Nora1

คำนำ

หนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) เลม่ น้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชา นวตั กรรมและเทคโนโลยี
สารสนเทศเพอ่ื การศกึ ษาและการเรียนรู้ จดั ทาข้ึนเพอ่ื นาความรู้ทีไ่ ดร้ บั จากอาจายผ์ สู้ อนมา
ประยกุ ตใ์ ช้ โดยไดจ้ ดั ทาดว้ ยโปรแกรม Flip PDF Professional ผจู้ ดั ทาไดน้ าขอ้ มูลเน้ือหาท่ีเกี่ยวกบั
วิชานาฏศลิ ป์ มาจดั ทาเป็นหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยไดจ้ ดั ทาในชื่อเร่ือง มโนราห์

ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เล่มน้ี จะเป็นประโยชนต์ ่อผอู้ า่ น
หรือนกั เรียน นกั ศกึ ษา ทก่ี าลงั หาขอ้ มูลเรื่องน้ีอยู่ หากมขี อ้ แนะนาหรือขอ้ ผดิ พลาดประการใด
ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภยั มา ณ ทนี่ ้ีดว้ ย

ผจู้ ดั ทา
นายชญานนท์ เฟยธิก๋า
รหสั นกั ศึกษา ๖๒๑๕๑๒๒๗
หม่เู รียน นศ ๖๒.ค.บ.๔.๑

๘ มกราคม ๒๕๖๓

สำรบัญ

คำนำ ............................................................................................................3
สำรบญั ..........................................................................................................4
ประวัติควำมเป็ นมำ .............................................................................................5
มโนราหจ์ ติ วญิ ญาณของชาวใต้..................................................................................6
เครื่องแตง่ กาย ...................................................................................................7
เคร่ืองดนตรี ................................................................................................... 10
แม่ท่าโนราห์ .................................................................................................. 12
ทา่ รามโนราห์ ................................................................................................. 14
องคป์ ระกอบหลกั ของการแสดง ............................................................................... 15
บรรณานุกรม.................................................................................................. 16

ประวตั คิ วำมเป็ นมำ

โนรา เป็นศิลปะพ้นื เมืองภาคใตเ้ รียกว่า โนรา แต่ คาวา่ มโนราห์ หรือ มโนหร์ า น้นั เป็นคา
ท่เี กดิ ข้นึ มาเม่อื สมยั กรุงศรีอยธุ ยา โดยการนาเอา เร่ือง พระสุธน-มโนราห์ มาแสดงเป็นละครชาตรี
จึงมีคาเรียกว่า มโนราห์ ส่วนกาเนิดของโนราน้นั สันนษิ ฐานกนั ว่าไดร้ บั อิทธิพลจากการ ร่ายราของ
อินเดยี โบราณกอ่ นสมยั ศรีวิชยั ทมี่ า จากพ่อคา้ ชาวอินเดีย สังเกตไดจ้ ากเคร่ืองดนตรีที่ เรียกวา่
เบญ็ จสงั คีตซ่ึงประกอบโหม่งฉ่ิง ทบั กลอง ปี่ ใน ซ่ึงเป็นเครื่องดนตรีโนรา และทา่ ราของโนรา อีก
หลายทา่ ที่ละมา้ ยคลา้ ยคลึงกบั การร่ายราของ ทางอนิ เดีย และเร่ิมมโี นราเป็นกจิ ลกั ษณะข้นึ เมือ่
ประมาณปี พุทธศกั ราชท่ี ๑๘๒๐ ซ่ึงตรงกบั สมยั สุโขทยั ตอนตน้ เช่ือกนั วา่ โนราเกิดข้นึ คร้ังแรกท่ี หวั
เมืองพทั ลุง ปัจจบุ นั คอื ตาบล บางแกว้ จงั หวดั พทั ลงุ แลว้ แพร่ขยายไปยงั หัวเมอื งอืน่ ๆของภาคใต้
จน ไปถึงภาคกลาง และกลายเป็นละครชาตรี และจงั หวะ ตะลุง

มโนราห์จิตวิญญาณของชาวใต้

เอกลกั ษณข์ องชาวใตท้ ีน่ ่าภาคภมู ิใจอย่างหน่ึงน้นั คอื มโนราห์ หรือโนราห์ ซ่ึงเป็นศลิ ปะ
การรอ้ งและการราช้นั สูง ท้งั น้ีมีคนกลา่ วกนั วา่ ตน้ กาเนิดน้นั คอื ที่อินเดยี กวา่ สี่รอ้ ยปี ทีผ่ า่ นมา
โดยวตั ถุประสงคก์ เ็ พือ่ บูชามหาเทพท้งั สามน้นั กค็ ือ พระอศิ วร พระพรหม และพระนารายณ์
ซ่ึงในบทร้องของมโนราห์ปัจจุบนั ก็ยงั คงมเี น้ือหาดงั กลา่ วเจอื ปนอยู่ แมจ้ ะมีการดดั แปลงแกไ้ ข
ใส่เน้ือหาทางดา้ นพทุ ธศาสนาและความเช่ือด้งั เดมิ คอื การนบั ถือบรรพบุรุษ เติมไปบา้ งตามอิทธิพล
ของศาสนาทมี่ ีตอ่ ทอ้ งถนิ่ ความเป็นศิลปะช้นั สูงของมโนราหน์ ้นั สามารถดไู ดจ้ าก งานครอบครู
โขนละครและดนตรีไทย ท่เี ป็นมรดกของชาติและเป็นท่ยี อมรับวา่ งดงามและสูงส่ง บนปรัมพิธีจะมี
เศยี รเกา้ เศยี รซ่ึงเศียรทเ่ี กา้ น้นั กค็ อื เทริดมโนราห์ (คลา้ ยมงกุฎ) อกี ท้งั มโนราห์ยงั เป็นศาสตร์
ทร่ี วบรวมเอาศิลป์ แขนงอน่ื มาเกี่ยวขอ้ งอย่างหลกี เลี่ยงไม่ไดเ้ ช่น งานชา่ งไม้ ช่างก่อสรา้ ง ชา่ งปักเยบ็

เคร่ืองแตง่ กาย

1.เทริด (อา่ นว่า เซิด) เป็นเครื่องประดบั ศรี ษะ
ของตวั นายโรงหรือโนราใหญห่ รือตวั ยนื เคร่ือง

2. เคร่ืองรูปปัด เครื่องรูปปัดจะรอ้ ยดว้ ยลกู ปัดสีเป็นลายมีดอกดวง ใชส้ าหรบั สวมลาตวั
ทอ่ นบนแทนเส้ือ ประกอบดว้ ยชิน้ สาคญั 5 ชิ้น

1.ป้ิ งคอ สาหรบั สวมหอ้ ยคอหนา้ -หลงั คลา้ ยกรองคอหนา้ -หลงั รวม 2 ชิ้น

2. บ่า สาหรบั สวมทบั บนบา่ ซ้าย-ขวา รวม 2 ชิ้น

3.พานอก พานโครง หรือรอบอก ใชพ้ นั รอบตวั ตรงระดบั อก 1 ชิน้

3.ปี กนกแอ่น หรือ ปี กเหน่ง มกั ทาดว้ ยแผน่ เงินเป็นรูปคลา้ ยนกนางแอน่ กาลงั กางปีก ใช้
สาหรับโนราใหญ่หรือตวั ยนื เคร่ือง

4. ซบั ทรวง หรือ ทบั ทรวง หรือ ตาบ สาหรับสวมหอ้ ยไวต้ รงทรวงอก

5. ปี ก หรือทช่ี าวบา้ นเรียกว่าหาง หรือ หางหงส์ นิยมทาดว้ ยเขาควายหรือโลหะเป็นรูป
คลา้ ยปี กนก

6. ผา้ นุ่ง เป็นผา้ ยาวส่ีเหลย่ี มผืนผา้ นุ่งทบั ชายแลว้ ร้ังไปเหนบ็ ไวข้ า้ งหลงั
ปลอ่ ยปลายชายให้ห้อยลง

7. หนา้ เพลา เหน็บเพลา หนบั เพลา คือ สนบั เพลาสาหรบั สวมแลว้ นุ่งผา้ ทบั
ปลายขาใชล้ กู ปัดรอ้ ยทบั หรือร้อยทาบ

8. ผา้ หอ้ ย คือ ผา้ สีต่างๆ ทคี่ าดห้อยคลา้ ยชายแครง

9. หนา้ ผา้ ลกั ษณะเดียวกบั ชายไหว ถา้ เป็นของโนราใหญห่ รือนายโรงมกั ทาดว้ ยผา้ แลว้ รอ้ ย
ลูกปัดทาบเป็ นลวดลาย

10. กาไลตน้ แขนและปลายแขน กาไลสวมตน้ แขน

11. กาไล กาไลของโนรามกั ทาดว้ ยทองเหลอื ง ทาเป็นวงแหวน ใชส้ วมมือและเทา้ ขา้ งละ
หลายๆ วง

12. เล็บ เป็นเครื่องสวมน้ิวมอื ใหโ้ คง้ งามคลา้ ยเลบ็ กินนร กนิ รี

13. หนา้ พราน เป็นหนา้ กากสาหรับตวั "พราน" ซ่ึงเป็นตวั ตลก ใชไ้ มแ้ กะเป็นรูปใบหน้า
และหนา้ ทาสี เป็นหนา้ กากของตวั ตลกหญงิ

เคร่ืองดนตรี

1.ทบั (โทนหรือทบั โนรา) เป็นคู่ มเี สียงต่างกนั เลก็ นอ้ ย ใชค้ นตเี พียงคนเดยี ว

2. กลอง เป็นกลองทดั ขนาดเล็ก (มขี นาดโตกวา่ กลองของหนงั ตะลงุ เลก็ นอ้ ย)

3. ปี่ เป็นเคร่ืองเป่ าเพียงชิน้ เดียวของวง นิยมใชป้ ี่ ใน หรือ บางคณะอาจใชป้ ่ี นอก

4. โหมง่ คือ ฆอ้ งคู่ เสียงต่างกนั ทเ่ี สียงแหลม
5. ฉ่ิง หลอ่ ดว้ ยโลหะหนา รูปฝาชีมีรูตรงกลางสาหรับร้อยเชือก
6. แตระ หรือ แกระ หรือ กรับ มี ท้งั กรบั อนั เดียวที่ใชต้ กี ระทบกบั รางโหมง่ หรือกรับคู่

แมท่ า่ โนราห์ 2. ท่าผาลา (ผา หลา)

1.ทา่ แม่ลาย หรือท่า แมล่ ายกนก

3. ทา่ ลงฉาก 4.ทา่ จบั ระบา

5. ท่ากินนร หรือกินนรรา (ทา่ ข้หี นอน) 6.ทา่ ฉากนอ้ ย

7.ทา่ ราหูจบั จนั ทร์ หรือทา่ เขาควาย 8.ทา่ บวั แยม้

9.ท่าบวั บาน 10.ท่าบวั คล่ี

11.ท่ำบัวตมู 12.ท่าแมงมุมชกั ใย

ทา่ รามโนราห์

ท่าราทคี่ ่อนขา้ งจะแน่นอนวา่ เป็นแบบแผนมาแตเ่ ดิมอนั เป็นทีย่ อมรับของผรู้ าโนราห์
จะตอ้ งมีพ้ืนฐานเบ้อื งตน้ การทรงตวั ของผรู้ า ผทู้ จ่ี ะราโนราหไ์ ดส้ วยงามและมีส่วนถกู ตอ้ งอยมู่ าก
น้นั จะตอ้ งมพี ้นื ฐานการทรงตวั ดงั น้ี

-ช่วงลาตวั จะตอ้ งแอน่ อกอย่เู สมอ หลงั จะตอ้ งแอ่นและลาตวั ย่ืนไปขา้ งหนา้

-ช่วงวงหนา้ วงหนา้ หมายถึงส่วนลาคอจนถงึ ศีรษะ

-การย่อตวั การย่อตวั เป็นสิ่งสาคญั อย่างย่งิ การราโนราห์น้นั ลาตวั หรือทุกส่วนจะตอ้ งย่อลง
เลก็ นอ้ ย

-ส่วนกน้ จะตอ้ งงอนเลก็ นอ้ ย ชว่ งสะเอวจะตอ้ งหักจงึ จะทาใหแ้ ลดแู ลว้ สวยงาม

องคป์ ระกอบหลกั ของการแสดง

1. การรา โนราแตล่ ะตวั ตอ้ งราอวดความชานาญและความสามารถเฉพาะตน โดยการรา
ผสมท่าต่างๆเขา้ ดว้ ยกนั อย่างตอ่ เน่ืองกลมกลนื แตล่ ะท่ามคี วามถกู ตอ้ งตามแบบฉบบั มคี วาม
คลอ่ งแคล่วชานาญทีจ่ ะเปลย่ี นลลี าให้เขา้ กบั จงั หวะดนตรีและตอ้ งราให้สวยงามอ่อนชอ้ ยหรือ
กระฉบั กระเฉง

2. การรอ้ ง โนราห์แตล่ ะตวั จะตอ้ งอวดลีลาการรอ้ งขบั บทกลอนในลกั ษณะตา่ งๆ เช่น
เสียงไพเราะดงั ชดั เจนจงั หวะการร้องขบั ถกู ตอ้ งเร้าใจมปี ฏิภาณในการคดิ กลอนรวดเร็ว ไดเ้ น้ือหาดี
สัมผสั ดี มีความสามารถในการร้องโตต้ อบ

3. การทาบท เป็นการอวดความสามารถในการตีความหมายของบทร้องเป็นท่ารา ให้คาร้อง
และท่าราสัมพนั ธก์ นั ตอ้ งตที า่ ใหพ้ สิ ดารหลากหลายและครบถว้ น ตามคารอ้ งทุกถอ้ ยคาตอ้ งขบั บท
รอ้ งและตที ่าราให้ประสมกลมกลนื กบั จงั หวะและลลี า ของดนตรี

4. การราเฉพาะอยา่ ง นอกจากโนราแตล่ ะคนจะตอ้ งมคี วามสามารถในการรา การรอ้ ง และ
การทาบทดงั กลา่ วแลว้ ยงั ตอ้ งฝึกการาเฉพาะอย่างให้เกดิ ความชานาญเป็นพิเศษ ดว้ ยซ่ึงการราเฉพาะ
อย่างน้ี อาจใชแ้ สดงเฉพาะโอกาส เช่น ราในพธิ ีไหวค้ รู หรือพธิ ีแต่งพอกผกู้ ผา้ ใหญ่

5. การเลน่ เป็นเรื่อง โดยปกติโนราไมเ่ นน้ การเล่นเป็นเร่ือง แตถ่ า้ มีเวลาแสดงมากพอ
หลงั จากการอวดการราการร้องและการทาบทแลว้ อาจแถมการเล่นเป็นเรื่องให้ดู เพื่อความ
สนุกสนาน

บรรณำนุกรม

- https://sites.google.com/site/aungang16/
- https://www.google.com/webhp?hl=th&sa=X&ved=0ahUKEwiC

o-3xyJTmAhXvxzgGHavRDNgQPAgD

ผ้จู ัดทำ

นำยชญำนนท์ เฟยธกิ ๋ำ
รหัสนักศึกษำ 62151227
หม่เู รียน นศ 62.ค.บ.4.1

Sect.69