The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กระถางอินทรย์จากเมล็ดยางพารา โครงงานวิทยาศาสต์ประเภทสิ่งประดิษฐ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by dreamiievanita.7, 2023-01-01 10:39:39

กระถางอินทรย์จากเมล็ดยางพารา

กระถางอินทรย์จากเมล็ดยางพารา โครงงานวิทยาศาสต์ประเภทสิ่งประดิษฐ์

รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดษิ ฐ์
เรอ่ื ง กระถางอนิ ทรยี จ์ ากเมลด็ ยางพารา

โดย
๑. เด็กหญิงสุพนิดา ปทั ทุม
๒. เดก็ หญงิ ณัฏฐณิชา ปทั ทุม
๓. เดก็ หญงิ บุณณดา อาจวชิ ยั

ครูทีป่ รึกษาโครงงาน
๑. นางสาววณติ าภรณ์ สุพร
๒. ว่าที่รอ้ ยตรี เวชมนต์ แสนโคตร

โรงเรยี นบา้ นคำพอก๑ สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษามกุ ดาหาร
รายงานฉบบั นีเ้ ป็นสว่ นประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์
ประเภทสงิ่ ประดิษฐ์ ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ - ๖
เนอ่ื งในงานศิลปหตั ถกรรมนักเรียน ครง้ั ที่ ๗๐
วนั ที่ ๖-๗ เดอื นมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖

1

เรือ่ ง กระถางอนิ ทรยี ์จากเมลด็ ยางพารา

โดย
๑. เด็กหญิงสพุ นดิ า ปทั ทมุ
๒. เด็กหญงิ ณัฏฐณิชา ปัททมุ
๓. เดก็ หญงิ บุณณดา อาจวิชยั

ครทู ่ปี รกึ ษาโครงงาน
๑. นางสาววณิตาภรณ์ สุพร
๒. ว่าที่ร้อยตรี เวชมนต์ แสนโคตร

2

ช่ือโครงงาน : เรอ่ื ง กระถางอินทรียจ์ ากเมล็ดยางพารา
ประเภทโครงงาน : โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์
คณะผู้จดั ทำ : ๑. เดก็ หญิงสพุ นิดา ปัททุม ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕

๒. เด็กหญงิ ณฏั ฐณิชา ปทั ทุม ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕
๓. เดก็ หญงิ บณุ ณดา อาจวชิ ัย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
ครูท่ีปรกึ ษา : ๑. นางสาววณติ าภรณ์ สุพร
๒. ว่าท่รี ้อยตรี เวชมนต์ แสนโคตร
สถานศึกษา : โรงเรียนบ้านคำพอก๑ ตำบลโนนยาง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร
สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษามุกดาหาร
ปกี ารศึกษา : ๒๕๖๕

บทคดั ย่อ

โครงงานในครั้งนี้ เป็นการประดิษฐ์ กระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา มีวัตถุประสงค์เพ่ือ
ประดิษฐ์กระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา และศึกษาการย่อยสลายของกระถางอินทรีย์จากเมล็ด
ยางพารา อตั ราส่วนท่ีนำมาประดิษฐ์เป็นกระถางอินทรีย์จากเมลด็ ยางพารา คอื เมลด็ ยางพารา ๓๐๐
กรัม ต่อแป้งเปียก ๑๐๐ กรัม สามารถนำมาผสมแล้วขึ้นรูปได้รูปทรงที่เหมาะสมมีความหนา ๑
เซนติเมตร ใช้ระยะเวลาการตากแห้ง คือ ๗ วัน และสามารถดูดซับน้ำได้ร้อยละ ๓๓.๐๖ เมื่อนำ
กระถางจากเมลด็ ยางพารา เพาะปลูกตน้ ฟา้ ประทานพร แล้วนำลงบรรจใุ ต้ดินเป็นเวลา ๓๐ วนั พบวา่
กระถางมีสีที่เปลี่ยนไปจากน้ำตาลกลายเป็นสีดำ เปลือกเมล็ดมีขนาดเล็กลง และสีเปลี่ยนไป พบได้
น้อยลงจนถึงวันสุดท้ายไม่พบเปลือกเมล็ด จึงสามารถสรุปว่า กระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา มี
ความสามารถในย่อยสลายไดต้ ามธรรมชาติภายในระยะเวลา ๑ เดือน นอกจากนี้พบว่ากระถางเพาะ
ชำนี้มีธาตุอาหารสำคัญแก่พืช ได้แก่ แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต
ของพืช



กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานฉบบั นส้ี ำเรจ็ ไดด้ ้วยดีเนื่องจากได้รบั ความเมตตากรุณาและความชว่ ยเหลอื อย่างดยี ง่ิ
จากนางสาววณิตาภรณ์ สุพรและวา่ ที่รอ้ ยตรี เวชมนต์ แสนโคตร คุณครทู ป่ี รกึ ษาโครงงานทั้งสองท่าน
ที่ได้กรุณาให้คำปรึกษา ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการทำงาน ตลอดจน
สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ ดูแลติดตามและให้กําลังใจในการทำงานเสมอมา ทำให้ตลอดระยะเวลาที่
ทำการศึกษาเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าและมีความสุขอย่างยิ่ง คณะผู้จัดทำรู้สึกซาบซึ้งที่ได้มีโอกาสทำ
โครงงานร่วมกบั ท่านท้งั สอง ขา้ พเจ้าขอขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสนี้

ขอขอบคณุ นายยุทธชัย นอ้ ยทรง ผอู้ าํ นวยการโรงเรยี น และคณะครู บคุ ลากรทางการศึกษา
ของโรงเรยี นบา้ นคำพอก๑ ทุกทา่ น ท่ีใหค้ วามร่วมมือและอํานวยความสะดวกในการทำโครงงาน
เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาดำเนินการจนลุล่วง เหนือสิ่งอื่นใด ทางคณะผู้จัดทำขอขอบคุณบิดา
มารดาเป็นอย่างสูงที่กรุณาส่งเสริมการศึกษาและเป็นกําลังใจให้ตลอดมา ขอขอบคุณเพื่อนนักเรียน
โรงเรียนบ้านคำพอก๑ ที่คอยเป็นกําลังใจให้ความช่วยเหลือเสมอมา ทำให้สามารถดำเนินการ
โครงงานจนสำเร็จลุลว่ งมาไดใ้ นทส่ี ุด

คณะผจู้ ัดทำ



สารบญั

บทคัดยอ่ บทนาํ หน้า
กติ ติกรรมประกาศ ๑.๑ ความเปน็ มาและความสำคัญของปญั หา ก
สารบัญ ๑.๒ วตั ถุประสงค์ของการทำโครงงาน ข
สารบญั ตาราง ๑.๓ คาํ ถามของโครงงาน ค
สารบญั รปู ภาพ ๑.๔ สมมติฐาน ง
บทที่ ๑ ๑.๕ ขอบเขตของโครงงาน จ
๑.๖ คาํ นยิ ามศัพท์ ๑
บทที่ ๒ ๑.๗ ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับ ๑
เอกสารทเี่ กี่ยวข้อง ๒
บทท่ี ๓ ๒.๑ เมล็ดยางพารา ๒
๒.๒ แป้งมนั สำปะหลงั ๒
บทที่ ๔ ๒.๓ วธิ กี ารทำกระถางต้นไม้จากวัสดุธรรมชาติ ๒
อุปกรณแ์ ละวธิ ีดำเนินการ ๓
บทที่ ๕ ๓.๑ การกำหนดวธิ ีการดำเนินโครงงาน ๓
๓.๒ แผนการดำเนนิ งานตลอดโครงงาน ๔
๓.๓ วัสดแุ ละอุปกรณ์ ๔
๓.๔ วธิ ดี ำเนินการ ๕
๓.๕ ระยะเวลาดำเนนิ โครงงาน ๖
ผลการดำเนินการ ๙
ตอนท่ี ๑ ศึกษาอัตราส่วนทเี่ หมาะสมของเมลด็ ยางพาราท่ี ๙
เหมาะสมการทำกระถางอินทรีย์ ๙
ตอนท่ี ๒ ศกึ ษาลักษณะทางกายภาพและการยอ่ ยสลายของ ๑๐
กระถางอินทรยี ์จากเมล็ดยางพารา ๑๐
สรปุ ผลการดำเนนิ การ/อภปิ รายผลการดำเนินการ ๑๒
๕.๑ สรปุ ผลการดำเนินการ ๑๓
๑๓

๑๓

๑๖
๑๖



๕.๒ อภิปรายผล หน้า
๕.๓ ขอ้ เสนอแนะ ๑๖
๑๗
บรรณานกุ รม ๑๘
ภาคผนวก ๑๙



ตารางที่ สารบัญตาราง หน้า
ตารางที่ ๒.๑ ๕
ส่วนประกอบของโภชนะต่างๆ ในกากเมล็ดยางพาราชนิดมี
ตารางท่ี ๓.๑ เปลอื ก และไม่มเี ปลือก (คิดจากวตั ถแุ ห้ง, เปอร์เซ็นต์) ๙
ตารางที่ ๔.๑ แผนการดำเนนิ งานตลอดโครงงาน ๑๔
การย่อยสลายของกระถางอนิ ทรยี จ์ ากเมล็ดยางพารา



สารบัญรปู ภาพ

รปู ภาพท่ี เมล็ดยางพารา หน้า
ภาพท่ี ๑ ตวั อยา่ งแปง้ มนั สำปะหลงั ๔
ภาพท่ี ๒ ตัวอย่างกระถางเพาะชำท่เี หมาะสมต่อการขึน้ รูป ๖
ภาพท่ี ๓ ปริมาณเมลด็ ยางพาราเท่ากบั ๓๐๐ กรัม ๑๓
เมล็ดยางพารา
ภาพท่ี ๔ แปง้ มนั สำปะหลัง ๑๙
ภาพที่ ๕ นำ้ เปลา่ ๑๙
ภาพที่ ๖ กระถางพสาติก ๑๙
ภาพที่ ๗ หมอ้ กระทะไฟฟ้า ๒๐
ภาพท่ี ๘ ทพั พี ๒๐
ภาพท่ี ๙ กะละมังสแตนเลส ๒๐
ภาพท่ี ๑๐ กระบอกตวงขนาด ๑๐๐ มลิ ลิลติ ร ๒๐
ภาพที่ ๑๑ เครือ่ งช่ังดจิ ติ อล ๑ ตำแหนง่ ๒๑
ภาพที่ ๑๒ แว่นขยาย ๒๑
ภาพท่ี ๑๓ ชัง่ เมล็ดยางพาราทถี่ ูกบดแบบหยาบ แปง้ มัน และน้ำเปล่าตามทร่ี ะบุ ๒๑
ภาพท่ี ๑๔ ในข้นั ตอน ๒๒
เตรียมวัสดุก่อนการทดลอง
ภาพที่ ๑๕ นำแปง้ มันสำปะหลัง ละลายไวน้ ามาผสมกบั น้ำท่ีตั้งไฟไว้กวนไป ๒๒
ภาพที่ ๑๖ เร่อื ย ๆ ใช้ไฟอ่อน ๒๒
นำเมล็ดยางพารามาลา้ งทำความสะอาด และตากให้แหง้
ภาพท่ี ๑๗ นำเมลด็ ยางพารามาบดหยาบ ๒๓
ภาพท่ี ๑๘ นำเมลด็ ยางพาราปรมิ าณ ๓๐๐ กรัม ผสมกาวแปง้ เปยี กในขัน้ ตอน ๒๓
ภาพที่ ๑๙ ที่ ๑ ๒๓
ขนึ้ รูปกระถางจากเมลด็ ยางพารา
ภาพท่ี ๒๐ ๒๔

ภาพท่ี ๒๑ นำกระถางไปตากแดดจนกระถางแห้ง ๒๔
ภาพท่ี ๒๒ ชัง่ น้ำหนักกระถางแห้ง ๒๔



รปู ภาพที่ ทดสอบการดูดซบั นำ้ หน้า
ภาพท่ี ๒๓ ๒๕
ภาพที่ ๒๔ ชั่งนำ้ หนักกระถาง หลังตั้งท้ิงไวใ้ หน้ ำ้ สว่ นเกนิ ทช่ี ้นิ งานดดู ซับไวห้ มด ๒๕
ภาพท่ี ๒๕ ๒๕
เซนตเิ มตร นำต้นฟา้ ประทานพรปลูกลงในกระถางเพาะชำ จากนัน้
ภาพที่ ๒๖ นำกระถางเพาะชำที่ไปบรรจุลงดิน ๒๖
ภาพที่ ๒๗ รดนำ้ ตน้ ฟา้ ประทานพรวนั ละ ๑ คร้ัง ๒๖

ภาพท่ี ๒๘ บันทึกผลการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ สงั เกตลกั ษณะของกาก ๒๖
เมล็ดยางพาราที่เหลอื จากการยอ่ ยสลายและบนั ทึกผล
จัดทำรปู เลม่ เพื่อนำเสนอ



บทท่ี ๑
บทนำ

๑.๑ ความเป็นมาและความสำคญั ของปญั หา
พลาสติกถือเป็นวัสดุที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือครัวเรือน รวมถึงของ

กินของใช้ในยุคปัจจุบัน ล้วนทำจากพลาสติกทั้งสิ้น และเหตุนี้จึงทำให้พลาสติกกลายเป็นขยะที่มี
ปริมาณมากและแพร่หลายอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เพราะพลาสติกเป็นวัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลาย
ด้วยตัวเองเนือ่ งจากเป็นสารสงั เคราะห์ และเป็นวัสดทุ ีถ่ กู ท้ิงเกลื่อนกลาดในทกุ ๆ วนั ทั่วโลก โดยเฉล่ีย
ถงุ พลาสติกจะเปน็ ขยะทม่ี ีปริมาณมากท่ีสุด รองลงมาจะเปน็ หลอดเคร่ืองดื่ม ฝาพลาสตกิ และภาชนะ
บรรจุอาหาร ซึ่งจากปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ (Bioform (Thailand).
ออนไลน์) ทั้งการปนเปื้อนของแหล่งน้ำ แหล่งดิน รวมไปถึงอาหารการกิน สิ่งแวดล้อม มลภาวะเกิด
เปน็ พษิ อดุ ตนั ตามทอ่ ระบายน้ำอันตรายต่อสัตว์และส่งิ มชี ีวิตอ่ืน ๆ และปัญหาในระดบั โลกในปัจจุบัน
คือ เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ทั่วโลกต่างตระหนักอย่างยิ่ง ซึ่งขยะพลาสติกไทย ติด
อันดับ ๑๒ ของโลก ปริมาณ ๔.๘ ล้านตันต่อปี หลักๆ จากความนิยม Food Delivery (ข้อมูลวันท่ี
๑๔ เดือนมนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๕)

โรงเรยี นบา้ นคำพอก๑ เป็นสถานศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา พ้นื ที่โดยรอบของโรงเรียนเต็มไป
ด้วยพืชพรรณนานาชนิด ที่ปลูกเพื่อตกแต่งสถานศึกษาและให้ร่มเงาแก่นักเรียน เช่น มะม่วง มะขาม
ลำไย ฟ้าประทานพร เป็นต้น นอกจากนี้ยังปลูกพืชเพื่อสร้างอาชีพและเป็นแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ สวน
สมุนไพรพื้นบ้าน และสวนยางพาราจำนวน ๓๐๐ ต้น ในช่วงกลางฤดูฝน ฝนมักตกทิ้งช่วงให้ฝักของ
เมล็ดยางพาราแห้ง และแตกร่วงหล่น การตกของเมล็ดยางพาราช่วงนี้เรียกว่า เมล็ดยางในปี (เป็น
เมล็ดที่สำคัญในการขยายพันธุ์ยางพารา) ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ขึ้นอยู่กับพื้นท่ี
เมล็ดยางพาราเหลา่ น้ีนำมาปลูกเพื่อทำกล้ายางสำหรบั ตดิ ตาในแปลงปลูก หรือนำไปทำเป็นวัสดปุ ลกู
ขยายพนั ธุ์ต่อไปก็ได้ (สำนกั งานพัฒนาการวิจยั การเกษตร(องค์กรมหาชน). ออนไลน์) แต่มีข้อเสียของ
การขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ทำให้ผลผลิตและการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้า อีกทั้งอาจจะมีการกลาย
พนั ธ์เุ กิดขนึ้ ได้ การเกบ็ รกั ษาท่ยี ากเพราะมีความเส่ียงท่จี ะเกิดโรคไดต้ ลอดเวลา รวมไปถงึ อาจจะส่งผล
ให้เมล็ดท่ยี งั ไม่ได้มกี ารเพาะพนั ธน์ุ ั้นเกิดการเน่าเสียได้

การขยายพันธุ์พืชมักใช้กระถางเพาะชำหรือถุงเพาะชำที่ผลิตจากพลาสติก เมื่อนำต้นไม้ไป
ปลูกลงดินแลว้ กระถางหรือถงุ พลาสติกเพาะชำเหล่านั้นจะกลายเปน็ ขยะพลาสติกซึ่งเปน็ ปัญหาสำคัญ
ต่อสิ่งแวดลอ้ มท้ังดนิ น้ำ อากาศ รวมทั้งมผี ลกระทบต่อเนอื่ งสู่สง่ิ มีชีวติ ต่าง ๆ และพลาสติกเหล่าน้ีใช้

เวลาการย่อยสลายยาวนาน ตั้งแต่ ๕๘ – ๑,๒๐๐ ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติก หากนำไปเผาเพ่ือ
ทำลายจะเกิดผลเสียต่อสิ่งแวดลอ้ ม เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้น การใช้กระถางท่ี
ทำจากวัสดธุ รรมชาติหรือวัสดุทยี่ ่อยสลายได้ทดแทนการใช้พลาสติกในการเพาะชำตน้ ไม้เป็นแนวทาง
หนึ่งในการลดปริมาณขยะของเสียและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตพลาสติก (เตือนใจ
ปิยงั และคณะ, ๒๕๖๑)

จากข้อมูลที่กล่าวข้างต้น ทำให้ทางคณะผู้จัดทำสนใจที่จะประดิษฐ์วัสดุที่ช่วยลดปัญหา
ดังกล่าวโดยการใช้วัสดุที่มีในบริเวณโรงเรียนและชุมชน ซึ่งวัสดุที่สนใจศึกษา คือ การประดิษฐ์
กระถางอินทรียจ์ ากเมล็ดยางพารา

๑.๒ วัตถปุ ระสงคข์ องการทำโครงงาน
๑) เพือ่ ประดิษฐ์กระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา
๒) เพ่อื ศกึ ษาการย่อยสลายของกระถางอนิ ทรยี ์จากเมล็ดยางพารา

๑.๓ คาํ ถามของการวจิ ัย
๑) สามารถประดิษฐ์กระถางอนิ ทรีย์จากเมล็ดยางพาราได้หรอื ไม่
๒) กระถางอินทรยี ์จากเมลด็ ยางพาราสามารถย่อยสลายได้ภายใน ๑ เดือน

๑.๔ สมมติฐาน
เมล็ดยางพาราสามารถนำมาประดษิ ฐ์เปน็ กระถางเพาะชำที่ยอ่ ยสลายได้ภายใน ๑ เดือน

๑.๕ ขอบเขตของการวจิ ัย
๑) ขอบเขตเชงิ เน้อื หา – วธิ กี ารทำอินทรยี จ์ ากวัสดธุ รรมชาติ
๒) ขอบเขตเชิงพืน้ ที่ – บรเิ วณสวนยางพาราและห้องปฏบิ ัตกิ ารทางวิทยาศาสตร์

โรงเรียนบา้ นคำพอก๑
๓) ตัวแปรท่ีศึกษา
ตวั แปรต้น - กระถางอินทรีย์จากเมลด็ ยางพารา
ตัวแปรตาม - ลกั ษณะทางกายภาพ การดูดซบั นำ้ และการยอ่ ยสลายของ

กระถางอินทรีย์จากเมลด็ ยางพารา
ตัวแปรควบคุม - ขนาดของกระถาง ปรมิ าณแป้งเปียก ระยะเวลาการทำให้แห้ง

ปริมาณนำ้ ในการทดสอบการดูดซับ ระยะเวลาในการปลกู ลงดิน



๑.๕ คํานยิ ามศพั ท์
๑) กระถางอินทรีย์ คือ กระถางสำหรับปลูกต้นไม้ ทท่ี ำมาจากวัสดธุ รรมชาติ (เมลด็

ยางพารา)
๒) เมล็ดยางพารา คอื เมลด็ ที่เกดิ จากยางทม่ี ีอายุเฉลย่ี ๓-๕ ปขี ึน้ ไป จะให้เมล็ด

๑.๖ ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั
๑) นำสง่ิ ของท่ีมใี นธรรมชาติ มาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพ่ือเพิ่มมูลคา่
๒) สร้างทางเลือกเพ่ือลดการใช้กระถางเพาะชำหรือถุงเพาะชำจากพลาสติก ดว้ ยการใช้

กระถางเพาะชำที่ย่อยสลายได้ซึ่งเป็นผลติ ภัณฑท์ ่ีเป็นมิตรกบั สิง่ แวดลอ้ ม



บทท่ี ๒
เอกสารทเ่ี กีย่ วขอ้ ง

โครงงานในครง้ั น้ี เปน็ การประดิษฐ์ กระถางอนิ ทรียจ์ ากเมลด็ ยางพารา ได้ศึกษาแนวทางจาก
เอกสารที่เก่ยี วข้อง ดังนี้

๒.๑ เมล็ดยางพารา
๒.๒ แป้งมนั สำปะหลงั
๒.๓ วธิ กี ารทำกระถางต้นไม้

๒.๑ เมล็ดยางพารา
ยางพารา เปน็ พชื ใบเลี้ยงคู่ อยใู่ น Family Euphorbiaceae มชี อื่ ทางวิทยาศาสตร์วา่ Hevea

brasiliensis เป็นไม้ยนื ต้นที่มีถิ่นกำเนิดในแถบลุ่มแม่น้ำอะเมซอน ในประเทศบราซิล ทวีปอเมริกาใต้
นำมาปลูกครั้งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดตรัง ในปีพ.ศ. ๒๔๔๒ โดยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศร
ภกั ดี จากการสำรวจ ในปี พ.ศ.๒๕๔๒ พบวา่ ประเทศไทยมีพนื้ ที่ปลกู ยางพาราประมาณ ๙.๗ ล้านไร่
และพื้นที่ ๑ ไร่ สามารถปลูกต้นยางพาราได้ ๗๖-๘๐ ต้น ในแต่ละปียางพารา ๑ ไร่ จะให้เมล็ด
ยางพาราประมาณ ๕๐ กิโลกรัมซึ่ง เมื่อคำนวณกับพื้นที่ปลูกยางพารา ในปีพ.ศ.๒๕๔๒ ประเทศไทย
จะมีผลผลิตเมล็ดยางพาราประมาณ ๔๘๔ ล้านกโิ ลกรมั ที่ถูกปลอ่ ยให้เนา่ สลายไปในสวนยาง

ภาพท่ี ๑ เมลด็ ยางพารา
ท่ีมา : กรมวชิ าการเกษตร (http://www.doa.go.th)

ผลเป็นแบบ capsule โดยทั่วไปมี ๓ เมล็ด เมื่อแก่ผลจะแตกออก เกิดเสียงดัง เปลือกหุ้ม
เมล็ดจะมลี าย เมลด็ มที ้ังส่วนของเอนโดสเปิร์มและใบเลยี้ ง ใบเลี้ยงมีโปรตีนประมาณ ๑๘ เปอร์เซ็นต์
และมีนำ้ มนั สงู ถงึ ๔๐ เปอรเ์ ซ็นต์

คุณค่าทางโภชนะของเนอื้ ในเมลด็ ยางพารา
สมศักดิ์ (๒๕๔๒) กล่าวว่า กากเมล็ดยางพาราแบ่งออกได้ ๒ ชนิด คือ ชนิดกะเทาะเปลือก
และไม่กะเทาะเปลือก ซึ่งจะมีคุณสมบัติต่างกนั ส่วนของเมล็ดยางท่ีผา่ นการอัดน้ำมนั หรือสกัดน้ำมัน



ด้วยสารเคมี มีกลิ่นหอมชวนกิน ชนิดกะเทาะเปลือกออกมีคุณค่าทางอาหารดีกว่า และคุณสมบัติ

ใกลเ้ คยี งกับกากถว่ั ลิสง และกากเมลด็ ฝ้าย กากเมลด็ ยางพาราชนิดกะเทาะเปลอื กมีโปรตนี ๒๘-๓๐%

เยื่อใย ๙% และยอดโภชนะย่อยได้ ๖๓% และชนิดไม่กะเทาะเปลือกมีโปรตีน ๑๖% เยื่อใย ๔๒%

และยอดโภชนะย่อยได้ประมาณ ๕๘% เนื่องจากกากเมล็ดยางพารามีสารพิษ คือ กรดไฮโดรไซยานิ

คอยู่ซงึ่ สามารถทำให้ปรมิ าณสารพิษนล้ี ดลงได้ โดยการเกบ็ กากเมล็ดยางพาราทิง้ ไว้นาน ๑ เดอื น หรือ

นำไปอบด้วยความร้อน ๑๐๐ องศาเซลเซียส นาน ๑๘ ชั่วโมง หรือผึ่งกลางแดด เป็นเวลา ๒ วัน

หลงั จากแยกเอาสว่ นที่เปน็ ยางออกไป เพอ่ื ทำยางพาราแล้ว กากสามารถนำมาเปน็ อาหารสัตว์ได้ โดย

ใชเ้ ป็นแหลง่ โปรตนี เพราะมกี ากเหลือมากถงึ ๕๓%

สุกัญญา (๒๕๔๙) กล่าวว่า ส่วนประกอบของโภชนะต่างๆ ในกากเมล็ดยางพาราชนิดมี

เปลือก ชนดิ ไม่มเี ปลอื กอัดน้ำมันและสกดั นำ้ มนั มคี วามแตกต่างกนั ดงั แสดงในตารางท่ี ๑

ตารางที่ ๒.๑ ส่วนประกอบของโภชนะต่างๆ ในกากเมล็ดยางพาราชนิดมีเปลือก และไม่มี

เปลือก (คิดจากวัตถแุ หง้ , เปอรเ์ ซ็นต์)

สว่ นประกอบ กากเมลด็ ยางพารามีเปลือก กากเมลด็ ยางพาราไม่มี
เปลอื ก (อัดน้ำมัน)

โปรตนี ๑๕.๖ ๒๙.๑๒

ไขมนั ๖.๓๓ ๑๒.๔๗

เย่อื ใย ๔๑.๙๒ ๙.๓๙

เถา้ ๐.๐๐๒ ๕.๒๙

ไซยาไนด์ ๔๓.๙๐ ๐.๐๐๑๗๒

Gross energy (Kcal/kg) ๐.๒๒ ๔๗.๑๓

แคลเซยี ม ๐.๒๖ ๐.๒๘

ฟอสฟอรัส - ๐.๕๗

ท่มี า: สุกญั ญา (๒๕๔๙)

๒.๒ แปง้ มันสำปะหลัง
พิมพ์เพ็ญ พระเฉลิมพงศ์ (๒๕๔๙) ได้ให้นยิ ามความหมายของแปง้ มนั สำปะหลงั วา่ เปน็ แป้งท่ี

ได้จากมันสำปะหลัง ลกั ษณะของแป้งมีสีขาว เนื้อเนียน ลนื่ เป็นมัน เมื่อทำให้สกุ ด้วยการกวนกับน้ำไฟ
อ่อนปานกลาง แป้งจะละลายง่าย สุกง่าย แป้งเหนียวติดภาชนะ หนืดข้นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีการรวมตัว
เป็นก้อน เหนียวเป็นใย ติดกันหมด เนื้อแป้งใสเป็นเงา พอเย็นแล้วจะติดกันเป็นก้อนเหนียว ติด
ภาชนะ ใช้ทำลอดช่องสิงคโปร์ครองแครงแก้ว เป็นต้น และยังถูกใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆเช่น
อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมกาว เป็นตน้



ภาพท่ี ๒ ตัวอยา่ งแป้งมันสำปะหลัง
ทม่ี า : Makro click (https://www.makroclick.com/th)

๒.๓ วิธกี ารทำกระถางตน้ ไม้จากวัสดุธรรมชาติ

๒.๓.๑ กระถางต้นไม้จากขุยมะพรา้ ว

เวบ็ ไซต์ transformers-cmp.blogspot (๒๕๔๑) ไดก้ ลา่ ววา่ วิธกี ารทำกระถางตน้ ไม้วา่ มี

วัสดแุ ละข้ันตอนดังนี้

วัสดทุ ใ่ี ช้ในการทำกระถางต้นไม้

๑) ขยุ มะพรา้ ว

๒) กาวแปง้ เปียก

๓) กระถ้างต้นไม้ขนาดต่างกัน

ขน้ั ตอนการทำกระถางต้นไม้

๑) นำขุยมะพร้าวและกาวแป้งเปี ยกมาผสมใหเ้ ข้ากนั

๒) ใช้มอื นวดแปง้ เปยี กกับขยุ มะพรา้ วให้เข้ากัน

๓) นำขยุ มะพรา้ วทผี่ สมแลว้ อัดใสป่ ระถางใหแ้ นน่

๔) นำกระถางอีกใบมากดตรงกลางกระถางใหเ้ ป็นหลมุ ตรงกลางแลว้ ทิ้งให้แห้ง

๕) คอ่ ยๆ แกะแบบออกแล้วทิ้งไว้จนแหง้ สนิท

๒.๓.๒ กระถางตน้ ไม้จากใบไม้แห้ง (นายแม้น แป้นเชอ้ื พร้อมคณะ. ๒๕๖๔)

วสั ดอุ ุปกรณท์ ่ีใช้ทำกระถางต้นไม้

๑) ใบไมแ้ ห้ง ๒) กระถาง

๓) กรรไกร ๔) แปง้ มนั ๓.๕ ถ้วยตวง

๕) ไมพ้ าย ๖)นำ้ เปล่า

๗) แรปถนอมอาหาร ๙) กระทะไฟฟ้า

ข้นั ตอนการทำกระถางต้นไม้



ขนั้ ตอนท่ี ๑ การทำแป้งเปียก
๑) ละลายแปง้ มนั ๕๐ กรมั ต่อน้ำเปล่า ๒๐๐ มลิ ลลิ ิตร
๒) นำนำ้ เปล่าในปริมาณเทา่ ๆ กันตงั้ ไฟไวจ้ นเริ่มเดือด ใช้ไฟอ่อน
๓) นำแปง้ มันสำปะหลัง ละลายไวน้ ามาผสมกับน้ำทีต่ ้ัง ไฟไว้กวนไปเรื่อย ๆ

ใช้ไฟออ่ น
๔) สงั เกตดวู ่าแป้งใสขน้ึ มายกลงจากเตาแลว้ กวนต่อไปอกี ประมาณ ๑๐

นาที
๕) รอจนแปง้ เย็น

ขน้ั ตอนท่ี ๒ การทำกระถางจากใบไม้แหง้
๑) นำใบไม้แหง้ มาตัดเป็นช้ินเล็ก ๆ
๒) นำแป้งเปียกผสมทำไวป้ ริมาณ ๑๐๐ มิลลิลติ ร นำมาผสมกับใบไมแ้ หง้ ท่ี

ตัดไว้ปริมาณ ๓๐๐ กรมั
๓) ผสมแปง้ เปียกและใบไมแ้ ห้งใหเ้ ขา้ กนั
๔) นำมาอดั ใสบ่ ลอ็ กกระถางท่เี ตรียมไวใ้ ห้แน่น
๕) นำกระถางที่อดั ไปตากแดดใหก้ ระถางแหง้

๒.๓.๓ กระถางเพาะชำท่ยี ่อยสลายได้จากขุยฉลากและขยุ มะพร้าว (ป่ินประภา โสมากุลและ
สิรนิ ารี เงนิ เจรญิ . ๒๕๖๓)

วัสดุ และอปุ กรณ์ ขยุ ฉลากจากโรงงานผลติ สรุ าขาว ขยุ มะพร้าว แปง้ มนั สำปะหลัง ถาดเพาะ
ชำ กระบอกตวง ขนาด ๑,๐๐๐ มิลลิลิตร เครอ่ื งชั่งนำ้ หนัก ๕๐๐ g กระถางพลาสตกิ ขนาด ๕.๕ นวิ้
และขนาด ๑๑ นว้ิ แมพ่ ิมพ์สี่เหลย่ี ม ๑๐x๑๐x๑ เซนติเมตร เมลด็ พันธ์พุ ริกขีห้ นู (Capsicum
annuum (L.)) และตู้อบลมความรอ้ น ยห่ี อ้ Memmert รุ่น SNB ๑๐๐

วิธีการวจิ ยั เตรยี มขยุ ฉลาก ขุยมะพร้าวและกาวแปง้ เปียกนำวัสดุ ได้แก่ ขยุ ฉลากมาลา้ งด้วย
น้ำจนสะอาด ผงึ่ ให้หมาดนำ้ แลว้ พักไวจ้ ากนน้ั นำขุยมะพร้าวมาคดั แยกเศษมะพร้าวทมี่ ีขนาดใหญอ่ อก
เตรยี มกาวแปง้ เปยี กโดยใชอ้ ตั ราสว่ นระหวา่ งแป้งมนั สำปะหลังและนำ้ เท่ากับ ๔๐๐ กรัม
ตอ่ นำ้ ๒ ลิตร นำไปตงั้ ไฟและเคี่ยวจนเป็นกาวแป้งเปียกศึกษาเพือ่ หาอัตราสว่ นระหว่างขุยฉลาก
และขุยมะพร้าวทเ่ี หมาะสมต่อการขึ้นรูปเปน็ กระถางเพาะชำข้ึนรูปกระถางเพอ่ื ศึกษาอัตราสว่ นของ
กระถางเพาะชำทยี่ ่อยสลายได้ โดยนำขยุ ฉลาก ขุยมะพร้าวและกาวแป้งเปยี กทเ่ี ตรยี มไว้มาผสมกัน
อัตราสว่ นระหว่างขุยฉลากต่อขยุ มะพรา้ ว (โดยปริมาตร) เท่ากับ ๐:๑๐๐, ๑๐:๙๐, ๒๐:๘๐, ๓๐:๗๐,
๔๐:๖๐, ๕๐:๕๐, ๖๐:๔๐, ๗๐:๓๐, ๘๐:๒๐, ๙๐:๑๐ และ ๑๐๐:๐ ผสมกาวแป้งเปียกปรมิ าตร
เทา่ กนั ในทุกอัตราสว่ น จากน้ันขน้ึ รูปโดยใชแ้ มพ่ ิมพ์กระถาง ๒ ใบ โดยนำวัสดุใสก่ ระถางแมพ่ ิมพ์



ขนาดใหญ่กว่าบรรจุตามรปู ทรงกระถาง ใชก้ ระถางอีกใบซ่ึงมีขนาดเล็กกว่าอัดเนื้อวัสดใุ นกระถางใบ
ใหญ่ ดงั กลา่ วใหแ้ นน่ โดย ให้กระถางมคี วามหนา ๑ เซนตเิ มตร ดงึ วสั ดุออกจากกระถาง นำกระถาง
ไปตากแดดจนกระถางแห้งสนิท คัดเลอื กอตั ราสว่ นของวัสดุหลักท่มี คี วามเปน็ ไปได้ต่อการพัฒนาเป็น
กระถางเพาะชำที่ย่อยสลายได้ โดยวิเคราะห์จากความเหมาะสมต่อการข้นึ รปู และสภาพคงตวั ของ
กระถาง เพาะชำหลงั กระถางแห้งสนิท



บทท่ี ๓
อปุ กรณแ์ ละวธิ ดี ำเนนิ การ

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทส่งิ ประดษิ ฐ์ เร่ือง กระถางอินทรยี ์จากเมล็ดยางพารา ผู้จัดทำ
ได้ดำเนนิ การตามข้นั ตอน ดังน้ี การกำหนดวธิ กี ารดำเนนิ โครงงาน แผนการดําเนินงานตลอดโครงการ
วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ วิธีดำเนนิ การทดลอง และระยะเวลาในการดำเนินการ

๓.๑ การกำหนดวิธีการดำเนนิ โครงงาน
๓.๑.๑ ตั้งชือ่ โครงงาน : กระถางอนิ ทรยี ์จากเมล็ดยางพารา
๓.๑.๒ ต้งั สมมตฐิ านและกำหนดตัวแปร:
สมมติฐาน - เมลด็ ยางพาราสามารถนำมาประดษิ ฐ์เปน็ กระถางเพาะชำทีย่ อ่ ย

สลายได้ภายใน ๑ เดอื น
ตัวแปรตน้ - กระถางอินทรยี ์จากเมลด็ ยางพารา
ตวั แปรตาม - ลกั ษณะทางกายภาพ การดูดซับน้ำและการย่อยสลายของ

กระถางอนิ ทรียจ์ ากเมลด็ ยางพารา
ตัวแปรควบคุม - ขนาดของกระถาง ปรมิ าณแปง้ เปยี ก ระยะเวลาการทำให้แห้ง

ปริมาณน้ำในการทดสอบการดูดซับ ระยะเวลาในการปลกู ลงดนิ
๓.๑.๔ ทดลองและพิสจู น์สมมติฐาน
วิธีการทดลอง : ๑) เตรยี มเมลด็ ยางพารา ๒) ขึน้ รปู กระถาง ๓) ทดลองใช้
๓.๑.๕ สรปุ ผล

๓.๒ แผนการดำเนินงานตลอดโครงงาน

ตารางท่ี ๓.๑ แผนการดำเนนิ งานตลอดโครงงาน

ระยะเวลาในการดำเนนิ งาน

ท่ี ขนั้ ตอนการดำเนนิ โครงงาน ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค

๔ ๑๒๓๔๑๒๓๔๒

๑ คดิ ห้อข้อโครงงาน ✓

๒ ศึกษาและคน้ ควา้ ✓

๓ เสนอตอ่ ครูที่ปรึกษา ✓

๔ วางแผนดำเนนิ งาน ✓

๕ ทดลองโครงงาน ✓✓✓



ที่ ขนั้ ตอนการดำเนนิ โครงงาน ต.ค. ระยะเวลาในการดำเนนิ งาน
๔๑ พ.ย. ธ.ค. ม.ค
๖ ตรวจสอบ ๒๓๔๑๒๓๔๒
๗ จัดทำเอกสารรายงาน
๘ นำเสนอและแสดงผลงงาน ✓
๙ ปรับปรุงและแกไ้ ข ✓
๑๐ ตรวจสอบและจดั ทำ

เอกสารรายงาน ✓✓
๑๑ นำเสนอและแสดงผลงงาน ✓✓✓



๓.๓ วสั ดแุ ละอุปกรณ์

๑) เมลด็ ยางพารา ๓๐๐ กรัม
กรัม
๒) แปง้ มนั สำปะหลงั ๑๐๐ มลิ ลลิ ติ ร
เซนติเมตร
๓) น้ำเปลา่ ๓๐๐ เซนติเมตร
เครอ่ื ง
๔) กระถางพสาติกขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง ๕.๕ อัน
ใบ
๕) กระถางพสาติกขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง ๑๑ อัน
อัน
๖) หม้อกระทะไฟฟ้า ๑ อัน

๗) ทัพพี ๑

๘) กะละมังสแตนเลส ๑

๙) กระบอกตวงขนาด ๑๐๐ มิลลิลิตร ๑

๑๐) เครือ่ งช่งั ดจิ ติ อล ๑ ตำแหน่ง ๑

๑๑) แว่นขยาย ๓

๓.๔ วิธดี ำเนินการ (ดัดแปลง นายแมน้ แป้นเช้อื พร้อมคณะ. ๒๕๖๔)

ขน้ั ตอนท่ี ๑ การทำแป้งเปียก
๑) ละลายแปง้ มัน ๑๐๐ กรมั ตอ่ น้ำเปล่าปริมาตร ๓๐๐ มิลลลิ ติ ร
๒) นำนำ้ เปลา่ ในปริมาณเทา่ ๆ กันต้งั ไฟไว้จนเร่ิมเดือด ใช้ไฟอ่อน
๓) นำแป้งมนั สำปะหลงั ละลายไว้นามาผสมกับน้ำทต่ี ้ัง ไฟไว้กวนไปเร่ือย ๆ ใช้ไฟ

ออ่ น

๑๐

๔) สังเกตดวู ่าแปง้ ใสขึ้นมายกลงจากเตาแลว้ กวนต่อไปอีกประมาณ ๑๐ นาที
๕) รอจนแป้งเยน็

ขน้ั ตอนที่ ๒ การทำกระถางจากเมลด็ ยางพารา
๑) นำเมลด็ ยางพารามาทุบ ตำ ให้มขี นาดเล็กลง
๒) นำเมลด็ ยางพาราปรมิ าณ ๓๐๐ กรมั ผสมกาวแปง้ เปียกในข้ันตอนท่ี ๑
๓) จากนนั้ ข้นึ รปู โดยใชแ้ ม่พิมพ์กระถาง ๒ ใบ โดยนำวสั ดุใส่กระถางแม่พิมพข์ นาด

ใหญก่ ว่าบรรจตุ ามรูปทรงกระถาง ใชก้ ระถางอีกใบซึง่ มีขนาดเลก็ กว่าอัดเน้ือวัสดใุ นกระถาง
ใบใหญด่ ังกลา่ วให้แนน่ โดย ให้เมล็ดยางพารามคี วามหนา ๑ เซนตเิ มตร

๔) นำกระถางไปตากแดดจนกระถางแห้ง
๕) วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพตอ่ การขึ้นรูปและสภาพคงตัวของกระถางเพาะชำ
หลงั กระถางแหง้ สนทิ

ขัน้ ตอนที่ ๓ ศึกษาลักษณะทางกายภาพของกระถางอนิ ทรีย์จากเมลด็ ยางพารา
๑) ระยะการตากแห้ง
ตากกระถางเพาะชำและตัวอย่างชิน้ งานแบบแผน่ จนแหง้ โดยตากบรเิ วณ

เดียวกนั บันทกึ ผลเป็นจำนวนวนั ตั้งแตเ่ ริม่ ตากชน้ิ งานจนกระทง่ั ชน้ิ งานแห้งสนทิ
๒) การดดู ซบั นำ้
ชัง่ น้ำหนักเรมิ่ ต้นหรือนำ้ หนกั ก่อนการดดู ซบั น้ำ บนั ทกึ ค่าเป็นทศนยิ ม ๒

ตำแหน่ง (Wd) จากนน้ั รดน้ำใหต้ ัวอย่างชนิ้ งานอิ่มตัวด้วยนำ้ ตั้งท้งิ ไวใ้ หน้ ้ำส่วนเกินท่ีช้นิ งาน
ดูดซบั ไวห้ มด สังเกตได้จากไม่มนี ้ำหยดจากตวั อย่างชิน้ งาน นำตัวอยา่ งที่ได้ไปชง่ั น้ำหนักด้วย
เครือ่ งชง่ั ดจิ ติ อลทศนยิ ม ๑ ตำแหนง่ (Ws) บนั ทึกค่าทีไ่ ดเ้ ป็นนำ้ หนกั ของตวั อยา่ งช้ินงานที่อม่ิ
นำคา่ ที่ไดท้ ้งั หมดมาคำนวณหาการดูดซบั นำ้ ของตัวอย่างชนิ้ งาน จากสตู รของปน่ิ ประภา โส
มากลุ และ สริ ินารี เงนิ เจรญิ . ๒๕๖๓

w = ( − )∗๑๐๐


โดยท่ี
W คอื ร้อยละของการดูดซบั น้ำ (เปอร์เซน็ ต)์
Ws คือ น้ำหนักของตวั อยา่ งทีอ่ ิ่มนำ้ (กรัม)
Wd คือ น้ำหนกั ของตัวอยา่ งทแี่ หง้ (กรมั )

๓) การทดสอบการย่อยสลายของกระถางจากเมลด็ ยางพารา

๑๑

นำตวั อยา่ งกระถางเพาะชำจากเมล็ดยางพารา แล้วนำไปบรรจุดนิ ใหร้ ะดบั ความสงู
ของดนิ ต่ำกวา่ ขอบบนของกระถาง ๒ เซนตเิ มตร นำต้นฟ้าประทานพรปลูกลงในกระถาง
เพาะชำ จากนน้ั นำกระถางเพาะชำที่ไปบรรจุลงดนิ โดยใหร้ ะดบั ของดนิ สูงกวา่ ขอบบนของ
กระถาง ๒ เซนตเิ มตรรดน้ำต้นฟา้ ประทานพรวนั ละ ๑ คร้งั ครง้ั ละ ๓๐ มลิ ลิลิตร รดนำ้
ตอ่ เนอ่ื งเปน็ ระยะเวลา ๓๐ วนั ระหว่างการทดสอบการย่อยสลายบนั ทึกผลการเปล่ียนแปลง
ทางกายภาพ สังเกตลักษณะของกากเมลด็ ยางพาราทเี่ หลือจากการย่อยสลายและบันทึกผล
๓.๕ ระยะเวลาดำเนนิ โครงงาน
ระยะเวลาตงั้ แต่ ๒๖ ตลุ าคม ๒๕๖๕ - ๒๒ ธนั วาคม ๒๕๖๕ รวมจำนวน ๕๔ วนั

๑๒

บทที่ ๔
ผลการดำเนินการ

โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดษิ ฐ์ เร่ือง กระถางอินทรีย์จากเมลด็ ยางพารา ผู้จัดทำ
ได้ดำเนินการตามข้นั ตอน และบนั ทกึ ขอ้ มูลการดำเนินการโดยแบง่ ออกเป็น ๒ ตอน ดังต่อไปน้ี

ตอนที่ ๑ ศึกษาอัตราสว่ นทเ่ี หมาะสมของเมลด็ ยางพาราทเ่ี หมาะสมการทำกระถางอนิ ทรีย์
ตอนที่ ๒ ศกึ ษาลักษณะทางกายภาพและการยอ่ ยสลายของกระถางอินทรยี ์จากเมล็ด
ยางพารา

ตอนที่ ๑ ศกึ ษาอัตราส่วนที่เหมาะสมของเมลด็ ยางพาราทีเ่ หมาะสมการทำกระถางอินทรีย์
๔.๑ การขึน้ รูปกระถางเพาะชำ
พจิ ารณากระถางจากเมล็ดยางพารา จากลักษณะทางกายภาพ ท่ีสามารถขนึ้ รปู ได้ง่าย เมื่อ

ขนึ้ รูปแล้วคงสภาพได้ไม่บดิ เบ้ียว จากการสงั เกตลักษณะดังกล่าว พบวา่ กระถางที่ขน้ึ รูปโดยใช้มี
ปรมิ าณเมล็ดยางพาราเทา่ กับ ๓๐๐ กรมั มลี กั ษณะทเี่ หมาะสม ลักษณะตัวอย่างของกระถางเพาะชำ
ทเี่ หมาะสมตอ่ การขึน้ รปู แสดงดงั รูปที่ ๒

ภาพที่ ๓ ตวั อย่างกระถางเพาะชำท่เี หมาะสมต่อการขึน้ รูป
ปรมิ าณเมล็ดยางพาราเทา่ กับ ๓๐๐ กรัม

ตอนที่ ๒ ศึกษาลักษณะทางกายภาพและการย่อยสลายของกระถางอนิ ทรีย์จากเมลด็ ยางพารา
๔.๒ ระยะเวลาการตากแหง้ ของกระถางเพาะชำ

๑๓

กระถางอินทรยี จ์ ากเมล็ดยางพารา ที่มปี ริมาณเมล็ดยางพารา ๓๐๐ กรัม มรี ะยะเวลาการ
ตากแห้ง คือ ๗ วัน

๔.๓ ผลการดดู ซบั นำ้ ของของกระถางเพาะชำ
กระถางอินทรยี จ์ ากเมลด็ ยางพารา จากการทดสอบการดูดซบั นำ้ พบว่า กระถางมนี ้ำหนัก
เร่ิมต้นหรือน้ำหนักของตวั อย่างที่แหง้ (Wd) เทา่ กับ ๓๒๓.๙ กรัม จากนน้ั รดน้ำปรมิ าตร ๑๕๐
มิลลิลติ ร ตงั้ ทิ้งไว้ใหน้ ้ำสว่ นเกินที่ชิน้ งานดดู ซบั ไวห้ มด สังเกตไดจ้ ากไม่มีนำ้ หยดจากตวั อย่างชิน้ งาน
นำตวั อย่างที่ไดไ้ ปช่ังน้ำหนัก จะได้นำ้ หนักของตัวอย่างที่อิ่มน้ำ (Ws) เทา่ กับ ๔๓๑.๐ กรมั สรุปตาม
สตู รคำนวณจากสตู รของปน่ิ ประภา โสมากลุ และ สิรนิ ารี เงินเจริญ. ๒๕๖๓

w = ( − )∗๑๐๐


w= ( ๔๓๑.๐−๓๒๓.๙)∗๑๐๐
๓๒๓.๙

w = ๓๓.๐๖ %

จากการคำนวณจงึ สามารถสรปุ ไดว้ า่ กระถางอินทรยี จ์ ากเมลด็ ยางพารา สามารถดดู ซับน้ำได้
๓๓.๐๖ เปอร์เซ็นต์

๔.๔ การยอ่ ยสลายของกระถางอนิ ทรียจ์ ากเมล็ดยางพารา

นำตวั อยา่ งกระถางเพาะชำจากเมลด็ ยางพารา แล้วนำไปบรรจดุ ินให้ระดับความสงู ของดินต่ำ
กว่าขอบบนของกระถาง ๒ เซนตเิ มตร นำต้นฟา้ ประทานพรปลูกลงในกระถางเพาะชำ จากน้ันนำ
กระถางเพาะชำที่ไปบรรจลุ งดนิ โดยให้ระดบั ของดินสงู กว่าขอบบนของกระถาง ๒ เซนติเมตรรดนำ้
ต้นฟ้าประทานพรวันละ ๑ ครงั้ น้ำตอ่ เนอ่ื งเปน็ ระยะเวลา ๓๐ วัน ระหวา่ งการทดสอบการยอ่ ยสลาย
บันทกึ ผลการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ สงั เกตลกั ษณะของขยุ ฉลากและขยุ มะพรา้ วทเี่ หลือจากการ
ยอ่ ยสลายและบนั ทึกผล บนั ทึกผลได้ดังตาราง

ตารางท่ี ๔.๑ การยอ่ ยสลายของกระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา

ครัง้ ท่ี วัน เดอื น ปี ลักษณะกระถางหลงั นำลงดนิ

๑ ๑๑ พ.ย. ๖๕ กระถางจากเมลด็ ยางพารามสี ีนำ้ ตาลเขม้ มเี ปลือกเมล็ด

ยางพารา ยงั แขง็ แรง

๒ ๑๓ พ.ย. ๖๕ กระถางจากเมลด็ ยางพาราเร่ิมมีสดี ำ เปลอื กเมลด็

ยางพาราสคี ลำ้ ลง ยงั แข็งแรง

๑๔

ครง้ั ท่ี วนั เดือน ปี ลกั ษณะกระถางหลงั นำลงดิน

๓ ๑๕ พ.ย. ๖๕ กระถางจากเมลด็ ยางพารามีสีดำชดั เจนขึ้น เปลือกเมลด็

ยางพาราสีคลำ้ ลงกว่า ๒ สองวนั ก่อน และเริ่มเหน็ นอ้ ยลง

มแี ขง็ แรงน้อยลง

๔ ๑๗ พ.ย. ๖๕ กระถางจากเมล็ดยางพารามีสีดำ เปลือกเมลด็ สนี ้ำตาล

เกอื บดำ พบเห็นน้อยลง มีแข็งแรงนอ้ ยลง

๕ ๑๙ พ.ย. ๖๕ กระถางจากเมลด็ ยางพารามีสีดำ เปลือกเมล็ดสนี ้ำตาล

ดำ พบเหน็ นอ้ ยลง มแี ขง็ แรงนอ้ ยลง

๖ ๒๑ พ.ย. ๖๕ กระถางจากเมล็ดยางพารามีสีดำ เปลือกเมล็ดสดี ำ พบ

เห็นน้อยลง เรม่ิ ไมค่ งรูปกระถางดงั เดิม

๗ ๑ ธ.ค. ๖๕ กระถางจากเมล็ดยางพารามสี ีดำ เปลือกเมลด็ สีดำ พบ

น้อยลง ไม่คงรปู กระถางดังเดิม

๘ ๕ ธ.ค. ๖๕ กระถางจากเมลด็ ยางพารามสี ีดำ เปลอื กเมล็ดสดี ำ พบ

นอ้ ยลงกว่าครัง้ ท่แี ลว้ กระถางเร่มิ ผสมเปน็ เน้อื เดียวกับ

ดนิ

๙ ๑๐ ธ.ค. ๖๕ กระถางจากเมลด็ ยางพารามสี ีดำเปน็ เนื้อเดยี วกับดิน ไม่

พบเหน็ เปลอื กเมลด็ จากยางพารา

จากตารางที่ ๔.๑ เมื่อนำกระถางจากเมล็ดยางพารา เพาะปลูกต้นฟ้าประทานพร แล้วนำลง
บรรจุใต้ดินเป็นเวลา ๓๐ วัน พบว่า กระถางมีสีที่เปลี่ยนไปจากน้ำตาลกลายเป็นสีดำ เปลือกเมล็ดมี
ขนาดเล็กลง และสีเปลี่ยนไป พบได้น้อยลงจนถึงวันสุดท้ายไม่พบเปลือกเมล็ด จึงสามารถสรุปว่า
กระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา มีความสามารถในย่อยสลายได้ตามธรรมชาติภายในระยะเวลา ๑
เดอื น

๑๕

บทท่ี ๕
สรุปผลการดำเนนิ การ/อภิปรายผลการดำเนนิ การ

รายงานผลการดำเนนิ โครงงานทยาศาสตร์ ประเภทส่ิงประดษิ ฐ์ เร่ือง กระถางอนิ ทรยี จ์ าก
เมลด็ ยางพารา ทางคณะผู้จัดทำไดส้ รุปผลการปฏิบตั ิ สามารถนำมาอภิปรายไดด้ ังนี้

๕.๑ สรปุ ผลการดำเนินการ

อัตราส่วนที่นำมาประดิษฐ์เป็นกระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา คือ เมล็ดยางพารา ๓๐๐
กรัม ต่อแป้งเปียก ๑๐๐ กรัม สามารถนำมาผสมแล้วขึ้นรูปได้รูปทรงท่ีเหมาะสมมีความหนา ๑
เซนติเมตร ใช้ระยะเวลาการตากแห้ง คือ ๗ วัน และสามารถดูดซับน้ำได้ร้อยละ ๓๓.๐๖ เมื่อนำ
กระถางจากเมล็ดยางพารา เพาะปลกู ตน้ ฟ้าประทานพร แลว้ นำลงบรรจใุ ต้ดินเปน็ เวลา ๓๐ วนั พบวา่
กระถางมีสีที่เปลี่ยนไปจากน้ำตาลกลายเป็นสีดำ เปลือกเมล็ดมีขนาดเล็กลง และสีเปลี่ยนไป พบได้
น้อยลงจนถึงวันสุดท้ายไม่พบเปลือกเมล็ด จึงสามารถสรุปว่า กระถางอินทรีย์จากเมล็ดยางพารา มี
ความสามารถในย่อยสลายไดต้ ามธรรมชาติภายในระยะเวลา ๑ เดือน นอกจากนี้พบว่ากระถางเพาะ
ชำนี้มีธาตุอาหารสำคัญแก่พืช ได้แก่ แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต
ของพืช ซึ่งแคลเซียม ช่วยการแบ่งเซลล์การผสมเกสร การงอกเมล็ด ส่วนฟอสฟอรัสเร่งการ
เจริญเตบิ โต และการแพร่กระจายของราก

๕.๒ อภปิ รายผล
อตั ราส่วนทน่ี ำมาประดิษฐ์เป็นกระถางอนิ ทรยี จ์ ากเมล็ดยางพารา คือ เมลด็ ยางพารา ๓๐๐

กรมั ต่อแปง้ เปียก ๑๐๐ กรมั มีรปู รา่ งท่ีเหมาะสมสำหรับการใชเ้ ปน็ กระถางสำหรบั เพาะปลกู ตน้ ไม้
พจิ ารณาระยะเวลาการตากแหง้ ของกระถางให้ผลท่ีแสดงใหเ้ ห็นวา่ การใช้กาวแปง้ เปยี กเปน็

ตวั ประสาน ทำใหก้ ระถางเพาะมคี วามชนื้ ดงั นน้ั จึงจำเปน็ ต้องนำกระถางเพาะชำและตวั อยา่ งช้นิ งาน
แบบแผ่นไปตากให้แหง้ เพื่อลดความช้นื (เตือนใจ ปยิ ัง และคณะ, ๒๕๖๑) วิธีการที่สะดวกคอื การ
ตากแดดโดยตรงซง่ึ เปน็ วธิ ีการทปี่ ระหยัด (สจุ ิน สนุ ยี ์และธีรเวท ฐติ ิกุล, ๒๕๕๓) สำหรับการตากแหง้
กระถางจากเมลด็ ยางพาราใช้ระยะเวลาการตากแห้ง คือ ๗ วนั มีความแข็งแรง มีคุณสมบัติทาง
กายภาพทเี่ หมาะสมกบั การเป็นกระถางเพาะชำไดด้ ี และมนี ้ำหนกั เทา่ กับ ๓๒๓.๙ กรัม

เมือ่ นำไปทดสอบการดูดซับน้ำ พบว่าสามารถดูดซับนำ้ ได้รอ้ ยละ ๓๓.๐๖ กาวแป้งเปียกทใ่ี ช้
เป็นวสั ดปุ ระสานนนั้ แม้จะมีสภาพแข็งเมื่อแหง้ แต่ก็ละลายไดเ้ ม่ือสมั ผัสนำ้ ดังน้ันกระถางเพาะชำ
รวมท้ังช้ินงานตัวอยา่ งที่ขึ้นรูปทกุ อัตราสว่ นจงึ เสือ่ มสภาพได้ทง้ั ส้ินโดยมีระยะเวลาความคงตัวและการ
ยอ่ ยสลายทีแ่ ตกต่างกนั ไป (เตือนใจ ปิยัง และคณะ, ๒๕๖๑)

๑๖

กระถางอนิ ทรยี ์จากเมลด็ ยางพารา มีความสามารถในการย่อยสลายได้ เน่ืองจากวสั ดุที่ใช้
ประดิษฐล์ ้วนเปน็ สิ่งมีอยู่ในธรรมชาติ และสามารถย่อยสลายไดเ้ องเมื่อเวลาผ่านไป

เมล็ดยางพารา ราคากิโลกรัมละ ๕ - ๗ บาท (สยามรัฐออนไลน์, ๒๕๖๔) แป้งมันสำปะหลัง
๑ กโิ ลกรัม ราคา ๓๔ บาท ผู้วจิ ัยได้ประเมนิ ตน้ ทุนการผลิตต่อหนว่ ย พบว่า กระถางอินทรีย์จากเมล็ด
ยางพาราใช้เมล็ดยางพารา ๓๐๐ กรัม ราคาประมาณ ๑.๕ – ๒.๑ บาท ใช้แป้งมันสำปะหลัง ๑๐๐
กรัม ราคา ๓.๔ บาท รวมราคาต้นทุน ๔.๙ - ๕.๕ บาท กระถางเพาะชำนี้มีต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าถุง
เพาะชำจากพลาสติกแต่ต่ำกว่ากระถางเพาะชำพลาสติกขนาดเดียวกันซึ่งมีราคาประมาณ ๕-๖ บาท
อย่างไรก็ตามต้นทุนการผลิตกระถางเพาะชำนี้สามารถลดลงได้ด้วยวิธีต่างๆ อาทิ เลือกใช้วัสดุหรือ
อุปกรณ์จากตลาดค้าส่งที่มีราคาถูกกว่า ใช้แป้งมันที่เป็นกากอุตสาหกรรมของโรงงานผลิตแป้งมัน
สำปะหลัง (ปน่ิ ประภา โสมากลุ และ สิรินารี เงินเจริญ, ๒๕๖๓)
๕.๓ ข้อเสนอแนะ

จากการศึกษาคน้ คว้าครง้ั นี้ คณะผู้จดั ทำมีข้อเสนอแนะ ดงั นี้
๑) หากต้องการให้กระถางเพาะชำที่ย่อยสลายได้นี้มีธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับการ
เจริญเติบโตของพืชอื่นเพิ่มเติมอาจพัฒนาได้โดยการใช้วัสดุอื่นผสมเพื่อขึ้นรูปเป็นกระถางเพาะชำ
ทั้งนี้ควรศึกษาความเหมาะสมของระยะเวลาการย่อยสลายซึ่งมีผลต่อการดูแลต้นกล้าของพืชก่อน
นำไปปลกู ประกอบกันดว้ ย เน่อื งจากกระถางเพาะชำนี้จะย่อยสลายได้จงึ อาจไม่เหมาะกับการเพาะชำ
ตน้ กล้าของพชื เป็นระยะเวลานาน
๒) หากต้องการให้กระถางมรี ะยะเวลาการย่อยสลายทเ่ี พิ่มมากขึน้ ควรศึกษาความหนาของ
กระถางและองค์ประกอบของวัสดทุ นี่ ำมาใช้ ให้มีความเหมาะสมต่อท่นี ำมาปลกู

๑๗

บรรณานุกรม

Bioform (Thailand). ภยั อันตรายจากขยะพลาสติก!. สบื คน้ จาก
http://www.bioformthailand.com/TH/environment/.

Brand Inside. ขยะพลาสติกไทย ตดิ อันดับ ๑๒ ของโลก ปรมิ าณ ๔.๘ ลา้ นตันต่อปี หลักๆ จากความ
นยิ ม Food Delivery สืบค้นจาก https://brandinside.asia/plastic-pollution/.

เตอื นใจ ปิยัง วรรณวิภา ไชยชาญ และกัตตินาฏ สกุลสวัสดิพันธ.์ ๒๕๖๑. การผลติ กระถางตน้ ไมท้ ี่
เป็นมติ รตอ่ สงิ่ แวดล้อมจากกากตะกอนนำ้ มนั ปาล์มและวสั ดุเหลอื ทง้ิ จากการเพาะเหด็ .
วารสารวิจยั มหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวชิ ยั . ปที ่ี ๑๐ (ฉบบั ท่ี ๓), หน้า ๔๙๗-
๕๑๑.

นายแม้น แป้นเชื้อ พร้อมคณะ. (๒๕๖๔). กระถางตน้ ไมร้ ักษ์โลก. ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภออบุ ลรัตน์

ปน่ิ ประภา โสมากุลและ สริ นิ ารี เงินเจรญิ . (๒๕๖๓). กระถางเพาะชำที่ยอ่ ยสลายไดจ้ ากขุยฉลาก
และขยุ มะพรา้ ว Biodegradable Nursery Pot from Beverage Labelling Waste and
Coconut Bagasse. สาขาวชิ าทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม คณะวทิ ยาศาสตร์และ
สังคมศาสตร์มหาวทิ ยาลยั บูรพา วทิ ยาเขตสระแก้ว.

สมศกั ดิ์ วรรณศิร.ิ (๒๕๔๒). ยางพารา. พมิ พ์ครั้งที่ ๓. สำนกั พิมพ์ฐานเกษตรกรรม.
กรุงเทพมหานคร.

สตั วเ์ ศรษฐกจิ . ผลการใช้เนอื้ ในเมล็ดยางพาราในสูตรอาหารต่อสมรรถภาพการผลิตสกุ รขนุ . (๒๕๕๙,
มกราคม). ปที ี่ ๓๒ (ฉบับที่ ๗๖๘), ๕๓-๕๕.

สำนกั งานพฒั นาการวิจยั การเกษตร(องค์กรมหาชน). ยางพารา. สืบคน้ จาก
https://www.arda.or.th/kasetinfo/south/para/controller/๐๑-๐๔-๐๓.php

สกุ ัญญา จตั พุ รพงษ.์ (๒๕๔๙). การตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบอาหารสตั ว.์
มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. นครปฐม. ๑๕-๒๓.

สุจิน สุนีย์และธรี เวท ฐติ ิกลุ . ๒๕๕๓. เคร่อื งอดั ขึ้นรูปกระถางจากขยุ และใยมะพรา้ ว, โรงพิมพ์
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, กรงุ เทพมหานคร

๑๘

ภาคผนวก

วัสดุอุปกรณ์
1) เมล็ดยางพารา

ภาพที่ ๔ เมลด็ ยางพารา

2) แป้งมนั สำปะหลัง

ภาพท่ี ๕ แป้งมันสำปะหลัง

3) น้ำเปล่า

ภาพที่ ๖ นำ้ เปลา่

๑๙

๔) กระถางพสาติกขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลาง ๕.๕ เซนตเิ มตร และกระถางพสาตกิ ขนาดเส้น
ผา่ นศูนยก์ ลาง ๑๑ เซนตเิ มตร

ภาพท่ี ๗ กระถางพสาตกิ

๖) หมอ้ กระทะไฟฟา้

ภาพที่ ๘ หม้อกระทะไฟฟ้า

๗) ทัพพี

ภาพที่ ๙ ทพั พี

๘) กะละมงั สแตนเลส

ภาพที่ ๑๐ กะละมงั สแตนเลส

๒๐

๙) กระบอกตวงขนาด ๑๐๐ มิลลิลติ ร

ภาพที่ ๑๑ กระบอกตวงขนาด ๑๐๐ มิลลิลติ ร
๑๐) เคร่อื งชั่งดิจิตอล ๑ ตำแหนง่

ภาพที่ ๑๒ เครื่องช่งั ดจิ ติ อล ๑ ตำแหน่ง

๑๑) แว่นขยาย

ภาพที่ ๑๓ แว่นขยาย

๒๑

วิธดี ำเนนิ การ

ภาพที่ ๑๔ ชั่งเมล็ดยางพาราท่ีถกู บดแบบหยาบ แปง้ มนั และน้ำเปล่าตามทีร่ ะบใุ นข้นั ตอน

ภาพที่ ๑๕ เตรยี มวัสดกุ อ่ นการทดลอง
ขน้ั ตอนท่ี ๑ การทำแป้งเปยี ก

ภาพท่ี ๑๖ นำแปง้ มันสำปะหลัง ละลายไว้นามาผสมกับน้ำทตี่ งั้ ไฟไว้กวนไปเร่ือย ๆ
ใช้ไฟออ่ น

๒๒

ขน้ั ตอนที่ ๒ การทำกระถางจากเมลด็ ยางพารา เพอ่ื ศกึ ษาอัตราส่วนของปริมาณเมลด็ ยางพาราที่
เหมาะสมต่อการทำกระถาง

ภาพท่ี ๑๗ นำเมลด็ ยางพารามาล้างทำความสะอาด และตากใหแ้ หง้

ภาพที่ ๑๘ นำเมลด็ ยางพารามาบดหยาบ

ภาพท่ี ๑๙ นำเมล็ดยางพาราปรมิ าณ ๓๐๐ กรมั ผสมกาวแป้งเปียกในข้ันตอนที่ ๑

๒๓

ภาพที่ ๒๐ ข้นึ รูปกระถางจากเมล็ดยางพารา
ข้นั ตอนท่ี ๓ ศึกษาลักษณะทางกายภาพของกระถางอินทรีย์จากเมลด็ ยางพารา

๑) ระยะการตากแหง้

ภาพท่ี ๒๑ นำกระถางไปตากแดดจนกระถางแห้ง
๒) การดูดซบั นำ้

ภาพที่ ๒๒ ชงั่ น้ำหนกั กระถางแห้ง

๒๔

ภาพที่ ๒๓ ทดสอบการดูดซับนำ้

ภาพที่ ๒๔ ช่งั น้ำหนกั กระถาง หลงั ตงั้ ท้งิ ไวใ้ ห้น้ำสว่ นเกนิ ทชี่ ิน้ งานดดู ซบั ไว้หมด
๓) การทดสอบการย่อยสลายของกระถางจากเมลด็ ยางพารา

ภาพท่ี ๒๕ เซนติเมตร นำตน้ ฟ้าประทานพรปลูกลงในกระถางเพาะชำ จากนัน้ นำกระถางเพาะชำท่ไี ป
บรรจุลงดนิ

๒๕

ภาพที่ ๒๖ รดน้ำต้นฟ้าประทานพรวันละ ๑ ครงั้

ภาพท่ี ๒๗ บนั ทกึ ผลการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ สังเกตลักษณะของกากเมล็ดยางพาราทเ่ี หลอื จาก
การย่อยสลายและบันทึกผล

ภาพท่ี ๒๘ จัดทำรูปเล่ม เพื่อนำเสนอ

๒๖


Click to View FlipBook Version