เอกสารฉบบั วนั ที่ 17 กนั ยายน 2564
แนวทางการใหบ้ รกิ ารวคั ซีนโควิด 19 (Pfizer)
สาหรับนกั เรยี น/นกั ศกึ ษา อายุ 12 ปี ข้ึนไป
ท่ีศกึ ษาอยใู่ นระดับมัธยมศกึ ษา
หรือเทยี บเทา่
กรมควบคมุ โรค
กันยายน 2564
แนวทางการใหบ้ ริการวคั ซนี โควิด 19 แนวทางการใชว้ คั ซีน Pfizer แนวทางการให้วัคซนี โควิด 19 ฯ
(Pfizer) สาหรบั นกั เรียน ฯ 1.5 ล้านโดส ฉบบั ปรบั ปรุงครั้งท่ี 2
เอกสารฉบบั วันที่ 17 กนั ยายน 2564
แนวทางการให้บรกิ ารวคั ซนี โควดิ 19 (Pfizer) สาหรับนกั เรยี น/นกั ศกึ ษา อายุ 12 ปี ขึน้ ไป
ที่ศกึ ษาอยใู่ นระดบั มัธยมศกึ ษาหรือเทยี บเทา่
ทีป่ รึกษา อธบิ ดีกรมควบคมุ โรค
นายแพทย์โอภาส การยก์ วนิ พงศ์ ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
ดร.สภุ ัทร จาปาทอง รองอธบิ ดกี รมควบคมุ โรค
นายแพทยโ์ สภณ เอยี่ มศริ ิถาวร ผูอ้ านวยการกองโรคติดต่อท่วั ไป กรมควบคุมโรค
แพทยห์ ญิงวรยา เหลืองออ่ น
คณะบรรณาธิการ
ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลยั กมุ ารแพทย์แหง่ ประเทศไทย
ศาสตราจารยแ์ พทย์หญงิ กลุ กัญญา โชคไพบลู ย์กิจ คณะแพทยศาสตรศ์ ิรริ าชพยาบาล มหาวทิ ยาลยั มหิดล
ศาสตราจารย์แพทยห์ ญงิ ศศโิ สภณิ เกียรตบิ รู ณกุล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลยั มหดิ ล
แพทย์หญิงจุไร วงศส์ วสั ด์ิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค
แพทย์หญิงวลยั รตั น์ ไชยฟู นายแพทยท์ รงคณุ วุฒิ กรมควบคมุ โรค
นายแพทย์สราวฒุ ิ บญุ สุข รองอธบิ ดีกรมอนามัย
นายแพทยช์ นนิ นั ท์ สนธิไชย กองโรคตดิ ตอ่ ทั่วไป กรมควบคุมโรค
แพทยห์ ญิงปิยดา อังศุวัชรากร กองโรคตดิ ต่อท่ัวไป กรมควบคุมโรค
นางสาวปรางณพชิ ญ์ วหิ ารทอง กองโรคติดตอ่ ท่วั ไป กรมควบคมุ โรค
นายเผดจ็ ศกั ดิ์ ชอบธรรม กองโรคตดิ ต่อทัว่ ไป กรมควบคุมโรค
เอกสารฉบับวันที่ 17 กันยายน 2564
ก
คานา
การระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง
อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะใช้มาตรการป้องกันควบคุมโรคหลายมาตรการ เช่น คัดกรองและเฝ้าระวังโรค กักตัวผู้มีความเสี่ยง
รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า งดจัดกิจกรรมท่ีรวมกลุ่มคนจานวนมาก
ทาความสะอาดสถานทแี่ ละพ้ืนผิวสัมผสั ร่วม เป็นต้น แต่สิ่งที่เป็นความหวงั ของรัฐบาลและประชาชนในขณะน้ี
คือ วัคซีนป้องกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 หรือเรียกส้ัน ๆ ว่า วัคซีนโควิด 19 น้ัน ประเทศไทยได้มีการ
เตรยี มความพร้อมท่ีเกี่ยวข้องกับการจดั หาวัคซนี ดังกลา่ ว เพอ่ื ให้ประชาชนมีโอกาสเขา้ ถึงการใชว้ ัคซนี ทม่ี ีความ
ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพไดม้ ากทส่ี ดุ เทา่ ทีศ่ ักยภาพของประเทศจะดาเนินการได้
เพ่ือให้นักเรยี นระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1- 6 หรอื เทียบเท่า มภี ูมิคมุ้ กันต่อโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
เพ่ือเป็นการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ประเทศไทยจงึ มีนโยบายใหว้ ัคซีน Pfizer
ในกลุ่มดังกล่าว กรมควบคุมโรคจึงได้จัดแนวทางการให้บรกิ ารวัคซีนโควิด 19 (Pfizer) สาหรับนักเรียน/นักศึกษา
อายุ 12 ปี ข้ึนไป ท่ีศึกษาอย่ใู นระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่าเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดาเนินงานเป็นไปตาม
วตั ถปุ ระสงค์ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและเปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกัน
กรมควบคุมโรค
กันยายน 2564
เอกสารฉบบั วันที่ 17 กนั ยายน 2564
ข
สารบญั
หนา้
ความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั วคั ซนี โควดิ 19 (Pfizer) ..........................................................................................1
การให้บรกิ ารวคั ซนี โควดิ 19 (Pfizer) สาหรบั นักเรยี น/นกั ศึกษา อายุ 12 ปี ขนึ้ ไป ทศ่ี กึ ษาอยูใ่ นระดบั
มธั ยมศึกษา หรือเทยี บเทา่ .........................................................................................................................2
1. วตั ถุประสงค์........................................................................................................................................... 2
2. กลุ่มเปา้ หมาย......................................................................................................................................... 2
3. พื้นทีด่ าเนินการ...................................................................................................................................... 2
4. รปู แบบการดาเนินงาน............................................................................................................................ 2
5. หน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้อง.............................................................................................................................. 3
6. การให้บริการวัคซีน Pfizer สาหรับนักเรียน/นักศึกษา............................................................................ 4
ภาคผนวก ................................................................................................................................................. 8
ภาคผนวกที่ 1 แบบสารวจการฉดี วัคซนี Pfizer ในนักเรยี น/นกั ศกึ ษาช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1-6
หรอื เทยี บเท่า แต่ละห้องเรียน.............................................................................................. 9
ภาคผนวกที่ 2 แบบสรุปจานวนนักเรียน/นักศึกษาชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1-6 หรอื เทียบเท่า
ท่ีมีความประสงค์รับวคั ซีน Pfizer แยกแต่ละสถานศึกษา................................................... 10
ภาคผนวกที่ 3 แบบสรุปจานวนนักเรยี น/นกั ศึกษาช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1-6 หรอื เทียบเท่า
ทม่ี ีความประสงค์รับวคั ซีน Pfizer รายสถานศกึ ษา รายจังหวดั .......................................... 11
ภาคผนวกที่ 4 แบบแจ้งความต้องการวคั ซนี Pfizer สาหรับนกั เรียน/นักศึกษา
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1-6 หรือเทียบเท่า รายโรงพยาบาล รายจังหวัด ................................... 12
ภาคผนวกที่ 5 เอกสารแสดงความประสงค์ของผู้ปกครองเพอื่ ใหน้ ักเรียน/นกั ศกึ ษา
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1-6 หรือเทียบเท่า ฉีดวคั ซีนไฟเซอร์..................................................... 13
ภาคผนวกที่ 6 แบบคดั กรองก่อนรบั บริการฉีดวคั ซีนโควิด 19 สาหรับนกั เรยี น/นกั ศกึ ษา
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 หรือเทียบเทา่ ................................................................................ 14
ภาคผนวกที่ 7 ตวั อยา่ ง หนงั สอื แจง้ การฉดี วคั ซนี Pfizer สาหรบั นักเรียน/นกั ศึกษา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1-6 หรือเทียบเทา่ ................................................................................ 16
ภาคผนวกที่ 8 แบบสรปุ ผลการใหบ้ รกิ ารวคั ซีน Pfizer สาหรับนักเรียน/นกั ศึกษา
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1-6 หรอื เทยี บเท่า ................................................................................ 17
ภาคผนวกที่ 9 การดาเนนิ งานเฝา้ ระวังเหตกุ ารณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รบั วัคซีนโควิด 19................... 18
ภาคผนวกท่ี 10 แบบรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงคภ์ ายหลังได้รบั การสรา้ งเสรมิ ภูมิคุ้มกนั โรค.............. 19
เอกสารฉบับวนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564
1
แนวทางการให้บรกิ ารวคั ซนี โควิด 19 (Pfizer) สาหรบั นักเรยี น/นกั ศกึ ษา
ทศี่ ึกษาอยใู่ นระดบั มธั ยมศกึ ษา หรอื เทยี บเทา่
กรมควบคมุ โรค
กันยายน 2564
ความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั วคั ซนี โควดิ 19 (Pfizer)
วัคซีน Pfizer มีช่ือทางการค้า คือ Comirnaty เป็นวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA vaccine)
ที่สามารถดาเนินการผลิตได้ง่าย รวดเร็ว กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ในกรณีที่มีการกลายพันธุ์ของไวรัส
จะปรับปรุงวัคซีนได้ง่าย มีข้อมูลการศึกษาและใช้จริงในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในทวีปยุโรป
พบประสิทธภิ าพสูงมาก รวมท้ังการศึกษาในประเทศอิสราเอล พบว่าวคั ซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อทั้งหมด
ได้ร้อยละ 95 ป้องกันการติดเช้ือที่ไม่มีอาการได้ร้อยละ 91 ป้องกันการนอนโรงพยาบาลเนื่องจากป่วยหนัก
และเสียชีวิตได้ ร้อยละ 97 และการศึกษาในประเทศอังกฤษพบว่าวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ร้อยละ 70
ต้ังแต่หลังการฉีดเข็มแรก และในประเทศสกอตแลนด์พบว่าวัคซีนสามารถป้องกันการนอนโรงพยาบาลได้ถึง
ร้อยละ 91 ต้งั แต่หลังการฉดี เข็มแรก มีข้อมูลการใช้ในหญิงต้ังครรภ์และผทู้ ่ีภูมคิ ุ้มกันบกพร่องว่าปลอดภัยและ
ได้ผลดี และมีการรบั รองและยอมรับสาหรับประเทศในทวปี ยุโรปและทวีปอเมริกา อาจทาให้เกิดอปุ สรรคน้อยกว่า
ในการต้องเดินทางเข้าเมืองในประเทศเหล่านั้น มีอาการข้างเคียงพบได้บ่อย แต่ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากเปน็ เทคโนโลยใี หม่ จงึ ทาให้มคี วามกังวลถงึ ผลข้างเคียงในระยะยาว
ขนาดต่อโดส: วัคซีนไฟเซอร์ บรรจุในขวดแก้วสาหรับใช้หลายโดส (Multiple Doses Vial) ชนิด
preservation free ในหน่ึงขวดบรรจุวัคซีน 0.45 มิลลิลิตร หลังจากเจือจางแล้ว 1 ขวดวัคซีนประกอบด้วย
วคั ซีน 6 โดส โดสละ 30 ไมโครกรมั ใน 0.3 มิลลลิ ิตร
วธิ ีการฉดี : เข้าชั้นกล้ามเนื้อ
กาหนดการให้วคั ซีน : กาหนดให้วคั ซนี 2 ครง้ั หา่ งกัน 3 - 4 สัปดาห์
อายุที่สามารถฉีดวัคซนี ได้: 12 ปีขึ้นไป
การเก็บรักษาวคั ซีน:
กรณีแชแ่ ข็ง
เกบ็ ไว้ท่ีอุณหภูมิ -80 ถึง -60 องศาเซลเซยี ส สามารถเก็บไดส้ งู สดุ 6 เดือน
เกบ็ ไวท้ ี่อุณหภูมิ -25 ถงึ -15 องศาเซลเซียส สามารถเกบ็ ไดส้ ูงสดุ 2 สัปดาห์
ละลายจากการแช่แขง็
เก็บไว้ท่ีอุณหภูมิ 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส สามารถเก็บได้สูงสุด 1 เดือน นับตั้งแต่นาออก
จากอุณหภูมิติดลบ
ขวดวัคซีนที่ยังไม่ได้เจือจาง สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิห้องได้ไม่เกิน 2 ช่ัวโมง
รวมระยะเวลาในการละลาย
เอกสารฉบบั วนั ท่ี 17 กันยายน 2564
2
การใหบ้ รกิ ารวคั ซนี โควดิ 19 (Pfizer) สาหรบั นกั เรียน/นกั ศกึ ษา อายุ 12 ปี ขนึ้ ไป
ทศ่ี กึ ษาอยใู่ นระดบั มธั ยมศกึ ษา หรอื เทียบเท่า
1. วตั ถปุ ระสงค์
เพอ่ื ลดความรนุ แรงและการเสยี ชีวติ จากการป่วยดว้ ยโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ในกลมุ่ เปา้ หมาย
2. กลมุ่ เปา้ หมาย
นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือประกาศนียบัตร
วิชาชีพ (ปวช./ปวส.) หรอื เทียบเทา่
3. พนื้ ท่ีดาเนนิ การ
ดาเนินการพร้อมกัน 76 จงั หวัด และกรุงเทพมหานคร
4. รปู แบบการดาเนนิ งาน
กาหนดให้บริการวัคซนี Pfizer ผ่านสถาบนั การศึกษา (รปู แบบวัคซีนนักเรียน; School-based
vaccination) เชน่
- โรงเรียนมธั ยมศกึ ษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน
- สถานศกึ ษาในสงั กัดสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
- โรงเรียนตารวจตระเวนชายแดน สังกดั กองบญั ชาการตารวจตระเวนชายแดน สานักงานตารวจ
แหง่ ชาติ
- โรงเรียนสอนศาสนา เช่น โรงเรียนพระปริยัติธรรม กองพุทธศาสนศึกษา สานักงาน
พระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ สถาบันการศกึ ษาปอเนาะ หรอื โรงเรยี นสอนศาสนาอ่นื ๆ เป็นต้น
- สถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่มีผู้มีอายุ 12 ปีข้ึนไป กาลังศึกษาอยู่ เช่น โรงเรียนทหาร
กระทรวงกลาโหม โรงเรียนคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ เป็นตน้
ทั้งนี้ หากนักเรียน/นักศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าว มีอายุเกิน 18 ปี ให้รับวัคซีน Pfizer ได้
พร้อมกับนักเรียนร่วมสถาบันการศึกษา และในกรณีที่นักเรียน/นักศึกษาไม่สามารถเข้ารับวัคซีนผ่าน
สถานศึกษา เช่น กรณีอาศัยอยู่นอกพื้นที่และไม่สามารถเดินทางมารับวัคซีนได้ ขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อ
จังหวัด/กรุงเทพมหานคร พิจารณาจดั หาชอ่ งทางการเข้าถงึ วัคซนี ให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวตามความเหมาะสม
เพื่อไม่ใหเ้ สยี โอกาสในการสรา้ งเสรมิ ภูมิคมุ้ กนั โรค
เอกสารฉบับวนั ที่ 17 กันยายน 2564
3
5. หนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ ง
ในการใหว้ คั ซนี Pfizer สาหรับนกั เรยี น/นกั ศึกษา มหี นว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องในการดาเนินงาน ดังนี้
ลาดบั ที่ หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ การดาเนนิ งาน
5.1 สานักงานสาธารณสขุ 1. บริหารจัดการวัคซีนภายใต้คณะกรรมการโรคตดิ ตอ่ จงั หวัด หรอื
จงั หวดั /กรงุ เทพมหานคร คณะอนกุ รรมการการบรหิ ารจดั การการให้วัคซนี ปอ้ งกันโรคติดเชื้อไวรสั
โคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ภายใตค้ ณะกรรมการ
โรคตดิ ตอ่ กรุงเทพมหานคร
2. ประสานงานกระทรวงศึกษาธิการ ศกึ ษาธิการจังหวดั หรอื หน่วยงาน
ตน้ สังกดั ของสถานศกึ ษาในพ้ืนท่ี เพอ่ื เตรยี มการดาเนนิ งานใหว้ ัคซีนนักเรียน
3. สารวจเป้าหมาย จดั ทาแผนจัดสรร และกาหนดชว่ งเวลาเข้ารบั วคั ซนี ของ
นักเรียน
4. กาหนดสถานพยาบาลคปู่ ฏิบัติกับสถานศึกษา รวมถึงจดุ ให้บรกิ ารวคั ซีน
จานวนผู้รบั บริการ ให้สอดคล้องกับแผนวคั ซีนกรมควบคุมโรค
5. ประสานผ้บู รหิ ารโรงเรียนเพอ่ื นานกั เรียนเขา้ รับวคั ซนี
6. กากบั ตดิ ตามรายงานผลการให้บริการในระบบฐานขอ้ มลู กระทรวง
สาธารณสขุ (MoPH Immunization Center; MoPH IC)
5.2 กระทรวงศึกษาธิการ และ 1. กากบั ติดตามการดาเนนิ งานใหว้ ัคซนี นกั เรยี น ตามนโยบายของประเทศ
หน่วยงานตน้ สงั กัดของ 2. รวบรวมขอ้ มูลนกั เรยี นและแจ้งแกส่ านกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั /
สถานศึกษาอ่นื ๆ กรงุ เทพมหานคร
5.3 สถานศึกษา 1. ชแ้ี จงผปู้ กครองเพ่ือสร้างความเขา้ ใจกอ่ นวนั รับวคั ซีน และจดั ส่งคาแนะนา
การใหว้ ัคซนี และเอกสารแสดงความประสงคใ์ หฉ้ ีดวัคซีน Pfizer ในนักเรียน/
นกั ศกึ ษา
2. แจ้งจานวนนกั เรยี นท่จี ะเขา้ รับวคั ซนี แกส่ านักงานสาธารณสขุ จังหวดั /
กรุงเทพมหานคร ผ่านระบบที่สานักงานสาธารณสุขจังหวดั /กรุงเทพมหานคร
กาหนดไว้
5.4 สถานพยาบาล 1. จดั ระบบการใหบ้ ริการวคั ซนี ตามมาตรฐาน ได้แก่ ตรวจสอบเอกสารแสดง
ความประสงคใ์ ห้ฉดี วัคซีน Pfizer ในนกั เรยี น/นักศึกษา ซักประวัติ คดั กรอง
ฉดี วัคซนี นดั หมาย ออกเอกสารรบั รองการฉีดวคั ซนี และเฝ้าระวัง AEFI
2. รบั -จ่ายวัคซนี จัดเกบ็ วัคซีน และรายงานสถานะคงคลัง
3. บนั ทึกผลการให้บริการในระบบ MoPH IC ใหค้ รบถว้ นทุกรายและ
เป็นปจั จบุ ัน
5.5 กรมควบคุมโรค 1. จัดส่งวคั ซนี Pfizer และอปุ กรณ์การฉดี (เรมิ่ ส่ง ตุลาคม 2564)
2. ติดตามผลการฉดี วัคซนี ในภาพรวมของประเทศ
เอกสารฉบบั วันท่ี 17 กันยายน 2564
4
6. การใหบ้ รกิ ารวคั ซีน Pfizer สาหรบั นกั เรียน/นักศึกษา
เพื่อให้การดาเนินงานให้บริการวัคซีน Pfizer สาหรับนักเรียน/นักศึกษาฯ มีประสิทธิภาพ เป็นไปใน
ทศิ ทางเดียวกัน จึงควรมแี นวทางการดาเนินงาน ดงั นี้
6.1 การเตรยี มกอ่ นการใหบ้ รกิ าร
เน่ืองจากวัคซีน Pfizer เป็นวัคซีนชนิดใหม่ท่ีให้บริการในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาระดับช้ัน
มัธยมศึกษา หรือเทียบเทา่ ดงั นนั้ หนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ งจงึ ควรมกี ารเตรียมการใหบ้ ริการ มรี ายละเอียด ดงั น้ี
สานักงานสาธารณสขุ จงั หวดั /กรงุ เทพมหานคร
1. สานักงานสาธารณสุขจังหวัดบริหารจัดการวัคซีนภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
สาหรับกรุงเทพมหานครบริหารจัดการวัคซีน โดยคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้
วัคซีนป้องกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ภายใต้
คณะกรรมการโรคติดต่อกรงุ เทพมหานคร
2. รับทราบนโยบายการดาเนนิ งานและแผนการจัดสรรวคั ซีน Pfizer จากกรมควบคุมโรค
3. ประสานศึกษาธิการจังหวัดหรือหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษา เพื่อทราบจานวน
กลุ่มเป้าหมายการรับวัคซีน รายละเอียดตามแบบฟอร์มในภาคผนวกท่ี 1 – 2 และแจง้ จานวน
นักเรียนที่ประสงคร์ ับวัคซนี มายงั กรมควบคมุ โรค รายละเอียดตามแบบฟอร์มในภาคผนวกท่ี 3
4. จัดทาแผนการดาเนินการให้วัคซีนสาหรับนักเรียน ประกอบด้วย กาหนดสถานพยาบาล
ที่ใหบ้ ริการกับแต่ละโรงเรยี น จานวนนักเรยี นท่ีรบั การฉดี วคั ซีน ช่วงเวลาเขา้ รับวัคซนี แผนการ
จดั สรรวัคซีนระดบั พื้นทต่ี ามจานวนวัคซีนท่ไี ดร้ บั แจง้ จากกรมควบคุมโรค
5. แจ้งแผนการจัดส่งวัคซีน ประกอบด้วย สถานพยาบาลท่ีต้องจัดส่งวัคซีนและจานวนวัคซีน
ท่ีต้องการ ไปยังกรมควบคุมโรค ภายหลังจากทราบยอดจัดสรรวัคซีนจากกรมควบคุมโรค
รายละเอียดตามแบบฟอรม์ ในภาคผนวกที่ 4
6. กากับติดตามรายงานผลการให้บริการในระบบ MoPH IC และการติดตามผลการให้บริการ
รายโรงเรียน รายละเอยี ดตามแบบฟอรม์ ในภาคผนวกท่ี 8
7. บริหารจดั การเฝา้ ระวังเหตุการณ์ไม่พงึ ประสงค์ภายหลงั ได้รับวคั ซนี
สถานศึกษา
1. สารวจจานวนกลมุ่ เปา้ หมายการรับวคั ซนี แจ้งจานวนนกั เรียนที่จะเขา้ รบั วัคซีนแกส่ านักงาน
สาธารณสขุ จังหวัด/กรุงเทพมหานคร รายละเอียดตามแบบฟอร์มในภาคผนวกที่ 1 - 2
2. ชี้แจงผู้ปกครองเพื่อสร้างความเข้าใจในการรับวคั ซีน และจัดส่งคาแนะนาการใหว้ ัคซีนรวมทงั้
เอกสารแสดงความประสงคใ์ ห้ฉีดวัคซนี Pfizer ในนกั เรยี น/นักศึกษาช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 - 6
หรอื เทยี บเทา่ รายละเอยี ดตามเอกสารในภาคผนวกที่ 5 – 6 (เอกสารแจ้งความประสงค์ฯ
ฉบับวนั ที่ 17 กนั ยายน 2564)
เอกสารฉบบั วนั ที่ 17 กนั ยายน 2564
5
สถานพยาบาล
จัดเตรยี มระบบการให้บรกิ ารตามมาตรฐาน วคั ซีน และสถานทใ่ี หว้ คั ซนี ดงั นี้
1. การเตรยี มวคั ซนี
- อุปกรณ์ท่ีต้องเตรียม ได้แก่ วัคซีนไฟเซอร์ สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.9% ชนิดฉีดที่มี
ปริมาตร ≥2 มลิ ลิลติ ร กระบอกฉดี ยาและเข็มฉดี ยา ชนิด Low Dead Volume และอุปกรณ์
อ่ืนๆ เช่น สาลี แอลกอฮอล์ ถุงมือ เป็นตน้
- การเตรียมวคั ซนี สถานพยาบาลสามารถดาเนนิ การ ดงั น้ี
เตรียมขวดวัคซนี สารละลาย 0.9% Sodium chloride กระบอกฉีดยาขนาด 3 มลิ ลิลิตร
พร้อมเข็มเบอร์ 21 G 1.5 น้ิว สาหรับดูดสารละลาย 0.9% Sodium chloride จากน้ัน
ทาความสะอาดฝาขวดวัคซนี ด้วยสาลชี บุ แอลกอฮอล์ และบดิ ส่วนปากของแอมพูลให้ขาดออก
ผสมวัคซีน โดยดูดสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.9% ปริมาตร 1.8 มิลลิลิตรเท่านั้น
โดยให้แน่ใจว่าไม่มฟี องอากาศ ฉีดสารละลาย 0.9% Sodium chloride ลงในขวดวคั ซีน
เบา ๆ โดยพยายามไม่ให้มีฟองอากาศเด็ดขาด หากมีให้หยุดการฉีดก่อน และปล่อยให้
ฟองอากาศหมดก่อนและค่อย ๆ ฉีดสารละลายจนกระทั่งครบ 1.8 มิลลิลิตร ดูดอากาศ
ในขวดออก 1.8 มิลลิลิตร เพ่ือปรับความดันในขวด จากน้ันดึงเข็มออกทาการผสมวัคซีน
โดยการควา่ ขวดขนึ้ ลงเบา ๆ 10 ครง้ั ห้ามเขยา่ เด็ดขาด
วัคซีนท่ีผสมแล้ว 1 ขวดวัคซีนประกอบด้วย วัคซีน 6 โดส โดสละ 30 ไมโครกรัมใน
0.3 มลิ ลลิ ติ ร
วคั ซีนทเี่ จือจางแล้วสามารถเก็บที่อุณหภมู หิ ้อง (ไมเ่ กนิ 30 องศาเซลเซียส) หรอื ในตูเ้ ย็น
(2 ถึง 8 องศาเซลเซียส) และตอ้ งถกู ใช้ภายใน 6 ชัว่ โมง นบั จากเวลาท่ีเจือจาง
ให้ท้ิงวัคซีนใดๆ ที่เหลืออยู่ในขวดวัคซีน (หรือในกระบอกฉีดยา) เมื่อครบ 6 ชั่วโมง
หลังจากเจอื จาง
ควรใช้กระบอกฉีดยาและ/หรือเข็มฉีดยาชนิด low dead-space (LDS) เพ่ือให้สามารถ
ดูดวัคซีนออกมาจากขวดวัคซีนได้ 6 โดส หากใช้กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาแบบ
มาตรฐาน วัคซีนหน่ึงขวดอาจมีปริมาตรไม่เพียงพอสาหรับการดูดวัคซีนโดสที่ 6 ทั้งนี้
หลังจากเจือจางไม่ว่าใช้วัคซีนเข็มใด ขนาดวัคซีนสาหรับฉีดแต่ละโดส ต้องมีปริมาตร
0.3 มิลลิลิตร หากปริมาณวัคซีนท่ีเหลืออยู่ในขวดวัคซีนไม่เพียงพอสาหรับการฉีดวัคซีน
เต็มโดส ท่ีขนาด 0.3 มิลลิลิตร ให้ท้ิงขวดวัคซีนและวัคซีนใดๆ ท่ีเหลือในขวด ห้ามนา
วคั ซนี ที่เหลอื จากหลายขวดวคั ซนี มารวมกนั
ในการฉีดนั้น บริษัทผู้ผลิตให้คาแนะนาว่าสามารถใช้เข็มเดียวกันท้ังในการดูดวัคซีนออก
จากขวดและการฉีดวัคซีนให้กับผู้รับบริการด้วยเข็มเบอร์ 25/26 G (หากไม่มีเข็มเบอร์
25/26 G สามารถใช้ได้ตั้งแต่เข็มเบอร์ 23 G หรือที่มีปลายแคบกว่า) เพ่ือลดการสูญเสีย
เอกสารฉบับวนั ที่ 17 กันยายน 2564
6
วัคซีนอยู่ภายในเข็มและทาให้ได้ปริมาตรครบ 0.3 มิลลิลิตร ดังน้ัน ในการเตรียมวัคซีน
แต่ละโดส ควรแทงเข็มเพ่ือดูดวัคซีนและฉีดให้แก่ผู้รับบริการทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนเข็ม
ในกรณีท่ีเข็มเสียหายหรือปนเป้ือน สามารถเปล่ียนเข็มท่ีฉีดใหม่เพื่อฉีดวัคซีนให้กับ
ผู้รบั บริการ
2. เตรียมสถานที่ให้บริการท่ีมีแพทย์/พยาบาล ดูแล และสามารถให้การช่วยเหลือได้ รวมถึงจุด
ให้บริการนอกสถานพยาบาล โดยจัดสถานที่แยกจุดรอบริการ จุดให้บริการ ท่ีน่ังเฝ้าสังเกต
อาการ ให้เป็นสัดส่วนตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) พร้อมเตรียม
วัสดุอุปกรณ์การฉีด อุปกรณ์กู้ชีพ และเตรียมระบบส่งต่อผู้ป่วยท่ีสามารถส่งต่อผู้ป่วยภายใน
15 นาที หลงั เกิดเหตุฉุกเฉนิ
6.2 การใหบ้ รกิ าร
ตรวจสอบความพร้อมก่อนให้บริการ ได้แก่ การกาหนดลาดับขวดวัคซีนเรียงตามวันหมดอายุ
ตรวจสอบอปุ กรณ์ต่าง ๆ ใหค้ รบถ้วนถกู ตอ้ งพร้อมใช้งาน
ยืนยนั ตัวตนผรู้ บั วคั ซนี ก่อนการใหบ้ ริการ
ตรวจสอบเอกสารแสดงความประสงคใ์ หฉ้ ีดวัคซีน Pfizer ในนกั เรยี น/นกั ศกึ ษา
ซักประวตั ิ คัดกรอง และใหค้ วามรู้แก่กลุม่ เปา้ หมาย
ฉีดวัคซีนบริเวณต้นแขนเข้าช้ันกล้ามเนื้อ ตามขนาดและตาแหน่งท่ีกาหนดด้วยวิธี sterile
technique หลงั ฉดี วคั ซนี ให้พกั สังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาที และบันทึกอาการก่อนกลับบ้าน
ภายหลังฉีดให้เจ้าหน้าท่ีนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มถัดไปในระบบ MoPH IC และหาก
กลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนครบถ้วนตามเกณฑ์ ขอให้ตรวจสอบและพิมพ์เอกสารรับรอง
เพื่อเปน็ หลกั ฐานการได้รบั วคั ซีนใหก้ ลมุ่ เปา้ หมาย
ในกรณีที่มีวัคซีน Pfizer ท่ีเหลือจากการฉีดกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า
ครบถ้วนทุกคนแล้ว อาจพิจารณาบริหารจัดการวัคซีนท่ีเหลือดังกล่าวเพ่ือประโยชน์สูงสุดใน
การป้องกันควบคุมโรคในสถานศึกษา โดยให้วัคซีนในกลุ่มบุคลากรที่ปฏิบัติงานใน
สถานศึกษา เช่น ครู นักการภารโรง หรอื เจ้าหน้าทที่ ่เี ก่ียวขอ้ ง
6.3 การดาเนนิ งานหลงั ใหบ้ รกิ าร
ให้หน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชน บันทึกผลการให้บริการวัคซีน Pfizer ของผู้รับวัคซีน
ในระบบ MoPH IC ทุกราย ทั้งกรณีให้บริการภายในและภายนอกสถานพยาบาล ให้ถูกต้อง
เปน็ ปจั จบุ ัน และการติดตามผลการให้บรกิ ารรายสถานศกึ ษา รายช้นั ปี ในพ้นื ทร่ี ับผิดชอบ
เฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน (AEFIs surveillance) ตามแนวทาง
ของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เนื่องจากวัคซีนโควิด 19 เป็นวัคซีนใหม่ที่พัฒนาและ
ผลิตข้ึนอยา่ งเร่งด่วน ท่ีใช้ป้องกันควบคุมโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 แก่ประชาชน เพื่อเป็น
เอกสารฉบับวนั ที่ 17 กันยายน 2564
7
การกากับติดตามความปลอดภัยและประกันความม่ันใจของกลุ่มเป้าหมายต่อวัคซีนและงาน
บริการสรา้ งเสริมภูมคิ ุ้มกนั โรค รายละเอียดตามภาคผนวกท่ี 9 - 10
ขวดวัคซีนและอุปกรณ์การฉีดวัคซีนให้ทาลายแบบขยะติดเชื้อตามระบบปกติที่หน่วยงาน
ดาเนินการอยู่
เอกสารฉบับวนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564
8
ภาคผนวก
เอกสารฉบับวันท่ี 17 กันยายน 2564
9
ภาคผนวกท่ี 1 แบบสารวจการฉดี วคั ซนี Pfizer ในนกั เรยี น/นกั ศกึ ษาชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-6
หรอื เทยี บเทา่ แตล่ ะหอ้ งเรยี น
แบบสารวจการฉดี วคั ซนี Pfizer สาหรบั นกั เรยี น/นกั ศกึ ษาชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-6 หรอื เทยี บเทา่ แตล่ ะหอ้ งเรยี น
ชอ่ื โรงเรยี น........................................................................ ช้ัน................................ หอ้ ง.....................
สงั กดั ................................ จงั หวดั ....................................
คาช้แี จง ขอใหอ้ าจารยป์ ระจาชน้ั สารวจขอ้ มลู การฉดี วคั ซนี Pfizer สาหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 หรอื เทยี บเทา่ แตล่ ะหอ้ งเรยี น
ลาดบั ช่ือ-นามสกลุ หมายเลขบตั รประชาชน/ วนั /เดอื น/ปเี กดิ อายุ (ป)ี ความประสงค์ หมายเหตุ
หมายเลขหนงั สอื เดนิ ทาง รบั วคั ซนี Pfizer
(กรณชี าวตา่ งชาต)ิ
1 รบั ไม่รับ
2 รับ ไม่รบั
3 รบั ไม่รับ
4 รับ ไมร่ ับ
5 รับ ไมร่ ับ
6 รับ ไมร่ บั
7 รับ ไมร่ ับ
8 รับ ไมร่ ับ
9 รับ ไมร่ ับ
10 รับ ไมร่ ับ
11 รบั ไม่รบั
12 รับ ไมร่ บั
13 รับ ไมร่ บั
14 รบั ไม่รบั
15 รบั ไมร่ บั
16 รับ ไมร่ บั
17 รับ ไมร่ บั
18 รับ ไม่รบั
19 รบั ไมร่ บั
20 รบั ไม่รบั
รวม
หมายเหตุ : 1. หากนกั เรียน/นักศกึ ษาในสถานศกึ ษาดังกล่าว มอี ายเุ กนิ 18 ปี ใหร้ ับวคั ซีน Pfizer ไดพ้ ร้อมกบั นกั เรียนร่วมสถานศึกษา
2. ความประสงคก์ ารไดร้ บั วคั ซนี พจิ ารณาจากเอกสารแสดงความประสงคก์ ารฉดี วคั ซีนจากผปู้ กครอง (ฉบบั วนั ท่ี 17 กันยายน 2564 )
3. ขอให้เก็บเอกสารฉบับน้ีไว้ ณ สถานศึกษา
เอกสารฉบบั วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564 สแกน QR code
10
ภาคผนวกที่ 2 แบบสรปุ จานวนนกั เรยี น/นกั ศกึ ษาชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-6 หรอื เทียบเทา่
ทมี่ คี วามประสงคร์ บั วคั ซนี Pfizer แยกแตล่ ะสถานศกึ ษา
แบบสรปุ จานวนนกั เรียน/นกั ศกึ ษาชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1-6 หรอื เทยี บเทา่
ทมี่ คี วามประสงคร์ บั วคั ซนี Pfizer แยกแตล่ ะสถานศกึ ษา
ชือ่ โรงเรยี น........................................................................
สงั กดั ................................ จงั หวดั ....................................
คาชแ้ี จง ขอใหโ้ รงเรยี นสรปุ จานวนนกั เรยี นทง้ั หมดทปี่ ระสงคร์ บั วคั ซนี ของสถานศึกษา
ลาดบั ที่ ระดบั ชนั้ จานวนนกั เรยี น (คน) หมายเหตุ
ทง้ั หมด ประสงคร์ บั วคั ซนี
1 ม.1 หรอื …………...
2 ม.2 หรอื …………...
3 ม.3 หรอื …………...
4 ม.4 หรอื …………...
5 ม.5 หรอื …………...
6 ม.6 หรอื …………...
รวม
หมายเหตุ : สถานศกึ ษารวบรวมจานวนนักเรยี นส่งให้สานกั งานสาธารณสขุ จังหวัด/กรุงเทพมหานคร
เพ่อื บริหารจัดการวคั ซีนและสถานพยาบาลต่อไป
สแกน QR code
เอกสารฉบบั วันที่ 17 กันยายน 2564
11
ภาคผนวกท่ี 3 แบบสรปุ จานวนนกั เรยี น/นกั ศกึ ษาชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-6 ห
แบบสรปุ จานวนนกั เรยี น/นกั ศกึ ษาชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1-6 หรือเทยี บ
สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ........
คาชแี้ จง ขอใหส้ านักงานสาธารณสขุ จงั หวดั รวบรวมจานวนนกั เรยี นทงั้ หมดทป่ี ระสงคร์ บั วัคซนี รา
ลาดบั ที่ อาเภอ/เขต ช่ือโรงเรยี น สงั กดั จานวน จานวน
นกั เรยี น
ทัง้ หมด (คน) ม.2
ม.1
หรอื …….. หรอื …….. หร
รวม
หมายเหต:ุ ขอให้รวบรวมสง่ กองโรคตดิ ตอ่ ทัว่ ไป กรมควบคมุ โรค ภาย
เอกสารฉบบั วันที่ 17 กนั ยายน 2564
1
หรอื เทยี บเทา่ ทม่ี คี วามประสงค์รบั วคั ซนี Pfizer รายสถานศกึ ษา รายจังหวดั
บเทา่ ทีม่ คี วามประสงคร์ บั วคั ซนี Pfizer รายสถานศึกษา รายจังหวดั
................................................. .
ายสถานศกึ ษาและกาหนดชอื่ สถานพยาบาลท่ีใหบ้ ริการฉีดวคั ซนี
นนักเรยี นทป่ี ระสงคร์ บั วคั ซนี (คน) สาหรบั เจา้ หนา้ ทคี่ ณะกรรมการโรคตดิ ตอ่
จงั หวดั /กรงุ เทพมหานครเปน็ ผกู้ าหนด
ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 ช่อื สถานพยาบาลทใี่ หบ้ รกิ ารฉดี วคั ซนี
รอื …….. หรอื …….. หรอื …….. หรอื …….. รวม
ยในวันท่ี 27 ก.ย. 2564 ผ่านระบบออนไลน์
สแกน QR code
12
ภาคผนวกที่ 4 แบบแจง้ ความตอ้ งการวคั ซนี Pfizer สาหรบั นกั เรยี น/นักศกึ ษา
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1-6 หรอื เทียบเทา่ รายโรงพยาบาล รายจงั หวดั
แบบแจ้งความตอ้ งการฉดี วคั ซนี Pfizer สาหรบั นกั เรยี น/นกั ศกึ ษาชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 หรอื เทยี บเทา่ รายโรงพยาบาล รายจงั หวดั
จงั หวดั ..........................................
คาชแ้ี จง ขอใหส้ านกั งานสาธารณสขุ จังหวดั รวบรวมจานวนวคั ซนี Pfizer ทตี่ อ้ งการ (โดส) และกาหนดชว่ งวนั ทใี่ หบ้ รกิ ารเปน็
รายสปั ดาห์ จาแนกรายโรงพยาบาล
ลาดบั ชือ่ โรงพยาบาล จานวนวคั ซนี Pfizer ทต่ี อ้ งการ (โดส) ชว่ งวนั ทใ่ี หบ้ รกิ าร (เปน็ รายสปั ดาห)์
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
รวม
หมายเหตุ: ขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวัด/กรงุ เทพมหานคร ส่งแบบความต้องการฯ ไปยังกรมควบคุมโรค
ภายในวนั ท่ี 27 ก.ย. 2564 ผา่ นระบบออนไลน์ เพ่ือพจิ ารณาจัดสรรวคั ซีนต่อไป
สแกน QR code
เอกสารฉบับวนั ท่ี 17 กันยายน 2564
13
ภาคผนวกท่ี 5 เอกสารแสดงความประสงคข์ องผปู้ กครองเพอื่ ใหน้ กั เรยี น/นกั ศกึ ษาชน้ั มธั ยมศกึ ษา
ปที ่ี 1-6 หรอื เทยี บเทา่ ฉดี วัคซนี ไฟเซอร์
เอกสารแสดงความประสงค์ของผปู้ กครองใหน้ ักเรยี น/นกั ศกึ ษาฉดี วคั ซนี ไฟเซอร์
ส่วนที่ 1 : ขอ้ ควรรู้เกยี่ วกับโรคโควิด 19 และวัคซีนโควิด 19
โรคโควิด 19 เกิดจากการติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งการติดเช้ือในเด็กสามารถมีอาการได้หลากหลายต้ังแต่ไม่มี
อาการเลย จนถึงปอดอักเสบรุนแรง หรือเสียชีวิต ร้อยละ 90 ของผู้ป่วยเด็กติดเชื้อมักมีอาการไม่รุนแรง โดยพบอาการเพียง
เล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ ปวดกล้ามเนื้อ และมีเพียงร้อยละ 5 ของผู้ป่วยเด็กติดเชื้อท่ีมีอาการรุนแรงหรือวิกฤติ เช่น ปอดอักเสบ
รนุ แรง ระบบหายใจหรือระบบไหลเวยี นโลหติ ล้มเหลว รวมถึงภาวะอักเสบหลายระบบในเด็ก ภาวะแทรกซ้อนมักพบในผู้ป่วย
กลุ่มเส่ียงสูง เช่น เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ผู้ป่วยท่ีมีโรคประจาตัว เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต โรคปอดเรื้อรัง
หรอื ภาวะภมู ิคุม้ กนั บกพรอ่ ง ในประเทศไทยพบวา่ แม้จะมกี ารติดเชอ้ื ในเดก็ อายุนอ้ ยกว่า 18 ปีในสัดส่วนที่สงู ข้นึ แตผ่ ู้ป่วยเด็ก
ทตี่ ดิ เชื้อโรคโควิด 19 สว่ นใหญม่ ักมีอาการไมร่ ุนแรงและมอี ตั ราการเสยี ชวี ิตนอ้ ยมาก
วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคโควิด 19 ได้ในระดับสูง และสามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
การฉีดวคั ซนี อาจป้องกนั โรคแบบไม่รนุ แรงหรือไมม่ ีอาการไมไ่ ด้ ดงั นัน้ ผูท้ ่ไี ด้รบั วคั ซนี จงึ ยังอาจจะตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ได้
จึงจาเป็นต้องปฏิบัติตามคาแนะนาและมาตรการอื่น ๆ ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
คณะกรรมการโรคตดิ ตอ่ จังหวดั /กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุขกาหนด เช่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง
หมน่ั ล้างมอื ลงทะเบียนเม่อื เขา้ ไปยงั สถานที่ เปน็ ต้น
สาหรับวัคซีนโควิด 19 ในขณะนี้ (ณ วันท่ี 15 กันยายน 2564) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสานักงานคณะกรรมการ
อาหารและยาของประเทศไทย ให้ใช้ในผู้ท่ีมีอายุ 12 ปีขึน้ ไป มีเพียงชนิดเดียว ได้แก่ วคั ซีนไฟเซอร์ (Pfizer Vaccine) และได้
ผา่ นการเห็นชอบให้ใช้วัคซีนดังกล่าวจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยวัคซีนน้ีเป็นวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ
(mRNA vaccine) ของบรษิ ัท ไฟเซอร์ ไบโอเอน็ เทค (Pizer-BioNTech) ซ่ึงเป็นวัคซนี ท่ีมีประสิทธภิ าพสงู สามารถปอ้ งกนั การ
นอนโรงพยาบาลเน่ืองจากป่วยหนักและเสียชีวิตได้ มีข้อบ่งชี้ในการให้วัคซีนในบุคคลอายุ 12 ปีข้ึนไป โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 คร้ัง
ห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์ และมีข้อห้ามในการรับวัคซีนไฟเซอร์ ได้แก่ บุคคลที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงในการฉีดวัคซีนเข็มแรก
บุคคลที่แพ้วัคซีนและสารที่เป็นส่วนประกอบของวัคซีนอย่างรุนแรง ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปี ผู้ที่มีความเจ็บป่วยเฉียบพลัน
และหญงิ ต้งั ครรภท์ ่ีมอี ายุครรภ์น้อยกวา่ 12 สัปดาห์
ผู้ท่ีมีความประสงค์รับวัคซีนไฟเซอร์ควรมีการเตรียมตัวก่อนรับวัคซีนไฟเซอร์ได้แก่ ปฏิบัติตัวตามปกติ พักผ่อนให้
เพียงพอ ออกกาลังกายตามปกติ ทาจิตใจให้ไม่เครียดหรอื วิตกกังวล หากเจ็บป่วยไมส่ บายควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อน ผู้ที่มี
โรคประจาตัวต่าง ๆ สามารถรับวัคซีนได้ รับประทานยาประจาได้ตามปกติ ยกเว้นโรคท่ีมีความเสี่ยงที่อาจอันตรายถึงชีวิต
โรคที่ยังควบคุมไมไ่ ด้ มอี าการกาเริบ หรืออาการยังไม่คงท่ี เชน่ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคทางระบบประสาท เป็นต้น
ในผู้ที่ไม่แน่ใจหรืออาการยงั ไม่คงที่ ควรให้แพทย์ผู้ดแู ลเป็นประจาประเมินกอ่ นฉีด และการมีประจาเดือนไมเ่ ปน็ ขอ้ หา้ มในการ
ฉีดวัคซนี
จากการศึกษาผลขา้ งเคียงของการฉีดวัคซนี ไฟเซอร์ในเด็กและวัยรุ่น พบว่ามคี วามปลอดภัยสูง ไม่แตกต่างกับการฉีด
ในประชากรกลุ่มอายุอ่ืนๆ โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ เจ็บในตาแหน่งที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะหรือมีไข้ มักพบ
ผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนเข็มท่ีสองมากกว่าหลังการฉีดเข็มแรกเล็กน้อย ส่วนมากอาการไมร่ ุนแรงและหายไปได้เองใน 1-2 วัน
หากพบอาการดังกล่าว แนะนาให้รับประทานยาพาราเซทตามอล และควรงดออกกาลังกายหลังได้รับวัคซีนนาน 1 สัปดาห์
แม้ว่าวัคซีนเหล่านี้จะได้รับการรับรองจากสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ว่ามีความปลอดภัยและให้ใช้ได้แล้วก็ตาม
เอกสารฉบับวันที่ 17 กนั ยายน 2564
14
แต่การฉีดวคั ซีนนี้ก็ยงั สามารถทาให้เกิดอาการแพ้รนุ แรง (anaphylaxis) ซ่ึงเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้แบบฉับพลัน โดยมากมกั เกิด
ภายใน 5-30 นาทีหลงั จากฉีดวัคซีน อาการแพ้รุนแรงมักมีอาการท่ัวรา่ งกายหรือมีอาการแสดงหลายระบบ เช่น หอบเหนื่อย
หลอดลมตีบ หมดสติ ความดันโลหิตต่า ผื่นลมพิษ ปากบวม หน้าบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาจมีความรุนแรงถึงชีวิต
จงึ จาเป็นตอ้ งสังเกตอาการหลงั การฉีดอย่างนอ้ ย 30 นาทีในสถานพยาบาลหรือสถานท่ีฉีดวัคซีนเสมอ
จากข้อมลู ของศูนยค์ วบคมุ และป้องกันโรค ประเทศสหรัฐอเมรกิ า (US CDC) ณ วนั ที่ 11 มถิ ุนายน 2564 พบรายงาน
การเกิดภาวะกล้ามเน้ือหัวใจอกั เสบ หรอื เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบภายหลังการฉีดวัคซนี ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ในผู้ท่ีมอี ายุ 12-17 ปี
ได้ โดยพบอาการดังกล่าวหลังฉีดเข็มที่สองมากกว่าเข็มที่ 1 และมักพบในเพศชาย (ประมาณ 66.7 รายจากการฉีดวัคซีน
1 ลา้ นโดส) และเพศหญงิ (ประมาณ 9.1 รายจากการฉีดวัคซนี 1 ลา้ นโดส) โดยอาการท่พี บ เชน่ การเจบ็ หนา้ อก หายใจไมอ่ ิ่ม
หรือ ใจส่นั อย่างไรก็ตาม จากการติดตามผูท้ ่ีไดร้ บั การวินิจฉยั ภาวะกลา้ มเนื้อหัวใจอกั เสบ หรือ เยือ่ ห้มุ หัวใจอกั เสบในระยะสัน้
พบวา่ สว่ นใหญ่สามารถกลับมาใชช้ วี ิตเป็นปกตไิ ดภ้ ายหลงั การรักษา
หากผู้รบั วัคซนี เกดิ อาการไม่พึงประสงค์หรอื ไม่มน่ั ใจวา่ อาการดงั กล่าวเกิดจากวัคซีนหรือไม่ ควรแนะนาให้ผู้ปกครอง/
ผู้รับวัคซีนปรึกษาแพทย์เพ่ิมเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงและเกิดข้ึนในช่วง 4 สัปดาห์หลังฉีด
วัคซีน และหากฉีดวัคซีนแล้วมีปฏิกิริยาแพ้รุนแรง เช่น มีผื่นท้ังตัว หน้าบวม คอบวม หายใจลาบาก ใจส่ัน วิงเวียนหรืออ่อนแรง
หรือมีอาการแขนขาออ่ นแรง รวมถงึ หากมีอาการเจบ็ แน่นหนา้ อก หายใจเหนอ่ื ย หรือหายใจไม่อิ่ม ใจส่ัน ซึง่ เปน็ อาการที่สงสัย
ภาวะกล้ามเนอ้ื หวั ใจอักเสบ/เยื่อหมุ้ หัวใจอักเสบ ควรรบี ไปพบแพทย์ หรือโทร 1669 เพือ่ รบั บริการทางการแพทยฉ์ ุกเฉนิ
สว่ นท่ี 2 : เอกสารแสดงความประสงคข์ องผปู้ กครองใหบ้ ตุ รหลานฉดี วคั ซนี ไฟเซอร์
ข้าพเจ้า ชือ่ - นามสกลุ ..............................………………..…………………หมายเลขโทรศพั ท์ (ผ้ปู กครอง) .......................................
ผู้ปกครองของ............................................................................................มคี วามสัมพันธเ์ ปน็ .....................................................
ทอี่ ยู่……………………………….………………...............................………หมทู่ …่ี ………….……..…ถนน......................................................
ตาบล/แขวง.............................................อาเภอ/เขต…………………………….…….....………จังหวัด...................................................
หมายเลขโทรศัพท์ (นักเรยี น).................................................
ชื่อ-นามสกลุ (นกั เรยี น)……………………..…………........................................… อาย.ุ .....………ปี วัน/เดือน/ปเี กิด............................
เลขประจาตวั 13 หลกั /หมายเลขหนังสือเดนิ ทาง (กรณีชาวตา่ งประเทศ)............................................. สัญชาติ.........................
ชอื่ สถานศึกษา..................................................................................ช้นั /ปี......................................................ห้อง......................
ทั้งนี้ ขา้ พเจ้าไดร้ ับทราบข้อมลู และได้ซักถามรายละเอียดจนเข้าใจเกีย่ วกับวคั ซีนไฟเซอร์และอาการไมพึงประสงคของวคั ซีนท่ี
อาจเกิดขน้ึ เปน็ ทเี่ รยี บรอ้ ยแลว้
ข้าพเจ้า ประสงค์ให้บุตรหลาน ฉีดวัคซนี ไฟเซอร์โดยสมคั รใจ
ไม่ประสงค์ใหบ้ ตุ รหลาน ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สาเหตุ (ถ้ามี)............................................................................
และรบั รองวา่ ข้อมลู เป็นความจริง
ลงช่ือ..............................................................................ผ้ปู กครอง/ผแู้ ทนโดยชอบธรรม
(...............................................................................)
วนั ที.่ ............/........................./..................
หมายเหตุ : ขอให้นาเอกสารน้ีแสดงแก่ครปู ระจาช้ันและเจ้าหนา้ ทผี่ ใู้ หบ้ ริการ ในวันท่ฉี ดี วคั ซนี
ขอ้ ควรร้เู กย่ี วกับโรคโควิด-19 และวคั ซนี โควดิ -19 สามารถดาวนโ์ หลดอา่ นได้ที่ QR code
เอกสารฉบบั วันท่ี 17 กันยายน 2564
15
ภาคผนวกที่ 6 แบบคดั กรองกอ่ นรบั บรกิ ารฉดี วคั ซนี โควดิ 19 สาหรบั นกั เรยี น/นกั ศกึ ษา
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1-6 หรอื เทยี บเทา่
แบบคดั กรองก่อนรบั บรกิ ารฉีดวคั ซีนโควดิ 19 สาหรบั นกั เรยี น/นกั ศึกษาชั้น
มัธยมศึกษาปที ี่ 1-6 หรอื เทยี บเท่า
คาชแ้ี จง ใหผ้ ปู้ กครอง กรณุ ากรอกขอ้ มลู โดยทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งวา่ งตามความจรงิ เพื่อเจา้ หนา้ ท่ีจะได้
พจิ ารณาวา่ นักเรยี น/นักศกึ ษา สามารถฉดี วัคซนี ไดห้ รอื ไม่
1 นกั เรยี นมอี ายุไม่ถงึ 12 ปบี ริบูรณ์ ณ วนั ท่ีฉดี ใช่ ไม่ใช่
2 นักเรียนเคยมีประวัติแพ้ วัคซีนโควิด 19 หรือส่วนประกอบของวัคซีนโควิด 19
หรอื มีปฏกิ ิริยาจากการฉดี ครงั้ กอ่ นอย่างรุนแรง (พิจารณาให้วัคซนี โควดิ 19 ชนิด ใช่ ไม่ใช่
อนื่ แทน)
3 นกั เรยี นไดต้ รวจพบเชื้อโควิด 19 ภายใน 1 เดอื น ใช่ ไมใ่ ช่
4 นักเรียนมีโรคประจาตัวท่ีรุนแรงทอ่ี าการยังไม่คงที่ ไม่สามารถควบคมุ อาการของ
โรคได้ เช่น โรคหัวใจ โรคทางระบบประสาท และโรคอ่ืน ๆ ท่ีเพิ่งจะมีอาการ ใช่ ไม่ใช่
กาเริบ ยกเว้นแพทย์ผู้ดูแลเป็นประจาได้ประเมินแล้วว่าให้วัคซีนได้ (ผู้ที่มีโรค
ประจาตัวเหลา่ น้ี ควรปรึกษาแพทยก์ อ่ นรบั วคั ซีน)
5 นกั เรียนอยูร่ ะหว่างต้งั ครรภ์ ท่มี ีอายุครรภ์ นอ้ ยกวา่ 12 สปั ดาห์ ใช่ ไม่ใช่
6 นักเรียนมีความเจ็บป่วยท่ีต้องอยู่ในโรงพยาบาลหรือเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา ใช่ ไมใ่ ช่
ไม่เกนิ 14 วัน (ยกเว้นแพทย์ใหค้ วามเห็นวา่ สามารถรบั วัคซีนได)้
7 นักเรยี นกาลงั มีอาการป่วยไมส่ บายใด ๆ (ควรรักษาให้หายปว่ ยกอ่ น) ใช่ ไมใ่ ช่
8 นกั เรยี นไดร้ บั วคั ซีนใด ๆ มากอ่ นในช่วง 14 วนั หรอื ไม่ ใช่ ไม่ใช่
9 นักเรียนมีความกังวลใจมากในการรบั วัคซนี โควดิ 19 ใช่ ไม่ใช่
(ขอให้รับคาปรึกษาจากแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ เพ่ือทาความเข้าใจ
และคลายความกงั วลกอ่ นรับวคั ซีนโควดิ 19)
หมายเหตุ: หากนักเรียน/นักศึกษาในสถาบนั การศกึ ษาดงั กล่าว มอี ายเุ กิน 18 ปี ให้รบั วัคซนี ไฟเซอร์ได้
พรอ้ มกบั นักเรยี นรว่ มสถาบนั การศึกษา
ท้งั น้ี ขา้ พเจ้าขอรับรองว่าขอ้ มูลดงั กลา่ วเปน็ ความจรงิ
ลงชอ่ื .....................................................................ผปู้ กครอง/ผแู้ ทนโดยชอบธรรม
(..................................................................................................)
วันท่ี............./........................./..................
หมายเหตุ : ขอให้นาเอกสารนีแ้ สดงแก่เจ้าหน้าทผ่ี ้ใู ห้บริการ ในวันที่ฉดี วคั ซนี
เอกสารฉบับวนั ที่ 17 กันยายน 2564
16
ภาคผนวกที่ 7 ตวั อย่าง หนงั สอื แจง้ การฉดี วคั ซนี Pfizer สาหรบั นกั เรยี น/นกั ศกึ ษา
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 หรอื เทียบเทา่
ที่ ........................................ โรงเรียน................................
กนั ยายน 2564
เรือ่ ง ขออนุญาตฉดี วคั ซีนไฟเซอร์สาหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 - 6 หรอื เทยี บเท่า
เรียน ท่านผปู้ กครองนักเรียน
สิ่งท่สี ง่ มาดว้ ย 1. แบบสารวจและเอกสารแสดงความประสงค์รบั บริการฉีดวคั ซีนโควิด 19 สาหรบั นกั เรียน/
นักศกึ ษาช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือเทียบเท่า จานวน 1 ชดุ
2. แบบคดั กรองกอ่ นรับบริการฉีดวัคซนี โควิด 19 สาหรบั นกั เรยี น/นกั ศึกษา
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1-6 หรอื เทยี บเทา่ จานวน 1 แผ่น
ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง
อย่างรวดเร็ว ประเทศไทยจึงมีนโยบายให้วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) สาหรับนักเรียน/นักศึกษาซ่ึงศึกษาใน
ระดับชั้นมัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า เพื่อลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากการป่วยด้วยโรคติดเช้ือไวรัส
โคโรนา 2019 ในสถานศกึ ษา
เนอื่ งจากโรงพยาบาล..........................จะใหบ้ รกิ ารฉดี วัคซีนไฟเซอร์สาหรับนกั เรยี น/นกั ศึกษา
ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 -6 หรือเทียบเท่า ในวันที่ .......................... เวลา .................... จึงเรียนมาเพื่อขอ
ความรว่ มมือจากท่านผู้ปกครองในการแจ้งความประสงค์ให้บุตรหลานของท่านได้รบั การฉีดวคั ซนี ไฟเซอร์ เพื่อ
สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 โดยให้ตอบกลับความประสงค์มายังครูประจาช้ัน ภายในวันท่ี
.................................รายละเอียดตามสิ่งทีส่ ง่ มาด้วย
ขอแสดงความนบั ถือ
(..........................................)
ผอู้ านวยการ
ผปู้ ระสานงาน : ครู.............................................
โทร. ..........................................
เอกสารฉบับวันที่ 17 กนั ยายน 2564
17
ภาคผนวกท่ี 8 แบบสรปุ ผลการใหบ้ รกิ ารวคั ซนี Pfizer สาหรบั นกั เรยี น/นกั ศ
แบบสรปุ ผลการใหบ้ รกิ ารวคั ซนี Pfizer สาหรบั นกั เรยี
สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ...........
คาชแ้ี จง ขอใหส้ านกั งานสาธารณสขุ จังหวดั รวบรวมผลการใหบ้ รกิ ารวคั ซนี Pfizer สาหรบั นักเรยี น
ลาดบั ช่อื โรงเรยี น สงั กดั จานวน
ท่ี นกั เรยี น
ทงั้ หมด
(คน) ม.1 หรอื ................ ม.2 หรอื ................ ม.3 หรอื .......
เขม็ ท่ี 1 เขม็ ที่ 2 เขม็ ท่ี 1 เขม็ ที่ 2 เขม็ ท่ี 1 เข
รวม
หมายเหต:ุ ขอใหร้ วบรวมส่งกองโรคตดิ ต่อทวั่ ไป กรม
เอกสารฉบับวนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564
7
ศกึ ษาชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 หรอื เทียบเท่า หมาย
เหตุ
ยน/นกั ศึกษาชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1-6 หรอื เทียบเท่า
.............................................................
น รายเขม็ รายชนั้ ปี
จานวนนักเรยี นทป่ี ระสงคร์ บั วคั ซนี (คน)
........... ม.4 หรอื .............. ม.5 หรอื ................ ม.6 หรอื ................. รวม
ขม็ ท่ี 2 เขม็ ที่ 1 เขม็ ท่ี 2 เขม็ ที่ 1 เขม็ ที่ 2 เขม็ ที่ 1 เขม็ ท่ี 2 เขม็ ที่ 1 เขม็ ที่ 2
มควบคุมโรค ผา่ นระบบออนไลน์ ภายหลงั การรณรงค์
สแกน QR code
18
ภาคผนวกท่ี 9 การดาเนนิ งานเฝา้ ระวงั เหตกุ ารณไ์ มพ่ งึ ประสงคภ์ ายหลงั ไดร้ บั วัคซนี โควดิ 19
ผปู้ ว่ ยสงสัย AEFI
สถานพยาบาลภาครฐั เอกชน และหอ้ งชนั สตู ร
ไมเ่ ขา้ เกณฑต์ ามนยิ ามการเฝา้ ระวงั จบ
AEFI
เขา้ เกณฑต์ ามนยิ ามการเฝา้ ระวัง AEFI
เกณฑก์ ารรายงานตามกฎหมาย(พรบ. กรณที ต่ี อ้ งรายงานเพอ่ื การตดิ ตามและการสอบสวนเพม่ิ เตมิ
โรคตดิ ตอ่ พ.ศ. 2558) ไดแ้ ก่
รวบรวมข้อมลู เหตกุ ารณ์ AEFI 1. เหตกุ ารณ์ทรี่ ้ายแรง (serious AEFI)
ทุกเหตกุ ารณ์ ลงในแบบรายงาน AEFI1 2. เหตุการณท์ ่ีเป็นกลุม่ ก้อน (AEFI cluster)
3. เหตุการณ์ทอ่ี าจจะเก่ยี วข้องกับการบรหิ ารจัดการให้วัคซีน
4. เหตุการณ์ท่ีสร้างความกังวลหรือความตระหนกอย่างมากต่อ
ภายใน 7 วนั ครอบครวั และชุมชน
นับจากวนั ท่พี บผู้ปว่ ย
ภายใน 24 ชั่วโมง -สอบสวนโรค
นบั จากวันที่พบผ้ปู ว่ ย - กรอกแบบสอบสวน AEFI 2
บนั ทกึ ขอ้ มูลจากแบบ AEFI 1 - SAT สานักงานสาธารณสุขจงั หวัด
ลงในโปรแกรมฐานข้อมลู เฝา้ ระวังเหตกุ ารณไ์ มพ่ ึง - SAT สานกั อนามัย กรุงเทพมหานคร
ประสงคภ์ ายหลงั ไดร้ ับการสร้างเสรมิ ภมู ิคมุ้ กันโรค เช่อื มโยง - SAT สานักงานป้องกันควบคุมโรค
กับฐาน - SAT สถาบนั ป้องกันควบคุมโรคเขตเมอื ง
(AEFI DDC)
ขอ้ มลู - SAT กรมควบคมุ โรค
SAT
SAT กรมควบคมุ โรค
รายงาน DCIR
ต่อผบู้ รหิ ารกรมควบคุมโรค
ภายใน 30 นาที
เอกสารฉบบั วนั ท่ี 17 กันยายน 2564
19
ภาคผนวกท่ี 10 แบบรายงานเหตกุ ารณไ์ มพ่ งึ ประสงคภ์ ายหลังไดร้ บั การสรา้ งเสรมิ ภมู คิ มุ้ กนั โรค
เอกสารฉบับวันท่ี 17 กันยายน 2564
20
เอกสารฉบบั วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564
21
เอกสารฉบบั วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564
22
เอกสารฉบบั วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564
23
เอกสารฉบบั วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564