The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตำรับยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Chawaplus Academy, 2023-06-21 04:14:32

ตำรับยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร)

ตำรับยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร)

Keywords: ตำรับยาห้าราก,ยาเบญจโลกวิเชียร,ยาห้าราก,เบญจโลกวิเชียร

ตำรับยาห้าราก ยาเบญจโลกวิเชียร


1 ตำรับยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร) ตำรับยาห้าราก เป็นตำรับยาแผนโบราณที่มีใช้กันมานาน ซึ่งมีชื่อเรียกอื่น ได้แก่ ยาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง และยาเพชรสว่าง เป็นตำรับยาซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรที่เป็นส่วนรากของพืช 5 ชนิด คือ รากชิงชี่ รากย่านาง รากคนทา รากมะเดื่อชุมพร และรากเท้ายายม่อม นำมาผสมในอัตราส่วนที่เท่ากัน ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยา แห่งชาติเรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติพ.ศ.2564 ภาคผนวก 4 บัญชียาจากสมุนไพร ยาห้ารากจัดอยู่ในกลุ่ม 1 ยาแผนไทย หรือยาแผนโบราณ มีรูปแบบยา 3 รูปแบบ ได้แก่ ยาแคปซูล ยาผง และยาเม็ด มีข้อบ่งใช้บรรเทาอาการไข้ ในคัมภีร์ตักศิลา ซึ่งเป็นคัมภีร์แพทย์แผนโบราณของไทยที่ใช้รักษาโรคไข้มานานหลายร้อยปี ได้มีการบันทึกเกี่ยวกับการรักษาไว้ว่า ยาเบญโลกวิเชียรสามารถรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ในระยะแรก โดยใช้ยาเพื่อกระทุ้งพิษไข้(การทำให้พิษไข้ถูกขับออกมา ภายนอก) ใช้ขับพิษออกจากร่างกายหรือฆ่าเชื้อไวรัส และใช้กับไข้พิษ ได้แก่ ไข้รากสาด ไข้อีดำอีแดง ไข้มหาเมฆ ไข้มหานิล ไข้ประดง เป็นต้น อาการทั่วไปของพิษไข้คือปวดศีรษะ ตัวร้อนดุจเปลวไฟ ปากแห้ง ฟันแห้ง น้ำลายเหนียว ตาแดงคล้าย สายเลือด ร้อนใน กระหายน้ำ มือเท้าเย็น มีเม็ดขึ้นตามร่างกาย เม็ดเล็กบ้างใหญ่บ้าง มีสีต่าง ๆ ดำก็มี แดงก็มี เขียวก็มี เป็นต้น ยาห้าราก เป็นตำรับยารักษาอาการไข้ที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีส่วนประกอบและวิธีใช้ดังนี้ สูตรตำรับ ในผงยา 100 กรัม ประกอบด้วย รากย่านาง รากคนทา รากมะเดื่อชุมพร รากชิงชี่ รากเท้ายายม่อม หนักสิ่งละ 20 กรัม ข้อบ่งใช้บรรเทาอาการไข้ ขนาดและวิธีใช้ ชนิดผง ผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 1 – 1.5 กรัม ละลายน้ำสุก วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เมื่อมีอาการ เด็ก อายุ 6 -12 ปี รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 1 กรัม ละลายน้ำสุก วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เมื่อมีอาการ ชนิดแคปซูลและชนิดเม็ด ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 1 – 1.5 กรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เมื่อมีอาการ เด็ก อายุ6 -12 ปี รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 1 กรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เมื่อมีอาการ ข้อควรระวัง • ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ที่สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก เนื่องจากอาจบดบังอาการของไข้เลือดออก • หากใช้ยาเป็นเวลานานเกิน 3 วัน แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ • ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงที่มีไข้ทับระดูหรือไข้ระหว่างมีประจำเดือน


2 ข้อมูลของสมุนไพรในตำรับยาห้าราก ลำดับ ชื่อสมุนไพร ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ส่วนที่ใช้ 1 คนทา Harrisonia perforate (Blanco) Merr. Simaroubaceae ราก 2 ชิงชี่ Capparis micracantha DC. Capparaceae ราก 3 ย่านาง Tiliacora triandra (Colebr.) Diels Menispermaceae ราก 4 มะเดื่อชุมพร Ficus racemose L. Moraceae ราก 5 เท้ายายม่อม Clerodendrum indicum (L.) Kuntze Labiatae ราก รากคนทา ชื่ออื่นๆ ได้แก่ กะลันทา โกทา สีฟันคนทา สีฟัน จี้ หนามจี้ สีเตาะ หนามกะเท่ง เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หรือไม้ ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 12 เมตร ตามกิ่งมีหนามแหลมโค้ง ยอดอ่อนมักมีขน ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ แกนกลางใบแผ่เป็นปึกแคบ ๆ มักมีขนนุ่ม ใบคล้ายรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดถึงรูปใบหอกแกมไข่ ปลายใบแหลม หรือมน ขอบใบหยัก ไม่มีก้านใบย่อย ดอกเป็นช่อออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ช่อดอกแบบกระจุก ก้านช่อดอก มีขน ดอกสีขาวเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผลเมล็ดเดียวแข็ง องค์ประกอบทางเคมีในรากคนทาเช่น obacunone เป็น สารกลุ่ม Limonoid และยังพบสาร perforatic acid, perforatin, perforationolone, haperforin C, haperforin F, haperforin G, pectolinarigenin, O-methylalloptaeroxyrin รากคนทามีรสขมและเฝื่อน สรรพคุณ แก้ไข้ แก้ท้องเสีย ภูมิปัญญาไทย ใช้กิ่งคนทาขนาดเท่านิ้วก้อยปอกเปลือกออกให้เห็นเนื้อสีขาว ปลาย ด้านหนึ่งเหลาให้แหลม อีกด้านหนึ่งทุบและยีเนื้อไม้ส่วนปลายด้านหนึ่งให้ เป็นฝอยๆ ใช้เป็นไม้จิ้มฟันและสีฟัน รากชิงชี่ชื่ออื่นๆ ได้แก่ กระโรกใหญ่ ค้อนฆ้อง แสมซอ หนวดแมวแดง หมากมก เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หรือไม้ ต้นขนาดเล็กสูงได้ถึง 6 เมตร เปลือกต้นสีเทา กิ่งแข็งคดไปมา เมื่ออ่อนมีขนกระจายทั่วไปที่โคนกิ่งและก้าน ล้อมรอบด้วยใบคล้ายเกล็ด หนามตรงหรือโค้งเล็กน้อย ใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบรูปไข่ รูปขอบขนาน หรือรูปใบหอก ปลายใบแหลม มน โค้งกว้าง หรืออาจเว้าตื้น โคกมนหรือเว้ากว้าง ใบเกลี้ยงมัน ดอกออกตามซอกใบ เรียงเป็นแถว กลีบเลี้ยงรูปเรือ รูปไข่หรือขอบขนาน อวบน้ำ ขอบมักมีขน กลีบดอกสีขาว รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก มีต่อม น้ำหวานสีเหลือง ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม สีน้ำตาลหรือสีม่วงเข้ม ผลกลม รี หรือทรงกระบอก เมล็ดรูปไตมี จำนวนมาก รากชิงชี่มีรสขมและขื่น สรรพคุณ แก้ไข้ ขับลม เป็นต้น รากย่านาง ชื่ออื่น ๆ ได้แก่ เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว ย่านนาง เป็นไม้เถา ใบเดี่ยวเรียงเวียน ใบรูปรี รูปหอก หรือรูปไข่ ขอบใบเรียบ ผิวเกลี้ยง ช่อดอกแยกเพศ รวมอยู่ต้นเกียวกัน ออกตามซอกใบหรือตามเถา ผลเป็นแบบผล ผนังชั้นในแข็ง รูปไข่กลับ ผิวเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีแดง เมล็ดรูปเกือกม้า องค์ประกอบทางเคมีในราก ย่านาง เช่น alkaloid G, alkaloid H, tiliacorine, tiliacorinine, nor-tiliacorinine, tiliacorinine-2´-N-oxide รากย่านางมีรสจืดขม สรรพคุณ แก้ไข้ แก้พิษเมาเบื่อ ถอนพิษผิดสำแดง รากมะเดื่อชุมพร ชื่ออื่น ๆ ได้แก่ มะเดื่อชุมพร มะเดื่อชุมภร มะเดื่อน้ำ เพื่อน้ำ เพื่อเกลี้ยง เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง 30 เมตร เปลือกต้นสี น้ำตาลอมชมพู เรียบ เมื่อแก่ แตกเป็นรอยหยาบ มียางสีขาวนวล ใบเดี่ยว ออกเรียงเวียน ช่อ ดอกออกตามต้น และกิ่งใหญ่ๆ ช่อดอกย่อยรูปร่างค่อนข้างกลมถึงรูปคนโท ปลายปุ่ม มีช่องเปิด มีใบประดับ


3 5 - 6 ใบปิดอยู่ผลค่อนข้างกลมถึงรูปคนโท ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีแดงอมส้ม เมล็ดรูปเลนส์ ขนาดเล็กยาว ประมาณ 1 มิลลิเมตร องคประกอบทางเคมีในรากมะเดื่ออุทุมพร เชน bergapten, friedelin, daucosterol, stigmasterol เป็นตน รากมะเดื่ออุทุมพรมีรสฝาดเย็น สรรพคุณ แกไข รากเท้ายายม่อม ชื่ออื่น ๆ ได้แก่ ไม้เท้าฤๅษี พญารากเดียว พญาเล็งจ้อน ปิ้งขม ปิ้งหลวง พมพี พินพี โพนิ่ง เป็นไม้พุ่ม สูง 2 - 4 เมตร ลำต้นกลวง มักไม่แตกกิ่งก้าน เปลือกสีเขียวแกมน้ำตาล กิ่งรูปสี่เหลี่ยม เกลี้ยง ใบเดี่ยว เรียงเป็นวงรอบ 3 - 8 ใบ หรือเรียงสลับตั้งฉาก รูปแถบ รูปขอบขนาน รูปใบหอกหรือหอกกลับ ขอบใบเรียบ ใบยาว 8 - 20 เซนติเมตร กว้าง 1.5 - 5 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบ ดอกสีขาวแกม เหลือง กลิ่นหอม ใบประดับคล้ายแผ่นใบ องค์ประกอบทางเคมีในรากเท้ายายม่อม เช่น harpagide ซึ่งเป็นสาร กลุ่ม iridoid และยังพบ cleroindicin A, cleroindicin B, cleroindicin C, cleroindicin D, cteroindicin E, cleroindicin F รากเท้ายายม่อมมีรสจืด สรรพคุณ แก้ไข้ ขับเสมหะลงสู่เบื้องต่ำ ถอนพิษไข้ ทุกชนิด แก้หืด แก้อาเจียน อ้างอิง คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล. ยาหาราก: ตำรับสมุนไพรแก้ไข้. https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/427/ พินภัทร ไตรภัทร ประวิทย์ อัครเสรีนนท์ อุไรวรรณ พานิช วีรดี จันทรนิภาพงศ์. รายงานวิจัยเรื่องการศึกษาฤทธิ์ของสมุนไพรตำรับ ห้ารากอายุรเวทศิริราชในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านเกล็ดเลือด. กรุงเทพ: สำนักงานกองทุนสนับสนุน การวิจัย; 2556.


Click to View FlipBook Version