แผนการจดั การเรยี น1 รู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย ( ท 15101)
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนวัดทงุ่ แฝก อาเภอสามชกุ จงั หวัดสพุ รรณบุรี
สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต ๓
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
2
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 9 สานวน คาพงั เพย สภุ าษติ ...ให้ข้อคดิ สอนใจ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1
เรื่อง ความหมายของสานวน คาพังเพย สภุ าษติ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5
รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท15101 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย จานวน 2 ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา
และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
ตัวชี้วดั
ท ๔.๑ ป. ๕/๗ ใช้สานวนไดถ้ ูกต้อง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของสานวน คาพงั เพย และสุภาษติ (K)
๒. ยกตวั อยา่ งสานวน คาพังเพย และสุภาษติ (P)
๓. เหน็ คณุ ค่าของสานวน คาพังเพย และสภุ าษติ (A)
สาระการเรยี นรู้
คาพงั เพยเป็นการเปรยี บเทียบกบั เรอ่ื งใดเรื่องหน่งึ สภุ าษิตเปน็ คตสิ อนใจให้ประพฤติดี
ส่วนสานวนมีความหมายกว้างครอบคลุมถึงคาพังเพยและสุภาษิต การเข้าใจความหมายของคาพังเพยและ
สภุ าษติ ทาใหน้ าไปใช้ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม
3
แนวทางบูรณาการ
การดาเนินงานโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ย่ังยืนโดยยึดหลักหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
ความพอประมาณ วิเคราะห์เน้ือหาออกแบบและจัดกิจกรรมสอดคล้องกับหลักสูตรและ
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัดของสาระการเรียนรู้ และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะ สมกับเวลาและ
ความสามารถตามศกั ยภาพของผู้เรียน
ความมีเหตุผล มุ่งให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ แก้ปัญหาได้
และมุ่งให้งานสาเร็จจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้บรรลุตามมาตรฐานและตัวช้ีวัด มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม
ทห่ี ลักสูตรกาหนด
การมีภูมิคุ้มกัน สามารถนาความรู้ไปเชื่อมโยงกับกลุ่มสาระอื่นได้อย่างเหมาะสม มีการ
วางแผน บรหิ าร จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้อยา่ งเป็นระบบ สามารถวดั ผลประเมนิ ผลท่ีเหมาะสมกับเนอ้ื หาได้
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้ ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
ตัวชว้ี ดั ท่ี ๔.๑
ต้งั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ที่การงาน
มงุ่ มนั่ ในการทางาน ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย
ตัวชีว้ ดั ท่ี ๖.๑
ตัวชี้วัดที่ ๖.๒ เห็นคุณค่าและใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
รกั ความเปน็ ไทย
ตัวช้ีวัดที่ ๗.๒
4
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ่ ประสงค์
คาชแี้ จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพงึ่ ประสงคข์ องนกั เรยี นระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น
แลว้ ขดี √ ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน
ผลการประเมนิ รวม
9
คณุ ลักษณะอันพ่งึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งม่ันในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย คะแนน
321 3 2 1 3 2 1
1.เด็กชายนพกร ปอ้ งเคน √ √ √ 8
2.เด็กชายนิธศิ รุจิเรก √ √ √ 9
3.เด็กชายธงชัย มหาสวัสด์ิ √ √ √ 8
4.เดก็ ชายสิทธเิ ดช เทพสถติ ย์ √ √ 9
5.เดก็ ชายมงคล สว่างสขุ √ √ 8
6.เดก็ ชายพงศภัค นามทอง √ √ 8
7.เด็กชายวรชิต ทาเออ้ื √ √ √ 9
8.เด็กชายธรี พงษ์ โสขุมา √ √ √ 8
9.เด็กหญิงจดิ าภา พลู สวสั ด์ิ √ √ 9
10.เด็กหญิงชญานศิ ตัง้ ชชู าติ √ √ √ 9
11.เดก็ หญิงสายธาร เกตทุ วงษ์ √ √ √ 9
12.เด็กหญิงอกั ษิพร ขาวสอาด √ √ √ 9
13.เดก็ หญิงหนนู า บวั บาน √ √ √ 8
14.เด็กหญิงอังคณา เรือนทอง √ √ 9
15.เด็กหญิงฐิตมิ า ทิพย์สงั วาลย์ √ √ √ 9
16.เดก็ หญิงสโรชา ออ่ นวิมล √ √ √ 8
17.เด็กหญิงวาสนา จนั ทนา √ √ 8
18.เด็กหญงิ นวรตั น์ มมุ ตะขบ √ √ √ 9
√ √
19.เด็กหญงิ ขวัญขา้ ว เครือแกว้ √ √ √ 9
√
√ √
√
ลงช่อื ……………………………………………………ผ้ปู ระเมนิ
…………/………………/…………..
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารณ์ตัดสนิ คุณภาพ
พฤตกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤตกรรมที่ปฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
พฤตกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนบางคร้งั 7-9 ดี
4-6
ต่ากวา่ 4 พอใช้
ปรับปรงุ
5
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นา
๑. ใหน้ ักเรียนทายคาจากปรศิ นาคาทาย ดังน้ี
๐ พงั ..........อะไร ไมใ่ ช่พังทลาย แต่หมายถึงถ้อยคา หรือข้อความท่ีกล่าวสบื ต่อกนั มาช้านาน
หรือกลา่ วขานเปน็ กลาง ๆ เพ่ือใชเ้ ปรยี บเทยี บหรือตคี วามใหเ้ ข้ากบั เร่ืองใดเรื่องหนงึ่ (พังเพย-คาพังเพย)
๒. ให้นักเรียนช่วยกันยกตวั อย่างสานวน คาพังเพย และสุภาษติ พร้อมทั้งบอกความหมาย เชน่
๐ กระตา่ ยต่นื ตมู ๐ กบเลอื กนาย ๐ กง้ิ กา่ ไดท้ อง
ขนั้ สอน
๓. ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมทบทวนความรู้ โดยเลือกข้อความท่ีเป็นสานวน คาพังเพย หรือสุภาษติ
ไปเขยี นให้ตรงกบั ภาพ เช่น ภาพ กากาลงั คาบพริก (กาคาบพรกิ ) เด็กเขน็ ครกขึ้นภเู ขา (เข็นครกขนึ้ เขา)
เดก็ ทาการบ้านด้วยตนเอง (ตนเปน็ ที่พึง่ แห่งตน)
ใหท้ กุ คนรว่ มกันพิจารณาคาตอบ สนทนาถึงความหมายท่ไี ม่ตรงตวั ในแต่ละข้อความ ครูชว่ ยแนะนา
เพิ่มเติมใหน้ ักเรียนเขา้ ใจยิง่ ข้ึน หรือยกตวั อยา่ งประกอบเป็นเรอื่ งราวสัน้ ๆ
๔. ให้นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ รื่อง สานวน คาพังเพย และสุภาษติ แลว้ รว่ มกันสรปุ ความเข้าใจ
๕. ใหน้ กั เรยี นช่วยกันเตมิ คาในชอ่ งวา่ งของสานวนท่ีครเู ขียน (หรือติดแถบประโยค) บนกระดาน
๐ รักดีหาม.......รกั ชวั่ หาม........ (รักดหี ามจวั่ รกั ช่วั หามเสา)
๐ ให้........แกท่ ่าน..........นัน้ ถงึ ตัว (ใหท้ ุกขแ์ ก่ท่าน ทุกข์น้ันถงึ ตัว)
ทกุ คนรว่ มกนั พิจารณาถงึ ความหมายและข้อคิดท่ีจะนาไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน
แล้วรว่ มกันสรปุ วา่ เป็นสุภาษิตท่ีมีถ้อยคาท่ีดีงาม เปน็ ข้อคิดสอนใจใหท้ าดลี ะเว้นความช่ัวตา่ ง ๆ
๖. ใหน้ ักเรยี นออกมาเติมคาในช่องวา่ งของสานวนบนกระดาน เชน่
๐ จบั .........มือเปล่า ปีกกล้า…………… กระต่าย……จนั นทร์
๐ จับ.......ชน.......... ข้าว……..แกง……. กรวดนา้ …….ขนั
๐ ปลาหมอตายเพราะ......... __________ __________ __________
ใหท้ กุ คนรว่ มกันพจิ ารณาความถกู ตอ้ งของคาตอบแต่ละข้อความ สนทนาถงึ ความหมาย
ในแตล่ ะข้อความ แล้วแยกว่าข้อความใดเปน็ คาพงั เพย ข้อความใดเปน็ สุภาษิต
6
ขั้นสรุป
๗. ให้นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังน้ี
๏ คาพงั เพยเปน็ ถ้อยคาที่มคี วามหมายกลาง ๆ ใช้เปรยี บเทียบกบั เร่ืองใดเร่ืองหนง่ึ มักมคี าคลอ้ งจอง
กนั เพ่ือให้จาได้งา่ ยและไพเราะ ส่วนสภุ าษิตเป็นถอ้ ยคาที่ดงี าม ใชเ้ ป็นคตสิ อนใจให้ประพฤตดิ งี าม
ถูกต้อง สานวนมีความหมายครอบคลุมถึงคาพังเพยและสุภาษิต
๘.ให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ าถามท้าทาย ดงั น้ี
๏ สภุ าษิตต่างจากคาพงั เพยอย่างไร
ชิ้นงาน/ภาระงาน
1. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1.1 เรื่อง คาพงั เพยและสุภาษติ
2. ตรวจการเปรยี บเทยี บหลกั การใช้คาพงั เพยและสุภาษิต ( งานเดย่ี ว/งานกลุ่ม ตามบริบทโรงเรยี น)
ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ป.5
2. แผน่ ภาพคาพงั เพยและสุภาษิต
3. ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง คาพังเพยและสุภาษติ
7
การวดั และประเมินผล
รายการประเมิน คาอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
1. การรวบรวมคาพังเพย รวบรวมคาพังเพยและสุภาษติ รวบรวมคาพงั เพยและ รวบรวมคาพังเพยและ
สุภาษติ ได้ 5-7 สานวน
และสภุ าษิต ไดม้ ากกวา่ 15 สานวน สภุ าษิตได้ 8-14 สานวน
2. การจาแนกประเภท จาแนกประเภทคาพงั เพยและ จาแนกประเภทคาพงั เพย จาแนกประเภทคาพังเพย
คาพังเพยและสุภาษิต สุภาษิตได้ถูกตอ้ งครบถว้ นทกุ และสภุ าษติ ผิดเปน็ ส่วนนอ้ ย และสภุ าษิต ผดิ เป็นสว่ นมาก
สานวน
3. การเปรยี บเทียบหลกั เปรียบเทยี บหลักการใช้คา เปรยี บเทยี บหลักการใชค้ า เปรียบเทยี บหลักการใช้คา
การใช้คาพงั เพยและ พังเพยและสภุ าษิตไดถ้ ูกต้อง พงั เพยและสภุ าษติ ไดถ้ กู ตอ้ ง พงั เพยและสภุ าษิตได้ถูกตอ้ ง
สุภาษิต ชัดเจน และเขา้ ใจง่าย ชัดเจนเปน็ ส่วนใหญ่ และ ชดั เจนเป็นส่วนนอ้ ยและ
เขา้ ใจง่าย เขา้ ใจยาก
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
8-9 ดี
5-7
ตา่ กวา่ 5 พอใช้
ปรบั ปรุง
การวดั และประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3
ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.1 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )
สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล
สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตความมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่ันในการทางาน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
8
บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้
ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
………………………………………...……………………………………………………...………………….………………….....….
………………………………………...……………………………………………………...………………….………………….....……
………………………………………...……………………………………………………...………………….………………….....……
………………………………………...……………………………………………………...………………….………………….....……
ลงช่ือ.............................................................
(...........................................................)
ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา
1. ผลการสอน
นกั เรยี นสามารถเขา้ ใจสานวนไทย สุภาษิต คาพังเพย การวัดและประเมินผลรวมถงึ การปฏิบัติตนใน
การเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานคดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 นักเรยี นส่วนใหญม่ ีความสนใจและตั้งใจเรยี นเป็นอย่างดี
ใหค้ วามรว่ มมือในการสอนและมีบางสว่ นคดิ เป็นร้อยละ 2 ยังคุยกนั ในห้องเรยี น
2. ปญั หา/อุปสรรค
มนี ักเรยี นบางคนคุยกันในห้องเรยี
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
สร้างตามข้อตกลงร่วมกนั ระหวา่ งครกู ับนักเรยี นวา่ หากนักเรยี นคนใดสง่ เสียงดังจะหักคะแนนความ
ประพฤติแตน่ ักเรียนคนใดให้ความร่วมมือจะเพ่ิมคะแนนจิตพิสัย
ลงช่อื ครูผสู้ อน
(นางดวงพร แย้มบู่)
วันท.่ี ..3..เดือน...มกราคม......พ.ศ. ....2565.....
คาช้แี จง 9
ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง คาพังเพยและสภุ าษิต
ให้นกั เรยี นวาดภาพประกอบคาพังเพย หรือสภุ าษติ ท่นี ักเรียนชอบ พร้อมเขียนชื่อคาพงั เพย
หรือสภุ าษิต
และเขยี นบรรยายภาพให้สอดคลอ้ งกบั ความหมาย
ชือ่
ความหมาย
บรรยายภาพ
10
แผ่นภาพคาพงั เพยและสภุ าษิต