หน่วยที่ 6 สีในสื่อสิ่งพิมพ์
6.1.1 ความหมายของสี สีเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่น่ามหัศจรรย์ สีมีอยู่ในแสงแดด เป็นคลื่นแสง ชนิดหนึ่งจะ ปรากฏให้เห็น เมื่อแสงแดดส่องผ่านละอองน้ำ ในอากาศและเกิด การหักเหเกิดเป็นแถบสีต่าง ๆ 7 สี เรียง ติดกัน เรียกแถบสีที่เรียงติดกันนี้ว่า สเปกตรัม ลักษณะเป็นสีรุ้งที่เห็นในท้องฟ้า คือ สีม่วง สีม่วงน้ำ เงิน สีน้ำ เงิน สี เขียว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง แต่ละสีมีความถี่ของคลื่นแสงไม่เท่ากัน สีแดงมี ความถี่ต่ำ ที่สุดและมีช่วงคลื่นยาวที่สุด คลื่นแสงจะมีความถี่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จากสี แดงไปสีส้ม จนถึงสีม่วงที่มีความถี่สูงสุด คลื่นแสงที่มีความต่ำกว่าสีแดงหรือสูง กว่าสีม่วงยังมีอยู่อีกมากมาย เช่น แสงอินฟราเรดที่มีความถี่ต่ำกว่า แดง หรือ แสงอัลตราไวโอเลตที่มีความถี่สูงกว่าม่วง แต่ตาของมนุษย์ไม่อาจรับความถี่ ขนาดนั้น เป็นต้น สี (Color) ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง ลักษณะของแสงที่ สีเขียว เช่น สีทาบ้าน สีย้อมผ้า เป็นต้น เนื้อหาสาระ (Content) โลกถูกจรรโลงและแต่งแต้มด้วยสีสันที่หลากหลาย ทั้งสีสันตามธรรมชาติ และสี ที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้นหากโลกนี้ไม่มีสีหรือมนุษย์ไม่สามารถรับรู้เกี่ยวกับสีได้ สิ่งนั้น อาจเป็นความบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เพราะสีมีความสำ คัญต่อวัฏจักร แห่งโลก และเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตมนุษย์จนแยกกันไม่ออก มนุษย์ได้ ตระหนัก แล้วว่าสีนั้นส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ จินตนาการ การสื่อความหมาย และความสุข สำ ราญใจในชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าสีมีอิทธิพล ต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก และมนุษย์ก็ใช้ ประโยชน์จากสีอย่างอเนกอนันต์ในการ สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด 6.1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสี
สีในทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง คลื่นแสงหรือความเข้มของแสงที่สายตาสามารถมอง เห็น สีในทางศิลปะสี หมายถึง ทัศนธาตุอย่างหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำ คัญของงาน ศิลปะ และใช้ในการสร้างงานศิลปะโดยจะทำ ให้ผลงานมีความสวยงาม ช่วยสร้าง บรรยากาศ มีความสมจริง เด่นชัดและ น่าสนใจมากขึ้น (ทัศนธาตุ หมายถึง ส่วน ประกอบของศิลปะที่มองเห็นได้ ประกอบด้วย จุด เส้น รูปร่าง รูปทรง น้ำ หนักอ่อนแก่) รูปที่ 6.1 ศิลปะการใช้สี (ที่มา : https://th.pikbest.com) 6.1.2 ความสำ คัญของสี สีเป็นองค์ประกอบสำ คัญอย่างหนึ่งทางด้านงานศิลปะ มีอิทธิพลต่อความรู้สึก อารมณ์ และ จิตใจได้0มากกว่าองค์ประกอบอื่น ๆ ในชีวิตของมนุษย์มีความ เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสีต่าง ๆ อย่างแยกไม่ออก โดยสามารถนำสีไปใช้ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ใช้ในการจำแนกสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เห็นชัดเจน 2. ใช้ในการจัดองค์ประกอบสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม กลมกลืน เช่น การแต่งกายการจัดตกแต่งบ้าน เป็นต้น
3. ใช้ในการจัดกลุ่ม จัดพวกด้วยการใช้สีต่าง ๆ เช่น สีเครื่องแบบต่าง ๆ สี ของกลุ่มคณะ เป็นต้น 4. ใช้ในการสื่อความหมาย เป็นสัญลักษณ์ หรือใช้บอกเล่าเรื่องราว 5. ใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อให้เกิดความสวยงาม สร้างบรรยากาศ สมจริง และความน่าสนใจ 6. เป็นองค์ประกอบในการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ของมนุษย์ 6.1.3 ประเภทของสี สีมีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา สีที่ปรากฏอยู่ในโลกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. สีที่เกิดในธรรมชาติ มีอยู่ 2 ชนิด คือ (1 ) สีที่เป็นแสง (Spectrum) คือ สีที่เกิดจากการหักเหของแสง เช่น สีรุ้ง สี จากแท่งแก้ว ปริซึม เป็นต้น รูปที่ 6.2 สีที่เป็นแสง (ที่มา : https://quizizz.com)
(2) สีที่อยู่ในวัตถุ หรือเนื้อสี (Pigment) คือ สีที่มีอยู่ในวัตถุธรรมชาติทั่วไป เช่น สีของพืช สัตว์ หรือแร่ธาตุต่าง ๆ เป็นต้น รูปที่ 6.3 สีที่เป็นวัตถุธรรมชาติ (ที่มา : https://kmipc6.blogspot.com) 2. สีที่มนุษย์สร้างขึ้น สีที่ได้จากการสังเคราะห์ เพื่อใช้ประโยชน์ในงานต่าง ๆ ได้แก่ งานศิลปะ อุตสาหกรรม การพาณิชย์ และในชีวิตประจำวัน โดยสังเคราะห์จากวัสดุ ธรรมชาติ และจาก สารเคมี ที่เรียกว่า สีวิทยาศาสตร์ ซึ่งสีที่ได้จากการสังเคราะห์ สามารถนำ มาผสมกันให้เกิดเป็นสีต่าง ๆ ได้ อีกมากมาย รูปที่ 6.4 สีที่มนุษย์สร้างขึ้น (ที่มา : https://publishing-sicc.blogspot.com)
6.1.4 ประโยชน์ของสี 1. ภาพสีทำ ให้เกิดความน่าสนใจมากกว่าภาพขาวดำ 2. สีช่วยทำ ให้ภาพมีลักษณะเสมือนจริง 3. สีทำ ให้ผู้ดูรู้สึกเกิดอารมณ์ร่วมกับงาน นักออกแบบจึงมักใช้สีเพื่อทำ ให้ผู้ชม เกิดความรู้สึกตามที่ตนต้องการ 4. สีทำ ให้เกิดความเข้าใจ และสามารถจดจำ ภาพได้มากกว่างานขาวดำ 5. สีทำ ให้เกิดความประทับใจแก่ผู้ดู ในสมัยเริ่มแรก มนุษย์รู้จักใช้สีเพียงไม่กี่สี สีเหล่านั้นได้มาจากพืช สัตว์ ดิน แร่ธาตุต่าง ๆ เป็นสีที่พบ ทั่วไปในธรรมชาติ ต่อมาเมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการ มากขึ้น สีจึงได้ถูกนำ มาใช้กันอย่างกว้างขวางจากเดิม ที่เคยใช้สีเพียงไม่กี่สีเป็น สีตามธรรมชาติ ได้นำ มาซึ่งการประดิษฐ์คิดค้น และผลิตสีใหม่ ๆ ออกมาเป็น จำ นวนมากทำ ให้เกิดการสร้างสรรค์ความงามอย่างไม่มีขีดจำกัด 6.2.1 ความหมายของทฤษฎีสี ทฤษฎีสี (Theory of Colour) หมายถึง ลักษณะการกระทบต่อสายตา ให้เห็นเป็นสีมีผลถึง จิตวิทยา คือมีอำ นาจให้เกิดความเข้มของแสงที่กระตุ้น อารมณ์และความรู้สึก การที่ได้เห็นสีด้วยสายตา สายตาก็จะส่งความรู้สึกไป ยังสมอง ทำ ให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ ตามอิทธิพลของสี อย่างเช่น สดชื่น ร้อน หนาว ตื่นเต้น เศร้า เป็นต้น สีมีความหมายอย่างมาก เพราะศิลปินต้องการใช้สี เป็นสื่อสร้างความประทับใจ ในผลงานของศิลปะและสะท้อนความประทับใจนั้น ให้เกิดแก่ผู้ดู มนุษย์เกี่ยวข้องกับสีต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว นั้นล้วนแต่มีสีสันแตกต่างกันมากมาย 6.2 ทฤษฎีสี
6.2.2 แสงสีกับการมองเห็น สีที่เรามองเห็นสามารถเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมของสี และสภาพของแสง โดยในที่ที่มี แสงสว่างจัด ๆ สีจะดูอ่อนหรือจืดจางลง แต่ถ้าเป็นในที่ที่มีแสงสว่าง น้อยลง สีที่เรามองเห็นก็จะเข้มขึ้น และ ในที่ไม่มีแสงสว่างเลยเราก็จะมองเห็นสีต่าง ๆ เป็นสีดำ ถึงแม้จะมีความเข้มของแสงเหมือนกัน แต่ถ้ามี สภาพแวดล้อมของสีที่ แตกต่างกัน เช่น สีแสดที่อยู่บนพื้นสีดำจะดูอ่อนกว่าสีแสดที่อยู่บนพื้นสีขาว และสี ที่ อยู่บนพื้นสีที่ต่างกันจะดูมีความเข้มต่างกัน สีที่อยู่บนพื้นสีเข้มจะมองเห็นเด่นชัด กว่าสีที่อยู่บนพื้นสีสว่าง เป็นต้น 6.3 หลักการประยุกต์ใช้สีให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการออกแบบ ในงานออกแบบหรือการจัดภาพ หากผู้ใช้รู้จักใช้สีให้มีสภาพโดยรวมเป็น วรรณะร้อนหรือวรรณะเย็น ก็จะสามารถควบคุมและสร้างสรรค์ภาพให้เกิดความ ประสานกลมกลืน งดงามได้ง่ายขึ้น เพราะสีมีอิทธิพล ต่อมวลปริมาตร และช่อง ว่างสีมีคุณสมบัติที่ทำ ให้เกิดความกลมกลืนหรือขัดแย้งได้ สีสามารถขับเน้นให้ให้ เกิดจุดเด่นและการรวมกันให้เกิดเป็นหน่วยเดียวกันได้ ผู้ใช้สีต้องนำ หลักการต่าง ๆ ของสีไปกับเป้าหมายใน งานเพราะสีมีผลต่อการออกแบบ คือเมื่อต้องนำ หลักการ ต่าง ๆ ของสีไปประยุกต์ใช้สีให้สอดคล้องกับ เป้าหมายของการออกแบบ มีผลต่อ การออกแบบ ดังนี้ 6.3.1 สร้างความรู้สึก สีจะให้ความรู้สึกต่อผู้พบเห็นที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และภูมิหลังของแต่ ละคน สีบางสีสามารถรักษาบำ บัดโรคจิตบางชนิดได้ การใช้สี ภายใน หรือภายนอกอาคาร จะมีผลต่อการสัมผัสและสร้างบรรยากาศได้
6.3.2 สร้างความน่าสนใจ สีมีอิทธิพลต่องานศิลปะการออกแบบ สีช่วยสร้างความประทับใจ และความ น่าสนใจเป็นอันดับ แรกที่พบเห็น 6.3.3 สีบอกสัญลักษณ์ของวัตถ ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ หรือภูมิหลัง เช่น สีแดง สัญลักษณ์ของไฟ หรืออันตราย สีเขียวสัญลักษณ์แทนพืช หรือความปลอดภัย เป็นต้น 6.3.4 สีช่วยให้เกิดการรับรู้ และจดจำ งานศิลปะการออกแบบต้องการให้ผู้พบเห็นเกิดการจดจำ ในรูปแบบ และผลงาน หรือเกิด ความประทับใจ การใช้สีจะต้องสะดุดตา และมีเอกภาพ 6.3.5 สีช่วยให้เกิดทัศนวิสัยที่ดีเมื่อนำ มาใช้งานร่วมกันดังนี้ 1. สีอ่อนตัดกับสีแก่ 2. สีอ่อนตัดกับสีสดใส 3. สีอุ่นตัดกับสีเย็น 4. สีที่ตัดกันเองอยู่แล้วตามปกติ ได้แก่ (1) สีดำ บนพื้นเหลือง (2) สีเหลืองบนพื้นดำ (3) สีแดงบนพื้นขาว (4) สีเหลืองบนพื้นน้ำ เงิน (5) สีส้มบนพื้นน้ำ ตาล (6) สีชมพูบนพื้นดำ 6.4 ระบบสี การใช้สีกับงานกราฟิกในคอมพิวเตอร์ มีรายละเอียดหลายอย่างที่เป็นลักษณะ เฉพาะ ระบบสีของคอมพิวเตอร์ (Color Model) จะเกี่ยวข้องกับการแสดงผล แสงที่แสดงบนจอคอมพิวเตอร์ โดยมีลักษณะการ แสดงผล คือถ้าไม่มีแสดงผลสี ใดเลย บนจอภาพจะแสดงเป็นสีดำ หากสีทุกสีแสดงผลพร้อมกัน
จะเห็นสีบนจอภาพเป็นสีขาว ส่วนสีอื่น ๆ เกิดจากการแสดงสีหลาย ๆ สี แต่มีค่า แตกต่าง สีที่ใช้ในงานด้านกราฟิกทั่วไป มี 4 ระบบ คือ 6.4.1 ระบบสีอาร์จีบี (RGB = Read, Green, Blue) ระบบสีอาร์จีบีเป็นระบบสีของแสง ซึ่งเกิดจากการหักเหของแสงผ่านแท่งแก้ว ปริซึมจะเกิดแถบและความน่าสนใจเป็นหรืออันตราย สีเขียวเละผลงาน หรือเกิด สีที่เรียกว่า สีรุ้ง (Spectrum) ซึ่งแยกสีตามที่สายตามองเห็นได้ 7 สี คือ แดง แสด เหลือง เขียว น้ำ เงิน คราม ม่วง ซึ่งเป็นพลังงานอยู่ในรูปของรังสีที่มีช่วงคลื่นที่ สายตาสามารถมองเห็นได้ แสงสีม่วงมีความถี่คลื่นสูง ที่สุด คลื่นแสงที่มีความถี่สูง กว่าแสงสีม่วง เรียกว่า อัลตราไวโอเลต (Ultra Violet) คลื่นแสงสีแดงมีความถี่ คลื่นต่ำ ที่สุด คลื่นแสงที่ต่ำกว่าแสงสีแดงเรียกว่า อินฟราเรด (Infrared) คลื่นแสง ที่มีความถี่สูงกว่าสีม่วง และต่ำกว่าสีแดงนั้น สายตาของมนุษย์ไม่สามารถรับได้ และเมื่อศึกษาดูแล้ว แสงสีทั้งหมดเกิดจากแสงสี 3 สี คือ สีแดง (Red) สีน้ำ เงิน (Blue) และสีเขียว (Green) ทั้งสามสีถือเป็นแม่สีของแสง เมื่อนำ มาฉายรวมกัน จะทำ ให้เกิดสีใหม่อีก 3 สี คือ สีแดง สีฟ้า และสีเหลือง ซึ่งถ้าฉายแสงสีทั้งหมด รวมกันจะได้แสง สีขาว จากคุณสมบัติของแสงนี้ได้นำ มาใช้ประโยชน์ทั่วไปในการ ฉายภาพยนตร์ การบันทึกภาพวิดีโอ ภาพโทรทัศน์ การสร้างภาพเพื่อการนำเสนอ ทางจอคอมพิวเตอร์ และการจัดแสงสีในการแสดง รูปที่ 6.5 ระบบสีRGB (ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/RGB_color_model)
6.4.2 ระบบสีซีเอ็มวายเค (CMYK = Cyan, Magenta, Yellow, Black) ระบบสีซีเอ็มวายเคเป็นระบบสีชนิดที่เป็นวัตถุ คือ สีแดง เหลือง น้ำ เงิน แต่ ไม่ใช่สีน้ำ เงินที่เป็นสีวัตถุธาตุ แม่สีในระบบซีเอ็มวายเคเกิดจากการ ผสมของแม่สี ของแสง คือ แสงสีน้ำ เงิน + แสงสีเขียว = สีฟ้า แสงสีน้ำ เงิน + แสงสีแดง = สีแดงอมม่วง แสงสีแดง + แสงสีเขียว สีเหลือง รูปที่ 6.6 ระบบสีCMYK (ที่มา : https://www.nupress.grad.nu.ac.th/cmyk-and-rgb/) 6.4.3 ระบบสีเอชเอสบี (HSB = Hue Saturation Brightness) ระบบสีเอชเอสบีเป็นระบบสีพื้นฐานใน การมองเห็นสีด้วยของสายตามนุษย์ ประกอบด้วย ลักษณะของสี 3 ลักษณะ ได้แก่ ฮิว (Hue) แซตวเรชัน (Saturation) และไบรต์เนส (Brightness) รูปที่ 6.7 ระบบสีHSB (ที่มา : https://kdoore.gitbook.io/cs1335/project-1/hsb_color_mode)
A. สีขาว (Luminance = 100 (White)) B. ค่าของสีที่ไล่จากสีเขียวไปสีแดง (Green to Red Component) C. สีที่ไล่จากสีน้ำ เงินไปเหลือง (Blue to Yellow Component) D. สีดำ (Luminance = 0 (Black)) 1. ชิว (Hue) คือ สีต่าง ๆ ที่สะท้อนมาจากวัตถุแล้วเข้าสู่สายตา ทำ ให้สามารถ มองเห็นวัตถุ เป็นสีต่าง ๆ ได้ ซึ่งแต่ละสีจะแตกต่างกันตามความยาวของคลื่นแลง ที่มากระทบวัตถุและสะท้อนกลับที่สู่ สายตา ฮิวถูกวัดโดยตำแหน่งการแสดงสีบน มาตรฐานวงล้อสี (Standard Color Wheel) จะถูกแทนด้วย องศา 0 ถึง 360 องศา แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเรียกการแสดงนั้น ๆ เป็นชื่อของสี เช่น สีเขียว สีแดง สีน้ำ เงินเป็นต้น 2. แซตทิวเรชัน (Saturation) คือ ความสดของสี โดยค่าความสดของสีจะเริ่ม ที่ 0 ถึง 100 ถ้ากำ หนดแชตทิวเรชันที่ 0 สีจะมีความสดน้อย แต่ถ้ากำ หนดที่ 100 สี จะมีความสดมาก ถ้าถูกวัดโดย ตำแหน่งบนมาตรฐานวงล้อสี ค่าแซตทิวเรชันจะเพิ่ม ขึ้นจากจุดกึ่งกลางจนถึงเส้นขอบ โดยค่าที่เส้นขอบจะมีสีที่ชัดเจนและอิ่มตัวที่สุด 3. ไบรต์เนส (Brightness) คือ ระดับความสว่างของสี โดยค่าความสว่างของ สีจะเริ่มที่ 0 ถึง100 ถ้ากำ หนดที่ 0 ความสว่างจะน้อยซึ่งจะเป็นสีดำ แต่ถ้ากำ หนดที่ 100 สีจะมีความสว่างมากที่สุด ยิ่งมีค่า ไบรต์เนสมากจะทำ ให้สีนั้นสว่างมากขึ้น เช่น การเพิ่มปริมาณสีดำ เข้าไปในสีนั้นให้ดูเข้มขึ้น ได้แก่ การทำสีแดง อิฐ เมื่อเติมดำลง ไปในสีแดงจะเกิดความเข้มของสีเป็นสีแดงอิฐ เป็นต้น 6.4.4 ระบบสีแอลเอบี (LAB) ระบบลีแอลเอบีเป็นค่าสีที่กำ หนดขึ้นโดยซีไอดี (CIE = Commission Internationale de I’Eclairage) ให้เป็นสีมาตรฐานกลางของการวัดสีทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุกสีในอาร์จีบี (RGB) และซีเอ็ม วายเค (CMYK) และใช้ได้กับสีที่เกิดจาก อุปกรณ์ทุกอย่าง เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ เป็นต้น ส่วนประกอบของ โหมดสี ได้แก่ รูที่ 6.8 ระบบสี LAB (ที่มา : https://ghghos.wordpress.com)
แอล (L) หรือ ลูมินานซ์ (Luminance) เป็นการกำ หนดความสว่าง ซึ่งมีค่า ตั้งแต่ 0 ถึง 100 ถ้ากำ หนดที่ 0 จะกลายเป็นสีดำ แต่ถ้ากำ หนดที่ 100 จะเป็นสีขาว เอ (A) เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีเขียวไปยังสีแดง บี (B) เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีน้ำ เงินไปถึงเหลือง 6.5 โหมดสีในโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 การใช้โหมดสีในโปแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 มีจำ นวน 3 โหมด ได้แก่ โหมดสีอาร์จีบี (RGB)โหมดสีซีเอ็มวายเค (CMYK) และโหมดสีแอลเอบี (Lab) 6.5.1 โหมดสีอาร์จีบี (RGB) โหมดสีอาร์จีบี มีการกำ หนดค่าความเข้มของสี 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และ สีน้ำ เงิน ที่มาผสมกันทำ ให้เกิดสีต่าง ๆ บนจอคอมพิวเตอร์มากถึง 16.7 ล้านสี ซึ่ง ใกล้เคียงกับที่สายตาสามารถมองเห็นได้ ปกติ สีที่ได้จากการผสมนี้จะขึ้นอยู่กับ ความเข้มของสี โดยถ้าสีมีความเข้มมาก เมื่อนำ มาผสมกันจะทำ ให้ เกิดเป็นสีขาว เรียกระบบสีนี้ว่าการผสมสีแบบบวก (Additive) ภาพที่อยู่ในโหมดอาร์จีบี จะเป็น การซ้อนสีหลัก 3 ชั้น สามารถมองทะลุผ่าน 3 สีจนกลายเป็นภาพ 6.5.2 โหมดสีซีเอ็มวายเค (CMYK) โหมดสีซีเอ็มวายเค มีการกำ หนดค่าสีจากเปอร์เซ็นต์ความเข้มของสีมาสผม กัน 4 สี คือ สีฟ้า สีบานเย็นสดสีสองและสีดำ หรือสีขาว เป็นระบบสีที่ใช้กับเครื่อง พิมพ์ที่พิมพ์ออกทางกระดาษหรือ วัสดุผิวเรียบอื่น ๆ การนำสีมาผสมกันจะเกิดเป็นสีดำ แต่จะไม่ดำสนิท เนื่องจาก หมึกพิมพ์มีความไม่บริสุทธิ์ จึงเป็นการผสมสีแบบลบ (Subtractive) 6.5.3 โหมดแอลเอบี (LAB) การใช้โหมดแอลเอบี (Lab) มีค่า 3 ค่าที่ผู้ใช้ต้องกำ หนดคือ ค่าความสว่าง (L) ส่วนประกอบ ที่แสดงการไล่สีจากสีเขียวไปถึงสีแดง (a) และส่วนประกอบที่ แสดงการไล่สีจากสีน้ำ เงินไปถึงสีเหลือง (b)
6.5.4 การเปลี่ยนโหมดสีของวัตถ ุ การเปลี่ยนการทำ งานของโหมดสี ผู้ใช้สามารถทำการเปลี่ยนได้ด้วยการใช้พาเนลคัล เลอร์ (Panel Color) ดังขั้นตอนต่อไปนี้ 1. คลิกเลือกพาเนลคัลเลอร์ 2. คลิกเลือกสัญลักษณ์ 3. เลือกโหมดสีที่ต้องการ ได้แก่ แอลเอบี (LAB) ซีเอ็มวายเค (CMYK) และอาร์จีบี (RGB) 6.6 การใส่สีวัตถุ เมื่อผู้ใช้สร้างวัตถุได้ตามต้องการแล้ว การเพิ่มสีสันให้วัตถุมีความสวยงาม สามารถ ใส่สีพื้น (FII) และสีเส้น (Stroke) ด้วยคัลเลอร์พิกเกอร์ (Color Picker) จากกล่อง เครื่องมือ พาเนลคัลเลอร์ (Panel Color) และพาเนลสวอตเชส (Panel Swatches) 1 คลิกเลือกพาเนลคัลเลอร์ 2 คลิกเลือก 3 คลิกเลือกโหมดสีที่ต้องการ รูปที่ 6.9 การเปลี่ยนโหมดสีของวัตถุ
6.6.1 การใส่สีวัตถุจากกล่องเครื่องมือ การใส่สีวัตถุจากกล่องเครื่องมือ ประกอบด้วย การใส่สีพื้นและสีเส้น การใส่สีให้กับวัตถุ การใส่สีให้กับตัวอักษร การไล่โทนสีให้กับพื้นที่ หรือเส้นขอบวัตถุ การกำ หนดเพียงสีเดียวลงในพื้นที่ หรือเส้นขอบของวัตถุ ไม่มีการใส่สีลงในพื้นที่ 6.6.2 การใส่สีวัตถุจากคัลเลอร์ฟิกเกอร์ (Color Picker) 1. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี 2. คลิกเลือกสีพื้นและสีเส้นจากกล่องเครื่องมือ 2 ดับเบิลคลิกเพื่อใส่สีพื้นแลพเส้น 1 คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการ ใส่สี
3. ปรากฏหน้าต่างคัลเลอร์พิกเกอร์ 4. คลิกเพื่อกำ หนดค่าสี หรือเลื่อนสไลด์เพื่อเลือกโทนสี 5. เลือกกำ หนดค่าสีสำ หรับสิ่งพิมพ์ หรือกำ หนดค่าสีสำ หรับเว็บไซต์ 6. แสดงโทนสีที่เลือก 7. คลิกตกลงเพื่อเลือกใช้ธีตามที่กำ หนดค่า 3 เลือกสได์เลือกโทนสี 4 กำ หนดค่าโดยการคลิก 5 แสดงสีที่เลือก 6 แสดงสีเดิม 7 คลิกตกลง 8 ผลลัพธ์จากการใส่สี 8 ผลลัพธ์มัสีตามที่กำ หนด
6.6.3 การใส่สีวัตถุจากพาเนลคัลเลอร์ Panel Color) 1. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี 1คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี 2. คลิกเลือกพาเนลคัลเลอร์ 3. กำ หนดสีพื้นและสีเส้นจากกล่อง เครื่องมือ 4. เลื่อนแถบสไลด์เพื่อผสมสี 5. คลิกเลือกสีที่ต้องการ
6.6.4 การใส่สีวัตถุจากพาเนลสวอตเซส (Panel Swatches) 1. การเพิ่มสีเข้าไปในพาเนลสวอตเซส (1) คลิกเลือกสีจากพาเนลคัลเลอร์ 2) คลิกเลือกที่สวอตเชส (3) คลิกเมาส์ที่ เพื่อเพิ่มสีในพาเนล (4) สีใหม่จะเพิ่มในพาเนลสวอตเชส 2 4 3
2. การลบสีออกจากพาเนตสวอดเชส (1) คลิกเลือกพาเนลสวอดเซส เลือกสีที่ต้องการลบ (2) ลากสีที่ต้องการลบมาที่ (3) สีที่ต้องการลบจะหายไปจากสวอตเซส 1 2 3. การใส่สีให้กับวัตถุด้วยพาเนลสวอตเชส (1) คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี 1 (2) คลิกเลือกที่พาเนลสวยตเซส (3) คลิกเลือกสีที่ต้องการ (4) วัตถุจะมีสีตามที่กำ หนด 2 3
สีเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นคลื่นแสงชนิดหนึ่งที่ปรากฏให้เห็น สีแบ่งออก ได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ สีที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ความแตก ต่างกันของสีทำ ให้ผู้พบเห็นมีความรู้สึกและ อารมณ์ที่แตกต่างกัน เช่น สีแดงจะให้ ความรู้สึกอบอุ่น ร้อนแรง สีเขียว ให้ความรู้สึกร่มเย็น ความปลอดภัย สีน้ำ เงิน ให้ความรู้สึกสุขุม หนักแน่น เป็นต้น การใช้สีกับงานกราฟิกในคอมพิวเตอร์ จะเป็นลักษณะเฉพาะระบบสีของ คอมพิวเตอร์ จะเกี่ยวข้อง กับ การแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์ สีที่ใช้งานด้านกราฟิกมี 4 ระบบ ได้แก่ ระบบสีอาร์ จีบี เป็นระบบสีของ แสง ระบบสีซีเอ็มวายเค เป็นระบบสีชนิดที่เป็นวัตถุ ระบบสีเอช เอสบี เป็นระบบสีแบบการมองเห็นของ สายตามนุษย์ และระบบสีแอลเอบี เป็นระบบ สีที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์ ทุกอย่าง เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ เป็นต้น สรุปสาระสำ คัญ
ตอนที่ 1 จงทำ เครื่องหมายกากบาท (x) หน้าข้อที่ผิด และทำ เครื่องหมายถูก (1) หน้าข้อ ที่ถูก ..........1. สีเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่อยู่ในแสง สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ..........2. สีแบ่งตามแหล่งกำ เนิดสี ได้ 2 ชนิด คือ สีที่เป็นแสง และสีที่เป็นวัตถุ ..........3. สีน้ำ เงินแสดงถึงพลังอำ นาจ และความผูกพัน ..........4. ระบบสีแบบการมองเห็นของสายตามนุษย์คือระบบสีซีเอ็มวายเค (CMYK) ..........5. โหมดสีซีเอ็มวายเค (CMYK) ประกอบด้วย 3 สี คือ สีแดง สีเขียวและสีน้ำ เงิน ..........6. ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนโหมดสีได้จากพาเนลคัลเลอร์ (Panel Color) ..........7. เครื่องมืออายดร็อปเพอร์ทูล (Eyedropper Tool) ใช้คัดลอกสีจากวัตถุต้นแบบ ..........8. การสร้างภาพโปร่งแสงทำ ให้สามารถผสมสีในภาพนั้น ๆ ได้มากขึ้น ..........9. ค่าความโปร่งแสงของสีจะลดลงเมื่อกำ หนดค่าเปอร์เซ็นต์ให้ลดต่ำลง ..........10. จุดสีในพาเนลเกรเดียนต์ทำ หน้าที่ผสมสีให้กับวัตถุ ตอนที่ 2 จงนำ ตัวอักษรหน้าข้อด้านขวามือ เติมลงในช่องว่างหน้าตัวเลขด้านซ้ายมือให้มี ความหมายตรงกัน ..........1. สีที่อยู่ในวัตถุ ..........2. สีทำ ให้เกิดความประทับใจแก่ผู้ดู ..........3. สีให้ความรู้สึกสดใส เบิกบาน ..........4. สีเหลืองบนพื้นดำ ..........5. โหมดสีซีเอ็มวายเค (CMYK) ..........6. การใส่สีให้กับวัตถุ ..........7. การดึงสีของวัตถุอื่นมาใส่ในวัตถุที่เลือก ..........8. เกรเดียนต์ สวอตซ์ทูล (Gradient Swatch Tool) ..........9. Opacity ..........10. ระบบสีอาร์จีบี (RGB) แบบฝึกหัดหน่วยที่ 6 สีในสื่อสิ่งพิมพ์ ก. สีเหลือง ข. สีฟ้า สีบานเย็น สีดำ สีขาว ค. ง. สีของพืช จ. ไล่โทนสีให้กับวัตถุ ฉ. กำ หนดค่าความโปร่งแสง ช. ประโยชน์ของสี ซ. ระบบสีของแสง ฌ. สีที่ตัดกัน ญ. อายดร็อปเพอร์ทูล (Eyedropper Tool)
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 6 การเติมสีตามแบบ คำ ชี้แจง 1.ให้ผู้เรียนสร้างขึ้นงานตามต้นแบบที่กำ หนดให้ 2. ผู้สอนแจ้งโฟลเดอร์เก็บรูปภาพที่ใช้ประกอบการทำ ใบงาน 3. กำาหนดการวางเลย์เอาต์แบบสมดุลแบบสมมาตร เป็นการจัดวางองค์ประกอบด้าน ซ้ายและด้านขวาให้มี น้ำ หนักเท่ากัน แม้องค์ประกอบในชิ้นงานจะไม่เหมือนกันในแต่ละ ด้านแต่ก็เกิดความสมดุลกัน 4. เข้าสู่โปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 5. กำ หนดการตั้งค่าหน้ากระดาษดังนี้ 5.1 กำ หนดกระดาษ เป็นกระดาษขนาด เอ 4 5.2 กำ หนดเป็นเอกสารหน้าเดี่ยว 5.3 แนวกระดาษ กำ หนดเป็นแนวตั้ง 5.4 กำ หนดระยะขอบแต่ละด้าน กำ หนดด้านละ 1 นิ้ว 6. สร้างใบงานตามต้นแบบโดยใช้เครื่องมือต่อไปนี้ 6.1 เครื่องมือสร้างข้อความ 6.2 เครื่องมือสร้างวัตถุรูปทรงต่าง ๆ 6.3 การนำ รูปภาพภายนอกเข้ามาใช้ในโปรแกรม 6.4 เครื่องมือในการเติมสีให้แก่ข้อความ และวัตถุรูปทรงต่าง ๆ 7. ตกแต่งข้อความ รูปทรงต่าง ๆ และแทรกรูปภาพตามแบบ 8. บันทึกงานชื่อ Workshop6_1.Indd 9. พิมพ์ชิ้นงานทางเครื่องพิมพ์ ลงในกระดาษ เอ 4 (7.50 นิ้ว x 10.25 นิ้ว) 180 แกรม สี ขาว 10. ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่กำ หนด
ติดต่อเรา Print Shop @ รับพิมพ์งาน @ พิมพ์สี-ขาว @ ถ่ายเอกสาร @ เขียนรายงาน @ รับทำ นามบัตร @ การ์ดงานต่างๆ รับพิมพ์งาน แยกหอนาฬิกา : โทร. 077-511708
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 6 สีในสื่อสิ่งพิมพ์ คำสั่ง ให้นักเรียนเลือกคำ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำ ตอบเดียว 1. ข้อใดให้คำจำกัดความของสีได้ชัดเจนที่สุด ก. สีมีความไวกว่าแสง ข. สีคือลักษณะหนึ่งของแสง ค. สีคือลักษณะของสิ่งที่อยู่ในอากาศ ง. สีเกิดขึ้นจากการรวมตัวของฝุ่นละอองในอากาศ 2. ระบบสีใดเป็นระบบสีแบบการมองเห็นของสายตามนุษย์ ก. ระบบอาร์พีบี (RGB) ข. ระบบสีแอลเอบี (LAB) ค. ระบบสีเอชเอสบี (HSB) ง. ระบบสีซีเอ็มวายเค (CMYK) 3. การเปลี่ยนโหมดสีของวัตถุ ผู้ใช้โปรแกรมควรเลือกใช้พาเนลใด ก. คัลเลอร์ (Color) ข. พิกเกอร์ (Picker) ค. สวอตเซส (Swatches) ง. เกรเดียนต์ (Gradient) 4. ภาพเครื่องมือชนิดนี้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำ งานอย่างไร ก. กำ หนดไม่ให้มีสีพื้น ข. กำ หนดให้มีสีพื้นเพียงสีเดียว ค. กำ หนดการไล่โทนสีให้กับสีพื้น ง. กำ หนดการใส่สีให้กับตัวอักษรและวัตถุ 5. จากภาพเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำ งานในลักษณะใด ก. ใช้ในการไล่ระดับสี ข. เป็นการลดสีในพาเนล ค. ปรับพื้นวัตถุให้เป็นสีขาว ง. เป็นการเพิ่มสีในพาเนล
6. เครื่องมือเกรเดียนตัสวอตซ์ทูล (Gradient Swatch Tool) ใช้ในการไล่โทนสีอย่างไร ก. กำ หนดตำแหน่ง ข. กำ หนดแนวทางการระบายสี ค. กำ หนดทิศทางการกระจายตัวของสี ง. กำ หนดการใช้แม่สีในส่วนต่าง ๆ ของวัตถุ 7. ระบบสีอาร์จีบี ประกอบด้วยสีใดบ้าง ก. สีแดง สีเทา สีน้ำ เงิน ข. สีแดง สีเขียว สีดำ ค. สีแดง สีฟ้า สีดำ ง. สีแดง สีเขียว สีน้ำ เงิน 8. ค่าไบรทเนส (Brightness) เป็นการกำ หนดค่าสีในข้อใด ก. ระดับความสดของสี ข. ระดับความสว่างของสี ค. ระดับการสะท้อนสีจากวัตถุ ง. ระดับความเข้มของสี 9. พาเนลในข้อใดใช้ในการเปลี่ยนโหมดสี ก. Panel Picture ข. Panel Swatches ค. Panel Gradient ง. Panel Color 10. ข้อใดแสดงคำสั่งการสร้างภาพโปร่งแสงจากคำสั่งหลักได้ถูกต้อง ก. Layout > Select > Opacity ข. Layout > Effects > Opacity ค. Object > Select Opacity ง. Object > Effects > Opacity