapa.2013, 2021-04-19 00:31:11

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาพระพุทธศาสนา 5.doc

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาพระพุทธศาสนา 5.doc

บันทกึ ข้อความ

สว่ นราชการ โรงเรียนหนองรีประชานมิ ิต ตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบรุ ี

ที่ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
เรอื่ ง ขออนุมัตใิ ช้แผนการจดั การเรียนรู้

เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นหนองรีประชานิมติ

ด้วยข้าพเจ้านางสาวจิราภา สำฤทธิ์ ตำแหน่ง ครู ได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาพระพุทธศาสนา 5
ส 23103 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 มีเวลาเรียนจำนวน 1 คาบ/สัปดาห์ จำนวน
0.5 หน่วยการเรยี น

ดงั น้ันจงึ ขออนุมตั ิใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ใหเ้ กิดประสทิ ธภิ าพ
สูงสุดตอ่ ผู้เรียน

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดพจิ ารณาอนมุ ัติ

ลงชือ่ ...................................................
(นางสาวจิราภา สำฤทธิ์)

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

1. ความเห็นของหวั หน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ 3. ความเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น
 ทราบ  อนุมัติ
 เสนอเพื่อพจิ ารณาอนมุ ัติ
 ไมอ่ นมุ ัติ
ลงชือ่ ………………………………………………
(นายถาวร สุขนา) ลงชอื่ ..............................................
(นายศภุ ากร เมฆขยาย)
หัวหน้ากลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นหนองรีประชานมิ ิต
2. ความเหน็ ของรองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ
 ทราบ
 เหน็ ควรพิจารณาอนมุ ตั ิ

ลงชือ่ ..............................................
(ว่าท่ีร้อยตรหี ญงิ มทุ ิตา เอ่ียมทพิ ย)์
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นหนองรปี ระชานมิ ติ

คำอธิบายรายวิชา

รายวชิ า พระพทุ ธศาสนา 5 รหัสวิชา ส23103 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3/1-3/4 ภาคเรยี นที่ 1
นำ้ หนัก 0.5 หนว่ ยกติ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ จำนวน 20 ช่วั โมง/ภาคเรยี น

อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ตี นนบั ถอื สูป่ ระเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของ

พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือในฐานะที่ชว่ ยสรา้ งสรรค์อารยธรรม และความสงบสุขแกโ่ ลก อภิปราย
ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและการพฒั นาอย่างยั่งยนื
วเิ คราะห์พุทธประวัติจากพระพุทธรูปปางตา่ งๆหรอื ประวัติศาสดาท่ตี นนบั ถอื ตามทีก่ ำหนด วเิ คราะห์และประพฤติ

ตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวกชาดก เรือ่ งเล่า และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่กำหนด
อธิบายสังฆคณุ และข้อธรรมสำคญั ในกรอบอรยิ สจั 4 หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด

เห็นคุณค่าและวเิ คราะหก์ ารปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมในการพฒั นาตนเพ่อื เตรยี มพร้อมสำหรบั การทำงาน
และการมีครอบครัว เหน็ คุณค่าของการพัฒนาจติ เพอ่ื การเรยี นรู้และดำเนนิ ชีวิตดว้ ยวธิ คี ิดแบบโยนิโส-มนสิการคอื วิธี
คดิ แบบอริยสัจ และวธิ คี ิดแบบสบื สาวเหตุปัจจยั หรอื การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถอื

ตวั ชีว้ ัด 8 ตัวชี้วัด อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนับถอื สู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ส 1.1 ม.3/1 วิเคราะห์ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนับถือในฐานะทช่ี ว่ ย
ส 1.1 ม.3/2 สรา้ งสรรคอ์ ารยธรรม และความสงบสขุ แกโ่ ลก

ส 1.1 ม.3/3 อภปิ รายความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนับถอื กับปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาอยา่ งย่งั ยืน
ส 1.1 ม.3/4
วเิ คราะห์พุทธประวัตจิ ากพระพุทธรปู ปางตา่ งๆหรอื ประวัติศาสดาทต่ี นนับถือตามที่
ส 1.1 ม.3/5 กำหนด
วเิ คราะหแ์ ละประพฤตติ นตามแบบอย่างการดำเนินชวี ติ และข้อคดิ จากประวัติสาวก
ส 1.1 ม.3/6
ชาดก เรอ่ื งเล่า และศาสนิกชนตัวอยา่ งตามท่ีกำหนด
ส 1.1 ม.3/7 อธบิ ายสงั ฆคุณและขอ้ ธรรมสำคญั ในกรอบอรยิ สจั 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถอื

ส 1.1 ม.3/8 ตามทกี่ ำหนด
เห็นคณุ ค่าและวิเคราะห์การปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมในการพัฒนาตนเพือ่ เตรียมพร้อม
สำหรบั การทำงาน และการมีครอบครัว

เห็นคณุ ค่าของการพัฒนาจิตเพอ่ื การเรยี นร้แู ละดำเนนิ ชวี ิตด้วยวธิ คี ิดแบบโยนโิ ส-มนสกิ าร
คอื วิธคี ิดแบบอรยิ สัจ และวธิ คี ดิ แบบสืบสาวเหตุปัจจยั หรอื การพฒั นาจติ ตามแนวทางของ

ศาสนาท่ีตนนบั ถอื

โครงสรา้ งรายวิชา

รายวชิ า พระพทุ ธศาสนา 5 รหสั วชิ า ส23103 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3/1-3/4 ภาคเรียนท่ี 1

น้ำหนกั 0.5 หน่วยกิต เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 20 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น

ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั

ชั่วโมง คะแนน

1. การเผยแผแ่ ละการ ส 1.1 ม.3/1 • การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา 4 12
นบั ถือพระพุทธศาสนา ในทวีปเอเชีย

ของประเทศต่าง ๆ • การเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ท่วั โลก ในทวีปยุโรป

• การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา
ในทวปี ออสเตรเลยี

2. ความสำคัญของ ส 1.1 ม.3/2 • การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา 1 3
พระพทุ ธศาสนา ในทวีปอเมรกิ า

ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาใน

ฐานะที่ช่วยสร้างสรรค์อารยธรรม

และความสงบสุขใหแ้ กโ่ ลก

3. สมั มนา ส 1.1 ม.3/3 พระพทุ ธศาสนากับปรชั ญาของ 1 3
พระพุทธศาสนากบั เศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนา
เศรษฐกิจพอเพียง อยา่ งยง่ั ยนื

4. พทุ ธประวัติจาก ส 1.1 ม.3/4 • ศกึ ษาพทุ ธประวตั ิจาก 2 6
พระพุทธรปู ปางตา่ ง ๆ พระพุทธรูปปางตา่ ง ๆ :
และสรุปพุทธประวตั ิ ปางมารวชิ ัย ปางปฐม
เทศนา ปางลีลา ปาง
ประจำวนั เกิด

5. พุทธสาวก พุทธ ส 1.1 ม.3/5 • สรุปและวิเคราะหพ์ ุทธ 4 12
ประวัติ (ตอนปฐมเทศนา
สาวิกา ชาดก และ โอวาทปาติโมกข)์
พุทธศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง
• พุทธสาวก

• พทุ ธสาวกิ า

• พุทธศาสนิกชนตวั อย่าง

6. สังฆคณุ กับขอ้ ธรรม ส 1.1 ม.3/6 • ชาดก 4 12
สำคญั ในกรอบอรยิ สัจ 4 • พระรัตนตรยั : สังฆคณุ 9
• อริยสัจ 4

• พุทธศาสนสุภาษติ

• นา่ รจู้ ากพระไตรปฎิ ก
: พทุ ธปณธิ าน 4 ในมหา
ปรินิพพานสตู ร

7. การปฏบิ ตั ิตนตาม ส 1.1 ม.3/7 • การปฏิบัตติ นตามหลักธรรม 2 6
หลักธรรมในการพัฒนา ส 1.1 ม.3/8 ในการพัฒนาตนเพ่ือ 2
ตนเพ่อื เตรียมพร้อม เตรยี มพร้อมสำหรบั การ 6
สำหรบั การทำงานและ ทำงาน
การมีครอบครัว 20
• การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรม 20
8. การพฒั นาจติ เพอื่ กา ในการพฒั นาตนเพอื่ 100
เรยี นรู้และดำเนนิ ชวี ติ เตรยี มพร้อมสำหรบั การมี
ด้วยวธิ ีคดิ แบบโยนิโส ครอบครัว
มนสิการ
• วธิ ีคิดแบบอริยสัจ

• วธิ คี ิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย

กลางภาค 1
ปลายภาค 1
20
รวม

โครงสร้างหนว่ ยการเรยี นรู้

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ชื่อแผนการจัดการเรยี นรู้ จำนวน
ชั่วโมง
การเผยแผ่และการนบั ถอื การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวปี เอเชยี
พระพุทธศาสนาของประเทศตา่ ง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในทวปี ยุโรป 1
การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในทวีปออสเตรเลยี 1
ๆ ทัว่ โลก การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปอเมรกิ า 1
1
ความสำคัญของพระพุทธศาสนา ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะท่ีช่วยสร้างสรรค์อารยธรรม 1

ท่ีมตี ่อสังคมโลก และความสงบสุขให้แก่โลก 1

สมั มนาพระพทุ ธศาสนากับ พระพทุ ธศาสนากบั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและการพัฒนา 1

เศรษฐกจิ พอเพยี ง อย่างยั่งยนื 1
1
พทุ ธประวตั ิจากพระพุทธรูปปาง ศกึ ษาพทุ ธประวัติจากพระพุทธรปู ปางต่าง ๆ :ปางมารวชิ ัย 1
ตา่ ง ๆ และสรปุ พทุ ธประวัติ ปางปฐมเทศนา ปางลีลา ปางประจำวันเกิด 1
สรปุ และวเิ คราะห์พุทธประวตั ิ (ตอนปฐมเทศนา โอวาทปาตโิ มกข์) 1
1
พุทธสาวก 1
1
พทุ ธสาวก พุทธสาวกิ า ชาดก พทุ ธสาวิกา 1

และพุทธศาสนกิ ชนตวั อย่าง พทุ ธศาสนิกชนตวั อยา่ ง 1

ชาดก 1

พระรัตนตรยั : สงั ฆคุณ 9 1
1
สังฆคณุ กับข้อธรรมสำคัญใน อรยิ สัจ 4
กรอบอรยิ สัจ 4 พุทธศาสนสุภาษิต

นา่ รูจ้ ากพระไตรปิฎก : พุทธปณิธาน 4

ในมหาปรินิพพานสตู ร

การปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรมใน การปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมในการพัฒนาตนเพื่อเตรยี มพรอ้ ม
การพัฒนาตน เพ่อื เตรียมพร้อม สำหรบั การทำงาน

สำหรบั การทำงานและการมี การปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมในการพัฒนาตน

ครอบครวั เพอื่ เตรยี มพร้อมสำหรบั การมคี รอบครัว

การพัฒนาจิตเพื่อการเรียนรู้และ วธิ ีคดิ แบบอรยิ สัจ

ดำเนินชีวติ ดว้ ยวิธีคดิ แบบโยนโิ ส วิธคี ิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย

มนสิการ

รวมเวลาเรียนท้ังส้ิน 20

แผนการจดั การเรียนรู้

สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษาฯ รายวชิ า พระพุทธศาสนา5 รหัสวชิ า ส23103 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง การเผยแผแ่ ละการนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศต่าง ๆ ทัว่ โลก จำนวน 4 ช่ัวโมง

แผนการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปเอเชยี จำนวน 1

ช่ัวโมง

1. มาตรฐานตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนา

ท่ตี นนับถือและศาสนาอ่นื มศี รทั ธาทถี่ กู ตอ้ ง ยดึ มั่น และปฏิบตั ิตามหลักธรรม

เพือ่ อย่รู ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ

ตัวช้วี ัด
ส 1.1 ม.3/1 อธิบายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนับถือสู่ประเทศต่าง ๆ ท่วั โลก

2. สาระสำคัญ
พระพุทธศาสนาไดก้ ำเนดิ ขน้ึ ในประเทศอินเดีย ซึง่ ประเทศอนิ เดยี ตั้งอยใู่ นทวปี เอเชยี ดงั นนั้ การเผยแผ่

พระพทุ ธศาสนาในทวีปเอเชยี จงึ เกิดขนึ้ ในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศท่อี ยู่ใกลเ้ คียงกับประเทศ อินเดียและ

มรี ปู แบบวิถีชีวิต สงั คม และวฒั นธรรมทคี่ ลา้ ยคลึงกัน เช่น ประเทศภฏู าน ประเทศเนปาล ประเทศศรลี ังกา

ประเทศทิเบต ประเทศจีน ประเทศเกาหลี และประเทศญ่ปี นุ่

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (K)

2. วเิ คราะหแ์ ละสรปุ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปเอเชยี (P)

3. ตระหนกั และเหน็ คณุ คา่ ของการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาให้คงอย่สู บื ต่อไป (A)

4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

2. ใฝ่เรียนรู้

5. สมรรถนะสำคัญของนักเรยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร

2. ความสามารถในการคดิ

3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

6. ช้นิ งาน/ภาระงาน ใบงานการนับถือศาสนา
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ดว้ ยวิธีสอนแบบ (Committee Work Method)
7.1 ขน้ั นำ

1. นกั เรียนสงั เกตภาพพระภกิ ษุสงฆ์ จากน้นั รว่ มกนั สนทนาโดยการตอบคำถาม ดงั น้ี

 บคุ คลในภาพคอื ใคร
(พระสงฆ)์
 บุคคลในภาพเก่ียวขอ้ งกบั การเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างไรบา้ ง
(ตวั อยา่ งคำตอบ เป็นผู้สนใจและเลอ่ื มใสศรทั ธาในพระพุทธศาสนา และเป็นผูน้ ำหลกั ธรรมคำสอนทาง
พระพุทธศาสนามาเผยแผ่ให้กับพุทธศาสนกิ ชน)
2. นกั เรียนสังเกตภาพพระเจ้าอโศกมหาราช จากนั้นร่วมกนั สนทนา โดยการตอบคำถาม ดังนี้

 บุคคลในภาพคือใคร
(พระเจ้าอโศกมหาราช)
 พระเจ้าอโศกมหาราช คอื ใคร
(เป็นจกั รพรรดิแห่งจกั รวรรดิโมริยะปกครองแควน้ มคธ อนุทวปี อนิ เดีย)
 พระเจ้าอโศกมหาราชมีความสำคัญตอ่ พระพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง
(ตวั อย่างคำตอบ พระองค์มคี วามศรทั ธาเลือ่ มใสในพระพุทธศาสนา ทรงอุปถัมภ์โดยให้มีการทำสังคายนา
พระไตรปิฎก คร้งั ที่ 3 และส่งพระธรรมทตู 9 สายออกไปประกาศพระพทุ ธศาสนาไปยังดนิ แดน
ตา่ ง ๆ ที่อยใู่ กลเ้ คียงกับชมพูทวปี )
จากนั้นครอู ธบิ ายสรุปใหน้ กั เรยี นฟงั เพมิ่ เติมในการสง่ คณะพระธรรมทูตออกไปประกาศพระพุทธศาสนา
บริเวณชมพทู วปี ในสมัยพระเจา้ อโศกมหาราช โดยใช้แผนท่ีประกอบการอภปิ ราย ดงั ตัวอยา่ ง

2. นกั เรียนศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในทวปี เอเชียจากหนงั สือเรยี นและ
แหล่งการเรยี นรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม

7.2 ข้ันสอน
1. นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา โดยการตอบคำถาม ดงั นี้
 พระพทุ ธศาสนาเร่ิมต้นขน้ึ บริเวณใดในทวีปเอเชีย
(ประเทศอนิ เดีย)
 การเกิดข้นึ ของพระพทุ ธศาสนาสง่ ผลอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ทำใหม้ ีสิง่ ยดึ เหนี่ยวจิตใจ และมีหลักธรรมในการนำไปปฏบิ ัตใิ นการดำเนนิ ชีวิต)
 นกั เรียนคดิ ว่าการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาสง่ ผลดีต่อพระพุทธศาสนาหรือไม่ อยา่ งไร
(ตัวอยา่ งคำตอบ ทำใหพ้ ระพทุ ธศาสนาคงอยู่สืบไป)
2. นักเรียนแบ่งกล่มุ 8 กลุม่ ศึกษาเกย่ี วกบั การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวปี เอเชีย ดังนี้
 กลมุ่ ที่ 1 การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศอินเดยี
 กลุ่มที่ 2 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศภูฏาน
 กลุ่มที่ 3 การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเนปาล
 กล่มุ ที่ 4 การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศศรลี ังกา
 กลมุ่ ท่ี 5 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศทเิ บต
 กลุ่มท่ี 6 การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศจีน
 กลุม่ ท่ี 7 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศเกาหลี
 กลมุ่ ที่ 8 การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศญี่ปุ่น
โดยให้แต่ละกลมุ่ สรปุ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาและการนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศท่ีกลมุ่ ตนไดร้ บั

และสรุปผลที่เกิดขนึ้ จากการนับถือพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนกิ ชนเป็นแผนภาพความคิด
ดงั ตัวอยา่ ง

พระพทุ ธศาสนาในประเทศอนิ เดยี

สมัยพระเจา้ อโศกมหาราช พระพุทธศาสนามคี วามเจริญรงุ่ เรืองและมีการส่ง
คณะพระธรรมทตู ออกไปเผยแผพ่ ระพุทธศาสนายังดนิ แดนอืน่ ๆ

หลังจากพระเจา้ อโศกมหาราชสวรรคตพระเจ้าปษุ ยมิตรได้ตง้ั ราชวงศศ์ ุงคะ
และทรงอุปถัมภศ์ าสนาฮนิ ดู ส่งผลใหพ้ ระพุทธศาสนาเสือ่ มลง

สมยั พระเจ้ากนษิ กะมหาราชได้ฟื้นฟพู ระพุทธศาสนาและมีการสังคายนา
พระไตรปิฎกครง้ั ท่ี 4 และมีการส่งพระธรรมทูตออกไปยงั ประเทศตา่ ง ๆ
และจดั ตง้ั มหาวิทยาลยั นาลนั ทา เปน็ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งแรกขึ้น

กองทัพเติร์กได้เขา้ มายึดเมืองและทำลายพุทธศาสนสถานและมหาวิทยาลัย
นาลนั ทาทำใหพ้ ระพุทธศาสนาในประเทศเสอ่ื มลง

ในยคุ ล่าอาณานิคมประเทศอินเดียตกเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษและใน
พ.ศ. 2403 เซอรเ์ อ็ดวนิ อาร์โนลด์ ได้เขียนหนังสือประทปี แหง่ เอเชีย เป็น
เร่อื งราวเกี่ยวกบั พระพุทธศาสนาและได้เผยแพร่ไปท่วั โลก
พ.ศ. 2499 พระพทุ ธศาสนากลบั มาฟ้นื ฟอู ีกคร้งั และรัฐบาลอินเดียใหม้ กี ารจัด
งานพทุ ธชยันตี ซ่งึ มพี ทุ ธศาสนิกชนไดเ้ ข้าร่วมพิธปี ฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ
เป็นจำนวนมาก ทำให้พุทธศาสนามีความม่นั คงในประเทศอินเดียจนถึงปจั จุบัน

การนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดยี
ประชาชนในประเทศอินเดีย หนั มานับถือพระพุทธศาสนามากขน้ึ
และรัฐบาลอนิ เดยี กไ็ ด้ให้ความสำคญั ต่อพระพุทธศาสนามากดว้ ย
เชน่ กนั

ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการนบั ถอื พระพุทธศาสนาในประเทศอนิ เดีย
มีท่ียึดเหนี่ยวจิตใจ ผคู้ นอยรู่ ว่ มกนั อย่างมคี วามสขุ

3. นกั เรียนคิดประเมนิ เพ่อื เพิ่มคณุ ค่า แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้
 นกั เรยี นจะปฏิบตั ติ นในการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนบั ถอื อยา่ งไรบ้าง
(ตัวอย่างคำตอบ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสอนและสอนให้ผู้อ่ืนปฏบิ ัติตามเพ่อื ใหเ้ กิดความสุขในการ

ดำเนนิ ชีวิตและความสุขในสงั คม)
7.3 ขัน้ ฝึกฝน

1. นกั เรียนเขียนอธิบายขอ้ มลู ของตนเก่ียวกับการนบั ถือศาสนาลงในแบบบันทึก ดงั ตัวอย่าง

แบบบันทกึ การนบั ถือศาสนา
 ชอื่ (อภิสิทธ์ิ) สกุล (ภูผาสิทธิ)์ เลขที่ (2)
 ศาสนาท่ีตนนับถือ คอื (พระพุทธศาสนา)
 ศาสนาท่ีตนนบั ถอื สอนเก่ียวกบั เรอื่ งใด

(ตัวอยา่ งคำตอบ สอนให้ละเวน้ จากการทำชั่วทัง้ ปวง ให้ทำแต่ความดี และ
ทำจิตใจใหบ้ รสิ ุทธ์ิ ตามหลกั ธรรมโอวาท 3)
 นกั เรยี นจะนำหลกั ธรรมคำสอนไปปฏบิ ตั อิ ย่างไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ไมค่ ิดร้ายหรือประสงค์รา้ ยต่อผอู้ ื่น ปฏิบตั ิตนเปน็ คนดี
ของพ่อแม่ ครู อาจารย์ และปฏิบัติตนเป็นคนดขี องสงั คมและประเทศชาต)ิ
 นกั เรยี นจะชว่ ยเผยแผศ่ าสนาท่ีตนนบั ถืออยา่ งไรบ้าง
(ตัวอยา่ งคำตอบ นำหลักธรรมคำสอนไปเป็นแนวทางการปฏิบัตใิ นทุก ๆ วนั
ของการดำเนินชีวติ และสอนให้ผูอ้ นื่ ปฏบิ ตั ิตาม)
 นักเรียนมีเพอ่ื นทน่ี บั ถือศาสนาตา่ งจากตนหรอื ไม่ ✓ มี ไม่มี
 ถา้ นักเรยี นจะปฏิบัติต่อเพื่อนท่นี ับถอื ศาสนาต่างจากตนอย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ ไมล่ อ้ เลียนเพ่ือน ใหเ้ กียรติ พดู จาดี ไม่ดูถูก
เหยยี ดหยามเพอื่ นหรือบุคคลอื่นทนี่ บั ถือศาสนาแตกตา่ ง
จากตน)

2. นกั เรยี นตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และความเรียบร้อยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรับปรุงแกไ้ ขให้
ถูกตอ้ ง

3. นักเรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีเข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกันดังนี้

พระพทุ ธศาสนาได้กำเนดิ ขึน้ ในประเทศอินเดีย ซง่ึ ประเทศอนิ เดียตั้งอย่ใู นทวปี เอเชีย ดงั นน้ั การเผยแผ่

พระพุทธศาสนาในทวปี เอเชีย จึงเกดิ ข้นึ ในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศทีอ่ ยู่ใกลเ้ คียงกบั ประเทศอินเดยี และ

มีรปู แบบวิถชี ีวติ สังคม และวฒั นธรรมที่คล้ายคลึงกัน เช่น ประเทศภูฏาน ประเทศเนปาล ประเทศศรีลงั กา

ประเทศทิเบต ประเทศจนี ประเทศเกาหลี และประเทศญป่ี นุ่

7.4 ขั้นสรปุ
1. นกั เรียนนำเสนอผลงานการเขียนอธบิ ายขอ้ มูลของตนเกย่ี วกบั การนับถอื ศาสนาหน้าช้ันเรียน

2. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเกย่ี วกับวิธกี ารทำงานให้เหน็ การคดิ เชิงระบบและวิธีการทำงาน

ทม่ี ีแบบแผน

3. นักเรยี นทุกคนนำหลักธรรมคำสอนของศาสนาท่ตี นนบั ถือไปปฏบิ ตั ใิ นชีวิตประจำวนั และแนะนำให้ผูอ้ น่ื นำไป

ปฏบิ ัตติ าม เพ่ือเป็นการรักษาและช่วยเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาให้ดำรงอยู่ต่อไป

4. นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรยี นและหลังการทำกจิ กรรม

ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี

• ส่ิงที่นักเรียนได้เรยี นรใู้ นวันนคี้ ืออะไร

• นักเรียนมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด

• เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด

• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรอื ไม่ เพียงใด

• นักเรยี นจะนำความรูท้ ่ไี ด้นไ้ี ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทวั่ ไป

ได้อยา่ งไร

จากนน้ั แลกเปล่ียนตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกขั้นตอนวา่ จะเพ่มิ คณุ คา่ ไปสสู่ งั คม

เกดิ ประโยชน์ต่อสังคมใหม้ ากขน้ึ กว่าเดมิ ในขัน้ ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครงั้ ต่อไป

8. สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3
ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพพระสงฆ์
3. ภาพพระเจ้าอโศกมหาราช
4. แผนท่ีแสดงเสน้ ทางการส่งคณะพระธรรมทตู ออกไปประกาศพระพทุ ธศาสนา
5. แหลง่ การเรียนร้ทู ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น

9. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล
วิธกี ารวัดและประเมินผล ใบงานเร่อื งการนบั
4 = ดีมาก ถูกตอ้ ง 80%ขึ้นไป
ด้านความรู้ ถือศาสนา 3 = ดี ถกู ตอ้ ง 70-79%ขึน้ ไป
2 = พอใช้ ถูกต้อง 60-69%ขึ้นไป
ด้านทักษะ / กระบวนการ แบบวัดทกั ษะ 1 = ปรับปรุง ถกู ตอ้ งต่ำกวา่ 60%ขนึ้ ไป
แบบสงั เกต
ด้านเจตคติ และคุณลักษณะ 4 = ดีมาก หมายถึง ปฏบิ ัตคิ ุณลักษณะนั้นๆเด่นชัดมากท่ีสุด
แบบประเมนิ 3 = ดี หมายถึง ปฏิบัติคุณลักษณะน้นั ๆเดน่ ชัดท่สี ุด
แบบสังเกต 2 = พอใช้ หมายถึง ปฏบิ ัตคิ ุณลกั ษณะนัน้ ๆปานกลาง
1 = ปรับปรุง หมายถงึ ปฏิบัติคุณลักษณะนัน้ ๆน้อย

4 = ดีมาก หมายถึง ปฏบิ ัติคุณลกั ษณะนนั้ ๆเดน่ ชดั มากท่ีสดุ
3 = ดี หมายถึง ปฏิบตั ิคุณลกั ษณะน้นั ๆเด่นชัดทส่ี ดุ
2 = พอใช้ หมายถงึ ปฏิบัตคิ ุณลักษณะนั้นๆปานกลาง
1 = ปรบั ปรงุ หมายถึง ปฏบิ ัติคณุ ลกั ษณะนนั้ ๆนอ้ ย

ใบงานการนับถือศาสนา

 ชอ่ื ..................................สกลุ เลขท.่ี .................

 ศาสนาทต่ี นนับถือ คอื

 ศาสนาที่ตนนบั ถือสอนเก่ียวกบั เร่ืองใด

....................................................................................................................

 นักเรียนจะนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบตั อิ ยา่ งไร

....................................................................................................................

....................................................................................................................

....................................................................................................................

....................................................................................................................

 นกั เรียนจะช่วยเผยแผ่ศาสนาทีต่ นนับถอื อยา่ งไรบา้ ง

....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................

 นกั เรียนมีเพื่อนท่ีนับถอื ศาสนาต่างจากตนหรือไม่ มี ไม่มี
 ถ้านักเรยี นจะปฏบิ ตั ิต่อเพือ่ นทน่ี ับถือศาสนาตา่ งจากตนอย่างไร

....................................................................................................................

....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................

บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้

1. สรปุ ผลการเรยี นรู้

1.1 ความรู้ (K : Knowledge)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (A: Attitude)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ปญั หา อุปสรรคและข้อคน้ พบ

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

3. ข้อเสนอแนะ แนวทางแก้ไข และผลการแก้ไข

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

(ลงชอื่ )……………………………………..ผู้สอน
(นางสาวจิราภา สำฤทธ์ิ)

วนั ที่ …………..เดอื น……………..พ.ศ……….….

(ลงช่ือ)………………………………………… (ลงชื่อ)…………………………………………
(นายถาวร สุขนา)
(วา่ ทร่ี ้อยตรหี ญงิ มุทิตา เอ่ยี มทิพย์)
หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ รองผู้อำนวยกาปฏบิ ัติราชการแทน
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนหนองรปี ระชานมิ ติ

แผนการจัดการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ รายวิชา พระพุทธศาสนา5 รหสั วิชา ส23103 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง การเผยแผ่และการนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จำนวน 4 ช่ัวโมง

แผนการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื ง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในทวปี ยุโรป จำนวน 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 1.1 ร้แู ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา

ท่ีตนนบั ถอื และศาสนาอนื่ มีศรัทธาทีถ่ กู ตอ้ ง ยึดมั่น และปฏบิ ัติตามหลักธรรม

เพื่ออย่รู ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ุข

ตัวชี้วัด
ส 1.1 ม.3/1 อธบิ ายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ตี นนบั ถือสูป่ ระเทศต่าง ๆ ท่ัวโลก

2. สาระสำคัญ
พระพุทธศาสนาเร่มิ เผยแผ่เขา้ ไปในดนิ แดนแถบยุโรป ในช่วงพทุ ธศตวรรษท่ี 21 เปน็ ช่วงแสวงหา

อาณานิคมของชาตติ ะวันตก ทเ่ี ข้ามายึดครองประเทศต่าง ๆ ในทวปี เอเชีย ประชาชนของประเทศ

อาณานคิ มบางสว่ นได้อพยพไปอยใู่ นประเทศท่ีเป็นเจ้าของอาณานิคม ซง่ึ ประชาชนเหล่าน้นั นบั ถือพระพทุ ธศาสนา

เปน็ สว่ นใหญ่ จึงทำใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเผยแผเ่ ข้าไปในดินแดนดังกลา่ ว

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในทวปี ยุโรป (K)

2. วเิ คราะห์และสรปุ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศต่าง ๆ ในทวปี ยุโรป (P)

3. ตระหนักและเห็นคณุ คา่ ของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้คงอยสู่ บื ไป (A)

4. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์

2. ใฝเ่ รียนรู้

5. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร

2. ความสามารถในการคดิ

3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

6. ชิ้นงาน/ภาระงาน แบบบนั ทึก วัดไทยในทวีปยโุ รป

7. กิจกรรมการเรียนรู้ ดว้ ยวิธีสอนแบบ Concept Attainment Model

7.1 ข้นั นำ
1. ตัวแทนนกั เรยี นอ่านขอ้ ความเกีย่ วกบั การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในทวีปยโุ รป

พระพทุ ธศาสนาเริม่ เผยแผ่เข้าไปในดินแดนแถบทวีปยุโรป ในช่วงพทุ ธศตวรรษท่ี 21
เป็นชว่ งแสวงหาอาณานิคมของชาติตะวนั ตก ที่เข้ามายึดครองประเทศต่าง ๆ ในทวีป
เอเชีย ประชาชนของประเทศอาณานิคมท้ังหลายบางส่วนอพยพเขา้ ไปอยูใ่ นประเทศ
ทเี่ ปน็ เจา้ ของอาณานคิ ม ซ่งึ ประชาชนเหลา่ นนั้ นบั ถือพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่
จงึ ทำให้พระพุทธศาสนาเผยแผ่เขา้ ไปในดนิ แดนดังกลา่ ว หรอื อาจมีชาวยุโรปเข้ามา
อยูใ่ นประเทศทีเ่ ป็นอาณานคิ มของตน ได้เข้ามาเห็นและสมั ผัสวิถีชีวติ แบบชาวพุทธ
ของคนในประเทศน้นั ๆ ทำให้เกิดความสนใจและไดศ้ กึ ษาเกย่ี วกับพระพทุ ธศาสนา
จึงเกิดความเล่อื มใสศรทั ธา และนำไปเผยแผ่ในดินแดนทวปี ยโุ รปต่อไป

จากน้นั ร่วมกันสนทนา โดยการสรุปความรู้ดว้ ยการตอบคำถาม ดงั นี้
• พระพุทธศาสนาเร่มิ เผยแผ่เขา้ ไปในดนิ แดนแถบยุโรปในช่วงใด
(พุทธศตวรรษที่ 21 เปน็ ชว่ งแสวงหาอาณานิคมของชาติตะวนั ตก ทีเ่ ข้ามายึดครองประเทศต่าง ๆ ในทวปี
เอเชีย)
• ลักษณะของการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในทวปี ยุโรปเปน็ อย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ หลงั จากประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชยี ตกเปน็ อาณานคิ มของชาตยิ ุโรป ประชาชนของ
ประเทศอาณานคิ มได้มกี ารอพยพเขา้ ไปในประเทศที่เป็นเจา้ ของอาณานิคม และส่วนใหญน่ ับถือพระพุทธศาสนา เม่ือ
เขา้ ไปอยู่ในประเทศก็มกี ารปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมในพระพุทธศาสนาเหมอื นเดมิ ทำให้ชาวยุโรปเกิดความสนใจและ
ได้หนั มาศกึ ษาทำใหเ้ กดิ ความเลื่อมใสศรัทธา)
• การเลอื่ มใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวยุโรปส่งผลตอ่ พระพุทธศาสนาอย่างไร
(ตัวอยา่ งคำตอบ ทำใหพ้ ระพทุ ธศาสนาถกู นำไปเผยแผใ่ นดินแดนทวีปยุโรปตา่ ง ๆ)
2. นกั เรยี นศกึ ษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศตา่ ง ๆ
ในทวปี ยโุ รป จากหนงั สือเรยี นและแหล่งการเรยี นรู้อ่ืน ๆ เพิม่ เตมิ

7.2 ข้ันสอน
1. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ 3 กลมุ่ ศึกษาเกยี่ วกับการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในทวีปยุโรป ดงั นี้
 กลมุ่ ที่ 1 ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาในประเทศองั กฤษ
 กลุ่มท่ี 2 ศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศเยอรมนี
 กลุ่มที่ 3 ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาในประเทศเนเธอร์แลนด์
โดยวเิ คราะหแ์ ละสรุปการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาและการนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศทก่ี ลุ่มตนไดร้ ับ

และสรปุ ผลที่เกดิ ขึ้นจากการนับถือพระพุทธศาสนาของประชาชนเปน็ แผนภาพความคิด ดงั ตวั อย่าง

การเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน
ประเทศอังกฤษ

พ.ศ. 2422 พระพุทธศาสนาเร่ิมได้รับความสนใจสำหรบั ประชาชนชาวองั กฤษ
เม่อื เซอร์ เอ็ดวิน อาร์โนลด์ เผยแพรห่ นงั สอื ประทปี แหง่ เอเชยี
พ.ศ. 2424 ซึง่ เป็นเร่ืองราวเก่ียวกบั พทุ ธประวตั แิ ละหลักคำสอนของพระพทุ ธเจา้
ทำให้ประชาชนชาวองั กฤษหันมานับถือศาสนามากขึ้น
พ.ศ. 2450-
ปัจจุบัน ศาสตราจารย์ ที ดบั เบิลยู รสิ เดวดิ ส์ ไดม้ กี ารจดั ตงั้ สมาคมบาลปี กรณ์ขึ้น
เพอื่ จดั พมิ พ์พระไตรปิฎกเปน็ ภาษาองั กฤษออกเผยแพร่

มกี ารจดั ตงั้ พทุ ธสมาคมแหง่ สหราชอาณาจกั รบรเิ ตนใหญ่ และ
ไอร์แลนดเ์ หนือขึ้นท่ีกรุงลอนดอน มกี ารพมิ พ์วารสารและจุลสาร-
พทุ ธศาสตรป์ ริทัศนอ์ อกเผยแพร่และยังมกี ารจดั สร้างวัดในพระพุทธศาสนา
หลายแหง่ ทำใหพ้ ระพุทธศาสนาเจรญิ รุ่งเรอื งเปน็ อย่างมาก

การนบั ถอื พระพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษ

การนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศองั กฤษมีมากข้ึน
อย่างต่อเน่ืองจากการเผยแผ่พระพุทธศาสนาส่งผลให้
ประเทศอังกฤษมที ้งั นิกายเถรวาทและนิกายมหายาน
และใหม้ ีการจดั ทำหลกั สตู รการศกึ ษาธรรม

ผลที่เกดิ ขึ้นจากการนบั ถอื พระพุทธศาสนาของ
ประชาชนชาวองั กฤษ

พระพทุ ธศาสนามีความเป็นปกึ แผน่ ม่นั คง และ
เจริญกา้ วหน้า

2. นกั เรยี นคิดประเมนิ เพือ่ เพ่มิ คุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้
 เพราะเหตใุ ด พระพทุ ธศาสนาจงึ ได้รบั ความสนใจจากประชาชนของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
(ตัวอยา่ งคำตอบ เพราะพระพทุ ธศาสนาสอนในหลักของความเป็นจรงิ และสามารถพสิ จู น์ได้)

7.3 ขน้ั ฝึกฝน
1. นักเรยี นศึกษาเกย่ี วกบั วัดไทยท่ีได้สรา้ งขึ้นในทวีปยุโรปมา 1 วัด แลว้ ตดิ ภาพพรอ้ มตอบคำถาม

ลงในแบบบันทกึ ดังตวั อยา่ ง

แบบบันทกึ วัดไทยในทวีปยโุ รป

 วดั นช้ี อื่ ว่าอะไร (วัดพุทธปทปี )

 วดั นปี้ ระดษิ ฐานอยทู่ ีใ่ ดในทวีปยโุ รป (เมืองวมิ เบลิ ดนั ลอนดอน ประเทศ

อังกฤษ)

 เพราะเหตใุ ดจึงมกี ารสร้างวัดดังกล่าวขึ้น

(เร่มิ จากการทีพ่ ระราชสทิ ธมิ ุนี และพระมหาวจิ ติ ร ตสิ สฺ ทตฺโต ได้รบั อาราธนา

ใหเ้ ดินทางไปทำการสอนวปิ ัสสนากรรมฐาน ณ พุทธวหิ ารแฮมสาตท

กรงุ ลอนดอน โดยสังฆสมาคมแห่งประเทศองั กฤษ ซ่ึงเปน็ ครัง้ แรก

ทพ่ี ระพทุ ธศาสนาสายปฏิบัติไดป้ ระดิษฐานในทวีปยุโรป จึงมมี ตใิ ห้

ต้ังวัดไทยข้นึ ท่ีกรงุ ลอนดอนท่ีสมบรู ณ์ แห่งแรกในประเทศ

อังกฤษ)

2. นักเรยี นตรวจสอบความถูกต้อง และความเรียบรอ้ ยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรับปรงุ แก้ไขให้
ถูกต้อง

7.4 ขั้นสรปุ

1. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ท่ีเข้าใจเปน็ ความรู้รว่ มกัน ดังนี้
พระพทุ ธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้าไปในดนิ แดนแถบยุโรป ในชว่ งพุทธศตวรรษที่ 21 เป็นช่วงแสวงหาอาณานคิ ม

ของชาติตะวนั ตก ทเ่ี ข้ามายดึ ครองประเทศตา่ ง ๆ ในทวีปเอเชยี ประชาชนของประเทศอาณานิคมบางสว่ นได้อพยพไปอยู่
ในประเทศทเ่ี ป็นเจ้าของอาณานคิ ม ซึ่งประชาชนเหลา่ นั้นนบั ถือพระพทุ ธศาสนา
เปน็ สว่ นใหญ่ จงึ ทำใหพ้ ระพุทธศาสนาเผยแผเ่ ข้าไปในดินแดนดังกลา่ ว

8. สอื่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน พระพุทธศาสนา ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3

ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. ขอ้ ความเกี่ยวกบั การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปยุโรป

3. แหล่งการเรียนรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

9. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล

ด้านความรู้ แบบบันทึก วัดไทย 4 = ดมี าก ถูกตอ้ ง 80%ขน้ึ ไป
ด้านทักษะ / กระบวนการ ในทวีปยุโรป 3 = ดี ถกู ต้อง 70-79%ข้ึนไป
ดา้ นเจตคติ และคุณลกั ษณะ 2 = พอใช้ ถูกต้อง 60-69%ข้ึนไป
แบบวดั ทักษะ 1 = ปรับปรงุ ถกู ตอ้ งตำ่ กวา่ 60%ขึ้นไป
แบบสังเกต
4 = ดมี าก หมายถงึ ปฏบิ ัติคุณลักษณะนนั้ ๆเด่นชดั มากที่สุด
แบบประเมนิ 3 = ดี หมายถึง ปฏบิ ัตคิ ุณลกั ษณะนั้นๆเด่นชัดทสี่ ุด
แบบสงั เกต 2 = พอใช้ หมายถึง ปฏิบัตคิ ุณลักษณะนั้นๆปานกลาง
1 = ปรับปรุง หมายถึง ปฏิบัติคณุ ลักษณะนน้ั ๆนอ้ ย

4 = ดมี าก หมายถงึ ปฏิบัตคิ ุณลกั ษณะนน้ั ๆเด่นชดั มากที่สดุ
3 = ดี หมายถึง ปฏบิ ัติคุณลักษณะนั้นๆเด่นชัดที่สดุ
2 = พอใช้ หมายถงึ ปฏิบัตคิ ุณลักษณะนั้นๆปานกลาง
1 = ปรบั ปรุง หมายถงึ ปฏิบตั ิคุณลักษณะน้นั ๆนอ้ ย

แบบบนั ทึก วดั ไทยในทวีปยโุ รป

 วัดนชี้ อ่ื ว่าอะไร
 วัดน้ีประดษิ ฐานอยูท่ ใ่ี ดในทวีปยุโรป
 เพราะเหตุใดจึงมกี ารสรา้ งวัดดงั กล่าวข้นึ

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้

1. สรปุ ผลการเรยี นรู้

1.1 ความรู้ (K : Knowledge)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.3 คณุ ธรรม จริยธรรม (A: Attitude)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ปัญหา อุปสรรคและข้อค้นพบ

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

3. ข้อเสนอแนะ แนวทางแก้ไข และผลการแก้ไข

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

(ลงชื่อ)……………………………………..ผู้สอน
(นางสาวจริ าภา สำฤทธ์ิ)

วันท่ี …………..เดอื น……………..พ.ศ……….….

(ลงชอื่ )………………………………………… (ลงช่ือ)…………………………………………
(นายถาวร สุขนา) (วา่ ท่ีร้อยตรีหญงิ มุทิตา เอี่ยมทิพย)์

หวั หน้ากลมุ่ บริหารงานวชิ าการ รองผู้อำนวยกาปฏิบตั ิราชการแทน
ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นหนองรีประชานมิ ิต

แผนการจัดการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาฯ รายวิชา พระพุทธศาสนา5 รหัสวิชา ส23103 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง การเผยแผแ่ ละการนับถอื พระพุทธศาสนาของประเทศต่าง ๆ ทัว่ โลก จำนวน 4 ชั่วโมง

แผนการเรียนรูท้ ี่ 3 เร่ือง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปออสเตรเลีย จำนวน 1

ช่วั โมง

1. มาตรฐานตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา

ทต่ี นนบั ถอื และศาสนาอ่นื มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรม

เพ่อื อยูร่ ว่ มกนั อย่างสันตสิ ขุ

ตัวชวี้ ัด
ส 1.1 ม.3/1 อธิบายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนบั ถอื สปู่ ระเทศตา่ ง ๆ ทั่วโลก

2. สาระสำคัญ
ทวปี ออสเตรเลียมีพุทธศาสนกิ ชนชาวไทยและชาติอืน่ ๆ ได้ไปเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ทำใหช้ าวออสเตรเลียมี

การนับถือพระพทุ ธศาสนาจำนวนมากและชาวออสเตรเลียก็ได้มาอุปสมบทในประเทศไทยและประเทศอืน่ ท่ีนบั ถือ

พระพทุ ธศาสนา ส่วนในประเทศนิวซแี ลนด์การเผยแผ่พระพุทธศาสนายังไมร่ งุ่ เรืองนกั ทำใหม้ ผี นู้ บั ถือ

พระพุทธศาสนาไมม่ ากนกั และทั้งสองประเทศกม็ ีการสร้างวดั ไทยขน้ึ ในเมืองต่าง ๆ เพ่ือเปน็ สถานที่ประกอบ

พธิ ีกรรมทางศาสนาของพทุ ธศาสนกิ ชน
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปออสเตรเลยี (K)

2. วเิ คราะห์และสรุปการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศตา่ ง ๆ ในทวปี ยุโรป (P)

3. ตระหนักและเหน็ คณุ คา่ ของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้คงอย่สู ืบไป (A)

4. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์

2. ใฝ่เรยี นรู้

5. สมรรถนะสำคัญของนกั เรยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร

2. ความสามารถในการคิด

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
6. ช้นิ งาน/ภาระงาน แบบบนั ทึกกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในการทำนุบำรงุ พระพุทธศาสนา

7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดว้ ยวธิ สี อนแบบ Concept Attainment Model (เขียนแสดงข้นั ตตอนการสอนให้ชัดเจน)

7.1 ขน้ั นำ
1. นกั เรยี นสงั เกตแผนท่ที วปี ออสเตรเลยี จากนัน้ ร่วมกันสนทนา โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี

• แผนทน่ี ้ี คอื แผนทีท่ วปี อะไร
(ทวีปออสเตรเลีย)
• ทวีปออสเตรเลียตั้งอยูบ่ ริเวณใด
(ทางตะวันออกเฉยี งใต้ของทวปี เอเชยี ซง่ึ เป็นทวีปท่ีต้ังอย่ซู กี โลกใต้)
• ทวีปออสเตรเลยี ประกอบด้วยประเทศอะไรบา้ ง
(ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซแี ลนด์)
2. นักเรยี นศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกับการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในทวปี ออสเตรเลยี
จากหนังสือเรยี น และแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพม่ิ เติม
7.2 ขั้นสอน
1. นักเรียนวเิ คราะหเ์ กยี่ วกบั การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเขา้ สู่ประเทศออสเตรเลียโดยใชแ้ ผนท่ปี ระกอบการ
อภิปราย การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา และรว่ มกนั สรุปความรู้ โดยการตอบคำถาม ดังตัวอย่าง

 พระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ประเทศออสเตรเลยี ได้อยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ พระพทุ ธศาสนาเข้าสู่ประเทศออสเตรเลีย โดยพระภกิ ษุชาวอังกฤษ ชือ่

พระสาส์นธชะ (มร.อี สตีเวนสัน) โดยทา่ นได้อุปสมบทท่ปี ระเทศเมียนมา และท่านก็ได้เดินทางเขา้ สู่ประเทศ
ออสเตรเลีย)

 ในช่วงหลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2 การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศออสเตรเลยี เป็นอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนามีความเจรญิ รุ่งเรืองมาก จะเห็นได้จาก

พ.ศ.2497-2499 ไดม้ กี ารจัดอบรมกรรมฐานให้แก่ชาว
ออสเตรเลีย โดยพระเถระชาวพม่าชือ่ พระอูฐติ ิละ
ซงึ่ มีผู้สนใจมาฟังบรรยายเปน็ อันมาก

มกี ารตัง้ สำนักสงฆ์ พ.ศ. 2496 ได้จดั ตัง้ พทุ ธสมาคมขึน้ ใน
ฝา่ ยเถรวาทที่ รัฐควีนสแ์ ลนด์ นิวเซาท์เวลส์
เมืองเพิรท์ โดย และวิคเตอเรีย เพ่อื เผยแผ่หลักธรรม
พระภิกษุชาวออสเตรเลีย ในพระพุทธศาสนา
ชอื่ พระชาคโร
ซง่ึ ไดร้ ับการอปุ สมบท
จากประเทศไทย

พ.ศ. 2497 พุทธสมาคมแห่งรฐั มีการจดั ต้งั สหพนั ธ์พทุ ธศาสนาโดยมี
นวิ เซาทเ์ วลส์ ไดจ้ ัดพิมพ์วารสาร สำนกั งานใหญ่ท่กี รงุ แคนเบอร์รา เพ่ือ
ชอ่ื ข่าวพระพุทธศาสนาออกเผยแพร่ เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ซ่ึงเปน็ สถานที่
แสดงปาฐกถาธรรม สัมมนาวิชาการ
พ.ศ. 2498 อภิปรายธรรมและเปน็ ศนู ยร์ วมในการ
มกี ารจัดตัง้ ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
พุทธสมาคมแห่ง
แทสเมเนีย

2. นักเรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกับการนบั ถอื พระพุทธศาสนาในประเทศออสเตรเลยี และผลที่เกิดขึน้ ตอ่
ประชาชนชาวออสเตรเลีย โดยบันทึกคำตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตัวอย่าง

การนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศออสเตรเลยี

ประชาชนชาวออสเตรเลียมีการนับถือพระพทุ ธศาสนามากขน้ึ
และได้อุปสมบททง้ั ในประเทศไทยและประเทศอ่ืน ๆ ทนี่ บั ถือ
พระพุทธศาสนา และมีการสรา้ งวัดไทยขึน้ เป็นศูนยก์ ลาง
การนบั ถือศาสนา

ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ตอ่ ประชาชนชาวออสเตรเลยี

มีหลกั ธรรมในการดำรงชีวติ ทำใหเ้ กิดความไม่ประมาท
มีสตติ ลอดเวลา

3. นักเรยี นร่วมกนั วเิ คราะห์และสรปุ ความรเู้ กย่ี วกับการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศนวิ ซแี ลนด์การนับ
ถือพระพุทธศาสนาในประเทศนิวซีแลนด์ และผลทีเ่ กิดขนึ้ ตอ่ ประชาชนชาวนวิ ซีแลนด์ในการนบั ถอื พระพทุ ธศาสนา
ดังตัวอยา่ ง

การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศนวิ ซแี ลนด์

การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนามคี วามคล้ายคลงึ กับประเทศออสเตรเลยี
แต่พระพทุ ธศาสนาในประเทศนวิ ซแี ลนด์
ยังไมร่ งุ่ เรืองเป็นท่ยี อมรับเหมือนในประเทศออสเตรเลีย สว่ นใหญ่
การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาจะดำเนินการ
โดยพระภิกษุชาวองั กฤษ ทิเบต ญ่ีปุ่น โดยได้รับการสนับสนุนจาก
พทุ ธสมาคมของประเทศตา่ ง ๆ ทว่ั โลก

การนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศนวิ ซีแลนด์

ผนู้ ับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศนวิ ซแี ลนด์ยงั มี
ไม่มากนกั เม่ือเทียบกับประเทศออสเตรเลียและ
สว่ นมากจะอาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่ ๆ เช่น เวลลิงตนั
ไครสตเ์ ชิรช์ ดะนีดนิ โอตาโก ปัจจุบนั มกี ารสร้างวัดไทย
ขน้ึ ในประเทศนวิ ซแี ลนด์ เช่น วดั ญาณประทีบ เมือง
โอกแลนด์ วดั โพธิญาณาราม เมืองเวลลิงตัน

• แผนท่ีประเทศนิวซแี ลนด์

ผลท่เี กดิ ขึ้นตอ่ ประชาชนชาวนิวซแี ลนดใ์ นการนับถอื
พระพทุ ธศาสนา

4. นักเรียนคิดประเมนิ เพื่อเพิ่มคณุ ค่า แลว้ สรปุ เป็นความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้
 นกั เรียนคดิ วา่ การสรา้ งวัดไทยในต่างแดนน้นั มีความสำคญั ต่อการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง
(ตัวอย่างคำตอบ ทำให้พระพุทธศาสนาเป็นที่รู้จักของคนท่ัวโลก แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของ

พระพทุ ธศาสนา)
5. นกั เรียนคิดประเมนิ เพื่อเพ่มิ คณุ ค่า แลว้ สรปุ เปน็ ความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้
 นักเรยี นคิดวา่ การสรา้ งวัดไทยในตา่ งแดนน้นั มคี วามสำคัญตอ่ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาอยา่ งไรบ้าง
(ตัวอยา่ งคำตอบ ทำใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเปน็ ที่ร้จู ักของคนทว่ั โลก แสดงให้เหน็ ถึงความเจรญิ รุ่งเรืองของ

พระพทุ ธศาสนา)
7.3 ขนั้ ฝกึ ฝน

1. นกั เรียนแบ่งกล่มุ ทำกิจกรรมบำเพญ็ ประโยชน์ในการทำนบุ ำรุง พระพุทธศาสนา โดยให้แต่ละกลุ่มคิด
กิจกรรมบำเพ็ญประโยชนม์ า 1 กิจกรรม และรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิ แล้วบนั ทกึ ผลลงในแบบบันทกึ กจิ กรรม
ดงั ตัวอย่าง

แบบบนั ทึกกจิ กรรมบำเพ็ญประโยชนใ์ นการทำนุบำรงุ พระพุทธศาสนา

 ชื่อกิจกรรม (วดั สวยด้วยมอื เรา)

 วตั ถปุ ระสงคข์ องการดำเนนิ กิจกรรม

(เพื่อตอ้ งการใหว้ ดั เกิดความสะอาด ร่มรน่ื น่ามานง่ั วิปัสสนา เจรญิ สมาธ)ิ

 การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
(ทำความสะอาดบริเวณพน้ื ทีว่ ดั ทงั้ เกบ็ ขยะ กวาดใบไม้ ล้างหอ้ งน้ำ
กวาดศาลาวดั )

 ผลท่ีเกดิ ข้ึนต่อพระพุทธศาสนา
(ทำให้บริเวณพ้นื ทวี่ ัดเกิดความสะอาด ผคู้ นอยากมานง่ั วิปัสสนา เจริญสมาธิ
และอยากมาทำบญุ ตักบาตร เป็นการช่วยใหพ้ ระพุทธศาสนาคงอยู่ตอ่ ไป)

 ข้อคิดเห็นของผู้รบั รอง

(เจ้าอาวาส)
ผรู้ ับรอง

2. นักเรียนตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และความเรยี บร้อยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรบั ปรงุ แก้ไขให้

ถกู ต้อง

7.4 ข้นั สรปุ
1. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงท่เี ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกนั ดงั น้ี

ทวีปออสเตรเลยี มพี ทุ ธศาสนิกชนชาวไทยและชาตอิ ่ืน ๆ ไดไ้ ปเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ทำให้ชาวออสเตรเลียมี

การนับถอื พระพทุ ธศาสนาจำนวนมากและชาวออสเตรเลยี ก็ไดม้ าอุปสมบทในประเทศไทยและประเทศอื่นทน่ี ับถือ

พระพทุ ธศาสนา สว่ นในประเทศนิวซีแลนด์การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนายังไมร่ ุ่งเรอื งนัก ทำให้มผี ้นู บั ถอื

พระพุทธศาสนาไมม่ ากนัก และทัง้ สองประเทศก็มกี ารสร้างวดั ไทยข้ึนในเมืองต่าง ๆ เพอื่ เปน็ สถานท่ีประกอบ

พธิ กี รรมทางศาสนาของพทุ ธศาสนิกชน

8. ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3

ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. แผนทท่ี วีปออสเตรเลีย

3. แหลง่ การเรียนรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น

9. การวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื 4 = ดมี าก เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล แบบบนั ทกึ กิจกรรม 3 = ดี
บำเพญ็ ประโยชนใ์ น 2 = พอใช้ ถกู ตอ้ ง 80%ขน้ึ ไป
ด้านความรู้ ถูกต้อง 70-79%ขึ้นไป
การทำนุบำรุง 1 = ปรับปรุง ถูกตอ้ ง 60-69%ขนึ้ ไป
ถกู ต้องต่ำกว่า 60%ขึ้นไป
พระพุทธศาสนา

ดา้ นทักษะ / กระบวนการ แบบวัดทกั ษะ 4 = ดีมาก หมายถงึ ปฏบิ ัติคุณลกั ษณะนนั้ ๆเด่นชดั มากที่สดุ
แบบสังเกต
3 = ดี หมายถงึ ปฏิบัตคิ ุณลักษณะนนั้ ๆเด่นชัดท่ีสดุ
2 = พอใช้ หมายถึง ปฏบิ ัตคิ ุณลักษณะน้นั ๆปานกลาง
1 = ปรับปรงุ หมายถึง ปฏบิ ัติคุณลักษณะนั้นๆน้อย

ด้านเจตคติ และคณุ ลกั ษณะ แบบประเมิน 4 = ดีมาก หมายถึง ปฏิบัติคุณลกั ษณะน้นั ๆเดน่ ชดั มากท่ีสดุ
แบบสังเกต 3 = ดี หมายถงึ ปฏบิ ตั ิคุณลกั ษณะนั้นๆเด่นชัดท่ีสุด
2 = พอใช้ หมายถึง ปฏิบัติคุณลกั ษณะนั้นๆปานกลาง

1 = ปรับปรุง หมายถึง ปฏิบตั ิคณุ ลกั ษณะนั้นๆน้อย

แบบบนั ทึกกิจกรรมบำเพ็ญประโยชนใ์ นการทำนบุ ำรงุ พระพทุ ธศาสนา
 ชื่อกิจกรรม
 วตั ถปุ ระสงค์ของการดำเนินกจิ กรรม
 การปฏิบัติกิจกรรม
 ผลท่ีเกิดข้นึ ต่อพระพทุ ธศาสนา
 ขอ้ คิดเห็นของผรู้ บั รอง

ผูร้ บั รอง

บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. สรปุ ผลการเรยี นรู้

1.1 ความรู้ (K : Knowledge)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.2 ทักษะ / กระบวนการ (P: Process)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.3 คณุ ธรรม จริยธรรม (A: Attitude)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ปญั หา อุปสรรคและขอ้ ค้นพบ

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

3. ขอ้ เสนอแนะ แนวทางแกไ้ ข และผลการแกไ้ ข

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

(ลงช่อื )……………………………………..ผู้สอน
(นางสาวจิราภา สำฤทธ์ิ)

วันท่ี …………..เดือน……………..พ.ศ……….….

(ลงชื่อ)………………………………………… (ลงชือ่ )…………………………………………
(นายถาวร สุขนา) (ว่าท่รี ้อยตรหี ญงิ มทุ ติ า เอ่ยี มทพิ ย)์

หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ รองผู้อำนวยกาปฏิบัตริ าชการแทน
ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นหนองรปี ระชานมิ ิต

แผนการจดั การเรียนรู้

สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาฯ รายวชิ า พระพทุ ธศาสนา5 รหัสวิชา ส23103 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่อื ง การเผยแผ่และการนับถอื พระพุทธศาสนาของประเทศต่าง ๆ ทว่ั โลก

จำนวน 4 ช่วั โมง

แผนการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวปี อเมริกา จำนวน 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา

ท่ีตนนบั ถือและศาสนาอนื่ มศี รทั ธาที่ถกู ต้อง ยึดมั่น และปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม

เพอ่ื อยู่ร่วมกนั อย่างสนั ติสขุ

ตัวชี้วัด
ส 1.1 ม.3/1 อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ตี นนับถอื สปู่ ระเทศต่าง ๆ ทว่ั โลก

2. สาระสำคญั
ประเทศสหรัฐอเมรกิ าและประเทศแคนาดา มีพทุ ธศาสนกิ ชนเชอ้ื ชาติต่าง ๆ อาศัยอย่กู ระจดั กระจาย

ตามรฐั ต่าง ๆ เปน็ จำนวนมาก ส่วนมากเป็นชาวเอเชยี จงึ มีการนำพระพุทธศาสนาไปเผยแผต่ อ่ ๆ กัน

ซึง่ ในอนาคตคาดว่าจะมผี นู้ ับถอื พระพุทธศาสนามากข้นึ เร่ือย ๆ จะเห็นได้จากการสร้างวดั ขน้ึ ในรฐั ต่าง ๆ ของท้ัง

สองประเทศ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปอเมรกิ า (K)

2. วเิ คราะหแ์ ละสรปุ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ ในทวปี ยโุ รป (P)

3. ตระหนักและเหน็ คณุ คา่ ของการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป (A)

4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์

2. ใฝ่เรยี นรู้

5. สมรรถนะสำคัญของนักเรยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร

2. ความสามารถในการคิด

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน ชน้ิ งานเรื่อง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเข้าสูป่ ระเทศต่าง ๆ ในโลก

7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ดว้ ยวิธสี อนแบบอภิปราย

7.1 ขนั้ นำ
1. นกั เรยี นสังเกตแผนที่ทวปี อเมริกา จากนนั้ ร่วมกนั สนทนา โดยการตอบคำถาม ดงั นี้

 แผนทนี่ คี้ ือ แผนทท่ี วปี อะไร
(ทวปี อเมริกา)
 ทวปี อเมรกิ าตัง้ อยบู่ รเิ วณใด
(เปน็ ทวีปทอ่ี ยู่ทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซฟิ กิ และทางตะวนั ตกของมหาสมทุ รแอตแลนติก)
 ทวปี อเมรกิ ามีก่ที วปี
(2 ทวีป คือ ทวปี อเมริกาเหนอื และทวปี อเมริกาใต้)
 จากแผนทีป่ ระเทศสหรัฐอเมรกิ าและประเทศแคนาดาอยใู่ นทวปี ใด
(ทวีปอเมรกิ าเหนอื )
2. นักเรยี นศกึ ษาและรวบรวมข้อมลู เกี่ยวกบั การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมรกิ า
และการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศแคนาดา จากหนังสอื เรยี นและแหลง่ การเรยี นรอู้ ่ืน ๆ เพิ่มเตมิ

7.2 ขั้นสอน
1. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความร้เู กีย่ วกบั การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมริกา ดงั

ตวั อย่าง

พ.ศ.
2424 พระพทุ ธศาสนาเร่มิ เผยแผ่เขา้ สู่สหรัฐอเมรกิ า เมอ่ื พ.ศ. 2424 โดยพันเอก เอช. เอส. ออลคอตต์
ไดแ้ ตง่ หนังสือปุจฉาวิสชั นาทางพระพุทธศาสนาออกเผยแผ่ แต่ยังไม่ไดร้ ับความสนใจมากนกั

2436 พ.ศ. 2436 ท่านอนาคาริก ธรรมปาละ ชาวศรีลงั กาได้เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาและ
บรรยายธรรมเกี่ยวกบั พระพุทธศาสนาเปน็ ครงั้ แรก จึงเริม่ มผี ูน้ ับถอื พระพุทธศาสนามากข้นึ

2457 พ.ศ. 2457 ไดม้ กี ารจดั ตง้ั สมาคมพระพุทธศาสนาแหง่ สหรฐั อเมรกิ า ซึง่ สมาคมนใ้ี นปัจจุบนั ก็ยังคงอยู่
และขยายสาขาเพม่ิ ข้ึนเรือ่ ย ๆ โดยมสี ำนักงานใหญ่อยู่ท่ีรฐั แคลิฟอรเ์ นยี

2504 พ.ศ. 2504 มหาวทิ ยาลัยวสิ คอนซนิ ไดเ้ ปิดการสอนหลกั สตู รพทุ ธศาสตร์ขึ้นในระดบั ปริญญาเอก

2518 พ.ศ. 2518 จึงไดต้ ัง้ มหาวิทยาลัยพุทธธรรมขน้ึ ในรัฐแคลิฟอร์เนยี โดยเปิดสอนสาขาพระพุทธศาสนา
ตงั้ แต่ระดับปรญิ ญาตรจี นถงึ ปริญญาเอก และยงั มีการจดั พมิ พว์ ารสารนวสูตรสำหรับการเผยแพร่
พระพทุ ธศาสนาอีกด้วย

2. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปเก่ียวกับการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมรกิ า โดยการตอบคำถาม ดังนี้

 การนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมรกิ าเป็นอย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ มกี ารนับถอื พระพุทธศาสนาอย่างแพร่หลาย กระจัดกระจายตามรฐั ตา่ ง ๆ
ส่วนใหญ่จะเปน็ ชาวเอเชยี ทต่ี ั้งถิน่ ฐานในประเทศสหรฐั อเมริกา)

 ความเจรญิ ทางพระพุทธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมรกิ าสงั เกตไดจ้ ากสง่ิ ใด
(ตัวอย่างคำตอบ การทปี่ ระเทศสหรัฐอเมริกามีวัดไทยต้งั อยูใ่ นรัฐต่าง ๆ จำนวนมาก เช่น

วดั ธัมมารามหรอื วดั ไทยนครชิคาโก
ตั้งอยู่ทเ่ี มืองชคิ าโก

วดั วชริ ธรรมปทีป ตงั้ อยูท่ ีเ่ มืองนิวยอร์ก

วดั ไทย-ลอสแอนเจลสิ วดั ไทยกรุงวอชงิ ตนั ด.ี ซี
รัฐแคลฟิ อร์เนยี ตงั้ อยทู่ เี่ มอื งซลิ เวอร์สปรงิ
รัฐแมรีแลนด์

วดั ธรรมประทปี
มลรัฐเวอร์จเิ นีย นิกายธรรมยุต

วัดพุทธรัตนาราม มลรฐั เท็กซสั
นิกายธรรมยตุ

และในปจั จุบนั พระพทุ ธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมรกิ าน้นั ไดร้ บั การยอมรับและมผี ู้นับถอื เพิม่ มากข้นึ ด้วย)
 ผลท่ีเกดิ ขึ้นจากการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศสหรฐั อเมรกิ าเป็นอย่างไรบ้างและส่งผลตอ่
ประชาชนที่นับถือพระพทุ ธศาสนาอย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ ทำให้พระพทุ ธศาสนาเกดิ ความเจริญร่งุ เรอื ง และประชาชนมีท่ีพง่ึ ทางจิตใจ)
3. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความร้เู กี่ยวกับการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศแคนาดา การนับ
ถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศแคนาดา และผลท่ีเกิดขนึ้ ตอ่ ประชาชนทีน่ บั ถือพระพทุ ธศาสนา
ในประเทศแคนาดา ดังตัวอยา่ ง

ประเทศแคนาดา การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศแคนาดา

เริ่มต้นจากพระสงฆ์และผู้นบั ถอื พระพุทธศาสนาเชือ้ ชาติต่าง ๆ เชน่
ชาวเอเชีย ชาวอเมริกา ได้เข้ามาอยู่ในประเทศแคนาดาและนำหลกั ธรรม
ทางพระพทุ ธศาสนามาเผยแผ่ และได้จัดตั้งพุทธสมาคม
เพอ่ื เป็นศนู ย์รวมในการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทางศาสนา และมีการจดั ตงั้
องค์กรทางพระพทุ ธศาสนาอนื่ ๆ เพ่ือเผยแผ่ศาสนาใหก้ วา้ งขึ้น

การนับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศแคนาดา
ผู้นับถือพระพุทธศาสนาส่วนใหญเ่ ปน็ ชาวเอเชีย และผทู้ นี่ บั ถอื
พระพทุ ธศาสนาอยกู่ อ่ น แลว้ ไปตั้งถนิ่ ฐานท่ีประเทศแคนาดา และนำไป
เผยแผ่ตอ่ ๆ กนั และยงั มีการสร้างวดั เพอ่ื เปน็ ศนู ย์รวมจติ ใจ ซ่ึงเป็นวัด
ในพระพทุ ธศาสนานกิ ายสุขาวดแี ละนิกายเซนแบบญปี่ นุ่

ผลที่เกดิ ข้นึ ต่อประชาชนทีน่ ับถอื พระพุทธศาสนาในประเทศแคนาดา
ประชาชนมีทพี่ ่ึงทางจติ ใจ และทำใหม้ หี ลกั ธรรมในการดำเนินชวี ติ

4. นักเรียนคดิ ประเมนิ เพ่อื เพ่ิมคณุ คา่ แล้วสรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้
 นกั เรียนได้ประโยชนจ์ ากการศกึ ษาการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศตา่ ง ๆ ท่ัวโลกอย่างไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ไดท้ ราบเก่ยี วกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหลาย ๆ ประเทศทวั่ โลกและได้เหน็ ถงึ

ความเจรญิ ของพระพทุ ธศาสนาท่ีเกดิ ขึ้นในสังคมโลก)

7.3 ขน้ั ฝกึ ฝน
1. นักเรียนเปรียบเทยี บการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสปู่ ระเทศในโลกที่สนใจมาภมู ิภาคละ

1 ประเทศลงในช้ินงานเร่ือง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเขา้ ส่ปู ระเทศต่าง ๆ ในโลก

2. นักเรียนตรวจสอบความถูกตอ้ ง และความเรียบรอ้ ยของชน้ิ งาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรบั ปรุงแกไ้ ขให้

ถกู ตอ้ ง

7.4 ข้นั สรุป
1. นักเรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีเข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกนั ดังนี้
ประเทศสหรฐั อเมริกาและประเทศแคนาดา มพี ทุ ธศาสนกิ ชนเชื้อชาติต่าง ๆ อาศัยอยู่กระจดั กระจายตาม

รัฐตา่ ง ๆ เป็นจำนวนมาก สว่ นมากเปน็ ชาวเอเชยี จงึ มกี ารนำพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่ต่อ ๆ กัน ซึ่งในอนาคตคาด

ว่าจะมีผู้นบั ถือพระพทุ ธศาสนามากขึน้ เร่อื ย ๆ จะเห็นได้จากการสรา้ งวดั

ขึ้นในรัฐต่าง ๆ ของท้ังสองประเทศ

8. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน พระพทุ ธศาสนา ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แผนทท่ี วีปอเมรกิ า

3. แผนทป่ี ระเทศสหรัฐอเมรกิ า

4. แผนที่ประเทศแคนาดา

5. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

9. การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื 4 = ดมี าก เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการวัดและประเมินผล ชิ้นงานเรอื่ ง การเผย 3 = ดี
แผ่พระพทุ ธศาสนา 2 = พอใช้ ถกู ต้อง 80%ข้นึ ไป
ดา้ นความรู้ ถกู ต้อง 70-79%ขนึ้ ไป
เข้าส่ปู ระเทศตา่ ง ๆ 1 = ปรับปรุง ถูกต้อง 60-69%ขน้ึ ไป
ในโลก ถูกตอ้ งต่ำกวา่ 60%ข้นึ ไป

ด้านทักษะ / กระบวนการ แบบวดั ทักษะ 4 = ดีมาก หมายถงึ ปฏบิ ัตคิ ุณลักษณะน้นั ๆเดน่ ชดั มากท่ีสดุ
แบบสังเกต
3 = ดี หมายถงึ ปฏิบัตคิ ุณลักษณะนนั้ ๆเด่นชัดทส่ี ดุ
2 = พอใช้ หมายถึง ปฏบิ ัตคิ ุณลักษณะนน้ั ๆปานกลาง
1 = ปรับปรุง หมายถงึ ปฏบิ ัติคณุ ลกั ษณะน้ันๆน้อย

ด้านเจตคติ และคุณลักษณะ แบบประเมนิ 4 = ดมี าก หมายถึง ปฏิบัติคุณลกั ษณะนน้ั ๆเด่นชัดมากท่ีสุด
แบบสังเกต 3 = ดี หมายถึง ปฏิบัตคิ ุณลกั ษณะน้นั ๆเด่นชัดทีส่ ดุ
2 = พอใช้ หมายถึง ปฏิบัตคิ ุณลักษณะนั้นๆปานกลาง

1 = ปรับปรุง หมายถงึ ปฏิบัติคุณลกั ษณะนน้ั ๆน้อย

ชิ้นงานเรอื่ ง การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ประเทศต่าง ๆ ในโลก
นักเรียนเปรียบเทยี บการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเขา้ สู่ประเทศในโลกที่สนใจมาภูมภิ าคละ 1 ประเทศ
ลงในแผนภาพความคิด แล้วตอบคำถาม

ทวีป ทวีป
ประเทศ ลกั ษณะท่ีเหมอื นกนั ประเทศ
ของทั้ง 2 ประเทศ

(การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในระยะแรก (มีผู้นบั ถอื พระพทุ ธศาสนา (พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศนี้

ยงั ไมไ่ ด้รบั ความนยิ มมากนัก โดยมพี นั เอก ชาวเอเชียและชาตอิ ืน่ ๆ โดยพระภิกษชุ าวอังกฤษชอื่ พระสาสนธ์ ชะ

เอช. เอส. ออลคอตต์ ไดแ้ ตง่ หนงั สอื ปุจฉา มาเผยแผ่ในดนิ แดนนี)้ (มร.อี สตีเวนสัน) และตอ่ มากม็ ีการจดั ตง้ั

วอิสเนผชั ยานพคแาารผทระ่ าแกิพงลธพทุ ระธรรมะศมชี พาปาสุทาวนธลจาศะีนเาไขแดส้าล้เนมะดาาชนิ ตาตท้ังวอ่าถญงมิน่ เี่ปาขฐทุ่น้าา่ามนทนา่ีนปับัจถจอื บุ ันของททีเ่ลหั้งกั ม2ษือณปนระกะนั เทศ พุทธสมาคมและจดั พมิ พ์วารสารชอ่ื ข่าว
พระพุทธศาสนา ออกเผยแพร่ ปัจจุบันมี
พทุ ธศาสนกิ ชนชาวไทยและชาตอิ ่นื ๆ
ทน่ี ับถือพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแผ่

มีชาวเอเชยี อาศัยอยู่จำนวนมาก จึงทำให้ ในดินแดนแหง่ น้ี และมกี าร

มีผนู้ บั ถือพระพุทธศาสนาแพร่หลาย สร้างวดั มากข้ึน)

มากขน้ึ )

 เพราะเหตใุ ดการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของประเทศตา่ ง ๆ ในโลกจึงมคี วามแตกตา่ งกนั
(เพราะมวี ฒั นธรรมและการปกครองในอดีตทแ่ี ตกต่างกัน และมีบุคคลท่เี ป็นพทุ ธศาสนกิ ชนเข้ามา
เผยแผ่ในลักษณะตา่ ง ๆ เชน่ การตดิ ตอ่ ด้านการค้า การสร้างวดั ของศาสนกิ ชน และพระภกิ ษุเขา้ มา
เผยแผ่)

 นกั เรียนในฐานะท่ีเป็นพลเมืองของโลกจะปฏิบตั ิตอ่ ผทู้ ี่นบั ถอื ศาสนาแตกต่างกนั อยา่ งไรเพอ่ื ให้อยูร่ ่วมกัน
ในสังคมโลกไดอ้ ยา่ งมคี วามสุขและไมเ่ กดิ ความขัดแยง้ กนั
(ยอมรบั ความแตกต่างทางดา้ นการนับถือศาสนาและความเชอื่ ไม่ลบหลู่หรือดูถูกศาสนาอ่ืน)

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้

1. สรปุ ผลการเรียนรู้

1.1 ความรู้ (K : Knowledge)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (A: Attitude)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ปัญหา อุปสรรคและข้อคน้ พบ

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

3. ข้อเสนอแนะ แนวทางแกไ้ ข และผลการแก้ไข

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

(ลงชอ่ื )……………………………………..ผู้สอน
(นางสาวจิราภา สำฤทธิ์)

วนั ท่ี …………..เดอื น……………..พ.ศ……….….

(ลงชอื่ )………………………………………… (ลงช่อื )…………………………………………
(นายถาวร สุขนา) (ว่าท่รี ้อยตรหี ญิงมุทติ า เอี่ยมทพิ ย์)

หัวหน้ากลมุ่ บริหารงานวชิ าการ รองผ้อู ำนวยกาปฏิบัติราชการแทน
ผู้อำนวยการโรงเรยี นหนองรีประชานมิ ิต

แผนการจัดการเรียนรู้

สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาฯ รายวชิ า พระพทุ ธศาสนา5 รหัสวิชา ส23103 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาทีม่ ีต่อสังคมโลก จำนวน 1 ชัว่ โมง

แผนการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะทช่ี ว่ ยสร้างสรรค์อารยธรรม

และความสงบสุขใหแ้ ก่โลก จำนวน 1 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนา
ทตี่ นนับถือและศาสนาอนื่ มีศรัทธาท่ีถกู ตอ้ ง ยดึ ม่ัน และปฏิบัติตามหลกั ธรรม

เพ่ืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
ตัวชีว้ ัด
ส 1.1 ม.3/2 วิเคราะหค์ วามสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนับถือในฐานะที่ช่วยสรา้ งสรรค์อารย

ธรรม และความสงบสุขแกโ่ ลก
2. สาระสำคัญ

พระพุทธศาสนาช่วยสร้างสรรคอ์ ารยธรรม และความสงบสุขใหแ้ ก่โลก

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายความสำคญั ของพระพุทธศาสนา (K)
2. วเิ คราะหค์ วามสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะที่ชว่ ยสร้างสรรค์อารยธรรม

และความสงบสุขให้แกโ่ ลก (P)
3. เหน็ ความสำคญั ของการศึกษาความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะท่ชี ่วยสรา้ งสรรค์

อารยธรรมและความสงบสุขแก่โลก (A)
4. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ใฝ่เรยี นรู้
5. สมรรถนะสำคัญของนักเรยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร

2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
ชน้ิ งานเร่อื ง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะที่ช่วยสร้างสรรคอ์ ารยธรรมและความสงบสุขตอ่ สงั คมโลก
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ดว้ ยวธิ สี อนแบบบรรยาย (Lecture Method)

7.1 ขนั้ นำ
1. นักเรียนสังเกตภาพเก่ียวกับการทำบญุ ตักบาตร จากนน้ั ร่วมกนั สนทนา โดยการตอบคำถาม ดังน้ี

 บคุ คลในภาพกำลงั ทำอะไร (ทำบุญตกั บาตร)
 การทำบญุ ตกั บาตรมีความสำคัญต่อพระพทุ ธศาสนาอย่างไร
(ตัวอย่างคำตอบ เป็นการสืบทอดพระพทุ ธศาสนาใหค้ งอยูส่ บื ต่อไป และเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดี
งามแก่ชาวพทุ ธท่วั โลก)
 นกั เรยี นเคยปฏิบัตเิ หมอื นบคุ คลในภาพหรือไม่
(ตัวอยา่ งคำตอบ เคยปฏิบตั )ิ
 เมือ่ ปฏบิ ัติแล้วนกั เรียนรู้สกึ อย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ รู้สึกสบายใจ จติ ใจผอ่ งใส รู้จักเปน็ ผู้ให้ และมเี มตตา)
 นกั เรยี นคิดวา่ พระพุทธศาสนามีความสำคญั ตอ่ การสรา้ งสรรค์อารยธรรมและทำใหเ้ กดิ
ความสงบแก่สังคมโลกหรอื ไม่ อยา่ งไร
(ตัวอย่างคำตอบ มคี วามสำคัญและทำให้เกิดความสงบสุขโดยพระพุทธศาสนาเปน็ รากฐานสำคญั ที่ทำให้
เกดิ การสรา้ งสรรค์อารยธรรมและวัฒนธรรมตา่ ง ๆ เช่น ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม การสร้างวัดวาอาราม ซ่งึ เปน็
สถานทีป่ ระกอบพธิ กี รรมทางศาสนา และเปน็ ศูนยร์ วมจติ ใจของพทุ ธศาสนิกชน ทำให้มหี ลกั ธรรม
ในการดำเนนิ ชวี ติ ตง้ั อยู่บนความไม่ประมาท มสี ติ และส่งผลให้เกดิ ความสงบสขุ ในสงั คม)
2. นกั เรยี นศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกับความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะท่ีชว่ ยสร้างสรรค์อารย
ธรรมและความสงบสขุ ให้แกโ่ ลก จากหนังสอื เรยี นและแหล่งการเรียนรู้อ่ืน ๆ เพมิ่ เตมิ
7.2 ขน้ั สอน
1. นักเรียนร่วมกนั สังเกตภาพเกีย่ วกบั การสร้างสรรคอ์ ารยธรรมทกี่ ำหนดให้ แล้วตอบคำถาม
ดังตัวอย่าง

พระพุทธศาสนาชว่ ยสร้างสรรคอ์ ารยธรรมในภาพอย่างไร
เปน็ การสรา้ งสรรคศ์ าสนสถาน เพอ่ื ใช้เป็นสถานท่ีประกอบ
พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาทเ่ี กดิ จากความเชอื่ และความศรทั ธา
พุทธศาสนกิ ชน

อารยธรรมในภาพชว่ ยสร้างความสงบสุขไดอ้ ยา่ งไร
เป็นศูนย์รวมจิตใจของพทุ ธศาสนิกชนให้เกิดความรกั ความสามคั คี

พระพทุ ธศาสนาช่วยสร้างสรรคอ์ ารยธรรมในภาพอยา่ งไร
เปน็ การชว่ ยพฒั นาจิตใจให้เกิดความเขา้ ใจในหลักธรรมทาง
พระพทุ ธศาสนา เพื่อน้อมนำไปสู่การปฏิบตั ติ นในสังคม

อารยธรรมในภาพช่วยสรา้ งความสงบสขุ ไดอ้ ย่างไร
เม่อื ทกุ คนมีหลกั ธรรมในการดำเนนิ ชีวิต กจ็ ะใช้ชีวติ ต้งั อยู่บนความ
ไมป่ ระมาท มีสติ รูส้ กึ เกรงกลวั ตอ่ บาป

2. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพ่ิมคณุ คา่ แลว้ สรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้

 นักเรียนจะมีแนวทางในการชว่ ยสร้างความสงบสุขใหเ้ กิดข้ึนแกโ่ ลกของเราไดอ้ ย่างไร

(ตวั อยา่ งคำตอบ ให้เกยี รติและเคารพผู้อน่ื มีสติในการดำเนินชีวิต น้อมนำหลกั ธรรมคำสอนของ

พระพุทธศาสนามาใช้เป็นแนวทางในการดำเนนิ ชวี ติ )

7.3 ขนั้ ฝกึ ฝน
1. นักเรียนวิเคราะหค์ วามสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะชว่ ยสรา้ งอารยธรรมและความสงบสุขและผลที่

เกิดขึน้ ต่อสงั คมโลกลงในช้ินงานเรอื่ ง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะทีช่ ่วยสรา้ งสรรคอ์ ารยธรรมและความ

สงบสขุ ตอ่ สงั คมโลก

2. นักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องและความเรียบรอ้ ยของชิ้นงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรับปรงุ แกไ้ ขให้

ถกู ต้อง

7.4 ขั้นสรปุ
1. นักเรียนร่วมกนั สรปุ สง่ิ ท่เี ขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดังน้ี

พระพทุ ธศาสนาช่วยสร้างสรรคอ์ ารยธรรม และความสงบสขุ ใหแ้ กโ่ ลก

8. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน พระพุทธศาสนา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

2. ภาพการน่งั สมาธิ ภาพวัด ภาพการสวดมนต/์ แผเ่ มตตา ภาพการทำบุญตักบาตร

3. แหล่งการเรียนรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน

9. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ ีการวัดและ เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

ประเมนิ ผล

ด้านความรู้ ประเมินความรู้ เรือ่ ง ความสำคัญ 4 = ดีมาก ถกู ต้อง 80%ขึน้ ไป
3 = ดี ถกู ต้อง 70-79%ขนึ้ ไป
ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะทีช่ ว่ ย
2 = พอใช้ ถกู ตอ้ ง 60-69%ขึน้ ไป
สร้างสรรค์อารยธรรมและความสงบ 1 = ปรบั ปรงุ ถกู ต้องตำ่ กว่า 60%ข้ึนไป

สขุ ใหแ้ ก่โลก (K) ด้วยแบบทดสอบ

ดา้ นทักษะ / ประเมนิ ชิน้ งาน เรื่อง ความสำคัญ 4 = ดีมาก หมายถงึ ปฏิบัตคิ ุณลกั ษณะน้นั ๆเดน่ ชัดมาก
กระบวนการ ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะทีช่ ่วย ทสี่ ุด
สรา้ งสรรค์อารยธรรมและความสงบ 3 = ดี หมายถึง ปฏบิ ัตคิ ุณลักษณะน้ันๆเด่นชัดทส่ี ุด
สุขตอ่ สังคมโลก (P) ด้วยแบบ
ประเมนิ 2 = พอใช้ หมายถงึ ปฏิบัติคุณลักษณะนั้นๆปานกลาง
1 = ปรับปรงุ หมายถึง ปฏิบตั ิคณุ ลักษณะน้ันๆนอ้ ย

ด้านเจตคติ และ ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4 = ดมี าก หมายถึง ปฏิบัติคุณลักษณะนน้ั ๆเดน่ ชัดมาก
คุณลกั ษณะ ดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝเ่ รยี นรู้ ท่ีสุด
(A) ดว้ ยแบบประเมิน 3 = ดี หมายถึง ปฏบิ ัตคิ ุณลักษณะน้นั ๆเด่นชดั ทสี่ ุด

2 = พอใช้ หมายถึง ปฏิบัติคุณลักษณะนั้นๆปานกลาง
1 = ปรบั ปรงุ หมายถึง ปฏบิ ตั ิคณุ ลกั ษณะน้ันๆนอ้ ย

ช้ินงานเร่ือง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะท่ีชว่ ยสร้างสรรค์อารยธรรมและความสงบสุขตอ่ สังคมโลก
นกั เรยี นวเิ คราะห์ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะที่ชว่ ยสร้างสรรค์อารยธรรมและความสงบสุข และผลที่

เกดิ ข้ึนต่อสงั คมโลกลงในแผนภาพความคิด แล้วตอบคำถาม คำตอบ)

ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา

ในฐานะทชี่ ่วยสรา้ งสรรคอ์ ารยธรรม ในฐานะทช่ี ว่ ยสร้างความสงบสขุ

(พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานในการสร้าง (พระพทุ ธศาสนามีหลกั ธรรมทใ่ี หพ้ ทุ ธศาสนิกชน
ศิลปวฒั นธรรมและเป็นแหลง่ ส่งั สมภูมิปัญญา นำไปปฏบิ ัตเิ พ่อื ขจัดความทกุ ข์ ความโลภ และ
ทำให้เกิดอารยธรรมสำคัญในโลก ซึง่ มี ตัณหาต่าง ๆ ลดความเกลยี ดชงั ร้จู ักใหอ้ ภัย
โบราณสถาน โบราณวตั ถุ สถาปัตยกรรม และใช้เหตผุ ลในการแก้ปัญหา จงึ นำไปสกู่ าร
ต่าง ๆ รวมถึงประเพณี ความเช่ือต่าง ๆ ลดความขัดแยง้ ทำให้เกิดสันตภิ าพและ
ท่มี บี อ่ เกิดจากพระพุทธศาสนาและสืบทอด ประพฤติตนเปน็ คนดตี ามหลกั คำสอนทาง
มาเป็นสว่ นหนึง่ ของวถิ ชี วี ิตของคนในปจั จุบนั ) พระพุทธศาสนา)

ผลที่เกิดต่อสงั คมโลก

(ทำให้มนุษยใ์ นสังคมโลก ไม่วา่ จะเชือ้ ชาติใด หรอื นบั ถือศาสนาใดก็ตามสามารถอย่รู ่วมกนั
ได้อย่างสงบสุข

 นักเรยี นจะมสี ่วนรว่ มในการสบื ทอดศาสนาท่ีตนเองนบั ถอื ให้คงอยสู่ บื ตอ่ ไปได้อย่างไร
(นำหลกั ธรรมคำสอนมาปฏิบัติ เข้าร่วมในศาสนพิธีและปฏิบตั ิตนอย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม)

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้

1. สรุปผลการเรียนรู้

1.1 ความรู้ (K : Knowledge)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.2 ทักษะ / กระบวนการ (P: Process)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

1.3 คณุ ธรรม จริยธรรม (A: Attitude)
………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ปัญหา อุปสรรคและข้อคน้ พบ

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………….………………………………………………………………………

3. ขอ้ เสนอแนะ แนวทางแก้ไข และผลการแกไ้ ข

………………………………………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

(ลงชอื่ )……………………………………..ผู้สอน
(นางสาวจริ าภา สำฤทธ์ิ)

วันท่ี …………..เดือน……………..พ.ศ……….….

(ลงชอื่ )………………………………………… (ลงช่อื )…………………………………………
(นายถาวร สุขนา) (ว่าทรี่ อ้ ยตรหี ญิงมทุ ิตา เอย่ี มทิพย์)
รองผูอ้ ำนวยกาปฏบิ ัตริ าชการแทน
หวั หน้ากลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นหนองรีประชานิมิต

แผนการจดั การเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาฯ รายวิชา พระพทุ ธศาสนา5 รหสั วิชา ส23103 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรื่อง สมั มนาพระพุทธศาสนากบั เศรษฐกิจพอเพยี ง จำนวน 1 ช่ัวโมง
แผนการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง พระพุทธศาสนากับปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการพฒั นาอย่างยั่งยืน

จำนวน 1 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนา
ที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาท่ีถกู ต้อง ยดึ ม่ัน และปฏิบัติตามหลักธรรม
เพื่ออยรู่ ่วมกนั อย่างสันติสุข
ตัวชว้ี ัด
ส 1.1 ม.3/3 อภิปรายความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถอื กบั ปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี งและการพฒั นาอย่างยง่ั ยนื

2. สาระสำคัญ
พระพุทธศาสนากบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งนั้นมคี วามสอดคลอ้ งกันในแง่การสามารถนำไปปฏิบัติในการ

ดำเนนิ ชีวติ ทัง้ ของตนเอง ครอบครวั สงั คม และประเทศ เพอื่ ให้มีความสงบสุขและเกดิ การพฒั นาอย่างยัง่ ยืน โดยนำ
หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใหเ้ หมาะสมกับสภาวการณป์ ัจจุบนั
3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายเกี่ยวกบั พระพทุ ธศาสนากบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและการพัฒนาอย่างยง่ั ยืน (K)
2. วเิ คราะห์และนำเสนอแนวทางการปฏบิ ัตใิ นการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปปรบั ใช้

ในการดำเนินชวี ิตตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเกดิ การพัฒนาอยา่ งย่ังยนื (P)
3. เหน็ ความสำคญั ของพระพุทธศาสนากบั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือใหเ้ กิดการพัฒนาอย่างยง่ั ยืน (A)
4. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ใฝ่เรียนรู้
5. สมรรถนะสำคญั ของนักเรียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
6. ช้ินงาน/ภาระงาน ชิน้ งานเร่อื ง พระพทุ ธศาสนากบั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ด้วยวิธสี อนแบบ CIPPA MODEL

7.1 ขั้นนำ
1. นักเรยี นสังเกตแผนภาพความคดิ เกยี่ วกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากนนั้ รว่ มกนั สนทนา โดย

การตอบคำถาม ดงั นี้

พอประมาณ

มเี หตผุ ล มีภูมิคมุ้ กัน
ในตวั ท่ีดี

เงือ่ นไขความรู้ เงือ่ นไขคุณธรรม
(รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ) (ซอื่ สตั ย์ สุจริต ขยนั อดทน

สตปิ ัญญา แบง่ ปนั )

นำสู่

ชีวิต/เศรษฐกจิ /สงั คม/ส่งิ แวดลอ้ มสมดุล/ม่ันคง/ยงั่ ยนื

 แผนภาพน้คี ืออะไร
(หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง)
 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งคอื อะไร
(ตัวอยา่ งคำตอบ เป็นแนวคิดซ่ึงเปน็ ไปตามหลักทางสายกลางไม่มากไม่น้อยเกินไป
และไม่มคี วามโลภจนเบียดเบยี นผู้อืน่ และสิ่งแวดล้อมโดยคำว่า พอเพียง ตอ้ งมคี วามพอประมาณ มีเหตุผล
มีความคุม้ กันในตัวที่ดีภายใต้เง่ือนไขของการตดั สินใจและการดำเนินกิจกรรมที่ตอ้ งอาศัยเงอ่ื นไขความรู้
และเงือ่ นไขคุณธรรม)
 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสอนนักเรยี นในเรือ่ งใด
(ตวั อย่างคำตอบ การรูจ้ กั พ่ึงตนเองเปน็ หลัก)
 นักเรยี นคดิ วา่ เศรษฐกิจพอเพยี งสอดคล้องกบั หลกั ธรรมคำสอนใดในพระพทุ ธศาสนา
(อตั ตา หิ อตั ตโน นาโถ ตนแลเปน็ ที่พ่งึ แหง่ ตน ซ่ึงจะสอนใหพ้ ทุ ธศาสนิกชนรู้จักการพง่ึ ตนเอง)
2. นักเรยี นศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกบั พระพทุ ธศาสนากับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและการ
พัฒนาอย่างยง่ั ยืน จากหนังสอื เรียนและแหล่งการเรียนรูอ้ ืน่ ๆ เพม่ิ เตมิ

7.2 ขั้นสอน
1. นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละสรุปแนวคิดพ้นื ฐานเกย่ี วกบั เศรษฐกิจพอเพียงกับการพฒั นาอย่างยง่ั ยนื บน

พ้นื ฐานความเปน็ จริง โดยบนั ทกึ คำตอบของนกั เรียนเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตัวอยา่ ง

เศรษฐกจิ พอเพียงกบั การพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื
บนพืน้ ฐานความเปน็ จรงิ

ประการท่ีหนง่ึ สำนกึ ความเป็นชมุ ชนและสังคม หมายความวา่ ประเทศชาตมิ ีคุณคา่
และความหมายเป็นหน่วยชีวิต สังคม และการดำรงอยู่ของมวลมนุษย์
ทุกระดับตั้งแตร่ ะดบั ครอบครวั สังคม ประเทศชาติ และระดบั โลก

ประการทีส่ อง ความประสานกลมกลนื ของเสรภี าพกับความเป็นธรรมทางสังคม
ประการที่สาม หมายความว่า จะต้องประสานหลกั ปฏบิ ัติเสรภี าพและประสทิ ธภิ าพ
ของกลไกเศรษฐกจิ ให้สอดคล้องต่อเกณฑ์คุณค่าและการดำรงอยขู่ องชวี ติ
สังคมทเี่ ปน็ อิสระเสรมี ีศักยภาพและเป็นธรรม

คณุ ค่าศักยภาพพฒั นาตนเองของคนเรา หมายความวา่ เราจะไมย่ ดึ
ระบบมากเกนิ ไป แต่ยึดถือคนกบั คุณค่าชีวิตและสังคมเป็นทีพ่ ง่ึ พงิ
ระบบเศรษฐกิจ

หลักการทง้ั สามนมี้ คี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงเป็นอนั หนึง่ อันเดียวกัน
ประกอบเปน็ วถิ ชี วี ิตอันเทย่ี งธรรมตามหลักพระพทุ ธศาสนา ซงึ่ เรียกวา่
“วถิ แี ห่งกรรม” นัน้ คือการเสริมสรา้ งปลูกฝงั วฒั นธรรมและวถิ ีการเรยี นรู้ท่ี
“รจู้ กั พอ” ตามแนวของพระพทุ ธศาสนา

2. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั เศรษฐกิจเชิงพทุ ธกบั การพฒั นาทย่ี ่งั ยืน
โดยการตอบคำถาม ดงั นี้

 พระพุทธเจา้ ได้สอนหลกั ธรรมเกย่ี วกบั การพัฒนาเศรษฐกจิ อยา่ งยง่ั ยนื หรอื เศรษฐกจิ เชิงพุทธตาม
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอย่างไร

(ตวั อยา่ งคำตอบ อัตตา หิ อัตตโนนาโถ (ตนแลเป็นทพ่ี ง่ึ แหง่ ตน))
 เศรษฐกจิ เชงิ พทุ ธกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง มคี วามสอดคล้องกนั อย่างไร

โดยบนั ทึกคำตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตัวอย่าง

ทิฏฐธัมมิกัตถะ เป็นขอ้ ปฏิบัตทิ ี่ทำใหเ้ กดิ ความมนั่ คงทางเศรษฐกิจ
ทำให้มีทรัพยส์ ินเงนิ ทอง พงึ่ ตนเองได้ หรอื เรยี กวา่
หวั ใจเศรษฐี

โภควิภาค 4 เปน็ วธิ กี ารจดั สรรทรัพย์ในการใชจ้ า่ ยใหเ้ กดิ ประโยชน์
มากท่ีสุด

โภคอาทยิ ะ 5 เป็นการนำทรัพยส์ ินมาใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินชวี ิต

หลกั ธรรมเกยี่ วกบั กามโภคีหรือคน เปน็ การแยกประเภทคนครองเรือนตามลักษณะเด่น
การพัฒนาอยา่ งยง่ั ยนื ครองเรือน 10 มี 10 ประเภท
สุขของคฤหัสถ์ 4
ตามปรชั ญาของ เปน็ หลกั ธรรมของคนครองเรอื น เพื่อใหเ้ กดิ ความสขุ
เศรษฐกจิ พอเพียง อัตตา หิ
อตั ตโนนาโถ เป็นพทุ ธศาสนสภุ าษิตทีม่ ุง่ เน้นให้พึง่ ตนเองในลักษณะ
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
หลกั สนั โดษ
เป็นความพอใจหรือความยินดีในส่ิงที่ตนเองมีอยู่
หลกั สปั ปุริสธรรม 7 หลักการนี้มงุ่ ให้บุคคลพงึ พอใจในส่งิ ของหรือทรัพยส์ นิ
ทีต่ นเองไดม้ าและใชจ้ ่ายในสง่ิ ทก่ี ่อให้เกิดประโยชน์

โดยเฉพาะในหลักของมัตตญั ญตุ า คอื ร้จู กั ประมาณ
ในการบริโภค การรู้จกั ประมาณในการใช้จ่ายทรพั ย์

มชั ฌิมาปฏิปทา เป็นการรู้จักการดำเนินชวี ิตใหเ้ กดิ ความพอดีเปน็ แนวทาง
ของการแกป้ ญั หาทุกขท์ ่เี รยี กว่าอริยมรรคมีองค์ 8
โดยมงุ่ เนน้ ใหม้ คี วามสุขกายและสุขใจไปด้วย

 เศรษฐกิจเชิงพุทธกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง

มุ่งเน้นความเปน็ เศรษฐกจิ เชิงจริยธรรม เพ่อื ยกระดบั
คณุ ภาพชีวติ ของมนุษย์

ม่งุ เนน้ คณุ ภาพชีวิตและคุณค่าของมนุษย์ เศรษฐกจิ เชิงพุทธ มุ่งเน้นความเป็นเศรษฐกิจแบบ
เบื้องต้นเพื่อนำไปสูเ่ ปา้ หมายสงู สุด คอื กบั เศรษฐกจิ พอเพียง องค์รวม คอื ตอ้ งการพัฒนา
นพิ พาน คุณภาพชีวติ ของมนุษยท์ ุกระดับ
โดยมีคุณธรรมจริยธรรม
มุง่ เน้นการเป็นระบบเศรษฐกิจมัชฌิมา
ทมี่ สี ัมมาอาชวี ะทเ่ี ป็นหวั ใจสำคญั ม่งุ เน้นคุณภาพชีวิตของสรรพสตั ว์
ซึง่ หมายถงึ ทง้ั มนษุ ยแ์ ละสตั ว์
มงุ่ เน้นการไม่ใชเ้ ปน็ เศรษฐกจิ
ระบบปดิ และในขณะเดียวกันก็
ไม่ใช้เป็นเศรษฐกิจแบบทุนนยิ ม
และบริโภคนยิ ม

3. นักเรียนแบ่งกลมุ่ ยกตวั อย่างการปฏบิ ัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมา 1 ตัวอยา่ งแล้ว
วเิ คราะห์ว่าเหตกุ ารณ์ดังกลา่ วสอดคลอ้ งกบั หลักธรรมใดทางพระพทุ ธศาสนา แล้วสรปุ ผลทเ่ี กดิ ข้ึน
โดยใช้แผนภาพความคิดในการนำเสนอขอ้ มลู ดังตัวอยา่ ง

การปฏิบตั ิตนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ไมใ่ ช้จา่ ยเงินเกินตัวและไมก่ ูห้ นย้ี มื สินของผอู้ ื่น

สอดคล้องกบั หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา

หลกั มชั ฌิมาปฏปิ ทา คอื การเดนิ ทางสายกลาง ปฏิบัตติ น
ดว้ ยความพอดี พอประมาณ ไม่ฟุ่มเฟอื ย

ผลทเี่ กดิ ขน้ึ
ทำใหไ้ ม่เปน็ หนแ้ี ละดำเนนิ ชวี ิตอย่างมคี วามสุข

4. นักเรียนคดิ ประเมนิ เพือ่ เพ่มิ คุณค่า แลว้ สรปุ เปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี
 นกั เรยี นจะนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปปฏิบัติในการดำเนนิ ชวี ิตอยา่ งไร และยดึ หลักธรรม

ใดในการดำเนนิ ชวี ติ ให้สอดคลอ้ งกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
(ตัวอยา่ งคำตอบ รจู้ กั พึง่ ตนเองเป็นหลัก โดยทำเกษตรกรรมแบบพอเพยี ง พร้อมนำหลกั มชั ฌมิ าปฏปิ ทา มาใช้

เป็นแนวทางในการดำเนินชีวติ ดว้ ย เพ่อื ให้ตนเองและครอบครวั มคี วามสุข)
7.3 ขน้ั ฝึกฝน

1. นักเรยี นเลือกหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาและเสนอวธิ ีการปฏิบตั ติ นตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง 2 หลักธรรม วเิ คราะห์ผลทไ่ี ดจ้ ากการปฏบิ ตั ิลงในชิ้นงาน เรอ่ื ง พระพทุ ธศาสนา
กับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

2. นักเรียนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความเรยี บรอ้ ยของชิน้ งาน หากพบข้อผิดพลาดควรปรับปรงุ แกไ้ ขให้
ถูกต้อง
7.4 ขัน้ สรุป

1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ทเ่ี ข้าใจเป็นความร้รู ่วมกนั ดังน้ี
พระพทุ ธศาสนากับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งนน้ั มีความสอดคลอ้ งกันในแง่การสามารถนำไปปฏิบตั ิใน

การดำเนนิ ชวี ิตทัง้ ของตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศ เพ่ือใหม้ ีความสงบสุขและเกดิ การพฒั นาอยา่ งยั่งยนื
โดยนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ช้
ใหเ้ หมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจบุ ัน
8. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน พระพุทธศาสนา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. แผนภาพความคิดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
3. แหล่งการเรียนรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น


Click to View FlipBook Version