The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานเครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

(นาตาชา 075 ) รายงาน เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่

รายงานเครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่

รายงาน

เครอ่ื งมอื การบริหารจดั การสถานศกึ ษาสมยั ใหม่

เรอ่ื ง การบริหารโดยยดึ วตั ถุประสงค์ (MBO)

เสนอ
อาจารย์ ดร.เชาวนี แก้วมโน

จดั ทาโดย
1. นางสาวนาตาชา ดา้ มทอง รหสั 6419050075

ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาการบริหารการศกึ ษา

คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละศลิ ปะศาสตร์
มหาวิทยาลัยหาดใหญ่

คานา

รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาหลักการและทฤษฎีการบริหาร นาเสนอต่อ ดร.
เชาวนี แก้วมโน เพื่อการศึกษาความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองมือในการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่ ท้ังนี้ใน
รายงานฉบับน้ีมีเนื้อหาซ่ึงประกอบด้วยความรู้เกยี่ วกับแนวคดิ ทฤษฎีการบริหารการศกึ ษา, แนวคิดการบรหิ าร
แบบ Management by Objective หรือ การบริหารงานตามวตั ถุประสงค์ MBO แนวคิดพื้นฐาน กระบวนการ
ในการพัฒนาและจัดทา คุณสมบัติ ประโยชน์ท่ีได้ ข้อควรระวัง การบริหารระบบงาน และการประยุกต์ใช้
Management by Objective MBO ในสถานศึกษา

ผู้จัดทาได้เลือกหัวข้อน้ีในการทารายงาน เนื่องจากเป็นเรอ่ื งท่ีน่าสนใจ และเป็นเคร่ืองมอื ใน
การบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่ รูปแบบหน่ึงที่หลาย ๆ องค์กรได้นามาใช้ในการบริหารจัดการองคก์ ร
และหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ จะเป็นประโยชนแ์ กผ่ อู้ ่านทกุ ๆ ท่าน

ผู้จดั ทา
นาตาชา ด้ามทอง

สารบัญ หน้า

แนวคิด ทฤษฎกี ารบรหิ ารการศึกษา 1

การบรหิ ารโดยยดึ วตั ถปุ ระสงค์ (MBO) 2
การกาเนิด (MBO) 2
ความหมาย (MBO)
กระบวนการ (MBO) 3
MBO เหมือนหรอื แตกต่างจาก Balanced Scorecard (BSC) อยา่ งไร ?
สว่ นทม่ี คี วามเหมือนกนั ระหว่าง MBO กบั BSC มดี งั นี้ 4
ส่วนทแ่ี ตกต่างกนั ระหว่าง MBO กับ BSC คือ 4
บทสรุป 5
6
ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนา Management by Objective MBO ไปใช้ 7
หลกั การบรหิ าร Management by Objective MBO
บทสรุป 8-9
บรรณานุกรม
10

11
12

แนวคิด ทฤษฎกี ารบรหิ ารการศกึ ษา

การจัดการภาครัฐแนวใหม่หรือ New Public Management กล่าวได้ว่าเป็นพาราไดม์
(Paradigm) ท่ีสาคัญท่ีนักวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ให้การยอมรับในปัจจุบันว่าเป็นกรอบแนวคิดท่ีถูก
นามาใช้ในการบบรหิ ารภาครฐั ในปจั จบุ ัน ได้เปน็ อย่างดี โดยที่แนวคิดการบรหิ ารการจดั การภาครัฐแนวใหม่ถูก
มองวา่ เป็นปรชั ญาการบรหิ ารทรี่ ัฐบาลนามาใชต้ ัง้ แต่ทศวรรษท่ี 1980 โดยมีจดุ ประสงคห์ ลักเพื่อให้การบริหาร
ภ า ค รั ฐ มี ค ว า ม ทั น ส มั ย ( New Public Management is a management philosophy used by
Governments since the 1980s to modernise the Public Sector) และแนวคิด ทฤษฎีการบริหาร
การศึกษาที่ผู้จัดทาได้นามาเสนอในครั้งน้ีคือแนวคิด ทฤษฎีการบริหารแบบ Balanced Scorecard โดย
ศาสตราจารย์ โรเบิร์ต แคปแลน (Professor Robert Kaplan) และด๊อกเตอร์เดวิด นอร์ตัน (Dr.David
Norto) Balanced Scorecard (BSC) เป็นเคร่ืองมือบริหารจัดการและวดั ประเมินผลที่ได้รับความนยิ มมาก
และมีการนาไปใช้อย่างแพร่หลายในองค์กรต่าง ๆ ของไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย กลุ่มซีพี
เทเลคอมเอเชียหรือ TRUE กลุ่มชินวัตและองค์กรอื่น ๆ อีกมากมาย ยังเป็นทั้งระบบบริหารจัดการและวัด
ประเมินผลทเี่ นน้ การวัดผลงาน (performance) ซง่ึ ไดร้ ับการยอมรบั และนิยมนาไปใช้ในองคก์ รต่าง ๆ ทวั่ โลก
BSC เปน็ เคร่อื งมอื ที่ทาให้องค์กรสามารถอธิบายวิสยั ทัศนแ์ ละกลยุทธข์ องตนไดอ้ ย่างชดั เจน และแปรวสิ ยั ทศั น์
และกลยทุ ธส์ กู่ ารปฏิบัติจรงิ ซึ่งกระบวนในการบรหิ ารงานทอ่ี าศยั การกาหนดตัวชวี้ ัด KPI แบบสมดุลภาระงาน
ขององค์กร นากลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ (Strategic Implementation) โดยอาศัยเงิน (Measurement) ที่
สอดคล้องไปทางเดียวกัน และมุ่งเน้นในส่ิงท่ีมีความสาคัญต่อความสาเร็จขององค์กร (Alignment and
focused) สาหรับมุมมองทางการศึกษา ได้นา Balanced Scorecard มาใช้ใน 4 มุมมอง คือ มุมมองทาง
วิชาการ มุมมองทางบุคลากร มุมมองงบประมาณ และมมุ มองงานทว่ั ไป เป็นตน้

การบริหารโดยยดึ วัตถุประสงค์ (MBO

เมือ่ ดชู ่อื เร่ืองของบทความนีจ้ ากขา้ งต้นแล้ว สาหรับทา่ นที่เคยไดย้ นิ หรอื เคยใช้ระบบการ
บรหิ ารจดั การโดยมีวตั ถุประสงค์หรอื เปา้ หมาย (Management by Objective หรอื MBO)
มาแล้วย่อมจะเข้าใจไมผ่ ิดหรอกครับ แต่สาหรับคนในยคุ ใหม่หลาย ๆ คนยังไมเ่ คยไดย้ นิ หรือเคย
ทราบมาก่อนว่าคืออะไร วันนผี้ มจงึ ขอนาให้ทา่ นรู้จกั กับเครือ่ งมอื ในการบรหิ ารจดั การชนดิ นี้ที่ใช้
กันมาจากอดีตจนถึงปัจจบุ ันครับ
เม่อื ดชู ่อื เรื่องของบทความน้ีจากขา้ งต้นแล้ว สาหรับทา่ นทีเ่ คยได้ยนิ หรอื เคยใช้ระบบการบรหิ าร
จัดการโดยมวี ตั ถปุ ระสงค์หรือ เป้าหมาย (Management by Objective หรอื MBO) มาแล้ว
ยอ่ มจะเขา้ ใจไมผ่ ิดหรอกครับ แตส่ าหรับคนในยคุ ใหม่หลาย ๆ คนยังไมเ่ คยไดย้ ินหรือเคยทราบมา
ก่อนว่าคอื อะไร วนั น้ผี มจึงขอนาใหท้ ่านรจู้ กั กับเครื่องมือในการบรหิ ารจดั การชนดิ นี้ทใ่ี ช้ กนั มา
จากอดตี จนถงึ ปจั จุบนั ครับ
การกาเนดิ ของ MBO

ผใู้ หก้ าเนดิ คา ๆ น้ีรวมท้งั อธิบายถึงความหมายและวธิ ีการปฏิบตั ิในเรื่องการบรหิ ารงาน
โดยมี วัตถปุ ระสงค์ก็คือ ดร.ปเี ตอร์ ดรักเกอร์ (Prof.Dr.Peter F. Drucker) ยอดปรมาจารยด์ า้ น
การจดั การชือ่ ดงั ของโลกจนไดร้ บั สมญานามวา่ เป็น "Guru of Guru in Management" ซึง่ เพ่ิงถงึ
แกก่ รรมไปเม่อื ปลายปี 2005 (สริ ิอายรุ วม 95 ป)ี นเ่ี องครับ

ดร.ดรักเกอร์ ไดน้ าเสนอแนวทางการจัดการท่เี รียกว่า "การบรหิ ารจัดการโดยมี
วัตถปุ ระสงค์" หรือ "Management by Objective" หรอื "MBO" ขนึ้ มาเพ่ือแกป้ ัญหาในการ
ทางานรว่ มกันระหว่างผู้บงั คับบัญชากบั ผู้ใต้บงั คับ บัญชา และสามารถทาให้การประเมินผลการ
ปฏบิ ัติงานเปน็ ที่ยอมรับกนั ได้ทั้งสองฝ่าย เพื่อให้บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามทอ่ี งคก์ รมุ่งหวังไว้ ซึ่งอาจ
กล่าวไดว้ า่ เปน็ แนวทางสาหรับการบริหารจัดการโดยการกาหนดดัชนชี ี้วัด หลกั ใหเ้ ปน็ รูปธรรมและ
มคี วามละเอยี ดมากยงิ่ ขน้ึ ในยคุ ต่อมา แต่ตอ้ งยอมรบั ว่าแนวคิดของดร.ดรักเกอรใ์ นยุคท่ีคิด เขียน
และเผยแพร่หลักการ MBO นนั้ เป็นแนวคิดที่ลา้ สมัยมามากทีเดียว เนอื่ งจากแนวคิด Balanced
Scorecard เพ่ิงจะถูกคิดและเผยแพรใ่ นราวปี 1992 แต่แนวคดิ พน้ื ฐานในเรอื่ ง MBO นั้นถูกคดิ มา
ก่อนหนา้ น้ีหลายสบิ ปี

ความหมายของ MBO
ดร.ดรกั เกอร์ ให้ความหมายของ MBO ไวว้ ่าหมายถึง "เปน็ การบริหารซ่งึ ผ้บู ังคับบญั ชา

และผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชารว่ มกนั กาหนดวัตถุ ประสงค์ มาตรฐาน และเลือกปฏิบัตงิ าน โดยใตบ้ ังคับ
บัญชามภี าระหน้าที่ และความรับผิดชอบตอ่ วัตถุประสงค์ โดยมีผู้บงั คับบัญชาสนันสนุน และ
กระตนุ้ เพื่อให้เกิดการควบคมุ ตนเองฉะนั้น ความสาคญั ของการวางแผน และการควบคุมจงึ ขนึ้ อยู่
กบั ความสามารถในการบริหารขอ้ มูลโดยการสรา้ งความ สมั พันธข์ องระบบขอ้ มูลกับการวางแผน
และการควบคุมสนับสนนุ การตดั สนิ ใจรว่ มกัน"

หากพูดงา่ ย ๆ ภาษาชาวบ้านก็คอื การบริหารจัดการโดยที่ตอ้ งมีการหนั หนา้ เข้าหากนั
ระหวา่ งหวั หน้ากับลูกนอ้ ง เพอ่ื พูดคุยกันในเรื่องวตั ถปุ ระสงค์หรอื เปา้ หมายของงานให้มีความ
เขา้ ใจตรง กนั ที่ชดั เจนเสยี ก่อน เรียกว่าให้มีการส่อื สาร 2 ทางนนั่ แหละครบั

ซึ่งการพูดคยุ กันนจ้ี ะทากันก่อนทจี่ ะให้ลกู นอ้ งเรมิ่ ทางานและหัวหนา้ จะตอ้ ง มีความ
ชดั เจนในเรื่องของวัตถุประสงค์ เปา้ หมายเสียก่อนดังนั้นหัวหน้างานจงึ ต้องมกี ารวางแผน
มอบหมายงาน ตดิ ตามและควบคุมเพอ่ื ประเมนิ ผลการทางานของลกู นอ้ งได้อย่างถูกต้องและลด
ปัญหา ความเขา้ ใจทไ่ี มต่ รงกนั ลงได้มาก

ดังนัน้ จดุ มุ่งหมายของ MBO ก็คอื การประสานกนั ระหว่างความตอ้ งการของบุคคลกบั
ความต้องการขององคก์ รนั่นเองครบั
กระบวนการของ MBO

กระบวนการของ MBO มรี ายละเอยี ดดงั นคี้ รบั
ผูบ้ ังคบั บญั ชาจะต้องเขา้ ใจในเป้าหมายและทิศทางทอ่ี งค์กรจะมงุ่ ไปอยา่ งชัดเจน แล้วนา
เปา้ หมายและทศิ ทางขององคก์ รมาวางแผนการทางานให้กับผใู้ ตบ้ งั คับบญั ชา
โดยอาจใหผ้ ู้ใต้บงั คบั บญั ชาไปจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ ารยอ่ ยแลว้ กลบั มารายงานใหท้ ราบในเบ้ืองต้นวา่
จะมีแนวทางดาเนินการอย่างไร
ในขั้นนีท้ ้งั หวั หน้าและลกู นอ้ งจะตอ้ งมาหารือกนั กอ่ นที่จะเร่ิมงานว่าจะบรรลุเป้าหมาย
รว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งไร, กรอบของระยะเวลามเี ท่าใด, เร่ิมต้นและส้นิ สุดเม่ือใด, จะมีการติดตามและ
ตรวจสอบผลการปฏบิ ัติงานกนั อยา่ งไร เพอ่ื ให้มีความเข้าใจตรงกนั และมีการปฏบิ ตั งิ านเปน็ ไปใน
ทศิ ทางเดยี วกนั
เมือ่ ตกลงกันเรียบร้อยตามข้อ 3 ในขน้ั นห้ี ัวหนา้ กต็ ้องปล่อยใหล้ ูกน้องทางานไปตามทเี่ ขา

ได้รบั มอบหมาย ซง่ึ ไม่ได้แปลว่าหัวหนา้ ปลอ่ ยไปแลว้ ปล่อยไปเลยนะครบั ทัง้ นี้หากลูกน้องมีปญั หา
หรอื มีอปุ สรรคอย่างใด ก็ยอ่ มจะกลบั มาหารือกับหวั หน้าได้เสมอนะครบั
ในข้นั น้หี ัวหนา้ ก็จะตอ้ งมีการตรวจสอบความคบื หน้าของงานวา่ ลกู น้องทางานไปไดเ้ ท่าไร
ซง่ึ หวั หน้าก็จะต้องกาหนดวิธกี ารตดิ ตามผลในรปู แบบต่าง ๆ เชน่ การให้ลกู น้องรายงานความ
คืบหน้าในทป่ี ระชมุ , การใหท้ าเปน็ รายงาน เพื่อเปรยี บเทียบกบั เปา้ หมายวา่ ลกู น้องสามารถ
ปฏิบัตงิ านไปไดก้ ่ีเปอรเ์ ซน็ ต์ ตามกรอบระยะเวลาทต่ี กลงกันไว้แล้ว และจะบรรลุเปา้ หมายเมอื่ ใด
เปน็ ไปตามแผนงานหรือไม่ หรอื จะตอ้ งมีการปรบั เปลยี่ นแผนงานหรอื ไม่อยา่ งไร เป็นต้น

แน่นอนครับว่าหากลูกนอ้ งสามารถปฏบิ ตั งิ านไดต้ ามแผนงานที่ตกลงกนั ไว้แล้ว หัวหนา้ ก็
จะตอ้ งมาพิจารณาว่าจะมีการให้คุณใหโ้ ทษสาหรับลูกน้องทีม่ คี วามสามารถ (หรือไมส่ ามารถ)
ทางานนน้ั ๆ ไดแ้ ค่ไหนเพียงใด บรรลเุ ป้าหมายที่หารอื กันไวใ้ นตอนแรกหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
ลักษณะของเปา้ หมายท่ีกาหนดรว่ มกนั

จากกระบวนการของ MBO ข้างต้น ผมขอขยายถึงเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ร่วมกนั
ระหว่างหัวหนา้ กับลกู นอ้ งดังน้คี อื
ไป เชน่ องคก์ รมีนโยบายในการเพม่ิ ยอดขายข้ึนจากปีที่ผ่านมาอกี 20 เปอรเ์ ซน็ ต์
เม่ือเป็นเชน่ น้ีเป้าหมายของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ จะตอ้ งถูกกาหนดให้สอดคล้องกับทศิ ทาง
นโยบายในเรอ่ื งการเพม่ิ ยอดขาย ดงั นน้ั ผูจ้ ัดการฝ่ายขายจะต้องรบั เป้าหมายนีม้ าวางแผนในการ
จดั ทีมงานและต้ัง เปา้ หมายการขายให้กบั พนักงานขายในสังกัด โดยการถา่ ยทอดเปา้ หมาย
ดงั กลา่ ว และหารอื กันเพอื่ กาหนดเป้าหมายของทมี งานและของตวั บุคคล เช่น การกาหนดให้
พนกั งานจะต้องขยายยอดขายสาหรบั ลกู ค้าเดิมเพ่มิ ข้นึ อีก 15 เปอร์เซน็ ต์ และแสวงหาลูกค้าใหม่
เพ่ิมขนึ้ อีก 15 เปอร์เซ็นตภ์ ายในปนี ้ี เป็นตน้

ในขณะที่ฝ่ายบริการลกู ค้าก็จะต้องรบั เปา้ หมายนีม้ าถ่ายทอดใหก้ ับพนักงานใน ฝ่าย
บรกิ ารลกู ค้าเพ่อื สร้างความประทบั ใจให้กบั ลกู ค้าได้อย่างไร โดยมีเป้าหมายทีช่ ดั เจน เช่น การ
จดั ทาแบบสอบถามความพึงพอใจของลูกคา้ เพ่ือนากลับมาประมวลผลว่าดีข้ึนหรอื ไม่อย่างไร
เพราะจะมีผลกระทบต่อยอดขายดว้ ยเช่นกนั เช่น การกาหนดเป้าหมายว่าพนกั งานบรกิ ารลกู คา้
จะต้องออกตลาดไปพบลูกคา้ อย่างน้อย สปั ดาหล์ ะ 3 วนั เพอื่ สอบถามความพึงพอใจของลูกค้า
รายใหญ่ เปน็ ต้น

ในฝ่ายฝกึ อบรมกจ็ ะตอ้ งรับนโยบายเพ่ิมยอดขายขนึ้ มากอกี 20 เปอรเ์ ซ็นตม์ าจัดการ
ฝึกอบรมใหก้ ับพนักงานขาย, พนักงานบริการลกู ค้า เช่น อาจกาหนดเปา้ หมายให้จะตอ้ งมีช่ัวโมง

เข้าอบรมความรู้ในเรือ่ งการขาย และการให้บริการลกู ค้าอยา่ งน้อยคนละ 30 ช่วั โมง ตอ่ คน ตอ่ ปี
เป็นต้น
เป้าหมายของแต่ละหนว่ ยงานนน้ั จะตอ้ งมีความท้าทาย ไมย่ ากจนทาให้ผู้ปฏบิ ตั ทิ อ้ แท้ หรอื ไม่งา่ ย
จนไมร่ ้จู ะกาหนดเป้าไว้ทาไม ซงึ่ หัวหน้ากับลูกน้องจะตอ้ งมาตกลงกันในเรอื่ งเป้าหมายเพื่อให้
เขา้ ใจตรงกนั ครบั

และเชิงคณุ ภาพประกอบกันครับ
ระยะเวลาในการวดั ผลการดาเนนิ งานเพอื่ ติดตามและประเมินผลไดอ้ ย่างชดั เจน และทางานไดท้ ัน
ตามเวลาครับ
MBO เหมือนหรือแตกตา่ งจาก Balanced Scorecard (BSC) อยา่ งไร ?

มาถงึ ตรงนี้แลว้ หลายท่านคงอยากทราบนะครับวา่ แล้วเจ้า MBO กบั ระบบการบริหาร
จดั การในยคุ ใหม่ท่เี รียกวา่ Balanced Scorecard นะ่ มีความเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อย่างไร

ส่วนท่มี ีความเหมอื นกันระหวา่ ง MBO กบั BSC มดี งั นี้
ตวั บุคคลผู้ปฏิบตั ิ
ส่วนทแ่ี ตกต่างกนั ระหว่าง MBO กับ BSC คอื
นากลยทุ ธ์นั้นมาแปลงเป็นดัชนชี ้วี ัดหลักเพือ่ ใหบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์ตามกลยทุ ธ์

ประเดน็ สาคัญ

• จุดเด่นของหลักการบริหารแบบ MBO กค็ อื มีการกาหนดวัตถุประสงคข์ องการบริหารจัดการ ทาให้
มีทศิ ทางในการบรหิ ารทช่ี ดั เจนขนึ้ แตอ่ าจจะขาดในเรื่องของการกาหนดเปา้ หมายท่ีเปน็ ผลลพั ธใ์ ห้
ทกุ คนเหน็ ภาพร่วมกัน

• หลักการบริหารแบบ MBO นน้ั มีหลกั การสั่งการแบบ บนลงลา่ ง (Top-down) ซึ่งเหมาะสมและมี
ประสิทธภิ าพกับองค์กรหรอื แผนกทีต่ ้องมีการควบคุมการทางานให้เป็นระบบ หรือการทางาน
ลกั ษณะโรงงาน อาจไม่เหมาะกับองค์กรทม่ี กี ารเปลี่ยนแปลงเสมอ ชอบความวอ่ งไว หรือต้องการ
แสดงความคิดเห็นรว่ มกัน

• หลกั การบรหิ ารแบบ MBO น้นั เป็นหลกั การบรหิ ารคลาสสกิ เก่าแก่แต่ทรงคุณค่าถึงปัจจบุ นั และ
เปน็ หลกั การบริหารทกี่ ่อกาหนดหลกั การบริหารใหมๆ่ ในยุคใหม่ๆ หลายตวั ท่ีประสบความสาเร็จ
และมีประสิทธภิ าพ

หลกั การบรหิ ารงานแบบ MBO คืออะไร

MBO น้นั ยอ่ มาจาก Management by Objective หรือ การบรหิ ารงานตามวัตถุประสงค์ หรือ
บางคร้งั ก็เรยี กวา่ การบริหารงานโดยกาหนดเป้าหมาย โดยที่ MBO นนั้ จะมกี าร
กาหนด “วตั ถุประสงค”์ หรอื “เปา้ หมาย” รว่ มกันระหวา่ งผู้บงั คับบญั ชาและผูใ้ ต้บงั คับบัญชา
โดยเปน็ การเชอื่ มหน้าทท่ี างการบริหารงานระหวา่ งการวางแผนและการควบคมุ การทางานเขา้
ด้วยกนั แลว้ ผูใ้ ต้บังคบั บัญชาก็มีภาระหน้าทตี่ ลอดจนความรบั ผิดชอบท่ีสอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์
หรอื เป้าหมายทตี่ ้ังไวน้ น้ั โดยมีผ้บู งั คับบัญชาคอยวางแผน ควบคมุ การทางาน ตลอดจนกระตุ้นให้
เกิดการทางานที่มีประสิทธภิ าพมากขึน้ เพ่ือให้บรรลไุ ดอ้ ยา่ งประสบผลสาเรจ็

บทสรุป
ปจั จบุ นั เครอ่ื งมอื ท่เี รยี กว่า MBO นก้ี ย็ ังไม่ถึงกับล้าสมัยนะครับ เพราะยังมอี งค์กรตา่ ง ๆ

ยงั ใชก้ นั อยู่บ้าง แตส่ ว่ นใหญ่แลว้ หนั มาใช้เครอ่ื งมือท่เี รยี กว่า BSC กันมากแลว้ ล่ะครับ
อยา่ งไรกต็ ามหากองคก์ รของทา่ นยงั ไม่ได้มกี ารดาเนินการในเรอื่ ง BSC ผมกย็ ังเห็นว่า

ทา่ นควรจะใช้ MBO ในการบริหารจัดการซง่ึ จะดีกว่าการบริหารจดั การไปโดยขาดวัตถปุ ระสงค์
หรอื เป้า หมายทีช่ ัดเจน แล้วมามปี ัญหากนั ตอนทีผ่ ้บู งั คับบญั ชาประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานผใู้ ต้
บังคับ บัญชาโดยใชค้ วามรู้สกึ (Bias) ในการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานแบบเดมิ ทไี่ มก่ าหนด
เป้าหมายหรอื ตัววัดผลท่ี ชัดเจน

เอกสารอา้ งอิง

1. Credithttp://www.excelexperttraining.com/hr/2009/09/mbo.html
2. https://en.wikipedia.org/wiki/OKR
3. https://storylog.co/story/5b5efd5cdd993e037bbf921e


Click to View FlipBook Version