พิเคราะห์โคลงโลกนิติ E-Book รวบรวมบทประพันธ์โธ์ คลงโลกนิติ จากหนังสือเรียนรายวิชวิาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีลำ นำ ชั้นชั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 บทที่ 6 คบพาล พาลพาไปหาผิดผิ
คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้ เป็นหนังสือที่ผู้จัดทำ ได้จัดทำ ขึ้น เพื่อเป็นสื่อในการเรียนรู้ให้กับนักเรียน คุณครูผู้สอน และบุคคลที่ต้องการจะ ศึกษาในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน จากหนังสือวรรณคดีลำ นำ ชั้นชั้ประถมศึกษา ปีที่ 5 เรื่อง โคลงโลกนิติ ในบทที่ 6 คบพาล พาลพาไปหาผิด หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้ ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความหมาย และประวัติโคลงโลกนิติ บทประพันธ์จำ นวน 12 บท คำ ศัพท์ และการถอด ความจากบทประพันธ์ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาทั้งทั้ทางด้านภาษา วรรณศิลป์ และสังคม ผู้จัดทำ อาทิตยา รัศมี 24 กันยายน 2566
โคลงโลกนิติ เป็น ป็ วรรณกรรมประเภทคำ สอน ในลักษณะ ของโคลงสุภ สุ าษิต คำ ว่าว่ โลกนิติ (อ่าอ่นว่าว่ โลก-กะ-นิด) แปลว่าว่ ระเบียบีบแบบแผนแห่งโลก เนื้อหาในโคลงโลกนิติจึง จึ มุ่งมุ่แสดงความจริงของโลกและ สัจธรรมของชีวิชีตวิเพื่อให้ผู้อ่าอ่นได้รู้เท่าทันต่อโลก และเข้า ข้ใจใน ความเป็น ป็ ไปของชีวิชีตวิพร้อมเป็น ป็ แม่แม่บบเพื่อให้ผู้อ่าอ่นได้ดำ เนิน ชีวิชีตวิ ไปในทางที่ถูก ถู ต้องดีงามสืบไป โคลงโลกนิติมีคมีวามไพเราะเหมาะสมทั้งด้านรูปแบบและ เนื้อหาปรัชญาสาระ ครบคุณ คุ ค่าทางวรรณกรรม ทำ ให้เป็น ป็ ที่ แพร่หลายในหมู่คมู่นทั่วไป บางท่านกล่าวยกย่องโคลงโลกนิติว่าว่ เป็น ป็ อมตะวรรณกรรมคำ สอน หรือ ยอดสุภ สุ าษิตอมตะ ได้รับคัด เลือกจากกระทรวงศึกษาธิกธิารให้เป็น ป็ บทอ่าอ่นในหนังสือแบบ เรียนสำ หรับนักเรียนนักศึกษาอยู่ทุก ทุ ยุคสมัยมัและได้รับการจัดจั ให้เป็น ป็ หนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าอ่น เกี่ยวกับโคลงโลกนิติ ความหมาย ครรโลงโลกนิตินี้ นมนาน มีแ มี ต่โบราณกาล เก่าพร้อง เป็น ป็ สุภ สุ ษิตสาร สอนจิตจิ กลดั่งสร้อยสอดคล้อง เวี่ย วี่ ไว้ใว้ นกรรณ
สำ นวนเก่า คัมภีร์ธรรมนีติ, คัมภีร์ราชนีติ, หิโตปเทศ, ธรรมบท และ พระไตรปิฎปิก เป็น ป็ ต้น มาถอดความแล้วเรียบเรียงแต่งเป็น ป็ โคลงโลกนิติ ศิลาจารึกวัดวัพระเชตุพ ตุ นฯ พระเจ้า จ้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)ทรงชำ ระโคลงโลกนิติ สำ นวนเก่าให้ประณีตไพเราะยิ่งขึ้น ขึ้ เพื่อจารึกไว้ใว้ นคราวเดียวกัน นำ 2 บท) คาดว่าว่มีโมีคลงที่แต่งเพิ่มเติมเพื่อให้พอดีกับพื้นที่จารึก โคลงโลกนิติสำ นวนเก่าเชื่อชื่กันว่าว่มีมมีาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ใญ์ นสมัยมันั้นได้คัดเลือกหาคาถาสุภ สุ าษิตภาษาบาลี และภาษาสันสกฤตที่ปรากฏในคัมภีร์ต่าง ๆ เช่นช่คัมภีร์โลกนิติ, ต่อมาในสมัยมัรัตนโกสินทร์ เมื่อมื่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้า จ้ อยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดวัพระเชตุพ ตุ นวิมวิลมังมัคลาราม (วัดวั โพธิ์ฯธิ์) ในปี พ.ศ. 2374 ก็มีดำมี ดำริให้จารึก วิชวิาการสาขาต่าง ๆ ไว้บ ว้ นแผ่นศิลาที่ประดับไว้ต ว้ ามเสาหรือกำ แพง พระวิหวิาร ในการนี้จึง จึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้า จ้ น้องยาเธอกรมขุนเดชอดิศร (ต่อมาได้ดำ รงพระยศเป็น ป็ สมเด็จ จำ นวนโคลงโลกนิติที่ปรากฏต้นฉบับบั ในสมุดไทยมีทั้มี ทั้งสิ้น 408 บท แต่ที่จารึกไว้ใว้ นวัดวัพระเชตุพ ตุ นฯ แผ่นละบท มี 435 แผ่น (รวมโคลง ประวัติวั ติ
ลักษณะคำ ประพันธ์ โคลงโลกนิติ มีลัมี ลักษณะคำ ประพันธ์คื ธ์ คือเป็น ป็ โคลง สี่สุภ สุ าพ ซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ คำ ประพันที่แต่งยาก เนื่องจากมีกมีาร บังบัคับตำ แหน่งคำ เอก (คำ ที่สะกดด้วยวรรณยุกต์เอก) 7 แห่ง และคำ โท (คำ ที่สะกดด้วยวรรณยุกต์โท) 4 แห่ง โคลงโลกนิติมีลัมี ลักษณะเด่นในการประพันธ์คื ธ์ คือ เป็น ป็ การแต่งโคลงสี่สุภ สุ าพที่เข้า ข้ใจง่าง่ย เมื่อมื่อ่าอ่นแล้ว คนธรรมดาทั่วไปสามารถเข้า ข้ใจได้ทันที
คำ ศัพท์และความหมาย ปลาร้า หมายถึง ปลาหมักมัเกลือใส่ข้า ข้ วคั่ว คา หมายถึง ชื่อชื่ ใบไม้ ใบมีลัมี ลักษณะคาย คละคลุ้งลุ้หมายถึง เหม็น ม็ ตลบไปทั่วคล้ายกลิ่นของเน่าเสีย พาล หมายถึง ทำ ให้เรื่องวุ่นวุ่ วาย (คนพาล) เฟื่อง หมายถึง ฟุ้ง กระจาย พงศ์ หมายถึง เชื้อชื้สาย สกุลกุ ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 1 ปลาร้าพันห่อด้วย ใบคา ใบก็เหม็นคาวปลา คละคลุ้ง ลุ้ คือคนหมู่ไมู่ ปหา คบเพื่อน พาลนา ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง เฟื่องให้เสียพงศ์ 1. 2. 3. 4. 5. 6. ปลาร้าที่มีกมีลิ่นเหม็น ม็ เมื่อมื่เรานำ ใบคามาห่อ กลิ่นเหม็น ม็ ของ ปลาร้าย่อมติดกับใบคาไปด้วยเฉกเช่นช่เดียวกับการคบเพื่อน หาก เราคบเพื่อนไม่ดีม่ ดีเราก็จะได้รับแต่สิ่งไม่ดีม่ ดีทำ ให้เสียชื่อชื่วงศ์ตระกูลกู ซึ่งซึ่ตรงกับสำ นวนที่ว่าว่ “คบคนพาล พาลพาไปหาผิดคบบัณบัฑิต บัณบัฑิตพาไปหาผล” โคลงโลกนิติ 12 บท
คำ ศัพท์และความหมาย พ้อ หมายถึง ต้นกะพ้อ กฤษณา หมายถึง ชื่อชื่ ไม้เ ม้ นื้อหอม ระรวย หมายถึง แผ่ว ๆ เบา ๆ เสพ หมายถึง กิน บริโภค เสน่หา หมายถึง ความรัก นักปราชญ์ หมายถึง ผู้รอบรู้ มีปัมีญปัญา ฤๅม้ว ม้ ย หมายถึง ไม่มีม่สิ้มี สิ้นสุดสุ ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 2 ใบพ้อพันห่อหุ้ม กฤษณา หอมระรวยรสพา เพริศด้วย คือคนเสพเสน่หา นักปราชญ์ ความสุข สุ ซาบฤๅม้ว ม้ ย ดุจ ดุ ไม้ก ม้ ลิ่นหอม 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. กฤษณาคือไม้เ ม้ นื้อหอมชนิดหนึ่ง เมื่อมื่นำ ใบต้นกะพ้อมาห่อ กลิ่น หอมของกฤษณาย่อมติดใบต้นกะพ้อไปด้วย เช่นช่เดียวกันกับการคบผู้ที่ มีปัมีญปัญาหรือนักปราชญ์ ย่อมนำ พาความสุขสุมาให้ไม่มีม่สิ้มี สิ้นสุดสุเหมือมืนกับ ไม้ก ม้ ลิ่นหอม ตรงกับสำ นวนไทยที่ว่าว่ “คบคนพาล พาลพาไปหาผิดคบ บัณบัฑิต บัณบัฑิตพาไปหาผล”
คำ ศัพท์และความหมาย พรรณ หมายถึง สีผิว ชาด หมายถึง สีแดงสด บ้าย หมายถึง ป้าย ทา บ่อน หมายถึง กินฟอนอยู่ข้า ข้ งใน ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 3 ผลเดื่อเมื่อ มื่ สุก สุ ไซร้ มีพ มี รรณ ภายนอกแดงดูฉั ดูฉัน ชาดบ้า บ้ ย ภายในย่อมแมลงวันวัหนอนบ่อ บ่ น ดุจ ดุ ดังคนใจร้าย นอกนั้นดูง ดู าม 1. 2. 3. 4. ผลมะเดื่อเมื่อมื่สุกสุแล้วจะมีสีมี สีแดง ภายนอกดูสดูวยงาม แต่ข้า ข้ งในมีหมีนอนและแมลงวันวั ไชอยู่ เหมือมืนกับคนบางคน ที่หน้าตาดูดีดูดีแต่ภายในเป็นคนใจร้าย ตามสำ นวนไทยที่ว่าว่ “ข้า ข้ งนอกสุกสุใสข้า ข้ งในเป็นโพรง”
พและความหมาย ยาง หมายง นกกระยาง เฉก หมายง เหอ น, อาง ถอดประนบทที่ 4 ยางขาวขนเยบอย ภายนอกหมดใสเปยบาย นตเ ว์สพปลาต เฉกเน ชนชาาย นอกนนวลงาม 1. 2. นกกระยางข นเยบอย ภายนอกข นขาวเหอ น าย แแจงแวยชอบนปลาเน เหอ นบคนย ไแภายนอกนงภ าต“า งนอกก ใสา งในเน โพรง”
คำ ศัพท์และความหมาย แร้ง หมายถึง ชื่อชื่นกชนิดหนึ่ง มีขมีนาดใหญ่ กินซากสัตว์เ ว์ป็น ป็ อาหาร มรณัง หมายถึง ความตาย นฤ หมายถึง ไม่มีม่ มี สาธุช ธุ น หมายถึง คนดี กลั่น หมายถึง คัดเอา ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 5 รูปแร้งดูร่ ดู ร่ างร้าย รุงรัง ภายนอกเพียงพึงชังชัชั่วชั่ช้า ช้ เสพสัตว์ที่ ว์ ที่ มรณัง นฤโทษ ดังจิตจิสาธุช ธุ นกล้า กลั่นสร้างทางผล 1. 2. 3. 4. 5. แร้งเป็น ป็ นกที่หน้าตาดุร้ ดุ ร้ าย ภายนอกดูชั่ ดูชั่วชั่ช้า ช้ แต่กลับกินเพียงซาก สัตว์ไว์ ม่มีม่ชีมีวิชีตวิซึ่ง ซึ่ นอกจากไม่เม่ ป็น ป็ การฆ่าฆ่สัตว์ตั ว์ ตัวอื่นอื่แล้วยังส่งผลดี ต่อระบบนิเวศ อีกอีด้วย จึง จึ เปรียบได้กับคนจิตจิ ใจดี ที่สร้างแต่สิ่งมี ประโยชน์นั้นเอง ดังสุภ สุ าษิตว่าว่ “ข้า ข้ งนอกขรุขระ ข้า ข้ งในต๊ะติ๊งโหน่ง”
คำ ศัพท์และความหมาย สมาคม หมายถึง คบค้า คบหา อุดม หมายถึง มากมาย บริบูรณ์ ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 6 เป็น ป็ คนควรรอบรู้ สมาคม สองประการนิยม กล่าวไว้ หนึ่งพาลหนึ่งอุดม นักปราชญ์ สองสิ่งนี้จงให้ เลือกรู้สมาคม 1. 2. มนุษย์ทุก ทุ คนควรรู้จักจัการเลือกคบค้าหรือคบหามนุษย์ คนอื่นอื่ โดยคนมักมัมี 2 ประเภท คือ 1. คนพาล 2. คนมีคมีวามรู้ หรือนักปราชญ์ คนสองประเภทนี้ต้องเลือกคบหาสมาคม ดังสุภ สุ าษิตว่าว่ “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณบัฑิต บัณบัฑิตพาไปหาผล”
คำ ศัพท์และความหมาย นาคี หมายถึง งู สุริ สุริโย หมายถึง พระอาทิตย์ เดโช หมายถึง อำ นาจ โยโส หมายถึง เย่อหยิ่ง แมลงป่อป่ง หมายถึง แมงป่อป่ง ฤทธี หมายถึง แรงอำ นาจ ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 7 นาคีมีพิ มี พิษเพี้ยง สุริ สุริโย เลื้อยบ่ทำ บ่ ทำ เดโช แช่ม ช่ ช้า ช้ พิษน้อยหยิ่งโยโส แมลงป่อ ป่ ง ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้างฤทธี 1. 2. 3. 4. 5. 6. งูเป็น ป็ สัตว์ที่ ว์ ที่มีพิมี พิษแรงกล้าดั่งพระอาทิตย์ แต่มันมักลับ ชอบเลื้อยช้า ช้ ๆ ไม่แม่สดงอำ นาจอะไร ต่างจากแมงป่อป่งที่มี พิษน้อยแต่ชอบอวดอ้างชูหางตัวเองเพื่อแสดงอำ นาจ ดังสำ นวนว่าว่ “คมในฝัก”
คำ ศัพท์และความหมาย หงส์ หมายถึง นกในนิยายถือเป็น ป็ นกในตระกูล กู สูง สู ประสงค์ หมายถึง อยากได้ ต้องการ ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 8 เสียสินสงวนศักดิ์ไว้ วงศ์หงส์ เสียศักดิ์สู้ป สู้ ระสงค์ สิ่งรู้ เสียรู้เร่งดำ รง ความสัตย์ไว้น ว้ า เสียสัตย์อย่าเสียสู้ ชีพ ชี ม้ว ม้ ยมรณา 1. 2. โคลงบทนี้สอนให้เรารู้จักจัเลือก หากต้องเลือกระหว่าว่ง ทรัพย์สินกับศักดิ์ศรี เราควรเลือกรักษาศักดิ์ศรีไว้แ ว้ ต่เมื่อมื่ต้อง เลือกศักดิ์ศรีและความรู้ จงเลือกลดศักดิ์ศรีและรับความรู้มา หากเสียรู้เล่ห์เลี่ยมกลโกง ก็จงยึดมั่นมั่ความซื่อซื่สัตย์เอาไว้ และ สุด สุ ท้ายหากต้องเสียความซื่อซื่สัตย์ สู้ย สู้ อมตายเสียดีกว่าว่ตรงกับ สุภ สุ าษิตที่ว่าว่ “เสียชีพชีอย่าเสียสัตย์”
คำ ศัพท์และความหมาย ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 9 งาสารฤาห่อนเหี้ยน หดคืน คำ กล่าวสาธุช ธุ นยืน อย่างนั้น ทุรชนกล่าวคำ ฝืน คำ เล่า หัวเต่ายาวแล้วสั้น เล่ห์ลิ้นทรชน งาสาร หมายถึง งาช้า ช้ ง ห่อน หมายถึง ไม่ เหี้ยน หมายถึง หมด ตัดไปเกือบหมด ทุรชน / ทรชน หมายถึง คนชั่วชั่ร้าย เล่ห์ หมายถึง กลอุบอุาย งาช้า ช้ งที่แสนสวยงามและล้ำ ค่า ไม่มีม่วัมีนวัหด หรือหายไป ก็เหมือมืน กับคนดีที่ยืดมั่นมั่ ในคำ พูด และไม่มีม่วัมีนวักลับคำ ในทางกลับกัน คำ พูดของคนไม่ดีม่ ดีมักมักลับกลอกเหมือมืนกับหัวของเต่าที่ชอบ ผลุบลุเข้า ข้ ผลุบลุออกเหมือมืนกับสำ นวนว่าว่ “ลิ้นไม่มีม่กมีระดูกดู”
คำ ศัพท์และความหมาย ทั่ง หมายถึง แท่งเหล็กใช้ร ช้ องรับโลหะตอนตีให้เรียบ ผ่ายหน้า หมายถึง ภายหน้า กล หมายถึง เปรียบ ประหนึ่ง ราวกับ อุทก หมายถึง น้ำ ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 10 ความรู้ผู้ปราชญ์นั้ ญ์ นั้ น นักเรียน ฝนทั่งเท่าเข็ม ข็ เพียร ผ่ายหน้า คนเกียจเกลียดหน่ายเวีย วี น วนจิตจิ กลอุทกในตะกร้า เปี่ย ปี่ มล้นฤามี 1. 2. 3. 4. คนดีหรือคนที่มีคมีวามรู้อย่างนักปราชญ์มั ญ์ กมัมีคมีวามขยันหมั่นมั่เพียร สามารถที่จะฝนทั่งสำ หรับตีเหล็กชิ้นชิ้ ใหญ่ใญ่ห้เล็กได้เท่าเข็ม ข็ เย็บผ้า แต่คนที่มีนิมี นิสัยเกียจคร้าน ไม่ว่ม่าว่จะทำ สิ่งใดก็ไม่สำม่ สำเร็จ เหมือมืนกับการ ตักน้ำ ใส่ตะกร้าที่ไม่มีม่วัมีนวัเต็มได้ ดังสุภ สุ าษิตว่าว่ “ฝนทั่งให้เป็น ป็ เข็ม ข็ และ ตักน้ำ รดหัวตอ”
คำ ศัพท์และความหมาย อาตม หมายถึง ตน, ตัวตน บ่ หมายถึง ไม่ ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 11 ความรู้ดูยิ่ ดูยิ่งล้ำ สินทรัพย์ คิดค่าควรเมือ มื งนับ ยิ่งไซร้ เพราะเหตุจั ตุ กจัอยู่กับ กายอาต-มานา โจรจักจัเบีย บี นบ่ไบ่ ด้ เร่งรู้เรียนเอา 1. 2. ความรู้นั้นมีค่ายิ่งกว่าว่ทรัพย์สินเงินทอง เงินทองยังสามารถ นับได้ แต่ความรู้ไม่สามารถนับได้ สาเหตุที่ความรู้นั้นล้ำ ค่าเพราะ เป็นสิ่งที่อยู่ติดกับตัวเรา โจรไม่สามารถขโมยได้เหมือนขโมย เงินทอง ดังนั้นทุกคนจึง จึ ควรเร่งเพิ่มพูนความรู้นั้นเอง
คำ ศัพท์และความหมาย สดับ หมายถึง ตั้งใจฟัง ไป่ หมายถึง ไม่ ลิขิตขิหมายถึง เขียขีน กำ หนด ถอดคำ ประพันธ์ บทที่ 12 เว้น ว้ วิจวิารณ์ว่า ว่ งเว้น ว้ สดับฟัง เว้น ว้ ที่ถามอันอัยัง ไป่รู้ เว้น ว้ เล่าลิขิตสัง- เกตว่า ว่ งเว้น ว้ นา เว้น ว้ ดั่งกล่าวว่า ว่ ผู้ ปราชญ์ไญ์ ด้ฤามี 1. 2. 3. การเว้น ว้ ไม่วิม่จวิารณ์งาน เว้น ว้ ไม่ฟัม่ ฟังคนอื่นอื่พูด เว้น ว้ ถามในสิ่งที่ตน ยังไม่รู้ม่ รู้เว้น ว้ การเขียขีนหนังสือ และเว้น ว้ การสังเกตการเว้น ว้ การ กระทำ ดังกล่าวเป็น ป็ สิ่งที่ผู้มีคมีวามรู้หรือเหล่านักปราชญ์ไญ์ ม่ทำม่ ทำกัน ดังสุภ สุ าษิตว่าว่ “รู้ไว้ใว้ ช่ว่ช่าว่ ใส่บ่าบ่แบกหาม”
สิ่งที่น่าสังเกตประการหนึ่งในโคลงโลกนิติ คือ การเปรียบเทียบ หรือ "การอุปอุมา" ผู้แต่งยกธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่งมาอ้าอ้ง แล้วโยง มาสู่เสู่รื่องที่ต้องการนำ เสนอ ดังเช่นช่บทตัวอย่างข้าข้งตัน ผู้แต่งนำ ธรรมชาติ ของแมงป้อป้ง (เดิมใช้เช้ป็น ป็ แมลงป้อป้ง) และงูพิษมาเปรียบเท็ยบ เพื่อบอก ถึงลักษณะนิสัยหรือธรรมชาติของคน ซึ่งซึ่เป็น ป็ ความจริงที่ไม่อม่าจโต้แย้งได้ ลักษณะการแต่งเช่นช่นี้ มีปมีรากฏในคำ ประพันธ์แ ธ์ ทบทุกทุบท สิ่งที่น่าสังเกตในโคลงโลกนิติ
บรรณนานุกรม กระทรวงศึกษาธิกธิาร. (2563). หนังสือวรรณคดีลำ นำ ชั้นชั้ ประถมศึกษาปีที่ปี ที่5, หน้า76-87 Jutalak Cherdharun. (2020). โคลงโลกนิติ ชั้นชั้ ประถมศึกษา ปีที่ปี ที่5 วิชวิาภาษาไทย. สืบค้นเมื่อมื่วันวัที่ 13 กันายน 2566, จากเว็บ ว็ ไซต์ https://blog.startdee.com/โคลงโลกนิติ-ป-5-ภาษาไทย
................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ใบงานที่ 1 เรื่อรื่ง พิเคราะห์โคลงเชื่อชื่มโยงสำ นวนสุภาษิต หน่วยการเรียรีนรู้ที่รู้ที่6 เรื่อรื่ง คบพาล พาลพาไปหาผิด แผนการจัดจัการเรียรีนรู้ที่รู้ที่1 วินิวิ นิจโคลง อ่าอ่นโลกนิติ รายวิชวิาภาษาไทย ท15101 คำ ชี้แชี้จง : ให้นักเรียรีนอ่าอ่นบทประพันธ์จธ์ากโจทย์เย์พื่อถอดความและนำ มาเชื่อชื่มโยงกับสำ นวนสุภาษิต ที่กำ หนดให้ พร้อร้มกับบอกข้อข้คิดที่ ได้รับรัเพื่อนำ ไปปรับรัใช้ใช้นชีวิชีตวิจำ นวน 1 ข้อข้ ใบพ้อพ้พันพัห่อห่หุ้มหุ้กฤษณา หอมระรวยรสพา เพริศริด้วย คือคนเสพเสน่หา นักปราชญ์ ความสุขซาบฤๅม้วย ดุจไม้กลิ่นลิ่หอม 1.คำ ศัพท์และความหมาย 1.1พ้อ หมายถึง ............................................................................................. 1.2กฤษณา หมายถึง ............................................................................................ 1.3ระรวย หมายถึง ............................................................................................ 1.4เสพ หมายถึง ............................................................................................ 1.5เสน่หา หมายถึง ............................................................................................ 1.6นักปราชญ์ หมายถึง ............................................................................................ 1.7ฤๅม้วย หมายถึง ............................................................................................ 3.นักเรียนจะนำ ข้อคิดที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำ วันอย่างไร ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. คบคนพาล พาลพาไปหาผิดผิคบบัณบัฑิต บัณบัฑิตพาไปหาผล / คมในฝักฝั / เสียชีพชีอย่าย่เสียสัตย์ 2.ถอดคำ ประพันธ์ข้างต้นและเลือกสำ นวนสุภาษิตษิที่กำ หนดให้มาเชื่อมโยง ชื่อ.................................................................ชั้นชั้............เลขที่...........