ตารางกาหนดการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
หน่วยท่ี ๑๐ รว่ มแรง ร่วมใจ เวลา ๗ ชวั่ โมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๗ ช.ม
๑. บอกความสาคัญของบทร้อยกรองได้ รว่ มแรง รว่ มใจ ๗
๒. อา่ นและบอกใจความของบทรอ้ ยกรองได้ - การอ่านบทรอ้ ยกรอง ๑
๓. บอกคาคล้องจองได้ - การอ่านออกเสียง ๑
๔. อา่ นออกเสยี งเน้อื หาในบทเรียนได้ - การอ่านบทอา่ นเสรมิ ๑
๕. สรุปเรื่องราวทอ่ี ่านได้ “ เรอ่ื งของมด”
๖. บอกความหมายของคายากในบทอา่ นได้ - อ่านเพิ่ม เติมความหมาย ๑
๗. อ่านและเก็บใจความสาคญั ของเรอื่ งได้ - คาอุทาน ๑
๘. คิด วิเคราะห์สรปุ เรื่องราวทอ่ี ่าน - การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง ๑
๙. ตัง้ คาถาม – ตอบคาถามเร่ืองทีอ่ ่านได้ - การฟัง การดแู ละอ่านขา่ ว ๑
๑๐. อา่ น เขยี นสะกดคาในบทเรียนได้
๑๑. อา่ น เขยี นสะกดคาในบทเรยี นได้
๑๒. บอกความหมายของคาได้
๑๓. นาคาไปใช้ได้ถกู ตอ้ งตามสถานการณ์
๑๔. บอกความหมายของคาอทุ านได้
๑๕. ใช้คาอทุ านได้ถูกต้องตามบรบิ ท
๑๖. สรปุ ใจความสาคัญของเรอ่ื งได้
๑๗. เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งได้
๑๘. บอกหลักการฟงั ดู อา่ น ข่าวได้
๑๙. แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เร่ืองที่ดู ฟัง และขา่ วท่ี
อ่านได้
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕๗ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
หนว่ ยท่ี ๑๐ รว่ มแรง รว่ มใจ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ เวลา ๗ ช่วั โมง
เร่อื ง การอา่ นบทร้อยกรอง เวลา ๑ ช่วั โมง
โรงเรยี นบา้ นปงตา
ผ้สู อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปญั หา
ในการดาเนินชวี ิต และมีนิสัยรักการอ่าน
๑. สาระสาคัญ
ความคดิ รวบยอด
บทร้อยกรองของไทยได้แทรกซึมไปในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศโฆษณา การตั้ง
คาขวัญของจังหวัด การบันทึกข้อความ การเขียนคติเตือนใจ สานวน ภาษิต ล้วนใช้บทร้อยกรอง
ทัง้ ส้ิน เน่ืองจากบทร้อยกรองทาให้ผ้อู ่านหรือผู้ฟังเกดิ ความซาบซึ้งประทับใจ และสามารถจดจาได้
เรว็
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง
๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกความสาคัญของบทร้อยกรองได้
๓.๒ นักเรยี นอ่านและบอกใจความของบทรอ้ ยกรองได้
๓.๓ นกั เรยี นบอกคาคล้องจองได้
๔. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝเ่ รียนรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๔.๔ มีวนิ ยั
๕. สาระการเรยี นรู้
- การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของบทร้อยแกว้
และบทร้อยกรอง
- การอา่ นบทร้อยกรอง
- คาคล้องจอง
๖. กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นท่ี ๑ ครูช้ีแจงความสาคัญของภาษาไทย ลาดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จดุ ประสงค์ และสิง่ ท่ีนกั เรียนตอ้ งเตรยี ม ในชัว่ โมงนีใ้ ห้นักเรียนรับทราบ
ข้ันท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขียน
คาศพั ทใ์ หม่ลงในสมดุ พรอ้ มกนั ในชนั้ เรยี น และเรียบร้อย สวยงาม
ขั้นท่ี ๓ นักเรียนอ่านบทร้อยกรองในหนังสือเรียนชุดภาษาพาที บทท่ี ๕ หน้า ๗๗ ด้วย
เสียงธรรมดาพร้อมกันหลาย ๆ รอบจนคล่อง จากนน้ั อ่านบทร้อยกรองทานองเสนาะพร้อมกับครูฝึก
อา่ นทานองเสนาะ พร้อมกนรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกับเน้ือหาสาระของบทร้อยกรองในบทนก้ี ลา่ วถึงเรือ่ ง
ใด ให้นกั เรียนแขง่ ขนั กันตอบ ครูอธิบายสรุป
ข้ันท่ี ๔ สนทนาเก่ยี วกับเนื้อหาของบทร้อยกรอง ครอู ธิบายให้นักเรยี นฟงั ว่า บทรอ้ ยกรองนี้
เป็นคาประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ มีความหมายในการสรุปบทเรียนแต่ละบท เป็นหัวเร่ือง
ชแ้ี จงให้เราทราบว่าในบทเรียนนั้นๆมีเนือ้ หาเก่ียวกบั อะไรบ้าง ครูต้งั คาวา่ ในบทเรียนท่ี ๕ นเี้ ก่ียวกับ
เรอื่ งใด ให้นักเรียนแขง่ ขันกนั ตอบ
ขั้นท่ี ๕ นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๔๖ ทาพร้อมกันในชั้นเรียน จากน้ันนาส่งครู
ครูเฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
๗. ช้ินงาน / หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. เขยี นตามคาบอก
๒. แบบฝกึ หัดทา้ ยบท หน้า ๔๖
๘. สือ่ / แหลง่ การเรยี นรู้
๑. บทรอ้ ยกรอง
๒. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์และผลงานรายบุคคล
๙. วดั ผลประเมนิ ผล วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื วัดผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สงั เกต - เขยี นตามคาบอก
• ด้านความรู้ความเขา้ ใจ - ซักถาม - แบบฝกึ หดั ท้ายบท หนา้ ๔๖
- การตอบคาถาม - ตรวจใบงาน - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ
ประสงค์ กจิ กรรม
• ด้านทกั ษะกระบวนการคดิ - ประเมินการร่วมสนทนา แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
การร่วมสนทนา
๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมินผล
๑) เกณฑ์ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงคร์ ายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดบั คอื
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕
เกณฑ์การผ่านตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรือได้คะแนน ๖ ขึ้นไป
๒) เกณฑ์การประเมินการทาแบบฝึกหัดท้ายบท มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ข้ึนไป
๓) เกณฑ์การประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านต้องได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขึน้ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๕๘ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕
หนว่ ยท่ี ๑๐ รว่ มแรง รว่ มใจ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ เวลา ๗ ชัว่ โมง
เรอื่ ง การอ่านออกเสียง เวลา ๑ ชว่ั โมง
โรงเรียนบ้านปงตา
ผสู้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระที่ ๑ การอา่ น ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนินชีวิต และมนี สิ ัยรักการอ่าน
๑. สาระสาคัญ
ความคิดรวบยอด
การอ่านออกเสียงเป็นการอ่านที่สามารถให้ผู้ฟังเข้าใจในเรื่องท่ีอ่านควรอ่านออกเสียงให้
ถูกต้องและชัดเจนและปฏิบัติตนในการอ่านให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์จึงจะทาให้อ่านได้คล่องและมี
ความมั่นใจ
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
๒. ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง
๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ นกั เรยี นอ่านออกเสยี งเนื้อหาในบทเรียนได้
๓.๒ นักเรยี นสรุปเรอ่ื งราวท่อี ่านได้
๓.๓ นักเรยี นบอกความหมายของคายากในบทอ่านได้
๔. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี นิ ัย
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรยี นรู้
- การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรอง
- อา่ นออกเสียงบทเรียนเร่ือง รว่ มแรง ร่วมใจ
- คาใหมใ่ นบทเรียน
๖. กระบวนการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ ๑ ทบทวนเนอื้ หาท่เี รียนในช่วั โมงที่แลว้
ขั้นที่ ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขียนคา
ใหมล่ งในสมุดดา้ นหลงั
ข้ันท่ี ๓ ให้นักเรียนเล่นเกมทาย “ อะไรเอ่ย” โดยครูใช้แผนภูมิคาถามติดบนกระดานดา
ใหแ้ ต่ละกล่มุ ชว่ ยกันหาคาตอบคาถามดงั นี้
๑) อะไรเอย่ อยหู่ นา้ โรงเรยี นประจา
๒) อะไรเอย่ ยงิ่ ตอ่ ย่งิ สั้น
๓) คนทปี่ ระกอบอาชพี ใดทคี่ าพูดน่าเช่ือถือมากที่สุด
๔) นกอะไรเอ่ยไม่มตี วั ผู้
๕) อะไรเอ่ยสูงท่สี ดุ ในประเทศไทย
๖) อะไรเอย่ ไมม่ ีกระดกู แต่ลกุ ได้
๗) อะไรเอ่ยอยกู่ ลางแม่น้า ‘เจ้าพระยา’
นกั เรยี นสง่ ตวั แทนออกมาอา่ นคาตอบทช่ี ่วยกันคดิ ไว้ จากนน้ั ครูเฉลยคาตอบดังน้ี
๑) สระโอ ๒) บหุ รี่
๓) สัตวแพทย์ (เพราะรกั ษาสัตว์) ๔) นกนางแอ่น
๕) สระไอ ๖) ขน
๗) พระ ( เจ้า – พระ – ยา )
ขั้นที่ ๔ นักเรียนแต่ละคนอ่านเรือ่ งในบทเรยี น “ รว่ มแรง รว่ มใจ” จากหนังสอื เรยี นชุด
ภาษาพาที หนา้ ๗๘ – ๘๔ โดยอ่านต่อกันคนละ ๑ ยอ่ หนา้ ถา้ จบเร่อื งแลว้ ใหก้ ลมุ่ ทยี่ ังไมไ่ ด้อา่ น
เร่ิมต้นอา่ นเรอ่ื งใหม่
ข้นั ท่ี ๕ นกั เรียนทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบท หน้า ๓๗ – ๓๘ พร้อมกันในชนั้ เรียน ครูเฉลยและ
ตรวจสอบความถกู ต้อง
๗. ชน้ิ งาน / หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์และแบบประเมินผลงาน
๒. เขียนตามคาบอก
๓. แบบฝึกหัดท้ายบท หนา้ ๓๗ – ๓๘
๘. สื่อ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนังสอื เรยี นชุด ภาษาพาที
๒. เกม “ อะไรเอ่ย”
๓. บทอา่ น ร่วมแรง ร่วมใจ
๔. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และผลงานรายบุคคล
๙. วดั ผลประเมินผล วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วัดผลและประเมนิ ผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบนั ทึกการสงั เกต
• ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ - ซักถาม - แบบฝกึ หดั ท้ายบท หนา้ ๓๗ –
- การรว่ มสนทนา - ตรวจใบงาน ๓๘
- การตอบคาถาม - เขียนตามคาบอก
- การทาใบงาน - สังเกตพฤติกรรมขณะร่วม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
• ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ
ประสงค์
• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคิด - การร่วมสนทนา แบบประเมินผลงานรายบุคคล
การร่วมสนทนา
๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) เกณฑ์ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคร์ ายบคุ คลมีคะแนน ๓ ระดับ คือ
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕
เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรือได้คะแนน ๖ ขนึ้ ไป
๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาแบบฝึกหัดท้ายบท มีคะแนน ๓ ระดับ ดังนี้
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ข้ึนไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป
๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้
ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านต้องได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเป็นไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลอื หมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๕๙ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ เวลา ๗ ชว่ั โมง
หนว่ ยท่ี ๑๐ รว่ มแรง รว่ มใจ เวลา ๑ ชว่ั โมง
เรือ่ ง การอ่านบทอา่ นเสรมิ “ เรอื่ งของมด”
โรงเรียนบา้ นปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สุขคา
สาระที่ ๑ การอา่ น ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสนิ ใจแก้ปัญหา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนินชวี ติ และมนี ิสัยรักการอา่ น
๑. สาระสาคัญ
ความคดิ รวบยอด
การอ่านเสรมิ บทเรียนเป็นการเพิ่มประสบการณ์ด้านการอา่ น ปลูกฝังให้ผู้เรียนรักการอ่าน
และศึกษาหาความรู้เพ่ิมเตมิ ขยายขอบเขตการเรยี นรู้ให้ผู้เรียนได้เปิดโลกทัศน์ท่ีกว้างไกล รู้จักคิด
วิเคราะห์เรือ่ งทอ่ี า่ นและนามาปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
๒. ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๗ อ่านหนงั สือทีม่ คี ุณค่าตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอและแสดง
ความคดิ เห็นเกีย่ วกบั เรอื่ งที่อ่าน
๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ นักเรยี นอ่านและเกบ็ ใจความสาคญั ของเรอื่ งได้
๓.๒ นักเรยี นคดิ วเิ คราะห์สรปุ เร่อื งราวที่อ่าน
๓.๓ นักเรียนต้งั คาถาม – ตอบคาถามเรอ่ื งที่อา่ นได้
๔. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รักความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝเ่ รียนรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๕. สาระการเรยี นรู้
- การอ่านหนังสือตามความสนใจ เช่น
- หนังสอื ทีน่ กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย
- หนงั สือท่คี รแู ละนกั เรียนกาหนดร่วมกนั
- การอ่านเสรมิ “ เร่ืองของมด”
- การถอดคาประพนั ธ์
๖. กระบวนการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี ๑ ทบทวนเนื้อหาที่เรยี นในชว่ั โมงที่แลว้
ขั้นท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พรอ้ มเฉลยบนกระดานและเขียนคาใหม่
ลงในสมดุ ด้านหลงั
ขั้นท่ี ๓ นักเรียนแต่ละคนอ่าน บทอา่ นเสริม “เร่ืองของมด”โดยอ่านในใจ จากนั้นให้แต่ละ
คนตั้งคาถามให้คนอน่ื ตอบ คนละ ๓ คาถาม
ขั้นท่ี ๔ รว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั เน้อื หาสาระในเร่ือง “เรอ่ื งของมด” ครตู ้ังคาถามใหแ้ ต่ละคน
ตอบและแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเร่อื งน้ี
๗.๕ นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๔๒ เรื่องหมีกับผึ้ง จากน้ันนาส่งครู ครูเฉลย
และตรวจสอบความถูกตอ้ ง
๗. ชิน้ งาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. การทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๔๒
๓. เขียนตามคาบอก
๘. สอื่ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนงั สอื เรียนชุด ภาษาพาที
๒. บทอา่ นเสริม “เรื่องของมด”
๓. แบบฝกึ หัดทา้ ยบท หน้า ๔๒
๔. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และผลงานรายบุคคล
๙. วดั ผลประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบันทึกการสงั เกต
- ซักถาม - การทาแบบฝกึ หดั ท้ายบท หน้า ๔๒
• ด้านความรู้ความเข้าใจ - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การรว่ มสนทนา - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน กิจกรรม
• ด้านคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์
• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคิด - การพดู รายงาน แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
การร่วมสนทนา
๑๐. เกณฑใ์ นการวดั ผลและประเมินผล
๑) เกณฑ์ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์รายบคุ คลมีคะแนน ๓ ระดบั คือ
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕
เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ได้คะแนน ๖ ข้นึ ไป
๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาแบบฝึกหัดท้ายบท มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึน้ ไป
๓) เกณฑ์การประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ข้ึนไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเป็นไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลอื หมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖๐ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕
หน่วยที่ ๑๐ ร่วมแรง ร่วมใจ รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ เวลา ๗ ชว่ั โมง
เรื่อง อ่านเพ่ิม เติมความหมาย เวลา ๑ ช่วั โมง
โรงเรยี นบา้ นปงตา
ผูส้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระท่ี ๑ การอา่ น ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนินชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน
๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคดิ รวบยอด
การเรียนร้คู า นอกจากเรียนรู้เพื่อสื่อความหมายแลว้ ยงั ต้องเรยี นรใู้ นดา้ น ประเภทและชนิด
ของคา หนา้ ท่ีของคา และนาคานนั้ ไปใช้ใหถ้ กู ตอ้ งตามบริบท
๑.๒ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
๒. ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่เี ปน็ การ
บรรยายและการพรรณนา
๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรยี นอ่าน เขียนสะกดคาในบทเรยี นได้
๓.๒ นักเรยี นบอกความหมายของคาได้
๓.๓ นักเรียนนาคาไปใช้ได้ถกู ต้องตามสถานการณ์
๔. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รักความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๔.๔ มวี นิ ยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรยี นรู้
- การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรอง
- การอ่านสะกดคา
- ความหมายของคา และการนาคาไปใช้
๖. กระบวนการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี ๑ ทบทวนเนอ้ื หาที่เรยี นในชั่วโมงทแี่ ลว้
ข้นั ที่ ๒ นกั เรียนเขยี นตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขยี นคา
ใหมล่ งในสมดุ ด้านหลัง พรอ้ มกันในชั้นเรยี น
ขั้นท่ี ๓ นักเรียนอ่านหนังสอื ภาษาพาที หน้า ๘๗ อ่านเพิม่ เติมความหมาย อา่ นคาศพั ท์
พรอ้ มความหมาย
ข้ันท่ี ๔ นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบท หนา้ ๔๐ ชุด บอกความหมายของคาท่กี าหนดให้
พร้อมกันในช้ันเรียน ครเู ฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
๗. ชิน้ งาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. เขียนตามคาบอก
๓. แบบฝึกหัดทา้ ยบท หนา้ ๔๐
๘. สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
๑. หนงั สอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. รูปภาพ
๓. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์และผลงานรายบคุ คล
๙. วดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวัดผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สังเกต - แบบบันทกึ การสงั เกต
• ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ - ซักถาม - เขยี นตามคาบอก
- การรว่ มสนทนา - ตรวจใบงาน - แบบฝกึ หัดท้ายบท หนา้ ๔๐
- การตอบคาถาม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤติกรรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
• ด้านคณุ ลักษณะอันพึง กจิ กรรม
ประสงค์
• ด้านทักษะกระบวนการคดิ - การคดิ เรอ่ื งและแสดง แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การร่วมสนทนา บทบาทสมมุติ
๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมินผล
๑) เกณฑ์ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคร์ ายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดบั คือ
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๒๐ – ๒๔
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๒๓ – ๑๙
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๑๒
เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๙ ขน้ึ ไป
๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป
๓) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาแบบฝึกหัดท้ายบท มคี ะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ข้ึนไปหรือได้คะแนน ๕ ขึ้นไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕
หน่วยที่ ๑๐ ร่วมแรง ร่วมใจ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ เวลา ๗ ชัว่ โมง
เรื่อง คาอุทาน เวลา ๑ ช่ัวโมง
โรงเรยี นบ้านปงตา
ผสู้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ
พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของ
ชาติ
๑. สาระสาคัญ
๑.๑ ความคิดรวบยอด
คาอุทานคือที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงอารมณ์และความรู้สึกของผู้พูด ในช่วงขณะเดียวกัน
ร่างกายอาจแสดงกิริยาออกมาในลกั ษณะใดลักษณะหนง่ึ ทง้ั ในชว่ งภาวะทรี่ ู้สึกตวั และเผลอลืมตวั
๑.๒ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
๒. ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๕/๑ ระบุชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค
๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นักเรียนบอดความหมายของคาอุทานได้
๓.๒ นักเรียนใชค้ าอทุ านไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม
๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รักความเป็นไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มีวินยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรยี นรู้
- ชนิดของคาได้แก่
คาบพุ บท
คาสนั ธาน
คาอทุ าน
- คาอุทาน
๖. กระบวนการเรียนรู้
ข้ันที่ ๑ ทบทวนเนอ้ื หาที่เรียนในช่วั โมงทแ่ี ล้วดว้ ยการใหน้ กั เรยี นนาใบงานท่ี ๑ มาร่วมกัน
ตรวจสอบและเฉลยอกี ครง้ั
ขั้นที่ ๒ นกั เรยี นเขยี นตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาทถ่ี ูกตอ้ งบนกระดานดา
และเขยี นคาใหมล่ งในสมุดด้านหลงั พร้อมกนั ในชนั้ เรยี น
ขั้นที่ ๓ ใหน้ ักเรยี นอาสาสมัครออกมาแสดงบทบาทสมมุติเก่ยี วกับ เหตกุ ารณ์ท่ีใชค้ าอุทาน
เช่น ให้เดก็ หญงิ และเด็กชายเดินชนกนั เดก็ หญงิ รอ้ งว้าย ! เด็กชายร้องโอ๊ย ! พอเงยหน้าเจอกันก็
รอ้ งอ้อ ! พรอ้ มกัน แลว้ ทกั ทายโดยการเรยี กช่ือกนั เปน็ ตน้
ขน้ั ท่ี ๔ ครูอธิบายความหมายของคาอุทาน และชนดิ ของคาอุทาน โดยยกตัวอยา่ ง จากคา
อทุ านทน่ี ักเรยี นออกมาแสดงบทบาทสมมุติ
ขั้นท่ี ๕ ครูและนักเรียนอา่ นใบความรู้ และช่วยกนั สรุปความร้เู รอ่ื ง คาอทุ าน ดงั น้ี
๑) คาอุทาน คอื คาทีพ่ ูดหรือเขียนเพื่อแสดงอารมณ์ หรอื ความรสู้ กึ ของผพู้ ูด หรอื
ผ้เู ขยี น หรอื ใช้เพ่อื เสริมคาอ่ืนให้มคี วามหมายหนักแนน่ ยงิ่ ขึ้น
๒) คาอุทาน แบ่งออกเปน็ ๒ ชนดิ คือ
คาอทุ านบอกอาการ
คาอุทานเสรมิ บท
ขน้ั ท่ี ๖ นักเรียนทาใบงานท่ี ๑ (ทา้ ยแผน) ชุด บอกอารมณ์ของผู้อุทาน ตามคาอุทานท่ี
กาหนดให้เสร็จแล้วนาสง่ ครตู รวจสอบความสมบูรณ์
ข้ันท่ี ๗ นักเรียนทาใบงานที่ ๒ (ทา้ ยแผน) ชุด เติมอุทานเหมาะสมลงในช่องวา่ ง เสร็จแลว้
นาสง่ ครูตรวจสอบความถูกต้อง
๗. ชนิ้ งาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. การทาใบงานท่ี ๑ – ๒
๓. เขียนตามคาบอก
๘. ส่อื / แหล่งการเรยี นรู้
๑. หนงั สอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. ใบความรู้ เร่อื งคาอุทาน
๓. ใบงาน ชดุ ที่ ๑ – ๒
๔. แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์และผลงานรายบุคคล
๙. วัดผลประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือวดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบนั ทกึ การสังเกต
• ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ - ซักถาม - การทาใบงานท่ี ๑ – ๒
- การรว่ มสนทนา - ตรวจใบงาน - เขียนตามคาบอก
- การตอบคาถาม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน - สังเกตพฤติกรรมขณะร่วม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ กิจกรรม
ประสงค์
• ดา้ นทักษะกระบวนการคิด - สงั เกตการแต่งประโยค แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
การแต่งประโยค
๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมนิ ผล
๑) เกณฑ์ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์รายบคุ คลมีคะแนน ๓ ระดบั คอื
ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๒๐ – ๒๔
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๒๓ – ๑๙
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๑๒
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๙ ข้ึนไป
๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดบั ดังนี้
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ข้ึนไปหรือได้คะแนน ๕ ข้ึนไป
๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขน้ึ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจรว่ ม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคดิ เห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถูกตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๖๒ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ เวลา ๗ ชวั่ โมง
หน่วยท่ี ๑๐ รว่ มแรง ร่วมใจ เวลา ๑ ชว่ั โมง
เรอื่ ง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง
โรงเรียนบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระท่ี ๒ การเขียน ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ เร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน
การศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคดิ รวบยอด
แผนภาพโครงเร่ือง เป็นแผนภาพท่ีประกอบด้วยส่วนของคาถามเกี่ยวกับเรื่องบอกให้
ทราบวา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน อย่างไร เพราะเหตุใด และขอ้ คิดจากเรื่องแผนภาพโครงเรอื่ ง จะชว่ ย
ให้สามารถบอกเหตกุ ารณ์ของเรอ่ื งเป็นตอน ๆ โดยอาศัยการคิดคาตอบจากคาถามในแผนภาพ และ
ช่วยลาดับเรอื่ งไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง ทาใหส้ ามารถสรุปเรอื่ งทั้งหมดได้
๑.๒ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
๒. ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.๕/๓ เขยี นแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคิดเพ่อื ใช้พัฒนางาน
เขยี น
๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรียนสรปุ ใจความสาคัญของเร่ืองได้
๓.๒ นกั เรียนเขียนแผนภาพโครงเรอื่ งได้
๔. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝเ่ รียนรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี ินยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรียนรู้
- การนาแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคิดไปพฒั นางานเขยี น
- การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง
๖. กระบวนการเรยี นรู้
ข้ันที่ ๑ ทบทวนเน้ือหาท่ีเรียนในช่ัวโมงที่แล้วด้วยการให้นักเรียนนาใบงานชุดท่ี ๒ – ๓
มารว่ มกันตรวจสอบและเฉลยอกี คร้ัง
ขน้ั ที่ ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาศัพท์บนกระดานดา และ
เขียนคาใหม่ลงสมุดด้านหลัง
ขั้นท่ี ๓ ครนู าแผนภาพความคดิ หรอื ผังมโนภาพเรือ่ งใดเรื่องหนึ่งมาให้นักเรียนดแู ล้วสนทนา
กบั นักเรยี นเรือ่ งการพัฒนาความคดิ โดยใชแ้ ผนภาพโครงเรอื่ ง
ข้ันที่ ๔ ให้แต่ละคน ศึกษาใบความรู้เร่ือง “แผนภาพโครงเร่ือง ” จากหนังสือภาษาพาที
ป.๕ หนา้ ๘๘ – ๙๐ แลว้ ร่วมกันสนทนาเกี่ยวกบั แผนภาพโครงเร่อื ง
ขน้ั ที่ ๕ นักเรียนและครูช่วยกันอภิปราย และเติมคาถาม และเหตุการณ์ตามแผนภาพโครง
เรือ่ งได้ดงั น้ี เชน่
ใคร : ……………………...................................................................
ทาอะไร : : …………………….................................................................
ที่ไหน : ……………………...................................................................
เมือ่ ไร : ……………………...................................................................
เหตกุ ารณ์ : ………………………………………………………………………………..
อย่างไร : : ……………………………………………………………………………….
ขอ้ คิด : ………………………………………………………………………………
ขัน้ ที่ ๖ นักเรยี นทาใบงานท่ี ๓ เสรจ็ แล้วร่วมกนั เฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ้ งเหมาะสม
๗. ชิน้ งาน / หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. การทาใบงานท่ี ๓
๘. สื่อ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนงั สอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. ใบความร้เู ร่อื ง หลกั การเขยี นย่อความ
๓. ใบงานท่ี ๓
๔. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละผลงานรายบุคคล
๙. วดั ผลประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวดั ผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบนั ทึกการสงั เกต
• ดา้ นความร้คู วามเขา้ ใจ - ซักถาม - ใบงานท่ี ๓
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การตอบคาถาม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤติกรรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
• ดา้ นคุณลักษณะอันพึง กิจกรรม
ประสงค์
• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ - การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การเขยี นแผนภาพโครง
เรอื่ ง
๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมินผล
๑) เกณฑป์ ระเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคร์ ายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดบั คอื
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ได้คะแนน ๒๐ – ๒๔
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๒๓ – ๑๙
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๑๒
เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึน้ ไปหรอื ได้คะแนน ๙ ขนึ้ ไป
๒) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรือได้คะแนน ๕ ขน้ึ ไป
๓) เกณฑ์การประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๖๓ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ เวลา ๗ ช่วั โมง
หน่วยที่ ๑๐ ร่วมแรง รว่ มใจ เวลา ๑ ช่วั โมง
เรือ่ ง การฟงั การดูและอ่านข่าว
โรงเรยี นบา้ นปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรูส้ ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์
๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคดิ รวบยอด
การอา่ น ฟัง ดู ข่าว เป็นการติดตามเหตุการณ์ ความเคลื่อนไหวของสงั คมประเทศชาติ
ในเร่ืองต่าง ๆ ในชีวิตประจาวันของเราจะมีการดู การฟัง อยู่เป็นประจา เรานักเรียนรู้จักแยกแยะ
วิจารณ์ พิจารณาข่าวท่ีดู ฟัง น้ันเพื่อให้ได้ความรู้และข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อ
ชีวิตประจาวัน
๑.๒ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
๒. ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.๕/๓ วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเรอื่ งทฟี่ งั และดอู ยา่ งมเี หตุผล
๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกหลักการฟัง ดู อ่าน ข่าวได้
๓.๒ นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เร่อื งทีด่ ู ฟงั และขา่ วทอ่ี ่านได้
๔. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รักความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มีวินัย
๕. สาระการเรียนรู้
- การวิเคราะหค์ วามนา่ เชอื่ ถอื จากเรือ่ งที่ฟงั และดูในชวี ติ ประจาวนั
- การฟัง ดู และอ่านขา่ ว
- การอ่านขา่ วสารของทางราชการ
๖. กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นท่ี ๑ ทบทวนเนื้อหาที่เรียนในช่ัวโมงที่แล้วด้วยการให้นักเรียนนาใบงานที่ ๔ มาร่วมกัน
ตรวจสอบและเฉลยอกี ครั้ง
ข้ันที่ ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาศัพท์บนกระดานดา และ
เขียนคาใหมล่ งในสมุดด้านหลงั
ข้ันที่ ๓ นักเรียนอา่ นหนังสอื ภาษาพาที หน้า ๙๐ – ๙๑ พร้อมกัน เกี่ยวกบั การอ่านขา่ วสาร
ทางราชการ
ข้ันท่ี ๔ นกั เรียนแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ว่ มกันวา่ มีหลักการสาคัญอย่างไรบา้ ง ครูคอยเสรมิ เทา่ ที่
จาเป็นนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายถงึ หลักการดู การฟังและการอ่านขา่ ว ผลดขี องการรจู้ กั วิจยั วิจารณ์
พินจิ พิจารณาจากการดู การฟงั และการอา่ นขา่ วและผลเสยี ของการไม่พจิ ารณาเร่อื งดังกวา่ ให้ดี
เพอ่ื หาขอ้ ปฏิบตั ิทดี่ ตี อ่ ไป
ขน้ั ที่ ๕ นักเรยี นทาใบงานท่ี ๔ -๖ ( ท้ายแผน ) เสร็จแล้วร่วมกนั เฉลยและตรวจสอบความ
ถกู ต้องเหมาะสม
๗. ชนิ้ งาน / หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์และแบบประเมนิ ผลงาน
๒. การทาใบงานท่ี ๔ – ๖
๓. เขยี นตามคาบอก
๘. สื่อ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนงั สือเรยี นชดุ ภาษาพาที
๒. ใบงานที่ ๔ – ๖
๓. แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์และผลงานรายบุคคล
๙. วัดผลประเมินผล วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมอื วัดผลและประเมินผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบันทึกการสังเกต
• ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ - ซกั ถาม - ใบงานที่ ๔ – ๖
- การรว่ มสนทนา - ตรวจใบงาน - เขียนตามคาบอก
- การตอบคาถาม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึง กิจกรรม
ประสงค์
• ด้านทักษะกระบวนการคดิ - สงั เกตการวเิ คราะหข์ า่ ว แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การพดู วเิ คราะห์ข่าว
๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) เกณฑป์ ระเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคร์ ายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดบั คอื
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๒๐ – ๒๔
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๒๓ – ๑๙
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๑๒
เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๙ ข้นึ ไป
๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ได้คะแนน ๕ ขนึ้ ไป
๓) เกณฑ์การประเมินการเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั น้ี
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผ่านตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ข้ึนไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไม่เห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่