รายงานการศึกษา
เรอ่ื ง...การพูด
ผู้จัดทา
นายจักรกฤษณ์ วนั ตอื้
เสนอ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาโรช สอาดเอ่ยี ม
รายงานเลม่ น้เี ปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาค้นคว้า
รายวิชา GE 4005 เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การศึกษาค้นคว้า
ภาคการศึกษาท1ี่ ปกี ารศกึ ษา 2565
รายงานการศึกษา
เรอ่ื ง...การพูด
ผู้จัดทา
นายจักรกฤษณ์ วนั ตอื้
เสนอ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาโรช สอาดเอ่ยี ม
รายงานเลม่ น้เี ปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาค้นคว้า
รายวิชา GE 4005 เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การศึกษาค้นคว้า
ภาคการศึกษาท1ี่ ปกี ารศกึ ษา 2565
ก
นายจักรกฤษณ์ วันต้ือ
คานา
ประเทศไทยเรามีการพดู ทีด่ ีงามสืบทอดกันมาแต่ช้านาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึง วิถีการดารงชีวิต ของคน
ในสมัยก่อนและสืบทอดกันมาจนถึงรุ่นลูกหลาน โดยประเทศไทยเรานั้นมีภาษาไทยเป็นของตัวเอง ซ่ึง
ภาษาไทยเปน็ สิ่งสาคญั ประจาชาติไทย มีการใชม้ ายั่งยาวนานจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังได้รับอธิพลมาจากภาษาอ่ืน
ด้วย จึงทาให้การใช้ภาษาไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทยแท้ ในเร่ืองการพูด
และการเขียน
รายงานเล่มนี้จัดทาขึ้นเพื่อศึกษาค้นคว้าประกอบการศึกษาเร่ืองหลักภาษาไทย ผู้จัดทาได้วิเคราะห์
รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับหลักภาษาไทยเพ่ือนามาจัดทารายงานเล่มน้ี คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงาน
เล่มนีจ้ ะเปน็ ประโยชนต์ ่อผู้ที่สนใจศกึ ษาเกยี่ วกับหลักภาษาไทย ซึ่งถือเป็นภาษาประจาชาติท่ีดีงามของชาวไทย
เพอ่ื ให้อนุรกั ษ์สืบสารและใช้หลักภาษาไทยไดอ้ ย่าถูกหลัก
ขอขอบพระคุณ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ สาโรช สะอาดเอยี่ ม อาจารย์ประจาวชิ า ท่ีให้คาปรึกษาแนะนา เพ่ือให้
รายงานเล่มนี้ออกมาอย่างสมบรู ณแ์ ละสาเร็จลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดี ถา้ รายงานเลม่ น้ีมีความบกพร่องหรือผดิ พลาด
ประการใดทางผ้จู ัดทาขอน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไขตอ่ ไป
สารบญั ข
เร่อื ง นายจกั รกฤษณ์ วนั ตื้อ
การพดู และการเขียน หนา้
ความสาคญั
ภาษาพดู 1
ภาษาเขียน 1
1
ความหมาย 1
สาระสาคัญ 2
ภาษาเป็นวัฒนธรรม 3
การแบ่งระดับภาษา 4
5
2.1 ภาษาระดับทางการ 6
2.2 ภาษาระดับกึ่งทางการ 7
2.3 ภาษาระดบั ปาก 8
1) ภาษาระดับพธิ ีการ 10
2) ภาษาระดบั ทางการ 11
3) ภาษาระดบั ก่งึ ทางการ 12
4) ภาษาระดับสนทนาท่ัวไป 13
5) ภาษาระดบั กันเอง หรือระดบั ภาษาปาก 14
1
นายจกั รกฤษณ์ วันตอ้ื
การพูดและการเขียน
ความสาคญั
ภาษาเปน็ ส่งิ ที่มนุษยใ์ นแต่ละสงั คมกาหนดข้ึน เพื่อทาความเขา้ ใจตกลงกันระหวา่ งสมาชิกในกลุ่ม
ฉะนน้ั การใช้ภาษาจงึ ต้องใช้ได้ตรงตามกาหนดของสงั คม ไม่ว่าเปน็ ภาษาพดู หรือภาษาเขียน หากส่งิ ใดผดิ แปลก
ไปจากข้อตกลงการส่ือสารกจ็ ะหยดุ ชะงักลา่ ชา้ ลง ผิดแผกไปจากเจตนาหรือไม่สามารถสื่อสารได้
ภาษาพดู
ภาษาพูดเปน็ ภาษาที่ใช้พูดจากันไม่เปน็ แบบแผนภาษา ไม่พถิ ีพถิ นั ในการใช้แตใ่ ชส้ ื่อสารกันได้
ดี สรา้ งความร้สู กึ ที่เป็นกนั เอง ใช้ในหมู่เพ่ือนฝงู ในครอบครัว และติดต่อส่ือสารกันอยา่ งไมเ่ ปน็
ทางการการใชภ้ าษาพดู จะใชภ้ าษาที่เปน็ กันเองและสุภาพ ขณะเดียวกันก็คานงึ ถึงวา่ พดู กับบคุ คลทม่ี ี
ฐานะตา่ งกันการใช้ถ้อยคาก็ต่างกันไปด้วย ไม่คานึงถงึ หลกั ภาษาหรือระเบยี บแบบแผนการใชภ้ าษา
มากนกั
ภาษาเขยี น
เปน็ ภาษาท่เี คร่งครัดต่อการใช้ถ้อยคาและคานึงถึงหลกั ภาษาเพื่อใชใ้ นการ
สอ่ื สารใหถ้ กู ต้อง และใช้ใน การเขยี นมากกวา่ การพดู ต้องใช้ถ้อยคาที่สุภาพ เขยี นให้เป็นประโยค
เลือกใช้ถ้อยคา ที่ เหมาะสมกบั สถานการณ์ในการส่ือสาร เปน็ ภาษาท่ีใชใ้ นพธิ กี ารและเปน็ ทางการ
เช่น การกลา่ วรายงาน กลา่ วปราศรัย กลา่ วสดุดี การประชุมอภปิ ราย การปาฐกถา การใชภ้ าษาจะ
ระมดั ระวงั ไม่ใชค้ าท่ีไมจ่ าเปน็ หรือคาฟุ่มเฟอื ยหรือการเลน่ คาจนกลายเป็นการพดู หรอื เขยี นเล่นๆ
ดงั นั้นภาษาพดู และภาษาเขยี น จงึ มคี วามสาคัญทจ่ี าเปน็ ต้องศึกษาให้เข้าใจ
และฝกึ ใชใ้ ห้ถูกต้อง โดยคานงึ ถึงความเหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล
2
นายจกั รกฤษณ์ วนั ต้อื
ความหมาย
ภาษาพดู หมายถงึ ภาษาท่ใี ช้ส่อื สารกนั ด้วยการพดู
3
นายจักรกฤษณ์ วันต้อื
สาระสาคัญ
สาระสาคญั ในการจัดการเรยี นการสอนภาษาพูด ประกอบดว้ ย
1. ภาษาเป็นวัฒนธรรม
2. การแบง่ ระดับภาษา
4
นายจกั รกฤษณ์ วนั ตื้อ
ภาษาเปน็ วฒั นธรรม
ภาษาเป็นวัฒนธรรม เพราะภาษาเปน็ องค์ประกอบท่ีสาคัญ ท่จี ะทาใหป้ ระเทศชาตมิ ัน่ คงเปน็
ปึกแผน่ ด้วยเหตทุ ่คี นพูดภาษาเดยี วกนั ยอ่ มมีควมผกู พัน รักใครก่ ลมเกลยี ว รว่ มมือรว่ มใจกันประกอบภารกจิ
ต่างๆ ให้เจรญิ กา้ วหนา้ ไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพนอกจากนภ้ี าษายงั เป็นเคร่ืองบอกให้รู้นิสัยใจคอ สภาพความ
เป็นอยแู่ ละวัฒนธรรมของคนในสังคมนน้ั ๆด้วย เชน่ สานวนไทยทว่ี ่า"สาเนียงบอกภาษา กริ ยิ าส่อสกุล" เปน็ ตน้
อกี ประการหน่งึ ทีว่ า่ ภาษาเปน็ วัฒนธรรม กค็ ือ ภาษาเปน็ เคร่อื งมือวัดความเจริญกา้ วหน้าของ
ชาตนิ ัน้ ๆ ว่ามวี ฒั นธรรมสูงส่งเพยี งไร จะสังเกตุได้ คือ คนทีย่ ังปา่ เถื่อนหรือไมไ่ ดร้ บั อบรมมาก่อน
เวลาพดู กจ็ ะไม่น่าฟงั เชน่ ใชภ้ าษากกั ขฬะ คือ แขง็ กระด้างแต่คนท่ีไดร้ ับการศึกษาอบรมมาเปน็ อย่างดแี ล้ว
จะพดู จาได้ไพเราะ ใช้ภาษาก็ถูกต้องตามแบบแผนใชค้ าพูดสอ่ื ความหมายได้ แจ่มแจ้งไม่กากวม
เปน็ ภาษาท่กี ่อใหเ้ กดิ ความเข้าใจอันดีในหมคู่ ณะอกี ท้ังสามารถใชภ้ าษาได้ถูกต้องตามกาลเทศะและ
เหมาะสมกับฐานะของบคุ คล
5
นายจกั รกฤษณ์ วันตอ้ื
การแบ่งระดับภาษา
ลักษณะสาคญั ประการหนึง่ ของภาษาไทย คอื มีการแบง่ ระดับของภาษา ซึ่งภาษาอน่ื ๆ เช่น
ภาษาอังกฤษก็มรี ะดับภาษาเช่นกนั แต่ลกั ษณะดังกลา่ วมิใช่เร่อื งสาคญั เปน็ พิเศษเหมือนภาษาไทย
เมือ่ กลา่ วโดยสว่ นรวม ระดบั ภาษาเป็นธรรมชาติอย่างหนึง่ ของภาษาท่ีพฒั นาแล้ว และเมือ่ กลา่ วเฉพาะ
ภาษาไทย ระดบั ภาษาเป็นลักษณะพิเศษทจี่ ะต้องเขา้ ใจและใชใ้ ห้ถูกต้องและเหมาะสม
โดยปกตผิ ้คู นใชภ้ าษาในการสื่อสาร มิใช่เพียงเพื่อให้ร้เู รอ่ื งกนั ระหว่างผู้สง่ สารและผ้รู ับสาร
เทา่ นัน้ แต่ยังต้องใช้ให้ได้ผลดดี ว้ ย นัน่ กค็ อื ต้องใชภ้ าษาโดยคานึงถงึ ความเหมาสมกับกาลเทศะ
บคุ คล รวมทงั้ คานึงถึงลักษณะของเน้อื หา และสอื่ ที่จะใช้ดว้ ย โดยเราใชส้ ่งิ เหลา่ นเ้ี ปน็ ตวั กาหนด
ระดบั ของภาษาทจ่ี ะใช้ จงึ ได้มีการแบง่ ระดบั ของภาษาตามสมั พนั ธภาพของบุคคล โอกาส สถานทแ่ี ละประชมุ
ระดบั ภาษา หมายถงึ ความลดหลน่ั ของถ้อยคา และการเรียบเรียงถอ้ ยคาทใ่ี ชต้ ามโอกาส
กาลเทศะ และความสมั พันธร์ ะหวา่ งบุคคลทเ่ี ป็นผ้สู ่งสารและผรู้ บั สาร
คนในสังคมแบง่ ออกเปน็ หลายกลมุ่ หลายชนชนั้ ตามสถานภาพ อาชพี ถ่ินทอ่ี ยู่อาศยั ฯลฯ
ภาษาจึงมีลกั ษณะผดิ แผกหลายระดบั ไปตามกลมุ่ คนที่ใช้ภาษาด้วย เชน่ การกาหนดถ้อยคาที่ใช้แก่พระสงฆ์
ใหแ้ ตกตา่ งจากคนทั่วไป หรือการคิดถ้อยคาขนึ้ ใหมเ่ พ่ือใชใ้ นวงการอาชีพต่างๆ การสนทนาระหว่าง
ผูท้ ่คี ุ้นเคยกนั ย่อมแตกต่างจากการสนทนาระหว่างผทู้ ี่เพง่ิ เคยพบกนั เป็นครั้งแรก หรือการพูดในที่ประชมุ ชน
ยอ่ มต้องระมดั ระวังคาพูดมากกว่าการพูดคุยกันในกลมุ่ เพ่ือน แม้กระท่ังงานเขียนท่ีมรี ปู แบบเฉพาะ
อยา่ งงานวชิ าการกต็ ้องใช้ถ้อยคาทีแ่ ตกต่างจากการเขยี นในรูปแบบอ่นื เชน่ ข่าว เรื่องสั้น หรอื บทกวี เป็นตน้
ผ้ใู ช้ภาษาจงึ ต้องคานงึ ถึงความเหมาะสมและเลือกใช้ภาษาให้ถกู ต้องตามโอกาสกาลเทศะและสัมพันธภาพ
ระหว่างบุคคล
การแบ่งระดบั ภาษาสาหรบั เพื่อใหเ้ ข้าใจงา่ ยอาจจะแบง่ ระดบั ภาษาจะแบ่งเป็น 3 ระดบั ดงั นี้
6
นายจักรกฤษณ์ วนั ต้ือ
2.1 ภาษาระดบั ทางการ เปน็ ภาษาทใ่ี ชใ้ นที่ประชุมท่ีมแี บบแผน เช่น การบรรยาย
การอภิปรายอย่างเปน็ ทางการหรอื ใชใ้ นการเขียนข้อความที่จะใช้ปรากฏต่อสาธารณชนอยา่ งเป็นการเปน็ งาน
เช่น ตาราวชิ าการ หนังสือทใ่ี ชต้ ดิ ต่อกันทางราชการหรือในวงการธุรกิจผู้รบั สารและผสู้ ง่ สารมกั เป็นบคุ คล
ในวงการเดยี วกนั หรือวงอาชีพเดียวกนั ตดิ ต่อกันในด้านธรุ กจิ การงาน เช่น บอกหรอื รายงาน
ให้ทราบ ให้ความรูเ้ พิ่มเติม เสนอความคิดเหน็ ฯลฯ ลักษณะของสารเปน็ เร่ืองเก่ยี วกับความรคู้ วามคิดทส่ี าคญั
อันเป็นเร่ืองทตี่ ้องทาความเขา้ ใจให้ตอ้ งทาความเข้าใจให้ตรงกนั ถ้อยคาท่ีใชผ้ ลตามจุดประสงค์
โดยประหยดั ท้งั ถ้อยคาและเวลาให้มากที่สดุ เท่าทีจ่ ะทาได้ ตวั อยา่ งเช่น
วชิ ามนษุ ย์ศาสตร์ คือ ความสานึกในคณุ ค่าของความเป็นมนุษย์ และจดุ ประสงค์หลักของศาสตรน์ ี้กค็ ือ
การแสวงหาความหมายและคุณค่าของประสบการณม์ นษุ ย์ มนษุ ย์ศาสตร์ไมใ่ ชว้ ชิ าชีพเพราะไม่อาจนาไปใช้
(กสุ มุ า รกั ษมณี,2533:13)
7
นายจกั รกฤษณ์ วันต้ือ
2.2 ภาษาระดับกึง่ ทางการ เป็นภาษาที่ใชส้ อ่ื สารโดยมงุ่ ให้เกดิ ความเขา้ ใจกนั ดว้ ยความรวดเรว็ ลดความเป็น
ทางการลงบา้ งเพ่ือใหเ้ กิดความ
ใกล้ชิดยิง่ ขนึ้ ระหวา่ งผสู้ ่งสารและผู้รับสาร มกั ใช้ในการประชมุ กลมุ่ การอภปิ รายกลุ่ม การบรรยาย
ในห้องเรียน การพูดทางวทิ ยุและโทรทศั น์ ข่าว และบทความในหนงั สือพมิ พ์ ฯลฯ ลกั ษณะของสารมัก
เปน็ เรือ่ งเก่ยี วกบั ความรู้ทั่วไป ธุรกจิ การแสดงความคิดเหน็ เชงิ วิชาการหรือการดาเนนิ ชีวิต ฯลฯ
มกั ใช้ศัพทว์ ิชาการเทา่ ทีจ่ าเป็น และอาจมีถ้อยคาท่ีแสดงความคุ้นเคยปนอยบู่ ้าง ตัวอย่างเช่น
โลกของเด็กไม่ใช่โลกของผู้ใหญ่ และในทานองเดียวกนั โลกของผู้ใหญ่กย็ อ่ มไม่ใช่โลกของเดก็
(รัญจวน อินทรกาแหง,2524:9)
8
นายจกั รกฤษณ์ วนั ตื้อ
2.3 ภาษาระดับปาก เป็นภาษาท่ใี ชใ้ นการพดู มักใช้ในสถานทีท่ ีเ่ ปน็ ส่วนตัวกับบคุ คลท่ีสนิทสนม
คุน้ เคย เช่นระหว่างสามีภรรยา ระหว่างญาติพ่ีนอ้ ง หรือเพื่อนสนิท เป็นต้น ลกั ษณะของสารไม่มขี อบเขตจากดั
แต่มักใชใ้ นการพดู จากนั เท่าน้ัน อาจจะปรากฏในบทสนทนาในนวนิยายหรอื เรื่องส้ันเพ่ือความสมจรงิ ถอ้ ยคาท่ี
ใช้ อาจมีคาคะนอง คาไมส่ ุภาพ หรอื คาภาษาถนิ่ ปะปนอยู่ ตวั อยา่ งเชน่
"ฮือ ! ไอเ้ พลงเกย่ี วขา้ วนีม่ นั ปลุกใจเหมอื นกนั หรอื ?" สมภารถามอย่างอัศจรรยใ์ จ
ปลุกใจซสี มภาร บางทีมันก็ปลกุ ใจดเี สยี กว่าต้นตระกลู ไทยทีฉ่ นั ร้องใหส้ มภาพฟังเมื่อวานนีอ้ ีก"
สมภารกร่างกม้ ลงคว้าพลองมาถือไว้แล้วคารามว่า "ไอเ้ ทยี ม มึงอยา่ มาวอนเจ็บตวั เอา้ ! ไหนว่า จะมา
ช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าว ก็รบี ๆ กระจายกันออกไป อยา่ มวั ชกั ชา้ เทีย่ งตรงตะวันตรงหัว
มาพร้อมกนั ทน่ี ี่ กานันแกจะเอาขนมจนี มาเลีย้ ง"
(คกึ ฤทธ์ิ ปราโมช , 2527 : 244-245)
การแบง่ ภาษาเปน็ 3 ระดับข้างต้นน้ัน ไมไ่ ด้เป็นการแบง่ อย่างเดด็ ขาด การใชภ้ าษา ใน
ชวี ติ ประจาวนั
อาจใชภ้ าษาระดบั หนึง่ เหลือ่ มกบั อีกระดบั หน่งึ เช่น อาจใช้ภาษาระดับทางการปะปนกับภาษาก่งึ ทางการได้
อย่างไรกด็ กี ารใชภ้ าษาระดับตา่ งๆ ควรคานงึ ถงึ โอกาสสถานท่ี สัมพนั ธภาพระหวา่ งบุคคล
ลกั ษณะของสาร และสือ่ ทต่ี ้องใช้ส่งสาร
การศึกษาเร่ืองระดับภาษาเปน็ สิง่ สาคัญเพราะทาใหบ้ ุคคลแต่ละกล่มุ เขา้ ใจภาษาของกนั และกัน
ไมเ่ กิดปัญหาดา้ นการสือ่ สารและความสัมพนั ธร์ ะหว่างบคุ คลหรือกลุม่ บุคคลรวมทั้งยงั ทาให้ ผศู้ กึ ษาได้
เขา้ ใจลกั ษณะเฉพาะ และววิ ัฒนาการของภาษาไทยอีกดว้ ย
9
นายจกั รกฤษณ์ วนั ตอ้ื
การใชภ้ าษาสื่อสารจริงๆ นัน้ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลมีต่างๆกนั จนบ้างคร้งั แยกระดบั
ไม่ได้งา่ ยๆ เพราะต้องคานึงถึงปจั จัยแวดล้อมอีกหลายประการ จึงอาจแบ่งภาษาใหย้ ่อยลงไปอีก เพ่ือผ้ใู ช้
จะได้พิจารณาเลือกใชไ้ ดล้ ะเอียดและเหมาะสมยง่ิ ข้ึน ซ่งึ แบ่ง 5 ระดับ ดังน้ี
1) ภาษาระดบั พิธีการ
2) ภาษาระดบั ทางการ
3) ภาษาระดบั กึ่งทางการ
4) ภาษาระดบั สนทนาท่ัวไป
5) ภาษาระดับกันเอง
การแบง่ ระดับภาษาดงั กลา่ วนี้ โอกาสและบคุ คลเป็นส่งิ ท่ีต้องพจิ ารณามากกวา่ เรื่องอืน่ ๆ
การสือ่ สารกับบุคคลเดียวกันแตต่ ่างโอกาสหรอื ต่างสถานที่กัน ก็ต้องเปลีย่ นระดบั ภาษาให้เหมาะสม ภาษาบาง
ระดับ คนบางคนอาจจะไมม่ ีโอกาสใชเ้ ลย เชน่ ภาษาระดับพิธกี าร บางระดับต้องใช้กันอยเู่ สมอใน
ชวี ิตประจาวนั การเรยี นร้เู รื่องระดับภาษา ไมว่ ่าจะมีโอกาสได้ใชท้ กุ ระดบั หรือไมก่ ็ตาม อยา่ งน้อยก็ทาให้เรารับรู้
วา่ ภาษามีระดับ เมอ่ื ถึงคราวที่จะต้องใชก้ จ็ ะใช้ถูกต้อง รู้วา่ ภาษาทใ่ี ช้นถ้ี ูกต้อง สมมควรหรอื ไม่เพยี งใด
เพราะถา้ ใช้ไม่เหมาะสมไมถ่ ูกต้องแลว้ แม้ว่าจะโดยรู้เท่าไม่ถึงการณก์ ต็ าม ยอ่ มเป็นสาเหตุใหเ้ กิดอปุ สรรค
ในการส่ือสารและอาจเกดิ ความไม่พอใจกนั ขน้ึ เช่น เดก็ ท่ีพูดจาตีเสมอผใู้ หญผ่ ูน้ อ้ ยที่พูดกบั ผู้บงั คับบัญชา
อย่างขาดสัมมาคารวะ ยอ่ มทาให้ผใู้ หญห่ รอื ผูบ้ ังคับบญั ชารู้สกึ ว่าเป็นคนกระดา้ งไมร่ จู้ ักกาลเทศะจึงจาเป็นต้อง
ศกึ ษาเร่ืองน้ีให้เข้าใจพจิ ารณานาไปแนะนาแกน่ ักเรยี นใหเ้ หมาะสมตามควรแต่กรณี ดังตอ่ ไปนี้
10
นายจักรกฤษณ์ วนั ตอื้
1) ภาษาระดับพิธีการ
ภาษาระดับพธิ กี ารเป็นภาษาทใ่ี ช้ในงานระดับสูงทจ่ี ดั ขน้ึ เป็นพธิ ีการ เช่น การกลา่ วสดดุ ี
กล่าวรายงาน กลา่ วปราศรัยกล่าวเปดิ พิธี ผู้กล่าวมกั เปน็ บคุ คลสาคัญ บุคคลระดบั สงู ในสังคมวิชาชพี หรือ
วิชาการ ผรู้ บั สารเป็นแต่เพียงผฟู้ งั หรือผรู้ ับรู้ไม่ตอ้ งโตต้ อบเปน็ รายบุคคล หากจะมีกจ็ ะเป็นการตอบอย่าง
เป็นพธิ ีการในฐานะผู้แทนกล่มุ การใชภ้ าษาระดับนี้ต้องมีการเตรยี มล่วงหน้าเป็นลายลกั ษณอ์ ักษร
ซ่ึงเรยี กว่า วาทนพิ นธก์ ็ได้ ในการแต่งสารน้ีมีคาต้องเลอื กเฟน้ ถ้อยคาใหร้ ู้สึกถงึ ความสูงส่ง ย่ิงใหญ่
จริงจงั ตามสถานภาพของงานน้ัน
11
นายจกั รกฤษณ์ วนั ตือ้
2) ภาษาระดับทางการ
ภาษาระดบั ทางการ ใชใ้ นงานที่ยงั ตอ้ งรักษามารยาท ในการใชภ้ าษาค่อนขา้ งมาก
อาจจะเป็ นการรายงาน การอภิปรายในท่ีประชุม การปาฐกถา ซ่ึงตอ้ งพดู เป็นการเป็นงาน ใชภ้ าษา
ถูกตอ้ งเหมาะสม อาจจะมีการใชศ้ พั ทเ์ ฉพาะเร่ืองหรือศพั ทท์ างวชิ าการบา้ งตามลกั ษณะของเน้ือหา
ที่ตอ้ งพดู หรือเขียน การสื่อสารระดบั น้ีมงุ่ ความเขา้ ใจในสารมากกวา่ ระดบั พธิ ีการ อาจจะตอ้ งมีการอธิบายมากข้ึน แตก่ ่็ยงั คง
ตอ้ งระมดั ระวงั มมิใหใ้ ชภ้ าษาฟ่ มุ เฟื อยหรือเลน่ คาสานวนจนดูเป็ นการพดู เล่นหรือเขียนเลน่
12
นายจกั รกฤษณ์ วนั ตื้อ
3) ภาษาระดับกึ่งทางการ
ภาษาระดับกงึ่ ทางการเปน็ ภาษาท่ีใชใ้ นระดับเดียวกบั ภาษาทางการทลี่ ดความเปน็ งานเปน็ การลง
ผรู้ ับและผ้สู ่งสารมคี วามใกล้ชดิ กนั มากขึ้น มีโอกาสโต้ตอบกันมากขึ้น อาจต้องสรา้ งความเข้าใจด้วยการอธบิ าย
ช้ีแจงประกอบหรอื มกี ารแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ หรอื ปรึกษาหารอื กนั ภาษาระดบั น้ีมักใช้ในการประชุมกลุ่ม
การบรรยายในชัน้ เรยี น การใหข้ า่ ว การเขียนข่าว หรือบทความในหนังสือพมิ พ์ ซ่ึงนยิ มใชถ้ อ้ ยคา สานวน ท่ี
แสดงความคุน้ เคยกบั ผู้อ่านหรือผฟู้ ังดว้ ย
13
นายจักรกฤษณ์ วันตอ้ื
4) ภาษาระดับสนทนาทั่วไป
ภาษาระดบั สนทนาทว่ั ไป เปน็ ภาษาระดบั ที่ใช้ในการพดู คุยกนั ธรรมดา แตย่ งั ไมเ่ ป็ฯการส่วนตัว
เต็มที่ ยงั ต้องระมัดระวังเรื่องการใหเ้ กยี รติคูส่ นนา เพราะอาจจะไม่เป็นการพูดจาเฉพาะกลุ่มพวกของตนเทา่ น้นั
อาจมบี ุคคลอ่นื อย่ดู ้วย หรอื อาจมบี ุคคลตา่ งระดับรว่ มสนทนากัน ตอ้ งคานึงถงึ ความสภุ าพ
มใิ ห้เป็นกนั เองจนกลายเป็นการล่วงเกินคู่สนทนา
14
นายจักรกฤษณ์ วนั ตือ้
5) ภาษาระดับกนั เอง หรือระดบั ภาษาปาก
ภาษาระดับกันเองเป็นภาษาท่ีใชส้ ่ือสารกับผู้คุน้ เคยสนิทเป็นกนั เอง ใชพ้ ดู จากันในวงจากดั
อาจจะเป็นกลมุ่ เพือ่ นฝงู ครอบครวั สถานทใ่ี ช้ก็มักเปน็ สว่ นตัว เป็นสดั สว่ นเฉพาะกล่มุ เฉพาะพวก ไม่
จาเป็นต้องระวงั ให้สภุ าพ หรอื มีระเบียบแบบแผนมากนักได้แก่ ภาษาถิน่ ภาษาสแลง ภาษาทใี่ ช้ตดิ ต่อในตลาด
ในโรงงาน ร้านคา้ ภาษาท่ีใช้ในการละเลน่ หรอื การแสดงบางอยา่ งท่มี ุง่ ใหต้ ลกขบขัน เช่น จาอวด ฯลฯ
การใช้ภาษาทกุ ระดบั ไม่ว่าจะเป็นภาษาระดบั สนทนาหรอื ระดบั กันเอง ผ้ใู ชค้ วรคานงึ ถึงมารยาท
ซ่ึงเปน็ ท้ังการใหเ้ กียรติผู้อื่นและการรักษาเกียรติของตนเอง เพราะเปน็ เครื่องแสดงว่า บุคคลน้นั เป็นผไู้ ดร้ ับการ
อบรมสง่ั สอนมาดี เป็นผู้มีสมบัตผิ ู้ดี และมจี ติ ใจดี
15
นายจกั รกฤษณ์ วนั ตอื้
บรรณานกุ รม
https://www-academia-
edu.translate.goog/20239281/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B
8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84
%E0%B8%97%E0%B8%A2?_x_tr_sl=th&_x_tr_tl=en&_x_tr_hl=en&_x_tr_pto=sc
16
นายจกั รกฤษณ์ วนั ตอ้ื
ประวตั ผิ ู้จัดทารายงาน
ช่อื -นามสกลุ นายจกั รกฤษณ์ วนั ต้อื
ช่อื เล่น บี
วนั /เดอื น/ปีเกดิ 27 กันยายน 2544
สถานท่ีเกดิ จงั หวดั ลาพนู
ท่อี ยู่ปจั จบุ ัน 177/4 ม.15 ต.นา้ ดิบ อ.ปา่ ซาง จ.ลาพูน 51120
อเี มล์ [email protected]
ประวตั ิการศึกษา
ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรยี นบา้ นไรด่ ง
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย การศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอป่าซาง
ปัจจุบนั ศึกษาระดับศกึ ษาศาสตรบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์ การสอนภาษาไทยชน้ั ปีที่ 3
17
นายจกั รกฤษณ์ วันต้อื