จัดทำ โดย ๑. นางสาวสุสุ สุ ธิ สุ ธิ ธิ ดธิ ดา หาญนึนึ นึ กนึ ก เลขที่ที่ ที่ที่ ๑ ๒. นางสาวกิกิ กิ ต กิ ตติติ ติ พติ พร จุจุ จุ ล จุ ลทัทั ทั ศทั ศน์น์ น์น์ เลขที่ที่ ที่ที่ ๙ ๓. นางสาวธิธิ ธิ ดธิ ดารัรั รั ต รั ตน์น์ น์น์ พิพิ พิ มพิ มพสุสุ สุ ท สุ ทธิ์ธิ์ ธิ์ธิ์ เลขที่ที่ ที่ที่ ๑๕ ๔. นางสาวนันั นั น นั นทนา ปาระเคน เลขที่ที่ ที่ที่ ๑๘ ๕. นางสาวมุมุ มุ ต มุ ตตา บุบุ บุญบุ อุ้อุ้อุ้ยอุ้ เลขที่ที่ ที่ที่ ๒๓ ๖. นางสาววรรณนินิ นิ ษนิ ษา สมควร เลขที่ที่ ที่ที่ ๒๗ ๗. นางสาววิวิ วิ จิวิ จิ จิ ต จิ ตรตรา วรรณทวีวี วีวี เลขที่ที่ ที่ที่ ๒๘ ๘. นางสาวสมฤดีดี ดีดี นาคำ เลขที่ที่ ที่ที่ ๓๐ ๙. นางสาวสรารัรั รั ต รั ตน์น์ น์น์ วิวิ วิ สุวิ สุ สุ ท สุ ทธิ์ธิ์ ธิ์ธิ์ เลขที่ที่ ที่ที่ ๓๑ ๑๐. นางสาวสุสุ สุ กั สุ กั กั ญ กั ญญา สระบับั บั ว บั ว เลขที่ที่ ที่ที่ ๓๓ ๑๑. นางสาวสุสุ สุ ท สุ ทธิธิ ธิ ดธิ ดา ชายผา เลขที่ที่ ที่ที่ ๓๔ เสนอ อาจารย์กนกศักดิ์ ธานี SECTION ๐๒
รามเกียรติ์เปนวรรณคดีสําคัญของไทยที่มีตนกําเนิดจากคัมภีรรามายณะ ของอินเดีย สันนิษฐานวาพอคาชาวอินเดียเปนผู นํามาเผยแพรในประเทศไทยในรูปแบบ การถายทอดทางมุขปาฐะ คือเปนการเลานิทานเรื่อง “พระราม” ตอมาจึงนํามาแตงใหม ตามฉันทลักษณรอยกรองของไทย ดังจะเห็นไดวากวีไทยนิยมนําเรื่องรามเกียรติ์มาแตงตั้งแตสมัยอยุธยาแลว ในสมัยรัตนโกสินทร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ให ทํานุบํารุง วรรณกรรมของชาติไวใหเปนสมบัติของอนุชน รุนหลังสืบไป โปรดเกลาฯ ใหกวีรวบรวมบทละครเรื่องรามเกียรติ์ไวเปนตน ฉบับสําหรับ พระนคร บทละครเรื่องรามเกียรติ์สํานวนนี้จึงนับวาเปนสํานวนที่สมบูรณ ที่สุด มีจํานวน ๑๑๖ เลมสมุดไทย มีเหตุการณ สําคัญหลายตอนและตัวละครสําคัญหลายตัว ซึ่งมีเนื้อหา สืบเนื่องกันมาตั้งแตตนเรื่อง ความเป็นมา
ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมีพระราชกรณียกิจที่สําคัญหลายดาน ตั้งแตทรงเริ่มครองราชย เชน ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร และพระราชทานนามพระนครใหมวา “กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร มหินทรายุทธยามหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย อุดมราชนิเวศนมหา สถานอมรพิมานอวตารสถิต สักกทัตติยะ วิษณุกรรมประสิทธิ์” ตอมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอม เกลาเจาอยูหัว ทรงแปลง สรอยพระนามพระนครจาก “บวรรัตนโกสินทร” เปน “อมรรัตนโกสินทร” และ โปรดเกลาฯ ใหอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแกวมรกตมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โปรดเกลาฯ ใหตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมบูรณแบบอยางโบราณราช ประเพณี ณ พระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท ซึ่งโปรดเกลาฯ ใหสรางขึ้นดวยไมทั้งองค หลังคาดาดดวยดี บุกโดยถายแบบจากพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทในพระนครศรีอยุธยา โปรดเกลาฯ ใหฟนฟูการเลนสักวา ในดานศาสนา โปรดเกลาฯ ใหสังคยนาพระไตรปฎก พรอมทั้งอรรถกถาฎีกา ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ สรางหอมณเฑียรธรรมขึ้นใน บริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อใชสําหรับเก็บคัมภีรทางพุทธศาสนา เปนตน ดานอักษรศาตร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกทรงพระราชนิพนธวรรณคดี หลายเรื่อง เชน บทละครเรื่องรามเกียรติ์ บทละครเรื่องอุณรุท นิราศรบพมาทาดินแดง และทรงชําระพระราชพงศาวดาร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช มีพระนามเดิมวา “ทองดวง” ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๒๗๙ ในรัชกาลของพระเจาอยูหัว บรมโกศ เสด็จขึ้นครองราชย เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ขณะมีพระชนมพรรษา ได ๔๖ พรรษา และเสด็จสวรรคต พ.ศ. ๒๓๕๒ รวมพระชนมายุได ๗๓ พรรษา
ตอน ศึศึศึศึ กไมยราพ
เพื่อใช้เล่นละครใน และใช้เป็นบทปลุกใจประชาชนให้กล้าหาญ สอนศีลธรรม แก่ประชาชน ที่มาของเรื่อง บทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ฉบับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จุดประสงค์ในการแต่ง
ลัลั ลั ก ลั กษณะคำคำคำคำประพัพั พั น พั นธ์ธ์ ธ์ธ์ บทละครเรื่องรามเกียรติ์ แต่งเป็นกลอนบทละคร ลักษณะของกลอนบทละคร จะมีลักษณะเหมือน กลอนสุภาพหรือกลอนแปด แต่มีการใช้คำ ขึ้นต้น
ลักษณะของกลอนบทละคร การใช้คำ ขึ้นต้นของกลอนบทละคร มาจะกล่าวบทไป ใช้ขึ้นต้นสำ หรับขึ้นต้นเรื่อง หรือกล่าวถึงเรื่องที่แทรก เมื่อนั้น ใช้สำ หนรับขึ้นต้นเมื่อกล่าวถึงผู้ที่มียศศักดิ์ เช่น เทวดา กษัตริย์ บัดนั้น ใช้สำ หรับขึ้นต้นเมื่อกล่าวถึงผู้น้อย หรือใต้บังคับบัญชา เช่น เสนา อำ มาตย์ ทหาร และสามัญชน
เรื่องย่อ ตอน ศึกไมยราพ นนทกนั่งประจำ อยู่ที่บันไดของเขาไกลลาศ โดยมีหน้าที่ล้างเท้าให้แก่เหล่าเทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร ได้ยื่นเท้าให้ล้างแล้วมักแหย่เย้า หยอกล้อ นนทกอยู่เป็นประจำ ด้วยการลูบหัวบ้าง ถอนผมบ้างจนกระทั่งหัวโล้นทั้งศรีษะ นนทกแค้นใจมากแต่ว่าตนเองไม่มีกำ ลังจะสู้ได้ จึงไปเข้าเฝ้าพระอิศวร แล้วกราบทูลว่า ตนได้ทำ งานรับใช้พระองค์มานานถึง 10 ล้านปี ยังไม่เคยได้รับสิ่งตอบแทนใดๆเลย จึงทูลขอให้ นิ้วเพชรมีฤทธิ์ ชี้ผู้ใดก็ให้ผู้นั้นตาย พระอิศวรเห็นว่านนทกปฏิบัติหน้าที่รับใช้พระองค์มานานจึงประทานพรให้ตามที่ขอ ไม่นานนัก นนทกก็มี ใจกำ เริบ เพียงแต่ถูกเทวดามาลูบหัวเล่นเช่นเคย นนทกก็ชี้ให้ตายเป็นจำ นวนมาก พระอิศวรทรงทราบก็ทรงกริ้ว โปรดให้พระนารายณ์ ไปปราบ พระนารายณ์แปลงเป็นนางฟ้ามายั่วยวน นนทกนึกรักจึงเกี้ยวนาง นางแปลงจึงชักชวนให้นนทกรำ ตามนางก่อนจึงจะรับรัก
ต่อ นนทก รำ ตามไปจนถึงท่ารำ ที่ใช้นิ้วเพชรชี้ขาตนเองนนทกก็ลมลงจากนั้นนนทกเห็นนางแปลงร่างเป็นพระนารายณ์ จึงตอบว่า พระนารายณ์เอาเปรียบตนเพราะว่าพระนารายณ์มีอำ นาจ มีถึง ๔ กร แต่ตนมีแค่ ๒ มือ และเหตุใดจึงมาทำ อุบายหลอกลวงตนอีก พระนารายณ์จึงท้าให้นนทก ไปเกิดใหม่ให้มี ๒๐ มือ แล้วพระองค์จะตามไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียง ๒ มือ ลงไปสู้กัน หลังจากที่พระนาราย พูดจบก็ใช้พระแสงตรีตัดศรีษะนนทกแล้วนนทกก็สิ้นใจตายชาติต่อมานนทกจึงได้ไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ ส่วนพระนารายณ์ก็อวตารลงมาเกิด เป็นพระราม
เป็นบุตรของหนุมานกับนางสุพรรณมัจฉา จึงมีร่างกายเป็นลิงเผือกเช่นเดียว กับหนุมานแต่มีหางเป็น ปลา เมื่อนางสุพรรณมัจฉาคลอดมัจฉานุออกมาแล้ว ทศกัณฐ์จะรู้จึงนำ มัจฉานุไปทิ้งที่ชายหาด ไมยราบจึงเป็นญาติกับทศกัณฐ์ไปพบ เข้าจึงมีความสงสารได้ นําไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมาไมยราบลักพา ตัวพระรามตัวพระรามไปไว้ที่เมือง บาดารหนุมานติดตามมาช่วย จึงได้พบกับ มัจฉานุและ ต่อสู้กัน แต่ไม่มีใครเขาชนะได้จนกระทั้งรู้ความจริงว่าเป็นพ่อลูกกัน
ไมยราฟ เป็นยักษ์ที่มีกายสีม่วง เป็นญาติกับทศกัณฐ์ ปกครองเมือง บาดาล มีอาวุธประจำ กายคือกล้องยา สะกด ใช้สําหรับเป่า เพื่อสะกดให้กองทัพฝ่ายข้าศึก หลับใหลไมยราพถอดดวงใจ ใช่แมลงภู่ซ่อนไว้บนยอด เขาตรีกูฏ จึงไม่มีใครฆ่าตายได้ไมย ราพช่วยทศกัณฐ์ทำ สงครามโดยเป่ากล้องยาสลบใส่กองทัพ พระรามแล้วจับพระรามไปขังไว้ที่เมืองบาดาล หนุมานตาม ไปช่วยพระรามและสามารับ ฆ่าไมยราพได้ โดยการจับ แมลงภู่ไมยราพถอดหัวใจ ฝากไว้มาขยี้
เป็นลิงเผือก (กายสีขาว) มีเขี้ยวแก้วอยู่ กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถ แมลงฤทธิ์ให้มี หน้า แปดมือและหาวเป็นดาว เป็นเดือนใช้ตรีเพชร (สามง่าม) เป็นอาวุธประจำ ตัวเก่งกล้ามาก สามารถ แปลงกายหาย ตัวได้ แม้ ถูกอาวุธของศัตรู จนตาย เมื่อมีลมพัดมาก็จะพื้นคืนชีพได้เมื่อนางสวาหะถูกสาปให้ไปยืนตีนเดียว เหนี่ยว กินลม พระอิศวรจึงมีคำ บัญชาให้พระพาย นำ เทพอาวุธของพระองค์ไปซัดเข้าปากของ นาง นางจึงตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นลิงเผือกเหาะ ออกมาจากปาก ได้ชื่อว่า “หนุมาน” หนุมานจึง ถือว่าพระพายเป็นบิดาของตนเพราะเหตุนี้เพื่อใดก็ตามที่หนุมาน สิ้นใจเพียงมีลมพัดโดนตัวหนุมานก็จะพื้นคืนชีพนุมานได้ถวายตัวเป็นทหารเอกของพระ รามเเละช่วยทำ สงครามจนจบสิ้น
นางสุสุพ สุ รรณมัจ มั ฉา พ สุ รรณมัจ มั ฉา เป็นลูกของทศกัณฐ์กับนางปลา รูปร่างท่อนบนของนาง จึงเป็นมนุษย์ส่วนท่อนล่างเป็นปลาเมื่อพระรามสั่งให้ หนุมานพาบริวารขนหินมาถมสมุทรเพื่อทำถนนไปยังกรุง ลงกาทศกัณฐ์ก็สั่งให้นางสุพรรณมัจฉากับพวกปลาทั้ง หลายช่วยกันขนหินไปทิ้งหนุมานเกิดความสงสัยจึงดำ น้ำ ลงไปดูจึงพบนางสุพรรณมัจฉาทั้งสองมีความรักต่อกัน นางยอมเป็น ภรรยาของหนุมานต่อมานางสุพรรณมัจฉา ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายชื่อมัจฉานุ
พระราม พระนารายณ์อวตาร (แบ่งภาค) ลงมาถือกำ เนิด เป็นพระโร รสของท้าวทศรถกันนางเกาสุริยา แห่งกรุงอยุธยา เพื่อปราบ ทศกัณฐ์ พระรามมีพระอนุชา(น้องชาย) ต่างมารดา ๓ พระองค์ คือ พระพรต พระลักษมณ์ และพระ สัตรุต พระ มเหสีของพระรามคือ นางสีดา พระรามมีกายสีเขียว สามารถ ปรากฏร่างเป็นพระ นารายณ์มีสี่กรได้ อาวุธประจำ กายต่อ ศร ซึ่งเป็นอาวุธวิเศษที่พระอิศวรประทานให้
ทศกักัณ กักั ฐ์ฐ์ฐ์ฐ์ ยักษ์นนทกกลับชาติมาเก็ตเพื่อรบกับพระรายณ์ ตรงมาเป็นมนุษย์ ธรรมดา ทศกัณฐ์ เป็นกษัตริย์แห่งกรุงลงกา มี ๑๐ หน้า ๒๐ มือ มีกาย เป็นสีเขียว ไม่มีใครฆ่าได้ เพราะถอด ดวงใจใส่กล่องฝากไว้กับพระฤา โคบุตรผู้เป็นอาจารย์ ทศกัณฐ์มีนิสัยเจ้าชู้ มีชายาและนางสนมมากมาย แต่ถึงกระนั้นเมื่อรู้ว่านางสีดาเป็นหญิงที่มีความงดงาม แม้นางจะมีพระ สวามีอยู่แล้วก็ยังไปลักพาตัวนางมา จึงเป็นสาเหตุให้ต้องทำศึกกับ พระราม สุดท้ายตนต้องถูกพระนารายณ์ฆ่าตาย
นางพิพิรพิพิ ากวน นางพิรากวนเป็นพระธิดาองค์โตของท้าวชมยักษ์ และนางจันท-ประภา หลานสาวของท้าวสหมลิวันเพื่อนท้าวลัสเตียน ( ปู่ของไมยราพกับพ่อของทศ กัณฐ์เป็นเพื่อนกัน) มีน้องชายร่วมไส้ ชื่อไมยราพ มีลูกชาย ชื่อ ไวยวิก เมื่อไมย ราพ ศึกลักพระราม มาเมืองบาดาล ไปทำพิธีบดยาเตรียมสะกดทัพพระกลับ มาก็ฝัน ว่าแสงดาวกลบแสงจันทร์ พอให้โหรหำนายโหรทำนายว่าพระ ญาติ ดวงสูงจะได้ครองเมือง ไมยราพจึงสั่งจับไวยวิกกับนางพิรากวน เข้าตรุพร้อม ถอดยศพร้อมฆ่าพระรามใช้นางพิรากวนต่างทาสให้ไปตักน้ำ นอกประตูเมือง นางก็จำ ใจไปตักจนได้พบกับหนุมาน
บัดนั้น มัจฉานุผู้ใจแกล้วกล้า ซึ่งอยู่ในสระคงคา เป็นด่านรักษาชั้นใน ราตรีเที่ยงคืนเคยเที่ยว ลดเลี้ยวกระเวนทางใหญ่ ก็สำ แดงแผลงฤทธิเกรียงไกร ขึ้นไปจากท้องชลธาร ถึงขอบสระก็หยุดอยู่ แลดูไปทั่วทุกสถาน เห็นวานรเผือกผู้อหังการ ล่วงด่านผ่านทางเข้ามา โกรธาขบฟันกระทืบบาท ทำ อำ นาจออกยืนขวางหน้า แล้วร้องประกาศด้วยวาจา เหวยอ้ายพาลาใจฉกรรจ์ ตัวเอ็งมานี้จะไปไหน ไม่กลัวชีวาจะอาสัญ องอาจล่างด่านกุมภัณฑ์ กูจะหั่นให้ยับลงกับกร มัจฉานุได้ขึ้นจากเมืองบาดาล เมื่อขึ้นไปถึงขอบสระก็ได้มองไปรอบ ๆ จึงเห็นวานรเผือกตนหนึ่ง มัจฉานุโมโหมากจนกัดฟันกระทืบเท้ารีบมายืนขวางทางไว้แล้วเอ่ยถามวานรเผือกตนนั้นว่าเป็นใครมา จากไหนผ่านด่านยักษ์มาได้อย่างไร
บัดนั้น คำ แหงหนุมานชาญสมร เห็นลิงน้อยขึ้นสาคร อ้างอวดฤทธิ์รอนอหังการ์ จึงคิดว่าวานรนี้ เหตุใดมีหางเป็นมัจฉา รูปทรงองอาจประหลาดตา ถ้อยคำ หยาบช้าทะนงใจ จึงร้องว่าเหวยไอ้ลิงเล็ก จะเจียมตัวว่าเด็กก็หาไม่ มึงอย่าขวางหน้ากูไว้ ถอยไปให้พ้นอ้ายสาธารณะ เมื่อหนุมานเห็นมัจฉานุก็เกิดความสงสัยว่าทำ ไมจึงมีรูปร่างประหลาด มีตัวเป็นลิงแต่มีหางเป็นปลาและตะโกนบอกมัจฉานุว่าตัวเล็กแค่นี้ให้รู้จัก เจียมตัว รีบหลบไปอย่าได้มาขวางทาง
บัดนั้น มัจฉานุฤทธิไกรใจหาญ ได้ฟังกริ้วโกรธคือไฟกาฬ ตบมือฉัดฉานแล้วตอบไป ถึงตัวกูน้อยเท่านี้ จะกลัวฤทธิ์เองก็หาไม่ อย่าพักอาจจองทะนงใจ ใครดีจะได้เห็นกัน ว่าแล้วสำ แดงเดชา พสุธาบาดาลไหวหวั่น โลดโผนโจรบุกรุกบุกบัน เข้าไล่โรมรันราวี บัดนั้น หนุมานผู้ชาญชัยศรี กริ้วโกรธพิโรธดั่งอัคคี ขุนกระบี่รับปะทะกร เคล่าคล่องว่องไวทั้งสองข้าง ต่างคนต่างหาญชาญสมร ถ้อยทีถ้อยมีฤทธิรอน ต่อกรไม่ลดละกัน มัจฉานุเมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้น แล้วตอบกลับหนุมานไปว่า ถึง ตัวข้าจะน้อยแต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวต่อตัวท่านเลย เมื่อพูดเสร็จก็แสดงอิทธิฤทธิ์ ให้ดูจนพื้นดินและแผ่นน้ำ สั่นไหว จากนั้นก็เข้าโจมตีหนุมานเมื่อหนุมาน ได้ยินเช่นนั้นก็โกรธมาก รีบรับมือมัจฉานุที่เข้ามาโจมตี และต่างคนต่างต่อสู้ กันไม่มีใครยอมใคร
บัดนั้น มัจฉานุฤทธิแรงแข็งขัน ปล้ำ ปลุกคลุกคลีตีประจัญ พัลวันหลบหลีกไปในที ถีบกัดวัดเหวี่ยงอุตลุด ทะยานยุทธ์ไม่ท้อถอยหนี กอดรัดฟัดกันเป็นโลกี เปลี่ยนท่าเปลี่ยนทีรอนราญ บัดนั้น วายุบุตรวุฒิไกรใจหาญ รับรุกบุกบันประจัญบาน เผ่นทะยานโถมถีบด้วยบาทา ถูกมัจฉานุชวนไป ฉวยรวบเท้าได้ทั้งซ้ายขวา ฟาดลงกับแผ่นศิลา ด้วยกำ ลังศักดาราวี มัจฉานุก็เข้าปลุกปล้ำ ต่อสู้กับหนุมานจนอุตลุด กอดรัดฟัดเหวี่ยงสู้กันโดยไม่มีท่าที จะถอยหนีฝ่ายหนุมานก็ไม่ได้เกรงกลัว ใช้เท้าพุ่งถีบมัจฉานุจนเซไปแล้วรีบเข้าไปรวบเท้า ของมัจฉานุไว้ทั้งสองข้าง จากนั้นฟาดมัจฉานุลงกับแผ่นหินด้วยพละกำ ลังที่มากมาย
บัดนั้น มัจฉานุผู้ชาญชัยศรี มิได้ชอกช้ำ อินทรีย์ โกรธดั่งอัคคีบรรลัยกัลป์ ผุดลุกขึ้นได้กระทืบบาท ทำ อำ นาจผาดเสียงดังฟ้าลั่น วิ่งผลุนหุนเข้าบุกบัน โรมรันไม่คิดชีวี บัดนั้น วายุบุตรวุฒิไกรใจกล้า โถมรับกลับมากรอกไปมา หันเหียมเปลี่ยนท่าราวี ร่างกายของมัจฉานุไม่ได้บอบซ้ำ เลยหลังจากที่ถูกฟาดกับแผ่นหิน แต่ง ยิ่งทำ ให้มัจฉานุโกรธมากขึ้น รีบลุกขึ้นแล้วกระทืบเท้าตะโกนเสียงดังลั่นแล้ว รีบวิ่งเข้าสู้กับหนุมานอย่างไม่คิดชีวิตฝ่านหนุมานตั้งรับมัจฉานุที่บุกเข้าโจมตี
รบพลางรำ พึงคะนึงคิด สงสัยในจิตกระบี่ศรี เหตุใดวานรน้อยนี้ จึงล้างชีวีไม่บรรลัย หรหดอดทนสามารถ องอาจต่อสู้ด้วยกูได้ คิดแล้วจึงรองถามไป เหวยไอ้ลิงน้อยเท่าแมลงวัน เป็นไฉนมาอยู่รักษาด่าน ไมยราพขุนมารโมหันธ์ เชื้อชาติสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ นามนั้นชื่อใดวานร ระหว่างที่รบกันหนุมานก็เกิดความสงสัยว่าทำ ไมมัจฉานุถึงฆ่าไม่ตายและทำ ไม สามารถต่อสู้กับตนได้ จึงได้ถามออกไปว่า พ่อแม่ของมัจฉานุเป็นใครและทำ ไมจึงได้มา รักษาด่านประตูให้กับไมยราพ
บัดนั้น มัจฉานุผู้เชี่ยวชาญชัยศรี เห็นประจักษ์เหมือนคำ ชนนี ยินดีก็วิ่งเข้าไป ยกกรขึ้นเหนือศิโรเพฐน์ น้อมเกศบังคมประนมไหว้ ตัวลูกไม่แจ้งประจักษ์ใจ จึงชิงชัยกับพระบิดา อันโทษนี้ใหญ่หลวงนัก ลูกรักจักขอโทษ อย่าให้เป็นกรรมเวร แก้ข้าน้อยนี้สืบไป เมื่อมัจฉานุเห็นดั่งเช่นที่แม่บอกไว้ ก็ดีใจรีบวิ่งเข้าไปหาหนุมานยกมือขึ้นไหว้ แล้วบอก ว่าเพราะลูกไม่รู้ว่าท่านเป็นพ่อ จึงได้เข้ามาสู้รบด้วย ซึ่งการกระทำ ครั้งนี้ถือว่าผิดเป็นอย่าง มาก ลูกจึงอยากขอโทษและอย่าให้เป็นบาปตัดตัวลูกไปเลย
บัดนั้น คำ แหงหนุมานทหารใหญ่ สวมกอดกอดลูกเข้าไว้ ลูบไล้ไปทั่วทั้งอินทรีย์ รับขวัญจุมพิตแล้วพิศพักตร์ ดวงจักษุพ่อเฉลิมศรี ซึ่งเจ้าต่อยุทธ์บิดานี้ เพรามิได้รู้จักกัน ถ้อยทีถ้อยรักษาตัว ด้วยกลัวชีวาจะอาสัญ อันซึ่งผิดพลั้งทั้งนั้น ไม่ถือโทษทัณฑ์แก่ลูกรัก พ่อจักอยู่ช้าก็ไม่ได้ จะรีบไปตามองค์พระทรงจักร สังหารไมยราพขุนยักษ์ ซึ่งมันไปลักพระองค์มา ตัวเจ้าค่อยอยู่เป็นสุขก่อน อย่าอาวรณ์เศร้าโทมนัสา อันทางบาดาลนครา แก้วตาจงบอกให้พ่อไป หนุมานได้เข้าไปกอดลูกมัจฉานุไว้ พร้อมทั้งจูบรับขวัญ แล้วพูดกับมัจฉานุว่า “เจ้าแก้วตา ของพ่อ ที่เจ้ามาสู้รบกับพ่อนี้เป็นเพราะว่าเจ้าไม่รู้ว่าข้านี้คือพ่อ เพราะฉะนั้นพ่อไม่ได้ถือโทษ โกรธเจ้าหรอก แต่พ่อนี้จะอยู่นานไม่ได้เพราะต้องรีบไปตามหาพระรามที่ไมยราพจับตัวมา ดัง นั้นพ่อจะขอให้เจ้าบอกทางไปเมืองบาดาลแก่พ่อ”
บัดนั้น มัจฉานุฤทธิแรงแข็งขัน ฟังลูกพระพายเทวัญ ขบฟันชี้หน้าแล้วร้องไป เหม๋เหม๋ดูดู๋กระบี่ศรี มุสาพาทีก็เป็นได้ ถ้อยคำ หยาบช้าไม่เกรงใจ ใครจักเชื่อฟังวานร แม้นหาวเป็นดาวเดือนตะวัน ให้เห็นความสำ คัญประจักษ์ก่อน เราจึงจะเชื่อว่าบิดร ทหารสี่กรอวตาร เมื่อมัจฉานุได้ฟังที่หนุมานพูดก็ไม่เชื่อว่าหนุมานโกหกจึงบอกกับหนุมานไปว่า ถ้าหากเป็นดาวกับเดือนได้ ถึงจะยอมเชื่อว่าหนุมานเป็นบิดา
บัดนั้น มัจฉานุกุมารชาญสมร ฟังความถามถึงนามกร พงศ์พันธุ์มารดรแลบิดา จึงคิดว่าวานรตัวนี้ ฤทธิ์องอาจแกล้วกล้า หักด่านผ่านทางลงมา ถึงมหานครบาดาล รูปกายก็คล้ายกับกู สองหูพรรณรายฉายฉาน ฤาจะเป็นกุณฑลสุรกานต์ เหมือนมารดาสั่งความไว้ ครั้นว่าจะนิ่งเสียบัดนี้ จะแจ้งเหตุร้ายดีก็หาไม่ คิดแล้วจึงร้องตอบไป ตัวเรานี้ได้นามกร ชื่อมัจฉานุวัยวุฒิ บุตรนางมัจฉาดวงสมร สำ รอกไว้ริมสาคร ไมยราพฤทธิรอนได้มา เลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม ให้อยู่ด่านขัณฑ์ยักษา บิตุเรศของเราผู้ศักดา ชื่อว่าคำ แหงหนุมาน ตัวท่านนี้เป็นวานร นามกรชื่อไรจึงอาจหาญ ล่วงมาถึงมือพระกาฬ ไม่กลัววายปราณฤาว่าไร เมื่อมัจฉานุได้ฟังดังนั้น จึงคิดว่าวานนรตัวนี้เป็นใคร ทำ ไมถึงได้มีฤทธิ์มากมายเช่นนี้ อีกทั้งมีรูปร่างเหมือนกับตนเอง จึงได้ร้องตอบออกไปว่า “ข้ามีชื่อว่ามัจฉานุเป็นลูกของนาง สุพรรณมัจฉาที่สำ รอกไว้ แล้วไมยราพได้นำ มาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมและให้ทำ หน้าที่รักษา ด่านของเมืองยักษ์ ส่วนพ่อของข้ามีชื่อว่าหนุมาน แล้วท่านมีชื่อว่าอย่างไร มาที่นี่ทำ ไมแล้ว ท่านไม่กลัวตายหรือ”
บัดนั้น วายุบุตรผู้ปรีชาหาญ ฟังมัจฉานุกุมาร ว่าขานกินแหนงแคลงใจ รับขวัญแล้วกล่าวพจนา สุดสวาทของพ่ออย่าสงสัย ว่าพลางก้เหาะขึ้นไป อยู่ในอากาศด้วยฤทธา หาวเป็นดาวเดือนทินกร เขจรสว่างเวหา เสร็จแล้วก็กลับลงมา ยังพื้นพสุธาทันที เมื่อหนุมานได้ยินมัจฉานุกล่าวจึงตอบว่า “ลูกของพ่ออย่าได้สงสัยเลย” จากนั้นก็หาะขึ้นไปบนอากาศแล้วหาวเป็นดาว เป็นเดือน เสร็จแล้วก็กลับลงมายังพื้นดิน
ครั้รั้ รั้ นรั้ นถึถึ ถึงถึซึ่ซึ่ซึ่งซึ่ สระชลธาร เห็ห็ ห็ นห็ นหมูมู มูอ มูอสุสุสุ ร สุ รโยธา จึ่จึ่ จึ่งจึ่ หยุยุ ยุ ด ยุ ดยืยื ยืนยืรำรำรำรำพึพึ พึงพึ คะนึนึ นึงนึ คิคิ คิ ด คิ ด ไหนจะรู้รู้รู้ข่รู้ข่ ข่ า ข่ าวพระจัจั จั ก จั กรีรี รีรี จำจำจำจำกูกูกูจ กูจะทำทำทำทำอุอุอุ บ อุ บายกล คิคิ คิ ด คิ ดพลางยืยื ยืนยื อยู่ยู่ยู่แยู่ ต่ต่ ต่ไต่ กล ใกล้ล้ ล้ ท ล้ ทวารนินิ นิ เนิ เวศของยัยั ยั ก ยั กษา ตรวจตรารอบราชธานีนี นีนี จะตรงไปต่ต่ ต่ อ ต่ อฤทธิ์ธิ์ ธิ์ ด้ ธิ์ ด้ ด้ ว ด้ วยยัยั ยั ก ยั กษีษี ษีษี ว่ว่ ว่ า ว่ าอยู่ยู่ยู่ที่ยู่ที่ ที่ แที่ แห่ห่ ห่งห่ หนตำตำตำตำบลใด แอบตนฟัฟัฟังฟั ความให้ห้ ห้ จ ห้ จงได้ด้ ด้ด้ สำสำสำสำรวมใจกำกำกำกำบับั บังบั กายา เมื่อไปถึงประตูของ เมืองยักษ์ ก็เห็นพวกยักษ์เดิน ตรวจตรารอบ ๆ บริเวณอยู่ เป็นจำ นวนมาก หนุมานจึง คิดถ้าเข้าไปต่อสู้กับพวกยักษ์ ก็จะไม่รู้ว่าไมยราพจับ พระรามไปไว้ที่ไหน ดังนั้นหนุ มานจึงคิดว่าจะแอบฟังเพื่อให้ รู้ที่ซ่อนของพระราม
แล้ล้ ล้ ว ล้ วเข้ข้ ข้ า ข้ าแอบต้ต้ ต้ นต้ นโศกอยู่ยู่ยู่ยู่ เข้ข้ ข้ า ข้ าออกบอกกักั กั นกั นจำจำจำจำนรรจา เมื่มื่ มื่ อ มื่ อนั้นั้ นั้ นนั้ น ต้ต้ ต้ อ ต้ องจำจำจำจำลำลำลำลำบากพัพั พั นพั นทวีวี วีวี อยู่ยู่ยู่ใยู่ นเรืรื รื อ รื อนตรุรุ รุกั รุกั กั นกั นดาร ไมยราพอสุสุสุ ร สุ ราพญายัยั ยั ก ยั กษ์ษ์ ษ์ษ์ ใส่ส่ ส่ ก ส่ กระทะจะต้ต้ ต้ มต้ มลุลุลุก ลุกชาย ก็ก็ ก็ ก ก็ กระเดีดี ดียดี ดกระออมเดิดิ ดินดิมา คอยฟัฟัฟังฟั คำคำคำคำหมู่มู่มู่ยัมู่ยั ยั ก ยั กษา ริริ ริมริ ท่ท่ ท่ า ท่ าสระโบกขรณีณี ณีณี ฝ่ฝ่ฝ่ า ฝ่ ายนางพิพิ พิ รพิ รากวนยัยั ยั ก ยั กษีษี ษีษี กักั กั บกั บด้ด้ ด้ ว ด้ วยอสุสุสุ รี สุ รี รี ลู รี ลูลูก ลูกรัรั รั ก รั ก แสนทุทุ ทุก ทุกข์ข์ ข์ ท ข์ ทรมานเพีพี พียพีงอกหัหั หั ก หั ก ใช้ช้ช้ใช้ ห้ห้ ห้ไห้ปตัตั ตั ก ตั กคงคา ให้ห้ ห้ ต ห้ ตายด้ด้ ด้ ว ด้ วยพระรามนาถา ออกจากทวาราธานีนี นีนี หนุมานได้ไปแอบอยู่ตนโศก เพื่อแอบฟังพวกยักษ์คุยกัน นางพิรากวน (พี่สาวของไมยราพ) ถูกไมยราพใช้ให้มา ตักน้ำ ไปใส่กระทะเพื่อจะนำ ไป ต้มลูกชายของ นาง (ไวยวิก) ให้ตายไปพร้อมกับพระราม
นั่งลงแล้วกล่าววาที เราเป็นทหารพระภูวไนย ชื่อว่าหนุมานชาญณรงศ์ ด้วยอ้ายไมยราพฤทธิรอน ไม่รู้ว่าอยู่ตำ บลใด จงพาเราไปในพารา จะช่วยไวยวิกให้พ้นตาย เป็นเจ้าแก่หมู่อสุรี ยายอย่าโศกีละห้อยไห้ ผู้ใดไม่รอดต่อกร มาตามพระองค์ทรงศร มันพาภูธรลงมา จนใจที่จะเสาะแสวงหา จะฆ่ามันให้ม้วยชีวี ตัวยายก็จะสุขเกษมศรี ในที่นครบาดาล หนุมานนั่งลงแล้วพูดกับนางพิรากวนว่า "อย่าร้องไห้เลย เราชื่อหนุมานเป็นทหาร ของพระราม เรามาตามหาพระรามที่ถูกไมยราพจับตัวมา แต่เราไม่รู้ว่าไมยราพเอาไปซ่อน ไว้ ที่ไหน เจ้าต้องพาเราเข้าไปในเมืองของไมยราพ แล้วข้าจะฆ่าไมยราพให้ตาย จากนั้นก็จะช่วย ไวยวิกออกมา แล้วไวยวิกก็จะได้ครองเมืองบาดาลแห่งนี้"
เมื่อนั้น ได้ฟังทหารพระจักรี อันความคิดนี้ประเสริฐนัก จงเร่งนิมิตกายา บัดนั้น ประนมหัตถ์ร่ายเวทฤทธิรอน เป็นใยบัวติดสไบบาง ด้วยเดชพระมนตร์อันฤทธี เมื่อนั้น เอากระออมนั้นตักคงคา นางพิรากวนยักษี ยินดีแล้วตอบวาจา เราจักตอบตามท่านว่า ตัวข้าจะพาบทจร คำ แหงหนุมานชาญสมร สังวรใจนิมิตอินทรีย์ นางพิรากวนยักษี อสุรีไม่เห็นกายา นางพิรากวนยักษา ขึ้นมากระเตียดเดินไป เมื่อนางพิรากวนได้ฟังที่หนุมานพูด "ก็บอกว่าความคิดท่านดีมาก ท่านรีบแปลงกาย เถอะเราจะพาเข้าไปในเมือง" หนุมานประนมมือขึ้นท่องมนตร์ แปลงกายเป็นใยบัว แล้วไปติดอยู่ที่สไบของนางพิรากวน ส่วนนางพิรากวนก็ใช้ กระออมตักน้ำ แล้วเดิน เข้าไปในเมือง
บัดนั้น ฟังนางว่าขึงดึงดัน ต่างคนต่างเห็นเป็นจริง แต่เหลียวดูหน้ากันไปมา เมื่อนั้น เถียงพลางทางรีบจรลี บัดนั้น ยอกรเหนือเกล้าเมาคลี เดชะด้วยวิทยามนตร์ รีบตามองต์พระนารายณ์ นายประตูหมู่มารตัวขยัน ไม่ทันรู้กลมารยา ทุกสิ่งมิได้กังขา ไม่ตอบวาจาเทวี นางพิรากวนยักษี เข้ามายังที่ทวารชัย วายุบุตรวุฒิไกรชัยศรี ขุนกระบี่ร่ายเวทกำ บังกาย ทั้งตนแลเงาก็สูญหาย ยังท้ายพารากุมภัณฑ์ ยักษ์ผู้เฝ้าประตูได้ฟังดังนั้นก็เชื่อว่าเป็นความจริง ต่างคนต่าง มองเห็นกัน ไม่มีใครว่าอะไร ส่วนนางพิรากวนก็รีบเดินเข้าไปในประตู หนุมานประนมมือ ขึ้นร่ายมนตร์ รีบหายตัวไปตามพระรามยังดงตาลท้ายเมืองยักษ์
ครั้นมาถึงที่ดงตาล เห็นหมู่มารรักษากวดขัน นั่งนอนล้อมวงหลายชั้น ผลัดกันกั้นตะเวนตรวจตรา ขุนกระบี่ผู้มีฤิทธิรอน ยกกรเหนือเกล้าเกศา จึงร่ายพระเวทวิทยา สะกดนิทราหมู่มาร เสียงสนั่นครั่นครื้นโพยม ฤดูเหมันต์ หน มืดมนทั่วทิศศาน เย็นเยือกไปทั้งบาดาล ปานดั่ง เมื่อมาถึงดงตาลหนุมานก็เห็นว่ามียักษ์รักษาอยู่หลายชั้นหนุมานจึงยกมือ ประนมร่ายเวทมนตร์เพื่อสะกดหมู่ยักษ์เกิดเสียงดังหวั่นไหวท้องฟ้าก็ มืดมนเยือกเย็นดั่งฤดูฝน
แล้วจึงบังคมก้มเกศ กราบเบื้อง ดำ รพจบพื้นพระธรณี ประกาศด้วยวาจา ของฝูงเทวาสุราฤทธิ์ ซึ่ง ตัวข้าจะไปสังหาร จรจรัล สถิตสิงสู่ในภูผา มาช่วยรักษาพระทรงธรรม์ ทั้งสองศรี เมื่อหนุมานวางพระรามลงบนแท่นบัลลังก์ทองแล้วก็ก้มลงกราบและพูด ว่าขอให้เทวดาที่อาศัยอยู่ที่แห่งนี้ได้มาช่วยดูแลรักษาพระรามด้วยส่วนตัว ข้าจะไปฆ่าไมยราพให้ถึงแก่ความตาย บังเรศ ชุลีกร ทั้งหกห้องสวรรค์ชั้นฟ้า ไมยราพชุนมารให้อาสัญ ฝากแล้วก็รีบ ผันพักตร์คืนเข้ายังธรณี
เสียงสนั่นครั่นครื้นกุลาหล พังลงไม่ทนกำ ลังได้ แล้วมีวาจาประกาศไป เหวยอ้ายไมยราพกุมภัณฑ์ เป็นไฉนตัวถึงไปสอบลัก องค์พระหริรักษ์รังสรรค์ ตามมาโรมรันอสุรา หลังจากหนุมานใช้เท้าถีบประตูก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนประตูพังลง จากนั้นหนุมานก็พูดว่า "ไอ้ไมยราพเหตุใดถึงจึงไปลักพาตัวพระรามมาช้า นี้เป็นทหารของพระรามมีชื่อว่าหนุมานวันนี้จะตามเอาเรื่องถึงจนชีวิตมึง ต้องถึงแก่ความตาย " กูเป็นทหารชาญฉกรรจ์ ชื่อว่าหนุมานชาญณรงค์ อาจองดั่งพญาราชสีห์ ตัวมึงดั่งหนึ่งมฤติ วันนี้จะม้วยวายปราณ
บัดนั้น หนุมานผู้ชาญชัยศรี รบซิดติดพันประจัญตี ไต้ที่โจมจับกุมภัณฑ์ โผนเผ่นขึ้นยืนเหยียบบ่า กรขวาฉวยชิงพระขรรค์ กรอกกลับสัประยุทธ์พัลวัล ฟาดฟันต้องกายขุนมาร หนุมานได้เข้าไปประชิดจับตัวไมยราพไว้ขึ้นไปยืนใช้เท้าเหยียบ บนบ่าของไมยราพส่วนมือกวาก็ไปแย่งพระขรรค์มาได้แล้วฟันลง ไปบนตัวของไมยราพจนพระขรรค์หักเป็นสองท่อนหนุมานจึงใช้ เท้าถีบจนไมยราพล้มลง พระธรรค์ก็หักเป็นสองท่อน วานรบด้วยกําลังหาญ อสุรีล้มลุกคลุกคลาน ขุนกระบี่ทะยานตามตี
เมื่อนั้น ไมยราพสิทธิศักดิ์ยักษี เสียพระขรรค์เพชรอันฤทธิ์ อสุรีคว้าไต้คทาวุธ กวัดแกว่งแสงวาบปลาบตา กระทืบบาทาอึงอุด ผาดแผลงสําแดงฤทธิรุทร กลับเข้าสัประยุทธชิงชัย เมื่อไมยราพได้เสียพระขรรค์เพชรไปแล้วก็ไปคว้าได้คทาแล้วก ลับไปสู้กับหนุมานต่อต่างฝ่ายต่างกันตระบองหักกระเด็นไป แต่ก็ ไปคว้าได้หอกนํามาสู้กันต่อ ต่างคนต่างรับต่างตี เข้าออกเป็นที่หนีไล่ จนตระบองมหัดกระเด็นไป ฉวยได้หอกใหญ่เข้ารอนราญ
หนุมานหลบหลีกได้วิ่งเข้าต่อสู้ มือขวาคว้าได้ตรีเพชรแล้วแทงเข้าตัวไมยราพไปหลายครั้ง จนหอกของไมยราพหัก จากนั้นดึงตรีเพชรออกจากตัวของไมยราพแล้วฟาดฟันจนไมยราพหลบ หลีกไม่ทัน บัดนั้น หลีหลบรบรันประจัญบาน มือขวาฉวยชิงโตมร แทงต้องกุมภัณฑ์เป็นหลายที แล้วชักตรีเพชรออกจากกาย หวดซ้ายป่ายขวาว่องไว วายุบุตรวุฒิไกรใจหาญ โถมทะยานเข้าไล่ราวี ได้ด้วยฤทธิรอนกระบี่ศรี จนหอกอสุรีนั้นหักไป ลูกพระพายฟ้อนฟันกระชั้นไล่ มิได้ดำรงกายทัน
บัดนั้น ได้ฟังก็ดำ ริตริไตร มันคิดเปรียบเทียบดั่งนี้ กูก็ไม่เกรงฤทธา ถึงตัวตายแม่นจะต้องพระพายพัด อันตัวของอ้ายขุนมาร คิดแล้วจึ่งร้องตอบไป เกลือจักไม่เหมือนหนึ่งพาที ตำ แหงหนุมารทหารใหญ่ อันอ้ายไมยราพอสุรา เห็นจะมีอุบายยักษา จะซ้อนกลฆ่ามันให้วายปราณ ก็อุบัติคืนชีพสังขาร นัยจะแหลกลาญด้วยฤทธี ว่าจริงฤๅไฉนยักษี ที่คำ อสุรีสัญญา หนุมานเมื่อได้ยินก็คิดว่า นี่ต้องเป็นแผนที่ไมยราพหลอกเราแน่ๆ แต่อย่านั้นข้าก็ไม่กลัวหรอก ข้าจะซ้อนแผนเพื่อ กำ จัดไมยราพให้ได้ เพราะตัวข้านี้ถึงจะตายไปแล้ว แต่หากมีลมพัดมาโดนตัวก็จะฟื้นขึ้นมา เมื่อคิดได้ดังนั้น หนุมานจึงร้องตอบไปว่า ““ที่เจ้าพูดมานี่จริงหรือไม่ แล้วข้าจะเชื่อที่เจ้าพูดได้หรือไม่”
บัดนั้น ได้ฟังอสุราพาที ครั้นครบเจ็ดคาบก็เป่าไป ให้คงทรหดอดทน เมื่อนั้น เห็นกระบี่นอนทอดกายา กวัดแกว่งสำ แดงแผลงฤทธิ์ สองเท้ากระเหย่งเผ่นทะยาน สามทีสนั่นดั่งฟ้าฟาด อันกายหนุมานชาญชัย หนุมานผู้ชาญชัยศรี ขุนกระบี่ร่ายวิทยามนตร์ กลั้นใจลูบกายสามหน แล้วทอดตนกวักเรียกอสุรา พญาไมยราพยักษา ก็ปรีดาเงือดเงื้อตระบองตาล เสียงสนั่นควรชิตทุกทิศาน ขุนมารก็ตีลงไป ปัถพีกัมปนาทหวาดไหว ก็จมลงในพื้นพสุธา เมื่อหนุมานได้ฟังไมยราพ ก็ท่องเวทมนต์คาถาให้ครบเจ็ดรอบแล้วเป่า จากนั้นก็กลั้นใจลูบร่างกายตนเองแล้วขอให้ ร่างกายตนนี้คงทนไม่เป็นอะไร จากนั้นก็นอนลงแล้วกวักมือเรียกไมยราพ แล้วฟาดตระบองตาลลงไปบนตัวหนุมาน สามครั้ง เสียงดังเหมือนเสียงสายฟ้าแผ่นดินก็สั่นไหว ส่วนร่างกายของหนุมานก็จมลงไปในพื้นดิน
เมื่อนั้น ฟังวายุบุตรก็ปรีดา ซึ่งว่าฆ่ามันไม่ตาย ถอดจิตออกเป็นกุมรี แล้วเอาลงไปซ่อนไว้ ท่านจงคิดฆ่าตัวภมร นางพิรากวนยักษา จึ่งร้องบอกมาทันที เพราะด้วยอุบายยักษี ใส่กล่องมณีอลงกรณ์ ในยอดตรีกูฎสิงขร ไมยราพฤทธิรอนจะวายปราณ นางพรากวนบอกหนุมาณว่า ที่ไมยราพฆ่าไม่ตายเป็นเพราะไมยราพได้ถอดดวงใจเป็นแมลงภู่ แล้วใส่กล่องซ่อนไว้ที่ยอดเขาตรีกูฏ ถ้าฆ่าแมลงภู่ตัวนั้นได้ไมยราพก็จะตายในที่สุด"
เมื่อนั้น ฟังนางบอกแจ้งทุกประการ เท้าเหยียบอสุราไว้มั่น ก็ร่ายพระเวทอันศักดา รูปนั้นใหญ่เท่าพรหมาน พร้อมทั้งสี่พักตร์แปดกร เท้าซ้ายเหยียบอกอสุรี เท้าขวานั้นก้าวทะยานไป วายุบุตรปรีชาหาญ ยินดีปานได้ฟากฟ้า กรนั้นประนมเหนือเกศา นิมิตกายกายาวานร สูงตระหง่านดั่งหนึ่งสิงขร สำ แดงฤทธิรอนเกรียงไกร มิให้เคลื่อนจากที่ขึ้นได้ ยังในตรีกูฏบรรพตา เมื่อหนุมานได้ยินที่นางพิรากวนบอกก็ดีใจมาก ใช้เท้าเหยียบไมยราพไว้ แล้วยกมือประนมขึ้นเหนือหัว ร่ายเวทมนตร์แปลงร่างจนตัวใหญ่เท่าภูเขา มีสี่หน้าแปดมือ เท้าซ้ายเหยียบอกไมยราพไว้ ส่วนเท้าขวาก้าวไปที่เข้าตรีกูฎ
มือหนึ่งง้างยอดคีรินทร จับได้แมลงภุมรา เหวยเหวยไมยราพยักษี ว่าแล้วขยี้เป็นจุรณไป ดั่งหนึ่งพระกาฬพาลราช กายดิ้นระด่าวแดยัน กรหนึ่งนั้นคว่าค้นหา ก็เอาขึ้นมาชูไว้ นี่หัวใจมึงฤๅมิใช่ ตัดเศียรลงให้พร้อมกัน มาฟันฟาดด้วยคมแสงขรรค์ กุมภัณฑ์ก็ม้วยชีวี หนุมานใช้มือข้างหนึ่งยกยอดเขาขึ้นส่วนมืออีกข้างจับเอาแมลงภู่ขึ้นมาชูไว้ แล้วถามไมยราพว่า “นี้ใช่หัวใจของแกใช่หรือไม่ ถามจบแล้ว ไมยราพก็บีบขยี้แมลงภู่จนละเอียด แล้วใช้พระชรรค์ ตัดหัวไมยราพจนขาดไมยราพดิ้นทุรนทุรายและสิ้นใจตายในที่สุด”
คุณค่า ตอน ศึกไมยราพ คุณค่า ตอน ศึกไมยราพ
คุคุ คุคุ ณค่ค่ ค่ค่ าของวรรณคดีดี ดีดี การใช้โวหารเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความรู้สึก การเปรียบเทียบให้เห็นถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูก ตัวอย่าง เช่น ตอนที่หนุมานรู้ว่ามัจฉานุเป็นลูกของตน บัดนั้น หนุมานคำ แหงทหารใหญ่ สวมสอดกอดลูกเข้าไว้ ลูบไล้ไปทั่วอินทรีย์ รับขวัญจุมพิตแล้วพิศพักตร์ ดวงจักษุพ่อเฉลิมศรี ซึ่งเจ้าต่อยุทธ์บิดานี้ เพราะมิได้รู้จักกัน
คุคุ คุคุ ณค่ค่ ค่ค่ าของวรรณคดีดี ดีดี การใช้โวหารเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความรู้สึก การเปรียบเทียบให้เห็นความโกรธ ตัวอย่าง เช่น ตอนมัจฉานุโกรธตอนที่ต่อสู้กับหนุมาน บัดนั้น มัจฉานุฤทธิไกรใจหาญ ได้ฟังกริ้วโกรธคือไฟกาฬ ตบมือฉัดฉานแล้วตอบไป ถึงตัวกูน้อยเท่านี้ จะกลัวฤทธีเอ็งก็หาไม่ อย่าพักอาจองทะนงใจ ใครดีจะได้เห็นกัน
คุคุ คุคุ ณค่ค่ ค่ค่ าของวรรณคดีดี ดีดี การใช้โวหารเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความรู้สึก การเปรียบเทียบให้เห็็นความดีใจ ตัวอย่าง เช่น ตอนนางพิรากวนดีใจเมื่อรู้ว่าหนุมานจะช่วยกำ จัดไมยราพ เมื่อนั้น พิรากวนผู้ยอดสงสาร ได้ฟังคำ แหงหนุมาน นงคราญค่อยคลายจาบัลย์ มีความชื่นชมโสมนัส ดั่งได้สมบัติในสวรรค์ จึ่งว่าไมยราพชาญฉกรรจ์ มันเอาพระองค์ไปไว้
ข้อคิด ๑. สะท้อนให้เห็นความรักความผูกพันระหว่างพ่อลูก ๒2. สะท้อนให้เห็นความรักที่แม่มีต่อลูก ๓. ความดีย่อมชนะความชั่ว
ขอบคุณค่ะ