เครื่องเติมน้ำมันเกียร์

เครื่องเติมน้ำมันเกียร์ นายนภสินธุ์ สินเนียม นายสิทธิพงค์ ป้านภูมิ นายรัฐภูมิ คชหมี โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาช่างยนต์ สาขางานเครื่องกล ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี

ใบรับรองโครงงาน วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เรื่อง เครื่องเติมน้ำมันเกียร์ โดย นายนภสินธุ์ สินเนียม นายสิทธิพงค์ ป้านภูมิ นายรัฐภูมิ คชหมี ได้รับอนุมัติให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ................................................... (นางสาวนิตยา ศรีแก้ว) รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ วันที่ .......... เดือน .......................... พ.ศ. ............... คณะกรรมการที่ปรึกษา ......................................................... ประธานกรรมการ (นายมงกุฎ สุรเดชาวุธ) ......................................................... กรรมการ (นายกิตติ กล่ำม่วง) ......................................................... กรรมการ (นายสุเชษฐ สิทธิเดช)

ก ชื่อโครงงาน เครื่องเติมน้ำมันเกียร์ คณะผู้จัดทำ นายนภสินธุ์ สินเนียม นายสิทธิพงค์ ป้านภูมิ นายรัฐภูมิ คชหมี สาขาวิชา ช่างยนต์ สาขางาน เครื่องกล ปีการศึกษา 2566 คณะกรรมการที่ปรึกษา นายมงกุฎ สุรเดชาวุธ นายกิตติ กล่ำม่วง นายสุเชษฐ สิทธิเดช บทคัดย่อ โครงงานเครื่องเติมน้ำมันเกียร์มีวัตถุประสงค์เพื่อ ทำให้ในการเติมน้ำมันเกียร์ง่ายมากขึ้นและ สะดวกต่อการทำงานทำให้ผู้ใช้งานสามารถไปทำงานในส่วนอื่นได้มากขึ้นและประหยัดเวลามากขึ้นมี ส่วนประกอบ เกจวัดแรงดัน มีหลักการทำงาน ใช้ในการวัดแรงดันและควบคุมแรงดันสามารถที่จะ ระบุแรงดันออกมาในหน่วยต่างๆและคอยส่งลมเข้าไปในถังเพื่อเป็นแรงดันทำให้น้ำมันไหลออกมาผล การทดลองผลการประเมินจากอาจารย์ ประธานกรรมการและคณะกรรมการ แผนกวิชาช่างยนต์ โดย สามารถช่วยเสริมสร้างทักษะให้กับนักศึกษาในเรื่องของการวางแผนการดำเนินงานและเสริมสร้างใน เรื่องการทำงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้

ข กิตติกรรมประกาศ โครงงาน เครื่องเติมน้ำมันเกียร์ สำเร็จได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์และช่วยเหลือ อย่างดียิ่งจาก บิดา มารดา ครูที่ปรึกษา คณะเพื่อน และ ผู้มีพระคุณที่ให้การสนับสนุนในการศึกษามา โดยตลอด และเป็นกำลังใจให้คณะผู้จัดทำในทุกด้านที่ได้กรุณาให้คำแนะนำแนวทางในการทำโครงงาน และข้อคิดเห็นต่างๆ คณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ ขอกราบขอบพระคุณ นายกิตติ กล่ำม่วง ผู้มีอุปการะคุณที่คอยให้คำปรึกษาแนะแนวในการ ทำโครงงานและข้อคิดเห็นต่าง และคณะเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกันและกันจนสามารถทำงานได้เสร็จไป ได้ด้วยดี คณะผู้จัดทำ นายนภสินธุ์ สินเนียม นายสิทธิพงค์ ป้านภูมิ นายรัฐภูมิ คชหมี

ค คำนำ โครงงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา โครงงาน รหัสวิชา 20101-8501 โครงงานนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อให้ง่ายและสะดวกมากต่อการเติมน้ำมันเกียร์มากขึ้นและทำให้ประหยัดเวลาเราจึงสามารถไป ทำงานในหน้าที่อื่นได้โดยมีเครื่องเติมน้ำมันเกียร์เป็นตัวช่วย ทางคณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักสึกษา ในแผนกวิชา ช่างยนต์ดังนั้นที่อยากได้ความรู้ความสามารถที่นำไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน และนำไปประกอบ อาชีพในอนาคตได้ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใด ทางคณะผู้จัดทำก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ นายนภสินธุ์ สินเนียม นายสิทธิพงค์ ป้านภูมิ นายรัฐภูมิ คชหมี

ง สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข คำนำ ค สารบัญ ง สารบัญ (ต่อ) จ สารบัญตาราง ฉ สารบัญภาพ ช บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาของโครงงาน 1 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1 1.5 นิยามศัพท์ 1 1.6 งบประมาณในการดำเนินงาน 1 บทที่ 2 ทฤษฎีและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 2.1 ประเภทของอะลูมิเนียม 2 2.2 ประเภทของล้ออุตสาหกรรม 2 2.3 ประเภทตัวปรับแรงดันลม 5 2.4 ประเภทก๊อก 6 2.5 ประเภทสายยาง 6 2.6 ประเภทท่อน้ำ 8 2.7 ประเภทถังน้ำยาแอร์ 10 บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน 3.1 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ 14 3.2 ออกแบบโครงสร้างโครงงาน 14 3.3 ประกอบโครงงานตามแบบ 15 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 18

จ สารบัญ (ต่อ) 3.5 ทดสอบการทำงาน 18 3.6 บันทึกผลการทดสอบ 18 บทที่ 4 ผลการทดลอง 4.1 ทดสอบหัวฟิตติ๊ง 19 4.2 ทดสอบวาล์วลม 19 4.3 ทดสอบการระบายลมออกจากถัง 19 4.4 ทดสอบการไหลขอน้ำมัน 19 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผล 21 5.2 อภิปรายผล 21 5.3 ข้อเสนอแนะ 21 บรรณานุกรม ภาคผนวก ประวัติผู้จัดทำโครงงาน หน้า

ฉ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 2.1 แสดงผลการทดสอบหัวฟิตติง,วาล์วลม,หัวระบายลม,การไหลของน้ำมัน 19

ช สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 2.1 แผ่นอลูมิเนียม 2 2.2 ล้อยางธรรมชาติ 3 2.3 ล้อเหล็กหล่อ 3 2.4 ล้อไนล่อน 4 2.5 ล้อยูรีเทน 4 2.6 ตัวปรับแรงดันลม 5 2.7 ก๊อกน้ำ 6 2.8 สายยางใส สายยางฟ้า สายยางทั่วไป 6 2.9 สายยางแรงดัน 7 2.10 สายยางกลุ่มพิเศษ 8 2.11 ท่อ PVC (Poly Vinyl Chloride) 8 2.12 ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี 9 2.13 ท่อไซเลอร์ 9 2.14 ท่อ HDPE – High Density Poly Ethylene 10 2.15 สารทำความเย็น R-11 10 2.16 น้ำยาแอร์ R-12 11 2.17 น้ำยาแอร์ R-22 11 2.18 สารทำความเย็น R-717 12 3.2 ออกแบบโครงสร้าง 14 3.3 แสดงฐานยึดวาล์วลม 15 3.4 แสดงภาพวาล์วลม 15 3.5 แสดงภาพหัวฟิตติ้ง 16 3.6 แสดงภาพท่อทางออกน้ำมัน 16 3.7 แสดงภาพทางเติมน้ำมันเข้า 17 3.8 แสดงภาพเสร็จสมบูรณ์ 17 4.1 แสดงการทดสอบการไหลขอน้ำ 18

บทที่1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาของโครงงาน ปัจจุบันในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับระบบเกียร์รถถยนต์ปัญหาหนึ่งที่มักพบคือการเติมน้ำมัน เกียร์รถยนต์ เพราะมีความยุ่งยากและอาจทำเลอะเทอะในการปฏิบัติงานซึ่งทำให้เสียเวลาเกิดความ สิ้นเปลืองได้ ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะดำเนินการพัฒนาเครื่องเติมน้ำมันเกียร์รถยนต์ เพื่อลดปัญหา ดังกล่าว จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นแรงจูงใจให้คณะผู้จัดทำสร้างโครงงานเครื่องถ่ายน้ำมัน เกียร์รถยนต์ชิ้นนี้ขึ้น 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1.2.1 เพื่อดำเนินการพัฒนาเครื่องเติมน้ำมันเกียร์รถยนต์ 1.2.2 เพื่อลดเวลาในการปฏิบัติงานในการเติมน้ำมันเกียร์รถยนต์ 1.2.3 เพื่อพัฒนาเครื่องเติมน้ำมันเกียร์รถยนต์ 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1.3.1 ได้อุปกรณ์ในการปฏิบัติงานการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์รถยนต์ จำนวน 1 เครื่อง 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.4.1 ได้ดำเนินการพัฒนาเครื่องเติมน้ำมันเกียร์รถยนต์ 1.4.2 ได้ลดเวลาในการปฏิบัติงานในการเติมน้ำมันเกียร์รถยนต์ 1.4.3 ได้พัฒนาเครื่องเติมน้ำมันเกียร์รถยนต์ 1.5 นิยามศัพท์ 1.5.1 น้ำมันเกียร์ คือ ของเหลวที่จะช่วยให้การทำงานของระบบหล่อลื่น ช่วยหล่อลื่น ฟันเฟือง เพื่อไม่ให้ฟันเฟืองขบกัน หรือสัมผัสกันโดยตรง ลดการเสียดสีของชิ้นส่วนภายในระบบเกียร์ นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ถ่ายเทความร้อน ป้องกันการเกิดสนิม การกัดกร่อน และทำให้ระบบเกียร์ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1.6 งบประมาณในการดำเนินงาน 1.6.1 ค่าวัสดุจัดทำโครงงานเครื่องถ่ายน้ำมันเกียร์ จำนวน 3,000 บาท

บทที่2 แนวคิดทฤษฎีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาเรื่องเครื่องเติมน้ำมันเกียร์น้ำมันเฟืองท้ายผู้ศึกษาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎี หลักการต่างๆ จากเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 2.1 ประเภทแผ่นอะลูมิเนียม 2.2 ประเภทลูกล้ออุตสาหกรรม 2.3 ประเภทตัวปรับแรงดันลม 2.4 ประเภทก๊อก 2.5 ประเภทสายยาง 2.6 ประเภทท่อน้ำ 2.7 ประเภทถังน้ำยาแอร์ 2.1 ประเภทของอะลูมิเนียม อลูมิเนียม (Aluminium) ถือเป็นโลหะที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์มากทั้งในภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน สำหรับภาคอุตสาหกรรมใช้ในการผลิตอลูมิเนียมผสม และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม ส่วนภาคครัวเรือนมีใช้มากในการก่อสร้าง และตกแต่งบ้าน ทดแทนไม้ และเหล็ก เนื่องจากเป็นโลหะ ที่มีคุณสมบัติคงทนต่อการหัก ความร้อน การกัดกร่อน น้ำหนักเบา และมีความสามารถในการสะท้อน แสง และความร้อนได้ดี มักใช้ในงานก่อสร้าง งานตกแต่ง เช่น การทำประตู หน้าต่าง ฝ้า ราวกั้น และ โครงสร้างต่างๆ ภาพที่ 2.1 แผ่นอลูมิเนียม

3 2.2 ประเภทของล้ออุตสาหกรรม 2.2.1 ล้อยางธรรมชาติ เป็นล้อที่มีความนิ่ม ยืดหยุ่น ทำให้ไม่เกิดเสียงดังรบกวนเวลาเข็น ไม่ ทำให้พื้นเป็นรอย เหมาะกับการใช้งาน ที่มีการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ หากต้องการเน้นความสะอาด เช่น ในพื้นที่ห้องอาหาร, โรงแรมหรือโรงพยาบาล การใช้ล้อยางดำ อาจเกิดคราบดำที่พื้นได้ ดังนั้นควร เลือกใช้ล้อยางเทาแทนทั้งนี้ ล้อยางธรรมชาติที่ดีจะมีต้องส่วนผสมของยางในอัตราส่วนที่สูงกว่าล้อยาง ทั่วไป โดยปกติล้อยางคุณภาพต่ำ ในท้องตลาดจะพบปัญหาเนื้อยางร่วน ปริแตก และ ฉีกขาดหลังจาก ผ่านการใช้งาน ไประยะสั้นๆเพียงไม่กี่เดือน ทั้งนี้เป็นเพราะ ในเนื้อยางมีส่วนผสมของ ภาพที่ 2.2 ล้อยางธรรมชาติ 2.2.2 ล้อเหล็กหล่อ คือล้อที่มีความแข็งแรงทนทานที่สุด เหมาะกับการใช้งานบนพื้นคอนกรีต ที่ขรุขระมาก หรือใช้กับงานกลางแจ้ง เวลาเข็นล้อเหล็กอาจมีเสียงดังรบกวน และทำให้พื้นผิวเป็นรอย จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสม กับประเภทของงานด้วย ภาพที่ 2.3 ล้อเหล็กหล่อ

4 2.2.3 ล้อไนล่อน เป็นวัสดุที่สะอาด ไม่ทิ้งคราบ จึงเหมาะกับการใช้ในห้องอาหาร ห้องเย็น อีกทั้งยังเป็นวัสดุทีมีความแข็งแรง ไม่ยุบตัว จึงเหมาะกับงานที่อยู่นิ่ง ไม่เคลื่อนที่มากนัก เช่นชั้นวาง ของ ชั้นโชว์สินค้า ข้อระวังในการใช้คือ ไม่ควรใช้กับพื้นไม้ หรือพื้นที่หินอ่อน เพราะความแข็งแรงของ ไนล่อนอาจทำให้พื้นเป็นรอยได้ อีกด้วย เช่นพื้นหินหยาบ หรือพื้นที่มีขี้กลึงเหล็กเป็นต้น ภาพที่2.4 ล้อไนล่อน 2.2.4 ล้อยูรีเทน คือ ล้อที่รวมข้อดีของล้อยางและไนล่อน คือไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวน ไม่ทำ ให้พื้นเป็นรอย อีกทั้งยังสะอาด ไม่ทิ้งคราบ ละไม่ยุบตัว แม้จะต้องรองรับน้ำหนักอยู่นิ่งๆเป็นเวลานาน ล้อยูรีเทนเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงมาก ทนทานไม่ฉีกขาด จึงสามารถใช้กับพื้นที่ผิวขรุขระ หรือแหลม คมได้ ภาพที่ 2.5 ล้อยูรีเทน

5 2.3 ประเภทตัวปรับแรงดันลม ตัวปรับแรงดันลม ตัวปรับความดันลมตัวควบคุมความดันลม Air Regulator, Regulator คือ ตัวปรับให้แรงดันด้านขาออกของตัวปรับแรงดันลมเป็นไปตามความต้องการใช้งานอย่างคงที่ ซึ่งโดย ปกติมักปรับอยู่ที่ประมาณ 3-5 Bar ตัวปรับแรงดันลม (Regulator) สามารถเขียนย่อๆว่า R ตัวปรับ แรงลม (Air Regulator) แบบลมย้อนได้ใช้กับกรณีที่ ใช้กับงานไม่ใช่งานทั่วๆไป กล่าวคือ ลมที่ผ่านตัว ปรับแรงลมไปใช้กับตัว Stopper Cylinder เป็นต้น (ปัญหาคือ Stopper Cylinder) เป็นกระบอกลม ใช้กับงานเฉพาะ คือต้องการที่จะหยุด ของหนักๆที่วิ่งมาให้ช้าลงจนหยุดในระยะทางสั้นๆทำให้เกิด แรงกระทำกับลูกสูบซึ่งโดนกระแทกทำให้เกิดความดันลมที่สูงขึ้นมากดันย้อนกลับไปที่ตัวปรับแรงดัน ลม (Air Regulator) ซึ่งแรงดันลมที่สูงมากจะไหลผ่านตัวเช็ควาล์วจึงไม่มีแรงดันลมกระทำรุนแรงต่อ อุปกรณ์ภายในของตัวปรับแรงลม เช่น ไดอะแฟม เป็นต้นตัวปรับแรงลมแบบลมย้อนไม่ได้ ใช้กับงาน ทั่วๆไปที่ไม่มีการเพิ่มของแรงดันลมขาออกมากมาย เหมือนในข้อ 1. ซึ่งถ้าการกระแทกของแรงดันลม ที่เพิ่มขึ้นสูงมากจะไปทำลายไดอะแฟมให้เสียหาย ซึ่งจะสังเกตุได้จากเสียงลมรั่วผ่านไดอะแฟมที่ถูก ทำลายตัวปรับแรงดันลม (Air Regulator) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ควบคุมความดันออกไปใช้งาน ให้มี ค่าคงที่อยู่เสมอ ถ้าความดัน (P2) ต่ำกว่าที่ตั้งไว้ สปริงจะดัน แหวนรอบลิ้นวาล์ว (4) ให้ลิ้นวาล์ว (3) เปิดออก ลมจากทางลมเข้า (P1) ก็จะไหลออกมาที่ช่อง (P2) จึงทำให้ลมมีความดัน (P2) สูงขึ้นจน เท่ากับแรงดันของสปริง ลิ้นวาล์ว (3) ก็ปิดลง ภาพที่ 2.6 ตัวปรับแรงดันลม

6 2.4 ประเภทก๊อก ก๊อกน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับน้ำบ่อยๆ ดังนั้น มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดสนิม หาก ใช้วัสดุประเภทอื่น ทำให้น้ำประปาที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่สะอาด และอาจเกิดอันตรายได้ ทองเหลืองเป็นวัสดุที่ไม่เป็นสนิม มีความแข็งแรงทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และทนต่อการกัดกร่อน ดังนั้น เมื่อนำทองเหลืองที่ผ่านกรรมวิธีผลิตที่ดีและมีคุณภาพมาทำเป็น ก๊อกน้ำ จะทำให้มั่นใจได้ใน เรื่องความปลอดภัย และทนทาน ใช้งานไปได้อีกยาวนาน ภาพที่ 2.7 ก๊อกน้ำ 2.5 ประเภทสายยาง 2.5.1.สายยางใส สายยางฟ้า สายยางทั่วไป ปกติที่เราเห็นทั่วๆไป สายยางที่ใช้งานตามบ้าน จะเป็นสายยางพีวีซีใส ซึ่งสายยางจำพวกนี้จะรับแรงดันไม่ได้เลย ถ้าหากต้องการใช้ต่อก็อกน้ำเพื่อ นำมาใช้ล้างรถ ล้างพื้นทั่วไปๆ ได้ไม่มีปัญหา ต่อมาคือสายยางทึบสีเขียวมีเชือกถัก คือสายยางพวกนี้ จะมีเสริมใยเชือก คล้ายๆสายแก๊สหุงต้น เพื่อเพิ่มความคงทน และรับแรงดันได้บ้างแต่ไม่มาก สายยาง พวกนี้จะเหมาะสำหรับงานกลางแจ้ง เหมาะกับน้ำอุณหภูมิปกติและต้องไม่มีแรงดันสูงมากนัก เช่น น้ำผ่านปั๊ม ไม่ได้แรงมาก อาจโดนรถทับได้บ้าง ภาพที่2.8 สายยางใส สายยางฟ้า สายยางทั่วไป

7 2.5.2 สายยางแรงดัน โดยทั่วไปสายยางทนแรงดันสูง จะผลิตจากวัสดุที่แตกต่าง กันแต่จะมี การเสริมเส้นใยถักด้านใน เพื่อให้สามารถทนต่อแรงดันที่มากขึ้น โดยจะเพิ่มชั้นของเส้นใยตามแรงดัน ของน้ำที่มากขึ้นตามลำดับ ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำเนื่องจากใช้งานกับน้ำดี หรือน้ำเสีย ซึ่งส่งน้ำจากจุด หนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แต่สายประเภทนี้ จะไม่ทนความร้อนมากนัก แต่จะเน้นไปทางสนสารเคมี หรือกรด อ่อนๆ มากกว่า ภาพที่ 2.9 สายยางแรงดัน 2.5.3. สายยางกลุ่มพิเศษ ต่างๆ เช่น สายยางFood Grade สายยางทนเคมีพิเศษกันไฟฟ้า สถิต สายดูดอาหาร สายน้ำมัน สายส่งน้ำผ้าใบ ท่อส่งน้ำ ฯลฯ โดนสายยางแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติ ต่างๆกันไป ที่ทนแรงดันสำหรับน้ำร้อน และ สายยางทนแรงดันสำหรับน้ำเย็น โดยทั่วไปสายยาง ประเภทนี้ จะถูกใช้งานในอุตสาหกรรมอาหาร และยา หรืออุตสาหกรรมที่ต้องมีการแยกประเภทของ น้ำในการใช้งาน เช่นการทำความสะอาดอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การทำความสะอาดห้องครัว (ภัตตาคาร,โรงแรม หรือ โรงงานผลิตอาหาร) ที่ต้องใช้น้ำร้อนอุณหภูมิสูงในการทำความสะอาด เพราะตัวสายยางประเภทนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่า และสามารถทนความร้อนได้สูง โดยส่วนใหญ่สาย ยางประเภทนี้จะถูกผลิตแยกสีออกมาเป็นสีฟ้าสำหรับน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ และ สีแดงสำหรับ น้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60ถึง70 องศาเซลเซียส และสีดำสำหรับน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส สินค้าอย่างดีส่วนใหญ่นั้น มาพร้อมกับโรลไม้ม้วนสายในตัว เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยสายยางประเภทนี้ส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งไว้อยู่เฉพาะจุด ที่มีการเปลี่ยนการใช้น้ำร้อนหรือเย็นบ่อยๆ ตัวอย่างเช่น ครัวตามโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือ สถานที่ที่ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ ต้องการใช้น้ำร้อนในการทำงาน ส่วนของสายน้ำร้อน นอกจากจะมีความแตกต่างแค่สีของสาย ยังมี

8 ความพิเศษภายในเพราะนอกจากเส้นใยถักที่เป็นวัสดุเพิ่มความคงทนของสาย แล้วยังถูกหุ้มด้วย ฉนวนกันความร้อนเพิ่มเข้าไปเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้งาน ภาพที่ 2.10 สายยางกลุ่มพิเศษ 2.6 ประเภทท่อน้ำ 2.6.1.ท่อ PVC (Poly Vinyl Chloride) เป็นท่อที่พวกเราคุ้นหูและใช้งานกันเป็นประจำอยู่ แล้วแต่รู้หรือไม่ท่อ PVC นั้นแบ่งประเภทตามการใช้งานได้อีก 3 ประเภทด้วยกันคือ สีฟ้า เป็นท่อ PVC ที่ใช้สำหรับของเหลว เช่น น้ำเป็นต้นเพราะสามารถทนแรงดันน้ำได้สูง นิยมนำมาใช้ในงาน สุขาภิบาล สีเทา เป็นท่อ PVC สำหรับระบายน้ำทางการเกษตร หรือน้ำเสีย ที่ไม่มีแรงดันน้ำมากนัก เพราะไม่แข็งแรง สีเหลือง เป็นท่อ PVC ที่สามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดีเหมาะสำหรับใช้เดิน สายไฟ หรือ สายโทรศัพท์เพื่อป้องกันการเสียหายของสาย แต่ต้องใช้ภายในอาคารหรือที่ร่มเท่านั้น ภาพที่ 2.11 ท่อ PVC (Poly Vinyl Chloride)

9 2.6.2.ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสีทำจาก เหล็กที่ผ่านการอาบสังกะสีตรงตามชื่อสามารถทำ เกลียวได้ง่าย ท่อเหล็กอาบสังกะสี สามารถทำเกลียวได้ง่าย มีจุดเด่นคือทนทานแข็งแรงรับแรง กระแทกได้ ภาพที่ 2.12 ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี 2.6.3. ท่อไซเลอร์ ภายนอกจะเป็นท่อเหล็ก GSP. ทำให้มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ไม่ หักงอ ส่วนภายในจะเป็น ท่อ PE. (Polyethylene) ซึ่งมีความสะอาดและปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ ถ้าเทียบกับตระกูลพลาสติกต่าง ๆ ทนต่อความดันได้มากกว่า 20 บาร์ และอุณหภูมิสูง ถึง 90 องศา ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับ ใช้ติดตั้งใน โรงแรม อาคารขนาดใหญ่ สถานที่ ๆ ที่ต้องการความทนทาน สูง หรือสถานที่ ที่ยากต่อการซ่อมแซม แต่ท่อชนิดนี้มีราคาสูงเมื่อเทียบกับท่อชนิดอื่น ภาพที่ 2.13 ท่อไซเลอร์

10 2.6.4. ท่อ HDPE – High Density Poly Ethylene ท่อโพลีเอทิลีน เป็นท่อพลาสติกอีกหนึ่ง ชนิด ซึ่งมีทั้งที่นำไปใช้เป็นท่อน้ำ และท่อร้อยสายไฟ มีความยืดหยุ่นสูงแต่ไม่สามารถนำมาใช้งาน ระบบน้ำร้อนได้ เหมาะสำหรับงานระบบประปาที่ฝั่งอยู่ใต้ดิน ภาพที่ 2.14 ท่อ HDPE – High Density Poly Ethylene 2.7 ประเภทถังน้ำยาแอร์ 2.7.1. สารทำความเย็น R-11 รหัส R-11 จะใช้สำหรบคอมเพรสเซอร์แบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ซึ่งเป็นระบบเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ R-11 ช่วยในการล้างระบบทำความ เย็นในกรณีคอมเพรสเซอร์ไหม้ หรือการเปลี่ยนท่อสารทำความเย็นใหม่ เป็นต้น ภาพที่ 2.15 สารทำความเย็น R-11

11 2.7.2. น้ำยาแอร์ R-134A รหัส R-134A จะใช้สำหรับคอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบหรือแบบโร ตานี่ ซึ่งจะเป็นเครื่องทำความเย็นขนาดสำหรับที่ใช้กันในบ้านพักอาศัย เช่น ตู้เย็น หรือระบบปรับ อากาศในรถยนต์ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันได้มีการตรวจพบว่า สารทำความเย็น R-12 มีสารบางชนิดที่ สามารถขึ้นไปทำลายชั้นบรรยากาศได้ จึงกำลังอยู่ในขั้นตอนการยกเลิกให้ใช้ โดยได้มีการกำหนดให้ใช้ สารทำความเย็นรหัส R-134a มาใช้แทน ภาพที่ 2.16 น้ำยาแอร์ R-134A 2.7.3 น้ำยาแอร์ R- รหัส R-22 จะเหมาะสมกับการใช้งานในระบบเครื่องทำความเย็นที่ให้ อุณหภูมิต่ำ เช่น ตู้แช่แข็ง เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วน และเครื่องปรับอากาศติดหน้าต่าง เป็นต้น เป็นที่นิยมมาก R-22 ราคา จะไม่แพง ภาพที่ 2.17 น้ำยาแอร์ R-22

12 2.7.4. สารทำความเย็น R-717 รหัส R-717 หรือที่ช่างทั่วไปนิยมเรียกกันว่า “น้ำยา แอมโมเนีย” จะเหมาะสมกับการใช้งานในระบบทำความเย็นของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และ สถานประกอบการที่มีความต้องการห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำ เช่น โรงงานทำน้ำแข็ง โรงงานผลิตและ บรรจุอาหารอุตสาหกรรมห้องเย็นหรือลานสเกตน้ำแข็ง เป็นต้นซึ่งสารทำความเย็นรหัส R-717 นี้ คือ สารที่เป็นพิษและมีความไวไฟสูงหากเกิดส่วนผสมที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดการระเบิดขึ้นได้ในทันที ภาพที่ 2.18 สารทำความเย็น R-717

บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน ในการจัดทำโครงงานเครื่องเติมน้ำมันเกียร์เฟืองท้ายเป็นโครงงานเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการ ปฏิบัติงานภายในแผนกวิชาช่างยนต์โดยคณะผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอนดังนี้ ภาพที่ 3.1 แสดงผังการดำเนินโครงงาน จบ ออกแบบโครงสร้างโครงงาน บันทึกผลการทดสอบ ทดสอบการทำงาน ประกอบโครงงานตามแบบ จัดทำรูปเล่มรายงาน ผ่าน ไม่ผ่าน แก้ไข เริ่ม ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องเติมน้ำมันเกียร์และ น้ำมันเฟืองท้าย

14 3.1 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องเติมน้ำมันเกียร์เฟืองท้าย เพื่อให้โครงการบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป็นไปตามขอบเขตที่กำหนดไว้ คณะผู้จัดทำได้ ทำการศึกษาทฤษฎีและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 3.1.1 ออกแบบโครงสร้าง 3.1.2 ขั้นตอนการทำชิ้นงาน 3.1.3 การทดสอบชิ้นงาน 3.1.4 เครื่องมือในการเก็บข้อมูล 3.2 ออกแบบโครงสร้างโครงงาน คณะผู้จัดทำได้ออกแบบโครงสร้างเครื่องเติมน้ำมันเกียร์ ภาพที่3.2 ออกแบบโครงสร้าง

15 3.3 ประกอบโครงงานตามแบบ 3.3.1 ทำการเชื่อมฐานยึดวาล์วลม ภาพที่ 3.3 แสดงฐานยึดวาล์วลม 3.3.2 ติดตั้งวาล์วลมเข้ากันฐานยึด ภาพที่ 3.4 แสดงภาพวาล์วลม

16 3.3.3 ทำการเจาะถังแล้วยึดหัวฟิตติ้งเข้ากับถัง ภาพที่ 3.5 แสดงภาพหัวฟิตติ้ง 3.3.4 ทำการเจราะรูแล้วเชื่อมท่อเป็นทางออกน้ำมัน ภาพที่ 3.6 แสดงภาพท่อทางออกน้ำมัน

17 3.3.5 ทำการเจราะรูแล้วต่อคอท่อขึ้นมาเป็นทางเติมน้ำมัน ภาพที่ 3.7 แสดงภาพทางเติมน้ำมันเข้า ภาพที่3.8 แสดงภาพเสร็จสมบูรณ์

18 3.4 การรวบรวมข้อมูล คณะผู้จัดทำได้ทำการหาข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ต หนังสือ คู่มืออุปกรณ์ และข้อมูลต่างๆที่ ได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ในที่ทำงาน คณะผู้จัดทำได้ทำการสอบถามแล้วนำมาเป็นแนวทางในการทำ โครงงานครั้งนี้ 3.5 ทดสอบการทำงาน 3.5.1 ทำการทดสอบวาล์วลม 3.5.2 ทำการทดสอบการไหลขอน้ำมัน 3.5.3 ทำการทดสอบระบายลม 3.6 บันทึกผลการทดสอบ จากการทดสอบคณะผู้จัดทำได้ทำการจดบันทึก เครื่องเติมน้ำมันเกียร์เฟืองท้ายผลออกมาคือ ตรวจสอบได้ตามวัตถุประสงค์คณะผู้จัดทำได้มีการกำหนดการเก็บรวบรวมข้อมูลผลการทดสอบเพื่อ บันทึกผล

บทที่ 4 ผลการทดลอง ในการทำโครงงานครั้งนี้ คณะผู้จัดทำได้ทำเครื่องเติมน้ำมันเกียร์ เฟืองท้ายโดยมีการเก็บ รวบรวมข้อมูลผลการทดสอบ ดังนี้ 4.1 ทดสอบหัวฟิตติ๊ง ในการทดสอบอัดแรงดันลมเข้าไปในถัง ไม่พบปัญหาการรั้วซึมใดๆ สามารถทำงานได้ ตามปกติเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ 4.2 ทดสอบวาล์วลม ในการทดสอบการอัดลมเข้าถังพบว่าลมรั้วจึงตรวจสอบแล้วแก้ปัญหาให้โดยการเปลี่ยนอัน ใหม่จึงสามารถใช้งานได้เป็นปกติ 4.3 ทดสอบการระบายลมออกจากถัง ในการทดสอบการระบายลมออกจากถังสามารถทำงานได้เป็นปกติไม่ติดปัญหาใดๆ 4.4 ทดสอบการไหลขอน้ำมัน ในการทดสอบการไหลขอน้ำมันปรากฎว่าน้ำมันสามารถไหลได้เป็นปกติ ภาพที่ 4.1 แสดงการทดสอบการไหลของน้ำมัน

20 ตารางที่ 4.1 ตารางบันทึกผลการทดสอบวาล์วลม,หัวฟิตติ๊ง,หัวระบายลม,การไหลของน้ำมัน ครั้ง ที่ การทดสอบ ผลการทดสอบ หมายเหตุ ปกติ ไม่ปกติ 1 ทดสอบวาล์วลม ✓ ลมรั้วซึม การแก้ไข : เปลี่ยนวาล์วลมอันใหม่ ✓ - 2 ทดสอบหัวฟิตติ๊ง ✓ - การแก้ไข : - - - - 3 ทดสอบหัวระบายลม ✓ การแก้ไข : - - - - 4 ทดสอบการไหลขอน้ำมัน ✓ - การแก้ไข : - - - -

บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลโครงงาน ผลการดำเนินงาน เครื่องเติมน้ำมันเกียร์ เฟืองท้ายมีระยะเวลาในการดำเนินงานตั้งแต่ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ถึง วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566 ตลอดเวลาในการทำโครงงานมีอุปสรรค เข้ามาตลอด ทั้งในด้านการหาอุปกรณ์,การออกโครงงาน ทางคณะผู้จัดทำได้มีการแก้ไขและพัฒนาอยู่ ตลอดเพื่องให้โครงงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ 5.2 อภิปรายผล เครื่องเติมน้ำมันเกียร์ เฟืองท้าย ประสบความสำเร็จในการสร้างที่สามารถทำงานได้จริงและ มีประสิทธิภาพในการทำงาน โดยคณะผู้จัดทำได้ประสบการณ์ในการวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้าง การจัดวางอุปกรณ์ เพื่อใช่ในการทดสอบเครื่องเติมน้ำมันเกียร์ เฟืองท้าย วิเคราะห์ข้อมูลออกมาเพื่อ ทำให้คณะผู้จัดทำได้สะดวกสบายมาขึ้นในการทำงาน 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ควรปรับเปลี่ยนขนาดท่อส่งน้ำมันออกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น 5.3.2 ควรมีการบอกปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง 5.3.3 ควรดูตัวปรับแรงดันลมไม่ให้มีแรงดันมากเกินไป

บรรณานุกรม 1.ตัวปรับแรงดัน https://knsciindustry.com/product/afrbfr-air-source-treatment-filterregulator/ สืบค้น ณ วันที่ วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 2.ถังน้ำยยาแอร์ http://www.thaiaircare.com/article/1064/ สืบค้น ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 3.ท่อ HDPE – High Density Poly Ethylene https://paiboonpipe.com/ สืบค้น ณ วันที่ วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 4.สายยางแรงดัน https://industrypro.co.th/hose/ สืบค้น ณ วันที่ วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 5.สารทำความเย็น R-717 https://www.siamchemi.com สืบค้น ณ วันที่ วันที่ 8 กรกฎาคม 2566

ภาคผนวก

ประวัติผู้จัดทำโครงงาน ชื่อ นายนภสินธุ์ สินเนียม ที่อยู่ 41 หมู่ 6 ตำบลบางหลวง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี รหัสไปรษณีย์ 12000 หมายเลขโทรศัพท์ 094-321-8164 e-mail address: [email protected] ประวัติการศึกษา ชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียน วัดไพร่ฟ้า ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียน วัดไพร่ฟ้า ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช. ) วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี บรู ปติดบัตร

ประวัติผู้จัดทำโครงงาน ชื่อ นายรัฐภูมิ คชหมี ที่อยู่22 หมู่5 ตำบลบ้านปทุม อำเภอเมืองสามโคก จังหวัดปทุธานี รหัสไปรษณีย์ 12160 หมายเลขโทรศัพท์ 084-536-6282 e-mail address: [email protected] ประวัติการศึกษา ชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียน คลองบ้านพร้าว ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียน คลองบ้านพร้าว ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช. ) วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี บรู ปติดบัตร ขนาด 2 นิ้ว ี

ประวัติผู้จัดทำโครงงาน ชื่อ นายสิทธิพงค์ ป้านภูมิ ที่อยู่47/2 หมู่5 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160 หมายเลขโทรศัพท์083-604-6207 e-mail address: [email protected] ประวัติการศึกษา ชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนวัดบางเตยใน ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเตรียมศึกษาอุดมน้อมเกล้าปทุมธานี ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช. ) วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี บรู ปติดบัตร