ตารางกาหนดการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕
หน่วยท่ี ๙ ประชาธปิ ไตย ใบกลาง เวลา ๘ ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๘ ช.ม
๑. บอกความสาคญั ของบทร้อยกรองได้ ประชาธิปไตยใบกลาง ๘
๒. อ่านและบอกใจความของบทรอ้ ยกรองได้ - การอ่านบทร้อยกรอง ๑
๓. บอกคาคล้องจองได้ - การอ่านออกเสียง ๑
๔. อ่านออกเสียงเน้อื หาในบทเรียนได้ - การอ่านบทอ่านเสริม ๑
๕. สรุปเร่ืองราวท่ีอ่านได้ “ บทเพลงแหง่ ประชาธิปไตย”
๖. บอกความหมายของคายากในบทอา่ นได้ - อา่ นเพม่ิ เตมิ ความหมาย ๑
๗. อ่านและเก็บใจความสาคญั ของเร่อื งได้ - คาเช่ือม ( สันธาน) ๑
๘. คดิ วิเคราะหส์ รุปเรื่องราวท่อี า่ น - การเขียนยอ่ ความ ๑
๙. ต้ังคาถาม – ตอบคาถามเรอ่ื งท่ีอ่านได้ - การฟงั งานเขยี นโนม้ นา้ วใจ ๑
๑๐. อา่ น เขยี นสะกดคาในบทเรียนได้ - การพดู โนม้ น้าวใจ ๑
๑๑. อา่ น เขยี นสะกดคาในบทเรียนได้
๑๒. บอกความหมายของคาได้
๑๓. นาคาไปใชไ้ ดถ้ กู ต้องตามสถานการณ์
๑๔. บอกความหมายของคาเช่ือมได้
๑๕. ใชค้ าเชอื่ มไดถ้ ูกต้องตามบรบิ ท
๑๖. บอกหลักการเขยี นย่อความได้
๑๗. เขยี นย่อความได้
๑๘. บอกความหมายของภาษาโน้มน้าวได้
๑๙. คดิ วิเคราะหภ์ าษาทใ่ี ชใ้ นการโน้มน้าวได้
๒๐. พูดสนทนาได้เหมาะสม
๒๑. พดู โน้มนา้ วและโตแ้ ยง้ ได้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๙ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๙ เรื่อง ประชาธิปไตย ใบกลาง เวลา ๑ ชว่ั โมง
เรือ่ ง การอ่านบทรอ้ ยกรอง
โรงเรียนบ้านปงตา ผ้สู อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพือ่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจแกป้ ัญหา
ในการดาเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น
๑. สาระสาคญั
ความคิดรวบยอด
บทร้อยกรองของไทยได้แทรกซึมไปในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศโฆษณา การต้งั คา
ขวัญของจังหวัด การบันทึกข้อความ การเขียนคติเตือนใจ สานวน ภาษิต ล้วนใช้บทร้อยกรองทั้งส้ิน
เนือ่ งจากบทรอ้ ยกรองทาให้ผ้อู ่านหรือผู้ฟงั เกิดความซาบซ้งึ ประทับใจ และสามารถจดจาไดเ้ รว็
สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
๒. ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง
๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกความสาคญั ของบทร้อยกรองได้
๓.๒ นักเรยี นอ่านและบอกใจความของบทรอ้ ยกรองได้
๓.๓ นกั เรยี นบอกคาคลอ้ งจองได้
๔. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มีวนิ ยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรียนรู้
- การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแก้ว
และบทร้อยกรอง
- การอ่านบทรอ้ ยกรอง
- คาคล้องจอง
๖. กระบวนการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ ครูช้ีแจงความสาคัญของภาษาไทย ลาดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จดุ ประสงค์ และส่ิงท่ีนักเรียนต้องเตรยี ม ในช่วั โมงนใ้ี ห้นักเรยี นรบั ทราบ
ขน้ั ที่ ๒ นักเรียนเขยี นตามคาบอก จานวน ๑ๆ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และคดั คาใหม่
ลงในสมดุ
ข้ันท่ี ๓ นักเรียนอ่านบทร้อยกรองในหนังสือเรียนชุดภาษาพาที บทที่ ๔ หน้า ๕๗ ด้วย
เสียงธรรมดาพร้อมกันหลาย ๆ รอบจนคลอ่ ง จากนน้ั อ่านบทร้อยกรองทานองเสนาะพร้อมกบั ครู ฝึก
อา่ นทานองเสนาะ พรอ้ มกนรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั เนื้อหาสาระของบทรอ้ ยกรองในบทนีก้ ลา่ วถงึ เรื่อง
ใด
ขนั้ ท่ี ๔ สนทนาเก่ียวกับคาว่า “ประชาธปิ ไตย” ให้นักเรียนแขง่ ขนั กันบอกความหมาย ครใู ห้
นักเรียนคอยสังเกตเพ่ือนในหอ้ งเรียนว่าคนใดท่ีสมควรไดร้ ับกายอมรับวา่ เป็นนักประชาธิปไตย เพื่อ
ตอบแบบสารวจในชัว่ โมงหน้า
ขนั้ ท่ี ๕ นักเรียนทาใบงานท่ี ๑ ( ท้ายแผน ) จากนั้นนาส่งครู ครูเฉลยและตรวจสอบความ
ถูกตอ้ ง
๗. ช้ินงาน / หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. เขียนตามคาบอก
๒. ใบงานที่ ๑
๓. แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และผลงานรายบคุ คล
๘. สอ่ื / แหล่งการเรยี นรู้
๑. บทร้อยกรอง
๒. ใบงาน ชุดท่ี ๑
๓. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และผลงานรายบคุ คล
๙. วดั ผลประเมนิ ผล วิธีการวดั และประเมินผล เคร่อื งมือวัดผลและประเมินผล
รายการประเมนิ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - เขียนตามคาบอก
• ดา้ นความร้คู วามเข้าใจ - สังเกต - ใบงาน ชุดที่ ๑
- การทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน - ซกั ถาม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
- การตอบคาถาม - ตรวจใบงาน
- การทาใบงาน - สังเกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ด้านคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ กจิ กรรม
• ดา้ นทักษะกระบวนการคิด - ประเมินการรว่ มสนทนา แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การร่วมสนทนา
๑๐. เกณฑใ์ นการวดั ผลและประเมินผล
๑) เกณฑป์ ระเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์รายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดบั คือ
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๕
เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๖ ขน้ึ ไป
๒) เกณฑ์การประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขนึ้ ไป
๓) เกณฑ์การประเมินการเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผ่านตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรยี บคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่ค่อยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๕๐ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๙ เรอ่ื ง ประชาธปิ ไตย ใบกลาง เวลา ๑ ชั่วโมง
เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี ง
โรงเรยี นบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา
สาระที่ ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพือ่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หา
ในการดาเนินชีวิต และมนี สิ ัยรักการอา่ น
๑. สาระสาคัญ
ความคิดรวบยอด
การอ่านออกเสียงเป็นการอ่านที่สามารถให้ผู้ฟังเข้าใจในเรื่องท่ีอ่านควรอ่านออกเสียงให้
ถูกต้องและชัดเจนและปฏิบัติตนในการอ่านให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์จึงจะทาให้อ่านได้คล่องและมี
ความมนั่ ใจ
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๒. ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นักเรียนอา่ นออกเสียงเน้อื หาในบทเรยี นได้
๓.๒ นักเรียนสรุปเรื่องราวที่อ่านได้
๓.๓ นักเรยี นบอกความหมายของคายากในบทอ่านได้
๔. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี ินัย
๕. สาระการเรียนรู้
- การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง
- อ่านออกเสยี งบทเรียนเรือ่ ง ประชาธิปไตยใบกลาง
- คาใหม่ในบทเรียน
๖. กระบวนการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ ๑ ทบทวนเน้ือหาท่ีเรียนในช่ัวโมงท่ีแล้วดว้ ยการให้นักเรียนนาใบงานชุดท่ี ๑ มาร่วม
กันตรวจสอบและเฉลยอกี ครัง้
ขัน้ ท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑ๆ คา พรอ้ มเฉลยบนกระดานและคดั คาใหม่ลง
ในสมุด พร้อมกันใหเ้ รียบรอ้ ย และอา่ นงา่ ย
ขั้นท่ี ๓ ให้นักเรียนเล่นเกม “ ยอดนักสืบ” วิธีการเล่นคอื ครูกาหนดเวลาให้ ๒ นาที ให้
ทุกคนเตรยี มกระดาษและปากกาคนละ ๑ ชุด แลว้ ไปสัมภาษณ์เพ่ือนเก่ยี วกบั ความรสู้ กึ ชอบ ไม่ชอบ
ในหัวข้อ อาหาร สตั วเ์ ล้ียง เพลง กีฬา รายการโทรทศั นท์ ี่ดูประจา แล้วเขยี นบนั ทกึ ลงในกระดาษ
ให้ได้จานวนคนทไี่ ปสัมภาษณ์มากทีส่ ุดเท่าที่จะทาได้ เมื่อหมดเวลานากระดาษแผน่ นน้ั มาส่งครู คนที่
ได้จานวนเพ่ือนที่ไปสัมภาษณ์มากทสี่ ุดคือยอดนกั สืบและรองยอดนักสืบอีก ๒ คน ครูตรวจสอบว่า
ใช่ยอดนักสืบตัวจริงหรือไม่ โดยสัมภาษณ์คนที่ยอดนักสืบไปสัมภาษณ์มาว่าจะได้คาตอบตรงกัน
หรือไม่
ข้ันที่ ๔ นกั เรียนแต่ละคนอ่านเร่ืองในบทเรยี น “ประชาธิปไตยใบกลาง” จากหนงั สือเรียนชุด
ภาษาพาที หน้า ๕๘ – ๖๕ โดยอ่านต่อกันคนละ ๑ ย่อหน้า ถ้าจบเรื่องแลว้ ให้กลุ่มท่ียงั ไม่ได้อ่าน
เร่ิมต้นอ่านเร่ืองใหม่
ขั้นที่ ๕ ให้แต่ละคนหาคาใหมใ่ นยอ่ ที่ตนเองอ่านออกมา แลว้ หาความหมายของคานนั้ โดย
คน้ หาจากพจนานุกรม ส่งตวั แทนอา่ นคาใหม่และความหมายทห่ี น้าชั้นเรยี น
ขน้ั ท่ี ๖ นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ท้ายบท หนา้ ๓๐ – ๓๑ ข้อ ๑ – ๒ ชุดเขียนคาอ่านของคาที่
กาหนดให้ ครเู ฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง
๗. ชิ้นงาน / หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. แบบฝึกหดั ทา้ ยบท หน้า ๓๐ – ๓๑ ข้อ ๑ – ๒
๓. เขยี นตามคาบอก
๘. ส่อื / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนงั สอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. เกม “ ยอดนักสืบ”
๓. บทอ่าน ประชาธปิ ไตยใบกลาง
๔. แบบฝึกหัดท้ายบท
๕. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์และผลงานรายบคุ คล
๙. วัดผลประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบนั ทกึ การสงั เกต
• ดา้ นความร้คู วามเขา้ ใจ - ซกั ถาม - เขยี นตามคาบอก
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน - แบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๓๐ –
- การตอบคาถาม ๓๑ ข้อ ๑ – ๒
- การทาใบงาน - สังเกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
• ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ
ประสงค์
• ด้านทกั ษะกระบวนการคิด - การรว่ มสนทนา แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
การร่วมสนทนา
๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมินผล
๑) เกณฑป์ ระเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์รายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดับ คือ
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕
เกณฑ์การผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรือได้คะแนน ๖ ขึ้นไป
๒) เกณฑ์การประเมินการทาแบบฝกึ หัดท้ายบท มีคะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี
ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป
๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังนี้
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขึน้ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไม่ค่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลอื หมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๕๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕
กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๙ เรื่อง ประชาธปิ ไตย ใบกลาง เวลา ๑ ชว่ั โมง
เรอ่ื ง การอ่านบทอ่านเสรมิ
โรงเรียนบา้ นปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สุขคา
สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สินใจแก้ปัญหา
ในการดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอา่ น
๑. สาระสาคญั
ความคิดรวบยอด
การอ่านเสรมิ บทเรียนเป็นการเพิ่มประสบการณ์ด้านการอ่าน ปลูกฝงั ให้ผู้เรียนรักการอ่าน
และศึกษาหาความรู้เพิ่มเตมิ ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เปิดโลกทัศน์ที่กว้างไกล รู้จักคิด
วิเคราะห์เร่ืองที่อ่านและนามาปรับใชใ้ นชีวิตประจาวันได้
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
๒. ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๗ อ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและแสดง
ความคิดเหน็ เก่ียวกบั เรือ่ งท่อี ่าน
๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นักเรียนอ่านและเกบ็ ใจความสาคัญของเรอ่ื งได้
๓.๒ นักเรยี นคดิ วเิ คราะหส์ รุปเรื่องราวทีอ่ า่ น
๓.๓ นักเรยี นตง้ั คาถาม – ตอบคาถามเรื่องที่อ่านได้
๔. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝ่เรียนรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มีวินยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรียนรู้
- การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ
- การอ่านเสรมิ “บทเพลงแห่งประชาธิปไตย”
- การถอดคาประพันธ์
๖. กระบวนการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี ๑ ทบทวนเนอ้ื หาทีเ่ รยี นในชว่ั โมงทีแ่ ลว้
ขั้นท่ี ๒ นกั เรยี นเขยี นตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พรอ้ มเฉลยบนกระดานดา และคดั คาใหม่
ลงในสมดุ พร้อมกนั
ข้ันท่ี ๓ นักเรียนแต่ละคนอ่าน บทอ่านเสริม “บทเพลงแห่งประชาธิปไตย” โดยอ่านเป็น
ทานองเสนาะทลี ะคน จากนัน้ ใหแ้ ตล่ ะคนช่วยกนั เขียนอธิบายความหมายของบทร้อยกรองนั้น
ข้ันท่ี ๔ นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๓๖ ข้อ ๔ จากนั้นนาส่งครู ครูเฉลยและ
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
๗. ช้ินงาน / หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละแบบประเมินผลงาน
๒. การทาแบบฝกึ หดั ท้ายบท หน้า ๓๖ ขอ้ ๔
๓. เขียนตามคาบอก
๘. สอื่ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนงั สือเรยี นชดุ ภาษาพาที
๒. บทอา่ นเสริม “ นักต่อส่เู พ่ือประชาธิปไตย”
๓. แบบฝึกหัดท้ายบท
๔. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และผลงานรายบุคคล
๙. วัดผลประเมินผล วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมือวดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สงั เกต - แบบบันทึกการสังเกต
• ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ - ซักถาม - แบบฝึกหัดท้ายบท หนา้ ๓๖ ข้อ
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน ๔
- การตอบคาถาม - เขยี นตามคาบอก
- การทาใบงาน - สังเกตพฤติกรรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
• ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์ - การพดู รายงาน แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ
การร่วมสนทนา
๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมินผล
๑) เกณฑ์ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคร์ ายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดบั คือ
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕
เกณฑก์ ารผ่านต้องได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ขน้ึ ไป
๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาแบบฝึกหัดท้ายบท มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผา่ นตอ้ งได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ได้คะแนน ๕ ข้ึนไป
๓) เกณฑ์การประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ข้ึนไปหรอื ได้คะแนน ๕ ข้ึนไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจรว่ ม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคดิ เห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถูกตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรียบรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕๒ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๙ เร่อื ง ประชาธิปไตย ใบกลาง เวลา ๑ ช่วั โมง
เรือ่ ง อา่ นเพิ่ม เติมความหมาย
โรงเรียนบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา
สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจแกป้ ญั หา
ในการดาเนินชวี ิต และมนี ิสยั รักการอ่าน
๑. สาระสาคญั
ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คา นอกจากเรียนรู้เพื่อส่ือความหมายแล้วยังต้องเรียนรู้ในดา้ นประเภทและชนิด
ของคา หนา้ ท่ขี องคา และนาคาน้ันไปใช้ใหถ้ ูกต้องตามบรบิ ท
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
๒. ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความทเ่ี ปน็ การ
บรรยายและการพรรณนา
๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรียนอา่ น เขียนสะกดคาในบทเรียนได้
๓.๒ นกั เรียนบอกความหมายของคาได้
๓.๓ นกั เรียนนาคาไปใช้ได้ถกู ตอ้ งตามสถานการณ์
๔. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มีวินยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรียนรู้
- การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง
- การอ่านสะกดคา
- ความหมายของคา และการนาคาไปใช้
๖. กระบวนการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ ทบทวนเน้อื หาที่เรยี นในชวั่ โมงทแี่ ล้ว
ขั้นที่ ๒ ให้แต่ละคนอ่านคาในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาพาที หน้า
๖๘ – ๖๙
ขั้นท่ี ๓ นักเรียนแต่ละคนร่วมกนั คิดแสดงบทบาทสมมุตจิ ากบทเรียนเร่ือง “ประชาธปิ ไตยใบ
กลาง” ตอนใดตอนหน่ึง ใชเ้ วลาฝกึ เตรยี มและแสดงบทบาทสมมตุ ินนั้ โดยใช้เวลาแสดง ๓ นาที
ขน้ั ที่ ๔ นักเรียนทาแบบฝึกหดั ท้ายบท หน้า ๒๙ – ๓๐ ครูเฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
๗. ชิน้ งาน / หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๖.๑ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และแบบประเมนิ ผลงาน
๖.๒ การทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบท หน้า ๒๙ – ๓๐
๘. ส่ือ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนังสือเรียนชดุ ภาษาพาที
๒. รูปภาพ
๓. แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์และผลงานรายบคุ คล
๙. วดั ผลประเมินผล วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วัดผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบนั ทกึ การสงั เกต
• ด้านความร้คู วามเขา้ ใจ - ซกั ถาม - แบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๒๙ –
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน ๓๐
- การตอบคาถาม - เขียนตามคาบอก
- การทาใบงาน - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
กิจกรรม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
• ด้านทกั ษะกระบวนการคิด - การคดิ เรอื่ งและแสดง แบบประเมินผลงานรายบุคคล
การร่วมสนทนา บทบาทสมมุติ
๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมนิ ผล
๑) เกณฑ์ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดับ คือ
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ขึ้นไป
๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึน้ ไปหรอื ได้คะแนน ๕ ขึน้ ไป
๓) เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั น้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ได้คะแนน ๕ ขนึ้ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รกั ความเปน็ ไทย สนใจและต้งั ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสุขตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กล้าซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโต้แย้งในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กลา้ แสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสยี สละเพื่อ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มจี ิตสาธารณะ เปรยี บไม่เห็นแกต่ วั ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลือหมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เปน็ อย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินัย มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ คร้งั ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ต้องและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วสั ดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อยา่ งพอเพยี ง เรยี นทร่ี าคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคุ้มคา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ คอ่ ยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๕๓ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๙ เรื่อง ประชาธปิ ไตย ใบกลาง เวลา ๑ ชั่วโมง
เรอ่ื ง คาเช่ือม ( สนั ธาน)
โรงเรียนบา้ นปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา
สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา
และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติ
ของชาติ
๑. สาระสาคญั
ความคิดรวบยอด
คาเช่ือมหรือคาสันธาน คือ คาท่ีใช้เชื่อมประโยคหรือข้อความให้ติดกันเป็นเรื่องเดียวกัน
ประโยคหรือขอ้ ความท่ีได้อาจมีลักษณะเป็นเหตเุ ป็นผลกัน ขัดแย้ง กันคล้อยตามกันหรอื ให้เลือกเอา
อยา่ งใดอย่างหนึ่ง ไดแ้ ก่ กับ และ จึง ถ้า เพราะ เพราฉะน้ัน....จงึ เพราะวา่ แต่ หรือ มิฉะนั้น
ถึงแมว้ ่า เมอื่ คร้นั ...จึง ถงึ ...ก็ ดงั น้นั ...จงึ
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
๒. ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๕ /๒ จาแนกส่วนประกอบของประโยค
๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกความหมายของคาเช่ือมได้
๓.๒ นักเรียนใชค้ าเชือ่ มไดถ้ ูกต้องตามบริบท
๔. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รักความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๔.๔ มวี ินยั
๕. สาระการเรยี นรู้
- ประโยคและสว่ นประกอบของประโยค
- สว่ นประกอบของประโยค
- การแตง่ ประโยค
๖. กระบวนการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ ทบทวนเนื้อหาที่เรยี นในชว่ั โมงที่แล้ว
ข้ันที่ ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขียน
คาศัพทใ์ หม่ลงในสมดุ พร้อมกนั และอา่ นทบทวนคาศัพทอ์ ีกครั้ง
ขนั้ ที่ ๓ ครูอธิบายเร่ือง คาสันธาน เก่ียวกับคาจากัดความ และชนิดของคาสันธาน พร้อมกับ
ยกตัวอย่างคาสันธาน ๔ ชนิด ได้แก่ คาสันธานเช่อื มความให้คล้องตามกัน คาสันธานเช่ือมความท่ี
ขดั แยง้ กันคาสันธานเชอื่ มความทเ่ี ป็นเหตเุ ป็นผลกัน และคาสันธานเช่ือมคาทแี่ บ่งรับแบ่งสู่ จากน้ัน
ครูยกตวั อย่างคาและประโยค โดยใช้บัตรคาและแถบประโยค
ขัน้ ที่ ๔ ครูและนกั เรียนชว่ ยกันสรุปความรเู้ รอ่ื ง คาสนั ธาน ดังนี้
๑) คาสนั ธาน คอื คาท่ใี ช้เช่ือมถอ้ ยคาใหส้ ละสลวย มคี วามหมาย
ชดั เจนขึ้น
๒) คาสนั ธาน แบ่งออกเป็น ๘ ชนิด คอื
คาสันธานเชือ่ มความให้คลอ้ งตามกัน
คาสนั ธานเชอ่ื มความที่ขัดแย้งกัน
คาสนั ธานเชอ่ื มความทเี่ ปน็ เหตุเป็นผลกนั
คาสันธานเชื่อมคาทแ่ี บ่งรับแบ่งสู่
คาสนั ธานเชื่อมความที่ใหเ้ ลือกเอาอยา่ งใดอย่างหนงึ่
คาสันธานเชอ่ื มความทต่ี ่างตอนกัน
คาสันธานเช่ือมความเปรยี บเทียบ
คาสันธานเชื่อมความใหส้ ละสลวย
ข้ันท่ี ๕ นักเรียนทาใบงานท่ี ๒ ( ท้ายแผน ) ชุด เติมคาเช่ือมที่กาหนดให้ในประโยค เสร็จ
แลว้ นาสง่ ครูตรวจสอบความสมบูรณ์
ขนั้ ท่ี ๖ นักเรยี นทาใบงานที่ ๓ ( ท้ายแผน ) ชุด เตมิ คาเชอื่ มท่ีเหมาะสมลงในชอ่ งวา่ ง เสร็จ
แล้วนาสง่ ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง
๗. ชนิ้ งาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์และแบบประเมินผลงาน
๒. การทาใบงานที่ ๒ – ๓
๓. เขียนตามคาบอก
๘. ส่อื / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนังสอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. ใบความรู้ เรื่องคาสนั ธาน
๓. เกม เรียงคาทาความ
๓. ใบงาน ชุดท่ี ๒ – ๓
๔. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละผลงานรายบคุ คล
๙. วัดผลประเมนิ ผล วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วัดผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบนั ทึกการสังเกต
• ดา้ นความรูค้ วามเขา้ ใจ - ซักถาม - ใบงาน ชุดท่ี ๒ – ๓
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน - เขียนตามคาบอก
- การตอบคาถาม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
• ด้านคุณลักษณะอันพึง กจิ กรรม
ประสงค์
• ด้านทักษะกระบวนการคิด - สังเกตการแตง่ ประโยค แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
การแต่งประโยค
๑๐. เกณฑใ์ นการวดั ผลและประเมินผล
๑) เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์รายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดบั คอื
ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕
เกณฑ์การผา่ นต้องได้ระดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรอื ได้คะแนน ๖ ข้ึนไป
๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรอื ได้คะแนน ๕ ขน้ึ ไป
๓) เกณฑ์การประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ข้ึนไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๕๔ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ช่วั โมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๙ เรอ่ื ง ประชาธิปไตย ใบกลาง เวลา ๑ ชัว่ โมง
เรือ่ ง การเขียนยอ่ ความ
โรงเรยี นบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา
สาระที่ ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขยี นสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี น
เร่อื งราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงาน
การศึกษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ
๑. สาระสาคัญ
ความคิดรวบยอด
การย่อความคือ การเก็บเนื้อความหรอื ใจความสาคัญของเรื่องแล้วนามาเรียบเรียงใหมด่ ้วย
สานวนใหม่ ผู้ย่อต้องฝึกทักษะภาษาทางด้านการเขียน การสะกดคา และ หลกั ภาษา จึงจะสามารถ
เขียนย่อความไดด้ มี ีประสิทธิภาพ
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์
- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
๒. ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.๕/๔ เขียนย่อความจากเร่ืองท่อี ่าน
๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นักเรยี นบอกหลักการเขียนยอ่ ความได้
๓.๒ นกั เรยี นเขียนย่อความได้
๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รักความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่เรียนรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๕. สาระการเรยี นรู้
- การเขียนยอ่ ความจากสื่อตา่ งๆ เช่น นิทาน ความเรียงประเภทต่าง ๆ ประกาศ แจง้ ความ
แถลงการณ์ จดหมาย คาสอน โอวาท คาปราศรยั
- องคป์ ระกอบของการเขียนย่อความ
- การเขยี นย่อความ
๖. กระบวนการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ ทบทวนเนื้อหาท่ีเรียนในชั่วโมงที่แล้วด้วยการให้นักเรียนนาใบงานชุดที่ ๒ – ๓
มาร่วมกนั ตรวจสอบและเฉลยอกี คร้งั
ข้ันท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑ๆ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขียน
คาศัพท์ใหมล่ งในสมุดดา้ นหลัง และอ่านพรอ้ มกนั อกี รอบ
ข้ันท่ี ๓ ให้แต่ละคน ศึกษาใบความรู้เรื่อง “การย่อความ” แล้วร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับ
หลกั การเขียนย่อความ
ขน้ั ท่ี ๔ ครูให้นักเรยี นศึกษาวิธกี ารเขยี นย่อความจากใบความรู้ ( ท้ายแผน ) แล้วให้นกั เรยี น
ช่วยกันย่อความอีกคร้ังหน่ึง โดยให้นักเรียนยกมือตอบทีละคน ครูเขียนบนกระดาน และปรับแก้ให้
ถกู ตอ้ ง
ขั้นที่ ๕ ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรุปความรเู้ ร่อื ง การเขียนย่อความ ดงั น้ี
๑) การเขียนย่อความ หมายถึง การเก็บใจความสาคัญของเร่ืองใดเรื่องหน่ึงจาก
การอ่าน แล้วนามาเขียนเรียบเรยี งใหม่ด้วยสานวนของตนเอง
๒) วธิ ีการเขยี นยอ่ ความ ทาได้ ดังน้ี
อ่านเรอ่ื งให้จบ เพอื่ ให้ทราบว่า เร่อื งน้นั กลา่ วถงึ ใคร ทาอะไร
ที่ไหน อยา่ งไร เมือ่ ไร และผลเปน็ อย่างไร
บนั ทกึ ใจความสาคญั ของเรื่องทอ่ี า่ น แลว้ นามาเขียนเรียบเรียงใหม่
ด้วยสานวนของตนเอง
อ่านทบทวนใจความสาคญั แลว้ แก้ไขให้สมบูรณ์
เขียนยอ่ ความใหส้ มบรู ณ์
การเขียนย่อความไม่นิยมใช้สรรพนามบุรุษท่ี ๑ และ ๒ แต่จะใช้สรรพนาม
บรุ ุษที่ ๓ เทา่ นนั้
ขั้นที่ ๖ นักเรียนทาใบงานท่ี ๔ ( ท้ายแผน ) ชุด เขียนย่อความเร่ือง ประชาธิปไตยใบกลาง
เสรจ็ แล้วรว่ มกนั เฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ งเหมาะสม
๗.๘ นักเรียนทาใบงานที่ ๕ ( ท้ายแผน ) ชุด เลือกตอบเกี่ยวกับการเขียนย่อความ เสร็จ
แล้วนาสง่ ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
๗. ชิ้นงาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์และแบบประเมินผลงาน
๒. การทาใบงานที่ ๔ – ๕
๓. เขียนตามคาบอก
๘. สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
๑. หนังสือเรยี นชดุ ภาษาพาที
๒. ใบความร้เู ร่ือง หลกั การเขยี นยอ่ ความ
๓. ใบงาน ชุดที่ ๔ – ๕
๔. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์และผลงานรายบุคคล
๙. วัดผลประเมินผล วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วดั ผลและประเมินผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบนั ทึกการสงั เกต
• ด้านความรู้ความเข้าใจ - ซักถาม - ใบงาน ชดุ ที่ ๔ – ๕
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การตอบคาถาม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤติกรรมขณะร่วม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ด้านคณุ ลักษณะอนั พึง กจิ กรรม
ประสงค์
• ด้านทักษะกระบวนการคดิ - การเขยี นย่อความ แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การเขียนย่อความ
๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมินผล
๑) เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์รายบคุ คลมีคะแนน ๓ ระดบั คือ
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗
ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๕
เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ได้คะแนน ๖ ข้ึนไป
๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้
ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรือได้คะแนน ๕ ข้นึ ไป
๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ข้ึนไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ข้ึนไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กล้าซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ ่อย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถูกและใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๕๕ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๙ เรอื่ ง ประชาธิปไตย ใบกลาง เวลา ๑ ช่วั โมง
เร่ือง การฟงั งานเขียนโนม้ น้าวใจ
โรงเรียนบ้านปงตา ผูส้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา
สาระที่ ๑ การอา่ น ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพือ่ นาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนนิ ชีวิต และมีนิสัยรกั การอ่าน
๑. สาระสาคัญ
ความคิดรวบยอด
ภาษาทใ่ี ช้โน้มนา้ วสว่ นมากเป็นภาษาที่ใชใ้ นการโฆษณาให้ผฟู้ ัง หรือผู้อ่านสนใจในสินคา้ หรือ
ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มักใช้ถ้อยคาและศิลปะการพูดท่ีเร้าใจจนผู้ฟังเกิดความไว้วางใจในตัวผู้พูด
เกิดความเช่ือถือ และคิดใคร่ครวญถึงประโยชน์หรือผลที่จะได้รับการซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ
จนตดั สนิ ใจซอื้ สินคา้
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
๒. ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๕ วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรอื่ งท่อี ่านเพือ่ นาไปใช้
ในการดาเนนิ ชวี ิต
๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นักเรยี นบอกความหมายของภาษาโนม้ นา้ วได้
๓.๒ นกั เรียนคดิ วิเคราะห์ภาษาท่ีใช้ในการโน้มนา้ วได้
๔. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝเ่ รียนรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๔.๔ มวี นิ ยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรยี นรู้
- การอ่านจับใจความจากสอ่ื ต่างๆ เช่น
- วรรณคดีในบทเรยี น
- บทความ
- บทโฆษณา
- งานเขียนประเภทโน้มนา้ วใจ
- การฟงั และการอ่านงานเขยี นประเภทโนม้ นา้ วใจ
๖. กระบวนการเรียนรู้
ข้ันท่ี ๑ ทบทวนเนื้อหาท่ีเรียนในชั่วโมงท่ีแล้วด้วยการให้นักเรียนนาใบงานชุดท่ี ๔ – ๕
มาร่วมกันตรวจสอบและเฉลยอีกครั้ง
ขัน้ ท่ี ๒ นักเรยี นเขียนตามคาบอก จานวน ๑ๆ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และใหน้ ักเรยี น
เขยี นคาใหม่ลงในสมุดด้านหลัง และอา่ นพรอ้ มกันอีกคร้งั
ข้ันที่ ๓ ครูนาข้อความที่ใช้โฆษณาจากหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารต่างๆมาให้นักเรียนดูให้
นักเรียนร่วมกันพิจารณาภาษาที่ใช้ และความน่าเช่ือถือของการโฆษณาโน้มน้าว ครูสุ่มให้นักเรียน
แสดงความคดิ เห็น
ขนั้ ท่ี ๔ นกั เรียนศกึ ษาใบความร้พู รอ้ มกนั และอภปิ รายความรูร้ ่วมกนั ในชัน้ เรียน
ขั้นที่ ๕ นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๓๕ ข้อ ๕ ชุด บอกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง
จากข้อความท่ีกาหนดให้ เสร็จแล้วร่วมกนั เฉลยและตรวจสอบความถกู ต้องเหมาะสม
๗. ชิ้นงาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมินผลงาน
๒. การทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๓๕ ขอ้ ๕
๓. ใบความรู้ เรื่องภาษาที่ใชใ้ นการโน้มนา้ วใจ
๔. เขียนตามคาบอก
๘. สื่อ / แหลง่ การเรยี นรู้
๑. หนังสอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. ใบความรเู้ รื่อง งานเขยี นทโ่ี นม้ น้าวใจ
๓. แบบฝกึ หดั ท้ายบท
๔. แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และผลงานรายบคุ คล
๙. วัดผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วัดผลและประเมนิ ผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบนั ทึกการสงั เกต
• ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ - ซักถาม - แบบฝึกหดั ท้ายบท หนา้ ๓๕ ขอ้
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน ๕
- การตอบคาถาม - เขยี นตามคาบอก
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
กจิ กรรม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์
• ด้านทักษะกระบวนการคดิ - การใช้คาทมี่ าจาก แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การเขียนบรรยาย ภาษาตา่ งประเทศ
๑๐. เกณฑใ์ นการวดั ผลและประเมนิ ผล
๑) เกณฑ์ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์รายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดับ คือ
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐
ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕
เกณฑ์การผา่ นต้องได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรือได้คะแนน ๖ ขึน้ ไป
๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาแบบฝึกหัดทา้ ยบท มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผ่านตอ้ งไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป
๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังนี้
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐
ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขึน้ ไป
การประเมนิ ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕๖ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๘ ชวั่ โมง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๙ เรือ่ ง ประชาธิปไตย ใบกลาง เวลา ๑ ชว่ั โมง
เรอื่ ง การพูดโน้มนา้ วใจ
โรงเรียนบ้านปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สุขคา
สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรสู้ ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
๑. สาระสาคญั
ความคดิ รวบยอด
การพูดมอี ิทธพิ ลมากในการสอื่ สาร ผู้พูดต้องมีวจิ ารณญาณสถานการณ์ทพ่ี ดู ตอ้ งร้จู ักเลอื กใช้
ถ้อยคา สานวนให้เหมาะสมกับโอกาสและระดับของผู้ฟัง เพ่ือให้ผลการพดู ออกมาในทางลบน้อยทีส่ ุด
กระทบกระเทือนผฟู้ ังน้อยทส่ี ดุ สรา้ งความประทบั ใจและเป็นประโยชนก์ ับผฟู้ ัง
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.๕/๕ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด
๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ พดู แนะนาตัวได้
๓.๒ พูดสนทนาได้ถูกตอ้ งตามสถานการณ์
๓.๓ พูดโน้มนา้ วและโตแ้ ย้งได้
๔. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี นิ ัย
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง
๕. สาระการเรียนรู้
- มารยาทในการฟัง การดู และการพดู
- การพูดโนม้ นา้ ว
- การทาแบบทดสอบหลงั เรยี น
๖. กระบวนการเรียนรู้
ข้นั ท่ี ๑ ทบทวนเน้ือหาที่เรียนในช่วั โมงทแี่ ลว้
ข้ันที่ ๒ นกั เรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พรอ้ มเฉลยบนกระดานดา และเขียนคา
ใหมล่ งในสมดุ ดา้ นหลัง พร้อมทงั้ อ่านพรอ้ มกนั อีกรอบ
ขน้ั ท่ี ๓ ร่วมกันทบทวนเกี่ยวกับมารยาทในการฟงั และการพูด แล้วใหต้ ัวแทนออกมานาเสนอ
เก่ยี วมารยาทในการพูดและการฟัง
๗.๖ นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๓๒ – ๓๔ ข้อ ๑ – ๓ เสร็จแล้วร่วมกันเฉลย
และตรวจสอบความถกู ตอ้ งเหมาะสม
๗. ช้ินงาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมินผลงาน
๒. การทาแบบฝกึ หดั ท้ายบท หนา้ ๓๒ – ๓๔ ขอ้ ๑ – ๓
๓. เขียนตามคาบอก
๘. สื่อ / แหลง่ การเรยี นรู้
๑. หนงั สอื เรยี นชดุ ภาษาพาที
๒. แบบฝึกหดั ท้ายบท
๓. ใบความรเู้ รือ่ ง มารยาทในการฟัง การพดู
๔. แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงคแ์ ละผลงานรายบคุ คล
๙. วดั ผลประเมินผล วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมอื วดั ผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบันทึกการสังเกต
• ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ - ซักถาม - แบบฝกึ หัดทา้ ยบท หน้า ๓๒ –
- การรว่ มสนทนา - ตรวจใบงาน ๓๔ ขอ้ ๑ – ๓
- การตอบคาถาม - เขียนตามคาบอก
- การทาใบงาน - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
กจิ กรรม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
• ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคิด - การพดู โน้มน้าว แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
การพูดโน้มน้าว
๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมนิ ผล
๑) เกณฑป์ ระเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์รายบคุ คลมีคะแนน ๓ ระดบั คอื
ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๕
เกณฑก์ ารผา่ นต้องได้ระดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ข้นึ ไป
๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาแบบฝึกหัดท้ายบท มคี ะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้
ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐
ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗
ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ข้ึนไปหรือได้คะแนน ๕ ขึน้ ไป
๓) เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้
ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐
ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗
ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขนึ้ ไป
การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)
รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา
กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู
ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่
ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก
มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา
มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง
ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย
เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ
มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา
ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ
อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า
หมดแลว้ ค่อยซื้อใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่