ตน้ โพธิ์
ชื่อภาษาอังกฤษ Sacred tree, Sacred fig, Sacred fig Tree, The
peepal tree, Peepul tree, Peepul of India, Pipal tree, Pipal of
India, Bo tree, Bodhi Tree
ชอื่ วิทยาศาสตร์ Ficus religiosa L.
แหล่งเรยี นรวู้ ถิ ีชมุ ชนบา้ นแหว้
วัดโนนสงู ตาบลบา้ นโนน อาเภอซาสูง จงั หวัดขอนแกน่
หลักสตู รรัฐประศาสนศาสตรบัณฑติ วิทยาลยั สงฆข์ อนแก่น
มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น
ตน้ โพธิ์
ความเชื่อและความศรัทธาเกย่ี วกับต้นโพธ์ิ
คำวำ่ “โพธ”ิ โดยควำมหมำย แต่เดิมแลว้ มิได้เป็นชอ่ื ต้นไมช้ นิดใดชนิด
หนึ่ง แต่เป็นช่ือที่ใช้เรียกขำนต้นไม้ที่พระสัมมำสัมพุทธเจ้ำแต่ละพระองค์
ทรงประทบั ใตต้ น้ ไม้ตน้ นน้ั ๆ และได้ตรสั รู้ ต้นโพธิ์ จงึ มคี วำมหมำยว่ำ ต้นไม้
แห่งกำรตรสั รู้ (โพธิ แปลว่ำ เป็นท่รี ูห้ รือเปน็ ที่ตรัสรู้) และยังเป็นต้นไม้ที่ชำว
พทุ ธ พรำหมณ์ และฮนิ ดูใหค้ วำมเคำรพนับถือกันอย่ำงสูงอีกด้วย ได้รับกำร
กรำบไหว้บูชำเคำรพเร่ือยมำ และมีควำมเช่ือสืบทอดกันมำว่ำ ด้วยควำมท่ี
ต้นโพธ์ิเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่เหมำะสมท่ีจะปลูกในบริเวณท่ีพักอำศัย
เพรำะหำกเจ้ำของดูแลได้ไม่ดีหรือไม่เหมำะสมแล้วก็อำจจะทำให้เกิดเหตุไม่
ดตี ำมมำ
แหลง่ เรียนรวู้ ิถชี มุ ชนบ้านแห้ว
วัดโนนสงู ตาบลบ้านโนน อาเภอซาสงู จงั หวัดขอนแกน่
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบณั ฑติ วิทยาลยั สงฆข์ อนแก่น
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแกน่
ต้นโพธิ์
ส่วนประกอบของต้นโพธ์ิ ทโ่ี ดดเดน่ เป็นเอกลกั ษณ์
ลกั ษณะของลาตน้
ต้นโพธ์ิจัดเป็นไม้ยืนต้นขนำดใหญ่ ที่ผลัดใบในช่วงเดือนเมษำยนของ
ทุกปี แตกก่ิงก้ำนสำขำออกเป็นพุ่มตรงส่วนยอดของลำต้น ปลำยกิ่งลู่ลง ก่ิง
อ่อนเกล้ียง ตำมกิ่งมีรำกอำกำศห้อยลงมำบ้ำง ลำต้นมีควำมสูงประมำณ
20-30 เมตร ลำต้นมีขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 1.5-3 เมตร เปลือก
ต้นเรียบเป็นสีน้ำตำลปนเทำ โคนต้นมีลักษณะเป็นพูพอนขนำดใหญ่ โดย
จดั เปน็ พรรณไม้ทีม่ ีรูปทรงของลำต้นส่วนงำมชนิดหนง่ึ
แหลง่ เรยี นรู้วิถชี ุมชนบา้ นแห้ว
วดั โนนสงู ตาบลบา้ นโนน อาเภอซาสูง จังหวดั ขอนแกน่
หลักสูตรรฐั ประศาสนศาสตรบณั ฑิต วิทยาลยั สงฆข์ อนแกน่
มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
ตน้ โพธิ์
ใบโพธิ์
มีลักษณะเป็นใบเด่ียว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปใจ ปลำย
ใบแหลมและมตี ิง่ หรือหำงยำว (ปลำยต่ิงบำงใบมีควำมยำวมำกกว่ำครึ่งหน่ึง
ของใบ) โคนใบมนเวำ้ เขำ้ หำก้ำนใบเป็นรูปหวั ใจ ใบมีขนำดกวำ้ งประมำณ 8-
15 เซนติเมตร และยำวประมำณ 12-24 เซนติเมตร ผิวใบเกล้ียงเป็นมัน
เนือ้ ใบค่อนข้ำงเหนยี ว ใบมลี กั ษณะหอ้ ยลง แผ่นใบเปน็ สีเขียวนวล
แหล่งเรียนรู้วถิ ชี มุ ชนบ้านแห้ว
วัดโนนสงู ตาบลบา้ นโนน อาเภอซาสงู จังหวดั ขอนแก่น
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑติ วิทยาลัยสงฆข์ อนแก่น
มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาเขตขอนแก่น
ต้นโพธิ์
ดอกโพธิ์
ออกดอกเป็นช่อกลม ๆ รวมกันเป็นกระจุกภำยในฐำนรองดอกรูป
คล้ำยผล โดยจะออกท่ีตอนปลำยของกิ่ง ดอกมีขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำง
ประมำณ 1-1.5 เซนตเิ มตร ดอกเป็นสีเหลอื งนวล และจะเจรญิ ไปเปน็ ผล
แหลง่ เรียนรูว้ ถิ ชี ุมชนบ้านแหว้
วดั โนนสูง ตาบลบ้านโนน อาเภอซาสูง จงั หวดั ขอนแก่น
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑติ วทิ ยาลัยสงฆ์ขอนแกน่
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น
ตน้ โพธิ์
ผลโพธ์ิ
ผลเป็นผลรวม ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมขนำดเล็ก มีขนำดเส้น
ผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีเขียว เม่ือสุกแล้วจะ
เปล่ยี นเปน็ สชี มพมู ่วง สีแดงคล้ำ หรือม่วงดำและร่วงหล่นลงมำ
แหล่งเรยี นรวู้ ถิ ชี ุมชนบ้านแห้ว
วดั โนนสงู ตาบลบา้ นโนน อาเภอซาสงู จังหวัดขอนแกน่
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑติ วทิ ยาลยั สงฆข์ อนแก่น
มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น
ต้นโพธิ์
สายพนั ธ์ขุ องตน้ โพธท์ิ ี่พบได้มากในประเทศทน่ี บั ถือพุทธศาสนา
ต้นโพธิ์ในสกุล Ficus หรือโพธิ์ท่ีแพร่หลำยในประเทศที่นับถือพุทธ
ศำสนำ จะมีอย่ดู ้วยกนั 2 ชนดิ คอื โพธิใบ (Ficus religiosa Linn.) และอีก
ประเภทคอื โพธิข้นี กหรือโพธิประสำท (Ficus rumphii Bl.) ข้อแตกต่ำงของ
โพธิทั้ง 2 ชนิดนี้คือ ใบและผลของใบโพธิข้ีนกจะมีขนำดเล็กกว่ำใบโพธิใบ
มำก ส่วนผลสุกของโพธิใบจะเป็นสีแดงคล้ำหรือสีม่วงดำ ในขณะท่ีผลสุก
ของโพธิขี้นกจะเป็นสีดำ นอกจำกนี้แล้วยังมีสำยพันธ์ุโพธ์ิใหม่ๆ ที่นำเข้ำมำ
ในระยะหลงั ๆ เชน่ โพธเ์ิ งิน โพธิ์ทอง และ โพธบ์ิ อนไซ เป็นต้น
แหลง่ เรียนร้วู ิถีชมุ ชนบา้ นแห้ว
วัดโนนสงู ตาบลบ้านโนน อาเภอซาสงู จังหวัดขอนแกน่
หลกั สตู รรฐั ประศาสนศาสตรบัณฑติ วิทยาลยั สงฆข์ อนแก่น
มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น
ต้นโพธิ์
ประโยชนห์ รอื สรรพคณุ อนื่ ๆ ของตน้ โพธิ์ ทเี่ ปน็ ที่นิยมในประเทศไทย
ต้นโพธ์ิ นอกจำกจะมีควำมสำคัญในฐำนะที่เป็นต้นไม้ศักด์ิสิทธิ์ ท่ีมีผู้กรำบ
ไหว้บูชำ และศรัทธำแล้ว เพรำะเป็นต้นไม้ท่ีพระพุทธเจ้ำทรงตรัสรู้ และถูก
ใช้เป็นสญั ลักษณ์ในพุทธศำสนำมำกมำย ต้นโพธ์ิยังเป็นพันธ์ุไม้ท่ีมีสรรพคุณ
ทำงยำมำกมำย เพรำะเกือบทกุ ส่วนของต้นโพธม์ิ สี รรพคุณทำงยำทั้งส้ิน โดย
ใบมีสรรพคุณชว่ ยลดระดับนำ้ ตำลในเลอื ด ผลมีสรรพคณุ เป็นยำแก้โรคหัวใจ
เป็นยำชว่ ยขับพิษ ช่วยแกอ้ ำกำรกระหำยน้ำ เมลด็ ใชเ้ ป็นยำลดไข้ เปลือกต้น
ใช้เปน็ ยำแก้เจ็บคอ น้ำจำกเปลอื กตน้ ใช้เป็นยำแก้ปวดฟัน รักษำรำกฟันเป็น
หนอง รำกใช้เป็นยำรักษำโรคเหงือก เปลือกต้นโพธ์ิยังช่วยสมำนบำดแผล
ห้ำมเลือด ทำให้หนองแห้ง ใบใช้รักษำโรคคำงทูม โรคท้องผูก หรือท้องร่วง
ได้ ตำ่ งๆ เหลำ่ นเ้ี ปน็ ต้น
แหลง่ เรยี นร้วู ิถีชมุ ชนบา้ นแหว้
วดั โนนสูง ตาบลบ้านโนน อาเภอซาสูง จงั หวัดขอนแกน่
หลกั สตู รรฐั ประศาสนศาสตรบณั ฑิต วทิ ยาลัยสงฆ์ขอนแก่น
มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น
ตน้ โพธิ์
แหลง่ อ้างองิ :
http://www.satit.cmru.ac.th/index2.php?ge=view&gen_lang
=140218100317
แหล่งเรยี นรู้วถิ ชี มุ ชนบ้านแหว้
วัดโนนสูง ตาบลบา้ นโนน อาเภอซาสูง จงั หวดั ขอนแกน่
หลักสตู รรฐั ประศาสนศาสตรบณั ฑติ วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น