The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

4-แผน-2-โครงสร้างของไต (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by benzalove147, 2022-05-07 08:02:45

4-แผน-2-โครงสร้างของไต (1)

4-แผน-2-โครงสร้างของไต (1)

1

แผนการจัดการเรยี นรู้

รหสั วิชา ว30244 รายวชิ า ชวี วิทยา 4 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ระบบขับถ่าย เวลา 2 คาบ
ผสู้ อน นางสาวจฬุ าลกั ษณ์ ปานเกตุ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง โครงสร้างของไต

ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

1. มาตรฐานการเรียนรู้

สาระชีววทิ ยา
เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ การหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสาร

และการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การ
สืบพันธุ์และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

2. ผลการเรยี นรู้

ข้อ 19 อธบิ ายโครงสร้างและหน้าทข่ี องไต และโครงสรา้ งทใี่ ชล้ ําเลยี งปสั สาวะออกจากร่างกาย
ขอ้ 20 อธิบายกลไกการทำงานของหน่วยไต ในการกําจัดของเสียออกจากร่างกาย และเขียนแผนผัง
สรปุ ขน้ั ตอนการกาํ จดั ของเสีย ออกจากร่างกายโดยหนว่ ยไต

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 โครงสร้างของไต และหน่วยไต

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้ (Knowledge) นักเรยี นสามารถ:
1) อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของไต และโครงสรา้ งท่ีใช้ลําเลยี งปสั สาวะออกจากร่างกาย
2) อธบิ ายกลไกการทำงานของหนว่ ยไตในการกําจดั ของเสียออกจากร่างกาย

4.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process/Products) นักเรียนสามารถ:
เขียนแผนผงั สรุปขั้นตอนการกําจดั ของเสยี ออกจากรา่ งกายโดยหน่วยไต

2

4.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude) สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียน:
1) มวี ินัย (นกั เรยี นเข้าเรียนตรงเวลาและปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บ)
2) ใฝ่เรยี นรู้ (นกั เรียนใหค้ วามร่วมมือในการทำกจิ กรรม)
3) ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต (นักเรยี นบนั ทกึ ผลการทดลองตามความเป็นจริง)

5. สมรรถนะนกั เรียน

5.1 ดา้ นการส่ือสาร (นักเรียนอธิบายโครงสร้างท่ีใช้ในการขับถ่ายของสตั ว์)
5.2 ด้านการแก้ปญั หา (นักเรยี นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได)้
5.3 ดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยี (นกั เรียนสืบค้นข้อมลู ได)้

6. สาระสำคญั

มนุษย์มีการขับถ่ายของเสียที่เกิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึมของร่างกายทั่วในรูปของปัสสาวะ
อุจจาระ เหงื่อ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งของเสียแต่ละชนิดจะถูกขับถ่ายผ่านทางอวัยวะที่แตกต่างกัน
โดยไตเป็นอวัยวะหลักในการขับถ่ายของเสียในรูปปัสสาวะ และยังทำหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำและแร่ธาตุใน
ร่างกายอีกดว้ ย

7. รูปแบบวธิ กี ารจัดประสบการเรียนรู้

การจดั การเรียนรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ (5E)

8. ลำดับขนั้ การจดั ประสบการณเ์ รียนรู้

คาบที่ 1

ข้ันที่ 1 ข้นั สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1.1 ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยกล่าวถึงการกำจัดของเสียของมนุษย์ ซึ่งของเสียต่าง ๆ ถูกกำจัด

ออกในรปู แบบทีแ่ ตกตา่ งกนั ดงั นี้
- การกำจัดของเสียในรูปอุจจาระเป็นการกำจัดของเสียที่เกิดจากกระบวนการย่อย

อาหารออกจากรา่ งกายทางทวารหนัก
- การกำจัดของเสียในรูปแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์เปน็ ของเสียที่เกิดจากกระบวนการเม

แทบอลซิ ึม (Metabolism) ของร่างกาย ถูกนำมากำจดั ออกทางการหายใจออก
- การกำจัดของเสียในรูปเหงื่อเป็นการกำจัดน้ำ แร่ธาตุ ยูเรีย และกรดยูริกออกจาก

ร่างกายทางผิวหนงั
- การกำจัดของเสียในรูปน้ำปัสสาวะเป็นการกำจัดน้ำ แร่ธาตุ ยูเรีย และกรดยูริกออก

จากรา่ งกายทางทอ่ ปัสสาวะ

3

1.2 ครูถามคำถามเพอื่ ทบทวนความรเู้ ดิมกับนกั เรยี น โดยมีแนวคำถาม ดังน้ี
- อวยั วะขบั ถา่ ยของเสียของมนษุ ยค์ ืออวัยวะใด

(แนวตอบ: อวัยวะขับถ่ายของเสียของมนุษย์มีหลายอวัยวะ ได้แก่ ไตกำจัดของเสียในรูปน้ำปัสสาวะ ผิวหนัง
กำจัดของเสียในรูปเหงื่อ ปอดกำจัดของเสียในรูปแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และอวัยวะในระบบย่อยอาหาร
กำจัดของเสียในรปู อุจจาระ)

ขน้ั ท่ี 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration)
2.1 ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า “มนุษย์มีไต (Kidney) เป็นอวัยวะหลักในการขับถ่ายของเสีย

ในรูปน้ำปัสสาวะ ซึ่งถูกลำเลียงผ่านกรวยไต (Renal pelvis) ท่อไต (Ureter) ไปเก็บยังกระเพาะปัสสาวะ
(Urinary bladder) เพอื่ กำจดั ออกจากรา่ งกายผ่านทางท่อปสั สาวะ”

2.2 ครใู ห้นกั เรียนศกึ ษาไตและอวยั วะในการขบั ถา่ ยปัสสาวะ จากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ เช่น
อนิ เทอร์เน็ตหรือหนังสอื เรียน

2.3 นักเรยี นบันทกึ ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการสืบค้นลงในใบกจิ กรรม เรอ่ื ง ระบบขับถ่ายของมนษุ ย์

อวัยวะในระบบขับถา่ ยปัสสาวะของเพศชายและเพศหญิง

คาบท่ี 2
ข้ันที่ 3 ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
3.1 ครถู ามคำถามนกั เรยี น โดยมแี นวคำถามดังนี้
- ไต (Kidney) มีลักษณะอยา่ งไร (แนวตอบ: ไต (Kidney) มี 2 ข้าง ลักษณะคลา้ ยเมล็ด

ถ่ัว โครงสรา้ งภายในแบ่งออกเปน็ 2 ช้ัน ได้แก่ คอรเ์ ทกซ์ (Cortex) เป็นส่วนของเน้ือไตสว่ นนอก และเมดัลลา
(Medulla) เป็นสว่ นของเน้ือไตส่วนใน)

- หน่วยไต (Nephron) พบอยู่ที่ส่วนใดของเนื้อไต (แนวตอบ: โครงสร้างของหน่วยไต
(Nephron) ประกอบด้วยโกลเมอรูลัส (Glomerulus) โบว์แมนแคปซูล (Bowman’s capsule) ท่อหน่วยไต

4

(Convoluted tubule) (ท่อขดส่วนต้น (Proximal convoluted tubule)) ห่วงเฮนเล ท่อขดส่วนปลาย

(Distal convoluted tubule) และท่อรวม (Collecting duct) ซึ่งโครงสรา้ งของหน่วยไตแต่ละส่วนพบในช้ัน

เนื้อไตแตกต่างกัน โกลเมอรูลัส โบว์แมนส์แคปซูล ท่อขดส่วนต้น และท่อขดส่วนปลายพบในเนื้อไตชั้นคอร์

เทกซ์ (Cortex) ส่วนห่วงเฮนเลและท่อรวมพบในเน้อื ไตชนั้ เมดลั ลา (Medulla))

3.3 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับไตและอวัยวะในระบบขับถ่ายปัสสาวะ โดยมี

ประเด็นดังนี้ “ไต (Kidney) เป็นอวัยวะสำคัญในระบบขับถ่ายปัสสาวะ ลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว โครงสร้าง

ภายในแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ได้แก่ คอร์เทกซ์ (Cortex) และเมดัลลา (Medulla) ภายในมีหน่วยไต (Nephron)

ทำหน้าทก่ี รองของเสียออกจากเลอื ด อวยั วะในระบบขบั ถ่ายปสั สาวะยัง ประกอบด้วยกรวยไต (Renal pelvis)

ทำหนา้ ทพ่ี ักนำ้ ปัสสาวะที่มาจากไต ท่อไต (Urethra) ทำหนา้ ทล่ี ำเลยี งนำ้ ปัสสาวะไปยงั กระเพาะปสั สาวะ และ

กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder) ทำหน้าที่เก็บปัสสาวะก่อนกำจัดออดจากร่างกายทางท่อปัสสาวะ

(Urethra)”

ขัน้ ที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)

4.1. ครูให้นักเรียนพิจารณา ข้อสอบ 9 วิชาสามัญ ชีววิทยา และลองช่วยกันหาคำตอบว่า

ของเหลวแตล่ ะชนดิ จะมาจากสว่ นใดของหนว่ ยไต

สารท่พี บ ของเหลว ก ของเหลว ข ของเหลว ค

ความเขม้ ข้นของสาร (g/100 mL)

โปรตนี 8.01 0 0.01

กลโู คส 0.10 0 0.10

ยเู รีย 0.3 2.0 0.03

จากตาราง ของเหลว ก ข และ ค ได้มาจากส่วนใดของไต

1. Glomerulus 2. Distal tubule 3. Henle’s loop

4. Collecting duct 5. Bowman’s capsule

4.2 ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายคำตอบรว่ มกนั

ข้นั ที่ 5 ขนั้ ประเมินผล (Evaluation)
5.1 ใหน้ ักเรยี นแต่ละคนพิจารณาในเรื่องท่เี รยี นว่ายังมีเร่ืองใดที่ไมเ่ ขา้ ใจหรือมขี ้อสงสัย ให้ครู

อธิบายเพม่ิ ใหน้ ักเรียน
5.2 ให้นักเรียนแต่ละคนพดู ถึงสิง่ ที่ตนเองไดเ้ รียนรู้ในคาบเรียนนี้ หรือครูทดสอบความเขา้ ใจ

ของนกั เรียนโดยใชค้ ำถาม เช่น

9. สอื่ / แหล่งการเรียนรู้

9.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวชิ าเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ ชวี วิทยา เลม่ 4 สสวท.
2) ใบกจิ กรรม เรอื่ ง การขบั ถ่ายของมนษุ ย์

5

3) PowerPoint เรื่อง การขับถ่ายของมนษุ ย์
9.2 แหลง่ การเรียนรู้

1) อินเทอร์เน็ต เวบ็ ไซต์ Google search
2) ห้องเรยี น และ Google Classroom

10. ช้นิ งาน/ภาระงาน

10.1 ใบกจิ กรรม เรื่อง การขบั ถา่ ยของมนษุ ย์

11. การวัดและประเมนิ ผล

11.1 กรอบการวัดและประเมินผล ดังตาราง

จดุ ประสงค์การ ประเดน็ การวดั วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การวัด

เรียนรู้ - เกณฑก์ าร ผา่ นเกณฑ์
ประเมินความรู้ 70 %
1) อธิบายโครงสรา้ ง อธิบายโครงสร้างและการ - ตรวจใบ
- แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์
และหน้าท่ีของไต ทำงานของไตและหน่วย กิจกรรม หลังเรยี น 70 %

และโครงสรา้ งท่ีใช้ ไต และการตอบ

ลาํ เลียงปสั สาวะออก คำถาม

จากร่างกาย (K) ความรเู้ ร่อื ง การขบั ถ่าย ทดสอบ

2) อธิบายกลไกการ ของมนุษย์

ทำงานของหนว่ ยไต

ในการกาํ จดั ของเสีย

ออกจากร่างกาย

(K)

1) เขียนแผนผังสรุป - ทักษะการจดั กระทำและ - ตรวจใบ - เกณฑก์ าร ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ทักษะ 70 %
ขั้นตอนการกําจัดของ สื่อความหมายข้อมลู กจิ กรรม

เสียออกจากร่างกาย

โดยหน่วยไต (P)

1. มีวนิ ยั (A) ความมวี ินัย สังเกต - เกณฑ์การ ผา่ นเกณฑ์
70 %
2. มีใฝ่เรียนรู้ (A) ความใฝเ่ รยี นรู้ ประเมนิ
คณุ ลักษณะอนั พงึ
3. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ (A) ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ประสงค์

6

11.2 แบบประเมินผลและเกณฑก์ ารประเมิน

เกณฑ์การประเมนิ ความรู้

ประเดน็ การประเมิน พฤตกิ รรมบงช้ี คะแนน
1. อธิบายโครงสรา้ งและการ 1) ความถูกตอ้ งของโครงสร้างการแลกเปลยี่ นแก๊ส 2
ทำงานของไตและหนว่ ยไต 2) ระบุหนา้ โครงสรา้ งในการแลกเปลี่ยนแก๊สของส่งิ มชี ีวิตแตล่ ะชนิด 2
3) กลา้ แสดงความคดิ เหน็ หรือพูดอธิบาย 1
2. ความร้เู ร่ือง การขับถ่ายของ 4) ความถกู ต้องของการตอบคำถาม 5
มนษุ ย์ ผลการทดสอบหลงั เรยี น
10 คะแนน
รวมคะแนนด้านความรู้ (non-test)

เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะ

ประเดน็ การประเมิน พฤตกิ รรมบงชี้ คะแนน

1. ทักษะการจัดกระทำและส่ือ 1) จดั กระทำขอ้ มลู ถกู ต้องตามวิธกี ารทกี่ ำหนด 2
5
ความหมายขอ้ มลู 2) จดั กระทำข้อมลู ตรงตามวิธีการที่กำหนดครบทกุ ตัว 3

3) สอื่ ความหมายขอ้ มูลทจ่ี ัดกระทำแลว้ ถูกต้องตามรปู แบบท่อี อกแบบ 10 คะแนน

รวมคะแนนด้านทักษะ

เกณฑ์การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

ประเด็นการประเมนิ พฤตกิ รรมบงช้ี คะแนน
1. ความมีวนิ ัย
1) ปฏิบตั ติ นข้อตกลงในช้นั เรียน 1
2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2) เข้าเรียนตรงเวลา 1

3. ซ่อื สัตย์สุจริต 1) รู้หนา้ ท่ี และปฏิบตั ิตามหนา้ ทีท่ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 1
2) ตรงเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ และการสง่ งาน 1

บนั ทกึ ผลการทดลองตามความเปน็ จรงิ 1

รวมคะแนนดา้ นทกั ษะ 5 คะแนน

7

11.3 เกณฑ์กำหนดระดับมาตรฐานผลการเรียนรู้ กำหนดเกณฑ์แบบแยกเป็นรายด้านคือ ด้าน
ความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แต่ละด้านกำหนดระดับมาตรฐานผลการ
เรียนร้เู ป็น 4 ระดบั คอื ระดบั ดีมาก ระดบั ดี ระดับพอใช้ และระดับต้องปรับปรุง แต่ละระดบั มาตรฐานกำหนด
เกณฑก์ ารประเมินจากคะแนนเตม็ ดังน้ี

มีคะแนนรบู รคิ อยา่ งนอ้ ยร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรียนรู้ท่ีระดบั ดมี าก
มีคะแนนรูบริครอ้ ยละ 70-79 ของคะแนนเตม็ มมี าตรฐานผลการเรยี นรู้ทร่ี ะดับ ดี
มคี ะแนนรบู รคิ รอ้ ยละ 60-69 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรยี นรู้ทรี่ ะดับ พอใช้
มีคะแนนรูบริคน้อยกวา่ ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรยี นรทู้ ่ีระดับ ตอ้ งปรับปรุง

11.4 เกณฑ์ประเมินผลผ่านการเรียนรู้ ใช้เกณฑ์ประเมินแบบแยกเป็นรายด้านคือด้านความรู้ ด้าน
ทักษะกระบวนการ และดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แตล่ ะดา้ นกำหนดเกณฑป์ ระเมินผา่ นผลการเรียนรู้โดย
อิงระดับมาตรฐานผลการเรียนรู้ ดงั นี้

ระดับบุคคล นักเรียนต้องมีผลการเรียนรู้อย่างน้อยตั้งแต่ระดับ ดี ถือว่า ผ่านการประเมิน
(ประกันผลการเรียนรขู้ องนกั เรยี น)

ระดับชั้นเรียน มีจำนวนนักเรียนอย่างน้อยร้อยละ 70 ของจำนวนทั้งหมดมีผลการเรียนรู้อย่างน้อย
ต้งั แต่ระดบั มาตรฐาน ดี ถอื วา่ การจัดประสบการณ์เรียนรูบ้ รรลตุ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ที่กำหนดในแผนการ
จดั การเรียนรู้ (ประกนั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรขู้ องครู)

8

9

10

11

12

แบบบนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้

ฉนั สอนเปน็ อย่างไร (สะท้อนการสอนของคร)ู
นักเรียนได้ศึกษาหาความรู้จากการสืบค้นจากในอินเทอร์เน็ต หรือในหนังสือได้เองโดยที่ครูทำหน้าท่ี

นำเข้าสบู่ ทเรยี นโดยการทบทวนความรู้ เร่อื ง ระบบขบั ถา่ ยของสตั ว์ให้เพียงเล็กน้อย จากนัน้ ให้นักเรียนสืบค้น
เองตามในใบกิจกรรม จากนั้นใช้ใบกิจกรรมมาอภิปรายร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุป ขยายความรู้ด้วยการลองทำ
โจทย์ข้อสอบ 9 วิชาสามัญร่วมกัน ซึ่งเป็นข้อสอบที่สามารถทำให้นักเรียนเกิดทักษาะวิเคราะห์ได้ มากกว่า
แบบฝึกหัดในหนังสือเรียน เนื่องจากแบบฝึกหัดในหนังสือเรียนส่วนใหญถ่ ้าให้ทำ นักเรียนจะลอกหนังสือคู่มือ
มาส่ง ซึ่งไม่ได้ผ่านการคิดวิเคราะห์อะไร แต่การทำโจทย์ร่วมกันนี้จะทำให้นักเรียนเกิดการวิเคราะห์ และใช้
โจทยน์ ใี้ นการอภปิ รายตอ่ ยอดความรู้ และสรปุ ความรู้ท่เี ก่ียวข้องได้

จดุ เด่น
ข้อสอบ 9 วิชาสามัญที่นำมาให้นักเรียนลองทำทำให้นักเรียนเกิดทักษาะวิเคราะห์ได้มากกว่า

แบบฝึกหัดในหนังสือเรียน และนักเรียนเองก็ชอบ เนื่องจากได้ทำข้อสอบได้ทำโจทย์ใหม่ ได้วิเคราะห์ร่วมกับ
เพื่อน อีกทั้งนักเรียนบางคนที่มีเป้าหมายแล้วว่าจะเรียนอะไรต่อ นักเรียนจะทราบว่าต้องสอบอะไรบ้าง การ
ลองทำโจทย์ก็เปน็ ฝึกฝนไปในตวั

จดุ ทค่ี วรพัฒนา
-

แนวทางแกไ้ ขและพัฒนา
-

ลงชือ่ ผูบ้ ันทึก
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ปานเกตุ)

13

บันทกึ ความเหน็ ของผูต้ รวจสอบแผนการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ..............................................ผู้ตรวจ
(นางอาจารี คำสวุ รรณ)
ครูพ่ีเลี้ยง

บันทึกความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.........................................................ผูต้ รวจ
(นางพรรณปพร นนทธิ)

หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version