การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์วรรณกรรมรางวลั ซีไรต์
เร่อื ง พุทธศกั ราชอสั ดง กับความทรงจำของแมวกุหลาบดำ
ดว้ ยแนวคิดตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
คณะผูจ้ ัดทำ
นาย ณฐั ภทั ร นิลสกุล เลขที่ 1
นางสาว กัญญาพชั ร สมี ุ้ย เลขท่ี 27
นางสาว กลุ ณิศา ทะมะรมย์ เลขที่ 32
นางสาว ปวันรัตน์ จนั เจอื เลขท่ี 33
นางสาว อรศญิ า สขุ ดี เลขท่ี 35
นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/11
เสนอ
คุณครู นพดล อถมพรมราช
รายงานการศึกษาค้นคว้า เพือ่ การวิเคราะห์ และ วจิ ารณ์วรรณกรรมรางวัลซไี รต์
ด้วยหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ แนวทางการวิเคราะห์ และวจิ ารณ์
ประกอบรายวิชา ภาษาไทยกา้ วหน้า ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ท31202
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
โรงเรยี นกำแพงเพชรพทิ ยาคม
สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร
พทุ ธศักราชอัสดง | ก
คำนำ
รายงานเล่มนี้เป็นการศึกษาค้นคว้า เพื่อการวิเคราะห์ และ วิจารณ์วรรณกรรมรางวัลซีไรต์
ดว้ ยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ แนวทางการวเิ คราะห์ และวจิ ารณ์ประกอบรายวชิ า ภาษาไทยกา้ วหน้า
ด้วยหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ท31202 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่อื ใหผ้ ้อู ่านไดร้ ู้เก่ยี วกับเรื่องพุทธศกั ราชอสั ดง
ฯ รู้ท่ีมาและองค์ประกอบของเรื่องนี้ การจัดทำรายงานเล่มน้ีได้ทำการค้นคว้า รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์และ
หนังสอื ผเู้ ขียนรายงานเล่มนห้ี วงั ว่าจะเป็นประโยชนแ์ ก่ผู้อา่ นตามสมควร
คณะผูจ้ ดั ทำ
สารบัญ พุทธศักราชอัสดง | ข
เร่ือง หนา้
คำนำ ก
สารบัญ ข
บทที่ 1 ทมี่ าและความสำคัญของการศึกษา 1-8
1. แนวคดิ ของการศกึ ษา 9-10
2. เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 11-12
2.1 ทฤษฎีองคป์ ระกอบวตั ถุประสงค์ของวรรณกรรม
2.2 แนวคดิ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 13
14
บทที่ 2 เน้ือเรอื่ งย่อ 15
ประวตั ผิ ู้แต่ง ค
บทที่ 3 ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวจิ ารณ์วรรณกรรมซีไรต์
บทที่ 4 วธิ กี ารดำเนินงาน และ หนา้ ท่ีรับผดิ ชอบการศกึ ษา
บทที่ 5 บทสรปุ ของการศึกษา และ ข้อเสนอแนะของการทำรายงาน
บรรณานุกรม
พุทธศักราชอสั ดง | 1
บทท่ี 1
บทนำ
ทีม่ าและความสำคญั ของการศึกษา
“พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ”นำเสนอเรื่องเล่าของครอบครัวชาวจีนโพ้น
ทะเลด้วยมุมมองใหม่ การต่อสู้ด้ินรนของชีวิตในแต่ละรุ่นของครอบครัวใหญ่ เล่าคู่ขนานไปกับเหตุการณ์การ
เปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมท้ังของไทยและจีน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและชะตากรรมของแต่ละตัว
นวนิยายเร่ืองน้ีโดดเด่นในการใช้ความทรงจำและประวัติศาสตร์ความรู้สึกส่วนบุคคล กลวิธีการประพันธ์มี
ความโดดเด่นด้วยช้ันเชิงทางวรรณศิลป์ โดยใช้การเล่าแบบนิทานท่ีมีลักษณะมหัศจรรย์และเหนือจริง กากร
นำเสนอตัวละครด้วยลลี าการเลา่ เรอ่ื งและการใชภ้ าษาเฉพาะตัวทำให้นวนิยายเรอื่ งนีม้ คี วามแปลกใหม่ ชวนให้
คดิ เกีย่ วกับประวตั ิศาสตร์และเรอื่ งเลา่ ของคนพลดั ถิ่น นวนิยายเร่อื งน้จี ึงเปน็ มติ ิใหม่ของนวนยิ ายไทยร่วมสมัย
1. แนวคดิ ของการศกึ ษา
1. ทฤษฏีและองคป์ ระกอบของวรรณกรรม
2. แนวคิดปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
2. แนวคิดของการศกึ ษา และ เอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง
2.1 ทฤษฎีองค์ประกอบวัตถุประสงคข์ องวรรณกรรม
รปู แบบ (Form)
วรรณกรรมรอ้ ยแก้ว
รางวัลซไี รต์ ประเภทนวนยิ าย
วีรพร นิติประภา คว้ารางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเย่ียมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี 2561
นักเขียนผู้หญิงคนแรก ท่ีควา้ รางวลั ซีไรต์ถงึ 2 ครงั้ และเป็นนกั เขียนดับเบ้ิลซีไรต์คนท่ี 3 ของไทย ต่อจากชาติ
กอบจิตติ และ วินทร์ เลียววารินทร์ จากผลงาน นวนิยาย “พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมว
กุหลาบดำ” จัดพิมพโ์ ดยสำนักพมิ พ์ มติชน นวนิยายในลำดับท่ี 2 ของชีวติ การเขยี น
น.ส.วีรพร เคยให้สัมภาษณ์ว่า หนังสือเล่มน้ีเกิดข้ึนจากความคิดท่ีอยากทำนวนิยาย เป็นเรื่อง
ครอบครัวที่มีตัวละครเยอะๆ โดยได้แรงบันดาลใจจากความสนใจในการเคลื่อนย้ายของผู้คนในช่วงหลายปีที่
ผ่านมา เช่น เร่ืองผู้ลี้ภัย คนชาติหน่ึงย้ายไปอยู่ในอีกประเทศหนึ่ง การขยับพ้ืนทีข่ องคนในพ้ืนที่หน่งึ ไปอีกพ้ืนที่
หน่ึง ซ่ึงโลกแคบลงและผู้คนไม่ได้อยู่ในระบบท่ีอยู่กับท่ีเหมือนแต่ก่อน ซึ่งเป็นส่ิงท่ีตนสนใจเป็นอย่างมาก
ภายในหนังสือ แสดงให้เห็นถึงความหวังค่อนข้างมาก ความหวังระหว่างความส้ินหวัง ความหวังระหว่าง
ความหวัง พูดถึงการด้ินรนของผู้คนในช่วงหลังสงคราม การพยายามดำรงอยู่ให้ได้ท่ามกลางการเปล่ียนแปลง
จากภายนอก โดยใช้ระยะเวลาในการเขยี นถึง 4 ปี 1 เดือน 1 อาทติ ย์ 16 ชั่วโมง
พุทธศกั ราชอสั ดง | 2
วีรพร นิติประภา เป็นอดีตคนโฆษณา สาวพ๊ังค์ เน็ตไอดอล และ นักเขียนรางวัลซีไรต์ประจำปี พ.ศ.
2558 จากนวนิยาย “ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต” ซ่ึงเป็นผลงานหนังสือเล่มแรกในชีวิต และอีกหนึ่งปีต่อมา
วีรพร นิติประภา ได้ตีพิมพ์ "พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ" โดยเคยคว้ารางวัล
ดเี ดน่ ประเภทนวนยิ าย ประจำปี 2560 จาก สพฐ. และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 เซเว่นบุ๊คอะวอร์ด ครงั้ ที่
14 ประจำปี 2560 “พุทธศักราชอัสดง กับความทรงจำของแมวกุหลาบดำ” เป็นนวนยิ ายที่จะทำให้คุณอยาก
รู้เรื่องราวและความเป็นไปของครอบครัวชาวจีนที่มาต้ังรกรากในเมืองไทย ว่าจะต้องประสบกับชะตากรรม
แบบใดบา้ ง ทา่ มกลางความเปลี่ยนแปลงของสงั คมไทยแต่ละช่วง
เน้อื หา (Content)
พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ (ผู้เขียนขอเรียกด้วยช่ือย่อว่า พุทธศักราช
อัสดงฯ) เป็นนวนิยายท่ีแต่งโดย วีรพร นิติประภา นักเขียนผู้ได้รับรางวัลซีไรต์ประจำปี 2558 จากนว
นิยาย ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต การได้รางวัลซีไรต์ทำให้ผลงานของวีรพรเป็นท่ีจบั ตา และพุทธศักราชอสั ดง
ฯ ก็ไม่ทำให้แฟนหนังสือของเธอผิดหวัง วีรพรยังคงถ่ายทอดความหวานซ้ึงและร้าวรานในชีวิตผู้คนผ่านภาษา
ของเธอทีแ่ สนไพเราะไดไ้ มเ่ ปลย่ี นแปลง
หากเรื่องราวในไส้เดือนตาบอดฯ นั้นวนเวียนอยู่กับความรักและการพลัดพรากของคู่รัก เร่ืองราวใน
พุทธศักราชอัสดงฯ กข็ ยับไปสู่ความผูกพนั และความปวดร้าวของความสัมพันธ์ในครอบครัว เล่าถึงเส้นทางของ
ครอบครัวคนจีนโพ้นทะเลบนแผ่นดินสยาม บนเส้นทางของการสร้างครอบครัวและขยับขยายฐานะ พวกเขา
ต้องผ่านพบความแปรผันหลายประการท้ังบนแผ่นดินไทยและแผ่นดินบ้านเกิด ดังสายน้ำแห่งโชคชะตาที่คอย
ซดั พรากแต่ละคนให้สาบสญู ไปคนละทิศละทาง
นับจากวันที่หัวหน้าครอบครัวแซ่ต้ัง ‘ตาทวดตง’ และภรรยา ‘ยายทวดเสงี่ยม’ รับเอาเด็กชายจาก
ครอบครัวท่ียากจนเข้ามาเป็นลูกบุญธรรม จากไม่มีลูกมาหลายปี พวกเขาก็กลับได้ลูกอิจฉาตามมาคนแล้วคน
เล่า จากน้นั ครอบครัวแซ่ตงั้ ก็ผา่ นเข้าสหู่ ว้ งเวลาท่เี ตม็ ไปดว้ ยเหตกุ ารณต์ ารปัตรพลิกผัน
“..การเปลี่ยนแปลงการปกครองอภิวัฒน์สยามทำให้ชาวจีนโพ้นทะเลต้องหวาดวิตกลึกๆ ในใจมาอีก
หลายปี จกั รวรรดิญี่ป่นุ และการแผข่ ยายอำนาจของลัทธฟิ าสซิสม์ในเอเซียบรู พา สงคราม รฐั นิยม มาลานำไทย
น้ำท่วมน้อยใหญ่หลายครา โรคระบาดหลายหน จนมาถึงการอพยพครอบครัวหนีลูกระเบิดท่ีถูกระดมท้ิงใส่
พระนครออกพเนจรไปในลำนำ้ กบฏรฐั ประหารนับคร้ังไมถ่ ้วน การลอบปลงพระชนมร์ ัชกาลทแี่ ปดซ่ึงมดื มนไป
ชัว่ กาลจักรวาล”
พุทธศักราชอสั ดง | 3
เง่ือนปมแห่งความสัมพันธ์ท่ีปวดร้าวถูกถ่ายทอดไปพรอ้ มกับเหตกุ ารณ์เหล่าน้ี ความร้าวรานที่ซ่อนใน
ใจของ ‘จงสว่าง’ ลกู เล้ียงที่กลายมาเป็นกำลงั หลักของครอบครัว แต่ยังหนีไมพ่ ้นความน้อยเนื้อต่ำใจในฐานะที่
แท้จริงของตน ความสัมพนั ธ์ระหว่างเขากับจงไสว น้องท่ีเป็นสายเลือดแท้จริงของครอบครัว ที่แม้จะเคยรักกัน
ปานจะกลืนแต่แล้วชะตาก็นำพาให้เขาท้ังสองต้องแยกจากและขัดแย้งกัน รวมถึงเรื่องราวของความรักท่ีไม่
สมหวงั ครัง้ แล้วครั้งเล่าของสมาชิกครอบครวั แทบทุกคน
มากกว่าเรื่องราวร้าวรานเหล่าน้ัน สิ่งที่เด่นชัดมากในพุทธศักราชอัสดงฯ ก็คือเร่ืองราวของความทรง
จำ โดยเฉพาะความทรงจำที่แสนเศรา้ และพร่าเลือน ตาทวดตงเป็นตัวละครท่ีแบกรับเอาความทรงจำแบบนไ้ี ว้
มากกว่าใครอื่น เม่ืออายุได้สิบห้าปีเขาก็จากครอบครัวในเมืองชนบทของมณฑลกวางตุ้งเพ่ืออพยพเข้ามา
ทำงานในกรุงเทพฯ และเมื่อเริ่มสร้างครอบครัวและกิจการของตนเอง ตาทวดตงกลับต้องเผชิญกับมรสุมจาก
ภาวะสงครามโลก ซ่งึ พดั พาจนเขามองไมเ่ ห็นที่ทางของตนในพระนครอีกต่อไป
“และเมื่อนกเหล็กกลับมาอีกคร้ังหลังน้ำลด…พระนครก็คงไม่พ้นถูกถล่มราบเป็นหน้ากลองในฟอน
ไฟ…ไม่รวมอำนาจมืดมองไม่เห็นที่สุมรุมคุกคาม ไหนทุกซอกทุกมุมเมืองจะมีแต่ทหารญ่ีปุ่นขวักไขว่เพ่นพ่าน
ฆ่าข่มขืนโหดร้ายท่ีนานกิงเม่ือไม่ก่ีปีก่อนท่ีได้ยินมายังฝังใจ…ไหนจะต้องคอยเก็บเน้ือเก็บตัวไม่ให้ไปผิดใจกับ
เจ็กจีนด้วยกันเองท่ีแตกแยกเป็นฝักฝ่ายจนไม่รู้ใครอยู่ก๊กไหนก๊วนไหน ไม่รวมต้องคอยเอาอกเอาใจทั้งราชการ
ไทยกับผู้กวา้ งขวางประดามีทีจ่ ้องหาเหตุใส่ร้ายไถรดี ”
ครอบครัวแซ่ตั้งระหกระเหินจากกรุงเทพฯ ไปตั้งตัวอยู่ท่ีเมืองแปดร้ิว พวกเขาสร้างหลักแหล่งให้กับ
ตนเองบนบา้ นหลังใหญ่ บ้านแบบท่ีตาทวดตงเคยวาดฝันไวเ้ มื่อครั้งยังยากจนวา่ สักวนั จะไดม้ ีเหมอื นกับใครเขา
แต่แม้จะไดล้ งหลักปักฐานบนบ้านท่ีตนเองใฝ่ฝัน ความทรงจำจากบ้านเกิดกย็ ังคอยตามมาจึงร้องเรียกอยู่เสมอ
เขายังมุ่งมัน่ ว่าวันหน่ึงจะได้กลับสู่ครอบครัวที่เมืองจีน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานส่งเงนิ กลับไป จนกระท่ังหนึ่งถึงรู้ว่า
“ถูกอาหยิ่วคนรับฝากเงินกลับบ้านหลอกโกงเงินมานานหลายปี เลวทรามอะไรเช่นน้ี ยังมีหน้ามารับเงินฝาก
กลับบ้านปีละสองครั้งจนกระท่ังมาขาดการติดต่อกันไปช่วงสงคราม โดยไม่ยอมปริปากบอกว่าครอบครัวเขา
ย้ายไปต้ังรกรากใหม่ที่อ่ืนนานแล้ว…ครั้นติดตามต่อไปจนถึงหมู่บ้านท่ีว่า ก็พบว่าท้ังครอบครัวตายไปพร้อมกัน
หมดแลว้ ในน้ำท่วมใหญเ่ ม่ือหลายปกี อ่ น”
แมจ้ ะสญู เสียแม่และพ่ีน้องไปแล้ว แตต่ าทวดตงก็ยังดั้งดน้ กลับไปสรา้ งครอบครัวใหมไ่ ว้อกี ครอบครัวท่ี
บ้านเกิด เพ่ือให้กลายมาเปน็ หลักชัยใหม่ให้เขาได้ประคองฝันในการพาครอบครวั จากเมืองไทยอพยพกลับเมือง
จีน แต่แล้วฝันน้ีกลับสลายไปอีกครั้ง เม่ือจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ทรัพย์สินท่ีตาทวดตง
พยายามสรา้ งไวท้ เี่ มืองจีนถกู ริบหายไปหมดส้นิ ทั้งครอบครัวใหม่ของเขาเองก็หายไปไมส่ ามารถตามหาได้
พุทธศกั ราชอัสดง | 4
ผา่ นการสญู เสียเจ็บช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความทรงจำเกีย่ วกับบ้านเกิดของตาทวดตงจงึ ค่อยตายจาก และ
แม้คนในครอบครัวดูเหมือนจะเข้าใจเขา แต่ก็ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าส่ิงสำคัญท่ีสุดที่เขาต้องสูญเสียน้ันไม่ใช่
เงนิ ทองทรพั ย์สนิ ไมใ่ ชเ่ พียงอีกครอบครวั ท่ีสญู หาย
“หากคือฐานที่มั่นเล็กจ้อยราวฝุ่นผงในจักรวาลว้างของคนหน่ึงคน คือหวังเดี่ยวดายที่ยึดโยงเขาไว้กับ
ลมหายใจ คอื ฝันประโลมที่พาเขาฟันฝ่าทุกขย์ ากขมขน่ื ท่ีชีวิตหยิบยื่นให้ไปจนถึงอีกฝั่งฝาก คือความหมายของ
การเกดิ มา…ดำรงอย”ู่ ความ (ไร)้ ทรงจำของคนจนี บนแผน่ ดินไทย
ความทรงจำร้าวรานของตาทวดตง ไม่เพียงมาจากการสูญเสียบ้านเกิดให้เดินทางกลับไปเท่าน้ัน อีก
ความรู้สึกท่ีคอยผลักดันให้เขารู้สึกสูญส้ินถึงความหมายของชีวิต คือการท่ีเขาไม่เคยรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของ
แผน่ ดนิ ใหม่ท่อี ยอู่ าศยั มานาน
ตาทวดตงมักจะมองอย่างขมข่ืนต่อเหตุการณ์ต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นกับเหล่าคนจีนอพยพในประเทศไทย เช่น
เมื่อเกิดเหตุการณ์จราจลกรณีเลี๊ยะพะขึ้นในเยาวราช ส่งผลให้ทางรัฐบาลส่งกำลังตำรวจหลายร้อยนายเข้าปิด
ลอ้ ม ก่อนจะกราดยงิ เข้าไปตามบ้านเรือนและร้านค้า ตาทวดตงก็ไม่เช่อื ถงึ เหตุผลท่ีรัฐบาลไทยประกาศ ว่าการ
จราจลน้ันเกิดข้ึนจากความดีใจจนบ้าคลั่งของชาวจีนชาตินิยมในชัยชนะจากสงคราม หรือเมื่อมองย้อนไปถึง
เหตุท่ชี มุ ชนคนจนี นนั้ ตกเป็นเป้าการทงิ้ ระเบิดของสมั พันธมิตรอย่บู ่อยครงั้ ในชว่ งสงครามโลก เขากเ็ ชือ่ ว่า
“…เป็นเพราะฝรั่งสัมพันธมิตรรู้ดีว่าบริเวณนั้นไม่ใช่ถ่ินฐานคนไทย แต่เป็นที่ทำมาหากินค้าขายของ
ชาวต่างชาติซ่ึงเข้ามาอาศัยแผ่นดินทำกิน จะล้มตายเสียหายแค่ไหนก็ไม่เป็นที่เดือดเน้ือหมางใจกับรัฐบาลไทย
ซ่ึงไม่ใช่ค่กู รณีโดยตรง”
คนอย่างตาทวดตงระลึกถึงความเป็นอ่ืนบนแผ่นดินไทยของตนเองอยู่เสมอ เขามองตนเองเป็นเพียงผู้
อาศยั อยู่แคช่ ั่วคราว ความทรงจำแสนเศร้าของการลาจากแม่แท้ๆ ท่เี ขาไม่มีโอกาสได้พบเจออีกครั้ง ยังคอยย้ำ
ให้เขาสำเหนียกว่าตวั เขาน้ัน “ชิงชังการเปน็ คนแปลกหนา้ บนแผน่ ดนิ ทไ่ี ม่ใช่ของของตนนเ้ี พียงไร”
การถ่ายทอดความทรงจำของการพลัดพรากและความรู้สึกเป็นอ่ืน ทำให้พุทธศักราชอัสดงฯ เป็น นว
นิยายท่ีวางตนต่างไปจากขนบของนวนิยายเกี่ยวกับคนจีนโพน้ ทะเลในประเทศไทย ทักษ์ เฉลิมเตียรณ อธิบาย
ถึงขนบดังกล่าวไว้ว่า งานเขียนเกี่ยวกับตัวพวกเขาเองของคนไทยเชื้อสายจีนน้ัน มักจะขาดอารมณ์อย่างที่พบ
เจอได้จากวรรณกรรมที่เขียนโดยคนจากชุมชนอพยพในประเทศอ่ืนๆ กล่าวคือ มักจะไม่ได้แสดงความรู้สึก
โกรธเกร้ยี ว อารมณ์รำพงึ รำพันถงึ การพลดั พราก และการไม่ได้รบั การยอมรบั จากชุมชนเจา้ ถ่ิน
พุทธศักราชอสั ดง | 5
การทลายขนบในพุทธศักราชอัสดงฯ ยังผลักดันให้เราทบทวนอีกคร้ังว่า แท้จริงแล้วเราได้ลืมเลือน
แง่มุมใดในอดีตของคนจีนโพ้นทะเลในไทยไปบ้าง ตา่ งจากความเช่ือที่แพร่หลายในปัจจุบันของลูกหลานคนจีน
ในไทย ที่มกั จะเข้าใจเอาส้ันๆ งา่ ยๆ ว่าการจากลาจากบ้านเกิดของบรรพบุรุษตนเองนั้นเป็นความโชคดี เพราะ
พวกเขาได้มาพ่ึงพาดินแดนใหม่ท่ีต้อนรับและให้โอกาส แต่แท้จริงแล้วเส้นทางของคนจีนอพยพในสยาม
โดยเฉพาะเหล่าแรงงานที่หลง่ั ไหลเข้ามามากมายต้ังแตส่ มยั รัชกาลที่ห้า ลว้ นไม่ได้เป็นเสน้ ทางที่ง่ายดาย
ต้ังแต่เร่ิมมีการรวมศูนย์รัฐ ผู้มีอำนาจในสยามก็มองเหล่าคนจีนอพยพด้วยความกังวล เพราะคนจีน
เหล่าน้ีไม่เพียงแต่มีจำนวนมากมาย แต่ยังมีระบบการปกครองกันเองผ่านสมาคมลับท่ีเรียกว่าอ้ังยี่ รฐั สมัยใหม่
ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว ไม่อาจควบคุมจัดการกลุ่มคนจีนทีแตกเป็นกลุ่มย่อยและขัดแย้งกันอยู่เสมอๆ ได้อย่าง
ต้องการ ถึงข้ันท่ีเคยหวาดกลัวว่าคนจีนท่ีควบคุมไม่ได้เหล่าน้ี จะกลายไปเป็นกำลังช่วยเจ้าอาณานิคมอย่าง
ฝรัง่ เศสเขา้ ยดึ กรงุ เทพฯ ด้วยซ้ำ
ความกังวลใจรัฐไทยที่มีต่อคนจีนอพยพ ถูกแสดงออกอย่างชัดเจนในสมัยรัชกาลที่หก อาจเพราะเมื่อ
พระองค์ข้ึนครองราชย์ ก็ต้องเผชิญกับการนัดหยุดงานคร้ังใหญ่ของแรงงานจีนในกรุงเทพฯ ในพ.ศ. 2453 คำ
บอกเล่าจากหนังสือพิมพ์ต่างชาติเล่าถึงสภาพหลังการหยุดงานครั้งน้ันว่า แทบทำให้กิจการการค้าของ
กรุงเทพฯ ทั้งหมดต้องหยุดชะงักลง กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองท่ีเงียบสงัด จนท้ายท่ีสุดรัฐบาลต้องใช้กำลังเข้า
จดั การผู้นำแรงงานชาวจีนอยา่ งเดด็ ขาดจงึ คลค่ี ลายสถานการณไ์ ด้
หลังจากเหตุการณ์น้ัน ความพยายามของผู้ปกครองในการต่อต้านความมั่งคั่งและบทบาททางการ
เมืองของคนจีนในสยามก็เด่นชัด โดยเฉพาะเม่ือมีการเปรียบเทียบจากราชสำนักว่าคนจีนน้ันเป็นด่ัง ‘ยิวแห่ง
บรู พาทิศ’ ท่ีมคี วามเป็นต่างด้าว จอ้ งคอยจะเอาเปรียบคนไทย และยังขาดความจงรักภกั ดี
การเปล่ียนแปลงการปกครอง 2475 เหมือนจะเปิดโอกาสเปล่ียนแปลงฐานะของคนจีนในสยามให้ดี
ข้ึน แต่ความหวังนี้ก็ไม่เป็นจริง เม่ือจอมพล ป.พิบูลสงคราม ข้ึนเรืองอำนาจพร้อมนโยบายชาตินิยมแบบ
ฟาสซิสม์ การเปรียบเปรยคนจีนให้เป็นอื่นท่ีเริ่มไว้ใน ‘ยิวแห่งบูรพาทิศ’ ถูกร้ือฟิ้นกลับมา พร้อมกับนโยบาย
เศรษฐกิจท่ีมุ่งเป้าไปที่พ่อค้าจีนว่าเป็นต้นตอของการเอารัดเอาเปรียบคนไทย เป็นเหตุให้รัฐบาลต้องเข้ามา
ควบคุมบทบาททางเศรษฐกจิ ของคนจนี และพยายามกดี กันพวกเขาออกจากอำนาจทางการค้า
อสั ดงแห่งความทรงจำ
หากจะว่าไปแลว้ กว่าท่เี หลา่ คนจีนโพ้นทะเลจะได้มีโอกาสสร้างเน้ือสร้างตวั ไดโ้ ดยไมต่ ้องถูกกดดัน
และบบี คั้นจากรัฐไทย ก็ล่วงมาถึงช่วงหลังพ.ศ.2500 ทนี่ โยบายเศรษฐกิจแบบชาตนิ ยิ มถูกยกเลิกไป และ
แทนท่ดี ้วยนโยบายเศรษฐกิจแบบใหม่ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ทีม่ ุ่งสง่ เสรมิ บทบาทของทนุ เอกชน ซง่ึ โดยมากก็
คือทุนเชื้อสายจนี นนั่ เอง
พทุ ธศักราชอัสดง | 6
หากแท้จริงแล้วเส้นทางของคนจีนท่ีอพยพหนีความลำบากยากจนเข้ามาหาโอกาสในเมืองไทยไม่ใช่
เส้นทางท่ีง่ายดาย แต่แล้วทำไมความทรงจำเก่ียวกับหลากหลายปัญหาท่ีพวกเขาพบเจอจึงไม่ถูกเล่าถึงนกั เหตุ
ใดความทรงจำเหล่าน้ีจึงพร่าเลือนและถูกทดแทนด้วยคำบอกเล่าอื่น โดยเฉพาะคำบอกเล่าถึงการเข้ามา ‘พ่ึง
พระบรมโพธิสมภาร’
ทักษ์ต้ังข้อสังเกตไว้ว่า การรณรงค์และนโยบายกีดกันคนจีนอพยพในสยาม เช่นท่ีเคยถูกใช้ในการ
กล่าวถึงยิวแห่งบูรพาทิศนั้น แท้จริงไม่ได้มุ่งหมายจะกีดกันคนจีนท้ังหมด แต่มุ่งขีดเส้นแบ่งระหว่างคนจีนท่ีดี
และไม่ดีออกจากกัน โดยคนจีนท่ีดีน้ันก็คือจีนท่ียอมรับความเป็นไทย ในขณะที่จีนที่ไม่ดีก็คือจีนท่ียังคงสภาพ
ความเป็นอื่นของตนเองไว้ ผลของนโยบายเช่นน้ีคือการผลักดันคนจีนให้ยอมรับอัตลักษณ์ใหม่และสละท้ิง
ตัวตนเดิม
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความพยายามกดี กันคนจนี ในไทยนั้น แยกไม่ออกจากความพยายามกลนื กลายคนจีน
ในสังคมไทย นโยบายชาตินิยมสมัยจอมพล ป. แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความพยายามดังกล่าว ตั้งแต่การท่ี
รัฐบาลผลักดันให้คนจีนหันมาใช้นามสกุลไทยและเปลี่ยนมาใช้สัญชาติไทย จนถึงการปิดโรงเรียนจีนและ
หนังสือพิมพ์จีน สิ่งท่ีรัฐทำเหล่าน้ีก่อให้เกิดการกลืนเช้ือชาติอย่างรวดเร็ว และในช่วงเวลาเพียงไม่นาน คนจีน
จำนวนมหาศาลในไทยก็ขาดความสามารถจะส่ือสารกันเองในภาษาจีน มิหนำซ้ำยังต้องหันมาใช้ภาษาไทยใน
การเรียนร้วู ฒั นธรรมของตน
ความพยายามกลืนเชื้อชาติจีนของรัฐไทย ถูกปรับแต่งอีกคร้ังในช่วงหลังสงครามโลกคร้ังที่สอง ทักษ์
เล่าถงึ นโยบายลบั ที่ถูกใช้เพ่อื ป้องกันการขยายตัวของลัทธคิ อมมิวนิสตใ์ นหมคู่ นจนี ในไทยไว้ว่า รัฐบาลตระหนัก
ว่าการมุ่งจำกัดอิทธิพลและขจัดบทบาทของคนจีนและสมาคมของพวกเขาน้ัน อาจกลับกลายเป็นการสร้าง
ความเกลียดชังและแรงเสียดทาน แนวนโยบายท่ีรัฐไทยใช้จงึ กลายมาเป็นการหาหนทางทำใหค้ นจนี ในประเทศ
ไทยกลายเป็น ‘ราษฎรไทยท่ีจงรักภักดี’ แนวทางน้ีถูกคาดหวังว่าจะลดความเป็นไปได้ท่ีคนจีนในไทยจะหันไป
ฝกั ใฝค่ อมมวิ นสิ ต์ ด้วยการสร้าง ‘ความมนั่ คง’ ใหก้ ับพวกเขา
การหยิบยื่นความม่ันคงเพ่ือแลกกับการลืมเลือนตัวตนและความทรงจำที่ปวดร้าว ดูจะเป็นแนวทางท่ี
ได้ผลดยี ง่ิ โดยเฉพาะในบริบทท่ีคนจนี อพยพจำนวนมากต้องสูญเสียความหวังในการกลบั สู่บ้านเกิด ด้วยเพราะ
ความพลิกผันในการเมอื งของประเทศตนเอง ทำใหพ้ วกเขาไมม่ บี า้ นให้กลบั อีกต่อไป
ในพุทธศักราชอัสดงฯ หลังจากการเปลี่ยนแปลงที่เมืองจีน ตาทวดตงก็เปล่ียนแปลงความคิดของ
ตวั เองไปอยา่ งส้นิ เชิง
“จนเมืองจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองและทรัพย์สินท่ีมีทั้งหมดถูกริบหาย ตาทวดตงจึงตระหนักว่า
ความมั่งค่ังที่สร้างมาได้…ไม่วา่ จะยากลำบากเพียงไหน ก็อาจสูญหายในอากาศธาตุเอางา่ ยดายเหมือนไม่เคยมี
ความม่นั คงตา่ งหากเลา่ ทท่ี ่ีเขาตอ้ งการ…”
พุทธศักราชอัสดง | 7
ดูเหมือนว่าท้ายท่ีสุดแล้ว การยอมให้ความทรงจำของตนเองพร่าเลือนไปของคนจนี อพยพเช่นตาทวด
ตง จะเป็นทางออกให้พวกเขาได้เยียวยาบาดแผลและเร่ิมต้นชีวิตใหม่ แนวทางเช่นนี้ไม่ต่างจากที่คนจีนในไทย
จำนวนมหาศาลเลือกเดินเช่นกัน พวกเขารับเอาอัตลักษณ์ใหม่เข้ามาเป็นของตน เรื่องราวของคนจีนท่ีกตัญญู
ต่อบ้านเมืองใหม่ของพวกเขา เข้ามาแทนที่คนจีนท่ียังอาลัยถ่ินกำเนิดท่ีจากมา ความสำเร็จในชิวิตของคนจีน
รุ่นต่อๆ มาถูกเชื่อมโยงกับการรู้จักสำนึกบุญคุณแผ่นดินใหม่ และในเวลาเพียงไม่ก่ีสิบปี ปรากฏการณ์อย่าง
‘ลูกจนี รกั ชาต’ิ ทแ่ี สดงออกถึงความเป็นไทยอยา่ งล้นเหลือกเ็ กิดข้ึน
ในทางหนึ่งเราอาจมองไดว้ ่า การยอมโดนกลืนตัวตนและสูญส้ินความทรงจำก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ในเมื่อ
ความทรงจำนั้นก็มีแต่บาดแผลให้ระลึก และการจดจำถึงความเป็นอื่นก็มีแต่จะเป็นฐานแห่งความแปลกแยก
แตกต่างในสงั คม
แตใ่ นอีกทางหน่งึ เราก็อาจถามได้เชน่ กันว่า การอยู่อยา่ งไร้ความทรงจำน้นั เป็นเร่อื งที่ดแี ล้วจรงิ ๆ หรือ
เพราะแม้ความทรงจำน้ันจะเจ็บปวด แต่ก็ยังทำให้เรายึดอยู่กับความเป็นจริงของชีวิตได้ การไม่ยอมจดจำ
ต่างหากที่อาจเป็นเหตุชีวิตต้องอยู่อย่างล่องลอย ไร้ความจริงให้ยึดเหนี่ยว และชีวิตท่ีล่องลอยก็อาจต้องหลง
ทางเวียนวนอยู่ในโลกสมมติจนเข้าถึงความมั่นคงใดๆ ไม่ได้อย่างแท้จริง ดังวลีหนึ่งท่ีพุทธศักราชอัสดงฯ ทิ้ง
ทา้ ยเอาไว้
โครงเรื่อง (Plot)
ความทรงจำของคน ความทรงจำของแมว ความทรงจำที่คลุมเครือ วุ่นว่ิน จนแทบไม่อาจจำแนกรู้ได้
ว่า เราอยู่ในโลกจริงหรือสมมุติ ประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซัดพาให้ชีวิต ความรัก ต้อง
ระหกระเหินเกินบรรยาย ครอบครัวจนี อพยพท่ีพยายามตามหา "บ้าน" ทั้งในความหมายของสถานทแี่ ละบ้าน
ภายในจิตใจ ซึ่งตัวละครต่างรู้สึกในทางเดยี วกันวา่ ไม่อาจหยัดยืนอย่างเต็มตวั ในพ้ืนที่ใด ๆ ได้ จะเดินต่อก็
แปลกแยกจะหวนกลับก็ไม่อาจย้อนคืน ooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo
โศกนาฏกรรมของผู้คนบนประเทศไร้ทรงจำ "วีรพรนิติประภา" เห็นถึงความเว้าแหว่งในทรงจำของ
ผู้คน จึงหยิบฉากตอนของเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในประเทศที่แทบจะไม่มีความทรงจำนี้มาเขย่าขย้อนเล่น
แล้วจับเรื่องราวทั้งหมดเข้าไปอยู่ในความทรงจำของแมวตัวหน่ึงซ่ึงมันก็นึกออกและบอกเล่าออกมกระท่อน
กระแทน่ ตามประสาแมวๆ ท้ังสง่ิ ที่เหน็ และได้ยนิ เองจากคนในบา้ นทอี่ าศัยอยู่ และเรอ่ื งเล่าที่ผู้คนเล่าสู่
กนั ฟัง ท่ีมันเองก็ไมร่ ู้ต้นสายปลายเหตุเพื่อสะทอ้ นใหเ้ ห็นถงึ ระบบจำของคนเราที่มักนึกออกเป็นห้วงๆ
และมักเปน็ ทรงจำท่เี ข้าขา้ งตัวเองเสมอดว้ ย
แก่นเรื่อง (Theme)
“พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ”นำเสนอเร่ืองเล่าของครอบครัวชาวจีน
โพ้นทะเลด้วยมุมมองใหม่ การต่อสู้ด้ินรนของชีวิตในแต่ละรุ่นของครอบครัวใหญ่ เล่าคู่ขนานไปกับเหตุการณ์
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมทั้งของไทยและจีนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและชะตากรรมของแต่ละ
ตวั
พุทธศักราชอัสดง | 8
ฉาก (Setting)
บ้าน ประเทศไทย ประเทศจนี
ตวั ละคร (Character)
ทะเลที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ต้ังแต่รุ่นใหญ่อย่างอาทวดตงและยายทวดเสงี่ยม ไล่
ระดับลงมาจนถึงหนูดาวในยุคปัจจุบัน เนื้อเรื่องเล่าถึงแต่ละคนในครอบครัวที่ล้วนแต่มี “ความหวัง” ของ
ตนเอง และความต้องการ “พื้นท่ี” ท่ีจะบอกถึงความมีตัวตนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยท่ีเรียกว่า
บ้าน พ้นื ที่ในครอบครัว สังคม หรือประเทศ รวมถงึ พื้นท่ใี นความรสู้ ึกนกึ คดิ ของใครคนหนงึ่ และดว้ ยความท่ตี ัว
ละครแต่ละตัวไม่มีพ้ืนท่เี ป็นของตนเองอย่างแท้จริง ชีวิตของแต่ละคนจึงเดินทางไปขา้ งหน้าดว้ ยความแตกต่าง
ตามโชคชะตาท่ีไม่ได้กำหนดด้วยตนเอง แต่ถูกกำหนดจากคนรอบข้าง และสภาพแวดล้อมรอบตัว อย่างเช่น
เหตุการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นในสังคม โดยใช้การเล่าที่ค่อนข้างซับซ้อนเพ่ือสร้างความน่าสนใจให้กับเน้ือเรื่อง คือ
ใช้ตวั ละครแต่ละตัวเป็นตัวเล่าเรื่องของตน ในมุมมองตา่ งกัน โดยมีดาวและยายศรีเป็นตวั ละครหลัก เล่าตัดไป
มา โดยให้ผู้อ่านปะติดปะต่อเองว่าเร่ืองราวเป็นอย่างไร ใครเป็นใคร มีชีวิตอยา่ งไร จุดจบอย่างไร และที่สำคัญ
คอื ใครเป็นแมด่ าว
บทสนทนา (Dialogue)
ส่ิงท่ีหนังสอื เล่มน้ีมจี ุดเดน่ อาจเรยี กว่าความสามารถเฉพาะตัวของนักเขยี นคือเร่อื งของการใช้ภาษา ไม่
วา่ จะเป็นวิธเี ลือกใช้คำมาอธิบายและวิธเี ล่าเร่ือง ผู้เขียนมีเทคนิคการเล่าเร่ืองที่ทำให้ผู้อ่านจมดิ่งไปกับตัวละคร
ได้ในขณะเดียวกันกม็ ีทางให้ได้ผ่อนคลายเป็นบางคราวโดยการสลับเรื่องราวไปมาและใช้ตัวละครที่เป็นเด็กมา
เล่าหรอื ให้ตั้งคำถามเปน็ เชิงเป็นบทสนทนาและทำใหผ้ ้อู า่ นรสู้ กึ เหมือนฟงั เรื่องเล่าทั่วไป
เทคนคิ ในการนำเสนอเรือ่ ง (Point of View)
นวนิยายยังได้นำเสนอรูปแบบความรัก ท่ีเราอาจคาดไม่ถึงในรูปแบบของความสัมพันธ์ แต่ความคาด
ไมถ่ ึงนน้ั วีรพรกส็ ามารถนำเอาไปเปรยี บกับการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองได้
ท่วงทำนองในการแต่ง (Style)
ผู้ประพันธ์เปิดเรื่องพุทธศักราชอัสดงฯ โดยให้ผู้เล่าเรื่องบรรยายความรู้สึกของหนูดาวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
รอบๆ ตัว
การปดิ เร่อื ง (Ending)
จบเรอ่ื งแบบจบไม่มภี าคต่อ
พทุ ธศักราชอัสดง | 9
2.2 แนวคิดตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. เงอื่ นไข 5W 1H
What (อะไร)
ครอบครัวชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพมาที่ประเทศ ต่อสู้ดิ้นรนของชีวิตในแต่
ละรนุ่ ของครอบครัวใหญ่
Who (ใคร)
ครอบครวั ชาวจนี ดาว ยายศรี
When (เมือ่ ไหร่)
ช่วงเวลาใน พ.ศ. 2453
Where (ทีไ่ หน)
ประเทศไทย
Why (ทำไม)
การเปลย่ี นแปลงทางการเมืองและสังคมท้งั ของไทยและจนี
How (อยา่ งไร)
ทำยังไงให้อยใู่ นประเทศไทยได้อยา่ งสงบสุข
2. หลักการ 3 ห่วง 2 เง่ือนไข 4 มติ ิ
ทฤษฎี 3 ห่วง
พอประมาณ คือ พอใจในสัญชาติของตนเอง
มีเหตุผล คือ มเี หตุผลและเข้าใจเพ่ือนรว่ มชาติด้วยกนั
มภี ูมิคมุ้ กัน คือ ยอมรบั สิ่งทีจ่ ะเกิดขนึ้ กับตัวเราหลังจากอพยพเขา้ มาที่
ประเทศไทย
ทฤษฎี 2 เงื่อนไข
ความรู้ คือ การตอ่ สู้ดิ้นรนของชีวติ ในแตล่ ะรนุ่ ของครอบครัวจนี
คณุ ธรรม คอื การชว่ ยเหลือเพอ่ื นร่วมชาตเิ ดียวกัน
ทฤษฎี 4 มิติ
เศรษฐกิจ คอื การเอารดั เอาเปรียบทางการคา้
สังคม คือ การด้นิ รนชีวิตในช่วงน้ัน
ส่งิ แวดล้อม คือ ความเป็นอยู่
วัฒนธรรมคือ การไม่ยอมรับคนจนี
พทุ ธศกั ราชอสั ดง | 10
5. เอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ ง
หนงั สือพุทธศกั ราชอสั ดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ
6. ขอบเขตของการศกึ ษา เอกสารประกอบการเรียนร้ตู ามไฟล์แนบในช้ันเรยี น
7. ประโยชนท์ ่ีได้รับจากการศกึ ษา
1.ไดท้ ราบรปู แบบและเน้ือหาของวรรณกรรมไทยเรอ่ื งพทุ ธศกั ราชอสั ดง
2.ได้ทราบถึงปัญหา อุปสรรค์และข้อจำกดั ในการนำเสนอวรรณกรรมไทยเร่อื ง พทุ ธศักราชอัสดง
8. วธิ ีการศกึ ษา
1.สำรวจและรวบรวม ศกึ ษา วรรณกรรมไทยเรือ่ ง พุทธศกั ราชอสั ดง ตลอดจนศึกษาข้อมูลท่ี
เกีย่ วกบั เรอื่ งน้ีและองค์ประกอบเพื่อเปน็ แนวทางสำหรบั การวเิ คราะหร์ ปู แบบและเนื้อหา
2.วิเคราะหว์ รรณกรรมไทยเรื่อง พุทธศักราชอสั ดงและจำแนกรปู แบบและเนอื้ หา
3.วิเคราะหป์ ัญหาอปุ สรรคแ์ ละข้อจำกัดของวรรณกรรมไทยเรื่อง พุทธศกั ราชอัสดง
4.สรปุ ผลการศึกษา
พุทธศกั ราชอัสดง | 11
บทที่ 2
เนื้อเรอ่ื งยอ่
นับจากวันที่หัวหน้าครอบครัวแซ่ตั้ง ‘ตาทวดตง’ และภรรยา ‘ยายทวดเสงี่ยม’ รับเอาเด็กชายจาก
ครอบครัวที่ยากจนเข้ามาเป็นลูกบุญธรรม จากไม่มีลูกมาหลายปี พวกเขาก็กลับได้ลูกอิจฉาตามมาคนแล้วคน
เลา่ จากนั้นครอบครวั แซต่ ง้ั ก็ผา่ นเขา้ สู่ห้วงเวลาทเี่ ตม็ ไปดว้ ยเหตุการณต์ ารปตั รพลิกผัน
การเปล่ียนแปลงการปกครองอภิวัฒน์สยามทำให้ชาวจีนโพ้นทะเลต้องหวาดวิตกลึกๆ ใ จักรวรรดิ
ญป่ี ุ่นและการแผ่ขยายอำนาจของลัทธฟิ าสซิสม์ในเอเซยี บูรพา สงคราม รฐั นยิ ม มาลานำไทย นำ้ ทว่ มน้อยใหญ่
จนมาถึงการอพยพครอบครวั หนีลูกระเบิดท่ีถูกระดมท้ิงใส่พระนครออกพเนจรไปในลำน้ำ กบฏรัฐประหารนับ
คร้ังไม่ถ้วน เงื่อนปมแห่งความสัมพันธ์ท่ีปวดร้าวถูกถ่ายทอดไปพร้อมกับเหตุการณ์เหล่าน้ี ลูกเลี้ยงท่ีกลายมา
เป็นกำลังหลักของครอบครัว แต่ยังหนีไม่พ้นความน้อยเนื้อต่ำใจในฐานะที่แท้จริงของตน น้องท่ีเป็นสายเลือด
แท้จริงของครอบครัว ที่แม้จะเคยรักกันปานจะกลืนแต่แล้วชะตาก็นำพาให้เขาทงั้ สองต้องแยกจากและขัดแย้ง
กนั รวมถงึ เร่ืองราวของความรกั ท่ีไมส่ มหวังคร้ังแลว้ ครั้งเลา่ ของสมาชกิ ครอบครัวแทบทกุ คน
มากกวา่ เร่อื งราวร้าวรานเหล่าน้ัน สงิ่ ท่เี ด่นชดั มาก กค็ ือเรือ่ งราวของความทรงจำ โดยเฉพาะความทรง
จำท่ีแสนเศร้าตาทวดตงเป็นตัวละครท่ีแบกรับเอาความทรงจำแบบน้ไี ว้มากกว่าใครอืน่ เมื่ออายุไดส้ บิ ห้าปีเขาก็
จากครอบครัวในเมืองชนบทของมณฑลกวางตุ้งเพ่ืออพยพเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ และเม่ือเร่ิมสร้าง
ครอบครัวและกิจการของตนเอง ตาทวดตงกลับต้องเผชิญกบั มรสุมจากภาวะสงครามโลก ซ่ึงพัดพาจนเขามอง
ไม่เหน็ ทที่ างของตนในพระนครอีกต่อไป
ครอบครัวแซ่ตั้งระหกระเหินจากกรุงเทพฯ ไปตั้งตัวอยู่ที่เมืองแปดร้ิว พวกเขาสร้างหลักแหล่งให้กับ
ตนเองบนบ้านหลังใหญ่ บ้านแบบท่ีตาทวดตงเคยวาดฝันไว้เมอ่ื ครง้ั ยังยากจนว่าสักวันจะไดม้ ีเหมอื นกับใครเขา
แต่แม้จะได้ลงหลักปักฐานบนบ้านที่ตนเองใฝ่ฝัน ความทรงจำจากบ้านเกิดก็ยังคอยตามมาร้องเรียกอยู่เสมอ
เขายังมุ่งม่นั ว่าวันหน่ึงจะได้กลับสู่ครอบครัวท่ีเมืองจีน ตั้งหน้าต้ังตาทำงานส่งเงินกลับไป จนกระทั่งหน่ึงถึงรู้ว่า
ถูกอาหยิ่วคนรับฝากเงินกลับบ้านหลอกโกงเงินมานานหลายปี มีการมารับเงินฝากกลับบ้านปีละสองครั้ง
จนกระท่ังมาขาดการติดต่อกันไปช่วงสงคราม โดยไม่ยอมปริปากบอกว่าครอบครัวเขาย้ายไปตั้งรกรากใหม่ท่ี
อื่นนานแล้วครั้นติดตามต่อไปจนถึงหมู่บ้านท่ีว่า ก็พบว่าทั้งครอบครัวตายไปพร้อมกันหมดแล้วในน้ำท่วมใหญ่
เมือ่ หลายปีก่อน
แมจ้ ะสูญเสียแม่และพ่นี ้องไปแล้ว แตต่ าทวดตงก็ยงั ดั้งดน้ กลับไปสรา้ งครอบครัวใหมไ่ ว้อีกครอบครัวที่
บ้านเกิด เพ่อื ใหก้ ลายมาเปน็ หลักชยั ใหมใ่ ห้เขาไดป้ ระคองฝันในการพาครอบครัวจากเมืองไทย
พุทธศักราชอัสดง | 12
อพยพกลับเมืองจีน แต่แล้วฝันน้ีกลับสลายไปอีกครั้ง เมื่อจีนเปล่ียนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์
ทรัพย์สินท่ีตาทวดตงพยายามสร้างไว้ท่ีเมืองจีนถูกริบหายไปหมดส้ินทั้งครอบครัวใหม่ของเขาเองก็หายไปไม่
สามารถตามหาผ่านการสูญเสีย ความทรงจำเก่ียวกับบ้านเกิดของตาทวดตงจึงค่อยตายจาก และแม้คนใน
ครอบครัวดูเหมือนจะเข้าใจเขา แต่ก็ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าส่ิงสำคัญท่ีสุดท่ีเขาต้องสูญเสียน้ันไม่ใช่เงินทอง
ทรัพย์สิน ไม่ใช่เพียงอีกครอบครัวท่ีสูญหายความทรงจำร้าวรานของตาทวดตง ไม่เพียงมาจากการสูญเสียบ้าน
เกิดใหเ้ ดนิ ทางกลบั ไปเท่าน้ัน อีกความรสู้ ึกที่คอยผลักดันใหเ้ ขารสู้ ึกสูญสิ้นถึงความหมายของชีวิต คือการท่เี ขา
ไมเ่ คยรู้สึกเปน็ สว่ นหนึ่งของแผ่นดินใหม่ทอ่ี ยอู่ าศัยมานาน
ตาทวดตงมักจะมองอย่างขมข่ืนต่อเหตุการณ์ต่างๆ ทเ่ี กดิ ข้ึนกับเหล่าคนจีนอพยพในประเทศไทย เช่น
เม่ือเกิดเหตุการณ์จราจลกรณีเล๊ียะพะขึ้นในเยาวราช ส่งผลให้ทางรัฐบาลส่งกำลังตำรวจหลายร้อยนายเข้าปิด
ล้อม ก่อนจะกราดยงิ เขา้ ไปตามบ้านเรือนและร้านค้า ตาทวดตงก็ไม่เช่อื ถึงเหตผุ ลท่ีรัฐบาลไทยประกาศ วา่ การ
จราจลน้ันเกิดขึ้นจากความดีใจจนบ้าคลั่งของชาวจีนชาตินิยมในชัยชนะจากสงคราม หรือเมื่อมองย้อนไปถึง
เหตุทช่ี ุมชนคนจีนนนั้ ตกเป็นเปา้ การท้งิ ระเบิดของสมั พันธมิตรอยูบ่ ่อยครัง้ ในช่วงสงครามโลก
คนอย่างตาทวดตงระลึกถึงความเป็นอ่ืนบนแผ่นดินไทยของตนเองอยู่เสมอ เขามองตนเองเป็นเพียงผู้
อาศยั อยูแ่ ค่ชว่ั คราว ความทรงจำแสนเศร้าของการลาจากแมแ่ ทๆ้ ที่เขาไม่มโี อกาสได้พบเจออีกครงั้
ประวัติผแู้ ตง่ พ.ศ.
ชื่อ : วีรพร นิตปิ ระภา
เกิด : 4 สิงหาคม 2505 ( อายุ 59 ปี ), กรุงเทพมหานคร
การศกึ ษา : โรงเรียนบดินทรเดชา ( สงิ ห์ สงิ หเสนี ) , โรงเรยี นเซนตจ์ อหน์
รางวลั ที่ได้รับ : รางวลั วรรณกรรมสรา้ งสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซยี น (ซีไรต)์
2558 จากเรื่อง ไสเ้ ดือนตาบอดรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทนวนิยาย
รางวลั เซเวน่ บุ๊คอวอร์ด คร้ังท่ี 11 (2557),
รางวลั ดีเด่น กลมุ่ หนงั สอื นวนยิ าย (สพฐ.) (2560)
รางวัลรองชนะเลิศอนั ดบั 1 ประเภทนวนิยาย รางวลั เซเว่นบคุ๊ อวอรด์
ครัง้ ที่ 14 (2560)
รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซยี น (ซไี รต)์ ประจำปี
2561 จากเรอ่ื ง พทุ ธศักราชอสั ดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกหุ ลาบดำ
ผลงาน : ประเภทงานเขียน นวนยิ าย
ผลงานเด่น ไสเ้ ดือนตาบอดในเขาวงกต
ผลงานรวมเล่ม ไสเ้ ดอื นตาบอดในเขาวงกต, พุทธศกั ราชอสั ดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ
พทุ ธศักราชอัสดง | 13
บทท่ี 3
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการวจิ ารณ์วรรณกรรมซไี รต์
เรือ่ งพทุ ธศกั รราชอสั ดง กบั ความทรงจำของแมวกุหลาบดำ
“…เขาสำเหนียกเป็นคร้ังแรกว่าเขาชิงชังการเป็นคนแปลกหน้าบนแผ่นดินที่ไม่ใช่ของตนน้ีเพียงไร /
เขากลายเป็นคนไร้ญาติขาดมิตรติดคา้ งในดนิ แดนแปลกหนา้ นี้ไปช่วั นิรันดร / ความแหวง่ ว่ินและพรา่ เลือนของ
ชวี ิต บางทีก็ทำให้ไม่แน่ใจวา่ เรายนื อยู่ฝั่งไหนของโลกจริง – สมมต”ิ พทุ ธศักราชอสั ดงฯ เป็นเรื่องราวเก่ยี วกับ
ครอบครัว “แซต่ ั้ง” ชาวจีนโพ้นทะเลท่ีอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ต้ังแต่รุ่นใหญ่อย่างอาทวดตงและ
ยายทวดเสงี่ยม ไล่ระดับลงมาจนถึงหนูดาวในยุคปัจจุบัน เนื้อเรื่องเล่าถึงแต่ละคนในครอบครัวท่ีล้วนแต่มี
“ความหวัง” ของตนเอง และความตอ้ งการ “พื้นท่ี” ที่จะบอกถึงความมีตัวตนของตนเอง ไม่วา่ จะเปน็ พนื้ ที่อยู่
อาศัยที่เรียกว่าบ้าน พื้นที่ในครอบครัว สังคม หรือประเทศ รวมถึงพื้นท่ีในความรู้สึกนึกคิดของใครคนหน่ึง
และด้วยความท่ีตัวละครแต่ละตัวไม่มีพื้นท่ีเป็นของตนเองอยา่ งแท้จรงิ ชวี ิตของแต่ละคนจึงเดินทางไปข้างหน้า
ด้วยความแตกต่างตามโชคชะตาท่ีไม่ได้กำหนดด้วยตนเอง แต่ถูกกำหนดจากคนรอบข้าง และสภาพแวดล้อม
รอบตัว อย่างเช่นเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนในสังคม โดยใช้การเล่าที่ค่อนข้างซับซ้อนเพ่ือสร้างความน่าสนใจ
ให้กับเน้ือเร่ือง คือ ใช้ตัวละครแต่ละตัวเป็นตัวเล่าเรื่องของตน ในมุมมองต่างกัน โดยมีดาวและยายศรีเป็นตัว
ละครหลัก เล่าตัดไปมา โดยให้ผู้อ่านปะติดปะต่อเองว่าเร่ืองราวเป็นอย่างไร ใครเป็นใคร มีชีวติ อย่างไร จุดจบ
อย่างไร และทีส่ ำคัญคอื ใครเป็นแม่ดาว
พุทธศกั ราชอสั ดง | 14
บทท่ี 4
วธิ กี ารดำเนินงาน และ หน้าทร่ี ับผิดชอบการศึกษา
วธิ ีการดำเนนิ งาน (ภายใตป้ ญั หายคุ COVID19)
1. แบ่งงาน
2. ทำงานในส่วนท่ีได้รบั มอบหมายทบี่ า้ นตนเอง
3. โทรปรึกษากันแลว้ ชว่ ยกนั ทำงาน
4. ทำงานสว่ นท่ีได้รับหมอบหมายกอ่ นรวบรวมเป็นรปู เล่ม
หนา้ ท่รี บั ผิดชอบของการศกึ ษา
นายณัฐภัทร นิลสกุล เลขที่ 1 มีหน้าที่รับผิดชอบในการศึกษาส่วนที่ บทท่ี4 และวิธีการ
ดำเนนิ งาน และ หนา้ ท่ีรับผดิ ชอบการศกึ ษา
นางสาวกัญญาพัชร สีมุ้ย เลขที่ 27 มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการศึกษาส่วนท่ี บทท่ี3 และปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี งในการวจิ ารณว์ รรณกรรมซไี รต์เรอ่ื งพทุ ธราชอสั ดงกับความทรงจำของแมวกุหลาบดำ
นางสาวกุลณิศา ทะมะรมย์ เลขท่ี 32 มีหน้าที่รับผิดชอบในการศึกษาส่วนท่ี บทที่5 และบทสรุป
ของการศกึ ษา และ ขอ้ เสนอแนะของการทำรายงาน
นางสาวปวันรัตน์ จันเจือ เลขท่ี 34 มีหนา้ ทร่ี ับผิดชอบในการศึกษาส่วนท่ี บทท2ี่ และเนื้อเรอ่ื งย่อ
และ ประวัติผ้แู ตง่
นางสาวอรศญิ า สขุ ดี เลขที่ 35 มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการศกึ ษาส่วนที่ บทท่ี1 และบทนำ
พุทธศักราชอัสดง | 15
บทท่ี 5
บทสรปุ ของการศกึ ษา และ ข้อเสนอแนะของการทำรายงาน
บทสรุปของการศกึ ษา
“พุทธศักราชอัสดง กับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ” นำเสนอเร่ืองเล่าของครอบครัวชาวจีน
โพ้นทะเลด้วยมุมมองใหม่ การต่อสู้ด้ินรนของชีวิตในแต่ละรุ่นของครอบครัวใหญ่ เล่าคู่ขนานไปกับเหตุการณ์
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมทั้งของไทยและจีนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและชะตากรรมของแต่ละ
ตวั
ข้อเสนอแนะ
1. คณุ ครูนฤมล ไทยเจริญ เสนอแนะ ดังน้ี
- การเว้นระยะห่างระหว่างบรรทดั ต้องเทา่ กนั
- อ้างองิ ตอ้ งไปศึกษาจากการเขยี น IS2 นะ
2. คณุ ครูเบญจรตั น์ เพชรนลิ เสนอแนะ ดงั นี้
- ควรตรวจคำไมใ่ ห้เปน็ คำขาด
- หัวขอ้ ต้องเป็นตัวหนา
3. คณุ ครูนพดล อถมพรมราช เสนอแนะ ดังนี้
- การจดั เรยี งหนา้ ยอ่ หน้า และบรรทัดยังตอ้ งมกี ารแก้ไขเพม่ิ เติมในบางส่วน
- ศึกษาการใช้โปรแกรม Micro soft word ให้ละเอียดเพ่ือการทำรายงานในวชิ าน้ี และ
วิชาอ่ืนๆ สืบไป
- บทวจิ ารณใ์ นสว่ นของการแต่งนวนยิ ายมีความเหมาะสม
- บทวเิ คราะห์ในสว่ นของบทที่ 3 ยังไม่ครอบคลุมเทา่ ที่ควร (ไฟลป์ ระกอบ เรื่องลุงเย็น คน
สามัญ เป็นตัวอย่างของบทที่ 3)
พุทธศักราชอสั ดง | ค
บรรณานุกรม
กมลกา จิตตรทุ ธะ (2552) “บทวจิ ารณพ์ ุทธศกั ราชอสั ดงฯ” สบื คน้ เมือ่ 10 สิงหาคม 2564 จาก
THE MOMENTUM
ทกั ษ์ เฉลิมเตียรณ (2558) “อ่านจนแตก: วรรณกรรม ความทันสมัย และความเป็นไทย” แปลโดย พงษ์
เลิศ พงษว์ นานต์ กรุงเทพ: สำนักพิมพ์อ่าน
ธร ปติ ดิ ล (2558) “พุทธศักราชอสั ดง กบั ความทรงจำของแมวกุหลาบดำ” อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ผู้สนใจศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมอื ง ประวัตศิ าสตร์เศรษฐกจิ และ
นโยบายสงั คม สืบคน้ เม่ือ 10 สงิ หาคม 2564 จาก www. THE101.world.
ผาสกุ พงษไพจติ ร และคริส เบเกอร์ (2542) “เศรษฐกิจการเมอื งไทยสมัยกรุงเทพ” เชียงใหม่: ซิลค์เวอิ รม์
บคุ ส์
วรี พร นิติประภา (2560) “พุทธศกั ราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ” กรุงเทพมหานคร:
สำนกั พมิ พม์ ตชิ น
Khaosod.online (2561) “รางวลั ซีไรต์ เรอ่ื ง พุทธศักราชอสั ดง กับความทรงจำของแมวกุหลาบดำ และ
วีระ พร นิตปิ ระภา” สืบค้นเม่ือ 20 สงิ หาคม 2564 จาก Khaosod. Online.
Readery.co (2562) “รางวัลซไี รต์ พทุ ธศกั ราชอสั ดง กับความทรงจำของแมวกุหลาบดำ” สืบคน้ เม่ือ 24
กนั ยายน 2564 จาก Readery.co
VOICE.online (2561) “พทุ ธศักราชอสั ดง กบั ความทรงจำชองแมวกหุ ลาบดำ” สืบค้นเม่อื 20 สงิ หาคม
2564 จาก VOICE.online.