การเขียนจดหมาย(โดยครูศักดิธัช ชัยลังกา)

หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

เรือ่ ง การเขียนจดหมาย

โดยครศู กั ดธิ ชั ชยั ลังกา

วดิ ีโอประกอบหนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ วดิ ีโอเนอื้ หาเพ่ิมเติม
เรื่อง การเขยี นจดหมาย วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ม.๑

รายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผสู้ อน นายศักดธิ ัช ชัยลงั กา

หนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์
เรอ่ื ง การเขียนจดหมาย

การเขียนจดหมาย เป็นการสือ่ สารโดยตรงระหวา่ งบุคคล โดยใช้ตัวหนังสือหรือข้อความแทน
การพูดจา ดังนั้น สารในจดหมายจึงต้องเป็นข้อความที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง บอกความประสงค์ของผู้ส่งสาร
ได้สมบูรณ์ตามต้องการ เพราะผรู้ บั จดหมายไม่มโี อกาสซักถามขณะทไ่ี ดร้ ับสาร ถา้ เขยี นไมช่ ดั เจนจะทำให้เกิด
ความเข้าใจคลาดเคลอ่ื น ฉะน้นั ผเู้ ขียนจดหมายจงึ ควรใชภ้ าษาท่ีถกู ตอ้ ง สละสลวย เหมาะกับระดับบคุ คลและ
กาลเทศะ รวมถงึ ตอ้ งมีมารยาทในการเขยี น

๑) รปู แบบจดหมาย
จดหมายจะมีรูปแบบท่ีกำหนดไว้ท่วั ๆ ไป ดงั น้ี

การกำหนดรูปแบบจดหมายนั้นมีเหตุผลกับอยู่ เช่น ที่อยู่ของผู้เขียน มีไว้เพื่อให้ผู้รับตอบกลับ
ได้ถูกต้อง วันที่มีไว้เพื่อให้ทราบว่าจดหมายฉบับนั้นมีมาเมื่อใด คำขึ้นต้นและลงท้ายมีไว้เพื่อให้ทราบว่า
เป็นจดหมายถึงผู้ใด และความสัมพันธ์หรือสถานภาพระหว่างผู้เขียนกับผู้รับเป็นอย่างใด การลงชื่อและ
นามสกุลทอี่ ่านได้ชดั เจน ก็ชว่ ยให้ผรู้ ับไมส่ บั สนวา่ เป็นจดหมายของผูใ้ ด

การเขียนจดหมายไม่วา่ จะเปน็ จดหมายแบบใด ควรเขียนให้กระจ่าง ชัดเจนไม่กำกวม เพื่อช่วยให้
ผู้รับจดหมายเข้าใจตรงกับผู้เขียน นอกจากนั้น ยังควรรักษาความสะอาดเรียบร้อย เลือกใช้คำให้สุภาพ

เนอ้ื หาการเขยี นจดหมาย

รายวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผู้สอน นายศกั ดธิ ัช ชยั ลงั กา

ถูกต้อง เหมาะสม สะกดคำและแบ่งวรรคตอนให้ถูกต้อง ไม่ขูดลบขีดฆ่า ควรพิมพ์หรือเขียนด้วยลายมือ
สวยงาม อ่านงา่ ย เลอื กใชห้ มกึ สสี ุภาพ เช่น ดำ หรือนำ้ เงนิ ตลอดจนเลือกกระดาษซองทีด่ ูสุภาพ

๒) ประเภทของจดหมาย

๒.๑ จดหมายส่วนตัว เป็นจดหมายที่เขยี นถงึ ผู้ท่ีเรารูจ้ ักคุ้นเคยเพื่อส่งขา่ วคราว
เลา่ เรอื่ ง ไตถ่ ามทุกขส์ ุข แสดงความรัก ความระลกึ ถงึ ความหวังดี ความห่วงใย หรือขอความชว่ ยเหลือกัน
ในระหว่างญาติ มิตร พ่อแม่ ครู อาจารย์ ภาษาที่ใช้จึงเป็นภาษาระดับกันเอง หรือที่เรียกว่า ภาษาปาก
แต่ต้องเหมาะสมกบั สถานะของบุคคล

ตวั อย่างจดหมายขอความช่วยเหลือ

หอพกั เออ้ื อารี พระราม ๒
ซอย ๑๔ เขตจอมทอง
กรุงเทพฯ ๑๐๑๕๐

๑๒ มนี าคม ๒๕๖๕

เรยี น อาจารยฟ์ องจันทร์ สขุ ย่งิ
ดิฉันขอกราบขอบพระคุณที่อาจารย์กรุณาให้ยมื หนังสือมาอ่านกอ่ นสอบทำให้ได้คะแนนดี ดิฉันเขียน

จดหมายมาเพราะมีปญั หาเรื่องการเรียนที่โรงเรียนใหม่ เกี่ยวกับเรือ่ งการเลือกกิจกรรมเสริมเพราะตดั สินใจ
ไมถ่ กู ตามประสารกั พ่เี สียดายน้อง ดิฉนั ต้องการใหก้ ิจกรรมเสรมิ สอดคล้องและสนับสนุนต่อการเรียนในระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย จึงขอความกรณุ าอาจารย์ช่วยให้คำปรึกษา ถ้าอาจารยจ์ ะกรณุ าวนั เสาร์ที่ ๒๘ มนี าคม
นี้ เวลา ๑๐.๐๐ น. ดฉิ นั จะขอไปกราบอาจารยท์ บ่ี า้ น คงจะไมเ่ ปน็ การรบกวนอาจารย์จนเกนิ ไปนะคะ

สำหรับวนั นีด้ ิฉนั ขอจบจดหมายเพยี งเท่านี้กอ่ น อาจารยโ์ ปรดระมัดระวังรักษาสขุ ภาพดว้ ยนะคะ

ด้วยรักและเคารพอยา่ งสงู
วรรณศรี ชอ้ นเงนิ

เนื้อหาการเขยี นจดหมาย หน้า ๒

รายวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผู้สอน นายศักดิธชั ชัยลงั กา

๒.๒ จดหมายกิจธุระ เป็นจดหมายระหวา่ งบคุ คลตอ่ บุคคลทต่ี ดิ ตอ่ สื่อสารกันด้วย
กิจธุระ เช่น การติดต่อสอบถาม การบอกขายหรือแจ้งรายการสินค้า การเตือน การทวงถาม การแจ้ง
ข่าวสาร หากเป็นจดหมายกิจธุระท่ีตดิ ต่อสื่อสารระหว่างบริษทั ห้างร้าน องค์กรต่าง ๆ เรียกว่า จดหมาย
ธุรกิจจะใชภ้ าษาระดับก่ึงทางการ

ตวั อยา่ งจดหมายติดตอ่ สอบถาม โรงเรยี นพอเพยี ง ถ.ลาดยา ต.ในเวียง
เรียน บรรณาธกิ ารหนงั สอื พิมพม์ ติชน อ.เมอื ง จ.อบุ ลราชธานี ๓๔๐๐๐

๑๒ มนี าคม ๒๕๖๕

ผมเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนพอเพียง จ.อุบลราชธานี ผมติดตามอ่านหนังสือพมิ พ์
มตชิ นเป็นประจำทุกวัน ทราบข่าววา่ สำนักพิมพจ์ ัดอบรมวิชาชีพต่าง ๆ จึงมีความสนใจมาก แต่เน่ืองจากผม
เปน็ คนตา่ งจังหวดั และจะมเี วลาว่างในช่วงปิดเทอมจงึ ขอทราบข้อมูล ดงั นี้

๑. ชว่ งระยะเวลาปิดภาคเรียนจะการอบรมท่ีใด เมื่อใด
๒. หลักสตู รท่ีเก่ียวขอ้ งกับงานโลหะมกี เ่ี รอื่ ง เร่อื งใดบ้าง
๓. ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าใด
๔. ผมอย่ตู า่ งจงั หวัด ขอคำแนะนำเกีย่ วกบั สถานท่พี ักด้วย
หวังวา่ ท่านคงจะกรุณาให้ข้อมูลแก่ผมซ่งึ มีความสนใจจะนำความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมระหว่างเรียน
ขอขอบพระคณุ มา ณ โอกาสน้ี

ขอแสดงความนบั ถอื
สมชาย มิตรไทย
เดก็ ชายสมชาย มติ รไทย

เนอื้ หาการเขียนจดหมาย หน้า ๓

รายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผู้สอน นายศักดธิ ชั ชัยลังกา

๓) เนื้อหาสาระ เนื้อหาสาระของจดหมายย่อมแตกต่างกันไปตามประเภทของจดหมาย เนื้อหา
สาระของจดหมายส่วนตัวมกั เลา่ ความเป็นไปและไต่ถามทกุ ข์สุข เนื้อหาอาจสั้นหรือยาวสุดแท้แต่ว่าต้องการ
จะเล่าเรื่องราวมากนอ้ ยเพยี งใด จดหมายสว่ นตวั ยาว ๆ อาจมีหลายย่อหน้า แตล่ ะยอ่ หน้าจะเล่าเรื่องราวแยก
เป็นประเด็น ๆ ชัดเจน ส่วนเนื้อหาสาระของจดหมายกิจธุระต้องแสดงวัตถุประสงค์ที่แน่นอนว่า เขียนขึ้น
เพื่ออะไร จดหมายกิจธุระโดยมากจึงมักมี ๒ ย่อหน้า ย่อหน้าแรกบอกสาเหตุที่ทำให้ต้องเขียนจดหมาย
ส่วนย่อหนา้ ทส่ี องบอกวตั ถุประสงคว์ ่าตอ้ งการให้ผรู้ ับจดหมายปฏบิ ตั ิอยา่ งไร

๔) การเลือกใช้คำ ในการเขียนจดหมายแม้จะเป็นจดหมายที่ไม่เป็นทางการ แต่ก็พึงระวังว่า
ควรเลอื กใชค้ ำให้เหมาะสม หากพิจารณาตัวอยา่ งจดหมายทัง้ ๒ ฉบบั เป็นการขอความรู้ ผเู้ ขยี นเลือกใช้คำ
ท่แี สดงการขอร้องอยา่ งสภุ าพ เช่น ชว่ ย กรณุ า ขอความอนุเคราะห์ และขอบพระคุณ เปน็ ตน้

ผู้เขียนจดหมายพงึ ระลึกเสมอว่า การใช้ภาษาที่สุภาพนอกจากแสดงให้เห็นว่าผู้เขียนเป็นผู้ท่มี ี
มารยาทสุภาพเรียบร้อย รู้กาลเทศะแล้ว ยังทำให้ผู้รับประทับใจ ซึ่งจะส่งผลให้การสื่อสารน้ัน
ประสบความสำเร็จอกี ด้วย การเลือกใช้คำในจดหมาย มดี ังนี้

๔.๑ คำข้ึนต้นจดหมาย
คำท่ใี ชข้ ึ้นตน้ จดหมายโดยทวั่ ไปมีดงั นี้
กราบเรยี น ใช้กบั ผทู้ ี่มีอาวโุ สสูงกวา่ เช่น กราบเรียน คุณยา่
เรียน ใช้เพื่อแสดงความสุภาพโดยทั่วไป เช่น เรียน
บรรณาธิการ เรียนนายกสมาคมครูภาษาไทย
แหง่ ประเทศไทย
ถึง ใช้กับผู้ท่ีอาวโุ สออ่ นกว่าทีร่ ้จู กั ค้นุ เคย เชน่ ถงึ หลานอ้อย
สวสั ดี ใช้ระหว่างผู้ที่มีสถานภาพเท่าเทียมกัน รู้จักสนิทสนมกนั
มักใชใ้ นจดหมายส่วนตวั เชน่ สวสั ดีแตว้
การเขียนคำขน้ึ ตน้ จดหมายทีก่ ลา่ วมาน้ัน อาจเพมิ่ สว่ นขยายเพ่อื ให้สภุ าพและแสดง

ความสนทิ สนมไดอ้ กี ดว้ ย เช่น
กราบเรยี นคณุ ย่าที่เคารพรกั อย่างสงู
เรยี นคุณนา้ ทีเ่ คารพ
ถงึ นกหลานรกั
สวัสดจี ะ้ แกว้ เพื่อนรกั

เนอื้ หาการเขียนจดหมาย หน้า ๔

รายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผูส้ อน นายศกั ดธิ ัช ชัยลงั กา

๔.๒ การใช้คำสรรพนาม
คำสรรพนามบุรุษที่ ๑ โดยทั่วไปการใช้คำสรรพนามขึ้นอยู่กับความเป็นทางการ

หรือไม่เปน็ ทางการของจดหมาย และความสัมพนั ธร์ ะหว่างผู้สง่ จดหมายกบั ผู้รบั
ระดบั ทางการ
ชายใช้วา่ - กระผม ผม
หญิงใชว้ า่ - ดิฉนั
ระดบั ไมเ่ ป็นทางการ
ชายใช้วา่ - ฉัน เรา ชอ่ื เลน่ คำเรยี กญาติ
หญงิ ใชว้ ่า - ฉัน เรา หนู ช่อื เลน่ คำเรยี กญาติ
คำสรรพนามบุรุษที่ ๒ ใช้แทนคนทก่ี ำลังคนที่สนทนากับผู้ส่งสาร
ระดับทางการใชค้ ำว่า คุณ หรือ ทา่ น
ระดับไม่เป็นทางการใช้วา่ นาย เธอ ชื่อเล่น หรอื คำเรยี กญาติ

๔.๓ การใช้คำลงท้ายจดหมาย ผู้เขียนควรเลือกคำลงท้ายให้สอดคล้องกับคำขึ้นต้นตาม

ความสมั พนั ธ์ระหว่างผู้เขยี นและผู้รบั เชน่

คำขึ้นต้น คำลงท้าย

กราบเรียน...ทเี่ คารพอย่างสงู ดว้ ยความเคารพอย่างสงู

กราบมาด้วยความเคารพอย่างสูง

เรียน...ทเ่ี คารพ ดว้ ยความเคารพ

เรยี น... ขอแสดงความนบั ถือ

ถงึ ...เพอื่ นรัก, รัก, คดิ ถึง, รักและคิดถึง,

...ท่รี กั ดว้ ยความรัก, ด้วยความคดิ ถึง

สวสั ดคี รบั /คะ่ สวสั ดคี รับ/คะ่

เน้อื หาการเขยี นจดหมาย หนา้ ๕

รายวชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผู้สอน นายศักดธิ ชั ชยั ลงั กา

๔.๔ การใช้คำตามระดับภาษา
ระดับภาษา หมายถึง ถ้อยคำที่สัมพันธ์กับสถานะของบคุ คล โอกาสและกาลเทศะ

ที่ใช้ในการสื่อสาร ระดับภาษาที่ใช้ในการเขียนจดหมายอาจแบ่งได้เป็น ๓ ระดับ คือ ภาษาไม่เป็นทางการ
ภาษากง่ึ ทางการ และภาษาทางการ ดังตวั อยา่ ง

ภาษาไม่เปน็ ทางการ ภาษาก่ึงทางการ ภาษาทางการ
อยาก ตอ้ งการ ประสงค์
พบ พบ
เจอะ, เจอ เรยี นเชญิ เรียนเชิญ
เชิญ
กราบเรยี นเชญิ
แยะ, เยอะ, เยอะแยะ มาก จำนวนมาก
แปบ๊ เดียว, เดยี๋ วเดียว, ประเดี๋ยว สักคร่,ู ไม่นาน สักครู่, ไมน่ าน

แค่ เพียง เพยี ง
หน่อยเดยี ว น้อย, ไมม่ าก ไม่มาก
นำไป
เอาไป นำไป เมือ่ , คร้นั
พอ เม่อื เชน่ นี,้ เปน็ ดังนี้
ยังง้ี อย่างนี้ เชน่ เดียวกนั
เหมอื นกนั เช่นเดยี วกัน ขอเรียนให้ทราบว่า
ขอเตือนวา่ ขอเรียนใหท้ ราบว่า ผูใ้ ด
ใคร ผู้ใด ท่ใี ด
ท่ีไหน ทใี่ ด แบบใด
แบบไหน แบบใด สิง่ ใด, อนั ใด
อะไร ส่งิ ใด, อนั ใด ภรรยาพอ่ คา้ ขายเสอ้ื ผา้
ตนุ๋ เมยี พอ่ คา้ ขายเสอ้ื ผ้า แฟนพอ่ คา้ ขายเสือ้ ผา้ ถูกหลอก ถกู คนร้ายหลอก
กรณุ อย่ายนื่ แขน
อยา่ ย่ืนแขนออกไปนอกรถ อย่ายนื่ แขนออกไปนอกรถนะ ออกไปจากรถครับ/ค่ะ
แมค่ ้าขายผลไม้
แมค่ า้ ขายผลไมโ้ ดนย่ีป๊วั ตุ๋น แมค่ ้าขายผลไมถ้ กู ยีป่ ั๊วหลอก ถูกพ่อคา้ คนกลางหลอก

เน้อื หาการเขยี นจดหมาย หน้า ๖

รายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผู้สอน นายศกั ดธิ ัช ชัยลงั กา

๔.๕ คำนำหนา้ นาม
เม่ือเขยี นจดหมายต้องเขียนชอื่ และนามสกุลของผูร้ ับให้ถูกตอ้ ง นอกจากนี้ยงั ตอ้ งใช้

คำนำหน้านามของบุคคลให้ถูกต้องเหมาะสมด้วย คำนำหน้านาม หมายถึง คำที่นำหน้าชื่อเฉพาะบุคคล
ใช้แสดงชาติกำเนิด เพศ วัย อาชีพ ตำแหน่ง และความยกย่องอื่น ๆ ที่ได้รับจากสังคม การใช้คำนำหนา้ นาม
ต้องคำนึงถึงความถูกต้องตามกฎหมาย ความเหมาะสมแก่กาลเทศะและความนิยมในสังคมด้วย
คำนำหน้านามแบง่ ได้ ๓ กลุ่ม ดังนี้

๔.๕.๑ คำนำหนา้ นามตามฐานะของบุคคล
๔.๕.๑.๑ บุคคลธรรมดา ตั้งแต่เกิดจนถงึ อายุ ๑๔ ปี จะใช้คำนำหน้านาม

วา่ เดก็ หญงิ หรือเดก็ ชาย ตามเพศของเดก็ ใชย้ ่อว่า ด.ญ. หรือ ด.ช. เช่น
เด็กหญิงสมสมยั รักความดี
เดก็ ชายสุภาพ หมัน่ เพียร
ด.ญ.ใจใส รธู้ รรม
ด.ช.อาจอง เกง่ การงาน

เมื่ออายุครบ ๑๕ ปี จะเปลี่ยนคำนำหน้านามจากเด็กหญิง เป็น นางสาว
ย่อว่า น.ส. และเปลี่ยนเด็กชาย เป็น นาย เมื่อผู้หญิงแต่งงานจะเปลี่ยนคำนำหน้านาม นางสาว เป็น นาง
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกฎหมายเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่ประสงค์ใช้คำนำหน้านามว่า นางสาว ใช้ต่อไปได้
แมแ้ ต่งงานแล้ว

๔.๕.๑.๒ บุคคลที่เป็นพระราชวงศ์จะมีคำนำหน้านามตามศักดิ์
เช่น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า พระองค์เจ้า หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์
หม่อมหลวง ในภาษาก่ึงทางการ คำวา่ หม่อมราชวงศ์ และ หมอ่ มหลวง อาจใชอ้ ักษรย่อว่า ม.ร.ว. และ ม.ล.
ตามลำดบั เช่น

หม่อมราชวงศค์ กึ ฤทธิ์ ปราโมช (ภาษาทางการ)
ม.ร.ว.ประกายฉตั ร สุขสวัสดิ์ (ภาษาก่ึงทางการ)
หมอ่ มหลวงจิรายุ นพวงศ์ (ภาษาทางการ)
ม.ล.กลั ยาณี จรูญโรจน์ (ภาษาก่งึ ทางการ)

เนอื้ หาการเขียนจดหมาย หนา้ ๗

รายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผ้สู อน นายศกั ดธิ ชั ชยั ลังกา

๔.๕.๒ คำนำหน้านามตามยศ
ผู้ที่เข้ารับราชการเป็นทหาร ตำรวจ จะมีคำบอกยศที่ได้รับพระราชทาน

เป็นคำนำหนา้ นาม เชน่
ยศทหารบก
จา่ สิบเอก ใชย้ อ่ วา่ จ.ส.อ.
สบิ โท ใชย้ ่อวา่ ส.ท.
รอ้ ยตรี ใช้ยอ่ ว่า ร.ต.
พนั โท ใช้ย่อวา่ พ.ท.
พลเอก ใชย้ ่อวา่ พล.อ.

ยศตำรวจ ใช้ยอ่ วา่ ส.ต.ต.
สบิ ตำรวจตรี ใช้ย่อว่า ร.ต.ต.
รอ้ ยตำรวจตรี ใช้ยอ่ ว่า พ.ต.ท.
พนั ตำรวจโท ใชย้ ่อวา่ พล.ต.อ.
พลตำรวจเอก

๔.๕.๓ คำนำหนา้ นามบอกอาชพี หรือตำแหน่ง

คำนำหน้านามที่บอกอาชีพหรือตำแหน่งมีเฉพาะบางอาชีพบางตำแหน่ง

เชน่ ตำแหนง่ ทางวิชาการของอาจารย์มหาวิทยาลยั หรอื แพทย์ เปน็ ต้น

ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ใชย้ ่อว่า ผศ.

รองศาสตราจารย์ ใช้ยอ่ ว่า รศ.

ศาสตราจารย์ ใชยอ่ วา่ ศ.

นายแพทย์ ใช้ย่อวา่ นพ.

แพทยห์ ญงิ ใชย้ ่อวา่ พญ.

นอกจากนี้ ในภาษาไทยยังใช้คำบอกอาชีพของบุคคลหรือตำแหน่งอื่น ๆ

เปน็ คำนำหน้านามไดอ้ กี คำนำหนา้ นามประเภทน้จี ะใชเ้ ฉพาะในการพูดเท่านน้ั เช่น หมอเสนอ กัปตันโยธิน

ดีเจสมเจตน์ หวั หน้าบังอร ช่างสมศักดิ์

เนือ้ หาการเขียนจดหมาย หนา้ ๘

รายวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผูส้ อน นายศกั ดธิ ชั ชยั ลังกา

๓) มารยาทในการเขยี นจดหมาย
การเขียนจดหมายเป็นรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ ที่ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้

โดยไม่จำเป็นต้องพบหน้า ประหยัดเวลา สะดวก และรวดเร็ว ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ทำให้เกิดจดหมายที่ส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (E-mail) ทำให้การสื่อสารระหว่างบุคคล
มคี วามสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขนึ้ ซึง่ ผเู้ ขียนส่อื สารด้วยจดหมายควรคำนึงอยเู่ สมอว่า ผู้รับไม่มีโอกาสซักถาม
เกี่ยวกับสิ่งที่สงสัย แต่จะตีความและเข้าใจตามเนื้อความที่ปรากฏ ดังนั้น ผู้เขียนจึงควรเขียนจดหมาย
ดว้ ยความรอบคอบ ใชภ้ าษาส่อื ความใหช้ ดั เจน ตรงไปตรงมา โดยมีหลกั การเขียน ดงั น้ี

๑. ต้องใชค้ ำขึน้ ต้น ลงท้ายให้เหมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล และเนื้อความของจดหมาย
๒. เลือกใช้สีหมึก กระดาษและซองที่เหมาะสม สุภาพ รวมถึงไม่ใช้ซองหรอื กระดาษของทาง
ราชการมาเขยี นจดหมายสว่ นตวั
๓. เขยี นให้ตรงประเด็น และควรเป็นเรอื่ งเดียวกนั กบั หวั ขอ้ ทต่ี ง้ั ไว้ เรยี บเรียงและลำดับประเด็น
ใหช้ ดั เจน บอกวัตถปุ ระสงค์ท่ีต้องการ ส่งิ ทีห่ วังจะให้ผูร้ ับปฏิบัตหิ รือดำเนนิ การ
๔. ถ้าเป็นการเขียนด้วยลายมือควรเขียนให้อา่ นง่าย ชัดเจน ตัวบรรจง ใช้ปากกาแทนการใช้
ดินสอ และรวมถงึ การรกั ษาความสะอาด
๕. ผนึกดวงตราไปรษณียากรให้ครบถ้วนตามอตั ราทีก่ ำหนดไว้ และไม่นำดวงตราไปรษณียากร
ท่ใี ช้แล้วนำกลับมาใชซ้ ้ำ
๖. จ่าหน้าซองจดหมายโดยระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ของผู้รับพร้อมรหัสไปรษณีย์ให้ครบถ้วน
และไมส่ อดสงิ่ ของมคี า่ อน่ื ใดลงในซองจดหมาย
๗. หากเป็นการส่งอีเมล ผู้เขียนจะต้องพิมพ์อีเมลแอดเดรสของผู้ที่จะส่งจดหมายไปถึงในช่อง
สำหรับผู้รับ ในกรณีที่ต้องการจะส่งอีเมลไปหาหลาย ๆ คน ในเวลาเดียวกันให้พิมพ์อีเมลแอดเดรสของคน
เหล่านั้นลงในช่อง Cc: คั่นด้วยเครื่องหมาย ; จนครบจำนวน พิมพ์ข้อความที่เป็นหัวเรื่องในช่อง Subject
และไม่ควรสง่ อเี มลแบบไม่มีหัวเรอ่ื ง
๘. ก่อนส่งจดหมาย ผู้เขียนควรอ่านทบทวนเพื่อตรวจดูการส่ือความ ความสะอาดเรียบร้อย
เป็นต้น

เนอ้ื หาการเขยี นจดหมาย หน้า ๙

รายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ๑ ท๒๑๑๐๑ ผูส้ อน นายศกั ดธิ ชั ชยั ลังกา

รายการอ้างองิ

กระทรวงศกึ ษาธิการ. (๒๕๖๔). หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทยวิวิธภาษา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑.
พิมพค์ รงั้ ที่ ๑๓. กรงุ เทพมหานคร : สกสค. ลาดพร้าว.

ฟองจนั ทร์ สุขย่งิ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนงั สือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย หลักภาษาและการใช้ภาษา
ม.๑. พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๑๑. กรุงเทพมหานคร : ไทยร่มเกล้า.

เนือ้ หาการเขียนจดหมาย หน้า ๑๐