The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือหัตถการ การเย็บแผล Suture ประวีณา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by praweena090543, 2021-08-22 12:05:25

คู่มือหัตถการ การเย็บแผล Suture ประวีณา

คู่มือหัตถการ การเย็บแผล Suture ประวีณา

คูม่ อื หตั ถการ

การเย็บแผล (Suture)

นางสาวประวีณา หมีสกลุ 61102301074
นักศกึ ษาพยาบาลศาสตรบณั ฑติ ชัน้ ปที ี่ 4
กลุ่ม A8

คานา

รายงานฉบบั นเ้ี ป็นสว่ นหนึ่งของรายวชิ าการรักษาเบ้อื งตน้ (พย.1426) ของนกั ศึกษาพยาบาล
ศาสตรบณั ฑิตช้ันปที ี่ 4 รายงานฉบบั นจี้ ดั ทาข้ึนเพอื่ เป็นคู่มือในการทาหตั ถการเยบ็ แผล (Suture) ซึ่งผจู้ ัดทา
ได้ศึกษาคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูลจากหนังสอื และบทความต่างๆ เก่ียวกบั หัตถการเย็บแผล

ผจู้ ดั ทาหวงั เปน็ อย่างยง่ิ วา่ รายงานฉบบั นี้จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผูท้ ีไ่ ดม้ าศกึ ษา และในการจัดทาขนึ้ เพอ่ื
เปน็ คมู่ อื คร้งั นี้ หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใดขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้

ผจู้ ดั ทา
นางสาวประวณี า หมสี กุล



สารบัญ

เรอ่ื ง 1. ลักษณะแผล หนา้ ท่ี
คานา 2. วตั ถุประสงค์ของการทาหตั ถการ ก
สารบัญ 3. การเตรยี มผู้ป่วยกอ่ นการทาหัตถการ ข
เนือ้ หา 4. อปุ กรณ์ 1
5. ขั้นตอนการทาหัตถการ 5
อ้างองิ 6. คาแนะนา 7
13
16
26




หวั ข้อที่ 1

ลกั ษณะแผล

1. แผลปิด Opened wound
2. แผลเปดิ Closed wound

1

หมายถึง บาดแผลที่ผวิ หนงั หรอื เยือ่ บไุ มฉ่ กี ออกจากกัน แต่เย่อื บุท่ีอยู่ใต้ผิวหนงั
ได้รบั บาดเจ็บมกี ารฉกี ขาดของเน้ือเยื่อและหลอดเลือดฝอยบริเวณนั้น ทาให้เลือดออกมาค่ัง
รวมกันเป็นกอ้ น (Hematoma) ทาให้เกดิ การเจบ็ ปวด มักเกดิ จากการกระแทกถูกดงึ รง้ั
หรอื ถกู กระตกุ อย่างรนุ แรง เชน่ แผลฟกชา้ (Contusion) หอ้ เลอื ด ข้อเท้าพลิก
กระดูกหักโดยไมม่ ีบาดแผลภายนอก แผลไหม้พอง สมองได้รับความกระทบกระเทอื น
(Concussion of brain)

แผลฟกซา้ (Contusion หรือ Bruise) สาเหตเุ กดิ จากถูกตี หรอื กระแทกดว้ ย
เครื่องมือท่ไี มม่ ีคม มีรอยช้า อาจมีอาการบวมบรเิ วณผวิ หนังจะมีสีแดงและ
เปล่ียนเปน็ สีมว่ งและเขียวเปน็ ปนื้ เนอื่ งจากเสน้ เลือดท่อี ยู่ใต้ผิวหนงั มีการฉีกขาด
ทาใหเ้ ลอื ดขังอยภู่ ายใน

2

หมายถงึ บาดแผลทม่ี ีการฉกี ขาดและมเี ลือดไหลออกมานอกผวิ หนัง

1

1. แผลตดั (Incision) สาเหตุเกิดจากเคร่อื งมอื ที่มคี ม เช่น มดี ใบมดี มดี ผา่ ตัด
ทาใหม้ อี าการเจ็บปวดแผลลึกหรือต้นื ก็ได้ เนอ้ื เยื้อโดยรอบแผลไมช่ อกช้า

2. แผลถลอก (Abrasion) ผิวหนงั ชัน้ epidermis ถกู ครูดเป็นรอยถลอก 2
อาจเกดิ จากการหกลม้ ผิวหวั เขา่ ถลอก แผลลกั ษณะน้มี ีโอกาสตดิ เช้อื สงู
เพราะ มักจะมวี ัตถแุ ปลกปลอมเข้าไปตดิ อยู่ ทาใหม้ อี าการเจบ็ ปวด 3
เพราะส่วนปลายของเสน้ ประสาทไดร้ บั การกระทบกระเทอื น

3. แผลฉกี ขาด (Laceration) เนือ้ เยอื่ ฉีกขาดออกจากกัน ส่วนใหญเ่ กดิ จาก
อบุ ัตเิ หตุ เช่น เครอ่ื งมืออุตสาหกรรมต่างๆ แตเ่ นือ้ เย่อื และผิวหนังไมข่ าด
หายไป

3

หมายถงึ บาดแผลที่มกี ารฉีกขาดและมีเลือดไหลออกมานอกผวิ หนัง

4. แผลถกู ของแหลมทมิ่ แทง (Puncture) สาเหตุจากการถกู ท่มิ แทงเข้าไปในผวิ หนัง 4
โดยเครื่องมอื ท่ีมคี วามแหลม เช่น มีด ตะปู ซง่ึ อาจเกิดข้นึ ได้ทงั้ ตงั้ ใจและไม่ไดต้ ้ังใจ

5. แผลฉกี กระชาก (Avulsion) ผิวหนังและเนื้อเยอื่ ชนั้ ลึกขาดหายไป 5
อาจเปน็ บางส่วนหรือทั้งหมด สาเหตุเกิดจากสตั ว์กดั อบุ ัตเิ หตุ การหาย
ของแผลอาจจะตอ้ งใชก้ ารปลกู ถา่ ยผวิ หนงั หรือยา้ ยผิวหนงั (Flap) หรือ 6
ปล่อยให้หายเอง โดยการหดรั้งของแผล (wound contraction)

6. แผลทะลทุ ะลวง (Penetrating wound) การทีผ่ ิวหนังและเน้อื เย่ือสว่ นลกึ
ถูกทะลุทะลวง เชน่ ลูกกระสนุ ปืน เศษเหล็กชิ้นเลก็ ๆ ถ้าเศษของช้นิ สว่ นยังคง
อยู่ในผวิ หนงั หรอื มเี ลอื ดไหล เนือ่ งจากแผลลกึ หรอื อยใู่ นตาแหน่งท่เี ลอื ดออก
งา่ ยโอกาสเสย่ี งตอ่ การติดเชือ้ สูง

4

หัวขอ้ ท่ี 2

วตั ถุประสงคข์ องการทาหัตถการ

5

การเย็บแผล เปน็ หัตถการท่อี ยูใ่ นขอบเขตของผปู้ ระกอบวิชาชพี การพยาบาลและการผดุงครรภ์ชน้ั หนึง่ สามารถปฏบิ ตั ิได้ โดยก่อนปฏบิ ัติ

หตั ถการใด ๆ ควรมีการประเมนิ ก่อนว่าควรเยบ็ หรือไมค่ วรเย็บ

ประกอบด้วย

1. ดกู ารสูญเสยี เลอื ดวา่ มเี ลือดออกภายนอกใหเ้ หน็ หรอื วา่ มีเลอื ดออกภายใน ซึ่งตอ้ งประเมนิ โดยใชส้ ญั ญาชพี เปน็ หลกั
2. ดขู นาดและลักษณะของบาดแผลวา่ มีการถลอก ฟกช้า ห้อเลอื ด หรอื แผลฉีกขาด หรือไม่ โดยวตั ถุประสงค์เพือ่

1. เพื่อการหา้ มเลอื ด (Stop bleeding)
2. ซ่อมแซมส่วนที่บาดเจ็บ (Reconstruction)
3. ลดอาการปวดและการตดิ เชอ้ื (Decrease pain and infection)
4. ลดรอยแผลเป็นท่อี าจเกดิ จากบาดแผลน้นั ๆ (Reduce scar)
5. รวมถงึ เพ่มิ การหายของแผล (Increase healing of ulcer)

วตั ถปุ ระสงคข์ องการเย็บแผล มดี ังน้ี

1. เพื่อหา้ มเลือด
2. เพือ่ ดงึ ขอบแผลเขา้ หากัน
3. เพอ่ื สง่ เสรมิ การหายของแผล
4. ปอ้ งกันมใิ หเ้ ชื้อโรคเขา้ ไปในแผล
5. เพ่ือรักษาสภาพปกตขิ องผวิ หนัง

6

หวั ข้อท่ี 3

การเตรยี มผ้ปู ว่ ยก่อนการทาหัตถการ

1. การประเมนิ บาดแผล
2. การเตรียมบรเิ วณบาดแผลกอ่ นเยบ็
3. การฉีดยาชาเฉพาะท่ี

7

1. การประเมนิ บาดแผล

1. ซักประวตั ิขอ้ มูลผ้ปู ว่ ย : วัน เวลาท่ีเกดิ บาดแผล สาเหตุการเกดิ บาดแผล การรักษาบาดแผลกอ่ นมาโรงพยาบาล

2. ประเมนิ ลกั ษณะบาดแผล : ตาแหน่ง ขนาดของบาดแผล ได้แก่ (กวา้ ง x ยาว x ลึก เป็น cm.) เน้อื เย่ือในแผล
ผวิ หนงั รอบแผล ส่ิงแปลกปลอม สารคัดหลง่ั ในแผล

8

3. พจิ ารณาการจัดการบาดแผล
แผลท่คี วรเยบ็ : แผลอุบตั เิ หตุไมเ่ กนิ 6 hr. หรือนานเกิน 6 hr. ไมเ่ กนิ 12 hr. ขอบแผลเรยี บ เน้ือเยอื่ ไม่ชา้ (soft tissue)

01 ไมม่ สี ิ่งแปลกปลอม ให้พจิ ารณาเย็บแผลได้ เช่น แกว้ บาด มีดบาด
02 เปน็ แผลเกิน 12 hr. พิจารณาไมเ่ ย็บ แต่ตอ้ งนัดมาทาแผลทกุ วัน หรอื หากมกี ารติดเชือ้ อาจต้อง Consult แพทย์เพือ่ พิจารณารบั Admit

แผลที่มีกระดูกหกั (Fracture) รว่ มกบั เส้นเลือดฉกี ขาด (Vascular injury), เนือ้ เยือ่ หายไปจนไมส่ ามารถดึงขอบแผลมาชดิ กันได้
03 ใหก้ ารรักษาเบ้ืองต้นแลว้ ทาการส่งต่อ

บาดแผลท่คี วรเยบ็ ไดแ้ ก่ บาดแผลทไ่ี มค่ วรเยบ็ ไดแ้ ก่
1. บาดแผลท่ีเกิดขึน้ ภายใน 24 ชว่ั โมง บาดแผลท่มี คี วามสกปรกมากๆ เช่น
2. บาดแผลสะอาด หรอื ได้รบั การตกแตง่ เปน็ อยา่ งดีแลว้ - แผลสนุ ัขกัด
3. ไม่มกี ารตดิ เชื้อ - ตกทอ่ น้าครา
4. ไมม่ เี ลือดตกคา้ งในบาดแผล - แผลติดเชอื้
5. เลือดมาเลีย้ งบริเวณน้ันอยา่ งเพียงพอ เนอื่ งจากมโี อกาสตดิ เชือ้ และแผลเป็นหนองได้
6. มีผิวหนงั พอท่จี ะดึงร้ังเข้าหากนั ได้
9

2. การเตรยี มบรเิ วณบาดแผลกอ่ นเยบ็

1. จัดท่าใหผ้ ู้ปว่ ยวางแขน ขา ที่มีบาดแผลบนตะแกรงลา้ งแผล ถา้ แผลมบี รเิ วณลาตวั สะโพก ใหใ้ ช้ผา้ ยางรองใตแ้ ผล มว้ นขอบผา้ ยาง
ด้านบนและดา้ นข้างทง้ั สองแล้วปลอ่ ยชายดา้ นล่างลงบนตระแกงล้างแผล
2. เตรียม Set dressing
3. เปิด Set บนโตะ๊ วางอุปกรณ์ : ถา้ แผลเป็นโพรงลกึ ตั้งแต่ 1 cm. เตรยี ม syringe 20 cc เข็ม No.18 ไวเ้ พอ่ื ลา้ งแผล
4. เตรยี ม 0.9% NSS 1,000 CC สาหรบั ลา้ งแผล
5. ใสถ่ ุงมอื sterile
6. กอ่ นเย็บแผลตอ้ งทาความสะอาดแผลด้วยวิธี Sterile technique
7. ล้างดว้ ย 0.9% NSS ลา้ งตอ่ เน่อื งจนสะอาด และใช้ Scrub solution ในการชว่ ยทาความสะอาดรอบๆแผล
8. ทา Antiseptic รอบๆ ปากแผลออกไปเป็นบรเิ วณกว้าง 2 รอบ จากดา้ นในออกดา้ นนอกบาดแผล
9. คลุมบาดแผลด้วยผ้าส่เี หลีย่ มเจาะกลาง sterile แลว้ จัดเตรยี มอปุ กรณ์ในการเยบ็ แผลให้พรอ้ ม

10

3. การฉดี ยาชาเฉพาะท่ี

1. ซกั ประวัติการแพย้ า อธิบายให้ผู้ปว่ ยทราบถึงวัตถปุ ระสงคข์ องการฉดี ยาชา และให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาการแพย้ าหรือผลข้างเคยี งที่
อาจจะเกดิ ข้ึนไดจ้ ากการไดร้ บั ยาชา
2. จัดใหผ้ ูป้ ว่ ยนอนในทา่ ทสี่ ขุ สบาย และมีการพูดคยุ ให้ผู้ป่วยคลายความวติ กกังวล และประเมนิ อาการแสดงและอาการเปลี่ยนแปลงของ
ผปู้ ่วยอยา่ งตอ่ เนื่องในระหว่างทไี่ ดร้ ับยาชา
3. เตรียมอุปกรณฉ์ ีดยาชา ซ่งึ ประกอบดว้ ย Syringe sterile ขนาด 3, 5 และ 10 cc. ขน้ึ อยู่กับขนาดของบาดแผลทจ่ี ะเยบ็
เข็มดดู ยาชา No.18 และเข็มฉีดยาชา No.24 ความยาว 1½ น้วิ
4. ดงึ ยาชาทค่ี านวนไว้ตามชนิดของยาชาต่อน้าหนกั ตวั
5. ใช้ Povidine solution เชด็ ผิวหนงั บรเิ วณทีจ่ ะฉีดยาชา โดยวนจากออกดา้ นนอกให้หา่ งจากตาแหน่งทจ่ี ะฉีดยาชาเปน็ วงกลมเสน้ ผ่าน
ศูนย์กลาง ประมาณ 1 น้ิว

ตาแหนง่ ทีห่ า้ มใช้ Xylocaine ผสม Adrenaline ฉดี เขา้ ไป
• ใบหู • นวิ้ มอื • นว้ิ เทา้ • อวยัวะเพศชาย • หัวนม
เนือ่ งจากจะทาใหอ้ วยัวะสว่ นนั้นขาดเลือดไปเล้ียงทาใหเ้ กดิ เนอื้ ตาย

11

3. การฉีดยาชาเฉพาะท่ี
6. การเริม่ และเดินยา ควรฉีดเขาไปในผวิ หนงั บริเวณ Intradermal wheal ก่อน ยกเวน้ บรเิ วณฝา่ มือ ฝ่าเท้า หรือหนังศรี ษะ เพ่ือไม่ให้
ผปู้ ว่ ยเจ็บเวลาเคล่อื นเข็ม จากนัน้ จึงคอ่ ยๆปักเขม็ เข้าไปในเนอ้ื ใตผ้ วิ หนงั และทดสอบวา่ ปลายเข็มเขา้ ไปในหลอดเลอื ด หรอื ไม่
หากมัน่ ใจวา่ เขม็ ไมอ่ ย่ใู นหลอดเลือดใหเ้ รม่ิ เดนิ ยา 1-2 cc. แลว้ รอดปู ระมาณ 1-2 นาที หากผู้ป่วยไมม่ ปี ฏิกิริยาใด ๆ ให้ฉดี ตอ่ ไปจนได้
ปรมิ าณยาและบริเวณท่ที าหตั ถการตามที่ตอ้ งการ
7. การฉีดยาชาไม่ควรฉดี เรว็ และแรง เพราะจะทาให้เกิดความดนั ที่สงู ทาให้ผ้ปู ่วยมอี าการปวด
8. กรณที ีฉ่ ดี เปน็ แนวหรอื บริเวณกว้าง ควรแทงเข็มลงไปหรอื ถอนเขม็ ออกชา้ ๆ และขณะฉดี ไมค่ วรแทงเข็มให้สุด เพราะหากเขม็ หกั จะ
ทาให้ Remove ออกยาก
9. การฉดี ยาชาบรเิ วณกวา้ ง ควรแทงเขม็ ผ่านผิวหนงั เพยี งครง้ั เดยี ว เมอ่ื เปลี่ยนตาแหน่งควรถอนเขม็ ออกเกอื บสุดแล้วค่อยเปลี่ยนทศิ ทาง
เข็ม โดยไม่ตอ้ งถอนเข็มออกพ้นผิวหนงั
10. การฉดี ยาชาในตาแหน่งท่ีฉดี อยูต่ ิดกบั กระดูก ไมค่ วรแทงเข็งลงไปบนกระดูกเพราะจะทาใหเ้ จ็บและปลายเข็มอาจจะงอ และขดู บาด
เน้อื เย่ือเวลาดงึ เขม็ ออก
11. หลังจากฉีดยาชาแล้วควรมีการทดลอบการชากอ่ นท่ีจะทาหตั ถการ

12

หัวข้อที่ 4

อปุ กรณ์

13

246

13 5 7

1. Forceps ทั้งชนิดมีเขย้ี วและไมม่ ีเข้ยี ว สาหรับใช้ในการจับเนื้อเยื่อและผวิ หนังขณะเย็บแผล
2. Needle Holder ใช้ในการจับเขม็ เย็บแผล
3. เขม็ เย็บแผล เลอื กใหเ้ หมาะสมกับชนดิ ของแผล กรณเี ยบ็ กล้ามเน้อื และ เนอื้ เยือ่ ให้เขม็ Round แตห่ ากเยบ็ บริเวณผวิ หนงั ใชเ้ ขม็ Cutting
4. กรรไกรตัดไหม scissors ใชส้ าหรับตดั เส้นไหมท่เี ยบ็ แผล
5. กรรไกรตัดเน้ือ metzenbaum สาหรับกรณตี อ้ งเลาะหรือเลม็ ขอบแผล
6. ถุงมือ sterile
7. ผา้ สเ่ี หล่ยี มเจาะกลาง

14

Non absorbable Sutures Absorbable Sutures

8. ไหมหรอื เส้นด้ายสาหรับใชเ้ ยบ็ แผล (Silk)
• Non absorbable Sutures ไมส่ ามารถละลาย ไดแ้ ก่ ด้ายท่ที าจากฝา้ ย ไหม และใยสังเคราะห์ เชน่ Nylon และ polypropylene
• Absorbable Sutures สามารถละลายไดเ้ อง ได้แก่ เอน็ ทีใ่ ชเ้ ยบ็ แผลแลว้ ไม่ต้องตัดไหม

การเลือกขนาดและวสั ดุเย็บแผล

1. แผลบรเิ วณหน้า - nylon5/0, 6/0

2. แผลบรเิ วณหนังศีรษะ - nylon2/0, 3/0

3. แผลบรเิ วณลา ตวั แขนขา - nylon3/0, 4/0

4. แผลบริเวณฝา่ มอื หลังมือ - nylon4/0, 5/0

5. แผลในปาก - chromic/plaincatgut 3/0, 4/0 catgut

ไหมละลาย Silk, Nylon ผวิ หนงั 15

หวั ข้อที่ 5

ข้นั ตอนการทาหตั ถการ

16

หลกั ารเยบ็ แผล

1. เตรียมอุปกรณ์เย็บแผลเลอื กขนาดของเข็มและเสน้ ไหมใหเ้ หมาะกบั แผนทจี่ ะเยบ็
2. ใส่ถงุ มือ sterile
3. ปผู ้าส่ีเหล่ียมปราศจากเชอ้ื ใตแ้ ผล และปผู า้ เหล่ียมเจาะรูตรงกลางคมุ บรเิ วณแผลโดยให้ชอ่ งเปดิ ของผา้ อยู่ตรงกลางบาดแผล
4. ตรวจดูแผลอกี คร้ังหากมเี น้อื ตาย ขอบแผลกะร่งุ กะร่งิ ใหใ้ ชก้ รรไกรตดั เนอื้ เล็มเศษเนื้อตายและตัดเล็มขอบแผลใหเ้ รยี บ
5. ทาการเยบ็ แผล ซึ่งมีเทคนิคดงั น้ี

5.1

5.1 การจับเข็ม-ใช้ Needle holder คมี จับเข็มทีป่ ระมาณ
1/3 คอ่ นมาทางหัวเข็มหรอื โคนเขม็

17

หลกั ารเย็บแผล

5.2

5.2 การจับ Needle Holder ควรจบั ใหอ้ ยู่ในอุ้งมือ
แล้วใชน้ ิ้วชี้วางใกล้กับข้อตอ่

5.3

5.3 การตกั เข็ม ใหป้ กั ลงไปตรงๆ ตัง้ ฉากกบั ผวิ หนังหรอื เน้ือเย่ือที่จะเย็บ
เพราะจะช่วยให้เย็บงา่ ย ไมค่ วรตกั เขม็ ในลกั ษณะเฉยี ง เพราะผวิ หนงั ท่ีจะถูกเยบ็
จะมีความยาวมากทาใหเ้ ยบ็ ยาก และการตักเฉยี งอาจทาใหค้ วามลึกไมถ่ ึงก้นแผล

18

หลกั ารเยบ็ แผล

5.4

5.4 การหมนุ ปลายเขม็ ให้เสยขน้ึ ตามความโคง้ ของเขม็ เย็บโดยใช้
ขอ้ มอื ไม่ควรออกแรงดนั ขึน้ ไปตรงๆ เพราะจะทาให้เขม็ หักได้ง่าย

5.5

5.5 การปล่อย Needle Holder ให้ปล่อยจากโคนเข็มมาจบั ทีป่ ลาย
ท่ีโผลพ่ น้ ผิวหนังอีกด้านหนงึ่ ของแผลขึน้ มาใหห้ ่างจากปลายแหลม (ถ้าจับ
บริเวณสว่ นปลายแหลมจะทาใหเ้ ข็มทอื่ ) แลว้ คอ่ ยหมนุ เขม็ ตามโค้งของเข็ม
จนกระท่ังโคนเข็มหลุดจากผิวหนัง

19

วธิ กี ารเย็บแผล

ประเภทของการเยบ็ แผล

1. Single interrupted suture / Simple suture เหมาะสาหรับเย็บบาดแผลแบบธรรมดาทัว่ ไป แผลท่ตี ืน้ กน้ แผลไมล่ ึก สามารถชว่ ยในการ
ห้ามเลือดได้

วิธกี ารเย็บแผล

เย็บแบบธรรมดา (Simple Suture) คือ ใชเ้ ขม็ ตกั เขา้ ไปทเ่ี นอื้ ใตผ้ วิ หนงั สว่ นท่ีต้องการเยบ็ เพยี งครัง้ เดียว แลว้ ผูกเปน็ ปมไว้ทด่ี ้านขา้ ง

20

1 2 วธิ ีการเย็บแผล

1.1 ใช้ Needle Holder จับเขม็ ทีก่ ง่ึ กลางของเข็ม
1.2 ใช้ forceps มีเข้ียวจับผิวหนงั ขอบแผล ปักเข็มห่างขอบแผลพอสมควร ลกึ
เกือบถึงกน้ แผล

34

1.3 ปกั เขม็ ลกึ ถงึ กน้ แผล
1.4 ใช้ forceps จบั ประคองเข็มท่ีโผล่ใน subcutaneous tissue ปลด
needle holder มาจับเข็มดึงออกมาจากแผล
1.5 ใช้ forceps จับเขม็ พลิก Needle Holder จับเขม็ ใหม่เพ่อื เย็บต่อ

56

1.6 จับเข็มทก่ี งึ่ กลางของเข็ม

21

78 วธิ กี ารเยบ็ แผล
9 10
1.7 ใช้ forceps จบั ผิวหนังขอบแผลอกี ข้างดงึ ใหต้ งึ ปักเข็มตอ่ ในชน้ั sub
11 12 cutaneous tissue อกี ข้างลกึ เท่า ๆ กนั กับขอบแผลขา้ งแรก จากน้นั ดันเขม็ ผา่ น
ผวิ หนังข้ึนมาห่างขอบแผลเทา่ ๆ กัน

1.8 ใช้ forceps จับประคองเข็มที่โผลพ่ น้ ผิวหนงั

1.9 ปลด needle holder มาจบั ปลายเขม็ ในลักษณะคว่ามอื ดงึ เขม็ ออกตาม
ความโค้งของเขม็ อย่าใชแ้ รงงดั ขอบแผล

1.10 ดึงไหมผา่ นแผลใหเ้ หลอื หางสัน้ ๆ มือซา้ ยจบั ไหมมว้ นรอบ needle
holder เปน็ บ่วงไปในลกั ษณะ ม้วนหนา้ ออกไปจากตัว

1.11 หากไหมล่ืนหรือเยบ็ แผลในที่ตึง แนะนาให้จบั ไหมมว้ นรอบ needle
holder เปน็ บว่ งเพมิ่ อกี 1 รอบ เรียกวา่ surgical knot

1.12 Pass needle holder ลอดบ่วงไปจบั ปลายไหมอีกข้างหนึง่

22

13 14 วธิ กี ารเยบ็ แผล
15 16
17 1.13 ใช้ needle holder ดึงปลายไหมลอดบ่วงเข้ามาหาตัว ขณะทมี่ ือซ้ายจับ
ปลายไหมอีกด้านดึงในทศิ ออกจากตวั ดึงใหป้ มตงึ
1.14 ล็อคปมไม่ใหล้ ่นื หลดุ โดยโยกปลายไหมดา้ นสั้นที่ needle holder จับอยู่
ออกจากตัวไปอยใู่ นแนวเดยี วกับไหมทมี่ ือซ้ายดึงอยู่
1.15 มอื ซา้ ยจบั ไหมท่จี บั อย่มู ้วนรอบ needle holder เปน็ บว่ งในลักษณะมว้ น
หลัง
1.16 Pass needle holder ลอดบ่วงไปจับปลายไหมอกี ขา้ งหนึ่ง
1.17 ใช้ needle holder ดึงปลายไหมลอดบ่วงออกไปจากตัวขณะทมี่ ือซ้ายทีจ่ บั
ปลายไหมอีกดา้ นหนึ่งดงึ ในทิศเข้าหาตัวดงึ ใหป้ มตึง

23

วิธีการเยบ็ แผล

ประเภทของการเย็บแผล

2. Mattress interrupted Suture

วิธกี ารเย็บแผล

เย็บแบบธรรมดา (Simple Suture) คือ การเยบ็ ยอ้ นตอบกลับ โดยใช้เขม็ เย็บตักเขา้ ไปทเ่ี นอื้ ใต้ผวิ หนงั ให้ลกึ จากขอบแผลขา้ งหน่ึงไปโผลข่ อบ
แผลอีกขา้ งแลว้ ย้อนเข็มกลบั มา ตักขอบแผลต้ืนๆ แทงเข็มขน้ึ มาใกลต้ าแหนง่ เดิมท่แี ทงครั้งแรก แล้วผกู ปมตดั ดา้ นสว่ นทีเ่ หลือออก

- เปน็ การเยบ็ แผลแบบเย็บผกู เปน็ เปราะ 2 ช้นั
- ใช้ไดด้ ใี นบาดแผลท่ีตอ้ งการความแขง็ แรง บาดแผลที่ลกึ และยาว
บาดแผลทีไ่ ม่ตอ้ งการให้ขอบแผลซ้อนกนั ใช้เย็บบาดแผลที่มีการดงึ รั้งมากๆ หรอื มี
การเคลอื่ นไหวตลอดเวลา เชน่ บริเวณข้อต่อตา่ งๆ แขน ขา หนา้ ทอ้ ง และลาตัว
ซ่งึ แผลมีขนาดใหญแ่ ผล บรเิ วณผิวหนังทมี่ ีการม้วนงา่ ยแผลลึกมากกว่า 0.5
เซนติเมตร และแผลยาวตงั้ แต่ 3 เซนตเิ มตรขึ้นไป
- มีเทคนคิ วิธกี ารเยบ็ คล้ายกบั การเยบ็ แบบธรรมดา แตใ่ ห้ผูกเปน็ เปราะแบบ 2 ชน้ั

24

ข้อควรปฏิบัติภายหลังการเยบ็ แผล

1. เมอ่ื เยบ็ แผลเรียบรอ้ ยแลว้ ใหต้ รวจสอบความเรยี บร้อยของแผล ดตู าแหน่งท่มี ีเลือดออกผดิ ปกติ เพื่อปอ้ งกัน
การเกดิ Hematoma ในภายหลงั
2. ใชผ้ ้ากอ๊ ซซบั แผลให้แหง้ แลว้ ปิดด้วยผา้ กอ๊ ซที่มขี นาด เหมาะสมกบั บาดแผล
3. ปิดทบั ด้วยพลาสเตอรต์ ามแนวขวางของกล้ามเนื้อ

25

หัวขอ้ ที่ 6

คาแนะนา

26

1. ซกั ประวัตกิ ารได้รับภมู ิคุ้มกันบาดทะยัก แผลบริเวณใบหนา้

1.1 ถา้ ยังไมเ่ คยได้รับวัคซีนป้องกนั บาดทะยักมากอ่ นหรอื ไดร้ บั ตัดไหมประมาณวนั ที่ 5
มาแลว้ เกิน 10 ปี
- ให้ฉีด 3 ครง้ั คร้งั ละ 0.5 cc. (เดอื นที่ 0, 1, 6) แผลท่ีหนงั ศรี ษะ
1.2 ถา้ ได้รับวัคซีนปอ้ งกันบาดทะยักครบ 3 ครั้ง ไมเ่ กิน 10 ปี
- จะไมฉ่ ดี ซา้ ตัดไหมประมาณวันท่ี 7 – 10
1.3 ถ้าได้รับวคั ซีนปอ้ งกันบาดทะยักครบ 3 ครัง้ เกนิ 10 ปี
- จะฉดี กระตนุ้ 1 ครงั้ บรเิ วณฝา่ มือ เท้า กลางหลัง และข้อต่างๆ

2. กรณผี ู้บริการมอี ายุ 13 ปขี ้นึ ไป ตัดไหมประมาณวันท่ี 10 – 14

มปี ระวตั ิได้รับภูมิคุม้ กนั โรคไม่ชัดเจน *** ใหม้ าตัดไหมตามนัด ถ้าเปน็ แผลเย็บไม่ค่อยปล่อยให้ไหมค้างไวน้ านเกนิ ไป
- จะใหไ้ ดร้ บั วัคซีนป้องกนั บาดทะยกั เช่นเดยี วกบั ผทู้ ไ่ี ม่เคยได้รบั
วัคซีนมากอ่ น 27

1. นดั ดแู ผลในวันรุ่งข้นึ เพือ่ ประเมนิ แผล ถ้าแห้งดี ไมบ่ วมแดง นัดล้างแผลวนั เวน้ วัน จนครบตัดไหม ถา้ มี discharge ซึม แผลบวมแดง ให้นัด
ล้างแผลทกุ วนั จนครบตดั ไหม
2. คาแนะนาท่ีจะใหผ้ ูป้ ่วยก่อนกลบั บ้าน

– รกั ษาแผลให้แห้ง สะอาดอยู่เสมอ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรก และไม่ให้เปียกน้าจนกว่าแผลจะหาย ถ้าแผลเปยี กน้าใหร้ บี กลับมาลา้ งแผลท่ี
โรงพยาบาล
– ยกอวยั วะสว่ นทม่ี บี าดแผล เชน่ บรเิ วณ แขน ขา ใหส้ งู กวา่ ระดับหวั ใจ 24–48 ชวั่ โมงแรก เพอ่ื ป้องกันไมใ่ ห้แผล บวม
– ไมใ่ ห้เปล่ียนผ้าปิดแผลหรอื แกะผา้ ปดิ แผลออกเอง เพ่ือป้องกันการติดเช้ือ
– รบั ประทานอาหารทม่ี ปี ระโยชน์ เพ่อื สง่ เสริมการหายของบาดแผล

ไดแ้ ก่ โปรตนี เชน่ เนอ้ื สตั ว์ นม ถ่ัวตา่ งๆ
แรธ่ าตตุ ่างๆ เช่น ตับ ไขแ่ ดง ผกั ใบเขยี ว
วิตามนิ ซสี ูง เช่น ฝรง่ั สม้ มะขามป้อม มะเขอื เทศ มะขามเทศ ผักใบเขียว

– ใหส้ ังเกตอาการผิดปกตทิ ่ีตอ้ งรบี มาโรงพยาบาลทนั ที ได้แก่ ไข้ ปวดแผล มากกวา่ ปกติ บวมแดง แสบรอ้ น มี Discharge ซึมมาก

28

อา้ งองิ

วิลาวัณย์ เตอื นราษฎร์. (2563). การรกั ษาพยาบาลโรคเบือ้ งตน้ . เชียงใหม่ : สานักพิมพ์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อวินนท์ บัวประชุม. (2564). เอกสารประกอบการสอน บทที่ 5 การทาหัตถการภายใตข้ อบเขตของระเบยี บ
กระทรวงสาธารณสขุ . ภาควชิ าการพยาบาลอนามยั ชุมชน. พิษณุโลก ; วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราช
ชนนี พทุ ธชนิ ราช


Click to View FlipBook Version