สามก๊ก ก๊ E-book ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-book) นี้ จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ภาษาไทยเพื่ออาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการ ทั้งนี้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-book) ฉบับนี้ประกอบไป ด้วยวรรณคดี ความรู้ที่ได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์กับการเรียน และผู้อ่าน ผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book)นี้ จะเป็น ประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำ ลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อ แนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำ ขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จัดทำ โดย บุณยานุช หล่ายเกษม ก
สาร คำ นำ สารบัญ ประเด็นปัญหา ความเป็นมาของสามก๊ก ประวัติผู้แต่ง ลักษณะคำ ประพันธ์ จุดประสงค์ในการแต่ง ลักษณะนิสัยตัวละคร ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ ข้อคิด คุณค่าด้านเนื้อหา คุณค่าด้านสังคม คุณค่าด้านวรรณศิลป์ บรรณานุกรม ผู้ตรวจสอบตัวอักษร บัญ บั หน้า ก ข ๑ ๒ ๓ ๔ ๔ ๕ ๘ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ข
ประเด็นปัญหา ๑ 1.เว็บไซต์บางเว็บมีเนื้อหาที่ผิดเพีี้ยนไป 2.บางเว็บไซต์มีการพิมพ์เนื้อหาผิด หรือคำ ศัพท์ผิด 3.มีเนื้อหาหลายแห่งหลายเว็บไซต์แต่เป็นเนื้อหาที่ต่างกันไป จนไม่ แน่ใจว่าข้อมูลไหนเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ 4.หนังสือบางเล่มต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าไปค้นหาข้อมูล 5.มีหลายเว็บไซต์จึงต้องทำ ให้เกิดการเปรียบเทียบข้อมูล
ความเป็นมาของสามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นแม่กองในการแปล สามก๊กฉบับภาษาไทยได้รับ ยกย่องว่าเป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมในกระบวนหนังสือร้อยแก้วทั้งปวง และมักจะยก มาเป็นตัวอย่างเรียงความที่ดีอยู่ทุกยุค ทุกสมัย(กุหลาบ : ๑๒๖) ในสมัยรัชกาลที่ ๑ มีการแปลหนังสือเรื่องสามก๊กโดยการร่วมมือของบุคคลหลาย ฝ่ายทั้งผู้รู้ภาษาจีน ผู้รู้ภาษาไทยและผู้รู้ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน เมื่อหมอบลัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกา ตั้งโรงพิมพ์ขึ้นในประเทศไทย ได้พิมพ์เรื่องสามก๊กขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๘ ได้รับยกย่องอย่างแพร่หลาย สมเด็จกรมพระยาดำ รงราชานุภาพได้ทรง ชำ ระหนังสือเรื่องนี้ในปี พ.ศ.๒๔๗๐ และทรงนิพนธ์ตำ นานเรื่องสามก๊กเพื่อขยาย ความและช่วยในการศึกษาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ๒
ประวัติผู้แต่ง ผู้แต่ง : ก่อกวนตง ล่อกวนตงเป็นผู้แต่งนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก และได้ชื่อว่าเป็นผู้ ปรับปรุงเรื่อง 108 ผู้กล้าหาญแห่งเขาเหลียงซาน ซึ่งนับเป็น 2 ใน 4 สุดยอด วรรณกรรมจีน อีกสองเรื่องคือไซคิ้วและความฝันใน หอแดง ชีวประวัติของก่อกวนดงไม่ใคร่แน่ชัด แต่มีการยืนยันว่าเขามีชีวิตอยู่ในช่วงปลาย ราชวงศ์หยวนถึง ต้นราชวงศ์หญิงจริง นักปราชญ์ผู้หนึ่งชื่อ เชื่อจงหมิง บันทึกไว้ว่า เคยพบกับล่อกวนลงในราวปี ค.ศ. 1364 และว่าเขาเป็นชาวไท่หยวน แต่นัก ประวัติศาสตร์ยุคเดียวกันหลายคนต่างระบุบ้านเกิดของล่อกวนตง แตกต่างกันไป เช่นมาจากหางโจวบ้าง หรือเจียงหนานบ้าง แต่ไท่หยวน น่าจะเป็นบ้านเกิดของเขา มากที่สุด เพราะเป็นที่ตั้งของบ้านตระกูลหลอ ซึ่งมีชื่อของล่อกวนดงอยู่ในสาแหรก ตระกูลด้วยล่อกวนดงเคยเข้าร่วม ก็กต่อต้านราชวงศ์หยวนกลุ่มหนึ่งซึ่งต่อมาถูกจู หยวนจางโจมตีซึ่งทำ หน้าที่กุนซือ ๓
ประวัติผู้แต่ง ผู้แปล: เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เจ้าพระยาพระคลัง คือหลวงสรวิชิตในรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี เป็นบุตร เจ้าพระยาสุรบดินทร์สุริ นทรฤาชัย (บุญมี) และท่านผู้หญิงเจริญ ต้นตระกูลสืบสาย มาทางจีน เมื่อรับราชการครั้งกรุงธนบุรีเป็นนาย ด่านเมืองอุทัย ครั้งถึงสมัย รัตนโกสินทร์ ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยาพิพัฒนโกษา และบรรดาศักดิ์สุดท้าย เป็น เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตำ แหน่งจตุสดมภ์กรมท่า ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๘ ในรัชกาล ที่ ๑ ท่านเป็นต้นตระกูล บุญ-หลง งานนิพนธ์ของท่านนั้น นอกจากลิลิตเพชรพวง ซึ่งแต่งในครั้งกรุงธนบุรี แล้ว ยังมีสามก๊ก ราชาธิราช อิเหนา คำ ฉันท์ บทมโหรีเรื่องกากี มหาเวสสันดรชาดกและกัณฑ์กุมารกับ กัณฑ์มัทรี ลักษณะคำ ประพันธ์ ร้อยแก้ว ประเภท ความเรียงเรื่องนิทาน จุดประสงค์ในการแต่ง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอุบายการเมืองและการสงคราม ๔
ลักษณะนิสัยตัวละคร เป็นผู้ต่อกรกับเหล่าโจรโพกผ้าเหลือง และเคยพยายามลอบฆ่าตั้ง โต๊ะ แต่ไม่สำ เร็จ จึงแยกตัวออกมา เพื่อสะสมกำ ลังพล จนกลาย เป็นอุปราชแห่งวุยก๊ก โจโฉ โดดเด่นเรื่องความเป็นผู้นำ เฉลียว ฉลาด และเป็นที่ยำ เกรงของลูกน้อง เขาเชี่ยวชาญด้านการรบ รู้จัก ใช้คน และ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ทำ ให้สามารถครอบครอง พื้นที่ของแผ่นดินจีนไว้ได้มากที่สุด โจโฉ (วุยก๊ก) มีพี่น้องร่วมสาบานคือ กวนอู และ เตียวหุย เล่าปี่เป็นคนแก้ ปัญหาได้ รวดเร็ว รักพี่น้อง และเป็นที่รักของผู้คน รอบข้าง ก่อนหน้านี้เล่าปี่เคยเป็นเจ้า เมืองชีจิ๋ว ก่อนจะสามารถ ครอบครองดินแดนที่ชื่อว่า จ๊กก๊ก ได้ในที่สุด เล่าปี่ (จ๊กก๊ก) ครองเมืองแห่ฝือ เป็นผู้ดูแลภรรยาของ เล่าปี่ (พี่สะใภ้) มี ความโดดเด่นด้านความ ซื่อสัตย์ และกตัญญู ซึ่งต่อมาผู้คน ได้ยก ย่องและบูชากวนอูในฐานะเทพเจ้าผู้เป็น สัญลักษณ์ แห่งความภักดีความซื่อสัตย์และความกตัญญ กวนอู (จ๊กก๊ก) ๕
ลักษณะนิสัยตัวละคร เตียวเลี้ยว (วุยก๊ก) อ้วนเสี้ยว ทหารคนสำ คัญของโจโฉ มีวาทศิลป์ รู้จักการเจรจา เป็นผู้ที่เสนอความคิดเห็น ได้อย่างมีเหตุผล รวมทั้งเป็นผู้ เกลี้ยกล่อม ให้กวนอูมาอยู่กับโจโฉ และยังทำ ให้กวนอู เคารพนับถือในความสามารถและความ ซื่อสัตย์แม้จะไม่ ได้อยู่ฝ่ายเดียวกันก็ตาม มาจากตระกูลขุนนางเก่าแก่ หลังจากเหตุการณ์ สิบขันทีแล้ว อ้วนเสี้ยวได้แยกตัวออกมาสร้างกองทัพจนใหญ่โต และเป็น ผู้นำ 18 หัวเมือง ต่อต้านตั้งโต๊ะ เมื่อกำ จัดตั้งโต๊ะได้แล้ว ด้วย ความโลเลใช้คนไม่เป็น ชอบคนที่ประจบสอพลอคนดี ๆ จึงหนี หาย พ่ายแพ้ต่อกองทัพของโจโฉ ที่มีทหารน้อยกว่าจนต้อง กระอักเลือดตาย ๖
ลักษณะนิสัยตัวละคร เตียวหุย น้องร่วมสาบานของ เล่าปี่ และกวนอู นิสัยวู่วามอารมณ์ ร้อน ชอบเหลาสุราศีรษะ เหมือนเสือ จักษุโตกลม เสียงดัง มี กำ ลังมาก ติดตามเล่าปี่มาตลอด ตายเพราะถูกลอบสังหาร จากนิสัยวู่วามของตนเอง นางบิฮูหยิน ภรรยาของเล่าปี่ เมื่อเล่าปี่หนีไป อยู่กับอ้วนเสี้ยว จึงได้ฝากภรรยาไว้ กับกวนอูผู้เป็นน้องชายร่วมสาบาน นางซุนฮูหยิน ๗
ในสมัยพระเจ้าเหี้ยนเต้ โจโฉตั้งตัวเป็นมหาอุปราชสำ เร็จราชการแผ่นดิน และคิด กำ จัดเล่าปี่ซึ่งขณะนั้นครองเมืองชีจิ๋วอยู่ โจโฉตีเมืองเสียวพ่ายและเมืองชีจิ๋วได้ เล่าปี่จึง หนีไปพึ่งอ้วนเสี้ยว โจโฉจึงคิดจะไปตีเมืองแห้ฝือ ที่กวนอู รักษาครอบครัวของเล่าปี่อยู่ใน เมืองนี้ โจโฉได้ให้ เทียหยก ลวง กวนอู ออกมาจากเมืองแห้ฝือ และล้อมจับตัวกวนอูไว้ เทีย หยก ได้ใช้อุบายปล่อยทหารของ เล่าปี่ ที่ โจโฉ จับเป็นเชลย เข้าไปเป็นไส้ศึกในเมืองแห้ ฝือ จน กวนอู เชื่อใจ แล้วให้ แฮหัวตุ้นคุมทหารไปท้ารบกับ กวนอู และสกัดทางไม่ให้ กวนอูกลับเข้าไปในเมืองได้ กวนอู จึงคุมทหารหนีไปหยุดพักอยู่บนเขา ทหารไส้ศึก เปิดประตูเมืองรับโจโฉเข้าเมือง โจโฉให้จุดไฟเผาเมือง สำ หรับครอบครัว เล่าปี่นั้นให้ทหารรักษาไว้ดังเดิม กวนอูตกอยู่ในวงล้อมของโจโฉ โจโฉต้องการ กวนอูไว้ ช่วงใช้ เตียวเลี้ยว นายทหารของโจโฉจึงอาสาเกลี้ยกล่อมกวนอูให้เข้ารับราชการกับโจโฉ เตียวเลี้ยว เดิมเป็นทหารเอกของลิโป้ ติดตามลิโป้มาตั้งแต่อยู่เมือง ตันลิว จนลิโป้ได้ ครองเมืองชีจิ๋ว แล้วถูกโจโฉตีแตก ขณะที่ลิโป้ถูกลากตัวไปประหาร ลิโป้โกรธเล่าปี่ ที่ไม่ ช่วยเหลือจึงร้องด่าไปตลอดทาง เตียวเลี้ยวซึ่งถูกคุมตัวมัดไว้ เดินสวนกับลิโป้ ก็ให้สติ เตือนลิโป้ว่า เกิดเป็นชายชาติทหารจะกลัวความตายทำ ไม กวนอูซึ่งอยู่ในที่นั้นด้วยได้ฟัง ก็เกิดความชื่นชมในความกล้าหาญของเตียวเลี้ยว จึงขอให้โจโฉไว้ชีวิตแก่เตียวเลี้ยว โจโฉ ก็ยกโทษให้และรับไว้เป็นทหารของตนตั้งแต่นั้น ตอน กวนอูไปรับราชการ ๘
เตียวเลี้ยว รับราชการในสังกัดโจโฉ จนกระทั่งเล่าปี่เป็นศัตรูกับโจโฉตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่ เมืองชีจิ๋วแทนลิโป้ โจโฉจึงยกทัพมาปราบปราม เล่าปี่นั้นหนีไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว ส่วน เตียวหุยหนีไปอยู่บนเขาบองเอี๋ยงสัน แต่กวนอูถูกล้อมอยู่ใกล้ เมืองแห้ฝือ เตียวเลี้ยว นายทหารของโจโฉจึงอาสาเกลี้ยกล่อมกวนอูให้เข้ารับราชการกับโจโฉ โดยกล่าวกับ กวนอูว่า หากท่านแหกด่านคิดสู้ตายกับกองทัพโจโฉ ท่านจะมีความผิด3 ประการคือ 1.เล่าปี่ กวนอู และ เตียวหุย ได้สาบานเป็นพี่น้องกันที่สวนดอกท้อ ว่าแม้ไม่ได้เกิดวัน เดือนปีเดียวกัน ก็ขอ ตายวันเดือนปีเดียวกัน หากกวนอู ถึงแก่ความตาย ก็จะถือเป็น ความผิดข้อที่ 1 2.เล่าปี่ ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์คิดกอบกู้บ้านเมือง บัดนี้เล่าปี่ยังไม่สำ เร็จการใหญ่ หาก กวนอูต้องตายลงเสียก่อน ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ 2 เพราะมิได้อยู่ช่วยงานเล่าปี่ให้ สำ เร็จการใหญ่ 3.เล่าปี่ฝากครอบครัวของตนแก่กวนอู หากกวนอูตาย ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ 3 เพราะหากกวนอูตาย ก็ย่อมไม่มีใครดูแลครอบครัวของเล่าปี่ ตอน กวนอูไปรับราชการ(ต่อ) ๙
ในที่สุดกวนอูตัดสินใจยอม แต่ขอคำ มั่นสัญญา 3 ประการ ให้เตียวเลี้ยว นำ ไปบอก กับโจโฉ ว่า 1.กวนอูขอเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ตามที่เคยสาบานไว้กับเล่าปี่และเตียวหุย 2.ขอปฎิบัติต่อพี่สะใภ้ของตน(นางกำ ฮูหยินและบิฮูหยิน) โดยใช้เงินเบี้ยหวัดของเล่าปี่ที่ เคยได้พระราชทานมาให้พี่สะใภ้ทั้งสองและห้ามผู้ใดมากล้ำ กรายเข้าถึงประตู 3.ถ้ากวนอูรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่ใดตนก็จะไปหาแม้จะไม่ได้ร่ำ ลาโจโฉก่อนก็ตาม โจโฉตกลงให้คำ มั่นสัญญากับกวนอู ตั้งแต่นั้น กวนอู จึงต้องอยู่รับราชการในสังกัด ของโจโฉ โจโฉพยามที่จะซื้อใจกวนอู อยู่ทุกวันมิได้ขาด สามวันแต่งโต๊ะเลี้ยงทีหนึ่ง อีก ทั้งพากวนอูไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ กวนอูได้รับพระราชทานนามว่า ‘บีเยียงก๋ง’ แปลว่า เจ้าหนวดงาม วันหนึ่งโจโฉเห็นม้าของกวนอูผอมโซ จึงยก ม้าเซ็กเธาว์ ซึ่งเคยเป็นม้าฝีเท้าดีของลิ โป้ ม้าเซ็กเธาว์มีกำ ลังมากวิ่งได้วันละพันลี้ กวนอู ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก ถึงกับหลุดปาก ออกมาว่า ดีจริงวันใดเมื่อเรารู้ข่าวว่าท่านพี่เล่าปี่อยู่ที่ใด เราจะได้ไปหาเล่าปี่ได้เร็วขึ้น โจโฉจึงมีความวิตกยิ่งนัก ใจหนึ่งก็ชื่นชมกวนอูว่ามีความกตัญญูหาผู้ใดเสมอมิได้แต่อีก ใจหนึ่งรู้สึกน้อยใจที่พยายามเลี้ยงดูกวนอูด้วยทรัพย์สมบัติและยศศักดิ์เท่าใด ก็ไม่ สามารถทำ ให้กวนอูเสื่อมความภักดีต่อเล่าปี่ได้ โจโฉจึงปรึกษากับเตียวเลี้ยวว่า เห็นจะเปล่าประโยชน์ที่จะเลี้ยงดูกวนอูอีกต่อไป เตียวเลี้ยวจึงอาสาไปหยั่งความคิดเห็นของกวนอูดูก่อน แล้วเตียวเลี้ยวก็ได้คำ ตอบจาก กวนอูว่า สำ หรับโจโฉนั้น กวนอูสำ นึกในบุญคุณอยู่เสมอ แต่เล่าปี่เป็นพี่ร่วมสาบาน มี คุณแก่กวนอูมาก่อน ถ้าเล่าปี่ตาย กวนอูก็จะตายตามไปด้วยดังที่สาบานไว้แม้ว่ากวนอู จะต้องจากโจโฉไป ก็จะไม่ลืมบุญคุณของโจโฉ และจะต้องตอบแทนบุญคุณของโจโฉ อย่างแน่นอน ตอน กวนอูไปรับราชการ(ต่อ) ๑๐
เตียวเลี้ยวนำ ความไปบอกโจโฉ โจโฉได้แต่ถอนหายใจ วิตกกังวลที่ไม่สามารถซื้อใจ กวนอูมาจากเล่าปี่ได้ซุนฮกจึงแนะนำ แก่โจโฉว่า เมื่อกวนอูบอกว่าจะแทนคุณก่อนจากไป เพราะฉะนั้น เวลามีศึกก็อย่าให้กวนอูออกรบ เพราะถ้ายังไม่มีความชอบ กวนอู ก็จะยัง อยู่กับโจโฉเป็นมั่นคง โจโฉ เห็นด้วยกับซุนฮก ซ้ำ ยังแสร้งใช้อุบาย เพื่อให้น้ำ ใจของกวนอูหักหาญแปรเปลี่ยน จากเล่าปี่ ในคราวระหว่างเดินทัพทางไกล เมื่อหยุดทัพ ณ ตำ บลใด ยามตกค่ำ โจโฉก็จัด ให้กวนอูกับ ฮูหยินของเล่าปี่ พักอยู่ร่วมกระโจมเดียวกัน หมายว่าหากชายหญิงอยู่ใกล้ ชิดกัน ย่อมเสมือนน้ำ มันใกล้เปลวไฟ ซึ่งพร้อมที่ปะทุลุกโชนด้วยเรื่องความรักความใคร่ โจโฉจึงเปิดช่องให้กวนอูคิดล่วงเกินฮูหยินเล่าปี่ ซึ่งนำ ไปสู่การแตกหักกับเล่าปี่ แต่การณ์ผิดคาด ทุกค่ำ คืน กวนอู จะออกมายืนอยู่หน้ากระโจมพักเพียงลำ พัง กุมง้าว มังกรเขียวไว้อย่างมั่นคง ยืนเฝ้ารักษาการณ์ภายนอกอย่างสงบนิ่งไม่ขยับเขยี้อนตลอด คืน เป็นเช่นนี้ทุกค่ำ คืน ฝ่ายเล่าปี่ที่หลบหนีไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว ได้ยุให้อ้วนเสี้ยวออกรบกับโจโฉ อ้วนเสี้ยวได้ สั่งให้ งันเหลียง ทหารเอก เป็นทัพหน้า เดินทัพเข้าทางด่านแปะแบ๊ ทหารโจโฉ มีความ กริ่งเกรง ครั่นคร้ามในฝีมือ ของงันเหลียง ไม่มีใครขันกล้าออกรบ กวนอูจึงขันอาสาออกสู้ รบ โจโฉจำ ใจต้องให้กวนอูออกสู้รบ กวนอูใช้ง้าวฟัน งันเหลียง คอขาดตายอ้วนเสี้ยวจึงส่ง บุนทิว ผู้ซึ่งมีฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า งันเหลียง ออกสู้รบ กวนอูก็ฆ่าบุนทิวตายเสียอีกคน ตอน กวนอูไปรับราชการ(ต่อ) ๑๑
กวนอูฆ่าแม่ทัพของอ้วนเสี้ยว ตายถึงสองคน ซึ่งควรจะถือเป็นการตอบแทนบุญคุณ ของโจโฉได้ในระดับหนึ่ง อยู่มากวนอูได้ข่าวว่าเล่าปี่ไปอยู่ด้วยอ้วนเสี้ยว จึงลาจากโจโฉ เพื่อเดินทางไปหาเล่าปี่ กวนอูก็ลาโจโฉไปโดยให้คำ มั่นสัญญาว่า จะหาโอกาสตอบแทนบุญคุณของโจโฉให้จง ได้ โจโฉ นับถือในความสัตย์ซื่อของกวนอู และยึดมั่นในคำ คำ สัญญา 3 ข้อที่เคยให้ไว้กับ กวนอู โจโฉขี่ม้าตามไปส่งกวนอู พอตามกวนอูทัน โจโฉมอบเสื้อให้กับกวนอูเป็นที่ระลึก ตามมารยาท กวนอูต้อง ลงจากหลังม้าเพื่อรับเสื้อจากโจโฉ แต่กวนอู มิได้ลงจากหลัง ม้า ซ้ำ ยั้งใช้ใช้ง้าวรับเสื้อจากโจโฉ ซึ่งในสมัยนั้นถือเป็นดูหมิ่นไม่ให้เกียรติกันอย่างร้าย แรง การที่กวนอูไม่ยอมลงจากหลังม้า คงเพราะคำ นึงถึงความปลอดภัยของตัวเองก็เป็น ไปได้และถือเป็นความรอบคอบในเชิงทหาร ซึ่งโจโฉเองก็คงเข้าใจเหตุผลในข้อนี้ หมายเหตุ : อ่านเนื้อเรื่องสามก๊ก ของเนื้อหาในตอนนี้ ได้ในจากหนังสือ สามก๊กฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน)ตอนที่ 22, 23และ 24 ที่นี่ https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-22.html https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-23.html https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-24.html ตอน กวนอูไปรับราชการ(ต่อ) ๑๒
1. เป็นประโยชน์ต่อราชการในสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะในยุค สมัยนั้นยังมีสงครามและการสู้รบกับดินแดนต่างๆ สามก๊กจึงเป็น วรรณคดีที่เปรียบเสมือนตำ ราที่ถ่ายทอดกลยุทธ์การทำ สงคราม •บริหารจัดการคน •การทํางาน • การวางแผนให้แยบคายต่าง ๆ 2. แบบอย่างในการแปลหนังสือ เพราะสำ นวนภาษาอ่านเข้าใจ ง่ายและสละสลวย ไม่ว่า เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ซึ่งนับว่าเป็น วรรณคดีแปลแสนคลาสสิกของคนหลายยุค สมัยเลยทีเดียว คุณค่าด้านเนื้อหา ๑๓
1.ลักษณะการประพันธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ รงราชานุภาพทรงแสดงความคิดเห็นเกี่ยว กับ สามก๊กไว้ว่า “สำ นวนหนังสือสามก๊กดีกว่าเรื่องอื่นด้วยใช้ถ้อยคำ และเรียงความเรียบ ร้อยสม่าเสม อ่านเข้าใจง่าย” ส่วนศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน แสดงทรรศนะ เกี่ยวกับสามก๊กว่า “แต่ง เพราะแต่งกะทัดรัด ใช้คำ พูดไม่กี่คำ ก็ได้ความบริบูรณ์และเป็น สำ นวนอย่างไทย อ่านแล้วเข้าใจดี” ดังนั้น ลีลาการแต่งสามก๊กจึงมีอิทธิพลต่อการแปล วรรณกรรมจีนในสมัยหลัง 2.ศิลปะการประพันธ์ ศิลปะในการแต่งสามก๊กนี้อยู่ที่การดำ เนินเรื่องที่มีความฉับไว สร้างความตื่นเต้นให้ กับ ผู้อ่านอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการบรรยายพฤติกรรมของตัวละครที่มีความกระชับ มี การใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย มีการแฝงคติธรรม ในสามก๊กนี้มีศิลปะการประพันธ์ที่น่าสนใจ และกล่าวได้ว่าเด่นมากในกลวิธีการประพันธ์ นั่นก็คือ อุปมาโวหาร ตัวอย่างอุปมาโวหาร นี้มักพบในสามก๊กเป็นส่วนใหญ่ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๑๔
1. การเมืองการปกครอง จากเรื่องสามก๊กจะเห็นว่าสภาพบ้านเมืองในสมัยนั้นผู้คนมีการแบ่งแยกเป็นกลุ่ม ๆ ตามเมืองต่าง ๆ เกิดศึกสงครามไปทั่ว เพื่อขยายอำ นาจของกลุ่มตน 2. การสื่อสาร การสื่อสารใช้การส่งจดหมายถึงกันซึ่งเรียกว่า หนังสือ โดยให้คนเดินทางนำ ไปส่ง ยัง ที่หมายเห็นได้จากข้อความว่า 3. การเดินทาง ในสมัยของสามก๊กนี้นิยมใช้ม้าเป็นพาหนะในการเดินทางและในการรบ ดังจะเห็นได้ จากเนื้อเรื่องตอนหนึ่งที่กวนอูดีใจเมื่อได้รับม้าเช็กเธาว์นอกจากใช้ม้าเป็นพาหนะในการ เดินทาง ก็ยังปรากฏว่ามีการใช้รถด้วยแต่สันนิษฐานว่าไม่แพร่หลายนัก น่าจะมีใช้เฉพาะ ผู้ที่มีฐานะและชนชั้นสูงเท่านั้น ดังเนื้อเรื่อง 4. การแสดงความเคารพ คนจีนแสดงความเคารพต่อกันด้วยการคำ นับ เห็นได้จากเนื้อเรื่อง คุณค่าด้านสังคม ๑๕
ข้อคิดนำ ชีวิต 1.ควรเป็นคนที่มีคุณธรรม เช่น มีความซื่อสัตย์และความกตัญญู อย่างเช่น กวนอู 2.ควรยกย่องคนที่มีความสามารถ กล้าหาญ ดังเช่น โจโฉยกย่องกวนอู 3. ไม่ควรแตกสามัคคีกัน เพราะบ้านเมืองจะไม่สงบสุข ดูเช่นสามก๊ก แตกแยกออกเป็น สาม และทำ สงครามกันยาวนานกว่าจะพบกับความสงบสุข ดังคำ ที่ว่า“เดิมแผ่นดินเมือง จีนทั้งปวงนั้น เป็นสุขมาช้านานแล้วก็เป็นศึก ครั้นศึกสงบแล้วก็เป็นสุข" 4. ควรเป็นคนรักษาสัจจะวาจา พูดอย่างไร ก็เป็นไปตามที่พูดนั้น ดังเช่น โจโฉ หรือ กวนอู เมื่อพูดสิ่งใดแล้วก็ไม่ให้เสียคำ พูดเช่น “โจโฉจึงว่า ซึ่งปฏิญาณของท่านนั้น เราได้ออกปากรับแล้วถึงจะเป็นประการใดเราก็ มิให้เสียวาจา" “กวนอูจึงตอบว่าตัวเราเกิดมาเป็นชายรักษาสัตย์มิเสียวาจา” ๑๖
บรรณนุกรม ๑๗ กิตติยาพร ตั้งเจริญทรัพย์{และคนอื่นๆ}. (2566).สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับ ราชการกับโจโฉ(รายงาน).สืบค้น 7 มกราคม 2567, จาก https://online.anyflip.com/yloov/jlpf/mobile/index.html พันธุ์ทิวาพร ทักพาณิชย์{และคนอื่นๆ}. (2565).สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับ ราชการกับโจโฉ.สืบค้น 7 มกราคม 2567, จาก https://anyflip.com/yzvqq/ycbd/basic สุริยา แสนสุขไสย. (มปป).สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ. สืบค้น 7 มกราคม 2567, จาก https://krusuriyapasathai.wordpress.com
ผู้ตรวจสอบอักษร นายปุณณวิช อึ้งรังษี นางสาวปวริสา ไชยสิงห์สวัสดิ์ ๑๘