แผนการจัดการเรยี นรู้
วิชาการศกึ ษาอสิ ระ (IS1)
2ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี
จดั ทำโดย
นำงสำวเทียนกลั ยำภัค จนี สมุทร เลขที่ 10
รหัสนักศึกษำ 6321159001 สำขำกำรวดั ประเมนิ และวิจยั ทำงกำรศึกษำ
รายงาน
เรอ่ื ง แผนการจัดการเรียนรู้
รายวชิ าการศึกษาอสิ ระ (IS1)
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 รหัสวิชา I22201
สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
เสนอ
อาจารย์ ผศ.ดร.พัชรภี รณ์ บางเขยี ว
จัดทาโดย
นางสาวเทียนกัลยาภคั จนี สมทุ ร
รหัสนกั ศึกษา 6321159001 เลขท่ี 10 หมเู่ รียน D5
สาขาการวัดประเมินและวจิ ยั ทางการศึกษา ( คบ.4ปี) คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเด็จเจา้ พระยา
รายงานฉบับน้ีเปน็ ส่วนหนง่ึ ของการศกึ ษารายวชิ า วิทยาการจดั การเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 256
ก
คำนำ
รายงานฉบบั นเ้ี ปน็ ส่วนหน่งึ ของการศึกษารายวชิ า วิทยาการจดั การเรียนรู้ ซ่งึ เนอ้ื หา
ภายในแผนการจดั การเรียนรวู้ ชิ าการศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง1 ( IS1 ) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
จดั ขึ้นเพือ่ เป็นแนวทางในการจัดการเรยี นการสอนท่เี นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ ตามหลกั สูตรแกน
แกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐานพุทธศักราช 2551
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ล่มน้ี ประกอบไปด้วย แผนการจดั การเรยี นรู้รายปี และ
แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายหนว่ ย มีทง้ั หมด 2 หนว่ ย ไดแ้ ก่ หน่วยท่ี 1 จุดประกายความจรงิ
และหน่วยที่ 2 ทุกสิง่ ที่คน้ คว้า
ผ้จู ัดทาหวังวา่ รายงานเลม่ นจ้ี ะเปน็ ส่ิงทมี่ อบใหท้ ั้งความรู้ และวิธกี ารท่จี ะนาไป
ประยกุ ตใ์ ช้ได้ และเกดิ ประโยชนแ์ กผ่ ้ทู ศี่ กึ ษาและผอู้ า่ นทกุ ทา่ น หากมขิ อ้ ผดิ พลาดประการใด
ผู้จดั ทาน้อมรบั ทกุ คาตชิ มของผทู้ ่ีสนใจหรอื ผอู้ ่าน เพื่อนามาปรับปรุงในครง้ั ตอ่ ไป
เทยี นกัลยาภัค จีนสมทุ ร
1 ธนั วาคม 2565
สำรบญั ข
หน่วยที่ หน้ำ
คานา ก
สารบญั ข
แผนการจัดการเรียนรู้รายปี 1
คาอธิบายรายวิชา 5
โครงสร้างตารางแผนรายปี 6
แผนการจดั การเรยี นรู้ 1 8
แผนการจดั การเรียนรู้ 2 22
บรรณานกุ รม 33
1
แผนกำรจัดกำรเรียนรรู้ ำยปี
สำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ รำยวชิ ำ I22201 กำรศึกษำอิสระ
ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2565 เวลำ 40 ชวั่ โมง
ครูผสู้ อน นำงสำวเทียนกลั ยำภคั จีนสมทุ ร
1. มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั
ผลกำรเรียนรู้
1. ตงั้ ประเดน็ ปัญหา จากสถานการณ์ปัจจบุ นั และสังคมโลก
2. ตง้ั สมมติฐานและใหเ้ หตผุ ลทสี่ นับสนุนหรอื โตแ้ ย้งประเด็นความรโู้ ดยใชค้ วามรู้จากสาขาวชิ า
ตา่ ง ๆ และมที ฤษฎรี องรบั
3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
4. ศึกษา ค้นควา้ แสวงหาความรูเ้ กี่ยวกบั ประเดน็ ท่เี ลอื ก จากแหลง่ เรยี นรทู้ ่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ
5. ตรวจสอบความน่าเชอ่ื ถือของแหล่งท่ีมาของขอ้ มูล
6. วเิ คราะห์ข้อคน้ พบดว้ ยวธิ กี ารท่เี หมาะสม
7. สังเคราะหส์ รปุ องคค์ วามรู้ดว้ ยกระบวนการกลมุ่
8. เสนอแนวคดิ การแก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบด้วยองค์ความร้จู ากการคน้ พบแผนการทางานของ
นักเรยี น
2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
สำระที่ 1 จุดประกำยควำมจริง
1.1 ผู้เรียนสามารถบอกประเด็นปัญหาในเรื่องที่ตนสนใจโดยเริ่มจากตัวเอง เช่ือมโยงกับ
สถานการณป์ ัจจุบันและสังคมโลกไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (K)
1.2 ผู้เรียนสามามารถคัดเลือกประเด็นปัญหาในเร่ืองที่ตนสนใจโดยเริ่มจากตัวเอง เช่ือมโยง
สถานการณป์ ัจจุบนั และสังคมโลก (P)
1.3 ผู้เรียนเห็นคุณค่าในการต้ังประเด็นปัญหาในเรื่องที่ตนสนใจโดยเร่ิมจากตัวเอง เชื่อมโยง
เชื่อมโยงสถานการณ์ปัจจบุ นั และสงั คมโลก (A)
2.1 ผู้เรียนสามารถ ต้ังสมมติฐานโดยใช้ความรู้จากสาขาวิชาต่าง ๆ และมีทฤษฎีรองรับได้อย่าง
ถูกต้อง (K)
2.2 ผเู้ รียนสามารถใหเ้ หตผุ ลสนับสนุนท่มี าของสมมุติฐานโดยใชค้ วามรจู ากสาขาวชิ าตางๆ และมี
ทฤษฎีรองรับ (P)
2.3 ผ้เู รียนตระหนักถงึ ความสาคญั ในการต้ังสมมุตฐิ านและใหเหตุผล โดยใชความรจู ากสาขาวชิ าต
างๆ และมที ฤษฎรี องรับ (A)
2
3.1 ผู้เรยี นสามารถออกแบบ วางแผนใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อย่างมีประสิทธิภาพ (K)
3.2 ผเู้ รยี นสามารถนาเสนอกระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมีประสิทธภิ าพ (P)
3.3 ผู้เรียนตระหนักถึงความสาคัญออกแบบ วางแผนใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมี
ประสิทธภิ าพ (A)
สำระที่ 2 ทุกส่งิ ท่ีคน้ คว้ำ
1.1 ผู้เรยี นสามารถระบแุ หลง่ ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรูเ้ กย่ี วกบั ประเดน็ ที่เลอื กจากแหลง่ เรยี นรทู้ ม่ี ี
ประสทิ ธภิ าพ เชน หองสมดุ แหลงเรียนรู ทางออนไลน วารสาร การปฏบิ ตั ิ ทดลองไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (K)
1.2 ผู้เรียนสามารถศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เก่ียวกับประเด็นท่ีเลือกจากแหล่งเรียนรู้ท่ีมี
ประสิทธิภาพ เชน หองสมุด แหลงเรยี นรู ทางออนไลน วารสาร การปฏิบัติ ทดลอง (P)
1.3 ผู้เรียนเห็นความสาคัญในการศึกษาค้นคว้า แสวงหาความรู้เก่ียวกับประเดน็ ที่เลือกจากแหล่งเรียนรู้
ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ เชน หองสมดุ แหลงเรยี นรู ทางออนไลน วารสาร การปฏิบตั ิ ทดลอง (A)
2.1 ผ้เู รยี นสามารถตรวจสอบความนา่ เช่ือถือของแหล่งทม่ี าของข้อมลู อยางมีประสิทธภิ าพ (K)
2.2 ผู้เรยี นสามารถเลอื กตรวจสอบความนา่ เช่ือถอื ของแหลง่ ทีม่ าของขอ้ มูลได้อย่างเหมาะสม (P)
2.3 ผู้เรียนตระหนักถึงความสาคัญของตรวจสอบความนา่ เชื่อถือของแหล่งท่มี าของขอ้ มลู (A)
สำระที่ 3 ปรำรถนำคำตอบ
1.1 ผู้เรยี นสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถอื ของแหลง่ ท่ีมาของขอ้ มลู อยางมีประสทิ ธภิ าพ (K)
1.2 ผู้เรียนสามารถเลือกตรวจสอบความนา่ เชอ่ื ถือของแหล่งที่มาของข้อมูลได้อยา่ งเหมาะสม (P)
1.3 ผู้เรยี นตระหนกั ถงึ ความสาคัญของตรวจสอบความนา่ เชื่อถอื ของแหล่งที่มาของขอ้ มลู (A)
2.1 ผเู้ รยี นสามารถวเิ คราะห์ข้อคน้ พบด้วยสถิตทิ ่เี หมาะสมได้อย่างถกู ต้อง (K)
2.2 ผเู้ รียนสามารถแสดงการวิเคราะหข์ ้อคน้ พบด้วยสถติ ิทเี่ หมาะสม (P)
2.3 ผเู้ รยี นตะหนกั ถงึ ความสาคญั ของการวิเคราะหข์ อ้ คน้ พบดว้ ยสถติ ทิ ี่เหมาะสม (A)
สำระท่ี 4 สรปุ องคป์ ระกอบทสี่ มบูรณ์
1.1 ผู้เรยี นสามารถเสนอแนวคดิ สังเคราะหส์ รุปองคค์ วามรดู้ ้วยกระบวนการกลุ่มได้ (K)
1.2 ผเู้ รยี นสามารถเลอื กสงั เคราะห์สรปุ องค์ความรดู้ ้วยกระบวนการกล่มุ ไดอ้ ย่างเหมาะสม (P)
1.3 ผ้เู รยี นตระหนักถงึ ความสาคัญสงั เคราะห์สรปุ องค์ความรดู้ ว้ ยกระบวนการกลุ่ม (A)
2.1 ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์การแก้ ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
แผนการทางานของนกั เรยี นได้อย่างถกู ตอ้ ง (K)
2.2 ผู้เรียนสามารถเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
แผนการทางานของนักเรยี น (P)
3
2.3 ผู้เรียนตะหนักถึงความสาคัญของการการแก้ ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการ
ค้นพบแผนการทางานของนักเรยี น (A)
สำระสำคญั
การศึกษาอิสระ หรือการศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเองนับเป็นวธิ ีการที่มีประสิทธิภาพวธิ ีหนึ่ง
ที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในการพัฒนาผู้เรียน เพราะเป็นการเปิดโลกกว้างให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า
อย่างอิสระในเร่ืองหรือประเด็นท่ีตนสนใจ เริ่มตั้งแต่การกาหนดประเด็นปัญหา ซ่ึงอาจเป็นจะเป็น
ปัญหาของสาธารณะ ปัญหาระดับโลก และดาเนินการค้นคว้าแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลท่ี
หลากหลาย มีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ การอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น เพื่อนาไปสู่การสรุป
องค์ความรู้ จากนั้นก็หาวิธีการท่ีเหมาะสมในการส่ือสารนาเสนอให้ผู้อื่นได้รับทราบ และสามารถนา
ความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ ไปทาประโยชน์แกส่ าธารณะ
สำระกำรเรยี นรู้
สำระท่ี 1 จดุ ประกำยควำมจริง
- ที่มาของประเดน็ ปัญหา
- แนวทางการเลือกประเดน็
- ลกั ษณะของประเดน็ ปญั หาทดี่ ี
- รปู แบบการเขยี นประเดน็ ปัญหา
- การเขียนที่มาและความสาคญั ของปัญหา
- ประเภทของสมมตฐิ าน
- ท่ีมาของสมมติฐาน
- แนวทางการตง้ั สมมติฐาน
- ลักษณะของสมมติฐานทีด่ ี
- ออกแบบ วางแผนใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู
- ผ้เู รียนสามารถนาเสนอกระบวนการรวบรวมขอ้ มูล
4
สำระที่ 2 ทุกสง่ิ ที่ค้นควำ้
- ประเภทของขอ้ มูล
- ลักษณะของขอ้ มลู ท่ีดี
- ความสาคญั ของแหลง่ ขอ้ มลู
- ประเภทของแหลง่ ขอ้ มลู
- ลักษณะของแหล่งข้อมูลท่ีดี
- การออกแบบวางแผนเพอ่ื รวบรวมข้อมูล
- องค์ประกอบของการวางแผน
- ขั้นตอนการวางแผน
- ข้นั ตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล
สำระที่ 3 ปรำรถนำคำตอบ
- การตรวจสอบแหลง่ ที่มาของข้อมูลเบื้องต้น
- ลักษณะของแหลง่ ขอ้ มูลทเี่ ชื่อถือได้
- การทางานโดยใชก้ ระบวนการกลมุ่
- ขนั้ ตอนของกระบวนการกล่มุ
- แนวทางการทางานด้วยกระบวนการกลมุ่
สำระท่ี 4 สรุปองคป์ ระกอบทส่ี มบรู ณ์
- การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
- ขนั้ ตอนในการวิเคราะห์ขอ้ มูล
- ความสาคัญของการวิเคราะหข์ อ้ มูล
- การสรุปองคค์ วามรู้จากการศกึ ษาคน้ คว้า
- การอภิปรายผลและเปรยี บเทียบเชือ่ มโยงความรู
- กระบวนการแกไ้ ขปัญหา
- ลักษณะของการแก้ไขปัญหาอย่างเปน็ ระบบ
- แนวทางการแกไ้ ขปญั หาและการสร้างทางเลอื ก
รำยวชิ ำกำรศึกษำอสิ ระ คำอธิบำยรำยวชิ ำ 5
ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 2
รหสั วิชำ I22201 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ
ปกี ำรศึกษำ2565 จำนวน40ช่ัวโมง1 หน่วยกิต
ศกึ ษา วิเคราะห์ ตั้งประเดน็ /คาถามเกี่ยวกบั สถานการณป์ จั จบุ นั และสงั คมโลก การตั้งสมมตฐิ าน
การค้นคว้า การแสวงหาความรขู้ อ้ มูล การออกแบบ การวางแผนรวบรวมขอ้ มูล การใชก้ ระบวนการกล่มุ
การวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยใชค้ า่ สถิติ การสังเคราะห์ การสรุปองคค์ วามและการเสนอวธิ คี ิดแกป้ ญั หาทีเ่ ปน็
ระบบ
ฝึกทกั ษะต้งั ประเดน็ ปญั หา/ต้ังคาถามเก่ยี วกับสถานการณป์ จั จุบนั และสังคมโลก ตั้งสมมติฐาน
และให้เหตผุ ลทีส่ นบั สนุนหรอื โตแ้ ย้งประเด็นความรู้ โดยใชค้ วามรจู้ ากศาสตรส์ าขาตา่ ง ๆ และมที ฤษฎี
รองรบั ค้นควา้ แสวงหาความรเู้ ก่ยี วกับสมมตฐิ านทตี่ ง้ั ไวจ้ ากแหลง่ เรียนรทู้ ้ังปฐมภูมแิ ละทตุ ิยภูมิ ออกแบบ
วางแผนรวบรวมข้อมลู และสารสนเทศ วิเคราะห์ขอ้ มูลโดยใชว้ ิธีการที่เหมาะสม สงั เคราะห์สรปุ องค์
ความรู้และรว่ มกนั เสนอแนวคดิ วธิ ีการแกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ ดว้ ยกระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้
ข้อมูล กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการปฏบิ ตั ิและกระบวนการกลุ่มในการวิพากษ์
เพื่อให้เกดิ ทักษะในการค้นควา้ แสวงหาความรู้ สงั เคราะหส์ รปุ อภิปรายผลเปรยี บเทียบเชอื่ มโยง
ความรู้ ความเป็นมาของศาสตร์ หลักการและวธิ ีคดิ ในสง่ิ ทีศ่ ึกษา และมที ักษะในการนาเสนอผลการศกึ ษา
ค้นควา้ ในรปู แบบการเขยี นรายงานและอ้างอิงแหล่งทมี่ าของข้อมูลท่นี า่ เชื่อถือ นาองค์ความรู้ไปแกป้ ญั หา
ได้อยา่ งเป็นระบบ เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าของการศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้
1. ตงั้ ประเดน็ ปญั หา จากสถานการณ์ปัจจบุ นั และสงั คมโลก
2. ต้งั สมมติฐานและให้เหตผุ ลทสี่ นับสนุนหรือโตแ้ ย้งประเดน็ ความร้โู ดยใช้ความรจู้ ากสาขาวชิ า
ต่าง ๆ และมีทฤษฎรี องรับ
3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมลู อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
4. ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรเู้ กย่ี วกบั ประเด็นทเ่ี ลอื ก จากแหลง่ เรยี นรูท้ มี่ ีประสิทธภิ าพ
5. ตรวจสอบความน่าเช่อื ถอื ของแหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล
6. วิเคราะหข์ อ้ คน้ พบด้วยวิธีการท่ีเหมาะสม
7. สังเคราะหส์ รุปองคค์ วามรดู้ ้วยกระบวนการกลุ่ม
8. เสนอแนวคดิ การแกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ระบบดว้ ยองคค์ วามรจู้ ากการค้นพบแผนการทางานของ
นักเรียน
6
โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ
รำยวิชำกำรศกึ ษำอสิ ระ รหสั วิชำ I22201 กลุม่ สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ
ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 จำนวน 40 ช่วั โมง 1 หนว่ ยกิต
หนว่ ยท่ี ช่ือหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน เวลำ
กำรเรียนรู/้ ตัวชว้ี ดั (ชั่วโมง)
1 จดุ ประกำยควำมจริง -ต้งั ประเดน็ ปญั หาจากสถานการณป์ จั จุบัน 8
และสังคมโลก
-ตั้งสมมตุ ิฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรูจาก
สาขาวชิ าต่างๆ
-ออกแบบ วางแผน รวบรวมข้อมูลโดยใช้
กระบวนการรวบรวมขอมูลอยางมีประสทิ ธภิ าพ
1.1 ตงั้ ประเด็นปญั หาและตั้งสมมติฐาน -การต้ังประเด็นคาถามเกยี่ วกับสถานการณ์ 4
ปัจจุบันและสงั คมโลก
-การต้งั สมมติฐานและให้เหตผุ ลโดยใชค้ วามรู้
จากศาสตรส์ าขาตา่ งๆ
1.2 ขัน้ ตอนการวางแผนและการออกแบบวางแผน -ออกแบบวางแผนรวบรวมขอมูลโดยใช 4
เพ่อื รวบรวมข้อมูล กระบวนการรวบรวมขอมลู อยางมีประสทิ ธิภาพ
2 ทุกสงิ่ ที่ค้นคว้ำ -ศกึ ษาคนควาแสวงหาความรูเกย่ี วกับ 8
สมมุตฐิ านที่ตัง้ ไวจากแหลงเรียนรู หลากหลาย
-ตรวจสอบความนา่ เชอ่ื ถอื ของแหลง่ ข้อมลู ได้
2.1 ความสาคญั ของขอ้ มลู ขอ้ มูลทีด่ ี -ศกึ ษาคนควาแสวงหาความรูเกย่ี วกบั 4
สมมุติฐานท่ีต้ังไวจากแหลงเรยี นรูหลากหลาย
2.2 การตรวจสอบแหลง่ ที่มาและแหล่งข้อมลู ที่ -ตรวจสอบความน่าเชอ่ื ถือของแหลง่ ขอ้ มลู ได้ 4
เช่ือถือได้
3 ปรำรถนำคำตอบ -ตรวจสอบความนา่ เช่อื ถอื ของแหล่งทมี่ า 10
-รวบรวมข้อมลู ท่ีจะนามาวิเคราะห์
- เลือกวิธีการที่เหมาะสม
3.1 -การตรวจสอบแหลง่ ทม่ี าของข้อมูลเบื้องตน้ -ตรวจสอบความนา่ เชอ่ื ถอื ของแหล่งท่มี าของ 2
ข้อมลู ได้
7
หนว่ ยที่ ชื่อหน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน เวลำ
กำรเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั (ชว่ั โมง)
3.2 -ลกั ษณะของแหลง่ ข้อมูลทีเ่ ช่ือถือได้ -ตรวจสอบลักษณะของแหล่งข้อมูลท่ี 2
เช่ือถือได้
3.3 -การทางานโดยใช้กระบวนการกลุ่ม -ตรวจสอบความนา่ เชื่อถอื ของแหล่งข้อมูลได้ 2
3.4 -ข้ันตอนของกระบวนการกลุม่ -แบ่งขน้ั ตอนของกระบวนการกลุ่มอย่าง 2
เหมาะสม
3.5 -แนวทางการทางานด้วยกระบวนการกลุ่ม -ใชกระบวนการกลุมในการแลกเปล่ียนความ 2
คิดเหน็ โดยใชความรจู ากสาขาวชิ าตางๆเพือ่ ให
ไดขอมลู ท่ี ครบถวนสมบูรณ์
4 สรุปองคป์ ระกอบท่สี มบรู ณ์ -วเิ คราะหขอมูลโดยใชวิธกี ารที่เหมาะสม 14
-สังเคราะหและสรปุ องคความรูอภปิ รายผล
และเปรียบเทยี บเช่อื มโยงความรู้
-เสนอแนวคิดวธิ ีการแกปญหาอยางเปนระบบ
4.1 การวเิ คราะหข์ อ้ มูลเบือ้ งตน้ -วิเคราะหขอมลู โดยใชวธิ กี ารที่เหมาะสม 2
4.2 ขั้นตอนในการวเิ คราะห์ข้อมลู -วิเคราะหขอมลู โดยใชวธิ ีการที่เหมาะสม 2
4.3 การสรปุ องค์ความรู้จากการศกึ ษาคน้ คว้า -สังเคราะหและสรปุ องคความรูอภิปรายผล 2
4.4 การอภปิ รายผลและเปรียบเทยี บเช่อื มโยง -สังเคราะหและสรุปองคความรูอภปิ รายผล 4
ความรู้ 4
4.5 กระบวนการลกั ษณะแนวทางการแก้ไขปญํ หา -เสนอแนวคิดวิธีการแกปญหาอยางเปนระบบ
40
และการสร้างทางเลือกอย่างเปน็ ระบบ
รวม
8
9
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 1
สำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ รำยวชิ ำ I22201 กำรศึกษำอสิ ระ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 1 ภำคเรียนที่ 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2565
เรือ่ ง จุดประกำยควำมจรงิ เวลำ 8 ชั่วโมง
1. มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั
ผลกำรเรยี นรู้
1. ต้ังประเด็นปญั หา จากสถานการณ์ปจั จบุ ันและสงั คมโลก
2. ต้งั สมมตฐิ านและให้เหตุผลที่สนับสนนุ หรือโตแ้ ยง้ ประเด็นความรโู้ ดยใชค้ วามรู้จากสาขาวชิ า
ตา่ ง ๆ และมีทฤษฎีรองรบั
3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อย่างมปี ระสิทธิภาพ
2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
1. ต้ังประเด็นปญั หา จากสถานการณป์ ัจจุบนั และสงั คมโลก
1.1 ผู้เรียนสามารถบอกประเด็นปัญหาในเรื่องท่ีตนสนใจโดยเริ่มจากตัวเอง เช่ือมโยงกับ
สถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลกไดอ้ ย่างถกู ต้อง (K)
1.2 ผู้เรียนสามามารถคัดเลือกประเด็นปญั หาในเรื่องที่ตนสนใจโดยเริ่มจากตวั เอง เชอ่ื มโยง
สถานการณ์ปจั จุบันและสังคมโลก (P)
1.3 ผเู้ รยี นเห็นคุณค่าในการต้งั ประเด็นปญั หาในเร่ืองทีต่ นสนใจโดยเริ่มจากตัวเอง เชือ่ มโยง
เช่ือมโยงสถานการณ์ปจั จบุ ันและสงั คมโลก (A)
2. ต้งั สมมติฐานและให้เหตุผลทสี่ นบั สนนุ หรอื โต้แย้งประเด็นความรูโ้ ดยใชค้ วามร้จู ากสาขาวชิ า
ต่าง ๆ และมีทฤษฎีรองรับ
2.1 ผู้เรียนสามารถ ตั้งสมมติฐานโดยใช้ความรู้จากสาขาวิชาต่าง ๆ และมีทฤษฎีรองรับได้
อยา่ งถูกต้อง (K)
2.2 ผู้เรียนสามารถให้เหตุผลสนับสนุนท่ีมาของสมมตุ ิฐานโดยใช้ความรจู ากสาขาวิชาต่างๆ
และมที ฤษฎรี องรับ (P)
2.3 ผเู้ รียนตระหนกั ถึงความสาคัญในการต้งั สมมุตฐิ านและใหเ้ หตุผล โดยใช้ความรจู าก
สาขาวิชาตา่ งๆ และมที ฤษฎรี องรับ (A)
3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
3.1 ผเู้ รยี นสามารถออกแบบ วางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อย่างมีประสิทธิภาพ
(K)
10
3.2 ผู้เรียนสามารถนาเสนอกระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ (P)
3.3 ผู้เรียนตระหนักถึงความสาคัญออกแบบ วางแผนใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ (A)
3. สำระสำคญั
การใช้ปญั หาเปน็ ฐาน โดยการต้งั คาถาม ตงั้ สมมติฐาน ใช้กระบวนการออกแบบ และวางแผน
อยา่ งเป็นระบบ
4. สำระกำรเรยี นรู้
- ท่ีมาของประเดน็ ปัญหา
- แนวทางการเลอื กประเด็น
- ลกั ษณะของประเดน็ ปัญหาท่ีดี
- รูปแบบการเขียนประเดน็ ปัญหา
- การเขยี นทีม่ าและความสาคญั ของปัญหา
- ประเภทของสมมตฐิ าน
- ท่มี าของสมมติฐาน
- แนวทางการตัง้ สมมติฐาน
- ลักษณะของสมมตฐิ านที่ดี
- ออกแบบ วางแผนใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู
- ผ้เู รยี นสามารถนาเสนอกระบวนการรวบรวมข้อมูล
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแกป้ ญั หา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
11
6. ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเนน้ สู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน)
ทักษะการอา่ น (Reading)
ทกั ษะการ เขียน (Writing)
ทักษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic)
ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา (Critical thinking and
problem solving)
ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)
ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การทางานเป็นทีม และภาวะผูน้ า (Collaboration , teamwork
and leadership)
ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)
ทักษะด้าน การสอ่ื สาร สารสนเทศ และรู้เท่าทนั สือ่ (Communication information and
media literacy)
ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing)
ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
ทกั ษะการเปลี่ยนแปลง (Change)
ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Skills)
ภาวะผู้นา (Leadership)
7. ชน้ิ งำนหรือภำระงำน ( หลักฐำน / ร่องรอยแสดงควำมรู้ )
- โครงร่างการศึกษาคน้ ควา้
- การตอบคาถาม
- ใบงานท่ี 1
- ใบงานที่ 2
- ใบงานท่ี 3
12
8. กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้
เรือ่ ง จุดประกำยควำมจริง จำนวน 8 ช่ัวโมง
หนว่ ยท่ี 1 ต้ังประเดน็ ปญั หำและต้ังสมมตฐิ ำน จำนวน 4 ชว่ั โมง
ใชร้ ูปแบบกำรเรียนรู้กำรสอนแบบถำมตอบ (Ask and Question Model)
ขน้ั นำสู่เขำ้ บทเรียน
1.1 ครผู ู้สอนทักทายนักเรียน แจ้งจดุ ประสงค์ทีจ่ ะเรียนวันน้ี จากนน้ั เล่นเกมเพื่อเป็น
การเชค็ ช่อื และเพอ่ื ละลายพฤติกรรม
1.2 ครูสนทนากับนักเรียนเกย่ี วกบั ส่งิ ที่สนใจ ข้อสงสัย หรอื เร่อื งท่นี กั เรียนยงั ไม่ทราบ
คาตอบ และถามคาถามว่า “นกั เรยี นจะตง้ั ประเดน็ ปญั หาทส่ี นใจไดอ้ ยา่ งไร” นกั เรยี นตอบ
คาถามวธิ กี ารตั้งประเดน็ ปญั หาของตนเอง
ขน้ั สอน
2.1 . ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาตัวอยา่ งประเด็นความรูจ้ ากสาระการเรยี นร้ทู ีเ่ ปน็ รายวิชา
พื้นฐาน และชว่ ยกันวเิ คราะห์ประเดน็ ความรู้
2.2 นกั เรยี นฝกึ การตง้ั ประเดน็ ปญั หาในเร่ืองทส่ี นใจ โดยเรม่ิ จากตนเอง ชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ
และประเทศ ครูและนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบการตัง้ ประเด็นปญั หา
2.3 ครถู ามคาถาม “การต้ังสมมตฐิ านประเด็นปญั หาทีส่ นใจมวี ธิ กี ารอย่างไร” นกั เรยี น
ตอบคาถามและฝึกตัง้ สมมติฐานและข้อสันนษิ ฐานของประเด็นความรู้
2.4 ครใู ชก้ ารตงั้ คาถามกระตุ้นใหน้ ักเรียนใหเ้ หตุผล ความคดิ ต่างมุม เพ่ือแก้ไขปญั หา
โดยใชส้ าขาวิชาต่าง ๆ โดยใช้วิธีการโต้แยง้ สนับสนนุ และโตแ้ ยง้ คดั ค้าน
2.5 แบง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่มศกึ ษาใบความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับประเด็นตอ่ ไปนี้
- การกาหนดประเด็นความรู้
- ธรรมชาติของความรู้
- ลักษณะของความรู้
- แหล่งเรียนรู้
- วิธีการสรา้ งความรู้
- ทฤษฎขี องกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ
- ศาสตร์ / สาขาวิชาของความรู้
- นกั คิด / บดิ าศาสตรข์ องแตล่ ะสาระการเรยี นรู้
- หลักการตั้งวตั ถุประสงค์และสมมตุ ิฐาน
- วธิ กี ารนาเสนอ
13
ขนั้ สรปุ
3.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการศกึ ษาใบความรแู้ ละรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ ความรู้
3.2 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอโครงรา่ งการศกึ ษาค้นคว้าเก่ียวกับประเด็นที่สนใจ
สมมติฐาน และวิธกี ารรวบรวมข้อมูล
3.3 ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเกย่ี วกับแผนการศึกษาคน้ คว้า และช่วยกันปรับปรงุ
โครงร่างฯ ใหส้ มบูรณ์
หน่วยที่ 2 ขนั้ ตอนกำรวำงแผนและกำรออกแบบวำงแผนขอ้ มูล จำนวน 4 ชวั่ โมง
ใช้รูปแบบกำรเรียนรู้กำรสอนแบบถำมตอบ (Ask and Question Model)
ขน้ั นำสูเ่ ขำ้ บทเรยี น
1.1 ครูทบทวนความรู้เดิมเร่ืองการต้ังประเด็นปัญหา การตั้งสมมติฐาน เพื่อเช่ือมโยง
กับเน้ือหา การออกแบบ การวางแผน และการใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมี
ประสิทธภิ าพ
ข้นั สอน
2.1 ครตู งั้ คาถาม ให้กับนกั เรียนวา่ จะออกแบบวางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู
ท่ีมปี ระสิทธภิ าพไดอ้ ย่างไร “ นกั เรยี นตอบคาถาม” ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ
เกี่ยวกับการวางแผนใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลและแบง่ นกั เรยี นน่ังตามกล่มุ เดมิ เพ่ือฝึก
วางแผนในการใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลเพอ่ื หาคาตอบประเดน็ ปญั หาที่ตนเองสนใจและ
คน้ ควา้ ข้อมลู เพ่ิมเติมจากแหล่งการเรยี นรู้สาขาวชิ าต่าง ๆ
2.2 นกั เรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รอ่ื ง ออกแบบ วางแผน และ กระบวนการรวบรวม
ข้อมูล
2.3 นกั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ (Mind Map ) การออกแบบ วางแผน ใช้
กระบวนการรวบรวมขอ้ มูลของกลุ่มตนเอง
2.4 ครแู ละนกั เรียนรว่ มตรวจสอบการออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวม
ข้อมลู ของแตล่ ะกลุ่ม และวพิ ากยก์ ารออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมลู ของแต่
ละกลุม่
2.5 นกั เรยี นนาขอ้ วพิ ากษ์มาปรบั ปรงุ ผลงานของกลมุ่
ขั้นสรปุ
3.1 นกั เรยี น ครู รว่ มกนั สรปุ และนกั เรยี นนาแนวทางการออกแบบ วางแผน ใช้
กระบวนการรวบรวมข้อมลู มาจัดทาเป็นโครงร่างการศึกษาค้นควา้ เปน็ ลาดับต่อไป
14
9. ส่ือกำรสอน
1. ตัวอย่างประเด็นความรู้
2. ใบความรพู้ ้ืนฐานเก่ียวกบั ประเดน็ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การกาหนดประเดน็ ความรู้ วธิ กี าร
สรา้ งความรู้ หลักการตั้งวัตถุประสงค์และสมมตุ ิฐาน ฯลฯ
3. สื่อการสอน canva
10. แหล่งเรียนรูใ้ นหรือนอกสถำนที่
1. หอ้ งสมดุ
2. ห้องคอมพวิ เตอร์
11. กำรวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ วี ดั เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การ
หรือส่ิงทต่ี อ้ งการจะวัดและ ประเมิน
ประเมนิ ผล
1.ผเู้ รยี นสามารถบอกประเด็น ตรวจใบงานที่ 1 แบบบันทกึ การ 3 คะแนน = ต้ังคาถาม 5 ข้อ ผ่านเกณฑ์อยา่ ง
ปัญหาในเรื่องที่ตนสนใจโดย ตรวจสอบการตั้ง 2คะแนน=ตงั้ คาถาม3-4ข้อ นอ้ ย2คะแนน
เร่ิมจากตวั เองเชอ่ื มโยงกับ 1คะแนน=ตงั้ คาถาม1–2ขอ้
สถานการณป์ ัจจุบนั และสังคม คาถามของ
นกั เรียน 0คะแนน=ไมต่ ั้งคาถาม
โลกได้อย่างถูกต้อง
2.ผู้เรยี นสามารถตง้ั สมมติฐาน ตรวจใบงานที่ 2 แบบบันทึกการ 3 คะแนน = ตั้งสมมติฐาน 5 ข้อ ผ่านเกณฑ์อย่าง
โดยใช้ความรูจ้ ากสาขาวชิ าตา่ ง ตง้ั สมมตฐิ าน 2 คะแนน = ต้ังสมมติฐาน3 - 4 ข้อ นอ้ ย2คะแนน
ๆและมที ฤษฎรี องรับได้อยา่ ง ของนักเรยี น 1 คะแนน = ตั้งสมมติฐาน1 – 2 ข้อ
ถูกตอ้ ง 0คะแนน = ไม่ตั้งสมมติฐาน
3.ผเู้ รยี นสามารถออกแบบ ตรวจใบงานท่ี3 แบบบันทกึ การ 5คะแนน=ส่งใบงาน ผา่ นเกณฑ์ 5
วางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวม ออกแบบและ 0=ไม่สง่ ใบงาน คะแนน
ข้อมูลอย่างมีประสทิ ธิภาพ วางแผนข้อมูล
15
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน วธิ ีวัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารให้ เกณฑก์ ารประเมิน
คะแนน
1. ความสามารถในการส่ือสาร การตอบคาถาม แบบบันทกึ ตอ้ งผ่านทกุ คน
2. ความสามารถในการคิด ตรวจจากใบงาน แบบประเมนิ ใบงาน ผ่าน/ไมผ่ า่ น ตอ้ งผา่ นทุกคน
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ผ่าน/ไมผ่ า่ น ตอ้ งผา่ นทกุ คน
การสงั เกต แบบสงั เกต ผ่าน / ไม่ผ่าน
ทกั ษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารให้ เกณฑ์การประเมิน
คะแนน ต้องผา่ นทุกคน
(ตามหัวขอ้ ท่ี 6) ตรวจจากใบงาน แบบประเมินใบงาน ตอ้ งผ่านทุกคน
ผ่าน/ไมผ่ า่ น
1.ทกั ษะการเขยี น(Writing) การสงั เกต แบบสังเกต ผ่าน/ไมผ่ า่ น ตอ้ งผ่านทุกคน
2.ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การสังเกต แบบสงั เกต ผา่ น/ไมผ่ ่าน
การทางานเป็นทีม และภาวะ
ผูน้ า (Collaboration ,
teamwork and
leadership)
3.ภาวะผูน้ า (Leadership)
16
12. บนั ทึกผลหลังกำรสอน
สรปุ ผลการเรยี นการสอน
นกั เรยี นทัง้ หมดจานวน.....................คน
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ข้อที่ จานวนนกั เรียนท่ผี า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น
1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน รอ้ ยละ
2
3
13. ปัญหำ/อปุ สรรค/แนวทำงแก้ไข
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
14. ขอ้ เสนอแนะ
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
.
ลงชื่อ........................................................................
()
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ .......................................
ลงช่อื ................................................................ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้
()
ลงชอื่ .......................................................... รองผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
(………………………………………..)
17
ควำมเห็นของหวั หนำ้ สถำนศกึ ษำ
ได้ทาการตรวจแผนการเรียนรขู้ องนางสาวเทยี นกลั ยาภคั จนี สมทุ ร แล้วมคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผูเ้ รยี นเป็นสาคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เน้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
ลงช่อื ...............................................................................................
( ………………………………………………… )
ผอู้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..
18
ใบงำนที่ 1 ตั้งประเด็นปัญหา
รำยวชิ ำ กำรศึกษำอิสระ(IS1) รหสั I2201 ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นตง้ั ประเด็นปญั หา โดยเลอื กประเด็นที่สนใจ เร่มิ จากตนเอง ชมุ ชน ท้องถ่ิน ประเทศ
มา 5ประเดน็ ปญั หา และเรยี งลาดบั ความสาคญั โดย 1 น้อยท่ีสดุ จนถงึ 5มากทส่ี ุด
ลำดับ ประเดน็ ปญั หำ ลำดบั
ควำมสำคัญ
1.
2
3
4
5
ช่อื -สกลุ ................................................................................................... ช้นั ม.2/.......... เลขที่ ...............
19
ใบงำนที่ 2 ตง้ั สมมติฐานประเด็นปญั หา
รำยวชิ ำ กำรศึกษำอิสระ(IS1) รหัส I2201 ช้นั มัธยมศึกษำปที ่ี 2
คำช้ีแจง ให้นกั เรียนตั้งสมมติฐานประเด็นปัญหาทีต่ นเองสนใจจากขอ้ ที่ 1มา 5ประเดน็ ปญั หา และ
เรยี งลาดับความสาคญั โดย 1 นอ้ ยท่สี ุด จนถงึ 5มากทส่ี ดุ
ลำดบั
ลำดับ สมมตฐิ ำนประเด็นปัญหำ
ควำมสำคัญ
1
2
3
4
5
ช่อื -สกุล.................................................................................................. ช้ัน ม.2/.......... เลขท่ี ...............
20
ใบงำนที่ 3 . การออกแบบและวางแผน
รำยวชิ ำ กำรศกึ ษำอสิ ระ(IS1) รหัส I2201 ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ 2
คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม 3คน ช่วยกนั ออกแบบและวางแผนในการโครงงาน โดยเลอื กประเด็น
ปัญหาท่สี นใจจากใบงานท่1ี ของสมาชกิ ในกลุ่ม
บนั ทึกกำรวำงแผนกำรทำงำน (ID Plan)
สมำชกิ
ช่ือ-สกลุ .................................................................... ชน้ั ม.2/.......... เลขท่ี ...............
ชื่อ-สกลุ .................................................................... ช้ัน ม.2/.......... เลขท่ี ...............
ชือ่ -สกุล.................................................................... ชน้ั ม.2/.......... เลขท่ี ...............
ครูทป่ี รึกษำกำรทำงำน
ชื่อ-สกลุ .................................................................... กลุ่มสาระการเรียนร…ู้ ………………………………………….
ชอ่ื -สกลุ .................................................................... กลมุ่ สาระการเรียนรู้…………………………………………….
ชื่อ-สกุล.................................................................... กลุ่มสาระการเรียนร…ู้ …………………………………………
ครูผสู้ อน
......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
ประเดน็ ปญั หำ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
สมมติฐำน
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
21
กำรเก็บรวบรวมข้อมูล
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
เคร่ืองมือเกบ็ ข้อมลู
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
แหล่งเรยี นรูเ้ กยี่ วกบั ประเดน็ ปัญหำ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
22
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่2
เรื่อง ทุกสงิ่ ท่ีค้นคว้า
23
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ 2
สำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ รำยวิชำ I22201 กำรศกึ ษำอสิ ระ
ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2
หน่วยกำรเรยี นร้ทู ่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2565
เร่อื ง ทุกสงิ่ ท่คี น้ ควำ้ เวลำ 9 ช่วั โมง
1. มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั
ผลกำรเรยี นรู้
4. ศึกษา คน้ ควา้ แสวงหาความรเู้ กย่ี วกับประเด็นท่ีเลอื ก จากแหล่งเรียนร้ทู ีม่ ีประสิทธภิ าพ
5. ตรวจสอบความนา่ เชื่อถือของแหล่งทมี่ าของขอ้ มูล
2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความร้เู ก่ยี วกบั ประเดน็ ทเ่ี ลือก จากแหลง่ เรียนรทู้ ม่ี ีประสทิ ธภิ าพ
1.1 ผเู้ รียนสามารถระบุแหลง่ ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรเู้ กยี่ วกบั ประเด็นทเ่ี ลือกจากแหลง่
เรียนรทู้ ่ีมีประสิทธิภาพ เชน หองสมดุ แหลงเรียนรู ทางออนไลน วารสาร การปฏบิ ตั ิ ทดลองได้อยา่ ง
ถกู ตอ้ ง (K)
1.2 ผู้เรียนสามารถศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เก่ียวกับประเด็นท่ีเลือกจากแหล่งเรียนรู้ที่มี
ประสทิ ธิภาพ เชน หองสมดุ แหลงเรียนรู ทางออนไลน วารสาร การปฏิบัติ ทดลอง (P)
1.3 ผู้เรียนเห็นความสาคัญในการศกึ ษาค้นควา้ แสวงหาความรู้เกย่ี วกับประเด็นที่เลอื กจากแหล่ง
เรยี นรทู้ มี่ ปี ระสิทธภิ าพ เชน หองสมดุ แหลงเรยี นรู ทางออนไลน วารสาร การปฏบิ ัติ ทดลอง (A)
2. ตรวจสอบความน่าเช่อื ถือของแหล่งทม่ี าของขอ้ มูล
2.1 ผูเ้ รียนสามารถตรวจสอบความน่าเช่อื ถือของแหลง่ ทม่ี าของข้อมูลอยางมีประสทิ ธภิ าพ (K)
2.2 ผเู้ รียนสามารถเลอื กตรวจสอบความน่าเช่ือถือของแหลง่ ท่มี าของขอ้ มลู ได้อย่างเหมาะสม (P)
2.3 ผเู้ รยี นตระหนักถงึ ความสาคญั ของตรวจสอบความน่าเช่ือถือของแหลง่ ทีม่ าของขอ้ มลู (A)
3. สำระสำคญั
การศกึ ษา คน้ คว้า แสวงหาความรเู้ ก่ยี วกบั ประเดน็ ทศี่ ึกษาจากแหล่งการเรียนร้ทู ่หี ลากหลาย
การตรวจสอบความน่าเช่อื ถือของข้อมลู และการเลอื กใช้สถิตทิ ี่เหมาะสม
ในการวิเคราะห์จะชว่ ยให้ได้ข้อมูลทม่ี คี ณุ ภาพ
24
4. สำระกำรเรียนรู้
- ประเภทของขอ้ มลู
- ลักษณะของข้อมูลที่ดี
- ความสาคัญของแหล่งข้อมูล
- ประเภทของแหลง่ ขอ้ มูล
- ลักษณะของแหล่งขอ้ มูลท่ดี ี
- การออกแบบวางแผนเพื่อรวบรวมขอ้ มลู
- องค์ประกอบของการวางแผน
- ข้นั ตอนการวางแผน
- ขัน้ ตอนการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการแก้ปญั หา
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสู่การพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น)
ทักษะการอ่าน (Reading)
ทักษะการ เขยี น (Writing)
ทกั ษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic)
ทักษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and
problem solving)
ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)
ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork
and leadership)
ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
ทักษะดา้ น การส่อื สาร สารสนเทศ และรูเ้ ทา่ ทนั ส่ือ (Communication information and
media literacy)
25
ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing)
ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
ทกั ษะการเปลีย่ นแปลง (Change)
ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Skills)
ภาวะผ้นู า (Leadership)
7. ช้ินงำนหรือภำระงำน ( หลกั ฐำน / รอ่ งรอยแสดงควำมรู้ )
- การตอบคาถามและการอภปิ ราย
- แบบบันทกึ ตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วกบั การรวบรวมขอ้ มลู
- แบบบันทึกการตรวจสอบคณุ ภาพของขอ้ มลู
- แบบบันทึกเก่ยี วกับกระบวนการทางาน
- แบบบันทึกการวิเคราะหข์ อ้ มูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
8. กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
เร่อื ง ทกุ สิง่ ที่คน้ ควำ้ จำนวน 8 ชัว่ โมง
หน่วยท่ี 1 ควำมสำคัญของข้อมูลขอ้ มลู ทด่ี ี จำนวน 4 ชวั่ โมง
ใช้รปู แบบกำรเรยี นรู้กำรสอนแบบถำมตอบ (Ask and Question Model)
ขัน้ นำสู่เขำ้ บทเรยี น
1.1 ครูผสู้ อนทักทายนักเรียน แจ้งจดุ ประสงคท์ จี่ ะเรยี นวนั นี้ จากนัน้ เลน่ เกมเพื่อเป็น
การเช็คชื่อ และเพื่อละลายพฤตกิ รรม
1.2 ครูผสู้ อนทบทวนเกีย่ วกับโครงรา่ งการศึกษาค้นควา้ เก่ียวกบั ประเดน็ ทส่ี นใจ
สมมตฐิ าน และวธิ กี ารรวบรวมขอ้ มลู
ขน้ั สอน
2.1 . ครูถามคาถามว่า “การศกึ ษา ค้นควา้ แสวงหาความรู้มีวธิ ีการอย่างไร” นกั เรยี น
ตอบคาถาม
2.2 แบ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ ศึกษาวธิ ีการคน้ คว้า แสวงหาความรู้เกยี่ วกบั ประเด็นที่ศกึ ษา
แลว้ บันทกึ ลงใบงานท4่ี โดยทาแค่ ส่วนการศกึ ษาค้นคว้า
26
ข้ันสรปุ
3.1 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรปุ วธิ กี ารศกึ ษาค้นควา้ แสวงหาความรแู้ ละวิธีการ
ตรวจสอบข้อมูล
หนว่ ยที่ 2 กำรตรวจสอบแหลง่ ท่ีมำและแหลง่ ข้อมูลท่เี ชอื่ ถอื ได้ จำนวน 4 ชัว่ โมง
ใช้รูปแบบกำรเรยี นรู้กำรสอนแบบถำมตอบ (Ask and Question Model)
ข้นั นำสู่เข้ำบทเรยี น
1.1 ครูผู้สอนทักทายนักเรียน แจ้งจุดประสงค์ที่จะเรียนวันน้ี จากน้ันเล่นเกมเพ่ือเป็น
การเชค็ ชอ่ื และเพื่อละลายพฤติกรรม
1.2 ครูทบทวนความรู้เดิมเร่ืองการศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้ เพ่ือเชื่อมโยง กับ
เนื้อหา การตรวจสอบแหลง่ ท่ีมาและแหลง่ ข้อมลู ที่เช่ือถือได้
ขนั้ สอน
2.1 . ครถู ามคาถามว่า “การตรวจสอบความน่าเชื่อถอื ของขอ้ มูลมีวิธีการอย่างไร”
นกั เรยี นตอบคาถาม
2.2 ให้นกั เรียนใบงานต่อจากเดิม วธิ ีการตรวจสอบความนา่ เช่ือถอื ของขอ้ มลู จากแหลง่
การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย และตวั อยา่ งการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลท่ีเป็นระบบ
2.3 ครผู ู้สอนให้นกั เรยี นฝกึ ทกั ษะการตรวจสอบข้อมลู / สารสนเทศ
2.4 ให้นกั เรียนแตล่ ะคนวางแผนจัดเก็บข้อมลู ในประเดน็ ที่ศึกษา และดาเนนิ การเก็บ
ข้อมูลในประเด็นทส่ี นใจ
ขั้นสรุป
3.1 นกั เรยี น ครู รว่ มกนั สรปุ การตรวจสอบความน่าเช่ือถือของข้อมูล และรวบรวม
ข้อมูลให้เปน็ ระบบ เตรยี มข้อมูลสาหรับการวิเคราะห์
9. ส่อื กำรสอน
1. . ตวั อย่างการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ท่ีเปน็ ระบบ
2. ส่อื การสอน canva
10. แหลง่ เรียนรู้ในหรือนอกสถำนท่ี
1. หอ้ งสมดุ
2. หอ้ งคอมพวิ เตอร์
27
11. กำรวัดและประเมินผล
จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ วี ัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การ
หรอื สงิ่ ทีต่ ้องการจะวัดและ ประเมิน
ประเมนิ ผล
1.ผู้เรยี นสามารถระบุแหล่งศกึ ษา ตรวจใบงานท4่ี แบบประเมนิ ใบงาน 3คะแนน=คน้ ควา้ 5ข้อ ผา่ นเกณฑ์อย่าง
คน้ ควา้ แสวงหาความรู้เก่ียวกับ 2คะแนน=คน้ คว้า3-4ขอ้ น้อย 2คะแนน
ประเด็นทีเ่ ลอื กจากแหล่งเรียนรู้ที่ 1คะแนน=คน้ คว้า1–2ข้อ
มปี ระสทิ ธภิ าพเชนหองสมุดแหล
0คะแนน=ไมค่ น้ คว้า
งเรียนรู ทางออนไลนวารสารการ
ปฏบิ ตั ิ ทดลองได้อย่างถกู ต้อง
2.ผูเ้ รยี นสามารถศกึ ษาค้นคว้า การสังเกต แบบการสงั เกต ผ่าน/ไมผ่ า่ น ตอ้ งผ่านทุกคน
แสวงหาความรู้เก่ียวกับประเดน็ ท่ี
เลอื กจากแหลง่ เรียนรทู้ ีม่ ี
ประสิทธภิ าพ
3.ผูเ้ รยี นสามารถตรวจสอบความ ตรวจใบงานที4่ แบบประเมินใบงาน 3คะแนน=ตรวจสอบ5ขอ้ ผ่านเกณฑ์อยา่ ง
นา่ เช่ือถอื ของแหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล 2คะแนน=ตรวจสอบ3-4 นอ้ ย2คะแนน
อยางมปี ระสทิ ธิภาพ ขอ้
1 คะแนน = ตรวจสอบ1 –
2 ขอ้
0คะแนน=ไมต่ รวจสอบ
4.ผู้เรยี นสามารถเลือกตรวจสอบ ตรวจใบงานที่ แบบประเมนิ ใบงาน 3คะแนน=ตรวจสอบ5ข้อ ผา่ นเกณฑ์อยา่ ง
ความน่าเชื่อถือของแหล่งทีม่ าของ 4 2คะแนน=ตรวจสอบ3-4 นอ้ ย2คะแนน
ขอ้ มลู ได้อย่างเหมาะสม ขอ้
1 คะแนน = ตรวจสอบ1 –
2 ข้อ
0คะแนน=ไมต่ รวจสอบ
28
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน วธิ ีวัด เครื่องมอื วัด เกณฑ์การให้ เกณฑก์ ารประเมิน
คะแนน
1. ความสามารถในการส่ือสาร การตอบคาถาม แบบบันทกึ ตอ้ งผา่ นทกุ คน
2. ความสามารถในการคิด ตรวจจากใบงาน แบบประเมนิ ใบงาน ผ่าน/ไม่ผา่ น ตอ้ งผา่ นทุกคน
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ผ่าน/ไมผ่ า่ น ตอ้ งผา่ นทุกคน
การสงั เกต แบบสงั เกต ผ่าน/ไมผ่ ่าน
ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารให้ เกณฑก์ ารประเมิน
คะแนน ต้องผ่านทุกคน
(ตามหัวขอ้ ท่ี 6) ตรวจจากใบงาน แบบประเมินใบงาน ตอ้ งผ่านทุกคน
ผ่าน/ไมผ่ า่ น
1.ทกั ษะการเขยี น(Writing) การสงั เกต แบบสังเกต ผ่าน/ไมผ่ า่ น ตอ้ งผ่านทกุ คน
2.ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การสังเกต แบบสงั เกต ผา่ น/ไม่ผ่าน
การทางานเป็นทีม และภาวะ
ผู้นา (Collaboration ,
teamwork and
leadership)
3.ภาวะผูน้ า (Leadership)
29
12. บนั ทึกผลหลงั กำรสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
นกั เรยี นทง้ั หมดจานวน.....................คน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรขู้ ้อท่ี จานวนนักเรียนทีผ่ า่ น จานวนนักเรียนท่ีไมผ่ ่าน
1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน รอ้ ยละ
2
3
13. ปัญหำ/อปุ สรรค/แนวทำงแก้ไข
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
14. ขอ้ เสนอแนะ
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
.
ลงชือ่ ........................................................................
()
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ .......................................
ลงชือ่ ................................................................ หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้
()
ลงชือ่ .......................................................... รองผอู้ านวยการกล่มุ บริหารวิชาการ
(………………………………………..)
30
ควำมเห็นของหวั หนำ้ สถำนศกึ ษำ
ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรูข้ องนางสาวเทยี นกัลยาภคั จนี สมุทร แลว้ มีความคิดเห็นดงั น้ี
4. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่
ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง
5. การจัดกิจกรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
6. ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
ลงช่อื ...............................................................................................
( ………………………………………………… )
ผอู้ านวยการโรงเรียน…………………………………………………………..
31
ใบงำนท่ี 3 . การศึกษาคน้ ควา้ และตรวจสอบความนา่ เชื่อถอื
รำยวิชำ กำรศึกษำอสิ ระ(IS1) รหัส I2201 ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี 2
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุม่ 3คน(กลมุ่ เดิม) ชว่ ยกนั ศกึ ษาคน้ คว้า แสวงหาความรู้เก่ียวกับประเดน็ ที่
เลือก จากแหลง่ เรียนรทู้ ่หี ลากหลาย และตรวจสอบความนา่ เชื่อถือของแหล่งทม่ี าของข้อมลู
แบบบันทึกกำรคน้ ควำ้
ชือ่ -สกุล................................................ ชัน้ ม……../.... เลขที่.......
ช่ือ-สกุล................................................. ชน้ั ม……../.... เลขที่.......
ชอ่ื -สกลุ ................................................ ช้ันม……../.... เลขที่.......
ช่ือประเด็นปญั หำ :
...............................................................................................................................................
.................................... ...................................................................... ......................................
สงิ่ ทไี่ ดจ้ ำกกำรค้นควำ้ แหลง่ ท่ีมำ
วนั เดือนปี ส่ิงทีไ่ ด้
32
ตรวจสอบควำมน่ำเช่ือถือของแหลง่ ทมี่ ำของขอ้ มูล
วิเครำะห์แหลง่ ที่มำท่ี 1
[ ] นา่ เชอื่ ถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไมน่ า่ เชอ่ื ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
วเิ ครำะห์แหลง่ ท่มี ำที่ 2
[ ] น่าเชือ่ ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไมน่ ่าเชื่อถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
วิเครำะห์แหล่งที่มำท่ี 3
[ ] นา่ เชื่อถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไม่น่าเช่อื ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
วเิ ครำะห์แหลง่ ทมี่ ำท่ี 4
[ ] น่าเชอ่ื ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไม่นา่ เช่ือถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
วิเครำะหแ์ หลง่ ทมี่ ำที่ 5
[ ] นา่ เชื่อถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไมน่ ่าเชอ่ื ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
33
บรรณำนกุ รม
กณุ ฑีรา บญุ เลยี้ ง และคณะ./(2563).//หนงั สือเรยี น รายวิชาเพ่ิมเตมิ การศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ย
ตนเอง 1 (IS 1) ระดบั ชั้น ม.1-3/(พมิ พค์ ร้ังท่ี8).//อักษรเจรญิ ทัศน:์ /บรษิ ทั ไทยรม่ เกลา้ จากัด.