Greek mythology ตำ นานเทพเจ้ากรีก
คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(e-book)นี้จัดทำ ขึ้นในรายวิชาห้องสมุด จัดทำ ขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกับตำ นานเทพเจ้า กรีก ข้อมูลเกี่ยวกับเทพเจ้าแต่ละองค์ ที่มีความน่าสนใจ เช่น เทพเจ้าซูส เทพเจ้าโพไซดอน เทพีเฮรา เทพีอะธีนา คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เล่มนี่จะเป็นประโยชน์สำ หรับผู้อ่านไม่มากก็น้อย -1-
สารบัญ คำ นำ สารบัญ เทพซูส เทพโพไซดอน เทพฮาเดส เทพีเฮร่า เทพีดีมิเทอร์ เทพีเฮสเทีย เทพีอะธีนา เทพอะพอลโล เทพีอาร์เทมีส คิวปิด เฮอร์มีส บรรณานุกรม -2- หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 10 12 13 16 18 20
เทพซูส(Zeus) เป็นราชาแห่งทวยเทพ ผู้ปกครองเขาโอลิมปัส (Olympus) และเทพแห่งท้องฟ้าและฟ้าร้องของตำนานเทพปกรณัมกรีก สัญลักษณ์ประจำ พระองค์คือสายฟ้า โคเพศผู้ นกอินทรี และต้นโอ๊ก นามของซีอุสแปลว่าความสว่างของท้องฟ้า พระองค์เป็นพระโอรสองค์สุดท้องของโครนัส และรีอา ซูสมีพี่น้อง5คน คือ เทพีเฮสเตรีย เทพีดีมอเทอร์ เทพีเฮ รา เทพฮาเดส เทพโพไซดอน แม้ว่าเหล่าเทพทุกองค์จะยอมยกตำแหน่งผู้นำ ให้กับซูสใน ทีแรก แต่ในตอนหลังเหล่าเทพต่างๆก็ต่างพากันหาหนทาง ในการยึดอำ นาจมาเป็นของตนเองอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเฮราผู้เป็นชายาของซูส ได้พยายามที่จะรวบรวม เหล่าเทพเพื่อก่อการกบฏอยู่เสมอ แต่ในท้ายที่สุดซูสก็ สามารถที่แก้ไขปัญหา และจับตัวนางมาลงโทษได้อยู่เสมอ -3-
เทพโพไซดอน(Poseidon) โพไซดอนเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร รวมทั้ง เป็นพี่ชายของซูส มีอำ นาจควบคุมผืนน้ำ ทำ ให้นักเดินเรือ เคารพบูชาและขอพรจากโพไซดอนเพื่อให้เดินทาง ปลอดภัย สัญลักษณ์ประจำ ตัวโพไซดอน : ตรีศูล ปลา โลมา ม้าและ กระทิง นอกจากจะรู้จักกันดีในนามเทพแห่งท้องทะเลแล้ว โพไซ ดอนยังเป็นเทพแห่งม้าและแผ่นดินไหวอีกด้วย รูปลักษณ์ของโพเซดอน ส่วนมากจะปรากฏเป็นชายวัย กลางคน รูปร่างกำ ยำ ล่ำ สัน มีหนวดเครา ถือสามง่ามเป็น อาวุธ ซึ่งสามง่ามนี้มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถดลบันดาลให้ เกิดทะเลคลั่งหรือแผ่นดินไหวได้ ครั้งหนึ่งโพเซดอนเคย คิดที่จะโค่นอำ นาจของ ซุส โดยร่วมมือกับ เฮรา และ อะธี นา แต่ไม่สำ เร็จ จึงถูก ซูส ลงโทษ โดยการให้ไปสร้าง กำ แพงเมืองทรอยร่วมกับ อพอลโล ด้วยเช่นกัน -4-
ฮาเดส ทำ หน้าที่ดูแลเมืองบาดาล หรือยมโลกและคนตาย ทั้งหมด โดยคำ ว่า ” พลูโต ” มีความหมายถึง เทพแห่งทรัพย์ เพราะนอกจากจะดูแลยมโลกแลัว ฮาเดสยังทำ หน้าที่ครองมวล ธาตุล้ำ ค่าที่อยู่ภายใต้พื้นพิภพอีกด้วย บางทีจึงมีชื่อว่า ดีส ที่ หมายความว่า ทรัพย์ นั่นเอง (บางตำ นานอาจกล่าวว่า ฮาเดส ทำ หน้าที่ครองเมืองยมโลกและคนตายเท่านั้น)ในขณะที่ เทพ ที่ทำ หน้าที่ครองความตายอีกองค์หนึ่ง มีชื่อเรียกในภาษา กรีกว่า ธานาทอส เทพองค์นี้เป็นคู่กันกับ ฮิปนอส เทพ แห่งการหลับ (เป็นเทพผู้ช่วยของฮาเดส)แม้ว่าเทพฮาเดสจะ เป็นหนึ่งในเทพแห่งโอลิมปัส แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ออกจาก ยมโลกเพื่อเสด็จขึ้นไปยังเขาโอลิมปัสมากเท่าไรนักและก็ไม่ ค่อยอยากมีใครยินดีต้อนรับ เทพองค์นี้เสียเท่าไร เพราะ ส่วนใหญ่ล้วนแต่เกรงกลัวในอำ นาจของพระองค์ทั้งสิ้น เนื่อง ด้วยพระองค์เป็นเทพที่ปราศจากความปรานี เต็มไปด้วย ความยุติธรรม และเทพฮาเดสจ้าวแห่งแดนบาดาล มีอุปนิสัยที่ ค่อนข้างจะเย็นชา และแข็งกร้าว ไร้ซึ่ง ความเวทนาปรานีแก่ผู้ ใด แต่พระองค์ก็ทรงตัดสินความถูกผิดไปด้วยความ ยุติธรรม ตลอดเวลา -5- เทพฮาเดส (Hades)
เทพีเฮร่า (Hera) เฮรา หรือ ฮีรา (Hera) เป็นมเหสีและเชษฐภคินี (พี่สาว) ของซูส พระนางเป็นเทพีแห่งหญิงสาวและชีวิตสมรส เป็น ผู้ปกป้องสตรีที่แต่งงานแล้ว พระนางทรงประทับบนพระ บัลลังก์ทองคำ เคียงข้างซูสบนภูเขาโอลิมปัส และทรง พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ใส่พระทัยกับเรื่องราวรักๆ ใคร่ๆ ที่ไม่ถูกทำ นองคลองธรรมของสวามี เฮราได้รับ การกล่าวขานว่าเป็นเทพธิดาผู้มีพระกรใสกระจ่างดุจงาช้าง ในตำ นานโบราณสัตว์ประจำ องค์ของเทพีเฮราคือวัว แต่ใน ตำ นานยุคใหม่นกยูงเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำ พระองค์ และจะตามเสด็จอยู่ไม่ห่างเทพีเฮราเป็นที่รู้จักกันดีในด้าน ของอารมณ์ดุร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชายาองค์อื่นๆ ของซูส และบุตรที่เกิดจากชายาเหล่านั้น ไม่ว่าพวกนางจะ เป็นเทพีหรือเป็นมนุษย์ก็ตาม ตัวอย่างของผู้ที่ถูกเทพีฮีรา ปองร้ายมีมากมาย เช่น เทพีลีโต มารดาของเทพอพอล โล่และเทพีอาร์ทีมิส เฮอร์คิวลิส ไอโอ ลามิอา เกรานา ซิมิ ลีมารดาของเทพไดโอนิซัส ยูโรปา เป็นต้น ก็จะเจอจุดจบ แบบไม่สวยงาม -6-
ดีมิเทอร์ (Demeter) หรืออีกหนึ่งพระนามในภาษาลาตินคือ ซีรีส (Ceres) เทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม ความอุดมสมบูรณ์ กฎหมายศักดิ์สิทธิ์และการเก็บเกี่ยว เทพดีมิเทอร์ (Demeter) ก็เป็นเทพแห่งภูเขาโอลิมปัส (Olympus)สัญลักษณ์ประจำ พระองค์ : กรวยแห่งความ อุดมสมบูรณ์, ข้าวสาลี, คบไฟ, ขนมปังได้รับขนาน พระนามว่า "สตรีแห่งธัญพืช" ในฐานะผู้ประทานอาหาร หรือธัญพืช และเธสมอฟอรอส (thesmos) ซึ่งหมายถึง ระเบียบสวรรค์, กฎหมายไม่เป็นลายลักษณ์อักษร " phoros " หมายถึง ผู้ให้, ผู้ถือ หรือ " ผู้ประทานกฎหมาย " โดยเป็นเครื่องหมาย การดำ รงอยู่ของสังคมเกษตรกรรมอารยะ.เทพีดีมิเตอร์ (Demeter) มักปรากฎองค์ในรูปสตีวัยกลางคนแต่งดงาม พระเกศาสีทอง สวมมงกุฎรวงข้าวสาลี และด้วยความที่ได้ ตำ แหน่งเป็นเทพีแห่งกสิกรรมจึงทรงปรากฎมาพร้อมๆ กับ ดอกไม้ ผลไม้ เมล็ดพันธุ์ ธัญพืช ทรงถือฟ้อน ธัญพืชหรือรวงข้าวไว้ในมือ บ้างเป็นเคียว หรือ คันไถ. -7- เทพีดีมิเทอร์(Demeter)
เทพีเฮสเทีย(Hestia) พี่น้องของซุสอีกท่านหนึ่งที่เราจะกล่าวถึงนี้ ท่านเป็นเทพี่ที่ มีรูปสิริโฉมงดงามพระองค์ทรงสง่างามและเป็นตัวอย่างที่ ดีต่อสตรีทั่วไปในการถือครองพรหมจรรย์ พระองค์ไม่มี พระสวามี ถึงจะเคยถูกเทพโพไซดอนและเทพอพอลโลตาม จีบ เเต่พระองค์ก็ไม่สนใจ พระองค์ทรงอยู่แต่หน้าเตาไฟ ที่รุ่งโชติช่วง เทพีเฮสเทียป็นเทพเจ้าที่ใกล้ชิดกับมนุษย์ มากองค์หนึ่ง เพราะชาวกรีกเชื่อว่า พระเทพีได้ทอดทิ้ง ความสุขสบายแห่งพระองค์ลงจากเขาโอลิมปัสอันเป็น สถานที่อันบรมสุข มาสถิตคุ้มครองผู้คนโดยประทับใน เตาผิงไฟในแต่ละบ้านเรือน ชาวกรีกจึงมีความเชื่อว่าพระ เทพีจะเป็นเทพคุ้มครองบ้านเรือน เวลามีเด็กแรกเกิดเกิด ขึ้นในบ้าน ผู้เป็นพ่อจะนำ บุตรของตนมายังหน้าเตาผิง เพื่อให้เทพีรับรู้ว่ามีสมาชิกใหม่เกิดขึ้นแล้วและให้พระองค์ เมตตาคุ้มครองบุตรของตน สัญลักษณ์ของพระองค์คือ ไฟในเตาผิง ในเมืองต่างๆของประเทศกรีซและโรมันจึงมีวิหารของพระเทพี เพื่อให้พระองค์ปกปักษ์รักษา โดยในวิหารจะมีกองไฟที่จุด แล้วโดยมีเหล่านักบวชหญิงที่ต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ -8-
พวกนางเรียกว่า " เวสตัน " พวกนางจะเฝ้ากองไฟศักดิ์สิทธิ์ นี้ไม่ให้ดับและเติมเชื้อเพลิงให้ไฟอยู่เสมอเพราะไฟกองนี้ เสมือนเป็นองค์เทพีมาสถิต เวสตันสามารถเป็นได้ตั้งแต่ อายุ 6-10 ปี และต้องปฎิบัติหน้าที่นี้ตามวาระ10ปีเมื่อ ครบแล้วจึงจบหน้าที่ของเวสตันได้ บางทีมีกำ หนดว่าจะลา จากหน้าที่ต้องมีอายุได้ 40 ปี พวกนางจะสามารถที่จะมี ครอบครัวได้แต่ใครจะเอานาง พอ40ก็เท่ากับเป็นยายแก่ แล้ว พวกนางจึงเท่ากับว่าเป็นผู้เสียสละความสุขของตนแท้ๆ แต่ พวกนางในฐานะเวสตันก็ถูกเคารพยกย่องจากปวงชนและ กษัตริย์เช่นกัน และพวกนางมีอำ นาจอันชอบธรรมที่ดูแล้วช่างดี จริงๆคือ หากพวกนางพบนักโทษที่กำ ลังจะถูกประหารหรือลง ทัณฑ์พวกนางสามารถใช้สิทธิในฐานะข้ารับใช้แห่งเทพีเฮสเทีย ให้อภัยโทษนักโทษผู้นั้นได้ นี้คือข้อที่แสดงว่า เทพีเฮสเทีย เป็นเทพเจ้าที่ชาวกรีกรักมากองค์หนึ่งเลยทีเดียว -9- เทพีเฮสเทีย(Hestia)
เทพีอะธีนา(Athena) เทพีอธีนา หนึ่งในสิบสองเทพแห่งโอลิมปัส เป็นเทพีแห่ง ปัญญา เนื่องจากเกิดมาจากส่วนหัวของ ซุส ในขณะที่กำ ลัง ประชุมเหล่าเทพที่เทือกเขาโอลิมปัส เมื่อซุสเกิดปวดศีรษะ อย่างรุนแรง จึงได้ให้เฮเฟสตัสเทพแห่งการตีเหล็กใช้ขวานผ่า ศีรษะออก ปรากฏเป็นอธีนาที่สวมชุดเกราะพร้อมหอกกระโดด ออกมา เทพีอธีนาเป็นธิดาของเทพีเมทิส ซึ่งถูกซุสกลืนเข้าไป ในท้องตั้งแต่ยังมีครรภ์แก่ เนื่องจากคำ ทำ นายที่ว่าบุตรที่เกิด จากนางจะเป็นผู้โค่นบัลลังก์ของซูส แต่แม้ว่าอธีนาจะถือกำ เนิด มาพร้อมกับคำ ทำ นายนั้น พระนางก็เป็นหนึ่งในลูกรักของซุส ว่ากันว่าเฮราอิจฉาอธีนาที่ถือตัวว่าเป็นผู้กำ เนิดมาจากซุส โดยตรงและนอกจากอธีนาจะเป็นเทพีแห่งปัญญาแล้ว ยังเชื่อ กันว่าพระนางเป็นเทพีแห่งสงครามด้วย เนื่องจากเทวรูปของ พระนางมักปรากฏเป็นรูปผู้หญิงสวมชุดเกราะ ถือโล่ห์และหอก ที่มือซ้าย และถือไนกี้ เทพีแห่งชัยชนะที่มือขวา โดยที่ชื่อกรุง เอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ ก็มีที่มาจากพระนามของนาง ชื่อ เต็มของอธีนาคือ พัลลัสอธีนา (Pallas Athena) ซึ่งชื่อพัลลัส มาจากเพื่อนมนุษย์ของอธีนาซึ่งเธอพลั้งมือสังหารไปขณะเล่น ด้วยกัน จึงได้นำ ชื่อของพัลลัสมาใส่นำ หน้าเพื่อเป็นที่ระลึก -10-
อธีนาเป็นตัวแทนของสงครามที่เอาชนะด้วยกลยุทธหรือความ ถูกต้อง ซึ่งต่างจากแอรีสที่เป็นเทพสงครามที่ใช้กำ ลัาตาม ตำ นานกรีกเล่าว่า ที่มาของชื่อเมืองเอเธนส์ (Athens) นั้น มา จากการที่ชาวกรีกจะตั้งชื่อเมืองแต่ไม่รู้จะใช้ชื่ออะไร โพไซ ดอน เทพแห่งมหาสมุทร ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของอธีนา ใช้ตรีศูล อาวุธของตนสร้างม้าขึ้นมา(บ้างก็ว่าสร้างน้ำ พุขึ้น) ชาวเมืองต่าง พากันชื่นชมม้าเป็นอันมาก แต่เทพีอธีนาได้เนรมิตต้นมะกอก ขึ้นมา ซึ่งสามารถใช้ผลเป็นประโยชน์ได้ นอกจากนี้ มะกอก ยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ในขณะที่ม้าเป็นสัญลักษณ์ ของสงคราม ชาวเมืองจึงตกลงใช้ชื่อเมืองว่า เอเธนส์ ตามชื่อ ของพระนาง และมะกอกก็กลายเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำ คัญ อันดับหนึ่งของกรีซมาจนปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า อธีนา เป็น เทพที่ชาวกรีกให้ความนับถือมากที่สุดก็ว่าได้ ในสมัยโบราณมี การสร้างมหาวิหารเพื่อถวายแก่นาง คือ วิหารพาเธนอน ซึ่งตั้ง อยู่ที่เนินอะโครโปลิส ที่กรุงเอเธนส์ในปัจจุบัน ในการท่อง เที่ยวของกรีซ จะพบรูปปั้นขนาดเล็กของอธีนาขายเป็นที่ระลึก อยู่ทั่วไป -11- เทพีอะธีนา(Athena)
เทพอะพอลโล(Apollo) “ อพอลโล (Apollo)” คือหนึ่งในเทพเจ้ากรีกที่หลายคนรู้จักและ คุ้นชื่อมากที่สุดองค์หนึ่งอพอลโลเป็นเทพเจ้าแห่งดนตรีและบท กวี แต่นอกจากนั้น ยังเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ แสงสว่าง การรักษา โรคระบาด คำ ทำ นาย ความรอบรู้ และอีกมากมาย หลายอย่างอพอลโลเป็นลูกของเทพเจ้า “ซูส (Zeus)” และ “ เลโต (Leto)” และยังเป็นพี่น้องฝาแฝดกับ “ อาร์ทีมิส (Artemis)” ผู้ซึ่งเป็นเทพีแห่งดวงจันทร์อพอลโลเกิดบนเกาะ เดโลส เนื่องจากเลโต ผู้เป็นแม่ ถูกสั่งห้ามไม่ให้กำ เนิดทารก บนแผ่นดินใหญ่ตามตำ นานนั้น กล่าวว่าอพอลโลได้กลายจาก ทารก เป็นหนุ่มในเวลาแค่หนึ่งวัน เนื่องจากได้กินน้ำ อมฤตและ อาหารทิพย์ และสี่วันหลังจากเกิดมา อพอลโลก็ฆ่ามังกรได้แล้ว นอกจากความสามารถที่ดูโดดเด่นเหนือเทพองค์อื่น อพอลโล ยังมีรูปงาม และเป็นที่ยกย่องในความงามสง่านอกจากความ สามารถที่ดูโดดเด่นเหนือเทพองค์อื่น อพอลโลยังมีรูปงาม และ เป็นที่ยกย่องในความงามสง่าอพอลโลนั้นเป็นเทพเจ้าใน หลายๆ ด้าน และหนึ่งในนั้นคือดนตรีอพอลโลสามารถเล่น เครื่องดนตรีได้หลายชนิด และโดดเด่นในเรื่องของ “ พิณ ” -12-
เทพีอาร์เทมีส(Artemis) อาร์ทิมิส หรือ ไดอาน่า ในโรมัน คือเทพเจ้าแห่งการล่าสัตว์ เทพีแห่งดวงจันทร์ และเป็นเทพีแห่งความรักทางใจ ตำ นานการ กำ เนิดกล่าวว่าเป็นธิดาฝาแฝดของเทพซุสกับนางอัปสร เลโต มีพี่ชายฝาเเฝดคือ เทพอพอลโล เทพีอาร์ทิมิสถูกสถาปนาเป็น จันทราเทวี คุมรถม้าเงินพระจันทร์ ให้แสงสว่างนำ ทางมวล มนุษย์ในยามกลางคืน ทั้งสองฝาแฝดรักใคร่กันมากและมี ความชำ นาญในด้านธนูเหมือนกัน โดยธนูของเทพอะพอลโลจะ แม่นยำ ร้อนแรงดังแสงอาทิตย์ ผิดกับเทพีอาร์ทิมิสซึ่งปลิดชีพ ผู้ต้องศรอย่างนุ่มนวลราวแสงจันทร์ จนดูคล้ายกับคนที่นอน หลับไปเท่านั้นเทพีอาร์ทิมิสมีชีวิตโลดโผนกว่าเทพีองค์อื่น เพราะโปรดการล่าสัตว์และชอบชีวิตโสด จนเทพซุสประทานนาง อัปสรผู้ไม่ต้องการแต่งงานจำ นวน 50 ให้เป็นบริวาร สาเหตุที่ พระนางไม่ต้องการมีความรัก ก็เพราะมีความหลังฝังใจจากที่ เเม่ของตนต้องทรมานกับการคลอดบุตร และในเวลาที่ประสูติ เทพีอาร์ทิมิสก็ซึมซับความรู้สึกนั้นได้ นางจึงไม่เชื่อในความ รักและไม่ต้องการคู่ครอง เทพีอาร์ทิมิสวิงวอนให้เทพซุส สาบานว่าจะไม่จับคู่สมรสให้นางหรือให้นางสมรสไม่ว่ากรณี ใด และให้นางเป็นเทพีผู้ครองพรหมจรรย์ ซึ่งเทพซุสก็สาบาน โดยให้แม่น้ำ สติกซ์ซึ่งไหลรอบนรกเป็นพยาน -13-
ในตำ นานของกรีกนั้นกล่าวว่าเทพีอาร์ทิมิสทรงสาบานตนเป็น เทพีพรหมจารีย์ร่วมกับอะธีน่าและเฮสเทียต่อหน้าแม่น้ำ สติกซ์ นางชิงชังชีวิตสมรส ความรัก และการยุ่งเกี่ยวกับผู้ชาย แต่สิ่ง หนึ่งที่เทพีอาร์ทิมิสไม่ปฏิเสธคือการมีสหายเป็นสหายสนิทของ เทพีอาร์ทิมิสมีนามว่าโอไรออน เขาเป็นนายพรานผู้ฉมังในการ ล่าสัตว์ มีสุนัขคู่ใจชื่อว่าซิริอุส ทุกๆ วันเทพีอาร์ทิมิสและสหาย จะร่วมกันล่าสัตว์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานหลังจากล่าสัตว์ เสร็จเทพีอาร์ทิมิสหลงรักนายพรานหนุ่มและคิดที่จะสละความ เป็นเทพีพรหมจารีย์เพื่อแต่งงานกับโอไรออน อพอลโล่รู้ถึง ความคิดนี้เข้าและกลัวว่าอาร์ทิมิสจะต้องรับโทษจากการผิดคำ สาบานต่อหน้าแม่น้ำ สติกซ์ จึงวางแผนที่จะล้มเลิกความคิดของ น้องสาวฝาแฝด อพอลโลสั่งให้โอไรออนเดินลุยน้ำ ทะเลไปยัง เกาะแห่งหนึ่งกลางทะเล และเมื่อโอไรออนเดินไปถึงยังจุดที่ ไกลจนเมื่อมองจากเกาะดีลอสแล้วจะเห็นเพียงศีรษะของโอไร ออนที่มองดูเหมือนกับเกาะกลางน้ำ เทพอพอลโล่ก็ชวนเทพี ฝาแฝดมาล่าสัตว์แข่งกัน และท้าพนันให้อาร์ทิมิสยิงธนูทะลุเกาะ กลางทะเลที่อพอลโล่ชี้ให้ดูให้ได้ -14- เทพีอาร์เทมีส(Artemis)
อาร์ทิมิสตกหลุมพรางของเทพฝาแฝด เหนี่ยวสายธนูเต็มแรง จนลูกธนูทะลุศีรษะของโอไรออนถึงแก่ความตาย เมื่ออาร์ทิมิส ทราบว่าตนได้ฆ่าชายที่รักลงด้วยน้ำ มือของตนเองแล้ว พระนาง ก็ได้นำ ศพของโอไรออนและซิริอุสสุนัขคู่ใจขึ้นไปไว้บนท้องฟ้า ในตำ แหน่งของกลุ่มดาวนายพราน และดาวสุนัขใหญ่ชายที่รัก การล่าสัตว์เช่นเดียวกับนาง -15- เทพีอาร์เทมีส(Artemis)
คิวปิด(Cupid) คิวปิด มีชื่อจริง ๆ ว่า “ เอรอส” ซึ่งมีความสามารถ ในการยิง ธนูเพื่อก่อให้เกิดความรัก หรือในอีกแง่หนึ่ง ที่หลายคนอาจจะ ยังไม่ทราบก็คือ คิวปิดสามารถยิงศรเพื่อให้คน หรือเทพเป้า หมายนั้น พบกับความขมขื่นไปชั่วชีวิต แม้ว่าตัวเองจะขึ้นชื่อว่า เป็นเทพแห่งความรัก แต่ชีวิตรักของเขานั้น ไม่ได้ดูดีเลยแม้แต่ น้อย เพราะเขาตกหลุมรัก “ไซคี ” สาวงามเลื่องชื่อ ที่หลายคน บอกว่า งามกว่าเทพอะโฟรไดต์ แม่ของเอรอส จนทำ ให้เท พอะโฟรไดต์ รู้สึกไม่พอใจ และส่งเอรอสไปจัดการนาง โดยวิธี การของนาง เรียกได้ว่าเป็นสุดยอด แห่งความชั่วร้าย เพราะ นางสั่งให้เอรอสไปยิงศรรัก ให้ไซคี หลงรักกับปีศาจ เพื่อให้ นางพบเจอ กับความทุกข์ทรมาน แต่เอรอส กลับตกหลุมรักไซ คีเสียเอง และพานางมาอยู่ในวิมานที่สร้างขึ้น โดยเอรอสตั้ง กฎกับไซคีว่า ห้ามมองหน้าเอรอสโดยเด็ดขาดถึงจะตั้งกฎเอา ไว้ ว่าห้ามไซคีมองหน้าเอรอส แต่ไซคี ก็แอบมองหน้าเอรอสจน ได้อยู่ดี ทำ ให้เอรอส ทอดทิ้งเธอ และสุดท้าย นางไซคีก็ยอม ทำ ตามคำ ขอ ของอะโฟรไดต์ โดยหวังว่าจะได้พบเอรอสอีกครั้ง ซึ่งภารกิจที่เธอต้องทำ นั้น -16-
ก็เรียกว่าหนักหนาสาหัส ไม่ว่าจะเป็นภารกิจในการนำ กล่อง ที่ บรรจุความงามของโพรเซพีนา ขึ้นมาจากปรโลก ซึ่งก็ยาก ลำ บากมาก แต่นางก็ทำ ได้สำ เร็จ สามารถนำ กล่องมาจนได้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของไซคี ทำ ให้นางแอบเปิดกล่อง จนสลบไปเสียเอง ซึ่งเป็นไปตามแผน ของอะโฟรไดต์ แต่โชค ดีที่เธอได้เอรอสมาช่วยไว้ และได้ครองรักกันตลอดไป แม้ว่าเรื่องราวของคิวปิด หรือ เอรอส จะไม่ได้ราบรื่น เรียบ ง่าย โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ควรจะเป็น แต่ในที่สุดทุก อย่างก็จบลงอย่างสวยงาม -17- คิวปิด(Cupid)
เฮอร์มีส(Hermes) เป็นชื่อเทพเจ้าในปกรณัมกรีก เรียกชื่อในตำ นานเทพเจ้า โรมันว่า เมอร์คิวรี่ เป็น เทพผู้คุ้มครองเหล่านักเดินทาง คน เลี้ยงแกะ โจรผู้เร่ร่อน กวี นักกีฬา นักประดิษฐ์ และพ่อค้า อาจ เรียกได้ว่า เฮอร์มีส เป็นเทพแห่งการสื่อสาร พระองค์เป็นบุตร ของเทพซุส เกิดแต่นางเมยา (Maia) มีของวิเศษคือหมวกและ รองเท้ามีปีก เรียกว่า เพตตะซัส (Petasus) ซึ่งเป็นของขวัญที่ ได้รับจากเทพบิดา เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเทพสื่อสารหมวก และ รองเท้ามีปีกของเฮอร์มีสนั้นเรียกว่า เพตตะซัส (Petasus) และ ทะเลเรีย (Talaria) เป็นของที่ได้รับ ประทานจาก ซุสเทพ บิดา ซึ่งโปรดให้ท่านเป็นเทพสื่อสารประจำ พระองค์ ส่วนไม้ถือ ศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า กะดูเซียส (Caduceus) เดิมเป็นของเทพอ พอลโล ใช้ต้อนวัวควายในครอบครอง ครั้งหนึ่งเฮอร์มีส ขโมยวัวของ อพอลโลไปซ่อน อพอลโลรู้ระแคะระคาย ดังนั้น จึงมาทวงถามให้เฮอร์มีสคืนวัวที่ขโมยไป เฮอร์มีสในตอนนั้น -18-
ยังเยาว์อยู่แท้ ๆ กลับย้อนถามอย่างหน้าตาเฉยว่า วัวอะไร ที่ไหนกัน ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยิน อพอลโลก็ไปฟ้อง เทพ บิดาซุส ไกล่เกลี่ยให้เฮอร์มีสคืนวัวให้เจ้าของ อพอลโลได้วัว คืนแล้ว ก็ไม่ถือโกรธเทพผู้น้อง แม้ว่าวัวจะขาดจำ นวนไป 2 ตัว เพราะ เฮอร์มีสเอาไปทำ เครื่องสังเวยเสียแล้วก็ตาม อพอลโล เห็นเฮอร์มีสมีพิณถือคันหนึ่ง เรียกว่า ไลร์ (Lyre) เป็นของเฮ อร์มีส ประดิษฐ์ขึ้นเอง ด้วยกระดองเต่า ก็อยากได้ จึงเอาไม้ กะดูเซียสแลก ไม้ถือกะดูเซียส จึงเป็นของเฮอร์มีส ด้วยเหตุ ฉะนี้ และถือกันว่า เป็นสัญลักษณ์ ของเฮอร์มีสตั้งแต่ครั้งนั้น เป็นต้นมา -19- เฮอร์มีส(Hermes)
บรรณานุกรม ประวัติเทพซุส. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/5d8829fffcaa4c0cb1267f94. (วันที่ค้นข้อมูล : 6 มิถุนายน 2567) ประวัติเทพโพไซดอน. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/5fd85a89e328150cae536dd4( วันที่ค้นข้อมูล : 6 มิถุนายน 2567) ประวัติเทพฮาเดส. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/5ffd98ee75cef71582a56317 (วันที่ค้นข้อมูล : 6มิถุนายน 2567) ประวัติเทพีเฮร่า. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/5feaaa403235dc0cec938a9c (ค้นหาข้อมูล : 9 มิถุนายน 2567) ประวัติเทพีดีมิเทอร์. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/60879b6457e71c0c521804d4 (ค้นหาข้อมูล : 9 มิถุนายน 2567) -20-
บรรณานุกรม ประวัติเทพีเฮสเทีย. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/601005af2aa535172a2e3780 (วันที่ค้นข้อมูล : 9 มิถุนายน 2567) ประวัติเทพีอะธีนา. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/601663a8fbbf8d02b5c4cba3 (วันที่ค้นข้อมูล : 9 มิถุนายน 2567) ประวัติเทพอะพอลโล. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/60163deb03c0e00bcb81dc71 (วันที่ค้นข้อมูล : 11 มิถุนายน 2567) ประวัติเทพีอาร์เทมีส. เข้าถึงได้จาก : https://www.blockdit.com/posts/601647304420ca0bd59b7be9 (วันที่ค้นข้อมูล : 11 มิถุนายน 2567) คิวปิด ตำ นานเทพเจ้าแห่งความรัก . เข้าถึงได้จาก : https://hilight.kapook.com/view/7215 (วันที่ค้นข้อมูล : 11 มิถุนายน 2567) เฮอร์มีส (Hermes) หรือ เมอร์คิวรี่ (Mercury) เทพ แห่งการสื่อสาร . เข้าถึงได้จาก : https://variety.phuketindex.com/faith/ (วันที่ค้นข้อมูล : 11 มิถุนายน 2567) -21-
ผู้จัดทำ น.ส.บุณยาพร ศรีสุบรรณ์ ม.4/3 เลขที่23