5
Singburiสถานที่ท่องเที่ยว
คำนำ
จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติของ
ประชากร อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เอื้ออาทร และยังคงสืบทอด
ศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม ของตนเองมาถึงยุคของคนหนุ่มสาว
รุ่นใหม่ในปัจจุบัน คุณอาจจะยัง ไม่เคยสัมผัสในที่อื่นใด เราขอ
เชิญชวนท่านเดินทางเข้าไปอยู่ในใจกลางแห่งความงดงาม
เพื่อเป็นข้อมูลที่เชิญชวนและหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่าน
วัดม่วงชุม
เป็นวัดเก่าแก่ร่วม 400 ปี สันนิษฐานว่า
สร้างตั้ งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่ อว่า "วัด
กระดังงา" เป็นวัดร้างตั้ งแต่สมัยสงคราม
กับพม่าและเสียกรุ งครั้งที่ 2
มี ก า ร ขุ ด พ บ เ ศี ย ร พ ร ะ หิ น ท ร า ย เ ป็ น
จำนวนมาก หลวงพ่อดำ ที่ ประดิษฐาน
อยู่ด้านหลังวัด ต่อมาภายหลังเมื่ อสงบ
จากศึกกับพม่าชาวบ้านจึ งกลับมาตั้ ง
ถิ่ น ฐ า น กั น ใ ห ม่ จ น ป ร ะ ม า ณ ปี พ . ศ . 2 4 2 4
น า ย โ ค ก ร่ ว ม กั บ ช า ว บ้ า น ไ ด้ ก่ อ ส ร้ า ง วั ด
ขึ้นมาใหม่ ณ ที่ ตั้ งวัดในปัจจุ บัน ซึ่งใกล้
กับวัดเดิมและตั้ งชื่ อว่า "วัดม่วงชุม" ที่ มา
ของชื่ อวัดนี้มาจาก การที่ ชาวบ้าน
บางระจั นได้มาชุมนุมกันที่ ใต้ต้นมะม่วง
ณ ที่ แห่งนี้ วัดม่วงชุม จึ งแปลได้ว่า
" ชุ ม นุ ม ใ ต้ ต้ น ม ะ ม่ ว ง "
ข้ อ มู ล ส ถ า น ที่
ต.ไม้ดัด อ.บางระจั น จ.สิงห์บุรี
วัดประโชติการาม
เป็นวัดเก่าแก่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปาง
ห้ามญาติ หรือปางห้ามสมุทร ที่มี่ความงดงาม
ศิลปะสมัยสุโขทัยขนาดใหญ่ 2 องค์ คือ หลวง
พ่อทรัพย์ สูง 6 วา 7 นิ้ว และหลวงพ่อสิน สูง 3
วา 3 ศอก 5 นิ้ว เป็นที่เคารพเลื่อมใสของ
ประชาชนทั่วไป ด้านหน้าคือหลวงพ่อสิน ส่วน
ด้านหลังนั้นประดิษฐานหลวงพ่อทรัพย์ ซึ่งเป็น
ที่นับถือของชาวบ้านอย่างมาก ทั้งยังมีการเล่า
ลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อสององค์นี้ ใน
อดีตหลวงพ่อสินเคยอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก
ครั้นเมื่อมีเณรองค์หนึ่งผ่านมาเห็น และได้
ชักชวนชาวบ้านมาช่วยกันหาไม้ค้ำหลวงพ่อ
พร้อมอธิษฐานว่าหากภายภาคหน้าทำการค้า
เจริญรุ่งเรืองจะนำเงินกลับมาบูรณะปรากฏว่า
เป็นจริงดังคำขอ ซึ่งเณรท่านนั้นคือท่านมหาสม
พ่วงภักดีนั่นเอง ชาวบ้านเชื่อกันว่าถ้ามา
อาราธนาศีลจากหลวงพ่อสินแล้วไปขอพรจาก
หลวงพ่อทรัพย์นั้นจะสมหวังตามที่ปรารถนา
ข้ อ มู ล ส ถ า น ที่
ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
วัดพิกุลทอง
วัดหลวงพ่อ เนื่ องด้วยเป็นวัดจำพรรษาของหลวงพ่อ
แพแพ (พระเทพสิงหบุราจารย์)พระเกจิ ดัง ซึ่งมรณ
ภาพเมื่ อพ.ศ.2542 ภายในวัดมี พิพิธภั ณฑ์หลวงพ่อแพ
จั ดแสดงเรื่ องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่ องอั ฐบริขาร
ของหลวงพ่อแพตั้ งแต่อดีตถึงปัจจุ บัน อี กด้านหนึ่ง
ของวัดนี้มีพระพุทธรู ปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่ สุดใน
ประเทศไทย คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ
หลวงพ่อใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว
สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้วภายในเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
ประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24 เค รอบๆ
พระวิหารใหญ่มีวิหารคต ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรู ป
ปางประจำวันต่าง ๆ และพระสังกัจจายองค์ใหญ่ และ
บริเวณวัดยังมีสวนธรรมะ และสิ่งก่อสร้างที่ สวยงามน่า
สนใจ แวดล้อมด้วยบรรยากาศสงบร่มรื่ น พระประธาน
วัดพิกุลทอง เป็นพระพุทธรู ปขนาดเล็กประดิษฐานบน
ฐานที่ สูงหลายชั้นเพื่ อให้เหมาะกับขนาดของอุ โบสถ
เราจะเห็นองค์พระประธานเล็กมาก พระพุทธรู ปองค์นี้
มีพระนามว่า พระพุทธศรีวิริยโสภิ ต หลวงพ่อสี เกสโร
พระอาจารย์ด้านวิทยาคมของหลวงพ่อแพ ได้สร้าง
ถวายแก่หลวงพ่อแพ หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อแพ อยู่ใน
พิพิธภั ณฑ์มีพวงมาลาพระราชทานจากพระบาทสมเด็จ
พระเจ้ าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้ าฯ พระบรมราชินีนาถ
และพระบรมวงศ์ ด้านหน้าของอาคารจั ดวางเก้าอี้ เรียง
แถวจำนวนมาก สำหรับประชาชนที่ เดินทางมากราบ
สั ก ก า ร ะ น มั ส ก า ร ห ล ว ง พ่ อ แ พ
ข้ อ มู ล ส ถ า น ที่
ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
เมืองโบราณ
บ้านคูเมือง
เป็นชุมชนโบราณสมัยทวารวดีผังเมือง
เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมมน กว้าง 650 เมตร
ยาว 750 เมตร สูงจากพื้น 1 เมตร เนิน
ดินขนาดใหญ่ มีคูน้ำ คันดินล้อมรอบ มี
การขุดค้นพบภาชนะดินเผามากมาย เช่น
เครื่องถ้วยชาม หม้อ ไห กาน้ำ ลูกปัดหิน
สีต่าง ๆ ตะคันดินเผา ธรรมจักรหินเขียว
ตุ้มหู ลูกปัด หินสี และเหรียญเงินมีคำ
จารึกว่า “ศรีทวารวดีศวร ปุญยะ” แสดง
ให้เห็นว่ามีชุมชนอาศัยอยู่ในบริเวณ นี้
ติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยฟูนันจนถึง
รัตนโกสินทร์ ปัจจุบันวัตถุโบราณที่ค้น
พบได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี
ภายในบริเวณเมืองโบราณบ้านคูเมือง
ปัจจุบันได้จัดให้เป็นสวนรุกขชาติ มีเนื้อที่
500 ไร่ มีคูน้ำโบราณล้อมรอบ มีพันธุ์
ข้ อ มู ล ส ถ า น ที่
ต.ห้วยชัน อ.อิ นทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
วัดอัมพวัน
วัดอัมพวันเป็ นวัดที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุง
ศรีอยุธยาในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์
มหาราช ดังมีหลักฐานที่ปรากฎ เช่น พระพุทธ
รูปปางนาคปรกหิน 2 องค์ สมัยลพบุรี แบบหู
ยาน 2 องค์ ตู้พระธรรมสร้าง พ.ศ. 2200
จำนวน 1 ตู้ ตู้พระไตรปิฎกลายรดน้ำ 1 ตู้
พ.ศ. 2310 ศิลาจารึกในอุโบสถหลังเก่าจารึก
เป็ นภาษาจีนว่าคนจีนได้สร้างอุโบสถวัด
อัมพวัน สมัยเหม็งเชี้ยว คนจีนได้นำเรือกำปั่น
มาทำการค้ามากับฝรั่งชาติฮอลันดามาค้าขาย
กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่เมืองลพบุรี
จอดหน้ าวัดอัมพวัน ได้สร้างโบสถ์วัดอัมพวัน
สมัยเจ้าอาวาสวัดอัมพวันชื่อ พระครูญาณสังวร
อายุ 99 ปี สร้างโบสถ์เสร็จแล้ว ฝรั่งเพื่อนคน
จีนได้ขอพระราชทาน พระพุทธรูปปาง
นาคปรกหินทั้งสององค์จากสมเด็จพระ
นารายณ์มหาราช ให้คนจีนเอาไว้ในโบสถ์จนถึง
การสร้างโบสถ์หลังใหม่มา
ข้ อ มู ล ส ถ า น ที่
ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
ผู้จัดทำ
นางสาวศิริพร สมสิงห์
เลขที่ 16 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิก
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี
Singburi