การเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ เพลงแขกมอญ 3 ชั้น
คำ นำ นวัตกรรมสื่อออนไลน์นี้สร้างขึ้นเพื่อการเรียนรู้การบรรเลงเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ เพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางครูสอน วงฆ้อง คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ศึกษาค้นคว้าและผู้ที่สนใจในการบรรเลงเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ เพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางครูสอน วงฆ้อง หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ
สารบัญ ความหมายของฆ้องวงใหญ่ ความหมายของเพลงเดี่ยว ความหมายของการเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ ประวัติเพลงแขกมอญ ประวัติครูผู้เเต่งเพลงแขกมอญ โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว เทคนิคการเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ เพลงแขกมอญ 3 ชั้น 1 1 2 3 4 5 6 บรรเลงเดี่ยวฆ้องวงใหญ่เพลงแขกมอญ 3 ชั้น 14 บรรณานุกรม 15 ประวัติผู้คิดทางเดี่ยวฆ้องวงใหญ่เพลงแขกมอญ 3 ชั้น ประวัติผู้ได้รับการถ่ายทอด 7 16
ความหมายของฆ้องวงใหญ่ ความหมายของเพลงเดี่ยว สงบศึก ธรรมวิหาร (2542 : 161) กล่าวว่า ฆ้องวงใหญ่เป็นเครื่องดนตรีที่มี วิวัฒนาการมาจากฆ้องเดี่ยว ฆ้องคู่ และฆ้องราว ฆ้องชนิดนี้มีลักษณะเป็นวงเปิด ช่องว่างไว้สำ หรับเป็นทางเข้าของคนตี ทางด้านหลังเล็กน้อย ผูกลูกฆ้องเรียงลำ ดับ จากเสียงต่ำ ไปเสียงสูง จำ นวน 16 เสียง ฆ้องนี้ทำ หน้าที่ดำ เนินแม่บทหรือหลักอัน เป็นทำ นองเพลงที่แท้จริงของวงดุริยางค์ไทย ซึ่งเรียกว่า ลูกฆ้อง หมายถึงทำ นอง พื้นฐานเครื่องตีชนิดหนึ่งจะแปรรูปฆ้องไปตามแนวของแต่ละชนิด กล่าวคือ ฆ้องวงใหญ่เป็นเครื่องดนตรีดำ เนินทำ นองและการเริ่มเรียนปี่พาทย์ก็จะ เรียนฆ้องวงใหญ่เป็นอันดับแรกในการเริ่มปฏิบัติฆ้องวงใหญ่มีวิวัฒนาการมาจาก ฆ้องหุ่ยและพัฒนา มาเป็นฆ้องคู่จนมาเป็นฆ้องวงที่มี 16 ลูก 16 เสียง ไล่ลำ ดับ เสียงต่ำ ไปเสียงสูง เพลงที่ครูดนตรีได้แต่งขึ้นเป็นทางพิเศษสำ หรับบรรเลงเฉพาะเครื่องดนตรี ใช้บรรเลง ในโอกาสพิเศษเพื่อเป็นการแสดงภูมิปัญญาของผู้คิดทางดนตรีให้เหมาะสม กับชนิดเครื่องดนตรี และไหวพริบปฏิภาณฝีมือ และความแม่นยำ ของผู้บรรเลงด้วย เพลงที่นิยมนำ มาทำ เพลงเดี่ยว เช่น เพลงลาวแพน เพลงนกขมิ้น เพลงพญาโศก และเพลงสารถี โดยปกติการบรรเลงเพลงเดี่ยว ผู้แต่งมักประดิษฐ์ทางบรรเลงแต่ละ ท่อนออกเป็น 2 ทาง คือ ทางกรอหรือทางหวานเที่ยวหนึ่งและทางเก็บเที่ยวหนึ่งแต่ เพลงเดี่ยวบางเพลงอาจมีเฉพาะทางเก็บเพียงทางเดียวก็ได้ เช่น เพลงกราวใน เพลงเชิดนอก (ราชบัณฑิตยสถาน 2542, น. 109) กล่าวคือ แต่ละท่อนจะต้องดำ เนินทำ นองทางหวาน 1 เที่ยว แล้วจึงจะบรรเลง ทางเก็บ หรือทางพันอีก 1 เที่ยว ผู้ที่ชำ นาญจริง ๆ จะต้องอวดปฏิภาณและคิดค้นทาง พิเศษส่วนตัวขึ้นมาโดยไม่ผิดพลาด 1
ความหมายของการเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ (ธูป สาตนะวิลัย) ผู้ประพันธ์ได้นำ เทคนิคลักษณะมือของฆ้องวงใหญ่ที่ หลากหลายมาใช้ในการบรรเลงทางเดี่ยวพบเทคนิคที่นำ มาใช้ในการดำ เนิน ทำ นองทั้งหมด 13 ลักษณะ ได้แก่ ตีสะบัดขึ้น-ลงตีเฉี่ยว ตีกดเสียง ตีกวาด ตีประคบมือ ตีกรอ ตีลักจังหวะ ตีไขว้มือ ตีสะเดาะ ตีลูกถ่าง ตีขยี้ ตีโยนและ ตีแตะ ในการบรรเลงเพลงเดี่ยวทางนี้มีการใช้เทคนิคการตีแบบสะบัดมากที่สุด มีทั้งการสะบัดขึ้น-ลง และการสะบัดแบบตีเฉี่ยวโดยเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ถูก นำ มาใช้ในเพื่อสร้างจุดเด่น หรือความพิเศษเฉพาะให้กับเพลงเดี่ยวนั้น ๆ เพื่อ ใช้ในการอวดฝีมือ อวดทางเพลงและกลเม็ดต่างๆ ที่ครูได้บรรจงแต่งขึ้นอย่าง ละเอียดนอกจากนี้ยังพบอัตลักษณ์ในการใช้ลักษณะมือของครูหลวงบำ รุง จิตรเจริญ ซึ่งพบเพียงครั้งเดียวในการเดี่ยวเพลงนกขมิ้น ทางนี้และพบสำ นวน กลอนของฆ้องวงเล็กใช้การสับมือในลักษณะไล่เสียงขึ้น-ลง ในการบรรเลง เพลงเดี่ยวนกขมิ้นทางนี้ นับว่าเป็นภูมิปัญญาอันปราดเปรื่องของครูดนตรีไทย ที่ได้มี การคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาให้กับวงการดนตรีไทยได้ศึกษาและอนุรักษ์ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน 2
ประวัติเพลงแขกมอญ เป็นผลงานการประพันธ์ของพระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) หรือครูมีแขก ได้แต่งขยายขึ้นเป็นอัตราสามชั้น จากทำ นอง 2 ชั้น ของเก่าครั้งแต่สมัยกรุง ศรีอยุธยา เป็นเพลงหน้าทับปรบไก่ มี 3 ท่อน ๆ ละ 6 จังหวะหน้าทับ การประพันธ์แนวทำ นองเป็นทางพื้น ในรูปแบบของเพลงสามชั้น ซึ่งเป็นรูปแบบ การประพันธ์ที่แปลกใหม่และได้รับความนิยมตามยุคสมัยเพราะ ตั้งแต่กรุง ศรีอยุธยานั้นมีการประพันธ์ในรูปแบบของเพลงอัตรา 2 ชั้นและ อัตราชั้นเดียว เท่านั้น ไม่ปรากฏว่ามีเพลงใดที่ประพันธ์บทเพลงในอัตราสามชั้น เพลงแขกมอญ นับว่าเป็นผลงาน การประพันธ์ที่แสดงถึงพัฒนาการในการปรับเปลี่ยนการสร้างสรรค์ผลงานเพลง ไทยเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประพันธ์ปรับปรุงเพลงแขกมอญขึ้น นับตั้งแต่นำ บทเพลงของเก่ามาแต่งขยายด้วยชั้นเชิงการประพันธ์ที่แยบยลจนกลายเป็นผล งานอมตะที่พัฒนามาจนเกิดเป็นบทเพลงแขกมอญรูปลักษณะต่างๆ ที่ใช้กันในวง ดนตรีไทย เช่น เพลงเรื่องแขกมอญ เพลงโหมโรงแขกมอญ เพลงแขกมอญเถา และเพลงเดี่ยวแขกมอญ สำ หรับเครื่องดนตรีไทยหลายชนิด สะท้อนให้เห็นถึง ความเป็นดนตรีชนชาติที่เจริญแล้วด้วยศาสตร์ชั้นสูง อาทิ เพลงช้าเรื่องแขกมอญ มีดังนี้ เริ่มด้วยเพลงอัตรา 2 ชั้น จังหวะหน้าทับปรบไก่ ต่อด้วยเพลงจังหวะหน้า ทับสองไม้ ออกเพลงเร็วซึ่งเป็นอัตราจังหวะชั้นเดียวและจบลงด้วยเพลงลา (วิชา ศรีผ่อง , ปราโมทย์ ด่านประดิษฐ์ : 2563 : น.3) ชื่อของเพลงแขกมอญ ไม่ได้แปลว่าดนตรีจะต้องมีสำ เนียงแขกหรือสำ เนียง มอญ แต่คำ ว่าแขกเป็นคำ ที่เรียกเพลงเร็วในเพลงเรื่องเพลงแขกมอญยังถือเป็น เพลงสำ คัญ เป็นเพลงที่มีลักษณะพิเศษ ครูดนตรีไทยจึงนำ ไปประดิษฐ์เป็นเพลง เดี่ยวเพื่อแสดงศักยภาพ เพลงเดี่ยวแขกมอญจะมีลักษณะของการซ้ำ สำ นวนใน ช่วงท้ายของเพลงทุกท่อน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการดำ เนินทำ นองกันอย่าง เต็มที่ 3
ประวัติครูผู้เเต่งเพลงแขกมอญ พระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางค์กูร) หรือ ครูมีแขก เกิดตอนปลายรัชกาลที่ 1 แห่งพระราชวงศ์จักรี ท่านเป็นครูดนตรีมาตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาล พระบาทสมเด็จพระนั่งนั่เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จนถึง รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 นั้น ครูมีแขกได้เป็นครูปี่พาทย์ในพระบาท สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เดิ์ป็น "หลวงประดิษฐไพเราะ" เมื่อวัน ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2396 ตำ แหน่งปลัดจางวางมหาดเล็กว่าราชการกรมปี่พาทย์ ฝ่ายพระบวรราชวัง ในปีเดียวกันนั้นเองท่านได้แต่งเพลงเชิดจีน แล้วนำ ขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นที่สมพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่งจึงโปรดให้เลื่อนบรรดาศักดิ์จดิ์ากหลวงเป็น พระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางค์กูร) ได้รับสมญาว่าเป็นเจ้าแห่งเพลงทยอยเพราะผลงานเพลงลูกล้อ ลูกขัด เช่น ทยอยนอก ทยอยเขมร ล้วนเป็นผลงานของท่านทั้งนั้น ผลงานของพระประดิษฐไพเราะ (ครูมีแขก) •โหมโรงขวัญเมือง •การเวกเล็กสามชั้น •กำ สรวลสุรางค์ สามชั้น •แขกบรเทศ สามชั้น •แขกมอญ สามชั้น •แขกมอญบางช้าง สามชั้น •ทะแยสามชั้น •สารถี สามชั้น •พญาโศก สามชั้น •พระอาทิตย์ชิงดวง สองชั้น •จีนขิมใหญ่ สองชั้น •เชิดจีน •ทยอยนอก •ทยอยเดี่ยว •ทยอยเขมร •เทพรัญจวน •หกบท สามชั้น •อาเฮีย สามชั้น 4
ประวัติผู้คิดทางเดี่ยวฆ้องวงใหญ่เพลงแขกมอญ 3 ชั้น 5 ครูสอน วงฆ้อง เป็นบุตรของนายขันและนางนิ่ม เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๕ ที่บ้านเจ้าเจ็ด จังหวัดอยุธยา การศึกษาวิชาดนตรีของครูสอนนั้น เริ่มต้นกับ ครูทอง ฤทธิรณ ครูปี่พาทย์ในละแวกบ้านครั้นต่อมา จึงได้เป็นศิษย์ของพระยาเสนาะดุริยางค์ (แช่ม สุนทรวาทิน) เจ้ากรมปี่พาทย์หลวงในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องด้วยครูสอนเป็นคนมีไหวพริบปฏิภาณและความ เฉลียวฉลาดแม่นยำ มั่นมั่คงยิ่งนัก จึงได้วิชาความรู้ทางดนตรีจากพระยาเสนาะฯมากที่สุด มีเป็น หลายครั้งที่พระยาเสนาะฯ บอกเพลงให้ครูสอนแล้วมอบหมายให้เป็นผู้สอนนักดนตรีคนอื่น ๆ ต่อ ไปอีกทอดหนึ่ง หน้าที่การงานของครูสอน เริ่มต้นตั้งแต่ เจ้าพระยาธรรมธิกรณาธิบดี เสนาบดีกระทรวงวังในรัชกาล ที่ ๖ ไปขอตัวมาเป็นคนฆ้องประจำ วงปี่พาทย์ที่บ้านของท่าน ครั้นอายุครบเกณฑ์ ก็เข้ารับราชการ เป็นทหารรักษาวังรุ่นเดียวกับครูเทียบ คงลายทอง ครูมิ ทรัพย์เย็น เป็นต้น พ้นราชการทหารแล้ว จึงเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็กในกรมปี่พาทย์และโขนหลวง เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วจึงได้โอนมาสังกัดกรมศิลปากรจนเกษียณอายุ ราชการ และได้รับการจ้างต่อให้เป็นครูพิเศษในวิทยาลัยนาฎศิลป จนถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๑๘ ด้วยโรคหัวใจ สิริอายุได้ ๗๔ ปี
6 ประวัติผู้ได้รับการถ่ายทอด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรดิษ ภาคสุชลเกิดวันที่ 24 มิถุนายน พุทธศักราช 2513 ศึกษาระดับปริญญาตรีที่ดุริยางคศาสตร์ไทย -มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สำ เร็จการศึกษา หลักสูตรศิลปศาสตร์ สาขาดนตรีชาติพันธ์วิทยา -มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เริ่มศึกษาดนตรีไทยกับครูท่านแรก คือ ครูทองชุบ ธรรมวิญญู เข้าศึกษาดนตรีไทยที่ วิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง และสำ เร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว 7
โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว 8
โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว 9
โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว 10
โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว 11
โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว 12
โน้ตเพลงแขกมอญ 3 ชั้นทางเดี่ยว 13
เทคนิคการเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ เพลงแขกมอญ 3 ชั้น ท่อนที่ 1 ท่อนที่ 3 ท่อนที่ 2 14 เทคนิคการเดี่ยวในท่อนที่ 1 จะใช้การ สะบัด กรอ กวาดขึ้น ประคบ เทคนิคการเดี่ยวในท่อนที่ 2 จะใช้การ สะบัด กรอ กวาดขึ้น กวาดลง ไขว้มือ ประคบ เฉี่ยว เทคนิคการเดี่ยวในท่อนที่ 3 จะใช้การ สะบัด กรอ กวาดขึ้น กวาดลง ไขว้มือ ประคบ เฉี่ยว
บรรเลงเดี่ยวฆ้องวงใหญ่เพลงแขกมอญ 3 ชั้น 15
บรรณานุกรม 16 อัศนีย์ เปลี่ยนศรี (2561). อัตลักษณ์ในเพลงเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ ทางหลวงบำ รุงจิตรเจริญ (ธูป สาตนวิลัย). วานสารสาขามนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ ปีที่ 11 ฉบับที่3 กันยายน-ธันวาคม.462 วิชา ศรีผ่อง และปราโมทย์ ด่านประดิษฐ์ (2563). กลวิธีเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ของครูสอน วงฆ้อง กรณีศึกษาเพลงแขกมอญสามชั้น. วารสารดนตรีและการแสดง ปีที่ 9 ฉบับที่1 มกราคม-มิถุนายน 2774-0722 (Online) Thaijo "กลวิธีการเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ของครูสอน วงฆ้อง กรณีศึกษาเพลงแขกมอญ 3 ชั้น ", วิชา ศรีผ่อง (27 ตุลาคม 2565). ดนตรีและการแสดง fle:///C:/Users/HP/Downloads/mupabuujournal,+%67BSuserGroup%67D,+1%EQ หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพนายสอน วงฆ้อง(2526). นามานุกรมศิลปินเพลงไทย ในรอบ ๒๐๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. https://sirindhornmusiclibrary.li.mahidol.ac.th/hall_of_fame/thai-musicians184/