1
เอกสารประกอบการเรียนการจดั ดอกไม้
จัดทาโดย
ครูรุ่งฤดี ยุทธศาสตร์
แผนกวขิ าคหกรรมศาสตร์
วิทยาลัยอาชวี ศึกษานครสวรรค
2
องคป์ ระกอบของใบความรู้
หน่วยท่ี 1 เร่ืองความเปน็ มาของการจัดดอกไม้
ใบงานที่ 1 เร่อื งความเปน็ มาของการจัดดอกไม้
รหสั วิชา 3400-0013ชื่อวชิ า การจดั ดอกไมเ้ บือ้ งต้นหน่วยกติ ( ชั่วโมง ) 1-4-3
จดุ ประสงค์
จุดประสงค์ท่ัวไป
เพ่อื ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ ความเปน็ มาของการจัดดอกไม้แบบไทย
สมรรถนะที่พงึ ประสงค์
1. สามารถอธิบายความเป็นมาของการจัดดอกไม้ได้
2. อธิบายความแตกต่างการจัดดอกไม้รูปรงต่าง ๆ ได้
รายการสอน
1. ความเป็นมาของการจัดดอกไม้
2. แยกประเภทของการจัดดอกไม้รปู ทรงตา่ ง ๆ ได้
3
ความรู้เบื้องต้นในการจัดดอกไม้
เพื่อเป็นแนวทางการศึกษาค้นคว้าหาข้ออ้างอิง เพ่ือใช้ประกอบเป็นหลักฐานทางด้านประวัติผู้
ประดิษฐ์คิดนาดอกไม้สด มาใช้ในพิธีเป็นคร้ังแรกหรือบุคคลแรก เพื่อไว้เป็นหลักฐานเรื่องราวให้ชนรุ่นหลัง ได้
ทราบประวัติความเป็นมารวมท้ังข้อสันนิษฐานว่าบรรพบรุ ุษได้นาดอกไม้ ท่ีมีความสวยงามตามธรรมชาติมาใช้
อย่างเป็นพิธีการ เช่น นามาจัดบูชาพระรัตนตรัย นามาจัดประดับตกแต่งสถานท่ีในงานทั่วไปและในพิธีสาคญั
เพื่อให้มีความสดชื่นสวยงาม หรูหราและต่ืนตา และเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันหลากหลายของดอกไม้
และไดส้ บื ทอดมาจนถงึ ปัจจบุ นั น้ี
ตามหลกั ฐานท่ไี ด้ศึกษาค้นคว้า ในหนงั สือพระราชพธิ ีสิบสองเดือนในพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้า
เจ้าอยู่หัวทรงพระนิพนธ์ไว้ เม่ือปีชวด พ.ศ.2431 ได้ทรงบันทึกเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในสมัยกรุงสุโขทัย ได้กล่าว
ถึงนางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้ตกแต่งโคมลอย เพ่ือใช้ในพิธีสิบสองเดือนและพระราชพิธีการลอย
พระประทีป ซึ่งไดป้ ระดับตกแตง่ ด้วยดอกไมส้ ด ผลไมแ้ กะสลัก มาประดับตกแตง่ โคมลอยใหม้ ีความสวยงามยิ่ง
และได้ทรงกล่าวไว้วา่ ท้าวศรีจุฬาลกั ษณ์ ซง่ึ เป็นพระสนมเอกแต่ครงั้ พระเจ้าอรุณมหาราช คือ พระร่วงเจ้าเป็น
พระเจา้ แผ่นดินสยามต้ังแต่อยู่ ณ เมืองสโุ ขทยั ในพระราชนิพนธ์ได้กล่าวว่า นางนพมาศได้เข้ารับราชการได้คิด
อา่ นทากระทงดอกไม้พระเจ้าแผน่ ดิน ประดษิ ฐเ์ ปน็ รปู ดอกบัว
จากหลักฐานอ้างอิงได้กล่าวมา น่าจะเป็นหลักฐานท่ีเช่ือถือได้ว่า นางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์
เปน็ สตรีไทยท่านแรกที่เปน็ ผู้ริเริ่มนาเอาดอกไม้สดมาใช้ในพิธีการต้ังแตก่ รุงสุโขทัยเปน็ คร้ังแรก และได้สืบทอด
กนั มาจนถึงปัจจบุ นั น้ี
ข้อความในประวัติการร้อยลัย (จันทนา สุวรรณมาลี, 2529) ได้เขียนไว้ในหนังสือตอนหน่ึงวา่ “บรรพ
บุรุษของไทยเรามีชอื่ สียงในงานด้านศลิ ป์อยา่ งมากมาย โดยเฉพาะการนาดอกไม้สดมาประดิษฐเ์ ปน็ พวงดอกไม้
และนามาประดิษฐ์ตกแต่งโคมลอย ได้สวยงามของนางนพมาศแล้ว” ยังมีหลักฐานได้กล่าวไว้ตอนหน่ึงว่า “ใน
เดือนเมษายน มีพระราชพิธีสนามใหญ่ บรรดาเจ้าเมือง เศรษฐี คหบดี เขา้ เฝา้ บังคมพระรว่ งเจ้า เพื่อถวายเป็น
เคร่ืองบรรณาการ พระสนมกานัลต่างๆ ก็ร้อยกรองดอกไม้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ และในครั้งนั้นนางนพมาศก็ร้อย
ดอกไม้สีเหลืองเป็นรูปพานทองสองช้ันเป็นระย้าสองชั้น งดงามใส่ลงในพานขันหมากเมี่ยงแล้วร้อยดอกไม้เปน็
ตาข่ายคลุมขนั อีกชนั้ หน่ึง ดูเป็นท่เี จรญิ ตาและถูกฤดูกาลเทศะอีก สมเดจ็ พระรว่ งเจ้าทรงบัญญัตวิ ่า ถ้าชาวไทย
ทาการรับสนามใหญ่ มีอาวาหมงคลหรือลิลาหมงคล เป็นต้น ในการกรองดอกไม้เป็นรูปพานขันหมาก ดังนี้
เรยี กว่า พานขนั หมาก”
ในสมัยรัตนโกสินทร์เร่ิมต้นรัชกาลสืบมา งานฝีมือด้านประดิษฐ์ดอกไม้สดเป็นท่ียอมรับในฝีมือและมี
ช่ือเสียงมาก เป็นที่นิยมประดิษฐ์ จัดดอกไม้สดในงานต่างๆ ทั่วไป โดยเฉพาะในพระราชพิธีต่างๆ ในสมัย
รัชกาลที่ 5ทรงมีพระราชนิยมการทาดอกไม้มากมาย จัดดอกไม้มากมาย จัดถวายให้ทรงใช้ในงานน้ันๆ เสมอ
พระมเหสีเทวีทุกตาหนัก ใฝ่พระทัยในการจัดดอกไม้ไปตามๆกัน แต่ละพระองค์ต่างก็มีชื่อเสียงในด้านต่างๆ
ตามๆกัน สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ (พระพันปีหลวง) ครั้งดารงพระอิสริยยศเป็น
4
พระบรมราชินีนาถ ได้โปรดเกล้าฯให้ฝึกอบรมข้าหลวงและครูโรงเรียนราชินีให้รู้จักทาดอกไม้แห้งแทนดอกไม้
สดด้วย ทรงส่งเสริมฟ้ืนฟูการทาดอกไม้เป็นอันมาก พระองค์เองก็ใช้เวลาว่างประดิษฐ์ดัดแปลงการทาดอกไม้
แบบเก่าๆ ให้แปลกพิสดารไปอีกมีพระนามเล่ืองลือในการร้อยมาลัยมะลิเป็นมาลัยสีขาวกลม ซึ่งเป็นมาลัย
ธรรมดาไม่มีลวดลายและต่อมาได้พลิกแพลงมาเป็นมาลัยสลับสีเป็นมาลัยเกลียว ซ่ึงมีความสวยงามและเป็น
ลวดลายสสี นั ขนึ้
หนังสือชุดมรดกไทย “สัญลักษณ์วันแม่ ช่ือมะลิ” (มณีรัตน์ จันทนะผะลิน, 2526)ได้เขียนประวัติและ
ท่ีมาได้นามาเป็นข้ออ้างอิงโดยได้กล่าวถึงประวัติเร่ิมต้นของคนไทย ที่รู้จักการนาดอกไม้มาร้อยเป็นพวงมาลัย
ไวต้ อนหนึ่งในหนังสือ พระราชพิธสี ิบสองเดือน ดังน้ี “แตโ่ บราณสมัยก่อนกรุงสโุ ขทยั บรรพบรุ ษุ ของไทยได้คิด
ประดิษฐ์ ใบไม้ เป็นแบบต่างๆ มากมายแต่ไม่ผู้ใดจดบันทึกไว้ในอนุชนรุ่นหลังได้ค้นควา้ จนถึงสมัยสมเด็จพระ
ร่วงเจ้ามีนางนพมาศซ่ึงเป็นพระสนมเอกในสมัยน้ัน ได้จดบันทึกเรื่องราวของตนเองไว้ นางเองเป็นหญิง
นักปราชญ์ มีความรอบรู้ในพิธีการต่างๆ งานประดิษฐ์ งานฝีมือและอื่นๆ ตลอดจนมีความรู้ทางหนังสือ ด้วย
ความปรีชาสามารถของนางนพมาศ เราจึงได้มีโอกาสทราบว่า การจัดดอกไม้ของไทยมีจุดเร่ิมต้นแต่สมัยนั้น
เป็นตน้ มา”
การจัดดอกไม้คือ การนาทุกส่วนของต้นไม้ ต้ังแต่ดอกใบ ก้าน ลาต้น หน่อ เป็นต้น มาจัดแต่งให้
สวยงาม แต่ใหญ่เราใช้ใบและดอกเท่านั้น การจัดดอกไม้ให้สวยงามย่ิงข้ึน บางคร้ังจะต้องนาส่ิงอื่นมาร่วมจัด
ด้วย เช่น กระดาษ ริบบ้ิน โบ ผ้า ตัวสัตว์ มาแต่งประดับ แต่ส่ิงเหล่าน้ันจะต้องถูกเคลือบด้วยน้ายากันเปียก
ก่อนนามาใช้ การจัดดอกไม้จึงประกอบไปด้วยวัสดุ-อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ ผู้จัดดอกไม้จึงควรเรียนรู้
องค์ประกอบของการจดั ดอกไม้
5
ทฤษฎีและองค์ประกอบศลิ ป์
องค์ประกอบทสี่ าคัญเพื่อใช้ในการจดั ดอกไม้ดงั น้ี
เส้น ( Line )เสน้ ให้ความร้สู ึกไดห้ ลายอย่างตามลกั ษณะของเส้น
เสน้ แนวตัง้ ให้ความรสู้ กึ มน่ั คง จรงิ จัง เป็นสงา่
เส้นแนวนอน ให้ความรสู้ ึกสงบ น่ิงเฉย ขรมึ ผอ่ นคลาย
เสน้ โค้ง ให้ความร้สู กึ นมุ่ นวล ออ่ นหวาน
เสน้ ทแยง ให้ความรู้สกึ ไม่ม่ันคง รวดเร็วพรอ้ มปฏิบตั ิ
รปู ทรง ( From )หมายถึง รปู ร่างท่ปี รากฏให้เหน็ ชดั เจนว่าเป็นรูปทรงอย่างไรแยกเป็นลักษณะท่ีเดน่ ชัด ดังน้ี
รปู ทรงเรขาคณิต เช่น รูปทรงกลม รปู ทรงสามเหล่ียม รูปทรงสี่เหลี่ยม
รปู ทรงตัวอักษร เช่น S. L. T. U. I.
รปู ทรงอสิ ระ แล้วแต่ผจู้ ดั จะจินตนาการเอง อาจใชร้ ปู ทรงเลยี นแบบธรรมชาติ เชน่ ทรงน้าพุ ทรงนา้ ตก
หรือแตกกระจายแบบพุ
ความสมดุล ( Balance ) ความสมดุลนมี้ หี น้าท่ีใชใ้ นงานหลายอยา่ ง เราอาจแบง่ ความสมดุลนี้เปน็ 2
อยา่ งคือ
ความสมดุลแท้ คือเม่ือเราจดั ดอกไม้เสรจ็ แลว้ ลกั ษณะรูปทรงทัง้ สองข้างจะต้องเท่ากนั นอกจากน้แี ลว้
ลกั ษณะอื่น ๆ เช่นนา้ หนกั ของสแี ละชอ่ งไฟกจ็ ะเทา่ กันหรือเสมอกนั การจดั ในลกั ษณะนี้จะพบในรปู แบบ
เรขาคณิต มากกวา่ รูปทรงอิสระ
ความสมดุลไม่แท้ คือการจัดดอกไมใ้ ห้มีลักษณะรูปทรงทง้ั สองข้างแตกต่างกัน การจัดลักษณะนี้ สี รปู ทรง
รวมถึงชอ่ งไฟและจังหวะก็แตกตา่ งกนั ด้วย มกั จะเป็นการจดั แบบรปู ทรงอสิ ระ และรูปทรงเรขาคณติ บางทรง
เช่น ทรงสามเหล่ียมมมุ ฉาก และทรงสามเหลี่ยมดา้ นไมเ่ ท่า
6
สดั สว่ น(Proportion)
สดั สว่ นในการจัดดอกไม้หมายถงึ สัดส่วนที่เหมาะสมกบั ภาชนะหรือสถานที่ตลอดจนการเลอื กใช้
ดอกไม้และใบไมไ้ ด้สัดส่วนท่เี หมาะสมกนั ถอื ว่าเปน็ การจัดดอกไม้ท่ีสมบรู ณ์
สาหรับหลกั เกณฑใ์ นการวัดสัดส่วนทเี่ ปน็ มาตรฐานและนยิ มใชก้ ันทว่ั ไปคือ
ภาชนะทรงสงู ใชห้ ลกั ใหค้ วามสูงของดอกไมเ้ ป็นหน่ึงเท่าครึ่งถงึ สองเทา่ ของความสงู ของภาชนะน้นั
ภาชนะทรงเตย้ี ใชค้ วามกว้างของปากภาชนะบวกความสูงเป็นเกณฑค์ วามสูงเป็นเกณฑ์ความสูง
ของดอกไมเ้ ทา่ ครงึ่ ถงึ สองเท่า
ความกลมกลนื ( Harmony )หมายถึงความกลมกลนื กนั ในองค์ประกอบของศิลปท์ ม่ี ีอยู่ทว่ั ๆ ไป ได้แก่ สี
เส้น ความสมดุล สัดสว่ น จงั หวะท้งั หมดน้ีต้องมคี วามกลมกลนื กนั จงึ จะทาให้จัด ดอกไม้ได้สวยงาม
ชอ่ งวา่ ง (Space ) เปน็ ศลิ ปะทมี่ ีความสาคญั ในการจัดดอกไม้ ถ้าปลอ่ ยให้มีชอ่ งว่างมากเกนิ ไป กจ็ ะดูไมง่ าม
หรือถา้ เบียดกนั แน่นมากเกินไปจะรูส้ ึกอึดอดั ทาให้เสียองค์ประกอบที่ดีทางศลิ ป์ไปได้ จงึ ตอ้ งดชู ่องว่างหรือ
ช่องไฟให้เหมาะสมด้วย
จังหวะ ( Rhythm )ในการจัดดอกไม้ จงั หวะคอื การจัดวางดอกไมล้ งในภาชะหรอื รปู ทรงใหไ้ ด้องคป์ ระกอบ
ตา่ ง ๆ เชน่ เสน้ สี และรปู ทรงในการจดั ดอกไม้นน้ั เป็นอย่างไร เชน่ มคี วามรู้สึกต่อเนอ่ื งของดอกไม้ หรอื
การกระจายของดอกไม้ เป็นตน้
แมส่ ี คือ สีทน่ี ามาผสมกันแล้วทาให้เกิดสีใหม่ ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากสีเดมิ
แมส่ ี มือยู่ 2 ชนิด คอื
1. แม่สีของแสง เกิดจากการหกั เหของแสงผา่ นแท่งแก้วปริซึม มี 3 สี คอื สี
แดง
สเี หลือง และสนี ้าเงนิ อยู่ในรูปของแสงรงั สี ซง่ึ เป็นพลงั งานชนิดเดียวท่ีมสี ี
คณุ สมบตั ิของแสงสามารถนามาใช้ ในการถ่ายภาพ ภาพโทรทศั น์ การจดั แสงสี
ในการแสดงตา่ ง ๆ เปน็ ต้น (ดูเร่ือง แสงสี )
2. แม่สีวัตถธุ าตุ เป็นสีท่ีได้มาจากธรรมชาติ และจากการสงั เคราะหโ์ ดย
กระบวน
ทางเคมี มี 3 สี คือ สแี ดง สเี หลอื ง และสนี ้าเงนิ แมส่ วี ัตถุธาตุเปน็ แม่สที ี่นามาใชง้ านกนั อย่างกวา้ งขวาง ใน
วงการศิลปะ วงการอุตสาหกรรม ฯลฯ
แมส่ ีวตั ถธุ าตุ เมื่อนามาผสมกนั ตามหลักเกณฑ์ จะทาใหเ้ กดิ วงจรสี ซ่ึงเป็นวงสี
ธรรมชาติ เกิดจากการผสมกันของแมส่ วี ตั ถุธาตุ เปน็ สหี ลกั ที่ใชง้ านกันทั่วไป ใน
วงจรสี จะแสดงสง่ิ ต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้
วงจรสี ( Colour Circle)
สีขนั้ ที่ 1 คือ แมส่ ี ได้แก่ สีแดง สเี หลอื ง สีนา้ เงนิ
สีข้ันที่ 2 คอื สที เ่ี กิดจากสีขน้ั ที่ 1 หรอื แมส่ ผี สมกันในอัตราสว่ นทเี่ ท่ากัน จะทาให้เกิดสีใหม่ 3 สี ไดแ้ ก่
7
สีแดง ผสมกบั สเี หลอื ง ได้สี ส้ม
สีแดง ผสมกบั สนี ้าเงิน ได้สมี ่วง
สเี หลือง ผสมกบั สนี ้าเงนิ ไดส้ เี ขยี ว
สีข้ันที่ 3 คือ สีที่เกิดจากสีขั้นที่ 1 ผสมกบั สีขั้นที่ 2 ในอัตราสว่ นทเี่ ท่ากัน จะ
7 สี และ
สีเยน็ 7 สี ซง่ึ แบ่งที่ สมี ่วงกับสีเหลอื ง ซึง่ เป็นไดท้ ้ังสองวรรณะ
สตี รงข้าม หรือสีตดั กัน หรือสีคู่ปฏิปักษ์ เป็นสีท่มี ีค่าความเขม้ ของสี
ตดั กันอยา่ ง
รนุ แรง ในทางปฏิบัติไมน่ ยิ มนามาใชร้ ว่ มกัน เพราะจะทาให้แตล่ ะสไี ม่
ไดส้ ีอ่นื ๆอีก 6 สี คือ
สีแดง ผสมกบั สสี ม้ ได้สี สม้ แดง
สแี ดง ผสมกับสมี ว่ ง ไดส้ ีม่วงแดง
สีเหลือง ผสมกับสเี ขียว ได้สีเขียวเหลือง
สีน้าเงิน ผสมกบั สเี ขียว ได้สเี ขียวน้าเงนิ
สีนา้ เงนิ ผสมกบั สมี ว่ ง ได้สีม่วงนา้ เงนิ
สีเหลอื ง ผสมกบั สีสม้ ไดส้ ีส้มเหลอื ง
วรรณะของสี คือสีที่ใหค้ วามรูส้ ึกรอ้ น-เยน็ ในวงจรสีจะมสี ีรอ้ น
สดใส
เท่าทค่ี วร การนาสตี รงขา้ มกันมาใช้ร่วมกนั อาจกระทาได้ดังน้ี
1. มีพื้นทขี่ องสหี นง่ึ มาก อกี สหี น่งึ น้อย
2. ผสมสอี ืน่ ๆ ลงไปสีสใี ดสีหนึง่ หรอื ทั้งสองสี
3. ผสมสตี รงข้ามลงไปในสีทง้ั สองสี
3. ผสมสตี รงขา้ มลงไปในสีทงั้ สองสี
สีกลาง คอื สีทเ่ี ขา้ ได้กบั สีทุกสี สกี ลางในวงจรสี มี 2 สี คอื สนี า้ ตาล กบั สีเทา
สีนา้ ตาล เกดิ จากสีตรงข้ามกนั ในวงจรสผี สมกัน ในอัตราสว่ นทเ่ี ท่ากัน สนี า้ ตาลมี
คณุ สมบตั ิสาคัญ คือ ใช้ผสมกบั สอี น่ื แล้วจะทาให้สีนนั้ ๆ เข้มข้นึ โดยไมเ่ ปลย่ี น
แปลงค่าสี ถา้ ผสมมาก ๆ เข้ากจ็ ะกลายเปน็ สนี ้าตาล
สเี ทา เกิดจากสีทุกสี ๆ สใี นวงจรสผี สมกนั ในอัตราส่วนเท่ากัน สีเทา มีคุณสมบตั ิ
ที่สาคัญ คอื ใชผ้ สมกับสอี ่ืน ๆ แลว้ จะทาให้ มดื หมน่ ใชใ้ นสว่ นทเี่ ปน็ เงา ซงึ่ มีนา้ หนัก
อ่อนแก่ในระดบั ตา่ ง ๆ ถ้าผสมมาก ๆ เข้าจะกลายเปน็ สีเทา
8
องคป์ ระกอบของใบความรู้
หน่วยที่ 2เร่ืองความหมายของดอกไมแ้ ละลกั ษณะของดอกไม
ใบงานท่ี 2ความหมายของดอกไม้และลกั ษณะของดอกไม
รหสั วิชา 3400-0013 ช่ือวิชาการจัดดอกไมเ้ บ้อื งต้นหนว่ ยกติ ( ชัว่ โมง ) 1-4-3
จดุ ประสงค์
จดุ ประสงค์ท่ัวไป
- เพือ่ ให้มีความรู้ความเขา้ ใจความหมายของดอกไม้และลักษณะของดอกไม้
สมรรถนะทีพ่ ึงประสงค์
1. สามารถอธิบายความหมายของดอกไม้และลกั ษณะของดอกไม้
2. อธบิ ายความแตกต่างของดอกไมช้ นิดตา่ ง ๆได้
รายการสอน
1. ความหมายของดอกไมแ้ ละลักษณะของดอกไม้
2. แยกประเภทของดอกไม้ตา่ งๆได้
ความหมายของดอกไมช้ นิดตา่ ง ๆ
ดอกไม้เป็นสื่อแสดงความรู้สึกของผู้ให้ต่อผู้รับ ดอกไม้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ บอกถึงความหมายอยู่
ในตัวของดอกไม้เอง ดังนัน้ การจดั ดอกไม้จงึ ควรใชด้ อกไม้ใหเ้ หมาะสมกันโอกาส
ดอกบัว (Lotus)ดอกบัวจัดเป็นราชินีแห่งไม้น้า ดอกบัวเกิด
ในน้า เติบโตในน้า แน่น้าไม่เกติดดอกบัว เปรียบกับผู้ปฏิบัติ
ธรรม ไม่ติดอยู่ในตระกูล ในหมู่คณะ ในลาภยศ สรรเสริญ สขุ
และในปจั จัยเคร่ืองบริโภคทั้งหลาย ตลอดจนไม่ติดอยู่ในกิเลส
ท้งั มวล
9
ดอกกุหลาบ (Rose)ดอกกุหลาบจัดเป็นราชินีแห่งดอกไม้บนบก ดอก
กุหลาบใช้แทนความรักท่ีเด็ดเด่ียว ทรนง หนามกุหลาบ หมายถึง
อุปสรรคขัดขวางซ่ึงผู้มีความรักจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคท้ังมวล เพื่อให้ได้
ดอกกหุ ลาบท่ีงดงามนั้นมาไว้ในครอบครองด้วยความภาคภูมิ สีของดอก
กุหลาบแต่ละสีให้ความหมายที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้มอบให้ควรจะได้
เลือกใช้สเี หมาะสมกบั โอกาส
ดอกกุหลาบสีแดง หมายถึง ความรักท่ีบริสุทธ์ิ เปรียบเสมือนเลือด
เน้ือท่ีอยู่ในกายของผู้มอบให้ ต่อผู้ที่ตนรัก จึงนิยมใช้ในโอกาส
ครบรอบวันแตง่ งาน วันแหง่ ความรกั ซ่ึงกนั และกัน
ดอกกุหลาบสีเหลือง หมายถึง ความรักท่ีห่วงหาอาทรซึ่งกัน
และกัน แสดงถึงความปรารถนาดี ต้องการใหส้ ขุ ภาพแข็งแรง มี
ความสุขสดชืน่ จงึ นิยมใช้เย่ียมเยียนผ้ชู ่วย
ดอกกุหลาบสีขาว หมายถึง ความรักที่ซื่อ สดใส สะอาด
บริสุทธ์ิ นิยมใช้เพื่อแสดงความรักท่ีจริงใจของตนเอง เช่น
ผู้ใต้บังคับบัญชามอบให้เจ้านาย ศิษย์มอบให้ครูบาอาจารย์ ลูก
มอบใหพ้ อ่ แม่
10
ดอกมะลิ (Jasmine)หมายถึง ความบริสุทธิ์และสูงส่ง เหมาะ
สาหรับผูท้ ีค่ วรบูชาหรือใช้บชู าสงิ่ ศักดสิ์ ทิ ธ์ิที่นา่ นบั ถอื
ดอกซ่อนกลิ่น(Tuberose)ดอกซ่อนกลิ่นเป็นดอกไม้ที่มีกล่ิน
หอมรุนแรง และเป็นดอกไม้ท่ีคนไทยในสมัยโบราณนิยมใช้จัด
หน้าศพ เน่ืองจากสมัยก่อน ยังไม่มีการฉีดยาศพกัน ดังน้ัน เพื่อ
เป็นการอาพรางกล่ิน จึงจาเป็นต้องเสาะหาดอกไม้ท่ีมีกล่ินหอม
รุนแรงมากๆมาจดั เพือ่ ซุกซอ่ นกลิน่ อันไม่พึงปรารถนา
ดอกเบญมาศ (Chrysanthemum)ดอกเบญมาศเป็นดอกไม้
ที่มีสีสันสดใส และมีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสาหรับนาไป
ใช้ในงานท่ีต้องการความทนทานเป็นพิเศษ เช่น การนาไป
ตกแต่งรถบุพชาติ หรอื ประดับหนา้ งานพธิ การต่างๆ
ดอกคาร์เนชน่ั (Carnation)จัดเปน็ ดอกไมท้ ี่มีสีคราสสิคซ่ึงเป็น
สีที่ชาวต่างประเทศช่ืนชอบ ดังน้ันจึงเห็นได้ว่า ช่อดอกไม้มือถือ
และเข็มกลัดติดเส้ือจะนิยมใช้ดอกคารเ์ นชนั่ กนั มาก
ดอกเยอบีร่า (Yerbira)ดอกเยอบีร่าเป็นดอกไม้ที่มีสัญลักษณ์ชูช่อโด
เด่น ปราดเปรียวและสง่างาม แต่มีสีสันอ่อนหวาน เปรียบเสมือนสาว
งามที่มีความม่ันใจในตัวเอง ดอกเยอบีร่า จึงมักนามาใช้ประดับใน
สถานท่ี ท่ีมบรรยากาศเป็นแบบสมัยใหม่และสง่างาม หรืออาจนามา
ประดับผมเจา้ สาว หรือมวยผมของหญงิ สาวในชดุ ราตรี
11
ดอกแกลดิโอลัส (Gladiolus)ดอกแกลดิโอลัสเป็นสัญลักษณ์
ของ ความลุ่มหลง ถ้าได้รับดอกแกลดิโอลัส จากใคร แสดงว่า
เขาคนน้ันต้องการ สารภาพว่ากาลังหลงใหลคล่ังไคล้คุณอยู่
อย่างจรงิ จงั
ดอกทานตะวัน (Sunflower)ดอกทานตะวันเป็นดอกไม้แทน
ความ หย่ิงทะนง ไมน่ ิยมมอบดอกไมน้ ใ้ี หแ้ กก่ ัน
ดอกการ์ดิเนยี (Gardenia)ดอกการ์ดิเนยี หรอื ดอกพดุ ฝรั่ง เปน็
ดอกไม้แห่งความโชคดีมีชัย หากต้องการแสดงความปราถนาดี
หรือ อยากอวยพรให้ผู้ใดประสบโชคดี ก็ควร มอบดอกไม้นี้
ให้แก่เขา
ดอกทวิ ลปิ (Tulip) หมายถึง ความสงา่ งาม เหมาะสาหรับมอบ
ให้กับผู้ทอ่ี ยูใ่ นฐานะแหง่ การยกยอ่
12
ลักษณะของดอกไมแ้ ละลกั ษณะของดอกไม้
การท่ีคนเราจะจัดดอกไม้ได้อย่างสวยงามน้ัน ควรจะศึกษาเรื่องของลักษณะของดอกไม้ แต่ละแบบ
สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 4 ชนดิ ดว้ ยกัน คือ
ดอกไม้เป็นช่อเป็นแนว (Line Flower)คือ ดอกไม้ซ่ึงเป็นดอกหรือกลุ่มช่อดอก ที่เรียงข้ึนไปตามความยาว
ของก้านดอก มกั จะมรี ปู ทรงท่ดี เู ป็นเส้นแนว เช่น ดอกประทมุ มา แกลดิออลัส ล้นิ มังกร ฯลฯ
ดอกแกลดิโอลสั ( GLADIOUS ) อีลมี รู สั ( EREMURUS )
ดอกสร้อยทอง ( SOLIDAGO ) ดอกไลอาทรสี ( LIATRIS )
13
ดอกไม้กลีบซ้อน (Mass Flowers)คือดอกไม้ดอกเดี่ยวมีกลีบดอกมากและดูมีน้าหนัก ดอกไม้ประเภทนี้
สามารถจัดวางเพื่อสร้างความสมดุลใหน้ ้าหนักสายตา และเมือ่ นามาจบั กลมุ่ รวมกันกจ็ ะเปน็ จุดอ่อนของการจัด
ได้เช่น ดอกเบญจมาศชนดิ กลบี ลา และชนิดกลบี ซอ้ น
ดอกเบญจมาศ ( Chrysanthemum ) ดอกบานชืน่ Zinnia
ดอกรักเร่ ( DAHLIA )
ดอกไม้ท่ีมีรูปทรงเด่นชัด (Form Flowers)ดอกไม้พวกนี้มักมีกลีบไม้มาก แต่เห็นรูปทรงได้ชัดเจน เช่น ลิลล่ี
ทิวลิป กุหลาบ คารเ์ นช่นั ดอกกระเจียว เบิร์ดออฟพาราไดซ์ กลว้ ยไมค้ ทั รียา หนา้ วัว เป็นต้น และด้วยลักษณะ
ดอกเดน่ ของฟอร์มฟลาวเวอร์ จึงมักจะถกู วางใหเ้ ป็นจดุ เด่นของการจดั
ดอกหน้าววั 14
ดอกลลิ ่ี
ดอกแคทรยี า ( Cattleya )
ดอกไม้แต่งเติม (Filler Flowers)คือดอกไม้กลีบที่มีรูปลักษณะเป็นดอกเล็กๆ แระรายเป็นกลุ่มช่อ เช่น ยิบ
โซฟิลล่า แอสเตอร์ คัตเตอร์ เดซ่ี สแตตีส แคสเปียร์ ฯลฯ ใช้สาหรับแต่งเติมในการจัดเพ่ือเพ่ิมรายละเอียดใน
การจัด แตห่ ากใช้มากเกินไปจะทาให้ดรู กรุงรัง
15
ดอกสแตติส (Statice) ดอกแคสเปยี (Caspia)
ดอกยิปโซ (Gypso) ดอกคตั เตอร์ (Cutter)
16
ลักษณะของใบไม้
ใบไม้ท่ีใช้ในการจัดดอกไม้ ถือได้ว่าเป็นส่วนสาคัญเช่นกันจะชว่ ยเสริมแต่งแจกันดอกไม้สมบรู ณ์ยิ่งขึ้น ใบไม้ท่ี
นามาใช้ในการจัดดอกไม้ ซ่ึงมีอยู่กลายชนิดด้วยกัน เช่น ก่ิงหลิว ทางหมาก ใบซานาดู ใบหมากผู้หมากเมีย ใบ
เฟิรน์ มะขาม ใบโปรง่ ฟ้า
ใบหลิวสที อง ใบทางหมาก
ใบเฟิรน์ มะขาม ใบซานาดู
17
องค์ประกอบของใบความรู้
หน่วยที่3 เรอื่ งหลกั การเลือกซ้อื และการดแู ลรกั ษาดอกไม้
ใบงานท่ี 3 เรื่อง หลกั การเลือกซื้อและการดูแลรักษาดอกไม้
รหัสวิชา 3400-0013 ชื่อวิชา การจดั ดอกไมเ้ บื้องตน้ หนว่ ยกติ ( ชั่วโมง ) 3 (5)
การเลอื กดอกไม้ใบไมไ้ ดล้ กั ษณะทดี่ ี
การเลือกดอกไม้ใบไม้ได้ลักษณะที่ดีเหมาะสมกับแบบการจัดและประโยชน์ใช้สอยเป็นการลดภาระ
การเตรียม และการดูแลรักษาที่ต้องพิถีพิถันมาก ช่วยให้ชว่ ยประหยัดเวลา แรงงาน และเงิน กล่าวโดยสรุปวา่
การเลอื กซอ้ื ดอกไม้ ใบไมต้ ้องดใู ห้ดอกไม้ ใบไมม้ ีลักษณะของดอกสดและแข็งแรง
หลกั การเลอื กซอ้ื ดอกไม้สด
ดอกไมท้ เ่ี ราไดซ้ ื้อมาใช้กันนัน้ จะตดั จากตน้ ในเวลาเช้า และนามาแชน่ ้าใหอ้ ่ิมตัว บางชนดิ จะตอ้ งเพิ่มความ
ยดื หยุ่นขณะขนส่ง โดยการทาใหส้ ลดลง หลังจากนน้ั จะนามามัดรวมเปน็ กาหุ้มหอ่ ดว้ ยกระดาษหรือพลาสติก
และสุดทา้ ยคือการนาจัดส่งตลาดเพ่อื กระจายสูร่ ้านค้ายอ่ ยต่อไป
จะเหน็ ได้วา่ กวา่ ดอกไม้จะมาถงึ มือของผจู้ ดั จรงิ ๆนน้ั จะผ่านมาหลายขนั้ ตอนจึงมักจะเกิดความบอบชา้ ฉะนน้ั
เราจงึ จาเป็นตอ้ งทาความเขา้ ใจถึงสภาพดอกไมว้ ่าถ้าเราต้องการซื้อดอกไม้เราจะต้องสงั เกตจากอะไรบ้าง
ก้าน จะต้องไมเ่ น่า โดยกา้ นจะต้องไมผ่ ่านการแช่นา้ มาเป็นเวลานาน
จนกระทง่ั มีกลิน่ เหม็น
ใบ จะต้องไม่เหย่ี วช้าและเน่า จะต้องมคี วามแข็งแรงตามสภาพของใบไมช้ นดิ
น้ันๆ
กระเปาะดอก จะต้องไม่ลบี และแห้ง เมื่อใช้มอื บบี ดูจะรู้สึกว่ากระเปาะจะแข็ง
กลีบดอก จะตอ้ งไม่ช้า ไม่เห่ยี ว และเน่า
โดยท่ัวไปดอกไม้ที่เราจะเลือกซ้ือน้ันจะต้องเลือกท่ีความสดให้มากท่ีสุดฉะน้ันจะต้องมีความรู้สึกและ
ความเข้าใจในสภาพของดอกไม้แต่ละชนิด ซึ่งย่อมจะต้องมีความแตกต่างกันออกไป นอกจากน้ันควรดูเหตุผล
อืน่ ๆ มาใช้เป็นองค์ประกอบในการเลือกซ้ือด้วย เชน่ สภาพดินฟา้ อากาศ แหลง่ เพาะปลูก และความเหมาะสม
กบั สภาพการใชง้ าน เป็นตน้
18
การดูแลรักษาดอกไมส้ ด
ปจั จุบันดอกไมเ้ ปน็ สิ่งสาคัญต่อการจดั งานตา่ งๆ เป็นอยา่ งมาก ฉะน้ันควร มคี วามรเู้ กี่ยวกับการดูแลดอกไม้ให้
มคี วามสด และสมบรู ณม์ ากที่สุดกอ่ นท่ีเราจะนาเอามาใชจ้ ดั ตกแต่งให้สวยงามต่อไป
1. Cleaningคือการดแู ลกอ่ นการแช่นา้ จะต้องทาความสะอาดก้านบรเิ วณชว่ งลา่ งทีจ่ ะต้องแชล่ งในถังนา้ โดย
การปลดิ ใบช่วงลา่ งของช่อออกใหห้ มด ซงึ่ ใบไม้เหล่านเ้ี มอ่ื อัดกันแนน่ ๆ จะทาให้เกดิ ก๊าซเอทธลิ ีนท่ี มีผลทาให้
ก้านดอกไมแ้ ละน้าทีแ่ ช่ดอกไม้เกดิ การเน่าเสียได้งา่ ย
2. Cutting under waterคือการตัดก้านดอกไม้ดว้ ยมีดมีคมๆ ใตน้ า้ นะไปแชใ่ นถังนา้ ทีจ่ ัดเตรียมไวใ้ ห้ สว่ น
นา้ ที่ใช้แชด่ อกไมน้ จ้ี ะมปี ริมาณ และลกั ษณะทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไป ดงั น้ี
- ถ้าต้องการใหบ้ านเรว็ ใหแ้ ช่นา้ อุ่น และมปี ริมาณนา้ มาก เช่น ดอกลลิ ล่ี ดอกกุหลาบ ดอกยปิ
โซฟิลลา เปน็ ตน้
- ถา้ ตอ้ งการให้บานช้า ใหแ้ ชน่ ้าธรรมดาและมปี ริมาณน้านอ้ ย
- ถา้ ต้องการให้บานสมบรู ณ์ และมกี า้ นท่แี ข็งแรงมากๆ ควรแชน่ า้ อนุ่ ที่ผสมอาหารดอกไมใ้ นปรมิ าณ 0.5
ช้อนชาตอ่ นา้ 5 ลติ ร
3. Conditioning out of refrigerationคือเมือ่ เราแชด่ อกไมใ้ นถังน้าเรยี บร้อยแลว้ ควรนาถงั ดอกไมว้ างไว้
ในบริเวณท่ีมี อุณหภูมปิ รกติประมาณ 1-3 ช่ัวโมง เพื่อให้ดอกไมม้ ีการปรับสภาพตัวเองเสยี ก่อนจากน้นั จึงนา
เอาไปแชใ่ นตู้เยน็ สาหรับแช่
19
การพื้นตวั ของดอกไม้
ดอกไม้หรือใบไม้ทจ่ี ดั สง่ มาตามรา้ นค้าตา่ งๆ ทีจ่ ะนาไปใช้งานตอ่ ไป ต้องผ่านการบรรจุหบี ห่อ ทมี่ กั จะ
ขาดน้า เพื่อเพิม่ ความสะดวกในการขนส่ง เมื่อต้องการจะใช้งานตอ้ งชว่ ยใหด้ อกไม้ฟื้นตัวเร็ว และมีการ
เจรญิ เติบโตอยา่ งสมบูรณต์ อ่ ไป
1. กลว้ ยไมช้ ่อชนดิ ตา่ งๆ จะต้องตัดกา้ นและนาไปแชน่ ้าท้ังชอ่ ประมาณ 10-15 นาที หลังจากน้ันใหน้ าขนึ้ ไป
แชใ่ นน้าปรกติ แต่ถา้ ดอกของกล้วยไม้แชอ่ ยู่ในนา้ นานจนเกินไป จะทาใหก้ ลบี ดอกมสี ภาพช้านา้ ซ่งึ จะลด
ปรมิ าณความทนลงมาก
2. ดอกบัว ในสมัยกอ่ นมีการช่วยให้ดอกบวั ฟ้ืนตัวเรว็ ด้วยกรรมวิธีต่างๆ มากมายหลายวิธีดว้ ยกันแต่ในปัจจุบนั
ปรมิ าณการใช้ดอกบัวมีเพิ่มมากขึน้ แตด่ อกบัวเปน็ ดอกท่ีค่อนขา้ งเหยี่ วเร็ว และจะดูดน้าข้นึ ไปเล้ยี งดอกได้
คอ่ นข้างชา้ ฉะนั้นเม่ือซ้ือดอกบัวมาแล้ว ใหต้ ดั ก้านแชใ่ นนา้ เย็นหรือนา้ ท่ผี สมนา้ แข็ง แต่จะตอ้ งใช้น้าปรมิ าณ
มากๆ หลังจากนัน้ ใหใ้ ชพ้ ลาสติกคลุมดอกบวั ไว้ใหม้ ดิ ชดิ เพื่อป้องกันลมทจ่ี ะมากระทบดอกทาใหเ้ กดิ การดาเร็ว
กว่าปกตบิ างทา่ นอาจใช้ผ้าคลุมดอกบวั แทนพลาสติก แต่การคลุมดว้ ยผ้ามีผลทาใหค้ วามชน้ื จากดอกบวั และ
จากน้าท่แี ช่ดอกบวั ระเหยไปอย่างรวดเร็ว ทาให้ดอกบัวไม่เกิดความสดช่ืนเทา่ ทีค่ วร เราควรแช่ดอกบัวให้อิ่มน้า
โดนใชเ้ วลาอย่างน้อยคร่งึ ชว่ั โมงจงึ จะจาดอกบัวไปพับในแบบต่างๆ แต่ถ้าดอกบัวยงั ไมอ่ ิ่มนา้ แลว้ นาไปพบั จะ
ทาใหก้ ลีบดอกบวั ดาเร็ว กว่าปรกตแิ ละเมือ่ พับแลว้ ใหน้ ามาจดั ลงในภาชนะได้นา้ สารส้มจะช่วยล้างยางทเ่ี กิด
จากการพับกลบี ดอกบัวทาให้ดอกบัวดาชา้ กว่าปรกติ
20
เม่อื จดั ดอกบวั เสรจ็ แลว้ เรียบแล้ว แตย่ งั ไมน่ าไปใชง้ าน ใหใ้ ชพ้ ลาสตกิ คลมุ กนั ลม และเก็บความชน้ื ของดอกบัว
ทาใหม้ คี วามสดชนื่
3. ดอกคริสซานติมัม หรือที่คนไทยเรียกวา่ "มัม" เมอ่ื เปิดหอ่ ออกใหป้ ลิดใบช่วงล่างออก แต่ถ้าเน่อื งจาก
ดอกไมช้ นดิ นจี้ ะมใี บท่ีเห่ียวเร็วมาก ถ้าต้องการใหด้ อกไม้ชนิดนอ้ี ยูท่ น จะตอ้ งปลิดใบออกให้หมดท้ังชอ่
หลังจากนน้ั ใหต้ ดั ก้านดว้ ยมดี คมๆ แต่คริสซานมมั เปน็ ดอกไม้ท่ีจัดอยู่ในประเภทกา้ นแขง็ จึงทาให้ดดู น้าได้ยาก
จากตอ้ งทุบปลายก้านใหแ้ ตกเลก็ น้อย ลา้ งบรเิ วณท่ีทุบให้สะอาด หลงั จากนน้ั ให้เอาน้าเทราดหรือพรมท้ังช่อ
และนาไปแชน่ ้าในถังน้าทีม่ ีปริมาณนา้ ไม่มากนัก เพราะถา้ น้ามากจะทาให้กา้ นเนา่ เรว็ ควรใชน้ ้าปริมาณน้อย
แตต่ ดั ก้านเปลีย่ นน้าบ่อยๆ ซ่ึงจะทาให้ดอกครสิ ซานมัมสามารถเจริญเติบโตไดอยา่ งสมบรู ณ์ที่สดุ
4. ดอกกุหลาบ เป็นดอกไม้ที่ต้องการนา้ ปรมิ ารมากกวา่ ดอกไมช้ นดิ อ่ืนๆ จะต้องปลดิ ใบและหนามบรเิ วณชว่ ง
ล่างของก้านออก เอานา้ ราดบริเวณใบ ส่วนบริเวณดอกไม้ไมค่ วรราดหรือพรมนา้ เพราะน้าจะทาให้ดอก
กหุ ลาบบานเรว็ กวา่ ปรกติ และท่ีสาคญั คนไทยไมค่ ่อยนยิ มดอกกหุ ลาบท่ีบาน หลังจากนนั้ ใหต้ ดั กา้ นในน้าดว้ ย
มีดคมๆนาไปแชน่ า้ ทผี่ สมอาหารดอกไม้ไว้เรียบร้อยแลว้
21
5. ดอกเยอรบ์ ีร่า เป็นดอกไม้ประเภทกา้ นอ่อนจะสามารถดดู นา้ ไดป้ ริมาณมาก เมื่อเราตัดกา้ นแช่น้าก็จะดดู น้า
มากจนเกนิ ไป ทาให้กา้ นแตกและเน่าได้ง่ายฉะนนั้ เม่ือซ้ือดอกเยอรบ์ รี า่ มา จะสงั เกตได้ว่า สวนทีป่ ลกู จะใชว้ ิธี
ถอนมาขาย ไมไ่ ด้ใชว้ ิธีตัดมาขาย เมอ่ื เราได้รบั มาไม่ต้องตัดกา้ น และข้อสาคัญไม่ควรสเปรยน์ ้าที่บริเวณดอก
ของเยอร์บรี ่า เพราะความช้นื จะทาให้เกิดเช้อื ราขึ้นได้ง่าย
6.ดอกยิปโซฟิลลา เป็นดอกไมจ้ าพวกไมเ้ ลก็ ๆฝอยๆ เม่ือซ้ือมาให้กระจายออกมาจากกนั โดยการคว่าชอ่ ลง
ค่อยๆจบั ช่อเขยา่ ให้แยกจากกัน ปลิดใบออกให้หมด จบั มารวมชอ่ กันใหม่อกี ครงั้ หอ่ ดว้ ยกระดาษหรือพลาสตกิ
ตัดก้านและแช่ในน้าอุ่น เพื่อช่วยใหด้ อกยปิ โซฟลิ ลาบานได้อย่างสมบูรณ์ ข้อสาคญั ที่ควรรู้คอื หา้ มนาดอกยปิ
โซฟิลลาไปแชร่ วมกับดอกไม้ตระกลู ครสิ ซานมมั เพราะครสิ ซานมัมจะมสี ารไซยาไนที่มผี ลทาใหด้ อกยิปโซฟลิ
ลาแห้งเรว็ กวา่ ปรกติ นอกจากนน้ั จะต้องไม่ฉีดนา้ ที่บริเวณดอก เพราะดอกยิปโซฟลิ ลาจะดดู น้าไว้ ทาให้ดอกชา้
นา้ และดาเร็วกวา่ ปรกติ
22
1. องค์ประกอบของใบความรู้
2. หนว่ ยที่ 1 เร่อื งการคานวณตน้ ทุนกาหนดราคาและจัดจาหนา่ ย
3. ใบงานท่ี 1 เรอื่ งการคานวณตน้ ทนุ กาหนดราคาและจัดจาหนา่ ย
4. รหสั วชิ า 3400-0013ช่ือวชิ า การจัดดอกไมเ้ บ้อื งตน้ หน่วยกิต ( ช่ัวโมง ) 3 (5)
5. ปัจจบุ นั การเรม่ิ ตน้ ทาธรุ กิจไม่ใชเ่ รอื่ งท่ียุ่งยาก และบางธรุ กิจเพียงสั่งซ้ือสินคา้ เข้ามาแล้วขายออกไปก็
สามารถสรา้ งผลกาไรให้ผปู้ ระกอบการได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะกจิ การเจา้ ของคนเดยี วอยา่ งเชน่
ธรุ กิจออนไลน์
6. ที่มนี กั ธุรกจิ มากมายประสบความสาเรจ็ ในอาชพี นด้ี ้วยขนั้ ตอนง่าย ๆ คือ สั่งซอื้ สนิ ค้าทีน่ ่าสนใจเขา้ มา
ขายและสามารถทากาไรได้ทันที
7. นอกจากไม่ต้องใช้ทรัพยากรบุคคล และลดขัน้ ตอนการผลติ ยงั มแี หลง่ คา้ สง่ สินค้ามากมายให้เลอื ก
ลงทุน รวมถงึ ตลาดคา้ ส่งสนิ ค้าออนไลนท์ ่มี ีทง้ั สินค้าภายในประเทศและสินค้านาเข้าซ่ึงชว่ ยให้
ผปู้ ระกอบการเริม่ ตน้ ธุรกจิ ได้งา่ ยและสะดวกรวดเรว็ ย่ิงข้นึ
8. แตถ่ ึงแมจ้ ะเปน็ การทาธรุ กิจด้วยวิธีง่ายๆใช้เงินลงทุนไมม่ ากและยังมีขัน้ ตอนทไ่ี ม่ยงุ่ ยากซับซอ้ น ก็ใช่
วา่ นักธุรกิจหรือผปู้ ระกอบการทเี่ ลือกรูปแบบการลงทุนด้วยวธิ ีน้ี จะสามารถประสบความสาเรจ็ ได้
เหมอื น ๆ กัน
9. เนอื่ งจากยังมปี ัจจัยอน่ื ๆเปน็ องค์ประกอบสาคัญโดยเฉพาะ
10. “การจดั ทาบญั ชี และ การคานวณต้นทุนสนิ ค้า”
11. เพื่อกาหนดราคาขายให้ได้ผลตอบแทนคุม้ ค่าหรือได้กาไรตามเปา้ หมายทน่ี ักลงทนุ ต้องการ
12. โดยทั่วไปการเลอื กลงทุนและวิธกี าหนดราคาขายสนิ ค้าของกิจการเจ้าของคนเดยี ว ทน่ี ิยมปฏิบตั ิกค็ ือ
เลือกสินคา้ คณุ ภาพที่ราคาไม่สูงมากเม่ือนามาบวกกาไรก็ยังทาให้สนิ ค้าตวั น้นั ราคาไม่สงู มากนกั ทาให้
ขายดขี ายได้
13. หรอื ในอีกมุมหน่ึงอาจมแี นวคิดวา่ การเลอื กสินคา้ คุณภาพราคาถูกจากตลาดค้าส่งทเ่ี ป็นสินคา้ นาเขา้
ทาใหก้ าหนดราคาขายสูง ๆ เพ่อื ให้มผี ลกาไรมากขึน้
14. ตามหลกั บัญชกี ารซ้อื ถูกขายแพงไม่ใชแ่ นวทางหรือเป็นวิธปี ฏิบัติที่ช่วยให้ธุรกจิ มผี ลกาไรเสมอไป
เพราะอาจมตี ัวแปรอนื่ ๆ ทเ่ี ข้ามาทาให้สินค้าราคาถูกมีตน้ ทุนทสี่ ูงข้ึนได้ การคานวณตน้ ทุนสนิ ค้าจงึ
เปน็ ขั้นตอนสาคญั ก่อนตัดสนิ ใจลงทุนในสนิ ค้าประเภทนนั้ ๆ
15. การคานวณต้นทุนสินค้า หมายถงึ อะไร
16. คาว่า ต้นทุนสนิ ค้า หมายถึง จานวนทรัพยากรหรือค่าใช้จา่ ยที่เสียไปโดยมวี ัตถุประสงคเ์ พือ่ ให้ไดส้ ิ่ง
หนง่ึ ส่งิ ใดมา ซึง่ สว่ นใหญ่ตน้ ทุนจะแสดงอยู่ในรูปของตัวเงิน หรือสรปุ ให้เหน็ ภาพงา่ ย ๆ ต้นทุนสนิ คา้ ก็
คือมลู คา่ ของทรัพยากรที่สญู เสียไปเพื่อใหไ้ ดส้ ินคา้ หรอื บริการมาจาหนา่ ย
17. เมอ่ื ทราบความหมายของคาว่า “ต้นทนุ สินคา้ ” กจ็ ะช่วยให้ผ้ปู ระกอบการสามารถมองภาพต้นทุน
ของสนิ ค้าหรือบริการได้อย่างถูกต้องและชัดเจนยิ่งขน้ึ เพราะคาวา่ ต้นทุนไม่ใช่ตวั เงนิ ทจ่ี ่ายเฉพาะค่า
สินค้าเทา่ นน้ั แต่ยงั รวมถงึ ค่าใช้จ่ายตา่ ง ๆ ท่เี กดิ ขึ้นระหว่างการทาให้ได้มาซึง่ สินค้าเหลา่ นน้ั ด้วย
18. ระวัง! ….กาไรสูญหายเพราะค่าขนส่งและค่าใช้จา่ ยอนื่ ๆ
19. ความสาคญั ของการคานวณต้นทนุ สนิ คา้ ก่อนกาหนดราคาขาย ไม่เพียงทาใหผ้ ้ปู ระกอบการสามารถ
กาหนดรายได้หรือมผี ลกาไรจากการจาหน่ายสินค้าเท่านนั้ แต่การคานวณต้นทุนสินคา้ ยังชว่ ยให้
ผู้ประกอบการวางแผนทาให้สินค้าหรือบริการนั้นมตี น้ ทนุ ท่ีตา่ ลงไดด้ ว้ ย
23
20. การมีตน้ ทุนทีต่ ่าลงยงั เป็นกลยุทธด์ ้านการตลาดท่าใหม้ ีโอกาสสู้กบั คูแ่ ข่งทจ่ี า่ หน่ายสินคา้ ประเภท
เดยี วกันได้หลายช่องทาง เชน่ จัดกจิ กรรมดา้ นการตลาดด้วยการลดแลก แจก แถม หรือจดั โปรโมชัน่
ต่าง ๆ เพ่ือเพิ่มยอดขาย
21. สิง่ ท่ผี ปู้ ระกอบการควรระวงั และใหค้ วามสาคญั กับการคานวณตน้ ทนุ สินค้า ได้แกป่ จั จยั ที่เปน็ ตัวแปร
ทาให้ต้นทุนสนิ ค้าเพิ่มมากขนึ้ โดยที่ผปู้ ระกอบการหรอื นักธุรกิจใหม่ ๆ อาจมองข้ามหรือคาดไม่ถงึ
22. ตัวอย่างเชน่ ผปู้ ระกอบการเลือกส่งั ซื้อสนิ ค้านาเขา้ จาก alibaba.com หรอื taobao.com ซง่ึ
แนน่ อนวา่ สินค้ามรี าคาถูก แตส่ ่ิงหนึ่งที่ผปู้ ระกอบการอาจพลาดหรือคาดไม่ถงึ ก็คือเรื่องของคา่ ขนสง่
หรือคา่ ใช้จ่ายอืน่ ๆ เมือ่ นาคา่ ใช้จ่ายท่ีเกิดขึน้ มาคานวณหรอื รวมกบั ราคาสนิ คา้ อาจทาให้กาไรท่ีควร
จะได้รบั หมดไปต้ังแตย่ ังไมเ่ ร่ิมตน้ ทาธุรกจิ
23. วธิ ีคานวณต้นทนุ สินค้าอยา่ งงา่ ย ๆ
24. สาหรับการคานวณตน้ ทุนแบบง่าย ๆ ซึง่ เหมาะกับกิจการเจ้าของคนเดยี ว เชน่ ร้านคา้ ปลีก รา้ นค้าสง่
หรือร้านค้าออนไลน์ การคานวณตน้ ทุนสนิ คา้ ทีจ่ ะกลา่ วถึงตอ่ ไปนย้ี ังเหมาะสาหรบั ธรุ กิจ SME ขนาด
เลก็ ๆ ที่สามารถนาหลักการไปปรับประยุกต์ใช้ได้เช่นเดียวกนั
25. วิธีการคานวณผูเ้ ขียนขอแบ่งลักษณะต้นทนุ ออกเป็นประเภทๆ เพ่อื ให้ผปู้ ระกอบการได้เหน็ ภาพและ
ง่ายต่อการทาความเขา้ ใจ ซ่งึ การจาแนกต้นทุนจากการดาเนินงานแบ่งออกเปน็ 4 ประเภท ไดแ้ ก่
26. 1.ต้นทนุ การผลติ (Manufacturing Costs)
27. สาหรับกิจการเจ้าของคนเดียวที่ไม่ไดม้ ีการผลติ สนิ ค้า แต่เป็นวธิ ีดาเนินงานโดยการซือ้ มาและขายไป
ตน้ ทนุ การผลติ ในส่วนนหี้ มายถงึ ราคาตน้ ทุนสินคา้ ที่ไดม้ ีการตกลงซื้อขาย และยังไม่รวมถงึ คา่ ใช้จา่ ย
อื่น ๆ
28. ตวั อยา่ งเชน่ สั่งซือ้ เก้าอนี้ วดไฟฟ้าเปน็ สินค้านาเข้าจากจนี จานวน 100 ตัว จานวนเงนิ 250,000
บาท ดังนน้ั ตน้ ทุนการผลติ ต่อหน่วย ก็คอื 2,500 บาท
29. 2.ต้นทนุ เก่ยี วกับการบริหาร (Administrative Costs)
30. หากเปน็ ธุรกจิ ขนาดใหญต่ ้นทุนส่วนน้ีหมายถึงคา่ ใชจ้ ่ายเกี่ยวกบั การดาเนินงาน เงนิ เดือน และค่าจ้าง
ของพนักงาน สาหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วทด่ี าเนินงานโดยการซ้ือสินคา้ มาและขายไป
31. ตน้ ทุนเกี่ยวกบั การบริหารหมายถงึ คา่ ใชจ้ า่ ยในกระบวนการเพ่ือให้ได้มาของสนิ ค้า เชน่ คา่ ขนสง่
เฉล่ีย กก.ละ 60 บาท เก้าอหี้ นกั 20 กก.
32. ตัวอย่างเชน่ สง่ั ซือ้ เก้าอี้นวดไฟฟา้ เปน็ สินค้านาเข้าจากจนี จานวน 100 ตวั มคี า่ ใชจ้ ่ายในการขนสง่
ขนสง่ เฉลยี่ กก.ละ 60 บาท เก้าอห้ี นัก 20 กก. ดงั น้นั ตน้ ทุนการเก่ียวกบั การบริหารต่อหน่วย เท่ากับ
1,200 บาท
33. 3.ต้นทุนท่เี กี่ยวกบั การตลาด (Marketing Costs)
34. ต้นทุนสินคา้ ในส่วนนห้ี มายถึง ต้นทุนต่าง ๆ ที่ต้องการส่งเสรมิ การขาย เชน่ คา่ โฆษณาประชาสมั พันธ์
ค่านายหน้าตวั แทนขาย
35. ตวั อย่างเช่น ขายเก้าอนี้ วดไฟฟ้าเป็นสินค้านาเขา้ จากจีน ผา่ นร้านค้าออนไลน์ต้ังงบรายจ่ายคา่ โปรโมท
สนิ คา้ และค่าจดั สง่ ไวท้ ง้ั สน้ิ 30,000 บาท ดงั นน้ั ต้นทนุ เก่ยี วกับการตลาดต่อหนว่ ยเทา่ กับ 300 บาท
36. 4.ต้นทนุ ทางการเงนิ (Financial Costs)
37. หมายถงึ ตน้ ทนุ ท่ีเกดิ จากการหาเงินทนุ หรือการบรหิ ารเงินทุนของกิจการ เชน่ ค่าดอกเบี้ย (กรณกี ู้ยืม
จากแหล่งเงนิ ทนุ ) หรือค่าธรรมเนียมตา่ ง ๆ
24
38. ขน้ั ตอนการคานวณตน้ ทนุ แบบง่าย ๆ (หากไม่มีการกยู้ ืมเงินจากสถาบนั การเงินตน้ ทุนการเงนิ ในข้อนี้
ไม่มี)
39. ตัวอยา่ ง: สง่ั ซ้ือเก้าอีน้ วดไฟฟ้าเปน็ สนิ คา้ นาเข้าจากจนี ด้วยเงินทนุ ของตนเอง ดังนัน้ จงึ ไม่มตี น้ ทุน ทาง
การเงิน
40. วธิ ีคานวณตน้ ทุนเกา้ อ้นี วดไฟฟ้าสินคา้ นาเข้าจากจนี
41. 1.ราคาตน้ ทนุ ผลิต(ซื้อสินคา้ ) ราคาต่อหน่วย 2,500.-บาท
42. 2.ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ราคาตอ่ หน่วย 1,200.-บาท
43. 3.ค่าโปรโมทสนิ ค้าและค่าจดั ส่ง ราคาตอ่ หนว่ ย 300.- บาท
44. ดังนน้ั ตน้ ทุนเกา้ อ้ีนวดไฟฟ้านาเข้าจากจนี ราคาตอ่ หนว่ ย 4,000.- บาท
45. บทสรปุ
46. วิธีคานวณต้นทนุ สนิ ค้าเป็นเรื่องง่ายๆ ท่ีช่วยให้ผ้ปู ระกอบการทราบต้นทุนสินคา้ ทแ่ี ทจ้ รงิ และยงั เปน็
กลยทุ ธ์สาคญั ในการบรหิ ารจัดการเพื่อใหส้ ินค้ามตี น้ ทุนและค่าใชจ้ ่ายอ่นื ๆ ลดลง
47. จากตวั อย่างการคานวณราคาตน้ ทนุ สนิ คา้ จะเห็นสนิ ค้าบางประเภทมรี าคาซ้ือขายไม่แพงแตเ่ มื่อ
นามาบวกค่าขนส่งหรือค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ ทาให้สนิ ค้านัน้ มตี ้นทนุ ทส่ี งู มากขนึ้
48. หากไม่มกี ารคานวณราคาต้นทนุ อย่างละเอียดผลกาไรทคี่ วรจะได้รบั อาจหายไปกับค่าใช้จ่ายท่ีเกดิ ขน้ึ
ในข้ันตอนการส่ังซ้ือ ดงั น้นั การทาความเข้าใจกบั วิธกี ารคานวณต้นทนุ สนิ ค้าและการจัดทาบญั ชี
เบอื้ งต้น จงึ เป็นส่ิงสาคญั สาหรบั การลงทุนในธุรกจิ ทกุ ประเภท
25
องคป์ ระกอบของใบความรู้
หน่วยที่ 1 เร่ืองการจัดดอกไม้รูปทรงพืน้ ฐาน
ใบงานท่ี 1 เรอื่ งการจดั ดอกไมร้ ปู ทรงพื้นฐาน
รหัสวชิ า 3400-0013ชื่อวิชา การจดั ดอกไมเ้ บือ้ งตน้ หน่วยกิต ( ช่ัวโมง ) 3 (5)
รูปแบบการจัดดอกไม้
นิยมจัด 7 รปู แบบ คือ รปู ทรงแนวด่งิ ทรงกลม ทรงสามเหลยี่ มมุมฉาก ทรงสามเหล่ียมด้านเทา่ ทรง
พระจนั ทร์คว่า ทรงพระจนั ทร์เสย้ี ว ทรงตวั เอส
1. รูปทรงแนวด่ิง หรือการจดั ดอกไมส้ ดทรงตรง เป็นการจดั ดอกไมใ้ นรูปทรงกระบอกหรือทสูงตงั้
ตรง เป็นการจดั ดอกไมส้ ดขนั้ พืน้ ฐานรูปทรงเรขาคณิต มีรูปทรงเป็นทรงตรง โดยเลือกใชภ้ าชนะท่ี
รูปทรงสอดคลอ้ งกบั ทรงตรง ไดแ้ ก่ ภาชนะทรงสงู ท่ีปากแคบกวา่ สว่ นสงู หรือภาชนะทรง เตยี้ และมี
ขนั้ ตอนวิธีการปักท่ีไม่ย่งุ ยากหรือซบั ซอ้ น ดอกไมท้ ่ีนามาจดั ควรจะเป็นดอกไมข้ นาดเล็กและใชใ้ บไม้
มาเป็ นส่วนประกอบในการจัด ซ่ึงมีดอกไม้จานวนน้อยก็สามารถจัดแจกันดอกไม้ ได้อย่าง
สวยงาม การจดั ดอกไมร้ ูปทรงตรงเหมาะสาหรบั จดั วางในหอ้ งท่ีมีพืน้ ท่ีจากดั หรือในพืน้ ท่ีแคบ เป็น
การจดั ดอกไมท้ ่ีมีความเป็นเอกภาพ เป็นการฝึกทกั ษะในการเร่ิมจดั ดอกไมแ้ ละหลกั ในการทางานท่ี
ผเู้ รียนนาไปใชใ้ นการปฏิบตั ิการจดั ดอกไมส้ ดทรงตรงไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและนาไปเป็นแนวทางในการ
ประกอบอาชีพได้
26
2. การจดั ดอกไม้ทรงกลม
การจดั วางดอกไมใ้ หเ้ ปน็ รปู แบบทรงกลม มลี กั ษณะเหมือนดอกไมป้ ักพงุ่ ออกมาจากจดุ เดยี วกันและอย่ใู น
กรอบสมมุตทิ ีเ่ ป็นรูปทรงกลมรอบดา้ นสว่ นใหญ่การจดั ดอกไม้แน่นเต็ม เปน็ ที่นยิ มของนักจดั ดอกไม้เนิ่นนาน
เป็นศตวรรษมาแลว้
การจัดแบบทรงกลมที่แท้จริงตามกฎเกณฑ์เดมิ มากทส่ี ุด ดอกไมท้ งั้ หมดอย่ใู นกรอบสมมตุ ิ
รูปทรงกลมท้ังสองด้านของดไี ซนม์ ีนา้ หนกั เท่ากนั การจัดแบบทรงกลมน้ี เมื่อจดั ในภาชนะทรงแบนภาชนะ
มกั จะถกู ดอกไม้ปิดบังหมด การจดั ทรงกลมเป็นการจดั ท่ีใชด้ อกไม้มากที่สุดแบบหน่ึง
27
3. การจัดดอกไม้ทรงสามเหลี่ยมด้านเทา่ (SYMMETRICAL TRIANGLE)
เม่อื การจดั ทรงสามเหลี่ยมท้ังด้านขวาและซ้ายของพนื้ ท่ดี ูมนี า้ หนกั เทา่ กันจากเสน้ สมมุตทิ ี่อยตู่ รง
จุดกลางฐานสูงขึน้ ไป โดยท่ีดอกไมท้ ั้งสองดา้ นไมจ่ าเปน็ ต้องเหมอื นกัน หรือยู่ในระดบั ตาแหนง่ เดียวกัน
ทั้งหมด การจดั เช่นนัน้ เรียกว่าสามเหลีย่ มดา้ นเทา่
รูปทรงท่เี ป็นพน้ื ฐานจริงของทรงสามเหลย่ี มดา้ นเทา่ นั้น ด้านท้ังสามของเส้นสามเหลี่ยม
สมมตุ ิเปน็ กรอบของรปู ทรงจะมีความยาวเทา่ กนั แต่ในการปฏิบตั จิ ริงส่วนฐานมกั จะสนั้ กวา่ สองดา้ นขา้ ง
ในรปู เป็นการจดั ทรงสามเหลย่ี มด้านเท่าซึ่งทงั้ สามด้านเทา่ กันตามหลักทฤษฎีดง้ั เดิม วดั จาก
เส้นสมมตุ ซิ ึ่งเปน็ เสน้ ตง้ั จากจุดศนู ย์กลางดา้ นฐานขนึ้ ไปด้านบนสดุ และนา้ หนกั ดอกไม้ทง้ั สองข้างท่สี ายตา
มองเห็นมนี ้าหนักเท่ากัน
28
4. การจดั ดอกไมท้ รงสามเหล่ียมด้านไมเ่ ทา่ (ASYMMETRICAL TRIANGLE)
การจดั แบบทรงสามเหลี่ยมที่ด้านทั้งสองไมเ่ ทา่ กนั เป็นทรงที่ไดร้ บั ความนิยมมากเพราะมองดู
สบายตาไมเ่ ป็นพธิ ีการจนเกินไปการจัดทรงนแี้ ยกได้เปน็ สองแบบคือ
- แบบสามเหล่ียมมมุ ฉาก โดยจดั ใหด้ ้านท่ยี าวทส่ี ดุ ของสามเหล่ียมต้งั ฉากกับภาชนะ
- แบบสามเหลย่ี มด้านไม่เท่า ซึ่งมมี มุ ด้านทงั้ สามไมเ่ ท่ากัน
ในภาพเป็นการจัดแบบสามเหลยี่ มด้านไมเ่ ท่า
29
5. รูปพดั (FAN-SHAPE)
ดอกไม้ทจี่ ัดเป็นรูปพัดนนั้ ก็คอื ทรงครง่ึ วงกลมนั่นเอง ดอกไม้ทใ่ี ช้ได้ดใี นการจัดทรงนีค้ ือ
ดอกไมล้ กั ษณะเปน็ เสน้ แนวเชน่ แกลดิโอลสั ลิน้ มังกร ลอิ าทรสี สต๊อค กล้วยไมช้ อ่ เป็นต้น โดยใช้จดั เปน็
รัศมีพุ่งจากจุดศูนย์กลางดงั ลักษณะโครงสรา้ งของพัด และใช้ดอกไม้อน่ื ท่มี กั จะเปน็ ดอกไม้กลม ๆ เชน่ คาร์
เนชนั่ หรือกุหลาบ ฯลฯ เติมดา้ นในระหว่างช่องไฟของดอกทีเ่ ป็นเส้นแนว การจดั ทรงรูปพดั เปน็ ลักษณะการ
จดั ทีส่ องดา้ นเท่ากนั ทาให้เกิดความรสู้ กึ เป็นพิธีการ
ดอกกลว้ ยไม้และใบในภาพคือเส้นแนวท่ีเป็นหลักของรูปทรงในการจัดดอกบวั เตมิ ช่องไฟ
ระหวา่ งเส้นแนวของดอกกลว้ ยไม้ทาใหพ้ ้นื ทีว่ ่างสมบรู ณข์ ้ึน รูปทรงนี้นยิ มใช้ในงานพิธตี า่ ง ๆ เช่น การ
ตกแต่งโบสถ์ งานแต่งงาน และงานศพ
30
6. การจดั ดอกไม้รปู ทรงตวั เอส ( S )
การจัดดอกไมร้ ปู ทรงตวั เอส( S ) นักจัดดอกไม้นารูปทรงตัวเอส( S )มาใชใ้ นการจัดดอกไม้
โดยเรียกชอ่ื การจัดดอกไม้ทรงโค้งนวี้ ่าโค้งฮาการด์ ตามช่ือของวิคเทรผู้ค้นพบชาวอังกฤษ
เขาแนะนาใหช้ าวโลกศิลปะรู้ว่าเสน้ แนวตวั S คือเสน้ แนวแห่งความสวยงามซ่ึงการจดั ดอกไม้
ทรงนเี้ ป็นทรงพื้นฐานที่มลี ักษณะการจัดทม่ี ีการดัดแปลงอาศยั หลกั ของการออกแบบรปู ทรงไว้
ตามจนิ ตนาการเพื่อใหเ้ กิดชิน้ งานทอ่ี ่อนชอ้ ยสวยงาม
31
7. การจัดดอกไมร้ ูปทรงพระจันทรเ์ สี้ยว
การจัดดอกไม้รปู ทรงพระจันทร์เสยี้ วเปน็ รูปทรงที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนช้อยของ
ศลิ ปะในการจัดดอกไม้ซง่ึ สามารถกาหนดรูปทรงได้ตามจนิ ตนาการเปน็ พืน้ ฐานในการออกแบบ
การจัดดอกไมใ้ นขั้นต่อๆไปสามารถจัดได้ทั้งพระจนั ทร์เสี้ยวหงายและพระจนั ทร์เสย้ี วแบบคว่า
32
8.การจัดดอกไมร้ ปู ทรง สเ่ี หล่ยี มผืนผ้า Rectangular
การจัดดอกไม้ให้อยู่ในกรอบซึ่งเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม นับเป็นการจัดแบบสมัยใหม่ ซึ่งผู้จัดจะต้อง
คานึงถึงส่วนประกอบ( ในจินตนาการ) ส่ีเหล่ียมนั้น ลักษณะกของกาจัดแบบนี้เปิดโอกาสให้ผู้จัดได้ใช้
ทฤษฎีสาคัญ เส้นแนว (Line) ช่องไฟ สี และลักษณะผิวของวัสดุอุปกรณ์ มีความสาคัญในการนามารวม
กับเพอ่ื สรา้ งให้อยใู่ นรปู ทรงส่ีเหล่ยี มใหม้ ศี ลิ ปะนา่ มอง
33