The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การดูแลผู้สูงอายุ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by eid220162ice, 2021-03-22 23:02:46

การดูแลผู้สูงอายุ

การดูแลผู้สูงอายุ

- ถา้ ท�ำ ใหเ้ กดิ พนั ธะสญั ญาไดจ้ ะชว่ ยใหป้ ระสบความส�ำ เรจ็ ในการ
ปรับพฤติกรรมมากขน้ึ

4. จัดการกับแรงต้าน ผู้สูงอายุบางรายอาจไม่มาตามนัด ไม่สนใจใน
เรื่องการควบคมุ ระดบั นํา้ ตาล ไม่สนใจทจ่ี ะวางแผนการรักษาร่วมกัน บคุ ลากร
สาธารณสุขตอ้ งรักษาสมั พนั ธภาพ ไมใ่ ช้อารมณ์ ไมต่ ำ�หนิ ไมต่ ัดสิน ไมถ่ กเถยี ง
กบั ผสู้ ูงอายุ

- ควรทวนความสัน้ ๆ เพอ่ื ช้ใี ห้เห็นถงึ ส่งิ ทีเ่ กดิ ข้ึน เชน่ “คุณลุงไม่
มาตรวจตามนดั ท�ำ ใหก้ ารรกั ษาไมต่ ่อเนอ่ื งส่งผลต่อการควบคุมระดับนา้ํ ตาลใน
ขณะนท้ี ำ�ใหร้ ะดับนา้ํ ตาลในเลือดสงู เกินระดบั ปกติมาก”

- สนทนาทั้งข้อดีและข้อเสียของสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น “คุณลุงทราบ
หรือไม่ว่าถ้าระดับนํ้าตาลเกิน 300 เช่นนี้ไปนานๆ จะทำ�ให้เส่ียงต่อการเกิด
ตาบอด ไตวาย แต่ถ้าคุณลุงคุมระดับนํ้าตาลได้จะช่วยชะลอการเสียของ
หลอดเลอื ดท้งั รา่ งกาย....”

5. กำ�หนดเป้าหมาย วางแผน/ประยุกต์ ควรกำ�หนดเปา้ หมายรว่ มกนั
และเปดิ โอกาสใหซ้ ักถาม

6. สนบั สนนุ ใหก้ �ำ ลงั ใจ สรุป และนัดหมาย โดยชีใ้ ห้เหน็ ถงึ ประโยชน์
ของการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมและสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพ รวมทงั้ คนรอบขา้ ง โดยสรปุ
ประเด็นส�ำ คัญได้แก่

- ความเสี่ยงหรอื ปัญหาคืออะไรบ้าง
- เหตผุ ลท่ตี ้องเปลี่ยนแปลง /ปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมคอื อะไร
- แผนการท่วี างเอาไวเ้ ร่มิ ตน้ จากตรงไหน สงิ่ ทตี่ ้องทำ�มอี ะไรบ้าง
- อปุ สรรคทท่ี �ำ ใหไ้ มบ่ รรลเุ ปา้ หมายคอื อะไร และตวั ชว่ ยใหบ้ รรลุ
เปา้ หมายคืออะไร
7. ปิดการสนทนาด้วยการสรปุ การพูดคุย/ยินดใี ห้ค�ำ ปรกึ ษาต่อไป

แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สูงอายเุ พือ่ ปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ

46

บทท่ี 5
ความเศรา้ โศกเสยี ใจของผูส้ งู อายทุ ี่เกิดจากการ
สญู เสียและการตาย (Grief and Bereavement)

วัยสูงอายุเป็นวัยที่เร่ิมพบการสูญเสียและการพลัดพรากจากการตาย
ของบุคลใกล้ชดิ การสญู เสยี จะนำ�มาซงึ่ อารมณ์เศร้าโศกเสียใจ ซ่งึ เปน็ ปฏิกริ ิยา
ทางจิตใจและกระบวนการทางจิตใจที่เกิดข้ึนตามปกติ คนส่วนใหญ่สามารถ
ผา่ นพน้ และกลบั เขา้ สกู่ ิจวัตรประจำ�วันตามเดมิ โดยไม่มีความผดิ ปกตทิ างจติ ใจ
เกดิ ขน้ึ

ในผู้สูงอายุไทยพบว่าการก้าวผ่านพ้นวิกฤติในชีวิตมักจะนำ�หลักศาสนา
มาเปน็ สงิ่ ยดึ เหนยี่ วจติ ใจ แตใ่ นบางรายอารมณเ์ ศรา้ โศกนร้ี นุ แรงและยาวนานเกนิ
ปกตจิ นสง่ ผลกระทบตอ่ การด�ำ เนนิ ชวี ติ ของบคุ คลนน้ั เรยี กวา่ อารมณเ์ ศรา้ โศก
ท่ีผิดปกติต่อการสูญเสีย ซ่ึงเป็นอาการท่ีจะนำ�มาซ่ึงภาวะซึมเศร้าต่อมาได้
จากการตดิ ตามผสู้ งู อายทุ มี่ ภี าวะซมึ เศรา้ หลายรายเคยมปี ระวตั กิ ารเสยี ชวี ติ ของ
บคุ คลใกล้ชิดอนั เป็นท่รี กั โดยเฉพาะค่สู มรสหรือสมาชิกในครอบครัว

จดุ มุ่งหมายของการให้การดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจในผสู้ ูงอายุทปี่ ระสบ
กับความสูญเสียและการตายจึงเป็นการให้การดูแลกับผู้สูญเสีย โดยไม่ใช่การ
ทำ�ให้ผู้สูงอายุไม่เศร้าโศกเสียใจจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นท่ีรัก แต่เป็นการ
พยายามทำ�อะไรเพ่อื ให้ผู้สงู อายทุ เี่ ศร้าโศกเสียใจ อย่ตู ่อไปได้อยา่ งมีสมดุลใหม่
โดยปราศจากผจู้ ากไป (นพ. สกล สงิ หะ, 2555)

แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจิตใจของผสู้ งู อายุเพอ่ื ป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิต

47

 ปฏิกิริยาทางจิตใจต่อการสญู เสยี (Gorer,1967)

ผู้ท่ปี ระสบกบั การสูญเสยี จะมีปฏกิ ิรยิ าทางจติ ใจตอ่ การสูญเสยี ดงั นี้
1) ระยะชอ๊ ค หลงั ทราบเรอื่ งการสญู เสยี ใหมๆ่ จนเกดิ ภาวะปฏเิ สธ
ไมย่ อมรบั ความจรงิ หรอื ชอ๊ คทางอารมณ์ จะมคี วามรสู้ กึ ตกใจ ไมเ่ ชอ่ื ปฏเิ สธสงิ่ ท่ี
เกิดข้นึ เกดิ ความรู้สึกมึนชา โกรธ ใชเ้ วลาต้งั แต่ 2 - 3 ช่ัวโมงจนถงึ 2-3 สัปดาห์
2) ระยะท้นของความโศกเศร้าเสียใจ ซ่ึงจะมีอารมณ์เศร้ามาก
ร้องไห้ ครํ่าครวญ ย้ํานึกถึงบุคคลท่ีเสียชีวิต ความอยากอาหารลดลง นอน
ไม่หลับ หรืออาจทำ�ให้หน้าที่กิจวัตรตามปกติลดลงจากเดิมบ้าง ใช้เวลา
หลายสปั ดาห์ แลว้ จะดขี ึ้นเองในเวลา 2 เดือน
3) ระยะเข้าใจและยอมรับ จะค่อยๆกลับคืนสู่ปกติ ยอมรับสิ่งที่
เกิดขึน้ ได้และจะกลบั เข้าสกู่ จิ วัตรประจ�ำ วนั ตามปกตขิ องบุคคลนนั้
ในบางราย อารมณเ์ ศร้าโศกจากการสูญเสียมีความรุนแรงและยาวนาน
เกนิ ปกติ เรยี กวา่ อารมณ์เศรา้ โศกทผ่ี ดิ ปกติต่อการสูญเสีย กอ่ ให้เกิดความผิด
ปกตทิ างด้านจติ ใจ โดยเฉพาะอาการของโรคซมึ เศรา้ ควรรบั ค�ำ ปรกึ ษาแนะน�ำ
จากแพทย์

 การสังเกตผู้สูงอายุที่ไม่สามารถปรับตัวได้ต่อการสูญเสียจะมี
การแสดงออกทหี่ ลากหลาย อาทิ

 มกี ารเจบ็ ปวดตามรา่ งกายเพมิ่ ข้ึน
 มีปัญหาการนอน การดมื่ สุรา ใชส้ ารเสพตดิ มากขน้ึ
 ไม่สนใจสิ่งรอบๆตัว หรอื สง่ิ ทเ่ี คยใหค้ วามสนใจ
 ละเลยกจิ กรรมทางสังคม เกบ็ ตัวมากข้นึ
 ไมส่ นใจดแู ลตนเอง เปน็ ต้น

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผู้สูงอายเุ พ่ือปอ้ งกันปัญหาสุขภาพจิต

48

 อาการที่แสดงว่าผู้ป่วยอาจมีอาการซึมเศร้าที่รุนแรงกว่า
ปฏิกริ ิยาปกติต่อการสูญเสีย (ธนา นลิ ชัยโกวิทย์, 2554)

1. รู้สึกผิดในเร่ืองอ่ืนๆนอกเหนือจากท่ีเกี่ยวกับสิ่งท่ีคิดว่าตนควรทำ�
หรอื ไม่ควรท�ำ ในช่วงท่ผี ตู้ ายเสยี ชวี ติ

2. คิดหมกมุ่นเก่ียวกับความตาย นอกเหนือจากความรู้สึกอยากตาย
แทน หรอื ตายไปพร้อมกบั ผู้เสียชีวิต

3. คดิ หมกมุ่นวา่ ตนไร้ค่า ไม่มคี วามหมาย
4. มีการเคลื่อนไหวและความคิดช้าอย่างชัดเจน (marked psycho-
motor retardation)
5. มีการบกพร่องของการปฏิบัติหน้าท่ีต่างๆทั้งทางสังคมและการงาน
อยา่ งมากเป็นเวลานาน
6. มอี าการประสาทหลอน นอกเหนอื ไปจากการคดิ วา่ ไดย้ นิ เสยี ง หรอื
เหน็ ภาพของผูต้ ายเป็นชว่ งขณะสนั้ ๆ ซึ่งอาจพบไดใ้ นปฏิกิริยาปกติ
7. ถ้ามีอาการโศกเศร้า หรืออาการท่ีไม่ใช่ลักษณะปกติของปฏิกิริยา
ตอ่ การสญู เสยี โดยท่วั ไป นานเกนิ 2 เดอื น ควรพบแพทย์เพื่อให้การรักษา

 แนวทางการช่วยเหลือเบอื้ งต้น (ชิษณุ พนั ธเ์ุ จริญ, 2552 และ
สจุ ริต สวุ รรณชพี , 2556)

จดุ มงุ่ หมายของการใหก้ ารค�ำ ปรกึ ษาในผทู้ ม่ี ปี ฏกิ ริ ยิ าตอ่ การสญู เสยี คอื
การช่วยใหเ้ ขาสามารถปรบั ตวั ต่อการสญู เสยี ได้ตามทคี่ วรจะเป็น ดงั น้ี

1. ไม่ควรให้ผู้สูงอายุท่ีประสบกับความสูญเสียอยู่คนเดียว ควรมี
คนอยูเ่ ป็นเพอ่ื นในระยะท่ียงั อยูใ่ นภาวะเศรา้ โศก เสยี ใจ หรือมีพฤตกิ รรมท่คี น
รอบขา้ งสังเกตวา่ ยงั ไม่อยูใ่ นสภาวะที่ยอมรบั การสูญเสยี ได้

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผ้สู งู อายุเพ่อื ป้องกันปญั หาสุขภาพจิต

49

2. แสดงความเห็นใจ เข้าใจ รับฟัง และให้ผู้สูงอายุได้ระบาย
ความรสู้ กึ ตอ่ การสญู เสยี สามารถแสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ ของตนออกมาไดอ้ ยา่ ง
เตม็ ที่ เชน่ “คุณปา้ อยากรอ้ งไหก้ ร็ ้องใหส้ ุดๆ ไปเลย ถา้ สงบสตไิ ด้แล้วเรามาคุย
กนั วา่ จะท�ำ อะไรกนั ตอ่ ” ระหวา่ งนอี้ าจใชภ้ าษากายเพอื่ ปลอบโยนเชน่ การสมั ผสั
การบบี มอื ใหก้ ำ�ลังใจ การน่งั เปน็ เพือ่ น

3. กระตุ้นให้พูดคุยเกี่ยวกับเร่ืองท่ีคับข้องใจด้วยการใช้คำ�ถาม
ปลายเปิด และให้สำ�รวจความรู้สึกต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น เทคนิคง่ายๆ
ทส่ี ามารถทำ�ไดด้ ังน้ี

3.1 กระตกุ ความคดิ ของผสู้ งู อายุ ดว้ ยการตงั้ ค�ำ ถาม 3 ขอ้ ดงั น้ี
 ใหผ้ สู้ งู อายมุ องใจ ตวั เองวา่ ตอนนต้ี วั เองมคี วามทกุ ข์
มากแคไ่ หน ยงั รสู้ กึ ทกุ ขม์ ากเหมอื นเดมิ ไหม เพอ่ื ใหผ้ สู้ งู อายไุ ดร้ ะบายความทกุ ข์
 ใหผ้ สู้ งู อายมุ องใกล้ คอื มองคนรอบขา้ ง เชน่ ลกู หลาน
วา่ จะรูส้ กึ อย่างไรทเ่ี หน็ ผู้สูงอายเุ ป็นทกุ ข์ เศร้าโศก เสยี ใจเช่นน้ี
 ให้ผู้สูงอายุมองไกล คือคนที่จากไป ว่าผู้จากไปจะ
รสู้ กึ อยา่ งไรทเี่ หน็ ผ้สู งู อายโุ ศกเศร้า เสยี ใจ เขาจะไปส่สู ุขคติหรือไม่ เขาจะเป็น
หว่ งเราหรือไม่ ถ้าเขารกั เราเขาอยากใหเ้ ราเปน็ ทุกขเ์ ชน่ น้หี รือไม่
3.2 พูดคุยถึงข้อดีข้อเสียที่เกิดข้ึน โดยเฉพาะการช้ีให้เห็นถึง
ผลดี ผลเสยี จากการกระท�ำ ทเี่ กิดขึ้นของผูส้ ูงอายุ ซึ่งใช้ทกั ษะการกระตุน้ และ
การใหก้ �ำ ลงั ใจ เชน่ “การทเี่ ราเปน็ ทกุ ขเ์ ชน่ นี้ ไมท่ �ำ อะไรเลย ท�ำ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่
สุขภาพเชน่ ไร มีผลเสียต่อลูกหลานเชน่ ไรและคนท่จี ากไปเขาจะสงบสุขหรือไม่
ส้ทู ำ�ดเี พอ่ื ใหค้ นทีร่ กั ไดไ้ ปสสู่ ุขคตจิ ะดกี ว่าหรือไม่”
3.3 ร่วมกันหาแนวทางในการปรับตัวกับปัญหา ซึ่งข้ันตอนนี้
แหล่งสนับสนุนทางสังคมท่ีดีจะช่วยประคับประคองให้ผู้สูงอายุผ่านวิกฤติชีวิต
ได้เป็นอย่างดี กรณที ผี่ ู้สูงอายไุ ม่มีญาติ ตอ้ งใชเ้ ครอื ข่าย สงู อายใุ นชมุ ชนเข้ามา
มบี ทบาทในการประคับประคองจติ ใจ

แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผู้สูงอายเุ พ่ือปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ

50

4. ถา้ ผสู้ งู อายทุ ่อี ย่ตู รงหน้า มอี ารมณ์เฉยเมย ไม่พูด ไมต่ อบ หรือ
พดู นอ้ ยลงกวา่ ทเ่ี คยเปน็ บคุ ลากรทางการแพทยต์ อ้ งอาศยั ความใจเยน็ ไมโ่ กรธ
ไมต่ �ำ หนิ ไมต่ ่อวา่ แตต่ ้องพยายามจับความร้สู ึกทเ่ี กดิ ขึน้ ให้ไดว้ ่าเกิดจากความ
เศร้าโศกเสียใจ หรือไม่พอใจ เพ่ือให้การช่วยเหลือ ทักษะท่ีใช้ในการสื่อสารที่
สำ�คัญคือ ทักษะการเงียบ ทักษะการกระตุ้น ทักษะการสะท้อนอารมณ์ เช่น
“คุณสมศักดค์ิ งตกใจท่ี …..”

5. ถ้าผู้สูงอายุท่ีอยู่ตรงหน้ามีอารมณ์โกรธ โมโห และไม่พอใจ
บคุ ลากรทางการแพทยต์ อ้ งอาศยั ความอดทนในการฟงั เรอ่ื งราว ท�ำ ความเขา้ ใจ
ถงึ สาเหตทุ ชี่ ดั เจนของการเกดิ อารมณด์ งั กลา่ ว ใหห้ ลกี เลย่ี งการตอบโต้ และหลกี
เลย่ี งการชแ้ี จงขอ้ มลู หรอื เหตผุ ล จนกวา่ จะเขา้ ใจความรสู้ กึ และรบั ทราบสาเหตุ
ที่แท้จริง ดังนั้นทักษะในการสื่อสารท่ีควรใช้คือ ทักษะการรับฟัง การสะท้อน
อารมณ์และสรปุ ความ เชน่ “ดเู หมอื นว่าคุณป้าจะโกรธ และไม่พอใจ พอจะเลา่
ให้ฟงั ได้ไหมครบั เผอ่ื มอี ะไร ท่ผี มพอจะชว่ ยเหลอื ได้”

6. ถา้ ผสู้ งู อายทุ อี่ ยตู่ รงหนา้ มอี ารมณเ์ ศรา้ เสยี ใจ หรอื ถงึ ขนั้ รอ้ งไห้
ฟมู ฟาย บคุ ลากรทางการแพทยต์ อ้ งอาศยั ความไวในการท�ำ ความเขา้ ใจกบั ความ
รสู้ กึ เหลา่ นนั้ หลกี เลยี่ งการปลอบโยนโดยไมจ่ �ำ เปน็ ทกั ษะในการสอื่ สารทส่ี �ำ คญั
ที่ควรเลอื กใช้คือ ทักษะการรับฟงั เพื่อใหผ้ สู้ ูงอายไุ ด้พดู คุยระบายปญั หา ทักษะ
การเงยี บ ทกั ษะการกระตนุ้ และทกั ษะการสะทอ้ นอารมณ์ เชน่ “เหน็ คณุ สมศรี
นิ่งไปแล้วร้องไห้ พอจะเล่าเรื่องที่ทำ�ให้คุณสมศรีไม่สบายใจให้ดิฉันฟังได้ไหม”
(สะท้อนอารมณ์)

7. เมอ่ื ผสู้ งู อายสุ ามารถยอมรบั เผชญิ กบั ความจรงิ ของการสญู เสยี
และปรบั ตวั กบั การใชช้ วี ติ ทเี่ ปลย่ี นแปลงหลงั การสญู เสยี ได้ ควรสง่ เสรมิ ทกั ษะใน
การสรา้ งสมั พนั ธภาพกบั บคุ ลอน่ื และทกั ษะทางสงั คมเพอื่ ปอ้ งกนั ภาวะซมึ เศรา้
โดยเฉพาะการชกั ชวนเขา้ รว่ มกจิ กรรมในชมรมสงู อายุ หรอื การท�ำ ประโยชนใ์ ห้
กบั ชมุ ชน สงั คม หรอื แมแ้ ตก่ ารใหค้ �ำ แนะน�ำ เรอ่ื งการหางานอดเิ รกทชี่ อบท�ำ เพอื่
ลดความเหงา ฟุง้ ซา่ น

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผสู้ งู อายุเพอ่ื ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ

51

แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผสู้ งู อายเุ พ่อื ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ

52

บทที่ 6
การดแู ลผปู้ ว่ ยสงู อายุแบบประคับประคอง
(Palliative Care)

การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือผู้ป่วยสิ้นหวังซึ่งผู้ป่วยกลุ่มน้ีมักถูกมอง
วา่ เปน็ “ผปู้ ว่ ยทไ่ี มม่ วี ธิ กี ารรกั ษาใดๆใหห้ ายขาดจากโรคทเี่ ปน็ อยไู่ ด้ หรอื แมแ้ ต่
จะทำ�ให้อาการคงท่ีไม่ทรุดตัวลง ดังน้ันการให้การดูแลแบบประคับประคอง
จึงเป็นวิธีการท่ีบุคคลากรทางการแพทย์จะให้การดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้จนถึงวาระ
สุดท้ายของชีวิต และมีคุณภาพชีวิตท่ีดี สามารถเผชิญความตายได้อย่างสงบ
บุคลากรสาธารณสุขนับเป็นแกนหลักสำ�คัญในการดูแลแบบประคับประคอง
เนื่องจากลักษณะงานท่ีมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วยสูงอายุ และระยะน้ีจะเน้นการ
ดูแลมากกว่าการรักษา การตอบสนองความต้องการทางด้านร่างกาย จิตใจ
และอารมณ์จึงเป็นส่ิงสำ�คัญ ต้องเร่ิมต้นจากการมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วย
สงู อายุ เข้าใจปฏกิ ริ ิยาของผปู้ ว่ ยต่อความเจ็บป่วยและการตาย ต้องไวต่อความ
ร้สู ึก อดทนและสังเกตดว้ ยความระมดั ระวงั

จะเหน็ ว่าการให้การดูแลระยะน้ตี อ้ งอาศัยทักษะทางจิตวิทยา เรมิ่ ตัง้ แต่
การสรา้ งสมั พันธภาพ ทกั ษะการฟัง ทกั ษะการส่ือสาร เพ่อื ใหก้ ารช่วยเหลอื ทง้ั
ผู้ป่วยให้สามารถเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยที่กำ�ลังคุกคาม มีคุณภาพชีวิตท่ีดี
และช่วยให้ญาติ/ผู้ดูแลสามารถลดจากความทุกข์ทรมานทางจิตใจอันเป็นการ
ป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิตทอ่ี าจเกิดข้นึ ได้



แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจติ ใจของผู้สูงอายเุ พ่อื ปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจติ

53

 จุดประสงค์ของการดูแลแบบประคับประคองในสถานบริการ
สขุ ภาพ (Roy Spilling, 1987)

1. เพอื่ ลดความเจบ็ ปวดและความทกุ ขท์ รมานใหก้ บั ผปู้ ว่ ยสงู อายรุ ะยะ
สุดท้ายหรือส้นิ หวัง

2. ให้การดูแลทางด้านสังคมจิตใจแก่ผู้ป่วยสูงอายุระยะสุดท้ายหรือ
สน้ิ หวัง

3. มีระบบการช่วยเหลือผู้ป่วยสูงอายุระยะสุดท้ายหรือส้ินหวังให้
สามารถเผชิญหนา้ กับความตายได้อย่างสงบ

4. มีการช่วยเหลือทางด้านสังคมจิตใจแก่ญาติ/ผู้ดูแล ระหว่างท่ีต้อง
ดูแลผู้ป่วยสูงอายุระยะสุดท้ายหรือสิ้นหวัง และเตรียมพร้อมต่อการรับความ
สญู เสียท่ีก�ำ ลงั จะเกดิ ข้ึน

 แนวทางการใหก้ ารดแู ลแบบประคับประคองในสถานบรกิ าร

1. ให้ตัวผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง บุคลากรสาธารณสุขควร
ให้ความสำ�คัญกับตัวผู้ป่วยและครอบครัวเป็นหลัก โดยให้ความเคารพสิทธิ
ของผู้ป่วยและครอบครัวในการรับทราบข้อมูลการเจ็บป่วย และให้ผู้ป่วยและ
ครอบครัวมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องแนวทางและเป้าหมายของการดูแล รวมไป
ถงึ การให้ความเคารพในค่านิยม ความเชอ่ื และศาสนาของผู้ป่วยและครอบครัว

วิธีการสื่อสารเบื้องต้นคือ การพูดคุย ในลักษณะของการปรึกษา
หารือ และแลกเปล่ียนความคิดเห็นกัน เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมสำ�หรับ
ผสู้ งู อายทุ ปี่ ว่ ย ซงึ่ วธิ กี ารนอี้ าจไมต่ รงกบั ความคดิ เหน็ ของบคุ ลากรทางการแพทย์
ก็ได้เช่นการ feed tube ด้วยนํ้ามนต์ การ shopping around ของญาติ
ในการพาไปรับการรักษาที่อื่น การเลือกวิธีการรักษาตามความเช่ือ เป็นต้น
ซ่ึงบุคลากรทางการแพทย์ไม่มีหน้าท่ีไปตัดสินหรือตำ�หนิญาติ แต่ต้องปรับ

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผู้สงู อายเุ พ่ือป้องกันปญั หาสขุ ภาพจติ

54

บทบาทในการท�ำ ความเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซง้ึ กบั รายละเอยี ดและเหตผุ ลในการตดั สนิ
ใจนนั้ ๆของญาติ เพราะอาจสะทอ้ นเรอ่ื งการไดร้ บั ขอ้ มลู ดา้ นการรกั ษาของแพทย์
ที่ไมเ่ พียงพอก็ได้ ดังน้ันการพูดคุยอาจช่วยใหก้ ารเกิดการแลกเปล่ยี นข้อมลู แก่
กนั และกนั บางกรณอี าจเปลย่ี นแปลงการตดั สนิ ใจของผปู้ ว่ ยและญาตไิ ด้ (ชษิ ณุ
พันธ์ุเจริญ, 2552)

ในการส่ือสารขั้นตอนน้ีต้องผ่านกระบวนการสร้างสัมพันธภาพมา
ก่อน และถ้าต้องเย่ียมบ้านต้องแจ้งให้ญาติ / ผู้ดูแลทราบ และได้รับอนุญาต
จากญาติ / ผ้ดู ูแลผสู้ งู อายทุ ่เี จ็บป่วยระยะสดุ ท้ายก่อนเสมอ

2. ให้บริการทางแพทย์อย่างครอบคลุมความต้องการทุกด้าน ทั้งกาย
จติ ใจ สงั คมและจิตวิญญาณ นอกจากจะช่วยลดความทุกข์ทรมานด้านรา่ งกาย
แลว้ ต้องใสใ่ จกบั ปฏกิ ิริยาทางจิตใจของผปู้ ว่ ยต่อโรค การรกั ษาและความตาย

วิธีการประคับประคองจิตใจเบ้ืองต้นท่ีบุคลากรทางการแพทย์
สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยและญาติได้คือ จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในบรรยากาศที่สงบ
อบอุ่น มีคนทีผ่ ูกพันเชน่ ญาตสิ นทิ คอยดแู ล ถ้าไม่มีญาติหรือคนใกล้ชดิ ก็ควร
จดั ใหม้ ผี ดู้ ูแลประจ�ำ ทใ่ี หก้ ารดูแลผ้ปู ่วยอย่างตอ่ เน่อื ง และสม่ําเสมอได้

3. ต้องประสานความร่วมมือกันของบุคลากรทางการแพทย์แบบ
สหวิชาชีพร่วมกับครอบครัว ต่อวิธีการรักษา เน่ืองจากในแต่ละช่วงเวลาของ
การรักษาผปู้ ่วยทเ่ี ผชิญกับโรคร้ายต่างๆ ต้องอาศยั ผูเ้ ชี่ยวชาญแต่ละด้าน ได้แก่
แพทย์ พยาบาล นกั สงั คมสงเคราะห์ นักจิตวทิ ยา นักโภชนาการ ทีต่ ้องเขา้ ใจ
บทบาทของกนั และกนั เปน็ อยา่ งดี และเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการดแู ล เพอ่ื ชว่ ยเพมิ่
คุณภาพชีวติ ของผูป้ ่วยและครอบครัวให้ได้มากทสี่ ุด

ขั้นตอนน้ีเป็นการวางแผนร่วมกันของญาติและบุคลากรทางการ
แพทย์ในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย แต่บุคลากรทางการแพทย์ต้องไม่ละเลย
ผปู้ ว่ ย นอกจากจะตอ้ งใชเ้ วลาในการดแู ลผปู้ ว่ ยอยา่ งสมา่ํ เสมอ เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ว่ ยรสู้ กึ
ว่าตนเองไม่ได้ถูกทอดทิ้งแล้ว ต้องให้เวลาพูดคุย สนับสนุนให้ผู้ป่วยและญาติ

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจิตใจของผูส้ ูงอายุเพ่ือปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจติ

55

ได้ซักถามถึงส่ิงต่างๆท่ีสงสัย เกี่ยวกับความเจ็บป่วย พูดคุยถึงความคิด ความ
รู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้น เร่ืองที่ยังค้างคาในใจท่ียังทำ�ไม่สำ�เร็จ รวมท้ังสังเกตความ
ตอ้ งการของผปู้ ว่ ยในขณะนน้ั ทกั ษะทจ่ี �ำ เปน็ ในขนั้ ตอนน้ี คอื ทกั ษะการกระตนุ้
การสะท้อนอารมณ์ การฟงั การจบั ประเด็น จากน้นั ต้องมีการส่ือสารกบั ญาติ
ในเรอ่ื งการตดั สนิ ใจของผปู้ ว่ ย รวมทงั้ ความคดิ เหน็ ของญาตเิ พอื่ น�ำ มาสรปุ ความ
และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วยและญาติเท่าที่สามารถจะทำ�ได้ มัก
พบว่าผูส้ งู อายุท่ีเจ็บปว่ ยในระยะสุดท้ายมกั ขอกลับไปเสียชวี ิตท่ีบา้ น

กรณที ผี่ ู้ปว่ ยไม่รสู้ ึกตัวต้องเปน็ การตดั สนิ ใจของญาติ วธิ กี ารสือ่ สาร
กบั ญาตเิ พอ่ื ใหต้ ดั สนิ ใจควรเลอื กญาตทิ ส่ี นทิ กบั ผปู้ ว่ ยทส่ี ามารถใหค้ วามเหน็ ใน
การเลอื กหรอื ตดั สินวธิ กี ารรกั ษาสำ�หรบั ผปู้ ่วยได้ โดยอาจใหญ้ าตคิ าดเดาความ
ต้องการของผ้ปู ่วย ท่ีมใิ ชค่ วามคิดเหน็ ของญาตเิ อง ด้วยค�ำ พดู เช่น

“ดิฉันคิดว่าคุณป้าเป็นคู่ชีวิตท่ีอยู่กับคุณลุงมานาน ขณะน้ีคุณลุง
มีอาการไม่ดีเท่าไหร่ และคุณลุงก็ไม่สามารถให้ความคิดเห็นกับการรักษาของ
ทางโรงพยาบาลได้ ดฉิ นั อยากใหค้ ณุ ปา้ ชว่ ยคาดเดาความคดิ และความรสู้ กึ ของ
คุณลุงว่า ถ้าคุณลุงรับรู้ได้ คุณลุงจะมีความเห็นหรือความรู้สึกอย่างไรกับการ
รกั ษาทกี่ ำ�ลังท�ำ อยใู่ นขณะน”ี้

ผู้สูงอายุในวาระสุดท้ายบางคนอาจต้องการพูดถึงความตายของ
ตนเอง แตบ่ างรายไมอ่ ยากพดู ถงึ บคุ ลากรทางการแพทยค์ วรพจิ ารณาตามความ
ต้องการของผปู้ ว่ ยแต่ละราย

4. ให้การดูแลอย่างต่อเนื่องและมีการประเมินผลอย่างสมํ่าเสมอ
ไมม่ สี ตู รส�ำ เรจ็ ทเี่ ปน็ ค�ำ ตอบทด่ี ที ส่ี ดุ เสมอส�ำ หรบั ผปู้ ว่ ยทกุ คนในทกุ สถานการณ์
ต้องอาศัยการดูแลรักษา ช่วยเหลืออย่างต่อเน่ือง และประเมินเป็นระยะ
เน่อื งจากสภาพของผู้ปว่ ยแตกตา่ งกัน และมกี ารเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา

บุคลากรทางการแพทย์ต้องคำ�นึงถึงปัญหาทางด้านการเงิน และ
ภาระการใชจ้ า่ ย ทผี่ ปู้ ว่ ยและครอบครวั จะตอ้ งแบกรบั เพอ่ื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื ตอ่ ไป
รวมทั้ง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถสะสางเร่ืองต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนจะจากไป

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สูงอายเุ พ่ือปอ้ งกันปัญหาสุขภาพจิต

56

ทั้งด้านการเงิน การงาน และเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ตามความต้องการของผู้ป่วย
แต่ละคน

 การดแู ลผปู้ ว่ ยระยะสดุ ทา้ ยในชมุ ชน (Dying care home visit)
(วิโรจน์ วรรณภริ ะ, 2555)

จากการสัมภาษณ์ญาติผู้สูงอายุท่ีสิ้นหวังในการรักษา การเยี่ยมบ้าน
ผู้สูงอายุในวาระสุดท้ายส่ิงแรกที่ต้องทำ�คือการแจ้งให้ญาติ/ผู้ดูแลทราบเร่ืองท่ี
บุคลากรจะไปเยี่ยม บางรายจะพบวา่ ไมอ่ ยากให้เข้าไปเย่ียมในบ้านเพราะอาย
ท่ีบ้านรก อายท่ีบ้านสกปรก อายท่ีผู้สูงอายุนอนแบบไม่ถูกหลักอนามัย กรณี
เช่นนี้บุคลากรสาธารณสุขนอกจากต้องแจ้งให้ทราบเรื่องวัน เวลาที่จะไปเยี่ยม
แลว้ ต้องบอกความจำ�เป็นในการไปเย่ยี มรว่ มดว้ ย

จดุ ประสงค์
1) เพ่ือให้การดูแลแบบประคับประคอง บรรเทาทุกข์และให้การดูแล
รกั ษาระยะสดุ ท้ายของชีวิตทจ่ี ำ�เปน็
2) เตรียมครอบครัวใหพ้ รอ้ มรับมือกบั ภาวะโศกเศรา้
1) เพื่อให้การดูแลแบบประคับประคอง บรรเทาทุกข์และให้การ
ดูแลรักษาระยะสดุ ท้ายของชีวิตท่จี �ำ เปน็
ในการดแู ลแบบประคบั ประคองทบ่ี า้ น นอกจากจะใหก้ ารรกั ษาเพอ่ื
บรรเทาอาการตา่ งๆท่ีทำ�ใหผ้ ้ปู ว่ ยไม่ทกุ ข์ทรมาน จำ�เปน็ ตอ้ งมีการวางแผนการ
ดูแลอย่างเป็นข้ันตอน ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยจากอาการทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น
ในขณะนนั้ ๆ เชน่ ปวดมาก อาจตอ้ งให้ยาแก้ปวดชนิดรุนแรงเปน็ ตน้ นอกจากนี้
อาจจดั กจิ กรรมทางสงั คม ศาสนา ตามความเชอ่ื หรอื ดา้ นอนื่ ๆทไ่ี มเ่ นน้ กจิ กรรม
ทางการแพทย์ ซ่ึงอาจต้องพงึ่ ผูร้ ู้ในชุมชนเข้ามาช่วยสนบั สนุน อาทิ การถวาย
สังฆทาน การขออโหสกิ รรม เปน็ ตน้

แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผู้สงู อายเุ พ่ือป้องกันปัญหาสุขภาพจติ

57

2) เตรยี มครอบครวั ใหพ้ รอ้ มรับมือกับภาวะโศกเศรา้
กอ่ นอนื่ ตอ้ งใหญ้ าต/ิ ครอบครวั เขา้ ใจวา่ ผปู้ ว่ ยอยใู่ นระยะสดุ ทา้ ยของ
ชวี ติ (กอ่ นเสยี ชวี ติ ) จนถงึ ผปู้ ว่ ยเสยี ชวี ติ และยอมรบั เรอ่ื งความตายทก่ี �ำ ลงั เกดิ ขน้ึ
ดว้ ยการประเมนิ
1. ประเมินสภาพอารมณ์และจิตใจของสมาชิกในครอบครัว
จากการสังเกต พูดคยุ ซักถาม
2. ประเมนิ ความสามารถในการแกป้ ญั หาของสมาชกิ ในครอบครวั
และใหก้ ารชว่ ยเหลอื ไดแ้ ก่ ความโศกเศรา้ อารมณ์ สงิ่ แวดลอ้ ม แหลง่ ชว่ ยเหลอื
หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ ตลอดจนเตรียมทำ�ศพ เช่นการจองวัด
หรือขัน้ ตอนทางศาสนา
3. แก้ปัญหาทางด้านอารมณแ์ ละจติ ใจท่ีเกิดขนึ้ โดยเฉพาะ ญาติ
บางรายรสู้ กึ ผิดทีล่ ะเลยผูเ้ สียชีวติ บคุ ลากรทางการแพทยต์ ้องสอบถาม พูดคยุ
เกี่ยวกับความรู้สึกต่างๆของญาติและท่ีสำ�คัญต้องช่วยแก้ไขความรู้สึกผิดต่างๆ
ของญาติท่ียังหลงเหลืออยู่ซ่ึงอาจใช้เทคนิคการต้ัง คำ�ถาม 3 ข้อ คือมองใกล้
มองไกล มองใจ ในบทที่ 5 (ความเศร้าโศกเสียใจของผู้สูงอายุที่เกิดจากการ
สูญเสียและการตาย) มาใช้ ระยะนี้บุคลากรทางการแพทย์อาจต้องประเมิน
สภาวะอารมณ์และให้การช่วยเหลือเพอ่ื ใหญ้ าตผิ า่ นภาวะสญู เสยี ไปได้

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สูงอายุเพือ่ ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ

58

บทที่ 7
การเยยี่ มบา้ นและการดแู ลผปู้ ่วยสงู อายทุ บ่ี ้าน
(Home Visit and Home Care in Elderly)

การเยยี่ มบา้ นและการดแู ลผปู้ ว่ ยสงู อายทุ บ่ี า้ นถอื เปน็ กจิ กรรมทเ่ี ปน็ หวั ใจ
สำ�คัญของการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง นอกจากต้องดูแลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย
ที่บ้านแล้วยังต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวขณะเยี่ยมบ้าน เพ่ือป้องกันปัญหา
สขุ ภาพจติ ดงั นนั้ บคุ ลากรสาธารณสขุ ตอ้ งเพมิ่ ความตระหนกั วา่ “การเยย่ี มบา้ น
ถือเป็นงานบริการท่ีช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวและมีส่วนร่วมในการดูแล
ผปู้ ว่ ยที่บา้ นร่วมกับโรงพยาบาล” จะเห็นวา่ การเยยี่ มบ้านและการดแู ลผูป้ ่วยที่
บา้ นเปน็ กจิ กรรมเชงิ รกุ และเชงิ ลกึ ทที่ �ำ ใหเ้ รามองภาพการดแู ลผปู้ ว่ ยทงั้ รา่ งกาย
จิตใจ และสังคมรอบตัวผู้ป่วยสูงอายุ กระบวนการดังกล่าวต้องอาศัยทักษะ
หลายๆด้านเพื่อให้ภารกิจบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะทักษะทางด้านจิตวิทยา
ในการสื่อสารเพือ่ ให้เกิดความมน่ั ใจ ลดความวิตกกงั วล นอกเหนอื จากความรู้
พ้ืนฐานด้านการแพทย์ต่อการดูแลความเจ็บป่วยหรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
สำ�หรับการเจบ็ ปว่ ยแลว้

การดแู ลผปู้ ว่ ยสงู อายทุ บ่ี า้ นตอ้ งไมล่ มื หลกั การส�ำ คญั วา่ การจะเยยี่ มบา้ น
หรอื ให้การดแู ลที่บา้ นในครงั้ แรกนนั้ ควรเรม่ิ ต้นทค่ี วามตอ้ งการของผปู้ ่วยและ
ญาตินำ�มาก่อนเสมอซ่ึงจะเป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคลากรทางการ
แพทย์ ผ้ปู ว่ ยและญาติทด่ี ีและเป็นกุญแจสำ�คญั ทีท่ ำ�ใหเ้ ราเขา้ ถงึ ครอบครวั ของ
ผปู้ ่วยสูงอายุได้ โดยเฉพาะในธรรมเนยี มแบบไทยๆ การไปเยีย่ มเยือนคนอนื่ ถึง
บ้าน ถือว่าเป็นเร่ืองสำ�คัญและต้องให้เกียรติเจ้าของบ้าน (วิโรจน์ วรรณภิระ,
2555)

แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพ่ือป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิต

59

 การเยย่ี มบ้านเพ่ือดูแลความเจ็บปว่ ย

ส�ำ หรบั ผสู้ งู อายแุ ลว้ มกั เปน็ การดแู ลผปู้ ว่ ยสงู อายใุ นระยะเฉยี บพลนั และ
การดูแลผู้ป่วยสูงอายุด้วยโรคเรื้อรัง กรณีการดูแลผู้สูงอายุในระยะเฉียบพลัน
การเย่ียมบ้านส่วนใหญ่จะเน้นการช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ป่วยสูงอายุ
ปลอดภยั จากความเจบ็ ปว่ ยแบบเฉยี บพลนั การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม การสบื สวน
โรคและการติดตามเฝ้าระวังโรคซ่ึงจะเน้นทางด้านร่างกายมากกว่าจิตใจ และ
เปน็ การให้การชว่ ยเหลอื ทีต่ อ้ งอาศัยความรู้พืน้ ฐานทางกายภาพ

การเยยี่ มบ้านผูป้ ่วยสูงอายุดว้ ยโรคเร้ือรัง เพื่อใหก้ ารดแู ลทางดา้ นสังคม
จติ ใจ จะเนน้ การดูแลทางดา้ นจติ ใจ อารมณ์ สงั คม และจติ วิญญาณ ที่ส่งผล
ต่อปรับตัวและพฤติกรรมของผู้ป่วยสูงอายุ รวมทั้งประเมินประสิทธิภาพของ
ครอบครวั ต่อการดูแลผูป้ ่วยสงู อายุเมื่อกลบั ไปอยู่บา้ น ประเมนิ ความปลอดภยั
ที่พัก ส่ิงแวดล้อม และความต้องการความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ-สังคม
รวมทั้งให้การส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วย และญาติด้วย
การน�ำ เทคนคิ การสอื่ สาร การสนบั สนนุ ทางสงั คมและการสรา้ งสมั พนั ธภาพมา
เปน็ กลไกสำ�คัญในการดำ�เนนิ การ

กระบวนการดูแลทางด้านสังคมจิตใจ เมื่อเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย
ด้วยโรคเร้อื รงั ก็เชน่ เดียวกบั กระบวนการเยีย่ มบ้านอืน่ ๆดังนี้

1. ระยะก่อนเย่ยี มบ้าน
บุคลากรสาธารณสุขที่จะให้การดูแลทางด้านสังคมจิตใจร่วมกับ
สหวิชาชพี อ่ืนๆ มวี ธิ กี ารดำ�เนินการดังนี้
1.1 ตอ้ งก�ำ หนดเปา้ หมายในการเยยี่ มบา้ น เพอื่ ใหก้ ารดแู ลทางดา้ น
สังคมจิตใจใหช้ ดั เจน ทงั้ ผ้ปู ่วย จำ�นวนสมาชกิ ในครอบครัวทจี่ ะเขา้ เยี่ยม
1.2 วางแผนในการเยี่ยมบ้าน ด้วยการเข้าใจข้อมูลพ้ืนฐาน
สถานการณก์ ารเจบ็ ป่วยในอดตี ปัจจบุ ัน ประวัตสิ ว่ นตวั ของผู้ปว่ ยสงู อายุ และ

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจิตใจของผู้สงู อายุเพือ่ ปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจติ

60

วิธีการประเมินทางสังคมจิตใจ เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย
และครอบครัวในการลดความวิตกกังวล ความเครียด เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจ
สถานการณ์และปัญหาทางด้านสังคมจิตใจของผู้ป่วยซ่ึงจะต้องวิเคราะห์ตาม
ประเดน็ ต่อไปนี้ คอื

1.2.1 ปญั หาท่เี ผชิญอยู่ในขณะน้มี ีอะไรบ้าง ผู้ประเมนิ จะตอ้ ง
ใช้ทักษะการถามเปิดเพื่อให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับปัญหาและวิเคราะห์ดูว่าเขามอง
ปญั หาอยา่ งไร สง่ิ ส�ำ คญั คอื ควรเพง่ เลง็ ทป่ี ญั หาในปจั จบุ นั มากกวา่ อดตี ท�ำ ความ
เข้าใจวา่ ปญั หามอี ะไรบา้ ง ปญั หาอยทู่ ่ใี คร และเกีย่ วขอ้ งกบั ใคร

1.2.2 ปัญหาเร่งด่วน ที่ควรได้รับการแก้ไขเป็นอันดับแรก
ซ่ึงต้องประเมนิ จากความต้องการของผปู้ ่วยดว้ ย

1.2.3 ภาวการณ์เจ็บป่วยทางกายมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจ
มากน้อยเพียงใด ขนึ้ อยูก่ บั ชนดิ ของโรคท่เี ปน็ และการสนบั สนุนของผใู้ กล้ชิด

1.2.4 สังเกตส่ิงท่ีจะบ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยและ
สมาชิกภายในครอบครัว เพ่ือให้ได้ข้อมูลละเอียดและครอบคลุมในการให้การ
ช่วยเหลอื ทางสงั คมจิตใจต่อไป

1.2.5 ประวัติการปรับตัวของสมาชิกครอบครัวแต่ละคน
ค่านิยม เป้าหมายในชีวิต บทบาท ปัญหาสุขภาพจิต เป็นต้น ต้องสังเกตว่า
ครอบครวั โดยรวมมีความเหน็ ความคาดหวงั และมองสมาชกิ แต่ละคนอยา่ งไร
ในแง่มุมท่ีต่างกัน สิ่งเหล่าน้ีสำ�คัญและส่งผลต่อการปรับตัวของผู้ป่วยเมื่อเจ็บ
ปว่ ยเป็นอย่างมาก

1.2.6 การสนับสนนุ ทางสังคม ซึง่ ไดแ้ ก่ครอบครวั ญาติพน่ี ้อง
เพื่อน ผู้ใกล้ชิด ให้การดูแลช่วยเหลือ ประคับประคองจิตใจมากน้อยเพียงใด
ประเมินอิทธิพลของระบบอื่นๆ เช่นระบบเศรษฐกิจ และศาสนา ที่มีต่อ
ครอบครัวและการเจ็บป่วย เช่น ความจำ�เป็นทางเศรษฐกิจที่ทำ�ให้ผู้ป่วยเป็น
ภาระในครอบครวั ประกอบอาชพี ไม่ได้ ไม่มใี ครพยาบาลผปู้ ว่ ย เปน็ ต้น

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผสู้ งู อายเุ พื่อปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิต

61

1.2.7 ผู้ป่วยสูงอายุและญาติมีแรงจูงใจ เป้าหมาย หรือความ
คาดหวังอะไรจากการบำ�บัด หรือการให้การดูแลทางสังคมจิตใจ เช่น ความ
ต้องการการช่วยเหลือระยะยาว แรงจูงใจในการบำ�บัดเป็นสิ่งสำ�คัญซึ่งจะเป็น
ประโยชนต์ อ่ ผปู้ ว่ ยและครอบครวั เพราะจะเปน็ ก�ำ ลงั ใจในการรว่ มกนั แกป้ ญั หา

1.2.8 ผู้ป่วยสูงอายุมีความรู้ความสามารถหรือประสบการณ์
อะไรบ้างที่เคยประสบความสำ�เร็จหรือรู้สึกภาคภูมิใจ(ใช้เป็นเคร่ืองมือซักถาม
เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ว่ ยสงู อายเุ กดิ ความภาคภมู ใิ จกอ่ นยตุ กิ ารเยยี่ มบา้ น) ทง้ั นขี้ อ้ มลู ความ
รู้ ประสบการณ์ ความสำ�เรจ็ ในอดีตให้ถามจากลูกหลานกอ่ น ถา้ ไม่มลี กู หลาน
จึงจะถามจากคนรูจ้ ัก

2. ระยะเยยี่ มบ้าน
เปน็ ระยะการปฏบิ ัติในการประเมินทางดา้ นสังคมจติ ใจ เพื่อใหเ้ กิด
การส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยและญาติ และให้การช่วย
เหลือโดยดำ�เนินการตามแผนที่วางไว้ หรือปรับได้ตามสภาพการณ์ ทักษะที่
ส�ำ คัญในระยะน้ี
- ทักษะในการสื่อสารเพ่ือสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ
ให้เกดิ ขนึ้
- ทักษะในการกระตุ้น เพ่ือให้ผู้สูงอายุและญาติพูดคุยและนำ�สู่
การคน้ หาปัญหา
- ทักษะการสะท้อนอารมณ์เพ่ือรับรู้ความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆ
ท่ีผู้รับบรกิ ารไดแ้ สดงออกมา และเปน็ การสะทอ้ นความรสู้ กึ
- ทักษะการทวนซ้ําเพ่ือให้ผู้รับบริการได้เข้าใจชัดเจนขึ้นในเร่ือง
ท่ีต้องการขอความช่วยเหลือ และเป็นการเน้นย้ําให้ผู้มารับบริการเข้าใจความ
ตอ้ งการของตนเอง ตลอดจนผูใ้ หบ้ รกิ ารจะได้เขา้ ใจเน้อื หาท่เี กิดขน้ึ

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผสู้ ูงอายเุ พอ่ื ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ

62

 ข้ันตอนการใหบ้ ริการเมื่อพบผปู้ ่วยและญาติ

1. สรา้ งสมั พันธภาพดว้ ยการทักทาย ถามสารทุกขส์ ขุ ดบิ การแนะนำ�
ตวั เอง การพดู คยุ สนทนาเรอ่ื งทมี่ าเยยี่ มเยยี น สนทนาเรอ่ื งทวั่ ไปเพอื่ สรา้ งความ
คนุ้ เคย ลดความตนื่ เตน้ กงั วลใจ โดยปกตผิ สู้ งู อายทุ อี่ ยบู่ า้ น เมอื่ มผี ไู้ ปเยย่ี มเยยี น
ถึงบ้านมักจะรู้สึกดีใจ และให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นทุนเดิม จากน้ัน
ให้ถามเร่ืองสุขภาพกายก่อนถ้าผู้ป่วยสูงอายุยังสามารถโต้ตอบได้ แต่ถ้าผู้สูง
อายุท่ีไม่มีอาการทางจิตใจมากนักสามารถพูดคุยเร่ืองดีๆในอดีตได้เลย และใน
ผู้สงู อายกุ ลุ่มติดเตยี งถา้ พอจะนัง่ เอนหลังได้จะท�ำ ให้การพดู คยุ สือ่ สารได้ดขี ้นึ

สงิ่ ทไี่ มค่ วรกระท�ำ คอื การพดู จาทกั ทายทที่ �ำ ใหผ้ สู้ งู อายรุ สู้ กึ วา่ ตนเอง
เปน็ เดก็ เล็ก ไม่ใชผ่ ู้ใหญท่ ีน่ า่ เคารพ หรอื คำ�ทักทายท่ที ำ�ใหร้ สู้ ึกวา่ ผูส้ ูงอายกุ ำ�ลัง
ทำ�ตัวใหเ้ ปน็ ภาระของคนรอบขา้ งหรือครอบครัว เพราะส่ิงเหลา่ นลี้ ว้ นบนั่ ทอน
ความรสู้ กึ มคี ณุ คา่ ในตนเอง และยงั สรา้ งความรสู้ กึ คบั ขอ้ งใจใหก้ บั ผสู้ งู อายดุ ว้ ย
วา่ ตนเองท�ำ ใหค้ ู่ครอง/ลูกหลาน ล�ำ บาก

ตัวอยา่ ง ขอ้ เทจ็ จรงิ จากการสัมภาษณผ์ สู้ งู อายตุ ดิ บ้าน ตดิ เตียง ซึ่ง
สามารถพดู คยุ ไดด้ แี ตม่ ปี ญั หาเรอื่ งการเคลอื่ นไหวเนอื่ งจากปญั หาหลอดเลอื ดใน
สมอง ทไ่ี ดส้ ะทอ้ นถงึ ค�ำ พดู ทบ่ี คุ ลากรสาธารณสขุ ซง่ึ มาเยยี่ มบา้ นเพอ่ื ท�ำ แผลกด
ทบั และการใสส่ ายสวนปสั สาวะ และท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายรุ สู้ กึ วา่ ตนเองเปน็ เดก็ เลก็ ไม่
นา่ เคารพ และรสู้ กึ นอ้ ยใจ “ปา้ มาลี วนั นเ้ี จา้ หนา้ ทม่ี าเยย่ี ม ไหนลองยม้ิ หนอ่ ยซิ
จ๊ะ อืม...เกง่ จงั ยังนอนนํ้าลายยดื อย่รู ึเปลา่ เนีย่ ”

และคำ�พูดท่ีทำ�ให้รู้สึกว่าตนเองกำ�ลังเป็นเด็กนักเรียนท่ีทำ�ตัวให้
เป็นภาระกับคนรอบข้างเช่น “ป้ามาลีเห็นมาทีไรก็เอาแต่นอนทุกทีเลย บอก
ให้พยายามลุกนง่ั บา้ งก็ไม่ทำ� ถา้ พูดแล้วไมเ่ ชอื่ กนั อย่างนีจ้ ะใหท้ �ำ โทษอย่างไรดี
รู้ไม๊ว่านอนมากๆจะทำ�ให้แผลที่ก้นกบมันแย่ลง ต้องพยายามลุกน่ังบ้าง บอก
อะไรกไ็ ม่เคยเชื่อเลย” หรอื “ลงุ จอม ปา้ มาลีเป็นอย่างไรบา้ ง ลุกนั่งบา้ งหรือยัง
หรอื เอาแต่นอน ดอ้ื หรือจ๊ะ เดี๋ยวแผลกไ็ ม่หายกันพอดี ถา้ อยากแผลหายเรว็ ก็
ตอ้ งพยายามชว่ ยกัน ห้ามดือ้ อยา่ แผลงฤทธิ์ซ”ิ

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผสู้ งู อายุเพื่อปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจติ

63

2. หลังจากคุ้นเคยแล้วให้ใช้คำ�ถามเพื่อค้นหาปัญหา สำ�รวจปัญหา
และวิเคราะห์ปัญหาท่ีมีผลกระทบต่อพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วย ตามแผนท่ีวาง
ไว้ ทักษะทจ่ี ำ�เป็นคอื การการกระตุ้นใหผ้ ู้สงู อายุ/ญาตเิ ลา่ เร่อื ง ไดร้ ะบายปัญหา
และความต้องการด้านการชว่ ยเหลือ

ในการตั้งคำ�ถามเพ่ือสำ�รวจปัญหาไม่ควรต้ังคำ�ถามในเชิงประชด
ประชนั ดถู กู เชน่ “เอะ๊ ท�ำ ไมนา้ํ ตาลยงั สงู แอบไปท�ำ อะไรมานา้ํ ตาลขนึ้ อกี แลว้ ”
หรือ “โอโห น้าํ ตาลสูงขนาดเชอื่ มกล้วยไดเ้ ลยนะเนยี่ ไหนไปทำ�อะไรมานาํ้ ตาล
ถึงพุ่งสูงเกนิ เพดานขนาดนี้ ลองเล่าให้ฟงั หน่อยซ”ิ หรือ “แหม ...ญาตดิ แู ลยัง
ไงท�ำ ไมนาํ้ ตาลคณุ ลุงถึงคุมไม่ได้ ไหนท�ำ อาหารยงั ไง เล่ามาเลย” หรือ “เม่อื กี้
ไปดูในครวั แหมเหน็ แตข่ นมหวานในโต๊ะทานข้าว มนิ า่ เล่านา้ํ ตาลถงึ ไม่ลง”

3. การสรปุ ปญั หา จากขอ้ มลู ตา่ ง ๆ รวมทงั้ การสงั เกตปฏสิ มั พนั ธท์ เ่ี กดิ
ข้ึนทั้งตัวผู้ป่วยและญาติผู้ประเมินจะได้คำ�ตอบว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไรเป็น
ความขดั แยง้ ในตวั บคุ คล หรอื เปน็ ปญั หาความสมั พนั ธ์ หรอื ปญั หาอยทู่ รี่ ะบบใด
ผู้ป่วยมีภาวะจิตสังคมท่ีต้องได้รับการช่วยเหลือในเรื่องใด อาจมีภาวะ
ซึมเศร้า การพยายามฆ่าตัวตาย ภาวะการณ์เจ็บป่วยอันเนื่องมาจากลักษณะ
ของโรคท่ีรุนแรงรักษาไม่หาย หรือความพิการ การเจ็บป่วยทางจิตเวชเป็นต้น
ส่ิงที่พึงระลึกถงึ เสมอในการประเมิน คือ

ความแตกต่างระหว่างเช้ือชาติและวัฒนธรรม ผู้ประเมินจะต้องไม่
ใช้มาตรฐานของตนเองมาตัดสิน ควรเป็นเพื่อนคู่คิดช่วยเหลือผู้สูงอายุ/ญาติ
ใหส้ ามารถแก้ไขปญั หาได้ดว้ ยตวั เอง กระตนุ้ ให้หาหนทางแกป้ ญั หาเอง ช่วยให้
ข้อมูลที่ยงั ขาดหายไป และเช่ือมโยงใหเ้ กดิ ชอ่ งทางในการน�ำ ไปสกู่ ารแกป้ ัญหา
หรือหาทางเลือกในการรักษา

4. ใหก้ ารช่วยเหลอื เพื่อใหก้ ารดูแลทางสงั คมจติ ใจ
การวางแผนการดูแลทางสังคมจิตใจจะได้ผลดีก็ต่อเม่ือมีความ
กระจ่างในปัญหาที่เกิดข้ึน ดังน้ันจึงจำ�เป็นอย่างย่ิงท่ีผู้ประเมินจะต้องอธิบาย

แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจติ ใจของผู้สูงอายุเพ่ือป้องกันปัญหาสุขภาพจิต

64

ให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจถึงการดูแลทางสังคมจิตใจ ผลการประเมินเพ่ือสรุปว่า
ปัญหาอยู่ทีใ่ ด เพอ่ื วางแผนรว่ มกันในการบำ�บดั ต่อไป

 วิธีการใหก้ ารชว่ ยเหลอื ดูแลทางดา้ นสังคมจิตใจท่สี ำ�คัญ

1. การใหค้ �ำ แนะน�ำ ในเรื่องที่ผูส้ ูงอายุ/ญาตไิ มม่ คี วามกระจ่าง
2. ใช้เทคนิคการให้ค�ำ ปรึกษาเบื้องต้น ได้แก่
 การประเมนิ สภาพอารมณ์ผสู้ งู อายุ
 คน้ หาปัญหาทรี่ บกวนผู้สูงอาย/ุ ญาติ
 วิธกี ารที่ผู้สงู อายุ/ญาตจิ ัดการกับปัญหา
 แสดงความเหน็ อกเหน็ ใจ
3. การประเมนิ สภาพอารมณ์ ภาวะซึมเศร้า ดว้ ย 2Q/ 9Q/ 8Q ถา้ พบ
ว่ามีปญั หาใหส้ ่งต่อการรกั ษา
4. ระยะหลงั เยีย่ มบ้าน จะเป็นการทบทวน สรุปปญั หา และวางแผน
ตดิ ตามหรอื การเยี่ยมในครง้ั ต่อไป

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผู้สูงอายุเพ่ือป้องกันปัญหาสุขภาพจติ

65

แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผสู้ งู อายเุ พ่อื ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ

66

ภาคผนวก

แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผู้สูงอายเุ พอื่ ปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจิต

67

 วิธีการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจผสู้ งู อายุ

กลมุ่ เป้า เน้ือหา รูปแบบการจัด เครื่องมือ ทกั ษะทางจิตวิทยา
หมาย กิจกรรม
 ทกั ษะการสือ่ สาร
ผ้สู ูงอายกุ ลมุ่ ธรรมชาตขิ อง  การใหค้ ำ�ปรึกษา  แบบประเมนิ  ทักษะการให้
แนะนำ�เบือ้ งต้น ความเครยี ด
 ตดิ สงั คม ผสู้ ูงอายุ / การ ค�ำ ปรกึ ษาแนะน�ำ
 ตดิ บา้ น แก้ปญั หาสภาพ  การให้ความรู้ เบื้องตน้
เรื่องธรรมชาติ
อารมณ์ ผู้สงู อายุ  ทกั ษะการให้

 หงุดหงดิ  การแก้ไขปัญหา คำ�แนะนำ�แบบสน้ั
 น้อยใจ สภาพอารมณ์ (Brief Advice)/
 เหงา/ว้าเหว่ ผู้สูงอายุ การบำ�บัดแบบสน้ั
 นอนไม่หลับ (Brief Interven-
 เครยี ด  การประเมิน tion)
 จูจ้ ี้ ขี้บน่ ความเครียด
 วิตกกงั วล  ทักษะการเสรมิ
 ถูกทอดท้ิง  การสง่ เสรมิ การ
 ไมม่ คี ุณค่าใน รวมกลุ่มทาง สรา้ งพลงั อำ�นาจใน
สงั คม ผสู้ ูงอายุ
ตนเอง (Empowerment)

 ทกั ษะการสร้างแรง

จูงใจ (Motivation
Interviewing)

ผู้สงู อายกุ ลมุ่  การเฝา้ ระวงั

 ติดสังคม ความเครยี ด /
ซึมเศร้า

 การดแู ล
ชว่ ยเหลอื ผ้ทู ี่
มโี อกาสหรอื มี
แนวโนม้ ป่วย
เปน็ โรคซึมเศรา้

แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผสู้ ูงอายุเพือ่ ป้องกันปัญหาสุขภาพจติ

68

กลุ่มเป้า เนือ้ หา รปู แบบการจดั เครือ่ งมือ ทกั ษะทางจิตวิทยา
หมาย กิจกรรม

 การดแู ลชว่ ย  การประเมนิ  แบบประเมิน  ทกั ษะการแก้ไข
เหลอื ผปู้ ่วย ความเครยี ด ความเครยี ด ปญั หา
โรคซมึ เศร้าที่
มรี ะดับความ  การคดั กรอง  แบบคัดกรอง  สขุ ภาพจิตศกึ ษา
รนุ แรงระดบั  ทกั ษะการให้
นอ้ ย ซมึ เศร้า ซมึ เศรา้ ด้วย
2Q/9Q คำ�ปรกึ ษาแนะนำ�
 การใหก้ าร
 แนวทางการ
สนับสนุนทาง
สงั คม เฝา้ ระวงั ซึมเศรา้

 การส่งเสรมิ การ
รวมกล่มุ ทาง
สงั คม

 การใหค้ �ำ ปรึกษา
แนะนำ�เพ่อื แก้
ปัญหา

ผู้สงู อายกุ ลุ่ม  การเฝ้าระวงั  การคดั กรอง  แบบคัดกรองซึม  ทักษะการแก้ไข
ซมึ เศรา้ /เสย่ี งต่อ เศร้า/เสย่ี งต่อ ปัญหา
 ตดิ บา้ น ภาวะซึมเศร้า การฆ่าตัวตาย การฆา่ ตวั ตาย
 ตดิ เตยี ง และฆา่ ตวั ตาย ด้วย 9Q/8Q  สุขภาพจติ ศึกษา
 การดูแลช่วย  การเยย่ี มบา้ น  ทกั ษะการให้
เหลอื ผทู้ ี่มี และการให้ ค�ำ ปรึกษาแนะนำ�
โอกาสหรือมี คำ�แนะน�ำ
แนวโนม้ ป่วย ปรกึ ษา

เป็นโรคซึมเศร้า/  วิธีการสง่ ตอ่
เสี่ยงต่อการ
ฆา่ ตัวตาย

 การดูแลช่วย
เหลอื ผู้ป่วย
โรคซึมเศรา้ ทีม่ ี
ความเส่ียง/
มีแนวโนม้ การ
ฆา่ ตัวตาย

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจิตใจของผสู้ งู อายเุ พ่อื ป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ

69

กลุ่มเป้า เนือ้ หา รูปแบบการจดั เคร่อื งมอื ทกั ษะทางจิตวิทยา
หมาย กิจกรรม
 ทักษะการสื่อสาร
ผ้สู ูงอายุกลุ่ม วธิ ีการส่งเสริม  การจัดกิจกรรม  คมู่ อื สขุ 5 มิติ
 ทกั ษะการสื่อสาร
 ตดิ สังคม สขุ ภาพจิต เพอ่ื ใหค้ วามรู้ และโปรแกรม  ทกั ษะการให้
 ติดบ้าน  การเสรมิ ทักษะ ดา้ นการสง่ เสริม 16 สปั ดาห์เพื่อ
การแก้ไขปัญหา สุขภาพจติ สร้างสุข 5 มติ ิ กำ�ลงั ใจ

 การสรา้ งความมี  การส่งเสริมการ  ทกั ษะการให้
คณุ คา่ รวมกลุ่มทาง
สังคม ค�ำ ปรกึ ษาแนะน�ำ
 การพฒั นา
ทกั ษะการ  ทักษะการให้เสริม
สื่อสาร/การฟงั /
การถาม สรา้ งแรงจูงใจใน
การปรับพฤติกรรม
ผูส้ งู อายกุ ลุ่ม  การสงั เกต  การประเมินทาง  ขัน้ ตอนการ
สงั คมจิตใจ ประเมินทาง  ทักษะการสื่อสาร
 ติดสงั คม ปญั หา  การจัดกล่มุ สงั คมจติ ใจ  ทักษะการให้
 ตดิ บา้ น สขุ ภาพจติ เพ่อื นชว่ ยเพ่อื น  แบบคัดกรอง
ผสู้ ูงอายทุ ีม่ ี ค�ำ ปรึกษาแนะน�ำ
โรคเร้ือรงั  การเยี่ยมบ้าน ซึมเศรา้ /
และการให้ เสี่ยงต่อการ  ทกั ษะการให้เสริม
 ภาวะโศกเศร้า ฆ่าตัวตายด้วย
และสญู เสีย คำ�ปรกึ ษา สร้างก�ำ ลงั ใจ
แนะนำ� 9Q/8Q
 สขุ ภาพจติ ศกึ ษา
ผู้สงู อายกุ ล่มุ  การดูแลผู้ป่วย  การเยีย่ มบ้าน  แบบคัดกรอง
 การสรา้ ง
 ติดเตียง ระยะสุดทา้ ย ซึมเศรา้ /
 การดูแล เครอื ขา่ ยการ เสยี่ งต่อการ
สขุ ภาพจติ ของ ดูแลช่วยเหลอื ฆ่าตวั ตายดว้ ย
ผดู้ ูแล ผปู้ ว่ ยในชุมชน 9Q/8Q

 การประเมนิ  แบบประเมนิ
ความเครยี ด ความเครียด
ผดู้ แู ล

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผูส้ ูงอายเุ พือ่ ป้องกันปญั หาสุขภาพจติ

70

 การให้การปรกึ ษาทใี่ ช้เป็นหลกั ในการให้ความช่วยเหลือ
(Counseling Skills)

การให้การปรึกษาเป็นกระบวนการท่ีอาศัยสัมพันธภาพท่ีดีต่อกัน
ระหวา่ งผใู้ หก้ ารปรกึ ษากบั ผรู้ บั การปรกึ ษา ดว้ ยการสอ่ื สารสองทางจนเกดิ ความ
ร่วมมือโดยผู้ให้การปรึกษาเป็นผู้ช่วยเหลือด้วยการใช้คุณสมบัติของผู้ให้การ
ปรึกษา และทักษะตา่ ง ๆ เพือ่ เอ้ืออำ�นวยใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาได้ใชศ้ กั ยภาพของ
ตนเองในการสำ�รวจตัวเองเพ่ือทำ�ความเข้าใจ สามารถค้นหาปัญหาท่ีแท้จริง
สาเหตุของปัญหา และความต้องการ ตลอดจนสามารถหาวิธีการแก้ไขปัญหา
และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จนปรับตัวให้ดีข้ึนได้ด้วยตนเอง (กรมสุขภาพจิต,
2550)

ลกั ษณะเฉพาะของการให้การปรกึ ษา
1. เปน็ การใหค้ วามช่วยเหลือ ในปญั หาด้านจติ ใจ อารมณ์ และ
สังคม อันประกอบด้วย ความเช่ือ ค่านยิ ม วัฒนธรรม ซง่ึ เปน็ ปัจจยั ทม่ี ีผลกระ
ทบต่อผู้รับการปรึกษา ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือจะเน้นการแก้ไขปัญหาที่
ให้ความสำ�คัญในเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก ที่จะเน้นตัวท่ีสืบค้นต่อไปถึงปัญหา
พฤตกิ รรมท่ีเกดิ ข้ึน และสง่ ผลไปถงึ การปรบั เปล่ยี นพฤติกรรม
2. เนน้ สัมพนั ธภาพท่ีดรี ะหวา่ งผู้ ให้และผ้รู ับการปรกึ ษา ตลอด
กระบวนการให้การปรกึ ษา เพ่ือใหผ้ ูใ้ หก้ ารปรกึ ษาเกิดความไวว้ างใจผอ่ นคลาย
กลา้ เปดิ เผยตนเอง ยอมรบั รู้ ตลอดจนท�ำ ความเขา้ ใจ และแกไ้ ขปญั หาของตนเอง
3. เน้นการสื่อสารสองทาง เป็นการสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน
ระหว่างผู้ให้และผู้รับการปรึกษา โดยผู้ให้การปรึกษาเอื้ออำ�นวยให้ผู้รับการ
ปรึกษาได้แสดงออกและแยกแยะความรู้สึกท่ีอยู่ภายในความคิด และเรื่องราว
ทเ่ี กย่ี วขอ้ งทส่ี อื่ ดว้ ยค�ำ พดู และทา่ ทางซงึ่ ขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั จะตอ้ งไดจ้ ากผรู้ บั บรกิ าร
ปรกึ ษาไมใ่ ชไ่ ดจ้ ากการคาดคะเน หรอื คาดเดาเอาเอง ดงั นนั้ จะตอ้ งมกี ารซกั ซอ้ ม

แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของผ้สู งู อายุเพอื่ ป้องกนั ปญั หาสุขภาพจติ

71

ท�ำ ความกระจา่ ง และทำ�ความเขา้ ใจให้ตรงกันเป็นระยะ ๆ ตลอดกระบวนการ
ใหก้ ารปรึกษา

4. เปน็ กระบวนการท่มี กี ารพูดคุยกันอย่างมีเป้าหมายมีขนั้ ตอน
และมีการใช้ทักษะท่ีเหมาะสม ข้ึนอยู่กับโอกาส จังหวะ และสถานการณ์ที่
ผใู้ หก้ ารปรกึ ษาจะเลอื กใช้

5. ยึดผรู้ บั การปรึกษาเป็นศูนยก์ ลาง คือ ให้ความสำ�คัญตอ่ ความ
รสู้ ึกนึกคดิ ปัญหาความต้องการของผู้รบั การปรกึ ษาในขณะน้ัน นอกจากนี้การ
รับรู้ปัญหาการตัดสินใจเลือก และการแก้ไขปัญหาต้ังอยู่บนศักยภาพของผู้รับ
การปรกึ ษาเป็นส�ำ คญั

6. เน้นปัจจุบัน เป็นการเน้นปฏิกิริยาท่ีแสดงออกถึงความรู้สึก
นกึ คดิ และความเชอื่ ท่ีมากระทบในปจั จบุ นั คอื ท่นี ้ีและเดย๋ี วน้ี จากท่าที และ
ค�ำ พูดของผู้รับการปรึกษาในขณะน้นั สว่ นเร่อื งราวที่เปน็ อดตี เชน่ ปัญหาทเ่ี กิด
จากการอบรมเล้ยี งดูนนั้ ถอื วา่ เป็นสิง่ ที่ผา่ นพน้ ไป และเร่อื งราวในอนาคตเปน็
สงิ่ ทยี่ งั มาไมถ่ งึ ปจั จบุ นั เทา่ นนั้ ทส่ี �ำ คญั และเมอื่ ผรู้ บั การปรกึ ษาไดต้ ระหนกั ถงึ
สิ่งท่ีกำ�ลังทำ�อะไรอยู่จริงในขณะน้ีและเด๋ียวนี้แล้ว ผู้รับการปรึกษาจะสามารถ
ตดั สนิ ใจทจี่ ะกระท�ำ สงิ่ ทเ่ี ปน็ ประโยชนแ์ กต่ วั เขาได้ คอื สามารถแก้ไขหรอื เลือก
ปฏิบัตไิ ด้ในปัจจุบัน

7. ไมม่ คี �ำ ตอบส�ำ เรจ็ รปู หรอื ตายตวั เนอ่ื งจากการใหก้ ารปรกึ ษา
เปน็ เรอ่ื งของการส่ือสารระหวา่ งผู้ใหก้ ารปรกึ ษาและผูร้ บั การปรกึ ษา ผลสนิ้ สดุ
ของการให้การปรึกษา อาจจบลงในขณะใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการ
การตัดสินใจเลือกศักยภาพ ตลอดจนแรงจูงใจของผู้รับการปรึกษาเป็นสำ�คัญ
ซึง่ เป็นปัญหาเฉพาะบคุ คล

8. การให้การปรึกษาไม่ใช่การแนะแนว การส่ังสอนอย่างเดียว
หรือการตัดสินชี้ถูกหรือผิด แต่การให้การปรึกษาเป็นการช่วยให้ผู้รับการ
ปรกึ ษามแี นวทางแกไ้ ขปญั หา สามารถพจิ ารณาทางเลอื กไดม้ ากขนึ้ และตดั สนิ ใจ

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผูส้ งู อายุเพอื่ ปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิต

72

ไดง้ า่ ยขนึ้ โดยผใู้ หก้ ารปรกึ ษาเปน็ ผทู้ พี่ ยายามดงึ ศกั ยภาพของผรู้ บั การปรกึ ษาท่ี
มอี ยมู่ าใชป้ ระโยชนใ์ หม้ ากทส่ี ดุ แตใ่ นขณะเดยี วกนั ผใู้ หก้ ารปรกึ ษาอาจใหข้ อ้ มลู
ในส่วนท่ีขาดหรือแนะนำ�ได้เฉพาะบางกรณีที่เกี่ยวข้องกับหลักการปฏิบัติตัวท่ี
เปน็ ความร้ทู ี่จำ�เป็น

กระบวนการให้การปรกึ ษา

หมายเหตุ หมายถึง ผใู หก ารปรกึ ษา
Co = Counsellor หมายถึง ผูรับการปรกึ ษา
Cl = Client

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผูส้ งู อายุเพ่ือปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ

73

ทักษะการปรึกษาที่ได้รับการฝึกปฏิบัติอย่างคล่องแคล่วและถูกต้อง
จะท�ำ ให้การปรกึ ษาเกิดประสิทธภิ าพ มีดงั นี้

1. ทักษะการฟงั (Listening Skill)
2. ทกั ษะการต้ังคำ�ถาม (Questioning Skill)
3. ทกั ษะการเงียบ (Silence Skill)
4. ทักษะการทวนซํา้ (Paraphrasing Skill)
5. ทักษะการสะท้อน (Reflecting Skill)
6. ทักษะการท�ำ ให้กระจา่ ง (Clarifying Skill)
7. ทักษะการตคี วาม (Interpreting Skill)
8. ทกั ษะการให้ขอ้ มูล (Informing Skill)
9. ทกั ษะการพดู แบบเผชญิ หน้า (Confronting Skill)
10. ทักษะการให้ก�ำ ลงั ใจ (Reassuring Skill)
11. ทกั ษะการใหข้ อ้ เสนอแนะ (Giving Suggestion Skill)
12. ทักษะการสรุปประเดน็ (Summarizing Skill)
ในทีน่ ี้จะกล่าวถึงทกั ษะพ้ืนฐานที่จ�ำ เป็นและใช้บอ่ ยในการใหบ้ รกิ าร

1. ทกั ษะการฟงั
ความหมาย การฟัง : การท่ีผ้ใู ห้การปรึกษารับฟงั ความคดิ อารมณ์
ความรสู้ ึกในปัญหาของผรู้ บั การปรึกษา ในขณะทีใ่ ห้การปรึกษา
วัตถปุ ระสงค์
1) เพ่ือให้ผู้รับการปรึกษาได้ระบายความคิด อารมณ์ ความรู้สึก
ท่ีเป็นปัญหาและได้เรียนรู้ เข้าใจตนเองและผู้อ่ืน สามารถเข้าใจในส่ิงท่ีเป็น
ปัญหา ยอมรับ และแยกแยะความรูส้ กึ ท้งั บวกและลบของตนเอง รวมทง้ั มกี าร
ใชศ้ กั ยภาพตดั สินใจเลอื กทางแก้ปัญหาดว้ ยตนเอง
2) เพื่อให้ผู้ให้การปรึกษาสามารถจับประเด็นสำ�คัญในปัญหาของ
ผมู้ ารับการปรึกษาและแกะรอยตามปญั หาของผูร้ ับการปรกึ ษา

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผสู้ งู อายเุ พื่อป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิต

74

3) เพ่ือให้ผู้ให้การปรึกษาและผู้รับการปรึกษาเกิดความเข้าใจใน
ปญั หาตรงกนั

แนวทางการใชฟ้ ัง
การฟงั ถอื วา่ เปน็ การรกั ษา เปน็ การฟงั แบบ two way communication
คอื ลักษณะการฟังอย่างใส่ใจ(Active Listening) คอื ตั้งใจฟงั ต่อเนื้อหาสาระ
และอารมณ์ของผูร้ ับการปรกึ ษาทแ่ี สดงออกมา
การฟังอยา่ งตัง้ ใจ หรือ (LADDER) หมายถึง
L = LOOK มองประสานสายตา ต้ังใจฟัง มีสติ และพยายามจับ
ประเด็นส�ำ คัญในปัญหาของผรู้ บั การปรึกษา
A = ASK ซักถามในจดุ ท่สี งสยั ในประเดน็ ปญั หา และแกะรอยตาม
ประเดน็ ปัญหาของผู้รบั การปรึกษา
D = DON’T INTERRUPT ไม่แทรกหรอื ขดั จังหวะ ถ้าในกรณีผรู้ ับ
การปรกึ ษาพดู มากและวกวน ใชก้ ารสรปุ ประเด็นปญั หาเปน็ ชว่ ง ๆ เพื่อให้เกดิ
ความเขา้ ใจ
D = DON’T CHANGE THE SUBJECT ไม่เปลี่ยนเรอ่ื ง ใหแ้ กะรอย
ตามประเด็น ปญั หาของผูร้ ับการปรึกษาไปแตล่ ะประเด็นไม่เปล่ยี นเรือ่ งไปมา
E = EMOTION ใสใ่ จการแสดงออกทางอารมณข์ องผรู้ บั การปรกึ ษา
ทัง้ Verbal และ nonverbal
R = RESPONSE แสดงสหี น้า ท่าทางตอบสนอง
ผลทเี่ กิดจากการใช้การฟงั
1. ถ้าผู้ใหก้ ารปรกึ ษาฟังมากเกนิ ไป การใหก้ ารปรึกษาจะขาดการ
รว่ มกนั หาแนวทางทจ่ี ะใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาเขา้ ใจในปญั หา สาเหตุ ความตอ้ งการ
2. ถา้ ผใู้ หก้ ารปรกึ ษาฟงั นอ้ ยเกนิ ไป และพดู มากจะเปน็ การรวบรดั
เขา้ สจู่ ดุ มงุ่ หมายของการใหก้ ารปรกึ ษาอยา่ งรวดเรว็ ผรู้ บั การปรกึ ษาไมม่ โี อกาส
ได้ระบายความคิด ความรูส้ กึ เป็นการตอบสนองผ้ใู หก้ ารปรกึ ษามากกวา่ ผูร้ บั
การปรกึ ษา

แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของผู้สูงอายุเพือ่ ป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิต

75

3. เป็นวิธีการสื่อให้ผู้รับการปรึกษาเข้าใจว่า ผู้รับการปรึกษา
ก�ำ ลังใสใ่ จ และสนใจเรือ่ งท่ผี ู้รับการปรึกษาพดู

2. การสังเกต
ความหมาย
การสังเกตเปน็ ทกั ษะการใส่ใจ เพ่ือรับรใู้ นพฤติกรรมตา่ ง ๆ ท่ผี ้รู บั
การปรึกษาได้แสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตกิริยาท่าทาง คำ�พูด ภาษา
ท่ีใช้ รวมทั้งความขัดแย้งท่ีเกิดขึ้น ท้ังความขัดแย้งในคำ�พูด และความขัดแย้ง
ระหว่างค�ำ พดู กับ พฤติกรรมที่แสดงออกมา การสังเกตเช่นนีจ้ ะทำ�ใหผ้ ใู้ หก้ าร
ปรกึ ษาไดเ้ ขา้ ใจถงึ สงิ่ ทผี่ รู้ บั ปรกึ ษาล�ำ บากใจ ยากตอ่ การบอกและสามารถเลอื ก
ใชท้ กั ษะในการให้การปรึกษาได้อย่างเหมาะสม
แนวทางปฏิบัติ
1. การสังเกต ผูใ้ ห้การปรึกษาควรสังเกตสิง่ ต่อไปน้ี
1.1 พฤติกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการแสดงอารมณ์หรอื ความคดิ
ทีไ่ มไ่ ดเ้ ป็นคำ�พดู เชน่ ท่าน่ัง สหี น้า นํา้ เสียง การเคล่ือนไหวของมือ ฯลฯ
1.2 คำ�พูด และภาษาที่ใช้สังเกตว่าผู้รับการปรึกษาพูดเน้นถึง
เรอื่ งราวหรอื ประเดน็ ใดเปน็ ส�ำ คญั นาํ้ เสยี ง ภาษาทใี่ ชแ้ สดงความรสู้ กึ หรอื ระดบั
อารมณ์อย่างไร เชน่ “ฉันอยากฆา่ ตัวตาย...เบื่อโลก...ไมม่ ีใครเห็นใจ...อย่ตู วั คน
เดยี ว ไรญ้ าต.ิ .ตายดกี วา่ ..จะไดห้ มดทุกข์”
1.3 ความขัดแยง้
 ความขดั แยง้ ในพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกมา เชน่ หวั เราะ
ทงั้ นํา้ ตาไหลอาบแก้มในเวลาเดยี วกัน
 ความขดั แยง้ ในค�ำ พดู เชน่ “ฉนั มชี วี ติ ทน่ี า่ เบอื่ หนา่ ย
วนั ๆ ไม่ได้อยู่เปน็ ท่เี ปน็ ทาง เดย๋ี วไปโนน้ เด๋ียวมาน้ี ไปตา่ งจงั หวัด โอย๊ เบอ่ื ๆ
แต่กด็ เี หมอื นกันนะ”

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผู้สงู อายุเพอ่ื ป้องกนั ปญั หาสุขภาพจิต

76

 ความขดั แย้งระหว่างค�ำ พูดกับพฤตกิ รรม เช่น
ค�ำ พดู : “ไมเ่ สยี ใจหรอกเรอ่ื งแคน่ ”้ี (นา้ํ เสยี งกระดา้ ง
ริมฝีปากสนั่ กดั ฟนั พดู )
คำ�พดู : “ดใี จจังทจ่ี ะไดไ้ ปเท่ียว...ฉลองวนั ครบรอบ
แตง่ งาน” (ทา่ ทางเฉย ดวงตาเศรา้ กม้ หนา้ หลบสายตา)
1.4 ความสอดคล้องระหว่างคำ�พดู กับพฤตกิ รรม เชน่
ค�ำ พดู : “ตอนนลี้ งุ ยงั คดิ ถงึ คณุ ปา้ เขาเปน็ คทู่ กุ ขค์ ยู่ ากทรี่ บี
ด่วนจากไป ยงั ไมท่ นั ได้เหน็ ความก้าวหน้าของลกู ชายทเ่ี ขารักเลย” (น้ําตาไหล)
1.5 พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกมาในระหวา่ งการเงยี บ ซง่ึ ท�ำ ใหก้ าร
ปรึกษาเข้าใจความหมายของการเงียบของผู้รับการปรึกษาว่าเป็นการเงียบใน
ทางลบหรือทางบวก
2. การให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) โดยการแปลความหมาย
พฤติกรรมผู้รับการปรึกษาแสดงออกมา ให้เป็นภาษาพูดตามความเหมาะสม
เช่น
ผูใ้ หก้ ารปรกึ ษา : “คุณลงุ คิดว่าคุณลงุ ทำ�ใจไดแ้ ลว้ เรื่องการเสีย
ชีวติ ของคณุ ปา้ แตเ่ มอ่ื พูดถึงคุณป้าครัง้ ใด น้ําเสยี งและแววตาของคุณลงุ ยังดู
สะเทือนใจ เมอื่ พดู ถงึ เรอ่ื งน้”ี
ผู้ให้การปรึกษา : “คุณยิ้ม ดสู บายใจขึ้นทหี่ าทางแก้ปัญหาได้”
3. การเงียบเพ่ือให้ผู้รับการปรึกษา ได้รับรู้ถึงสิ่งท่ีได้พูดหรือ
แสดงออกมา
4. สังเกตปฏิกิริยาของผู้รับการปรึกษาหลังจากที่ได้รับข้อมูลย้อน
กลับ ในกรณีข้อมูลนั้นถูกต้องหรือตรงประเด็นผู้รับการปรึกษา มักจะพูดต่อ
และขยายความในสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าข้อมูลไม่ตรงประเด็น หรือผู้รับการปรึกษา
ยังไมพ่ รอ้ มทจี่ ะเปิดเผยในเร่อื งนั้นเขากจ็ ะเงียบ

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผูส้ งู อายเุ พือ่ ปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจิต

77

ผลทไี่ ดร้ บั
1. เป็นวิธีการแสดงความเข้าใจถึง ความคิด และความรู้สึก
ของผรู้ ับการปรึกษาอยา่ งลึกซ้ึง
2. ท�ำ ใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาเกดิ ความไวว้ างใจในผใู้ หก้ ารปรกึ ษา
มากขนึ้
3. เปดิ โอกาสใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาไดพ้ ดู ตอ่ ในสงิ่ ทเี่ ปน็ ประเดน็
สำ�คัญ ๆ
3. การถาม
ความหมาย
การถาม เปน็ ทักษะส�ำ คัญ ในการใหโ้ อกาสผู้รบั การปรกึ ษาได้บอก
ถึงความรสู้ ึก และเรือ่ งราวต่าง ๆ ที่ต้องการจะปรกึ ษา เป็นการชว่ ยให้ผู้รับการ
ปรกึ ษาเขา้ ใจถงึ ปญั หาของผรู้ บั การปรกึ ษามากยงิ่ ขน้ึ ตลอดจนผรู้ บั การปรกึ ษา
ไดใ้ ช้เวลาคิดค�ำ นึงเขา้ ใจปัญหาของตนเอง
ค�ำ ถาม แบง่ ออกเป็น
1. คำ�ถามปิด เป็นการถามเพ่ือทราบข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวกับผู้รับ
การปรกึ ษา ซง่ึ จะมลี กั ษณะคลา้ ยการสอบสวนและการซกั ถาม การถามลกั ษณะ
น้จี ะเข้าไดค้ �ำ ตอบเพยี งสั้น ๆ
2. คำ�ถามเปิด เป็นการถามท่ีไม่ได้กำ�หนดขอบเขตของการตอบ
ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาไดม้ โี อกาสพดู ถงึ ความคดิ ความรสู้ กึ และสงิ่ ทเ่ี ปน็ ปญั หา
ตามความต้องการของตน การถามลักษณะน้ีมีผู้ตอบจะพูดอย่างเต็มท่ีและ
สะดวกใจ ทำ�ให้ทราบเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ มากมาย
แนวทางปฏบิ ัติ
โดยทั่วไปแล้ว ควรใช้คำ�ถามเปิดมากท่ีสุดเท่าท่ีจะทำ�ได้ เพื่อให้
โอกาสผู้รับการปรึกษาได้สำ�รวจถึงความรู้สึกนึกคิดของตนเองอย่างกว้างขวาง

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิต

78

ค�ำ ถามเปดิ นยี้ งั มปี ระโยชนใ์ นแงท่ ผ่ี รู้ บั การปรกึ ษาจะไมร่ สู้ กึ ร�ำ คาญจากการถาม
สว่ นค�ำ ถามปดิ ควรใชต้ ามความจ�ำ เปน็ เมอื่ ตอ้ งการทราบค�ำ ตอบเฉพาะ เพราะ
คำ�ถามปิดไม่ค่อยเอ้ือให้เกิดการเปิดเผยตนเอง ได้ข้อมูลน้อย และมักจะได้
คำ�ตอบเพยี ง” “ใช่” หรือ “ไมใ่ ช่”

หมายเหตุ
การใช้คำ�ถามท่ขี นึ้ ต้นด้วย “ท�ำ ไม” มักทำ�ใหผ้ ู้ รบั การปรกึ ษาเกดิ
ความรู้สึกว่าตนเองไดท้ �ำ ผิดอยู่ ซ่งึ อาจจะท�ำ ใหก้ ระทบกระเทือนความสัมพันธ์
ระหว่างผู้ให้การปรึกษาและผู้รับการปรึกษาได้ นอกจากนั้นการใช้คำ�ถาม
ลักษณะน้ี มักจะนำ�ไปสู่การหาเหตุผลต่าง ๆ ซึ่งเหตุผลน้ันอาจมีส่วนท่ีไม่เป็น
จริงกไ็ ด้ ดงั นน้ั คำ�ถามว่า “ท�ำ ไม” จึงไมค่ อ่ ยเหมาะสมที่จะน�ำ มาใชใ้ นระหว่าง
การปรกึ ษาถ้าต้องการถามใหใ้ ช้คำ�ถามว่า “เพราะอะไร” “อย่างไร” จะดกี ว่า
4. การเงียบ
ความหมาย
เป็นช่วงระยะเวลาระหว่างการปรึกษาที่ไม่มีการสื่อสารด้วยวาจา
ระหว่างผู้ให้การปรกึ ษาและผู้รบั การปรึกษา การเงยี บระหวา่ งการปรกึ ษามี 2
ลกั ษณะ
1. การเงียบทีไ่ ม่มเี สียงใด ๆ จากทั้งสองฝ่าย เป็นการเงียบท่ีแสดง
ใหเ้ หน็ วา่ ผพู้ ดู ตอ้ งการเวลาเพอื่ คดิ หรอื แสดงความตอ้ งการทห่ี ลกี เลย่ี งการพดู
ถึงประเดน็ นั้น ๆ
2. การเงียบท่มี เี สยี งบางอยา่ ง เช่น เสยี งอมื ...... เสียงพูดท่ขี าด ๆ
หาย ๆ ตะกุกตะกกั ซึง่ แสดงถึงอารมณ์และอาการวติ กกังวล
แนวทางปฏิบัติ
ในการปฏบิ ตั นิ นั้ ตอ้ งพจิ ารณาวา่ การเงยี บทเ่ี กดิ ขน้ึ นน้ั เปน็ การเงยี บ
ทางบวกหรือทางลบ

แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผสู้ ูงอายเุ พื่อป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ

79

1. การเงียบทางบวก
เป็นการเงียบที่ช่วยให้ผู้รับการปรึกษาได้ใช้ความคิดได้ระบาย
ความรู้สกึ มากขนึ้
1.1 การเว้นจังหวะของการพูด ซึ่งอาจจะแสดงว่า ได้พูดถึง
ข้อคิดหรือประเด็นน้ัน ๆ จบแล้ว และกำ�ลังคิด เรื่องท่ีจะพูดต่อไป เช่น การ
เวน้ จงั หวะพดู หลงั จากทเี่ ขา้ ใจถงึ สงิ่ ทเ่ี ปน็ ปญั หาของตนเองแลว้ และก�ำ ลงั คดิ วา่
จะท�ำ อยา่ งไรตอ่ ไป ในกรณกี ารเงยี บสะทอ้ นถงึ การใชค้ วามคดิ ผรู้ บั การปรกึ ษา
ไมค่ วรรบกวนการเงียบนนั้
การเว้นจังหวะการพูดน้ีอาจจะแสดงว่าผู้รับการปรึกษา
คิดอะไรไม่ออกหรือสับสนในตนเอง ในกรณีเช่นนี้ผู้ให้การปรึกษาควรจะสรุป
เรื่องราวตา่ ง ๆ ที่ได้พูดไปแล้ว แลว้ ใชค้ ำ�ถามเปิดเกี่ยวกบั ประเดน็ นนั้
1.2 การเงยี บดว้ ยความรสู้ กึ เจบ็ หรอื เสยี ใจ ในขณะทผี่ รู้ บั การ
ปรกึ ษาก�ำ ลงั รสู้ กึ เจบ็ และไมพ่ รอ้ มทจ่ี ะพดู หรอื แสดงความคดิ หรอื ความรสู้ กึ หรอื
ถามถึงความหมายของการเงียบซึ่งอาจจะช่วยให้ผู้รับการปรึกษาสามารถพูด
ต่อไป
1.3 การเงยี บเพอื่ รอคอยใหผ้ ใู้ หก้ ารปรกึ ษาพดู อะไรบางอยา่ ง
ไม่ว่าจะเป็นการให้กำ�ลังใจ การให้ข้อมูล หรือการวินิจฉัยปัญหาของตนเอง
ในกรณนี ้ผี ใู้ หก้ ารปรึกษาอาจใช้ทักษะการตีความหรือค�ำ ถาม
1.4 การเงียบเพื่อคดิ ผู้รับการปรึกษาอาจจะต้องการเวลาคิด
และท�ำ ความเขา้ ใจถงึ สง่ิ ทผี่ ใู้ หก้ ารปรกึ ษาไดพ้ ดู ออกมา ในกรณนี ผ้ี ใู้ หก้ ารปรกึ ษา
ไม่ควรรบกวน หรือขัดจังหวะของกระแสความคิดนั้น แต่ควรจะรอจนกระทั่ง
ผู้รับการปรึกษาพร้อมท่ีจะพดู ต่อไป
1.5 การเงียบเพ่ือพักฟ้ืนจากความเหน็ดเหนื่อย หลังจากที่
ผู้รับการปรกึ ษาไดแ้ สดงถงึ สง่ิ ท่เี ปน็ อารมณ์ เปน็ ความรู้สกึ เช่น การร้องไห้ชว่ ง
เวลาทเ่ี งยี บเพอื่ หยดุ พกั นผ้ี ใู้ หก้ ารปรกึ ษาควรใหก้ ารยอมรบั และใชก้ ารเงยี บใน
ลกั ษณะท่แี สดงถึงการร่วมรับรู้ และเข้าใจ

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจิตใจของผ้สู ูงอายเุ พื่อปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจิต

80

2. การเงยี บทางลบ
เปน็ การเงยี บที่แสดงถึงความขลาดอาย ความไมส่ บายใจความ
กลัว หรือต่อต้าน ปฏิเสธ โดยท่ัวไปแล้ว การเงียบในช่วงระยะแรกของการ
ปรึกษามักจะสะทอ้ นถงึ ความไมส่ บายใจหรอื สบั สน ผใู้ ห้การปรึกษาควรให้การ
ยอมรบั และใชก้ ารเงียบในลักษณะทแี่ สดงถงึ การรว่ มรบั รู้ และเขา้ ใจ
2.1 การเงียบท่ีแสดงถึงความไม่สบายใจ เช่นในกรณีที่ผู้รับ
การปรึกษาไม่ไดส้ มคั รใจมาด้วยตนเอง แต่มาเพราะถูกบงั คับ หรอื ในกรณีผู้รบั
การปรึกษาท่ีมีการศึกษาตํ่าและรู้สึกอาย หรือขลาดกลัวต่อการสนทนากับ
นกั วิชาชพี ผู้ใหก้ ารปรกึ ษาควรจะพูดเร่ืองทั่ว ๆ ไป (Small talk) เพอ่ื ใหผ้ ู้รบั
การปรึกษาคลายความวิตกกังวล จนกระทั่งเขาสามารถค่อยๆ เล่าถึงเรื่องราว
ของตนเองได้
2.2 การเงยี บไมอ่ ยากพดู เรอื่ งตนเอง บางครงั้ ผรู้ บั การปรกึ ษา
ใช้การเงียบเป็นการเล่นเกมหรือเป็นกลวิธีเพ่ือดูว่าใครจะเป็นฝ่ายพูด ก่อนใน
กรณนี ค้ี วรพดู ถงึ การตกลงบรกิ ารในการใหก้ ารปรกึ ษาโดยเฉพาะเรอ่ื งการรกั ษา
ความลบั และบทบาทความรบั ผดิ ชอบของแตล่ ะฝ่าย หรอื พูดถึงเรอ่ื งท่วั ๆ ไป
(Small talk) และการให้กำ�ลังใจ ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการให้การ
ปรึกษา
ผลท่จี ะได้รบั
การทผ่ี ูใ้ ห้การปรกึ ษาใช้การเงียบจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การปรึกษาตอ่ ไป
1. การเงยี บในการใหก้ ารปรกึ ษาจะเกดิ ผลกต็ อ่ เมอ่ื ผใู้ หก้ ารปรกึ ษา
ใชก้ ารเงยี บโดยมจี ดุ มงุ่ หมายชดั เจน เชน่ เพอ่ื ท�ำ ใหจ้ งั หวะในการปรกึ ษาสงบลง
หรือใหเ้ วลาผ้รู ับการปรกึ ษาไดค้ ดิ
2. เปน็ การแสดงถงึ ความเขา้ ใจทม่ี ตี อ่ ผรู้ บั การปรกึ ษา โดยแสดงให้
เหน็ วา่ เขา้ ใจในพฤติกรรมของเขา

แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผู้สงู อายุเพ่ือปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ

81

3. เป็นการเน้นความสนใจอยู่ท่ีผู้รับการปรึกษา ให้เกียรติเขา
ใหเ้ วลาคดิ และช่วยเขาใหร้ ับผิดชอบในกระบวนการปรกึ ษา

4. การเงยี บเปน็ วธิ หี นงึ่ ในการใหโ้ อกาสและใหก้ �ำ ลงั ใจแกผ่ รู้ บั การ
ปรึกษาเพอื่ ใหเ้ ขาได้พูด

หมายเหตุ
ถ้าผู้ให้การปรึกษาใช้การเงียบเพราะไม่รู้ นึกไม่ออกว่าจะพูดหรือถาม
อะไรต่อไปจะเป็นการไม่เอื้ออำ�นวยต่อกระบวนการให้การปรึกษา และแสดง
ว่าผ้ใู ห้การปรกึ ษาขาดสมรรถภาพในการใหก้ ารปรึกษา
ในกรณที ผ่ี ใู้ หก้ ารปรกึ ษาพดู เพอ่ื ลดความรสู้ กึ อดึ อดั ทเี่ กดิ ขนึ้ ระหวา่ งการ
เงยี บจะท�ำ ให้ผูร้ ับการปรกึ ษายง่ิ เงยี บในทางลบมากข้นึ และรู้สกึ รบั ผิดชอบต่อ
การมีสว่ นร่วมในกระบวนการนอ้ ยลง
5. การทวนซาํ้
ความหมาย
เป็นการพดู ในสงิ่ ทผี่ รู้ ับการปรึกษาได้บอกเล่าอกี ครงั้ หน่ึง โดยไมไ่ ด้
มกี ารเปลีย่ นแปลงไมว่ า่ ในแงข่ องภาษาหรอื ความรู้สึกที่แสดงออกมาเพ่อื
1. ช่วยให้ผู้รับการปรึกษาได้เข้าใจชัดเจนขึ้นในสิ่งท่ีเขา
ตอ้ งการปรกึ ษา
2. เป็นวิธีการท่ีจะสื่อถึงความใส่ใจ ความเข้าใจของผู้ให้การ
ปรกึ ษาทม่ี ตี อ่ ผรู้ บั การปรกึ ษา ท�ำ ใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาเกดิ ความรสู้ กึ วา่ ตนเองเปน็
ทเี่ ขา้ ใจเป็นที่ยอมรบั เกิดความอบอนุ่ ใจ
3. ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาเปดิ เผยตนเองมากขน้ึ และพดู ตอ่ ไป
4. เป็นการตรวจสอบว่าสิ่งที่ผู้ให้การปรึกษาได้ยินน้ันถูกต้อง
หรือไม่

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจิตใจของผสู้ ูงอายเุ พอื่ ปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจติ

82

การทวนซ้ํา แบง่ ออกเป็น 4 ประเภทคอื
1. ทวนซาํ้ อยา่ งเดยี วกบั สง่ิ ทผี่ รู้ บั การปรกึ ษาพดู เปน็ การทวน
ซา้ํ ทกุ คำ�
2. ทวนซํ้าแบบเปลี่ยนหรือเพิ่มสรรพนามของผู้รับการ
ปรกึ ษาด้วย
3. ทวนซา้ํ เฉพาะประเดน็ ที่ส�ำ คญั เพยี งส่วนเดยี ว
4. ทวนซา้ํ แบบสรปุ
แนวทางปฏิบัติ
1. ผู้ให้การปรึกษาจะทวนซ้ําหรือให้ข้อมูลย้อนกลับเฉพาะ
สาระส�ำ คญั ทผี่ รู้ บั การปรกึ ษาสอ่ื ออกมาเทา่ นนั้ และหลกี เลย่ี งทจ่ี ะเพม่ิ เตมิ ความ
คิดเห็นของผใู้ ห้การปรกึ ษาเอง
2. ในขณะทผ่ี รู้ บั การปรกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ และความรสู้ กึ
ผใู้ หก้ ารปรกึ ษาอาจแทรกค�ำ พดู ทเี่ ปน็ การทวนซาํ้ เฉพาะสว่ นส�ำ คญั สนั้ ๆถงึ สง่ิ ที่
รบั รู้กไ็ ด้
3. การทวนซ้าํ อาจจะรวมเอาความรสู้ กึ เขา้ ไปดว้ ยกไ็ ด้ ความ
รู้สกึ เปน็ สาระส�ำ คญั ของผรู้ บั การปรกึ ษา
4. การทวนซํ้าตลอดเวลาจะทำ�ให้ผู้รับการปรึกษารู้สึกอึดอัด
ไม่แน่ใจในความสามารถของผู้ให้การปรึกษา ฉะนั้นจึงอาจใช้ลักษณะการทวน
ซํา้ แบบต่าง ๆ สลับกนั ไปในการสนทนา
5. ถา้ ผใู้ หก้ ารปรกึ ษาทวนซา้ํ อยา่ งถกู ตอ้ ง ผรู้ บั การปรกึ ษากจ็ ะ
ตอบสนองดว้ ยการพยกั หนา้ หรอื การตอบรบั และบอ่ ยครงั้ กจ็ ะพดู ตอ่ หรอื ขยาย
ความในสิ่งท่ีได้กล่าวมาแล้ว ในกรณีท่ีผู้รับการปรึกษาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
ผใู้ หก้ ารบรกิ ารอาจจะถามดว้ ยค�ำ ถามเปดิ โดยการรวบรวมเรอ่ื งส�ำ คญั ๆ ทที่ วนซา้ํ
มาเป็นค�ำ ถาม

แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพื่อปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจิต

83

ผลที่ได้รับ
1. จูงใจใหผ้ ้รู ับการปรึกษาพดู ต่อ
2. ตรวจสอบว่าผู้ให้การปรึกษาเข้าใจในส่ิงท่ีผู้ให้การปรึกษา
บอกถกู ตอ้ งหรือไม่
3. ท�ำ ใหผ้ ้รู ับการปรึกษาชดั เจนในสิง่ ที่พดู มากข้นึ
4. ในกรณีที่ผู้รับการปรึกษาพูดมาก จะเป็นการช่วยให้ผู้รับ
การปรึกษาไม่เล่าซ้ําในสิ่งท่ีพูดมาแล้ว ซึ่งทำ�ให้กระบวนการให้การปรึกษามี
ประสทิ ธิภาพและรวดเร็วขน้ึ
6. การสะท้อนอารมณ/์ ความรูส้ ึก
ความหมาย
การสะท้อนอารมณ์/ความรู้สึกเป็นการรับรู้ความรู้สึกและอารมณ์
ตา่ ง ๆ ทผี่ ้รู บั การปรึกษาได้แสดงออกมาไมว่ ่าดว้ ยวาจา หรอื กิรยิ าทา่ ทาง และ
เปน็ การใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั อยา่ งชดั เจนดว้ ยภาษาพดู ใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาไดร้ บั ฟงั
เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การปรกึ ษาเกดิ ความเขา้ ใจในสง่ิ ทเ่ี ปน็ ปญั หาทแ่ี ทจ้ รงิ ของตนเอง
เนอื่ งจากวา่ ปญั หาของผรู้ บั การปรกึ ษามกั เกดิ จากความรสู้ กึ ทม่ี ตี อ่ ประสบการณ์
ตา่ งๆ เปน็ สว่ นใหญ่ การสะทอ้ นความรสู้ กึ จะชว่ ยขยายขอบเขตในการมองสภาพ
การณข์ องตนเองได้ชดั เจนและเปน็ จรงิ มากขน้ึ
แนวทางปฏบิ ัติ
1. พยายามสงั เกตพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกมา ลกั ษณะค�ำ พดู นา้ํ
เสยี งและหาจงั หวะท่สี ะทอ้ นความรู้สกึ
2. หาคำ�ศัพท์เกี่ยวกับความรู้สึกท่ีตรงกับความรู้สึกของเขา
มากที่สดุ เพ่อื สามารถส่อื ความรสู้ ึกได้อยา่ งเด่นชัดโดยการใช้ภาษางา่ ย ๆ
3. ไม่ควรใช้ค�ำ ว่า “ร้สู ึก” บ่อยครงั้ และไม่ใช้ค�ำ ศัพท์เกยี่ วกบั
ความรูส้ ึกซ้าํ ๆ ควรหาวิธเี ปลีย่ นลกั ษณะค�ำ พูด

แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจติ ใจของผ้สู ูงอายเุ พื่อปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจิต

84

4. การใชท้ กั ษะนต้ี อ้ งทำ�ในทันที ผ้รู บั การปรึกษาแสดงความ
รู้สกึ ของเขาออกมาเพ่อื ให้เขาได้รบั รู้ ตนเองอยา่ งชดั เจนและเป็นจริง

ผลทไ่ี ดร้ บั
1. ช่วยลดความรู้สึกต่อปัญหา ซึ่งมีผลทำ�ให้ผู้รับการปรึกษา
มองสภาพการณ์ต่างๆอยา่ งเปน็ จริงมากขน้ึ
2. ผู้รับการปรึกษาจะเกิดความไว้วางใจผู้ให้การปรึกษา
เน่ืองจากรสู้ ึกว่าผใู้ ห้การปรึกษาเข้าใจในปัญหาของตนเอง
3. ผู้รับการปรึกษากล้าเปิดเผยตนเอง สามารถรับผิดชอบ
ตนเองมอี สิ ระในการเลอื กสง่ิ ทพ่ี งึ พอใจ ท�ำ ใหส้ ามารถมชี วี ติ อยไู่ ดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ

7. การสรปุ ความ
ความหมาย
การสรุปความ เป็นการรวบรวมส่ิงท่ีเกิดข้ึนในระหว่างการให้การ
ปรกึ ษา หรือเมอื่ ยตุ กิ ารให้การปรึกษา โดยใชค้ ำ�พูดสัน้ ๆ ใหไ้ ด้ใจความส�ำ คัญ
ทัง้ หมด ซง่ึ จะมีทงั้ การสรุปเน้อื หา ความรสู้ กึ และกระบวนการใหก้ ารปรกึ ษา
แนวทางปฏบิ ตั ิ
1. ในกรณีท่ีผู้รับการปรึกษาพูดยาว ผู้ให้การปรึกษาสมควรท่ีจะ
สรปุ เนือ้ หา และความรสู้ กึ ส�ำ คัญ ทีผ่ ้รู ับการปรึกษาไดแ้ สดงออกมา เพอ่ื ใหก้ าร
ปรกึ ษาเปน็ ไปในทิศทางทีช่ ัดเจนย่ิงข้ึน สามารถจบั ประเดน็ สำ�คัญได้
2. ทกุ ครง้ั ทมี่ กี ารปรกึ ษาหลายครงั้ กอ่ นการเรม่ิ กระบวนการใหก้ าร
ปรึกษาต้องมีการสรปุ ประเด็นตา่ งๆ ในการปรึกษา
3. เม่ือมกี ารปรึกษาหลายคร้ัง กอ่ นเรมิ่ กระบวนการใหก้ ารปรกึ ษา
ในครั้งที่สองและครั้งต่อไป ผู้ให้การปรึกษาอาจจะสรุปสิ่งต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนใน
ครงั้ กอ่ น
4. ในกรณีท่ีการปรึกษาใชเ้ วลามากกวา่ หนึง่ ครง้ั ในครัง้ สดุ ท้ายควร
จะสรปุ สง่ิ ตา่ ง ๆ ทงั้ หมดของการปรกึ ษาทผี่ า่ นมาตงั้ แตค่ รง้ั แรกจนถงึ ครง้ั สดุ ทา้ ย

แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจิตใจของผูส้ ูงอายเุ พ่อื ป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิต

85

ผลทีไ่ ด้รับ
1. ทำ�ให้ผู้รับการปรึกษาชัดเจนในประเด็นต่าง ๆ ที่ได้พูด
ออกมา
2. ทำ�ให้ผู้รับการปรึกษารู้สึกว่าการปรึกษาน้ีได้ผลและมี
ประโยชนเ์ น่ืองจากการสรปุ ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การปรึกษาเห็นภาพท้ังหมด
3. การสรุปคร้ังสุดท้ายเป็นการย้ําประเด็นสำ�คัญ ๆ ซ่ึงมีผล
ตอ่ กระบวนการคิดของผู้รบั การปรกึ ษาหลังจากเสร็จสนิ้ การปรกึ ษา

แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจิตใจของผู้สูงอายุเพื่อป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ

86

 แบบคดั กรองโรคซึมเศรา้ 2 คำ�ถาม (2Q)

แบบคดั กรองโรคซึมเศร้า 2 ค�ำ ถาม (2Q) มี ไมม่ ี
คำ�ถาม ขอ้ คำ�ถาม

1 ใน 2 สัปดาหท์ ี่ผา่ นมารวมวนั น้ี ทา่ นรูส้ กึ
หดหู่ เศร้า หรือท้อแท้ สนิ้ หวงั หรือไม่

2 ใน 2 สัปดาห์ทผ่ี า่ นมารวมวนั นี้ ท่านรู้สกึ
เบอ่ื ท�ำ อะไรกไ็ มเ่ พลิดเพลินหรือไม่

ผู้ท่ีได้ผลเป็นบวกจากการคัดกรองคือผู้ที่มีแนวโน้มจะป่วยเป็น
โรคซมึ เศรา้ ซงึ่ จ�ำ เปน็ ตอ้ งไดร้ บั การวนิ จิ ฉยั และประเมนิ ความรนุ แรงของอาการ
ซึมเศร้าเพื่อให้การดูแลช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งการประเมิน
แนวโน้มการฆ่าตัวตายด้วย เน่ืองจากผู้สูงอายุที่มีโรคซึมเศร้าจะมีอัตราการ
ฆ่าตัวตายสูง ในการประเมินความรุนแรงของอาการซึมเศร้าในระบบดูแลเฝ้า
ระวงั นน้ั จะอาศยั เครอื่ งมอื การประเมนิ ล�ำ ดบั ถดั ไปคอื การประเมนิ โรคซมึ เศรา้
ดว้ ย 9Q และแบบประเมนิ การฆา่ ตวั ตายดว้ ย 8Q เพอ่ื ใหม้ คี วามถกู ตอ้ งและเกดิ
ประสทิ ธภิ าพในการใชเ้ ครอ่ื งมอื ควรจะด�ำ เนนิ การประเมนิ ไปพรอ้ มๆกบั การให้
สุขภาพจิตศึกษาทถี่ กู ตอ้ ง

แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจิตใจของผสู้ งู อายเุ พื่อปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิต

87

แบบประเมินโรคซึมเศร้า 9 ค�ำ ถาม (9Q)

ไม่มี เปน็
เลย บาง
ภาษากลาง ภาษาอสี าน (บ่เคย วัน เปน็ เป็นทุก
มี 1-7 บ่อย วัน
ในช่วง 2 สปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา ใน 2 สัปดาหท์ ่ีผา่ นมารวม บ่เคย วัน >7 (เปน็
รวมทัง้ วันน้ี ทา่ นมีอาการ มือ่ นี้ เจา้ มีอาการ เปน็ ) (เปน็ วนั ชุม่ือ)
มูน่ดี ูซ๋ �ำ ได๋ ลาง (เป็นดู๋)
เหลา่ น้ีบอ่ ยแค่ไหน

เทอื )

1. เบ่อื ไมส่ นใจอยากทำ� บ่อยากเฮ็ดหยัง บ่สนใจเฮ็ด 0 1 2 3
อะไร หยัง

2. ไมส่ บายใจ ซึมเศร้า บ่มว่ นบซ่ ื่น เซ็ง หงอย 0123
ทอ้ แท้

3. หลับยาก หรอื หลบั ๆ นอนบห่ ลบั หรอื หลบั ๆ ตนื่ ๆ 0 1 2 3
ตืน่ ๆ หรือหลับมากไป หรือนอนบ่อยากลุก

4. เหน่อื ยงา่ ย หรอื ไมค่ ่อย เมอื ย บ่มีแฮง 0123
มีแรง

5. เบื่ออาหาร หรือกนิ มาก บอ่ ยากเขา่ บอ่ ยากนา่ ม หรอื 0 1 2 3
เกนิ ไป กินหลายโพด

6. รู้สึกไม่ดกี ับตัวเอง คิด คดึ วา่ เจา้ ของบด่ ี 0123
ว่าตัวเองล้มเหลว
หรอื ท�ำ ให้ตนเองหรอื
ครอบครัวผิดหวงั

7. สมาธไิ มด่ เี วลาท�ำ อะไร คึดหยังกะบ่ออก เฮ็ดหยัง 0 1 2 3
เชน่ ดูโทรทศั น์ ฟังวิทยุ กะลมื
หรอื ทำ�งานทตี่ ้องใช้
ความต้ังใจ

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจิตใจของผู้สูงอายเุ พอ่ื ป้องกันปญั หาสุขภาพจติ

88

เป็น
ไมม่ ี บาง
ภาษากลาง ภาษาอสี าน เลย วัน เปน็ เปน็ ทุก
(บ่เคย 1-7 บอ่ ย วนั
ในช่วง 2 สปั ดาห์ทผ่ี ่านมา ใน 2 สปั ดาหท์ ผ่ี า่ นมารวม มี วัน >7 (เป็น
รวมทง้ั วนั นี้ ทา่ นมีอาการ มอื่ น้ี เจ้ามอี าการ บเ่ คย (เปน็ วนั ชุมือ่ )
มูน่ีดู๋ซ�ำ ได๋ เปน็ ) ลาง (เป็นดู๋)
เหลา่ นบ้ี อ่ ยแคไ่ หน

เทอื )

8. พดู ช้า ทำ�อะไรช้าลง เว่ากะซ่า เฮ็ดหยังกะซ่า 0 1 2 3
จนคนอ่ืนสังเกตเหน็ หรือหนหวย บเ่ ปน็ ตาอยู่
ได้ หรือกระสบั กระสา่ ย
ไม่สามารถอย่นู ่งิ ได้
เหมอื นทีเ่ คยเปน็

9. คดิ ทำ�ร้ายตนเอง หรอื คดึ อยากตาย บอ่ ยากอยู่ 0 1 2 3
คดิ ว่าถา้ ตายไปคงจะดี

ตารางการแปลผลการประเมินโรคซมึ เศร้าด้วย 9Q

คะแนนรวม การแปลผล
<7 คะแนน ไม่มีอาการของโรคซึมเศร้าหรือมีอาการของโรคซึมเศร้า
ระดับน้อยมาก
7 - 12 คะแนน มอี าการของโรคซึมเศร้า ระดับนอ้ ย
13 - 18 คะแนน มอี าการของโรคซึมเศร้า ระดับปานกลาง
≥ 19 คะแนน มีอาการของโรคซึมเศร้า ระดับรุนแรง

แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผสู้ งู อายเุ พือ่ ปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจติ

89

ขอ้ จ�ำ กดั ในการใช้
ใช้ประเมินอาการซึมเศร้าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้นและไม่ใช้
ประเมินกับผู้ป่วยโรคจติ เวชอ่นื ๆ

แบบประเมนิ การฆา่ ตวั ตาย 8 ค�ำ ถาม (8Q)
ข้อแนะนำ� ถามคำ�ถามภาษาที่สอดคล้องกับท้องถิ่นหรือเหมาะสมกับ
ผถู้ กู สมั ภาษณ์ ควรถามใหไ้ ดค้ �ำ ตอบทลี ะขอ้ ถา้ ไมเ่ ขา้ ใจใหถ้ ามซา้ํ ไมค่ วรอธบิ าย
ขยายความเพ่ิม พยายามให้ได้คำ�ตอบทุกข้อ จากน้ันรวมคะแนนแล้วแปลผล
ตามตารางแปลผล ควรแจ้งผลตามแนวทางการแจ้งผลอยา่ งเหมาะสมพรอ้ มให้
ค�ำ แนะน�ำ ในการปฏบิ ัติตัวหรอื การดูแลรกั ษาในขัน้ ตอนต่อไป

ล�ำ ดับ ระยะ ภาษากลาง ภาษาอีสาน ภาษาใต้ ไมม่ ี มี
คำ�ถาม เวลา (บ่มี)
1 คดิ อยากตาย คึดอยากตาย คดิ อยากตายหรือ 0 1
หรอื คดิ ว่าตาย หรือคึดว่า วา่ คดิ วา่ ตายไป
ใน ่ชวง 1 เ ืดอน ่ทีผ่านมา (ในเดือนที่ ่ผานมารวมมื่อ ่นี) ไปจะดีกว่า ตายไป คอื สดิ ี เสียดหี วา
กว่าอยู่...บ่

2 อยากทำ�รา้ ยตวั อยากทำ�ร้าย อยากท�ำ ร้ายตัว 0 2
เอง หรือทำ�ให้ ตัวเอง หรือ เองหรอื วา่ ทำ�ให้
ตวั เองบาดเจ็บ เฮด็ ใฮ่เจ้าของ ตัวเองบาดเจ็บ
บาดเจ็บ..บ่

3 คิดเก่ียวกบั การ คึดเกยี่ วกับสิ คิดฆ่าตัวตายมง้ั 0 6
ฆา่ ตวั ตาย ขา่ โต ตาย....บ่ มา่ ย

(ถ้าตอบว่าคดิ
เกย่ี วกบั ฆา่ ตวั
ตายใหถ้ าม
ตอ่ )….

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจิตใจของผู้สงู อายเุ พ่ือป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจิต

90

ลำ�ดบั ระยะ ภาษากลาง ภาษาอสี าน ภาษาใต้ ไม่มี มี
คำ�ถาม เวลา (บ่มี)
ทา่ นสามารถ (ถ้าตอบวา่ คดิ (ถ้าตอบวา่ ได้ ไม่
ควบคมุ ความ เกี่ยวกับฆา่ ตัว คดิ เกยี่ วกับ 0 ได้
อยากฆ่าตวั ตาย ตายใหถ้ าม ฆ่าตวั ตายให้ 8
ที่ทา่ นคดิ อยนู่ นั้ ต่อ)......คุมเจา้ ถามต่อ)......
ได้หรือไม่ หรอื ของบใ่ ฮค่ ึดได้ (สรรพนาม)
บอกไดไ้ หมวา่ บ่ หรอื บอก นกึ วา่ ยับยั้งความ
ใน ่ชวง 1 เ ืดอนที่ ่ผานมา (ในเดือน ่ีทผ่านมารวมเมื่อ ่นี) คงจะไมท่ �ำ ตาม ไดบ้ ่ว่า สิบเ่ ฮ็ด คดิ นั้นได้ม่าย
ความคิดนั้นใน ตามความคดึ หรือบอกได้ม่าย
ขณะน้ี สขิ า่ โตตาย ใน วา่ จะไม่ท�ำ ตาม
ตอนน่ี ทคี่ ดิ แลว้

4 มีแผนการทีจ่ ะ มแี ผนการสิข่า วางแผนจะฆ่าตวั 0 8
ฆ่าตวั ตาย โตตาย ตายม้ังม่าย

5 ไดเ้ ตรียมการท่ี ได้เตรียมการสิ เตรียมจะทำ�ร้าย 0 9
จะท�ำ รา้ ยตนเอง เฮ็ดทำ�ร้ายโต ตวั เอง หรอื วา่
หรอื เตรียมการ เจ้าของ หรือ เตรยี มจะฆา่ ตวั
จะฆา่ ตวั ตาย เตรยี มการ ตายให้พน้ ๆ
โดยต้งั ใจว่าจะ สขิ า่ โตตาย
ใหต้ ายจรงิ ๆ โดยตัง้ ใจสิใฮ่
เจา้ ของตาย
อิหลี

6 ได้ท�ำ ใหต้ นเอง เคยเฮด็ ใฮ่ เคยทำ�ให้ตัวเอง 0 4
บาดเจ็บ แต่ไม่ เจา้ ของบาด เจ็บ แต่ไม่ต้ังใจ
ตัง้ ใจท่ีจะทำ�ให้ เจ็บ แต่บไ่ ด้ จะใหถ้ งึ ตาย
เสยี ชวี ติ ต้ังใจสิใฮ่
เจ้าของตาย

แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจิตใจของผ้สู งู อายุเพื่อปอ้ งกนั ปญั หาสุขภาพจิต

91

ล�ำ ดับ ระยะ ภาษากลาง ภาษาอีสาน ภาษาใต้ ไม่มี มี
ค�ำ ถาม เวลา (บม่ )ี
7 ไดพ้ ยายามฆ่า พยายามขา่ โต พยายามจะฆา่ ตวั 0 10
ตัวตายโดยคาด ตาย โดยหวัง ตายใหห้ มันตาย
หวัง/ตง้ั ใจทจ่ี ะ สิใฮเ่ จ้าของ ตามท่ีตั้งใจ
ให้ตาย ตายอหิ ลี ชา่ ยมา่ ย

8 ต ล อ ด ท่านเคย เคยพยายาม (สรรพนาม) 04
ชี วิ ต ท่ี พยายามฆ่าตัว ข่าโตตาย เคยพยายามฆา่
ผา่ นมา ตาย ตวั ตายมง้ั ม่าย
(ในชีวิต
ทังเบิ่ดถิ
ผา่ นมา)

คะแนนรวม การแปลผล คะแนนรวมทงั้ หมด
0 ไม่มีแนวโน้มฆา่ ตวั ตายในปจั จุบนั

1-8 มแี นวโนม้ ท่จี ะฆา่ ตวั ตายในปจั จุบัน ระดับน้อย

9-16 มแี นวโน้มทจี่ ะฆ่าตวั ตายในปัจจุบนั ระดบั กลาง
≥ 17 มีแนวโน้มที่จะฆา่ ตวั ตายในปัจจบุ นั ระดบั รนุ แรง

หลังการประเมินด้วย 8Q ให้แจ้งผลและดำ�เนินการตามแนวทางการ
จดั การตามระดบั ความรนุ แรงของแนวโน้มท่จี ะฆ่าตัวตาย ถา้ คะแนน 8Q ≥ 17
ให้ส่งต่อโรงพยาบาลที่มจี ิตแพทย์ดว่ น

แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจิตใจของผสู้ งู อายุเพื่อป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ

92

 รายชอ่ื แหลง่ สง่ ตอ่ หนว่ ยงานโรงพยาบาลในสงั กดั กรมสขุ ภาพจติ
สายดว่ นสขุ ภาพจติ 1323,1667 ให้บรกิ ารตลอด 24 ช่วั โมง

หน่วยงาน ท่ีตงั้ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร
1. สถาบัน 112 0-2442-2500 - 99 0-2437-7092
จติ เวชศาสตร์ ถ.สมเด็จเจา้ พระยา
สมเดจ็ เจ้าพระยา เขตคลองสาน
กรงุ เทพมหานคร
10600

2. โรงพยาบาล ถนนติวานนท์ 0-2528-7800 0-2526-2894
ศรีธญั ญา ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง
จ.นนทบุรี 11000

3. สถาบันราชานุกูล 4737 0-2248-8900 0-2248-2944
ถนนดนิ แดง
เขตดนิ แดง
กรงุ เทพมหานคร
10400

4. สถาบันกลั ยาณ์ 23 หมู่ 8 ถนน 0-2441-6100 0-2441-6101
ราชนครนิ ทร์ พุทธมณฑลสาย
4 เขตทววี ัฒนา
กรงุ เทพมหานคร
10170

5. สถาบนั สขุ ภาพจติ 75/1 ถนนพระราม 0-2248-8999 0-2248-8998
เด็กและวยั ร่นุ 6 เขตพญาไท
ราชนครนิ ทร์ กรุงเทพมหานคร
10400

แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจติ ใจของผูส้ ูงอายเุ พื่อปอ้ งกนั ปญั หาสุขภาพจติ

93

หน่วยงาน ทีต่ งั้ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร
6. โรงพยาบาล 61 ซอยเทศบาล19 0 2384 3381 – 3 0 2384-1845
ยุวประสาท ถนนสขุ มุ วทิ อ.เมือง
ไวทโยปถมั ภ์ จ.สมทุ รปราการ
10270

7. โรงพยาบาล 131 ถนนช่างหล่อ 053 90-8500 053 90-8589
สวนปรงุ ต.หายยา อ.เมอื ง
จ.เชียงใหม่ 50100

8. สถาบัน 196 หมู่ 4 0-5389-0238-44 0-5312-1185
พัฒนาการเด็ก ถนนเชยี งใหม่-พรา้ ว
ราชนครนิ ทร์ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม
จ.เชยี งใหม่ 50180

9. โรงพยาบาล ทตี่ งั้ 2 หมู่ 4 ต.ทา่ - 0-5621-9444 0-5621-9400
จติ เวชนครสวรรค์ น้ําอ้อย อ.พยุหะคีรี
ราชนครินทร์ จ.นครสวรรค์
60130

10. โรงพยาบาล 212 ถนนแจ้งสนิท 0-4535-2500 0-4535-2555
พระศรีมหาโพธิ์ ต.ในเมือง อ.เมอื ง
จ.อบุ ลราชธานี
34000

11. โรงพยาบาล 86 ถนนชา้ งเผอื ก 0-4423-3999 0-4423-3977
จติ เวช ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง
นครราชสีมา จ.นครราชสมี า
ราชนครินทร์ 30000

12. โรงพยาบาล 169 ถนนชาตะผดงุ 0-4320-9999 0-4322-4722
จติ เวชขอนแกน่ ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง
ราชนครินทร์ จ.ขอนแกน่ 40000

แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สูงอายเุ พือ่ ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจิต

94

หน่วยงาน ท่ีต้งั หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร
13. โรงพยาบาล 176 หมู่ 3 0-3726-2994-8 0-3726-2999
ต.หนองน้าํ -ใส
จิตเวชสระแก้ว อ.วัฒนานคร 0-4280-8100 0-4281-4890
ราชนครินทร์ จ.สระแกว้ 27160 0-4253-9000 0-4259-3109
14. โรงพยาบาล 440 หมู่ 4
จติ เวชเลย ต.นาอาน อ.เมือง 0-7791-6500 0-7731-1844
ราชนครนิ ทร์ จ.เลย 42000 0-7431-7400 0-7432-3202
15. โรงพยาบาล 210 หมู่ 11 ถนน
จติ เวชนครพนม นครพนม-ท่าอุเทน
ราชนครินทร์ ต.อาจสามารถ
อ.เมือง จ.นครพนม
16. โรงพยาบาล 48000
สวนสราญรมย์ 289 ถนนธราธิบดี
ต.ทา่ ขา้ ม อ.พนุ พิน
17. โรงพยาบาล จ.สรุ าษฎรธ์ านี
จติ เวชสงขลา 84130
ราชนครินทร์ 472 ถนนไทรบรุ ี
ต.บ่อยาง อ.เมือง
จ.สงขลา 90000

แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของผสู้ งู อายเุ พอ่ื ปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจติ

95


Click to View FlipBook Version