The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มที่ 1 วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุวรรณี สมประเสริฐ, 2020-03-04 20:46:34

เล่มที่ 1 วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า

เล่มที่ 1 วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า

• เอกสารประกอบการเรียน ก

คานา

เอกสารประกอบการเรยี น ชดุ ตามรอยพุทธะ รหัส ส32201 รายวชิ าพระพุทธศาสนา โดยใช้การ
เรียนร้แู บบร่วมมอื ดว้ ยเทคนิค STAD สาหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คม
ศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ผเู้ ขียนจดั ทาขึ้นเพ่ือให้นกั เรียนใช้ประกอบการเรียนดว้ ยตนเอง เปน็ การ
ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล และขอ้ จากัดต่างๆ นักเรยี นสามารถใช้ประกอบการเรียนได้ทันที
ไมต่ ้องอาศยั อุปกรณ์อนื่ ใด สะดวก รวดเรว็ ไมจ่ ากดั สถานท่ีในการศึกษา และเพื่อให้ผเู้ รยี น มคี วามรู้
ความเข้าใจ เกิดทักษะ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้ มีทัง้ หมด 11 เล่ม ดังนี้

เล่มท่ี 1 เรื่อง วิธกี ารสอนของพระพุทธเจ้า
เล่มท่ี 2 เรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามแนวพุทธจริยา
เล่มที่ 3 เรื่อง ประวัตพิ ระอนรุ ทุ ธเถระ
เลม่ ที่ 4 เร่ือง ประวตั ิพระองคุลมิ าลเถระ
เล่มที่ 5 เรอ่ื ง ประวัติพระธมั มทินนาเถรี
เล่มที่ 6 เรอ่ื ง ประวตั ิจติ ตคหบดี
เลม่ ที่ 7 เรื่อง ประวัติสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
เล่มที่ 8 เรอ่ื ง ประวัติพระธรรมโกษาจารย์ พทุ ธทาสภกิ ขุ
เล่มที่ 9 เรอ่ื ง ประวัติพระธรรมโกศาจารย์ ปัญญานันทภกิ ขุ
เลม่ ท่ี 10 เรือ่ ง ประวตั ิ ดร.เอ็มเบดการ์
เล่มท่ี 11 เร่อื ง ชาดก
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการเรียน ชุดตามรอยพุทธะ รหัส ส32201 รายวิชา
พระพุทธศาสนา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5
จะเป็นประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน ให้มีคุณภาพสามารถนา ส่ิงท่ีเรียนมาปรับใช้ให้
เหมาะสมกับโอกาส เวลา สถานท่ี ซ่ึงจะเกดิ เป็นการเรยี นรอู้ ย่างยง่ั ยืน

นางวลยั รตั น์ ยง่ิ ดานุ่น

• เอกสารประกอบการเรยี น ขก

สารบัญ หนา้

เรือ่ ง ก
คานา ข
สารบญั ค
สารบัญรูปภาพ 1
ส่วนประกอบของเอกสารประกอบการเรียน 2
คาช้แี จงสาหรบั ครู 3
บทบาทครู 4
คาช้ีแจงสาหรบั นักเรียน 5
การประเมินผล 6
แผนภูมิการใช้เอกสารประกอบการเรยี น 7
วัตถปุ ระสงค์ของการทาเอกสารประกอบการเรยี น 7
ผลการเรยี นรู้ 8
คาอธบิ ายรายวชิ า 9
แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง วธิ กี ารสอนของพระพุทธเจ้า 11
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอื่ ง วิธกี ารสอนของพระพุทธเจ้า 12
ใบความรู้ เรอ่ื ง วธิ ีการสอนของพระพุทธเจ้า 25
กจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า 26
กิจกรรมท่ี 2 เรื่อง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า 28
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า 30
กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลังเรียน เร่อื ง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า

สารบญั (ตอ่ ) • เอกสารประกอบการเรยี น ข

เรอ่ื ง หนา้

เฉลยกจิ กรรมที่ 1 เรือ่ ง วธิ ีการสอนของพระพุทธเจา้ 31
เฉลยกิจกรรมที่ 2 เรอ่ื ง วธิ ีการสอนของพระพุทธเจา้ 32
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง วิธีการสอนของพระพทุ ธเจา้ 34
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง วิธกี ารสอนของพระพทุ ธเจา้ 36
บรรณานุกรม 38
แบบประเมนิ 39
แบบสังเกตพฤติกรรม 42
รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบสงั เกตพฤติกรรม 43

• เอกสารประกอบการเรยี น ค

สารบัญรปู ภาพ หน้า
19
เรอื่ ง

ภาพประกอบ : พระธรรมทูตชดุ แรก

• เอกสารประกอบการเรยี น 1

สว่ นประกอบของเอกสารประกอบการเรียน

เอกสารประกอบการเรียน ชุดตามรอยพุทธะ รหัส ส32201 รายวิชาพระพุทธศาสนา โดยใช้การ
เรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม
ศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เอกสารประกอบการเรียนเล่มที่ 1 เร่ือง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า
มีส่วนประกอบดังนี้

1. คมู่ อื ครู ประกอบดว้ ย
1.1 คาชี้แจงสาหรับครู
1.2 บทบาทครู
1.3 สิง่ ท่คี รตู อ้ งเตรยี ม

2. คู่มือนกั เรียนประกอบด้วย
2.1 ใบคาช้ีแจง
2.2 เนอ้ื หาท่จี ะเรียน

3. ส่อื การเรียนและอปุ กรณก์ ารเรียน ประกอบดว้ ย
3.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน
3.2 กระดาษคาตอบก่อนเรยี น
3.3 ใบความรู้
3.4 ใบกจิ กรรม
3.5 แบบทดสอบหลงั เรียน
3.6 กระดาษคาตอบหลังเรียน

• เอกสารประกอบการเรียน 2

คาช้ีแจงสาหรบั ครู

ศึกษาขั้นตอนในการใช้เอกสารประกอบการเรียนน้ีให้เข้าใจ และปฏิบัติตามขั้นตอน
อยา่ งเครง่ ครดั

1. ครูนาเข้าสู่บทเรียนแลว้ แจ้งจดุ ประสงค์ในการเรยี นรู้
2. ครูอธิบายวิธีการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดตามรอยพุทธะ รหัส ส32201 รายวิชา
พระพุทธศาสนา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
3. อธบิ ายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเกย่ี วกับบทบาทของนกั เรยี น
4. ครูให้นักเรียนท่ีไม่เข้าใจได้ซักถามเก่ียวกับวิธีการเรียน ข้ันตอนการใช้เอกสารประกอบการ
เรยี นหรอื บทบาทของนกั เรยี นเอง ตลอดจนข้อขอ้ งใจ
5. ก่อนเรียนใช้เอกสารประกอบการเรียนแต่ละชุด ต้องให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน
และครูแจ้งคะแนนแก่นักเรียนทุกคน โดยนาคะแนนมาคิดเป็นร้อยละ และให้แต่ละคนบันทึกคะแนน
ของตนเองไว้
6. ขั้นนาเข้าสู่บทเรียนให้เป็นหน้าท่ีของครูผู้สอนเป็นผู้นาเข้าสู่บทเรียน โดยนักเรียนมีส่วนร่วม
ในการทากิจกรรม
7. ให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามเวลาทกี่ าหนดให้อย่างเคร่งครดั
8. นักเรียนช่วยกันสรุปส่ิงที่เรียนมา โดยครูเป็นเพียงที่ปรึกษาคอยแนะนาเมื่อนักเรียนมีปัญหา
ของความช่วยเหลอื เทา่ น้ัน
9. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที และต้องตรวจกระดาษคาตอบ
ทนั ที เพ่ือให้นักเรียนทราบคะแนนเพ่อื พฒั นาตนเอง
10. นักเรียนได้ 5-10 ข้อ ถือว่าผ่านเกณฑ์ ส่วนนักเรียน ได้ 0-4 ข้อ ถือว่า ไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีระบไุ ว้
ครูควรหาเวลาให้นักเรียนกลับไปศึกษากิจกรรมน้ันๆ ใหม่ แล้วทาแบบทดสอบหลังเรียนให้ผ่านเกณฑ์ที่
กาหนดไว้

• เอกสารประกอบการเรียน 3

บทบาทครู

ส่งิ ทค่ี รูควรปฏิบตั กิ อ่ น หลงั และขณะใช้เอกสารประกอบการเรียน มีดงั นี้
1. ครูควรศึกษาวิธีใช้เอกสารประกอบการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนวิธีการเรียนรู้
แบบรว่ มมือ โดยใช้เทคนิค STAD การวดั และประเมนิ ผลใหเ้ ข้าใจ
2. ครคู วรค้นคว้า และอา่ นเน้ือหาท่เี ก่ียวข้องเพ่ิมเติม
3. ครูควรเตรยี มการสอนล่วงหนา้ เตรยี มสถานที่ สอื่ การสอนต่างๆ ตลอดจนวัสดอุ ปุ กรณ์อ่ืนๆ ที่
ไมไ่ ด้จดั ไว้ในเอกสารประกอบการเรยี นให้พร้อมก่อนท่ีจะใช้
4. การจดั หอ้ งเรยี น อาจเปล่ยี นแปลงไดต้ ามความเหมาะสม
5. ครูควรดูแลตรวจส่ืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในเอกสารประกอบการเรียนให้เรียบร้อยก่อนหลัง
การใชง้ านทกุ ครง้ั
6. ครคู วรใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นทุกคร้ัง
7. ขณะท่ีนักเรียนทากิจกรรมครูควรดูแลอย่างใกล้ชิดถ้าเกิดปัญหาในการเรียนจะได้ให้ความ
ชว่ ยเหลอื ทันที รวมท้งั อธิบายข้อสงสัยในการเรยี นเปน็ รายบคุ คล
8. ครคู วรไมค่ วรพดู เสยี งดัง ขณะนักเรียนใช้เอกสารประกอบการเรียน หากมกี ารอธบิ ายเพิ่มเติม
ครูควรอธิบายเป็นรายบุคคล ต้องไม่รบกวนการทากิจกรรมของนักเรยี นยกเว้นกรณีนักเรียนมขี ้อสงสยั
9. หลังการเรียนและสรุปบทเรียนแล้ว ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนทุกครั้ง ในเอกสาร
ประกอบการเรียน

• เอกสารประกอบการเรยี น 4

คาช้ีแจงสาหรบั นักเรียน

1. เอกสารประกอบการเรียน ชุดตามรอยพุทธะ รหัส ส32201 รายวิชาพระพุทธศาสนา โดยใช้
การเรยี นรแู้ บบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคม
ศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง
พทุ ธประวัติ พระสาวก ชาดก และชาวพทุ ธตวั อยา่ ง

2. เอกสารประกอบการเรยี นน้ี มเี น้อื หาเกีย่ วกบั วธิ ีการสอนของพระพุทธเจ้า
3. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นทุกครั้งและตรวจผลการทาแบบทดสอบ
4. นกั เรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียนอย่างตงั้ ใจ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตาม คาช้ีแจงและตรวจผล
การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามลาดบั ขน้ั ตอน
5. กิจกรรมการเรียนรู้ในเอกสารประกอบการเรียนจะเริ่มจากกิจกรรมที่ง่ายไปสู่กิจกรรม
ทย่ี ากข้นึ ตามลาดบั และบรู ณาการเป็นกจิ กรรมทีเ่ ชอื่ มโยงกบั ชวี ติ จริง
6. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ทบทวน พรอ้ มทง้ั สรุปความรู้ท่ไี ด้จากเอกสารประกอบการเรียน
7. ในการทากจิ กรรมขอใหม้ คี วามซื่อสัตย์ต่อตนเองและต่อผู้อ่นื
8. เมือ่ จบกจิ กรรมการเรยี นรู้แลว้ ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น
9. ห้ามนักเรยี นขดี เขียนขอ้ ความใดๆ ลงไปในเอกสารประกอบการเรยี น

• เอกสารประกอบการเรยี น 5

การประเมินผล

1. ประเมนิ ผลจากการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน และหลงั เรยี น
2. ประเมินจากผลงานนักเรยี นในการปฏบิ ัติกิจกรรมจากใบกิจกรรม
3. สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น
4. ประเมนิ ผลจากการทาแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น

• เอกสารประกอบการเรียน 6

แผนภมู กิ ารใช้เอกสารประกอบการเรยี น

เอกสารประกอบการเรียน ชุดตามรอยพุทธะ รหัส ส32201 รายวิชาพระพุทธศาสนา โดยใช้
การเรยี นร้แู บบรว่ มมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคม
ศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม

แบบทดสอบก่อนเรยี น

ขน้ั ท่ี 1 การเสนอบทเรยี นต่อทั้งชน้ั (class presentation)

ขน้ั ท่ี 2 การเรียนกลมุ่ ยอ่ ม (team study)

ขนั้ ท่ี 3 การทดสอบ (test) ไม่ผ่าน
ซอ่ มเสรมิ
ข้ันท่ี 3 คะแนนความก้าวหนา้ ของสมาชิกแตล่ ะคน
(individual improvement scores)

ขนั้ ท่ี 4 ไดร้ ับการยกย่องหรือยอมรับ (team recognition)

ผา่ น

จบ

• เอกสารประกอบการเรยี น 7

วัตถปุ ระสงค์ของการทาเอกสารประกอบการเรยี น

เอกสารประกอบการเรียน ชุดตามรอยพทุ ธะ รหัส ส32201 รายวชิ าพระพุทธศาสนา โดยใช้การ
เรียนรแู้ บบร่วมมอื ด้วยเทคนคิ STAD สาหรบั นกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคม
ศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม

1. เพ่ือสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการ
เรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรอื่ ง วิธีการสอนของพระพุทธเจา้

2. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมีเอกสารประกอบการเรียนไวศ้ ึกษาค้นควา้ หาความรูด้ ว้ ยตนเอง
3. เพือ่ ใช้เอกสารประกอบการเรยี นในการสอนซ่อมเสรมิ นักเรียนทขี่ าดเรียนหรือเรยี นไมท่ ันเพือ่ น
4. เพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนรายวิชาสังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง วิธีการสอนของ
พระพุทธเจ้า เพอื่ ให้นักเรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้นึ

ผลการเรียนรู้

มีความรู้ความเข้าใจ พุทธประวัติ ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา ชาดก ชาวพุทธตัวอย่าง
และสามารถนาคณุ ธรรมที่ไดไ้ ปเปน็ แบบอย่างในการดาเนินชีวติ

• เอกสารประกอบการเรยี น 8

คาอธิบายรายวิชา

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สร้างความคิดรวบยอด นาภูมิปัญญาท้องถ่ิน สภาพปัญหาชีวิต
สภาพแวดลอ้ ม เขา้ มาเป็นสว่ นหนึง่ ของกระบวนการเรียนรู้ เพ่อื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจ ตระหนกั และเห็น
คุณคา่ ในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้

พระพุทธ เกี่ยวกับประวัติและความสาคัญของพระพุทธศาสนา เรื่อง ลักษณะประชาธิปไตยใน
พระพุทธศาสนา หลักการของพระพุทธศาสนากับหลักวิทยาศาสตร์ พระพุทธศาสนาเน้นการฝึกหดั อบรม
ตน การพึ่งตนเอง และการมุ่งอิสรภาพ การคิดตามนัยแห่งพระพุทธศาสนาและการคิดแบบวิทยาศาสตร์
พุทธประวตั ิ วเิ คราะหพ์ ทุ ธประวตั ิ ดา้ นการสอน และการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาตามแนวพุทธจริยา ชาดก
เรือ่ ง มโหสธชาดก

พระธรรม เก่ียวกับ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เรื่อง พระรัตนตรัย (วิเคราะห์ความหมาย
และคุณค่าของธรรมะ) อริยสัจ ๔ ทุกข์ (ธรรมท่ีควรรู้) : ขันธ์ ๕ - โลกธรรม ๘, สมุทัย (ธรรมที่ควรละ) :
กรรมนิยาม-กรรม ๑๒ มิจฉาวณิชชา ๕, นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ) : วิมุตติ ๕, มรรค (ธรรมท่ีควรเจริญ) :
อปริหานิยธรรม ๗ ปาปณิกธรรม ๓ ทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม ๔ โภคอาทิยะ ๕ อริยวัฑฒิ ๕ มงคล
๓๘ ในเรือ่ ง เมื่อถูกโลกธรรมจิตไมห่ ว่ันไหว จิตไมเ่ ศรา้ โศก จิตไม่มวั หมอง จิตเกษม พุทธศาสนสุภาษิต คอื
ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธน (คนขยันเอาการเอางาน กระทาเหมาะสม ย่อมหาทรัพย์ได้) วา
เมเถว ปุรโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา (เกิดเป็นคนควรจะพยายาม จนกว่าจะประสบความสาเร็จ) สนฺตุฏฺฐี
ปรม ธน (ความสันโดษเปน็ ทรพั ย์อย่างย่ิง) อิณาทาน ทุกฺข โลเก (การเปน็ หนเ้ี ป็นทกุ ข์ในโลก) พระไตรปิฎก
วิเคราะห์การสังคายนาและการเผยแผ่พระไตรปิฎก เรื่องน่ารู้จากพระไตรปิฎก คนครองเรือนท่ีร้ายและท่ี
ดี ๑๐ ประเภท ศพั ท์ทางพระพทุ ธศาสนา คือ โพธปิ ักขิยธรรม วาสนาบารมี

พระสงฆ์ เกี่ยวกับประวัตพิ ุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า ไดแ้ ก่ พระอนุรทุ ธะ พระองคุลิมาล พระธัมมทิน
นาเถรี และจิตตคหบดี ชาวพุทธตัวอย่าง ได้แก่ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธ
ทาสภิกขุ) พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทะภกิ ข)ุ และดร.เอ็มเบดการ์

เพ่ือใหเ้ กิดศรัทธาอย่างยิ่งต่อพระรัตนตรยั และรกั การเรียนรู้พระพุทธศาสนา ประพฤติปฏิบัติตน
เป็นพุทธศาสนิกชนท่ดี ีมีคุณธรรม จริยธรรมในการอยูร่ ่วมกันในสังคม และสามารถนาหลักธรรมไปใช้เป็น
เครอ่ื งมือ ในการเรียนรู้ การทางานอย่างมคี ุณคา่ ต่อชวี ติ ตนเองและสงั คมโดยส่วนรวม

• เอกสารประกอบการเรยี น 9

แบบทดสอบก่อนเรียน
เร่ือง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า

คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้มี 10 ขอ้ ข้อละ 1 คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน
2. ให้นกั เรยี นเขยี นเครื่องหมาย X ลงในคาตอบ ท่ถี กู ที่สุดเพยี งขอ้ เดยี ว

1. พระพุทธเจ้ามีพระนามว่าอะไร
ก. เจ้าชายเทวราช
ข. เจ้าชายสุททนะ
ค. เจา้ ชายสทิ ธิศักดิ์
ง. เจ้าชายสิทธัตถะ

2. เจ้าชายสทิ ธัตถะทรงอภเิ ษกสมรสกบั ใคร
ก. พระนางสริ มิ หามายา
ข. พระนางยโสธรา
ค. พระนางอมิตตา
ง. พระนางวิสาขา

3. อะไรเปน็ มลู เหตุแหง่ การตัดสินพระทยั ออกบวช
ก. ราชสมบตั ิ
ข. เทวทูตทง้ั 4
ค. ความเบ่อื หนา่ ย
ง. ความสขุ ส่วนพระองค์

4. การบวชของเจ้าชายสทิ ธตั ถะ เรียกว่าอะไร
ก. ตสิ รณคม
ข. ไตรสรณคม
ค. มหาภิเนษกรมณ์
ง. เอหภิ กิ ขุอปุ สัมปทา

• เอกสารประกอบการเรยี น 10

5. หลังจากผนวชแลว้ เจ้าชายสทิ ธัตถะได้ไปศึกษาทีส่ านกั ใด
ก. สานักวศิ วามติ ร
ข. สานกั ปญั จวัคคีย์
ค. สานกั ฤาษดี ดั ตน
ง. สานักอาฬารดาบส อทุ กดาบส

6. การค้นหาความจรงิ โดยวธิ ที รมานตนของเจ้าชายสทิ ธัตถะ เรียกว่าอะไร
ก. สนถกิรยิ า
ข. ทกุ กรกริ ยิ า
ค. ภาวนากิริยา
ง. การบาเพญ็ เพียร

7. ขณะบาเพ็ญทกุ กรกริ ยิ ามีใครเป็นผูเ้ ลือ่ มใสดูแล
ก. นายฉนั นะ
ข. ปญั จวัคคีย์
ค. นางวสิ าขา
ง. นางสชุ าดา

8. ใครเปน็ ผูน้ าข้าวมธปุ ายาสมาถวายเจ้าชายสิทธัตถะก่อนนง่ั บาเพญ็ ภาวนา
ก. นางสชุ าดา
ข. นางวสิ าชา
ค. นางมลั ลิกา
ง. นางภาวนา

9. เหตบุ งั เอิญใดเจ้าชายสิทธัตถะจงึ ไดร้ บั ขา้ วมธปุ ายาส
ก. เพราะผู้ถวายคดิ วา่ เป็นเทวดา
ข. เพราะเหน็ วา่ ทรงตงั้ พระทัยจริง
ค. เพราะมลี ักษณะทา่ ทางเป็นผมู้ ีบุญ
ง. เพราะคิดว่าจะต้องบาเพญ็ ไดส้ าเรจ็

10. เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงตรัสรโู้ ดยวิธใี ด
ก. เดนิ จงกรม
ข. ทกุ กรกิริยา
ค. สมถภาวนา
ง. ศกึ ษาเล่าเรียน

• เอกสารประกอบการเรยี น 11

กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน
เรื่อง วธิ กี ารสอนของพระพทุ ธเจ้า

ชอ่ื -นามสกุล ........................................................................ช้นั .................. เลขท่ี ..............
คาชี้แจง แบบทดสอบมี 10 ข้อ
คาสั่ง ใหน้ ักเรียนเลอื กคาคอบทีถ่ ูกทีส่ ุดเพยี ง 1 คาตอบ ลงในกระดาษคาตอบที่เตรยี มไว้

• เอกสารประกอบการเรยี น 12

ใบความรู้
เร่อื ง วธิ ีการสอนของพระพทุ ธเจ้า

• เอกสารประกอบการเรยี น 13

หลักท่ัวไปในการสอน แบง่ ออกเป็น 3 ด้าน\ดงั นี้

1. เกี่ยวกับเนื้อหา หรือเรื่องท่ีสอน พระพุทธเจ้าทรงมีวิธีการ
ดงั ตอ่ ไปน้ี

1.1 สอนจากสง่ิ ท่ีรเู้ ห็นเข้าใจง่าย หรอื รเู้ ห็นเขา้ ใจอยแู่ ล้ว ไปหา
สงิ่ ท่เี หน็ เข้าใจไดย้ าก หรอื ยงั ไม่รไู้ ม่เหน็ ไมเ่ ขา้ ใจ

1.2 สอนเนื้อเร่ืองที่ค่อยลุ่มลึก ยากลงไปตามลาดับข้ัน และ
ความต่อเน่อื งกนั เปน็ สายลงไป อยา่ งที่เรยี กวา่ สอนเป็นอนบุ พุ พกิ ถา...

1.3 ถ้าส่ิงท่ีสอนเป็นส่ิงที่แสดงได้ก็สอนด้วยของจริง ให้ผู้เรียน
ไดด้ ู ได้เหน็ ไดฟ้ งั เอง อย่างทีเ่ รียกว่าประสบการณต์ รง

1.4 สอนตรงเน้ือหา ตรงเรื่อง คลุมอยู่ในเร่ือง มีจุด ไม่วกวน
ไมไ่ ขวเ้ ขว ไม่ออกนอกเรือ่ งโดยไม่มีอะไรเกยี่ วข้องในเนื้อหา

1.5 สอนมีเหตุผล ตรองตามเห็นจริงได้ อย่างท่ีเรียกว่า
สนิทาน

1.6 สอนเท่าที่จาเป็นพอดี สาหรับให้เกิดความเข้าใจ ให้การ
เรียนรู้ไดผ้ ล ไมใ่ ชส่ อนเทา่ ท่ีตนรู้ หรอื สอนแสดงภูมิวา่ ผูส้ อนมีความรู้มาก

1.7 สอนสิ่งท่ีมีความหมาย ควรที่เขาจะเรียนรู้ และเข้าใจ เป็น
ประโยชน์แก่ตัวเขาเอง อย่างพุทธพจน์ท่ีว่า พระองค์ทรงมีพระเมตตา หวัง
ประโยชน์แกส่ ตั ว์ทัง้ หลาย จงึ ตรัสพระวาจาตามหลกั 6 ประการคือ

• เอกสารประกอบการเรยี น 14

1. คาพูดที่ไม่จริง ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็น
ทรี่ ัก ทช่ี อบใจของผู้อน่ื  ไมต่ รัส

2. คาพูดที่จริง ถูกต้อง แต่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นท่ี
รกั ทช่ี อบใจของผ้อู ่นื  ไม่ตรัส

3. คาพูดท่ีจริง ถูกต้อง เป็นประโยชน์ ไม่เป็นท่ีรักที่
ชอบใจของผูอ้ ่ืน  เลอื กกาลตรสั

4. คาพูดท่ีไม่จริง ไมถ่ กู ต้อง ไม่เปน็ ประโยชน์ ถงึ เป็น
ทร่ี กั ที่ชอบใจของผู้อ่ืน  ไมต่ รัส

5. คาพูดท่ีจริง ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเป็นท่ีรัก
ทช่ี อบใจของผู้อนื่  ไม่ตรสั

6. คาพดู ที่จริง ถกู ตอ้ ง เป็นประโยชน์ เปน็ ทร่ี กั ท่ีชอบ
ใจของผู้อืน่  เลอื กกาลตรสั

ลักษณะของพระพุทธเจ้าในเร่ืองนี้ คือ
ทรงเป็นกาลวาที สจั จวาที ภตู วาที อตั ถวาที
ธรรมวาที วนิ ัยวาที ครับ

• เอกสารประกอบการเรยี น 15

2. เก่ยี วกับตัวผเู้ รยี น พระพุทธเจ้าทรงมวี ิธกี ารดงั ต่อไปนี้
1.1 รู้ คานงึ ถงึ และสอนใหเ้ หมาะสมตามความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล
1.2 ปรับวิธีสอนผ่อนให้เหมาะกับบุคคล แม้สอนเร่ืองเดียวกันแต่ต่าง

บคุ คล อาจใชต้ า่ งวธิ ี
1.3 นอกจากคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลแล้ว ผู้สอนยัง

จะต้องคานึงถึงความพร้อม ความสุกงอม ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ หรือญาณ ท่ี
บาลี เรียกว่า ปริปากะ ของผู้เรยี นแต่ละบุคคลเปน็ ราย ๆ ไปดว้ ย

1.4 สอนโดยให้ผู้เรียนลงมือทาด้วยตนเอง ซ่ึงจะช่วยให้เกิดความรู้
ความเข้าใจชดั เจน แมน่ ยาและได้ผลจริง เชน่ ทรงสอนพระจูฬปนั ถก ผโู้ งเ่ ขลาด้วย
การใหน้ าผา้ ขาวไปลูบคลา

1.5 การสอนดาเนินไปในรูปท่ีให้รู้สึกว่าผู้เรียน กับผู้สอนมีบทบาท
รว่ มกัน ในการแสวงความจริง ให้มีการแสดงความคิดเหน็ โต้ตอบเสรี หลกั นเ้ี ป็นข้อ
สาคัญในวิธีการแห่งปัญญา ซึ่งต้องการอิสรภาพในทางความคิด และโดยวิธีน้ีเมื่อ
เข้าถึงความจริง ผู้เรียนก็จะรู้สึกว่าตนได้มองเห็นความจริงด้วยตนเอง และมีความ
ชัดเจนม่ันใจ หลักนี้เป็นหลักท่ีพระพุทธเจ้าทรงใช้เป็นประจา และมักมาในรูปการ
ถามตอบ

1.6 เอาใจใสบ่ ุคคลที่ควรไดร้ ับความ สนใจพเิ ศษเปน็ รายๆ ไปตามควร
แกก่ าลเทศะ และเหตกุ ารณ์

1.7 ชว่ ยเหลอื เอาใจใส่คนทด่ี ้อย ท่ีมีปญั หา

• เอกสารประกอบการเรยี น 16

3. เก่ียวกบั ตัวการสอน พระพทุ ธเจ้าทรงมีวิธกี ารดังตอ่ ไปน้ี
1.1 ในการสอนนั้น การเร่ิมต้นเป็นจุดสาคัญมากอย่างหน่ึง

การเริ่มต้นที่ดีมีส่วนช่วยให้การสอนสาเร็จผลดีเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็เป็น
เคร่ืองดึงความสนใจ และนาเข้าสู่เนื้อหาได้ พระพุทธเจ้าทรงมีวิธีเร่ิมต้นที่
น่าสนใจมาก โดยปกติพระองค์จะไม่ทรงเริ่มสอนด้วยการเข้าสู่เนื้อหาธรรมท่ี
เดียว แต่จะทรงเร่ิมสนทนากับผู้ทรงพบ หรือผู้มาเฝ้าด้วยเรื่อท่ีเขารู้เข้าใจดี
หรือสนใจอยู่

1.2 สร้างบรรยากาศในการสอนให้ปลอดโปร่ง เพลิดเพลินไม่ให้
ตึงเครียด ไม่ให้เกิดความอึดอัดใจ และให้เกียรติแก่ผู้เรียน ให้เขามีความภูมิใจ
ในตวั เอง

1.3 สอนมุ่งเน้ือหา มุ่งให้เกิดความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่สอนเป็น
สาคญั ไม่กระทบตนและผู้อน่ื ไม่มุ่งเสียดสใี ครๆ

1.4 สอนโดยเคารพ คือ ตั้งใจสอน ทาจริงด้วยความรู้สึกว่าเป็น
ส่ิงมีค่า มองเห็นความสาคัญของผู้เรียน และคาสั่งสอนน้ัน ไม่ใช้สักว่าทา หรือ
เห็นผเู้ รยี นโง่เขลา หรอื เห็นเป็นชนั้ ต่า ๆ

1.5 ใช้ภาษาสุภาพ นุ่มนวล ไม่หยาบคาย ชวนให้สบายใจ
สละสลวย เขา้ ใจง่าย

• เอกสารประกอบการเรยี น 17

เพ่ือน ๆ ครับ มีพุทธพจน์แห่งหนึ่ง ท่ีพระพุทธเจ้า
ตรสั สอนภกิ ษผุ ู้แสดงธรรมซ่ึงเรยี กกันว่า องคแ์ ห่งพระธรรม
ก็ถงึ มาแสดงไวใ้ ห้เพ่อื น ๆ ไดด้ กู ัน ดังนี้ครับ

“อานนท์ การแสดงธรรมให้คนอ่นื ฟังมใิ ช่สิ่งที่กระทาไดง้ ่าย
ผ้แู สดงธรรมแกค่ นอนื่ พึงตัง้ ธรรม 5 อย่างไว้ในใจ คือ

1. เราจักกลา่ วชแี้ จงไปตามลาดับ
2. เราจกั กลา่ วช้ีแจงยกเหตผุ ลมาแสดงใหเ้ ข้าใจ
3. เราจักแสดงดว้ ยอาศยั เมตตา
4. เราจกั ไม่แสดงด้วยเห็นแก่อามิส
5. เราจักแสดงไปโดยไม่กระทบตน และ ผอู้ ื่น”

เดีย๋ วเราตามไปดูลลี าการสอน
กันต่อเลย ครับ

• เอกสารประกอบการเรียน 18

ลลี าการสอน
คณุ ลักษณะซ่ึงเรยี กได้วา่ เป็นลลี าในการสอนมี 4 ประการดังน้ี
1. อธบิ ายใหเ้ ห็นชดั เจนแจ่มแจง้ เหมือนจูงมอื ไปดเู ห็นกับตา

(สันทสั สนา)
2. ชักจูงใจให้เห็นจริงด้วย ชวนให้คล้อยตามจนต้องยอมรบั

และนาไปปฏิบัติ (สมาทปนา)
3. เรา้ ใจให้แกล้วกลา้ บงั เกดิ กาลงั ใจ ปลุกให้มีอตุ สาหะแข็ง

ขันม่ันใจว่าจะทาให้สาเร็จได้ ไม่หวั่นระย่อต่อความเหน่ือยยาก
(สมตุ ตเตชนา)

4. ชโลมใจให้แช่มช่ืน ร่าเริง เบิกบาน ฟังไม่เบื่อ และเป่ียม
ด้วยความหวัง เพราะมองเห็นคุณประโยชน์ที่ตนจะพึงได้รับจากการ
ปฏบิ ัติ (สมั ปหงั สนา)

อาจผกู เป็นคาสั้นๆ ได้ว่า แจ่มแจง้ จูงใจ
หาญกล้า ร่าเริง หรือชี้ชัด เชิญชวน คึกคัก
เบิกบาน ก็ได้ ครับ

• เอกสารประกอบการเรียน 19

ภาพประกอบ : พระธรรมทูตชุดแรก
ที่มา : https://www.matichonweekly.com/column/article_20217

วธิ สี อนแบบตา่ งๆ
วิธีการสอนของพระพุทธเจ้ามีหลายแบบหลายอย่าง ที่น่าสังเกต หรือพบบ่อย

ได้แกว่ ธิ ตี อ่ ไปนี้
1. สนทนา (แบบสากจั ฉา)
2. แบบบรรยาย
3. แบบตอบปัญหา ท่านแยกประเภทปัญหาไว้ตามลักษณะวิธีตอบเป็น 4

อย่างคือ
3.1 ปัญหาทพ่ี งึ ตอบตรงไปตรงมาตายตวั ... (เอกงั สพยากรณียปัญหา)
3.2 ปัญหาทพี่ งึ ยอ้ นถามแล้วจงึ แก้ ... (ปฎปิ จุ ฉาพยากรณียปัญหา)
3.3 ปัญหาที่จะตอ้ งแยกความตอบ ... (วภิ ชั ชพยากรณียปญั หา)
3.4 ปญั หาท่ีพงึ ยบั ย้ังเสยี (ฐปนยี ปัญหา)
ได้แก่ ปัญหาท่ีถามนอกเร่ือง ไร้ประโยชน์ อันจักเป็นเหตุให้เขว ยืดเย้ือ

ส้ินเปลืองเวลาเปล่า พึงยับยั้งเสีย แล้วชักนาผู้ถามกลับเข้าสู่แนวเร่ืองท่ีประสงค์
ต่อไป

4. แบบวางกฎข้อบังคับ เม่อื เกดิ เรอื่ งมภี กิ ษุกระทาความผดิ อยา่ งใดอย่างหนึ่ง
ข้ึนเป็นครัง้ แรก

• เอกสารประกอบการเรยี น 20

กลวิธี และอบุ ายประกอบการสอน
กลวิธีและอบุ ายของพระพทุ ธเจ้าในการสอน มดี งั ต่อไปน้ี
1. การยกอุทาหรณ์ และการเล่านิทานประกอบ การยกตัวอย่างประกอบ

คาอธิบาย และการเล่านิทานประกอบการสอนช่วยให้เข้าใจความได้ง่าย และชัดเจน
ชว่ ยใหจ้ าแมน่ ยา เหน็ จริง และเกิดความเพลดิ เพลนิ ทาใหก้ ารเรียนการสอนมรี สยิง่ ข้ึน

2. การเปรียบเทียบด้วยข้ออุปมา คาอุปมาช่วยให้เรื่องท่ีลึกซึ้งเข้าใจยาก ปรากฏ
ความหมายเด่นชัดออกมา และเข้าใจง่ายข้ึน โดยเฉพาะมักใช้ในการอธิบายส่ิงที่เป็น
นามธรรม หรือแม้เปรียบเรื่องที่เป็นรูปธรรมด้วยข้ออุปมาแบบรูปธรรม ก็ช่วยให้ความ
หนักแน่น เข้าการใช้อุปมาน้ีน่าจะเป็นกลวิธีประกอบการสอนท่ีพระพุทธองค์ทรงใช้มาก
ทส่ี ุด มากกวา่ กลวิธีอ่ืนใด

3. การใช้อุปกรณ์การสอน ในสมัยพุทธกาล ย่อมไม่มีอุปกรณ์การสอนชนิดต่างๆ
ท่ีจัดทาขึ้นไว้เพ่ือการสอนโดยเฉพาะเหมือนสมัยปัจจุบัน เพราะยังไม่มีการจัดการศึกษา
เป็นระบบข้ึนมากอย่างกว้างขวาง หากจะใช้อุปกรณ์บ้างก็คงต้องอาศัยวัตถุส่ิงของท่ีมีใน
ธรรมชาติ หรอื เครือ่ งใช้ตา่ งๆ ทผี่ คู้ นใช้กันอยู่

4. การทาเป็นตัวอย่าง วิธีสอนท่ีดีท่ีสุดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะในทางจริยธรรม คือ
การทาเป็นตัวอย่าง ซ่ึงเป็นการสอนแบบไม่ต้องกล่าวสอน เป็นทานองการสาธติ ให้ดู แต่ท่ี
พระพทุ ธเจ้าทรงกระทานัน้ เปน็ ไปในรูปทรงเปน็ ผูน้ าทดี่ ี การสอนโดยทาเปน็ ตวั อยา่ ง กค็ ือ
พระจรยิ วัตรอนั ดงี ามทีเ่ ป็นอยโู่ ดยปกตินน้ั เอง แต่ท่ที รงปฏบิ ัติเปน็ เรอ่ื งราวเฉพาะก็มี

• เอกสารประกอบการเรยี น 21

5. การเล่นภาษา เลน่ คา และใชค้ าในความหมายใหม่ การเลน่ ภาษาและการเล่น
คา เป็นเร่ืองของความสามารถในการใช้ภาษาผสมกับปฏิภาณ ขอ้ นีก้ เ็ ป็นการแสดงให้เห็น
ถึงพระปรีชาสามารถของพระพุทธเจ้าท่ีมีรอบไปทุกด้านแม้ในการสอนหลักธรรมทั่วไป
พระองค์ก็ทรงรับเอาคาศัพท์ที่มีอยู่แต่เดิมในลัทธิศาสนาเก่ามาใช้ แต่ทรงกาหนด
ความหมายใหม่ ซ่ึงเป็นวิธีการช่วยให้ผู้ฟังผู้เรียนหันมาสนใจ และกาหนดคาสอนได้ง่าย
เพียงแต่มาทาความเข้าใจเสียใหม่เท่าน้ัน และเป็นการช่วยให้มีการพิจารณาเปรียบเทียบ
ไปในตัวด้วยว่าอย่างไหนถูก อย่างไหนผิดอย่างไร จึงเห็นได้ว่า คาว่า พรหม พราหมณ์
อริยะ ยัญ ตบะ ไฟบูชายัญ ฯลฯ ซ่ึงคาในลัทธิศาสนาเดิมก็มีใช้ในพระพุทธศาสนาด้วย
ทั้งสนิ้ แตม่ คี วามหมายต่างออกไปเป็นอยา่ งใหม่

6. อุบายเลือกคน และการปฏิบัติรายบุคคล การเลือกคนเป็นอุบายสาคัญในการ
เผยแพร่ศาสนา ในการประกาศธรรมของพระพุทธเจ้า เร่ิมแต่ระยะแรกประดิษฐาน
พระพุทธศาสนา จะเห็นได้ว่าพระพุทธเจ้าทรงดาเนินพุทธกิจด้วยพระพุทโธบายอย่างท่ี
เรียกว่า การวางแผนที่ได้ผลย่ิง ทรงพิจารณาว่าเม่ือจะเข้าไปประกาศพระศาสนาในถิ่นใด
ถิน่ หนึ่งควรไปโปรดใครกอ่ น

7. การรู้จักจังหวะ และโอกาส ผู้สอนต้องรู้จักใช้จังหวะ และโอกาสให้เป็น
ประโยชน์

8. ความยืดหยุ่นในการใช้วิธีการ ถ้าผู้สอนสอนอย่างไม่มีอัตตา ตัดตัณหา มานะ
ทิฏฐิเสียให้น้อยท่ีสุด ก็จะมุ่งไปยังผลสาเร็จในการเรียนรู้เป็นสาคัญ สุดแต่จะใช้กลวิธีใดให้
การสอนได้ผลดีทีส่ ดุ ก็จะทาในทางน้นั ไมก่ ลัววา่ จะเสยี เกียรติ ไมก่ ลัวจะถูกรูส้ ึกว่าแพ้

• เอกสารประกอบการเรียน 22

9. การลงโทษ และให้รางวัล การใช้อานาจลงโทษ ไม่ใช้การฝึกคนของพระพุทธเจ้า
แม้ในการแสดงธรรมตามปกติพระองค์ ก็แสดงไปตามเน้ือหาธรรมไม่กระทบกระท่ังใคร การ
สอนไม่ต้องลงโทษ เป็นการแสดงความสามารถของผู้สอนด้วยในระดับสามัญ สาหรับผู้สอน
ท่ัวไปอาจต้องคิดคานึงว่าการลงโทษควรมีหรือไม่ แค่ไหน และอย่างไร แต่ผู้ที่สอนคนได้
สาเรจ็ ผลโดยไม่ตอ้ งใชอ้ าญาโทษเลย ย่อมได้ช่ือว่าเป็นผมู้ คี วามสามารถในการสอนมากทีส่ ุด

10. กลวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาเฉพาะหน้าท่ีเกิดขึ้นต่างคร้ังต่างคราว ย่อมมี
ลักษณะแตกต่างกันไปไม่มีที่สิ้นสุด การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าย่อมอาศัย ฏิภาณ คือ
ความสามารถในการประยุกตห์ ลัก วิธกี าร และกลวิธตี า่ งๆ มาใชใ้ หเ้ หมาะสมเปน็ เรื่องเฉพาะ
ครง้ั เฉพาะคราวไป

นิเทศอาทิตตปรยิ ายสตู ร ความในพระสูตรน้สี รุปได้เปน็ 4 ตอนดงั น้ี
1. สภาพทเ่ี ปน็ ปญั หา สง่ิ ท่พี ระองค์ตรัสวา่ ลกุ เปน็ ไฟนัน้ มีดังตอ่ ไปน้ี
- จักษุ รูป จักขุวิญญาณ จกั ขุสัมผสั จกั ขุสัมผสั สชาเวทนา
- โสตะ (ห)ู เสียง โสตวญิ ญาณ โสตสมั ผสั โสตสมั ผสั สชา เวทนา
- ฆานะ (จมกู ) กลนิ่ ฆานวญิ ญาณ ฆานสมั ผสั ฆานสัมผสั สชาเวทนา
- ชวิ หา (ลิน้ ) รส ชวิ หา วิญญาณ ชวิ หาสัมผัส ชิวหาสมั ผสั สชเวทนา
- กาย โผฎฐพั พะ กายวญิ ญาณ กายสมั ผัส กายสัมผสั สชาเวทนา
- มนะ (ใจ) ธรรมะ (ความคิดคานึงต่างๆ) มโนวิญญาณ มโนสมั ผสั มโนสมั ผัสส

ชาเวทนา

• เอกสารประกอบการเรียน 23

2. สาเหตุ เม่ือกาหนดตัวปัญหาได้ และเข้าใจสภาพของปัญหาแล้วก็ค้นหาสาเหตุให้เกิด
ไป หรือตัวไฟทเ่ี ผาผลาญนนั้ ต่อไปได้ความวา่ ส่งิ ทกี่ ล่าวมานั้น ลุกไหมด้ ว้ ยกเิ ลส 3 อย่าง ดงั น้ี

- ราคะ ความอยากได้ ความใคร่ ความตดิ ใจ ความกาหนัดยินดี
- โทสะ ความโกรธ ความขดั ใจ ความเดือดแคน้ ชงิ ชงั ไม่พอใจ ตา่ ง ๆ
- โมหะ ความหลง ความไม่รู้ ไมเ่ ขา้ ใจสภาพของส่งิ ทั้งหลายตามความเปน็ จริง
3. ข้อปฏิบัติเพื่อแก้ไข พระพุทธองค์ตรัสต่อไปอีกว่า อริยสาวกผู้ได้เรียนรู้แล้ว เม่ือเห็น
อยู่อย่างนี้ย่อมหน่ายในอายตนะภายใน ภายนอก ตลอดถึงเวทนาทั้งหมดเหล่านั้น เมอ่ื หนา่ ยก็ย่อม
ไมย่ ึดตดิ
4. ผล เมื่อไม่ยึดติดก็หลุดพ้น เม่ือหลุดพ้นก็เกิดญาณหย่ังรู้ว่าหลุดพ้นแล้วเป็นอันส้ินชาติ
อยู่จบพรหมจรรย์ทาสง่ิ ท่จี ะตอ้ งทาเสรจ็ ส้ินแล้ว สงิ่ ทีจ่ ะต้องทาเพอื่ เปน็ อยา่ งนี้ ไม่มเี หลืออีกเลย

• เอกสารประกอบการเรยี น 24

ข้อสรุปพระคณุ สมบัติของพระพทุ ธเจ้าที่ควรสังเกต
1. ทรงสอนส่ิงที่เป็นจริง และเป็นประโยชน์แก่ผฟู้ ัง
2. ทรงรเู้ ขา้ ใจสิง่ ท่สี อนอย่างถอ่ งแท้สมบูรณ์
3. ทรงสอนด้วยเมตตา มุ่งประโยชน์แก่ผู้รับคาสอนเป็นท่ีต้ังไม่หวัง

ผลตอบแทน
4. ทรงทาไดจ้ ริงอยา่ งทส่ี อน เป็นตวั อยา่ งทด่ี ี
5. ทรงมีบุคลิกภาพโน้มน้าวจิตใจให้เข้าใกล้ชิดสนิทสนม และพึงพอใจได้

ความสุข
6. ทรงมีหลกั การสอน และวิธีสอนยอดเยี่ยม

• เอกสารประกอบการเรียน 25

กิจกรรมที่ 1
เรอ่ื ง วธิ ีการสอนของพระพทุ ธเจา้

คาสงั่ ให้นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายเกยี่ วกบั หลักทวั่ ไปทีค่ วรคานึงถงึ ในการสอนตาม
วิธีขอพระพทุ ธเจ้า ว่ามอี ะไรบ้าง แล้วนาเสนอหนา้ ช้ันเรียน

คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ ( ข้อละ 5 คะแนน)

1. เพราะเหตุใด พระพุทธเจ้าจงึ ตดั สินพระทัยไปสอนปญั จวคั คยี เ์ ปน็ บคุ คลกลุ่มแรก
………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. เพราะเหตใุ ดจึงเรียกพระธรรมเทศนาวา่ “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” และโอวาทปาฏิโมกข์มี
ประเด็นสาคญั อะไรบา้ ง

………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………

หมายเหตุ : คะแนนข้นึ อยู่กบั ดลุ พินิจของครูผู้สอน

• เอกสารประกอบการเรยี น 26

กิจกรรมท่ี 2
เร่ือง วธิ ีการสอนของพระพทุ ธเจ้า

คาส่งั ใหน้ กั เรยี นบอกคุณลักษณะท่ีเป็นลีลาการสอนของพระพทุ ธเจา้ และวิธีการสอนของ
พระพุทธเจา้ ทีพ่ บอย่บู ่อย ๆ พร้อมท้ังยกตัวอย่างประกอบ

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นบรรยายภาพพระพทุ ธรปู ปางประจาวันเกดิ ใหถ้ ูกต้อง (ข้อละ 2 คะแนน)

 วัน ปาง
เหตกุ ารณ์สาคัญทเี่ ปน็ มลู เหตุในการสร้างปาง

 วัน ปาง
เหตกุ ารณส์ าคัญทเี่ ป็นมลู เหตุในการสรา้ งปาง

• เอกสารประกอบการเรยี น 27

 วัน ปาง
เหตุการณ์สาคัญทีเ่ ป็นมลู เหตุในการสรา้ งปาง

 วัน ปาง
เหตกุ ารณ์สาคัญที่เปน็ มลู เหตุในการสรา้ งปาง

 วัน ปาง
เหตกุ ารณส์ าคัญที่เป็นมลู เหตุในการสรา้ งปาง

• เอกสารประกอบการเรยี น 28

แบบทดสอบหลงั เรยี น
เร่อื ง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า

คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบบั นม้ี ี 10 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2. ให้นักเรียนเขยี นเครอื่ งหมาย X ลงในคาตอบ ที่ถกู ทส่ี ุดเพียงขอ้ เดียว

1. ขณะบาเพ็ญทกุ กรกริ ยิ ามีใครเป็นผเู้ ลอ่ื มใสดูแล
ก. นายฉนั นะ
ข. ปญั จวคั คีย์
ค. นางวสิ าขา
ง. นางสุชาดา

2. ใครเป็นผู้นาขา้ วมธุปายาสมาถวายเจ้าชายสทิ ธัตถะก่อนน่งั บาเพ็ญภาวนา
ก. นางสุชาดา
ข. นางวสิ าชา
ค. นางมลั ลกิ า
ง. นางภาวนา

3. เหตุบังเอิญใดเจ้าชายสทิ ธตั ถะจึงได้รบั ข้าวมธุปายาส
ก. เพราะผถู้ วายคดิ ว่าเปน็ เทวดา
ข. เพราะเหน็ วา่ ทรงตง้ั พระทัยจริง
ค. เพราะมีลักษณะทา่ ทางเป็นผู้มีบุญ
ง. เพราะคิดว่าจะต้องบาเพ็ญไดส้ าเรจ็

4. เจา้ ชายสิทธตั ถะทรงตรัสรโู้ ดยวธิ ีใด
ก. เดนิ จงกรม
ข. ทุกกรกิรยิ า
ค. สมถภาวนา

• เอกสารประกอบการเรยี น 29

5. พระพุทธเจ้ามีพระนามวา่ อะไร
ก. เจ้าชายเทวราช
ข. เจา้ ชายสทุ ทนะ
ค. เจ้าชายสิทธิศกั ดิ์
ง. เจา้ ชายสิทธัตถะ

6. เจ้าชายสิทธัตถะทรงอภเิ ษกสมรสกับใคร
ก. พระนางสริ มิ หามายา
ข. พระนางยโสธรา
ค. พระนางอมิตตา
ง. พระนางวสิ าขา

7. อะไรเป็นมลู เหตแุ หง่ การตัดสินพระทยั ออกบวช
ก. ราชสมบัติ
ข. เทวทตู ทัง้ 4
ค. ความเบ่ือหนา่ ย
ง. ความสขุ สว่ นพระองค์

8. การบวชของเจา้ ชายสทิ ธัตถะ เรยี กวา่ อะไร
ก. ตสิ รณคม
ข. ไตรสรณคม
ค. มหาภเิ นษกรมณ์
ง. เอหภิ ิกขุอปุ สัมปทา

9. หลงั จากผนวชแลว้ เจา้ ชายสทิ ธตั ถะไดไ้ ปศกึ ษาทสี่ านกั ใด
ก. สานักวศิ วามิตร
ข. สานักปญั จวัคคีย์
ค. สานกั ฤาษดี ัดตน
ง. สานักอาฬารดาบส อทุ กดาบส

10. การคน้ หาความจรงิ โดยวิธีทรมานตนของเจา้ ชายสทิ ธัตถะ เรยี กวา่ อะไร
ก. สนถกิรยิ า
ข. ทุกกรกริ ยิ า
ค. ภาวนากิริยา
ง. การบาเพญ็ เพยี ร

• เอกสารประกอบการเรียน 30

กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น
เรื่อง วิธกี ารสอนของพระพุทธเจา้

ชื่อ-นามสกลุ ........................................................................ช้นั .................. เลขที่ ..............
คาชแี้ จง แบบทดสอบมี 10 ข้อ
คาสง่ั ให้นักเรียนเลือกคาคอบที่ถูกทส่ี ดุ เพียง 1 คาตอบ ลงในกระดาษคาตอบท่เี ตรียมไว้

• เอกสารประกอบการเรยี น 31

เฉลยใบกจิ กรรมที่ 1
เร่ือง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า

1. เพราะเหตุใด พระพุทธเจา้ จงึ ตัดสนิ พระทัยไปสอนปัญจวัคคยี ์เป็นบคุ คลกลมุ่ แรก
1) ตอ้ งการแก้ไขความเข้าใจผิดวา่ การทรมานตนเองด้วยการอดอาหารไม่ทาให้บรรลุมรรค

ผล
2) ตอ้ งการใหป้ ญั จวคั คียเ์ ปน็ ผูส้ ามารถยนื ยนั ไดว้ ่า แนวทางของพระพทุ ธองคส์ ามารถนาผู้

ปฏิบัติใหถ้ ึงการดับ ทกุ ขไ์ ดจ้ ริง

2. เพราะเหตใุ ด จึงเรียกพระธรรมเทศนาว่า “ธมั มจักกัปปวตั นสูตร”และโอวาทปาฏิโมกข์มี
ประเด็นสาคัญอะไรบ้าง

เป็นการเปรยี บให้เห็นวา่ พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมอันวา่ ดว้ ยอริยสัจ 4 ประการที่ไม่เคยมี
ใครประกาศมา ก่อน เทา่ กบั ทรงหมนุ กงล้อแห่งธรรมที่ไม่มีใครคัดค้านได้ ลอ้ แห่งธรรมหมนุ ไปทางทศิ ใดก็
จะขจดั ทาลายอวชิ ชา ออกจากจิตใจผู้คนให้พบกับแสงสว่างแหง่ ชวี ิต

1) อดุ มการณข์ องพระพทุ ธศาสนา คอื พระนพิ พาน
2) หลกั การทั่วไปของพระพุทธศาสนา 3 ประการ คือ การไม่ทาความชั่วท้งั ปวง ควรทา
ความดีให้พร้อม และการทาจิตใหผ้ อ่ งแผ้ว
3) วธิ ีการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาโดยสันตวิ ิธี
4) คุณสมบัติของผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา

หมายเหตุ : คะแนนข้นึ อยู่กับดุลพนิ จิ ของครูผู้สอน

• เอกสารประกอบการเรียน 32

เฉลยใบกิจกรรมท่ี 2
เรอื่ ง วธิ กี ารสอนของพระพทุ ธเจา้

 วนั เสาร์ ปาง นาคปรก

เหตุการณส์ าคัญทีเ่ ปน็ มูลเหตุในการสร้างปาง

เปน็ เหตุการณห์ ลงั จากพระพุทธเจา้ ตรัสรู้ ขณะ

ประทบั ใต้ต้นมุจลนิ ทร์ (ต้นจิก) มฝี นตกพราๆ 7 วนั เม่อื ฝน

หยดุ แล้ว พญานาคไดจ้ าแลงกายเปน็ มาณพหนมุ่ ยนื

ประคองอัญชลีอย่ขู า้ งๆ

 วนั พุธ (กลางคนื ) ปาง ปาลิไลยก์
เหตุการณ์สาคัญท่ีเป็นมลู เหตุในการสรา้ งปาง
เมือ่ ครั้งภกิ ษเุ มืองโกสัมพีทะเลาะกนั ขนานใหญ่
พระพทุ ธเจ้าเสดจ็ ไปห้ามปราม แตไ่ ม่มีใครฟัง พระองคจ์ ึง
เสดจ็ หลีกไปประทับอยู่ในปา่ โดยมีพญาชา้ งปาลิไลยกะและลิง

คอยเฝ้าปรนนิบตั ิ

• เอกสารประกอบการเรียน 33

 วัน อังคาร ปาง ไสยาสน์

เหตกุ ารณ์สาคัญท่ีเปน็ มลู เหตุในการสรา้ งปาง

เป็นเหตุการณเ์ มอ่ื ครัง้ พระพทุ ธเจา้ ประทับอยู่ ณ

วดั เชตุวนั เมืองสาวัตถี พระพุทธองค์มพี ระประสงคล์ ดทฐิ ิ

ของจอมอสรู อสุรนิ ทราหู จงึ ทรงเนรมิตกายจนใหญ่กวา่ ทาให้

จอมอสรู ยอมออ่ นน้อม

 วนั พฤหัสบดี ปาง สมาธิ
เหตกุ ารณ์สาคัญทเี่ ปน็ มูลเหตุในการสรา้ งปาง
เป็นเหตกุ ารณ์เม่อื พระพุทธเจ้าตรัสรูอ้ นตุ รสมั มา-

สัมโพธิญาณใตต้ น้ พระศรมี หาโพธิ

 วนั ศุกร์ ปาง ราพึง
เหตุการณ์สาคัญทเ่ี ปน็ มลู เหตุในการสรา้ งปาง
เป็นเหตุการณ์เมื่อพระพุทธเจ้าทรงราพึงถึงธรรมะ
ทต่ี รัสรู้วา่ มคี วามลึกซง้ึ คมั ภีรภาพ ยากที่คนท่วั ไปจะเขา้ ใจ
ได้ แต่เมื่อท้าวสหมั บดีมาทูลอัญเชญิ จึงตดั สนิ พระทัยไป
เทศนาสงั่ สอนประชาชน

• เอกสารประกอบการเรยี น 34

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรื่อง วิธกี ารสอนของพระพุทธเจ้า

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
1. ง 6. ก
2. ข 7. ข
3. ค 8. ค
4. ค 9. ง
5. ง 10. ก

1. วเิ คราะห์คาตอบ ตอบ ง
มีพระนามเว่า "สิทธัตถะ" เป็พระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ กษัตริย์ผู้ครองกรุง

กบลิ พสั ด์ุ แควน้ สักกะ
2. วเิ คราะห์คาตอบ ตอบ ข
เมื่อมีพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพา หรือยโสธรา พระธิดาของ

พระเจา้ กรงุ เทวทหะซงึ่ เป็นพระญาติฝ่ายพระมารดา จนเมื่อมพี ระชนมายุ 29 พรรษา พระนางพิมพาได้ให้
ประสตู ิพระราชโอรส มพี ระนามว่า "ราหุล" ซง่ึ หมายถงึ "บ่วง"

3. วเิ คราะหค์ าตอบ ตอบ ค
ตามพุทธประวัติ พระพุทธเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณ

ตามลาดบั จงึ ทรงคิดว่าชวี ิตของทุกคนตอ้ งตกอยูใ่ นสภาพเช่นนน้ั ไม่มีใครหลกี เลย่ี งได้ จงึ เกดิ แนวความคิด
ว่าธรรมดาในโลกน้ีมีของคู่กันอยู่ เช่น มีร้อนก็ต้องมีเย็น , มีทุกข์คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็ต้องมีที่สุดทุกข์
คือ ไม่เกดิ ไม่แก่ ไมเ่ จ็บ ไมต่ าย ทรงเห็นความสุขทางโลกเปน็ เพยี งมายา ความสุขในกามคุณเปน็ ความสุข
จอมปลอม เป็นเพียงภาพมายาที่ ชวนให้หลงว่าเป็นความสุขเท่าน้ัน ในความจริงแล้วไม่มีความสุข ไม่มี
ความเพลิดเพลนิ ใดที่ไมม่ ีความทุกขเ์ จือปน

• เอกสารประกอบการเรยี น 35

4. วิเคราะหค์ าตอบ ตอบ ค
เป็นรูปพระโพธิสัตว์เจา้ ชายสิทธัตถะทรงม้ากัณฐกะ มนี ายฉันนะเกาะหลังม้าตามเสดจ็ ขาม้า

ท้งั 4 ขา มีท้าวจตโุ ลกบาลทั้ง 4 ประจาอยู่ นาพระองคเ์ หาะข้ามกาแพงพระนครออกไปดว้ ยปาฏหิ าริย์
5. วิเคราะหค์ าตอบ ตอบ ง
เจ้าชายสิทธัตถะมอี าจารยอ์ ยู่สองทา่ นคอื 1.อทุ กดาบส และ2.อาฬารดาบส
6. วิเคราะหค์ าตอบ ตอบ ก
สาเหตุท่ีทาให้ทรงต้ังพระทัยออกบรรพชาไว้ส้ัน ๆ ว่า ... ที่เรียกว่า ทุกกรกิริยา ซึ่งนักบวช

สมัยนน้ั นิยมปฏิบตั กิ นั วาระแรก
7. วิเคราะห์คาตอบ ตอบ ข
กลุ่มนักบวชท่ีตั้งข้ึนมา เป็นนักบวชท่ีปรากฏอยู่ในศาสนาพุทธในฐานะภิกษุชุดแรกท่ีเข้ามา

บวชเปน็ สาวก มีทัง้ หมด 5 รูป ไดแ้ ก่ โกณฑัญญะ วปั ปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ
8. วเิ คราะหค์ าตอบ ตอบ ค
พระนางมัลลิกา ทรงเป็นธิดาของนายมาลาการ (ช่างทาดอกไม้) นางมีหน้าที่ออกไปเก็บ

ดอกไม้ในสวนเพ่ือนามาให้บิดาทาพวงมาลัยทุกวันหรือไม่ ก็จัดดอกไปให้เป็นระเบียบเพ่ือไว้ขายเป็น
ประจา นอกจากนี้นางยังไดถ้ วายดอกไม้และได้ฟงั พระธรรมเทศนาจากพระพทุ ธเจา้ จนได้ บรรลุโสดาปัตติ
ผลเป็นพระอริยบคุ คลตงั้ แตอ่ ายยุ งั นอ้ ย

9. วเิ คราะหค์ าตอบ ตอบ ง เพราะคดิ วา่ จะตอ้ งบาเพ็ญได้สาเร็จ
10. วิเคราะห์คาตอบ ตอบ ก

ถ้าเราจักสามารถตรัสรู้ได้ในวันน้ี ก็ขอให้ถาดทองคาใบนี้จงลอยทวนกระแสน้าไป แต่ถ้ามิได้
เป็นดังน้ันก็ขอให้ถาดทองคาใบน้ีจงลอยไปตามกระแสน้าเถิด “ แล้วทรงปล่อยถาดทองคาลงไปในแม่น้า
ถาดทองคาลอยตัดกระแสน้าไปจนถึงกลางแม่น้าเนรัญชราแล้วลอยทวนกระแสน้าข้ึนไปไกลถึง ๘๐ ศอก
จงึ จมลงตรงทกี่ ระแสน้าวน

• เอกสารประกอบการเรยี น 36

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
เรอื่ ง วธิ ีการสอนของพระพุทธเจ้า

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
1. ข 6. ข
2. ค 7. ค
3. ง 8. ค
4. ก 9. ง
5. ง 10. ก

1. วเิ คราะหค์ าตอบ ตอบ ข
กลุ่มนักบวชท่ีต้ังข้ึนมา เป็นนักบวชท่ีปรากฏอยู่ในศาสนาพุทธในฐานะภิกษุชุดแรกท่ีเข้ามา

บวชเป็นสาวก มที ้งั หมด 5 รปู ไดแ้ ก่ โกณฑญั ญะ วปั ปะ ภัททิยะ มหานามะ และอสั สชิ
2. วเิ คราะห์คาตอบ ตอบ ค
พระนางมัลลิกา ทรงเป็นธิดาของนายมาลาการ (ช่างทาดอกไม้) นางมีหน้าท่ีออกไปเก็บ

ดอกไม้ในสวนเพ่ือนามาให้บิดาทาพวงมาลัยทุกวันหรือไม่ ก็จัดดอกไปให้เป็นระเบียบเพื่อไว้ขายเป็น
ประจา นอกจากน้ีนางยงั ได้ถวายดอกไม้และได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระพทุ ธเจา้ จนได้ บรรลุโสดาปตั ติ
ผลเปน็ พระอรยิ บุคคลต้ังแตอ่ ายยุ งั นอ้ ย

3. วเิ คราะหค์ าตอบ ตอบ ง เพราะคดิ ว่าจะตอ้ งบาเพ็ญได้สาเรจ็
4.. วิเคราะห์คาตอบ ตอบ ก

ถ้าเราจักสามารถตรัสรู้ได้ในวันน้ี ก็ขอให้ถาดทองคาใบน้ีจงลอยทวนกระแสน้าไป แต่ถ้ามิได้
เป็นดังนั้นก็ขอให้ถาดทองคาใบนี้จงลอยไปตามกระแสน้าเถิด “ แล้วทรงปล่อยถาดทองคาลงไปในแม่น้า
ถาดทองคาลอยตัดกระแสน้าไปจนถึงกลางแม่น้าเนรัญชราแล้วลอยทวนกระแสน้าข้ึนไปไกลถึง ๘๐ ศอก
จงึ จมลงตรงที่กระแสนา้ วน

• เอกสารประกอบการเรียน 37

5. วเิ คราะห์คาตอบ ตอบ ง
มีพระนามเว่า "สิทธัตถะ" เป็พระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ กษัตริย์ผู้ครองกรุง

กบลิ พสั ด์ุ แคว้นสักกะ
6. วิเคราะหค์ าตอบ ตอบ ข
เม่ือมีพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพา หรือยโสธรา พระธิดาของ

พระเจา้ กรุงเทวทหะซึ่งเป็นพระญาตฝิ า่ ยพระมารดา จนเม่ือมีพระชนมายุ 29 พรรษา พระนางพิมพาได้ให้
ประสูติพระราชโอรส มีพระนามวา่ "ราหุล" ซ่ึงหมายถึง "บว่ ง"

7.. วเิ คราะห์คาตอบ ตอบ ค
ตามพุทธประวัติ พระพุทธเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณ

ตามลาดับ จึงทรงคิดว่าชีวิตของทกุ คนต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนน้ั ไมม่ ใี ครหลกี เลี่ยงได้ จงึ เกดิ แนวความคิด
ว่าธรรมดาในโลกนี้มีของคู่กันอยู่ เช่น มีร้อนก็ต้องมีเย็น , มีทุกข์คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็ต้องมีที่สุดทุกข์
คือ ไม่เกดิ ไม่แก่ ไมเ่ จ็บ ไมต่ าย ทรงเหน็ ความสุขทางโลกเปน็ เพยี งมายา ความสขุ ในกามคุณเป็นความสุข
จอมปลอม เป็นเพียงภาพมายาท่ี ชวนให้หลงว่าเป็นความสุขเท่าน้ัน ในความจริงแล้วไม่มีความสุข ไม่มี
ความเพลดิ เพลนิ ใดทไ่ี ม่มีความทกุ ขเ์ จือปน

8. วิเคราะห์คาตอบ ตอบ ค
เป็นรปู พระโพธสิ ตั ว์เจ้าชายสิทธตั ถะทรงม้ากัณฐกะ มนี ายฉนั นะเกาะหลังมา้ ตามเสด็จ ขาม้า

ทง้ั 4 ขา มที ้าวจตโุ ลกบาลท้ัง 4 ประจาอยู่ นาพระองคเ์ หาะข้ามกาแพงพระนครออกไปด้วยปาฏหิ าริย์
9. วิเคราะหค์ าตอบ ตอบ ง
เจา้ ชายสทิ ธตั ถะมอี าจารย์อยู่สองท่านคอื 1.อทุ กดาบส และ2.อาฬารดาบส
10 . วเิ คราะห์คาตอบ ตอบ ก
สาเหตุที่ทาให้ทรงต้ังพระทัยออกบรรพชาไว้ส้ัน ๆ ว่า ... ท่ีเรียกว่า ทุกกรกิริยา ซึ่งนักบวช

สมยั น้นั นิยมปฏบิ ัตกิ ัน วาระแรก

• เอกสารประกอบการเรียน 38

บรรณานกุ รม

จรัญ พยัคฆราชศักดิ์ และคณะ. คู่มือการสอน พระพุทธศาสนา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6
กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์วฒั นาพานิช จากดั

ดนัย ไชยโยธา. (2552). พทุ ธธรรม พทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา และชาวพทุ ธตัวอยา่ ง. กรุงเทพมหานคร :
สานกั พมิ พไ์ อเดียนสไตร์.

เดอื น คาด.ี (2541). ศาสนศาสตร.์ กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์มหาลัยเกษตรศาสร.์
ธีรพงษ์ มีไธสง และคณะ. หนังสือเรียน รายวิชา พระพุทธศาสนา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6.

กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์วฒั นาพานิช จากัด.
บญุ มี แทน่ แก้ว. (2546). ประวตั ิศาสนาตา่ งๆ และปรชั ญาธรรม. กรงุ เทพมหานคร : โอเดียนสไตร.์
ภัทรพร สิริกาญจน และคณะ. (2546). ความรู้พื้นฐานทางศาสนา. (พิมพ์ครั่งที่ 4) กรุงเทพมหานคร

: สานักพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์
วิชาการ. กรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช

2551. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พค์ ุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
วิทย์ วิศทเวทย์ และ เสถียรพงศ์วรรณปก. (2554). หนังสือเรียนรายวิชาพระพุทธศาสนา

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4. (พิมพค์ รัง้ ท)่ี . กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั .
สุรพงษ์ จันลิ้ม. (2552). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานพระพุทธศาสนา ช้ันมัธยมศึกษาปีที่5.

กรงุ เทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั .
แสง จันทร์งาม. (2545). ศาสนศาสตร.์ (พิมพ์ครัง้ ที่ 4). กรุงเทพมหานคร : สานักพมิ พไ์ ทยวฒั นาพานชิ .
สาเนียง และสุชาดา วราหพันธ์. (2552). หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี5.

(พิมพค์ ร้ังที่ 1). กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์เอมพนั ธ จากัด.
สมเด็จพระญาณสังวร สมเดจ็ พระสังฆราช. (2550). หลกั พทุ ธศาสนา. (พิมพค์ รง้ั ท่ี 9). กรงุ เทพมหานคร

: มหามกุฎราชวิทยาลัย.

• เอกสารประกอบการเรยี น 39

แบบประเมิน

เอกสารประกอบการเรียน ชุดตามรอยพุทธะ รหัส ส32201 รายวิชาพระพุทธศาสนา โดยใช้การ
เรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม
ศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

เอกสารประกอบการเรียนเลม่ ที่ 1 เร่ือง วิธีการสอนของพระพทุ ธเจา้

ระหว่าง
เรยี น
แบบทดสอบก่อนเรียน
เลขที่ ชอื่ -นามสกลุ กิจกรรมที่ 1 รวม ผา่ น
ิกจกรรม ่ีท 2 /ไมผ่ ่าน

แบบทดสอบห ัลงเ ีรยน

10 10 10 10 30

• เอกสารประกอบการเรยี น 40

ระหวา่ ง
เรยี น
แบบทดสอบก่อนเรียน
เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ กิจกรรม ่ีท 1 รวม ผา่ น
กิจกรรม ่ีท 2 /ไม่ผา่ น

แบบทดสอบห ัลงเ ีรยน

10 10 10 10 30

• เอกสารประกอบการเรียน 41

ระหว่าง
เรียน
แบบทดสอบก่อนเรียน
เลขท่ี ช่ือ-นามสกุล กิจกรรม ่ีท 1 รวม ผ่าน
กิจกรรม ่ีท 2 /ไม่ผา่ น

แบบทดสอบห ัลงเ ีรยน

10 10 10 10 30

รวม
เฉลยี่
คิดเปน็ รอ้ ยละ
ค่า S.D.

เกณฑ์การประเมิน
ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ 60

ลงชอ่ื ....................................................... ครผู ้สู อน
(นางวลัยรัตน์ ย่ิงดานุ่น)

วันท่ี ........ เดือน ............................ พ.ศ. ..........

• เอกสารประกอบการเรยี น 42

แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

คาชี้แจง ให้ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งรายการประเมินและสงั เกตพฤติกรรมท่กี าหนด

ระหวา่ ง
เรยี น
แบบทดสอบ ่กอนเรียน
เลขที่ ช่ือ-นามสกุล กิจกรรมที่ 1 รวม ผา่ น
ิกจกรรม ่ีท 2 /ไม่ผา่ น

แบบทดสอบห ัลงเ ีรยน

10 10 10 10 30

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 = ตอ้ งปรับปรุงแก้ไข
3 = ดี 2 = ปานกลาง

ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 80

ลงชื่อ ....................................................... ครูผสู้ อน
(นางวลัยรตั น์ ย่งิ ดานุ่น)

วนั ที่ ........ เดือน ............................ พ.ศ. ..........

• เอกสารประกอบการเรียน 43

รายละเอยี ดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสงั เกตพฤตกิ รรม

ประเด็นประเมนิ 3 ระดบั คณุ ภาพ 1
ความสนใจ 2 ไม่กระตือรอื รน้
กระตือรอื รน้ ตง้ั ใจและให้
การตอบคาถาม มาก ตง้ั ใจให้ กระตือรอื รน้ ความร่วมมือ
การให้ความร่วมมือ ความร่วมมอื ปานกลาง ต้ังใจ
ทกุ กิจกรรม ให้ความรว่ มมือ น้อยมาก
การพูดแสดงความคดิ เห็น ตอบไมถ่ ูกต้อง
ความรับผดิ ชอบ ตอบถูกตอ้ ง ทุกกจิ กรรม
ส่วนมาก ตอบ ตอบถูกบ้าง สว่ นมาก
ถูกทุกคาตอบ ผอดบา้ ง ตอบ
ทุกคาถาม ไม่ค่อยรว่ ม
รว่ มมือทา รว่ มมือทา กิจกรรม
กิจกรรม กจิ กรรมเกอื บ ไม่สนใจ
ทกุ กิจกรรม ทุกกจิ กรรม
ด้วยความ เอาใจใส่ ไม่พูดแสดง
กระตือรอื ร้น ปานกลาง ความคดิ เหน็
เอาใจใสด่ ีมา
พดู แสดงความ สาเร็จไม่ทนั
กล้าพูด กลา้ คิดเหน็ เป็น ตามกาหนดและ
แสดงความ ส่วนมาก งานไม่มีคณุ ภาพ

คิดเห็น สาเรจ็ ไมท่ นั ตาม
ทุกกจิ กรรม กาหนด แต่งาน

สาเจตาม มีคณุ ภาพ
กาหนดและงาน

มีคณุ ภาพ


Click to View FlipBook Version