หน่วยการเรียนรู้ที่-๘-ภูมิใจภาษาไทยของเรา

แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๑

กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที่ ๓

หนวยการเรยี นรูที่ ๘ เรื่อง ภูมิใจภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ชวั่ โมง

เรอื่ ง อา่ นเขียน คาควรรู้ คู่ความหมาย เวลา ๒ ชว่ั โมง

สอนวันท่ี..................................................... ผูใ้ ช้แผน นางสาววรรณวษิ า เภาวเิ ศษ

สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การอาน และการเขียนคําควรรูคูความหมาย จะชวยใหการอานเร่ืองราวในบทเรียนเขาใจไดง

สามารถพัฒนาทักษะทางภาษาไดดี

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคดิ เพ่ือนาํ ไปตดั สินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิต มี

นสิ ัยรักการอาน

ตวั ชว้ี ดั
ท ๑.๑ ป.๓/๑ อานออกเสยี งคํา ขอความ เรื่องส้นั และบทรอยกรองงายๆไดถูกตองคลองแคลว
ท ๑.๑ ป.๓/๒ อธบิ ายความหมายของคาํ และขอความท่ีอาน

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรียนอานคาํ ศัพทยากไดถกู ตอง
๒. นักเรียนบอกความหมายของคาํ ในบทเรียนได
๓. นักเรียนใชคําไดถูกตองตามบรบิ ท

กิจกรรมการเรยี นรู้
ช่วั โมงท่ี ๑
ข้นั นําเขา้ สูบ่ ทเรยี น

๑. นักเรียนอานคําจากบัตรคําตามครคู ําละ ๒ ครงั้
ขนั้ กจิ กรรม

๒. นกั เรียนอานออกเสียงคําศัพท อานเพม่ิ เตมิ ความหมายจากหนังสอื เรยี นภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที่ ๓
หนาที่ ๑๐๔ – ๑๐๕

๓. นักเรียนและครรู วมกันสนทนาถงึ ความหมายของคาํ พรอมยกตวั อยางประกอบ
๔. นักเรยี นเลนแขงขนั ทายคําทาทางจากคาํ ท่คี รกู ําหนดให
ขั้นสรุป
๕. นักเรียนเขียนคําและความหมายของคาํ ลงในสมุดแบบฝกหดั

ชัว่ โมงที่ ๒
ขั้นนาํ เข้าสู่บทเรยี น

๑. ครูและนกั เรียนทบทวนคําจากช่วั โมงทผ่ี ่านมา
ข้ันกิจกรรม

๒. นักเรยี นแขงขนั อานคาํ จากบัตรคาํ (คาํ สาํ คัญในบทเรียน)
๓. นักเรยี นทบทวนอานออกเสยี งคาํ ศัพท อานเพ่ิม เติมความหมายจากหนังสอื เรียนภาษาพาทีอีกคร้งั
๔. นกั เรียนฝกแตงประโยคปากเปลาจากบตั รคาํ ทีอ่ าน (คาํ สําคัญในบทเรียน)
ขนั้ สรุป
๕. นกั เรียนทําแบบฝกทกั ษะภาษา แบบฝกหดั ท่ี ๑

สือ่ และแหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคํา
๒. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๓
๓. แบบฝกหัด รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๓

การวัดและเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธีการ
- แบบประเมนิ การร่วมกิจกรรม มีผลการประเมินในระดับดีขึ้นไป
สงั เกตพฤตกิ รรม - สมุดแบบฝกึ หัด หรอื มีคา่ เฉลยี่ 2.00 ข้ึนไป
- แบบฝดึ หัด
- การร่วมกจิ กรรม
ตรวจผลงาน
- สมดุ
- แบบฝกึ หัด

แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๒

กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที่ ๓

หนวยการเรียนรูที่ ๘ เรือ่ ง ภมู ิใจภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ชวั่ โมง

เร่อื ง การอ่านออกเสียง เวลา ๑ ช่วั โมง

สอนวันที่..................................................... ผู้ใชแ้ ผน นางสาววรรณวิษา เภาวิเศษ

สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การอานออกเสยี ง เปนการอานใหผูอ่นื ฟง ฉะนนั้ ผูอานจะตองแบงวรรคตอน เนนเสยี งหนักเสียงเบา

ใหถกู ตองชดั เจน จงึ จะส่ือความหมายไดอยางมีประสิทธภิ าพ

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดในการตัดสนิ ใจ แก้ปัญหา ในการดาํ เนนิ ชีวิต

และมนี ิสัยรกั การอ่าน

ตวั ชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสยี งคํา ข้อความ เรอื่ งสนั้ ๆ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกต้อง คลอ่ งแคลว่

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรียนอานออกเสียงเน้ือหาในบทเรียนได
๒. นักเรียนจบั ใจความเรื่องที่อานได
๓. นกั เรียนตอบคําถามเร่ืองที่อานได

กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนําเข้าสูบ่ ทเรียน

๑. ครใู หนักเรยี นชวยกันบอกหลักเกณฑการอานออกเสียงที่ดี เชน การอานคลอง การอานให้
ถูกตองชัดเจน การเวนวรรคตอนถูกตอง การใช้น้ําเสยี งสอดคลองกับอารมณของตัวละคร เปนตน
ขน้ั กจิ กรรม

๒. ครสู าธติ การอานที่ดใี หนักเรียนฟงหรือใหนักเรยี นฟง
๓. นกั เรียนอานเนื้อหาในหนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที
ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี ๓ หนา ๑๐๐ – ๑๐๒ โดยอานตอกันคนละ ๑ ยอหนา แลวรวมกนั สนทนาถึงเนื้อหาวา ใครทํา
อะไร ที่ไหน ผลเปนอยางไร แลวชวยกันเลาเรอื่ งตอเนื่องจนจบ โดยครชู วยเพมิ่ เตมิ สวนที่ยังไมส่ มบรู ณ์
๔. นักเรียนทําแบบฝกหดั ขอ ๒
ขั้นสรปุ
๕. นกั เรียนชวยกนั สรปุ ความรู เรอ่ื งการอานออกเสียงและการตอบคาํ ถาม และขอคิดท่ีไดจาาน

สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้
๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๓
๒. แบบฝกหัด รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปที่ ๓

การวดั และเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์
วธิ ีการ
- แบบประเมินการรว่ มกจิ กรรม มผี ลการประเมินในระดับดขี ้นึ ไป
สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ การอา่ น หรือ มคี ่าเฉล่ีย 2.00 ขึน้ ไป

- การร่วมกิจกรรม
- การอา่ นออกเสียง
ตรวจผลงาน
- แบบฝกึ หัด

แผนการจัดการเรียนรูที่ ๓

กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ ๓

หนวยการเรยี นรูที่ ๘ เรอื่ ง ภมู ใิ จภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ช่วั โมง

เร่อื ง การอานคิด วเิ คราะห เวลา ๑ ช่วั โมง

สอนวันที่..................................................... ผใู้ ช้แผน นางสาววรรณวษิ า เภาวเิ ศษ

สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การวิเคราะหเรื่อง เปนการพิจารณาสวนตางๆ ของเรื่อง เชน ขอเท็จจริงและขอคดิ เหน็ สวนดแี ละส่วนท่ีบก

พรองของเนอ้ื เรื่อง จุดประสงคของผูแตง ความเหมาะสมในการใชคํา ประโยค ขอความ ฯลฯ สรุปขอคิดจากเรอ่ื ง
และสามารถนําความรูท่ีไดรับไปใชประโยชนในชวี ิตประจาํ วันได้

มาตรฐานการเรยี นรู
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ ในการตดั สนิ ใจ แก้ปัญหา ในการดําเนิน

ชวี ติ และมนี ิสยั รกั การอ่าน

ตวั ชวี้ ัด
ท ๑.๑ ป.๓/๓ ต้ังคําถามและตอบคาํ ถามเชิงเหตผุ ลเก่ยี วกับเรอ่ื งทอี่ ่าน
ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรปุ ความรู้และข้อคิดจากเร่ืองทอ่ี ่านเพ่ือนาํ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาํ วนั

จดุ ประสงค
๑. นกั เรยี นตงั้ คาํ ถาม–ตอบคําถามเรื่องท่ีอานได
๒. นกั เรยี นแยกขอเทจ็ จริงและขอคิดเห็นจากเร่ืองทีอ่ านได
๓. นักเรียนสรปุ ขอคิดท่ีไดจากการอานได

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนาํ เข้าสู่บทเรียน

๑. ใหนักเรียนทบทวนเน้ือหาบทเรียนโดยการอานคาํ จากบัตรคาํ
ขน้ั กจิ กรรม

๒. นกั เรยี นอานออกเสยี งเร่ืองภูมใิ จภาษาไทยของเรา จากหนังสือเรียนภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษา
ปที่ ๓ หนา ๑๐๐ – ๑๐๒ พรอมกัน

๓. นักเรยี นแบงกลุมอานเสยี งจากบทเรียนกลุมละ ๑ ยอหนา
๔. นกั เรยี นชวยกันตอบคาํ ถามปากเปลาจากเรื่องที่อาน

- เหตุการณนเ้ี กิดข้นึ ทไ่ี หน

- เด็กๆกาํ ลังวางแผนทาํ อะไร

- เพราะเหตุใดเด็กๆจงึ ทํางานสําเร็จ

- นกั เรียนไดขอคดิ อยางไรจากเร่ืองที่อาน

ข้ันสรุป
๕. นกั เรยี นและครูชวยกันสรุปบทเรียนจากเร่ืองท่ีอานและทาํ แบบฝกหัดท่ี ๓ ขอ๑ – ๒

สื่อและแหล่งเรียนรู้

๑. บัตรคาํ
๒. หนงั สือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๓
๓. แบบฝกหัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชวี ติ ทักษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๓

การวัดและเมนิ ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
วิธกี าร
- แบบประเมนิ การรว่ มกจิ กรรม มผี ลการประเมินในระดับดีขึน้ ไป
สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินการอา่ น หรือ มีคา่ เฉลย่ี 2.00 ขึน้ ไป

- การร่วมกจิ กรรม
- การอา่ นออกเสยี ง

แผนการจัดการเรยี นรูท่ี ๔

กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๓

หนวยการเรียนรูท่ี ๘ เรือ่ ง ภมู ใิ จภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ชว่ั โมง

เรือ่ ง คาพอ้ ง เวลา ๓ ชวั่ โมง

สอนวนั ท.่ี .................................................... ผู้ใช้แผน นางสาววรรณวษิ า เภาวเิ ศษ

สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
คําพอง มี ๒ แบบ คือ คําพองเสยี ง คาํ ท่ีมกี ารออกเสียงเหมือนกันแตเขยี นไมเหมือนกัน และ

คําพองรปู คาํ ท่ีเขียนเหมือนกันแตออกเสียงไมเหมือนกัน

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ

ภาษา ภมู ิปญญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเปนสมบัติของชาติ

ตวั ชีว้ ดั
ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขียนสะกดคําและบอกความหมายของคํา

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นใชคําพองไดถกู ตอง
๒. นักเรยี นแยกคําพองต่างๆ ได

กิจกรรมการเรียนรู้
ชัว่ โมงท่ี ๑
ขน้ั นําเข้าสู่บทเรยี น

๑. Brain Gym กิจกรรมเลน่ มอื ประกอบบทร้องเลน่ “จับปดู าํ ขยาํ ปนู า”
ขั้นกิจกรรม

๒. นกั เรยี นและครู พดู คยุ สนทนาเกย่ี วกับคําพองทมี่ ที ้ังคําพองรปู และคําพองเสียง
๓. ใหนักเรียนอาน อธิบายเพิ่ม เติมความรูจากหนังสอื ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๓ หนา ๑๐๗ – ๑๐๘
๔. นกั เรียนเลนเกมทายคําจากบตั รคําดงั นี้

ครชู ูบัตรคํา“ทุก– ทุกข” นกั เรียนตอบ:คาํ พองเสยี ง
ครชู ูบัตรคาํ “กรี– กร”ี นกั เรียนตอบ:คาํ พองรปู ฯลฯ
ขัน้ สรปุ
๕. นักเรยี นทําแบบฝกหัดทักษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปท๓่ี แบบฝกหัดที่ ๓ ขอ ๑ จากนนั้ นําสงครู ครเู ฉลยและ
ตรวจสอบความถูกตอง

ช่วั โมงท่ี ๒
ขั้นนาํ เข้าสู่บทเรยี น

๑. ครูตดิ แผนภูมิเพลง คาํ พ้องเสียงบนกระดานดาํ .
๒. นักเรียนอา่ นเน้ือเพลง พร้อมกนั ๒ รอบ และฝึกร้องเพลงตามครู
๓. นกั เรยี นรอ้ งเพลงพรอ้ มกัน
๔. ครแู ละนักเรียนสนทนาเก่ียวกบั เนอื้ เพลง ครูถามนักเรียนวา่

- เพลงทน่ี กั เรียนร้องน่าจะชื่ออะไร
- เนอ้ื เพลงบอกอะไรแก่นักเรียนบา้ ง
๕. นกั เรียนเข้ากลมุ่ ตัวแทนมารับบตั รคํา เชน่

สนั สัณฑ์ จัน จนั ทร์ พนั พรรณ พดุ พธุ

สกุ สขุ ทํา ธรรม เสา เสาร์ ย่า หญา้

๖. กลมุ่ นกั เรียนเล่นเกมการจบั คคู่ าํ ที่เหมือนกันนักเรียนกลมุ่ ใดจบั คู่ได้ถกู ต้องและเร็วเป็นผชู้ นะ
๗. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ อ่านคําที่จบั คู่ได้
๘. นกั เรียนรอ้ งเพลง คาํ พ้องเสียงพร้อมกนั อีกครงั้ หน่ึง และรว่ มกนั สรุปในประเด็น :-

- ยึดหลกั การใดในการจบั คู่คํา
- คาํ ท่ีจับคมู่ ีความหมายเหมอื นกนั หรือไม่ อ่านออกเสียงอย่างไร
- เราจะเรยี กคําเหล่านีว้ า่ อย่างไรดี
ขั้นสรปุ
๙. นกั เรียนทาํ แบบฝีกเสรมิ ทักษะ เรื่อง คาํ พอ้ งเสยี ง

ช่วั โมงท่ี ๓
ข้ันกิจกรรม

๑. Brain Gym กจิ กรรมเล่นมือประกอบบทร้องเล่น “จับปดู ํา ขยําปูนา”
ข้ันกจิ กรรม

๒. ทบทวนบทเรยี นชวั่ โมงท่ผี ่านมา “คาํ พอ้ งเสียง”
๓. ครตู ิดแผนภูมิ เพลงคําพ้องรูป ครูร้องเพลง คําพอ้ งรปู ให้นักเรยี นฟงั ๒ รอบ และนกั เรยี นรอ้ งตาม
๔. ครตู ดิ แผนภูมบิ ทร้อยกรอง (ทม่ี คี าํ พ้องรปู /เสยี ง) บนกระดาน
๕. นกั เรยี นอ่านบทรอ้ ยกรองเอง พร้อมกนั บนกระดาน ๑ รอบ
๖. จากบทรอ้ ยกรอง ครูนําสนทนาใหน้ กั เรยี นเลือกคาํ และอธบิ ายเหตุผลประกอบในประเด็น

- จากบทร้อยกรอง มีคําใดท่เี หมอื นกนั บ้าง เหมือนกันอยา่ งไร
๗. นกั เรยี นนําเสนอผลงาน ครแู ละเพ่ือนฟังการนาํ เสนอโดยไม่แทรกแซงจนจบซกั ถามและเปลี่ยน ความคิดเห็น
๘. ครูสมุ่ ตัวแทนออกมาเขียนคาํ ที่เหมือนกนั บนกระดาน ชว่ ยกันอ่าน และบอกความหมายของคาํ
๙. นกั เรียนเข้ากล่มุ ชว่ ยกนั หาคาํ ทีเ่ ขียนเหมือนกัน ให้ได้มากท่สี ุด และชว่ ยกนั เขยี นคาํ อ่าน
(เวลา ๑๐ นาท)ี ลงในกระดาษ

๑๐.นกั เรยี นลงมือปฏิบตั กิ จิ กรรม ครเู ดินดสู ังเกตวธิ ีคิด และวธิ ที ํางานของนักเรียนโดยไม่แทรกแซงแนวคดิ
- มคี าํ อะไรบ้าง
- มีคําอื่นอีกไหม
- อา่ นอยา่ งไร
- มั่นใจได้อย่างไรวา่ ถูกต้อง

๑๑. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอผลงาน โดยอา่ นคําทเ่ี ขียนได้
ขั้นสรปุ

๑๒. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ เกยี่ วกบั คําพอ้ งรูปจากผลงานกลุ่มนักเรียน ในประเด็น
- เขยี นและอ่านคาํ ถูกต้องหรือไม่ อยา่ งไร
- ทาํ อย่างไรจึงจะอา่ นคําได้ถูกตอ้ ง
- เราเรียกคําเหลา่ น้วี ่าเปน็ คาํ ชนิดใด

๑๓. นกั เรยี นทาํ แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ เร่อื ง คําพ้องรูป

ส่อื และแหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคํา
๒. หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปที่ ๓
๓. แบบฝกหัด รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๓
๔. บทรอ้ งเลน่ “จบั ปูดํา ขยําปนู า”
๕. แผนภูมิเพลงคําพ้องเสียง และคาํ พ้องรปู
๖. บัตรคํา
๗. เกมจบั คคู่ าํ
๘. แบบฝกึ เสริมทักษะ เร่ือง คําพ้องเสียง และคําพ้องรปู

การวัดและเมินผล

วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินการร่วมกิจกรรม มผี ลการประเมินในระดับดขี ึน้ ไป
หรือ มคี า่ เฉลีย่ 2.00 ขนึ้ ไป
- การตอบคาํ ถามจากเน้ือเพลง - แบบประเมนิ การอ่าน
- แบบประเมนิ การพดู
- การอ่านคําพ้องเสียง และ - แบบฝกึ หัด
คาํ พ้องรปู

- การแบบฝึกเสรมิ ทักษะ เร่ือง คํา

พ้องเสยี ง

แผนการจัดการเรยี นรูท่ี ๕

กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ ๓

หนวยการเรยี นรูท่ี ๘ เร่ือง ภูมใิ จภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ชั่วโมง

เรือ่ ง รอยกรองประเภทกลอนแปด เวลา ๒ ชวั่ โมง

สอนวนั ท่.ี .................................................... ผ้ใู ชแ้ ผน นางสาววรรณวษิ า เภาวเิ ศษ

สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
รอยกรองประเภทกลอนแปดเปนการนาํ เอาถ้อยคํา สํานวนมาเรียบเรยี งใหอยูในกรอบแบบแผน นับเปน็ การ

ประพันธอีกประเภทหน่งึ ทส่ี ามารถทําใหผูอานหรือผูฟงเกิดสุนทรียภาพในอรรถรสอันเปนเอกลกั ษณ์ของภาษาไทยท่ี
มคี ุณคา สมควรแกการอนรุ ักษไว ใหคงอยูคูความเปนไทยสบื ไป

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยางเหน็ คุณคาและนํา

ประยกุ ตใชในชีวิตจริง

ตัวชวี้ ัด
ท ๔.๑ ป ๓/๔ ทองจําบทอาขยานตามท่ีกาํ หนดและบทรอยกรองทีม่ ีคุณคาตามความสนใจ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรียนบอกรปู แบบของการเขยี นรอยกรองประเภทกลอนแปดได
๒. นักเรยี นแตงกลอนรอยกรองประเภทกลอนแปดได

กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ ๑ - ๒
ขน้ั นาํ เขา้ สู่บทเรียน

๑. นักเรยี นทบทวนความรูเรื่องกลอนส่สี ภุ าพ และเลนเกมตอคําคลองจอง
๒. นกั เรยี นและครสู รุป เกมท่ีเลน และสนทนาชอื่ ของบทรอยกรอง
ขั้นกิจกรรม
๓. นกั เรยี นดแู ผนภมู ิเร่อื งบทรอยกรองประเภทกลอนแปด ท่แี ขวนบนกระดานดาํ ครูอธิบายถึงการ
เขยี นบทรอยกรองประเภทกลอนแปดและการสมั ผสั ตามแผนภมู ิ
๔. นักเรียนเปดหนงั สอื เรียน เพอื่ ศกึ ษาหวั ขอ อธิบายเพ่ิมเติมความรู เรอ่ื ง “ในโลกน้มี ีอะไรเปนไทยแท”
เก่ียวกับบทรอยกรองประเภทกลอนแปด
๕. นกั เรียนอานบทรอยกรองตามครู ๑ ครั้ง และอานกลอนแปดอกี คร้ังเพ่ือทบทวนจังหวะการอานท่ี
ถกู ตอง
ขั้นสรุป
๖. นักเรียนคัดลายมือในแบบฝกหดั ท่ี ๔

สอ่ื และแหล่งเรียนรู้
๑. แผนภมู กิ ลอนแปด
๒. หนงั สือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาทชี น้ั ประถมศึกษาปท่ี ๓
๓. แบบฝกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ทกั ษะภาษาชั้นประถมศึกษาปที่ ๓

การวัดและเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วิธีการ
- แบบประเมินการร่วมกิจกรรม มีผลการประเมินในระดับดขี ้นึ ไป
สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ การอา่ น หรอื มคี า่ เฉลยี่ 2.00 ขึ้นไป
- แบบฝกึ หดั
- การรว่ มกจิ กรรม
- การอา่ นออกเสยี ง
- ตรวจแบบฝึกหัด

แผนการจัดการเรียนรูที่ ๖

กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที่ ๓

หนวยการเรียนรูท่ี ๘ เรือ่ ง ภมู ิใจภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ช่ัวโมง

เรอ่ื ง ภาษาไทยถ่นิ เวลา ๑ ชั่วโมง

สอนวันท.่ี .................................................... ผู้ใชแ้ ผน นางสาววรรณวษิ า เภาวิเศษ

สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
ภาษาไทยนั้นมคี วามหลากหลายโดยสอดคล้องกบั วัฒนธรรมท้องถ่ินจนกลายเป็นภาษาไทยถ่นิ ได้แก่ ภาษาเหนือ

ภาษาอีสาน ภาษากลาง และภาษาใต และเราควรศึกษาและอนรุ ักษ์ไว้ เพื่อที่เราจะสามารถส่ือสารไดในขอบกวาง
ขวางและถูกตองตามบริบทของถิ่นนน้ั ๆ

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลัง

ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ

ตวั ชวี้ ดั
ท ๔.๑ ป.๓/๖ เลอื กใชภาษาไทยภาษามาตรฐานและภาษาถนิ่ ไดเหมาะสมกบั กาลเทศะ

จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นฟง พดู ภาษาเหนือ ภาษาอสี าน ภาษากลางและภาษาใตได
๒. นักเรียนบอกความหมายของคําทีเ่ ปนภาษาเหนือ ภาษาอสี าน ภาษากลางและภาษาใตได

กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาํ เข้าสบู่ ทเรียน

๑. ครแู สดงบตั รคําภาษาไทยถ่นิ เชน ลาํ แตๆ เบิ่ง บักนดั โดยนกั เรยี นอานออกเสียงตาม ครแู ละ
นักเรียนอภปิ รายความหมาย
ขน้ั กิจกรรม

๒. นักเรียนชวยเสนอคําภาษาท่เี คยไดยิน ไดฟง และครเู ขียนคําบนกระดานดาํ
๓. แบงกลุมนักเรียนใหศึกษาเพิม่ เติมจากการอธิบายเพิ่มเติมความรู เรือ่ งภาษา ไทยถิ่น ๑๐๙ แลวชวยกันสรปุ
๔. ครูมอบหมายนกั เรียนแตละกลุมจัดทําสมดุ สะสมคาํ ภาษาไทยถ่นิ นําสงเปนชนิ้ งาน
ขนั้ สรปุ
๕. ครแู ละนกั เรยี นชวยกันสรุปความรูเรือ่ งภาษาไทยถน่ิ
๖. นักเรยี นทาํ แบบฝกหัดรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี ๓ ขอ ๓

สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคํา
๒. แบบฝกหดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ทักษะภาษาชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๓

การวดั และเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์

วิธกี าร - แบบประเมนิ การร่วมกิจกรรม มีผลการประเมินในระดับดขี ้นึ ไป
สังเกตพฤตกิ รรม - แบบฝึกหัด หรือ มีค่าเฉล่ีย 2.00 ขนึ้ ไป
- การรว่ มกิจกรรม
- ตรวจแบบฝึกหัด

แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๗

กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๓

หนวยการเรียนรูที่ ๘ เร่อื ง ภูมิใจภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ชั่วโมง

เรือ่ ง การแต่งประโยคตามจินตนาการ เวลา ๑ ชั่วโมง

สอนวนั ท.่ี .................................................... ผูใ้ ช้แผน นางสาววรรณวิษา เภาวิเศษ

สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ประโยคคือการนําคํานาม คํากรยิ า และคําขยายมาเรยี งกันแลวไดใจความสมบูรณวาใครทําอะไร อยางไร ที่

ไหน ซ่งึ ในชีวติ ประจาํ วันเราจะใชประโยคเพือ่ ส่ือสารมากมาย การเรยี นรู้ใหถูกตอง ใหเขาใจ เพ่ือนําไปใช้ไดอ้ ย่าง
เหมาะสม

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั

ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ

ตวั ชี้วัด
ท ๔.๑ ป.๓/๔ แตงประโยคงายๆ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรยี นบอกสวนประกอบของประโยคได
๒. นําคํามาเรยี บเรียงเปนประโยคตามท่ีกาํ หนดได
๓. แตงประโยคชนิดตางๆ ได

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาํ เข้าสบู่ ทเรียน

๑. นักเรยี นเลนเกม “ใบคํา” โดยใหเพื่อนออกมาแสดงทาทางแลวบอกวากําลงั ทาํ อะไร จากน้นั แลกเปลี่ยนเรียน
รรู วมกนั เกีย่ วกบั การส่ือสาร
ข้นั กจิ กรรม

๒. นักเรยี นอานอธบิ ายเพม่ิ เติมความรู เร่อื งรวมอภิปรายเนื้อหาการอานและสังเกตประโยค ในหนงั สอื หนา ๑๐๖
๓. นักเรยี นกําหนดคาํ และฝกแตงประโยคปากเปลาตามรูปแบบการแตงประโยคและตามจนิ ตนาการ
ขนั้ สรุป
๔. ครู และนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ รูปแบบของประโยค
๕. ทําแบบฝกหดั ทักษะภาษา แบบฝกหัดที่ ๓ ขอ ๔

สอื่ และแหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคาํ
๒. หนงั สือเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทยภาษาเพื่อชีวิตชดุ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี ๓
๓. แบบฝกหัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ติ ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที ๓

การวัดและเมนิ ผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
- แบบประเมนิ การรว่ มกจิ กรรม มผี ลการประเมินในระดับดขี ้นึ ไป
วิธีการ - แบบฝกึ หัด หรอื มคี ่าเฉลย่ี 2.00 ขนึ้ ไป
สงั เกตพฤติกรรม
- การรว่ มกิจกรรม
ตรวจผลงาน
- การทําแบบฝึกหดั

แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๘

กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๓

หนวยการเรยี นรูท่ี ๘ เรื่อง ภมู ใิ จภาษาไทยของเรา เวลา ๑๔ ช่วั โมง

เรอ่ื ง รกู้ ว้างไกลได้เพราะอา่ น เวลา ๓ ช่ัวโมง

สอนวันที่..................................................... ผู้ใช้แผน นางสาววรรณวษิ า เภาวเิ ศษ

สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเขียนสรปุ ความท่ดี ี มีคุณภาพ ทําให้ประหยัดเวลาและทรพั ยากรในการส่ือสาร โดยมขี อ้ ควรระวังในการใช้

ภาษาไทย เช่น คําพอ้ งรปู พ้องเสียง จึงควรเลือกใช้คําให้ถูกต้องในการสอ่ื สาร

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิดในการตัดสินใจ แกป้ ัญหา

ในการดําเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราว

ในรปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้

ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสียงคาํ ข้อความ เร่อื งส้ันๆ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆ ได้ถกู ต้อง คลอ่ งแคล่ว
ท ๑.๑ ป.๓/๒ อธบิ ายความหมายของคาํ และข้อความที่อ่าน
ท ๑.๑ ป.๓/๓ ตัง้ คําถามและตอบคําถามเชิงเหตผุ ลเกี่ยวกับเร่อื งท่ีอา่ น
ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรุปความรู้และข้อคดิ จากเรอ่ื งท่ีอ่านเพื่อนําไปใช้ในชวี ติ ประจาํ วัน
ท ๑.๑ ป.๓/๖ อา่ นหนังสือตามความสนใจอย่างสมํา่ เสมอและนาํ เสนอเรื่องที่อา่ น
ท ๒.๑ ป.๓/๑คัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัด
ท ๒.๑ ป.๓/๒ เขียนบรรยายเกย่ี วกับส่งิ ใดสง่ิ หนึง่ ได้อย่างชัดเจน
ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขียน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นักเรียนสามารถอา่ นแลว้ สรุปสาระสาํ คัญของเร่ืองที่อา่ นได้
๒. นักเรยี นสามารถอา่ นแลว้ สรปุ ขอ้ คิดจากเรื่องท่ีอ่านได้
๓. นักเรียนสามารถอา่ นแลว้ เลา่ เหตกุ ารณ์จากเร่ืองท่ีอ่านได้
๔. นกั เรียนสามารถท๒.๑ ป.๓/๑คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ช่วั โมงที่ ๑
ขน้ั นําเขา้ สบู่ ทเรยี น

๑. Brain Gym กจิ กรรมเล่นมือประกอบบทรอ้ งเล่น “จบั ปดู ํา ขยาํ ปนู า”

ขัน้ กจิ กรรม
๒. ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันเล่าเรอ่ื ง “เลยี้ งกระต่าย”
๓. ครูติดบัตรชอ่ื เรื่อง “เล้ียงกระตา่ ย” บนกระดาน แลว้ ตัง้ คําถาม นําสนทนา ใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเหน็ อสิ ระ

ในประเด็น
- เคยเล้ยี งไหม เป็นอย่างไร
- นิสยั ของกระต่ายเปน็ อย่างไร

๔. ครูแจกเนอื้ หาเรื่อง “เล้ยี งกระตา่ ย” ครอู ่านให้นักเรียนฟัง ๑ รอบ แล้วอา่ นนํา นกั เรียนอา่ นตาม ๑ รอบ อา่ น
กลุ่มใหญ่ อ่านกล่มุ ย่อย
ขั้นสรปุ

๕. นักเรียนทําแบบฝกึ เสริมทักษะเรือ่ ง เล้ียงกระตา่ ย

ชั่วโมงที่ ๒
ขน้ั นําเขา้ สู่บทเรยี น

๑. Brain Gym กจิ กรรมเลน่ มือประกอบบทร้องเล่น “จับปดู ํา ขยาํ ปูนา”
ขน้ั กิจกรรม

๒. ทบทวนโดยให้นักเรียนช่วยกันเลา่ เรอื่ ง การเลย้ี งกระต่าย
๓. นกั เรียนจบั คกู่ ัน อ่านเรื่อง การเล้ยี งกระตา่ ย
๔. นักเรียนและครรู ่วมสนทนาเกยี่ วกับเรื่อง การเล้ียงกระต่าย

- นสิ ัยของกระตา่ ยเปน็ อยา่ งไร
- มีเหตกุ ารณใ์ ดบ้างทเ่ี กย่ี วกบั การเลี้ยงกระตา่ ย
- ผลของเหตุการณ์เป็นอยา่ งไร
๕. นกั เรยี นแตล่ ะคู่ช่วยกนั เขียนสรุปความจากการสนทนา เรือ่ ง การเลี้ยงกระต่าย ลงในสมดุ งาน
๖. นักเรียนแตล่ ะคู่ส่งตัวแทนอา่ นข้อความท่สี รุปได้
ขน้ั สรปุ
๗. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปเก่ียวกับการเขยี นสรปุ ความจากผลงานนกั เรียน ในประเด็น
- การเขียนสรปุ ความทด่ี ีควรเป็นอย่างไร
- หลกั ในการเขยี นสรุปความเป็นอยา่ งไร
๘. นักเรยี นทําแบบฝกึ ทักษะเร่ือง การเลี้ยงกระตา่ ย

ช่วั โมงที่ ๓
ข้นั นําเข้าส่บู ทเรียน

๑. Brain Gym กจิ กรรมเล่นมือประกอบบทรอ้ งเล่น “จบั ปูดํา ขยําปูนา”
ขั้นกิจกรรม

๒. นักเรยี นทบทวนเรอ่ื งการเล้ียงกระตา่ ย
๓. นกั เรยี นแตล่ ะคูช่ ว่ ยกนั เขียนสรุปความ เรือ่ งการเลีย้ งกระตา่ ย เป็นแผนผงั ความคิดลงในกระดาษ
๔. นกั เรยี นแตล่ ะคสู่ ง่ ตัวแทนนําเสนอผลงาน
ขน้ั สรุป
๕. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปเกย่ี วกบั การเขียนสรปุ ความจากผลงานนกั เรยี น ในประเด็น

- การเขยี นแผนผงั ความคิดที่ดีควรเปน็ อย่างไร
- หลกั ในการเขียนแผนผงั ความคดิ เปน็ อยา่ งไร

สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้
๑. บทรอ้ งเล่น “จบั ปูดํา ขยําปูนา”

๒. เนอ้ื หา เร่ือง เลี้ยงกระต่าย
๓. แบบฝึกเสรมิ ทักษะ เรอ่ื ง “เลย้ี งกระตา่ ย”
การวดั และเมนิ ผล

วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์
มผี ลการประเมินในระดับดขี ้นึ ไป
สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินการร่วมกิจกรรม หรอื มีคา่ เฉลี่ย 2.00 ขนึ้ ไป

- การร่วมกจิ กรรม - แบบประเมนิ การอ่าน

ตรวจผลงาน

- การแบบฝกึ เสริมทักษะ เรอ่ื ง

“เล้ียงกระตา่ ย”

- การเขยี นสรุปความ

- การเขยี นแนผังความคิด

ภาคผนวก

แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๔

เพลง คาพ้องสยี ง

ทำนอง แว่วเสยี งแคน

แลน แลน แต แต่ แล แลน่ (ซ้า)
กระทา และ พระธรรม คา 2 คา เขยี นตา่ งกนั
แพรพ่ นั ธุพ์ รรณ ผกู พนั อ่านเหมอื นกันดูให้ดี

คาเหล่านี้ความหมายต่างกนั เราเรยี กมันคาพ้องเสียงเอย
แลน แลน แต แต่ แล แล่ (ซา้ )

คณุ ครู บุษยมาศ หบี เพชร

บัตรคา

สนั สณั ฑ์ จนั จันทร์

พัน พรรณ พุด พุธ

สกุ สขุ เสา เสาร์

ทา ธรรม ยา่ หญ้า

แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๔
แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะเรอ่ื ง คาพ้องเสียง

*************************************************************************

แผนการจดั การเรียนรูที่ ๔
แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะเร่ือง คาพอ้ งเสยี ง

*************************************************************************

คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนเลอื กคาํ ในช่องทางขวามอื เติมลงในชอ้ งวา่ งให้ได้ใจความ

1. คุณย่าเอามะม่วง.........................ไปวัดในวนั สกุ สขุ ศุกร์
........................

2. ลุงแมน้ ตดั ............................ในสนามให้คุณ ยา่ หญ้า
...........................

3. เรา......................คนยอ่ มเคยผ่านความ...................... ทุก ทุกข์
มาแลว้

4. น้องฟ้าใสมใี บ.............................ท.ี่ .............................รัก น่า หน้า
มาก

5. ทีเ่ ขาใหญ่มี...............................ไม้นานา พัน พนั ธ์ุ พรรณ
.................................

6. ฉันเก็บท่ี............................หนังสอื ไวท้ ่ี........................ ขนั้ คั่น
บันได

7. เราควรเหน็ คณุ .....................ของสัตวป์ ่าโดยไม.่ ............... ค่า ฆ่า
มนั

8. คณุ พ่อบอก..........................มรี ังนกอยทู่ ่ีตน้ หว้า วา่
.........................

แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๔

เพลงประกอบการสอน "คาพอ้ งรปู "
ทานอง เพลงชวา

คาพอ้ งรปู เขยี นรูปเหมือนกัน
ความหมายมนั ผันเปล่ียนเพี้ยนไป
มหี ลายคา สาเนยี งเสยี งใด
อ่านแลว้ ไมเ่ หมอื นกนั ขันดี(ลาลาลาลาลาลาลา ...)
เพลารถยนต์ พดั เพลาเย็น
เสลาเป็นเสลาทนั ที
โคลงเรอื เรอื โคลงเคลงซี
จอกแหนมี แหนมาดเู รา(ลาลาลาลาลาลาลา ...)

โดย คุณครู บุษยมำศ หีบเพชร

แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๔
แบบฝึกเสรมิ ทักษะเรอื่ ง คาพ้องรปู

*************************************************************************

แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๔
แบบฝกึ เสริมทักษะเรื่อง คาพอ้ งรปู
*************************************************************************

คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนเขียนคําอ่านของคาํ ท่ีพิมพ์ไวช้ ่องทางขวามือ

ประโยค คาอ่าน

1. ปลาปักเปา้ เปน็ ปลาทะเลท่มี หี นามแหลม

2. ลงุ จะเดินทางมาถึงในเพลาเย็น

3. กรีของก้งุ ยาวและแหลมมาก

4. ในหนองนา้ มีจอกแหนมากมาย

5. พอ่ ทาวา่ วปักเป้าให้ฉันกับพี่

6. มเี ชอื กติดอยู่ทเี่ พลารถกระบะ

แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๘





แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๘
แบบฝกึ เสรมิ ทักษะเรอ่ื ง เลี้ยงกระตา่ ย

*************************************************************************

แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๘
แบบฝกึ เสรมิ ทักษะเรอ่ื ง เลี้ยงกระตา่ ย
*************************************************************************

แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๘
แบบฝึกเสรมิ ทักษะเรอื่ ง จับใจความ : เลยี้ งกระตา่ ย
*************************************************************************

เกณฑก์ ารประเมนิ

การรว่ มกิจกรรม

รายการประเมิน ๓ ระดบั คุณภาพ ๑
๑. ความต้ังใจ มคี วามกระตือรือรน้ ๒ ขาดความกระตือรือร้น
ในการเรียนไม่รรี อ ในการเรยี นไมต่ ้งั ใจฝึก
๒. ความรับผดิ ชอบ ตัง้ ใจเรียน ต้ังใจฝกึ มีความกระตือรอื รน้ ไม่กล้าซักถาม ไม่ตอบ
รบี ตอบคําถาม ซักถาม ในการเรยี นต้ังใจเรยี น
๓. การใหค้ วามร่วมมอื ตงั้ ใจฝึกไม่กล้าซักถาม คาํ ถาม
๔. การใหค้ วามช่วยเหลือ เมือ่ สงสยั รรี อในการตอบคําถาม
รับผิดชอบงานที่ไดร้ ับ ขาดความรบั ผดิ ชอบ
เพ่อื น มอบหมายดี สง่ งาน รับผิดชอบงานที่ได้รับ ทาํ งานไม่เสรจ็ และ
มอบหมาย สง่ งานไม่ตรง ส่งงานไม่ทนั เวลา แกไ้ ข
ทันเวลาทุกครัง้ งานของตนเองไม่ได้
เวลา แกไ้ ขงานเสร็จ ให้ความร่วมมือ
ใหค้ วามร่วมมือ หลังช่ัวโมงเรยี น ในการเรียนเมื่อถูก
ในการเรยี นอย่างเตม็
ความสามารถตลอดเวลา ให้ความรว่ มมือแต่ไม่ ตกั เตอื น
ใหค้ วามชว่ ยเหลือเพื่อน ต่อเนื่อง ตอ้ งคอย ไมใ่ หค้ วามช่วยเหลือ
ทงั้ ในและนอกกลมุ่ ที่ขอ เพอ่ื น ทาํ งานลาํ พงั
ตกั เตอื นบ้าง
ความช่วยเหลือ ให้ความช่วยเหลือเพ่ือน คนเดียว
เฉพาะกลุ่มตนเองหรือ

คนทชี่ อบใจเทา่ นั้น

การอ่าน

รายการประเมนิ ๓ ระดบั คุณภาพ ๑
๒

๑. อักขระถกู ต้อง อ่านออกเสียงถูกตอ้ ง อา่ นออกเสยี งถูกต้อง อา่ นออกเสยี งถกู ต้อง

ชัดเจนร้อยละ 90 ของ ชัดเจนมากวา่ ร้อยละ 60 ชดั เจนน้อยวา่ รอ้ ยละ 60

คําทั้งหมดข้นึ ไป นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 90 ของคาํ ทงั้ หมด

ของคาํ ท้ังหมดข้นึ ไป

๒. เวน้ วรรคตอนถูกต้อง อา่ นเว้นวรรคตอนถูกต้อง อา่ นเว้นวรรคตอนถกู ต้อง อา่ นเว้นวรรคตอนถูกต้อง

รอ้ ยละ 90 ของคาํ มากวา่ ร้อยละ 60 น้อย นอ้ ยว่าร้อยละ 60 ของ

ทงั้ หมดขึ้นไป กวา่ รอ้ ยละ 90 ของคํา คาํ ท้งั หมด

ทงั้ หมดขึ้นไป

๓. ความคลอ่ งแคลว่ อ่านได้คล่องแคลว่ หาก อ่านตดิ บางคํา แต่ อ่านติดบ่อยๆ แก้ไขให้

อา่ นพลาดสามารถแกไ้ ข สามารถแก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง ถกู ต้องได้ชา้ ต้องใหผ้ ู้อนื่

การอ่านให้ถูกต้องได้ ได้เรว็ บอก

รวดเร็ว

การพูด

รายการประเมิน ระดับคุณภาพ
๑. พูดตรงประเด็น
๓๒๑
๒. พูดมเี หตุผล
พูดตรงประเด็น พูดตรงประเด็น พูดออกนอกประเดน็
๓. ความคล่องแคลว่
๔. บุคลิกท่าทาง เรยี งลาํ ดับเรอ่ื งราวได้เป็น เรียงลาํ ดับเรอ่ื งราวไม่ เรียงลําดับเร่ืองราววกวน

ลาํ ดบั ไมว่ กวน เรียงลําดับเหตุการณ์บา้ ง เข้าใจยาก

แต่ทําใหเ้ ข้าใจเรือ่ งราวได้

ใหเ้ หตุผลในการพูดได้ ใหเ้ หตผุ ลในการพูดได้ ใหเ้ หตุผลในการพูดได้

เหมาะสม หรอื บา้ ง หรือยกตวั อย่างได้ น้อยหรอื ยกตัวอยา่ งได้ไม่

ยกตัวอยา่ งได้นา่ เช่ือถอื แต่ยงั ไม่เพียงพอในการ น่าเช่อื ถือ

ใหเ้ หตผุ ลนน้ั

พูดได้คลอ่ งแคลว่ หากพูด พดู ตดิ ขัดบา้ ง แต่สามารถ พูดผดิ บอ่ ยๆ แก้ไขให้

พลาดสามารถแก้ไขการ แก้ไขการพดู ให้ถูกต้องได้ ถกู ต้องได้ชา้ ต้องใหผ้ ู้อื่น

พดู ใหถ้ ูกต้องไดร้ วดเรว็ เร็ว บอก

ทา่ ทางในการพดู มคี วาม ท่าทางในการพูดแสดง ทา่ ทางในการพดู ขาด

ม่นั ใจ แสดงท่าทาง ความไม่มน่ั ใจอยบู่ า้ ง ความม่ันใจ ต้องคอยหา

ประกอบการพดู ไดด้ ี ส่ือ แสดงท่าทางประกอบการ คนช่วยอยเู่ สมอ ไมแ่ สดง

ความได้ พดู น้อย ทา่ ทางประกอบการพูด

การเขยี น

รายการประเมนิ ๓ ระดับคุณภาพ ๑
๑. สะกดคําถูกตอ้ ง เขยี นสะกดคําได้ถูกต้อง เขียนสะกดคาํ ได้ถูกต้อง
๒ น้อยว่ารอ้ ยละ 60 ของ
๒. ความสะอาดเป็น รอ้ ยละ 90 ของคาํ
ระเบยี บ ทงั้ หมดขึน้ ไป เขียนสะกดคําไดถ้ ูกตอ้ ง คาํ ทัง้ หมดข้ึนไป
มากว่าร้อยละ 60 น้อย
๓. ตรงประเด็น เขียนสม่าํ เสมอ เป็น กว่าร้อยละ 90 ของคาํ เขยี นไมส่ มํ่าเสมอ มรี อย
ระเบยี บสะอาด มีการ แกไ้ ขคาํ ผดิ ไม่สะอาด
แกไ้ ขคําผดิ ทําไดส้ ะอาด ท้งั หมดขึน้ ไป
เขยี นสอื่ สารได้ตรง เขียนเนอ้ื หาส่วนใหญ่ไม่
ประเดน็ มีใจความสาํ คญั เขียนไมส่ ม่ําเสมอ แต่เปน็ ตรงประเด็น
สอดคล้องกับหวั ข้อท่ี ระเบยี บสะอาด มีการ
แกไ้ ขคําผดิ ไมส่ ะอาดบ้าง
เขยี น
เขียนสือ่ สารได้ตรง
ประเด็นใจความสําคัญไม่
ครบตามหัวข้อทเ่ี ขียนแต่
ยงั สอ่ื สารในประเดน็ ได้