วิวิทวิวิยาศาสตร์ าศาสตร์ วิวิวิวิทยาลัลัลัลัยเทคโนโลยียียียีการจัจัจัจัดการเพชรเกษม และเเสวงหาความรู้ Books โ ค ร โ ม โ ซ ม ใ น ตัตั ตัตั ว เ ร า เปิดเพื่อพื่เรียรีนรู้
การจัจั จั ด จั ดกิกิกิจกิกรรมการเรีรีย รีรี นการสอนให้ห้ ห้ มี ห้ มี มีปมี ระสิสิสิทสิธิธิธิภธิาพนั้นั้ นั้ น นั้ น มีมี มี ค มี ความจาเป็ป็ป็ นป็ นที่ที่ ที่ จ ที่ จะต้ต้ ต้ อ ต้ องพัพั พั ฒ พั ฒนา คุคุ คุ ณ คุ ณภาพด้ด้ ด้ า ด้ านกระบวนการ แสวงหาความรู้รู้รู้รู้ การคิคิคิดคิและการแก้ก้ ก้ปัก้ปัปั ญ ปั ญหา การทากิกิกิจกิกรรม ที่ที่ ที่ใที่ ช้ช้ ช้ เ ช้ เทคนินินิคนิการสอนเชิชิชิงชิรุรุรุรุ กที่ที่ ที่ ส่ที่ ส่ส่งส่เสริริมริริศัศั ศั ก ศั กยภาพการเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ วิวิทวิวิยาศาสตร์ร์ ร์ร์(Active Teaching and Learning Approaches in Science : ATLAS) มาใช้ช้ ช้ใช้ นการจัจั จั ด จั ดการ เรีรีย รีรี น การสอน ซึ่ซึ่ ซึ่ ง ซึ่ งเป็ป็ป็ นป็ นเทคนินินิคนิการจัจั จั ด จั ดการเรีรีย รีรี นการสอนที่ที่ ที่ ผู้ ที่ ผู้ผู้สผู้ อนมีมี มี ค มี ความกระตืตื ตื อ ตื อรืรือ รืรื ร้ร้ ร้ น ร้ นที่ที่ ที่ จ ที่ จะสอน และผู้ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี นมีมี มี ค มี ความกระตืตื ตื อ ตื อรืรือ รืรื ร้ร้ ร้ น ร้ น และพอใจที่ที่ ที่ จ ที่ จะเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ โดยเน้น้ น้ น น้ นให้ห้ ห้ ผู้ ห้ ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี นเป็ป็ป็ นป็ นผู้ผู้ผู้ค้ผู้ค้ ค้ น ค้ นหาความรู้รู้รู้รู้ แสวงหาคาตอบหรืรือ รืรื ข้ข้ ข้ อ ข้ อสงสัสั สั ย สั ย รู้รู้รู้รู้ จั รู้ จั จั ก จั กใช้ช้ ช้ วิ ช้ วิจวิวิารณญาณ แลกเปลี่ลี่ ลี่ ย ลี่ ยนประสบการณ์ณ์ ณ์ณ์ ความรู้รู้รู้รู้ สามารถแสดงความคิคิคิดคิออกมาเป็ป็ป็ นป็ นผลงาน และมีมี มี ก มี การนาเสนอ ความคิคิคิดคิและผลงาน ต่ต่ต่าต่งๆ ตัตั ตั ว ตั วอย่ย่ย่าย่งเทคนินินิคนิการเรีรีย รีรี นการสอนเชิชิชิงชิรุรุรุรุ กที่ที่ ที่ ส่ที่ ส่ส่งส่เสริริมริริศัศั ศั ก ศั กยภาพการเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ วิ รู้ วิทวิวิยาศาสตร์ร์ ร์ร์ เช่ช่ช่นช่ การอ่อ่อ่าอ่นที่ที่ ที่ แ ที่ แสดงออกถึถึ ถึ ง ถึ ง ความเข้ข้ ข้ า ข้ าใจได้ด้ ด้ด้ การเขีขี ขี ย ขี ยนอย่ย่ย่าย่งสร้ร้ ร้ า ร้ างสรรค์ค์ ค์ค์ การระดมสมอง การ อภิภิภิปภิรายกลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ การแสดงบทบาทสมมติติติติการสร้ร้ ร้ า ร้ าง สถานการณ์ณ์ ณ์ จ ณ์ จาลองกระบวนการทาง วิวิทวิวิยาศาสตร์ร์ ร์ ที่ ร์ ที่ ที่ เ ที่ เป็ป็ป็ นป็ นนามธรรมให้ห้ ห้ เ ห้ เป็ป็ป็ นป็ นรูรูรูรู ปธรรม รวมถึถึ ถึ ง ถึ งการทดลองที่ที่ ที่ ผู้ ที่ ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี นมีมี มีโมี อกาส ออกแบบ และวางแผนการทดลองเอง ซึ่ซึ่ ซึ่ ง ซึ่ งหัหั หั ว หั วใจสาคัคั คั ญ คั ญของการเรีรีย รีรี นการสอนด้ด้ ด้ ว ด้ วยเทคนินินิคนิการสอนเชิชิชิงชิ รุรุรุรุ กที่ที่ ที่ ส่ที่ ส่ส่งส่เสริริมริริศัศั ศั ก ศั กยภาพ การเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ วิ รู้ วิทวิวิยาศาสตร์ร์ ร์ร์ คืคื คื อ คื อ การสร้ร้ ร้ า ร้ างโอกาสให้ห้ ห้ ผู้ ห้ ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี นเป็ป็ป็ นป็ นผู้ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ เองและเป็ป็ป็ นป็ นเจ้จ้ จ้ า จ้ าของ หรืรือ รืรื มีมี มี ส่มี ส่ส่วส่นเป็ป็ป็ นป็ นเจ้จ้ จ้ า จ้ าของผลงาน ดัดั ดั ง ดั งนั้นั้ นั้ น นั้ นการใช้ช้ ช้ เ ช้ เทคนินินิคนินี้นี้ นี้นี้ในชั้ชั้ ชั้ น ชั้ นเรีรีย รีรี นครูรูรูรู ผู้ผู้ผู้ผู้ สอนจึจึ จึ ง จึ งเปลี่ลี่ ลี่ ย ลี่ ยนบทบาทจากการเป็ป็ป็ นป็ นผู้ผู้ผู้ใผู้ห้ห้ ห้ ค ห้ ความรู้รู้รู้รู้ ม รู้ มาเป็ป็ป็ นป็ นผู้ผู้ผู้ที่ผู้ที่ ที่ ส่ที่ ส่ส่งส่เสริริมริริและให้ห้ ห้ ก ห้ กาลัลั ลั ง ลั งใจ ผู้ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี นใน การเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ และแสวงหาความรู้รู้รู้รู้ ด้ รู้ ด้ ด้ ว ด้ วยตนเอง โดยที่ที่ ที่ ค ที่ ครูรูรูรู ผู้ผู้ผู้สผู้ อนต้ต้ ต้ อ ต้ องมีมี มี ทั มี ทั ทั ก ทั กษะในการใช้ช้ ช้ ค ช้ คาถาม กา รส่ส่ส่งส่เลสริริมริริให้ห้ ห้ ผู้ ห้ ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี น สร้ร้ ร้ า ร้ างสรรค์ค์ ค์ ชิ้ ค์ ชิ้ชิ้นชิ้งาน แสดงออกซึ่ซึ่ ซึ่ ง ซึ่ งความคิคิคิดคิและผู้ผู้ผู้สผู้ อนให้ห้ ห้ คุ ห้ คุ คุ ณ คุ ณค่ค่ค่าค่ต่ต่ต่อต่ความ คิคิคิดคิและผลงานของผู้ผู้ผู้เผู้รีรีย รีรี น รวมทั้ทั้ ทั้ ง ทั้ งการติติติดติตาม ดูดู ดู แ ดู แลด้ด้ ด้ ว ด้ วยความเข้ข้ ข้ า ข้ าใจ เพื่พื่ พื่ อ พื่ อให้ห้ ห้ บ ห้ บรรลุลุลุ ผ ลุ ผลตาม ความมุ่มุ่มุ่งมุ่ หมายของการจัจั จั ด จั ดการเรีรีย รีรี นการสอน ชุชุชุ ด ชุ ดกิกิกิจกิกรรมส่ส่ส่งส่เสริริมริริการเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ ท รู้ ทางวิวิทวิวิยาศาสตร์ร์ ร์ ด้ ร์ ด้ ด้ ว ด้ วยเทคนินินิคนิ ATLAS จัจั จั ด จั ดทาขึ้ขึ้ ขึ้ น ขึ้ นเพื่พื่ พื่ อ พื่ อประกอบ การจัจั จั ด จั ดการเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ ในหน่น่น่วน่ยการเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ เ รู้ เรื่รื่รื่อรื่รื่รื่ ง พัพั พั น พั นธุธุธุ ก ธุ กรรม รายวิวิชวิวิาวิวิทวิวิยาศาสตร์ร์ ร์ร์ รหัหั หั สหั สวิวิชวิวิา ว23102 ระดัดั ดั บ ดั บชั้ชั้ ชั้ น ชั้ นมัมั มั ธ มั ธยมศึศึ ศึ ก ศึ กษาปีปีปี ที่ ปี ที่ ที่ที่3 ชุชุชุ ด ชุ ดกิกิกิจกิกรรม ส่ส่ส่งส่เสริริมริริการเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ ท รู้ ทางวิวิทวิวิยาศาสตร์ร์ ร์ ด้ ร์ ด้ ด้ ว ด้ วย เทคนินินิคนิ ATLAS ชุชุชุ ด ชุ ดที่ที่ ที่ที่1 เรื่รื่รื่อรื่รื่รื่ ง หน่น่น่วน่ยพัพั พั น พั นธุธุธุ ก ธุ กรรม ใช้ช้ ช้ ก ช้ กระบวนการจัจั จั ด จั ดการเรีรีย รีรี นรู้รู้รู้รู้ คำคำ คำคำ นำนำนำนำ
สารบัญ บั เรื่อ รื่ ง หน้า คำ นำ ก สารบัญ ข เนื้อหาเรื่อ รื่ ง โครโมโซม 1 ลักษณะของโครโมโซม 3 การค้นพบโครโมโซม 2 รูปร่างของโครโมโซม 4 คำ ศัพท์ภาษาอังกฤษ 5
ลักษณะทางพันธุกรรมถูกควบคุมโดยยีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอ ดีเอ็นเอเป็น ส่วนหนึ่งของโครโมโซมซึ่งอยู่ในนิวเคลียส ยีนเป็นหน่วยย่อยที่เล็กที่สุดทาง พันธุกรรม ยีนที่ควบคุมลักษณะของสิ่งมีชีวิตวิเรีย รี กว่าว่จีโนไทป์ ลักษณะที่ปรากฏ ออกมา เรีย รี กว่าว่ ฟีโนไทป์ การศึกษาการถ่ายทอดพันธุกรรม เรีย รี กว่าว่พันธุศาสตร์ (Genetics) ส่วน ยีน (Gene) เป็นข้อมูลทางพันธุกรรมที่เรีย รี งอยู่บนโครโมโซมในนิวเคลียสโดยมีจำ นวน มากมายเรีย รี งต่อกันเป็นสายคล้ายลูกปัด ยีนของพ่ออยู่ภายในนิวเคลียสของเซลล์อสุจิ และยีนของแม่อยู่ภายในนิวเคลียสของ เซลล์ไข่เมื่อมีการสืบพันธุ์เซลล์อสุจิและเซลล์ไข่จะเกิดปฎิสนธิซึ่งเป็นเซลล์เริ่มริ่ต้นของ สิ่งมีชีวิตวิใหม่หรือ รื ก็คือ “ลูก” โครโมโซม (Chromosome) เป็นเส้นใยเล็กๆ ประกอบด้วยโปรตีน โครโมโซมของ สิ่งมีชีวิตวิแต่ละชนิดจะมีจํานวนคงที่และไม่เท่ากับโครโมโซมของสิ่งมีชีวิตวิอื่นครโมโซม ในเซลล์ร่างกายของสิ่งมีชีวิตวิมีรูปร่างลักษณะเหมือนกันเป็นคู่ๆ แต่ละคู่เรีย รี กว่าว่ฮอม อโลกัสโครโมโซม (Homologous Chromosome) โครโมรโซม(chromosome) 1
ประมาณ ค.ศ. 1860 เกรกอร์ เม็นเดิล (Gregor Mendel) ได้ศึกษาลักษณะต่าง ๆ ของต้นถั่วลันเตา ที่มีการถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่ง ไปยังต้นถั่วที่ปลูกในรุ่นถัดไป เขาตั้ง สมมุติฐานว่าว่มีอะไรบางอย่าง นำ ลักษณะต่าง ๆ จากรุ่นพ่อแม่ ไปสู่รุ่นลูก หน่วยพันธุกรรมที่เม็นเดิลค้นพบนั้น เม็นเดิลไม่ได้มองเห็นหน่วยพันธุกรรมจริงริเพียงแต่ อาศัยข้อมูล ที่ได้จากการทดลอง และหาเหตุผลทางคณิตศาสตร์ หน่วยพันธุ์กรรมที่ เม็นเดิลค้นพบ เป็นเพียงนามธรรมเท่านั้น (และเขาก็ไม่ได้ใช้คำ ว่าว่ยีน หรือ รื หน่วย พันธุกรรม โดยตรง) ในขณะที่เม็นเดิลค้นคว้า ว้ อยู่นั้น นักชีววิทวิยากลุ่มหนึ่งที่ใช้กล้องจุลทรรศน์ เป็นเครื่อ รื่ ง ค้นคว้า ว้ ได้พบรายละเอียดของเซลล์มากขึ้น จนกระทั่ง ค.ศ. 1889 นักชีววิทวิยาจึง สามารถ เห็นรายละเอียดภายในนิวเคลียส ขณะที่มีการแบ่งเซลล์ ได้พบว่าว่ภายใน นิวเคลียส มีโครงสร้างที่ติดสีได้และมีลักษณะเป็นเส้นใย เรีย รี กว่าว่ โครโมโซม (Chromosome) ปี ค.ศ.1902 หลังจากการค้นพบผลงานของเม็นเดิล 2 ปี วอลเตอร์ ซัตตัน นักชีววิทวิยา ชาวอเมริกัริกั น และ เทโอดอร์ โบเฟรี นักชีววิทวิยาชาวเยอรมัน ได้เสนอว่าว่ "หน่วยพันธุ์ กรรมที่เม็นเดิลค้นพบ อยู่ในโครโมโซม" ซัตตันได้ศึกษาเซลล์ในอัณฑะตั๊กแตนและเสนอ ไว้ว่ ว้ าว่ โครโมโซม ที่เข้าคู่กันในขณะที่มีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส จะแยกจากกันไปอยู่ ต่างเซลล์กัน เหมือนการแยกของยีนที่เป็นแอลลีนกัน ตามกฎแห่งการแยกตัว จึงสรุป ได้ว่าว่ยีนอยู่บนโครโมโซม ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ในสมัยนั้น การค้ค้น ค้ น ค้ พบโครโมโซม 2
โครโมโซมเป็นโครงสร้างที่อยู่ในนิวเคลียสของเซลล์ ใน ขณะที่เซลล์ไม่แบ่งตัว โครโมโซมจะยืดยาวออกคล้าย เส้นใยเล็ก ๆ สานกันอยู่ในนิวเคลียส เมื่อมีการแบ่งเซลล์จะ มีการแบ่งโครโมโซม โดยโครโมโซมจะจำ ลองตัวเองขึ้นมา เป็นเส้นคู่ที่เหมือนกันทุกประการ แล้วค่อย ๆ ขดตัวสั้นเข้า โครโมโซมจะโตมาก การศึกษาโครโมโซมจึงต้องศึกษาใน ระยะแบ่งเซลล์ ถ้ามีเทคนิคในการเตรีย รี มที่ดี ก็จะสามารถ มองเห็นรูปร่างลักษณะ ของโครโมโซมจาก กล้องจุลทรรศน์ และอาจนับจำ นวนโครโมโซมได้ โครโมโซมอยู่ในลักษณะเป็นเส้นใยเล็ก ๆ สานกันอยู่ใน นิวเคลียส เส้นใยนี้เรีย รี กว่า ว่ โครมาทิน (Chromatin) แต่ เมื่อเซลล์จะแบ่งตัวโครมาทินแต่ละเส้นจะแบ่งจาก 1 เป็น 2 เส้น แล้วขดตัวสั้นเข้า และหนาขึ้นจนมองเห็นเป็นแท่งในระ ยะโพรเฟส และ เมทาเฟส และเรีย รี กชื่อใหม่ว่า ว่ โครโมโซม ทำ ให้เรามองเห็นรูปร่างลักษณะและจำ นวนโครโมโซมได้ โครโมโซมที่เห็นได้ชัดในระยะเมทาเฟต ประกอบด้วย โค รมาทิด 2 อัน ยึดติดกันตรงเซนโทรเมียร์ ส่วนของ โครโมโซมที่ยื่นออกไปจากเซนโทรเมียร์ เรีย รี กว่า ว่ แขน อันสั้นเรีย รี กว่า ว่ แขนสั้น อันยาวเรีย รี กว่า ว่ แขนยาว ลัลั ลั ก ลั กษณะของโครโมโซม 3
โครโมโซมแบบเทโลเซนทริก ริ (Telocentric chromosome) เป็น โครโมโซมที่มีเซนโทรเมียร์อยู่ตรปลายสุด ทำ ให้มองเห็นโครโมโซมเป็น แท่งหรือ รื แขนเพียงข้างเดียว โครโมโซมแบบอะโครเซนทริก ริ (Acrocentric chromosome) เป็น โครโมโซมที่มีเซนโทรเมียร์อยู่ค่อนข้างไปทางส่วนปลายด้านใดด้านหนึ่ง ทำ ให้มองเห็นโครโมโซมเป็นแท่งเช่นกัน แต่มีแขน 2 ข้างยาวแตกต่าง กันมาก โครโมโซมแบบซับเมทาเซนทริก ริ(Submetacentric chromosome) เป็นโครโมโซมที่มีเซนโทรเมียร์ไม่อยู่ตรงกลาง ทำ ให้แขน 2 ข้างยาวไม่ เท่ากัน มองเห็นคล้ายรูปตัวเจ (J) โครโมโซมแบบเมทาเซนทริก ริ (Metacentric chromosome) เป็น โครโมโซมที่มีเซนโทรเมียร์อยู่ตรงกลางพอดี ทำ ให้แขน 2 ข้างยาวเท่า กัน มองเห็นคล้ายรูปตัววี (V) โครโมโซมเป็นโครงสร้างที่อยู่ในนิวเคลียสของเซลล์ ในภาวะปกติจะมองไม่ เห็นโครโมโซม เพราะมีสภาพเป็นเส้นใยขนาดเล็กๆ สานกันอยู่ภายใน นิวเคลียส เมื่อเข้าสู่ระยะการแบ่งเซลล์จะมีการจำ ลองเส้นใยโครมาทินขึ้นมา เป็นเส้นคู่ที่เหมือนกัน และมีการขดตัวพันกันจนมองเห็นเป็น 2 แท่งติดกัน ซึ่งจะเห็นชัดเจนที่สุดในระยะเมทาเฟส ระยะนี้โครโมโซม 1 โครโมโซมจะ ประกอบด้วย 2 โครมาทิด (Chromatid) ซึ่งติดกันอยู่ที่เซนโทรเมียร์ (Centromere) จากตำ แหน่งของเซนโทรเมียร์มีผลทำ ให้โครโมโซมมีรูป ร่างแตกต่างกัน 4 แบบ คือ 1. 2. 3. 4. รูรูป รู ป รู ร่ร่า ร่ า ร่ งโครโมโซม 4
Genetics พันธุ์ศธุ์ าสตร์ Genetics character ลักษณะทางพันธุก ธุ รรม Genetics variation ความแปรผันทางพันธุก ธุ รรม Chromsome โครโมโซม Dna ดีเอ็นเอ Gene ยีน Genotype ฟีโนไทป์ Locus โลคัส Alleie แอลีล Homozygous พันธุ์ทธุ์ าง Backcross การผสมกลับ Incompletedominace การซ่มแบบไม่สมบูรณ์ Codominance การซ่มร่วมกัน X-link gene ยีนที่เกี่ยวเนื่องกับ X Hemoohilia โรคอีโมฟีเลีย Pedigree พงศาวลี Linked gene ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน Sex limitedtrait พันธุก ธุ รรมจำ กัดเพศ Dominant อัลลีลเด่น Mutation การกลาย Homzygous dominant สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเด่นพันธุ์แธุ์ ท้ Edwards syndrome เอ็ดเวิร์ดซินโครม Color blindness ตาบอดสี Down’s syndrome ดาวน์ซินโดรม Thalassemia โรคธาลัสซีเมีย Leukemia โรคลูคิเมีย Autosome โรคที่เกิดจากความผิดปกติบนออโตโซม Sex chromosome โรคที่เกิดจากความผิดปกติในโครโมโซมเพศ Dysgenic เกี่ยวกับความผิดปกติในการถ่ายทอดพันธุก ธุ รร คำคำคำคำคัคัพ คั พ คั ท์ท์อั ท์ อั ท์ ง อั ง อั กฤษ 5
บรรณานุนุก นุ ก นุ รม https://www.trueplookpanya.com/ learning/detail/34012
จัดทำ โดย นางสาวเย็นฤดี ตั้งสายัณห์ ปวช.2/8 เลขที่ 32 จบแย้วย้วบุยบุ ยๆ Chromosome