The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มโปร-ชลสิทธิ์103_merged

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-10-25 09:53:32

เล่มโปร-ชลสิทธิ์103_merged

เล่มโปร-ชลสิทธิ์103_merged

แบบบนั ทกึ การปฏบิ ตั วิ ชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1
ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา2564

รหสั ประจาํ ตัวนักศกึ ษา 6115320103 นายชลสิทธิ์ เทยี่ งเอี่ยม
สาขาวชิ าดนตรศี กึ ษา
ช่อื โรงเรียน พัฒนานิคม
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ อาํ เภอพฒั นานิคม
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เทพสตรี
ตาํ บลพฒั นานิคม จังหวัดลพบรุ ี

ชลสทิ ธิ์ เทย่ี งเอย่ี ม

สาขาวชิ า ดนตรศี กึ ษา

ประวัตสิ ่วนตัว ประวัตกิ ารศกึ ษา
ชื่อ นายชลสทิ ธิ์ เท่ียงเอ่ยี ม ระดบั ปฐมวยั โรงเรยี นเพญ็ พฒั นา
ช่ือเลน่ ปลมื้ (2546 - 2548)
วนั เดือนปีเกิด 18 ธนั วาคม 2542 ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนเพญ็ พฒั นา
อายุ 21 ปี (2549 - 2554)
เพศ ชาย ระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรียนพฒั นานคิ ม
สถานภาพ โสด (2555 - 2560)
สญั ชาติไทย ศาสนาพทุ ธ ระดบั อดุ มศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เทพสตรี
(2560 ถงึ ปัจจบุ นั )
ทกั ษะ
ศิลปะ ข้อมลู การตดิ ตอ่
ดนตรสี ากล FB : ชลสทิ ธิ์ เที่ยมเอ่ยี ม
ดนตรไี ทย ID : 0 9 6 0 0 1 3 6 2 2
นาฏศิลป์ IG : P O R P L E U M

ส่งิ ทช่ี ่นื ชอบ
อาหาร แมวหมา เกม
ทอี่ ยู่ปัจจุบัน
90/1 หมู่ 13 ซอย 20 สาย 1 สาย 2 ซา้ ย
ตาํ บล พฒั นานิคม อาํ เภอ พฒั นานิคม
จงั หวดั ลพบรุ ี รหสั ไปรษณีย์ 15140

แบบบนั ทึกการฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรียน 1

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

ช่อื -นามสกลุ นายชลสิทธิ์ เท่ยี งเอย่ี ม
รหัสประจำตวั นักศกึ ษา 61115320103

สาขาวชิ า ดนตรศี ึกษา

ชื่อโรงเรียนพัฒนานคิ ม
สงั กัด สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา ลพบุรี

อำเภอพฒั นานิคม จังหวดั ลพบุรี

ฝา่ ยฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั เทพสตรี

คำนำ

เอกสารฉบับนเ้ี ปน็ คู่มือประกอบการฝึกปฏิบัติวชิ าชพี ระหว่างเรียน 1 เปน็ สว่ นหน่ึงของกระบวนการ
ฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรยี นรู้และเข้าใจวิชาชีพครู ซึ่งได้แก่ กระบวนการ
การเรยี นการสอน หลักสตู ร ระบบการบรหิ ารงานการศึกษาในโรงเรยี นและได้ทำงานร่วมกบั ผูอ้ ่นื ซึ่งกจิ กรรม
เหล่านีจ้ ะสามารถพัฒนาความรู้ ความสามารถของนักศกึ ษาไดเ้ ป็นอยา่ งดี

การฝึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรียน 1 เป็นการฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครูเพือ่ เตรียมความพร้อมก่อน
ออกปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศึกษาโดยการสังเกตสภาพท่วั ไปของโรงเรียน พฤติกรรมการเรียนรขู้ องนักเรียน
งานในหนา้ ทคี่ รูผสู้ อน ครูประจำช้นั การศึกษางานดา้ นการบรหิ ารและบริการ สภาพชมุ ชนและความสมั พนั ธ์
ระหวา่ งโรงเรยี นกบั ชุมชน

โดยเอกสารฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดการบันทึกงานที่ต้องฝึกปฏิบัติต่าง ๆ ให้
สอดคล้องกับบรบิ ทสถานการณ์ปัจจุบันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ซึ่งทำให้
นกั ษาไมส่ ามารถฝกึ ปฏบิ ัตฯิ ในสถานศกึ ษาได้ และใหป้ รับมาใชก้ ารฝึกปฏิบตั ผิ า่ นระบบออนไลนเ์ พื่อทดแทน
กระบวนการต่าง ๆ

หวังวา่ เอกสารฉบับน้ีคงให้ประโยชน์ในการเรยี นรู้และเข้าใจในวชิ าชีพครูกอ่ นทจ่ี ะออกฝึกปฏิบัติงาน
วิชาชพี ครูในขัน้ ตอ่ ไป

ฝ่ายฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู
คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เทพสตรี

สารบัญ

เรื่อง หน้า

การฝึกปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหว่างเรียน 1 ........................................................................................... 1
จุดประสงคข์ องการฝึกปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหว่างเรียน 1.................................................................... 1
ขอ้ เสนอแนะในการฝกึ และการใช้เอกสาร .................................................................................... 2
การประเมินผลการฝึกปฏิบัตวิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรียน 1..................................................................... 3
เกณฑ์ในการประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหวา่ งเรียน 1....................................................... 4
ปว.1-1 แบบบันทึกการสงั เกตสภาพทวั่ ไปของโรงเรียน ............................................................... 5
ปว.1-2 แบบบันทกึ การสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ........................................................................ 9
ปว.1-3 แบบบนั ทกึ การจดั การเรยี นรู้ (สัมภาษณน์ กั เรยี น) .......................................................... 11
ปว.1-4 แบบบันทกึ การสังเกตสภาพชมุ ชนและความสัมพันธ์ระหวา่ งโรงเรียนกบั ชุมชน ............. 13
ปว.1-5 แบบบันทึกการปฏบิ ตั งิ าน ............................................................................................... 14
ปว.1-6 แบบสมั ภาษณค์ รพู ีเ่ ลีย้ ง.................................................................................................... 15
ปว.1-7 แผนการจดั การเรียนรู้ ..................................................................................................... 16
ปว.1-8 การวิจยั ในชั้นเรยี น .......................................................................................................... 18
ปว.1-9 แบบประเมนิ การปฏิบตั ิตนของนกั ศึกษา ......................................................................... 19
ปว.1-10 แบบประเมนิ แผนการจัดการเรียนร.ู้ ............................................................................... 20
ปว.1-11 แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ภาพการจัดการเรียนการสอน....................................................... 21
ภาคผนวก ..................................................................................................................................... 27
28
- แบบลงเวลาปฏบิ ัติงานนักศึกษา.............................................................................................

3

การฝึกปฏิบตั วิ ิชาชพี ระหว่างเรียน 1

มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เป็นมหาวิทยาลัยที่ทำหน้าที่ผลิตครูให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและ
มัธยมศึกษาในท้องถนิ่ เขตรับผดิ ชอบ 3 จังหวดั ไดแ้ ก่ ลพบรุ ี สระบุรี และสงิ ห์บรุ ี การผลิตครูใหม้ ีคณุ ภาพสามารถ
ปฏิบัติงานในหน้าที่ครูได้เป็นอย่างดี และมีจิตวิญญาณของความเป็นครูขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิต ซึ่งได้แก่
กระบวนการเรยี นการสอนหลักสตู ร การฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู และกระบวนการประเมนิ ผล

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเป็นกิจกรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของการผลิตครู ในช่วงที่ฝึกประสบการณ์
วิชาชีพครู นักศึกษาจะมีโอกาสนำความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพครู และวิชาเฉพาะที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยไป
ฝึกปฏิบัติในชั้นเรียน นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบการบริหารงานการศึกษาในโรงเรียนและได้ทำงาน
ร่วมกับบุคคลอื่นกิจกรรมเหลานี้ช่วยให้นกั ศกึ ษาได้พัฒนาตนเองใหม้ ีทักษะในวิชาชีพ จนสามารถปฏิบัติหน้าทีค่ รู
ได้อย่างม่ันใจและมเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อวชิ าชีพ งานวิจยั หลายเรอ่ื งทง้ั ในและตา่ งประเทศยนื ยนั ตรงกันว่านกั ศึกษาที่ประสบ
ความสำเรจ็ ในการฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครูจะมเี จตคติทด่ี ตี ่อวชิ าชีพครแู ละแนวโนม้ จะเปน็ ครทู ีด่ ใี นอนาคต

จากแผนหลักการปฏิรูปการฝึกหัดครู พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ความสำคัญกับการฝึก
ประสบการณว์ ิชาชีพครู เพราะเป็นกลไกสำคญั ยิ่งในการสรา้ งบัณฑติ ครูที่ดี มเี จตคติท่ีดีต่อวชิ าชีพครู สถาบนั ฝกึ หดั
ครูควรจะต้องปรับปรงุ และพัฒนางานฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู ให้เอื้ออำนวยตอ่ การเรียนรูง้ านครู จากครูที่เป็น
แบบอย่างทม่ี ใี นโรงเรียนและชุมชน นอกจากนคี้ วรจะพฒั นาเครอื ขา่ ยการเรียนรทู้ ่สี ่งเสรมิ การฝึกหดั ครูให้เปิดกว้าง
สู่ชุมชนขยายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ขยายแหล่งเรียนรู้ แหล่งวิทยากร และแหล่งฝึกประสบการณ์
วิชาชีพครูอยา่ งกวา้ งขวาง

จดุ ประสงค์ของการฝึกปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหว่างเรียน 1

1. เพอื่ ให้นกั ศึกษามีความพร้อมก่อนออกปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา
2. เพอ่ื ให้นกั ศึกษาไดศ้ กึ ษาสงั เกตสภาพท่ัวไปของโรงเรียนทั้งดา้ นการเรียนการสอน ดา้ นสถานท่ีและด้าน
กจิ กรรม
3. เพื่อให้นักศกึ ษาไดบ้ ูรณาการความรทู้ ง้ั หมดมาใชใ้ นการฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครใู นสถานศกึ ษา
4. เพือ่ ให้นักศึกษาไดศ้ กึ ษาและฝกึ ปฏบิ ัติการวางแผนการศึกษาผ้เู รยี นโดยการสงั เกต
5. เพื่อให้นักศกึ ษาไดส้ มั ภาษณ์งานในหนา้ ท่ขี องครูผสู้ อน งานในหน้าท่ขี องครปู ระจำช้นั
6. เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ลักษณะความแตกต่างและพฤติกรรม
ของผ้เู รยี น งานบริหารและบริการของโรงเรยี น
7. เพื่อให้นักศึกษาได้ทดลองเขียนแผนการจัดการเรียนรู้วิชาเอก การฝึกเป็นผู้ช่วยครูด้านการจัดการ
เรยี นร้หู รอื สนบั สนุนการจดั การเรียนรู้ งานธุรการช้ันเรียน
8. เพอ่ื ให้นักศึกษาได้ออกแบบการวิจัยในชน้ั เรยี นตามบรบิ ทของสาขาวชิ าท่ศี ึกษา เพื่อเตรียมความพร้อม
ในการนำไปศึกษาวิจัยจรงิ เมอื่ สามารถฝกึ ปฏิบัตวิ ชิ าชีพ ในสถานศึกษาได้ตามปกติ
9. เพื่อให้นักศึกษาได้ทำการทดลองสอนในสถานการณ์จำลองผ่านระบบออนไลน์ และมีครูพี่เลี้ยงให้
คำแนะนำเพื่อปรบั ปรงุ พัฒนาการสอนของนักศึกษา เพ่อื เตรยี มความพร้อมกอ่ นไปทำการสอนจริงในสถานศึกษา

4

ขอ้ เสนอแนะในการฝกึ และการใชเ้ อกสาร

การประกอบวิชาชีพให้เกิดประสิทธิผล ไม่เพียงแต่จะเรียนรู้ในภาคทฤษฎีความรอบรู้ในด้านวิชาการ
เท่านน้ั ท่ีสำคญั ยิง่ กวา่ อนื่ ใดคือการฝึกภาคปฏบิ ัติอย่างจริงจงั และตอ่ เนอื่ ง

วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ครูเป็นผู้รับผิดชอบ “ชีวิต” ของมนุษย์ เช่นเดียวกับแพทย์มีหน้าที่รักษา
โรคภัยไข้เจ็บ มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ แต่ครูนอกจากให้ชีวิตเหล่านั้นมีความรู้ สามารถอยู่ได้ในสังคมอย่างมี
ความสขุ มคี ุณธรรม เป็นพลเมอื งดขี องชาติแลว้ ยังตอ้ งพัฒนาใหเ้ ขาเหลา่ นนั้ มคี ุณภาพชวี ติ ด้วย

นักศกึ ษาแพทย์ทุกคนต้องฝกึ ในโรงพยาบาลเปน็ ระยะๆ อย่างต่อเน่อื งฉนั ใดนกั ศึกษาครยู ่อมฝกึ ในโรงเรียน
ในสถานการณ์จริงฉันนั้น การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูตามหลักสูตรนับเป็นโอกาสดีที่ได้เสริมสร้างคุณภาพใน
วิชาชีพของตน

ข้อเสนอแนะต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาและการพัฒนากระบวนการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่าง
เรียน และการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษาอยา่ งยงิ่ คือ

1. ศกึ ษาเอกสารโดยตลอดทำความเขา้ ใจและปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนของสิ่งท่ตี ้องจดั ทำตามแบบรายงาน
2. เขา้ ปฐมนเิ ทศช้ีแจงการดำเนินงาน และกิจกรรมตา่ ง ๆ ทก่ี ำหนดมอบหมายไว้
3. ปฏิบตั ิงานเปน็ ขน้ั ตอนตามกำหนดการ
4. บนั ทึกลงในแบบฟอร์มต่างๆ ตามลำดับอย่างครบถว้ น
5. ให้ผู้รบั ผิดชอบลงชือ่ ในแบบบนั ทึกแตล่ ะแบบตามลำดบั (เปน็ ลายเซน็ ตอ์ เิ ล็กทรอนกิ สไ์ ด้ แต่ตอ้ งมภาพ
ประกอบการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ กับครพู ี่เลี้ยงประกอบในภาคผนวกดว้ ย)
6. ให้ผู้รบั ผิดชอบประเมนิ ผลการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน เมื่อฝึกปฏิบัตวิ ิชาชีพระหว่างเรียนและ
บันทกึ การปฏบิ ัตงิ านครบถ้วนตามกำหนด
7. หลังจากโรงเรียนประเมินผลการฝกึ ปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียนโดยครพู เี่ ล้ยี งแลว้ ฝ่ายฝึกประสบการณ์
วชิ าชีพครแู ละอาจารย์ผูส้ อนจะประเมนิ ผลคร้งั สุดท้ายหลังจากครบกำหนดเวลาการปฏบิ ัติงานวิชาชีพครู

5

การประเมนิ ผลการฝกึ ปฏบิ ัติวิชาชพี ระหว่างเรยี น 1

การประเมนิ ผลการฝกึ ปฏบิ ัตวิ ิชาชพี ระหว่างเรียน ประเมินตามรายวิชาท่ฝี ึกทุกปกี ารศึกษา นกั ศึกษาต้อง
ผา่ นการฝกึ เปน็ ขน้ั ตอนตามลำดบั หากไม่ผ่านในข้ันตอนใดต้องซอ่ มเสรมิ ให้ “ผ่าน” จงึ ฝกึ ในขน้ั ต่อไปได้

การประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานวิชาชพี ครู เป็นการประเมนิ ผลที่ครอบคลมุ ท้ังคุณลักษณะความเป็นครูและ
เทคนคิ วิธี โดยมผี ู้ประเมินท้ังฝา่ ยมหาวทิ ยาลัยและโรงเรยี น

ในการประเมินผลการฝึกประสบการณ์ขั้นศึกษาสังเกตและมีส่วนร่วม นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2542
เปน็ ต้นไป จะเปล่ียนระบบการประเมนิ ผลจาก ผา่ นดเี ย่ียม, ผา่ น, ไมผ่ า่ น เปน็ ระบบการประเมินแบบให้เกรดคือ A,
B+, B, C+, C, D+, D และ E

ประเภทของแบบประเมนิ
แบบประเมินผลการฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชพี ระหว่างเรยี น หรือ ปว. มที ง้ั หมด 8 ชุด แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. สำหรับนกั ศกึ ษา ปว.1-1 ถงึ ปว.1-5 โดยมรี ายละเอียด ดงั น้ี
ปว.1-1 แบบบนั ทกึ การสงั เกตสภาพทัว่ ไปของโรงเรียน
ปว.1-2 แบบบนั ทกึ การปฏิบัตงิ าน
ปว.1-3 แบบสัมภาษณก์ ารจัดการเรียนรู้
ปว.1-4 แผนการจดั การเรียนรู้ 3 แผน
ปว.1-5 โครงรา่ งการวจิ ัยในชั้นเรียน
นกั ศกึ ษามหี นา้ ทีบ่ นั ทึกผลการศกึ ษาสงั เกตใหถ้ กู ตอ้ งตามความเป็นจรงิ หลงั จากนน้ั ให้ครูพีเ่ ลี้ยง

และอาจารย์นิเทศกล์ งช่ือรับรอง
2. สำหรับครพู ี่เลี้ยงและอาจารย์ผสู้ อน ปว.1-6 ถงึ ปว.1-8 โดยมีรายละเอยี ด ดังนี้
ปว.1-6 แบบประเมินการปฏิบตั ติ นของนักศกึ ษา (โดยครูพ่ีเลี้ยง)
ปว.1-7 แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ (โดยครพู เ่ี ลย้ี ง)
ปว.1-8 แบบประเมนิ ด้านคณุ ภาพการจดั การเรียนการสอน (โดยครูพ่เี ลีย้ ง)
ครูพีเ่ ลย้ี งทำการประเมินตามแบบฟอร์มแลว้ สง่ ให้กับนักศึกษาเพื่อทำการรวบรวมใส่ในเล่มแบบ

บันทกึ การฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชีพระหว่างเรยี น 1

6

เกณฑใ์ นการประเมนิ ผลการฝกึ ปฏบิ ตั วิ ิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1

1. คะแนน ปว.1-6 ถึง ปว.1-8 ซึ่งได้รับการประเมินจากครูพี่เล้ียงประจำโรงเรียนหน่วยฝึกประสบการณ์

วชิ าชพี ครู

2. คะแนนจากการประเมินของอาจารย์ผู้สอนรายวิชาฝกึ ปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 ซึ่งประกอบด้วย

คะแนนจากแบบบันทกึ การปฏิบัตงิ านของนกั ศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ งานวิจยั ในชน้ั เรยี น การมีส่วนร่วมในช้ัน

เรียน การนำเสนอ บคุ ลกิ ภาพ และการแต่งกาย การใช้วาจา กริ ยิ าท่าทาง และความรับผิดชอบ

3. แนวทางการให้คะแนนรายวิชาการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 กำหนดเกณฑ์การให้คะแนน

ดงั น้ี

3.1 อาจารย์ผสู้ อน รวม 60 คะแนน

3.1.1 แบบบันทึกปฏิบัตงิ านของนักศึกษาในภาพรวม 30 คะแนน

3.1.2 โครงร่างงานวจิ ยั ในชัน้ เรยี น 10 คะแนน

3.1.3 การมสี ่วนรว่ มในการจดั การเรยี นการสอน 10 คะแนน

3.1.4 พฤตกิ รรมการเรยี นของนกั ศึกษา 10 คะแนน

3.2 ครูพเ่ี ลยี้ ง รวม 40 คะแนน

3.2.1 แบบประเมินการปฏิบตั ติ นของนกั ศกึ ษา 10 คะแนน

3.2.2 แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ 10 คะแนน

3.2.3 แบบประเมนิ การจัดการเรียนรู้ 20 คะแนน

รวมท้งั สิน้ 100 คะแนน

4. นำคะแนนจากข้อ 1 และ 2 มารวมกันแลว้ ประเมินเปน็ เกรดโดยมีเกณฑ์ ดงั นี้

คิดจากคะแนนเตม็ 100 คะแนน

คะแนน 90 – 100 ไดร้ ะดบั A

คะแนน 85 – 89 ได้ระดับ B+

คะแนน 80 – 84 ได้ระดบั B

คะแนน 75 – 79 ได้ระดบั C+

คะแนน 70 – 74 ไดร้ ะดับ C

คะแนน 65 – 69 ได้ระดบั D+

คะแนน 60 – 64 ไดร้ ะดับ D

คะแนน 0 – 59 ได้ระดับ E

7

ปว.1-1

แบบบันทึกการสงั เกตสภาพทว่ั ไปของโรงเรยี น

คำชแี้ จง ให้นักศกึ ษาบันทกึ ข้อมลู การศกึ ษาและสงั เกตสภาพท่วั ไปตามความเป็นจริงของสถานศึกษาลงในช่องวา่ ง

ตามหัวขอ้ ทก่ี ำหนด

1. โรงเรียน พฒั นานิคม สังกดั สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน

ทีต่ ัง้ เลขที่ 192 ซอย/ถนน -

ตำบล พัฒนานิคม อำเภอ พฒั นานิคม

จงั หวดั ลพบุรี รหสั ไปรษณีย์ 15140 โทรศพั ท์ 036491338 โทรสาร 036491338

2. คติพจน์/ปรชั ญาของโรงเรียน/วสิ ัยทัศน์ของโรงเรียน

มานะ สะอาด จริงใจ วนิ ัย สามคั คี

3. ชือ่ ผู้บรหิ ารโรงเรียน นางณฏั ฐินี หอมจันทร์

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น

ฝา่ ยวชิ าการ นายกติ ติศักดิ์ ปานงาม

ฝ่ายปกครอง นายประสทิ ธิ์ ยอดสลุง

ฝ่ายธุรการ นายกติ ติคม บตุ รแสนคม

ฝ่ายบริการ นายกิตตคิ ม บุตรแสนคม

ฝ่ายกิจการ นายประสทิ ธิ์ ยอดสลุง

4. บุคลากร

4.1 ครูอาจารย์

ระดับการศกึ ษา สาขาวิชา จำนวน รวม
ชาย หญงิ

ปรญิ ญาเอก 000

ปริญญาโท 7 18 25

ปริญญาตรี 12 30 42

ป.กศ.สูงหรอื เทยี บเทา่ 617

ครอู ัตราจ้าง 246

ธุรการ 0 1 1

อ่ืนๆ 0 3 3

รวม 27 57 84

4.2 คนงาน มีท้งั หมด 6 คน เปน็ หญิง 2 คน เป็นชาย 4 คน
4.3 นกั เรียน มีทง้ั หมด 1,506 คน เป็นหญิง 618 คน เปน็ ชาย 888 คน

8

แยกตามลำดับข้นั ต่าง ๆ ไดด้ งั นี้ จำนวนหอ้ ง จำนวนนักเรียน
หญงิ ชาย รวม
ระดบั ช้ัน 0 000
0 000
1. อนบุ าล 1 0 000
2. อนบุ าล 2 0 000
3. อนบุ าล 3 0 000
4. ประถมศึกษาปที ี่ 1 0 000
5. ประถมศึกษาปที ่ี 2 0 000
6. ประถมศึกษาปที ี่ 3 0 000
7. ประถมศกึ ษาปีที่ 4 0 000
8. ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 7 104 111 215
9. ประถมศึกษาปที ี่ 6 6 94 105 199
10. มัธยมศึกษาปีท่ี 1 7 108 125 233
11. มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 9 121 209 330
12. มัธยมศึกษาปที ่ี 3 8 97 148 245
13. มัธยมศึกษาปีที่ 4 9 94 190 284
14. มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 46 618 888 1,506
15. มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
รวม

สรุปอตั ราส่วนระหว่างจำนวนครอู าจารย์ต่อจำนวนนักเรยี น โดยประมาณ คอื

ครูอาจารย์ คน ต่อนกั เรยี น 18 คน

5. อาคารสถานที่

5.1 ห้องเรียน มที ้งั หมด 58 หอ้ ง

5.2 หอ้ งพักครอู าจารย์ มีทง้ั หมด 8 หอ้ ง

5.3 หอ้ งสง่ เสริมวชิ าการ มที ง้ั หมด 4 หอ้ ง

6. สภาพแวดลอ้ ม

6.1 สถานท่สี ำคัญท่อี ยูใ่ กลโ้ รงเรียน ไดแ้ ก่

6.1.1 วัดพรหมรงั ษี

6.1.2 วัดพฒั นาธรรมาราม

6.1.3 ท่ีวา่ การอำเภอพัฒนานิคม

6.1.4 เขื่อนป่าสักชลสทิ ธ์ิ

6.1.5 พพิ ิธภณั ฑ์บ้านโปง่ มะนาว

9

6.1.6 พพิ ิธภณั ฑ์พื้นบ้านไทยเบ้งิ โคกสลงุ
6.1.7 แหลง่ โบราณคดบี ้านโคกหมอ้
6.1.8 สำนกั งานปฏริ ูปที่ดิน อำเภอพฒั นานคิ ม
6.1.9 ศนู ยอ์ นุรักษ์ผ้ึง ลพบรุ ี ฟาร์มนำ้ ผง้ึ ลุงสะอาด
6.1.10 นำ้ ตกสวนมะเดื่อ
6.1.11 วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยี ลพบรุ ี
6.1.12 บริษทั กรงุ เทพฯ อุตสาหกรรมเมล็ดพันธ์ จำกัด
6.1.13 เขาพระยาเดินธง
6.1.14 คา่ ยลูกเสอื ปา่ สักแคม้ ป์
6.1.15 หอ้ งสมดุ ประชาชน "เฉลมิ ราชกมุ าร”ี
6.1.16 โรงพยาบาลพัฒนานิคม
6.1.17 ทา่ ปลาบา้ นมะนาวหวาน
6.2 สถานทใี่ กลเ้ คียงโรงเรียนที่เป็นแหลง่ วทิ ยาการส่งเสรมิ การจดั การเรียนการสอน
6.2.1 เขื่อนป่าสกั ชลสทิ ธ์ิ
6..2.2 แหล่งโบราณคดีบา้ นโปง่ มะนาว
6.2.3 แหลง่ โบราณคดีบา้ นโคกหม้อ
6.2.4 แหล่งโบราณคดบี า้ นซบั จำปา
6.2.5 พิพิธภัณฑไ์ ทยเบ้งิ บา้ นโคกสลุง
6.2.6 น้ำตกสวนมะเด่ือ
6.2.7 ทา่ ปลาบ้านมะนาวหวาน
6.2.8 วัดพฒั นาธรรมราม
6.2.9 วัดพรหมรงั ษี
6.2.10 เขาพระยาเดนิ ธง
6.2.11 ถำ้ เอราวณั (ถ้ำเทวาพิทกั ษ)์
6.2.12 ศูนย์อนรุ กั ษ์ผึ้ง ลพบรุ ี ฟาร์มน้ำผงึ้ ลุงสะอาด
6.2.13 วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ลพบุรี
6.2.14 ห้องสมดุ ประชาชน "เฉลมิ ราชกมุ าร"ี
6.2.15 โรงพยาบาลพัฒนานิคม
6.2.16 คา่ ยลกู เสอื ป่าสกั แคมป์
7. สภาพของนักเรียน
7.1 สภาพครอบครัว (อาชีพ ฐานะทางเศรษฐกจิ )

สภาพครอบครัวของนกั เรยี นมีฐานะปานกลาง มรี ายได้ไม่แน่นอน ผู้ปกครองสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี
เกษตรกร ทำนา ทำไร่ และรบั จ้างพนักงานบรษิ ทั

7.2 พฤติกรรมนกั เรยี น

10

พฤติกรรมนักเรียนส่วนใหญ่จะมีสัมมาคารวะและอ่อนน้อม เมื่อพบครู อาจารย์จะทำความเคารพ
เสมอด้วยความเต็มใจ มีจิตสำนึกที่ดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในด้านการแต่งกายส่วนใหญ่ถูกระเบียบของ
โรงเรียน8. ภาระหนา้ ทขี่ องครูผ้สู อน

8.1 ครูประจำช้ัน
8.1.1 สำรวจการมาโรงเรยี นของนักเรยี นแล้วสรุปส่งที่กลุ่มบรหิ ารกจิ การนักเรียน
8.1.2 ตดิ ตามผลการเรียนของเดก็ ในชนั้ เรยี น
8.1.3 ให้คำปรกึ ษาและพบนักเรยี นทุกวัน (โฮมรูมชว่ งเชา้ ก่อนขึน้ เรียน)
8.1.4 ประสานงานติดต่อกับผู้ปกครอง ในทุกด้าน เช่น การเรียน ด้านพฤติกรรมของนักเรียนใน

ปกครอง
8.2 งานอน่ื ๆ

8.2.1ประสานงานกับฝ่ายอื่น ๆ เช่น ฝ่ายปกครอง ครูประจำวิชา กรณีที่นักเรียนมีพฤติกรรมไม่พึง
ประสงค์
9. แผนผงั แสดงบรเิ วณและทต่ี ัง้ ของโรงเรยี น

10. ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนพัฒนานิคมได้เริ่มก่อตั้งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2504 นับถึงปัจจุบัน จัดการเรียนการสอนตาม

หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เมื่อพุทธศักราช 2503 รัฐบาลของ
ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ได้ออกกฎหมายยกเลิกอาชีพขับสามล้อในกรุง เทพมหานคร(จังหวัดพระนคร
เดิม) และได้อพยพครอบครัวของกรรมการสามล้อเข้าไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมในเขตพ้ืนท่ีอำเภอพัฒนานคิ ม

11

ซึ่งในขณะนั้นอำเภอพัฒนานิคมกรรมการสามล้อคนละ 25 ไร่ กรรมการสามลอ้ เหลา่ นัน้ กรมประชาสงเคราะห์ได้
จดั สรรทด่ี ินให้สร้างโรงเรยี น มเี นอ้ื ท่ี 72 ไร่ 3 งาน 38.4 ตารางวา โดยเปิดสอนในระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึงช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 3 (มศ.3 ) สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2504 โดยมี
ฯพณฯ จอมพลสฤษด์ิ ธนะรชั ต์ มาเปน็ ประธานในพิธีเปิด ซง่ึ ในขณะนน้ั มีนายอนันต์ อำ่ พนั ธ เปน็ ครูใหญ่ต่อมาในปี
พทุ ธศักราช 2525 กรมสามัญศกึ ษาใหโ้ รงเรียนเปิดสอนในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย(ม. 4-ม. 6 )โดยมีผวู้ ่าราชการ
จังหวัดลพบรุ ี นายวิธาน สุวรรณทตั ใหเ้ กยี รตเิ ปน็ ประธานในพิธเิ ปดิ เมอื่ วนั ท่ี 1 มิถนุ ายน 2525
11. ขอ้ มูลโรงเรยี นดีเดน่

11.1 โรงเรียนพฒั นานคิ มไดร้ ับการประเมินเพื่อรับรองใหเ้ ป็น 1 อำเภอ 1 โรงเรยี นในฝัน
11.2 โรงเรยี นพัฒนานิคมได้รับรางวลั โรงเรียนพระราชทาน ระดับมัธยมศกึ ษาขนาดใหญ่ สำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษามัธยมเขต 5 ปี 2555แผนภูมโิ ครงสร้างการบรหิ ารของโรงเรียน

ลงช่อื ……………………………………….ผบู้ นั ทกึ
(นายชลสทิ ธ์ิ เท่ยี งเอ่ยี ม)

วนั ที่ 20 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564
ลงช่ือ………………………………………….ครพู เี่ ล้ียง

(ขนษิ ฐา หร่ังแร่)
วนั ท่ี 20 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564

12

ปว.1-2

แบบบนั ทึกการปฏิบัติงาน

คำช้แี จง ให้นักศึกษาบนั ทึกผลการปฏบิ ัตงิ านในสถานศกึ ษาผ่านระบบออนไลนท์ ุกครั้งท่ีปฏบิ ตั งิ านตามที่กำหนดให้

วนั ท่ี 3 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทีป่ ฏิบัติ/ทไี่ ด้เรียนรู้ สิง่ ที่ไดร้ บั จากการ ลงชื่อ
ปฏบิ ตั ิงานน้ี ครพู เ่ี ล้ยี ง

1. สงั เกตการสอน 1. สังเกตวธิ กี ารสอนจากครูพี่ 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นกั เรียนชน้ั 1/2 เล้ียง สอนจากครพู เ่ี ล้ียง

2. ประชุมเรื่องเกี่ยวกับครูพ่ี 2. ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการ

2.ประชุมหมวด เลี้ยงกับการวางโครงการ แก้ปญั หาเรือ่ งการส่งงานและ

รวบรัดการปดิ คอล์การเรยี น การเข้าเรียนของนักเรียนใน

ปญั หาของเดก็ ไมเ่ ข้าเรยี น การเรียนออนไลน์

ให้มีการตามจากครูที่ปรึกษา

เเล้วการตาม5-6ครัง้

การเขา้ เรียนของเดก็

ให้ติดตามติดต่อครูที่ปรึกษา

เเล้ววา่ การติดตาม

วนั ที่ 6 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการที่ปฏิบตั /ิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ สง่ิ ที่ได้รับจากการ ลงช่อื
ปฏิบตั งิ านน้ี ครพู ี่เลย้ี ง

1. สังเกตการสอน 1. สงั เกตวธิ กี ารสอนจากครูพี่ 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นกั เรยี นช้นั 1/4 เลยี้ ง สอนจากครูพ่ีเลยี้ ง

วันท่ี 7 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการท่ปี ฏบิ ัติ/ท่ีได้เรยี นรู้ สง่ิ ทีไ่ ด้รับจากการ ลงช่อื
ปฏบิ ตั งิ านน้ี ครูพีเ่ ล้ียง

1. สงั เกตการสอน 1. สังเกตวธิ ีการสอนจากครูพี่ 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นกั เรียนช้ัน 1/3 เล้ียง สอนจากครูพเ่ี ลีย้ ง

2. สังเกตการสอน 2. สังเกตวธิ กี ารสอนจากครูพ่ี 2. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรยี นช้นั 3/3 – 3/7 เลีย้ ง สอนจากครพู ่ีเลย้ี ง

13

วนั ที่ 8 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทป่ี ฏบิ ตั ิ/ที่ไดเ้ รยี นรู้ สิ่งทไี่ ด้รับจากการ ลงชื่อ
ปฏบิ ตั งิ านน้ี ครพู ี่เลยี้ ง

1. สังเกตการสอน 1. สงั เกตวธิ กี ารสอนจากครูพี่ 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นกั เรยี นชัน้ 1/1 เลยี้ ง สอนจากครพู เ่ี ลยี้ ง

วนั ที่ 9 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการที่ปฏิบัต/ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้ สง่ิ ทไี่ ด้รับจากการ ลงชอื่
ปฏิบัติงานนี้ ครพู เี่ ล้ยี ง

1. สังเกตการสอน 1. สงั เกตวิธีการสอนจากครูพ่ี 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ ลงชอ่ื
ครพู เ่ี ลย้ี ง
นักเรียนช้นั 1/4 – 1/7 เลย้ี ง สอนจากครูพี่เล้ียง

วันที่ 10 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทปี่ ฏบิ ัต/ิ ที่ได้เรยี นรู้ ส่ิงทไี่ ดร้ ับจากการ
ปฏิบัติงานนี้

1. สังเกตการสอน 1. สังเกตวิธกี ารสอนจากครูพ่ี 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรียนชนั้ 1/2 เลย้ี ง สอนจากครูพี่เลย้ี ง

วนั ท่ี 13 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทป่ี ฏบิ ตั /ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ สิง่ ที่ไดร้ บั จากการ ลงช่ือ
ปฏบิ ตั ิงานน้ี ครพู ี่เลี้ยง

1. สงั เกตการสอน 1. สังเกตวธิ กี ารสอนจากครูพ่ี 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรียนช้นั 1/4 เลี้ยง สอนจากครพู ่เี ลี้ยง

14

วนั ที่ 14 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทป่ี ฏิบตั ิ/ทไ่ี ด้เรียนรู้ สงิ่ ที่ไดร้ ับจากการ ลงชอ่ื
ปฏิบัติงานนี้ ครูพี่เลี้ยง

1. สังเกตการสอน 1. สังเกตวิธีการสอนจากครูพี่ 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรียนชัน้ 1/3 เล้ยี ง สอนจากครูพี่เลี้ยง

2. สงั เกตการสอน 2. สังเกตวิธีการสอนจากครู 2. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรียนชั้น 3/3 – 3/7 พเ่ี ลี้ยง สอนจากครพู ีเ่ ลย้ี ง

วันที่ 15 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการที่ปฏบิ ตั ิ/ที่ได้เรียนรู้ สง่ิ ท่ไี ดร้ ับจากการ ลงชื่อ
ปฏิบตั งิ านน้ี ครูพี่เลี้ยง

1. สงั เกตการสอน 1. สงั เกตวิธกี ารสอนจากครูพ่ี 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรียนชน้ั 1/1 เลยี้ ง สอนจากครูพี่เล้ียง

วันที่ 16 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการที่ปฏิบตั ิ/ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ สิ่งท่ไี ดร้ บั จากการ ลงชื่อ
ปฏิบตั งิ านนี้ ครูพเ่ี ล้ียง

1. สงั เกตการสอน 1. สังเกตวธิ กี ารสอนจากครูพ่ี 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ ลงชื่อ
ครูพเี่ ล้ียง
นกั เรียนชั้น 1/4 – 1/7 เลีย้ ง สอนจากครพู ี่เลีย้ ง

วันที่ 17 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการที่ปฏิบัต/ิ ที่ได้เรยี นรู้ สิง่ ทไ่ี ดร้ บั จากการ
ปฏิบัติงานน้ี

1. สงั เกตการสอน 1. สงั เกตวธิ ีการสอนจากครูพี่ 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรยี นชน้ั 1/2 เล้ียง สอนจากครูพีเ่ ลย้ี ง

วนั ที่ 20 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการที่ปฏบิ ัต/ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ สงิ่ ทีไ่ ด้รับจากการ ลงชอื่
ปฏิบตั ิงานนี้ ครพู เี่ ล้ยี ง

1. ทดลองการสอน 1. ทดลองการสอน 1. ได้ประสบการณ์ในการ
นักเรยี นช้ัน 1/4 สอน และการนำเทคนิคการ
สอนตา่ งๆมาใช้

15

วนั ที่ 21 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทปี่ ฏบิ ัติ/ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ สงิ่ ท่ีไดร้ ับจากการ ลงช่อื
ปฏิบตั ิงานน้ี ครูพีเ่ ล้ยี ง

1. ทดลองการสอน 1. ทดลองการสอน 1. ได้ประสบการณ์ในการ ลงชื่อ
ครูพี่เล้ยี ง
นักเรยี นช้ัน 1/3 สอน และการนำเทคนิคการ
ลงชอ่ื
2. สังเกตการสอน สอนต่างๆมาใช้ ครพู ี่เลีย้ ง

นกั เรียนชน้ั 3/3 -3/7 2. สังเกตวธิ กี ารสอนจากครูพ่ี 2. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

เล้ยี ง สอนจากครูพ่ีเลย้ี ง

วันที่ 22 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทีป่ ฏิบัติ/ท่ีไดเ้ รยี นรู้ ส่ิงทไ่ี ดร้ ับจากการ
ปฏิบตั งิ านนี้
1. ทดลองการสอน 1. ทดลองการสอน
นกั เรยี นช้ัน 1/1 1. ได้ประสบการณ์ในการ
สอน และการนำเทคนิคการ
สอนตา่ งๆมาใช้

วนั ท่ี 23 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2564

งาน รายการทป่ี ฏบิ ตั ิ/ทไี่ ดเ้ รียนรู้ ส่ิงที่ไดร้ บั จากการ
ปฏิบัติงานน้ี

1. สงั เกตการสอน 1. สังเกตวิธกี ารสอนจากครูพี่ 1. สังเกตและเรียนรู้วิธีการ

นักเรียนชั้น 1/4 – 1/7 เลี้ยง สอนจากครูพ่ีเลย้ี ง

หมายเหตุ : นักศึกษาสามารถออกแบบตาราง หรือเพิ่มรายละเอียดได้ ตามหัวข้อรายละเอียดความรู้ที่ตอ้ งเรียนรู้
จากครูพี่เล้ียง

ลงช่ือ………………………………………..…………….ผบู้ นั ทกึ
(นายชลสทิ ธ์ิ เท่ยี งเอี่ยม)

ลงชือ่ ………………………………………………..…….ครพู เี่ ลี้ยง
(ขนิษฐา หรง่ั แร)่

16

ปว.1-3

แบบสมั ภาษณก์ ารจัดการเรยี นรู้ (สมั ภาษณค์ รพู เี่ ลย้ี ง)

ชือ่ ขนิษฐา สกลุ หรงั่ แร่
โรงเรียน พฒั นานคิ ม อำเภอ พัฒนานิคม จงั หวดั ลพบรุ ี

คำช้แี จง ใหน้ ักศกึ ษาสัมภาษณก์ ารจัดการเรยี นรขู้ องครพู ีเ่ ลี้ยงและบนั ทึกลงในชอ่ งวา่ งที่กำหนด

1. ท่านสอนกี่รายวชิ า วิชาอะไรบ้าง จำนวนกช่ี ว่ั โมงตอ่ สัปดาห์

23 ชั่วโมงตอ่ สัปดาห์
วชิ า ศิลปะพ้นื ฐาน 1
วิชา เคร่ืองเป่าสากล
วชิ า ทฤษฎีดนตรสี ากล
วิชา ดนตรีรว่ มสมัย
วิชา แนะแนว
วิชา รกั การอา่ น
โครงานคุณธรรม ม.3
ลูกเสือ-เนตรนารี ม.2
เสริมวิชาการ ม.3

2. ปญั หาที่พบในรายวชิ าที่สอน มีอะไรบ้าง
1 นักเรียนเขา้ เรียนจำนวนน้อยมาก

2. นกั เรียนสง่ งานไมต่ รงเวลา
3. นกั เรยี นมีปัญหาเรอื่ งสัญญานโทรศพท์

3. ทา่ นได้ดำเนินการแกไ้ ขอย่างไร/มเี ทคนคิ ใดในการดำเนินการแก้ไข
1.มองหมายงานชดเชยเวลาเรียน

2.แจง้ ปัญหาร่วมหาทางแกไ้ ขกบั ครูท่ปี รกึ ษา
3.ตดิ ตอ่ นักเรยี นโดยตรง และพูดคยุ กับผปู้ กครอง
4.ใหน้ กั เรยี นติดตามงานส่งยอ้ นหลังได้

17

4. ท่านมีข้อเสนอแนะอย่างไรในการดำเนินการจัดการเรยี นรู้ หรืองานด้านอืน่ ๆ
มีการดำเนนิ การพดู คุยสักถามกับผเู้ รยี น และหาแนวทางรว่ มกัน ในชว่ งสถานการณ์การแพรร่ ะบาด โควิค

ทำใหก้ ารเรยี นการสอนเปน็ ไปไดไ้ มส่ มบรู ณแ์ บบ เพ่อื ช่วยเหลอื ให้นักเรยี นมีผลการเรยี นทีด่ ี และผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ ตา่ งๆตามตวั ช้วี ัด โดยมีการยืดหยุ่นสำหรับภาระชน้ิ งาน และเวลาในการส่งงาน และติดตามนักเรยี นอยา่ ง
ใกล้ชิด

5. ทา่ นมีการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ระหว่างเพอื่ นครหู รอื ไมอ่ ย่างไร (PLC) ถ้ามที ่านดำเนินการอย่างไร และผลการ
ดำเนินการเป็นอยา่ งไร

มกี ารประชมุ PLC ในกลุ่มสาระ เพอื่ แลกเปลีย่ นเรยี นรใู้ นปญั หาระหวา่ งการจัดการเรยี นการสอน และหา
วิธีการแก้ไข เพื่อผลการเรียนของนักเรียนผา่ นตามตัวชี้วัดตา่ งๆ และแลกเปลย่ี นกิจกรรมในการเรยี นการสอน เพื่อ
มาพัฒนาของตนเอง

18

ปว.1-4

แผนจดั การเรียนรทู้ ่ี 10/ 20

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1/4

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ประวัตขิ ลุย่ รีคอรเ์ ดอร์ เวลา 2 ชั่วโมง

ผูส้ อน นายชลสทิ ธ์ิ เทยี่ งเอยี่ ม รหสั นกั ศึกษา 61115320103

หนว่ ยฝึกประสบการณ์ โรงเรียนพัฒนานิคม อำเภอ พัฒนานิคม จังหวัด ลพบรุ ี

1. สาระ
สาระท่ี 2 : ดนตรี

2. มาตรฐานการเรยี นรู้
- มาตรฐานตัวชี้วัด

ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดตอ่ ดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใชใ้ น
ชีวิตประจำวนั
3.สาระสำคญั

การปฏิบัติขลุ่ยรคี อรเ์ ดอรเ์ บอ้ื งตน้ ตอ้ งเข้าใจประวัติ ส่วนประกอบ วธิ กี ารดแู ลรกั ษาของขลุ่ย
รีคอร์เดอร์ วิธีการจับ การทำให้เกิดเสียง การควบคุมลมหายใจในการเป่าซึ่งต้องอาศัยขั้นตอนทึก
อยา่ งรวมกนั จึงจะไดเ้ สยี งท่ีถูกตอ้ ง มคี วามไพเราะ และฝึกการปฏิบตั ิท้งั แบบเดยี่ ว และแบบกลุ่ม
4. ตวั ชี้วัด

ม. 1-4/1 ร้องเพลง และใชเ้ ครือ่ งดนตรีบรรเลงประกอบการรอ้ งเพลงด้วยบทเพลงที่
หลากหลายรปู แบบ
5.คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ความสามารถในการสื่อสาร
ซือ่ สตั ย์สจุ รติ ความสามารถในการคิด

มวี ินัย ความสามารถในการแกป้ ญั หา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
ใฝ่เรียนรู้
อยู่อย่างพอเพียง ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

รักความเป็นไทย

19

มจี ิสาธารณะ ด้านทักษะกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลักษณะ (A)
อธิบายจำแนกประเภทของ เหน็ คุณค่าของเคร่อื งดนตรสี ากล
6. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สว่ นประกอบของเครื่องดนตรี
ด้านความรู้ (K)

อธิบายจำแนกประเภทของ
สว่ นประกอบของเครื่องดนตรี

7. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

การขับร้องและการบรรเลงดนตรโี ดยใช้เทคนิคการขับรอ้ งและบรรเลงจะทำให้ขับรอ้ งและ

บรรเลงดนตรีไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและไพเราะ ผูฟ้ ังเกดิ ความช่ืนชอบ ประทับใจ

3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ชัว่ โมงที่ 1 - 2
ขั้นนำ

1. ครูนำภาพขลยุ่ รคี อร์เดอร์มาให้นักเรียนดู และสอบถามนกั เรยี นโดยใช้คำถาม อัง
ตอ่ ไปนี้

- จากภาพ เครือ่ งดนตรีชนดิ น้ชี ื่อว่าอะไร
- จากภาพเป็นเครื่องดนตรีประเภทใด
- นกั เรียนคนใดท่เี ลน่ เครื่องดนตรีชนดิ น้ีบา้ ง
ข้ันสอน
2. ครอู ธบิ ายเกี่ยวกบั ลักษณะ และประวตั ขิ องขลุ่ยรีคอร์เดอร์
- รคี อร์เดอร์ (Recorder) เป็นเครอื่ งดนตรสี ากล ประเภทเครือ่ งเปา่ ลมไม้ รคี อร์
เดอร์สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 14 ถือกำเนิดในประเทศอังกฤษ นิยมเล่นในสมัยยุคกลาง และมี
ความเจริญสูงสดุ ในยคุ บาโรค เป็นเครื่องเป่าที่มีลกั ษณะการเป่าแบบด้านตรง มีรูปแบบการเกิดเสยี ง
แบบเดียวกันกับนกหวีด คือ บริเวณปากเป่านั้นจะทำเป็นช่องลม (Wind Way) เพื่อที่จะพุ่งเข้าไป
กระทบกับปากนกแก้ว ทำให้อากาศเกิดการสั่นสะเทือน เกิดเป็นคลื่นเสยี งภายในท่อ เกิดเป็นระดับ
เสียงต่างๆ ท่อของรีคอร์เดอร์มีรูปทรงกรวย คือ จากส่วนปลายของปากเปา่ ลงมายังส่วนปลายท่อจะ
คอ่ ย ๆ สอบลง และแคบสดุ บริเวณปลายของรคี อร์เดอร์ ในปัจจบุ นั รคี อร์เดอร์เปน็ เครื่องดนตรีสำหรับ
หดั เรยี นดนตรขี ้ันเบ้อื งตน้ โดยเฉพาะในระดับช้ันมธั ยมศึกษา
3.ครูอธบิ ายเก่ยี วกบั ส่วนประกอบของขลุ่ยรีคอรเ์ ดอร์

20

4. ครอู ธิบายเก่ยี วกบั วิธกี ารจบั ขลุ่ยรีคอรเ์ ดอร์
- มือขวาอย่ดู า้ นล่าง โดยให้น้ิวก้อยอยู่ตำแหน่งรูปดิ หมายเลข 1 นวิ้ นางรูปดิ

หมายเลข 2 นิว้ กลางรปู ิดหมายเลข 3 และนว้ิ ชรี้ ปู ิดหมายเลข 4 ส่วนนว้ิ หวั แม่มอื ให้จับอยู่ดา้ นล่าง
เพ่อื ประคองขลุ่ยรคี อร์เดอร์ไว้ไม่ให้ตกหล่น

- มอื ซา้ ยอยดู่ า้ นบนของขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์ด้านปากเปา่ โดยใหน้ ิ้วนาง นิว้ กลาง นวิ้ ช้ี
และนิ้วหัวแมม่ อื ปิดทร่ี ูปิดหมายเลข 5, 6, 7 และ 8 ตามลำดับ (ดูภาพประกอบ )

ข้นั สรุป

21

5. ขลุย่ รคี อรเ์ ดอร์ เป็นเคร่อื งดนตรปี ระเภทเปา่ ลมไมแ้ บบไม่มลี ิน้ มีสว่ นประกอบ
ทง้ั หมด 3 สว่ น โดยมอื วธิ กี ารจบั คอื มือซ้ายอยู่ด้านบน มอื ขวาอย่ดู ้านล่าง
นำเข้าส้บู ทเรียน

ทบทวนความร้เู ดิม

ดำเนินการสอน

- นำขลยุ่ รคี อร์เดอร์มาทุกชว่ั โมงเรียน

สรปุ บทเรียน

นกั เรียนสามารถเป่าขล่ยุ รคี อร์เดอรพ์ ้ืนฐานได้

วดั และประเมินผล

ทดสอบหลังเรียน

ดา้ น สิ่งท่วี ดั การวดั และประเมิน

K ขลยุ่ รคี อรเ์ ดอร์ วธิ ีวัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารวดั
P นกั เรียนปรบมอื ตามคา่ ตวั โนต้ ได้
A เห็นคณุ ค่าของขลยุ่ รีคอรเ์ ดอร์ สังเกต แบบสงั เกต 80%

สังเกต แบบสงั เกต มากกวา่ 70%
สังเกต แบบสงั เกต มากกว่าระดับ3

9. สือ่ อปุ กรณแ์ ละแหล่งเรยี นรู้ แหลง่ เรยี นรู้
สื่อ อปุ กรณ์
https://sites.google.com/site/bv540103/recorder/page2
แหลง่ เรยี นรู้
(สถานที่ บุคคล คอมพิวเตอร์
เว็บไซด์ ฯลฯ)

10. การวัดผลและประเมนิ ผล

11.บันทกึ ผล
ผลการจัดการเรียนการสอน

ปัญหาท่เี กดิ ขน้ึ 22
แนวทางแก้ปญั หา
ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ผสู้ อน
( นายชลสิทธิ์ เท่ยี งเอ่ียม)
03/09/2564

บนั ทกึ หลงั การสอน
นักเรียนมีความเขา้ ใจ และสามารถทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมายได้

ลงชื่อ......................................................................
(นกั ศึกษา)

ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ
-

ลงชื่อ........................................................................
(ครพู ี่เลย้ี ง)

23

แผนจดั การเรยี นรทู้ ่ี 11/ 20

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ศิลปะ ชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 1/3

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง วิธกี ารดแู ลรกั ษาขลุ่ยรีคอรเ์ ดอร์ และ เวลา 2 ช่วั โมง

ประเภท

ผ้สู อน นายชลสทิ ธิ์ เท่ียงเอี่ยม รหัสนกั ศกึ ษา 61115320103

หนว่ ยฝึกประสบการณ์ โรงเรยี นพัฒนานิคม อำเภอ พฒั นานคิ ม จงั หวดั ลพบรุ ี

1. สาระ

สาระที่ 2 : ดนตรี

2. มาตรฐานการเรียนรู้

ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอด

ความรสู้ กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวนั

3.สาระสำคัญ

การปฏบิ ตั ิขล่ยุ รีคอรเ์ ดอรเ์ บอ้ื งต้น ตอ้ งเข้าใจประวตั ิ สว่ นประกอบ วิธกี ารดแู ลรักษาของขลุ่ย

รีคอร์เดอร์ วิธีการจับ การทำให้เกิดเสียง การควบคุมลมหายใจในการเป่าซึ่งต้องอาศัยขั้นตอนทึก

อยา่ งรวมกนั จงึ จะไดเ้ สยี งทถ่ี กู ต้อง มคี วามไพเราะ และฝกึ การปฏบิ ัติท้งั แบบเดยี่ ว และแบบกล่มุ

4. ตัวชีว้ ัด

ม.1-3/1 ร้องเพลง และใช้เครื่องดนตรบี รรเลงประกอบการรอ้ งเพลงดว้ ยบทเพลงที่

หลากหลายรูปแบบ

5.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ความสามารถในการสื่อสาร

ซ่อื สตั ย์สจุ ริต ความสามารถในการคิด

มวี นิ ัย ความสามารถในการแก้ปญั หา

ใฝเ่ รียนรู้ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

อยู่อย่างพอเพียง ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

มุ่งมน่ั ในการทำงาน

รักความเป็นไทย

มีจิสาธารณะ

24

6. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
ด้านความรู้ (K)
อธบิ ายจำแนกประเภทของเครื่อง เห็นคุณค่าของสัญลกั ษณ์ทาง
อธิบายจำแนกประเภทของเครอื่ ง
ดนตรีสากล ดนตรีสากล ดนตรีได้

7. สาระการเรยี นรู้
เครื่องหมา3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
การขบั รอ้ งและการบรรเลงดนตรโี ดยใช้เทคนิคการขับร้องและบรรเลงจะทำให้ขับร้องและ

บรรเลงดนตรีไดอ้ ยา่ งถูกต้องและไพเราะ ผู้ฟงั เกดิ ความชน่ื ชอบ ประทบั ใจ
3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ ยและสญั ลกั ษณท์ างดนตรี
8. กจิ กรรม

ชวั่ โมงที่ 1 - 2
ขน้ั นำ

1. ครูนำภาพขลยุ่ รีคอร์เดอรม์ าให้นักเรยี นดู และสอบถามนกั เรียนโดยใช้คำถาม องั
ตอ่ ไปนี้

- จากภาพ เคร่อื งดนตรีชนิดนี้ช่ือว่าอะไร
- จากภาพเป็นเครอ่ื งดนตรปี ระเภทใด
- นักเรียนคนใดท่เี ล่นเครอ่ื งดนตรีชนิดน้ีบ้าง
ขัน้ สอน
2. ครอู ธิบายเก่ยี วกับประเภทของขลุ่ยรีคอรเ์ ดอร์
- คอรเ์ ดอมีทง้ั หมด 10 ประเภท แต่ทีน่ ิยมในปจั จุบันมี 6 ประเภทเท่าน้นั ไดแ้ ก่

1..โซปรานโิ น (Sopranino) มีขนาดความยาวประมาณ 24 เซนติเมตร มี
ขนาดเล็ก ลักษณะเสยี งสงู แหลมมาก ถ้าใช้น้วิ ปดิ ทง้ั 7 รูจะได้เสยี ง “ฟา”

2.โซปราโน (Soprano) หรอื เดสแคนท์ (Descant) มคี วามยาวประมาณ 3
เซนตเิ มตร เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมเล่นมากทส่ี ดุ ถ้าใชน้ ้ิวปดิ ทั้งหมด 7 รจู ะได้เสียง Middle C
หรือโดกลางเมอื่ เทยี บกับเสยี งเปียโน

25

3.อลั โต (Alto) หรอื เทร็บเบลิ (Treble) มีความยาวประมาณ 47 เซนติเมตร
4.เทนเนอร์ (Tenor) มีความยาวประมาณ 64 เซนตเิ มตร
5.เบส (Bass) มีความยาวประมาณ 94 เซนติเมตร
6.คอนทราเบส (Contra bass)
- โดยแต่ละประเภทจะแตกต่างกันทีข่ นาดและระดบั เสยี งตา่ งกัน รีคอรเ์ ดอร์ที่มี
ระดับเสียงต่ำขนาดก็จะใหญก่ วา่ รีคอร์เดอรท์ มี่ รี ะดบั เสยี งสูง (ระดับเสียงของโนต้ ในตารางภาพมีระดับ
เสยี งสงู กว่าระดับเสียงรีคอรเ์ ดอรจ์ ริง 1 ออคเทฟ)

3. ครอู ธบิ ายเกย่ี วกบั การดูแลรักษาขล่ยุ รีคอรเ์ ดอร์ทถ่ี ูกตอ้ ง
- หลงั จากการเปา่ ขลุ่ยรคี อร์เดอร์แล้ว ผู้เปา่ ควรปฏบิ ัติดงั น้ี
1. นำขลุ่ยรีคอรเ์ ดอร์ ลา้ งด้วยนำ้ สะอาดหรือน้ำอนุ่ ที่ผสมสบ่อู อ่ น ๆ ทกุ คร้ัง

หลงั การใชง้ าน
2. การประกอบหรอื ถอดขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์ ควรถอดข้อตอ่ ด้วยการคอ่ ย ๆ หมุน

ออกตามแนวเข็มนาฬกิ า ทอ่ นส่วนหัว(Head Joint)ทล่ี า้ งสะอาด แล้วควรเช็ดด้วยผ้านุ่ม ๆ ทส่ี ะอาด
หา้ มใชก้ ารสะบัดให้แห้ง เพราะขล่ยุ รคี อร์เดอร์อาจแยกหลดุ ออกจากกนั หรอื หลน่ แตกได้ง่าย

3. การทำความสะอาดสว่ นกลาง (Middle Joint) และสว่ นทา้ ย (Foot
Joint) โดยวธิ ใี ช้ผา้ น่มุ ที่สะอาดเช็ด และการถอดข้อตอ่ ออกจากกัน อาจใช้ไมห้ รือแทง่ พลาสติกทำ
ความสะอาด โดยสอดผ้าเขา้ ไปเช็ดข้างในตวั ขลยุ่ ใหส้ ะอาด

4. เมอ่ื เหน็ วา่ แหง้ ท่ีแลว้ ควรทาวาสลินที่บรเิ วณข้อต่อตา่ ง ๆ เพ่ือง่ายตอ่ การ
ประกอบเขา้ ดว้ ยกัน และไมแ่ นน่ เกนิ ไป เม่ือจะถอดออกมาทำความสะอาดในคร้ังตอ่ ไป

5. ควรเกบ็ ใส่ ซองเกบ็ หรือกล่องทีต่ ิดมากับตวั เคร่ือง เพ่ือความเปน็ ระเบียบ
ฝุ่นไมเ่ กาะ แล้วนำไปเก็บในตหู้ รอื บรเิ วณท่ีเกบ็ เคร่อื งดนตรใี ห้เรียบรอ้ ย

ขนั้ สรปุ
4. การรู้จกั ดแู ลรักษาเครื่องดนตรหี ลงั จากการใชง้ านอยา่ งถกู วธิ ี เครื่องดนตรี

จะต้องมีความสะอาดมีสภาพพร้อมที่จะใช้งานตลอดเวลา ซึง่ จะช่วยให้มีคุณภาพเสยี งและมอี ายุการ
ใช้งานของเคร่ืองดนตรีแต่ละชนดิ นานขนึ้
นำเขา้ ส้บู ทเรยี น

ทบทวนความรเู้ ดมิ
ดำเนนิ การสอน

- นำขล่ยุ รคี อร์เดอร์มาทุกชวั่ โมงเรียน
สรุปบทเรยี น

26

ใหน้ กั เรียนสอบเป่าขล่ยุ รคี อล์เดอร์ แหล่งเรียนรู้
วดั และประเมนิ ผล
http://krudontreethai.blogspot.com/2016/06/blog-post.html
ทดสอบหลังเรยี น
9. ส่อื อุปกรณแ์ ละแหลง่ เรยี นรู้

ส่ือ อุปกรณ์
แหล่งเรียนรู้
(สถานท่ี บุคคล คอมพวิ เตอร์
เว็บไซด์ ฯลฯ)

10. การวัดผลและประเมนิ ผล การวดั และประเมิน

ดา้ น สง่ิ ท่วี ดั วิธีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การวดั
K ขลยุ่ รีคอร์เดอร์ สงั เกต
P นักเรยี นปรบมือตามค่าตวั โนต้ ได้ แบบสังเกต 80%
A เห็นคุณค่าของขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์ สังเกต
สงั เกต แบบสงั เกต มากกวา่ 70%
แบบสงั เกต มากกว่าระดบั 3

11.บันทึกผล
ผลการจัดการเรยี นการสอน
ปัญหาทีเ่ กิดขนึ้

แนวทางแก้ปญั หา

ขอ้ เสนอแนะ

27

ลงชอ่ื ผ้สู อน
( นายชลสทิ ธ์ิ เทีย่ งเอย่ี ม )
02/09/2564

บนั ทึกหลงั การสอน
ผู้เรียนสามารถรู้ถงึ หนา้ ทขี่ องสญั ลักษณท์ างดนตรี และสามารถทำงานท่ไี ด้รบั มอบหมายได้
ลงช่ือ........................................................................
(นกั ศึกษา)

ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ
-

ลงชอื่ ........................................................................
(ครพู เี่ ลยี้ ง)

28

แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 12/ 20

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1/1

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ประวัตขิ ลยุ่ รีคอรเ์ ดอร์ เวลา 2 ชัว่ โมง

ผู้สอน นายชลสิทธ์ิ เท่ยี งเอ่ียม รหัสนักศกึ ษา 61115320103

หน่วยฝึกประสบการณ์ โรงเรียนพัฒนานิคม อำเภอ พัฒนานคิ ม จังหวดั ลพบรุ ี

1. สาระ
สาระที่ 2 : ดนตรี

2. มาตรฐานการเรยี นรู้
- มาตรฐานตัวชี้วัด

ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คณุ ค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ช่นื ชม และประยกุ ต์ใชใ้ น
ชีวิตประจำวัน
3.สาระสำคัญ

การปฏบิ ตั ิขลุย่ รีคอรเ์ ดอร์เบ้ืองตน้ ต้องเข้าใจประวตั ิ ส่วนประกอบ วิธีการดูแลรักษาของขลุ่ย
รีคอร์เดอร์ วิธีการจับ การทำให้เกิดเสียง การควบคุมลมหายใจในการเป่าซึ่งต้องอาศัยขั้นตอนทึก
อยา่ งรวมกันจงึ จะได้เสยี งทีถ่ ูกตอ้ ง มคี วามไพเราะ และฝกึ การปฏิบัติทัง้ แบบเด่ียว และแบบกล่มุ
4. ตัวชีว้ ัด

ม. 1-1/1 รอ้ งเพลง และใชเ้ ครือ่ งดนตรบี รรเลงประกอบการรอ้ งเพลงด้วยบทเพลงท่ี
หลากหลายรูปแบบ
5.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ความสามารถในการสอ่ื สาร
ซ่ือสตั ย์สุจริต ความสามารถในการคิด

มีวินัย ความสามารถในการแกป้ ญั หา
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
ใฝ่เรียนรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
อยู่อย่างพอเพียง

ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
รกั ความเปน็ ไทย
มจี ิสาธารณะ

29

6. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
ดา้ นความรู้ (K) อธบิ ายจำแนกประเภทของ เหน็ คุณค่าของเคร่อื งดนตรีสากล
ส่วนประกอบของเครอื่ งดนตรี
อธิบายจำแนกประเภทของ
สว่ นประกอบของเคร่อื งดนตรี

7. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

การขับร้องและการบรรเลงดนตรโี ดยใช้เทคนคิ การขับร้องและบรรเลงจะทำใหข้ ับร้องและ

บรรเลงดนตรไี ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและไพเราะ ผ้ฟู ังเกดิ ความชื่นชอบ ประทบั ใจ

3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ช่ัวโมงที่ 1 - 2
ขน้ั นำ

1. ครนู ำภาพขลยุ่ รีคอรเ์ ดอรม์ าให้นกั เรยี นดู และสอบถามนกั เรยี นโดยใช้คำถาม อัง
ตอ่ ไปน้ี

- จากภาพ เครอ่ื งดนตรชี นดิ นี้ช่อื วา่ อะไร
- จากภาพเปน็ เคร่อื งดนตรปี ระเภทใด
- นักเรยี นคนใดทเ่ี ล่นเครอ่ื งดนตรชี นดิ นบี้ า้ ง
ขัน้ สอน
2. ครูอธิบายเก่ียวกับลักษณะ และประวัติของขลุ่ยรีคอร์เดอร์
- รคี อร์เดอร์ (Recorder) เป็นเคร่ืองดนตรีสากล ประเภทเครือ่ งเปา่ ลมไม้ รคี อร์
เดอร์สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 14 ถือกำเนิดในประเทศอังกฤษ นิยมเล่นในสมัยยุคกลาง และมี
ความเจริญสูงสุดในยคุ บาโรค เป็นเครื่องเป่าท่ีมีลักษณะการเปา่ แบบด้านตรง มีรูปแบบการเกดิ เสยี ง
แบบเดียวกันกับนกหวีด คือ บริเวณปากเป่านั้นจะทำเป็นช่องลม (Wind Way) เพื่อที่จะพุ่งเข้าไป
กระทบกับปากนกแก้ว ทำให้อากาศเกิดการสั่นสะเทือน เกิดเป็นคลื่นเสียงภายในท่อ เกิดเป็นระดับ
เสียงต่างๆ ท่อของรีคอร์เดอร์มีรูปทรงกรวย คือ จากส่วนปลายของปากเป่าลงมายังสว่ นปลายท่อจะ
ค่อย ๆ สอบลง และแคบสดุ บรเิ วณปลายของรคี อรเ์ ดอร์ ในปัจจุบันรีคอรเ์ ดอร์เปน็ เครอ่ื งดนตรีสำหรับ
หดั เรยี นดนตรขี ัน้ เบ้ืองตน้ โดยเฉพาะในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษา
3.ครูอธบิ ายเกีย่ วกบั ส่วนประกอบของขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์

30

4. ครอู ธิบายเก่ยี วกบั วิธกี ารจบั ขลุ่ยรีคอรเ์ ดอร์
- มือขวาอย่ดู า้ นล่าง โดยให้น้ิวก้อยอยู่ตำแหน่งรูปดิ หมายเลข 1 นวิ้ นางรูปดิ

หมายเลข 2 นิว้ กลางรปู ิดหมายเลข 3 และนว้ิ ชรี้ ปู ิดหมายเลข 4 ส่วนนว้ิ หวั แม่มอื ให้จับอยู่ดา้ นล่าง
เพ่อื ประคองขลุ่ยรคี อร์เดอร์ไว้ไม่ให้ตกหล่น

- มอื ซา้ ยอยดู่ า้ นบนของขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์ด้านปากเปา่ โดยใหน้ ิ้วนาง นิว้ กลาง นวิ้ ช้ี
และนิ้วหัวแมม่ อื ปิดทร่ี ูปิดหมายเลข 5, 6, 7 และ 8 ตามลำดับ (ดูภาพประกอบ )

ข้นั สรุป

31

5. ขลุ่ยรีคอรเ์ ดอร์ เปน็ เคร่อื งดนตรปี ระเภทเปา่ ลมไม้แบบไมม่ ลี ้นิ มีสว่ นประกอบ
ทัง้ หมด 3 ส่วน โดยมอื วธิ ีการจบั คือ มือซ้ายอย่ดู ้านบน มอื ขวาอยูด่ า้ นล่าง
นำเขา้ สู้บทเรียน

ทบทวนความรู้เดมิ

ดำเนนิ การสอน

- นำขลยุ่ รีคอร์เดอร์มาทุกช่วั โมงเรียน

สรุปบทเรียน

นักเรียนสามารถเปา่ ขล่ยุ รคี อร์เดอรพ์ ้ืนฐานได้

วัดและประเมินผล

ทดสอบหลงั เรียน

ดา้ น สิ่งทว่ี ัด การวัดและประเมนิ

K ขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์ วธิ ีวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารวดั
P นักเรียนปรบมอื ตามคา่ ตัวโน้ตได้
A เหน็ คุณค่าของขล่ยุ รคี อรเ์ ดอร์ สังเกต แบบสงั เกต 80%

สงั เกต แบบสงั เกต มากกวา่ 70%
สังเกต แบบสังเกต มากกว่าระดับ3

9. ส่อื อปุ กรณแ์ ละแหล่งเรียนรู้ แหล่งเรยี นรู้
สือ่ อุปกรณ์
https://sites.google.com/site/bv540103/recorder/page2
แหล่งเรยี นรู้
(สถานที่ บุคคล คอมพวิ เตอร์
เวบ็ ไซด์ ฯลฯ)

10. การวัดผลและประเมินผล

11.บันทกึ ผล 32
ผลการจัดการเรียนการสอน
ปญั หาทีเ่ กิดขึน้ ลงชือ่ ผสู้ อน
( นายชลสทิ ธิ์ เท่ยี งเอ่ียม)
แนวทางแก้ปัญหา 03/09/2564

ข้อเสนอแนะ

บันทกึ หลงั การสอน
นักเรยี นมคี วามเขา้ ใจ และสามารถทำงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายได้

ลงช่ือ......................................................................
(นกั ศึกษา)

ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ
-

ลงช่อื ........................................................................
(ครูพ่ีเลี้ยง)

33

ปว.1-5

โครงร่างการวิจยั ในช้นั เรยี น

1. ชือ่ เร่ือง คมู่ ือการบนั ทกึ เสียงเครอื่ งดนตรีไทยลงCubase
๔. ความเป็นมา และความสำคัญ

ในชว่ งปี 1989 Cubase ได้ถือกำเนิดขึ้นครัง้ แรกโดยการพัฒนาของบริษัท Steinberg โดยท่ี Cubase ใน
ยคุ แรกน้ันถูกพัฒนาข้ึนมาเพ่ือทจี่ ะเป็นเพียงแค่ MIDI Sequencer สำหรบั ใชง้ านบนเครอื่ ง Personal Computer
ทม่ี ชี ื่อวา่ Atari ST Computer ทเี่ ป็นผลติ ภัณฑ์ของบรษิ ทั Atari เจ้าเดียวกนั กับทีผ่ ลิตเครือ่ ง Game Console ใน
ตำนานอันเลือ่ งชอื่ ก่อนท่ภี ายหลงั จะถูกพัฒนาต่อยอดให้สามารถใช้งานได้ทง้ั ในระบบปฏิบัติการ Macintosh และ
Windows หลงั จากนัน้ Cubase และเครอื่ ง Atari ST Computer กไ็ ดร้ บั ความนยิ มอย่างแพรห่ ลายใน Music
Studio หลายๆ ที่ ดว้ ยความที่ตัวเคร่ือง Atari เองนนั้ เป็นเครอื่ ง Personal Computer ทีม่ ีช่องเชื่อมต่อ MIDI อยู่
ในตัวอยู่แลว้ รวมกับ Cubase ทอ่ี อกแบบมาเพ่อื เป็น MIDI Sequencer จงึ ทำใหส้ ามารถตอบโจทยก์ ารทำงานของ
นักแตง่ เพลงในสมยั นั้นไดอ้ ย่างเตม็ ที่

หลงั จากท่ี Cubase รุ่นแรกสามารถทำไดเ้ พียงแค่เป็น MIDI Sequencer เท่านน้ั ทาง Steinberg ก็ได้มี
การพัฒนาเพื่อเพม่ิ ความสามารถในการทำงานด้านเสยี งเขา้ มาโดยการเอาเทคโนโลยที เ่ี รยี กว่า Virtual Studio
Technology หรอื ทเี่ รียกกันตดิ ปากว่า VST เข้ามาใช้ แลว้ เปลี่ยนชอื่ เปน็ Cubase VST ซึ่งสามารถทำได้ทง้ั การ
บันทึกเสียง Mixing หรือแม้แตใ้ ส่ Effects สว่ น Cubase ที่เราใช้กันในปจั จุบันน้ีถอื ว่าอยใู่ น Generation ท่ี 3 ที่
พัฒนามาจาก Cubase SX เจา้ Cubase SX นเี้ ป็นรนุ่ ท่ีพัฒนามาจากตระกูล Cubase VST แลว้ เพมิ่ เอา Function
การทำงานบางอย่างของ software ดา้ น Post Production ชอื่ ดังของ Steinberg อย่าง Nuendo เข้ามาไวด้ ้วย

การบันทึกเสยี งมีความสำคัญอยา่ งยง่ิ ในการผลิตผลงานเพลง ทำให้โปรแกรมอยา่ ง Cubase เป็นท่ีนยิ มกัน
อยา่ งแพรห่ ลายท่วั โลก ในเรอื่ งของการทำเพลงสามารถทำได้ทั้งเพลงไทยรวมไปถึงเพลงสากล แต่ในการทำเพลงบาง
เพลงนั้น อาจต้องมกี ารใชเ้ คร่ืองดนตรไี ทยเข้ามามีบทบาทในเพลง แตด่ ้วยขอ้ จำกดั ของโปรแกรมCubase ทีม่ ีความ
ทันสมยั อย่างมาก ทำใหเ้ ครอ่ื งดนตรีสว่ นมากเป็นเคร่ืองดนตรสี ากล เครือ่ งดนตรีไทยบางชนดิ จงึ ไม่มีบนโปรแกรม

จากข้อมลู ที่กล่าวมาขา้ งต้นทำให้ผวู้ ิจยั นั้นเหน็ ความสำคัญของเครอ่ื งดนตรีไทยทีม่ คี วามจำเป็นตอ่ การใช้งาน
ในการผลติ ผลงานเพลง จงึ อยากจดั ทำวิจัยเลม่ นเ้ี พ่อื เปน็ กรณีศึกษาจาก อาจารยก์ ฤตเิ ดช อารมยอ์ ุ่น ผู้ที่มคี วาม
เช่ียวชาญและความร้คู วามสามารถในการบันทกึ เสียงเครอ่ื งดนตรีไทยลงบนโปรแกรมCubase ซงึ่ จะเปน็ ประโยชน์
ต่อนักศึกษาและบุคคลท่สี นใจตอ่ ไป

34

๕. วัตถุประสงค์
๕.๑ เพอ่ื ให้นกั เรียนหรือบุคคลทั่วไปไดร้ ูว้ ิธกี ารบันทกึ เสียงเครื่องดนตรไี ทยลงCubase อย่างถูกต้อง
๕.๒ เพ่ือเป็นประโยชนต์ อ่ นักเรียนหรือบุคคลที่สนใจศึกษาวธิ ีการบันทึกเสียงเครอื่ งดนตรีไทยลงCubase

๖. วิธีการดำเนนิ การ
๖.๑ ศกึ ษาขอ้ มลู การบนั ทึกเสยี งเครื่องดนตรไี ทยลงCubase

๗. แผนการดำเนินงานวิจยั สงิ หาคม กนั ยายน ตุลาคม
ข้ันตอนการวจิ ยั มถิ ุนายน กรกฎาคม
๑. ศึกษาโปรแกรมCubase

๒. เรียนรูว้ ิธกี ารใชง้ านโปรแกรมCubase

๓. ศึกษาวธิ กี ารบันทึกเสยี ง

๔. เรยี นรู้เครอ่ื งมอื ทจ่ี ะใช้ในการบันทึกเสยี ง

๕. เตรียมเคร่อื งดนตรไี ทย 1 ชน้ิ ทดสอบการบันทกึ เสียง

๖. ทดสอบเสียงบนโปรแกรมCubase

๗. นำเคร่ืองดนตรีไทย 1 ชนิ้ บันทึกเสียงจรงิ

๘. นำเสยี งเครื่องดนตรีไทยทบ่ี ันทกึ สมบรู ณแ์ ล้ว นำลงโปรแกรมCubase

๙. หากล่มุ ทดลอง 3 คนเพอ่ื ทดสอบประสิทธภิ าพของคมู่ อื

๘. ขอบเขตการศกึ ษา
การวจิ ยั ครงั้ นีม้ ่งุ ศกึ ษาวธิ กี ารบนั ทกึ เสียงเครอ่ื งดนตรไี ทยลงโปรแกรมCubase ซึง่ ครอบคลมุ เน้ือหาเกย่ี วกบั

วธิ ีการบนั ทึกเสยี งและข้อมูลเบื้องต้นในการใช้งาน

35

๙. ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะได้รับจากการศกึ ษา

๙.๑ ทำให้นักเรยี นหรอื บคุ คลทว่ั ไปได้รู้วธิ กี ารบันทกึ เสยี งเครือ่ งดนตรไี ทยลงCubase อยา่ งถกู ต้อง

๙.๒ เป็นประโยชนต์ อ่ นกั เรยี นหรอื บคุ คลท่สี นใจศกึ ษาวิธกี ารบันทกึ เสยี งเครื่องดนตรีไทยลงCubase

๑๐. งบประมาณ

๑๐.๑ คา่ เดนิ ทาง 1,000 บาท

๑๐.๒ ค่าสอ่ื และอปุ กรณ์ 500 บาท

๑๐.๓ ค่าจดั ทำรปู เล่ม 600 บาท

รวม บาท

๑๑. เอกสารอ้างอิง

ProSCHOOL . 5 เหตผุ ลหลกั ทีค่ นทำเพลงเลอื กใช้ Cubase. สบื ค้น 25 กันยายน2564 , จาก

https://www.proschoolacademy.com/Cubase5benefits

36

ปว.1-6

แบบประเมินการปฏบิ ัตติ นของนกั ศกึ ษา

ช่อื นายชลสทิ ธ์ิ เทย่ี งเอ่ยี ม สาขาวิชา ดนตรศี กึ ษา
รหสั ประจำตัว 61115320103 ช่ือโรงเรียน พัฒนานิคม

คำชี้แจง ขอให้ครพู เี่ ลีย้ งของโรงเรียนประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานของนกั ศึกษาตามรายการทีก่ ำหนด โดยพจิ ารณา

รายการประเมนิ แล้วทำเครือ่ งหมาย  ลงในช่องผลการประเมนิ

ผลการประเมนิ

รายการประเมิน ดีมาก พอใช้ ควรปรบั ปรุง

210

1.แต่งกายสะอาด สุภาพเรยี บรอ้ ย 

2.แสดงกริ ยิ ามารยาทเหมาะสมกบั ความเปน็ ครู 

3.ใช้วาจาสภุ าพ 

4.มีมนุษยสมั พนั ธ์ท่ดี ี 

5.ทำงานเป็นระเบยี บเรยี บร้อย 

6.มคี วามรบั ผิดชอบต่องานที่รบั มอบหมาย 

7.มีความเอาใจใสแ่ ละใฝร่ ้ใู นงานครู 

8.มีความร้คู วามสามารถปฏบิ ตั ิงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 

9.มคี วามต้ังใจในการทำงาน 

10.ปฏบิ ัตงิ านตรงเวลา 

รวม 20

รวมคะแนนทง้ั หมด 20

ลงชือ่ ………………………………………….ครพู ี่เลีย้ ง
(ขนิษฐา หรงั่ แร่)
22/กันยายน/2564

37

ปว.1-7

แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวชิ า ศลิ ปะ1 (ศ31101) ภาคเรียนที่ 1 ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ปีการศึกษา 2564

โรงเรยี น พัฒนานคิ ม ครผู ู้สอน นายชลสทิ ธ์ิ เทย่ี งเอย่ี ม

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ

คำชีแ้ จง โปรดเขียนเครอื่ งหมาย √ ลงในช่องทีต่ รงกับระดับการประเมิน

ระดับการประเมนิ 5 หมายถึง ดมี าก ระดบั การประเมิน 2 หมายถึง ปรับปรงุ

ระดับการประเมิน 4 หมายถงึ ดี ระดบั การประเมิน 1 หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ

ระดบั การประเมิน 3 หมายถงึ พอใช้

รายการประเมนิ ระดับการประเมนิ

5432 1

1. กำหนดมาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด/จัดประสงค์การเรียนรู้ครอบคลุมพฤตกิ รรม 

การเรียนรู้ดา้ นพุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั และจติ พสิ ัย

2. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ัด/สาระสำคัญและกิจกรรม 

การเรยี นรู้

3. กจิ กรรมการเรียนรมู้ คี วามครอบคลุมการพัฒนาผเู้ รยี นให้มคี วามรู้ 

ทกั ษะกระบวนการ สมรรถนะทส่ี ำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์

4. กจิ กรรมการเรียนรตู้ อบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล 

5. กจิ กรรมการเรียนรหู้ ลากหลายและเนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคญั 

6. นำภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ และสื่อเทคโนโลยมี าประยกุ ต์ใชใ้ นการเรยี นการ 

สอน

7. สื่อการเรียนรู้มีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรียนการสอน 

8. ประเมินความกา้ วหน้าของผูเ้ รียนดว้ ยวธิ ที หี่ ลากหลายเหมาะสมกบั 

ธรรมชาติวิชา

9. วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ แลว้ นำมาใช้ในการสอนซ่อมเสริม 

10. วธิ วี ัดและเคร่อื งมอื วดั สอดคล้องกับพฤติกรรมทกี่ ำหนดไวใ้ นตวั ช้ีวัด 

หรอื จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

รวม/สรุปผล 50

รวม/เฉลี่ย สรุปผล 5

38

ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................. ..........................................................
.......................................................................................................................................................................................

แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้

รายวชิ า ศลิ ปะ1 (ศ31101) ภาคเรียนที่ 1 ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

โรงเรยี น พัฒนานคิ ม ครผู ู้สอน นายชลสิทธ์ิ เที่ยงเอย่ี ม

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ

คำชแ้ี จง โปรดเขยี นเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดบั การประเมิน

ระดับการประเมิน 5 หมายถึง ดมี าก ระดับการประเมิน 2 หมายถงึ ปรับปรงุ

ระดบั การประเมิน 4 หมายถงึ ดี ระดบั การประเมนิ 1 หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ

ระดบั การประเมนิ 3 หมายถงึ พอใช้

รายการประเมนิ ระดบั การประเมิน

5432 1

1. กำหนดมาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั /จัดประสงค์การเรยี นรู้ครอบคลุมพฤติกรรม 

การเรยี นรู้ด้านพทุ ธิพสิ ัย ทกั ษะพิสยั และจติ พสิ ัย

2. ความสอดคลอ้ งมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั /สาระสำคัญและกิจกรรม 

การเรยี นรู้

3. กจิ กรรมการเรียนร้มู คี วามครอบคลุมการพฒั นาผูเ้ รยี นให้มคี วามรู้ 

ทกั ษะกระบวนการ สมรรถนะท่ีสำคัญของผู้เรยี นและคุณลักษณะอนั พงึ

ประสงค์

4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล 

5. กจิ กรรมการเรียนร้หู ลากหลายและเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ 

6. นำภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ และสอื่ เทคโนโลยีมาประยุกตใ์ ช้ในการเรียนการ 

สอน

7. สื่อการเรียนรู้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนการสอน 

8. ประเมินความกา้ วหน้าของผู้เรียนด้วยวธิ ีท่หี ลากหลายเหมาะสมกับ 

ธรรมชาตวิ ิชา

9. วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ แลว้ นำมาใช้ในการสอนซ่อมเสรมิ 

10. วธิ ีวัดและเครอ่ื งมอื วดั สอดคล้องกบั พฤติกรรมที่กำหนดไวใ้ นตวั ช้ีวัด 

หรอื จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

รวม/สรปุ ผล 50

รวม/เฉล่ยี สรปุ ผล 5

39

ขอ้ คดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. ..........................................................
.......................................................................................................................................................................................

แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้

รายวชิ า ศลิ ปะ1 (ศ31101) ภาคเรยี นที่ 1 ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

โรงเรียน พัฒนานคิ ม ครูผู้สอน นายชลสิทธ์ิ เที่ยงเอย่ี ม

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ

คำชี้แจง โปรดเขียนเครือ่ งหมาย √ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับการประเมิน

ระดบั การประเมนิ 5 หมายถึง ดีมาก ระดับการประเมิน 2 หมายถงึ ปรับปรงุ

ระดับการประเมนิ 4 หมายถึง ดี ระดับการประเมิน 1 หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ

ระดบั การประเมนิ 3 หมายถึง พอใช้

รายการประเมิน ระดบั การประเมิน

5432 1

1. กำหนดมาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด/จัดประสงคก์ ารเรยี นรู้ครอบคลุมพฤติกรรม 

การเรียนรู้ดา้ นพทุ ธิพิสยั ทกั ษะพิสยั และจติ พิสยั

2. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั /สาระสำคญั และกิจกรรม 

การเรยี นรู้

3. กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลุมการพฒั นาผู้เรยี นให้มคี วามรู้ 

ทักษะกระบวนการ สมรรถนะทส่ี ำคัญของผูเ้ รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ

ประสงค์

4. กจิ กรรมการเรยี นรตู้ อบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล 

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้หลากหลายและเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ 

6. นำภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ และสือ่ เทคโนโลยีมาประยุกตใ์ ช้ในการเรยี นการ 

สอน

7. ส่อื การเรียนร้มู คี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรยี นการสอน 

8. ประเมินความกา้ วหน้าของผเู้ รยี นดว้ ยวิธีท่ีหลากหลายเหมาะสมกับ 

ธรรมชาตวิ ิชา

9. วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ แลว้ นำมาใช้ในการสอนซอ่ มเสรมิ 

10. วธิ ีวัดและเครือ่ งมือวัดสอดคล้องกับพฤตกิ รรมที่กำหนดไว้ในตวั ช้ีวัด 

หรือจดุ ประสงค์การเรียนรู้

รวม/สรปุ ผล 50

รวม/เฉลี่ย สรปุ ผล 5

40

ข้อคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. ..........................................................
.......................................................................................................................................................................................

สรุปผลการประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้ ปว.1-8

4.50 – 5.00 หมายถงึ ดดีีมากแบบปร21ะ..55เ00ม––ินด23..า้4499นคหหุณมมาาภยยาถถงงึึพพปกรอาับใรชปจ้ รงุัดตกำ่ กาวรา่ เร1.ีย5น0 กหามราสยถองึ นไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ
3.50 – 4.49 หมายถึง

ช่อื -นามสกุล (นักศึกษา) นายชลสทิ ธิ์ เที่ยงเอยี่ ม

สาขาวชิ า ดนตรีศกึ ษา วชิ าที่สอน ศิลปะ1 (ศ31101) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี1

โรงเรยี น พัฒนานิคม

ชอื่ ผู้ประเมนิ นางสาว ขนิษฐา หรง่ั แร่

ประเมนิ ครั้งที่ 1 วนั ประเมนิ วันที่ 20 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564

คำชี้แจง แบบประเมินตอ่ ไปนี้เป็นเคร่อื งมอื ในการใหค้ ะแนนทม่ี ี 2 ลกั ษณะ
1. ข้อมูลในเชิงคุณภาพ ใหค้ ะแนนเป็น 4,3,2 และ 1 ตามพฤติกรรมทบี่ รรยายในแตล่ ะระดบั
2. ข้อมลู ในเชิงปริมาณ หากแจงนับได้ ให้ใช้ลักษณะของปรมิ าณที่ปฏบิ ตั ติ ามจำนวน
ทีก่ ำหนดไวใ้ นแต่ละระดับ ดงั น้ี
4 ยอดเยี่ยม หมายถึง การปฏิบตั ิมีปริมาณ 90 - 100 %
3 ยอดเยย่ี ม หมายถึง การปฏิบัติมปี ริมาณ 75 - 89 %
2 ยอดเย่ยี ม หมายถงึ การปฏบิ ัตมิ ีปรมิ าณ 60 - 74 %
1 ยอดเยี่ยม หมายถงึ การปฏบิ ัตมิ ปี รมิ าณตำ่ กวา่ 60 %
3. โปรดประเมนิ ใหส้ อดคล้องตามความเป็นจริงหรอื ตามคุณลกั ษณะของนกั ศึกษา
พร้อมใส่ระดับคะแนนลงในช่องการประเมนิ ตามความคิดเห็นของทา่ น
4. โปรดสรปุ จุดเดน่ จดุ ด้อย และขอ้ เสนอแนะในท้ายแบบประเมิน
5. อาจารยผ์ ู้สอนและครพู ี่เล้ยี ง ประเมนิ นกั ศกึ ษาฝึกสอน

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั 4 (ยอดเยี่ยม) 3 (ดี)
90 - 100% 75 – 89%
บคุ ลกิ ลักษณะเหมาะสมกับอาชีพครู
1. การวางแผนการสอนและสามารถ มกี ารวางแผนการสอนและ มีการวางแผนการส
ทำแผนการสอนล่วงหน้าตาม
กำหนดเวลา สามารถทำแผนการสอน สามารถทำแผนการ

2. สามารถทำแผนการสอนได้อยา่ ง ล่วงหนา้ ตามกำหนดเวลา ลว่ งหน้าตามกำหนด
ถกู ต้อง และครบทุกองคป์ ระกอบ
ไม่น้อยกว่า 90% ของ 75-89% ของท้ังหม

ทั้งหมด

สามารถเขยี นแผนการสอน สามารถเขยี นแผนก

ทม่ี อี งคป์ ระกอบครบถ้วน ทมี่ ีองค์ประกอบถกู

สมบูรณไ์ ม่นอ้ ยกว่า 90% ระหวา่ ง 75-89%

ของท้ังหมด ของทั้งหมด

1. มีการจัดการชั้นเรียน มคี วามสามารถในการ มีความสามารถ

2. มกี ารเลือกวธิ กี ารสอน จดั การชัน้ เรียนได้ดี ในการจดั การชน้ั เรีย
ใหส้ อดคล้องกับเนอ้ื หาวิชา
ไมน่ ้อยกว่า 90% ของเวลา 75-89% ของเวลาท

ทส่ี อน

ใชว้ ธิ กี ารสอนท่เี หมาะสม ใชว้ ธิ กี ารสอนทเ่ี หม

กบั เน้ือหาวชิ าเกอื บทกุ ครง้ั กับเนือ้ หาวิชา 75-8

ที่ทำการสอน ของเวลาที่ทำการสอ

ระดับคณุ ภาพ 1 (ควรปรับปรุง) 41
2 (พอใช)้ ต่ำกวา่ 60% คะแนนประเมนิ

% 60 – 74% 4
4
สอนและ มกี ารวางแผนการสอนและ มกี ารวางแผนการสอนและ 4
รสอน สามารถทำแผนการสอน สามารถทำแผนการสอน 4
ดเวลา ลว่ งหน้าตามกำหนดเวลา ล่วงหน้าตามกำหนดเวลา
มด 60-75% ของทั้งหมด 40% ของทง้ั หมด

การสอน สามารถเขียนแผนการสอน สามารถเขยี นแผนการสอน
กตอ้ ง ทม่ี ีองค์ประกอบถูกต้อง ทีม่ อี งคป์ ระกอบถูกตอ้ ง

60-74% ของท้ังหมด นอ้ ยกวา่ 90%
ของทั้งหมด

ยนไดด้ ี มคี วามสามารถในการ มีความสามารถในการ
ท่ีสอน จัดการชน้ั เรียนได้ดี จัดการชั้นเรียนไดด้ ี
60-74% ของเวลา น้อยกวา่ 40% ของเวลา
มาะสม ทส่ี อน ท่ีสอน
89% ใชว้ ิธีการสอนทเี่ หมาะสม ใชว้ กี ารสอนที่เหมาะสมกับ
อน กับเน้ือหาวชิ า 60-74% เนอื้ หาวชิ า 40% ของเวลา
ของเวลาท่ที ำการสอน ทท่ี ำการสอน

มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด 4 (ยอดเยี่ยม) 3 (ดี)
3. มีการจดั กิจกรรมหลากหลาย 90 - 100% 75 – 89%
เหมาะสมกบั ผเู้ รยี น จดั กิจกรรมการเรยี น จดั กจิ กรรมการเรียน
การสอนหลากหลาย สอนหลากหลายโดย
4. การจัดกจิ กรรม โดยใหผ้ เู้ รยี นมีสว่ นรว่ ม ผู้เรียนเขา้ รว่ ม 75-8
ที่กระตนุ้ ให้ผ้เู รยี นรู้จกั คดิ วเิ คราะห์ มากกว่า 90% ของเวลา ของเวลาท่สี อน
พฒั นาและสรา้ งสรรค์ ที่สอน
จดั กจิ กรรมโดยกระตุ้น จดั กิจกรรมโดยกระ
5. มกี ารหากลวิธีให้ผเู้ รยี นสามารถ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถคดิ ผเู้ รียนสามารถคดิ
แสวงหาความรู้ วเิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์ วิเคราะหแ์ ละสงั เคร
ด้วยตนเอง ความรตู้ า่ งๆ ได้ด้วยตนเอง ความรูต้ ่างๆ ได้ดว้ ย
มากกวา่ 90% เพียง 75-89%
ของนกั เรียนท้ังหมด ของนักเรยี นท้ังหมด
จัดกจิ กรรมทีส่ ามารถ จดั กจิ กรรมทสี่ ามาร
ให้นักเรียนแสวงหาและ ให้นักเรยี นแสวงหา
สรุปความรู้ได้ดว้ ยตนเอง สรปุ ความรูไ้ ด้ด้วยต
มากกวา่ 90% 75-89% ของนักเรยี
ของนกั เรียนทั้งหมด ทง้ั หมด

ระดับคณุ ภาพ 1 (ควรปรับปรุง) 42
2 (พอใช้) ต่ำกวา่ 60% คะแนนประเมนิ
จดั กิจกรรมการเรยี นการ
% 60 – 74% สอนหลากหลายโดยให้ 4
นการ จดั กิจกรรมการเรยี น ผู้เรยี นเข้ารว่ มน้อยกวา่ 4
ยให้ การสอนหลากหลาย 40% ของเวลาทีส่ อน
89% โดยใหผ้ เู้ รียนเขา้ รว่ ม 4
60-74% ของเวลาที่สอน

ะตุ้นให้ จัดกิจกรรมโดยกระตนุ้ จดั กจิ กรรมโดยกระตุ้น
ใหผ้ ู้เรยี นสามารถคิด ใหผ้ ู้เรยี นสามารถคดิ
ราะห์ วเิ คราะห์และสงั เคราะห์ วิเคราะห์และสังเคราะห์
ยตนเอง ความร้ตู า่ ง ๆ ได้ด้วย ความรตู้ ่าง ๆ ไดด้ ้วย
ตนเองเพียง 60-74% ตนเองเพียง 40%
ด ของนักเรียนทง้ั หมด ของนกั เรยี นทัง้ หมด
รถ จัดกจิ กรรมท่ีสามารถ จดั กิจกรรมที่สามารถ
าและ ให้นักเรียนแสวงหาและ ให้นกั เรียนแสวงหาและ
ตนเอง สรุปความรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง สรปุ ความรู้ได้ดว้ ยตนเอง
ยน 60-74% ของนกั เรยี น น้อยกว่า 40% ของ
ท้ังหมด นกั เรยี นทัง้ หมด

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั 4 (ยอดเยยี่ ม) 3 (ดี)
6. มกี ารใช้การประเมิน 90 - 100% 75 – 89%
ทห่ี ลากหลาย ใชว้ ิธกี ารวดั ผลที่ ใชว้ ิธีการวัดผลท่ี
หลากหลาย สอดคลอ้ งกับ หลากหลาย สอดคล
7. มกี ารใชส้ ่อื และหรือใช้ภมู ิปญั ญา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี น
ท้องถิ่นไดอ้ ย่างเหมาะสม มากกวา่ 90% ของ 75-89% ของแผนก
แผนการจัดการเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้
มีสือ่ การสอนท่ีชว่ ยให้ มสี ่อื การสอนที่ช่วย
ผเู้ รยี นเข้าใจเร่ืองทีเ่ รียนได้ ผเู้ รียนเข้าใจเรื่องท่ีเ
มากกว่า 90% ของ 75-89%
แผนการจัดการเรยี นรู้ ของแผนการจัดการ
ทัง้ หมด

8. มกี ารวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นและจัด จัดกิจกรรมการเรยี น จัดกิจกรรมการเรียน
กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน (การวิจัยในชั้น การสอนโดยมีการ สอนโดยมกี ารวิเครา
เรียน) วเิ คราะหผ์ ู้เรยี นและมกี าร ผู้เรยี นและมกี ารพัฒ
พฒั นากจิ กรรมเพื่อพัฒนา กจิ กรรมเพ่ือพัฒนา
ผู้เรียนมากกว่า 90% ของ 75-89% ของการจ
การจัดการเรียน เรียนการสอน
การสอน

ระดับคุณภาพ 1 (ควรปรับปรงุ ) 43
2 (พอใช้) ต่ำกวา่ 60% คะแนนประเมนิ
ใช้วธิ ีการวดั ผล
% 60 – 74% ท่หี ลากหลาย สอดคล้อง 4
ใชว้ ธิ กี ารวัดผล กบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4
40% ของแผน
ลอ้ งกับ ที่หลากหลาย สอดคล้อง การจัดการเรียนรู้ 4
นรู้ กบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ มีสอื่ การสอนทช่ี ว่ ยให้
การ 60-74% ของแผน ผูเ้ รียนเข้าใจเรอื่ งที่เรียนได้
40% ของแผนการจดั การ
การจัดการเรียนรู้ เรยี นรทู้ ้งั หมด
ยให้ มสี ือ่ การสอนทช่ี ่วยให้
เรียนได้ ผู้เรียนเขา้ ใจเรือ่ งที่เรยี นได้

60-74%
รเรยี นรู้ ของแผนการจดั การเรียนรู้

ทงั้ หมด

นการ จัดกิจกรรมการเรียน จัดกิจกรรมการเรยี นการ
าะห์ การสอนโดยมีการ สอนโดยมีการวิเคราะห์
ฒนา วเิ คราะห์ผ้เู รียนและมกี าร ผเู้ รียนและมกี ารพฒั นา
าผ้เู รยี น พฒั นากจิ กรรมเพอื่ พัฒนา กจิ กรรมเพ่อื พฒั นาผ้เู รียน
จัดการ ผเู้ รียน 60-74% ของการ 40% ของการจดั การเรยี น
จดั การเรียนการสอน การสอน

44

จุดเด่น
สอนเนอื้ หาครอบคลมุ พดู จาชดั เจนทำให้เดก็ สนใจในการเรยี นและมีการสอนท่ีเข้าใจไดง้ า่ ยสำหรบั เดก็

จดุ ด้อยและสง่ิ ทคี่ วรปรับปรงุ
พูดไวไปมีตดิ ขัดบางคำพดู และทำให้การการพดู ไม่คอ่ ยลาบเล่อื น

ข้อเสนอแนะ
-

ลงช่อื .....................................................ผูป้ ระเมิน
(ขนิษฐา หรั่งแร่)

ประเมนิ ในตำแหนง่ ครพู ี่เลย้ี ง
วนั ที่ 22 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2564


Click to View FlipBook Version